The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิชาทฤษฎีเครื่องมือกล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Thanawut Theerakiatkun, 2020-06-17 02:46:51

วิชาทฤษฎีเครื่องมือกล

วิชาทฤษฎีเครื่องมือกล

เอกสารประกอบการสอน

วิชาทฤษฎีเครื่องมือกล รหสั วิชา 2102-2003

หลักสตู รระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พุทธศักราช 2556
ประเภทวิชาอตุ สาหกรรม สาํ นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

โดย
นายเอกสิทธ์ิ สทุ ธิปรีชากุล

ตาํ แหนง ครู
วิทยฐานะ ชํานาญการ
แผนกวิชาชา งกลโรงงาน
วทิ ยาลัยเทคนคิ สระบรุ ี สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคกลาง 1
สํานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

คํานาํ

เอกสารประกอบการวิชาทฤษฎีเครือ่ งมือกล รหสั วิชา2102-2003 เลมนเี้ รียบเรยี งขนึ้ ใช
ประกอบการสอนมุงเนน สมรรถนะรายวิชา และผเู รยี นเปน สาํ คญั ตามหลกั สตู รระดบั ประกาศนยี บัตร
วชิ าชีพ (ปวช.) พุทธศกั ราช 2556 ของสํานกั งานคณะกรรมการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ

เนอ้ื หาเอกสารประกอยการสอนลุมน้ีประกอบดวย 7 หนวยการเรยี น ไดแ ก เคร่ืองมือขนาดเล็ก
เครอื่ งเลอ่ื ยกล เคร่ืองเจาะ เคร่อื งกลึง เครื่องกดั เคร่ืองไส และเครื่องเจียระไน พรอมแบบทดสอบกอน
เรียน แบบทดสอบหลังเรยี น แบบฝกหดั หนว ยการเรยี น ทุกหนวยการเรียน

ผูเรยี บเรยี งเอกสารประกอบการสอน วิชาทฤษฎเี ครื่องมือกล เลมน้ี จะสามารถใหค วามรู ความ
เขาใจและเกิดประโยชนแ กครูผสู อน นักเรยี น ตลอดจนผทู ่สี นใจศกึ ษาเปนอยา งดี หากมขี อ ผิดพลาด
ประการใดผูเ รยี บเรียงเอกสารเอกสารฉบบั น้ีขอนอมรับคําตชิ มเพอ่ื เปน ประโยชนในการปรับปรุงแกไขใน
โอกาสตอ ไป

เอกสิทธ์ิ สุทธิปรีชากุล

วชิ าทฤษฎเี คร่อื งมือกล

รหัสวชิ า 2102-2003

จดุ ประสงคร ายวชิ า
1. รจู กั ชนดิ ประเภท และสวนประกอบของเครอ่ื งมือกล
2. เขา ใจหลกั การทํางานของเคร่ืองมอื กล
3. มเี จตคติและกิจนสิ ยั ที่ดี รบั ผิดชอบ ตรงตอเวลา
สมรรถนะรายวชิ า
แสดงความรูเก่ียวกับหลักการทํางาน กระบวนการและการบํารุงรักษาของเครื่องมือกลขนาดเล็ก

และเครอ่ื งมือกล
คําอธิบายรายวิชา

ศึกษาเกี่ยวกับสวนประกอบและหลักการทํางาน เคร่ืองมือขนาดเล็ก (Hand Tool) เคร่ือง
เลื่อย เครือ่ งเจาะ เคร่ืองกลงึ เครอ่ื งกัด เคร่อื งไส เคร่ืองเจยี ระไน การบํารงุ รกั ษาเครอื่ งมอื กล

สารบัญ หนา

หนวยที่ 1 เครอื่ งมือขนาดเล็ก
หนว ยที่ 2 1.1 ชนดิ ของเครอ่ื งมือขนาดเล็ก
หนว ยท่ี 3 1.2 สวนประกอบที่สําคัญของเคร่ืองมือขนาดเล็ก
หนวยที่ 4 1.3 หลักการใชง านของเครอ่ื งมือขนาดเล็ก
1.4 กระบวนการการใชงานของเครอ่ื งมือขนาดเล็ก
แบบฝก หดั ที่ 1.1
แบบฝกหัดท่ี 1.2
แบบฝกหัดที่ 1.3
แบบฝกหัดท่ี 1.4
แบบทดสอบกอนเรยี น
แบบทดสอบหลังเรียน
เครื่องเลื่อยกล
2.1 ชนดิ ของเครื่องเลอ่ื ยกล
2.2 สวนประกอบท่ีสําคญั ของเครอื่ งเล่อื ยกล
2.3 หลักการทาํ งานของเครื่องเลื่อยกล
2.4 การบาํ รุงรักษาเครอ่ื งเลื่อยกล
2.5 กระบวนการทาํ งานของเครอื่ งเลอ่ื ยกล
แบบฝก หดั ท่ี 1.1
แบบฝกหดั ที่ 1.2
แบบทดสอบกอ นเรยี น
แบบทดสอบหลังเรยี น
เครอ่ื งเจาะ
3.1 ชนิดของเครอื่ งเจาะ
3.2 สวนประกอบท่ีสาํ คญั ของเคร่ืองเจาะ
3.3 หลักการทาํ งานของเครอ่ื งเจาะ
3.4 การบาํ รงุ รกั ษาเครอื่ งเจาะ
3.5 กระบวนการทํางานของเคร่ืองเจาะ
แบบฝก หดั ที่ 1.1
แบบฝกหัดที่ 1.2
แบบทดสอบกอ นเรยี น
แบบทดสอบหลังเรียน
เครือ่ งกลึง
4.1 ชนดิ ของเครอ่ื งกลึง
4.2 สวนประกอบที่สําคัญของเคร่อื งกลึง
4.3 หลักการทํางานของเครอ่ื งกลึง
4.4 การบํารงุ รักษาเครอ่ื งเล่ือยกลึง
4.5 กระบวนการทํางานของเคร่ืองกลึง

หนวยท่ี 5 แบบฝกหัดท่ี 1.1
หนวยที่ 6 แบบฝกหดั ท่ี 1.2
หนวยที่ 7 แบบทดสอบกอ นเรยี น
แบบทดสอบหลังเรยี น
เครือ่ งกัด
5.1 ชนิดของเคร่อื งกัด
5.2 สวนประกอบท่ีสาํ คญั ของเคร่อื งกัด
5.3 หลักการทาํ งานของเครื่องกดั
5.4 การบํารงุ รักษาเครื่องเล่ือยกัด
5.5 กระบวนการทาํ งานของเครอื่ งกดั
แบบฝก หัดที่ 1.1
แบบฝก หัดที่ 1.2
แบบทดสอบกอนเรยี น
แบบทดสอบหลังเรยี น
เครือ่ งไส
6.1 ชนดิ ของเคร่ืองไส
6.2 สวนประกอบท่ีสาํ คัญของเคร่ืองไส
6.3 หลักการทํางานของเครอื่ งไส
6.4 การบาํ รุงรักษาเครือ่ งเลื่อยไส
6.5 กระบวนการทํางานของเครอ่ื งไส
แบบฝก หัดที่ 1.1
แบบฝก หดั ท่ี 1.2
แบบทดสอบกอ นเรยี น
แบบทดสอบหลังเรยี น
เครื่องเจียระไน
6.1 ชนดิ ของเคร่ืองเจยี ระไน
6.2 สวนประกอบท่ีสาํ คัญของเครื่องเจยี ระไน
6.3 หลักการทํางานของเครอื่ งเจียระไน
6.4 การบํารุงรกั ษาเครอื่ งเจียระไน
6.5 กระบวนการทาํ งานของเครื่องเจียระไน
แบบฝก หัดที่ 1.1
แบบฝกหดั ท่ี 1.2
แบบทดสอบกอนเรยี น
แบบทดสอบหลังเรยี น

โครงการสอน

หลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชพี 2556 ประเภทวชิ าชางอุตสาหกรรม

รหัสวชิ า 2102-2003 รายวชิ า ทฤษฎเี คร่ืองมือกล จํานวน 2 หนวยกติ

สัปดาหท่ี หนว ยท่ี เนือ้ หาวชิ า ช่ัวโมง

1 - 2 1 เครื่องมือขนาดเลก็ 4
3 - 4 2 เครอื่ งเล่ือยกล 4
5 - 6 3 เคร่ืองเจาะ 4
7 - 9 4 เครื่องกลึง 6

10- 12 5 เครื่องกดั 6

13- 15 6 เครอ่ื งไส 6

16 -17 7 เคร่ืองเจียระไน 4
2
18 - วดั และประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น 36

รวม

หนวยที่ 1
เครือ่ งมือขนาดเลก็

หวั ขอเรอ่ื ง (Topics)
1. ชนิดของเครือ่ งมือขนาดเล็ก
2. สว นประกอบของเครื่องมือขนาดเล็ก
3. ขอควรระวังในการใชแ ละการบํารงุ รักษาเครอ่ื งมือขนาดเล็ก
4. กระบวนการใชงานของเครื่องมอื ขนาดเล็ก

แนวคิดสาํ คัญ (Main Idea)
การเริ่มตน ศกึ ษาการเรียนรูวิชาชีพดานชา งอตุ สาหกรรมน้ัน เครื่องมือขนาดเล็ก(Hand Tools)

ตา งๆมคี วามจาํ เปนสาํ หรบั งานชา งมาก ดงั นั้นผเู รียนทางดา นวชิ าชพี ทางชา งทุกสาขาชางจะตองใช
เครือ่ งมือตา งๆ ดังน้ันผูเ รียนจะตอ งมคี วามรู ความเขาใจเก่ียวกบั ชนดิ สวนประกอบ การใชง าน การ
บํารงุ รักษาและกระบวนการใชเคร่อื งมือขนาดเล็กตางๆ เพ่ือทีไ่ ดจ ะนําความรทู ่ีไดจ ากการเรยี นในวชิ า
ทฤษฎีเคร่ืองมือกลไปใชใ หเ กิดประโยชนต อการเรียนในรายวชิ าชางอตุ สาหกรรมวชิ าอ่นื ๆตอ ไป
สมรรถนะยอย (Element of Competency)

1. แสดงความรูเกย่ี วกับชนิด สวนประกอบ การใชงาน การบาํ รุงรักษาและกระบวนการใช
เครอ่ื งมือขนาดเล็กได

2. มเี จตคติท่ดี ี มีกิจนิสยั มคี วามรับผิดชอบ ตรงตอเวลาในการเรียน
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม (Behavioral Objectives)

1. บอกชือ่ ชนดิ ของเคร่อื งมือขนาดเล็กได
2. บอกชือ่ สว นประกอบตา งๆทสี่ าํ คัญของเคร่ืองมือขนาดเลก็ ได
3. บอกลักษณะของเครื่องมือขนาดเล็กแตละชนดิ ได
4. อธบิ ายขอ ควรระวังในการใชเครื่องมือขนาดเล็กได
5. บอกวธิ ีการบํารุงรกั ษาเคร่ืองมือขนาดเล็กได
6. อธิบายกระบวนการใชเ คร่อื งมือขนาดเล็กได
7. มีเจตคตทิ ี่ดี มีกิจนิสัย มคี วามรบั ผิดชอบและตรงตอเวลาในการเรียน

1.1 ชนิดของเครอื่ งมอื ขนาดเล็ก

เครื่องมือขนาดเล็ก (Hand Tools) หมายถงึ เครือ่ งมือท่ัวไปท่ีชา งทกุ คนตองรแู ละนาํ ไปใชใ นการ
ปฏิบัติงานไดถูกตองเหมาะสมกบั ลกั ษณะของงานนน้ั ๆ เครือ่ งมือขนาดเล็กท่ีจะกลาวถงึ ในทนี่ ี้ ไดแ ก
คอ น ไขควง คมี ประแจ เล่ือยมือ สกัด เหล็กตอกนําศูนย ปากกาจับงาน เปน ตน

1.1.1 คอ น (Hammers)
คอน (Hammers) เปน เครอื่ งมือทวั่ ไปชนิดหนงึ่ ท่ีมีความจําเปนสําหรบั ทกุ แผนกชางจะตอง

นําไปใชงาน เชน การตอกถอดประกอบชน้ิ สว นเคร่อื งจักรกล การตอกรหสั หมายเลขชิ้นงาน การตอก
สกัดตัดชิน้ งาน การตอกนําศูนยช น้ิ งาน เปน ตน สามารถแบงตามชนดิ และลักษณะรปู รา งของคอนได
ดังนี้

1.) คอนหวั กลม (Ball peen hammer) ลักษณะของคอนชนดิ น้หี วั คอนโคง มน ผวิ หนา
ของคอนเรยี บ ใชส ําหรบั ตอกรา งแบบชิ้นงาน งานย้ําหมดุ และงานตีขึน้ รูปชนิ้ งานตา ง ๆ มีลักษณะ
รูปราง ดงั รูปท่ี 1.1

รูปที่ 1.1 ลกั ษณะรูปรางของคอ นหวั กลม
( ท่ีมา : http://ศูนยรวมเคร่ืองมอื ชา ง.net)
2.) คอ นหวั ตรง (Straight peen hammer) ลกั ษณะของคอนชนิดนหี้ ัวคอ นเปนสันตรงแนว
เดยี วกบั ดา มคอน ผวิ หนา คอ นเรียบ ใชสําหรบั งานทวั่ ๆไป มีลกั ษณะรูปราง ดังรปู ท่ี 1.2

รปู ท่ี 1.2 ลกั ษณะรปู รางของคอ นหัวตรง
( ทมี่ า : http://slideplayer.com/slide/9204909/)

3.) คอนหัวขวาง (Cross peen hammer) ลักษณะของคอนชนิดน้ี หวั คอนเปนสนั ตรงกับ
แนวขวางของดา มคอ น ผวิ หนาของคอ นเรียบ ใชสําหรับงานทว่ั ๆไปเหมือนคอนหวั กลม มีลกั ษณะ
รปู รา ง ดังรูปท่ี 1.3

รปู ที่ 1.3 ลักษณะรูปรา งของคอนหวั ขวาง
( ทมี่ า : https://www.lazada.co.th)
4.) คอนหงอน (Claw hammer) ลักษณะของคอนชนิดนี้ หวั คอนเปนงา มและโคง อยูแ นว
เดียวกับดามคอน หนาคอนผิวเรียบ สว นใหญใ ชส าํ หรับงานกอสรา งและงานทั่วๆไป เชน ตอก ตหี รอื
ถอนตะปงู านชา งกอสราง มีลักษณะรปู ราง ดังรูปที่ 1.4

รูปท่ี 1.4 ลักษณะรปู รา งของคอนหงอน
( ท่ีมา : https://www.ktw.co.th )
5.) คอนยาํ้ หมุด (Riveting hammer) ลกั ษณะของคอนชนดิ นี้ หวั คอนเหมือนคอนหัว
ขวาง หวั คอ นอยูแนวขวางกับดา มคอน หนาคอนเรยี บ ใชสาํ หรบั งานโลหะแผน งานยํา้ หมดุ มี
ลกั ษณะรปู ราง ดงั รูปที่ 1.5

รูปที่ 1.5 ลกั ษณะรปู รางของคอนยํา้ หมุด
( ทม่ี า : https://www.lazada.co.th)

6.) คอนย้าํ ตะเขบ็ (Setting hammer) ลกั ษณะของคอ นชนดิ น้ีเหมอื นกบั คอนหวั ขวาง
หวั คอ นอยแู นวขวางกบั ดา มคอน ผวิ หนา เรยี บ ท่ีปลายของหวั คอ นปากเฉียง ใชส ําหรับเคาะตะเข็บ
ในพ้นื ท่แี คบๆ และงานโลหะแผน บาง มลี ักษณะรูปราง ดังรูปท่ี 1.6

รูปท่ี 1.6 ลักษณะรปู รางของคอนย้ําตะเข็บ
( ท่ีมา : https://pantip.com )

7.) คอ นชา งเคาะ (Dining hammer) ลักษณะของคอนชนิดนหี้ ัวคอนแบนเรียบทัง้ 2ดา น
หนา คอนเรยี บ ใชส ําหรับงานซอ มตัวถังรถ เปนคอนเฉพาะทางเทานัน้ มีลกั ษณะรปู รา ง ดังรูปท่ี 1.7

รูปที่ 1.7 ลกั ษณะรปู รางของคอ นชา งเคาะ
( ที่มา : http://www.srithaihardware.com )
8.) คอ นเดนิ สายไฟฟา (Electrician hammer) ลกั ษณะของคอนชนิดน้เี หมือนคอนหัว
ขวาง หัวคอ นอยูแนวเดยี วกับดา มคอน หนา คอนเปน รปู ส่ีเหลีย่ ม ผวิ เรียบ ใชส าํ หรบั งานชางไฟฟา
เชน งานตอกตะปยู ดึ เขม็ ขัดรัดสายไฟฟาในอาคารเทา นน้ั มลี ักษณะรูปราง ดงั รูปท่ี 1.8

รปู ท่ี 1.8 ลักษณะรูปรา งของคอนเดินสายไฟฟา
( ท่มี า : https://app.builk.com )

9.) คอนปอนด (Heavy hammer) ลกั ษณะของคอ นชนิดน้ี หวั คอนเปนรปู ทรงหนาตัด
แปดเหลีย่ ม มหี ลายขนาด ต้ังแตข นาดกลางถึงขนาดใหญ มีนํ้าหนักขนาดตั้งแต 6 , 8 , 10 , 12
ปอนด ใชส าํ หรบั งานทต่ี องการแรงกระแทกสูง ๆ มีลกั ษณะรูปราง ดงั รปู ที่ 1.9

รูปท่ี 1.9 ลักษณะรปู รา งของคอนปอนด
(ทีม่ า : https://app.builk.com )
10.) คอ นพลาสตกิ (Plastic hammer) ลักษณะของคอนชนิดนี้ หวั คอ นทําดว ยพลาสติก
ใชสาํ หรบั งานเคาะโลหะแผน งานถอดประกอบชิน้ สวนเคร่ืองมือกล งานเคาะปรบั แตงช้ินสว นตา ง ๆ
มลี ักษณะรปู ราง ดังรูปที่ 1.10

รปู ท่ี 1.10 ลักษณะรปู รา งของคอ นพลาสติก
(ที่มา : thailand.cwww.homemartom/shop/unior-820 )
11.) คอ นยาง (Rubber hammer) ลกั ษณะของคอนชนดิ นี้ หวั คอนทําดวยยาง
สงั เคราะหม ีความเหนียวและยืดหยุน ไมแตกงา ย ใชส ําหรับงานเคาะข้ึนรปู โลหะแผน งานเคาะ
ปรบั แตงประกอบช้ินงานไมทําใหเ ปนรอยตําหนิ มลี กั ษณะรปู รา งดังรปู ที่ 1.11

รปู ที่ 1.11 ลกั ษณะรปู รา งของคอ นยาง
(ท่มี า : https://www.lazada.co.th )

12.) คอนอลมู ิเนียม (Aluminum hammer) ลักษณะของคอนชนิดนี้ หวั คอ นทําดว ย
อลูมเิ นียม ใชส าํ หรับงานเคาะขึน้ รปู โลหะแผน มลี ักษณะรปู รา ง ดังรูปท่ี 1.12

รูปท่ี 1.12 ลกั ษณะรูปรางของอลูมเิ นียม
(ท่ีมา : https://www.priceza.com/s )
13.) คอนทองแดง (Copper hammer) ลกั ษณะของคอนชนิดน้ี หวั คอ นทาํ ดวย
ทองแดง ใชสําหรบั งานเคาะข้ึนรูปโลหะแผน งานถอดประกอบชิน้ สวนเครอื่ งมือกล มีลักษณะ
รูปราง ดงั รูปท่ี 1.13

รูปท่ี 1.13 ลักษณะรูปรา งของทองแดง
(ทีม่ า : http://www.toolshop226.com)
1.1.2 ไขควง (Screw Drivers)
ไขควง เปนเครื่องมือท่ีใชส ําหรับขนั หรือคลายสกรูในรูปแบบตา งๆ สามารถแบง ไดตาม
ชนิดตาง ๆไดดงั นี้
1.) ไขควงปากแบน (Flat screw driver) ใชสาํ หรับขนั หรอื คลายสกรหู ัวผา รอ งตรง
ลกั ษณะรปู รา งของปากไขควงแบนน้นั ปากแบน กา นสี่เหลี่ยมหรือกลมและดา มจับกลมทําดว ย
พลาสติกหรือไม มีลักษณะรูปรางดังรปู ท่ี 1.14

รปู ท1่ี .14 ลกั ษณะรปู รา งของไขควงปากแบน
(ที่มา : http://www.hardware-thailand.com )

2.) ไขควงปากแฉก (Phillps screw driver) เปน ไขควงที่ใชส ําหรบั ขันหรือคลายสกรหู วั
แฉก ลักษณะรูปรางของปากไขควงเปนปากแฉก กานสเ่ี หล่ยี มหรือกลมและดามจบั กลมทําดว ย
พลาสติกหรอื ไม มลี ักษณะรูปรางดงั รปู ท่ี 1.15

รูปที่ 1.15 ลกั ษณะรปู รา งของไขควงปากแฉก
(ท่ีมา : http://klongthomfoodline.com )
3.) ไขควงออฟเซต (Offset screw driver) เปน ไขควงท่ีใชสาํ หรบั ขันสกรูในทแ่ี คบๆ ที่
อยตู ามซอกมุมของเครือ่ งจกั รกลตา ง ๆที่ไมสามารถใชไขควงชนิดอ่นื เขาไปขนั ได มีลกั ษณะรปู รางดัง
รูปที่ 1.16

รูปท่ี 1.16 ลกั ษณะรูปรา งของไขควงออฟเซต
(ทม่ี า : http://www.unior-thailand.com)

1.1.3 คีม (Pliers)

คมี (Pliers) เปนเครอื่ งมอื ท่ีใชสําหรับในการจับยดึ ชิน้ งาน งานตดั ช้ินงาน ซ่งึ ชางทุกคน
จาํ เปนทจ่ี ะตองเรยี นรชู นิด ลักษณะและการใชง านคีมแตละชนดิ ซ่ึงมรี ายละเอยี ดตาง ๆของคีมดังน้ี

1.) คีมปากยาว ( Long nose pliers or Needle nose pliers )หรือคีมปากแหลมหรอื
คมี ปากจิ้งจก ลักษณะของคีมชนดิ นป้ี ลายปากจบั ยดึ จะแหลมยาว ใชส ําหรบั จบั ยึดชน้ิ งานขนาดเลก็
การถอดประกอบชิ้นสวนเครื่องจักรกลในทแี่ คบๆ มลี ักษณะรูปรา งดังรูปที่ 1.17

รูปท่ี 1.17 ลักษณะรูปรางของคมี ปากยาวหรอื คีมปากจ้ิงจก
(ทมี่ า : http://www.teak-tools.com)

2.) คีมปากผสม (Combination pliers) เปนคมี ออกแบบปากจับใหสามารถทํางานได
หลายอยา ง เชน จบั ยึดงานโลหะแผน งานกลม และตัดเสนลวดขนาดเล็กๆและตดั สายไฟฟา เปนตน
มลี กั ษณะรูปรา งดังรปู ท่ี 1.18

ดังรปู ที่ 1.18 ลกั ษณะรปู รา งของคมี ปากผสม
(ท่ีมา : https://www.knipex.com)

3.) คมี ตดั (Cutting plies) เปนคมี ท่ีออกแบบใชส ําหรับงานตดั เสน ลวดขนาดเลก็ ๆ และ
ตัดสายไฟฟา เปนตน มีลักษณะรปู รา งดังรปู ที่ 1.19

รปู ท่ี 1.19 ลักษณะรปู รา งของคมี ตัด
(ที่มา : https://sites.google.com/site/wbi4pltc )
4.) คมี ปากขยายแบบปรับระยะจดุ หมนุ (Slip joint pliers) เปนคมี ที่ออกแบบให
สามารถปรบั ขยายปากคีมไดโดยมีสลกั เล่ือนบังคับ ใชสาํ หรบั จบั ยดึ ช้ินงานกลมและงานทอ เปน ตน
มีลกั ษณะรปู รางดังรปู ที่ 1.20

รปู ท่ี 1.20 ลกั ษณะรปู รางของคมี ปากขยายแบบปรับระยะจดุ หมุน
( ท่ีมา : http://www.hardware-thailand.com )

5.) คมี ปากขยายแบบปรบั ระยะเล่ือนตามแนวรอ ง (Groove joint pliers) เปน คมี ที่
ออกแบบใหสามารถปรบั ขยายไดโ ดยการเลือ่ นปรับระยะรอง ใชสําหรับจบั ยดึ งานกลมและงานทอ
เปนตน มีลักษณะรปู รา งดังรูปที่ 1.21

รูปที่ 1.21 ลกั ษณะรูปรา งของคมี ปากขยายแบบปรบั ระยะตามแนวรอง
( ท่มี า : http://arif4374.blogspot.com )

6.) คีมปากนกแกว (Pincers) เปน คมี ทอี่ อกแบบสวนปลายของปากคีมเปนคมตัดและมี
ลักษณะรูปวงรีคลา ยปากนกแกว ใชส าํ หรับกับงานตดั เสน ลวดและงานถอนตะปขู นาดเล็กๆ เปนตน
มีลกั ษณะรปู รางดังรปู ที่ 1.22

รปู ที่ 1.22 ลักษณะรูปรางของคีมปากนกแกว
(ท่มี า : http://xn--42cg2fg4cc0ed8e3d)
7.) คีมล็อก (Vise grip pliers or Locked grip pliers) เปนคีมทใี่ ชง านอเนกประสงค
ปากจับยึดสามารถปรับขยายไดโ ดยการปรับเกลยี วทดี่ า มคมี ใชส ําหรบั จับยึดงานกลม งานเหลยี่ ม
ปากจับยดึ ของคีมมหี ลายลักษณะ เชน คมี ลอ็ กปากตรง คีมล็อกปากโคง คีมล็อกปากยาว คมี ล็อก
งานเช่ือม คมี ล็อกงานโลหะแผน และคีมล็อกลกู โซ เปน ตนมีลักษณะรปู รา งดังรปู ที่ 1.23

รูปท่ี 1.23 ลกั ษณะรปู รางคีมลอ็ กแบบปากตรง
(ทม่ี า : https://www.ktw.co.th)

รปู ท่ี 1.2 ลกั ษณะรปู รา งคีมล็อกแบบปากโคง
(ทีม่ า : https://www.ktw.co.th )

8.) คมี ปอกสายไฟฟา (Electrical wire stripping and Terminal crimping pliers)
เปนคีมทใ่ี ชสาํ หรับปอกฉนวนหุมสายไฟฟา มีลักษณะรปู รา งดังรปู ที่ 1.24

รปู ที่ 1.24 ลกั ษณะรูปรา งคีมปอกสายไฟฟา
(ทม่ี า : http://xn--42cgal6e3bcejc5bi6ec0fuddy2lzgg7e.net)
9.) คีมบบี สายไฟฟา (Crimp tool) เปน คีมทใ่ี ชบบี สายไฟฟา มลี กั ษณะรปู รางดังรูปที่1.25

รปู ที่ 1.25 ลักษณะรปู รา งคมี บบี สายไฟฟา
(ทีม่ า : http://www.homemart-thailand.com )
10.) คมี ถางแหวน (Outside pliers) เปน คมี ทีใ่ ชถา งแหวน มีลกั ษณะรูปรางดงั รูปที่ 1.26

รูปที่ 1.26 ลักษณะรูปรางคมี ถางแหวน
(ที่มา : http://www.unior-thailand.com)
11.) คมี หนีบแหวน (Inside pliers) เปน คมี ท่ีใชหนีบแหวน มลี กั ษณะรูปรา งดงั รูปที่ 1.27

รปู ที่ 1.27 ลักษณะรปู รา งคมี หนีบแหวน
( ท่มี า : https://thai.webike.net/products/2133034.html )

1.1.4 ประแจ (Wrench)
ประแจ ( Wrench ) เปนเครื่องมือที่ใชช วยในการถอดและประกอบชน้ิ สว นเคร่อื งจักรกล

ทีจ่ บั ยดึ ดวยเกลยี วเพ่ือแยกชิ้นสวนออกจากกนั ประแจสามารถแบงชนดิ ตางๆไดด งั นี้
1.) ประแจปากตาย ( Open ended wrench ) ปากของประแจชนดิ นี้จะมลี ักษณะเปน

ตวั ยู และเอียงทํามมุ กับดา มประแจ 15–20 องศามีอยู 2 แบบดวยกนั คือ แบบประแจปากตายดา น
เดยี วและประแจปากตายสองดา น แตปจจุบนั นีน้ ิยมใชประแจปากตายสองดา นมากกวา เพราะวา
สามารถเลือกใชงานไดส องขนาดในประแจตวั เดียวกัน ดังในรปู ที่ 1.28 และรปู ที่ 1.29

รปู ท่ี 1.28 ประแจปากตายดานเดยี ว
(ที่มา : http://www.shopatsmart.com )

รูปท่ี 1.29 ประแจปากตายสองดา น
(ทมี่ า : w.tools-thwwailand.com )
2.) ประแจแหวน ( Box wrench ) ลักษณะปากของประแจแหวนจะเปน รปู วงแหวน
ดานในเปน สิบสองเหล่ยี ม ลําตวั จะงอเล็กนอย และดามของประแจจะออกแบบใหเ ย้ืองกันระนาบกบั
ปากของประแจทาํ มมุ กัน 15 องศา และมตี วั เลขบอกขนาดของประแจในดามประแจท้งั สองขาง นยิ ม
นาํ ไปใชถอดประกอบช้นิ สว นท่แี คบๆและสามารถรบั แรงไดดีกวา ประแจปากตายเน่ืองจากเวลา
นาํ ไปใชง านตัวประแจแหวนจะครอบหัวสลักเกลยี วหกเหล่ียมและแปน เกลยี วทุกๆดานชวยรกั ษาผวิ
ชองหวั สลกั เกลียวหกเหล่ียมและแปนเกลยี วไดดีกวาและความเสยี หายเกิดข้ึนนอยกวา การใชป ระแจ
ปากตาย มีลกั ษณะรูปรางของประแจ ดงั รูปที่ 1.30

รูปท่ี 1.30 ลักษณะรปู รา งประแจแหวน
(ท่มี า : https://www.priceza.com )

3.) ประแจปากผสม (Combination wrench ) เปน ประแจดา นหนึง่ เปน ประแจปากตายอกี
ดา นหนง่ึ เปน ประแจแหวน และมีขนาดเบอรเดียวกนั อยทู ้ังขา ง ทําใหส ะดวกในการเลือกนําไปใชง าน
นยิ มใชงานเปนชดุ ๆ มลี ักษณะรปู รางดังรปู ที่ 1.31

รปู ที่ 1.31 ลกั ษณะรูปรางประแจปากผสม
(ทมี่ า : http://www.tools-thailand.com )
4.) ประแจบล็อก ( Socket wrench ) เปนประแจทมี่ หี ลายขนาดเก็บไวใ นกลองอยใู นชดุ
เดียวกัน และพรอมดามตออยูในชุดเดียวกัน สวนมากนาํ ไปใชข นั ชิ้นงานในที่แคบๆ เชน งานซอม
รถยนต งานซอมเคร่ืองจกั รกล เปนตน มีลักษณะของประแจดังในรูปที่ 1.32

รปู ที่ 1.32 ลกั ษณะรปู รางประแจบลอ็ ก
(ที่มา : https://www.lazada.co.th )
5.) ประแจเลือ่ น ( Adjustable wrench ) เปน ประแจทีส่ ามารถปรบั ขนาดของปากไดตาม
ขนาดความโตของหวั สลกั เกลียว ตงั้ แตข นาดเลก็ สดุ จนถึงขนาดใหญส ดุ ของประแจเลื่อนทส่ี ามารถ
ปรับได ในการประแจเล่ือนนั้นจะตอ งใชความระมัดระวังเปน พิเศษ ถา หากปรบั ขนาดปากของประแจ
เลอ่ื นไมพอดกี ับหัวสลกั เกลยี วแลว เวลานําไปใชงานจะทําใหหวั สลักเกลยี วเกดิ ความเสยี หายได
ดังนั้นเวลานาํ ประแจเล่อื นไปใชงานควรพจิ ารณาใหดีๆและใชในกรณที ่มี ีความจําเปน ทไ่ี มสามารถหา
ประแจชนิดอ่ืนๆมาใชไ ดแ ลวเทานน้ั มีลักษณะรูปรางดงั รปู ท่ี 1.33

รูปที่ 1.33 ลักษณะรปู รา งประแจเล่ือน
(ทีม่ า : http://www.tools-thailand.com )

6.) ประแจจบั ทอ (Pipe wrench ) เปน ประแจที่ใชสําหรับจับทอ ขนาดเลก็ ๆและขนาด
ใหญ ๆ เชน ทอประปา ทอ ลม มลี ักษณะรปู รา งดังรูปที่ 1.34

รูปท่ี 1.34 ลกั ษณะรูปรางประแจจับทอ
(ท่มี า : https://www.rr-naradie.sk )
7.) ประแจขอหรอื ประแจคอมา (Hook spanner wrench ) ลักษณะของสวนปลายของ
ประแจมีขอเกยี่ วเพื่อใชสําหรับชวยในการยดึ แปน เกลียวฝาครอบจับยึดดอกกดั บนเครอ่ื งกดั มีทงั้
แบบปรับไดและปรบั คงที่ มลี ักษณะรปู รางดังรูปที่ 1.35 และ 1.36

รูปท่ี 1.35 ลักษณะรูปรา งประแจขอหรอื ประแจคอมาแบบปรับได
(ท่ีมา : http://www.kitcha.com )

รปู ท่ี 1.36 ลกั ษณะรูปรางประแจขอหรอื ประแจคอมาแบบคงที่
ท่มี า : (https://www.tpqtools.co.th )

8.) ประแจแอล (Allen wrench ) มลี กั ษณะรปู รางเปนตวั แอล (L) และหนา ตดั เปน รูปหก
เหลีย่ มดานเทาและแบบหัวบอล มขี นาดเปน ชุดๆและในหนึง่ ชดุ จะมหี ลายขนาด เพื่อสําหรบั ในการ
เลือกนําไปใชง านตามขนาดท่ีตองการ มีลกั ษณะรูปรา งดังรปู ที่ 1.37

รูปที่ 1.37 ลักษณะรูปรา งประแจแอล
(ทีม่ า : http://www.homemart-thailand.com )

1.1.5 สกัด ( Chisel )
สกัด (Chisel) เปน เคร่ืองมอื ตัดชนดิ หนึง่ ทใ่ี ชส ําหรบั สกดั ตัดชน้ิ งานใหแยกขาดจากกัน

หรือใชใ นการเซาะรองตา งๆของชิ้นงาน สกัดมลี กั ษณะรูปรางเปน แทงหกเหลยี่ มหรอื แทงกลมแต
ปลายแบนลับเปนมุมคมตัดที่มีขนาดมุมคมตดั ท่แี ตกตางกันออกไปขน้ึ อยูกับแตละชนิดของสกัดนัน้ ๆ
ดังน้ี

1.) สกัดปากแบน ( Flat chisel ) มลี กั ษณะปลายแบน มีมุมคมตดั 60-70 องศา ลาํ ตัว
สเ่ี หลี่ยม หกเหลี่ยม หรือ กลม ใชสาํ หรบั สกัดตดั ชิน้ งานโลหะแผน สกัดตดั หวั ยา้ํ หมุด เปน ตน มี
ลกั ษณะรปู รางดังรปู ท่ี 1.38

รปู ท่ี 1.38 ลักษณะรปู รางสกัดปากแบน
(ทม่ี า : http://www.homemart-thailand.com )
2.) สกัดปากจิ้งจก ( Cape chisel ) ลกั ษณะลาํ ตัวของสกัดเปนรูปทรงหกเหล่ียม
ส่เี หลย่ี ม หรือกลม ปากสกัดแบนเรยี บ ดานขา งของปลายสกัดเรยี วไปถงึ ปลายแหลมคมตัด ใช
สําหรับเซาะรองเลก็ ๆของชนิ้ งาน หรอื งานเซาะรอ งล่ิม มลี ักษณะรปู รางดงั รูปที่ 1.39

รปู ที่ 1.39 ลักษณะรปู รา งสกัดปากจ้ิงจก
(ทม่ี า : http://www.homemart-thailand.com )
3.) สกัดปากเฉยี งหรือปากเหลี่ยม ( Diamond point chisel ) ลกั ษณะของปากสกดั เปน
รูปทรงสเี่ หล่ียมแบนเรยี วไปถึงปลายคมสกดั ตัดเฉยี งใหมีคมเปน รปู ตวั V ใชสําหรบั งานเซาะรอง มี
ลักษณะรูปรางดงั รูปที่ 1.40

รูปท่ี 1.40 ลักษณะรปู รางสกัดปากเฉียง
(ทมี่ า : https://www.edfast-online.com )

4.) สกัดปากกลม ( Round nose chisel )ลักษณะของปากสกดั กลมเรียว สวนปลายสดุ
ลบั ตดั เฉยี งเปนคมตดั ลาํ ตัวเปนรปู ทรงหกเหลย่ี ม สี่เหล่ยี ม หรอื กลม ใชส ําหรับงานเซาะรอ งโคง ของ
ช้ินงาน มีลักษณะรูปรา งดงั รูปท่ี 1.41

รูปท่ี 1.41 ลักษณะรปู รา งสกัดปากกลม
(ทีม่ า : https://www.tpqtools.co.th )
1.1.6 เหลก็ ตอกนาํ ศูนย ( Center punch )
เหล็กตอกนําศูนย ( Center punch ) ลักษณะเปนแทง รูปทรงกลมหรือทรงหกเหลีย่ ม
ปลายดา นหน่งึ กลมเรยี ว มมี ุมแหลม 60 องศา ใชสําหรับตอกนาํ ศนู ยชิน้ งานกอนทําการเจาะรู มี
ลักษณะรูปรา งดงั รูปท่ี 1.42

รูปท่ี 1.42 ลักษณะรูปรา งเหล็กตอกนําศูนย
(ท่มี า : https://www.zoro.com )

1.1.7 ปากกาจบั ช้นิ งาน (Bench vise)
ปากกาจบั ช้ินงาน (Bench Vise) เปนอุปกรณท ี่ใชส ําหรับชว ยในการจับยึดชิน้ งาน

เวลาปฏิบัติงานบนเคร่อื งมือกล เชน งานจับยึดช้นิ งานบนบนเครือ่ งเจาะ งานจบั ยดึ ช้นิ งานบน
เครื่องกัด งานจบั ยดึ ช้นิ งานบนเครื่องเลื่อย งานจบั ยึดชนิ้ งานบนเครอ่ื งไส เปน ตน สามารถแบงชนดิ
ตางๆของปากกาจบั งานมดี งั น้ี

1.) ปากกาจบั งานทยี่ ดึ บนโตะ งาน เปน ปากกาจบั งานที่ยึดติดอยกู บั โตะฝกงานตาม
โรงงาน ใชสําหรบั ชว ยในการจบั ยดึ ชิน้ งาน เชน งานเลอ่ื ย งานตะไบ งานตกแตง ผวิ ชิน้ งาน งานตา ป
เกลยี ว งานดายเกลียว งานสกัด เปน ตน มีลกั ษณะรูปรางดงั รปู ที่ 1.43

รปู ที่ 1.43 ลกั ษณะรูปรา งปากกาจับงานบนโตะงาน
(ทม่ี า : https://www.ktw.co.th )

2.) ปากกาจบั งานท่ีใชกบั เครื่องมือกล เปนปากกาจบั งานท่ีใชส าํ หรับจบั ยดึ ชิน้ งานบน
เคร่อื งมอื กล เชน การจบั ยดึ ชน้ิ งานดว ยปากกาจับงานบนเครอื่ งเจาะ การจับยดึ ชิ้นงานกัดดว ย
ปากกาจับงานบนเคร่ืองกัด และการจับยึดชน้ิ งานไสดวยปากกาจบั งานบนเครื่องไส เปนตน
มลี ักษณะรปู รางดังรปู ท่ี 1.44

รูปที่1.44 ลกั ษณะรปู รางปากกาจับงานบนเคร่ืองมือกล
(ที่มา : https://www.nanasupplier.comX

1.1.8 เลื่อยมือ (Hacksaw)
เลื่อยมอื (Hacksaw) ลกั ษณะโครงเลอ่ื ยมือเปน โลหะยาวประมาณ 45 เซนติเมตรและ

กวา ง 13 เซนตเิ มตร มดี า มจับคลายดามปน มีลักษณะรปู รางดังรูปที่ 1.45

รูปท่ี1.45 ลักษณะรปู รางเล่ือยมอื
(ท่มี า : http://www.baanlaesuan.com )

1.2 สวนประกอบและการใชง านของเคร่อื งมือขนาดเล็ก

1.2.1 คอน (Hammer)
คอน เปนเครื่องมือขนาดเลก็ ชนดิ หนึ่ง ใชสําหรบั เพื่อตอกถอดประกอบช้นิ สว นเครื่องจกั รในงาน
ซอ มบาํ รงุ ตอกรหัสหมายเลขช้นิ งาน ตอกสกัดตดั ชน้ิ งาน ตอกดอกเจาะนาํ ศูนยชิ้นงาน ประกอบดว ย
สวนสําคญั 6 สวน คอื

1.) หวั คอน คือ สว นหัวของคอน ทําดวยวัสดุจําพวกเหลก็ ทองแดง อลมู เิ นยี ม พลาสตกิ
ยาง และไม

2.) ดามคอน คือ สวนท่ีสวมอยใู นรขู องหัวคอ น ทําดวย ไมหรอื พลาสตกิ
3.) ลม่ิ คอื สว นทตี่ อกอดั แนนตรงสวนปลายของดามคอนทส่ี วมอยกู ับรขู องหัวคอน
4.) รคู อน คอื สว นทใ่ี ชสาํ หรับสวมดา มคอน
5.) หนา คอ น คอื สวนท่ีอยดู านหนาของหัวคอนมีไวสําหรบั ใชตชี น้ิ งาน
6.) คอ คือ สวนท่ีอยูร ะหวา งหัวคอนกบั ลาํ ตวั ของคอน

หวั ค้อน คอ ด้าม

ลม่ิ

หน้าค้อน รูค้อน

รูปที่ 1.45 สว นประกอบของคอน
(ท่ีมา : https://www.google.co.th

1.2.2 ไขควง(Screw drivers)
ไขควง เปน เคร่ืองมือขนาดเลก็ ใชสําหรับขันหรอื คลายสกรูในรูปแบบตางๆ ดังนั้นใน

การเลือกไขควงไปใชงานนน้ั จะตองเลือกปลายไขควงใหถูกตอ งกบั ชนิดและขนาดของหวั สกรทู ข่ี นั ซ่งึ
ประกอบดวยสว นสําคัญ 3 สวน คือ

1.) ดาม
2.) กาน
3.) ปากไขควง

ปากไขควง ก้าน ด้าม

รูปที่ 1.46 สวนประกอบของไขควง
(ท่ีมา : http://www.hardware-thailand.com ) )

1.2.3 คีม(Pliers)

คมี เปน เครื่องมือขนาดเล็ก ใชส ําหรับในการจับยึดชน้ิ งาน งานตัดชิ้นงาน ซ่ึงชางทุกคน

จําเปนที่จะตองเรียนรู ประกอบดว ยสวนสําคญั 3 สวน คอื

1.) ดามคมี

2.) ปากคมี

3.) สลกั ยดึ

ปากคมี สลกั ยดึ

ด้ามคีม

รปู ที่ 1.47 สว นประกอบของคมี
(ท่ีมา : https://www.google.co.th
1.2.4 ประแจ (Wrench)
ประแจ เปน เคร่ืองมือขนาดเล็ก ที่ใชช ว ยในการถอดและประกอบชน้ิ สว นเครื่องจักรกล
ตางๆที่จับยึดดวยเกลียวเพ่ือแยกชน้ิ สว นใหอ อกจากกนั ซง่ึ มีสว นประกอบทสี่ าํ คัญ 2 สว น คอื
1.) ปากประแจ
2.) ตวั ประแจ

ปากประแจ

ตวั ประแจ

รูปที่ 1.48 สว นประกอบของประแจ
(ทม่ี า : https://www.google.co.th

1.2.5 สกดั (Chisel)
สกดั เปนเครื่องมือขนาดเล็ก ชนดิ หนง่ึ ท่ีใชสาํ หรับสกดั ตัดช้นิ งานใหแ ยกขาดจากกนั หรอื

ใชใ นการเซาะรอ งตา งๆของช้ินงาน มีสว นประกอบทสี่ ําคัญ 3 สวน คอื
1.) ลาํ ตวั สกดั
2.) ดา มจบั สกัด
3.) คมสกัด

ลาํ ตวั สกดั ด้ามจบั สกดั

คมสกดั

รปู ท่ี 1.49 สว นประกอบของสกดั
(ท่มี า : http://www.homemart-thailand.com )

)
1.2.6 เหลก็ ตอกนาํ ศนู ย (Center Punch )

เหลก็ ตอกนําศูนย เปนเคร่ืองขนาดเล็กใชสาํ หรบั ตอกนาํ ศูนยต าํ แหนง ชิน้ งานกอนทาํ การ
เจาะรู มสี วนประกอบทสี่ าํ คัญ 2 สวน คอื

1.) ดามจับ
2.) ปลายเหล็กตอกนําศนู ย

ปลายเหลก็ ตอกนาํ ศนู ย์ ด้ามจบั

]

รปู ท่ี 1.50 สวนประกอบของเหล็กตอกนําศนู ย
(ทม่ี า : https://www.zoro.com )

1.2.7 ปากกาจบั งาน (Bench Vise)
ปากกาจับงาน (Bench Vise) เปนเครอ่ื งมือท่ีใชช วยในการจบั ยึดชนิ้ งานเวลาปฏิบัติงาน

บนเคร่ืองมอื กลตางๆ หรอื การจับยดึ ช้ินงานตะไบบนโตะปากกาจบั งาน การเล่อื ยชิ้นงานตาง ๆบน
โตะ ปากกาจับงาน มีสวนประกอบท่สี าํ คัญ 4 สวน คอื

1.) ปากจบั ชิ้นงาน
2.) แกนเกลยี วปากกาจับงาน
3.) มือหมุนเกลียวปากกาจับงาน
4.) ตัวปากกา

มอื หมนุ เกลยี วปากกาจบั งาน ปากจบั ชิน้ งาน ตวั ปากกา

แกนเกลยี วปากกาจบั งาน

รูปท่ี 1.51 สวนประกอบของปากกาจับงาน

(ที่มา : https://www.ktw.co.th )

1.2.8 เลื่อยมือ (Hacksaw)

เลอื่ ยมอื (Hacksaw) เปน เครื่องมือขนาดเล็กท่ีใชส าํ หรบั ชวยในการตัดชนิ้ งาน มี

สวนประกอบ 4 สว น คือ

1.) โครงเลอื่ ย มีไวส ําหรับประคองใบเล่ือยกบั ดา มจบั

2.) ดามจบั มีไวสําหรับใหม อื จบั เลอื่ ยชิน้ งาน

3.) สกรูปรบั ใบเลอื่ ย มีไวสําหรับขันตงึ ใบเล่ือยใหต งึ

4.) ใบเลื่อย มไี วสําหรับเลือ่ ยตัดชน้ิ งาน

โครงเลอ่ื ย ด้ามจบั

สกรูปรับใบเลอื่ ย

รปู ที่ 1.51 สวนประกอบของเลอ่ื ยมือ
(ทม่ี า : : http://www.baanlaesuan.com )

1.3 ขอ ควรระวงั ในการใชและการบํารงุ รักษาเครื่องมอื ขนาดเลก็

1.3.1 ขอควรระวงั ในการใชและการบํารงุ รักษาคอ น
1.) ตรวจสอบสภาพคอนกอนใชง าน เชน ดา มหลวม หนาคอนบนิ่ หรอื แตกราวถาพบสง่ิ

เหลาน้ีหา มนาํ ไปใชง าน ใหดําเนินการซอมแซมกอนนําไปใชง าน
2.) เลือกคอนใหเหมาะสมกบั ลกั ษณะงานที่ทํา
3.) การจับคอนจะตองจับทสี่ วนปลายของดามคอน
4.) หลังจากปฏบิ ตั ิงานเสร็จแลวจะตอ งทําความสะอาดคอนและเก็บเขา ทใ่ี หเรียบรอ ย

1.3.2 ขอควรระวังในการใชและการบาํ รุงรกั ษาคมี
1.) ตรวจสภาพของคมี กอนนําไปใชงาน
2.) หา มใชคีมทช่ี าํ รดุ
3.) เลือกขนาดของคมี ใหถูกตองกบั ลักษณะงาน
4.) หามใชคอนตอกบนคีมหรือตอดา มคมี
5.) หลังจากปฏบิ ัตงิ านเสร็จแลว ใหท ําความสะอาดคีม แลว เก็บเขา ทใ่ี หเ รียบรอ ย

1.3.3 ขอ ควรระวังในการใชแ ละการบํารงุ รักษาไขควง
1.) ตรวจสภาพความสมบูรณของไขควงกอนนําไปใชงาน เชน ปลายไขควงตองไมมีรอย

เยนิ หรอื รอยบ่ิน กา นไมคดงอ ดา มไมม รี อยแตกราว เปน ตน
2.) เลือกชนดิ และขนาดของไขควงใหถูกตองเหมาะสมกับลกั ษณะของงาน
3.) หามใชไขควงงัดชน้ิ งาน หรอื ตอกใชแ ทนสกัด
4.) ขณะขนั ยึดสกรหู ามใชมอื จับช้ินงาน เพราะปลายไขควงอาจหลุดออกจากรอ งหัวสกรู

ทม่ิ มือผูป ฏบิ ัติงานได
5.) หลงั จากปฏิบัตงิ านเสรจ็ แลว ใหทําความสะอาดไขควงและเกบ็ เขา ที่ท่จี ดั ไวใหเรยี บรอ ย

1.3.4 ขอควรระวังในการใชและการบํารุงรกั ษาประแจ
1.) ตรวจสภาพปากของประแจกอนนําไปใชงานทกุ ครัง้ หามใชประแจทีช่ ํารดุ
2.) เลือกชนดิ และขนาดของประแจใหพอดีกับหัวสลกั เกลยี ว
3.) หา มใชค อนตอกบนประแจหรือใชดามตอประแจ
4.) การขนั ประแจใหแ นนหรือคลายออกตองใชวธิ ีดงึ เขา หาตวั เสมอ
5.) การใชป ระแจเลือ่ นชนิดปรับไดจะตอ งปรบั ปากประแจใหพ อดกี ับหัวสลักเกลยี ว
6.) หลงั จากปฏิบัตงิ านเสรจ็ แลว ใหทาํ ความสะอาดประแจและเกบ็ เขาที่ใหเ รียบรอ ย

1.3.5 ขอ ควรระวังในการใชแ ละการบํารุงรักษาสกดั
1.) ตรวจสอบสภาพสกัดกอ นนาํ ไปใชงาน หา มใชสกดั ทช่ี าํ รดุ อาจเกดิ อนั ตรายในขณะ

ปฏบิ ตั ิงาน
2.) จับสกัดดว ยมือใหถ ูกวธิ ีโดยทํามุมเอยี งแนวระดบั ประมาณ 30 องศา
3.) สวมแวน ตานริ ภัยขณะท่ีทาํ การสกดั ชิน้ งาน
4.) มีฉากเพ่ือปอ งกนั ไมใหเศษที่เกิดจะการสกัดกระเดน็ ไปถูกผรู วมงาน
5.) ขณะใชคอนตอกท่ีหวั สกดั สายตามองท่ีปลายคมตดั สกัด
6.) หลังจากปฏบิ ตั ิงานเสร็จแลว จะตอ งทําความสะอาดสกัดและจดั เกบ็ เขาทีใ่ หเ ปน

ระเบยี บเรยี บรอ ย
1.3.6 ขอควรระวงั ในการใชและการบาํ รุงรกั ษาเหลก็ ตอกนาํ ศนู ย
1.) ตรวจสอบสภาพเหลก็ ตอกนําศนู ยก อนใชง านทุกคร้ัง
2.) ไมนาํ เหล็กตอกนาํ ศูนยไ ปตอกชิน้ งานท่ีมีความแขง็ มากๆเพราะจะทําใหป ลายเหล็ก

ตอกนาํ ศูนยเ สยี ท่ือและเสยี หาย
3.) ถา ปลายเหลก็ ตอกนาํ ศูนยไมคมตองนาํ ไปลบั ใหคมกอ นนําไปใชงาน
4.) หลงั เลิกใชงานแลวตอ งทําความสะอาดจัดเก็บเขา ท่ใี หเ รียบรอยดวยทุกคร้ัง

1.3.7 ขอควรระวงั ในการใชและการบํารงุ รกั ษาปากกาจับงาน
1.) ตรวจสอบสภาพของปากกาจบั งานกอนใชงานทุกครัง้ เชน ปากจับยึดปากกาจับงาน

ตอ งไมชํารุด
2.) ไมเชอ่ื มไฟฟาหรือแก็สบนปากกาจับงานเพราะจะทําใหป ากของปากกาจับงานเสยี หาย
3.) ไมตอกหรือสกัดงานบนปากกาจับงานทเ่ี กินกาํ ลังที่จะรบั ได
4.) การขนั เกลียวปากกาจับงานหามใชค อนตอกแขนหมุน ใหใ ชมือหมนุ ชนั อยางเดยี ว
5.) หยอดน้าํ มนั สวนท่ีเปนเกลียวหมนุ ของปากกาจับงาน
6.) หลงั เลิกทาํ งานเสร็จแลวใหทาํ ความสะอาดทุกครง้ั แลวหมนุ ปากกาจับงานเขาท่ใี หอยใู น

สภาพทเี่ รยี บรอ ย
1.3.8 ขอควรระวงั ในการใชและการบํารุงรกั ษาเลือ่ ยมือ
1.) ตรวจสอบสภาพความพรอ มของเลื่อยมือกอ นนาํ ไปใชง าน เชน ฟนของใบเล่อื ยสมบูรณ

หรอื ไม การใสใ บเลือ่ ยถกู ทิศทางการเล่ือยหรือไม

2.) เลือกขนาดระยะพิตซหรือจํานวนฟน ตอน้ิวของใบเล่ือยใหถ ูกตองเหมาะสมกับชิ้นงานที่
จะเล่ือย

3.) การประกอบใบเล่ือยเขากบั โครงเล่ือยใหถูกตองและขนั ใบเล่ือยมือใหด งึ พอดี
4.) จบั ยึดช้ินงานท่ีตองการเลอ่ื ยใหมั่นคงและแข็งแรง
5.) การเรมิ่ ตน เลือ่ ยชนิ้ งานใหฟ น ใบเล่ือยเอียงทํามุม 10 องศากบั ผวิ หนา ของชิ้นงาน แลว
เรม่ิ เลื่อยชา ๆอยางสมาํ่ เสมอ
6.) ขณะเลื่อยชนิ้ งานควรชกั โครงเล่ือยตลอดความยาวของใบเลือ่ ยเพือ่ ใหฟนของใบเล่ือยสกึ
หรอเทาๆกนั
7.) เมอื่ เลื่อยชิน้ งานใกลจะขาดจากกนั ใหลดความเรว็ การชกั และลดแรงกดใบเลือ่ ยลง
8.) ในขณะทาํ การเลื่อยช้นิ งานอยาบิดหรือกระแทกโครงเล่ือย อาจทําใหใ บเลื่อยหกั ได
9.) เม่อื เลิกใชง านใหค ลายสกรูนอตหางปลาออกเล็กนอย เพ่ือชวยคลายความดงึ ใบเลื่อยให
อยูในสภาพปกติ
10.) เม่ือเลิกปฏบิ ตั งิ านแลว ใหท ําความสะอาด หยอดนา้ํ มันสกรูหางปลาและนอตแลว เก็บ
เขา ท่ใี หเ รยี บรอย

1.4 กระบวนการใชง านของเคร่อื งมือขนาดเลก็

กระบวนการใชงานของเคร่ืองมอื ขนาดเล็กท่ีใชในงานชา งเครื่องมือกลมดี ังตอไปน้ี
1.4.1 คอ น ใชม อื ขา งขวาจบั ท่สี วนปลายของดา มคอนแลวใชแ รงตอกลงไปในช้ินงานโดยใหสวน
หนาของคอ นไปสมั ผสั กบั ตาํ แหนง จดุ ของชิ้นงานท่ตี องการตอก
1.4.2 ไขควง ใชมือขา งขวาจับทีด่ า มของไขควง และใหปลายปากของไขควงอยใู นตาํ แหนง รอง
ของหวั สกรทู ต่ี องการขันแลว ใชแรงกดพรอมขนั สกรูเขา หรือคลายสกรูออกตามทต่ี องการ
1.4.3 คมี ใชมือขวาจบั ท่ดี ามทัง้ สองขา งของคีมแลว นาํ ไปบีบจบั ยึดช้ินงานทีต่ อ งการจับยึด
1.4.4 ประแจ ใชม ือขา งขวาจบั ทกี่ า นของประแจแลวนาํ ปากของประแจสวมใสกับเหลยี่ มหวั สก
รทู ี่ตอ งการขนั แลวทาํ การหมนุ ขันสกรูจบั ยึดเขาหรือคลายออกตามทต่ี อ งการ
1.4.5 สกดั ใชมือซา ยจบั ที่ดา มสกัด สว นมือขวาจับดามคอนและใหป ากสกดั ไปจดุ ตรงตาํ แหนง
จุดที่ตอ งการสกัดของชน้ิ งานออก ใชคอนตอกลงไปตรงหัวของสกัด

1.1.6 เหลก็ ตอกนําศนู ย ใชมือซายจบั ท่ีลาํ ตวั ของเหล็กตอกนําศนู ย สวนมอื ขวาจบั คอน แลว
ใหปลายเหลีย่ มแหลมของเหล็กตอกนาํ ศูนยว างลงไปในตาํ แหนงจุดของชิน้ งานทต่ี องการตอกนําศูนย
แลว ใชคอนตอกตรงสว นหวั ของเหลก็ ตอกนําศูนย

1.4.7 ปากกาจับงาน ใชมือซายจบั ชิน้ งานใสเ ขาไปในปากจับยึดของปากกาจบั งานท้ังสองชา ง
แลว ใชมอื ขวาหมนุ เกลยี วจับยึดไปในทิศทางตามเขม็ นาฬิกาเพอ่ื บบี ชิ้นงานใหแ นน

1.4.8 เลอ่ื ยมอื ใชมือขวาจบั ท่ีดามจับของเลื่อยมือและใชม ือซา ยจับที่โครงเลื่อยดา นหนา แลว
นาํ เล่อื ยมือไปเลื่อยช้นิ งานท่จี ับยึดดว ยปากกาจบั งานโดยใชแ รงกดดันไปขางหนาเพ่ือทาํ การเล่ือยตดั
ช้นิ งาน และเวลาชักกลับไมต องออกแรงกด

หนว ยท่ี 3
เครื่องเจาะ

หวั ขอเร่ือง (Topics)

1 ชนิดของเครื่องเจาะ
2 สว นประกอบท่ีสาํ คัญของเคร่ืองเจาะ
3 หลักการทาํ งานของเครื่องเจาะ
4 เครื่องมอื และอุปกรณทใี่ ชในงานเจาะ
5 กระบวนการทํางานของเครื่องเจาะ
6 การบาํ รุงรักษาเครื่องเจาะ

แนวคิดสําคญั (Main Iden)

เคร่ืองเจาะ เปนเครื่องจักรกลพืน้ ฐานชนิดหน่งึ ที่มีความสําคญั และมีความจําเปนที่ตอ งใชใ น
งานอุตสาหกรรมการผลิตช้ินสว นเคร่ืองจักรกล ในการเจาะรูของช้นิ สวนเครื่องกลตา งๆ นน้ั กต็ อ ง
อาศยั เคร่ืองเจาะชวยในการเจาะรู ดงั น้ันผูเรยี นจะตองเรยี นรูเ กี่ยวกบั ชนดิ สวนประกอบ หลักการ
ทํางาน การบํารุงรักษาเคร่ืองมอื อปุ กรณและกระบวนการทํางานบนเครื่องเจาะแตละชนิด

สมรรถนะยอย (Element of Competency)

1. แสดงความรเู กย่ี วกับช่ือ ชนิด สว นประกอบ หลกั การทาํ งาน การบาํ รุงรักษาและกระบวน
ทาํ งานบนเคร่ืองเจาะตา งๆได

2. มีเจตคติที่ดี มกี จิ นสิ ยั ทดี่ ี มีความรับผดิ ชอบ ตรงตอ เวลา ในการเรียน

จดุ ประสงคเ ชิงพฤตกิ รรม (Behavioral Objectives)

1. บอกชอ่ื ชนดิ ตางๆของเครื่องเจาะได
2. บอกชอ่ื สว นประกอบที่สําคัญของเคร่ืองเจาะชนดิ ตา งๆได
3. อธิบายหลกั การทาํ งานของเครื่องเจาะชนดิ ตา งๆได
4. บอกชอ่ื เคร่อื งมอื และอปุ กรณท่ใี ชงานเจาะได
5. อธบิ ายกระบวนการทํางานของเคร่ืองเจาะได
6. บอกวธิ ีการบาํ รงุ รกั ษาเครือ่ งเจาะได
7. มเี จตคตทิ ีด่ ี มีกจิ นิสัยทีดี มีความรบั ผดิ ชอบ และตรงตอเวลา

3.1 ชนิดของเคร่ืองเจาะ

เครอื่ งเจาะเปน เครื่องจักรกลพ้ืนฐานท่ใี ชในวงการงานชางอุตสาหกรรมและทนี่ ยิ มใชกันมากนนั้
มีอยดู วยกนั 3 ชนดิ คือ เคร่ืองเจาะแบบต้ังโตะ เคร่ืองเจาะแบบตง้ั พนื้ และเครื่องเจาะแบบรศั มี ซ่งึ
เคร่ืองเจาะแตละชนดิ นน้ั มีลักษณะรูปราง สว นประกอบ กระบวนการทํางานท่แี ตกตา งกันออกไป
ดังนน้ั ผเู รียนจะเรียนรูรายละเอียดตางๆของเครื่องแตล ะชนดิ กนั ตอไป

3.1.1 เครือ่ งเจาะแบบตง้ั โตะ (Bench Model of Sensitive Drilling Machine)
เครอ่ื งเจาะแบบตง้ั โตะ เปน เคร่ืองเจาะที่มีขนาดเลก็ จบั ยึดอยูบนโตะเพื่อเพิ่มความสูงให

ผูปฏิบตั งิ านสามารถทํางานไดสะดวกยง่ิ ขน้ึ เปนเครื่องเจาะทเี่ จาะรูชน้ิ งานไดขนาดเล็กกวาเครือ่ ง
เจาะแบบตงั้ พนื้ หรือเคร่ืองเจาะแบบรศั มี เพราะกาํ ลงั ของมอเตอรไฟฟาตา งกัน เครื่องชนิดมลี ักษณะ
รูปรา งดังรูปที่ 3.1

รูปท่ี 3.1 ลกั ษณะรูปรางของเคร่อื งเจาะแบบตั้งโตะ
ทีม่ า : https://cheaptoolsmart.com )

3.1.2. เคร่ืองเจาะแบบต้ังพนื้ ( Floor Model Of Sensitive Drilling Machine)
เครอื่ งเจาะแบบต้ังพื้น เปนเครอ่ื งเจาะที่มขี นาดใหญกวาเคร่ืองแบบตงั้ โตะการใชงาน

สามารถเจาะรูไดขนาดทใี่ หญกวา เคร่อื งเจาะแบบตัง้ โตะ เครือ่ งเจาะแบบต้ังพ้นื นี้สว นใหญแ ลว จะสง
กาํ ลงั ดวยชดุ เฟอ ง และทําการปรับเปลีย่ นความเร็วรอบไดงา ยและรวดเร็วกวา เคร่ืองชนดิ มีลักษณะ
รปู รางดังรปู ที่ 3.2

รปู ที่ 3.2 ลกั ษณะรปู รางของเคร่อื งเจาะแบบตั้งพน้ื
ทม่ี า : https://cheaptoolsmart.com )

3.1.3 เครอ่ื งเจาะแบบรัศมี ( Radial Drilling Machine)
เครอื่ งเจาะแบบรศั มี เปน เครือ่ งเจาะที่มขี นาดใหญนยิ มใชก นั มากในโรงงานอุตสาหกรรม

เพราะวาเปนเคร่ืองเจาะที่สามารถเลอ่ื นหาตําแหนง รูเจาะไดส ะดวกโดยไมตองเคล่ือนยา ยช้ินงาน
สามารถเล่อื นแกนเพลาเจาะท่มี หี วั จบั ดอกสวานตดิ อยูไปยังตาํ แหนง ของช้นิ งานท่ีตอ งการเจาะไดเ ลย
เครือ่ งชนิดมีลักษณะรปู รา งดังรปู ที่ 3.3

รูปที่ 3.3 ลกั ษณะรูปรา งของเครอ่ื งเจาะแบบรัศมี

ท่มี า : https://sites.google.com )

3.2 สว นประกอบของเคร่อื งเจาะ

3.2.1 สวนประกอบของเครอ่ื งเจาะแบบตัง้ โตะ
เครือ่ งเจาะแบบตั้งโตะเปนเคร่ืองเจาะขนาดเล็กทีม่ ใี ชในโรงงานอตุ สาหกรรมและ

สถานศึกษาอาชีวศึกษาทเ่ี ปดชางอุสาหกรรมมีสวนประกอบตา งๆดังรปู ท่ี 3.4

ฝาครอบล้อสายพานและสายพาน

มอเตอร์

แกนเพลา ชดุ หวั เคร่ืองเจาะ
หวั จบั ดอกสวา่ น แขนหมนุ ป้ อนเจาะ
โต๊ะงาน แขนจบั ยดึ โต๊ะงาน

ฐานเครื่อง เสาเคร่ืองเจาะ

รปู ท่ี 3.4 สวนตา งๆของเครื่องเจาะแบบตัง้ โตะ
ที่มา : https://cheaptoolsmart.com )

จากรปู ท่ี 3.4 สวนประกอบตาง ๆของเคร่ืองเจาะแบบตงั้ โตะแตละสว นทําหนาทด่ี ังตอไปนี้
1.) ฐานเคร่อื ง ( Base ) สว นใหญท าํ ดว ยเหล็กหลอ เปนสวนที่ใชสาํ หรับรองรับนํ้าหนัก

ท้งั หมดของเคร่อื งเจาะ เครื่องเจาะแบบตั้งโตะจะยดึ แนน ติดอยกู ับโตะเพ่ือเปนการเพ่ิมความสงู และ
ความสะดวกในการปฏบิ ตั ิงานเจาะ

2.) โตะ งาน ( Table ) สว นใหญทําดวยเหล็กหลอ มลี กั ษณะที่เปน รูปทรงกลมหรอื เปน
ส่เี หลย่ี ม เปนทีใ่ ชร องรบั ชิน้ งานเมอ่ื ตองการนําช้ินงานไปเจาะหรืออาจจะเปนรองรับอุปกรณจับยึด
ชนิ้ งาน เชน ปากกาจับงาน เปนตน โตะ งานสามารถหมนุ รอบตวั เสาเครอ่ื งเจาะและเล่ือนข้นึ ลงได
ดวยการหมนุ แขนหมุน เมอ่ื ไดตําแหนง ทต่ี อ งการแลว ก็สามารถยดึ ใหแนนกับเสาเครื่องเจาะได

3.) หัวจับดอกสวาง ( Drill Chuck ) เปนอุปกรณทใ่ี ชสําหรบั จับยึดดอกสวานกานตรง
สว นใหญมีขนาดความโตเสนผา ศูนยกลางไมเ กิน 12.7 มลิ ลิเมตร หรือประมาณ ½ นวิ้ แตปจจุบนั น้ี
ดอกสวา นกา นตรงที่มีขนาดเสนผาศูนยกลางโตกวา 12.7 มิลลเิ มตร ก็มีขายตามทองตลาดอยูท ว่ั ไป

4.) แกนเพลา (Spindle) เปนแกนเพลาของเคร่ืองเจาะทใี่ ชสําหรับจับยึดหัวจบั ดอกสวา น
หรือกา นเรยี วของดอกสวาน เพ่ือเปนตวั พาใหดอกสวา นหมนุ เจาะชนิ้ งาน

5.) ฝาครอบลอ สายพานและสายพาน ( Pulley Guard ) มีไวสําหรบั ครอบระบบสง
กําลงั ดวยสายพานหรือหรอื เพื่อปองกนั อันตรายจะการหมนุ ของลอสายพานกับสายพาน

6.) มอเตอร ( Motor ) เปน อปุ กรณตน กําลังในการขบั เคล่ือนแกนเพลา เพ่อื ชว ยใหห วั
จบั ดอกสวา นหมนุ พาดแกสวานเจาะช้ินงาน

7.) ชุดหวั เครื่องเจาะ (Drilling Head ) เปน สว นทใ่ี ชจ บั ยึดชแิ้ ขนหมนุ ป้ อนนสว นตางๆซงึ่
อยูบ นสุดของเครื่องเจาะ เชน เปน ทีจ่ ับยึดมอเตอร และแขนหมุนปอนเจาะ ภายในมชี ุดสง กําลงั ดวย
สายพาน

8.) แขนหมนุ ปอ นเจาะ ( Hand Feed lever) ใชส าํ หรบั ปอ นเจาะแกนเพลาเคร่อื งเจาะ
9.) เสาเครื่องเจาะ ( Column) เปน เหล็กทรงกระบอกกรวงยดึ ติดกบั ฐานเครอ่ื งเจาะเพ่ือ
รับชุดหัวเคร่อื งกับโตะงาน
10.) แขนจับยดึ โตะ งาน (Table Locking Clamp) เปนสวนท่ใี ชส ําหรับลอ็ คตาํ แหนง
ของโตะงานในเคร่อื งเจาะ
3.2.2 สวนประกอบของเครื่องเจาะแบบตั้งพื้น
เคร่อื งเจาะแบบต้ังพน้ื เปนเครื่องเจาะขนาดกลางทม่ี ีใชใ นโรงงานอตุ สาหกรรมและ
สถานศกึ ษาอาชวี ศึกษาทีเ่ ปด ชา งอสุ าหกรรมมีสว นประกอบตา งๆดงั รปู ที่ 3.5

ชดุ เฟืองสง่ กาํ ลงั มอเตอร์
สวติ ซ์เปิด ปิ ดและ
ป่ มฉกเฉิน หวั เครื่อง

แกนเพลา แขนหมนุ ป้ อน
เสาเครื่องเจาะ แขนจบั ยดึ โต๊ะงาน

โต๊ะงาน แขนหมนุ เคลอ่ื นท่ี
โต๊ะงาน
ปัม้ นํา้ หลอ่ เย็น

ฐานเคร่ืองเจาะ

รปู ที่ 3.5 สว นประกอบของเครอ่ื งเจาะแบบตงั้ พ้ืน
(ทม่ี า : https://www.google.co.th)

จากรูปที่ 3.5 สว นประกอบตาง ๆของเคร่อื งเจาะแบบตัง้ พนื้ แตล ะสว นทําหนาที่ดังตอไปน้ี
1.) สวิตซปด เปด และปมุ ฉุกเฉิน (On-Off Switch and Emergency Button ) ใชใน

การเปด- ปด สวติ ซไ ฟฟา มอเตอรข องเครื่องเจาะใหทํางานหรือใหหยุดทาํ งานและกดปุม ฉุกเฉินกรณที ี่
เกดิ อบุ ตั ิเหตขุ ึ้นในขณะปฏิบัติงาน

2.) ชดุ เฟองสง กําลัง (Gear Transition ) เครอ่ื งเจาะแบบตั้งพ้ืนสวนใหญแลวจะสง
กาํ ลังดวยชุดเฟองเพราะกําลงั ทีไ่ ดด ี สามารถเปล่ยี นความเรว็ รอบไดสะดวกและมีใหเลอื กปรับได
มากกวาการสงกาํ ลงั ดว ยสายพาน

3.) มอเตอร ( Motor ) ใชเ ปน ตน กําลังในการขบั เคลอื่ นแกนเพลาเพื่อใหห วั จับดอก
สวา นหมนุ พาดอกสวา นเจาะชน้ิ งาน

4.) ชดุ หวั เครือ่ ง ( Drilling Head ) อยูบ นสดุ ของเครือ่ งเจาะยึดติดกบั เสาเครอื่ งเปน ที่
จบั ยึดของมอเตอร และมีแขนโยกปรบั ความเรว็ รอบภายในชดุ หวั เคร่อื งจะประกอบดว ยชดุ สง กาํ ลงั ท่ี
เปนชดุ เฟอ ง

5.) แขนหมุนปอ นเจาะ (Hand Feed Lever) ใชส าํ หรับปอ นแกนเพลาเคร่ืองเจาะ
เพื่อปอนดอกสวานลงไปเจาะชิ้นงาน

6.) แกนเพลา (Spindle ) เปน แกนเพลาท่ีใชใ นการจับยึดหัวจับดอกสวา นหรือกานเรยี ว
ของดอกสวา น เพ่ือนําพาดอกสวา นหมนุ เจาะลงไปในชน้ิ งานเจาะ

7.) ปม นํ้าหลอเย็น (Pump) มีไวสาํ หรบั นํ้าหลอเยน็ ข้ึนไประบายความรอนใหกับดอก
สวา นในขณะท่ีกําลังทําการเจาะรูชน้ิ งาน

8.) เสาเครอ่ื งเจาะ ( Column ) ลักษณะเปนเหล็กรูปทรงกระบอกกลวง ยึดตดิ กับฐาน
เคร่อื งเพ่อื รองรับชุดหัวเคร่ือง โตะ งานและมเี ฟองสะพานติดอยูก ับเสาเคร่ืองดว ย

9.) โตะงาน (Table ) ทาํ ดว ยเหล็กหลอ มีลกั ษณะเปน รปู วงกลม หรือเปน รปู ส่เี หลีย่ มใช
สําหรับรองรบั ช้ินงานทนี่ าํ มาเจาะหรอื อาจจะรองรับอุปกรณจบั ยดึ ช้นิ งาน เชนปากกาจับชิ้นงาน
นอกจากนีแ้ ลว โตะ งานยงั สามารถหมุนรอบเสาเครอ่ื งและขึ้นลงไดดวยการหมุนแขนหมุนสงกําลงั เมอื่
ไดต าํ แหนงท่ีตอ งการแลวก็สามารถล็อกตาํ แหนงใหแ นน กบั เสาเครอ่ื ง

10.) แขนหมุนเคลื่อนท่ีโตะงาน ( Table Lift Crank ) ใชส ําหรบั เลือ่ นโตะงานขึน้ ลง
11.) แขนจับยึดโตะ งาน ( Table Locking Clamp ) ใชส ําหรับล็อกตําแหนงโตะงาน
12.) ฐานเคร่ืองเจาะ ( Base ) ทําดว ยเหล็กหลอ ใชสาํ หรบั เปน ท่ีรองรับน้ําหนกั ท้งั หมด
ของเครื่องเจาะ และยึดตดิ อยูกบั พ้นื โรงงานอยางมั่นคงสามารถเจาะรูขนาดใหญได
3.2.3 สวนประกอบของเครอื่ งเจาะแบบรศั มี
เครือ่ งเจาะแบบรัศมีเปนเครื่องเจาะขนาดใหญทีม่ ใี ชในโรงงานอตุ สาหกรรมและสถานศึกษา
อาชีวศกึ ษาทเี่ ปดชา งอุสาหกรรมมีสวนประกอบตางๆดังรูปที่ 3.6

เสาเครื่อง มอเตอร์
ชดุ หวั เครื่องเจาะ
สวติ ซ์เปิด ปิ ด
และป่ มุ ฉกุ เฉิน แขนรัศมี
แขนหมนุ ป้ อนเจาะ

แกนเพลา
โต๊ะงาน

ฐานเคร่ือง

รปู ที่ 3.6 สวนประกอบตาง ๆของเครอื่ งเจาะแบบรัศมี
(ทม่ี า : https://sites.google.com )

จากรูปท่ี 3.6 สวนประกอบตาง ๆของเครื่องเจาะแบบรศั มีทใ่ี ชในโรงงานอุตสาหกรรมและสถานศึกษา
อาชวี ศกึ ษาทเี่ ปดชา งอุสาหกรรมมสี วนประกอบตางๆดังนี้

รูปท่ี 3.6 สวนประกอบตาง ๆของเครอื่ งเจาะแบบรัศมีแตละสวนทําหนา ทีด่ งั ตอ ไปนี้
1.) ฐานเครอื่ ง ( Base ) ทําดวยเหล็กหลอ เปนสวนทยี่ ดึ ติดอยูกับพ้ืนของโรงงานโดยทํา
หนา ท่ีรองรบั นํ้าหนักทั้งหมดของเคร่ือง
2.) สวิตซเปด ปด และปุมฉุกเฉิน ( On Off Switch and Emergency ) ใชสําหรับเปด
ปดมอเตอรใหเครือ่ งเจาะทํางานหรือหยุดทาํ งาน และมปี ุมกดฉกุ เฉนิ ใชในกรณที เ่ี กดิ อุบัตเิ หตุ
3.) มอเตอร ( Motor ) ใชเ ปนตน สง กาํ ลังของเคร่ืองเจาะ มี 2 ตวั คอื มอเตอรท ี่ติดอยู
ดา นบนของเสาเคร่ืองเจาะสง กําลังไปยงั แกนเกลียวนาํ เลือ่ นเพอ่ื ใหเคลื่อนท่ีของแขนรัศมขี ึ้น ลง และ
มอเตอรอ ีกตัวหนึ่งอยบู นหัวเครื่องเพือ่ ใชสงกาํ ลงั ไปหมนุ แกนเพลาแลว หมนุ ดอกสวานเลื่อนลงไปเจาะ
ชิ้นงาน หรือใชเพ่ือสง กาํ ลังขับเคลอ่ื นสวนตางๆเปนอัตโนมัติ
4.) เสาเคร่ือง ( Column ) ลกั ษณะเปนเสากลมใหญยึดติดอยูกับฐานเคร่ือง และเปนที่
เคล่อื นข้นึ ลงและจบั ยึดของแขนรศั มี
5.) แขนรัศมี ( Radial Arm ) สามารถเลือ่ นข้ึน ลงไดบ นเสาเคร่ือง และหมุนรอบตวั เสา
เครื่องไดเพ่อื หาตําแหนง ชนิ้ งานทีต่ อ งเจาะ และยังเปน ที่รองรับของชดุ หัวเคร่ือง
6.) ชุดหัวเครอ่ื งเจาะ ( Drilling Head ) อยูบนแขนรัศมี สามารถเล่ือนเขา ออกไดตาม
ความยาวของแขนรัศมเี พ่อื หาตาํ แหนง หรือจดุ ท่ีตองการเจาะรู
7.) แกนเพลา ( Spindle ) ลักษณะเปน รปู ทรงกระบอก ภายในเปน รูเรียวมีไวสําหรบั เพอ่ื
จับยดึ หวั จบั ดอกสวา นกานเรียว หรือดอกสวานกานเรยี ว
8.) แขนหมนุ ปอนเจาะ (Hand Feed Lever ) ใชสําหรับปอนแกนเพลาเคร่ืองเจาะเพ่ือ
ปอ นสวานลงเจาะช้ินงาน
9.) โตะ งาน ( Table ) เปนอุปกรณท ี่ยึดติดอยูบนฐานเครื่อง มรี องตวั ที เพ่ือใชสาํ หรับ
จบั ยึดชน้ิ งานโดยตรงหรอื ใชสาํ หรับจับยึดปากกาจบั งาน

3.3 หลักการทาํ งานของเคร่ืองเจาะ

3.3.1 หลักการทาํ งานของเครือ่ งเจาะแบบต้ังโตะ
เคร่ืองเจาะแบบตั้งโตะ มีหลักการทาํ งาน คอื เม่ือทําการเปดสวติ ซไฟฟาบนเคร่อื งเจาะ

มอเตอรจะหมุนทาํ งานแลว สงกาํ ลังไปใหลอสายพานตัวขบั หมุนขับเคล่ือนพาสายพานเคลือ่ นทีส่ งผล
ใหลอสายพานตวั ตามซึ่งไดตอตรงกบั แกนเพลาบนเคร่ืองเจาะหมนุ พรอมกับหัวจบั ดอกสวาน เมื่อ
หมนุ แขนปอนเจาะของเครื่องเจาะลงเพื่อทําการปอนดอกสวา นลงไปเจาะช้ินงาน

3.3.2 หลักการทาํ งานของเครื่องเจาะแบบตั้งพนื้ \
หลักการทาํ งานของเคร่อื งเจาะแบบต้ังพืน้ น้ัน เมื่อผูป ฏบิ ตั ิงานเปด สวติ ซเ คร่ืองเจาะ

มอเตอรจะหมุนทํางานสงกาํ ลังผานชดุ เฟอ งทด มแี ขนปรับเปลีย่ นความเรว็ รอบใหเ หมาะสมกับ
ขนาดความโตของดอกสวานท่นี ํามาเจาะ ชุดเฟองจะสง กําลังมายังแกนเพลาเครอื่ งเจาะ หมนุ พรอม
กบั หวั จับดอกสวา น เม่ือหมุนแขนปอนเจาะปอนลงเพ่ือปอนดอกสวา ง

3.3.3 หลักการทํางานของเคร่อื งเจาะแบบรัศมี
เครอ่ื งเจาะแบบรัศมีมีหลักการทาํ งานทแี่ ตกตางกบั เคร่ืองเจาะแบบตงั้ โตะและตัง้ พื้น คือ

เม่ือจบั ยดึ ช้นิ งานทีต่ อ งการเจาะบนโตะ งานแลว จบั ยดึ ดอกสวานเขากบั แกนเพลาของเคร่อื งเจาะ
หรือหวั จบั ดอกสวาน แลว หมุนแขนรัศมไี ปยังตาํ แหนง ชน้ิ งานทีต่ อ งการเจาะพรอ มเล่ือนชุดหวั เครื่อง
เจาะไปตามแขนรศั มี แลวเลือ่ นแกนเพลาท่ยี ดึ ดอกสวานใหตรงกับตําแหนงที่ตองการเจาะ เปด สวิตซ
มอเตอรหมุนสง กําลงั ไปยงั แกนเพลาเพ่ือพาใหดอกสวานหมนุ แลว หมุนแขนปอนเจาะเพื่อเลื่อนดอก
สวา นลงเจาะรูบนช้ินงานตามตาํ แหนง ท่ีตองการ

3.4 เคร่ืองมือและอุปกรณที่ใชใ นงานเจาะ

1.) ดอกสวา น (Drills) เปนอปุ กรณเ ครื่องมือตัดเจาะชนิดหนง่ึ ทใ่ี ชส าํ หรับเจาะรูชน้ิ งานใหไดตาม
ขนาดของรตู องการ ดอกสวา นเจาะเหลก็ ท่ีใชสําหรับเจาะรูชนิ้ งานมีอยู 2 ชนิด คือ ดอกสวา นกา น
ตรงและดอกสวา นกา นเรียว ดอกสวา นกานตรงน้นั เปนดอกสวา นทมี่ ขี นาดเล็กทมี่ ีขนาดความโต
เสนผา ศูนยก ลางตง้ั แต 1 ถึง 13 มิลลิเมตร สวนดอกสวา นกา นเรยี วนั้นจะมีขนาดความโต
เสนผาศูนยกลาง ต้งั แต 14 มิลลิเมตรขนึ้ ไป

รปู ที่ 3.7 ลักษณะของดอกสวา นกา นตรง
(ทมี่ า : http://www.toolshop226.com )

รปู ที่ 3.8 ลักษณะของดอกสวานกานเรียว
(ทีม่ า : haipsm.com )

2. หวั จบั ดอกสวา น มี 2 แบบ คือ แบบใชจาํ ปาขันหวั จบั และแบบลอ็ คดวยมือ

รูปท่ี 3.9 หัวจับดอกสวา นแบบใชจําปาขน หัวจบั
(ทมี่ า : https://www.google.co.th)

รูปท่ี 3.10 หวั จบั ดอกสวานแบบล็อคดว ยมือ
(ท่มี า : https://www.google.co.th)

3. ปลอกเรียว (Sleeve) ใชส ําหรับสวมใสก ับเพลากานเรียวของของเคร่ืองเจาะ

รปู ที่ 3.11 ปลอกจับดอกสวา น
(ทม่ี า : https://www.google.co.th)

4. เหลก็ ถอดดอกสวา น (Drill Drift ) เปนอุปกรณท ี่ใชถ อดดอกสวา นกา นเรียวออกจาก
เครื่องเจาะ

รปู ที่ 3.12 เหล็กถอดดอกสวาน
ท่มี า : https://www.google.co.th)
5. วีบลอ็ ก( V-Block) ใชส าํ หรับจาํ ยึดชนิ้ งานทรงกระบอก

รปู ที่ 3.13 วีบล็อก( V-Block)
ท่ีมา : https://www.google.co.th)
6. เหลก็ แทง ฉาก (Angle Plate)

รูปที่ 3.14เหล็กแทงฉาก (Angle Plate)
ที่มา : https://www.google.co.th)

3.5 กระบวนการทาํ งานของเครอ่ื งเจาะ

3.5.1 กระบวนการทาํ งานของเครือ่ งเจาะแบบต้งั โตะและตั้งพ้นื
1.) ดา นการจับยึดดอกสวาน
การจับยดึ ดอกสวา นเขา กบั เครื่องเจาะแบบตัง้ โตะ และต้งั พน้ื นนั้ สามารถกระทาํ ได 2

วธิ ี คือ
1.1) การจบั ยึดดอกสวานกานตรงดว ยหวั จบั ดอกสวา น โดยใชประแจขันหวั จับยดึ

สวา นใหแนน การขันหวั จบั ดอกสวานใหแ นน จะหมนุ ขันทิศทางตามเขม็ นาฬิกา เมอื่ ตอ งการถอดดอก
สวานออกใหหมุนขนั ทวนเขม็ นาฬิกา ดังรปู ท่ี 3.15

รปู ที่ 3.15 แสดงวธิ กี ารจบั ยดึ ดอกสวา นกานตรงดว ยหวั จับดอกสวา น
ที่มา : http://202.29.236.244/42/public/files )

1.2) การจบั ยดึ ดอกสวา นกานเรยี วกับเพลาหมนุ เจาะของเคร่อื งเจาะ เปนการจับยดึ
ดอกสวา นขนาดใหญต ง้ั แต 14 มลิ ลิเมตรขึน้ ไป วิธีการจบั ยดึ น้นั โดยการใชมือจับดอกสวา นแลว
สวมดานทีเ่ ปน กา นเรยี วของดอกสวา นเขา ไปในรูเพลาหมุนสวา นใหก ั่นของดอกสวานดา นแบนกบั รูใส
ลิ่มตอ งตรงกันแลว อดั กระแทกเลก็ นอ ยใหก า นดอกสวา นติดอยกู บั เพลารเู จาะ ดงั รปู ท่ี 3.16

ดังรูปที่ 3.16 แสดงการจบั ยดึ ดอกสวา นกา นเรียว
กับเพลาหมนุ เจาะของเครื่องเจาะ

ทมี่ า : https://www.google.co.th)

2.) ดา นการจับยดึ ชน้ิ งานเจาะ ในการจับยึดช้ินงานเจาะโดยท่ัวๆไปแลว จะจบั ยดึ ดวย
ปากกาจบั ชิ้นงานการจบั ยึดชิ้นงานเจาะจะตอ งใชแทง ขนานรองรับดานลางชน้ิ งานเพอ่ื ใหผวิ หนา
ชนิ้ งานตัง้ ฉากกบั ดอกสวานแลวทําการขันเกลียวมือหมุนปากกาจบั ยดึ ชน้ิ งานใหแ นนและในการใช
แทง ขนานรองใตช ิน้ งานยงั เปนการปองกนั ไมใ หคมตดั ดอกสวา นไปเจาะถูกพื้นผิวดา นบนของปากกา
จบั ยดึ ช้ินงานทําใหป ากกาจับยดึ ชนิ้ งานนั้นเกดิ การชํารุดเสียหายได ดังรปู ที่ 3.17

รปู ที่ 3.17 การจบั ยดึ ช้นิ งานเจาะรองรบั ดา นลา งชนิ้ งาน

ทม่ี า : https://www.google.co.th)

3.) ดา นการตง้ั ระยะความลึกกอนเจาะรู วธิ ีการตง้ั ระยะดอกสวานกอนเจาะรู ก็เพ่ือให

สามารถถอดดอกสวานออกจากชน้ิ งานไดสะดวกยงิ่ ขน้ึ ในการตั้งระยะระยะดอกสวา นกอนเจาะรูนนั้

ทําไดโดยการหมุนมือหมุนเลอ่ื นโตะ งานเจาะขนึ้ และลงตามความตองการของผูท ําการเจาะ

4.) ดา นการปรบั ความรอบในงานเจาะ การปรบั ความเรว็ รอบงานเจาะเปนสงิ่ ท่จี ําเปน

อยา งมากจะตองปรบั ใหถูกตองกบั ขนาดความโตของดอกสวานทใ่ี ชในการเจาะ วิธีการปรับความเรว็

รอบของเครื่องเจาะแบบต้ังโตะและแบบต้ังพนื้ นน้ั ใหป รับเล่อื นสายพานขึน้ หรือลงตามรองพูลเลยใ น

ตารางบอกความเร็วเจาะของเครอื่ งนน้ั ๆการเลอื กใชคา ความเรว็ รอบเทาไรนนั้ ขน้ึ อยูกบั ขนาดความโต

ของดอกสวา นท่ีใชในการเจาะ โดยสามารถคํานวณจากสตู ร ดังนี้

ความเร็วรอบงานเจาะดวยดอกสวา นในระบบเมตริก มสี ูตรคํานวณดงั น้ี

สตู ร RPM = CS x 1,000 หรอื RPM = CS x 320

Dxπ D

RPM = ความเรว็ รอบ มหี นวยเปน รอบตอ นาที

CS = ความเร็วตดั มีหนว ยเปน เมตรตอนาที

D = ขนาดความโตดอกสวา น มหี นวยเปน มลิ ลิเมตร

π = มคี าเทากบั 3.1416

1,000 = คา คงท่ี จากความยาว 1 เมตร มีคา เทากบั 1,000 มลิ ลิเมตร

5.) เปด-ปดสวติ ซเ ครอื่ งเจาะ สวติ ซเ ปด-ปด เครื่องเจาะจะอยทู ี่ดานขางสว นบนของ
ชดุ หัวเคร่อื งเจาะปกตจิ ะมี 2 ปุม คอื ปุมสดี าํ เปนปมุ สวติ ซเปด เครอื่ ง ปุมสีแดง เปน ปมุ สวติ ซป ดเครอ่ื ง

6.) ดานการเจาะรูชน้ิ งาน วิธีการเจาะรูช้นิ งานน้นั ใหใ ชมอื ซา ยจบั ทปี่ ากกาจบั งาน
และมือขวาจบั ทแ่ี ขนปอนเจาะของเคร่ืองเจาะคอยๆกดปอ นเจาะดอกสวา นลงบนผิวชิ้นงานจนกวา
ดอกสวา นหมนุ เจาะรชู นิ้ งานจนทะลุตามแบบงานท่ีตอ งการ

3.5.2 กระบวนการทํางานของเคร่อื งเจาะแบบรศั มี
1.) ดานการจับยึดดอกสวา น ดอกสวานทใ่ี ชก บั เครื่องเจาะแบบรัศมโี ดยทัว่ ไปแลว จะ

เปนดอกสวา นที่มีขนาดใหญและเปน ดอกสวานกานเรียว เพราะตอ งการเจาะรูที่มขี นาดใหญ
2.) ดา นการจบั ยดึ ชิ้นงาน สว นใหญแลว จะจบั ยึดดว ยปากกาจับยดึ ชิ้นงานทีว่ างอยบู น

โตะ งานนัน้ ๆ
3.) ดานการตั้งระยะเจาะ การตัง้ ระยะหา งระหวางช้นิ งานเจาะกับดอกสวานกอ นเจาะ

เพ่อื เปน ชว ยใหก ารถอดเปลยี่ นดอกสวานไดสะดวก ในการตั้งระยะดอกสวา นทาํ ไดโ ดยการเลื่อนปรบั
แขนย่นื ขึ้น-ลงตามท่ีระยะท่ตี องการ

4.) ดา นความเร็วรอบงานเจาะ การปรับความเรว็ รอบงานเจาะน้ันเปน ส่ิงท่ีสาํ คัญ
มากตองใหถ ูกตองกบั ขนาดความโตของดอกสวานที่ผานการคาํ นวณมากอน แลวมาเทยี บกบั ตาราง
ความเรว็ รอบของเครือ่ งเจาะนัน้ ๆหรือคา ใกลเคียงแตไมเ กินคาท่คี าํ นวณมาได

5.) เปด-ปด สวิตซเครอ่ื งเจาะ สวิตซเ ปด -ปด เครื่องเจาะจะอยทู ี่ดา นขางสว นบนของชุด
หัวเครอื่ งเจาะปกตจิ ะมี 2 ปมุ คือ ปมุ สีดาํ เปน ปมุ สวิตซเ ปดเครื่อง ปุมสแี ดง เปน ปมุ สวติ ซป ด เคร่ือง

6.) การเจาะรู การเจาะรชู ิ้นงานนั้นใหใ ชมือซายจบั ทปี่ ากกาจบั งาน ใชม ือขวาจบั ทแี่ ขน
ปอ นเจาะของเคร่ืองเจาะ แลวคอยๆกดปอ นดอกสวานลงบนผวิ ชิน้ งานจนกวาดอกสวานเจาะชิน้ งาน
ทะลุ หรือบางครงั้ อาจปอ นเจาะดว ยระบบอตั โนมัติก็ได

3.6 การบํารุงรกั ษาของเครอ่ื งเจาะ

การบํารงุ รกั ษาเครื่องเจาะน้นั เปนสิง่ สําคัญและจําเปน อยางมากในสถานศกึ ษาเพ่อื ชวยยืดอายุ
การใชง านของเครื่องใหย าวนานและมีขน้ั ตอนการบํารุงรักษาเคร่ืองเจาะดงั นี้

1.) กอ นใชเ คร่ืองเจาะทกุ ครั้งจะตองตรวจเชค็ หัวจบั ดอกสวาน พลเู ลย สายพาน ตัวล็อคสายพาน
โตะงาน ระบบไฟฟาตองอยูในสภาพพรอ มท่ใี ชงานได หากตรวจพบวา สวนใดสว นหนงึ่ ชาํ รุดเกิดขน้ึ ให
ดําเนินการแกไขกอนใชง านทุกคร้ัง

2.) หลังจากทํางานเสร็จแลวในแตละวันจะตองทําความสะอาดเครื่องเจาะดว ยแปรงขนมาและ
เชค็ ดว ยผาสะอาดเพ่อื เอาเศษโลหะและนํ้าหลอเย็นออกจากเครือ่ งเจาะใหห มด เคร่ืองเจาะจะไดไ มข ้นึ
สนิม

3.) ตองมีการบํารงุ รักษาเคร่ืองเจาะตลอดเวลา อาจเปน ประจาํ รายสปั ดาห รายเดือน และรายป
อยา งตอเน่อื ง


Click to View FlipBook Version