ก
ประกาศโรงเรยี นเฉลมิ พระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสริ กิ ิต์พิ ระบรมราชินีนาถ
เรอ่ื ง ใหใ้ ช้หลักสูตรโรงเรียนเฉลมิ พระเกยี รติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์พระบรมราชนิ ีนาถ
พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
(ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
-------------------------------------------
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ ให้เป็นหลักสตู รแกนกลางของประเทศ เพอื่ ให้สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษา และสถานศึกษาทุกสงั กัด
ทีจ่ ัดการศึกษาขนั้ พื้นฐานนำไปใชเ้ ปน็ กรอบและทศิ ทางในการพฒั นาหลักสตู รสถานศึกษา และจัดการเรยี นรู้
เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามมาตรฐานการเรียนรู้ และ
ตวั ชว้ี ดั ในกลุ่มสาระการเรียนรตู้ ่างๆ ตามท่ีกำหนดไวใ้ นหลักสตู ร
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ จึงได้จัดทำ
หลักสูตรสถานศึกษา (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕) โดยการนำหลักสูตรแกนกลาง หลักสูตรท้องถ่ิน
และโครงการ “วทิ ยาศาสตรพ์ ลังสิบ” ของรฐั บาล มากำหนดเปน็ กรอบหลกั สูตรสถานศกึ ษา การจดั ทำหน่วย
การเรียนรู้อิงมาตรฐาน และการวัดประเมินผล เพื่อนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนานักเรียน
ทุกคนให้มีคุณภาพด้านความรู้ และทักษะที่จำเป็นในการดำรงชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลง และแสวงหาความรู้
เพอ่ื พัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ืองตลอดชวี ิต
ทั้งนี้ หลักสูตรโรงเรยี นเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินนี าถ
พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน เม่ือวันที่ ๑๗ พฤษภาคม
๒๕๖๕ จงึ ประกาศใหใ้ ช้หลกั สูตรโรงเรยี นตัง้ แตบ่ ัดนีเ้ ปน็ ต้นไป
ประกาศ ณ วันท่ี ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕
(นายชนนิ ทร์ ธรรมชูเชาวรตั น์) (นางสาวสกุ ญั ญา พง่ึ รงุ่ )
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพนื้ ฐาน ผอู้ ำนวยการโรงเรียนเฉลมิ พระเกียรติ ๖๐ พรรษา
สมเดจ็ พระนางเจ้าสริ กิ ิติ์พระบรมราชนิ ีนาถ
ข
คำนำ
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ
พระบรมราชินนี าถ (ฉบับปรับปรุงพุทธศกั ราช ๒๕๖๕) รายวชิ าเพ่ิมเติมคอมพวิ เตอร์ จดั ทำขึ้นเพอื่ ใหโ้ รงเรียน
ได้นำไปใช้เป็นกรอบและทิศทางในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพด้านความรู้คู่
คุณธรรม และทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือในการ
ดำรงชีวติ ในท้องถิ่นหรอื สงั คมท่ีมกี ารเปลีย่ นแปลง และแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเองอย่างตอ่ เน่ืองตลอด
ชีวิต อีกทั้งเพื่อใช้ในการบริหารการจัดการศึกษา และพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรยี นรู้ตามธรรมชาติ และเต็ม
ศักยภาพตามเจตนารมณข์ องพระราชบัญญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พทุ ธศักราช ๒๕๕๓
ในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งนี้ โรงเรียน
ได้ศึกษาสภาพปัญหา บริบท ของการจัดการศึกษาที่ผ่านมาและดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงาน วางแผนการ
ปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา รายกลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๖๑ จนสำเรจ็ ลลุ ว่ งดว้ ยดี
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ขอขอบคุณผู้ที่มี
ส่วนร่วมและส่วนเกี่ยวข้อง ที่ช่วยในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา รายวิชาเพิ่มเติมคอมพิวเตอร์ให้มีความ
สมบูรณ์และเหมาะสมสำหรับการจัดการเรียนการสอนในแต่ละระดับชั้น สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ
ตามมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วดั ทกี่ ำหนด
สารบญั ค
ประกาศใช้หลกั สตู รฯ ก
คำนำ ข
สารบัญ ค
สว่ นท่ี ๑ ส่วนนำ ๒
ความนำ ๒
อัตลักษณ์โรงเรยี น ๒
วิสัยทศั น์โรงเรียน ๒
เอกลกั ษณ์โรงเรียน ๓
พนั ธกจิ โรงเรียน ๓
เป้าประสงค์ ๓
ปณธิ านของโรงเรียน ๔
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๕
การวดั และประเมินผล
๑๓
สว่ นที่ ๒ โครงสร้างหลกั สูตร ๑๔
โครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศึกษา ๑๕
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑๖
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ ๑๗
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ ๑๘
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ ๑๙
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ๒๑
๒๔
ส่วนที่ ๓ คำอธิบาย โครงสรา้ งรายวชิ า ๒๘
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๓๒
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๒ ๓๗
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ๔๑
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ๔๕
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ๔๙
ส่วนที่ ๔ คำสงั่ โรงเรยี นและคณะผู้จัดทำ
คำสัง่ โรงเรยี นเฉลิมพระเกยี รติ ๖๐ พรรษาฯ ท่ี๐๕๑/๒๕๖๕
คณะผ้จู ดั ทำ
สว่ นที่ ๑
ส่วนนำ
๒
ความนำ
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวัด กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคำสัง่ กระทรวงศกึ ษาธิการ
ท่สี พฐ. ๓๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ท่ี ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐และคำส่ังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ท่ี
๓๐/๒๕๖๑ ลงวันท่ี ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลยี่ นแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคำสั่งให้โรงเรียนดำเนินการใช้หลักสูตรในปี
การศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ และ ๔ ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นมา ให้เป็น
หลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกำหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายและกรอบ
ทิศทางในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพและมีทักษะการเรียนรู้ใน
ศตวรรษที่ ๒๑ เพ่ือให้สอดคล้องกบั นโยบายและเป้าหมายของสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ จึงได้พัฒนา
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษาฯ ขึ้น เพื่อให้มีความสอดคล้องหลกั สูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน อีกทั้งโรงเรียนเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนได้มีการ
พัฒนาการอย่างเต็มตามศักยภาพ จึงมีบทบาทสำคัญในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา ดำเนินการนำ
หลักสูตรสู่การปฏิบัติในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจต่อพ่อแม่
ผู้ปกครองและชุมชนว่า “ผู้เรียนจะมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดและเกิดคุณลักษณะอันพึง
ประสงคต์ ามท่ีกำหนดไวใ้ นหลักสตู ร” และมีศักยภาพพร้อมอยู่ในประชาคมโลกอย่างมคี ุณภาพ
อัตลกั ษณโ์ รงเรียน
รอบร้วู ชิ าการ สรา้ งสรรค์กิจกรรม คุณธรรมนำชวี ิต
วสิ ัยทัศนโ์ รงเรยี น
โรงเรยี นเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ ิกิติ์พระบรมราชินีนาถ เปน็ โรงเรียนยอด
นิยมของจังหวัดนนทบุรี สร้างเสริมความรู้ คุณธรรม จริยธรรมผูเ้ รียนด้วยกระบวนการลูกเสือภายใต้หลัก
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
เอกลกั ษณ์โรงเรียน
วินัย สรา้ งไดด้ ว้ ยกระบวนการลูกเสอื
๓
พนั ธกิจโรงเรยี น
ส่งเสริม และพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาชาติ
และมีความพรอ้ มเขา้ สู่ประชาคมอาเซียน
๑. จัดกิจกรรมท่สี ่งเสริมให้นักเรยี นมคี วามรแู้ ละทกั ษะท่ีจำเปน็ ตามหลักสูตรสถานศกึ ษา
๒. ส่งเสริมให้ผู้เรยี นมคี วามสามารถในการคิดสรา้ งสรรค์ ตดั สนิ ใจ แก้ปญั หาได้อย่างมีสตสิ มเหตผุ ล
๓. จัดกิจกรรมทส่ี ่งเสรมิ ให้ผ้เู รยี นมที กั ษะในการแสวงหาความรแู้ ละพัฒนาตนเองอย่างตอ่ เนื่อง
๔. ส่งเสรมิ ให้สถานศกึ ษามกี ารจัดหลกั สตู รและกระบวนการเรยี นการสอนท่ีเนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ
๕. ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยใี นการเรยี นการสอน
๖. จัดกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม(คุณธรรมตามคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของ
ผู้เรยี นตามหลกั สตู ร ๘ ประการและค่านยิ มหลกั ของคนไทย ๑๒ ประการ)
๗. ส่งเสริมการจัดกิจกรรมลูกเสอื –ยวุ กาชาด
๘. ส่งเสริมการสร้างอัตลักษณ์ของสถานศึกษาให้โดดเด่นด้านการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง
๙. ส่งเสรมิ การเรียนรวู้ ัฒนธรรมและความเปน็ ไทย
๑๐. จดั กระบวนการเรยี นรใู้ หส้ อดคลอ้ งกบั พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไข
เพิม่ เตมิ พ.ศ. ๒๕๔๕
๑๑. ส่งเสริมและพัฒนาสภาพแวดล้อมและแหล่งเรียนรู้ให้สะอาดร่มรื่น ปลอดภัยและเอื้อต่อการ
เรยี นรู้
๑๒. ส่งเสริมการพฒั นาครใู หม้ ปี ระสทิ ธิภาพในการจัดการเรียนการสอน
๑๓. สง่ เสรมิ ความสมั พนั ธ์ระหว่างโรงเรียน ชุมชน ทอ้ งถ่ินและภาคเี ครอื ข่ายรว่ มพฒั นาการศึกษา
เปา้ ประสงค์
ผู้เรียนทุกคนมีคุณธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมที่พงึ ประสงค์ เป็นบคุ คลแหง่ การเรยี นรู้ นำ
กระบวนการลูกเสือและหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวติ อยใู่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมี
ความสขุ
ปณิธานของโรงเรยี น
ลูกเฉลมิ พระเกยี รติ มีศกั ดิ์ มีศรี ดว้ ยความดีและความสามารถ
๔
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โรงเรียนเฉลิม
พระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม
มาตรฐานท่ีกำหนด ซ่ึงจะชว่ ยให้ผูเ้ รียนเกดิ สมรรถนะสำคัญและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดังน้ี
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
หลักสูตรโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งให้ผู้เรียนเกิด
สมรรถนะสำคญั ๕ ประการ ดังน้ี
๑. ความสามารถในการส่ือสารนักเรียนมีทักษะพ้ืนฐานดานการอาน การเขยี นส่ือสารภาษาไทยและ
ภาษาอังกฤษไดดี มีความสามารถในการรับและสงสาร มีความรูความเขาใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการของทองถ่ิน
และวัฒนธรรมของตนเอง ในการใชภาษาถายทอดความคดิ ความรูสกึ และทศั นะของตนเองเพ่ือแลกเปลี่ยน
ขอมลู ขาวสารและประสบการณอนั จะเปนประโยชนตอการพฒั นาตนเองและสังคม
๒. ความสามารถในการคดิ เปนความสามารถในการคดิ วเิ คราะห การคิดสังเคราะห การคดิ อยาง
สรางสรรค การคิดอยางมวี ิจารณญาณ และการคดิ อยางเปนระบบ เพ่อื นําไปสูการสรางองคความรูเพ่ือพัฒนา
นวัตกรรมที่สอดคลองกับการสรางอาชีพในอําเภอบางใหญ่รวมทั้งนําสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับ
ตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแกปญหา เปนความสามารถในการแกปญหาและอุปสรรคตางๆ ที่เผชิญได
อย่างถูกตองเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและขอมูลสารสนเทศ เขาใจความสัมพันธและ
การเปล่ียนแปลงของเหตกุ ารณตาง ๆ ตามยุทธศาสตรการพฒั นา อำเภอบางใหญแ่ ละในสงั คม แสวงหาความ
รู ประยุกตความรูมาใชในการปองกันและแกไขปญหาและมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึง
ผลกระทบทีเ่ กิดข้นึ ตอตนเอง สงั คมและส่ิงแวดลอม
๔. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต เปนความสามารถในการนำกระบวนการตางๆ ไปใชในการ
ดำเนนิ ชีวติ ประจำวนั การเรียนรูดวยตนเอง การเรยี นรูอยางตอเน่ือง การทำงาน และการอยูรวมกันในสังคม
ดวยการสรางเสริมความสัมพันธอันดีระหว่างบุคคลมีระเบียบวินัย และเขาใจในสังคม พหุวัฒนธรรมที่
แตกต่างกนั ในทองถิ่นและต่างชาตทิ เี่ ขามาท่องเที่ยวใน อำเภอบางใหญ่
๕. ความสามารถในการใชเทคโนโลยี เปนความสามารถในการเลือก และใชเทคโนโลยีดานตาง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเอง ในดานการเรียนรูและประกอบอาชีพ การ
สอ่ื สาร การแกปญหาอยางสร้างสรรค ถูกตองเหมาะสมและมีคุณธรรม
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค
๑. รกั ชาติศาสน กษตั ริย
๒. ซอื่ สตั ยสจุ รติ มคี ุณธรรม
๓. มวี ินยั
๔. ใฝเรียนรู
๕. อยูอยางพอเพียง
๖. มุงมน่ั ในการทำงานสรางอาชพี ไดอยางยั่งยืน
๗. รกั ความเปนไทยและภาคภมู ใิ จในทองถ่นิ
๘. มจี ิตสาธารณะ
๕
การวดั และประเมนิ ผล
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
การประเมินผลสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ประเมินโดยใช้แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
โดยกำหนดเกณฑใ์ นการประเมิน ดงั นี้
ระดบั คุณภาพ ความหมาย
(๓) ผู้เรียนปฏิบัติตนตามสมรรถนะจนเป็นนิสัย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อ
ดีเยี่ยม ประโยชน์สุขของตนเองและสังคม โดยพิจารณาจากผลการประเมินระดับดีเยี่ยม
จำนวน ๓-๕ สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดไดผ้ ลการประเมินตำ่ กว่าระดบั ดี
(๒) ผู้เรียนมีสมรรถนะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพ่ือให้เป็นการยอมรับของสังคมโดย
ดีเย่ยี ม พจิ ารณาจาก
๑. ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน ๑-๒ สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใด
ได้ผลการประเมนิ ตำ่ กว่าระดบั ดี หรือ
๒. ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน ๒ สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใด
ได้ผลการประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดบั ผา่ น หรือ
๓. ได้ผลการประเมนิ ระดับดี จำนวน ๔-๕ สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใด ได้ผล
การประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดับผา่ น
(๑) ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่สถานศึกษากำหนด โดยพิจารณา
ดเี ยี่ยม จาก
๑. ได้ผลการประเมินระดับผ่าน จำนวน ๔-๕ สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใด
ไดผ้ ลการประเมินต่ำกวา่ ระดับผ่าน หรือ
๒. ได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน ๒ สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผลการ
ประเมนิ ต่ำกวา่ ระดบั ผ่าน
(๐) ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด โดยพิจารณาจาก
ดีเยยี่ ม ผลการประเมินระดบั ตอ้ งปรบั ปรุง ต้งั แต่ ๑ สมรรถนะ
เกณฑ์การให้คะแนน พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบตั บิ อ่ ยครงั้ ให้ ๒ คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัตนิ ้อยครั้ง ให้ ๐ คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ างคร้งั ให้ ๑ คะแนน
เกณฑ์การตดั สนิ ระดับคุณภาพตามสมรรถนะรายข้อ ระดับคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ดเี ย่ยี ม (๓)
๑๓ – ๑๕
๙ – ๑๒ ดี (๒)
๕–๘ ผา่ น (๑)
ตำ่ กวา่ ๕ ไม่ผา่ น (๐)
๖
แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ชือ่ -นามสุกล...................................................................................ชน้ั ........................เลขท.ี่ ......................
คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น และขีด ✓ ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั คะแนน
ระดบั คณุ ภาพ
สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ดเี ย่ียม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น
(๓) (๒) (๑) (๐)
๑. ความสามารถใน ๑.๑ มีความสามารถในการรับ-สง่ สาร
การสือ่ สาร ๑.๒ มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้
ความคิด ความเข้าใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่าง
เหมาะสม
๑.๓ ใช้วธิ กี ารส่อื สารท่เี หมาะสม มีประสิทธภิ าพ
๑.๔ เจรจาตอ่ รองเพื่อขจดั และลดปญั หาความ
ขัดแย้งตา่ งๆ ได้
๑.๕ เลอื กรบั และไมร่ ับข้อมูลข่าวสารด้วยเหตผุ ล
และถูกต้อง
สรุปผลการประเมิน รวม.........คะแนน ระดับ.........
๒. ความสามารถใน ๒.๑ มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
การคิด ๒.๒ มีทกั ษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์
๒.๓ สามารถคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ
๒.๔ มคี วามสามารถในการสรา้ งองคค์ วามรู้
๒.๕ ตัดสินใจแกป้ ัญหาเกย่ี วกับตนเองไดอ้ ย่าง
เหมาะสม
สรุปผลการประเมิน รวม.........คะแนน ระดับ.........
๓. ความสามารถใน ๓.๑ สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ทีเ่ ผชญิ ได้
การแก้ปัญหา ๓.๒ ใช้เหตผุ ลในการแกป้ ัญหา
๓.๓ เขา้ ใจความสมั พันธแ์ ละการเปลยี่ นแปลงใน
สงั คม
๓.๔ แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรูม้ าใชใ้ นการ
ป้องกันและแก้ไขปญั หา
๓.๕ สามารถตัดสินใจได้เหมาะสมตามวัย
สรปุ ผลการประเมนิ รวม.........คะแนน ระดบั .........
๗
สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ระดับคุณภาพ
ดีเย่ียม ดี ผา่ น ไม่ผา่ น
๔. ความสามารถใน ๔.๑ เรยี นร้ดู ้วยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวยั (๓) (๒) (๑) (๐)
การใช้ทกั ษะชวี ิต ๔.๒ สามารถทำงานกลุ่มรว่ มกับผู้อนื่ ได้
รวม.........คะแนน ระดบั .........
๔.๓ นำความรู้ที่ไดไ้ ปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวัน
๔.๔ จัดการปญั หาและความขดั แยง้ ได้เหมาะสม รวม.........คะแนน ระดับ.........
๔.๕ หลีกเล่ียงพฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ทสี่ ง่ ผล
กระทบตอ่ ตนเอง
สรุปผลการประเมนิ
๕ ความสามารถใน ๕.๑ เลอื กและใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสมตามวยั
การใช้เทคโนโลยี ๕.๒ มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
๕.๓ สามารถนำเทคโนโลยไี ปใช้พัฒนาตนเอง
๕.๔ ใช้เทคโนโลยีไปใชพ้ ฒั นาตนเอง
๕.๕ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี
สรปุ ผลการประเมนิ
ระดับคุณภาพตามเกณฑก์ ารประเมนิ ในหลกั สตู รรายชนั้
ลงชอื่ .......................................................ผูป้ ระเมนิ
๘
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
การประเมินผลคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ประเมนิ โดยใช้แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
โดยกำหนดเกณฑใ์ นการประเมิน ดังน้ี
ระดับคุณภาพ ความหมาย
(๓) ผเู้ รียนปฏบิ ตั ิตนตามคุณลักษณะจนเป็นนสิ ัยและนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันเพอื่
ดีเยี่ยม ประโยชน์สุขของตนเองและสังคม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมนิ ทั้ง ๘ คณุ ลกั ษณะ
คือ ได้ระดบั ๓ จำนวน ๕-๘ คุณลักษณะ และไมม่ ีคณุ ลกั ษณะใดได้ผลการประเมนิ ต่ำ
กว่าระดบั ๒
(๒) ผู้เรยี นมีคุณลกั ษณะในการปฏิบัติตามเกณฑ์ เพ่ือให้เปน็ ท่ียอมรบั ของสังคมโดย
ดี พจิ ารณาจาก
๑. ไดผ้ ลการประเมินระดับ ๓ จำนวน ๑-๔ คณุ ลักษณะและไม่มคี ุณลกั ษณะใดไดผ้ ล
การประเมินต่ำกว่าระดบั ๒ หรอื
๒. ได้ผลการประเมินระดบั ๓ จำนวน ๔ คณุ ลกั ษณะ และไม่มคี ณุ ลักษณะใดไดผ้ ล
การประเมินตำ่ กว่าระดบั ๑ หรือ
๓. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับ ๒ จำนวน ๕-๘ คณุ ลกั ษณะ และไม่มคี ุณลักษณะใดไดผ้ ล
การประเมนิ ต่ำกวา่ ระดับ ๑
(๑) ผู้เรียนรบั รู้และปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์ และเงื่อนไขทีส่ ถานศึกษากำหนดโดยพิจารณา
ผา่ น จาก
๑. ได้ผลการประเมินระดบั ๑ จำนวน ๕-๘ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผล
การประเมินต่ำกว่าระดับ ๑ หรอื
๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ๒ จำนวน ๔ คณุ ลักษณะและไมม่ ีคุณลักษณะใดได้ผลการ
ประเมนิ ต่ำกว่าระดบั ๑
(๐) ผูเ้ รยี นรับรู้และปฏิบตั ไิ ด้ไมค่ รบตามกฎเกณฑ์ และเงื่อนไขท่ีสถานศึกษากำหนดโดย
ไมผ่ า่ น พิจารณาจากผลการประเมินระดับ ๐ ต้ังแต่ ๑ คุณลักษณะข้นึ ไป
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน
พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั สิ มำ่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน
พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ิบ่อยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั บิ างครั้ง ให้ ๐ คะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั นิ ้อยคร้ัง
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๙
ชอื่ -นามสุกล...................................................................................ชัน้ ........................เลขท่ี.......................
คำชแี้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น และขีด ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั คะแนน
ระดบั คณุ ภาพ
สมรรถนะดา้ น รายการประเมิน ดเี ยี่ยม ดี ผ่าน ไม่ผา่ น
(๓) (๒) (๑) (๐)
๑. รักชาติ ศาสน์ - ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้
กษัตรยิ ์ - เขา้ ร่วมกิจกรรมทีส่ รา้ งความสามัคคี ปรองดอง และ
เปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น
- เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ ปฏิบตั ิตาม
หลกั ศาสนา
- เขา้ รว่ มกิจกรรมที่เกี่ยวกบั สถาบันพระมหากษตั รยิ ์
ตามท่ีโรงเรยี นจัดขนึ้
๒. ซือ่ สัตย์ สจุ รติ - ใหข้ อ้ มูลที่ถกู ต้อง และเป็นจรงิ
- ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกต้อง
๓. มีวินัย - ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของ
รับผดิ ชอบ ครอบครวั มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรม
ตา่ งๆ ในชีวิตประจำวัน
๔. ใฝเ่ รียนรู้ - รู้จกั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้
- ร้จู กั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม
- เช่ือฟงั คำสงั่ สอนของบิดา มารดา โดยไม่โต้แย้ง
- ตง้ั ใจเรียน
๕. อยู่อย่าง - ใช้ทรัพยส์ ินและสงิ่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั
พอเพียง - ใช้อุปกรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรู้คุณค่า
- ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเก็บออมเงิน
๖. มุ่งมน่ั ในการ - มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานทไี่ ดร้ ับ
ทำงาน มอบหมาย
- มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพื่อให้งาน
สำเร็จ
๗. รักความเป็นไทย - มจี ิตสำนึกในการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
- เห็นคุณคา่ และปฏบิ ัติตนตามวฒั นธรรมไทย
- รูจ้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครทู ำงาน
๘. มจี ติ สาธารณะ - รู้จักการดูแลรักษาทรัพยส์ มบตั แิ ละส่ิงแวดลอ้ มของ
หอ้ งเรยี นและโรงเรียน
ระดบั คณุ ภาพตามเกณฑ์การประเมนิ ในหลกั สตู รรายชั้น
ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมิน
เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการเรยี น ๑๐
เกณฑ์การตัดสินระดับผลการเรยี น ชว่ งคะแนน
๐ - ๔๙
ระดบั ผลการเรียน ความหมาย ๕๐ - ๕๔
๕๕ - ๕๙
๐ ผลการเรียนต่ำกวา่ เกณฑ์ ๖๐ - ๖๔
๖๕ - ๖๙
๑ ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ขั้นต่ำ ๗๐ - ๗๔
๗๕ - ๗๙
๑.๕ ผลการเรียนพอใช้ ๘๐ - ๑๐๐
๒ ผลการเรียนปานกลาง
๒.๕ ผลการเรยี นค่อนขา้ งดี
๓ ผลการเรยี นดี
๓.๕ ผลการเรยี นดมี าก
๔ ผลการเรียนดีเย่ียม
๑๑
การประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละการเขยี น
เกณฑ์การประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์และการเขยี น คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน
ระดบั คณุ ภาพ ความหมาย ช่วงคะแนน
ดีเยีย่ ม มผี ลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิด ๘๐ – ๑๐๐
วิเคราะห์และเขยี น ทีม่ ีคุณภาพดเี ลศิ อย่เู สมอ
ดี มีผลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ ๖๕ – ๗๙
วเิ คราะหแ์ ละเขียน ที่มีคณุ ภาพเปน็ ทีย่ อมรบั ได้
ผ่าน มีผลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอา่ น คิด ๕๐ - ๖๔
วเิ คราะหแ์ ละเขยี น ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับได้ แต่
ยงั มขี ้อบกพรอ่ งบางประการ
ไมผ่ ่าน ไมม่ ผี ลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิด ๐ - ๔๙
วเิ คราะหแ์ ละเขยี น หรือถา้ มีผลงาน ผลงานน้นั ยงั มี
ข้อบกพร่องที่ต้องการได้รับการปรับปรุงแก้ไขหลาย
ประการ
ส่วนท่ี ๒
โครงสร้างหลกั สูตร
สถานศกึ ษา
๑๓
โครงสรา้ งหลกั สูตรโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเดจ็ พระนางเจ้าสริ กิ ิต์ิพระบรมราชินนี าถ
กล่มุ สาระการเรยี นร/ู้ กิจกรรม เวลาเรยี น
ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖
กล่มุ สาระการเรียนรู้
๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
คณิตศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
- ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม
- หนา้ ทพ่ี ลเมือง วัฒนธรรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
และการดำรงชีวิตในสังคม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
- เศรษฐศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
- ภมู ิศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
- ประวตั ศิ าสตร์ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐
สขุ ศึกษาและพลศึกษา
ศิลปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
การงานอาชีพ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
ภาษาตา่ งประเทศ
๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
รวมเวลาเรยี น (พ้นื ฐาน)
รายวิชา / กิจกรรมทส่ี ถานศกึ ษาจัด ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
เพมิ่ เตมิ
* คอมพิวเตอร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
**ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
รวมเวลาเรยี น (เพมิ่ เติม) ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
* แนะแนว ๑,๐๘๐ ชม. ต่อ ปีการศึกษา
* กิจกรรมนักเรยี น (ไมน่ ้อยกว่า ๑,๐๐๐ ชม. ต่อ ปีการศึกษา)
- ลกู เสอื -เนตรนารี
- กิจกรรมชุมนมุ
* กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรยี น (กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น)
รวมเวลาเรยี นท้ังหมด
๑๔
โครงสรา้ งหลักสูตรช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑
รหสั รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี (ชม./สัปดาห์)
รายวิชาพ้ืนฐาน (๘๔๐) (๒๑)
ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๒๐๐ ๕
ค ๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ ๒๐๐ ๕
ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑ ๘๐ ๒
ส ๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๑ ๘๐ ๒
ส ๑๑๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๑ ๔๐ ๑
พ ๑๑๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๑ ๔๐ ๑
ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๑ ๔๐ ๑
ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชพี ๑ ๔๐ ๑
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ ๑๒๐ ๓
รายวิชาเพ่มิ เติม (๑๒๐) (๓)
ว ๑๑๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๑ ๔๐ ๑
อ ๑๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร ๑ ๘๐ ๒
กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น (๑๒๐) (๓)
กจิ กรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐
กิจกรรมนักเรียน
๔๐ ๔๐
- ลูกเสือ/เนตรนารี ๓๐ ๓๐
๑๐ ๑๐
- ชุมนมุ
- กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ๒๗
รวมเวลาเรียนทงั้ สิน้ ๑,๐๘๐
๑๕
โครงสรา้ งหลักสูตรชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒
รหสั รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน (ชม./ป)ี (ชม./สัปดาห์)
รายวชิ าพื้นฐาน (๘๔๐) (๒๑)
ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ ๒๐๐ ๕
ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒ ๒๐๐ ๕
ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒ ๘๐ ๒
ส ๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๒ ๘๐ ๒
ส ๑๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๒ ๔๐ ๑
พ ๑๒๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๒ ๔๐ ๑
ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๒ ๔๐ ๑
ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๒ ๔๐ ๑
อ ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๒ ๑๒๐ ๓
รายวชิ าเพม่ิ เติม (๑๒๐) (๓)
ว ๑๒๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๒ ๔๐ ๑
อ ๑๒๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ๒ ๘๐ ๒
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น (๑๒๐) (๓)
กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐
กิจกรรมนักเรียน
๔๐ ๔๐
- ลูกเสือ/เนตรนารี ๓๐ ๓๐
๑๐ ๑๐
- ชุมนุม
- กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ๒๗
รวมเวลาเรียนทัง้ ส้นิ ๑,๐๘๐
๑๖
โครงสรา้ งหลักสตู รชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓
รหัส รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี (ชม./สัปดาห์)
รายวิชาพน้ื ฐาน (๘๔๐) (๒๑)
ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๒๐๐ ๕
ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ ๒๐๐ ๕
ว ๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓ ๘๐ ๒
ส ๑๓๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๓ ๘๐ ๒
ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๓ ๔๐ ๑
พ ๑๓๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๓ ๔๐ ๑
ศ ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๓ ๔๐ ๑
ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชพี ๓ ๔๐ ๑
อ ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๓ ๑๒๐ ๓
รายวชิ าเพิม่ เติม (๑๒๐) (๓)
ว ๑๓๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๓ ๔๐ ๑
อ ๑๓๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ๓ ๘๐ ๒
กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น (๑๒๐) (๓)
กจิ กรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐
กิจกรรมนักเรยี น
๔๐ ๔๐
- ลูกเสือ/เนตรนารี ๓๐ ๓๐
- ชุมนมุ ๑๐ ๑๐
- กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ๒๗
รวมเวลาเรยี นทั้งส้ิน ๑,๐๘๐
๑๗
โครงสรา้ งหลักสูตรชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔
รหสั รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรียน (ชม./ปี) (ชม./สัปดาห์)
รายวชิ าพื้นฐาน (๘๔๐) (๒๑)
ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ ๑๖๐ ๔
ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔ ๑๖๐ ๔
ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔ ๑๒๐ ๓
๘๐ ๒
ส ๑๔๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔ ๔๐ ๑
ส ๑๔๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔ ๘๐ ๒
พ ๑๔๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๔ ๘๐ ๒
๔๐ ๑
ศ ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ ๔ ๘๐ ๒
ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ ๔
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔ (๑๒๐) (๓)
รายวิชาเพิ่มเติม ๔๐ ๑
๘๐ ๒
ว ๑๔๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๔
อ ๑๔๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร ๔ (๑๒๐) (๓)
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น/กจิ กรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ๔๐ ๔๐
กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐
กจิ กรรมนักเรียน ๓๐ ๓๐
๑๐ ๑๐
- ลูกเสือ/เนตรนารี
๒๗
- ชมุ นมุ
- กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรยี นท้งั สน้ิ ๑,๐๘๐
๑๘
โครงสรา้ งหลกั สตู รชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
รหัส รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ปี) (ชม./สัปดาห์)
รายวชิ าพนื้ ฐาน (๘๔๐) (๒๑)
ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๑๖๐ ๔
ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ ๑๖๐ ๔
ว ๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๕ ๑๒๐ ๓
ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๕ ๘๐ ๒
ส ๑๕๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๕ ๔๐ ๑
พ ๑๕๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๕ ๘๐ ๒
ศ ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ๕ ๘๐ ๒
ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ ๕ ๔๐ ๑
อ ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ ๘๐ ๒
รายวิชาเพ่มิ เติม (๑๒๐) (๓)
ว ๑๕๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๕ ๔๐ ๑
อ ๑๕๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร ๕ ๘๐ ๒
กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน/กิจกรรม “ลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลาร”ู้ (๑๒๐) (๓)
กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐
กิจกรรมนกั เรยี น
๔๐ ๔๐
- ลูกเสือ/เนตรนารี ๓๐ ๓๐
๑๐ ๑๐
- ชุมนุม
๒๗
- กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนทงั้ สนิ้ ๑,๐๘๐
๑๙
โครงสร้างหลักสูตรชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖
รหสั รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรียน (ชม./ปี) (ชม./สัปดาห์)
รายวชิ าพื้นฐาน (๘๔๐) (๒๑)
ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ ๑๖๐ ๔
ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๖ ๑๖๐ ๔
ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๖ ๑๒๐ ๓
๘๐ ๒
ส ๑๖๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๖ ๔๐ ๑
ส ๑๖๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๖ ๘๐ ๒
พ ๑๖๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๖ ๘๐ ๒
๔๐ ๑
ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๖ ๘๐ ๒
ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ ๖
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๖ (๑๒๐) (๓)
รายวิชาเพิ่มเติม ๔๐ ๑
๘๐ ๒
ว ๑๖๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๖
อ ๑๖๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ๖ (๑๒๐) (๓)
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น/กจิ กรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ๔๐ ๔๐
กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐
กจิ กรรมนักเรียน ๓๐ ๓๐
๑๐ ๑๐
- ลูกเสือ/เนตรนารี
๒๗
- ชมุ นมุ
- กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรยี นท้งั ส้นิ ๑,๐๘๐
สว่ นที่ ๓
คำอธิบายรายวิชา
โครงสรา้ งรายวิชา
๒๑
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เวลา ๔๐ ชั่วโมง
ว๑๑๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๑
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๑
ศึกษาเรียนรู้ ฝึกทักษะการออกแบบด้วยโปรแกรมเพ้นท์ สามารถเปิด - ปิดโปรแกรม บอกชื่อและ
หน้าทีของเครือ่ งมอื รูปรา่ งเครือ่ งมอื ของโปรแกรมเพ้นท์ สรา้ งสรรคช์ ้ินงานอย่างหลากหลาย เรยี นรกู้ ารเขียน
โปรแกรมอยา่ งงา่ ยผ่านเว็บ Code.Org
โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ได้ลงมือปฏิบัติจริง มีการสาธิต การนำเสนอ การสอนโดยใช้เกม การ
ยกตัวอย่างการจัดเก็บผลงาน การใช้กระบวนการกลุ่ม การฝกึ ทักษะการคิดแบบสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะ
การแก้ปัญหา ให้ผู้เรียนได้มีความอดทนสามารถคิดและแก้ปัญหาได้มีพื้นฐานด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์
เรยี นรู้การเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่ายและใช้เทคโนโลยีใหเ้ หมาะสมกบั งานได้ เพอ่ื ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั
ผลการเรยี นรู้
ข้อที่ 1 เปิด-ปิดโปรแกรมเพ้นทไ์ ด้
ข้อท่ี ๒ บอกช่อื เคร่ืองมือการใชง้ านต่าๆ ในโปรแกรมเพน้ ท์ได้
ข้อท่ี ๓ บอกหนา้ ทข่ี องเคร่อื งมอื โปรแกรมเพน้ ท์
ข้อท่ี 4 ใชเ้ ครอ่ื งมอื โปรแกรมเพ้นท์ และลงสีไดอ้ ย่างถูกต้อง
ข้อที่ 5 สามารถวาดภาพตามหวั ขอ้ ทีก่ ำหนด ใหใ้ นโปรแกรมเพน้ ท์ได้
ขอ้ ที่ ๖ สามารถแกป้ ัญหาอยา่ งง่าย เชน่ การลองผิดลองถูก การเปรยี บเทียบ ได้
ขอ้ ที่ ๗ แสดงขั้นตอนการแก้ปญั หาหรือการทำงานได้ โดยใช้ภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือขอ้ ความได้
ข้อท่ี ๘ มีพ้ืนฐานด้านวทิ ยาการคอมพิวเตอร์เรยี นรกู้ ารเขียนโปรแกรมอย่างง่าย
ขอ้ ที่ ๙ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการสรา้ ง จดั เก็บ และเรียกใช้งานได้
ขอ้ ที่ ๑๐ ใชแ้ ละดแู ลรกั ษาเทคโนโลยีสารสนเทศได้อยา่ งปลอดภยั และเหมาะสม
รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรียนรู้
รวม ๖ ผลการเรยี นรู้
๒๒
โครงสร้างรายวชิ า
ว๑๑๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๑
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรียนที่ ๑ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ท่ี ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ ผลการ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั
เรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน
1 การแกป้ ัญหาอย่างเปน็ ข้อท่ี ๖ 1) การแก้ปัญหาให้ประสบความสำเร็จทำ 7 40
ข้ันตอน ขอ้ ท่ี ๗ ไดโ้ ดยใช้ขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา
2) การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหาทำได้
โดยการเขียน บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้
สญั ลกั ษณ์
3) ปัญหาอย่างง่าย เช่น เกมเขาวงกต เกม
หาจุดแตกต่างของภาพ การจัดหนังสือใส่
กระเป๋า
2 การเขียนโปรแกรมเบือ้ งต้น ขอ้ ที่ ๘ 1) การเขียนโปรแกรมเป็นการสร้างลำดับ 12 ๒0
ของคำสั่ง ใหค้ อมพวิ เตอรท์ ำงาน
2) ตัวอย่างโปรแกรม เช่น เขียนโปรแกรม
สั่งให้ ตวั ละครยา้ ยตำแหน่ง ยอ่ ขยายขนาด
เปล่ียนรปู รา่ ง
3) ซอฟต์แวร์ หรือสื่อที่ใช้ในการเขียน
โปรแกรม เช่น ใช้บัตรคำสั่งแสดงการเขียน
โปรแกรม, Code.org
ขอ้ ที่ ๘ มีพื้นฐานด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์เรียนรู้ ๖ ๒๐
การเขียนโปรแกรม
สอบปลายภาค 1 20
ภาคเรยี นท่ี 1 20 100
๒๓
โครงสรา้ งรายวชิ า
ว๑๑๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๑
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๒๐ ชัว่ โมง
ที่ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ผลการ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั
เรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน
3 การใช้งานเทคโนโลยี ข้อท่ี 1 การเปดิ -ปิดโปรแกรมเพน้ ท์ ๒๕
เบือ้ งต้น
ขอ้ ที่ 2 บอกชื่อเครอื่ งมือการใชง้ านต่างๆใน ๓ ๑๕
โปรแกรมเพ้นท์
ขอ้ ท่ี 3 บอกหนา้ ทข่ี องเครื่องมือโปรแกรมเพน้ ท์ ๔ ๑๐
4 การใช้งานเทคโนโลยี ข้อท่ี 4 ใชเ้ ครื่องมือโปรแกรมเพ้นท์ได้อย่างถูกต้อง ๕ ๒0
สารสนเทศ ไดแ้ ก่ การวาดภาพเส้นตรง การวาดภาพเสน้
โคง้ การวาดภาพวงกลม การวาดภาพ
สีเ่ หลีย่ ม การขยายรูปภาพ การใชย้ างลบ
การเลอื กสี การพิมพ์ข้อความ
ข้อที่ 5 วาดภาพตามหวั ข้อทก่ี ำหนดให้ในโปรแกรม ๕ ๓๐
เพ้นท์ได้ การวาดภาพของฉนั การวาดภาพ
ปลา การวาดภาพรถไฟ การวาดภาพวันปี
ใหม่
สอบปลายภาค 1 80
ภาคเรียนท่ี 2 ๒๐ ๑๐๐
๒๔
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
ว๑๒๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
เวลา ๔๐ ชว่ั โมง
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๒
ศึกษาการแสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือแก้ปัญหาอย่างง่าย โดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือ
ข้อความ ตลอดจนการเขียนโปรแกรมสร้างลำดับของคอมพิวเตอร์ทำงาน และตรวจหาข้อผิดพลาดของ
โปรแกรม ศึกษาการใช้งานซอฟต์แวร์เบ้ืองตน้ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสร้าง และจัดการกับข้อมูล
อย่างเปน็ ระบบ รวมถงึ การใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั
โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Base Learning) เพื่อเน้นให้ผู้เรียน
เกดิ การเรียนรู้จากการฝึกแก้ปัญหาตา่ ง ๆ ผ่านกระบวนการคดิ การปฏบิ ตั อิ ยา่ งมรี ะบบ และสรา้ งองค์ความรู้
ใหม่จากการใชป้ ัญหาท่ีเกิดขน้ึ จรงิ ในชวี ิตประจำวันได้
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็น
ขั้นตอนและเป็นระบบ มีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้นใน
การแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และการดำรงชีวิตจนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและ
จินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสินใจ
และเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่าง
สร้างสรรค์
ผลการเรยี นรู้
ขอ้ ท่ี 1 บอกช่ือ หนา้ ทีแ่ ละมที ักษะในการใชง้ านอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ได้
ข้อท่ี ๒ บอกชื่อ หน้าท่ีและใชง้ านเคร่ืองมือโปรแกรม Paint ได้อย่างถกู ตอ้ ง
ข้อที่ ๓ ใชโ้ ปรแกรม Paint ในการออกแบบตัวการ์ตนู (Cartoon Character Design) และองคป์ ระกอบได้
ขอ้ ท่ี 4 นกั เรยี นแสดงลำดับข้นั ตอนการทำงาน สามารถแก้ปัญหาอย่างง่ายได้
ข้อที่ 5 นักเรียนเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ยและตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรมได้
ขอ้ ท่ี ๖ นักเรียนใช้ซอฟตแ์ วรเ์ บ้ืองตน้ โปรแกรม Paint ในการจัดการไฟล์อย่างมรี ะบบ
ข้อท่ี ๗ ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน และบอกวิธีการดูแลรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้
อย่างเหมาะสม
รวมทงั้ หมด ๗ ผลการเรียนรู้
๒๕
โครงสร้างรายวชิ า
ว๑๒๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๒
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ที่ ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ ผลการ สาระการเรียนรู้ เวลา น้ำหนัก
เรียนรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
1 การแก้ปัญหาอยา่ ง ข้อที่ ๔ 1) การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา ทำได้โดยการ ๙ ๔๐
เปน็ ขน้ั ตอน เขียนบอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สญั ลกั ษณ์
2) ปัญหาอย่างง่าย เช่น เกมตัวต่อ 6-12 ชิ้น การ
แตง่ ตวั มาโรงเรยี น
๓) การแก้ปัญหาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
ดังนั้น จึงต้องเรียนรู้ขั้นตอนการแก้ปัญหาที่เกิดข้ึน
ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและรวดเร็ว
๔) ขน้ั ตอนการแก้ปญั หามี ๔ ขน้ั ตอนดงั น้ี พิจารณา
และทำความเข้าใจปัญหา วางแผนการแก้ปัญหา ลง
มอื แก้ปญั หา ตรวจสอบผลการแกป้ ัญหา
2 การใชเ้ ทคโนโลยี ขอ้ ท่ี ๑ คอมพิวเตอร์มีอุปกรณ์พื้นฐานต่างๆที่เป็น ๕ ๑๐
สารสนเทศอย่าง ส่วนประกอบหลัก การศึกษาระบบการทำงานและ
ปลอดภัย อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์จะช่วยให้มีความรู้
ความเข้าใจในการใชง้ านคอมพิวเตอร์
ข้อท่ี ๗ 1) การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เช่น ๕ ๓๐
รู้จักข้อมูลส่วนตัวของตนเอง อันตรายจากการ
เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว และไม่บอกข้อมูลส่วนตัวกับ
บุคคลอื่นยกเว้นผู้ปกครองหรือครู แจ้งผู้เกี่ยวข้อง
เมื่อต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการใช้งาน
เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างปลอดภยั
2) การเรียนรู้ข้อปฏิบัติในการใช้งานและการดูแล
รักษาอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี เช่น ไมข่ ดี เขียนบนอปุ กรณ์
ทำความสะอาดใช้อปุ กรณอ์ ยา่ งถกู วิธี
3) การใช้งานอย่างเหมาะสม จะช่วยยืดอายุการใช้
งานของอุปกรณ์เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เช่น จัดท่านั่งให้ถูกต้อง การพักสายตาเมื่อใช้
อุปกรณ์เป็นเวลานาน ระมัดระวังอุบัติเหตุจากการ
ใชง้ าน
สอบปลายภาค 1 20
ภาคเรยี นที่ 1 20 100
๒๖
โครงสรา้ งรายวชิ า
ว๑๒๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๒
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง
ที่ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ ผลการ สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั
เรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
3 การตรวจหาขอ้ ผิดพลาด ขอ้ ท่ี ๕ ๑) ตวั อย่างโปรแกรม เชน่ เขียนโปรแกรมส่งั ๙ ๔๐
ของโปรแกรม ให้ตวั ละครทำงานตามท่ตี ้องการ และ
ตรวจสอบข้อผดิ พลาด ปรบั แกไ้ ขใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์
ตามท่ีกำหนด
๒) การตรวจหาข้อผิดพลาด ทำได้โดย
ตรวจสอบคำสัง่ ท่ีแจง้ ขอ้ ผดิ พลาด หรอื หาก
ผลลพั ธไ์ มเ่ ป็นไปตามที่ต้องการให้ตรวจสอบ
การทำงานทลี ะคำสง่ั
๓) ซอฟต์แวรห์ รือสื่อทใี่ ช้ในการเขยี น
โปรแกรม เชน่ ใชบ้ ตั รคำส่งั แสดงการเขยี น
โปรแกรม, Code.org
4 การจดั การไฟล์อยา่ งมี ขอ้ ที่ ๒ การใชง้ านเครื่องมือโปรแกรม Paint ๑๐ ๑๐
ระบบ ▪ การเปดิ -ปดิ โปรแกรม Paint
▪ แถบเคร่ืองมือ ดงั นี้ เคร่ืองมือใน
clipboard เครื่องมอื ใน Image เคร่ืองมอื
ใน Tools เครือ่ งมือใน Shapes เครอื่ งมือ
ใน Colors
▪ เมนคู ำส่งั ตา่ งๆ
▪ การวาดภาพอย่างง่าย
▪ การใสส่ ีในภาพ
▪ การใสส่ ขี ้อความในภาพ
▪ การพิมพผ์ ลงานออกทางเครื่องพิมพ์
๒๗
ท่ี ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ ผลการ สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั
เรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน
ข้อที่ ๓ ▪ กำหนดขนาดกระดาษในการวาดภาพ ๒๐
▪ วาดภาพโดยใชเ้ คร่ืองมือวาดภาพ
ดังน้ี การใช้ดนิ สอ การใช้แปรงทาสี การวาด
เส้นตรง และรปู แบบอนื่ ๆ การวาดเสน้ โคง้
การวาดเสน้ อิสระ การวาดรูปหลายเหลย่ี ม
หรือ สเ่ี หลี่ยมมน การวาดรูปวงกลม / วงรี
การใช้ยางลบ การเลือกถังสี การใช้เครื่องมือ
รปู ตดั อสิ ระ แบบ
ส่ีเหล่ียม การพิมพ์ข้อความ การขยายภาพ
การบนั ทกึ จดั เก็บ
▪ การวาดภาพ ออกแบบตวั การ์ตูน
▪ การวาดภาพ องค์ประกอบตา่ งๆ
ข้อที่ ๖ ๑) การใชง้ านซอฟต์แวรเ์ บ้ืองต้น เช่น การเข้า ๑๐
และออกจากโปรแกรม การสรา้ งไฟล์ การ
จดั เกบ็ การเรยี กใช้ไฟล์ การแก้ไขตกแต่ง
เอกสาร ทำไดใ้ นโปรแกรม เชน่ โปรแกรม
ประมวลคำ โปรแกรมกราฟกิ โปรแกรม
นำเสนอ
๒) การสร้าง คัดลอก ย้าย ลบ เปลยี่ นช่ือ จดั
หมวดหมู่ไฟล์ และโฟลเดอรอ์ ยา่ งเป็นระบบจะ
ทำให้เรยี กใช้ ค้นหาข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว
สอบปลายภาค 1 80
ภาคเรียนท่ี 2 ๒๐ ๒๐
๒๘
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม
ว๑๓๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
เวลา ๔๐ ชวั่ โมง
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๓
ศึกษาเกี่ยวกับการใช้อัลกอริทึมในการแก้ปัญหา โดยมีการใช้แนวคิดเชิงคำนวณเข้ามาช่วยในการ
แก้ปัญหา ศึกษาการเขียนโปรแกรมอย่างง่าย การตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรมซึ่งเรียนรู้ได้จาก
เว็บไซต์ Code.org ศกึ ษาการสบื ค้นข้อมลู จากอินเทอร์เน็ต การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย การ
รวบรวม ประมวลผล นำเสนอข้อมูล และศึกษาการใช้งานซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการ
พัฒนางานใหม้ ีประสิทธิภาพ
ฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ โดยการใช้โปรแกรมฝึกใช้แป้นพิมพ์ตัวอักษรและคำ การใช้งาน
โปรแกรม Microsoft Word เบื้องตน้ สำหรับการพิมพ์งานเอกสาร การสรา้ งภาพสวยดว้ ยโปรแกรมเพ้นท์เพื่อ
สร้างสรรค์ช้ินงาน มีพื้นฐานด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์เพือ่ ให้ผู้เรยี นมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะการคิดเชิง
คำนวณ การคดิ วิเคราะห์ แกป้ ญั หาเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษา
ข้อมูลส่วนตัว และการส่ือสารเบื้องต้นในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนนำ
ความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละนำเทคโนโลยีใหมท่ ี่เกิดขึ้นไปใช้ให้เกิดประโยชนต์ ่อสงั คมและการ
ดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการจัดการ
ทักษะในการสื่อสาร และความสามารถในการตัดสินใจ และเป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม
และค่านยิ มในการใชว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ยา่ งสรา้ งสรรค์
ผลการเรยี นรู้
ข้อที่ ๑ วาดภาพตามหัวขอ้ ท่กี ำหนดด้วยโปรแกรม Paint
ข้อที่ ๒ ใชเ้ คร่ืองมือการใช้งานสำหรบั พมิ พง์ านเบอื้ งตน้ ในโปรแกรม Microsoft Word ได้
ข้อที่ ๓ สามารถพิมพ์งานเบื้องตน้ ตามหัวขอ้ ทก่ี ำหนด ในโปรแกรม Microsoft Word ได้
ข้อที่ ๔ สืบคน้ ขอ้ มลู โดยใช้อินเทอรเ์ นต็ โดยใช้เวบ็ ไซต์สำหรบั สืบค้นได้
ขอ้ ท่ี ๕ มีมารยาทในการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ข้อท่ี ๖ มีพ้นื ฐานดา้ นวทิ ยาการคอมพิวเตอร์เรยี นรูก้ ารเขียนโปรแกรมอย่างง่าย
ข้อท่ี ๗ แสดงอัลกอริทึมในการทำงานและแกป้ ัญหาได้
รวมทงั้ หมด ๗ ผลการเรยี นรู้
๒๙
โครงสรา้ งรายวชิ า
ว๑๓๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๓
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ จำนวน ๒๐ ชัว่ โมง
ท่ี ชือ่ หน่วยการ ผลการ สาระการเรียนรู้ เวลา น้ำหนัก
เรียนรู้ เรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
๑) อัลกอริทึมเป็นข้นั ตอนท่ใี ชใ้ นการแกป้ ัญหา
๒) การแสดงอัลกอริทึม ทำได้โดยการเขยี นบอกเล่า
๑ อลั กอริทึมกับการ ขอ้ ท่ี ๗ วาดภาพ หรือใช้สญั ลักษณ์ ๖ ๔๐
แกป้ ญั หา ๓) ตัวอย่างปญั หา เชน่ เกมเศรษฐี เกมบันไดงู เกม
Tetris เกม OX การเดนิ ไปโรงอาหาร การทำความ
สะอาดห้องเรียน
๑) การเขยี นโปรแกรมเป็นการรา้ งลำดับของคำสง่ั
ให้คอมพวิ เตอร์ทำงาน
๒) ตวั อยา่ งโปรแกรม เช่น เขียนโปรแกรมท่ีส่ังให้ตวั
๒ การเขยี นโปรแกรม ข้อที่ ๖ ละครทำงานซ้ำไม่สน้ิ สดุ ๙ ๓๐
อย่างงา่ ย ๓) การตรวจหาข้อผิดพลาด ทำได้โดยตรวจสอบ
คำส่ังทแ่ี จง้ ข้อผดิ พลาด หรือหากผลลัพธ์ไม่เป็นไป
ตามท่ตี ้องการใหต้ รวจสอบการทำงานทลี ะคำสง่ั
๔) ซอฟตแ์ วรห์ รอื ส่ือทใ่ี ช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น
ใชบ้ ตั รคำสงั่ แสดงการเขยี นโปรแกรม, Code.org
๑) อินเทอรเ์ น็ตเปน็ เครือข่ายขนาดใหญ่ชว่ ยใหก้ าร
ตดิ ต่อสอื่ สารทำได้สะดวกและรวดเร็ว และเป็น
แหล่งข้อมลู ความรทู้ ่ีชว่ ยในการเรยี นและการดำเนิน
อนิ เทอรเ์ น็ตและ ขอ้ ท่ี ๔ ชีวติ ๔ ๒๐
๓ เทคโนโลยี ๒) เวบ็ เบราวเ์ ซอร์เปน็ โปรแกรมสำหรับอา่ นเอกสาร
บนเวบ็ เพจ
สารสนเทศ ๓) การสบื ค้นข้อมูลบนอนิ เทอร์เนต็ ทำได้โดยใช้
เว็บไซตส์ ำหรบั สืบค้น และต้องกำหนดคำคน้ ที่
เหมาะสมจึงจะได้ข้อมูลตามต้องการ
๔) ข้อมลู ความรู้ เชน่ วธิ ที ำอาหาร วธิ พี บั
๓๐
ท่ี ช่อื หน่วยการ ผลการ สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั
เรยี นรู้ เรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน
กระดาษเป็นรูปต่าง ๆ ขอ้ มลู ประวตั ิศาสตร์ชาติไทย
การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั ควรอยู่ในการ
ดูแลของครู หรือผปู้ กครอง
๕) การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เช่น
ปกปอ้ งขอ้ มูลสว่ นตวั
๖) ขอความชว่ ยเหลอื จากครูหรอื ผปู้ กครอง เม่ือเกดิ
ปญั หาจากการใชง้ าน เม่ือพบขอ้ มูลหรือบคุ คล
ทท่ี ำให้ไมส่ บายใจ
๗) การปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลงในการใช้อนิ เทอรเ์ นต็ จะ
ทำให้ไมเ่ กดิ ความเสยี หายตอ่ ตนเองและผอู้ น่ื เชน่
ไมใ่ ช้คำหยาบ ล้อเลียน ด่าทอ ทำให้ผู้อ่ืนเสยี หาย
หรือเสียใจ
๘) ข้อดแี ละข้อเสียในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสาร
สอบปลายภาค 1 ๒0
ภาคเรยี นที่ ๑ ๒๐ ๒๐
๓๑
โครงสรา้ งรายวชิ า
ว๑๓๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๓
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๒ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ที่ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ผลการ สาระการเรียนรู้ เวลา น้ำหนัก
เรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
๔ การรวบรวม ประมวลผล ข้อที่ ๒ ๑) การรวบรวมข้อมูล ทำไดโ้ ดยกำหนดหัวขอ้
และนำเสนอขอ้ มูล ข้อท่ี ๓ ท่ีตอ้ งการ เตรยี มอุปกรณใ์ นการจดบนั ทึก
๒) การประมวลผลอย่างง่าย เชน่ เปรยี บเทยี บ
จดั กลุม่ เรียงลำดับ
๓) การนำเสนอข้อมูลทำไดห้ ลายลกั ษณะตาม
ความเหมาะสม เชน่ การบอกเล่า
การทำเอกสารรายงาน การจัดทำป้ายประกาศ ๑๐ ๔๐
๔) การใช้ซอฟต์แวร์ทำงานตามวัตถุประสงค์
เช่น ใชซ้ อฟตแ์ วร์นำเสนอ หรือซอฟตแ์ วร์
กราฟิกสรา้ งแผนภูมิรปู ภาพ ใช้ซอฟตแ์ วร์
ประมวลคำทำป้ายประกาศหรอื
เอกสารรายงาน ใช้ซอฟต์แวร์ ตารางทำงานใน
การประมวลผลข้อมลู
๑) แนะนำ ทบทวน การใช้งานเคร่อื งมือใน
โปรแกรมเพ้นท์
๒) สรา้ งสรรค์ผลงานดว้ ยโปรแกรมเพ้นท์ตาม
๕ การใช้งานซอฟต์แวร์ ข้อที่ ๑ หวั ข้อท่นี า่ สนใจ เชน่ โรงเรียนของเรานา่ อยู่ ๑๐ ๔๐
ข้อท่ี ๕ อาชีพในฝนั การ์ดสานรักวันแม่ วันพอ่ วนั ลอย
กระทง วนั คริสมาสต์
๓) สร้างสรรคผ์ ลงานดว้ ยโปรแกรม Microsoft
word เชน่ ปกรายงาน ประวตั สิ ว่ นตวั
สอบปลายภาค 1 80
ภาคเรียนที่ 2 ๒๐ ๒๐
๓๒
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม
ว๑๔๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
เวลา ๔๐ ชว่ั โมง
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔
ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา มาใช้พิจารณาในการแก้ปัญหา การอธิบายการ
ทำงาน หรือการคาดการณ์ผลลัพธ์ ศึกษาการออกแบบโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ storyboard หรือ การ
ออกแบบอัลกอริทึม การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์ Scratch หรือ logo ศึกษาการใช้
อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ การใช้คำค้นที่ตรงประเด็น กระชับ การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล ศึกษา
การรวบรวมข้อมูล การประมวลผลอย่างง่าย วิเคราะห์ผลและสร้างทางเลือกที่เป็นไปได้ ตลอดจนประเมิน
ทางเลือก พร้อมทั้งการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบตามความเหมาะสมด้วยโปรแกรม Microsoft Powerpoint
ศึกษาการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อแกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวนั การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิ
และหนา้ ท่ีของตน เคารพในสิทธใิ นสิทธิของผู้อน่ื
โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการคิด กระบวนการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สร้าง
ความรกู้ ระบวนการปฏบิ ัติ ลงมือทำจริง กระบวนการจดั การ กระบวนการแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ สร้างงาน
ไดอ้ ยา่ งสวยงาม และใช้จนิ ตนาการอย่างสรา้ งสรรค์ มคี ุณธรรม มีเจตคติทดี่ ตี อ่ การใชเ้ ทคโนโลยี และสามารถ
ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในทางสรา้ งสรรค์ ตวั ชี้วัด
ผลการเรยี นรู้
ขอ้ ที่ ๑ แก้ปญั หาการทำงานด้วยเหตผุ ลเชงิ ตรรกะได้
ข้อที่ ๒ ออกแบบ เขียนโปรแกรมด้วย Scratch Online ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดและแกไ้ ขโปรแกรมได้
ข้อที่ ๓ คน้ หา รวบรวม ประเมินความนา่ เชอ่ื ถือโดยใช้อนิ เทอรเ์ น็ตเปน็ เคร่อื งมือในการสบื ค้น
ข้อที่ ๔ นำเสนอขอ้ มลู ในรปู แบบสารสนเทศโดยใช้โปรแกรม Powerpoint เพอื่ แกป้ ญั หาในชีวิตประจำวนั
ข้อที่ ๕ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เขา้ ใจสิทธแิ ละหนา้ ท่ีของตน และผอู้ ื่น
ขอ้ ท่ี ๖ มพี ้ืนฐานดา้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์เรียนรกู้ ารเขียนโปรแกรมอย่างง่าย
ข้อที่ ๗ แสดงอลั กอรทิ มึ ในการทำงานและแก้ปัญหาได้
ข้อท่ี ๘ สรา้ งนทิ านด้วยโปรแกรม Scratch online และเผยแพร่ผลงานได้
รวมท้งั หมด ๘ ผลการเรียนรู้
๓๓
โครงสร้างรายวชิ า
ว๑๔๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๔
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ที่ ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ ผลการ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั
เรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
๑ ขั้นตอนวิธกี ารแก้ปญั หา ข้อท่ี ๑ ๑) การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเป็นการนำ
กฎเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่ครอบคลุมทุกกรณีมา
ใช้พิจารณาในการแก้ปัญหา การอธิบายการ
ทำงาน หรือการคาดการณผ์ ลลัพธ์
๒) สถานะเริ่มต้นของการทำงานที่แตกต่างกัน ๖ ๒๐
จะให้ผลลัพธ์ท่ีแตกต่างกนั
๓) ตัวอยา่ งปญั หา เชน่ เกม OX, โปรแกรมที่มี
การคำนวณ, โปรแกรมที่มีตัวละครหลายตัวมี
การส่งั การท่ีแตกตา่ ง หรือมกี ารส่ือสารระหว่าง
กนั , การเดินทางไปโรงเรียนโดยวิธีการต่างๆ
๑) การออกแบบโปรแกรมอย่างงา่ ย เชน่ การ
อ อ ก แ บ บ โ ด ย ใ ช ้ storyboard ห ร ื อ ก า ร
ออกแบบอัลกอรทิ มึ
๒) การเขียนโปรแกรมเป็นการสร้างลำดับของ
คำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์
ตามความต้องการ หากมีข้อผิดพลาดให้
ขอ้ ท่ี ๒ ตรวจสอบการทำงานทีละคำสั่ง เม่ือพบจุดที่
๒ การเขยี นโปรแกรมอยา่ ง ขอ้ ที่ ๕ ทำใหผ้ ลลัพธไ์ มถ่ ูกต้อง ใหท้ ำการแก้ไขจนกว่า ๘ ๔๐
ง่ายด้วย Scratch ขอ้ ที่ ๖ จะได้ผลลพั ธ์ท่ถี กู ตอ้ ง
ข้อที่ ๗ ๓) ตวั อยา่ งโปรแกรมที่มีเรื่องราว เช่น นทิ านที่
ขอ้ ที่ ๘ มีการโต้ตอบกับผู้ใช้ การ์ตูนสั้น เล่ากิจวัตร
ประจำวนั ภาพเคลือ่ นไหว
๔) การฝึกตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรม
ของผูอ้ น่ื จะช่วยพัฒนาทกั ษะการหาสาเหตุของ
ปัญหาได้ดยี ่งิ ขึ้น
๕) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น
Scratch, logo
๓๔
ท่ี ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ ผลการ สาระการเรียนรู้ เวลา น้ำหนัก
๓ การใช้งานอนิ เทอร์เน็ต เรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
๑) การใช้คำค้นที่ตรงประเด็น กระชับ จะทำ
ให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและตรงตามความ
ต้องการ
๒) การประเมินความน่าเชือ่ ถือของขอ้ มูล เช่น
พิจารณาประเภทของเว็บไซต์ (หน่วยงาน
ราชการ สำนักข่าว องค์กร) ผู้เขียน วันท่ี
เผยแพรข่ อ้ มูล การอ้างอิง
ข้อที่ ๓ ๓) เมื่อได้ข้อมูลที่ต้องการจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ๕ ๒๐
จะต้องนำเนื้อหามาพิจารณา เปรียบเทียบ
แล้วเลือกข้อมูลที่มีความสอดคล้องและ
สัมพนั ธก์ ัน
๔) การทำรายงานหรือการนำเสนอข้อมูล
จะต้องนำข้อมูลมาเรียบเรียง สรุป เป็นภาษา
ของตนเองที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและ
วิธีการนำเสนอ (บรู ณาการกับวชิ าภาษาไทย)
สอบปลายภาค 1 80
ภาคเรียนท่ี๑ ๒๐ ๒๐
๓๕
โครงสรา้ งรายวชิ า
ว๑๔๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๔
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ท่ี ช่อื หน่วยการเรียนรู้ ผลการ สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนัก
เรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน
๔ การนำเสนอขอ้ มูล ขอ้ ที่ ๔ ๑) การรวบรวมข้อมูล ทำได้โดยกำหนดหัวข้อ
ซอฟตแ์ วร์ ที่ตอ้ งการ เตรยี มอุปกรณใ์ นการจดบันทกึ
๒) การประมวลผลอย่างง่าย เช่น การ
เปรียบเทียบ จัดกลุ่ม เรียงลำดับ การหา
ผลรวม
๓) วิเคราะห์ผลและสร้างทางเลือกที่เป็นไปได้
ประเมินทางเลือก (เปรยี บเทยี บ ตัดสนิ )
๔) การนำเสนอข้อมูลทำได้หลายลักษณะตาม
ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม เ ช ่ น ก า ร บ อ ก เ ล่ า
เอกสารรายงาน โปสเตอร์ โปรแกรมนำเสนอ ๑๔ ๕๐
๕) การใช้ซอฟต์แวร์เพื่อแก้ปัญหาใน
ชีวิตประจำวัน เช่น การสำรวจเมนูอาหาร
กลางวันโดยใช้ซอฟต์แวร์สร้างแบบสอบถาม
และเก็บข้อมูล ใช้ซอฟต์แวร์ตารางทำงานเพ่ือ
ประมวลผลข้อมูล รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ
คุณค่าทางโภชนาการและสร้างรางการอาหาร
สำหรับ ๕ วัน ใช้ซอฟต์แวร์นำเสนอผลการ
สำรวจรางการอาหารที่เป็นทางเลือกและ
ขอ้ มลู ด้านโภชนาการ
๓๖
ที่ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ ผลการ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนัก
เรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน
๕ การใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ ง
ปลอดภัย ขอ้ ท่ี ๕ ๑) การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิ
ของผู้อื่น เช่น ไม่สร้างข้อความเท็จและส่งให้
ผู้อื่น ไม่สร้างความเดือดร้อนต่อผู้อื่นโดยการ
ส่งสแปม ข้อความลูกโซ่ ส่งต่อโพสต์ที่มีข้อมูล
ส่วนตัวของผู้อื่น ส่งคำเชิญเล่นเกม ไม่เข้าถึง
ข้อมูลส่วนตัวหรือการบ้านของบุคคลอื่นโดย ๕ ๓๐
ไม่ได้รับอนุญาต ไม่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์/ชื่อ
บญั ชขี องผอู้ ่นื
๒) การสื่อสารอย่างมีมารยาทและร้กู าลเทศะ
๓) การปกป้องข้อมูลสว่ นตัว เช่น การออกจาก
ระบบเอเลิกใช้งาน ไม่บอกรหัสผ่าน ไม่บอก
เลขประจำตวั ประชาชน
สอบปลายภาค 1 80
ภาคเรียนท่ี ๒ ๒๐ ๒๐
๓๗
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ
ว๑๕๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๕ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เวลา ๔๐ ชวั่ โมง
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕
ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์จากปัญหาอย่าง
ง่าย การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างง่าย ตรวจหาขอผิดพลาดและแก้ไข
การใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล การ
รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูล และสารสนเทศตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบน
อินเทอร์เน็ตที่หลากหลายเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มี
มารยาท เข้าใจสทิ ธแิ ละหน้าท่ขี องตนเอง เคารพในสิทธขิ องผู้อืน่ และแจง้ ผู้เก่ียวข้องเมอื่ พบข้อมูลหรือบุคคล
ท่ีไม่เหมาะสม
โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Base Learning) เพื่อเน้นให้ผู้เรียน
เกิดการเรียนรจู้ ากการฝึกแกป้ ัญหาต่าง ๆ ผา่ นกระบวนการคดิ การปฏบิ ัติอยา่ งมีระบบ และสรา้ งองค์ความรู้
ใหม่จากการใช้ปัญหาทเ่ี กดิ ขึน้ จรงิ ในชวี ิตประจำวันได้
ผลการเรยี นรู้
ข้อท่ี ๑ ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา อธบิ ายการทำงาน และคาดการณ์ผลลัพธจ์ ากปญั หาอยา่ งงา่ ย
ข้อท่ี ๒ ออกแบบและเขียนโปรแกรมสร้างเกมอย่างง่ายด้วย Scratch ใช้เหตุผลเชิงตรรกะ ตรวจหา
ขอ้ ผิดพลาดและแกไ้ ข
ขอ้ ท่ี ๓ ใช้อินเทอรเ์ นต็ คน้ หาขอ้ มูลติดต่อสือ่ สารและทำงานรว่ มกัน ประเมินความน่าเช่อื ถอื ของขอ้ มูล
ข้อที่ ๔ รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลสารสนเทศด้วย web blog เพื่อใช้เก็บผลงานตามวัตถุประสงค์
แกป้ ัญหาในชวี ติ ประจำวัน ซึ่งเป็นบริการบนอินเทอรเ์ นต็ ได้
ข้อท่ี ๕ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาทเข้าใจสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูล
หรอื บคุ คลที่ไมเ่ หมาะสม
รวมทัง้ หมด ๕ ผลการเรียนรู้
๓๘
โครงสร้างรายวชิ า
ว๑๕๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๕
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
ท่ี ชื่อหน่วยการ ผลการ สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั
เรยี นรู้ เรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน
๑ เหตผุ ลเชิง ข้อท่ี ๑ ๑) การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเป็นการนำกฎเกณฑ์ หรือ
ตรรกะกบั เงื่อนไขที่ครอบคลุมทุกกรณีมาใช้พิจารณาในการ
การแกป้ ัญหา แก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน หรือการคาดการณ์
ผลลพั ธ์
๒) สถานะเริ่มต้นของการทำงานที่แตกต่างกันจะให้ ๗ ๓๐
ผลลัพธ์ท่ีแตกตา่ งกนั
๓) ตัวอย่างปัญหา เช่น เกม Sudoku โปรแกรมทำนาย
ตัวเลข โปรแกรมสร้างรูปเรขาคณิตตามค่าข้อมูลเข้า การ
จดั ลำดับการทำงานบา้ นในชว่ งวันหยุด จัดวางของในครวั
๒ การเขยี น ข้อท่ี ๒ ๑) การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดยเขยี นเปน็ ๑๒ ๕๐
โปรแกรมโดย ขอ้ ความหรือผังงาน
ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ๒) การออกแบบและเขยี นโปรแกรมที่มีการตรวจสอบ
ตรรกะ เงอื่ นไขท่ีครอบคลมุ ทุกกรณีเพื่อให้ไดผ้ ลลัพธท์ ่ีถกู ต้องตรง
ตามความต้องการ
๓) หากมีข้อผิดพลาดให้ตรวจสอบการทำงานทีละคำสัง่
เม่อื พบจดุ ทท่ี ำให้ผลลัพธ์ไม่ถูกตอ้ งให้ทำการแก้ไขจนกวา่
จะได้ผลลัพธ์ท่ีถกู ต้อง
๔) การฝกึ ตรวจหาข้อผดิ พลาดจากโปรแกรมของผู้อ่ืน จะ
ชว่ ยพัฒนาทักษะการหาสาเหตขุ องปัญหาไดด้ ีย่งิ ข้นึ
๕) ตัวอยา่ งโปรแกรม เชน่ โปรแกรมตรวจสอบเลขคู่ เลข
ค่ี โปรแกรมรับข้อมลู น้ำหนักหรอื สว่ นสงู แลว้ แสดงผล
ความสมสว่ นของรา่ งกาย โปรแกรมสั่งให้ตัวละครทำตาม
เง่ือนไขท่ีกำหนด
๖) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch,
logo
สอบปลายภาค 1 80
ภาคเรยี นที่ ๑ ๒๐ ๒๐
๓๙
โครงสร้างรายวชิ า
ว๑๕๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๕
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๒๐ ชัว่ โมง
ท่ี ช่อื หน่วยการเรียนรู้ ผลการ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั
เรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
๓ ขอ้ มูลสารสนเทศ ข้อที่ ๓ ๑) การคน้ หาข้อมลู ในอินเทอร์เน็ต และการ
ข้อที่ ๔ พจิ ารณาผลการค้นหา
๒) การประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมลู เช่น
เปรยี บเทยี บความสอดคล้อง สมบรู ณข์ อง
ขอ้ มูล จากหลายแหล่ง แหล่งตน้ ตอของข้อมลู
ผเู้ ขยี น วนั ที่เผยแพร่ข้อมลู
๓) ขอ้ มลู ที่ดีต้องมรี ายละเอียดครบทกุ ดา้ น
เชน่ ขอ้ ดีและขอ้ เสยี ประโยชนแ์ ละโทษ
๔) การรวบรวมข้อมลู ประมวลผล สร้าง
ทางเลอื กประเมนิ ผลจะทำให้ได้สารสนเทศ
เพื่อใชใ้ นการแกป้ ญั หาหรือการตัดสินใจได้
อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ๑๒ ๔๐
๕) การใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รอื บริการบน
อินเทอรเ์ นต็ ทห่ี ลากหลายในการรวบรวม
ประมวลผล สรา้ งทางเลอื ก ประเมนิ ผล
นำเสนอ จะช่วยใหก้ ารแก้ปัญหาทำได้อยา่ ง
รวดเรว็ ถกู ตอ้ ง และแมน่ ยำ
๖) ตัวอย่างปญั หา เชน่ ถ่ายภาพ และสำรวจ
แผนท่ีในท้องถิน่ เพื่อนำเสนอแนวทางในการ
จัดการพ้นื ทว่ี า่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ทำแบบ
สำรวจความคิดเหน็ ออนไลน์ และวิเคราะห์
ขอ้ มูล นำเสนอข้อมลู โดยใช้ blog หรือ
Web page
๔๐
ท่ี ชอื่ หน่วยการ ผลการ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั
เรียนรู้ เรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
๔ การใช้ ข้อท่ี ๓ ๑) การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และการพิจารณาผล
อนิ เทอรเ์ น็ต ข้อที่ ๔ การคน้ หา
อย่าง ข้อที่ ๕ ๒) การติดต่อสื่อสารผา่ นอินเทอรเ์ น็ต เชน่ อีเมล บล็อก
ปลอดภัย โปรแกรมสนทนา
๓) การเขียนจดหมาย (บูรณาการกบั วิชาภาษาไทย)
๔) การใชอ้ ินเทอร์เน็ตในการติดตอ่ สอื่ สารและทำงาน
รว่ มกนั เช่น ใชน้ ดั หมายในการประชุมกล่มุ
ประชาสัมพนั ธก์ จิ กรรมในห้องเรียน การแลกเปลีย่ น
ความรู้ ความคดิ เหน็ ในการเรียน ภายใต้การดแู ลของครู
๕) การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่น
เปรยี บเทยี บความสอดคล้อง สมบรู ณ์ของข้อมูล จาก
หลายแหลง่ แหลง่ ต้นตอของข้อมูล ผู้เขียน วันทีเ่ ผยแพร่
ข้อมลู
๖) การรวบรวมข้อมูล ประมวลผล สร้างทางเลือก ๗ ๔๐
ประเมนิ ผล จะทำให้ได้สารสนเทศเพื่อใช้ใน การแก้ปัญหา
หรือการตัดสินใจได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
๗) การใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รอื บริการอินเทอร์เน็ตท่หี ลากหลาย
ในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมินผล
นำเสนอ จะช่วยให้การแก้ปญั หาทำได้อย่างรวดเรว็
ถูกต้อง และแม่นยำ
๘) ตัวอย่างปัญหา เช่น ถ่ายภาพ และสำรวจแผนท่ใี น
ทอ้ งถน่ิ เพ่ือนำเสนอแนวทางในการจัดการพื้นท่ี ว่างให้
เกดิ ประโยชน์ ทำแบบสำรวจความคิดเหน็ ออนไลน์ และ
วเิ คราะหข์ ้อมูล นำเสนอข้อมูล โดยการใช้ blog หรอื
web page
๙) อนั ตรายจากการใชง้ านและอาชญากรรมทาง
อนิ เทอร์เนต็
๑๐) มารยาทในการติดต่อสอื่ สารผา่ นอินเทอรเ์ น็ต
สอบปลายภาค 1 80
ภาคเรยี นท่ี ๒ ๒๐ ๒๐
๔๑
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เวลา ๔๐ ช่วั โมง
ว๑๖๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๖
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖
ศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้โปรแกรม Scratch ศึกษาการ
แก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ การใช้งานอินเทอร์เน็ต การค้นหาข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ต การประเมิน
ความน่าเชือ่ ถอื ศึกษาการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและความปลอดภยั ในการใชง้ านเทคโนโลยี
โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ( Problem – based Learning) และวัฏจักรการ
เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Intructional Model) เพื่อเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด
เผชิญสถานการณ์การแกป้ ัญหา วางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และสร้างองค์ความร้ใู หม่ดว้ ยตนเองผ่าน
กระบวนการคิดและปฏิบัติ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
เพื่อให้ผเู้ รียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจ มีทกั ษะการคิดเชิงคำนวณ การคดิ วเิ คราะห์ แก้ปญั หาเป็นข้ันตอน
และเป็นระบบ มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้นในการ
แก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และนำ
เทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ต่อสังคม และการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิด
และจินตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการจัดการทักษะในการส่ือสาร และความสามารถในการ
ตัดสินใจ และเป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรค์
ผลการเรยี นรู้
ขอ้ ที่ 1 ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะการอธบิ ายและออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หาที่พบในชวี ติ ประจำวนั
ขอ้ ท่ี 2 ออกแบบและเขียนโปรแกรม Scratch สร้างสรรคช์ ้นิ งานด้วยโครงงาน เพื่อแก้ปัญหาใน
ชีวิตประจำวัน ตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรมและแกไ้ ข
ข้อท่ี 3 ใช้อินเทอรเ์ น็ตในการคน้ หาข้อมลู ขัน้ สูงได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ข้อท่ี 4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทำงานร่วมกัน อย่างปลอดภัย เขา้ ใจสทิ ธแิ ละหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิ
ของผู้อ่ืน แจง้ ผเู้ ก่ียวข้อง เมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม
ข้อท่ี ๕ พจิ ารณาความน่าเช่ือถอื ของขอ้ มูลสารสนเทศจากการค้นหาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ
รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรยี นรู้
๔๒
โครงสรา้ งรายวชิ า
ว๑๖๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๖
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ท่ี ชื่อหน่วยการ ผลการ สาระการเรียนรู้ เวลา น้ำหนกั
เรียนรู้ เรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน
๑ การแกป้ ัญหา ขอ้ ท่ี ๑ ๑) การแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ข้ันตอนจะชว่ ยให้แก้ปญั หาได้
โดยใชเ้ หตผุ ล อยา่ งมีประสิทธิภาพ
เชงิ ตรรกะ ๒) การใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะเปน็ การนำกฎเกณฑ์ หรอื
เงอ่ื นไขท่ีครอบคลมุ ทุกกรณีมาใช้พจิ ารณาในการแกป้ ัญหา
๓) แนวคดิ ของการทำงานแบบวนซำ้ และเง่ือนไข
๔) การพิจารณากระบวนการทำงานทม่ี ีการทำงานแบบวน ๙ ๔๐
ซ้ำและเงื่อนไขเป็นวิธกี ารท่ีจะช่วยให้การออกแบบวธิ กี าร
แก้ปัญหาเป็นไปอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
๕) ตวั อยา่ งปัญหา เช่น การค้นหาเลขหนา้ ท่ตี ้องการให้เร็ว
ท่ีสุด การทายเลข 1-1,000,000 โดยตอบใหถ้ กู ภายใน
20 คำถาม การคำนวณเวลาในการเดนิ ทาง โดยคำนงึ ถงึ
ระยะทาง เวลาจุดหยดุ พัก
๒ การออกแบบ ขอ้ ท่ี ๒ ๑) การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดยเขียนเป็น
และเขยี น ข้อความหรอื ผงั งาน
โปรแกรม ๒) การออกแบบโปรแกรมทีม่ กี ารใชต้ ัวแปร การวนซำ้ การ
อยา่ งง่าย ตรวจสอบเง่อื นไข
๓) หากมขี ้อผิดพลาดให้ตรวจสอบการทำงานทีละคำสง่ั
เมื่อพบจดุ ท่ีทำให้ผลลัพธไ์ ม่ถูกตอ้ ง
ให้ทำการแก้ไขจนกว่าจะไดผ้ ลลพั ธท์ ถี่ ูกต้อง ๑๐ ๔๐
๔) การฝกึ ตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของผู้อ่ืนจะ
ชว่ ยพฒั นาทักษะการหาสาเหตุของปัญหาไดด้ ียง่ิ ข้นึ
๕) ตัวอย่างโปรแกรม เชน่ โปรแกรมเกม โปรแกรมหาคา่
ค.ร.น. เกมฝกึ พมิ พ์
๖) ซอฟตแ์ วร์ทีใ่ ชใ้ นการเขยี นโปรแกรม เชน่ Scratch,
logo
สอบปลายภาค 1 80
ภาคเรยี นท่ี ๑ ๒๐ ๒๐
๔๓
โครงสร้างรายวิชา
ว๑๖๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๖
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง
ท่ี ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ผลการ สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั
เรียนรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
๓ การใชง้ านอินเทอร์เน็ต ขอ้ ที่ ๓ ๑) การค้นหาอย่างมปี ระสิทธิภาพ เป็นการ
อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ คน้ หาขอ้ มูลทไี่ ด้ตรงตามความตอ้ งการในเวลา
ทร่ี วดเร็ว จากแหลง่ ขอ้ มลู ทนี่ ่าเช่ือถอื หลาย
แหล่ง และข้อมูลมีความสอดคล้องกนั
๒) การใช้เทคนิคการค้นหาขนั้ สูง เชน่ การใช้
ตวั ดำเนนิ การ การระบรุ ูปแบบของขอ้ มลู หรอื ๑๐ ๔๐
ชนดิ ของไฟล์
๓) การจัดลำดับผลลพั ธ์จากการค้นหาของ
โปรแกรมค้นหา
๔) การเรียบเรยี ง สรปุ สาระสำคัญ (บรู ณาการ
กับวชิ าภาษาไทย)
๔ ความปลอดภัยในการใช้ ข้อที่ ๔ ๑) อนั ตรายจากกรใชง้ านและอาชญากรรม
งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ขอ้ ที่ ๕ ทางอนิ เทอร์เน็ต แนวทางในการปอ้ งกัน
๒) วิธกี ำหนดรหสั ผ่าน
๓) การกำหนดสทิ ธ์ิในการใชง้ าน (สทิ ธ์ใิ นการ ๙ ๔๐
เข้าถึง)
๔) แนวทางการตรวจสอบและป้องกันมัลแวร์
๕) อนั ตรายจากการติดตั้งซอฟต์แวร์ทีอ่ ยบู่ น
อินเทอร์เนต็
สอบปลายภาค 1 80
ภาคเรียนท่ี ๒ ๒๐ ๒๐
ส่วนที่ ๔
คำส่ังโรงเรียนเฉลมิ พระเกยี รติ ๖๐ พรรษา
สมเด็จพระนางเจา้ สิรกิ ติ ์ิพระบรมราชนิ นี าถ
แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการพัฒนาคณุ ภาพหลกั สูตรสถานศึกษา
ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕
๔๕
๔๖