The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบฝึกเรื่องสั้น-61

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by n.tames98, 2021-10-31 23:02:08

แบบฝึกเรื่องสั้น-61

แบบฝึกเรื่องสั้น-61

คานา

แบบฝึกทกั ษะการเขยี นเรอื่ งสั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จัดทําขึ้นเพ่ือใช้ในการฝึกทักษะการเขียน
เรื่องส้ัน มุ่งหวังให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการเขียนเร่ืองส้ัน และสามารถเขียนเร่ืองสั้นได้
รวมทง้ั นักเรยี นมีเจตคตทิ ีดีต่อการใชแ้ บบฝึกทักษะการเขียนเร่ืองสั้น และมีความภาคภูมิใจในผลงานของ
ตนเอง ท้ังน้ีแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องสั้นน้ีได้จัดทําน้ีขึ้นโดยมีความสอดคล้องตามหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย แบบฝกึ ทกั ษะการเขยี นเรือ่ งสนั้ นี้
ประกอบดว้ ยเน้อื หา ดงั นี้

พืน้ ฐานการเขียนเรอื่ งสน้ั
แก่นเร่ืองโครงเรอ่ื งโยงเรอื่ งสนั้
ตวั ละครดาํ เนนิ เรื่องส้นั
ฉากสร้างสรรคเ์ ร่ืองสัน้
บทสนทนาเติมเต็มเรื่องสัน้
รอ้ ยเรียงขีดเขยี นเปน็ เร่ืองส้ัน
แบบฝกึ ทักษะการเขียนเร่ืองส้ัน เล่มน้ี มีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื ให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ
การเขยี นเรอื่ งส้นั
ข้าพเจ้าหวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ ว่า แบบฝกึ ทักษะการเขียนเร่ืองส้ันนี้ จะช่วยพัฒนาทักษะการเขียนเรื่อง
ส้ันของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนักเรียนมีความสุขกับการปฏิบัติกิจกรรม รวมทั้งนักเรียน
สามารถใชใ้ นการเรยี นรู้ ศกึ ษาคน้ คว้าด้วยตนเอง และอาํ นวยประโยชน์ตอ่ การจดั การเรยี นการสอนให้บรรลุ
ตามวัตถปุ ระสงคข์ องหลักสูตรได้

(นายนหิ สั ลัง เจะยามา)
ตําแหน่งครู วทิ ยฐานะชํานาญการ
โรงเรียนเบญจมราชทู ศิ จังหวัดปัตตานี

สารบญั

เร่ือง หนา้
พ้นื ฐานการเขยี นเรอ่ื งสน้ั ๑

แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๑ ๗
แกน่ เร่ืองโครงเรอ่ื งโยงเร่อื งสั้น ๑๑
๑๓
แบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๒ ๑๔
แบบฝกึ ทักษะที่ ๓ ๑๖
แบบฝกึ ทักษะท่ี ๔ ๒๒
ตวั ละครดําเนินเรอื่ งสั้น ๒๓
แบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๕ ๒๔
แบบฝกึ ทักษะที่ ๖ ๒๕
แบบฝกึ ทักษะท่ี ๗ ๓๐
ฉากสร้างสรรคเ์ รอ่ื งสน้ั ๓๑
แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๘ ๓๒
แบบฝกึ ทักษะที่ ๙ ๓๖
บทสนทนาเติมเต็มเรอื่ งส้ัน ๓๙
แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๑๐ ๔๐
แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๑๑ ๔๕
ร้อยเรียงขีดเขยี นเปน็ เรอื่ งสน้ั ๔๖
แบบฝกึ ทักษะที่ ๑๒ ๔๗
แบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๑๓ ๕๙
แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๑๔
บรรณานกุ รม



พนื้ ฐานการเขยี นเรอ่ื งสน้ั

การเร่ิมต้นของการเขียนเร่ืองสั้นเร่ิมจากการเล่านิทาน ซ่ึงเกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั ยงั ไมเ่ ปน็ ลกั ษณะของเรื่องสั้น คนสมัยน้ันไม่คุ้นเคยกับเรื่องสั้นจะมีก็แต่นิทาน
เรื่องเล่า หรือเรื่องจักรๆวงศ์ๆ การเกิดเร่ืองสั้นคร้ังแรกคือ พ.ศ. ๒๔๑๗ เม่ือมีหนังสือพิมพ์ ดรุโณวาท
หนังสอื พิมพ์ฉบับนี้ มีนิทานพิมพอ์ อกมาใหผ้ อู้ า่ นได้อ่านเล่นสนุกๆ ลักษณะนิทานผิดแปลกไปจากนิทานที่
เคยมมี ากอ่ น คือ เป็นเรอื่ งคนธรรมดาสามัญที่มีอยู่จริง และไม่มีอภินิหารแทรกอยู่เลย เรื่องมีจุดมุ่งหมาย
เดน่ ชดั เมอ่ื อา่ นจบก็รู้ทันที

การเขยี นเรอื่ งสั้นของไทยมีพัฒนาการมาจากการแตง่ นิยาย นิทานของไทยแต่เดิม ประกอบกับการ
รับอิทธพิ ลทางแบบอย่างการเขียนมาจากนักเขยี นชาวตะวนั ตก เช่น โอเฮ็นร่ี และกีย์เดอ โมปัสซังค์ ทําให้
เกดิ เป็นวรรณกรรมบันเทงิ คดีรอ้ ยแกว้ อยา่ งใหมข่ องไทยข้นึ ในราวปี พ.ศ. ๒๔๗๒ และ นิยมเขียนกันอย่าง
แพร่หลายในช่วงเวลาระหวา่ ง พ.ศ. ๒๔๗๒ – ๒๕๑๖

ความหมายของเรอื่ งส้นั
เรอื่ งสน้ั หมายถึง งานเขยี นประเภทร้อยแกว้ เกี่ยวกับเรื่องราวที่สมมุติขึ้น มีโครงเรื่องง่ายๆและมี

ความสมั พนั ธเ์ กย่ี วโยงไปถึงจุดสุดยอดของเร่อื งทกี่ าํ หนดไว้ ดําเนนิ เรื่องอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาส้ันๆ
ภายใตแ้ นวคดิ สาํ คญั เพยี งแนวคิดเดยี ว

ลกั ษณะของเรอื่ งสั้น
๑. มีโครงเร่ือง หมายถึงกลวิธีในการแสดงพฤติกรรมในลักษณะขัดแย้งกันในระหว่างตัวละคร

ขัดแยง้ กับตัวเอง ขัดแย้งกับสังคม หรือขัดแย้งกับธรรมชาติ เป็นจุดเร่ิมต้นของความยุ่งยากให้ผู้อ่านฉงน
อยากรู้วา่ จะเกิดมอี ะไรตอ่ ไป พยายามทาํ ใหผ้ อู้ ่านสนใจใครร่ ู้ แล้วดําเนนิ เร่ืองใหจ้ บลงอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ

๒. มจี ดุ หมายของเรอื่ งอย่างเดียว และมีผลอยา่ งเดยี ว คอื ผ้เู ขยี นจะต้องเสนอแนวคิดหรือแกน่ เรื่อง
เพยี งอยา่ งเดยี ว อาจจะเป็นทศั นะหรอื ความคดิ แงใ่ ดแง่หน่ึงของชีวิตเพียงอย่างเดียว เช่น ความไม่แน่นอน
ของชีวิตมนษุ ย์ ผู้เขยี นจะตอ้ งแสดงชะตาคนเพยี งอย่างเดียว”

๓. มีตัวละครน้อย ตัวละครท่ีแสดงบทบาทสําคัญท่ีสุดควรมีตัวเดียวแล้วมีตัวประกอบอ่ืนๆ ท่ี
เก่ยี วขอ้ งกบั ตัวเอกเพื่อให้เร่อื งดําเนินอยา่ งรวดเร็วรวบรัด โดยปกติไม่ควรมีตัวละครเกิน ๕ ตัว ซ่ึงจะต้อง
สนับสนุนตวั เอกให้เด่นชัดข้นึ เท่านนั้

๔. ใช้เวลาน้อย ระยะเวลาในทอ้ งเร่อื งไม่ควรใช้เวลานานกวา่ จะจบเร่อื งอาจมีระยะเวลาหน่ึง หาก
ใชเ้ วลานาน อาจทาํ ให้เรื่องไมช่ ัดเจน ยงิ่ ใชเ้ วลานอ้ ยเท่าใด เรื่องยง่ิ ชัดเจน



๕. มีขนาดส้ัน การเขยี นเร่ืองสั้นจะพรรณนายึดยาดไม่ได้ ต้องใช้คําอย่างประหยัด ตรงไปตรงมา
ความสั้นมักจะกาํ หนดเป็นคํา กล่าวกันขนาด ๔,๐๐๐ – ๕,๐๐๐ คํา เป็นเร่ืองยาวพอเหมาะ ในเรื่องของ
จํานวนคําน้ี มไิ ด้จาํ กดั กนั ลงไปอยา่ งแน่นอน บางเร่ืองอาจใช้ ๑๕,๐๐๐ คํา แต่บางเรื่องอาจใช้ ๗,๐๐๐ –
๑๐,๐๐๐ คาํ จึงทาํ ใหเ้ กดิ การเรียกช่ือเรอื่ งท่สี ้ันกว่าธรรมดาว่า “เรื่องส้ัน-สั้น” (Short-Short Story) และ
เร่อื งท่ีมีขนาดยาวกวา่ ธรรมดาเรียกวา่ “เร่ืองสั้นขนาดยาว” (Long Short Story) นอกจากนย้ี ังมีเร่ืองสั้นที่
ขนาดคาํ ต้ังคาํ ๖ คําจนถงึ หนึง่ หนา้ กระดาษเอส่ี เรียกว่า “เรื่องส้ันขนาดสั้น” (Flash Fiction) จุดเด่นคือ
ต้องมีการจบที่หักหลังคนอ่าน หรือหากไม่หักมุมก็ต้องตราตรึงใจผู้อ่าน ความยากคือการเล่าเรื่องให้มี
เร่อื งราวให้ไดใ้ นขนาดสั้นๆ และการจบท่ีประทบั ใจผู้อ่าน

๖. มคี วามกระชับรดั กมุ ทุกๆดา้ น ไมว่ ่าจะเป็นการดําเนินเรื่อง การพรรณนาฉาก บทสนทนา ฯลฯ
ผูเ้ ขียนจะต้องอาศัยกลวธิ ปี ระหยดั คํา คือ ใชค้ าํ ใหน้ อ้ ย แต่ได้ความมากท่ีสุด เนือ้ หาของเร่ืองต้องแน่น และ
รสของเร่อื งอยูใ่ นสภาพท่เี ขม้ ทส่ี ดุ

ชนดิ ของเรอื่ งสน้ั
๑. เรื่องส้ันชนดิ เนน้ การผกู เรอ่ื ง คอื ผูเ้ ขยี นมักสร้างปมขัดแย้งข้ึนมา ทําให้เกิดความซับซ้อน และ

มกั จบลงด้วยการพลกิ ความคาดหมายของผอู้ ่าน
๒. เร่ืองส้นั ชนิดเน้นการสร้างตัวละคร คือ เรื่องสั้นที่เน้นพฤติกรรมของตัวละคร โดยใช้ตัวละคร

เปน็ ตวั ดําเนนิ เร่อื งเปน็ สว่ นใหญ่ โดยมกั บรรยายเพอ่ื แสดงลกั ษณะของตวั ละครอยา่ งใดอย่างหน่งึ ใหเ้ ดน่ ชดั
๓. เรื่องสั้นชนิดเน้นการสร้างบรรยากาศหรือฉากเป็นสําคัญ คือ เรื่องสั้นท่ีมุ่งเน้นและให้

ความสําคัญของฉากและบรรยากาศ เพอื่ ใหผ้ อู้ ่านคลอ้ ยตาม
๔. เรอื่ งสั้นชนิดเน้นแนวคิดหรือความคิดเห็น คือ เรื่องสั้นที่ผู้เขียนต้องการเสนอแนวคิดอย่างใด

อย่างหนงึ่ ใหผ้ ูอ้ า่ น ไดไ้ ตร่ตรองไปพร้อมๆกบั เร่อื งในขณะท่ีอา่ น โดยใชส้ ัญลักษณ์ กล่าวโดยนัย หรือมุ่งเน้น
ให้เหน็ สัจธรรมของชีวติ

องค์ประกอบของเรอื่ งสั้น
๑. แก่นของเร่อื งหรือแนวคิดของเรอื่ ง (Theme)
แก่นของเรอ่ื งคอื แนวคิดสําคัญหรือแนวคดิ หลกั ทปี่ รากฏตง้ั แตต่ น้ จนจบ เป็นตัวเช่ือมโยงเร่ืองเข้า

ด้วยกัน
๒. โครงเรื่อง(Plot)
โครงเรอื่ ง คอื เหตุการณ์เร่ืองราวท่ีผู้เขียนร่างขึ้นคร่าวๆ เพื่อเป็นแนวทางในการดําเนินเรื่อง ให้

นา่ สนใจ ชวนตดิ ตามสมเหตสุ มผลเรือ่ ยๆจนถึงจุดสดุ ยอดของเรื่อง (Climax) และคลีค่ ลายจบลงด้วยดี หรือ
คาดไม่ถึงกไ็ ด้



๓. ตัวละคร (Character)
ในเร่ืองสั้นเร่ืองหน่ึงนั้น ต้องมีตัวละคร ประมาณ ๑ – ๕ ตัวเท่าน้ัน หากมีมากเกินไปจะทําให้
โครงเร่ืองซับซ้อน และสับสน ตัวละครควรมีตัวเอกเพียงตัวเดียว และควรกล่าวให้เด่นชัดที่สุด ส่วนตัว
ประกอบน้ันอาจกลา่ วให้เหน็ บ้างไม่ควรเด่นชดั เกนิ ไป คือให้เปน็ ลักษณะเดยี วกนั กับฉาก
๔. ฉาก (Setting)
ฉาก คือ สถานที่ เวลา และบรรยากาศในเรื่องที่ผู้แต่งสร้างขึ้นเพื่อบอกให้รู้ว่าเหตุการณ์น้ันๆ
เกดิ ข้ึนเมื่อไหร่ โดยส่วนมากเรือ่ งสน้ั ทั่วไปไม่นิยมบรรยายฉากมากเพียงแค่บรรยายอยา่ งครา่ วๆ กล่าวอย่าง
ตรงไปตรงมาเน้นความกระชบั และฉากยังเปน็ สว่ นท่ที าํ ใหผ้ ู้อา่ นทราบถงึ บรรยากาศในท้องเรื่องอกี ด้วย
๕. บทสนทนา (Dialogue)
บทสนทนา คือ ถ้อยคาํ ที่ตัวละครพดู โตต้ อบกันในเนอ้ื เรอื่ ง ซงึ่ เขยี นอยู่ในเคร่ืองหมายอัญประกาศ
บทสนทนามสี ว่ นช่วยใหก้ ารดาํ เนนิ เร่อื งและสรา้ งบรรยากาศให้เร่ืองราวดูสมจริงมากข้ึน ท้ังยังทําให้ผู้อ่าน
รู้สึกเหมือนได้ฟังผอู้ ืน่ พดู คุยสนทนากนั

ตัวอยา่ งเรื่องสั้น
เรอื่ ง รบั ขวญั
รงั โรจน์ ปลายเสรี

“พ่บี อยเสอื้ ยบั หมดแล้วพี่” กอ้ ยสาวรนุ่ รา่ งท้วมบอกกับชายหนมุ่ ท่กี ําลังตระกองอ้มุ ทายาทตวั น้อย
วัยเดือนเศษ “ไม่เป็นไรหรอก ยัยหนูดิ้นร้องตอนจะตื่นเท่านั้น” ก้อยวางมือจากการจัดข้าวกล่องให้สามี
“มา มา แม่อมุ้ เอง พอ่ จะไดไ้ ปทํางานนะลกู ” ในนาทนี ้ันหญงิ สูงวัยกป็ รากฏกายข้ึนหนา้ ห้องเชา่ เล็กๆ เธอมี
ศักดิเ์ ปน็ แม่ของกอ้ ย ยายปรีม่ าก้มมองทารกน้อยและทาํ เสไมร่ ับไหว้บอย ท้ังยงั แสดงทา่ ทีชิงชังอยา่ งชัดเจน
เหตุทชี่ ายหุนุ่มรักใคร่กับลูกสาวจนเลยเถิดเกิดตั้งครรภ์ คราวไปฝึกงานที่ส่วนงานปกครองท้องถิ่นท่ีบอย
ทํางานอยู่ เมอื่ ท้องกอ้ ยก็ต้องออกจากบ้านมาอยู่ท่นี ี่ และนเ่ี ป็นคร้งั แรกที่ได้เธอพบแม่หลังจากเหตุการณ์ที่
ร้ายแรงหลายเดอื นก่อนผ่านไป “พอ่ เขาใหม้ าดหู ลาน” แม่บอกแค่น้ันแล้วกลับไปโดยมีบอยเดินออกไปส่ง
และไปทํางานพร้อมกัน แม่ลูกอ่อนมองเห็นซองสีขาวตราธนาคารตกอยู่บนเก้าอ้ี เธอหยิบมาเปิดซองดูมี
ธนบัตรใหมร่ าวสามหม่ืนบาท “ยายมารับขวัญหนูเป็นค่านมแล้วลูก” เธอบอกกับทารกน้อยที่หลับอยู่ใน
ออ้ มแขน และหยบิ ซองข้ึน พระคณุ และความปรานีของแม่มากล้นไพศาล ก้อยรู้ดีว่าแม่เป็นคนข้ีขัดเขินใน
การจะรบั ขวัญหลานตวั นอ้ ยให้เปน็ พธิ ีรีตอง ชา่ งเถอะ สมแล้วกบั ความผิดของลูกสาวอย่างเธอ เสียงประตู
บ้านเปิดออกเหมือนถูกกระชากอย่างแรง แม่กลับมาอีกหน สีหน้าร้อนรน “แม่ลืมซองเงินจะเอาไปซื้อ
รถใหม่ใหพ้ โ่ี ป้ง เหน็ ไหมๆ” แม่ร้องถามเสยี งสน่ั เธอยื่นซองนน้ั คืนให้แม่ “ดซู ิ ใจหายหมดเลย” แม่ผลนุ ผลัน
กลับออกไป ประตูบา้ นถูกปดิ ดงั ปัง ลูกสาวตวั นอ้ ยเธอตกใจตน่ื ร้องไหเ้ สยี งดัง ก้อยสะอ้ืนปลอบลูกไปนํ้าตา
เธอไหลเป็นทาง

ท่มี า : http://www.storylog.co



แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๑

อา่ นเรอ่ื งสรปุ เรอื่ งส้ัน

คาชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นอา่ นเรือ่ งส้ันเรอ่ื ง “ควันสรี ุ้ง” ทีก่ ําหนดให้ แลว้ เขยี นสรุปเกี่ยวกบั เรอื่ งดงั กลา่ ว
เรอื่ ง ควนั สีรงุ้
รงั โรจน์ ปลายเสรี

ในศูนย์อํานวยการสร้างอาวุธ สถานที่ลับสุดยอดสําหรับผลิตอาวุธให้กับกองทัพทหาร
นกั วิทยาศาสตรป์ ระจาํ กองทัพบก นามว่า “จ่าเรือง” ไดค้ ิดคน้ ระเบิดเคมีชนิดใหม่วา่ “ควันสรี ้งุ ” แม้ชื่อของ
มันจะดฟู รงุ้ ฟร้ิงเหมือนประทดั วนั ลอยกระทง แต่ประสทิ ธิภาพของมันเหลือรา้ ยยงิ่ นกั

มนั เปน็ ระเบิดสาํ หรับสลายการชุมนม การกอ่ มอ็ บตา่ งๆ จัดอยู่ในหมวดเดยี วกันกับแกส๊ นา้ํ ตา ควัน
สีรุ้งเพยี งไม่กลี่ ูก สามารถไล่ผคู้ นเปน็ หม่ืนๆ คนออกจากพน้ื ท่ไี ด้ในพรบิ ตา

รูปร่างของควันสรี งุ้ เปน็ ลกู โลหะกลมเล็กเท่าลกู มงั คดุ มีสลักอย่ดู า้ นบน การใชง้ านเพยี งแคด่ งึ สลัก
ดา้ นบนแล้วขว้างไปยงั เป้าหมาย ถึงจะดเู ลก็ เม่ือเทยี บกับระเบดิ ชนิดอ่ืน แตถ่ า้ มันไดร้ ะเบดิ ออกมาละ่ ก็จะสง่
ควันสีรงุ้ ท่มี กี ลิน่ เหม็นเหมือนซากหมาเน่ารอ้ ยตวั สารเคมีบางอย่างในตัวมันจะส่งผลให้ผู้ที่โดนนํ้าหูนํ้าตา
ไหล รอ้ นผ่าวไปทงั้ ตัว โดยมนั สามารถกระจายตวั ทั่วรศั มีกว่าสามร้อยเมตรตารางเมตร

ไมว่ ่าการกอ่ มอ็ บจะแข็งแกร่งเพียงเทา่ ใดกต็ อ้ งสลายในพรบิ ตา
แมใ้ นปจั จบุ ันควันสีรงุ้ จะผา่ นการทดสอบพรอ้ มใช้งานแล้ว แตก่ ็ยังถอื เปน็ ความลับสดุ ยอดอยู่ ยังไม่
มโี อกาสเหมาะๆ ที่จะเปิดตวั เสยี ที เพราะขนาดน้ปี ระเทศชาติกาํ ลงั อยใู่ นความสงบ
แล้วในวนั น้ีกไ็ ด้มีทหารยศใหญ่ ระดับพลเอกได้มาทําธุระบางอย่าง ที่ศูนย์อํานวยการสร้างอาวุธ
แห่งน้ี ขณะท่ที า่ นพลเอกเดินมาตามทางเดนิ พรอ้ มผตู้ ดิ ตามรา่ งใหญอ่ กี สองนาย กไ็ ดบ้ ังเอญิ เดินไปเจอกบั จ่า
เรอื ง ทหารนกั วิทยาศาสตรช์ ั้นน้อยผ้คู ิดค้น ควันสีรุ้ง เข้าพอดิบพอดี
จ่าเรอื งที่เดินไปเจอเขา้ กับทหารยศพลเอก ก็นกึ ลงั เลในใจ 'หนา้ คุน้ เหมือนเคยเห็นในทีวีหรือว่า...'
เขารบี เหยยี ดตวั ตรง แสดงท่าทําความเคารพอยา่ งเขม้ แข็งทันที
ทหารยศใหญ่ รับการทําความเคารพของจา่ เรือง “เออ่ นี่” พลเอกว่า “พอจะรู้ไหมว่าที่เก็บระเบิด
ควันส.ี ..”
“ควนั สีรุ้งใช่ไหมครับทา่ น” จ่าเรืองเอ่ยแทรกข้ึนทนั ที
“ใช่ ไอ้ควันสีๆ นน่ั แหละ พอจะรูไ้ หมว่ามันอยูไ่ หน” พลเอกถาม
“ท่านต้องการจํานวนเท่าไหร่ครับ ของเพิ่งผลิตเลยครับท่าน จัดเก็บอย่างดีไม่มีใครขโมยไปได้
แนน่ อน”จ่าเรอื งวา่ ยาว
“ผมตอ้ งการซกั ลังหน่งึ ดว่ นๆ เลย” พลเอกวา่ “แลว้ ตอ้ งทําเรอื่ งขอ...”



“ได้เลยครับทา่ น ไอเ้ รอ่ื งขอเบกิ ไม่มปี ัญหา สําหรบั ทา่ นเดีย๋ วผมจัดการใหเ้ องครับ” จ่าเรืองกล่าว
อยา่ งประจบประแจง

พลเอกยิม้ อย่างพอใจ ไม่นานนกั จา่ เรอื งก็นํา ควนั สีรุ้ง จํานวนลังหน่ึงส่งให้กับผู้ติดตามของพลเอก
เพอ่ื ถือเดนิ ไปทีร่ ถ

“ท่านรู้ไหมครับไอ้ ควันสีรุ้งท่ีผู้ติดตามของท่านกําลังถืออยู่เนี่ย ผมเป็นคนคิดค้นมันขึ้นมาด้วย
ตัวเอง” จา่ เรอื งคยุ โวระหวา่ งเดินไปส่งท่านพลเอกที่รถ

“จริงหรอ ผมก็นกึ วา่ มันมมี านานแล้วนะ” พลเอกถามอย่างไม่คดิ อะไร
“ไอท้ ที่ า่ นเคยเหน็ กนั มันเวอร์ช่นั เกา่ ครับ ประสทิ ธภิ าพงั้นๆ ต้องลองของผมครับ ลูกเดียวเห็นผล
ชะงกั นัก”
“แสดงวา่ ควนั มนั คงเยอะน่าดู”
“แนน่ อนครับทา่ น”
ทง้ั พลเอกและจ่าเรอื งเดนิ กบั มาถึงทร่ี ถ “ขอบคุณมาก คุณน่ีทํางานได้เย่ียมจริงๆ ไว้คราวหน้าผม
มาที่นี่ จะมาหาคุณเป็นคนแรกเลย” พลเอกกล่าวชมก่อนจะเข้าไปในรถประจําตําแหน่งคันงาม แล้วขับ
ออกไป
จา่ เรอื งย้มิ ร้สู กึ ดีที่ได้ทํางานรับใช้ทหารยศใหญ่ระดับพลเอกเป็นการส่วนตัว คําชมท่ีได้รับ บอก
เป็นนยั ๆ วา่ อาจมีเร่อื งน่ายนิ ดีเร็วๆ น้ี
หลงั จากรถพลเอกขบั ออกไปสุดลกู หูลูกตา จา่ เรอื งกเ็ ดนิ กลับห้องทํางาน แต่ระหว่างทาง เขาก็ได้
บงั เอญิ เดนิ สวนกบั ผูอ้ ํานวยการกองผลิตอาวุธ ผู้เป็นหัวหน้าของเขา ที่อยู่ในชุดเต็มยศ พอดิบพอดี “อ้าว
หัวหน้า แต่งตวั ซะเตม็ ยศ จะไปไหนล่ะเนย่ี ” จ่าเรอื งถามตามมารยาท
“กไ็ ปงานแตง่ ลูกสาวพลเอกนะส”ิ ผู้อํานวยการตอบ “เหน็ ทา่ นบอกจะมาเอาระเบิดควันของหนว่ ย
เรา ไปใช้ในพิธีเปิดงาน ไม่รมู้ าเอาไปหรือยงั ” จ่าเรอื งทไ่ี ด้ฟงั เสียวสันหลงั วบู ยนื ตวั แข็งทําอะไรไม่ถูก “แต่
เอาเถอะขา้ ตอ้ งรบี ไปละ เหน็ บอกว่าพิธีเปดิ อลังการมาก”


คาชแ้ี จง : ให้นกั เรียนสรปุ เรอื่ งสนั้ เรือ่ ง “เม่ือผมหนอี อกจากบา้ น” ตามแผนผงั ความคิด

โครงเร่ือง

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

..

ตัวละคร แกน่ เรอื่ ง

.......................................................... ..........................................................

.......................................................... ..........................................................

.......................................................... ..........................................................

.......................................................... ..........................................................

..... .....

ฉาก การดาเนนิ เรือ่ ง
.......................................................... ..........................................................
.......................................................... ..........................................................
.......................................................... ..........................................................

... ...

ข้อคดิ ท่ีได้จากเรือ่ ง
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................

.



แกน่ เรอ่ื งโครงเรอ่ื งโยงเรอ่ื งสนั้

ความหมายของแก่นเรื่อง
แก่นเร่ือง (Theme) คือแนวความคิดหรือจุดสําคัญของเร่ืองที่ผู้แต่งมุ่งจะสื่อให้ผู้อ่านทราบ แต่

เน่ืองจากเรือ่ งสนั้ มขี นาดจาํ กัด เร่อื งสน้ั จงึ มแี กน่ เรื่องเพยี งแกน่ เดยี ว หรือมงุ่ สะทอ้ นแนวคดิ ของผ้แู ตง่ เพียง
ประการเดยี ว เช่น ช้ใี หเ้ หน็ ความแปลกประหลาดเพยี งเร่ืองเดยี ว หรอื แสดงอารมณอ์ ย่างใดอย่างหนึ่งเพียง
อย่างเดียว หรือแสดงชีวิตในแงม่ มุ ทีแ่ ปลกเพยี งแงเ่ ดยี ว หรอื เผยทศั นะของผู้แต่งเพียงขอ้ เดียว เป็นตน้

ประเภทของแก่นเรอ่ื ง
๑.๑ แก่นท่ีแสดงพฤติกรรม คือ เน้นที่จะเสนอพฤติกรรมของตัวละครให้เด่นชัดว่าพฤติกรรม

ดงั กลา่ วเป็นสาเหตุของการเกดิ ปัญหาหรอื เรอื่ ง ทั้งด้านดแี ละไมด่ ี เพื่อใหผ้ ู้อ่านควรยึดถือพฤติกรรมใดเป็น
แบบอย่างหรือไม่ควรยึดถือพฤติกรรมใดเป็นแบบอย่าง เช่น ความอดทนของตัวละคร หรือการยึดม่ันใน
อุดมการณ์

๑.๒ แก่นทีแ่ สดงอารมณ์ คือ เร่อื งที่ผูเ้ ขยี นมุง่ เนน้ ที่จะแสดงอารมณ์ ความรู้สึกของตวั ละครเพ่ือให้
ผอู้ า่ นรบั รู้ เช่น ความรกั ความเหงา ความเศร้า ความอิจฉา ทัง้ นขี้ น้ึ อยู่กับความสามารถและประสบการณ์
และกลวิธกี ารเขียนของผเู้ ขียนดว้ ย

๑.๓ แก่นท่ีแสดงภาพและเหตุการณ์ คือ แก่นที่มุ่งเน้นแสดงให้เห็นภาพของชีวิต สังคมของตัว
ละคร เช่น สภาพอันแห้งแล้งของชนบท สภาพการจราจรในเขตเมือง หรือเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึง
ความขมขืน่ ของตัวละครทีย่ ากจนไรก้ ารศึกษา เป็นตน้

๑.๔ แก่นท่ีแสดงทัศนะ คือ เป็นแก่นที่มุ่งเน้นท่ีจะเสนอความคิดเห็นต่อสิ่งหนึ่ง เช่น ค่านิยมใน
สังคม ความซือ่ สตั ย์ รวมถึงสงิ่ ตรงกันขา้ มโดยใชต้ ัวละครเป็นส่อื กลาง

ตวั อย่างแก่นเร่อื ง
“คนท่วั ไปมักจะมองเหน็ ความผิดของคนอ่ืนแต่ความผิดของตนเองกลบั มองไมเ่ ห็น ดังสํานวนท่ีว่า

ว่าแตเ่ ขาอิเหนาเปน็ เอง” (พลโลกยคุ สุดทา้ ย ของ สมใจ สมคดิ )
“คนเราถงึ จะรกั และหวงแหนส่ิงหนึง่ สงิ่ ใดเอาไว้ก็ตาม แต่ถ้าขาดคนที่จะสานต่อก็ยากที่จะรักษา

เอาไวไ้ ดย้ ั่งยืน เพราะความคิดและสงั คมมนั เปลีย่ นไป” (รสี อร์ท ของ สมใจ สมคดิ )



ความหมายของโครงเรอื่ ง
โครงเรื่อง (Plot) คือ เค้าโครงท่ีผู้แต่งกําหนดไว้ก่อนว่าจะแต่งเรื่องไปในทํานองใด หรือการผูก

เรอ่ื งหรอื การสร้างโครงเร่ืองอย่างคร่าวๆ โดยมกี ารกําหนดพฤติกรรม เหตุการณ์ หรือความเคลื่อนไหวที่
เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาให้ผสมผสานเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน โดยให้เรื่องชวนติดตามอย่างต่ืนเต้นและ
กระหายใครร่ ไู้ ปไดต้ ลอดทง้ั เร่อื ง

ท้ังน้โี ครงเรื่องจะเป็นส่วนของเน้ือหาท้ังหมดท่ีเราสามารถเล่าได้ แต่โครงเร่ืองไม่ใช่เรื่อง ในการ
กําหนดโครงเรื่องพยายามกําหนดให้กว้าง เพราะจะทําให้เราสามารถเขียนเร่ืองได้มาก ในการเขียนโครง
เร่ืองผู้เขยี นควรทาํ ความเข้าใจเกีย่ วกับโครงเรอื่ งในประเดน็ ต่อไปน้ี

๑. ลักษณะของโครงเรอื่ งที่ดี สามารถพจิ ารณาจากแนวทางดงั น้ี
๑.๑ มีความสัมพันธร์ ะหว่างเหตุการณ์ต่างๆในเร่ืองเหมือนลูกโซ่ เริ่มจากส่วนที่เล็กไปสู่

ส่วนที่ใหญ่ มีรายละเอยี ดประกอบเทา่ ที่จาํ เปน็
๑.๒ มคี วามสัมพนั ธร์ ะหว่างบคุ คลในเรือ่ ง
๑.๓ มกี ลวิธีในการลาํ ดับเร่อื งใหเ้ ข้าใจกระจา่ ง
๑.๔ สรา้ งเงือ่ นไขให้ผู้อ่านสนใจติดตามต่อไป โดยแสดงปญั หาหรอื เปดิ เผยเรือ่ งไม่ละเอยี ด

แล้วจึงคลีค่ ลายปัญหาหรือขยายรายละเอียด
๑.๕ มีข้อขดั แยง้ ที่น่าสนใจ เชน่ ขัดแย้งต่อผู้อนื่ ต่อตนเอง ตอ่ สงั คมหรือธรรมชาติ
๑.๖ ไมม่ เี หตุบงั เอิญเพอ่ื ใชเ้ ป็นการแก้ปัญหาให้ลุล่วงไป ผู้แต่งควรใช้วิธีการอันแยบคาย

และสมจริงในการคลีค่ ลายปม
๑.๗ ชี้ใหผ้ ้อู ่านเห็นโลกหรือสงั คมอย่างกวา้ งขวาง

๒. การเล่าเร่อื ง โดยท่ัวไปมักนิยมอยู่ ๓ วิธี
๒.๑ ตวั ละครเป็นผู้เล่าเรื่องเอง ซึ่งตัวละครดังกล่าวอาจเป็นตัวละครสําคัญ คือเจ้าของ

เรอ่ื งหรือเปน็ ตัวละครทีไ่ มส่ าํ คัญเลย
๒.๒ ผู้เขยี นเป็นผเู้ ล่าในฐานะเก่ยี วข้องกับตัวละครในเร่อื ง
๒.๓ เล่าเรื่องตามกระจติ ประหวัด หรือกระแสสํานึกของตัวละคร คือผู้เขียนเล่าเรื่องโดย

หยงั่ เข้าไปในความร้สู ึกนึกคิดของตวั ละคร

องคป์ ระกอบของโครงเร่อื ง
การวางโครงเรื่องมอี งคป์ ระกอบท่สี ําคญั ทผ่ี เู้ ขยี นจะตอ้ งคาํ นึง ๓ ประการ คือ
๑. การเปิดเรือ่ ง เป็นจดุ สําคญั มากในการเรยี กรอ้ งหรอื ดงึ ดดู ความสนใจของผู้อา่ นให้มาสนใจเรื่อง

ส้ันเรอื่ งนั้นๆ หากสามารถเปิดเรอ่ื งได้อย่างน่าสนใจชวนสะดุดตา สะดุดใจ หรือยั่วยวนให้ผู้อ่านเกิดความ
อยากรู้อยากเห็นได้มากเช่นใดก็จะเป็นสิ่งที่ดียิ่งเท่านั้น ท้ังน้ีการเปิดเร่ืองให้มีความน่าสนใจน้ันสามารถ
กระทําไดด้ ังน้ี



๑.๑ เปิดเรื่องโดยนาฏการหรอื การกระทําของตัวละคร
๑.๒ เปิดเรื่องโดยพรรณนาบุคลิกลกั ษณะของตัวละครเอก
๑.๓ เปิดเรื่องโดยกล่าวถงึ ความเป็นไปต่างๆตามทรรศนะของผู้เขยี น
๑.๔ เปิดเร่ืองโดยการพรรณนาฉากหรอื เหตุการณ์สําคญั ของเร่ือง
๑.๕ เปดิ เร่ืองโดยใช้สาํ นวนคาํ พงั เพย บทกวี หรอื คาํ คม
๑.๖ เปดิ เรอ่ื งโดยใช้คําโปรย
๒. การดําเนินเรื่อง เป็นการสร้างปมปัญหา อุปสรรคหรือความขัดแย้ง ซึ่งส่ิงเหล่าน้ีจะทวีความ
รนุ แรงข้นึ เรื่อยๆ เพื่อสรา้ งความยุ่งยากซบั ซ้อน เร้าความสนใจชวนให้ติดตาม จนกระท่งั ถึงทสี่ ดุ หรือจุดสดุ
ยอดของปญั หา ซง่ึ การดาํ เนินเรื่องอาจกระทําได้ดงั น้ี
๒.๑ ดําเนนิ เรื่องตามลาํ ดับเวลา คือ การเล่าเรื่องตามลาํ ดบั กอ่ นหลังของเหตุการณ์
๒.๒ ดาํ เนินเร่ืองย้อนหลัง คือ การเล่าเรื่องโดยเปิดเรื่องตอนใดตอนหน่ึงของเหตุการณ์
แล้วจึงเล่าย้อนกลับมา โดยให้ตัวละครย้อนนึกถึงอดีตของตน หรือผู้เขียนเล่าเร่ืองย้อนว่าก่อนท่ีจะเกิด
เหตกุ ารณน์ ีไ้ ด้มเี รือ่ งราวสําคัญอยา่ งใดเกิดข้ึนมาก่อนบา้ ง
๒.๓ ดําเนนิ เรอื่ งสลับกันไปสลับกันมา คือ การเล่าเร่ืองท่ีเกิดเหตุการณ์ต่างๆต่างสถานท่ี
ต่างเวลาสลับกนั ไปมา
๓. การปิดเรื่อง เปน็ การจบเรอ่ื ง ซ่ึงถอื วา่ เปน็ ส่วนสําคัญอีกสว่ นหนงึ่ ที่นา่ สนใจ ตอนจบของเร่ืองสนั้
มกั จะใหค้ วามร้สู กึ แก่ผอู้ ่านไม่ทางใดทางหนึ่ง การจบเรือ่ งมักกระทําได้ดงั นี้
๓.๑ การจบเรื่องแบบธรรมดา (Straight Ending) คือ การจบตามความคาดหมายของ
ผอู้ า่ น ซง่ึ สามารถคาดการณ์ตอนจบของเร่ืองได้
๓.๒ การจบเรือ่ งแบบไม่ธรรมดา (Twist Ending) คือ การจบแบบพลิกความคาดหมาย
ของผู้อ่านหรือหักมมุ

ตวั อยา่ งเรอื่ งสนั้
เรือ่ ง กญุ แจ
รงั โรจน์ ปลายเสรี

อยากขม่ ตาหลบั เหมอื นทกุ วนั แตก่ ็ทําไม่ได้ ผมรู้ตัวดีว่าผมบกพร่องต่องานบ้าง แต่ก็เล็กน้อยเม่ือ
เทียบกบั เพอ่ื นคนอน่ื ทเ่ี ข้างานกะเดยี วกนั กับผม สภาวะการทํางานที่ถูกกดข่ี ข่มเหงด้วยท่าทีและวาจาอยู่
ทุกเมือ่ เช่ือวนั ทําใหผ้ มรู้สึกว่า ค่าความเป็นคนของผมมนั ระเหยไปกับทกุ ครง้ั ทไี่ ด้รับการดูหม่นิ จติ ใจของผม
ดจู ะบกพรอ่ งเหมือนพวกเขาทีผ่ มเฝ้ามองอยู่ทุกวัน ๆ จวนจะรุ่งสางแล้ว ผมคว้ากุญแจพวงโตเดินไปท่ีตึก
วนั นแ้ี หละความสบั สนของผมจะต้องได้รับการพิสูจน์ในคําม่ันสัญญาที่ผมให้กับพวกเขาไว้คุณหลวงนิติรัฐ
ประชารกั ษ์ กวักมือเรียกผมทันทีท่ีเห็นหน้า “บรรจง มาพอดีช่วยอ่านคําแถลงของผมในคดีเขาพระวิหาร
หนอ่ ย”

๑๐

ผมรบั เอกสารหนามาเปดิ ดูผา่ น ๆ ภาษาอังกฤษ ภาษารสั เซียและภาษาฝรัง่ เศส ผมอ่านไมก่ ระดกิ
สกั ภาษาหนึง่

“ประเทศไทยชนะคดใี นวนั นีแ้ น่ครบั ท่าน”
ผมยน่ื เอกสารคนื คุณหลวงและขอตัวกลับ ทนายของประเทศตบบ่าผมเบา ๆ แทนคําขอบใจ ดูสิ
ทา่ นเปน็ ข้าราชการผใู้ หญท่ ไี่ มเ่ คยดหู ม่นิ ผมเลยสกั ครงั้
ผมเคาะประตหู อ้ งท่ีอยู่เย้ืองกันแล้วเปิดประตูเข้าไป เฮียโต นักเลงใหญ่รุ่นเดียวกับ แดง ไบเลย์
นักเลงระดับตาํ นาน วนั นเี้ ขาแต่งตวั หลอ่ กวา่ ทกุ วัน เสอ้ื เรียบคอปกต้ัง กางเกงขาลีบ หนวดและผมที่โกรก
จนดาํ ดูนา่ เกรงขาม
“เฮยี พรอ้ มนะ” ผมถาม ชายเชือ้ จนี ร่างสูงใหญ่ยม้ิ กวา้ งแทนคาํ ตอบ มอื ขาวบางของเขาบีบมือผม
แนน่
“เราขอบใจนายมากนะ บญุ คณุ ครงั้ น้ีเราตอ้ งตอบแทนนายใหไ้ ด้”
นานแลว้ ที่เขาไมไ่ ดพ้ ูดคํายาว ๆ อย่างน้ี มันทําให้ผมรู้สึกถึงมิตรภาพของคนจริงจากนํ้าเสียงของ
เขา
เกือบหกนาฬกิ า วนั นี้ทีน่ ี่ไม่มีเสยี งออด นกกระจอกสบิ กว่าตัวไล่จิกตีกันในหอ้ งโถงของตึกเสียงมัน
ดังกวา่ ทกุ เสยี งของวันนี้ เหมอื นพวกมันมางานเล้ียงโตะ๊ จนี มันดังจนกลบเสยี งปลดล็อกห้องกว่าห้าสิบห้อง
อนั แผว่ เบาของผมเสยี สน้ิ
ผมเดินยอ้ นกลับมาสดุ มมุ ตกึ ห้องท่ีไม่เคยเงียบเหงาน้ีประตูห้องถูกเปิดอยู่ นักร้องเพ่ือชีวิตหนุ่ม
ใหญก่ ําลงั เก็บกตี าร์สีดําตวั โปรดของเขาเข้ากล่อง เสียงเพลงของเขามีอิทธิพลต่อผู้ฟังมาก มากพอ ๆ กับ
ลกู ค้าเครือ่ งด่มื ชกู าํ ลงั ของเขา เราตา่ งยกมือชูสญั ลักษณ์วงของเขาใหก้ ันและกนั
หนา้ ประตบู านใหญ่ ปรากฏรา่ งนักการเมืองค้นุ หนา้ คนท้งั ประเทศยืนอยู่ ร่างทว้ มหน่งึ คน ร่างเล็ก
บอบบางหนง่ึ คนกําลังยกมือทักทายกับผู้คนหลายสิบคนตรงนั้น หลายคนโพกผ้าสีเหลืองและสีแดงกําลัง
อ่านนโยบายพรรคอย่างเคร่งเครียด ปากพวกเขากน่ ด่าแคน้ เคอื งอะไรบางอยา่ งคลา้ ย ๆ กนั แตไ่ ม่มีเสียงให้
ไดย้ ิน
หกนาฬิกาสามสิบนาที เช้าวันใหม่กําลังจะเริ่ม นกกระจิบนกกระจอกสองฝูงบินสวนกลุ่มคนที่
กาํ ลงั เดนิ ออกไปโลกภายนอก ผมยม้ิ ให้กับพระอาทิตย์ท่ีกําลังจะโผล่พ้นแนวกําแพงปูนสีขาว กระชับพวง
กญุ แจพวง โตทอ่ี ยใู่ นมอื แล้วปามันใหข้ ้ามกําแพงสงู ใหม้ ันตกไปในคลองนาํ้ สีดําในวันท่ีกฎหมาย กฎเกณฑ์
กตกิ า ไม่มคี วามหมายตอ่ พวกเขาและผมอีกต่อไปแลว้

ท่ีมา : http://www.storylog/co

๑๑

แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๒

ค้นขา่ วค้นภาพหาแกน่ เร่อื ง
คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนเขยี นแนวคิดหรอื แก่นเรื่อง จากขา่ วและรูปภาพทีก่ ําหนดให้ต่อไปน้ี
นกั วิ่งโอลิมปิกหยดุ ช่วยค่แู ข่งท่ลี ม้ ลงจนได้อันดบั สดุ ทา้ ย

เรอื่ งราวอันน่าประทับใจในโอลมิ ปิก เมอ่ื นักกรฑี าจาก ๒ ประเทศ เกิดอบุ ัตเิ หตุลม้ ลงขณะแข่งขัน
และทั้งสองคนต่างชว่ ยเหลือซงึ่ กนั และกนั จนสามารถว่ิงเข้าเสน้ ชยั ได้ แม้ว่าทง้ั สองคนจะเขา้ เส้นชยั เป็นสอง
อนั ดับสดุ ทา้ ยก็ตาม แตพ่ วกเธอก็ได้โคว้ ต้าพิเศษเข้าไปแขง่ ขนั ในรอบสุดทา้ ย

เหตุการณ์อันนา่ ประทับใจนเี้ กิดขึน้ ในการแขง่ ขนั วงิ่ ๕,๐๐๐ ม.หญิง รอบคัดเลือกโอลิมปกิ ๒๐๑๖
เม่ือนกั กฬี าจากนวิ ซแี ลนด์ Nikki Hamblin (เสื้อเขยี ว-ดํา) ประสบอบุ ัติเหตุว่ิงล้มระหว่างแข่งขัน จนทําให้
นักกีฬาอีกคนจากสหรัฐฯ Abbey D’Agnostino (เสื้อนํ้าเงิน) ล้มลงด้วย จากนั้น Abbey จึงเข้าไป
ช่วย Nikki ลุกขนึ้ มาและวง่ิ ตอ่ ไปได้

หลังจากนั้นไม่นาน D’Agnostino นักว่ิงจากสหรัฐที่เข้าไปช่วยก็เกิดอาการบาดเจ็บท่ีหัวเข่าข้าง
ขวา จนไมส่ ามารถวิง่ ตอ่ ไปได้

เมอ่ื Hamblin จากนิวซีแลนด์ผูท้ ี่ล้มลงก่อนหน้านั้นเห็นอาการเธอไม่ค่อยดี จึงหยุดว่ิงและหันมา
ชว่ ยดอู าการของ D’Agnostino

๑๒

Hamblin เข้าไปช่วยประคอง D’Agnostino ผู้ท่ีช่วยเธอเอาไว้ก่อนหน้าน้ี แต่อาการของ
Hamblin กย็ งั ไม่ดขี ึ้น

Hamblin พยายามเขา้ ไปให้กาํ ลังใจ D’Agnostino เพ่ือให้เธอสามารถว่ิงต่อจนถึงเส้นชัย และใน
ทส่ี ุด D’Agnostino ก็ลุกข้นึ มาและแข่งขนั ตอ่ จนเข้าเสน้ ชยั เป็นอนั ดบั สุดทา้ ย

ขณะที่ D’Agnostino กําลังเข้าเส้นชัย Hamblin ก็มายืนรอเธออยู่หน้าเส้นชัย ท้ังสองคนโผเข้า
กอดกนั ขอบคณุ ซงึ่ กนั และกัน ภาพนไ้ี ด้สร้างความประทับใจให้กับคนท่อี ย่ใู นสนาม และทุกคนต่างปรบมือ
ช่ืนชมอย่างกกึ ก้อง ถึงแมว้ า่ ทง้ั คจู่ ะวิง่ เข้าเส้นชยั เป็นสองอนั ดับสุดท้ายก็ตาม

จบการแข่งขัน Hamblin ให้สมั ภาษณ์วา่ “ตอนท่ฉี ันสะดุดล้ม ฉันรู้สึกตกใจมาก เธอเข้ามาหาฉัน
และช่วยเหลอื ฉนั ช่วงเวลานน้ั คงไม่มีใครท่ีจะมีเวลามาคิดวา่ จะทายงั ไงกบั ฉนั มคี นลม้ ลงบนพ้ืนมนั เป็นไปได้
ยากมากท่จี ะมีคนเขา้ มาชว่ ย คงไมใ่ ครอยากจบอันดับสดุ ทา้ ยในโอลิมปิก”

“ฉนั รู้สกึ ประทับใจในสิง่ ท่ี Abbey ปฏบิ ตั ติ อ่ ฉันมากๆ แม้วา่ พวกเราจะไมเ่ คยรูจ้ ักกันมาก่อน แต่ที่
สง่ิ เธอทานั้นมันสดุ ยอดมากจรงิ ๆ”

ท่ีมา : http://www.thaiwinds.com/2016/04

แนวคดิ หรือแก่นเรื่อง
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................

แนวคิดหรอื แก่นเร่อื ง
...................................................................................
...................................................................................
...................................................................................
...................................................................................
...................................................................................
...................................................................................
..............................................................

๑๓

แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๓

ขยายภาพ ขยายเรอ่ื ง
คาช้แี จง : ใหน้ กั เรียนเขียนโครงเร่อื ง จากรปู ภาพทีก่ ําหนดใหต้ ่อไปนี้

ทีม่ า : http://topicstock.pantip.com/blueplanet
การเปิดเรื่อง
................................................................................................................................ .........................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
การดาเนนิ เรื่อง
...................................................................................................................................... ...................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
...................................................................................................................................... ...................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
การปิดเรื่อง
...................................................................................................................................... ...................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................

๑๔

แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๔

โครงเร่ืองเล่าเร่ือง
คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนเขียนเลา่ เร่ืองจากโครงเรอ่ื งที่กําหนดให้ต่อไปนี้

ที่มา : http://thaiflood.kapook.com/
การเปิดเร่ือง

เปดิ เร่อื งโดยการพรรณนาฉากสําคัญของเร่ือง “สายฝนยามเย็นตกลงมาอย่างหนัก ทาให้เกิดน้า
ทว่ มฉับพลันบนถนนทางเดนิ ในมหาวทิ ยาลัย”
การดําเนินเรอื่ ง

ดาํ เนนิ เร่ืองตามลาํ ดบั เวลา โดยกลา่ วถึง “สาวน้อยคนหนึ่งไม่อยากเปียกฝน จึงมองหาใครสักคน
เพ่อื ช่วยเหลอื ทันใดน้ันก็มีชายคนหนง่ึ ถอื ร่มคันใหญส่ ีดา สาวน้อยจงึ สง่ สายตาขอความช่วยเหลือ ชายหนุ่ม
ถามเขาว่า “ให้ช่วยอะไรม้ัยครับ” ฉันได้ทีจึงแกล้งทาเป็นเจ็บขา พร้อมกับตอบชายหนุ่มไปว่า “ช่วยอุ้ม
หน่อยได้มยั้ ค่ะ” ชายหนมุ่ หนั หลงั พร้อมยอ่ ตวั ลง ฉนั จึงรบี ขน้ึ หลังโดยไม่ลังเล ชายหนุ่มพาสาวน้อยเดินลุย
นา้ ส่วนสาวนอ้ ยถอื รม่ ใหช้ ายหนุม่ ทา่ มกลางสายฝนทกี่ าลังตกลงมา”
การปิดเรื่อง

จบเร่ืองแบบไม่ธรรมดา “เมื่อถงึ อกี ฝง่ั ชายหนุ่มวางสาวน้อยลง เธอกล่าวขอบใจเขาพร้อมรอยยิ้ม
ชายหน่มุ ยม้ิ ตอบกลบั มา พรอ้ มคาพูด “ไม่เป็นไรแฟนเก่า” จากนั้นเขาก็หันหลงั เดนิ จากไปโดยไมห่ นั กลบั มา
อีกเลย”

๑๕

.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
...................................................................................................................................... ...................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
...................................................................................................................................... ...................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
...................................................................................................................................... ...................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
...................................................................................................................................... ...................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
...................................................................................................................................... ...................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
...................................................................................................................................... ...................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
...................................................................................................................................... ...................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
...................................................................................................................................... ...................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................

๑๖

ตวั ละครดาเนนิ เรอ่ื งสน้ั

ความหมาย
ตัวละคร (Character) คือผแู้ สดงบทบาทสมมติตามทผ่ี แู้ ต่งกาํ หนด โดยทวั่ ไปผ้แู ต่งมักกําหนดใหต้ วั

ละครในเร่อื งสนั้ มจี าํ นวนน้อย เพราะเร่อื งส้ันมงุ่ แสดงแกน่ ของเรือ่ งเพียงแกน่ เดยี วหรอื มุ่งแสดงผลของเร่ือง
เพียงดา้ นเดยี ว ฉะน้นั เพอ่ื ใหเ้ รอื่ งดาํ เนนิ ไปสูจ่ ดุ หมายปลายทางไดเ้ ร็วที่สุด ผู้แต่งจึงนิยมสร้างตัวละครให้มี
จํานวนน้อย คือตวั ละครเอกจํานวนหนึ่งหรอื สองตวั จะมีตัวละครประกอบทีเ่ ป็นประโยชนต์ ่อเร่อื งจรงิ ๆ อีก
๒ – ๓ ตวั เทา่ น้นั

การกระทําพฤติกรรมต่างๆของตัวละครภายในเรื่องน้ัน เกิดจากโครงเรื่องและแก่นเรื่อง ซ่ึงตัว
ละครน้อี าจเป็นสง่ิ มชี ีวติ หรอื ไม่มีชีวิตกไ็ ด้ แตต่ อ้ งมลี ักษณะความสมจรงิ และสามารถทาํ ใหผ้ อู้ า่ นคลอ้ ยตาม
การกระทํานั้นๆได้ ตวั ละครจดั เป็นองค์ประกอบที่สาํ คญั ประการหนงึ่ และอาจสําคัญย่ิงกว่าโครงเรื่องหรือ
ประเด็นสําคญั ของเรอ่ื งกไ็ ด้ เพราะหากปราศจากตวั ละครแล้ว เรอ่ื งราวในเรื่องสัน้ กจ็ ะขาดอรรถรส

ลกั ษณะของตัวละคร
ลักษณะของตัวละครที่ปรากฏในงานเขียนประเภทบันเทิงคดีน้ัน สามารรถแบ่งอออกเป็น ๒

ประเภท ดงั น้ี
๑. ตวั ละครแบบคงท่ีหรือน้อยลักษณะ หมายถึง ตัวละครที่มีลักษณะนิสัยอย่างใดอย่าง

หน่งึ กจ็ ะคงลกั ษณะนิสัยอย่างนนั้ ไปตลอดท้งั เรือ่ ง เปน็ ตัวละครท่ผี เู้ ขยี นสร้างข้ึนมาเพ่ือเป็นสัญลกั ษณ์แทน
ความคิด หรอื เพือ่ เป็นสอ่ื แทนคณุ ลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ความดี ความชัว่ ความมีคุณธรรม ความ
ซ่อื สตั ย์สจุ รติ เปน็ ตน้

๒. ตัวละครแบบซบั ซอ้ นหรอื หลายลักษณะ หมายถงึ ตวั ละครทม่ี หี ลายมิติ มที ้ังด้านกว้าง
ยาว ลกึ ซ่งึ ตัวละครประเภทน้ีมีความคล้ายคลึงกบั บุคคลในชีวิตจรงิ มากที่สุด เพราะมีการเปลีย่ นแปลงทั้ง
ภายในและภายนอกอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นสภาพร่างกาย อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ซึ่งอาจ มี
พฒั นาการและความถดถอยอยตู่ ลอดเวลา

๑๗

วธิ กี ารสร้างตัวละคร
ในการสร้างสรรค์ตัวละครนั้นสิ่งสําคัญประการหนึ่งอยู่ที่ว่า ผู้เขียนจะสามารถสร้างตัวละครให้

ผอู้ า่ นประทบั ใจได้มากน้อยเพยี งใด ซ่ึงมคี ําแนะนาํ ในการสร้างตัวละครลกั ษณะของตัวละครดงั นี้
๑. บรรยายอุปนิสัยของตัวละครโดยตรง บอกลักษณะ รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ

ความสูง นํา้ หนัก การศกึ ษา อาชพี สถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม หรือรายละเอียดปลีกย่อยอ่ืนๆ
เกย่ี วกบั ตัวละครใหผ้ ู้อ่านรับรู้อยา่ งแจม่ แจง้

๒. ให้ตัวละครนั้นพูดถึงตัวละครอีกตัวหนึ่ง คําพูด คําวิจารณ์ของตัวละครอ่ืนสามารถ
เปดิ เผยใหผ้ ู้อ่านรบั รูล้ ักษณะของตัวละครได้ในหลายแง่มุม

๓. บอกนิสยั ใจคอของตัวละครผ่านพฤติกรรม คําพูดทศั นคตขิ องตัวละครเอง
๔. บอกอุปนสิ ัยของตัวละครผา่ นความรู้สึกนกึ คิดของตัวละครเอง จากสมั พันธภาพของตวั
ละครนน้ั กบั ตวั ละครอนื่ ๆ
๕. ตอ้ งมกี ารกลา่ วถึงประวัติศาสตร์ของตัวละครว่าเป็นใครมาจากไหน ผ่านอะไรมาบ้าง
สง่ิ ใดและอะไรท่ีหล่อหลอมความเปน็ “ตัวตน” ของตัวละครตวั นัน้ เช่น เป็นลูกใคร ลักษณะด้านกายภาพ
เช่นไร มคี วามเป็นมาอยา่ งไร มีลกั ษณะนสิ ยั ใจคออย่างไร เปน็ ต้น
๖. ต้องมีความสมจริง มีลลี าโดดเด่นไปในเรอื่ งอย่างมีชีวิตจิตใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์
ความรู้สึกนกึ คิด ความเข้มแข็งและความอ่อนไหว หรือแม้กระทั่งความขัดแย้งเฉกเช่นปุถุชนท่ัวไป เพราะ
การดํารงชวี ติ ของมนุษย์ประกอบไปดว้ ยความขัดแย้ง ดังนั้นตัวละครในเรื่องจึงจะต้องมีการกล่าวถึงความ
ขัดแย้งดว้ ยเช่นกัน เพราะจะทาํ ใหต้ วั ละครเกิดความสมจริงและสร้างความความน่าสนใจให้แก่ตัวละครใน
เรื่องได้
ในกรณที ตี่ ้องการสรา้ งตัวละครทไ่ี มส่ มจริงหรือเกินจรงิ เพ่ือจุดมุ่งหมายอย่างใดอย่างหน่ึง
ผู้เขียนต้องใคร่ครวญให้ดีว่าจะสร้างตัวละครตัวนั้นอย่างไร และให้ออกมาในลักษณะใด จึงจะสนอง
จดุ มุ่งหมายของเรื่องได้ดที ี่สุด
๗. ตัวละครต้องมีความต้องการอะไรบางสิ่งบางอย่างและสามารถเลือกในสิ่งที่ต้องการได้
การสร้างความขดั แย้งท่ีได้ผลในเรื่องส้ันน้ัน ผู้เขียนควรสร้างให้ตัวละครมีความต้องการในบางเร่ืองอย่าง
จรงิ จัง ไม่ว่าจะเป็นเร่ืองของการแก้แค้น ความรัก หรือความตอ้ งการการไดร้ ับการยอมรบั เพราะจะทําให้
การดาํ เนนิ เรอ่ื งเป็นไปด้วยความสนุกสนาน น่าสนใจและชวนให้ผูอ้ ่านติดตามตลอดจนจบ
๘. อุปนิสัยของตัวละครต้องคงเส้นคงวา หากมีการเปล่ียนแปลง จะต้องมีเหตุผลท่ีมี
นํา้ หนกั พอเหมาะสมกบั ความเปลย่ี นแปลงน้ันๆ

๑๘

ตัวอย่างการเขยี นบรรยายตวั ละคร
ภายในหอ้ งทาํ งานหน้ามุข ชั้นสองของอําเภอหนึ่งในภาคใต้ตอนล่าง ยามเชา้ ศักดา นายอาํ เภอร่าง

ใหญว่ ยั กลางคน ท่าทีมีสง่าภูมิฐานเกนิ กว่าวัย สวมชุดเครื่องแบบสกี ากแี ขนสั้นรีดเรียบ เหนืออินธนูบ่าสอง
ดา้ นประดับแถบเครอื่ งหมายข้าราชการชน้ั พเิ ศษ สีเหลืองทองดมู ีสงา่

เกิดมามิใชอ่ น่ื ..., วนิ ยั เพชรอไุ ร จากหนงั สือดอกไม้บานทบ่ี า้ นใต้

บูยาเป็นหนุ่มผวิ ขาวผมหยกั ศก อกสามศอก เขามเี ชื้อสายเตริ ์ก จากทวดทําใหผ้ วิ ของเขาออกขาว
แก้มอมชมพู จมูกของเขาเป็นสัน ถอื ว่าเป็นหนมุ่ มลายูทหี่ น้าตาออกไปทางแขกหน่อย แตถ่ อื ว่าเปน็ คน
หน้าตาดี เป็นผทู้ ่ีมคี วามรทู้ างด้านศาสนาเปน็ อย่างดี แตท่ วา่ ในชีวติ เขาไม่ตกหลมุ รักใครเลย นอกจากการ
ตกหลมุ รกั การเรยี นเทา่ นัน้ เอง

บูดู “รสรัก”, อารีฟ แปเฮาะอเี ล จากหนังสือเยน็ ลมใต้

แสงแดดยามเช้ายงั คงอบอนุ่ มองเห็นน้ําคา้ งเมด็ เล็กๆเกาะตามยอดหญา้ อยู่บ้างประปราย ผมสูด
อากาศบริสุทธ์ไิ วเ้ ตม็ ปอด ก่อนจะยา่ งก้าวไปทางหลงั บา้ น เห็นปะดอ ชายผวิ คลํ้า รปู ร่างผอมสูง กําลังก้มๆ
เงยๆ เกบ็ กะลามะพร้าวใส่ในกระสอบขา้ วสาร ผมหงอกทีถ่ กู บดบังด้วยหมวกกะปเิ ยาะบนหวั และเนอ้ื หนงั ที่
เหย่ี วย่นของแก บ่งบอกวา่ อายุคงห่างจากผมอยมู่ ากโข แต่รา่ งกายก็ยังดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงกว่าหนุ่มๆ
บางคนในละแวกนี้เสียอีก อาจเปน็ เพราะปะดอเปน็ คนชอบทาํ งานออกแรงมาตงั้ แตย่ งั หนมุ่ กเ็ ปน็ ได้

อย่ามองฉันแคภ่ ายนอก, ซูฮัยณี นิสะนิ จากหนงั สอื เยน็ ลมใต้

เจ๊ะเป็นคนดุ ดุเฉยๆนะ ไม่ได้ร้าย เพ่ือนๆของผมท่ีโรงเรียนก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเจ๊ะผมดุ
บางทอี าจจะด้วยหนวดเคราบนใบหน้าทําให้เจ๊ะดูเขม้ ขรมึ ผมไมเ่ คยเถียงหรือต่อปากตอ่ คํากบั เจ๊ะเลย ไม่ใช่
สิ! ผมไม่กล้ามากกว่า แคค่ ดิ ผมกลัวจนตวั สนั่ แล้ว แตถ่ ึงเจะ๊ จะเปน็ คนดยุ ังไง เจ๊ะกเ็ ปน็ คนมีเหตผุ ลและมกั จะ
มีวธิ ีแกป้ ญั หาท่นี า่ ทง่ึ อยูเ่ สมอๆ แนอ่ ยลู่ ะ่ ไม่อยา่ งน้ันชาวบ้านเขาคงไม่นับถือเจะ๊ ...

โต๊ะอหิ ม่ามเจะ๊ มดู อ, มสุ ตากมี แวสุหลง จากหนงั สอื เย็นลมใต้

มะลิ คือช่ือของเธอ มานิสาวแรกรุ่นเจา้ ของเรือนร่างระหง ผิวดําเนียนละเอียดไร้รอยตําหนิ ผม
หยิกขอดล้อมรอบใบหนา้ รปู ไข่ไดร้ ปู รมิ ฝปี ากหนาอวดฟนั ขาวเรียงเป็นระเบียบชวนใหใ้ จเตน้ ไม่เป็นจังหวะ
อยเู่ สมอ

ลมใต้, วชิ ดุ า ราชพิทักษ์ จากหนงั สอื เย็นลมใต้

๑๙

ตวั อย่างเรอ่ื งสนั้
เรอ่ื ง เด็กโต
ศรญั ญา วาหะรักษ์

โครม !!
หลงั จากสน้ิ เสยี งปดิ ประตู ภายนอกบรรยากาศแห่งความโกรธแผ่ขยายทั่วท้ังบริเวณ ทุกส่ิงอย่าง
ราวกับหยุดเคลื่อนไหว แม้แต่จ้ิงจกยังไม่กล้าร้องทัก มีแต่เพียงพัดลมเท่านั้นท่ียังส่ายหัวไปมา อาจ
เนือ่ งมาจากเหตผุ ลโดยหนา้ ท่ี คอื ใหบ้ างสง่ิ คลายอุณหภูมิในตัวเองลงหรืออาจเปน็ เหตุผลจากความรู้สึก คือ
ส่ายหน้าเพราะเอือมระอากบั เหตกุ ารณเ์ กิดขน้ึ
นี่ไม่ใช่ครง้ั แรกทเี่ กดิ เหตุการณน์ ีข้ ้ึน มันมกั จะเกดิ ซ้าํ แลว้ ซํา้ เลา่ หลายครั้งท่ี “ข้าวหอม” ลูกสาวคน
เดยี วของบา้ นมแี ผนทจี่ ะทําอะไร
เหตกุ ารณน์ เ้ี กิดขึ้นครงั้ แรกเมือ่ ไหร่ มเี พยี งครอบครัวน้ีเท่านนั้ ท่ตี อบได้ แตก่ ใ็ ชว่ า่ จะตอบไดท้ กุ คน
เจ้าเหมยี ว หรอื ท่ีขา้ วหอมเรียกวา่ “ตาล” ตามช่อื แมวในหนังสือช้ันปอหน่ึงของเธอ ซึ่งก็ถือว่าอยู่
มานานพอสมควรจนไดเ้ ลือ่ นช้ันจากสัตว์เล้ียงมาเป็นสว่ นหนึ่งของครอบครวั ไปแลว้ ก็ยงั ไมส่ ามารถตอบเรา
ไดเ้ พราะแมแ้ ตก่ ารเอาเจ้าเหมียวมาเลยี้ งในบ้านก็กลายมาเปน็ ประเดน็ ให้เกดิ เหตุการณน์ ้ขี ึ้น
“ลูกจะดแู ลมนั ไดห้ รอื เปลา่ ”
“เวลาลกู ไปโรงเรียนใครจะดแู ลมัน”
“ไหนจะให้อาหาร จะขี้ จะฉม่ี นั อีกใครจะรบั ผดิ ชอบ”
หญงิ สาวผูเ้ ป็นแมเ่ ริ่มต้ังคาํ ถามทนั ทที ีเ่ หน็ ลูกแมวสีขาว ตัวเล็กอย่ใู นบ้าน เขาเองก็ยอมรับในความ
น่ารักของเจ้าแมวตัวน้ี แตเ่ ม่ือเทียบกับภาระอนั ยิง่ ใหญ่ทเ่ี ดก็ หญงิ ตัวเล็กๆอย่างข้าวหอมจะต้องรับผิดชอบ
แลว้ ยงั ไงเขาก็รกั ไม่ลง และมองไมเ่ ห็นความรับผดิ ชอบในตัวสาวนอ้ ย
ทุกคําถามหาไดร้ บั คาํ ตอบจากสาวน้อยมเี พียงการจ้องตาเหมือนกับจะตอบคําถามแลว้ เดินเข้าห้อง
ไปพร้อมกบั เจ้าแมวนอ้ ยในออ้ มกอด
นนั่ ละ่ คงจะเปน็ คาํ ตอบของสาวนอ้ ย คาํ ตอบทีท่ ําเอาผู้เป็นแม่ทําได้เพยี งสา่ ยหวั ด้วยความเหนอื่ ยใจ
นี่ไมใ่ ชด่ า่ นเดยี วท่ีข้าวหอมจะตอ้ งตอบคําถามเร่ืองเจ้าตาล เพราะคําถามจากด่านใหม่ท่ีใหญ่และ
ยากกว่ากําลงั เดนิ ทางมา
เสียงเคร่ืองยนตท์ ี่ดังมาจากรถสปอร์ตรนุ่ เกา่ ย่ีหอ้ หนึ่งค่อยๆเบาและดบั ลงในทีส่ ดุ
“ลกู แมวของใครมาอยใู่ นบ้านเราล่ะแม่”
ขา้ วหอมตบโต๊ะดงั ปงั ไม่ใชเ่ พราะความโมโหท่ีจะต้องตอบคําถามแต่การตบคร้ังน้ีเพื่อแสดงความ
ภาคภูมใิ จใหก้ บั ความแมน่ ของตวั เอง แมน่ ท่ีว่าคําถามน้ตี อ้ งเกิดข้นึ แน่ๆ แล้วมนั กเ็ กดิ ข้นึ จริง
หลังจากได้รับคําตอบจากผเู้ ปน็ แม่แลว้ ศกึ ครง้ั ใหม่ระหวา่ งพอ่ ลูกก็เกดิ ขึ้น
“ข้าวหอม มาเอาแมวไปปล่อยเดีย๋ วน้ี”

๒๐

ผู้เป็นพ่อเร่ิมต้นศึกคร้ังนี้ด้วยคําสั่งง่ายๆ ด้วยอํานาจความเป็นพ่อและความเป็นเจ้าบ้าน แต่
เนอื่ งจากอีกคนเป็นถงึ ลูกของเจา้ บ้านทาํ ใหศ้ ึกครัง้ นีใ้ ช่ว่าจะจบลงงา่ ยๆ

สาวนอ้ ยยงั คงนิง่ เงียบเพ่ือฟงั ร้อยพันเหตุผลท่ีผเู้ ป็นพอ่ ยกมาหลายเหตุผลมนั ไมไ่ ดต้ า่ งจากผเู้ ป็นแม่
เลย ส่วนหน่งึ ของจิตใจสาวน้อยแอบปลีกตัวมานึกว่าทําไมไม่ปรึกษากันมาก่อนว่าแม่พูดอะไรไปแล้วบ้าง
อยา่ งนอ้ ยก็เพ่ือท่ีเขาจะได้ไม่ต้องตอบคําถามซ้ําๆ

หลงั จากท่ีคําถามจากผู้เปน็ พ่อสิ้นสุดลงคงจะเป็นเพราะหมดเรื่องที่จะถามหรือไม่ก็หยุดเพียงพัก
หนึง่ เพ่อื รอคําตอบจากข้าวหอม

ข้าวหอมยังคงนั่งนิ่ง แต่ในจิตใจกลับย่ิงครุกรุ่นไปด้วยความโมโหท่ีเพ่ิมมาจากเดิม คําว่าทําไม
เกดิ ขน้ึ มากมายภายในจติ ใจ เกดิ การโตเ้ ถยี งในความเงียบอยู่เป็นเวลาหลายนาที

“ข้าวหอม ทาํ ไมพ่อถามไมต่ อบ”
แมน้ าํ้ เสียงจะยงั ดูธรรมดาแตส่ หี นา้ และแววตาแสดงออกถงึ ความโกรธอยา่ งชดั เจน
“ก็หนูจะเลีย้ งอ่ะพ่อ”
“หนโู ตแลว้ นะ”
“หนูไม่ใช่เด็กอนบุ าล”
โครม!! สาวน้อยอ้มุ เจ้าเหมยี วแล้ววง่ิ เข้าหอ้ งด้วยดวงตาทีเ่ จิ่งนองไปด้วยน้ําตา เธอไม่ได้รู้สึกเสยี ใจที่
พอ่ หา้ มไม่ใหเ้ ล้ียงแมว แต่นํา้ ตาทไี่ หลนองนนั้ เนื่องจากความกดดนั ท่เี ถียงไมท่ ัน
ภายนอกสองสามภี รรยากาํ ลงั อึ้งอยู่กับคําพูดหนึ่งท่ีออกมาจากปากลูกสาวของตนที่เพ่ิงมีชีวิตอยู่
บนโลกน้ไี ด้เพยี ง ๗ ปี ๓ เดอื น กบั อีก ๒๑ วัน
“หนโู ตแลว้ นะพอ่ หนไู ม่ใชเ่ ด็กอนุบาล”
“ลกู ไมใ่ ชเ่ ดก็ อนบุ าล แตล่ กู คอื เด็กปอหนง่ึ ”
คร้ังนี้เปน็ คร้ังที่เท่าไหร่แล้วท่ีเหตุการณ์คล้ายกันน้ีเกิดข้ึน ไม่มีใครใคร่อยากรู้คําตอบ แต่ส่ิงที่ท้ัง
สง่ิ มชี ีวติ และสง่ิ ไม่มชี ีวติ ภายในห้องสเ่ี หลีย่ มรอล้นุ อยใู่ นขณะน้ี จดุ จบของเหตกุ ารณ์ตา่ งหากท่สี าํ คญั
การปะทะคารมครั้งใหมเ่ กิดขน้ึ เมอ่ื สาวนอ้ ยต้องการยานพาหนะสีล่ ้อเพ่ืออํานวยความสะดวกใหก้ บั
เธอในชวี ิตมอปลาย
ทนั ท่ที ่คี วามอยากได้ถกู เอย่ ออกจนจบ ความอยากรู้จากผ้เู ป็นพ่อและแม่ก็กล่ันออกมาเป็นคําถาม
ร้อยพัน
“นีล่ กู เรียนอย่นู ะ พ่อคดิ วา่ มนั ยังไมถ่ ึงเวลา” ผู้เปน็ พอ่ ตดั บทดว้ ยคาํ พูดสนั้ ๆ ที่แฝงไว้ซงึ่ ความหมาย
อันเจ็บปวด
สาวน้อยตาแดงกาํ่ ผดิ หวงั จากคาํ ตอบท่ไี ด้รับ ภายในจิตใจของเธอในตอนนี้ คําว่า “ทาํ ไม” ซ่อนตวั
อย่อู ยา่ งแออดั

๒๑

แกว้ น้าํ ถูกปัดลงจากโต๊ะขา้ งมือ ไม่ทนั ท่ีสายน้ําจากแก้วจะหยุดเคล่ือนไหวความแออัดภายในใจก็
ทะลกั ออกมาเป็นคาํ พดู คนุ้ หทู ห่ี ่างเหินมานาน

“หนจู ะซื้อ”
“หนูดแู ลได้”
“หนูโตแล้วนะพ่อ หนูไม่ใชเ่ ดก็ อนบุ าล”
โครม!! เสียงประตหู ้องเดิมถกู ปดิ ด้วยความแรงที่เพมิ่ ขึน้ กว่าเหตกุ ารณใ์ นคร้งั เดมิ ตามกาํ ลงั ผู้กระทาํ
“ทง้ั คาํ พดู และการกระทําของลกู เหมือนตอน ป.๑ ไมม่ ผี ดิ ”
ข้าวหอมอา่ นขอ้ ความบนกระดาษโนต้ ทส่ี อดผา่ นมาทางใตป้ ระตู

ท่ีมา : ดาวดวงใหม่ ณ ฟากฟา้

เรอื่ ง เจ้าแดง
รงั โรจน์ ปลายเสรี

เจ้าแดงเป็นสนุ ัขจรจัด มนั อาศยั อยใู่ นซอยแหง่ หนงึ่ ซึ่งมีบ้านสามหลงั
เจา้ แดงรวู้ า่ เจา้ ของบา้ นทั้งสามนั้นใจดี
บอ่ ยครัง้ เจา้ ของบ้านหลังแรกเอาไส้กรอกมาให้
บ่อยครง้ั เจา้ ของบา้ นหลังสองนํากระดูกมาให้
บ่อยคร้งั ยามทอ่ี ยู่บา้ นหลงั สามเอาข้าวคลกุ นํา้ ปลามาให้
แต่เจา้ แดงไมร่ วู้ ่าทาํ ไมวันนไ้ี ม่มีอาหาร
เจ้าแดงไม่รวู้ ่าเจ้าของบา้ นหลงั แรกได้ย้ายออกไปแล้วเมื่อเช้า
เจา้ แดงไมร่ ู้วา่ เจา้ ของบา้ นหลงั ท่สี องซอื้ สุนขั พนั ธช์ุ วิ าวา่ มาหนง่ึ ตวั กระดูกทง้ั หมดจึงตกเปน็ ของเจ้า
หมาตวั นัน้
และทา้ ยทส่ี ดุ เจา้ แดงไมร่ ู้วา่ ยาม คนที่เคยจับขโมยด้วยกนั กับมนั ถกู ไลอ่ อกไปแล้ว เพยี งเพราะเจ้า
แดงไม่ไดป้ ลุกเขากลางดึกเมอื่ วานทีม่ โี จรยอ่ งเข้าบา้ น
เจา้ แดงช่างไม่รอู้ ะไรเสยี เลย
เจา้ แดงรู้เพยี งแคว่ ่า มันหิว

ทมี่ า : http://www.storylog.co

๒๒

แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๕

ตวั ตนเรา เขา้ ใจเรา
คาช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นเขยี นบรรยายบคุ ลกิ ลกั ษณะ พฤตกิ รรมของตนเองใหม้ ากทสี่ ดุ (ตามหลักหมวก ๖ ใบ)

๒๓

แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๖

เข้าใจเขา ตัวตนเขา

คาชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นเขยี นบรรยายบคุ ลกิ ลกั ษณะหรือพฤติกรรมของเพอ่ื นในช้ันเรยี น จาํ นวน ๓ คน โดย
ไม่ตอ้ งระบุช่อื เพอ่ื น (หมวก ๖ ใบ)

.................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................

................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................

.................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................
................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................
.................................................................................................................

๒๔

แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๗

อา่ นภาพ เขียนตวั ละคร
คาชี้แจง : ให้นักเรยี นเขยี นเลา่ เรอื่ งตามจนิ ตนาการ พรอ้ มกับเขียนบรรยายตวั ละครตามหลักการสร้างตัว
ละครในการเขยี นเร่อื งส้นั ใหส้ อดคลอ้ งกบั รูปภาพที่กาํ หนด

ทม่ี า : https://www.ntbdays.com/tidtrendy/13429
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
.................................................................................................................................. .......................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
...................................................................................................................................... ...................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
.......................................................................................................................................... ...............................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................................... ..........................

๒๕

ฉากสรา้ งสรรคเ์ รอื่ งฉาก

ความหมาย
ฉาก (Setting) คือ สถานท่ีท่ีเกิดเหตุการณ์ในเร่ือง ซึ่งหมายรวมถึงเวลาและสภาพท่ีแวดล้อม

เหตกุ ารณ์น้ันๆดว้ ย ฉากทสี่ ําคญั ในเรื่องส้ันน้นั มกั จะกลา่ วถึงเพยี งฉากเดียว เพราะผู้เขยี นถอื หลักว่า “ยิง่ ใช้
เหตุการณ์ สถานที่ และเวลาในเรื่องน้อยเท่าใด ก็ยิ่งมีผลทําให้แนวคิดของเร่ืองชัดเจนข้ึนเท่านั้น”
ประกอบกับการเขียนเรื่องส้ันท่ีมีข้อจํากัดในเรื่องของขนาด ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนเร่ืองส้ัน จึงมักจะเลือกเอา
เหตุการณ์สาํ คญั ของเรื่องมากลา่ วอย่างละเอียดเพยี งเหตกุ ารณ์เดียว พร้อมกันนี้ก็กล่าวถึงระยะเวลาท่ีเกิด
เหตุการณ์ในเรอ่ื ง ดว้ ยชว่ งเวลาสั้นๆ เท่านั้น

ลกั ษณะของฉาก
ลักษณะของฉากที่ดจี ะตอ้ งสอดคล้องกับเน้อื เรื่องและชว่ ยสร้างเสริมบรรยากาศของเรอ่ื ง ท้ังนี้แล้ว

ฉากในเร่ืองจะต้องมสี ภาพตามความเปน็ จริง ซ่งึ การกําหนดฉากในเร่อื งส้นั น้ันอาจจะใชส้ ถานท่ีจรงิ เป็นฉาก
หรอื อาจจะจนิ ตนาการข้ึนมาเองก็ได้ แต่ไมว่ า่ จะใช้ฉากชนิดใด ผูเ้ ขียนจะต้องคาํ นงึ วา่ ต้องเขียนบรรยายให้
ถูกตอ้ งตรงตามสภาพความเป็นจริง ฉากที่จินตนาการข้ึนก็ต้องมีความชัดเจนพอที่จะทําให้ผู้อ่านนึกภาพ
และจินตนาการตามไปด้วย ฉากนั้นสามารถจาํ แนกได้ ๓ ลกั ษณะ ดังนี้

๑. สถานท่ีตั้ง เช่น บา้ นเมือง เครื่องเรือน ลกั ษณะทางกายภาพ
๒. เวลา ยคุ สมัย วัน เดือน ปี ฤดูกาล
๓. สภาพแวดลอ้ มของตวั ละคร เช่น ศาสนา เชื้อชาติ อาชีพ สภาพทางสังคม เศรษฐกิจ
การเมอื ง วัฒนธรรม
การสร้างฉากในเร่ืองส้ันแต่ละเร่ืองนั้นไม่จําเป็นที่จะต้องมีครบทั้ง ๓ ส่วน แต่ต้องใช้ฉากและให้
รายละเอยี ดเทา่ ที่จาํ เปน็ แกก่ ารดําเนนิ เรื่อง ไม่ควรบรรยายฉากมากเกนิ ไปหรอื น้อยเกินไป แต่ควรบรรยาย
ฉากอย่างตรงไปตรงมาด้วยภาษาท่ีกระชับ นอกจากน้ีควรใช้ฉากที่มีความสมจริง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถ
เขา้ ถงึ บรรยากาศของเร่อื งไดอ้ ย่างดี ทัง้ ยังก่อให้เกดิ จนิ ตนาการราวกบั ผอู้ า่ นรว่ มอยู่ในท่ีนั้นด้วย ฉากในเร่ือง
ส้นั นัน้ ไมจ่ ําเป็นต้องมหี ลายแห่ง ท้ังนี้เพราะช่วงเวลาท่ีเกิดขึ้นในเรื่องสั้นนั้นมักเป็นช่วงส้ันๆอยู่แล้ว จึงไม่
จําเป็นต้องมีฉากมาก

๒๖

การเขยี นฉากเหตกุ ารณ์ ใหเ้ ขยี นตามทเี่ ห็นเปน็ เรอื่ งราวในจินตนาการ สร้างภาพให้ผู้อ่านเห็นด้วย
วิธกี ารเปรียบเทียบ หรือใช้คาํ บรรยายทีอ่ อ้ มคอ้ ม หรอื อะไรกต็ ามท่ีทําให้นึกภาพของเหตุการณ์น้ันดําเนิน
ไปดว้ ยแรงผลกั ดนั ด้วยพลังของการเล่า ประโยคต่างๆที่เขียนน้ันไม่จําเป็นต้องละเมียดละไมหรือสวยงาม
คอ่ ยกลบั มาแกไ้ ขแตง่ เตมิ ได้ ขณะสร้างฉากเหตกุ ารณไ์ มค่ วรกังวล พยายามสนุกกบั การเขียน มองกว้างๆ
มองทุกมุมที่ทาํ ได้ การสร้างฉากสามารถใชไ้ ด้หลายวิธี ดังน้ี

๑. การบรรยายโดยผแู้ ตง่
๒. การใช้ภาษาถิ่นของตัวละคร
๓. การเล่าถึงประเพณที อ้ งถิ่น
๔. การใช้ภูมิหลัง หรือเหตุการณ์ในอดีต ทําให้ทราบถึงสถานท่ีและช่วงเวลาที่เกิด
เหตุการณน์ ัน้ ขน้ึ
ในบางครัง้ ฉากอาจเปน็ ตัวกาํ หนดโครงเรื่อง และการดําเนินเรื่อง ฉากมีความสําคัญต่อการดําเนิน
เร่ืองและจะตอ้ งมคี วามสอดคลอ้ งกับตวั ละคร โครงเร่อื ง และฉากสามารถสง่ ผลต่อพฤตกิ รรมของตัวละคร

ตวั อยา่ งการเขยี นบรรยายฉาก
ฉันยังคงสะอกึ สะอ้นื รอ้ งไห้อยู่อย่างน้ี จนเวลาล่วงเลยไปหลายช่ัวโมง จนกระทั่งฉันรู้สึกตัวอีกที

เมื่อแสงอาทติ ยย์ ามเชา้ ส่องแสงกระทบใบหน้าและดวงตาท่ีผ่านการร้องไห้มาตลอดท้ังคืน ฉันสัมผัสได้ว่า
รอบดวงตาบัดน้ีได้บวมปูดอย่างชัดเจน ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น เหลือบมองดูนาฬิกาข้อมืออย่างเคยเห็นเข็ม
นาฬกิ า ชบ้ี อกเวลา ๗.๐๐ น.

ฉนั คือ...ความหวงั ของหมบู่ ้าน, ซากีย๊ะ คามา จากหนงั สือเย็นลมใต้

เสียงหยดนํ้าฝนกระทบหลังคาบ้านท่ีอยู่เบ้ืองบนค่อยๆ เบาบางลงชะเง้อมองออกนอกหน้าต่าง
ยงั คงเห็นหยดนาํ้ ฝนท่รี ว่ งหลน่ มาโปรยปรายเล็กน้อย มนั อาจจะเป็นหยาดฝนชุดสดุ ท้าย หลังจากกอ่ นหน้าน้ี
ได้ถลม่ ลงมาอย่างหนักต่อเนอ่ื ง โดยไมค่ ิดทีจ่ ะหยุด ผมนงั่ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ริมหน้าต่างในห้องเดิมๆ
ไอระเหยจากกาแฟรอ้ นๆท่วี างไว้ขา้ งๆคอมพวิ เตอร์ทาํ หน้าที่โปรยกลนิ่ หอมสดชืน่ คงจะคลายความเมื่อยล้า
จากการทาํ งานหนกั ในชว่ งกลางวันทผ่ี ่านมาได้ระดบั หนง่ึ ...

เสยี งของหวั ใจ, สะอดู ี ดอื เร๊ะ จากหนังสอื ดอกไมบ้ านทบ่ี า้ นใต้

แลว้ ช้อนน้อยๆ ก็คอ่ ยๆ เจียดไอติมเน้ือละเอียด ละเลียดเข้าปากอย่างเชื่องช้า ความหวานกําลังดี
ของรสลนิ้ จีช่ ่วยปรบั อุณหภมู ิความกลดั กลมุ้ สุมแนน่ ภายในให้เข้าสรู่ ะดบั ปกติมากทีส่ ุดเท่าทีจ่ ะมากได้ ความ
นมุ่ เหนียวของถ่ัวเขียวก้นโอ่ง...อ้อ! ผมลืมบอกไปครับว่า ร้านน้ีเป็นร้านไอติมโอ่ง โอ่งเล็กๆหลายสีจะทํา
หน้าท่ีรักษาเอกลักษณข์ องรา้ น และอีกจิปาถะทใ่ี ครกอ็ ยากให้มนั มีคณุ ค่ายงั ไงก็ได้

เพลงสากลบนถนนสายเกา่ , รงั สมิ ันต์ จุลหรกิ จากหนังสอื เยน็ ลมใต้

๒๗

ตัวอยา่ งเร่อื งสั้น
เรื่องส้นั สวรรยา
ลาว คาํ หอม

ภาคสวรรค์
ภายใตเ้ งาฟา้ เรอื งรองวันหนึ่ง หลายชีวิตได้เปิดเปลือกตาข้ึน ณ ห้องหับสีทองท่ีอบอวลด้วยกล่ิน
สคุ นธรส
“นแี่ น่ะ ทา่ นผเู้ ป็นนอ้ งแหง่ เรา”
ชีวติ แรกเอ่ยทักเมอ่ื ปรากฏร่างน้อยๆ ของอกี ชีวติ หน่งึ เคลือ่ นมาตรงหน้า
“อะหา ใครกันทม่ี าเราว่าบังอาจเรยี กเราวา่ นอ้ ง”
ชวี ิตสองสนองตอบ
“เรานะร”ึ
“กจ็ ะยงั มผี อู้ น่ื ใดอีกเลา่ ”
“อ๋อ เราคอื ผู้เป็นเจ้าของแหง่ ภพน”ี้
“ใครสอนถ้อยคําอนั แสนจองหองนน้ั แก่ทา่ น ”
“ความจรงิ ”
“คอื อย่างไร”
“ก็มอี ยู่วา่ เทพเจา้ ส่งให้เรามาจุติ ณ รมณียสถานแหง่ น”้ี
“ออื ตลกด”ี
เงยี บลงชวั่ ขณะหนงึ่
“ไหมล่ะ ท่านจาํ นน ต่อความจริงแล้ว ”
ชีวติ สองไมต่ อบ แตเ่ สยี งทส่ี ามหวั เราะแทรกข้นึ
“ฮะฮา...”

ส้ินเสยี งทสี่ ามก็มีเสียงทส่ี ่ี - หา้ - หก - และถดั ไป หัวเราะประดงั กอ้ ง
“น่มี นั เรื่องอะไรกัน พวกทา่ นคอื ใคร”
ชีวิตแรกกล่าวดว้ ยนา้ํ เสยี งขงึ้ โกรธ
“พวกท่าน”
เสียงเยาะๆ ดังขึ้นอกี ในกลมุ่ ผมู้ าใหม่
“ผิดไปแลว้ ทา่ นน่าจะเปลย่ี นคาํ ถามใหม่เป็นว่า พวกเรา ซีจงึ จะควร ดูสิ จงมองดูตัวท่านแล้ว
เปรยี บเทยี บกับพวกเรา และหาความแตกตา่ ง”

๒๘

คาํ ท่มุ ถียงเงียบลงอกี เหลือแตเ่ สียงสงั คีตแว่วกระจายอย่ใู นอากาศเบ้ืองบน
“พบแลว้ ยงั ”
“ไม่พบ”
“ไม่เห็น”
“ไมม่ ”ี
ดนตรีเสนาะดงั ชดั มากขน้ึ ครูเ่ ดยี ว ต่อมาทุกชวี ิตก็ละจากการโต้เถียง ต่างแหงนหน้าข้ึนมองด้วย
ความระทึกใจ เมอื่ ปรากฏร่างสีเขยี วแวววาวแหวกม่านฟา้ ลงมาดว้ ยทา่ ทีองอาจ ติดตามด้วยเหล่าบริวารใน
แพรพรรณสวยสด รา่ งนั้นค่อยลอยเลอ่ื นลงมา ที่สุดหยดุ ลงตรงหน้าแล้วเอ่ยปากถาม
“ผสู้ บื ผลบุญ พวกทา่ นสง่ เสียงอ้อื องึ คะนึง
ในยามนี้ ดว้ ยเหตุดงั ฤา ”
“เรามปี ัญหามากหลาย”
ชีวิตแรกเสนอหนา้
“จงวา่ มา”
“หะแรก ข้าพเจ้าเรียกท่านหนึ่งในพวกน้ีว่า น้อง ข้าพเจ้าได้รับความขุ่นเคืองจากเขา และเมื่อ
ขา้ พเจา้ แจง้ ให้ทราบว่าเปน็ เจ้าของแว่นแควน้ แดนนี้ด้วยเหตุมาถงึ ก่อน คําตอบของพวกเขาคอื เสียงหวั เราะ
ทสี่ ุดตกลงกันไม่ไดว้ า่ พวกเราคอื ใคร...”
“นน่ั ปะไร ขา้ คดิ ไวเ้ คยผิดเสยี เมือ่ ไหร”่
ผูท้ รงศักดิ์พดู พลางถมู อื ไปมานง่ิ คดิ อยคู่ ร่หู นงึ่ แล้วจงึ กล่าวสบื ไป
“ขอพากนั ทราบเสียวา่ ทกุ ทา่ นเปน็ ผู้สบื จากผลแหง่ บุญ”
“คืออยา่ งไรทา่ น”
เสยี งถามดว้ ยอาการกระตือรอื รน้
“ฟงั ใหจ้ บกอ่ นซี - เอ้อ -คอื ท่านทง้ั หลายมาสทู่ พิ ยสถานแหง่ นีด้ ้วยผลบญุ ”
“ทิพยสถานคือ คืออย่างไร”
“อา้ ว เราไดเ้ ตือนทา่ นแล้ววา่ อย่าขดั จังหวะเมื่อกาํ ลังพูด คืออย่างนี้ ที่น่ีเป็นสรวงสวรรยาของผู้
มากดว้ ยบุญ มีทกุ สง่ิ ที่เปน็ ทิพย์”
“หมายความวา่ พวกเราคอื เทพ”
“น่นั สุดแทแ้ ตท่ ่านจะเขา้ ใจและเรียกตัวเอง”
“ฮา ตูคอื เทพ เราคือเทพ”
เอ็ดองึ ด้วยหรรษา

๒๙

“ตวั ท่านน้ันเล่าเป็นใคร”
เสยี งเทพกระดา้ งขึ้น
“ใคร่รู้นกั ร”ึ
“ใช”่
“อันท่ีจริงหากสังเกตสักเล็กน้อย ผิวกายอันเรืองรองของเราน่าจะบอกท่านได้ว่าเราเป็นใคร
อ้อ! พวกท่านเป็นผมู้ าใหม่ ไม่เป็นไร เราจะบอกให้ เราคือองค์อินทร์ เป็นพระยาแห่งทิพยสถานเกษมสุข
น”ี้
“องค์อินทร์ โอ้ ขอไดโ้ ปรดแก่ความเบาปญั ญาของพวกข้าพเจา้ ดว้ ยเถิด ทา่ นผเู้ ป็นทเี่ คารพ”
ส้นิ สําเนียงทวยเทพ เหลา่ บรวิ ารแวดล้อมก็แซ่ขานและบรรเลงดนตรีทพิ ยส์ ืบตอ่ มาอกี ชว่ั ครู่ เหล่า
ผู้มาใหมไ่ ด้ออกปากวงิ วอนให้ผูเ้ ป็นพระยาเล่าถึงความเป็นไปในทพิ ยนครโดยสังเขป
“ภพน้ี...” องค์อินทร์เริ่มกล่าวด้วยนํ้าเสียงกังวาน “มีอายุขัยไล่เล่ียเหลือประมาณกับอายุกาล
แห่งโลกมนษุ ย์ วา่ ถึงตาํ แหนง่ แหง่ ท่ตี ้งั เลา่ ถ้ากําหนดเอาแผน่ ฟ้าเป็นจุดตน้ ก็มหี นทางไกลกว่าจากแผ่นฟ้า
ถึงผวิ โลก เพียงสองศอกถึงสองวาโดยประมาณ ทกุ สงิ่ แลลานเป็นสีทองดังท่านได้ประจักษ์อยู่บัดนี้ อน่ึง
เนือ่ งด้วยเราอยู่หา่ งออกมา ความแจ่มจ้าของอาทิตยก์ ็มาตดิ อย่แู ค่ผิวพืน้ โลก แสงท่ตี กถงึ เราจงึ บางเบาเปน็
ลาํ แสงสรี ุ้งออ่ น เราไมม่ ีเวลาร้อน เช่นเดยี วกับท่ีไมร่ ้จู กั หนาว ชีวติ มีแตค่ วามเบิกบาน เม่ือหิวก็จะมีอาหาร
อนั เอมโอชลว่ิ ลอยลงมาจากนภากาศ จงเลอื กอยู่ เลือกกิน สรอ้ งเสพสําราญจนกวา่ ทกุ ทา่ นจะสิน้ บุญเถดิ ”
สนิ้ กระแสสั่ง เสียงเห่กล่อมประเลงเพลงกก็ ้องกึก กงั วานไกล หลายหม่ืนโยชน์ เหล่าทวยเทพจงึ
ทอดตัวลงฟอนฟาน ดว้ ยอาการสาํ ราญในทพิ ยสถานน่นั แล

เมืองดิน
สายมากแลว้ ชายแกเ่ ดนิ งุดๆ ออกจากคูหานอ้ ยปลายสวน มือถือกระปอ๋ งเกา่ ๆ ซ่ึงยงั คลุ้งด้วยกลิ่น
อบั ๆ ของยาพิษ แกพูดพมึ พาํ
“อ้ายฉิบหาย นับวนั กย็ งิ่ แตม่ าก คราวน้ีเหน็ จะเกลย้ี งเสยี ที มีไอ้หวั เขียวลอดข้นึ มาได้ตวั เดียว”

๓๐

แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๘

บรรยายภาพ บรรยายฉาก
คาชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนเขยี นเลา่ เร่อื งสนั้ ๆ โดยใช้รปู ภาพที่กาํ หนดใหเ้ ป็นฉากของเรอ่ื ง

ท่มี า : http://wanachaisol/blogspot.com
............................................................................................................................................................. ............
....................................................................................................................... ..................................................
............................................................................................................................. ............................................
................................................................................................................................................................. ........
........................................................................................................................... ..............................................
............................................................................................................................. ............................................
.................................................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
........................................................................................................................................................................ .
............................................................................................................................. ............................................

๓๑

แบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๙

ฉากเดน่ เนน้ ประทับใจ
คาช้ีแจง : ให้นักเรียนเขียนเล่าประสบการณ์การเดินทางหรือเรื่องที่ประทับใจเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว
พรอ้ มตดิ รปู ภาพประกอบ

.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
................................................................................................................................ .........................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
.................................................................................................................................... .....................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................

๓๒

บทสนทนาเตมิ เตม็ เรอื่ งสนั้

ความหมาย
บทสนทนา (Dialogue) คือถ้อยคําที่ตัวละครใช้พูดจาโต้ตอบกัน บทสนทนาอาจมีประโยชน์ต่อ

การเขียนเร่ืองสั้น เพราะช่วยทําให้เรื่องดําเนินคืบหน้าไปได้โดยผู้แต่งไม่ต้องอธิบายความให้ยืดยาว ช่วย
สะท้อนบคุ ลิกลกั ษณะเฉพาะตัวของตัวละคร หรือช่วยสร้างบรรยากาศของเรื่องให้เป็นไปตามธรรมชาติ
และพรอ้ มกันน้ีกอ็ าจชว่ ยหลกี เลี่ยงความซาํ้ ซากของการบรรยายไปในตวั ดว้ ย

ทง้ั นบี้ ทสนทนาเป็นส่วนสําคญั ในการแสดงหรอื สื่อความหมาย สื่อความคิดของตัวละครให้ผู้อ่าน
ทราบ บทสนทนาท่ดี ีจะต้องมีความเหมาะสมกบั ตวั ละครและกลมกลืนไปกบั เรื่อง โดยสรปุ แล้วเหตุการณ์
ทว่ั โดยของบทสนทนาทําหน้าทีบ่ อกสง่ิ ตอ่ ไปน้ี

๑. บอกการดาํ เนนิ เรื่อง
๒. บอกนิสัยตวั ละคร
๓. บอกการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศของเรื่อง
๔. บอกความคดิ คติ ข้อคิด
๕. บอกการสอ่ื ความคิดของตวั ละครในเรอ่ื ง
๖. การสรา้ งความนา่ สมจริงและน่าอ่าน

วิธีการเขียนบทสนทนา
การเขยี นบทสนทนา คาํ พดู ของตวั ละครในเรอื่ งตอ้ งเป็นคําพูดท่ีเหมาะแก่สถานะของตัวละคร ซ่ึง

บทสนทนาในเรือ่ งสนั้ ควรมลี ักษณะ ดงั นี้
๑. บทสนทนามักจะอยใู่ นเครอ่ื งหมายอญั ประกาศ “...” หรือเคร่ืองหมายคําพูด และคํา

สนทนาของตัวละครแตล่ ะตวั มักจะแยกกนั คนละบรรทัด แตบ่ างคนอาจเขยี นบทสนทนาโดยไม่แยกบรรทัด
และไม่มเี คร่อื งหมายคาํ พดู ไวก้ ํากับบทสนทนาของตวั ละครกไ็ ด้

๒. บทสนทนาทีด่ ีจะต้องมีความสมจรงิ กับลกั ษณะนิสัยของตวั ละครโดยผ่านการใช้สํานวน
ภาษาพดู ทม่ี คี วามสมจริง ตามบทบาทของตัวละคร และบทสนทนาอาจบอกอารมณ์ บคุ ลิก วฒุ ิภาวะด้าน
ต่างๆของตัวละครได้ เช่น ถ้าตัวละครเป็นผู้ดี มีการศึกษา ก็ควรใช้คําท่ีสุภาพ ถ้าตัวละครเป็นชาวบ้าน
การศึกษานอ้ ย อยใู่ นสถานะและสังคมทไ่ี มด่ ี กใ็ ช้ภาษาท่ีเปน็ ภาษาตลาดไดต้ ามความเหมาะสมของเรอ่ื ง

๓๓

๓. การเขยี นคําบรรยายประกอบการสนทนานนั้ ควรเขยี นใหพ้ อเหมาะสม ไม่จําเป็นต้อง
เขียนบรรยายทกุ ถอ้ ยคาํ ทีต่ ัวละครพดู ควรเปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้ใช้จินตนาการของตัวเองบ้างตามสมควร
ไม่ควรเขียนคาํ บรรยายต้นื ๆ ซง่ึ รไู้ ด้เข้าใจดอี ย่แู ลว้

๔. การเขียนบทสนทนาต้องมีความมุ่งหมายและสารประโยชน์ บทสนทนาแต่ละวรรคแต่
ละตอน ต้องมีจดุ มุง่ หมายว่า ให้ตัวละครสนทนาในเรื่องใด เพ่ืออะไร มีเน้ือหาที่เป็นสารประโยชน์สะท้อน
ความคิดของผู้เขียน หรือความคิดของเรื่อง โดยอาศัยตัวละครของเร่ือง อย่าสร้างบทสนทนาโดยขาด
จดุ มงุ่ หมายและสารประโยชน์ เพราะจะทําให้เรอื่ งนา่ เบื่อ

๕. ช่วงการดําเนินเรื่อง คือบทสนทนาของตัวละครจะช่วยให้ผู้อ่านรู้ว่าตัวละครจะทํา
อย่างไร และเหตกุ ารณจ์ ะดําเนนิ อย่างไร โดยไม่ต้องบอกด้วยการบรรยายตรงๆในฉาก ช่วยให้การดําเนิน
เรอ่ื งกระชับไมย่ ืดยาด เป็นวธิ กี ารดําเนินเร่ืองที่แนบเนียนไม่สรา้ งความเบ่ือหน่ายใหผ้ ู้อา่ น

ประโยชนข์ องบทสนทนา
การเขยี นบทสนทนาท่ีดีจะทําให้ผู้อ่านได้รับความเพลิดเพลินในการอ่านเร่ืองสั้น นอกจากนี้แล้ว

บทสนทนายังมีประโยชนต์ อ่ การเขยี นเร่ืองส้ัน ดังนี้
๑. ชว่ ยในการดาํ เนินเร่ืองแทนการบรรยายของผเู้ ขยี น
๒. ช่วยให้ผ้อู า่ นรู้จักตัวละคร ทั้งบุคลิก ท่าทาง ลักษณะนิสัยใจคอ โดยที่ผู้เขียนไม่ต้อง

เสยี เวลาเขยี นบรรยาย
๓. ไม่กอ่ ให้เกิดความซํ้าซาก คือมีการเปลี่ยนแปลงเป็นบทสนทนาสลับกับการบรรยาย

หรอื การพรรณนา
๔. ชว่ ยเพม่ิ ความสมจริง ซงึ่ บทสนทนาจะมลี กั ษณะเหมือนคําพูดในชีวิตประจําวัน จะทํา

ใหผ้ อู้ า่ นร้สู ึกใกล้ชิดกบั ตัวละคร เข้าใจในลักษณะความสมจรงิ มากกวา่ การบรรยายของผเู้ ขียน
๕. ชวนตดิ ตามและทาํ ให้เร่ืองนา่ อา่ น นา่ สนใจมีชวี ติ ชีวามากย่งิ ข้นึ โดยเฉพาะบทสนทนา

ท่ีผู้เขียนบรรจงสร้างอย่างคมคาย เร้าอารมณ์ หรือเหมาะสมสอดคล้องกับบทบาทและอารมณ์ ของตัว
ละครในตอนนั้นๆ

๓๔

ตวั อย่างบทสนทนา
ทุกคนต่างรอล้นุ ว่าเสียงนน้ั ไปทาํ ร้ายใครเหมือนกบั ท่ีเคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่ หลายคนเร่ิมวิตก

กังวลเพราะกลวั จะโดนญาตพิ ่นี อ้ งผองเพอ่ื นของตนเอง ไม่เว้นแมแ้ ต่ผมเองก็ตน่ื ตระหนก ไมแ่ พช้ าวบา้ นชาว
ช่องคนอื่นๆอยู่เหมือนกนั เพราะกลัววา่ เสียงๆน้นั จะไปทาํ รา้ ยใครอกี

“ไม่เหน็ มอี ะไรเลย เห็นแตค่ วนั ไฟท่ีกําลงั จะดับ” ชายผู้นนั้ ว่งิ กลบั มาบอกชาวบ้านทีพ่ รอ้ มจะรอฟัง
ข่าวร้าย

“นา่ จะเป็นเสยี งขู่อะไรบางอยา่ งหรือเปล่า...?” ชาวบา้ นคนหนงึ่ ออกความเหน็ เชงิ คําถาม
“มันดงั มาจากบนฟา้ น่ะ เมือ่ ตะกเ้ี หน็ รถยนตว์ ิง่ ผ่านมาหน้าตาไมค่ ุ้นเลย” ชาวบ้านอีกคนเริ่มออก
ความเห็นบ้าง
“ไม่น่าจะเกี่ยวนะ่ เสยี งมันดงั มาจากทางนัน้ หน่ะ” ชาวบ้านอีกคนชไี้ ปยงั ต้นเสยี งดว้ ยความมั่นใจ

เสียงของหัวใจ, สะอดู ี ดอื เระ๊ จากหนงั สือดอกไมบ้ านทบ่ี า้ นใต้

ความหงดุ หงดิ ที่ฉายออกมาผ่านใบหน้าของฮาซันกลางแดดกล้า เม่ือตอนอยู่ในแถวได้สะบัดออก
กลายเปล่ียนเปน็ รอยย้มิ มมุ ปากเลก็ ๆ ท่ีฉายออกมาใหห้ ้องสีเ่ หล่ียม เพราะฮาซันคือผรู้ ว่ มชมเพอื่ นศลิ ปินตัว
นอ้ ยทีร่ ้องเพลงหนา้ หอ้ งอยา่ งเบิกบานใจนั่นเอง

“เฮ้ มึงๆ มึงนามอ กาปอ?” (เธอๆ เธอชอ่ื อะไรเหรอ)
“ฮะ !!”
“มงึ ๆ มงึ ลา่ นามอกาปอ?” (เธอๆ เธอน่ันแหละชื่ออะไรเหรอ)
“อมึ่ อํ่า... เราพูดภาษานี้ไม่ไดอ้ ะ เราพูดภาษาไทยอะ”
“อา้ ว!! เธอมาจากไหนเหรอ?”
“บ้านเราอยู่พงั งาน่ะ”
“เฮ้ย จรงิ เหรอ มาไกลเลยนะเนย้ี ะ”
“อืมๆ ใช่ๆ เออ ถามไรหน่อยดิ ทีน่ ายถามเมอ่ื กี้นะ่ อะไรกาปอๆ นัน่ แน่ะ แปลว่าอะไรเหรอ”
“ฮ่าๆ กาปอแปลวา่ อะไร”
“เอ่อ เราถามวา่ เมอ่ื กอ้ี ะ นายถามเราวา่ อะไรเหรอ”
“ออ่ ฮ่าๆๆ นามอกาปอ แปลว่าชอ่ื อะไร”
“อ่อๆ เข้าใจละ่ นามอ แปลวา่ ชื่อใชไ่ หม กาปอ แปลวา่ อะไร ใช่ป่าว”
“อมื ยอๆ”
“อะไรคือยอเหรอ”
“ออ่ มันเปน็ คาํ ท่ีใชต้ อบเวลาจะบอกว่า ใชค่ รับ อะไรประมาณนี้”
“ออ่ ยอๆ ฮ่าๆๆๆ ถกู ต้องปา่ ว”
“เวรกี่ ูด้ ฮา่ ๆๆๆ”

โลกใบใหมข่ องฮาซนั เด็กน้อยต่างถิ่น, ธรี ะวฒุ ิ ติระนนท์ จากหนงั สอื เย็นลมใต้

๓๕

ตัวอยา่ งเรื่องส้นั
เรื่อง บงั
รังโรจน์ ปลายเสรี

“บังขายมากีป่ แี ลว้ ”
หนมุ่ สงู ใหญ่หันมาตอบด้วยเสยี งทมุ้ ๆ ชดั ถอ้ ยชดั คาํ
“สามปีแลว้ ”
เด็กหนมุ่ ตัวเลก็ บางกวา่ ครง่ึ ตอ่ ครง่ึ ยงั หยิบถ่ัวบนอานหลังรถจกั รยานกนิ ไมห่ ยุด
“โห ถงึ วา่ พูดไทยชัดแจว๋ เลย”
ปากเขายังเคี้ยวตุ้ย ๆ มือยังหยิบถ่ัวต่างชนิดใส่ปากไม่หยุด หนุ่มต่างชาติมองดูว่าท่ีลูกค้าด้วย
สายตาเฉยชา
“นํ้ามะนาวแท้หรอื นํา้ มะนาวขวดเน่ยี ”
เจ้าของธรุ กจิ ถว่ั ทอดเพอ่ื คนกลางคืนยกขวดนํ้ามะนาวมาไว้ในองุ้ มือแล้วตอบ
“ทกุ อย่างบังทาํ กับมอื นะ ทุกอย่าง”
“เยยี่ ม”
นา้ํ เสยี งอ้อแอจ้ ากอีกฝ่ายเป็นทํานองชน่ื ชม
“ทาํ ไมบงั ไมข่ ายโรตี แขกชอบขายโรตไี มใ่ ชเ่ หรอ”
คําถามน้จี ากคนเมาเหลา้ ทาํ เอาบงั นง่ิ พลันคลายมอื ทก่ี ําขวดนํา้ มะนาวไวแ้ นน่
“เคยชายโรตหี นงึ่ ปี ขายดมี ากแลว้ กห็ ยดุ ไปปหี นงึ่ ”
บังปลอ่ ยขวดน้าํ มะนาวลงตรงชอ่ งของมนั
“บงั กลบั สลัมบอมเบยเ์ หรอ”
หนมุ่ ไทยหัวเราะสนุกสนานเกินเลยกับเรื่องราวของพ่อค้าต่างชาติ ซํ้ายกถุงถ่ัวขึ้นมาถือไว้จกกิน
อย่างเพลดิ เพลิน
“เปล่า บังติดคกุ เมอื งไทยปหี น่ึง เพราะบังชกคนทช่ี กั ดาบ เอาเปรียบ ซือ้ โรตีแลว้ ไมจ่ า่ ยเงนิ ”
“เดก็ นัน่ จมกู และซี่โครงหัก”
เดก็ หนมุ่ หยุดหัวเราะใสห่ นา้ อดตี นกั โทษต่างด้าว
“ไมเ่ ปน็ ไรนะ ไม่เป็นไร คนไทยดี ๆ มเี ยอะแยะ”
บังยิ้มมุมปากขณะเอามอื หยาบใหญบ่ รรจงพบั ปากถงุ ถ่วั ทหี่ น่มุ ไทยเพิ่งวางลง
เสยี งทเี่ คยกลั้วหวั เราะบัดนเ้ี รม่ิ ส่นั และแหบแหง้
“บงั ผมเอาถว่ั นหี่ ้าสบิ บาท อรอ่ ยจริง ๆ ใสแ่ ต่พริกไม่ตอ้ งใสม่ ะนาวนะ มนั เปรยี้ ว”

๓๖

แบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๑๐

เติมเตม็ เรื่องราว

คาชีแ้ จง : ให้นักเรียนเขียนเตมิ บทสนทนาของเรือ่ งส้นั ทก่ี าํ หนดให้ตอ่ ไปนี้ ใหม้ คี วามสมบูรณ์ เหมาะสม
สอดคล้องกบั เนือ้ เรือ่ ง และตัวละคร

เร่ืองสนั้ ภาระคนที่ ๒
อศิ รา สุทธชิ ี

“ทําไมโง่อย่างน้ี เม่อื ไหรแ่ กจะทําถกู สกั ที ฉนั สอนไปหลายรอบแลว้ นะ” มรี ันพดู ดว้ ยน้ําเสียงดดุ ัน
“ก็บอกแล้วไงว่า แกทาํ ใหฉ้ นั ไปเลย จะไดไ้ มเ่ สียเวลา” นาอฟี ตอบกลบั แบบกวนๆ
“ไดไ้ งหละ ถา้ แกสอบตกอีก คณุ ครูกว็ า่ ฉนั สอนแกไม่ดนี ะสิ ทาํ ไมฉันตอ้ งมาค่กู บั แกดว้ ย”
“๑)...............................................................” นาอีฟกย็ งั กวนมรี ันตอ่ ไปเร่อื ยๆตามนสิ ัยของนาอีฟ
“ถา้ แกไมใ่ ห้อยากให้ครูจับคู่กับฉัน แกก็ตั้งใจเรียนสิ ถ้าเกรดดีขึ้น แกก็ได้เป็นผู้สอน ไม่ต้องเป็น
นกั เรยี นของฉนั ” มีรนั พดู จบ กบ็ น่ งึมงําต่อ
“เพราะโครงการเพื่อนสอนเพือ่ นแท้ ทําให้ฉนั ต้องสอนแกมาสามปีแลว้ เนี้ย ไมค่ ิดจะเปลีย่ นสถานะ
บา้ งหรือไง”
“แกน้ันแหละสอนไม่ดี ถา้ แกสอนดี ฉนั ก็สอบผ่านไปแล้ว”
“ทแี่ กสอบไม่ผ่าน เพราะแกน่ังเถียงฉันอยู่น้ีไง” บทสนทนาน้ีเร่ิมข้ึนทุกวันตอนพักเที่ยง แต่วันน้ี
ต่างไปจากวันอื่นๆ
“ถ้าฉันสอบผา่ นคราวน้ี ฉนั จะแกะสลักตกุ๊ ตาไม้ใหแ้ ก” นาอีฟพูดด้วยนาํ้ เสยี งมั่นใจวา่ ตวั เองตอ้ งทาํ
ได้แน่นอน
“ถามฉนั ยัง อยากได้หรือเปล่า ไมต่ ้องมวั แตพ่ ดู เรือ่ งไร้สาระเลย ทาํ ตอ่ ให้เสร็จ” นาอีฟก้มหนา้ จอ๋ ย
แล้วก็นง่ั ทาํ โจทยค์ ณิตที่มรี ันสอนตอ่ มรี ันกับนาอีฟจะทะเลาะกันเรื่องไร้สาระกันทุกวัน จนเพื่อนๆรําคาญ
แตต่ อนนี้ทุกคนชินไปกนั หมดแลว้
เชา้ วนั อังคาร
“เอา ฉันซื้อแซนวิชไกย่ องบาโลนา่ กับนมจืดเมจขิ องชอบให้แก” มีรันเงยหน้าขนึ้ มองนาอีฟหน้าตา
สงสยั
“ดีมาก แกทาํ ดกี ับฉนั ไว้ใหม้ ากอ่ะดแี ลว้ เพราะแกคอื ภาระคนที่ ๒ รองจากนอ้ งชายของฉนั ”
“แหม่ ถา้ ฉันไม่อยู่ แกจะรสู้ กึ ”
“รู้สกึ ...รสู้ ึกดี ฮา่ ฮา่ ฮ่า” นาอีฟนงั่ ลงตรงข้ามม้าน่ังตัวประจําของมีรัน ท่าทางงอนเล็กๆ มีรันกับ
นาอฟี พดู คุยหยอกล้อกันทกุ วนั บางวันมีรันชนะ บางวันนาอีฟชนะ พวกเขาเข้าขากันอยา่ งดี จนทําให้มรี นั
กบั นาอฟี เปน็ เหมือนเพ่ือนสนิทกนั

๓๗

ตอนเยน็ เวลา ๑๘.๓๐ นาที ณ ร้านอาหารตามส่ังแหง่ หน่งึ กลางเมอื งปัตตานี
“๒).......................................................” สายของมีรนั พดู อยา่ งนน้ั ถงึ แม้ว่าจะไดพ้ ดู ออกมาใหไ้ ด้ยิน
นาอฟี มาย้ิมทกั ทายตอบ ท่ามกลางผู้คนเนอื งแนน่ ซ่งึ ทั้งคู่อยู่ห่างกันประมาณ ๔ เมตร เป็นช่วงเวลาสั้นๆ
ท้ังคู่ไม่ได้ทักทายกนั เพราะนาอีฟกําลังจะก้าวขาขน้ึ รถจักรยานยนต์ที่แมข่ องเขาเปน็ คนขับออกจากร้านไป
บ๋ึม ! อรา้ ยๆๆๆ เสยี งกรดี ร้องดังข้นึ ทนั ที มรี นั สะดงุ้ อย่างแรงและรับรูไ้ ดแ้ รงสน่ั สะเทอื นของพนื้ ดนิ
จากน้ันหขู องเธอกด็ ับไปตรงหนา้ มรี ันเตม็ ไปด้วยควันไฟฟุง้ กระจายไปทัว่ อากาศ
“หมอบลงๆ”
เธอกลบั มาไดย้ นิ เสยี งอกี คร้ัง เสียงตะโกนนน้ั ดงั มาจากข้างหน้า มีรนั หนั ซา้ ย หนั ขวา
“เสียงใคร”
แล้วเธอกเ็ ห็นเงาเดก็ ผชู้ ายหวั เกรียนเดินโซซัดโซเซมา ลางๆมองไม่ถนัด นาอีฟกระโจนเข้าหามีรัน
แล้วพาตวั เธอหมอบลง มรี ันจบั ไหลน่ าอีฟและเขย่าตัวเขา
“ไหวไหมนาอฟี ”
มีรันตกใจสุดขีด ตัวนาอีฟเต็มไปด้วยเลือดสีแดงบนเส้ือนักเรียนขาว ชิ้นเน้ือติดตามเส้ือผ้า เธอ
พยายามจะหาบาดแผลท่เี ลอื ดไหลออกมา แต่จับตรงไหนนาอีฟก็เจบ็ ไปหมด เลอื ดไหลออกมาเร่ือยๆ มีรัน
ร้องไหห้ นักมาก เม่ือเห็นเพ่ือนของเธออาการแย่ มรี ันรอ้ งตะโกนสุดเสียง เพ่ือขอความช่วยเหลือจากคนอ่ืน
“๓)........................................................................................................................... ........................”
ไมม่ ีใครฟงั เสียงเธอ ทุกคนต่างพากันว่ิงหนีตายกันอลหม่าน รถพยาบาลคันแล้วคันเล่าก็ไม่มีใคร
ช่วยเพ่ือนของเธอสกั คน
“แม่ แม่” เสียงเรยี กแผว่ เบา มีรันกม้ ลงแนบหูฟังนาอฟี พดู
“แม่ฉนั แมฉ่ ันอยไู่ หน ฉันจะไปหาแม่”
มรี นั กวาดสายตามองไปรอบๆ มีแต่ผู้คนวงิ่ กันไปมา บ้างบาดเจ็บสาหสั บ้างลม้ กองลงกับพนื้ คราบ
เลือดลาดยาวไปเป็นทาง เธอพยายามมองหาแม่ของนาอีฟ แต่ไม่เห็น นาอีฟพยายามลุกข้ึน มีรันประคอง
นาอฟี อยา่ งทกุ ลักทเุ ล เธอจบั แขนซา้ ยนาอีฟพาดหวั ไหล่ แล้วพาเดนิ หาแม่ของเขา
บม่ึ ! ระเบิดดังอกี รอบ มรี นั และนาอฟี พากนั ก้มลงไปคนละทางมีรันหันไปมองนาอีฟและคลานไป
หาเขาอย่างช้าๆ มรี ันจับตวั เขายกขนึ้ เลก็ น้อยและให้เขานอนบนตกั เธอ มรี ันจับหน้านาอีฟใหม้ องเธอ
“เจ็บตรงไหน ตอบฉนั สิ”
นาอฟี เริม่ หายใจชา้ ลง และดวงตาของเขาเริม่ ปิด เธอตบหน้านาอีฟเบาๆ พร้อมกับร้องตะโกนว่า
“๔)................................................”
มีรันกระวนกระวายใจยิ่งนัก กลัวเขาหลับและจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว มีรันร้องตะโกนขอความ
ช่วยเหลืออีกครง้ั คราวนีม้ ีรถกระบะสกี รมเก่าคันหน่ึงขับมาจอดอย่างเร็ว และมีคน ๒ – ๓ คน ลงมาช่วย
ผบู้ าดเจบ็ ขึ้นหลงั รถกระบะ มรี ันจับขาลงุ คนหนึ่ง ท่กี าํ ลงั อุม้ คนเจบ็ ข้นึ รถอย่างรอ้ นรน
“๕)....................................................................................”

๓๘

คุณลงุ ก้มลงพยักหน้า แล้วรีบอุม้ คนทแี่ กอมุ้ อยูไ่ ปหลังรถ แลว้ ว่งิ กลับมาอุม้ นาอฟี ไปมรี ันลุกขนึ้ ตาม
“โอย้ ! มีรนั ล้มลง ทําไมฉนั ยืนไม่ได้”
มรี นั คดิ ในใจ และรู้สกึ เจ็บที่ขา และเย็นหลังขน้ึ มาทนั ที เธอมองขา เหน็ เลอื ดไหลลงพน้ื เธอถลกขา
กางเกงพละขึน้ เห็นเลือดออกมาเยอะ แผลเป็นรทู ี่ขาขวา เป็นแผลลกึ ขาเธอปดู บวมมาก เธอนัง่ กองอยู่กับ
พนื้ และจบั หลังของเธอ เสื้อพละขาดวิ่น ร้สู กึ แสบหลงั ไม่นอ้ ย เธอไดแ้ ต่มองตานาอฟี ไป มีรันตะโกนอีกคร้ัง
“๖)................................................................................................................... ”
มีรนั เพ่งิ รตู้ วั วา่ ขาของเธอโดนสะเกด็ ระเบดิ และมีเลือดออกจาํ นวนมาก เธอร้สู ึกเจบ็ ปวดขาข้ึนมา
ทนั ที เหมอื นกับมีลกู ตะก่วั รอ้ นกระตกุ ขึน้ มาจากขาของเธอใหไ้ ด้ เธอร้สู ึกตุบๆแผลยุบขึ้นลงอย่างแรง คุณ
ลุงกลับมาอมุ้ เธออกี ครงั้ และพาขึน้ หลงั รถกระบะไป
ว้วี ่อ...ว้ีว่อ...วีว้ อ่ เสียงรถพยาบาล รถตาํ รวจ ดงั ไปทั่วเมอื งปตั ตานี
“๗)..............................................................................................................................”
นํ้าเสียงของมีรัยสะอึกสะอ้ืนจนฟังไม่รู้เร่ือง บวกกับเสียงลมท่ีรถกระบะขับอย่างเร็ว เพ่ือไป
โรงพยาบาลให้เรว็ ท่ีสุด มรี นั ได้แต่พูดกับนาอฟี ใหเ้ ขาสู้และหา้ มหลบั เธอกลวั เหลือเกนิ วา่ เขาจะหลับไปเลย
นาอฟี ไมม่ แี รงแล้ว เขาไมไ่ ด้ยนิ ที่มีรนั พูด นาอฟี ยดั ตุก๊ ตาไม้แกะสลกั ทเ่ี ขาเคยสัญญาไว้ใส่ในมอื มีรัน
“๘)............................................................”
ถงึ แม้ว่าลมจะแรงและเสยี งรถจะดังแค่ไหน แตม่ ีรนั อา่ นปากของนาอฟี ออก มรี ันกม้ หน้าลงรอ้ งไห้
ฟูมฟาย
“แกต้องไมเ่ ป็นไรนะ แกตอ้ งซ้ือขนมให้ฉันทกุ วัน และแกต้องให้ฉันสอนแก จนกว่าแกจะสอบผา่ น”
มีรันพูดกับนาอีฟตลอดทาง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้รับคําสนทนากลับก็ตาม นาอีฟได้แต่มองมีรัน
ดวงตาของเขาเต็มไปดว้ ยคราบน้ําตาท่ไี หลไมห่ ยุด
“๙).........................................................”
พยาบาลแยกมรี นั ออกจากหอ้ งฉุกเฉนิ และพาเธอไปทาํ แผลหอ้ งปฐมพยาบาล มีรันไม่ได้ผ่าสะเก็ด
ระเบดิ ในคืนน้ัน เน่ืองจากต้องรักษาผูบ้ าดเจบ็ สาหัสก่อน เธอคอยนาอีฟหน้าห้องฉกุ เฉินพรอ้ มกับแม่ของเขา
ทไ่ี ดร้ ับความชว่ ยเหลือก่อนหนา้ ทจี่ ะมีระเบิดลกู ท่ีสอง ครอบครัวของเธอและเขา ทกุ คนกระวนกระวายใจไม่
มใี ครหลับลง จนกระทั่งเทยี่ งคืน พยาบาลเดินออกจากห้องฉกุ เฉินสหี นา้ ไม่ค่อยดนี ัก
“๑๐)............................................................................”
แมข่ องเขาเป็นลมหมดสติไป พรอ้ มกบั คราญครางท่ีดังข้ึน
“ฮอื ฮอื ฮอื ”
ทั้งครอบครัวนาอีฟและครอบมีรันต่างเศร้าสลดใจกับการจากไปของนาอีฟ มีรันกําตุ๊กตาไม้
เดก็ ผู้ชายไวแ้ นน่ เธอก้มลงดูมนั “ฉนั สอบผา่ นแลว้ เปน็ ข้อความท่ีอยหู่ ลังตกุ๊ ตาแกะสลักไมต้ ัวจ๋ิว”
“ฉนั รู้แกทาํ ได้”
มีรันเชอื่ มน่ั ในตัวนาอฟี มาตลอด เพียงแต่เธอไมไ่ ดพ้ ดู ออกไป

๓๔๐๙

แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๑๑

สนทนาตามภาพ
คาช้ีแจง : ให้นกั เรียนเขียนบทสนทนาสั้นๆใหส้ อดคล้องกบั รปู ภาพที่กําหนดให้ ตามจินตนาการของตนเอง

ท่ีมา : http://pocketonline.net/bord
....................................................................................................................................................................... ..
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................

๔๐

รอ้ ยเรยี งขดี เขยี นเปน็ เรอื่ งสนั้

ข้อแนะนาในการเขียนเรอ่ื งสั้น
การเขยี นเรือ่ งส้นั หากจะเขยี นให้ดนี ัน้ เขยี นยาก สําหรับผู้ท่ีกําลังฝึกฝนและมีความใฝ่ฝันท่ีจะเป็น

นักเขียนเรือ่ งสั้นแล้ว การเขียนเร่ืองสั้นดีๆสักเร่ืองน้ันไม่ใช่เรื่องท่ีเกินความสามารถแต่อย่างใด เพียงแต่ผู้
ฝึกฝนควรมีการเตรียมตัวในเร่อื งตอ่ ไปนี้

๑. ต้องเป็นคนช่างสงั เกต จดจําเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าสิ่งที่ผ่านเข้ามา
นนั้ จะเป็นประสบการณ์ตรงหรอื ประสบการณอ์ อ้ มกต็ าม แม้แตเ่ หตกุ ารณใ์ นชวี ิตประจําวัน ก็ควรสังเกตให้
รอบคอบ เพราะบางคร้งั เร่อื งหรอื เหตุการณ์ท่ีมองเพยี งผวิ เผนิ อาจดูเหมือนไมม่ อี ะไร ดเู ปน็ เรื่องธรรมดา แต่
หากรจู้ ักสังเกต ใคร่ครวญหานยั ท่ีเป็นจดุ น่าสนใจ ชวนใหค้ ิด ติดตามศึกษา ก็สามารถนํากลับมาเป็นข้อมูล
ในการเขียนได้ แตใ่ นทางตรงกันขา้ ม หากเราไมร่ ูจ้ ักสังเกตเหตุการณน์ ้ันก็จะหมดคุณคา่ ไปทันที

๒. ต้องมคี วามคดิ ความรู้เป็นพ้ืนฐานสาํ คัญของความคดิ ทเี่ ป็นเหตุเป็นผล อันจะนํามาใช้
ในการเขียน หากขาดความรู้ แมจ้ ะคดิ ก็เปน็ เพียงความคิดอย่างเพอ้ ฝัน และอาจทําให้เกิดผลร้ายกับตัวเอง
ได้ ดังเช่นคาํ ของนักปราชญท์ ี่ว่า “เรยี นแต่ไม่คดิ กส็ ญู เปลา่ คดิ แตไ่ มเ่ รียนกอ็ นั ตราย”

๓. ต้องมีจินตนาการ จินตนาการอันหมายถึงการสร้างภาพขึ้นในใจ ดังน้ันผู้ฝึกฝนการ
เขียนจะต้องฝึกใชจ้ นิ ตนาการใหม้ าก จนสามารถทําได้คล่องแคล่ว สามารถปะติดปะต่อภาพในใจได้อย่าง
สมจรงิ สมจงั อนั จะส่งผลให้เร่อื งที่เขยี นมีนาํ้ หนกั และเหตผุ ลพอเพยี ง

๔. ต้องมีความสามารถในการใช้ภาษา ผู้ฝึกฝนการเขียนต้องมีความรู้พื้นฐานทางภาษา
เปน็ อยา่ งดี ตั้งแต่การเลอื กใชถ้ อ้ ยคํา วลี ประโยค การจดั ยอ่ หน้า รู้จกั ใชถ้ อ้ ยคําใหถ้ ูกตามกาลเทศะ โดย
ไมใ่ ช้ถอ้ ยคาํ รุม่ รา่ มเกนิ ความจําเป็น หรือใช้ถ้อยคาํ สนั้ ห้วนจนไมส่ ามารถสือ่ ความได้

๕. ต้องมีประสบการณ์ อ่านมาก ฟังมาก เพราะเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะได้รับแต่
ประสบการณ์ตรงเพียงอย่างเดียว ส่ิงท่ีเราไม่เคยประสบด้วยตัวเองน้ัน ก็อาจแสวงหาได้ในทางอ้อม เช่น
การอา่ นหนงั สอื และการรับฟังจากผรู้ ู้ เป็นต้น

๖. ต้องศกึ ษางานเขยี นของผอู้ ื่น เพือ่ เรยี นรกู้ ลวิธี ศลิ ปะ และลลี าการเขยี น เพอ่ื นาํ มาปรับ
ใช้ในการงานเขียนของตนเอง แต่ไม่ใช่การลอกเลยี น

๗. ต้องฝกึ เขยี นอย่างสมํ่าเสมอ เพอ่ื สร้างความชาํ นาญให้เกดิ ข้ึนแก่ตนเอง ความสมํา่ เสมอ
เป็นส่งิ สําคัญสําหรบั การประกอบศลิ ปะทุกแขนง เพราะในระหว่างการฝึกฝน เราได้เรียนรู้ ทดลอง แก้ไข
ท้งั ยงั ชว่ ยให้เกิดความจดั เจน โดยควรระลึกอยเู่ สมอวา่ “ศลิ ปะการเขยี นก็คอื เขยี น” เพราะ “การเขียนเรียน
ไดด้ ้วยการเขียน”

๔๑

แต่สาํ หรบั ผ้ทู พ่ี อจะเขยี นเรื่องสั้นไดบ้ า้ งแลว้ กค็ วรคํานึงถึงขอ้ แนะนาํ ในการเขยี นเร่อื งส้ัน ดังจะได้
นาํ เสนอตอ่ ไปนี้

๑. อย่าเริ่มเร่อื งอึดอาด
๒. อย่าหนว่ งเรือ่ งจนน่าเบือ่ หน่าย ควรจบเร่อื งเมือ่ ถงึ เวลาจบ
๓. อยา่ ยดั เยียดใหผ้ อู้ ่านรบั แนวคิดหรอื ปรัชญาดว้ ยการบรรยายหรอื เทศนาโวหาร ควรให้
ผู้อ่านคน้ พบจากโครงเร่ืองและการกระทาํ ของตัวละครเปน็ หลกั
๔. อย่าดถู กู ผอู้ า่ น
๕. อยา่ บังคบั ให้ตนเองเขยี นตามเค้าโครงเดิมหรือแนวคดิ ท่ีซ้าํ ซาก
๖. อยา่ วาดภาพท่ีกว้างเกนิ ไป ควรเลอื กเฉพาะแง่มมุ ที่น่าสนใจและกระทบใจผอู้ ่าน
๗. หลกี เล่ยี งการเขียนในส่ิงท่ีผู้เขียนไมร่ ้จู รงิ ควรศกึ ษาขอ้ มลู กอ่ นเขยี น
๘. หาเร่ืองที่พบเจอบอ่ ยๆในชีวติ ประจาํ วนั มาแตง่ เตมิ เปน็ เร่อื งราวที่น่าสนใจ
๙. รูจ้ กั เลือกใชถ้ ้อยคาํ ที่หลากหลาย ไมซ่ ้าํ ซาก เพราะจะชวนให้ผู้อา่ นเกิดความเบอ่ื หน่าย
๑๐. ควรทําต้นฉบบั ให้สะอาด อา่ นง่ายและเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย

การต้ังชื่อเร่อื ง
ชือ่ เร่อื งเปรยี บเสมอื นเป็นหน้าตาของเรอ่ื ง โดยทั่วไปแลว้ ชอื่ เรื่องมกั จะมาจากแก่นเร่ืองหรอื แนวคิด

สาํ คญั ของเรื่อง แตจ่ ากประสบการณข์ องนกั เขยี นหลายทา่ นพบว่า การตั้งชือ่ เรอื งเป็นงานทีต่ ้องใช้ความคิด
ไม่นอ้ ยเลยทเี ดยี ว เพราะกวา่ จะตง้ั ช่ือเรอื่ งใหเ้ ป็นทน่ี ่าพอใจและสอดคล้องกบั แก่นเรือ่ งนั้นเปน็ งานที่ยากยิ่ง
ดังนัน้ จงึ ขอสรุปแนวหรือวิธีการต้ังช่อื เรื่องดังตอ่ ไปน้ี

๑. ใช้ตัวละครสําคัญเป็นช่ือเรื่อง เช่น หมาตํารวจ, มอม (ชื่อหมา) ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์
ปราโมช, ปู่บุญ ของ ก.สุรางคนางค์, ราชินีบอด ของ สุวัฒน์ วรดิลก, ฝาติมะ (ช่ือเด็กหญิงมุสลิม) ของ
สมใจ สมคดิ , ลงุ เปล่ียน (ชื่อคนชรา) ของ วิม อิทธิกุล, แอ๋ว ผู้บริสุทธ์ิ ของ เสนีย์ เสาวพงศ์, ซาเกาะ
(ชื่อววั ชน) ของ มนัส จรรยงค์

๒. ใช้สถานการณ์หรือเหตุการณ์สําคัญเป็นช่ือเรื่อง เช่น ลมตะวันตกในฤดูปลอดมรสุม
ของ หญา้ หนวดฤษ,ี ใครฆ่าพระเจา้ กรุงธน ของ หลวงวิจิตรวาทการ, คล่ืนหัวเด่ิง ของ พนม นันทพฤกษ์,
สะพานขาด ของ กนกพงศ์ สมสมพันธุ์

๓. ใช้แนวคิดสําคญั ของเร่ืองเป็นช่ือเรอื่ ง เช่น ตณั หา ๒๔ ช่ัวโมง ของ รัชศักด์ิ จิรวัฒน์,
ผิดผี ของ นรพัลลภ ประณทุ นรพาล, แด่ ผ้ทู ่ียังอยู่ ของ ว.วิพุธ, ชัยชนะ ของ ศรีบูรพา, กฎเหล็กข้อท่ีห้า
ของ ประชาคม ลุนาชยั

๔๒

๔. ใชส้ ถานท่ีสําคญั ของเร่ืองเป็นช่ือเรื่อง เช่น ประตูชุมพล ของ มัชฌันติก, ตลาดโต้รุ้ง
ของ นน รัตนคุปต์, กรุงเทพฯ ๑๙๘๒ ของอดุล เปรมบญุ , สนี ํ้าตาลท่ฝี ง่ั คลองแสนแสบ ของวิทยา นาบํารุง

๕. ใช้คํากะทัดรดั คมคายเป็นชื่อเร่อื ง เชน่ ครีบหัก ของ ประภัสสร เสวิกุล, ตัวจริง ของ
ประภาส ชลศรานนท์

๖. ใชล้ กั ษณะของเรอ่ื งท่บี อกไว้ชดั เจนเปน็ ชือ่ เรื่อง เชน่ เมืองใต้น้ํา ของ สุวัฒน์ วรดิลก,
คนอยูว่ ัด ของ ไมตรี ลิมปิชาติ

๗. ต้ังชื่อให้ผู้อ่านงงความหมาย เช่น มือกายสิทธ์ิและตีนปีศาจ ของ ลาวคําหอม, เสียง
กระซิบของซันฏอน ของ ปราชญ์ วิปลาส

๘. ใช้ชอื่ ยาวๆให้นา่ ทง่ึ เชน่ ผูท้ ีอ่ ่านบทกวีช้าท่สี ุดในโลก ของ ฟา้ พูลวรลักษณ์, หญงิ สาว
นักขายขนมปงั ของ วงศ์ทะนง ชัยณรงคส์ ิงห์, สขุ สนั ตว์ นั เกิดสุริยจกั รวาล ของ ประภาส ชลศรานนท์

เมือ่ ศกึ ษาการเขยี นเรอื่ งส้ันจนเข้าใจแลว้ ส่งิ ตอ่ มาคือต้องลงมือเขียน การลงมือเขียนก็จําเป็นต้อง
เลือกแนวให้เด่นชดั ตามความถนดั ในการเขียน ความชอบ หรืออยากเขียน เท่านี้ก็เป็นพื้นฐานในการเริ่ม
เขียนได้แลว้ ส่ิงตอ่ มาคอื การกา้ วสเู่ สน้ ทางนักเขยี นโดยสมบรณู ์ ซึ่งสิง่ ทนี่ ักเขียนต้องมคี อื

๑. เชื่อม่นั ในตวั เอง
ความเช่ือมั่นในตนเองน้ันเป็นสิ่งสําคัญ ที่จะช่วยให้เรากล้าที่จะนําเสนองานของตัวเอง
กอ่ นอ่ืนอาจเร่ิมจากการให้เพ่อื น หรอื คนร้จู ักอ่านผูท้ ี่มคี วามรใู้ นด้านงานเขียน แลว้ จงึ เอางานทตี่ วั เองเขยี น
ไปเสนอตามสาํ นกั พิมพ์ตา่ งๆ อยา่ กลัวที่จะปฏิเสธ ถา้ ยังไม่เคยลองดกู ็ ลองดูเถอะ เพยี งแค่เช่ือมั่นในผลงาน
ของตวั เองหรอื คิดวา่ มนั ยงั ไม่ดีพอ ถา้ คิดวา่ ยงั กร็ บี ปรบั ปรงุ ใหมใ่ หด้ ยี ่งิ ขึ้น แล้วเสนองาน บางทีเราอาจพบใน
จุดทบี่ กพรอ่ งของเราก็ได้ แลว้ มันย่ิงจะทําใหเ้ ราพฒั นาตัวเองใหเ้ ร็วและดยี ง่ิ ข้นึ ไป
๒. ความตง้ั ใจ
ความต้ังใจอาจบวกด้วยความชอบย่ิงมีพลังมากขึ้น งานเขียนจะต้องตั้งใจจริงไม่ย่อท้อ
งา่ ยๆเพยี งเพราะการถูกปฏิเสธจากสาํ นกั พิมพ์ “ความพยายามอยู่ท่ีไหน ความสําเร็จอยู่ที่น่ัน” คติน้ีใช้ได้
จริงกับนักเขียน เพียงแค่แสดงความต้ังใจจริงลงไปในผลงาน อย่างพิถีพิถัน และความรักในงานเขียนไม่
ทํางานลวกๆ หรอื พอผ่านๆ ความตงั้ ใจเป็นสงิ่ หนึง่ ทจี ําเปน็ ต่อการเปน็ นักเขยี น
๓. การพฒั นาตนเองอยเู่ สมอ
เป็นส่งิ ทีค่ นทํางานเขยี นทกุ ๆดา้ น จะตอ้ งมแี ม้วา่ จะเป็นนกั เขียนหน้าใหม่ แต่คณุ ต้องกา้ วสู่
วงการนักเขียนมืออาชีพอยู่ดีการพัฒนาฝีมือเสมอๆเป็นส่ิงหน่ึงที่ต้องทําเป็นประจํา เพ่ือให้ได้งานที่มี
คณุ ภาพและไม่ซาํ้ ซาก น่าเบ่ือ และค้นพบตัวเอง เทคนิค ใหม่ๆ แสดงถึงผู้เป็นมืออาชีพของการทํางานทุก
วงการและเพิม่ คุณภาพของงานและตวั คณุ เอง ส่คู วามสําเรจ็ ในระดบั ทสี่ ูงๆยงิ่ ข้ึนอกี

๔๓

ตวั อยา่ งเร่อื งส้ัน
เรอื่ ง พลโลกยุคสดุ ทา้ ย
สมใจ สมคดิ

“หอมกลิ่นอะไรนแ่ี ม”่ เขาถามขึ้นเมอื่ เปดิ ประตเู ข้าไปในบ้าน
“จมกู ดจี รงิ นะพอ่ ลองทายดูซิวา่ กลิน่ อะไร” หล่อนตอบขณะเดนิ ออกมาจากในครวั
“ใครจะไปตรสั รลู้ ะ่ ” เขาพดู ห้วนๆ
“แหม พ่อก็ ทาํ เปน็ อารมณ์เสียอกี แลว้ ดื่มน้าํ กอ่ นเถอะ” หลอ่ นส่งแกว้ นา้ํ เย็น เขารับมาถือไว้แล้ว
นงั่ ลงที่โซฟา ทําจมูกยน่ ๆเหมอื นตรวจสอบกลิน่
“พอ่ ถามว่ากลิน่ อะไร”
“กก็ ล่นิ ยาฉดี แมลงสาบไง รุน่ ใหมล่ า่ สดุ เลย” หล่อนตอบอยา่ งมน่ั ใจในสรรพคณุ ของสนิ คา้
“พ่อเคยพดู กี่ครง้ั กี่หนแลว้ ว่ามนั อนั ตราย แม่เองก็รู้อยู่แก่ใจว่ายาฆ่าแมลงมันอันตรายแค่ไหน มัน
ฆ่าสัตวเ์ ล็กๆตายได้ มนั ก็สามารถฆ่าสตั ว์ใหญๆ่ อย่างคนตายไดเ้ หมอื นกัน สกั แตว่ ่ามันไมต่ ายทนั ตาเหน็ ”
เขาพูดเสยี งดังแล้วลุกขน้ึ เปิดตเู้ ย็น หยิบขวดเบยี ร์พร้อมแก้วแล้วกลับมานง่ั ท่ีเดมิ
“พอ่ ก.็ ..นานๆครง้ั น่ะ วันนลี้ กู ไมอ่ ยู่ ยายมารบั ไปนอนที่บา้ น จึงได้ตัดสินใจฉีด แม่เองก็ระมัดระวัง
อยู่แลว้ ” หล่อนพยายามพดู เสียงเบาเพ่อื เอาใจ เพราะหล่อนรู้ดีว่าเขาเหนด็ เหนอ่ื ยกับงานมาทง้ั วัน
“นานๆคร้งั กเ็ ถอะ พิษยามันสะสมในร่างกาย แมก่ เ็ หน็ แลว้ วา่ คนไข้ที่โรงพยาบาลมักมีโรคแปลกๆ
อย่เู รือ่ ย หลายโรคไม่มียารกั ษา แถมบางโรครกั ษาอยา่ งไรกไ็ มย่ อมหาย โรคมันพัฒนาเร็วกว่าหมอเสียอีก”
เขารนิ เบยี รใ์ สแ่ กว้ แลว้ ยกด่ืมรวดเดียวหมด ใชม้ อื ซา้ ยลูบฟองเบียรท์ ี่ติดหนวด
“พอ่ พูดอะไรกไ็ มร่ ู้ กงั วลอะไรนกั หนาเลา่ ”
“กนั ไว้ดีกวา่ แก้ แม่ก็รวู้ ่าประเทศกาํ ลงั พัฒนาอย่างเราก็มกั ตกเปน็ เหย่อื ของการโฆษณาอยูว่ ันยังค่ํา
ไม่วา่ วงการไหน แมเ่ ห็นตวั อย่างแลว้ ไม่ใชห่ รือ” ยาแก้ปวดทีก่ ินกนั เมือ่ กอ่ น ตอนนห้ี า้ มแล้ว บอกว่าอันตราย
ปล่อยให้กนิ กันไปเท่าไหร่ เกิดโรคเจ็บตายกันไปกีค่ นแล้ว ไอย้ าฉีดกันย่งุ ฉดี แมลงสาบน่ีก็เหมือนกนั เม่ือกอ่ น
รฐั ส่งเสรมิ ฉีดฟรี ฉดี น้ํายาติดไวเ้ ป็นคราบขาวตามฝาเรือน เพดาน ใต้ถุน เต็มไปทุกซอกทุกมุมบ้าน แล้วไง
ตอนนเ้ี พ่ิงห้ามวา่ มีสารตกคา้ งท่ที ําใหค้ นเป็นโรคมะเรง็ เราเคยคดิ ทบทวนกนั บ้างหรอื เปล่า เราชอบแก้กันที่
ปลายเหตุอย่เู ร่ือย ทกุ วันน้ีก็เถอะ ท้ังๆที่รู้กันว่าส่ิงนั้นสิ่งน้ีอันตรายก็ยังส่งเสริมให้มีการโฆษณาหลอกลวง
ชาวบ้านอยู่ได้ดิบดี ยาฆ่าแมลงย่ิงโฆษณาเปล่ียนแปลงอยู่บ่อย มีควัน ไม่มีควัน กลิ่นเหม็น กล่ินหอม
เยอะแยะ แม่เองเปน็ ถงึ พยาบาล
พอถูกสามีเอ่ยถึงอาชีพของหล่อน หล่อนถึงกับใจเต้นระทึกเขาไม่เคยว่าหล่อนเช่นน้ีมาก่อนเลย
เพยี งแต่ห้ามปรามไม่ก่คี ําก็นง่ิ เงียบไป ส่วนหล่อนจะทําตามหรือไม่เขาไม่ค่อยติดตามสนใจแต่วันน้ีเหมือน
เขามอี ารมณค์ า้ งกลบั มาระบายกบั หล่อน หล่อนคิดอยากจะโตต้ อบออกมาดงั ๆบา้ ง แตค่ ิดได้วา่ คนใจร้อนให้
เอาน้ําเยน็ เขา้ ลบู

๔๔๕

“ทีพ่ ่อพูดมาแมเ่ ห็นดว้ ยทุกส่ิง แตพ่ ่อลองคิดดูซิ แมลงสาบมนั ร้ายกาจขนาดไหน มุง้ หมอน เส้ือผ้า
ถุงเท้าของลูก ของพอ่ เองก็เทา่ ไหรแ่ ลว้ สบู่ในหอ้ งน้าํ กก็ นิ กระดาษทชิ ชกู ก็ นิ วันก่อนเอกสารสําคัญท่ีพ่อตั้ง
ไว้แค่คืนเดียวก็ถูกมันกัดเสียหาย หนูว่าร้ายยังไม่เท่า แล้วพ่อจะให้จัดการอย่างไร” หล่อนพูดเหมือนกับ
ระบายสงิ่ ทเี่ ก็บกดเอาไวน้ าน

เขานัง่ นิง่ เสมอื นถกู มนตส์ ะกด
“ไปอาบน้ําเถอะ” หล่อนพดู เพอ่ื หมายให้หยุดกังวล
“ลําบากจรงิ ๆสงั คมสมยั น้ี ไอส้ ่ิงทไ่ี ม่มอี ันตรายมนั กไ็ มใ่ ห้ทําออกมา” เขาพูดเหมือนบ่น พร้อมกับ
ถอดเส้ือออกพาดพนักพงิ
“เครอ่ื งปราบแบบไหนทีพ่ อ่ วา่ มนั ไม่อันตราย”
“พ่อไปเห็นท่ีบา้ นเพอื่ นมาวนั กอ่ น มนั เป็นเคร่อื งสง่ คลื่นเสยี ง พอเปิดแล้วในรัศมีท่ีคลื่นเสียงไปถึง
ยงุ แมลงสาบและหนูจะอยูไ่ ม่ได้บริเวณนั้น โดยเฉพาะยงุ แลว้ แก้วหูจะแตก”
“แลว้ คนไมห่ นวกหรู ึพ่อ” หล่อนชกั สนใจ
“ไมห่ รอก เปน็ เครื่องเสยี งพเิ ศษ หูคนจะไม่ได้ยนิ เสยี งคลื่นน้ี แตส่ ตั วเ์ ลก็ ๆพวกนัน้ มนั ไดย้ นิ ”
“ไอ้ราคามันไม่แพงหรอก แต่เขาห้ามทําขายแล้ว ก็ไอ้บริษัทที่ผลิตยาพวกน้ีแหละ ข่าวว่ามันซ้ือ
ลิขสิทธิ์เสียหลายล้าน ไม่ให้ผลิตออกขาย...นี่แหละสังคมเรา” เบียร์แก้วสุดท้าย ถูกกรอกลงคอจนหมด
เกลีย้ ง
“น่าเสยี ดายนะพอ่ นะ หนักใจจริงกับแมลงสาบน่ี มันช่างตายยากเหลือเกนิ มันเขา้ ไปอย่ใู นตู้เย็นได้
สบายๆ วันก่อนแม่โมโหจบั มนั ได้ยัดใสช่ ่องแช่แข็ง พอร่งุ เชา้ เปิดดูก็ยงั ไม่ตาย”
“เออจรงิ ซิ เพิ่งนกึ ได้ พ่อเคยอ่านพบในหนังสือพิมพเ์ ขาบอกว่าแมลงสาบอดอาหารได้เป็นเดือนๆ
มันจะเป็นพลโลกยคุ สดุ ทา้ ย เป็นสัตว์โลกชนิดเดียวทีจ่ ะอย่รู อดในโลกนี้ แมอ้ นาคตของโลกจะเลวรา้ ยเต็มไป
ดว้ ยน้ําเสีย ดนิ เสีย อากาศเสีย มลพิษเต็มไปท้ังโลก แม้แต่อาหารการกินก็ไม่มี เม่ือน้ันแหละสัตว์จําพวก
แมลงอยู่เป็นกลุ่มสุดท้าย และในบรรดาแมลงเปน็ แสนชนดิ ไอแ้ มลงสาบจะอยรู่ อดไดอ้ ย่างดีท่สี ุด”
“น่าจะจรงิ นะพ่อ อาบน้าํ เถอะ เด๋ยี วไดท้ านข้าว” หล่อนลุกข้ึนหยิบเส้ือของเขาไปใส่เครื่องซักผ้า
สว่ นสามเี ดินเข้าห้อง พอเขาเปิดประตูตูเ้ สอ้ื ผ้าออก เขาถงึ กบั ตกใจ
“แม่เร็วๆเขา้ เอายามาฉดี เร็ว แมลงสาบมนั ซ่อนอยใู่ นตู้เตม็ ไปหมด!”

ท่มี า : เขียนเร่ืองสน้ั ให้เปน็ เร่ืองสน้ั

๔๕

แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๑๒

คน้ คดิ ตั้งช่ือเรอื่ ง
คาชีแ้ จง : ให้นักเรยี นอา่ นเรือ่ งสนั้ ท่กี าํ หนดให้ พร้อมกับต้งั ชือ่ เรื่องใหม้ ีความสอดคล้องกัน

......................................................................................................................

รังโรจน์ ปลายเสรี
คําพูดสดุ ทา้ ยของคณุ พ่อกล่าวด้วยเสยี งเอือมๆว่าให้ “ไปตัดผมซะ” ณ ตอนนั้นผมพยกั หน้าสง่ ๆไป
ไม่ไดใ้ สใ่ จเทา่ ไหร่ แต่ใครจะไปคิดวา่ นน่ั จะเป็นครง้ั สุดทา้ ยท่ไี ดย้ นิ เสยี งของพอ่
คาํ สอนของอาจารยท์ า่ นหนง่ึ บอกใหเ้ ราร้องไห้โศกเศร้า เสียใจ งดงานรืน่ เรงิ ไวอ้ าลยั เป็นเวลา ๓ ปี
ตอบแทนสามปขี องทารกแรกเกิดทพี่ อ่ แมต่ อ้ งเลย้ี งดู ในขณะท่ีอาจารยอ์ ีกทา่ นหน่ึงผู้ยง่ิ ใหญไ่ มแ่ พ้กันบอกให้
เราหัวเราะ เฉกเช่นความตายเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนการเปล่ียนแปลงจากเด็กน้อยเป็นชายหนุ่ม จาก
เรีย่ วแรงพละกาํ ลังไปสูก่ ารผพุ งั เส่อื มสลาย แลว้ กลบั คืนสธู่ รรมชาตริ าวกับวัฎจกั รของฤดูกาล
นั่นคอื สง่ิ ทวี่ ิชาปรัชญา-โลกแห่งอดุ มคติสอนเราไว้ แต่ในความเปน็ จรงิ ทกุ อยา่ งรวดเร็วจนเราไม่ทัน
ได้รสู้ ึกตวั เสียด้วยซ้าํ จะร้องไหไ้ ปเพ่อื อะไร จะหัวเราะไปเพอ่ื อะไร เราตอบตวั เองไมไ่ ด้
ชุดผา่ ตดั สีเขียวของคณุ หมอได้ยินมาว่าช่วยให้สบายตาเวลาต้องมองของสีแดงๆ
นานๆ สว่ นสขี าวของผนังสื่อถึงความสะอาดซ่ึงมีความสําคัญเป็นอันดับหนึ่ง เพ่ือกําจัดเช้ือโรคท่ี
เปน็ ต้นตอของโรคภัยทัง้ หลาย แตไ่ ม่มใี ครรวู้ ่าเชือ้ โรคเกดิ มาทาํ ไม ผมเขา้ ใจว่าไมม่ ีใครคิดจะถามด้วยซํ้า ใน
แง่หนึ่งสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อาจทําหน้าท่ีป้องกันไม่ให้ประชากรล้นโลกก็ได้ นึกไปนึกมากลับการเป็นว่าถ้าไม่
อยากใหป้ ระชากรล้นโลก แลว้ เราจะเกิดมาทําไมกนั แน่ ตง้ั แต่ตอนเปน็ เด็กผมได้แต่น่ังรอคุณพ่อผู้เป็นหมอ
เดนิ เขา้ ออกหอ้ งผ่าตดั ดที ่มี ีเก้าอ้นี ่ังขา้ งหน้าแล้วก็มีทีวีให้ดู ชั้นล่างของโรงพยาบาลท่ีคุณพ่ออยู่มีร้านขาย
ขนม แต่ไม่วา่ ผมจะแอบซอ้ื ยงั ไง คณุ พ่อก็รู้ตัวทุกที พ่อช้ีให้ดูว่าคนอ้วนๆบนเตียงท่ีต้องผ่าตัดก็มีสาเหตุมา
จากขนมพวกนท้ี ัง้ นั้น วนั น้นั พ่อเตอื นผม ไมว่ ่าจะด้วยความหวังดีหรือเพราะเสียดายสตางค์ก็ตาม แต่วันนี้
กลบั เปน็ พ่อซะเองที่เข้าไปในหอ้ งผ่าตัดนน้ั และไม่กลบั ออกมา

ทีม่ า : http://www.storylog.co

๔๖

แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๑๓

กาหนดแกน่ กาหนดโครง

คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนกําหนดแก่นเรอื่ ง และโครงเร่อื งของเรอ่ื งสน้ั คนละ ๑ เรอ่ื ง

แก่นเรื่อง
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
...................................................................................................................................... ...................................
การเปิดเร่ือง
.........................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................... ...................................
............................................................................................................................. ............................................
การดาเนนิ เรื่อง
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
การปิดเรื่อง
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................


Click to View FlipBook Version