นิทาน เวตาล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรเเกนกลางศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
คำ นำ หนังสือเรื่องนืทานเวตาลตอนที่ 10 ฉบับพระราชวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ จัดอยู่ในประเภทวรรณคดีเเละ วรรณกรรม เหมาะสำ หรับการนำ ไปใช้ในการจัดเรียนการสอนในรายวิชาภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตามหลักสูตร เเกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ผู้สอนควรจัดการเรียนการสอน เพื่่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในเนื้อหาของ วรรณคดี เรื่องนิทานเวตาลตอนที่ 10 เกี่ยวกับความเป็นมา ประวัติผู้เเต่ง เนื้อเรื่อง ลักษณะคำ ประพันธ์ รวมทั้ง การวิเคราะห์คุณค่าของวรรณคดี ฝึกให้ผู้เรียนใช้กระบวนการคิดนำ ไปสู่ การเข้าใจเเละเกิดความซาบซึ้งในวรรณคดีเเละ วรรณกรรม ซึ่งเป็นวัฒนธรรมทางภาษาที่เเสดงถึงออกถึงความเป็นไทย ผู้เรียนจะได้ความรู้ มีทักษะการคิด เเละเห็น คุณค่าของวรรณคดีเเละวรรณกรรม ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงความรู้ที่ได้มาปรับใช้เพื่อเป็นเเนวทางในการดำ เนินชีวิต หนังสือเล่มนี้ มีประโยชน์ต่อผู้ที่อ่านเป็นอย่างมาก หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ เพชรลัดดา พลหลาย ผู้จัดทำ
สารบัญ เรื่อง หน้า ความเป็นมา 1-3ประวัติผู้เเต่ง 4-5ลักษณะคำ ประพันธ์ 6เนื้อเรื่องย่อ 7-8เนื้อเรื่อง 9-29จุดมุ่งหมาย 30บทวิเคราะห์คุณค่า 31-35
สารบัญ เรื่อง หน้า ข้อคิด 36ศัพท์ 37-40เเบบฝึกหัดท้ายบท 41เฉลยเเบบฝึกหัดท้ายบท 42อ้างอิง 43ผู้จัดทำ 44
ความเป็นมา นิทานเวตาล ฉบับนิพนธ์ พระราชวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ มีที่มาจากวรรณกรรมสันสกฤต ของอินเดีย โดยมีชื่อเดิมว่า “เวตาปัญจวิงศติ” ศิวทาส ได้แต่งไว้ในสมัยโบราณ 1
ต่อมาได้มีผู้นำ นิทานเวตาลทั้งฉบับภาษาสันสกฤต และภาษาฮินดีมาแปลเป็นภาษาอังกฤษ โดยร้อยเอก เซอร์ ริชาร์ด เอฟ. เบอร์ตัน ก็ได้นำ มาแปลและเรียบเรียงแต่ง แปลงเป็นสำ นวนภาษาของตนเองให้คนอังกฤษอ่าน แต่ไม่ ครบทั้ง 25 เรื่อง กรมหมื่นพิทยาลงกรณ ความเป็นมา ต่อ 2
ได้ทรงแปลนิทานเวตาลจากฉบับของเบอร์ตัน จำ นวน 9 เรื่อง และจากฉบับแปลสำ นวนของ ซี. เอช. ทอว์นีย์ อีก 1 เรื่อง รวมเป็นฉบับภาษาไทยของกรมหมื่นพิทยาลงกรณ 10 เรื่อง เมื่อ พ.ศ. 2461 นิทานเวตาลเป็นนิทานที่มีลักษณะเป็นนิทานซับซ้อน นิทาน คือ มีนิทานเรื่องย่อยซ้อนอยู่ในนิทานเรื่องใหญ่ ความเป็นมา ต่อ 3
ประวัติผู้เเต่ง พระราชวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ 4
ประวัติผู้เเต่ง ทรงชำ นาญด้านภาษาและวรรณคดีเป็นพิเศษ ได้ทรงนิพนธ์ หนังสือไว้มากมายโดยใช้นามแฝงว่า “น.ม.ส.” ซึ่งทรงเลือกจากตัว อักษรตัวหลังพยางค์ของพระนาม (พระองค์เจ้า) “รัชนีแจ่มจรัส” 5
ลักษณะคำ ประพันธ์ นิทานเวตาล เป็นนิทานความเรียงร้อยแก้ว (มีกลอนสุภาพแทรกในนิทาน ย่อยบางเรื่อง แต่เรื่องที่ 10 นี้ ไม่มีร้อยกรองแทรกอยู่ ) นิทานเวตาลจึงได้ชื่อว่า เป็นงานประพันธ์ที่แสดงลีลาการเขียน ร้อยแก้วของน.ม.ส. ได้เป็นอย่างดีชิ้นหนึ่ง นิทานเวตาล เป็นนิทานความเรียงร้อยแก้ว ที่มีลักษณะเป็นนิทานซ้อนนิทาน นิทานเวตาลประกอบด้วยนิทานหลักคือนิทานเรื่องใหญ่ 1 เรื่อง และนิทานเรื่อง ย่อยแทรกอยู่ 24 เรื่อง รวมเป็น 25 เรื่อง โดยมีตัวละครสำ คัญที่ดำ เนินเรื่องร้อย เรียงเรื่องย่อยเข้าด้วยกัน คือพระวิกรมาทิตย์และเวตาล 6
เรื่องย่อ ในโบราณกาล มีเมืองที่ใหญ่เมืองหนึ่งชื่อ กรุงธรรมปุระ พระราชาทรงพระนาม ว่า ท้าวมหาพล มีพระมเหสีที่ทรงสิริโฉมงดงามแม้มีพระราชธิดาที่ทรงเจริญวัยแล้ว ต่อมาได้เกิด ศึกสงครามทหารของท้าวเอาใจออกห่าง ทำ ให้ทรงพ่ายแพ้ พระองค์จึงทรงพาพระมเหสีและพระ ราชธิดาหลบหนีออกจากเมืองเพื่อไปเมืองเดิมของพระมเหสี ในระหว่างทางท้าวมหาพลได้ถูกโจร รุมทำ ร้ายเพื่อชิงทรัพย์และสิ่งของมีค่า จนพระองค์สิ้นพระชนม์ จนพระราชธิดาและพระมเหสี เสด็จหนีเข้าไปในป่าลึก 7
เรื่องย่อ ในเวลานั้นมีพระราชาทรงพระนามว่า ท้าวจันทรเสน กับพระราชบุตร ได้เสด็จมา ประพาสป่าและพบรอยเท้าของสตรีซึ่งเมื่อพบสตรีทั้งสองจะให้รอยเท้าที่ใหญ่เป็นพระมเหสีของ ท้าวจันทรเสน และรอยเท้าที่เล็กเป็นพระชายาของพระราชบุตร แต่เมื่อพบนางทั้งก็ปรากฏว่า รอยเท้าที่ใหญ่คือพระราชธิดา และรอยเท้าที่เล็ก นั้นคือ พระราชมารดา ดังนั้นพระราชธิดาจึงเป็น พระมเหสีของท้าวจันทรเสน และพระมารดาได้เป็นพระชายาของพระราชบุตร ต่อ 8
เนื้อเรื่อง เวตาลกล่าวว่า ครั้งนี้ข้าพเจ้าให้เกิดกระเหม่นตาซ้ายหัวใจเต้น แรงแลตาก็มืดมัวเป็น ลางไม่ดีเสียแล้ว แต่ข้าพเจ้าก็เล่าเรื่องจริงถวาย อีกเรื่องหนึ่ง แลเพราะเหตุข้าพเจ้าเบื่อหน่าย การถูกแบกสะพายไปมา เป็นหลายเที่ยวแล้ว แม้พระองค์ไม่ทรงเบื่อเป็นผู้แบกก็จริง ข้าพเจ้าจะ ตั้งคําถามที่ยากทูลถามสักที ถ้าทรงตอบได้ พระปัญญาก็มากยิ่ง กว่าที่ข้าพเจ้าคิดว่าจะมีพระ ราชพระองค์ใด 9
เนื้อเรื่อง ในโบราณมีเมืองใหญ่เมืองหนึ่งชื่อกรุงธรรมปุระ พระราชาทรง นามท้าวมหาพล มีพระ มเหสีซึ่งแม้มีพระราชธิดาจําเริญวัยใหญ่แล้ว แล้วก็ยังเป็นสาวงดงาม ถ้าจะเปรียบกับพระราช บุตรีก็คล้ายพี่กับ น้องยิ่งกว่าแม่กับลูก ที่เป็นเช่นนั้นไม่ใช่เป็นเพราะพระราชธิดามี อาการแก่เกิน อายุ ที่จริงเป็นเพราะพระราชมารดาเป็นสามไม่รู้จัก แก่แลความสาวของพระนางเป็นเครื่อง ประหลาดของคนทั้งหลาย 10
เนื้อเรื่อง เมื่อท้าวมหาพลสิ้นบุญนั้น เกิดศึกขึ้นที่กรุงธรรมปุระ ข้าศึกมี กําลังมากแลชํานาญ การศึก ใช้ทั้งทองคําแลเหล็กเป็นอาวุธ คือใช้ ทองคําซื้อน้ําใจนายทหารและไพร่พลของพระราชา ให้เอาใจออกห่าง จากพระองค์ แลใช้เหล็กเป็นอาวุธฆ่าคนที่ซื้อน้ําใจไม่ได้ ข้าศึกใช้ ทองคําบ้าง เหล็กบ้างเป็นอาวุธดังนี้ จนในที่สุดรี้พลของท้าวมหาพล หรอร่อยย่อยยับไป ท้าวมหาพลเห็นจะ รักษาชีวิตพระองค์ไว้ไม่ได้ด้วย วิธีรบ ก็คิดรักษาด้วยวิธีหนี จึ่งพาพระมเหสีแลพระราชธิดาจาก กรุงไป ในเวลาเที่ยงคืนจําเพาะสามพระองค์ 11
เนื้อเรื่อง เมื่อท้าวมหาพลสิ้นบุญนั้น เกิดศึกขึ้นที่กรุงธรรมปุระ ข้าศึกมี กําลังมากแลชํานาญ การศึก ใช้ทั้งทองคําแลเหล็กเป็นอาวุธ คือใช้ ทองคําซื้อน้ําใจนายทหารและไพร่พลของพระราชา ให้เอาใจออกห่าง จากพระองค์ แลใช้เหล็กเป็นอาวุธฆ่าคนที่ซื้อน้ําใจไม่ได้ ข้าศึกใช้ ทองคําบ้าง เหล็กบ้างเป็นอาวุธดังนี้ จนในที่สุดรี้พลของท้าวมหาพล หรอร่อยย่อยยับไป ท้าวมหาพลเห็นจะ รักษาชีวิตพระองค์ไว้ไม่ได้ด้วย วิธีรบ ก็คิดรักษาด้วยวิธีหนี จึ่งพาพระมเหสีแลพระราชธิดาจาก กรุงไป ในเวลาเที่ยงคืนจําเพาะสามพระองค์ 12
เนื้อเรื่อง พระราชาทรงพาทั้งสองเล็ดรอดพ้นแนวทัพข้าศึกไป แล้วก็ตั้ง พระพักตร์ไปยังเมืองซึ่ง เป็นเมืองเดิมของพระมเหสี วันรุ่งขึ้น พระราชาทรงนํานางทั้งสองเดินไปจนเวลาสาย ถึงสอง ทุ่ง เห็นหมู่บ้านหมู่หนึ่งแต่ไกล ไม่ทรงทราบว่าเป็นหมู่บ้านโจร แต่ทรง สงสัยไม่วางพระหฤทัย จึงตรัส ให้พระมเหสีแลพระราชธิดาหยุดนั่ง กําบังอยู่ในแนวไม้ พระองค์ทรงถืออาวุธเดินตรงไปสู่หมู่บ้าน เพื่อจะหา อาหารเสวยแลสู่นางทั้งสอง 13
เนื้อเรื่อง ฝ่ายพวกภิลล์ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านนั้นประพฤติตัวเป็นโจรอยู่เป็นปกติ ครั้นเห็นชายคนเดียว แต่งตัวด้วยของมีค่าเดินเข้าไปเช่นนั้น ก็คุมกันออกมาจะ เข้าชิงทรัพย์ในพระองค์ พระราชาท้าว มหาพลทรงเห็นดังนั้นก็ทรงพระแสงธนู ยิงพวกโจรล้มตายลงเป็นอันมาก ฝ่ายนายโจรได้ทราบว่า ผู้มีทรัพย์มาฆ่าฟัน พวกตนลงไปเป็นอันมากดังนั้น ก็กระทําสัญญาเรียกพลโจรออกมาทั้งหมด แล้ว เข้าล้อมรบพระราชา ท้าวมหาพลองค์เดียวเหลือกําลังต่อสู้ป้องกันอาวุธพวก โจรได้ ก็ สิ้นพระชนม์ลงในที่นั้น พวกภิลล์ก็ช่วยกันปลดเปลื้องของมีค่าออกจาก พระองค์ แล้วพากันคืน เข้าสู่บ้านแห่งตน 14
เนื้อเรื่อง ฝ่ายพระมเหสีแลพระราชธิดาทรงแอบอยู่ในแนวไม้ เห็นพวกโจรเข้า กลุ้มรุมรบพระราชา ก็ตกใจเป็นกําลังแต่ไม่รู้จะทําอย่างไรได้ ครั้นเห็นพวก ภิลล์ทําลายพระชนม์พระราชาลงไปแล้ว สองนางพระองค์สั่นพากันหนีห่าง ออกไปจากหมู่บ้านโจร ทางจะไปทางไหนหาทราบไม่ ความ มุ่งมาดมีอยู่แต่ ว่าจะหนีให้พ้นมือพวกภิลล์ซึ่งเป็นคนชาติต่ําช้าเท่านั้น นางทั้งสองทรงกําลัง น้อย แต่อํานาจความกลัวพาให้เสด็จไปถึงทาง ๔ โกรศ อ่อนเพลียพละกําลัง ทรงดําเนินต่อไปไม่ได้ ก็หยุดนั่งพักอยู่ใต้ร่มไม้ริมทาง 15
เนื้อเรื่อง เผอิญมีพระราชาอีกพระองค์หนึ่งทรงนามท้าวจันทรเสน เสด็จออกยิงสัตว์ป่ากับพระ ราชบุตรจําเพาะสองพระองค์ กษัตริย์ ทรงม้าไปตามแนวป่าเห็นรอยเท้าหญิงสองคนก็ทรงชักม้า หยุดดู พระราชบิดาตรัส “รอยเท้าหญิงสองคนทําไมมีอยู่ในป่าแถบนี้” พระราชบุตรทูลว่า “รอย เท้าเหล่านี้เป็นรอยเท้าหญิงสองคน รอยเท้าชายคงจะโตกว่านี้” 16
เนื้อเรื่อง พระราชาตรัสว่า “เจ้าของรอยเท้านี้เป็นหญิงจริงอย่างเจ้าว่า แลน่าประหลาดที่มีหญิง มาเดินอยู่ในป่า แต่ถ้าจะพูดตามเรื่องใน หนังสือ หญิงที่พระราชาพบในป่ามักจะงามกว่าหญิงที่จะ หาได้ใน กรุง เหมือนดอกไม้ในป่าที่งามกว่าดอกไม้ในสวน มาเราจะตามนาง ทั้งสองนี้ไป ถ้าพบ นางงามจริงดังว่า เจ้าจงเลือกเอาเป็นเมียคนหนึ่ง 17
เนื้อเรื่อง พระราชบุตรทรงทูลตอบว่า “รอยเท้านางทั้งสองนี้มีขนาด ไม่เท่ากัน แม้เท้าก็ขนาดย่อม ทั้งสองนางก็ยังใหญ่กว่ากันอยู่ คนหนึ่ง ข้าพเจ้าจะเลือกนางเท้าเล็กเป็นภริยาข้าพเจ้า เพราะ คงจะเป็นสาวน้อยตามขนาดแห่งเท้า ส่วนนางเท้าเขื่อง นั้นคงจะเป็นสาวใหญ่ ขอพระองค์ทรงรับ ไปไว้เป็นพระราช ชายา” 18
เนื้อเรื่อง ท้าวจันทรเสนและพระราชบุตร กําลังพิจารณารอยเท้า ท้าวจันทรเสนตรัสว่า “เหตุไฉน เจ้าจึงกล่าวดังนี้ พระราช มารดาของเจ้าสิ้นพระชนม์ไปมากี่วัน เจ้าอยากจะมีแม่เลี้ยงเร็วเท่านี้ เจียวหรือ” พระราชบุตรทูลตอบว่า “ขอพระองคือย่ารับสั่งเช่นนั้น เพราะบ้านของผู้เป็นใหญ่ใน ครอบครัวนั้น ถ้าไม่มีแม่เรือนก็เป็นบ้าน ที่ว่าง อนึ่งพระองค์ย่อมจะทรงทราบคาถาซึ่งมูลเทวะ บัณฑิต แต่งไว 20
เนื้อเรื่อง มีความว่า ชายผู้ไม่ใช่คนโง่ไม่ยอมคืนสู่เรือนซึ่งไม่มีนางที่รักผู้มี รูปงามคอบรับรองใน ขณะที่กลับถึงเรือนนั้น แม้เรียกว่าเรือนก็ไม่ใช่ อื่น คือคุกซึ่งไม่มีโซ่เท่านั้นเอง พระองค์ย่อมทรง ทราบด้วยพระองค์ เองว่าความสุขแห่งพ่อบ้านซึ่งอยู่เดี่ยวโดดนั้นมีได้ในบ้าน แลมีไม่ได้ นอกบ้าน เพราะไม่มีหวังจะได้ความสุขเมื่อกลับมาสู่เรือนแห่งตน” 21
เนื้อเรื่อง ท้าวจันทรเสนทรงนิ่งตรองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตรัสตอบพระราช บุตรว่า “ถ้านางเท้าเขื่องมี ลักษณะเป็นที่พึงใจ ข้าก็จะทําตามเจ้าว่า” ครั้งกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงกระทําสัญญาแบ่งนาง กันดังนี้ แล้ว ก็ทรงชักม้าตามรอยเท้านางเข้าไปในป่า สักพักหนึ่งเป็นสอง นางนักพักอยู่ใต้ร่มไม้ กษัตริย์สององค์ก็เสด็จลงมาจากม้าเข้าไป ถามนาง 22
เนื้อเรื่อง ทั้งสองนางก็ทรงเล่าเรื่องให้ทรงทราบทุกประการ พระราชากับ พระราชบุตรก็เชิญนางทั้ง สองขึ้นหลังม้าองค์ละองค์ นางพระบาท เขื่องคือพระราชธิดาขึ้นทรงม้ากับท้าวจันทรเสน นาง พระบาทเล็ก คือพระมเหสีขึ้นทรงม้ากับพระราชบุตร สี่องค์ก็เสด็จเข้ากรุง 23
เนื้อเรื่อง กล่าวสั้นๆ ท้าวจันทรเสนแลพระราชบุตรก็ทําหารวิวาหะทั้งสอง พระองค์ แต่กลับคู่กันไป คือพระราชบิดาวิวาหะกับพระราชบุตรี พระราชบุตรทรงวิวาหะกับพระมเหสี และเพราะเหตุที่คาด ขนาดเท้า ผิด ลูกกลับเป็นเมียพ่อ แม่กลับเป็นเมียลูก ลูกกลับเป็นแม่เลี้ยง ของผัวแม่ตัวเอง แลแมกลับเป็นลูกสะใภ้ของผัวแห่งลูกตน แลต่อมา บุตรแลธิดาก็เกิดจากนาทั้งสอง แลบุตรแล ธิดาแห่งนางทั้งสองก็มี บุตรแลธิดาต่อๆ กันไป 24
เนื้อเรื่อง เวตาลเล่ามาเพียงเท่านี้ก็หยุดอยู่ครูหนึ่ง แล้วกล่าวต่อไปว่า บัดนี้ข้าพเจ้าจะตั้งปัญหาทูล ถามพระองค์ว่า ลูกท้าวจันทรเสนที่เกิด จากธิดาท้าวมหาพล แลลูกมเหสีท้าวมหาพลที่เกิดกับ พระราชบุตร ท้าวจันทรเสนนั้น จะนับญาติกันอย่างไร 25
เนื้อเรื่อง พระวอกรมาทิตย์ได้ทรงฟังปัญหาเวตาลก็ทรงตรึกตรองเอาเรื่องพ่อ กับลูก แม่กับลูก แลพี่กับน้องมาปนกันยุ่ง แลมิหนําซ้ํามีเรื่องเลี้ยงกับแม่ตัว และลูกสะใภ้กับลูกตัวอีกเล่า พระ ราชาทรงตีปัญหายังไม่ทันแตก พอทรง นึกขึ้นได้การพาเวตาลไปส่งให้แก่โยคีนั้นจะสําเร็จได้ก็ ด้วยไม่ทรงตอบ ปัญหา จึงเป็นอันทรงนิ่งเพราะจําเป็นแลเพราะสะดวก ก็รีบสาวก้าวทรง ดําเนิน เร็วขึ้น ครั้นเวตาลทูลเย้าให้ตอบปัญหาด้วยวิธีกล่าวว่าโง่ จะรับสั่ง อะไรไม่ได้ก็ทรงกระแอม 26
เนื้อเรื่อง เวตาลทูลว่า “รับสั่งตอบปัญหาแล้ไม่ใช่หรือ” พระราชาไมทรงตอบ อะไร เวตาลก็นิ่งอยู่ ครู่หนึ่งแล้วทูลถามว่า “บางทีพระองค์จะโปรดฟังเอง สั้นๆ อีกสักเรื่องหนึ่งกระมัง” ครั้งนี้แม้ กระแอม พระวิกรมาทิตย์ก็ไม่ทรงกระแอม เวตาลจึ่งกล่าว อีกครั้งหนึ่งว่า “เมื่อพระองค์ทรงจน ปัญญาถึงเพียงนี้แล้ว บางทีพระราช บุตรซึ่งทรงปัญญาเฉลียวฉลาดจะทรงแก้ปัญหาได้บ้าง กระมัง” แต่พระธรรมธวัชพระราชบุตรนิ่งสนิททีเดียว 27
เนื้อเรื่อง เมื่อพระวิกรมาทิตย์ทรงนิ่ง เวตาลได้พยายามกล่าวยั่วให้พระองค์ รับสั่งแต่ไม่สําเร็จ เวตาลจึงกล่าวเตือนพระราชาว่า โยคีศานติศีลต้องการ ลวงพระองค์ไปสังหาร โดยให้พระองค์ ทําอัษฎางคประณตต่อหน้าเทวรูป จากนั้นเวตาลก็ออกจากศพที่สิงอยู่ พระวิกรมาทิตย์รีบเสด็จ ไปที่ป่า ช้านําศพไปมอบให้โยคี เมื่อโยคีนําพระองค์ไปที่หน้าเทวรูปและขอให้ทํา อัษฎางคประณต 28
เนื้อเรื่อง พระราชาทรงรําลึกได้ถึงคําเตือนของเวตาล จึงรับสั่งแก่โยคีให้ กระทําอัษฎางคประณตให้ พระองค์ดูจะได้ทรงทําตาม เมื่อโยคี กระทํา พระวิกรมาทิตย์ก็ทรงชักพระแสงดาบออกมาฟัน ศีรษะโยคี ขาดกระเด็นไป ขณะนั้นพระอินทร์และเทพบริวารทั้งหลายได้เสด็จ ลงมาอวยชัยให้พร พระวิกรมาทิตย 29
จุดมุ่งหมายในการเเต่ง นิทานเวตาล เรื่องที่ 10 เเต่งเพื่อให้มนุษย์รู้จักคิดให้รอบคอบ ไตร่ตรองให้ดี หากใช้เพียงใช้สติปัญหาเพียงอย่างเดียวใช่ว่าจะเเก้ปัญหา ได้ตลอด ต้องมีสติเเละปัญญาควบคู่กันไป จึงจะผ่านปัญหาไปได้อย่างดี 30
บทวิเคราะห์คุณค่า ด้านกลวิธีในการเเต่ง 1 การใช้สำ นวนโวหาร นิทานเวตาล ฉบับพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ มีการใช้สำ นวนโวหารเปรียบ เทียบที่ไพเราะและทำ ให้เห็นภาพแจ่มชัดขึ้น 2 การใช้กวีโวหาร พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ทรงแปลนิทานเวตาลด้วยภาษาที่กระชับ อ่านง่าย มีบางตอนที่ทรงใช้สำ นวนภาษาบาลี ซึ่งไม่คุ้นหูผู้อ่านในยุคนี้ เพราะไม่นิยมใช้แล้วในปัจจุบัน ต่อ 31
บทวิเคราะห์คุณค่า คุณค่าด้านปัญญาและความคิด 1. ความอดทนอดกลั้น ความอดทนเป็นคำ สอนในทุกศาสนา ดังนั้นเมื่อไม่ตอบปัญหาในเรื่องที่ 10 เวตาลจึง กล่าวชมว่า ทรงตั้งพระราชหฤทัยดีนัก พระปัญญาราวกับเทวดาและมนุษย์อื่นที่มีปัญญา จะหา มนุษย์เสมอมิได้ 2. ความเพียรพยายาม เวตาลมักยั่วยุให้พระวิกรมาทิตย์แสดงความคิดเห็นออกมา ทำ ให้พระองค์ต้องกลับไป ปีนต้นอโศกเพื่อจับเวตาลใส่ย่ามกลายครั้ง ต่อ 32
บทวิเคราะห์คุณค่า 3. การใช้สติปัญญา การแก้ปัญหาต่างๆ จำ เป็นต้องใช้สติและปัญญาควบคู่กันไป จากนิทานเวตาลเรื่องนี้ชี้ให้ เห็นว่าการใช้ปัญญาของพระวิกรมาทิตย์อย่างเดียวนั้นไม่สามารถแก้ปัญหาและเอาชนะเวตาลได้ แต่ พระองค์ต้องใช้สติประกอบกับปัญญาควบคู่กันไปจึงเอาชนะเวตาลได้ 4. ความมีสติ ความเป็นผู้มีทิฐิมานะ ไม่ยอมในสิ่งที่ไม่พอใจ บางครั้งอาจส่งผลเสียต่อผู้นั้นเอง ดังนั้น การพยายามยับยั้งชั่งใจ ไม่พูดมากปากไวจนเกินไป จึงเป็นสิ่งที่จำ เป็นมากเพราะเมื่อใด เราคิดก่อน พูด ไม่ใช่พูดแล้วคิด เมื่อนั้นเราก็มีสติ สติเป็นสิ่งที่สำ คัญเพราะเป็นพื้นฐานของสมาธิและปัญญา ถ้าไม่มีสติ สิ่งต่างๆที่เราทำ ไปหรือตัดสินใจไปโดยไร้สติอาจส่งผลร้ายเกินกว่าจะประเมินได้ ต่อ 33
บทวิเคราะห์คุณค่า 5. การเอาชนะข้าศึกศัตรู ในการทำ สงครามนั้นผู้ที่มีความชำ นาญ มีเล่ห์เหลี่ยมในกลศึกมากกว่าย่อมได้ชัยชนะ 6. ข้อคิดเตือนใจ เครื่องประดับเป็นสิ่งที่ทำ ให้ได้รับอันตรายจากโจรผู้ร้าย แม้จะเป็นชายที่มีฝีมือเช่นท้าว มหาพลก็ตาม เมื่อตกอยู่ในหมู่โจรเพียงคนเดียว ย่อมเสียทีได้ ต่อ 34
บทวิเคราะห์คุณค่า คุณค่าด้านความรู้ การอ่านนิทานเวตาลทำ ให้ได้รู้ถึงวัฒธรรมและค่านิยมของชาวอินเดียในยุคโบราณ เช่น ค่า นิยมที่ชายจะมีภรรยาได้หลายคนโดยเฉพาะชายสูงศักดิ์ เพราะถือส่าเรือนที่อบอุ่นจะต้องมีแม่เรือน ต่อ 35
ข้อคิด สอดแทรกข้อคิด คติธรรมในการดำ เนินชีวิต มีข้อคิดสำ คัญเกี่ยวกับคำ พูดว่า ควรคิดก่อน พูด เพราะหากพูดโดยไม่ไตร่ตรอง จะทำ ให้เกิดความเข้าใจผิด และมีการจบเรื่องด้วยปริศนา เพื่อส่งเสริมปฏิภาณไหวพริบของผู้อ่าน 36
คำ ศัพท์ กระเหม่น เขม่น = คือ อาการกล้ามเนื้อกระตุกเบา ๆ ขึ้นเอง ตามลัทธิโบราณถือว่าเป็นนิมิตบอกเหตุร้ายหรือ ดี โกรศ = มาตราวัดความยาวเท่ากับ คันธนู เขื่อง = ค่อนข้างใหย่ ค่อนข้างโต คุมกัน = รวมกลุ่มกัน เครื่องประหลาด = สิ่งที่ทำ ให้คนประหลาดใจในความว่า “ความสาวของพระนางเป็นเครื่องประหลาดของคน ทั้งหลาย” ต่อ 37
คำ ศัพท์ จำ เพาะ = เพียงเฉพาะ ซื้อน้ำ ใจ = ผูกใจ ในความว่า “ใช้ทองคำ ซื้อน้ำ ใจนายทหาร” หมายถึง ติดสินบนด้วยทองคำ เพื่อให้ทหารเข้า กับฝ่ายของตน ดอกไม้ในสวน = เปรียบกับหญิงสาวที่อยู่ในรั้วในวัง ดอกไม้ป่า = เปรียบกับสาวในชนบทหรือในหัวเมืองทั่วไป เเต่มีความงามเป็นพิเศษ ภิลล์ = ชื่อชาวป่า อาศัยในเเถบเขาวินธัยในอินเดีย ต่อ 38
คำ ศัพท์ มูลเทวะบัณฑิต = เป็นชื่อตัวละครในนิทานสันสกฤต เล่าว่าเป็นผู้รู้ศิลปวิทยาเเละมักกล่าวถ้อยคำ เป็นคติ สอนใจ เเม่เรือน = ในที่นี้หมายถึงกริยาที่ดีมีหน้าที่ดูเเลสามีเเละความเรียบร้อยภายในบ้าน เรียกว่า เเม่ศรีเรือน รี้พล = ทหาร สัญญา = สัญญาณในข้อความที่ว่า “ก็ทำ สัญญาเรียกพลโจรออกมาทั้งหมด” สิ้นบุญ = ตาย หนังสือ = วรรณคดีในความที่ว่า “ถ้าจะพูดตามเรื่องหนังสือ” ต่อ 39
คำ ศัพท์ สู่ = เเบ่งให้ในข้อความ “เพื่อจะหาอาหารเสวยเเละสู่พระนางทั้งสองพระองค์” หรอร่อย = คือ ร่อยหรอ หมายความว่า ค่อย ๆ หมดไปทีละน้อย เหล็ก = อาวุธที่ทำ ด้วยเหล็กในข้อความที่ว่า “ใช้อาวุธที่ซื้อน้ำ ใจไม่ได้” ต่อ 40
เเบบฝึกหัดท้ายบท 41 นิทานเวตาล
เฉลยเเบบฝึกหัดท้ายบท 42
อ้างอิง 43 ครูบ้านนอกบล็อก. นิทานเวตาลเรื่องที่ 10. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : https://www.kroobannok.com/blog/3271. [สืบค้นเมื่อ 29 สิงหาคม 2566]. ทรูปลุกปัญญา. บทเรียนออนไลน์ วิชาภาษาไทย เรื่อง นิทานเวตาลเรื่องที่ ๑๐. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/31930. [สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2566]. นิทานเวตาล / กรมหมื่นพิทยาลงกรณ. พิมพ์ครั้งที่ 1 กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ไท, 2461. เข้าถึงได้จาก : https://www.car.chula.ac.th/display7.php?bib=b1333283. [สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2566].
ผู้จัดทำ 44 นางสาวเพชรลัดดา พลหลาย รหัส 641102008104 คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย