The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สรุป รวมเล่ม ศาสตร์พระราชา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by naytook88, 2022-07-07 00:49:46

สรุป รวมเล่ม ศาสตร์พระราชา

สรุป รวมเล่ม ศาสตร์พระราชา


คำนำ

กศน.อำเภอสำมงำ่ มจดั ทำโครงกำรพัฒนำผู้เรียน “เรยี นรศู้ ำสตร์พระรำชำ ส่กู ำรพัฒนำอยำ่ ง
ยงั่ ยนื ”เพื่อใหผ้ เู้ ข้ำร่วม มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกีย่ วกับศำสตร์พระรำชำ หลักกำรทรงงำน และหลกั ปรัชญำของ
เศรษฐกจิ พอเพียง เพอ่ื นำมำปรบั ใช้ในกำรดำรงชวี ติ ของตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน ตลอดจนอย่รู ว่ มกัยสงั คมได้อย่ำงมี
ควำมสุข

จำกผลกำรดำเนนิ โครงกำรได้พัฒนำผเู้ ข้ำอบรมใหบ้ รรลตุ ำมวัตถปุ ระสงค์ทตี่ ง้ั ไว้ ขอขอบคุณ
คณะทำงำนที่ให้คำปรึกษำ แนะนำในกำรดำเนินโครงกำรและกำรประเมินในคร้งั นี้ ทำให้กำรดำเนนิ งำนบรรลุผล
ตำมเปำ้ หมำยท่กี ำหนด ซ่งึ เกิดประโยชน์กับนักศึกษำ และผเู้ กีย่ วขอ้ งทุกท่ำนทใี่ ห้ข้อมูล สำหรับกำรดำเนนิ งำน
และเพ่ือพัฒนำงำนของให้มีควำมกำ้ วหนำ้ ต่อไป ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอสำมง่ำม
หวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำเอกสำรฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษำและผู้ท่ีสนใจ

ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสำมงำ่ ม

-1-



สำรบญั

เร่ือง หนำ้

คำนำ............................................................................................................................. .......ก
สำรบัญ................................................................................................................................. ข
บทที่ 1 บทนำ.....................................................................................................................1
บทที่ 2 กำรดำเนนิ งำน.......................................................................................................6
บทที่ 3 ผลกำรดำเนนิ งำน...................................................................................................8
ภำคผนวก

- โครงกำร
- กำหนดกำร
- คำส่ังปฏิบตั ิหน้ำที่
- บัญชีลงเวลำ
- แบบประเมินควำมพอใจ
- ภำพกิจกรรม
- คณะผูจ้ ดั ทำ

-2-

บทท่ี 1 บทนำ

1. ช่อื โครงกำร พฒั นำผู้เรียน “เรยี นรู้ศำสตร์พระรำชำ สกู่ ำรพัฒนำอยำ่ งย่ังยืน”
2. สอดคล้องกบั นโยบำยและจุดเน้นกำรดำเนนิ งำน/มำตรฐำน,ตัวชว้ี ัด กศน.

2.1 ยุทธศำสตรช์ ำติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579)
ยทุ ธศำสตร์ที่ 2 กำรสรำ้ งควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน ประกอบด้วย
ยุทธศำสตร์ท่ี 2.2 กำรพัฒนำภำคกำรผลติ และบริกำร เสรมิ สร้ำงฐำนกำรผลิตเขม้ แขง็ ยั่งยนื และ

ส่งเสรมิ เกษตรกรรำยยอ่ ยสู่เกษตรยงั่ ยนื เปน็ มิตรกับสิ่งแวดลอ้ ม
2.2 นโยบำยเร่งด่วนเพ่ือร่วมขับเคลื่อนยุทธศำสตรก์ ำรพัฒนำประเทศ
ยุทธศำสตร์ท่ี 2. ยุทธศำสตรด์ ำ้ นกำรพฒั นำกำลงั คน กำรวจิ ัย และนวตั กรรมเพ่อื สร้ำงขีดควำมสำมำรถ

ในกำรแข่งขนั ของประเทศ
2.1 ขับเคล่ือนกำรดำเนินงำนภำยใต้แผนพฒั นำกำรศกึ ษำระดับภำค:ใหด้ ำเนนิ กำรอย่ำงเป็นรูปธรรมมี

กำรดำเนินกำรเป็นรูปธรรม และบูรณำกำรกำรทำงำนร่วมกับ สอศ.ในกำรสร้ำงอำชีพ และพัฒนำอำชพี ของนักศึกษำ
เพอ่ื ใหน้ ักศึกษำเป็นผทู้ ี่มสี มรรถภำพในทักษะฝีมือในอำชีพ และทักษะทจี่ ำเป็นในกำรประกอบอำชีพ ทำงำนภำยใต้
แผนพัฒนำกำรศกึ ษำระดบั ภำค

2.3 มำตรฐำนกำรประกันคุณภำพ กศน.
มำตรฐำนท่ี 1 คุณภำพผู้เรียน/ผรู้ บั บรกิ ำร

2.4 กำรศึกษำตอ่ เนอ่ื ง
ตัวบ่งชี้ท่ี 1.6 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำชุมชนตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง
ตัวบง่ ช้ีที่ 1.7 ผู้เรยี นใชค้ วำมรจู้ ำกภูมปิ ัญญำและใชเ้ ทคโนโลยีได้อย่ำงเหมำะสม

2.5 กำรศึกษำตำมอัธยำศัย
ตัวบง่ ชท้ี ี่ 1.8 ผู้รับบริกำรไดร้ ับควำมร้แู ละ/หรือประสบกำรณ์จำกกำรเขำ้ รว่ มกิจกรรม/โครงกำร

3.สอดคลอ้ งกับปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
หลกั ปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพียง 3 หว่ ง
1. ควำมพอประมำณ หมำยถึง ควำมพอดที ี่ไม่น้อยเกนิ ไปและไม่มำกเกนิ ไป โดยไมเ่ บียดเบยี น

ตนเองและผู้อืน่ เชน่ กำรผลติ และกำรบริโภคท่ีอยใู่ นระดบั พอประมำณ
2. ควำมมีเหตุผล หมำยถึง กำรตัดสนิ ใจเกี่ยวกับระดับของควำมพอเพียงน้ันจะต้องเป็นไปอย่ำงมีเหตผุ ล โดย

พจิ ำรณำจำกเหตปุ จั จยั ทเี่ กย่ี วข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คำดวำ่ จะเกดิ ขึ้นจำกกำรกระทำน้นั ๆ อย่ำงรอบคอบ
3. กำรมภี มู ิคุม้ กันท่ีดีในตัว หมำยถงึ กำรเตรยี มตวั ให้พร้อมรับผลกระทบ และกำรเปลีย่ นแปลงด้ำน

ต่ำง ๆ ท่ีจะเกดิ ข้นึ โดยคำนงึ ถงึ ควำมเป็นไปได้ของสถำนกำรณต์ ่ำง ๆ ทคี่ ำดวำ่ จะเกดิ ข้นึ ในอนำคตทัง้ ใกล้และไกล
หลักปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพียง 2 เง่อื นไข
1. เงื่อนไข ควำมรู้ ประกอบด้วย ควำมรอบรู้เก่ียวกับวิชำกำรต่ำง ท่ีเกี่ยวข้องอย่ำงรอบด้ำน ควำม

รอบคอบท่ีจะนำควำมรู้เหล่ำน้ันมำพิจำรณำให้เชื่อมโยงกัน เพ่ือประกอบกำรวำงแผนและควำมระมัดระวังในข้ัน
ปฏิบตั ิ

2. เงอื่ นไข คุณธรรม ท่จี ะต้องเสริมสรำ้ งประกอบด้วย มคี วำมตระหนักในคุณธรรม มีควำมชอื่ สัตยส์ ุจรติ
และมคี วำมอดทน มคี วำมพำกเพียร ใช้สติปัญญำในกำรดำเนนิ ชวี ติ

-3-

4. หลกั กำรและเหตผุ ล
สบื เนื่องจำกผลกระทบจำกภำวะวิกฤติทำงเศรษฐกจิ ของประเทศ จงึ เกิดกำรวำ่ งงำนในสงั คมเมอื งใน

ส่วนสังคมชนบทได้รับผลกระทบทำงด้ำนเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อม ท้ังเกิดจำกกำรเลิกจ้ำงงำน แรงงำนท่ีต้อง
อพยพกลับสู่ภูมิลำเนำ แรงงำนไม่สอดคล้องกับควำมเป็นจริง ในด้ำนกำรดำรงชีวิตขำดควำมม่ันคง ในส่วนภำค
เกษตรกรรมได้รับผลกระทบจำกต้นทุนกำรผลิตสูง รำคำผลผลิตต่ำ รวมถึงควำมแปรปรวนของธรรมชำติ ที่ไม่
แน่นอนเหมือนสมัยเก่ำก่อน อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นทุกปี ปริมำณฝนท่ีลดน้อยลง ซึ่งส่งผลให้เกิดสภำวะแห้งแล้งท่ี
ยำวนำนขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตทำงกำรเกษตรไม่ไดค้ ุณภำพ โรคในพืชทีร่ ะบำดหนักข้ึนอนั เน่ืองมำจำกอำกำศที่ร้อนข้ึน
และกำรใช้สำรเคมีในภำคกำรเกษตรเช่น ปุ๋ยเคมีและยำฆ่ำแมลง ในปริมำณท่ีมำกข้ึนทุกวันและไม่มีแนวโน้มท่ีกำรใช้
ปุ๋ยเคมีและยำฆ่ำแมลงจะลดลงได้ รวมไปถึงกำรปลูกพืชเชิงเด่ียวเป็นเวลำนำนด้วยจำกปัญหำดังกล่ำวได้มีหลำย
หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องร่วมกันแก้ปัญหำ โดยได้น้อมนำเอำหลักเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ของ
พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวฯ มำเป็นแนวในกำรส่งเสริมและให้ควำมรู้แก่นักศึกษำทั่วไป และได้มีกำรส่งเสริมและ
จัดต้ังเป็นศูนย์เรียนรู้ในเร่ืองเศรษฐกิจพอเพียงในหลำยพื้นท่ี เพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงใน
ภำคทฤษฎีและภำคปฏิบัติ ณ จุดเดียว ทำให้ประชนเข้ำใจในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงอย่ำงถ่องแท้และสำมำรถนำ
กลับไปปฏิบตั ิได้ทันที แต่ศูนยเ์ รียนรู้ท่มี ีกำรจดั ต้งั ขนึ้ น้ันกระจำยอยู่ตำมพื้นทต่ี ่ำงๆ ที่ห่ำงไกลกนั ตอ้ งเดินทำงเป็น
ระยะทำงไกลบ้ำงใกล้บ้ำง แต่ในกำรเดินทำงแต่ละคร้ังนั้นจะตำมมำซึ่งค่ำใช้จ่ำยต่ำงๆ จึงส่งผลให้มีนักศึกษำจำนวน
ไมน่ อ้ ยที่ขำดโอกำสทจ่ี ะได้ศึกษำเรียนรู้ในเรื่องเศรษฐกจิ พอเพยี งอย่ำงครบวงจรจริง

กศน.อำเภอสำมง่ำมจึงได้จดั ทำโครงกำรพฒั นำผเู้ รียน “เรียนรู้ศำสตรพ์ ระรำชำ ส่กู ำรพัฒนำอยำ่ ง
ย่ังยืน” ข้ึน เพื่อเป็นกำรเพ่ิมศักยภำพใหก้ ับชมุ ชนให้มีควำมสำมำรถและทักษะ มีควำมรู้ควำมเข้ำใจในเรื่องเศรษฐกิจ
พอเพียงอย่ำงถ่องแท้ และสำมำรถสร้ำงงำน สร้ำงธุรกิจพัฒนำอำชีพเกษตรในระดับชุมชนตำมแนวเศรษฐกิจพอเพียง
ดำเนินกิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์ในท้องถ่ินซึ่งจะเช่ือมโยงกับกำรขับเคลื่อนและพัฒนำศักยภำพของคนและชุมชนตำม
แนวเศรษฐกิจพอเพียง ให้มีมำตรฐำนและเป็นรูปธรรมชัดเจนย่ิงขึ้น เช่นกำรจัดทำและพัฒนำรูปแบบกำรทำเกษตร
ชีวภำพ กิจกรรมเสริมรำยได้ต่ำงๆ ในระยะยำวยังสำมำรถช่วยเพ่ิมขีดควำมสำมำรถและศักยภำพในกำรจัดกำรด้ำน
สวสั ดกิ ำรชุมชนได้อยำ่ งยง่ั ยนื

5. วัตถปุ ระสงค์
5.1 เพ่ือใหผ้ ู้เข้ำรบั กำรอบรมเข้ำใจแนวทำงปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง นอ้ มนำไปสู่กำรปฏิบตั ิ โดยเน้นให้

มีทศั นคตกิ ำรทำงำนเพอื่ ประโยชนส์ ว่ นรวม
5.2 เพือ่ แลกเปลย่ี นเรียนรรู้ ่วมกันและเกดิ แนวคิดในกำรนำปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยุกตใ์ ชใ้ น

ชีวติ ประจำวนั ได้

6. กลุ่มเปำ้ หมำย

6.1 กลุ่มเปำ้ หมำยเชิงปรมิ ำณ
- นกั ศกึ ษำ กศน. อำเภอสำมง่ำม จำนวน 80 คน
- ครู กศน.อำเภอสำมง่ำม จำนวน 11 คน

6.2 เชิงคุณภำพ
ผู้เขำ้ รบั กำรอบรมสำมำรถนำควำมรู้ เขำ้ ใจแนวทำงปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง น้อมนำไปสกู่ ำรปฏบิ ตั ิ
โดยเนน้ ให้มที ัศนคติกำรทำงำนเพอ่ื ประโยชน์ส่วนรวมท่ไี ด้รับกิจกรรมแลกเปลีย่ นเรียนรูร้ ่วมกันและสำมำรถไปขยำย
ผลกบั เกษตรกรอื่น ๆ ใหส้ ำมำรถประกอบอำชพี ด้ำนกำรเกษตรได้อย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ และสำมำรถไปขยำยผลให้กบั
เกษตรกรในชมุ ชนเกิดแนวคิดในกำรนำปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี งไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั ได้

-4-

7. ระยะเวลำและสถำนท่ีดำเนินกำร
วนั ท่ี 22 มถิ นุ ำยน พ.ศ. 2565 ณ กศน.อำเภอสำมง่ำม อำเภอสำมง่ำม จังหวัดพิจิตร

8. วิธีดำเนินกำร

กจิ กรรม วัตถปุ ระสงค์ เปำ้ หมำย พนื้ ที่ ระยะเวลำ งบ สอดคล้อง/บช.
หลัก บุคลำกรครู ดำเนินกำร 3 ม.ิ ย.65 ประมำณ
เพอ่ื เตรียมควำม กศน. จำนวน กศน. อำเภอ 4-14 ม.ิ ย. สอดคลอ้ งกบั
ประชมุ พรอ้ ม 11 คน สำมง่ำม 65 - มำตรฐำน กศน.
วำงแผนกำร นกั ศึกษำ 80 4-14 ม.ิ ย. - ในกำรประเมิน
จดั กจิ กรรม เพือ่ วำงแผนกำร คน กศน.ท้ัง 5 65 - คุณภำพ
ประชำสัมพั ดำเนินงำน บคุ ลำกรครู แห่ง 22 มิ.ย.65 13,600.- มำตรฐำนท่ี 1
นธ์ เพื่อมอบหมำย กศน. จำนวน กศน. อำเภอ คณุ ภำพของ
ประสำน ผูร้ ับผดิ ชอบและ 11 คน สำมง่ำม 30 ม.ิ ย. - ผเู้ รียน/
ผ้เู ก่ียวข้อง ประสำนหนว่ ยงำน - นักศึกษำ 65 ผูร้ บั บริกำร
และสถำนที่ ที่เกี่ยวข้อง กศน. 80 คน เครอื ข่ำยศูนย์ กำรศกึ ษำขั้น
ดำเนินกำร 1. เพ่ือใหผ้ ู้เข้ำรบั - ครกู ศน. 11 เรียนรตู้ ำม พ้ืนฐำน
จดั กจิ กรรม กำรอบรมเขำ้ ใจ คน หลักปรชั ญำ ตวั บ่งชท้ี ่ี 1.1
แนวทำงปรชั ญำของ ของเศรษฐกจิ ผู้เรยี นกำรศึกษำ
ตดิ ตำม เศรษฐกจิ พอเพยี ง บคุ ลำกรครู พอเพยี ง ขนั้ พื้นฐำนมี
ประเมนิ ผล น้อมนำไปส่กู ำร กศน. จำนวน ประจำตำบล คณุ ธรรม
สรุป ปฏบิ ัติ โดยเนน้ ใหม้ ี 11 คน รังนก ตัวบ่งชี้ท่ี 1.2
รำยงำน ทศั นคติกำรทำงำน ผเู้ รยี นกำรศึกษำ
เพ่อื ประโยชน์ กศน. อำเภอ ขัน้ พน้ื ฐำนมี
สว่ นรวม สำมงำ่ ม ทกั ษะ
2. เพือ่ แลกเปลี่ยน กระบวนกำรคิด
เรยี นรู้รว่ มกนั และ ทกั ษะกำร
เกิดแนวคดิ ในกำรนำ แสวงหำ
ปรชั ญำของ ควำมรู้เรยี นรู้
เศรษฐกจิ พอเพยี งไป อย่ำงต่อเน่อื ง
ประยุกต์ใช้ใน และสำมำรถ
ชีวิตประจำวนั ได้ นำไปประยุกตใ์ ช้
เพอ่ื สรปุ ผลกำร ในกำรดำรงชวี ติ
ดำเนินกำรจดั ตวั บ่งชท้ี ่ี 1.3
กิจกรรมและ ผเู้ รยี นกำรศกึ ษำ
ประเมินผลควำม ข้นั พื้นฐำนมี
พงึ พอใจ ควำมร้พู ื้นฐำน

-5-

9. งบประมำณ

โดยใช้งบประมำณ รำยจ่ำยประจำปีพ.ศ.2565 แผนงำน : ยทุ ธศำสตร์สร้ำงควำมเสมอภำคทำงกำรศึกษำ

โครงกำรสนับสนุนค่ำใช้จ่ำยในกำรจัดกำรศกึ ษำตง้ั แตร่ ะดับอนบุ ำลจนจบกำรศกึ ษำข้นั พืน้ ฐำน กิจกรรมพฒั นำผเู้ รยี น

รหสั งบประมำณ 20002430016004100092 แหล่งของเงนิ 6511410 จำนวนเงนิ ทง้ั สิ้น 13,600.- บำท

(-หนึง่ หมนื่ สำมพันหกรอ้ ยบำทถว้ น-) รำยละเอียดดังนี้

- คำ่ จำ้ งทำอำหำร 1 มอื้ ๆ 70 บำท จำนวน 80 คน เปน็ เงิน 5,600.- บำท

- คำ่ จ้ำงทำอำหำรว่ำงพร้อมน้ำดม่ื 2 มอ้ื ๆ 25 บำท จำนวน 80 คน เป็นเงนิ 4,000.- บำท

- ค่ำวิทยำกร เปน็ เงนิ 1,000.- บำท

- ค่ำวสั ดุ เป็นเงิน 3,000.- บำท

รวมท้ังส้นิ 13,600.- บำท (-หนงึ่ หมืน่ สำมพันหกร้อยบำทถว้ น-)

หมำยเหตุ ขอถัวจ่ำยทกุ รำยกำรตำมจริง

10. แผนกำรใชจ้ ำ่ ยงบประมำณ

กิจกรรมหลัก ไตรมำสที่ 1 ไตรมำสท่ี 2 ไตรมำสที่ 3 ไตรมำสที่ 4

(ต.ค.64.-ธ.ค.64) (มิ.ย.65.-ม.ี ค.65) (เม.ย.65-ม.ิ ย.65) (ก.ค.65-ก.ย.65)

คำ่ ใชจ้ ่ำยในกำรดำเนินกำร - - 13,600.- -

โครงกำรฯ/กจิ กรรม

1. ประสำนเครือข่ำย

2. จดั ตำรำงเพ่อื จัด

กจิ กรรม

3. ดำเนินกำรตำมแผนงำน

4. ตดิ ตำมประเมนิ ผล

5. รำยงำนผลกำร

ดำเนนิ งำน

11. สถำนท่ีดำเนินกำร
1. เครอื ข่ำยศนู ย์เรียนรูต้ ำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี งประจำตำบลรังนก อำเภอสำมงำ่ ม จังหวดั พจิ ติ ร
2. แหล่งเรยี นรู้/ปรำชญ์ชำวบ้ำนตำบลรงั นก

12. ผู้รับผิดชอบโครงกำร สิงห์ลอ ครู รักษำกำรในตำแหน่งผ้อู ำนวยกำร กศน.อำเภอสำมงำ่ ม
1. นำยศักด์ไิ ทย ชุม่ กลำง ครูผูช้ ว่ ย
2. นำยเจษฎำภทั ร บณั ฑติ ย์ ครู กศน.ตำบล
3. นำยฉัตรชัย เขียวเขนิ ครู กศน.ตำบล
4. นำงเฉลำ รว้ นทร ครู กศน.ตำบล
5. นำงสำวมยรุ ี มจู้ ันทร์ ครู กศน.ตำบล
6. นำยสุรเดช พูร่ ะย้ำ ครู กศน.ตำบล
7. นำงสำวศศิธร หมื่นเฮ้ำ ครู ผ้สู อนคนพิกำร
8. นำงสำวรชั นก

-6-

13. เครอื ขำ่ ย
1.ส่วนรำชกำรอำเภอสำมง่ำม
2.ปรำชญ์/ผรู้ ู้
3.ผู้นำชุมชน

14. ผลท่คี ำดว่ำจะได้รบั (Outcomes)
1. ผเู้ ขำ้ รบั กำรอบรมเขำ้ ใจแนวทำงปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง นอ้ มนำไปสกู่ ำรปฏิบัติ โดยเนน้ ใหม้ ี

ทัศนคติกำรทำงำนเพ่ือประโยชน์สว่ นรวม
2. ผู้เขำ้ รว่ มกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรยี นรูร้ ่วมกันและสำมำรถไปขยำยผลกับเกษตรกรอ่นื ๆ ใหส้ ำมำรถ

ประกอบอำชีพด้ำนกำรเกษตรไดอ้ ยำ่ งมปี ระสิทธิภำพ และสำมำรถไปขยำยผลใหก้ บั เกษตรกรในชุมชนเกิดแนวคิดใน
กำรนำปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั ได้

15. ดัชนชี ้วี ดั ผลสำเรจ็ ของโครงกำร
15.1 ตัวช้ีวดั ผลผลติ (Out put)
ผเู้ ข้ำร่วมกจิ กรรม ร้อยละ 80 ของผู้เขำ้ ร่วมกิจกรรม มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจในกำรดำเนินชีวิตตำมหลักปรัชญำ

ของเศรษฐกจิ พอเพียง กำรทำเกษตร สู่กำรปฏิบตั ิ แบบพ่ึงตนเอง นำควำมร้มู ำประยุกต์ใหเ้ กิดผลในทำงปฏิบตั ิ เพ่ือ
คุณภำพชีวติ ควำมเป็นอยทู่ ดี่ ีข้ึน

15.2 ตวั ชี้วัดผลลัพธ์ (Out come)
ผเู้ ขำ้ รว่ มกิจกรรม มีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในกำรดำเนินชวี ติ ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง
แลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ว่ มกันและสำมำรถไปขยำยผลกบั เกษตรกรอ่นื ๆ ให้สำมำรถประกอบอำชีพด้ำนกำรเกษตรได้อย่ำง
มปี ระสทิ ธภิ ำพ และสำมำรถไปขยำยผลใหก้ ับเกษตรกรในชมุ ชนเกิดแนวคิดในกำรนำปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียงไป
ประยกุ ตใ์ ชเ้ พ่ือให้เกิดผล เกดิ องค์ควำมรู้ไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้
16. กำรติดตำมประเมนิ ผลโครงกำร
แบบประเมินควำมพงึ พอใจ

-7-

บทที่ 2 กำรดำเนินกำร

ผู้รบั ผิดชอบโครงกำรและคณะทำงำนได้ร่วมประชุมวำงแผนในกำรดำเนนิ โครงกำร ณ ห้องประชมุ
ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสำมง่ำม โดยมี นำยศักดิไ์ ทย สงิ หล์ อ รกั ษำกำรในตำแหน่ง
ผูอ้ ำนวยกำร กศน.อำเภอสำมงำ่ ม โดยมีประเด็นกำรประชมุ ดงั นี้

- ควำมเปน็ มำของโครงกำรและวัตถุประสงค์ของโครงกำร
- กำรเตรียมกำร กำรประสำนงำนเครือขำ่ ยที่เก่ียวขอ้ ง
- กำรมอบหมำยงำนผรู้ ับผิดชอบโครงกำร
- วำงแผนกำรจดั กจิ กรรม
- งบประมำณ

เวลำ 08.00 - 08.30 น. ลงทะเบยี น
เวลำ 08.30 - 09.00 น. พธิ เี ปิด
เวลำ 09.00 - 11.00 น. บรรยำยเร่อื ง ควำมรู้ดำ้ นเศรษฐกิจพอเพียงชมุ ชน ท่ใี ห้ควำมรทู้ ำงกำร
เกษตรท่ี หลำกหลำยอย่ำงย่ังยนื แกเ่ กษตรกร
เวลำ 11.00 - 12.00 น. โดย นำยธวชิ เพชรพงศ์ วิทยำกร
บรรยำยเรื่อง กระบวนกำรเรียนรทู้ ำงกำรทำกำรเกษตรอย่ำงย่งั ยนื อยำ่ ง
เวลำ 12.00 – 13.00 น. เปน็ ระบบและมปี ระสิทธภิ ำพได้
เวลำ 13.00 - 15.00 น. โดย นำยธวชิ เพชรพงศ์ วิทยำกร
เวลำ 15.00 - 16.00 น. รบั ประทำนอำหำรกลำงวนั
แบ่งกลุม่ ฐำนกำรเรยี นรู้ 4 ฐำนกำรเรยี นรู้
โดย นำยธวชิ เพชรพงศ์ วทิ ยำกร
ถอดองค์ควำมรู้ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ สรปุ องคค์ วำมรู้ พิธีปิด

หมำยเหตุ กำหนดกำรโครงกำรฯนีอ้ ำจเปลี่ยนแปลงไดต้ ำมควำมเหมำะสม

กำรวัดผลประเมินผลโครงกำรมี 2 ส่วน คือ
1. ประเมินผลควำมพึงพอใจของผเู้ ข้ำร่วมกจิ กรรมโครงกำร
2. ประเมินผลกำรเรยี นรขู้ องผเู้ ขำ้ ร่วมกจิ กรรม

ในสว่ นของกำรประเมินควำมพึงพอใจ เปน็ กำรวดั ผลประเมนิ ผลเชงิ สำรวจ มีวัตถปุ ระสงค์เพื่อศึกษำควำมพึงพอใจ
ของผู้ที่เขำ้ รว่ มโครงกำรและข้อเสนอแนะ ซึ่งผ้จู ดั ทำโครงกำรได้กำหนดวิธกี ำรประเมนิ ควำมพึงพอใจ ดงั นี้

1. กลุ่มตวั อย่ำง
2. เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ในกำรวดั ผลประเมนิ ผล
3. กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล
4. กำรวิเครำะหข์ ้อมูล
5. สถติ ทิ ใ่ี ชใ้ นกำรวัดผล

-8-

1. ประชำกรหรอื กลุ่มตัวอย่ำง

ผูจ้ ัดทำโครงกำรไดเ้ ก็บรวบรวมขอ้ มูลจำกผู้เข้ำรว่ มโครงกำรเต็มจำนวนทัง้ สน้ิ 80 คน

2. เคร่ืองมือที่ใชใ้ นกำรวดั ผลประเมินผล

เครื่องมอื ที่ใชใ้ นกำรวัดผลประเมินผลครงั้ น้ี คือแบบสอบถำมเปน็ มำตรำสว่ นประมำณค่ำ

(rating scale) 5 ระดบั

3. กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล

ผ้จู ัดทำโครงกำรไดแ้ จกแบบสอบถำมท่สี มบูรณ์แล้วแก่ผูท้ ่เี ข้ำรว่ มโครงกำรและติดตำมเก็บกลบั มำเพื่อ

ประมวลผล

4. กำรวิเครำะห์ข้อมูล

ผู้จัดทำโครงกำรได้นำแบบสอบถำมท้งั หมดมำวิเครำะห์ โดยเมือ่ ไดร้ ับแบบสอบถำมกลับคืนมำแลว้

ผจู้ ัดทำโครงกำรไดน้ ำมำแจกแจงควำมถี่ของคำตอบแตล่ ะข้อ ดว้ ยกำรลงรหสั คำตอบในแตล่ ะข้อใหเ้ ปน็ ตัวเลข

กำรลงรหัสทวั่ ไป (general coding form) ซ่งึ เปน็ กำรเตรียมขอ้ มูล เพ่ือส่งไปบนั ทึกลงในเครือ่ งคอมพิวเตอร์และ

วิเครำะห์ข้อมูล โดยใชโ้ ปรแกรมสถติ ิสำเร็จรูปทำงสงั คมศำสตร์ SPSS+ (statistic package for the social

sciences)

กำรแจกแจงและแปลควำมหมำยคำ่ เฉล่ยี และสว่ นเบี่ยงเบนมำตรฐำน ผู้รบั ผดิ ชอบโครงกำรใช้เกณฑ์

ของบญุ ชม ศรีสะอำด (2535) รำยละเอียดดังนี้

ค่ำเฉลีย่ เทียบค่ำรอ้ ยละ ระดบั ควำมพึงพอใจ

4.51 – 5.00 90-100 มำกทส่ี ดุ

3.51 – 4.50 80-89 มำก

2.51 – 3.50 70-79 ปำนกลำง

1.51 – 2.50 60-69 น้อย

1.00 – 1.50 50-59 นอ้ ยที่สุด

5. สถติ ทิ ใี่ ช้
5.1 กำรวิเครำะห์คณุ ลักษณะของผู้ตอบแบบสอบถำม ไดแ้ ก่ เพศ อำยุ ระดับกำรศกึ ษำ อำชพี

ใช้กำรวเิ ครำะห์หำควำมถ่ีและคำ่ ร้อยละ
5.2 กำรวเิ ครำะห์ควำมพึงพอใจของผู้เข้ำรว่ มโครงกำร ได้แก่ ควำมพึงพอใจด้ำนเน้ือหำ,ควำมพงึ

พอใจดำ้ นกระบวนกำรจัดกิจกรรมกำรอบรม,ควำมพึงพอใจตอ่ วทิ ยำกร,ควำมพึงพอใจด้ำนกำรอำนวยควำมสะดวก
โดยใช้กำรวิเครำะหห์ ำค่ำเฉล่ีย และสว่ นเบี่ยงเบนมำตรฐำน

-9-

บทที่ 3 ผลกำรดำเนนิ งำน

สรปุ แบบประเมินควำมพึงพอใจ
กำรประเมนิ โครงกำรในครัง้ นี้ ดำเนินกำรตำมรูปแบบของกำรประเมินทุกขั้นตอนอย่ำงเป็นระบบ ผล
กำรประเมินมคี วำมเชอื่ ม่ันเป็นไปตำมวตั ถปุ ระสงค์ทกี่ ำหนด คือ กำรดำเนินงำน กำรวิเครำะห์สภำพปัญหำกำร
ดำเนินงำน กำรศึกษำควำมต้องกำรของผเู้ รยี น วำงแผนและจัดทำโครงกำรพฒั นำใหต้ รงตำมสภำพท่แี ท้จริงมำกทีส่ ดุ
ทำใหก้ ำรดำเนนิ งำนตำมโครงกำรเปน็ ไปตำมข้ันตอนอย่ำงมีประสิทธิภำพ มกี ำรประชุมประเมินผลและรำยงำนผล
เพอ่ื จะได้ทรำบว่ำกำรดำเนนิ งำนทกุ ขน้ั ตอน ได้ตรงตำมเป้ำหมำยทกี่ ำหนดหรือไม่ และจะตอ้ งนำผลกำรประเมนิ มำ
ปรับปรงุ แกไ้ ข และพัฒนำกำรดำเนนิ งำนให้มีประสิทธผิ ลและประสิทธภิ ำพสูงสดุ โดยแบง่ กำรประเมนิ ดงั น้ี
ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ส่วนตวั
กำรวิเครำะห์ข้อมูล วเิ ครำะห์จำกแบบสอบถำมโดยใหผ้ ู้เข้ำรว่ มโครงกำรประเมนิ เต็มจำนวนทง้ั ส้ิน 80 คน
และนำผลกำรประเมินมำวิเครำะหไ์ ด้ดังนี้

รำยกำร จำนวน (คน) รอ้ ยละ
1. เพศ
ชำย 44 55.00
หญงิ 36 45.00
2. อำยุ
ตำ่ กว่ำ 20 ปี 61 76.25
อำยุระหว่ำง 20 – 29 ปี 15 18.75
อำยรุ ะหวำ่ ง 30 – 39 ปี 4 5.00
อำยรุ ะหวำ่ ง 40 – 49 ปี -
อำยรุ ะหว่ำง 50 – 59 ปี - -
อำยุ 60 ปขี น้ึ ไป - -
3. ระดบั กำรศกึ ษำ -
ระดับประถมศึกษำ -
ระดบั มัธยมศึกษำตอนตน้ 45 -
ระดบั มธั ยมศึกษำตอนปลำย 35 56.25
ระดับประกำศนยี บัตรวิชำชพี (ปวช.) - 43.75
ระดบั ประกำศนยี บัตรวิชำชีพช้ันสูง (ปวส.) -
ระดับปรญิ ญำตรีขน้ึ ไป - -
4. อำชพี -
วำ่ งงำน 18 -
รบั จ้ำง/ลูกจำ้ ง 58
ธุรกจิ สว่ นตัว 3 22.50
ลูกจ้ำงหนว่ ยงำนรัฐ 1 72.50
รับรำชกำร - 3.75
1.25

-

- 10 -

ตำรำงท่ี 1 ข้อมูลท่ไี ด้จำกแบบประเมินควำมพึงพอใจ

ระดบั ควำมพงึ พอใจ

ที่ รำยกำรควำมพึงพอใจ มำกที่สดุ มำก ปำนกลำง นอ้ ย น้อยทสี่ ดุ

(5) (4) (3) (2) (1)

คน(ร้อยละ) คน(รอ้ ยละ) คน(รอ้ ยละ) คน(ร้อยละ) คน(รอ้ ยละ)

ตอนท่ี 1 ควำมพงึ พอใจด้ำนเนื้อหำ

1 เนอ้ื หำตรงตำมควำมตอ้ งกำร 41 (51.25) 39 (48.75) - - -

2 เนอื้ หำเพียงพอตอ่ ควำมตอ้ งกำร 41 (51.25) 39 (48.75) - - -

3 เนอ้ื หำปจั จุบนั ทนั สมัย 45 (56.25) 35 (43.75) - - -

4 เนื้อหำมปี ระโยชน์ตอ่ กำรนำไปใชใ้ น 42 (52.50) 38 (47.50) - - -
กำรพัฒนำคุณภำพชวี ิต

ตอนท่ี 2 ควำมพงึ พอใจด้ำนกระบวนกำรจดั กจิ กรรมกำรอบรม

5 กำรเตรียมควำมพรอ้ มกอ่ นอบรม 42 (52.50) 37 (46.25) 1 (1.25) - -

6 กำรออกแบบกจิ กรรมเหมำะสมกบั 45 (56.25) 33 (41.25) 2 (2.50) - -
วัตถุประสงค์

7 กำรจัดกจิ กรรมเหมำะสมกบั เวลำ 48 (60.00) 31 (38.75) 1 (1.25) - -

8 กำรจดั กจิ กรรมเหมำะสมกับ 39 (48.75) 41 (51.25) - - -
กล่มุ เปำ้ หมำย

9 วธิ กี ำรวัดผล/ประเมินผลเหมำะสม 41 (51.25) 38 (47.50) 1 (1.25) - -
กับวตั ถปุ ระสงค์

ตอนท่ี 3 ควำมพึงพอใจต่อวิทยำกร

10 วทิ ยำกรมคี วำมร้คู วำมสำมำรถใน 52 (65.00) 28 (35.00) - - -
เรื่องทถ่ี ่ำยทอด

11 วทิ ยำกรมีเทคนคิ กำรถำ่ ยทอดและ 48 (60.00) 30 (37.50) 2 (2.50) - -
ใช้สอ่ื ได้เหมำะสม

12 วทิ ยำกรเปดิ โอกำสใหม้ สี ่วนร่วมและ 48 (60.00) 29 (36.25) 3 (3.75) - -
ซักถำม

ตอนที่ 4 ควำมพงึ พอใจดำ้ นกำรอำนวยควำมสะดวก

13 สถำนที่ วัสดุ อปุ กรณแ์ ละสง่ิ อำนวย 58 (72.50) 20 (25.00) 2 (2.50) - -
ควำมสะดวก

14 กำรสอ่ื สำร กำรสร้ำงบรรยำกำศ 48 (60.00) 32 (40.00) - - -
เพ่ือใหเ้ กิดกำรเรยี นรู้

15 กำรบรกิ ำร กำรช่วยเหลือและกำร 48 (60.00) 31 (38.75) 1 (1.25) - -
แก้ปญั หำ

1. สรปุ กำรประเมนิ ควำมพงึ พอใจ

จำกตำรำงท่ี 1 ข้อมูลท่ีไดจ้ ำกกำรประเมินควำมพงึ พอใจในโครงกำรที่มีควำมพงึ พอใจมำกท่สี ุดในแตล่ ะตอน ดังน้ี

ตอนที่ 1 ควำมพึงพอใจด้ำนเนือ้ หำ คือ “เนื้อหำปัจจุบันทันสมัย” จำนวน 45 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 56.25

ตอนที่ 2 ควำมพึงพอใจดำ้ นกระบวนกำรจดั กจิ กรรมกำรอบรม คอื “กำรจัดกิจกรรมเหมำะสมกบั เวลำ” จำนวน

48 คน คดิ เป็นร้อยละ 60.00

ตอนที่ 3 ควำมพึงพอใจตอ่ วิทยำกร คอื “วทิ ยำกรมีควำมรคู้ วำมสำมำรถในเร่ืองทถ่ี ่ำยทอด”จำนวน 52 คน

คิดเป็นรอ้ ยละ 65.00

ตอนที่ 4 ควำมพึงพอใจด้ำนกำรอำนวยควำมสะดวก คือ “สถำนที่ วสั ดุ อปุ กรณแ์ ละส่ิงอำนวยควำมสะดวก”

จำนวน 58 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 72.50

- 11 -

ตำรำงที่ 2 ประเมินควำมพงึ พอใจ

ขอ้ ที่ รำยกำรควำมพงึ พอใจ ค่ำเฉลี่ย สว่ น กำรแปล
เบีย่ งเบน ควำมหมำย
1 เนือ้ หำตรงตำมควำมต้องกำร 4.51 มำตรฐำน
2 เนอื้ หำเพยี งพอต่อควำมต้องกำร 4.55 มำกทส่ี ดุ
3 เนอ้ื หำปจั จุบันทันสมยั 4.56 S.D. มำกที่สดุ
0.50 มำกที่สดุ
4 เนอื้ หำมีประโยชน์ต่อกำรนำไปใช้ในกำรพฒั นำคณุ ภำพชวี ติ 4.52 0.50 มำกที่สดุ
0.49 มำกที่สดุ
5 กำรเตรียมควำมพร้อมก่อนอบรม 4.51 มำกที่สดุ
6 กำรออกแบบกิจกรรมเหมำะสมกับวัตถปุ ระสงค์ 0.50 มำกที่สุด
4.53
7 กำรจดั กิจกรรมเหมำะสมกับเวลำ 0.52 มำก
4.58 มำก
8 กำรจัดกจิ กรรมเหมำะสมกบั กลมุ่ เปำ้ หมำย 4.48 0.54 มำกที่สุด
9 วิธีกำรวัดผล/ประเมินผลเหมำะสมกบั วัตถุประสงค์ 4.50 มำกทส่ี ุด
10 วิทยำกรมีควำมรู้ควำมสำมำรถในเร่อื งทถี่ ่ำยทอด 4.65 0.52 มำกทส่ี ุด
0.50 มำกทส่ี ุด
11 วิทยำกรมีเทคนิคกำรถำ่ ยทอดใชส้ ่ือเหมำะสม 4.57 0.52 มำกทส่ี ุด
0.47 มำกทีส่ ุด
12 วิทยำกรเปิดโอกำสให้มีสว่ นรว่ มและซักถำม 4.56 มำกทส่ี ดุ
0.54
13 สถำนท่ี วสั ดุ อปุ กรณ์และสิ่งอำนวยควำมสะดวก 4.70
0.57
14 กำรสือ่ สำร กำรสรำ้ งบรรยำกำศเพ่ือใหเ้ กดิ กำรเรียนรู้ 4.60
0.51
15 กำรบรกิ ำร กำรชว่ ยเหลือและกำรแกป้ ัญหำ 4.58
4.56 0.49
รวม
0.52
0.51

จำกตำรำงที่ 2 ผลกำรวิเครำะห์ข้อมลู จำกผู้เขำ้ ร่วมโครงกำร โดยใช้ค่ำเฉลยี่ ( x ) และสว่ นเบีย่ งเบนมำตรฐำน
(S.D.) พบว่ำ ผู้เข้ำร่วมโครงกำรมคี วำมพึงพอใจในระดบั มำกทส่ี ุด คอื สถำนท่ี วสั ดุ อปุ กรณ์และส่ิงอำนวยควำม
สะดวก เฉลี่ย 4.70 สว่ นเบี่ยงเบนมำตรฐำน 0.51 ผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรมคี วำมพึงพอใจในระดับที่รองลงมำ คือวิทยำกร
มคี วำมรู้ควำมสำมำรถในเร่ืองทีถ่ ำ่ ยทอด คำ่ เฉลีย่ 4.65 ส่วนเบยี่ งเบนมำตรฐำน 0.47 และผเู้ ข้ำรว่ มโครงกำรมี
ควำมพงึ พอใจภำพรวม ค่ำเฉลี่ย 4.56 ส่วนเบีย่ งเบนมำตรฐำน 0.51

- 12 -

ปญั หำอุปสรรคในกำรดำเนนิ งำน
-
ขอ้ เสนอแนะผู้เข้ำร่วมโครงกำร
-
ขอ้ เสนอแนะเพือ่ กำรพัฒนำ
1. ขอรับกำรสนบั สนนุ ควำมร่วมมือจำกสว่ นรำชกำรอนื่ เพอ่ื ให้กิจกรรมเกิดควำมสมบูรณ์มำกขึน้
2. ประสำนภำคีเครือขำ่ ยใหเ้ ข้ำมำมสี ว่ นรว่ มของกิจกรรม

สรุปผเู้ ขำ้ ร่วมกิจกรรมแยกรำย กศน.ตำบล

ที่ รำยกำร เป้ำหมำย (คน) ผล (คน) หมำยเหตุ
1 กศน.ตำบลสำมงำ่ ม 16 16
2 กศน.ตำบลกำแพงดนิ 16 16
3 กศน.ตำบลรังนก 16 16
4 กศน.ตำบลหนองโสน 16 16
5 กศน.ตำบลเนนิ ปอ 16 16
80 80
รวม

- 13 -

- 14 -

ภำพโครงกำรพัฒนำผเู้ รยี น“เรยี นรู้ศำสตรพ์ ระรำชำ ส่กู ำรพฒั นำอย่ำงย่ังยนื ”
วนั ท่ี 22 มิถนุ ำยน 2565

ณ กศน.อำเภอสำมงำ่ ม และศูนยเ์ รยี นรู้ตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล
รังนก บำ้ นจระเขผ้ อม หมูท่ ่ี 1 ตำบลรังนก อำเภอสำมง่ำม จงั หวัดพจิ ติ ร

เวลำ 09.00 - 11.00 น. บรรยำยเรื่อง ควำมร้ดู ้ำนเศรษฐกจิ พอเพียงชมุ ชน ทใี่ ห้ควำมรู้ทำงกำรเกษตรที่
หลำกหลำยอยำ่ งยัง่ ยนื แกเ่ กษตรกร กระบวนกำรเรียนรู้ทำงกำรทำกำรเกษตรอย่ำงย่งั ยนื อยำ่ งเป็นระบบและมี
ประสิทธภิ ำพได้ วิทยำกร นำยธวชิ เพชรพงศ์

เวลำ 13.00 - 15.00 น. แบ่งกลมุ่ ฐำนกำรเรียนรู้ 4 ฐำนกำรเรยี นรู้ โดย นำยธวชิ เพชรพงศ์ วิทยำกร

เวลำ 15.00 - 16.00 น. ถอดองคค์ วำมรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สรปุ องคค์ วำมรู้ พธิ ปี ิด

- 15 -

คณะผ้จู ดั ทำ

ทป่ี รึกษำ รักษำกำรในตำแหน่งผู้อำนวยกำร กศน.อำเภอสำมง่ำม
นำยศักด์ิไทย สงิ หล์ อ
ครูผู้ชว่ ย
ผใู้ ห้ข้อมูล ครอู ำสำสมัครกำรศึกษำนอกโรงเรียน
นำยเจษฎำภทั ร ชุ่มกลำง ครูอำสำสมัครกำรศึกษำนอกโรงเรียน
นำงฐิตพิ ร เอีย่ มสอำด ครู กศน.ตำบลกำแพงดิน
นำงสำววรรณำ เกี้ยวเกิด ครู กศน.ตำบลสำมงำ่ ม
นำงสำวมยุรี รว้ นทร ครู กศน.ตำบลหนองโสน
นำงเฉลำ เขยี วเขิน ครู กศน.ตำบลเนนิ ปอ
นำงสำวศศิธร พู่ระย้ำ ครูผู้สอนคนพกิ ำร
นำยสุรเดช มจู้ นั ทร์ บรรณำรักษ์
นำงรชั นก หมน่ื เฮ้ำ
นำงสำวสมุ ำลี ภุมรนิ ทร์ ครู กศน.ตำบลรงั นก

ผรู้ ำ่ ง/ผูเ้ รียบเรยี ง/ผู้พิมพ์
นำยฉตั รชัย บัณฑติ ย์


Click to View FlipBook Version