The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Jutamat Prommanee, 2019-07-31 00:04:42

quaNTUM

sss

หลกั วชิ า Quamtum Physics

“ แสง ” มคี ุณสมบตั เิ ป็นได้ทัง้ สสารและ

พลงั งาน
( Light is a particle)

=

ภาวะผนู้ าเป็นสง่ ทีอ่ ยใู่ นตัวของแต่ละบคุ คล
(Leadership is in the individual)

และภาวะผ้นู าเป็นสิง่ ทอี่ ยู่ในชุมชน
(Leadership is in the community)

1

Quantum leadership

หรือ ภาวะผู้นาแบบควันตัม

เชอ่ื วา่ “ภาวะผู้นาเป็นสิ่งทอ่ี ยใู นตัวของแต่ละ

บุคคล และ ภาวะผู้นาเป็นสิง่ ทอ่ี ยใู่ นชุมชน ดว้ ย” ซ่งึ เปน็ ภาวะผ้นู า
แบบยดึ ชุมชนเปน็ ฐาน(Community-based leadership)

แนวคดิ Quantum leadership

บทบาทของผูน้ าตอ้ งเปล่ียนแปลงไป

จากการเป็นผกู้ ากบั ส่งั การ(Directing) ไป
เป็นผสู้ รา้ งสรรค์บรรยากาศทีเ่ อ้อื ให้ผ้รู ่วมงาน
มีสว่ นรว่ มและมอี สิ ระในการปฏิบัตงิ าน

2

ภาวะผูน้ าแบบยดึ ชมุ ชนเปน็ ฐาน
(Community-based leadership)

เป็นสงิ่ ที่ยากทจี่ ะมองเห็นไดโ้ ดยตรง
 ตอ้ งใช้การสรุปลงความเห็นจากบรบิ ทต่างๆท่ี

เกิดขึน้ จริงในชุมชน

3

บทบาทของผู้นาแบบ Quantum leaders

 มีความกระตอื รือร้น

 กระต้นุ ใหเ้ กดิ การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ

 สง่ เสริมการเป็นองคก์ ารแห่งการเรยี นรู้

ยึดหลกั ขององคก์ าร  ตอ้ งใสใ่ จ
 ยอมรบั ในความสามารถ
“คนมคี วามสาคัญ  เขา้ ใจอย่างลกึ ซ้งึ ตอ่

สงู สุด”  เป็นแบบอยา่ ง

 เน้นส่งเสริมการเปน็ องค์การแห่งการเรียนรู้

 สมรรถนะหลัก

 สร้างนวตั กรรมใหม่

 ระบบงาน มที ศิ ทาง, มเี ปา้ หมาย

และมีวตั ถุประสงค์

 ยอมรบั ในความสามารถ

 สนบั สนุนปจั จยั ต่างๆ.

 หลักการทางคุณธรรม

 แสดงพฤตกิ รรมแบบอย่าง

 มคี วามน่าเช่ือถอื

4

น Qแ วคิดสาคญั ของทฤษฎี uantum leadership

คนเป็นศนู ยก์ ลางขององค์การ
(Person-centered organization)

เป็นเรอื่ งของกระบวนการ(Process)
มากกว่าเรอื่ งโดยตาแหนง่ (Position)

เปน็ คากริยามากกวา่ คานาม
ความมอี สิ ระ(Freedom)

ความมีวนิ ัย(Order)

5

เครอ่ื งมอื 7 ประการ เพือ่ ขับเคลอ่ื นการเปลี่ยนแปลงทางสงั คม

ก. ดา้ นการปรับเปลี่ยนชุมชน (Transforming the Community)

1.สรา้ งสัมพันธภาพทเ่ี ข้มแข็งของชุมชน
(Build Strong Community Relationships)

• พบปะโดยต้องเข้าไปหาคนเหลา่ น้ี
• ยึดหลกั ใช้ชุมชนเปน็ พลงั ขบั เคลอื่ น
• สรา้ งสายสมั พนั ธอ์ ยา่ งม่ันคงดว้ ยการฟงั และการเสวนา

6

2.สร้างโอกาสใหช้ ุมชนได้มีการริเร่ิมสง่ิ ใหมๆ่

(Open the Space for Community Initiative)

• ยดึ การมอี านาจตัดสนิ ใจเพอ่ื สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง
และมปี ากเสียงมากยิ่งข้นึ

• ส่งเสริมการมสี ว่ นรว่ มเพือ่ ให้เกดิ ความรู้สกึ เปน็ เจ้าของชุมชน

3. ค้นหาจุดแขง็ ของชมุ ชน

(Find the Deep Sources of Strength)

• ประวัติความเป็นมาของชุมชน โดยเฉพาะส่งิ ดีงาม
หรือเหตกุ ารณท์ ีโ่ ดดเด่นในอดตี
• ดงึ พลงั อานาจทางดา้ นจติ วญิ ญาณ ดา้ นคุณธรรม
จริยธรรมและวัฒนธรรม ซ่งึ เป็นจุดแขง็ ทฝ่ี ังลกึ อยใู่ นชมุ ชน

7

เครอื่ งมอื 7 ประการ เพ่อื ขับเคลือ่ นการเปลย่ี นแปลงทางสังคม
ข. ดา้ นการปรบั เปลี่ยนสภาพแวดล้อมของชุมชน

4(Transforming the Community’s Environment)
.สามารถเผชิญพายุไดโ้ ดยไมห่ ักโค่น
(Face the Wind and Bend Without Breaking)

• ใหก้ ารยอมรับตอ่ ความสบั สนวุ่นวายท่เี กิดขน้ึ วา่ เพื่อเป็นการ
เปลี่ยนแปลงไปส่สู ิ่งใหมท่ ี่ดีกว่า

• ต้องยอมรับความเจ็บปวดและความโกรธทเ่ี กิดจากความลม้ เหลว
ของการดาเนนิ งาน

5. ยน่ื มือออกไปสร้างสายสมั พนั ธก์ บั ภายนอก

(Stretch and Build the Relationships Outward)

• ส่งเสรมิ และกระตุ้นใหส้ มาชกิ ของชุมชนออกไป
พบปะสังคมภายนอกเพื่อหาทางสร้างเครอื ขา่ ย
ของความรว่ มมือ แสวงหาพนั ธมิตรใหม่ๆ

8

6. กระตนุ้ ให้เกิดการเรยี นรูอ้ ย่างมวี ัตถุประสงค์

(Encourage Purposeful Learning)

• กระตุ้นให้เกิดอุปนสิ ัยกระหายใครร่ ู้ในหมู่สมาชกิ คิดและวางแผน
เชิงกลยุทธส์ คู่ วามสาเรจ็

7. นาอนาคตสปู่ จั จบุ ัน (Bring the Future into Present)

• ระบุถงึ เง่อื นไขทีท่ าใหส้ มาชกิ ของชมุ ชนสามารถดารงชวี ิตทดี่ ีกว่า
ใหไ้ ปตามท่ีพวกตนจินตนาการขนึ้ จากนั้นจึงร่วมกันผลกั ดันให้ส่งิ ท่ี
วาดฝนั ไวใ้ นอนาคตใหค้ อ่ ยๆเกดิ ข้นึ

รายช่ือคณะผู้จดั ทา

1. นางสาวจฑุ ามาศ พรหมณี รหสั นิสติ 62070261
2. นางสาวเพชรวลี คงทัน รหัสนสิ ติ 62070353
3. นางณชิ ชาภัทร แต้มเกง่ รหสั นิสติ 62071572
4. นางสาวปยิ ะดา เทีย่ งนอ้ ย รหสั นสิ ติ 62070322


Click to View FlipBook Version