THE BIOLOGY VOCABLARY BOOK
UNIT 12
GROWTH CONTROL
AND
PLANT RESPONSE
A COMPREHENSIVE GUIDE TO
BIOLOGY STUDY AND
BIOLOGY VOCABLARY
PLANT HORMONE
ฮอร์โมนพืช
เปนสารเคมีทีพืชสรา้ งขึนในปรมิ าณน้อยมาก
เพือควบคุมการเจรญิ เติบโตของพืช ได้แก่
ออกซิน จิบเบอเรลลินหรอื กรดจิบเบอเรลลิก
ไซโทไคนิน เอทิลีน และกรดแอบไซซิก
AUXIN
ออกซนิ
ฮอรโ์ มนทีพืชสรา้ งขึนจากปลายยอดหรอื ปลาย
ราก เพือกระตุ้นให้เซลล์ขยายขนาดทีปลาย
ยอดออกซินแพรจ่ ากด้านทีมีแสงมากไปยังด้าน
ทีมีแสงน้อย ดังนันด้านทีมีแสงน้อยจะมีออกซิ
นมากกว่า เซลล์จึงขยายตัวได้มากกว่า ปลาย
ยอดจึงโค้งเข้าหาแสง
GIBBERELLIC ACID
กรดจิบเบอเรลลิก
– กระตุ้นการเจรญิ ของเซลล์ตรงข้อทําให้
ต้นไม้สูง
– กระตุ้นการงอกของเมล็ดและตา (ทําลาย
การพักตัวของเมล็ดและตา)
– เพิมการติดผล เพิมการเกิดดอกสาํ หรบั
พืชวันยาว
– ช่วยเปลียนดอกตัวผู้ให้เปนดอกตัวเมีย
ของพืชกระกูลแดง
– ช่วยยืดช่อผลขององุ่น ทําให้ข่อใหญ่ ลูก
องุ่นไม่เบียดกันมาก
– กระตุ้นพืชวันยาว เช่น ผักกาดหอม กะหลํา
ปลี ให้ออกดอกเรว็ ขึน
CYTOKNIN
ไซโทไคนิน
– ช่วยในการงอกของเมล็ด กระตุ้นเมล็ด
และตาข้างทีพักตัวให้เกิดการงอก
– กระตุ้นการเจรญิ ของกิงแขนง ชะลอการ
แก่ของผลไม้
– กระตุ้นการแบ่งเซลล์และการเจรญิ
เปลียนแปลงของเซลล์ เช่น ในลําต้นและรากจาก
การเลียงเนือเยือพืชในอาหารเลียงเชือทีมีไซโท
ไคนิน พบว่า เนือเยือจะถูกชักนาํ ให้เกิดการแบ่ง
เซลล์และสรา้ งแคลลัสขึนอย่างรวดเรว็
ETHYLENE
เอทิลีน
– เรง่ การสุกของผลไม้ เช่น มะม่วง กล้วย
ละมุด เรง่ การแก่ของผลไม้บนต้น
– กระตุ้นการหลุดรว่ งของใบไม้ และการ
ผลัดใบตามฤดูกาล
– ทําลายการพักตัวของเมล็ด
– กระตุ้นยางพาราให้ไหล เพิมนาํ ยางมะละกอ
เพือให้ผลิตเอนไซม์พาเพน
– กระตุ้นการเกิดรากฝอยและรากแขนง
ABCSCISIC ACID
กรดแอบไซซกิ
– กระตุ้นการหลุดรว่ งของใบและผลแก่จัด
– ยับยังการแตกใบอ่อน
– ยับยังการงอกของเมล็ด
– กระตุ้นปากใบปด
– พบในใบแก่จัด ผล และรากบรเิ วณหมวก
ราก
– ทําให้พืชปล้องสัน ใบมีขนาดเล็ก เซลล์ใน
เยือเจรญิ หยุดแบ่งตัว
NUTATION
นิวเทชนั
เปนการเคลือนไหวทีเกิดเฉพาะส่วนปลายยอด
พืช ทีมีกลุ่มเซลล์เจรญิ เติบโต ไม่เท่ากัน เช่น ต้น
ถัว
SPIRAL
MOVEMENT
การเคลือนทีแบบสไปรอล
เปนการเคลือนไหวทีปลายยอดบิดเปนเกลียว
รอบแกนเพือพยุงลําต้นขณะเจรญิ เติบโต เช่น
การพันหลักของมะลิวัลย์ พรกิ ไทย พลู เปนต้น
AUTONOMIC
MOVEMENT
การเคลือนไหวแบบอัตโนมัติ
เกิดจากสิงเรา้ ภายในคือฮอรโ์ มนออกซิน ขณะ
เจรญิ เติบโตปลายยอดจะแกว่งวนเปนวงหรอื
โยกไปมาเรยี กว่า นิวเตชัน(nutation)หรอื ในพืช
บางชนิดลําต้นจะบิดเปนเกลียวช้าๆและเปน
เกลียวถาวรเรยี กว่า สไปรอล(spiralmovement)
พบในพืชพวกตําลึง บวบ ฟกทอง
PARATONIC
MOVEMENT
การเคลือนไหวแบบพาราโทนิก
เกิดจากสิงเรา้ ภายนอก เช่น อุณหภูมิ แสงสว่าง
แรงโน้มถ่วงของโลก หรอื สารเคมีบางอย่างมา
ทําให้พืชเกิดการเจรญิ เติบโตไม่เท่ากัน
- การเคลือนไหวแบบนาสติก(Nastic
movement)
-การเคลือนไหวแบบทรอปซึม(Tropism)
GEOTROPISM
การเบนเนืองจากแรงโน้มถ่วงของโลก
การตอบสนองของพืชทีตอบสนองต่อแรงโน้ม
ถ่วงของโลกโดยรากพืชจะเจรญิ เข้าหาแรงโน้ม
ถ่วงของโลก (positive geotropism) เพือรบั นาํ
และแรธ่ าตุจากดิน ส่วนปลายยอดพืช (ลําต้น) จะ
เจรญิ เติบโตในทิศทางตรงข้ามกับแรงโน้มถ่วง
ของโลก (negative geotropism) เพือชูใบรบั
แสงสว่าง
PHOTOTROPISM
การเบนเนืองจากแสง
การตอบสนองของพืชทีตอบสนองต่อสิงเรา้ ที
เปนแสงพบว่าทีปลายยอดพืช (ลําต้น) มีทิศทาง
การเจรญิ เติบโตเจรญิ เข้าหาแสงสว่าง (positive
phototropism) ส่วนทีปลายรากจะมีทิศทางการ
เจรญิ เติบโตหนีจากแสงสว่าง (negative
phototropism)
CONTRACT
MOVEMENT
การหบุ ของใบจากการสะเทือน
การหุบใบของต้นไมยราบตรงบรเิ วณโคนก้านใบ
และโคนก้านใบย่อยจะมีกลุ่มเซลล์ชนิดหนึง
(เซลล์พาเรงคิมา) เรยี กว่า พัลไวนัส (pulvinus)
ซึงเปนเซลล์ทีมีขนาดใหญ่และผนังเซลล์บาง มี
ความไวสูงต่อสิงเรา้ ทีมากระตุ้นเช่น การสัมผัส
เมือสิงเรา้ มาสัมผัสหรอื กระตุ้นจะมีผลทําให้แรง
ดันเต่งของกลุ่มเซลล์ดังกล่าวเปลียนแปลงอย่าง
รวดเรว็ คือเซลล์จะสูญเสียนาํ ให้กับเซลล์ข้าง
เคียงทําให้ใบหุบลงทันทีหลังจากนันสักครูน่ าํ จะ
ซึมผ่านกลับเข้าสู่เซลล์พัลไวนัสอีกแรงดันเต่งใน
เซลล์เพิมขึนทําให้แรงดันเต่งและใบกางออก
CHEMOTROPISM
เคมอทรอปซมึ
การตอบสนองของพืชโดยการเจรญิ เข้าหาหรอื
หนีจากสารเคมีบางอย่างทีเปนสิงเรา้ เช่นการ
งอกของหลอดละอองเรณูไปยังรงั ไข่ของพืชโดย
มีสารเคมีบางอย่างเปนสิงเรา้
PLANT HORMONE
ฮอร์โมนพืช
สารอินทรยี ์ทีพืชสรา้ งขึนเองตามธรรมชาติใน
บรเิ วณอวัยวะหรอื เนือเยือส่วนใดส่วนหนึงของ
ต้นพืช ก่อนทําการเคลือนย้ายสารดังกล่าวไปยัง
เนือเยือเปาหมาย เพือส่งสัญญาณในการเรมิ
กระบวนการสรา้ ง ทําการควบคุม หรอื
เปลียนแปลงส่วนต่างๆ ของพืช ทังด้านการ
เจรญิ เติบโตการงอกของเมล็ด การออกดอก
ออกผล และการผลัดใบ รวมไปถึงการยับยังการ
เปลียนแปลงทางสรรี วิทยาภายในต้นพืชนันๆ อีก
ด้วย