ลายคำล้านนา
การส่งเสริมความรู้เรื่อง ลายคำล้านนา โดยใช้รูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book)
สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์
โดย
รหัสนักศึกษา 63030275 นาย ณัฐวุฒิ นิกรพันธ์
รหัสนักศึกษา 63030298 นาย ปุณยกร ลักษณะวารี
ก
คำนำ
ลายคำล้านนา เป็นงานศิลปะเชิงพุทธศิลป์อันทรงคุณค่าของชาวล้านนามาแต่
อดีต มักปรากฏอยู่ในศาสนสถาน วัด ต่าง ๆ รวมไปถึงงานทางสถาปัตยกรรมด้วย
แต่อิทธิพลทางรูปแบบศิลปะลายคำล้านนาจะอยู่แค่ในภาคเหนือตอนบนของ
ประเทศไทยเท่านั้น จะไม่มีปรากฏในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทย โดยจะมีวิธีการทำ ชื่อ
เรียก ที่ไม่เหมือนงานทางศิลปะแบบที่อื่น ๆ ส่งผลให้ทางภูมิภาคอื่น ๆ ในประเทศไทย
นั้นอาจไม่ได้รับข้อมูล และทราบประวัติความเป็นมา ต่าง ๆ ไปจนถึงการมีอยู่ของลาย
คำล้านนาเลยก็ว่าได้ เป็นผลให้ผู้วิจัยมีแนวคิดที่จะนำเรื่องราวของลายคำล้านนา มา
นำเสนอถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้ในรูปแบบของ (E-Book) ให้นักศึกษาระดับปริญญา
ตรี ด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องราวของลาย
คำล้านนาต่อไป
ผู้จัดทำ
นาย ณัฐวุฒิ นิกรพันธ์
นาย ปุณยกร ลักษณะวารี
สารบัญ ข
เรื่อง หน้า
ความเป็นมาและความสำคัญ 1-5
- ช่วงเเรก
- เรื่องราวและเหตุการณ์ 6
- ล้านนาหมายถึง 7
- ลักษณะของงานพุทธศิลป์ล้านนา 8
9
บทนำ 10
งานลายคำล้านนารากฏอยู่สถานที่ใด 11
ธาตุโลหะทองคำ (Gold) ว่า "คำ" 12
"ตอง" และ "คำเหลือง" 13
ที่มาและความหมายของงานลายคำล้านนา
โคลงมังทรารบเชียงใหม่ 14-15
ลักษณะโครงสร้าง
ปิดทองล่องชาด 16
17-19
- วิธีที่แรก
- วิธีที่สอง 20-22
"ฮายลาย" หรือ "ฮายดอก"
- วิธีที่สาม
- วิธีที่สี่
หีดธัมม์
วิวัฒนาการเทคนิคลายคำล้านนาในปัจจุบัน
- สีทองคำเปลว
- ลายคำล้านนาการเดินทางอย่างยาวนาน
บรรณานุกรม
1
ความเป็นมาและความสำคัญ
ศาสนาพุทธเกิดขึ้นในดินแดนชมพูทวีป ซึ่งในปัจจุบันเป็น
ดินแดนของประเทศอินเดีย ครอบคลุมไปจนถึงประเทศเนปาล
อัฟกานิสถาน ปากีสถาน และ บังคลาเทศ แต่มีหลักฐานทาง
โบราณคดีส่วนใหญ่บ่งชี้ว่าศาสนาพุทธนั้นกำเนิด ณ ที่
ประเทศอินเดีย อาทิ สังเวชนียสถาน และพุทธสถานต่าง ๆ
อันเป็นจุดบ่งชี้ได้ว่า ณ พื้นที่เหล่านี้ คือบ่อเกิดแห่งพระพุทธ
ศาสนา (กรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม. 2554: 8)
(องอาจ เขียวงามดี และพระสุทธิสารเมธี. 2563: 48) ความ
หมายของ “พระพุทธศาสนา” คือ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ครั้งพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ (กรมศาสนา กระทรวง
วัฒนธรรม. ม.ป.ป.) พระพุทธศาสนาได้เข้ามาสู่ประเทศไทยใน
ราวพุทธศตวรรษที่ 2-3 หรือเมื่อประมาณ พ.ศ. 2536 โดย
พระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์แห่งราชวงศ์เมารยะหรือโมริยะ
ของอินเดียในสมัยนั้น (พระมหาสิงขร ปริยตฺติเมธี. 2559:
36) ทรงมีศรัทธาอันแรงกล้าในพุทธศาสนา ทรงโปรดให้พระ
สงฆ์ทำการสังคายนาพระธรรมวินัย ซึ่งถือเป็นการทำ
สังคายนาครั้งที่ 3 จนแล้วเสร็จ หลังจากทำการสังคายนา
ครั้งนั้นพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงได้ส่งศาสนทูตออกไป
ทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนอันห่างไกลต่าง ๆ
โดยจัดให้มีการแบ่งออกเป็น 9 สายด้วยกัน (พระมหาสิงขร
ปริยตฺติเมธี. 2559: 42) หนึ่งในนั้นได้นำพระพุทธศาสนามา
ประดิษฐานในดินแดน “สุวรรณภูมิ” ซึ่งเชื่อกันว่าคือดินแดน
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ บริเวณประเทศพม่า และ
ประเทศไทยในปัจจุบัน โดยมีพระเถระ 2 รูป คือ พระโสณะ
และพระอุตตระ ได้เดินทางเข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนา
(กรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม. 2554: 17) จวบจน
พระพุทธศาสนาได้แพร่หลายไปยังพื้นที่ดินแดนต่าง ๆ โดย
รอบ จนแผ่ไปถึงยังพื้นที่แห่งหนึ่งซึ่งสมัยนั้นปรากฏชื่อเรียก
กันว่า ดินแดนล้านนา
Page 1. ลายคำล้านนา. 2565
Page 2. ลายคำล้านนา. 2565
ดินแดนล้านนาในช่วงแรก ๆ ก่อนที่พระพุทธศาสนาจะเข้ามามีบทบาท ปรากฏหลักฐานเริ่ม
แรกที่ว่า มีลัทธิความเชื่อดั้งเดิมของชาวละว้าหรือลัวะที่อาศัยอยู่ในดินแดนล้านนามาแต่
ดั้งเดิม จะมีการนับถือผี รวมไปถึงมีความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติที่สืบทอดกันมาแต่ดั้งเดิมช้า
นานแล้ว คือ จะนับถือผีและวิญญาณของบรรพบุรุษ มีความเชื่อในเรื่องภูต ผี ปีศาจ
วิญญาณ เหล่าอมนุษย์ และเทพเจ้า โดยสิ่งเหล่านี้ล้วนมีพลังอำนาจ สามารถกำจัดปัดเป่าทุกข์
ยากและภัยพิบัติของมนุษย์ได้ หากมนุษย์มีความเคารพยำเกรง แต่ตรงกันข้ามหากมนุษย์ขาด
ความเคารพยำเกรงสิ่งเหนือธรรมชาติเหล่านี้ ก็จะสามารถบันดาลทั้งโทษ ภัยพิบัติ ความเจ็บ
ป่วยแก่มนุษย์ได้อีกด้วย เมื่อพระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้ามา ชาวล้านนาจึงนับถือพระพุทธ
ศาสนามาตั้งแต่นั้น แต่ก็ยังคงมีการนับถือผี สาง วิญญาณ และพลังลึกลับเหนือธรรมชาติอยู่
บ้าง แต่ก็ได้ลดบทบาทลงไปมาก (นพคุณ ตันติกุล. 2548: 82) (โครงการล้านนาคดีศึกษา
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2557: 86-95) ดินแดนล้านนาในอดีตได้ปรากฏเรื่องราว และประวัติ
ความเป็นมาที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามาโดยตลอด แต่พระพุทธศาสนาใน
ล้านนาที่ปรากฏอยู่นั้นมักจะเป็นหลักฐานที่อยู่ในรูปของ "ตำนาน" เสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งตำนาน
เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาแล้วได้รับการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเอาไว้ในภายหลัง มีลักษณะ
เป็นนิทานพื้นถิ่น บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรสืบทอดต่อ ๆ กันมาซึ่งเป็นการบันทึก
ประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุด (สุรัสวดี อ๋องสกุล. 2539: 6) อันจะเห็นได้จากอาณาจักรแรกที่มี
หลักฐานเก่าแก่ที่สุดในดินแดนล้านนา คือ อาณาจักรหริภุญชัย เมื่อแรกเริ่มสถาปนาขึ้นนั้นจะ
เห็นได้ว่าพระนางจามเทวี ซึ่งถูกอัญเชิญขึ้นมาจากเมืองละโว้ เป็นผู้นำเอาพระพุทธศาสนา
พร้อมด้วยพระสงฆ์จำนวน 500 รูป และพร้อมด้วยคัมภีร์พุทธศาสนา เข้ามาเผยแพร่ในดินแดน
ล้านนาเป็นที่แรก (เทพประวิณ จันทร์แรง. 2562: 49) (นพคุณ ตันติกุล. 2548: 82)
Page 3. ลายคำล้านนา. 2565
เรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพระพุ ทธศาสนาในอาณาจักรหริภุญชัยนี้ได้
ถูกนำมาเรียบเรียงไว้โดยรวบรวมจากตำนานต่าง ๆ โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยา
วชิรญาณวโรรส ได้ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ และในจามเทวีวงศ์ได้กล่าวถึงเหตุกรณ์เอาไว้เช่น
กัน พระพุทธศาสนาได้ประดิษฐานอยู่บนแผ่นดินล้านนามาเป็นเวลาอันช้านาน แม้ว่าพระพุทธ
ศาสนาจะมีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศตะวันออกกลางหรือประเทศอินเดีย แต่ก็มีความเจริญ
รุ่งเรืองมาโดยลำดับนับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 6 เป็นต้นมา (ศิรพงศ์ ศักดิ์สิทธิ์. 2554: 24)
พระพุทธศาสนาในล้านนาสมัยนั้นจะนิยมนับถือพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์เป็นหลัก โดยพุทธ
ศาสนานิกายเถรวาทแบบลังกาวงศ์นี้ ได้แพร่จากนครศรีธรรมราชขึ้นไปถึงอาณาจักรสุโขทัย
ครั้งแรกเริ่มในสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และในสมัยพระยาลิไท หรือพระศรีสุริยพงศ์
รามมหาราชาธิราช หรือพระมหาธรรมราชาลิไท ได้ทรงอาราธนาพระสังฆราชจากลังกานาม
ว่า สุมนะ มาที่อาณาจักรสุโขทัย พร้อมทั้งได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นพระสังฆราชในปี พ.ศ. 1902
(มาตยา อิงคนารถ และคณะ. 2529: 37) กาลต่อมาทางอาณาจักรล้านนา ใน พ.ศ.1913 พระ
เจ้ากือนาหรือพญาธรรมิกราช มีความศรัทธาในศาสนาพุทธอย่างแรงกล้า ได้ทูลอาราธนา
พระสังฆราชสุมนะ จากสุโขทัยมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นการเริ่มต้นพุทธศาสนาแบบลังกา
วงศ์ในล้านนา ศาสนาพุทธได้รับการทำนุบำรุงจากพระมหากษัตริย์ล้านนามาทุกยุคสมัย จนมี
ความเจริญรุ่งเรือง (องอาจ เขียวงามดี และพระสุทธิสารเมธี. 2563: 50)
Page 4. ลายคำล้านนา. 2565
ในปัจจุบัน ล้านนาหมายถึง ดินแดน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย จังหวัด
เชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดน่าน จังหวัดลำปาง
จังหวัดแพร่ จังหวัดลำพูน ซึ่งศูนย์กลางทางการเมืองและวัฒนธรรมของอาณาจักรล้านนา
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คือ เมืองเชียงใหม่ (พันธ์ศักดิ์ ภักดี. 2555: 10) เมื่อมีศาสนาพุทธมา
แพร่กระจายอยู่ในดินแดนล้านนา ก็จะตามมาด้วยการเกิดศาสนพิธี การสร้างศาสนสถาน
ศาสนวัตถุ และกิจการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาในรูปแบบเฉพาะพื้นที่ ความหมาย
ของพระพุทธศาสนาจึงขยายกว้างออกไปครอบคลุมสิ่งต่างๆ เหล่านี้ด้วย ที่พบเห็นได้เด่นชัด
คือ งานพุทธศิลป์แบบล้านนา เป็น “มรดกทางวัฒนธรรม” ที่สอดแทรกหลักคำสอนของพุทธ
ศาสนา ความเชื่อของท้องถิ่นที่เชื่อมโยงถึงวิถีชีวิตของคนล้านนาเอาไว้อย่างเด่นชัด โดย
สามารถสัมผัสได้ถึงความงดงาม และเอกลักษณ์ของรูปแบบ ซึ่งสามารถจำแนกได้หลากหลาย
ประเภททั้งในด้านงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม ฯลฯ ที่ล้วนแล้วแต่มีคุณค่าและ
ความสำคัญต่อการดำเนินวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาวล้านนา อันเป็นผลมาจากความเชื่อ
ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ซึ่งมักจะแสดงออกผ่านการทำเครื่องสักการะ และเครื่องใช้ใน
พิธีกรรม รวมถึงงานศิลปกรรมในแขนงต่าง ๆ
ในด้านของลักษณะของงานพุ ทธศิลป์ล้านนา
เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ในบริเวณ
ทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยในอดีต รวม
ทั้งดินแดนบางส่วนของประเทศพม่า จีน และลาว
ได้เคยเป็นที่ตั้งของกลุ่มบ้านเมืองที่มีการปกครอง
เป็นแคว้นอิสระมาก่อน โดยมีชื่อเป็นที่รู้จักเรียกรวม
ๆ กันว่า ล้านนา กลุ่มบ้านเมืองเหล่านี้จะมีความ
สัมพันธ์กันทั้งในทางการเมือง เชื้อชาติ ประเพณี
และ ศิลปวัฒนธรรม มีเมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง
ศิลปวัฒนธรรมของอาณาจักรล้านนา ในการรับ
อิทธิพลทางด้านศิลปกรรมของล้านนาในระยะแรก
ๆ นั้น จะเกี่ยวข้องมีความสัมพันธ์กันกับเมืองที่มี
ความเจริญทางศิลปะวัฒนธรรม ขึ้นมาก่อนทาง
ทิศตะวันตก กล่าวคือ อินเดีย ลังกา และ พุกาม
หรือ พม่า ช่วงเวลาต่อมามีการแลกเปลี่ยนกันกับ
ศิลปวัฒนธรรมของสุโขทัย ซึ่งมีความต่อเนื่องมา
จนถึงยุคทองของศิลปกรรมล้านนาในต้นพุ ทธ
ศตวรรษที่ 21 (ธีระพงษ์ จาตุมา. 2560: 53, 125)
โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะปรากฏอยู่ในรูปแบบของ
งานทางสถาปัตยกรรม สิ่งตกแต่งประดับควบคู่กับ
งานทางสถาปัตยกรรม กล่าวกันว่ารูปแบบ
ลวดลายประดับศาสนสถานที่โดดเด่นและสวยงาม
ของชาวล้านนารูปแบบหนึ่ง ปรากฏชื่อเรียกว่าลาย
คำล้านนา
Page 5. ลายคำล้านนา. 2565
Page 6. ลายคำล้านนา. 2565
Page 5. ลายคำล้านนา. 2565
บทนำ
ลายคำล้านนาถือเป็นความ
งดงามทางศิลปะอย่างหนึ่งที่มี
บทบาทสำคัญในการแสดงออกถึง
ความหลากหลายและความสามารถ
ทางเชิงช่างได้อย่างชัดเจนความ
หลากหลายที่ปรากฏเหล่านั้นแสดง
ให้เห็นถึงพัฒนาการความก้าวหน้า
ทางด้านต่างๆ อาทิ ด้านรูปแบบ
ลวดลาย ด้านเทคนิควิธีการที่มีการ
ปรับใช้อย่างเหมาะสม การเลือกใช้
วัสดุที่สอดคล้องกับเทคนิค รวมถึง
การนำไปใช้ประดับตกแต่งงาน
ศิลปกรรมล้านนาต่าง ๆ ได้อย่าง
ลงตัวสวยงาม เกิดคุณค่าทางความ
งามที่แสดงความหมายตามคตินิยม
ของล้านนามาอย่างยาวนาน
งานลงรักปิดทองประดับภายในวิหารลายคำ
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่
Page 7. ลายคำล้านนา. 2565
งานลายคำล้านนามักปรากฏอยู่คู่
กับศาสนสถานศาสนวัตถุ เครื่องสักกา
ระในทางพระพุทธศาสนา รวมถึงใช้
ประดับตกแต่งอาคารทาง
สถาปัตยกรรม เครื่องสูง เครื่อง
ประกอบยศของสถาบันกษัตริย์เจ้านาย
หรือผู้มีบรรดาศักดิ์สูงลายคำยังเป็นสิ่ง
ที่สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองของ
บ้านเมือง ศิลปวัฒนธรรม ความเชื่อ
ความศรัทธาและวิถีชีวิตของคนล้านนา
ที่ดำเนินอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ที่เกี่ยว
โยงและสอดคล้องกลมกลืนกัน เกิดเป็น
ค่านิยมร่วมในวัฒนธรรมล้านนารวม
ถึงวัฒนธรรมใกล้เคียงในดินแดนแถบ
ลุ่มแม่น้ำโขงที่ปรากฏรูปแบบของงาน
ศิลปะที่คล้ายคลึงกัน เช่น
งานลงรักปิดทองประดับภายในวิหารลายคำ
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่
งานลงรักปิดทองประดับภายในวิหารลายคำ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่
เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมืองเชียงตุง
ประเทศพม่า เมืองสิบสองปันนา สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศกัมพูชา
ประเทศเวียดนาม และในประเทศไทย เป็นต้น งานศิลปกรรมลายคำล้านนาเกิดขึ้น
ได้ก็เนื่องจากวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ผสมผสานกับภูมิปัญญาแบบโบราณ
สามารถนำโลหะที่มีความแข็งตัวแต่มีเนื้อละเอียด ผ่านกรรมวิธีการรีดและตีทุบให้
เป็นแผ่นบางเรียบมีคุณสมบัติบางเบาได้ คนในวัฒนธรรมล้านนามักเรียกชนิด
ธาตุโลหะทองคำ (Gold) ว่า "คำ"
Page 8. ลายคำล้านนา. 2565
ลวดลายประดับรูปเทวดา บริเวณหน้าต่าง ภายในวิหาร
ลายคำ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ส่วนทองเหลือง (Brass) เรียกว่า "ตอง" ไม่เรียกว่า "คำเหลือง" การเรียก
ชื่อจะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนทองคำเป็นที่นิยมทั้งในอดีต และปัจจุบัน
ธาตุโลหะชนิดนี้มีมูลค่าสูง และคุณสมบัติที่มีความพิเศษมีสีเหลืองทองมันวาว
เนื้ออ่อนนุ่มสามารถยืดและตีเป็นแผ่นได้ ทองคำที่นำมาตีเป็นแผ่นบาง ๆ เรียกว่า
"ทองคำเปลว" มีคุณสมบัติที่บางเบาสามารถนำไปใช้ได้หลายพื้นที่และหลาก
หลายรูปทรง นิยมนำไปใช้ในงานประณีตศิลป์ต่าง ๆ เช่น ปิดทองเป็นลวดลาย
ประดับโครงสร้างภายในงานสถาปัตยกรรม ปิดทองพระพุทธรูป ปิดทององค์
พระธาตุเจดีย์ ปิดทองประดับงานแกะสลักเครื่องไม้ต่าง ๆ ฯลฯ เป็นต้น
Page 9. ลายคำล้านนา. 2565
Page 10. ลายคำล้านนา. 2565
ที่มาและความหมายของงานลายคำล้านนา
งานศิลปกรรมลายคำปรากฏขึ้นในอาณาจักรล้านนาตั้งแต่ครั้งใด ยังไม่มี
หลักฐานที่บ่งชี้ได้แน่ชัด แต่จากการศึกษาค้นคว้าของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระ
ศรี มีความเห็นที่กล่าวถึงประวัติงานช่างรักไทยว่า งานช่างรัก (Lacquer
work) ของไทยนั้นเดิมมีแหล่งกำเนิดอยู่ในประเทศจีน ซึ่งมีหลักฐานเก่าสุดเป็น
งานหัตถกรรมโบราณที่มีอายุราว 700 ปีก่อนคริสตกาล ที่มีความนิยมสูงใน
สมัยราชวงศ์ฮั่น คนจีนรู้จักทำเครื่องรัก (Lacquerware) อย่างแพร่หลายก่อน
ชาติอื่น ๆ มากกว่า 3,000ปี มาแล้วได้พบหลักฐานชิ้นส่วนของเครื่องรักใน
หลุมฝังศพที่ฝังไว้เมื่อหลายพันปีมาแล้ว และยังมีการทำติดต่อมาจนถึง
ปัจจุบัน งานลายคำ หรือ งานลวดลายปิดทองถือเป็นหนึ่งในเทคนิคที่สำคัญใน
งานศิลปกรรมของไทย ที่มีการสืบทอดกันมายาวนาน จัดอยู่ในประเภทงาน
ช่างสิบหมู่ วิวัฒนาการตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยา ช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 22-
23 ซึ่งเป็นช่วงที่งานศิลปะลายรดน้ำ
ลวดลายประดับลายคำล้านนา แสดงการก่อตั้งบ้านเมืองในอดีตของพญามังราย ภายในวิหารลายคำ ณ วัดเชียงมั่น อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ลวดลายประดับลายคำล้านนาแบบพรรณพฤกษา และลายปูรณฆฎะ หรือ ลายหม้อดอก
ประดับในบริเวณศาลาศาสนสถาน ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่
และลายลงรักปิดทอง เจริญรุ่งเรืองที่สุด และได้รับการยกย่องว่าเป็นฝีมือ
ชั้นบรมครู ดังตัวอย่างผลงานเทคนิคลายรดน้ำที่มีชื่อเสียงและถือเป็นหลักฐาน
ชิ้นหนึ่งที่สำคัญอันบ่งบอกถึงความเจริญของงานช่างในสมัยนั้นคือ ตู้พระ
ธรรมวัดเชิงหวาย ซึ่งถือกันว่ามีความงามเป็นเลิศ แสดงถึงอัจฉริยภาพของ
ช่างไทยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 22 ได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านี้งานลวดลายปิด
ทองยังปรากฏในงานศิลปกรรมล้านนา ดังหลักฐานในวรรณกรรมล้านนาเรื่อง
"โคลงมังทรารบเชียงใหม่" ที่แต่งขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 22 มีความว่า
"ระเบียงโขงขีดแข้ม ลายคำ
เป็นนิทานจงจำ ถี่ถ้อย
อักขระแต่งจำนำ ขอมเลข ลายเอย
เครือคร่ายสนสอดสร้อย สว่านเสี้ยว บวนบินฯ"
การพรรณนาถึงงานลายคำในโครงมังทรารบเชียงใหม่นั้นถือได้ว่าเป็นสิ่ง
ที่สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามในทางศิลปะ และความศรัทธาที่เกิดจาก
Page 11. ลายคำล้านนา. 2565
Page 12. ลายคำล้านนา. 2565
ภูมิปัญญางานช่างของล้านนา ที่ปรากฏในศาสน
สถานทางพุทธศาสนาต่าง ๆ โดยเฉพาะวิหาร
ล้านนา วิหารล้านนาโดยทั่วไปจะมีลักษณะเด่น
คือ การไม่นิยมทำฝ้าเพดานปิดบังโครงสร้างแต่
ต้องการเปิดให้เห็นโครงสร้างไม้ที่ถูกประกอบขึ้น
อย่างมีระบบระเบียบ ประณีต และนิยมการ
ประดับตกแต่งในส่วนของโครงสร้างตลอดจน
ผนังภายในวิหารด้วยลวดลายลงรักปิดทอง
อย่างวิจิตร สวยงาม ลักษณะรูปแบบการประดับ
ลวดลายนั้นจะมีความสอดคล้องกับโครงสร้าง
ไม้ทั้งหมด การสร้างสรรค์ลวดลายประดับ
โครงสร้างดังกล่าวนี้ยังเป็นการแก้ไขปัญหาเชิง
ช่าง ที่สามารถลดความแข็งกระด้างให้กับ
โครงสร้างสถาปัตยกรรมที่มี เส้นตรง เส้นนอน
และลักษณะรูปทรงเลขาคณิตที่ถูกประกอบขึ้น
ซึ่งลวดลายสีทองเหล่านั้นจะปรากฏเปล่ง
ประกายอยู่ในความมืดสลัวเป็นความงามที่ให้
ความรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ ความศรัทธา และ
ความสุขสงบได้อย่างดี นับเป็นแบบแผนของงาน
ศิลปกรรมล้านนาอย่างหนึ่งที่พบอยู่เสมอ
ลวดลายลงรักปิดทองประดับอาคารทางศาสนา
ดังกล่าวนี้ชาวล้านนาเรียกว่า "ลายคำ" ดัง
ปรากฏการใช้เรียกชื่อพระวิหารว่า "วิหารลาย
คำ" ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ วัดพระ
สิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งภายในมี
การประดับตกแต่งลวดลายลงรักปิดทองบนพื้น
สีแดงอย่างงดงาม ลักษณะลวดลายลงรักปิด
ทองหรือลายคำที่พบโดยทั่วไปในล้านนานั้น มัก
จะนิยมทำลวดลายปิดทองบนพื้นสีดำจากยางรัก
และพื้นสีแดงจากชาด ลวดลายประดับรูปเทวดา บริเวณบานประตู 2 บาน
ภายในวิหารลายคำ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง
จ.เชียงใหม่
งานลงรักปิดทอง และลวดลายประดับบริเวณทางเข้าซุ้มประตูโขงภายในวิหารลายคำ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ซึ่งในภาคกลางจะเรียกเทคนิคนี้ว่า "ปิดทองล่องชาด" และพบว่าเทคนิคหลัก
ในการสร้างสรรค์ลวดลายประดับโดยวิธีการลงรักปิดทองในอดีตนี้มีอยู่ 4 วิธี
การ คือ
วิธีแรก เป็นลวดลายที่ทำด้วยเทคนิคปิดทองลง บนพื้นรักตามร่องฉลุของ
ลวดลายบนกระดาษหรือแม่พิมพ์ลายฉลุ (stencill) ซึ่งจะคล้ายคลึงกับเทคนิคปิด
ทองของงานช่างไทยในภาคกลางที่เรียกว่า "ปิดทองล่องชาด" ซึ่งเป็นเทคนิคที่
สามารถทำได้รวดเร็วเหมาะสำหรับการสร้างลวดลายที่ต่อเนื่องกันหรือลายซ้ำ ๆ
กันหลายครั้งบนพื้นที่ขนาดกว้าง
วิธีที่สอง เป็นเทคนิคขูดลาย เป็นการสร้างลวดลาย โดยการขูดขีดลงบน
พื้นที่ปิดทองไว้แล้ว เทคนิคนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับการทำลวดลายบนพื้นผิว
ภาชนะเครื่องรักหรือเครื่องเขินของเชียงใหม่ด้วยวิธีการขู ดลาย
Page 13. ลายคำล้านนา. 2565
(ที่มา : วารสารส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วาร
สารร่มพยอม ปีท่ี 21 ฉบับท่ี 1 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2562)
ที่เรียกว่า "ฮายลาย" หรือ "ฮายดอก" ซึ่งเส้นที่
เกิดจากการขู ดเอาผิวทองด้านบนออกจะเกิด
เป็นเส้นลวดลายสีเข้มหรือสีแดงชาดบนพื้น
ทอง ลวดลายที่ปรากฏจึงมีลักษณะเหมือนกับ
การเขียนภาพลายเส้น (drawing) บนพื้นสีทอง
ลักษณะลายเส้นที่อิสระ และมีรายละเอียด
มากกว่าเทคนิคปิดทองลายฉลุ งานเทคนิคขูด
นี้พบว่าเป็นเทคนิครุ่นเก่าแก่ ที่นิยมประดับอยู่
บริเวณเสาหลวงของวิหาร โดยเฉพาะ
ตำแหน่งเชิงเสาที่มีอายุระหว่าง พุทธศตวรรษ
ที่ 21-22 ที่วิหารพระพุทธ วิหารน้ำแต้ม วัด
พระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัด
ลำปาง และวิหารวัดเวียง อำเภอเถิน จังหวัด
ลำปาง
วิธีที่สาม เป็นเทคนิคผสมระหว่างเทคนิค
ปิดทองล่องชาด และเทคนิคขูดลาย เป็นการ
สร้างรูปทรงหลักโดยใช้วิธีการสร้างแม่พิมพ์
ฉลุลาย จากนั้นปิดทองตามช่องโครงสร้าง
แล้วเพิ่มส่วนละเอียดโดยการขู ดเส้นฮายลาย
ฮายดอกเพิ่มขึ้นเป็นขั้นตอนของการแต่งแต้ม
เส้นเพื่อสร้างรายละเอียดให้เกิดความ
สวยงาม มักพบมาก Page 14. ลายคำล้านนา. 2565
ลวดลายประดับลายคำล้านนาแบบพรรณพฤกษา และลายปูรณฆฎะ หรือ ลายหม้อดอก ประดับใน
บริเวณศาลาศาสนสถาน ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ในภาพบุคคล เทวดา และรูปสัตว์ ตลอดจนลายกนก และลายดอกไม้ใบไม้อีก
ด้วย เทคนิคดังกล่าวนี้จะเป็นลักษณะเด่น และเอกลักษณ์เฉพาะของงานลายคำ
ล้านนาเป็นเทคนิคที่นิยมมากที่สุด และปรากฏอยู่โดยทั่วไปในงานประดับตกแต่ง
โครงสร้างวิหารล้านนา รวมถึงเครื่องสักการะ เครื่องประกอบพิธีกรรมทาง
ศาสนาต่าง ๆ
วิธีการที่สี่ เป็นเทคนิคลายรดน้ำ หรือ ลายคำน้ำรด เทคนิควิธีการนี้ได้รับ
อิทธิพลจากงานประดับตกแต่งลายทองทางภาคกลาง ลายรดน้ำเข้ามาสู่ในล้าน
นาในระยะหลัง ประมาณต้นรัตนโกสินทร์ โดยใช้วิธีการเขียนด้วย "หรดาล" บน
พื้นรักจากนั้นจึงเช็ดรักบาง ๆ ปิดด้วยแผ่นทองคำเปลว หลังจากนั้นใช้น้ำ รดบน
พื้นที่เขียนหรดาล และปิดทองไว้หรดาลเมื่อโดนน้ำจะหลุดลอกออกมา ส่วนที่เป็น
ลวดลายทองก็จะติดอยู่บนพื้นทำให้ลวดลายหรือรูปภาพหลังจากการรดน้ำนั้น
ปรากฏรูปเป็นสีทองบนพื้นสีดำหรือสีแดงชาด เป็นกรรมวิธีที่มีความแตกต่าง
จาก 3 วิธีการที่กล่าวมาข้างต้น
Page 15. ลายคำล้านนา. 2565
ตู้พระธรรมลายรดน้ำ ฝีมือครูวัดเชิงหวาย
ที่มา : http://www.kalyanamitra.org
โดยเทคนิคนี้ต้องอาศัยความชำนาญพิเศษเฉพาะด้านซึ่งต้องใช้ระยะเวลา
นานในการทำโดยมีขั้นตอนในการเตรียมพื้นรัก น้ำยาหรดาล การเช็ดรัก และการ
ปิดทองคำเปลว ที่ต้องอาศัยความชำนาญสูง ในล้านนามักปรากฏรูปแบบวิธีการ
นี้ในงานที่มีความละเอียดสูง เช่นบานประตูและหน้าต่างวิหาร ตู้พระธรรมที่ชาว
ล้านนาเรียกว่า "หีดธัมม์" เครื่องสักการะต่าง ๆ รวมไปถึงงานประณีตศิลป์
เป็นต้น
Page 16. ลายคำล้านนา. 2565
Page 17. ลายคำล้านนา. 2565
วิวัฒนาการเทคนิคลายคำล้านนาในปัจจุบัน
ในปัจจุบันงานลายคำได้มีวิวัฒนาการ และการพัฒนาต่อยอดมากยิ่ง
ขึ้น อันได้รับอิทธิพลแรงบันดาลใจ และเทคนิควิธีการจากงานศิลปกรรมลาย
คำล้านนาในอดีต โดยมีชื่อเรียกเทคนิคนี้ว่า “ลายคำน้ำแต้ม” ซึ่งเป็นกระบวน
วิธีการหนึ่งที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นใหม่จากการทดลอง แก้ปัญหา และปฏิบัติงาน
สร้างสรรค์ด้วยการใช้ยางมะเดื่อนอกในอดีตนิยมใช้ยางมะเดื่อจากต้น
มะเดื่ออุทุมพร เพราะเป็นยางไม้ที่ให้ความเหนียว และติดทนนาน ปัจจุบันยาง
มะเดื่อจากต้นมีข้อจำกัดเนื่องจากเป็น วัตถุดิบที่หายากการเก็บรักษาได้ไม่
นาน จึงมีผู้คิดค้นยางมะเดื่อวิทยาศาสตร์ที่เรียกกันว่า "ยางมะเดื่อนอก" ที่
สามารถใช้เขียนด้วยพู่กัน ตัดเส้น ถมพื้น แล้วปิดด้วยทองคำเปลวได้อย่าง
สะดวกมากยิ่งขึ้นช่วงเวลาต่อมาได้มีการพัฒนานวัตกรรมทางเคมีเกี่ยวกับ
สีที่ใช้สำหรับงานศิลปะโดยเฉพาะ และมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
งานลงรักปิดทองประดับภายในวิหาร วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่
เกิดสีที่มีคุณภาพสูงและให้ความ
คล้ายคลึงกับสีทองคำเปลว เรียกว่า
(acrylic) ชนิดของสีดังกล่าวนี้มี
คุณสมบัติที่ตอบโจทย์ และเหมาะแก่
การนำไปใช้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ
ต่าง ๆ ลักษณะที่โดดเด่นอีกประการ
หนึ่งคือแห้งเร็ว มีความคงทนต่อดินฟ้า
อากาศสามารถทาทับหลาย ๆ ชั้นได้
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้
เกิดการปรับเปลี่ยนวัสดุในการ
สร้างสรรค์งานลายคำล้านนาในยุค
ปัจจุบันส่วนวัสดุที่นำมาสร้างแม่พิมพ์
นั้นในยุคปัจจุบันก็มีการปรับเปลี่ยนเพิ่ม
ขึ้นเช่นกัน จากของโบราณที่นิยมใช้
กระดาษสา หรือหนังสัตว์ ที่มีข้อจำกัด
ด้านขนาดความคงทนและการเก็บรักษา
กลายมาเป็นแผ่นพลาสติกใส ที่มีขนาด
และความหนาบางที่หลากหลาย
สามารถ สร้างแบบลายให้มีขนาดตามที่
ต้องการได้ และยังใช้ได้กับพื้นที่ที่หลาก
หลายอีกด้วย ผลจากการปรับเปลี่ยน
วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้งาน
ลายคำล้านนาเกิดความนิยมมากยิ่งขึ้น
ใช้เวลาในการสร้างสรรค์น้อยลง และ
ยังสามารถพัฒนาต่อยอดให้เกิด
ประโยชน์อีกหลากหลายด้าน
(ที่มา : วารสารส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วารสารร่มพยอม ปีท่ี
21 ฉบับท่ี 1 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2562)
Page 18. ลายคำล้านนา. 2565
ลวดลายคำล้านนาเทวดาถือดอกไม้ ที่มา : ศาสตราจารย์เกียรติคุณ สุรพล ดำริห์กุล
งานศิลปกรรมลายคำล้านนามีการเดินทางมาอย่างยาวนานต่อเนื่อง
เป็นมรดกที่มีคุณค่าทางความงาม สรรค์สร้างให้เกิดสุนทรียะ เกิดเป็น
แบบแผนปฏิบัติที่มีการพัฒนามาจนถึงยุคปัจจุบัน ลายคำล้านนายังสร้าง
คุณประโยชน์ให้เกิดกับกลุ่มช่างสล่าล้านนา ที่อาศัยเทคนิควิธีการดังกล่าว
ในการสร้างสรรค์งานประดับตกแต่งวัดวาอาราม ศาสนสถานต่างๆ กลุ่ม
ศิลปินที่ได้รับแรงบันดาลใจนำมาสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัย กลุ่ม
นักเรียนนักศึกษารวมถึงผู้คนที่มีความสนใจนำไปพัฒนาต่อยอดสร้างสรรค์
สิ่งใหม่ ๆ ประกอบกับเป็นการช่วยส่งเสริม สืบสานงานศิลปกรรมลายคำ
ล้านนาให้ยังคงมีลมหายใจสืบไป
Page 19. ลายคำล้านนา. 2565
บรรณานุกรม
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม. 2554. ความรู้ศาสนาเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุม
สหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม. ม.ป.ป. พระพุทธศาสนา. สืบค้นจาก https://www.m-
culture.go.th/mculture_th60/download/Buddhism.pdf. เมื่อ 17 กันยายน 2565.
ขณิฐา คชาชาญ ดิเรก ดวงบุญชู และพริสร ไชยจันทร์. 2564. การศึกษาเรื่อง “การพัฒนาความรู้
เรื่องทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยการใช้รูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-Book)สำหรับ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่2”. หน้า 15-18.
โครงการล้านนาคดีศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2557. ล้านนาคดีศึกษา. เชียงใหม่: สุเทพการ
พิมพ์.
ถาวร นุ่นละออง. 2550. การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ร่างกายมนุษย์ กลุ่มสาระการ
เรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6. รายงานการวิจัยปริญญาครุ
ศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม. หน้า 11-13.
เทพประวิณ จันทร์แรง. 2562. ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในล้านนา : การวิเคราะห์ข้อมูลจาก
คัมภีร์ และหลักฐานทางโบราณคดี. วารสารพุทธศาสตร์ศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ปี
ที่ 10 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2562. หน้า 49.
ธีระพงษ์ จาตุมา. 2560. ศึกษาวิเคราะห์คติความเชื่อเรื่องป่าหิมพานต์ที่มีอิทธิพลต่องานพุทธศิลป์
ล้านนา. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ธารินี คุตตะสิงคี และอนิรุทธ์ สติมั่น. 2557. การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เรื่อง การออกแบบ
โปสเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal. ปีที่ 7
ฉบับที่ 3 เดือนกันยายน – ธันวาคม 2557. ฉบับมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ.
นพคุณ ตันติกุล. 2548. ล้านนาในมิติกาลเวลา. เชียงใหม่: สำนักพิมพ์ The Knowledge Center.
ประภากร นูวบุตร. 2554. การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการ
เรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่1. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัย
ราช ภัฏ มหาสารคาม.
ประภัทรพงษ์ จิตตะ. 2555. การสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง สำนวน สุภาษิต คำพังเพย ใน
ระดับช่วงชั้น 1-2 โรงเรียนบ้านป่าคา ตำบลควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา. ครุศาสตร์ มหา
บัณฑิต สาขาเทคโนโลยีการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.
พระมหาสิงขร ปริยตฺติเมธี. 2559. พระพุทธศาสนาในรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช. วารสารพุทธ
มัคค์ ศูนย์วิจัยธรรมศึกษา สำนักเรียนวัดอาวุธวิกสิตาราม. ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน
2559. หน้า 36-42.
ไพฑูรย์ ศรีฟ้า. 2551. E-BOOK หนังสือพูดได้. กรุงเทพฯ: ฐานการพิมพ์จำกัด.
ไพโรจน์ ตีรณธนากุล ไพบูลย์ เกียรติโกมล และเสกสรรค์ แย้มพินิจ. 2546. การออกแบบและผลิต
บทเรียนคอมพิวเตอร์การสอน สำหรับ e-Learning. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์สื่อเสริม
กรุงเทพมหานคร. หน้า 175-182
Page 20. ลายคำล้านนา. 2565
บรรณานุกรม
พจนา ศรีกระจ่าง. 2556. การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง
ระบบ สุริยะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคม. ปีที่ 9 ฉบับที่
1 ปี การศึกษา 2556.
พจนา ศรีกระจ่าง. 2556. การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง
ระบบ สุริยะ ชั้นประถมศึกษาปีที่4. วารสารการศึกษาและพัฒนาสังคม. หน้า 154-165.
พัชรินทร์ พุ่มลำเจียก. 2556. อิทธิพลเชิงสาเหตุที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์
(eBook) ในกรุงเทพมหานคร. ม.ป.ท.
มาตยา อิงคนารถ ทวีทองสว่าง และวัฒนา รอดสำอางค์. 2539. หนังสือประวัติศาสตร์ไทย.
กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์โอเดียสโตร์.
ราวรรณ แสงอยู่ และ วัชราภรณ์ แก้วดี. 2557. ของการใช้วงจรการเรียนรู้ 5E ร่วมกับเทคนิคการใช้
คำถามตามแนวคิดของออสบอร์นที่มีต่อทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ
และ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสาร
อิเล็กทรอนิกส์ ทาง การศึกษา. หน้า 337-351.
รัตนาภรณ์ มามีใย และ กรวิภา สรรพกิจจำนง. 2564. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วิชา สังคมศึกษา เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ระหว่างการ สอนโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ชุดหนูบัวเบิกบานธรรม กับการสอน
แบบปกติ. วารสาร นวัตกรรมการศึกษาและการวิจัย. ปีที่ 5 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม
2564. หน้า 347-348.
ลิปิกร มาแก้ว. 2558. ลายคำ น้ำแต้ม. โฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา เชียงใหม่: FLUKE
Graphic & Design.
วราภรณ์ บัวงาม. 2555. ผลของการใช้รูปแบบวงจรการเรียนรู้ 5E ร่วมกับเทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อนที่
มีต่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเจตคติต่อการทำงานเป็นกลุ่มของนักเรียน
มัธยมศึกษา ตอนต้น. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา.
วราภรณ์ บัวงาม. 2555. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา เรื่อง หลักธรรม
ทาง พระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างการสอนโดยใช้หนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์(E-Book) ชุดหนูบัวเบิกบานธรรม กับการสอนแบบปกติ. วารสารนวัตกรรม
การศึกษาและการวิจัย. ปีที่ 5 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2564.
ศิรพงศ์ ศักดิ์สิทธิ์. 2554. คติการสร้างพระพุทธรูปไม้ในล้านนา. วิทยานิพนธ์ตามหลักสูตรปริญญา ศิลป
ศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สมชาย รัตนทองคํา. 2554. เอกสารประกอบการสอน 475 788 การสอนทางกายภาพบําบัด ภาคต้นปีการ
ศึกษา 2554. ม.ป.ท. หน้า 137.
สุรพล ดำริห์กุล. 2544. ลายคำล้านนา. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ.
สุรัสวดี อ๋องสกุล. 2539. ประวัติศาสตร์ล้านนา. กรุงเทพฯ: บริษัททอมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์ จำกัด.
องอาจ เขียวงามดี และ พระสุทธิสารเมธี. 2563. องค์กรพุทธในประเทศไทย : มิติการเผยแผ่
พระพุทธศาสนา. วารสารปรัชญาปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย. ปีที่ 25 ฉบับที่ 2
กรกฎาคม–ธันวาคม 2563. หน้า 48.
Page 21. ลายคำล้านนา. 2565
บรรณานุกรม
Baker, Philip. 1992 (June 10). Electronic Book and Libraries of the Future. The Electronic Library.
Chen, C. (2011). The Relationship between E-book Users’ Learning Performance and Related
Factors.RetrievedMarch. 7, 2012, fromhttp://www.editlib.org/p/37332.
Khin Thida Soe. 2559. การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง มาตรตัวสะกดไทยสำหรับนักศึกษา
เมียนมา ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมา.
วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
Nasser Saleh Al-Mansour. 2012. The effect of computer-assisted instruction on Saudi
University students’learning of English. Journal of King Saud University– Languages and
Translation, page 51-56.
Page 22. ลายคำล้านนา. 2565