เร ่ ม ิ ทำ แบบทดสอบ แบบทดสอบ 30 ข ้ อ 30 คะแนน
ม ุ ่ งเน ้ นความส าค ั ญของปั ญหา โดยไม ่สนใจรายละเอ ี ยดท่ีไม ่ จ าเป็ น ด ู ความเหม ื อน ความแตกต ่ าง ของร ู ปแบบการเปล่ี ยนแปลง แตกปั ญหากระบวนการออกเป็ นส่ วนย ่ อย กระบวนการคิดในการแกไ้ขปัญหาทท ี่ั้งมนษ ุ ยแ ์ ละ คอมพิวเตอรส์ ามารถเข้าใจรว่มกนั ได้ แนวค ิ ดเช ิ งค านวณ (Computational Thinking) หมายถ ึ งอะไร ก ข ค ง 1
ม ุ ่ งเน ้ นความส าค ั ญของปั ญหา โดยไม ่สนใจรายละเอ ี ยดท่ีไม ่ จ าเป็ น ด ู ความเหม ื อน ความแตกต ่ าง ของร ู ปแบบการเปล่ี ยนแปลง แตกปั ญหากระบวนการออกเป็ นส่ วนย ่ อย กระบวนการคิดในการแกไ้ขปัญหาทท ี่ั้งมนษ ุ ยแ ์ ละ คอมพิวเตอรส์ ามารถเข้าใจรว่มกนั ได้ Decomposition (แนวค ิ ดการแยกยอ ่ ย) หมายถ ึ งอะไร ก ข ค ง 2
ม ุ ่ งเน ้ นความส าค ั ญของปั ญหา โดยไม ่สนใจรายละเอ ี ยดท่ีไม ่ จ าเป็ น ด ู ความเหม ื อน ความแตกต ่ าง ของร ู ปแบบการเปล่ี ยนแปลง แตกปั ญหากระบวนการออกเป็ นส่ วนย ่ อย กระบวนการคิดในการแกไ้ขปัญหาทท ี่ั้งมนษ ุ ยแ ์ ละ คอมพิวเตอรส์ ามารถเข้าใจรว่มกนั ได้ Pattern Recognition (การพ ิ จารณาร ู ปแบบ) หมายถ ึ งอะไร ก ข ค ง 3
ม ุ ่ งเน ้ นความส าค ั ญของปั ญหา โดยไม ่สนใจรายละเอ ี ยดท่ีไม ่ จ าเป็ น ด ู ความเหม ื อน ความแตกต ่ าง ของร ู ปแบบการเปล่ี ยนแปลง แตกปั ญหากระบวนการออกเป็ นส่ วนย ่ อย กระบวนการคิดในการแกไ้ขปัญหาทท ี่ั้งมนษ ุ ยแ ์ ละ คอมพิวเตอรส์ ามารถเข้าใจรว่มกนั ได้ Abstraction (แนวค ิ ดเช ิ งนามธรรม) หมายถ ึ งอะไร ก ข ค ง 4
แก ้ปั ญหาโดยการออกแบบ กระบวนการท างานอย ่ างเป็ นล าด ั บข ั ้ นตอน ด ู ความเหม ื อน ความแตกต ่ าง ของร ู ปแบบการเปล่ี ยนแปลง แตกปั ญหากระบวนการออกเป็ นส่ วนย ่ อย กระบวนการคิดในการแกไ้ขปัญหาทท ี่ั้งมนษ ุ ยแ ์ ละ คอมพิวเตอรส์ ามารถเข้าใจรว่มกนั ได้ Algorithm Design (การออกแบบอล ั กอรท ิ ม ึ) หมายถ ึ งอะไร ก ข ค ง 5
Decomposition (แนวค ิ ดการแยกย ่ อย) Pattern Recognition (การพ ิ จารณาร ู ปแบบ) Algorithm Design (การออกแบบอ ั ลกอรท ิ ึ ม) Abstraction (แนวค ิ ดเช ิ งนามธรรม) จากประโยคท่ี ว ่ า "การแยกแยะปั ญหา โดยตะว ั นสามารถแยกแยะปั ญหา ได ้ เป็ น 2 ประเด ็ น ได ้ แก ่ 1.ยางรถแบน 2.นา ้ ม ั นรถใกล ้ หมด" เป็ นแนวค ิ ดเช ิ งค านวณข ั ้ นตอนใด ก ข ค ง 6
Decomposition (แนวค ิ ดการแยกย ่ อย) Pattern Recognition (การพ ิ จารณาร ู ปแบบ) Algorithm Design (การออกแบบอ ั ลกอรท ิ ึ ม) Abstraction (แนวค ิ ดเช ิ งนามธรรม) จากประโยคท ี่ว่า "การเข้าใจร ู ปแบบ ตะวันควรต้องจัดการกบัยางรถกอ่นเตมินาม ้ นั เน ื่องจากนา ้ มนัท ี่เหลอ ื อยไ ู่ม่มากพอ ท ี่ตะวันจะขับรถยนต ์ไปถ ึ งสถาน ี บรกิารนาม ้ นัดังนั้น ตะวันควรม ุ่งแก้ไขปัญหายางรถแบนกอ่น" เป็ นแนวคิดเชิงค านวณขั้นตอนใด ก ข ค ง 7
Decomposition (แนวค ิ ดการแยกย ่ อย) Pattern Recognition (การพ ิ จารณาร ู ปแบบ) Algorithm Design (การออกแบบอ ั ลกอรท ิ ึ ม) Abstraction (แนวค ิ ดเช ิ งนามธรรม) จากประโยคท ี่ว่า "หาแนวคิดรวบยอดของแต่ละปัญหายอ่ย เป็ นการม ุ่งเน้น ความส าคัญของปัญหาโดยไม่สนใจรายละเอย ี ดท ี่ไม่จ าเป็ น การคิดรวบยอดของปัญหาดังกลา่ว จะได้ว่า ตะวันต้องท าการเปลย ี่นยางรถยนต" ์ เป็ นแนวคิดเชิงค านวณขั้นตอนใด ก ข ค ง 8
Decomposition (แนวค ิ ดการแยกย ่ อย) Pattern Recognition (การพ ิ จารณาร ู ปแบบ) Algorithm Design (การออกแบบอ ั ลกอรท ิ ึ ม) Abstraction (แนวค ิ ดเช ิ งนามธรรม) จากประโยคท่ี ว ่ า "เม ื่อตะว ั นต ้ องการเปล่ี ยนยาง รถยนต ์ ตะว ั นจะต ้ องออกแบบล าด ั บข ั ้ นตอนใน การเปล่ี ยนยาง ด ั งน ้ ี •หม ุ นบล ็ อกเพ ื่อคลายน ็ อต •ใช ้ แม ่ แรงยกรถข ้ ึ นและถอดน ็ อตออก •ถอดล ้ อออก เปล่ี ยนล ้ ออะไหล ่ แทนท่ี •ใส่ น ็ อตแล ้ วปล ่ อยแม ่ แรง •ข ั นน ็ อตให ้ แน ่ น“ เป็ นแนวค ิ ดเช ิ งค านวณข ั ้ นตอนใด ก ข ค ง 9
เทคโนโลย ี ว ิ ทยาการค านวณ คณ ิ ตศาสตร ์ คอมพ ิ วเตอร ์ เทคโนโลย ี ว ิ ทยาการค านวณ การออกแบบและเทคโนโลย ี แนวค ิ ดเช ิ งค านวณ (Computational Thinking) เป็ นส่ วนของว ิ ชาอะไร ก ข ค ง 10
ม ี แนวค ิ ดเช ิ งนามธรรมเป็ นหน่ึ งในท ั กษะย ่ อย เป็ นการค ิ ดเหม ื อนห ุ ่ นยนต ์ เป็ นท ั กษะท่ี น ั กพ ั ฒนาซอฟต ์ แวร ์ ต ้ องม ี เป็ นการแก ้ปั ญหาแบบม ี ล าด ั บข ั ้ นตอน ข ้ อใดกล ่ าวถ ึ งแนวค ิ ดเช ิ งค านวณไดไ้ ม ่ ถ ู กต ้ อง ก ข ค ง 11
แนวค ิ ดการแยกย ่ อย แนวค ิ ดเช ิ งนามธรรม การออกแบบอ ั ลกอรท ิ ึ ม การพ ิ จารณาร ู ปแบบ การทม ี ่ ุ ่ งเน ้ นความส าค ั ญของปั ญหาโดยไม ่สนใจ รายละเอ ี ยดทไี ่ ม ่ จา เป็ นสอดคล ้ องกบ ั แนวค ิ ดใด ก ข ค ง 12
แนวค ิ ดการแยกย ่ อย การออกแบบอ ั ลกอรท ิ ึ ม แนวค ิ ดเช ิ งนามธรรม การพ ิ จารณาร ู ปแบบ การแกป้ ั ญหาโดยการออกแบบกระบวนการทา งาน อยา ่ งเป็ นล าดบ ั ข ั ้ นตอนสอดคล ้ องกบ ั แนวค ิ ดใด ก ข ค ง 13
แนวค ิ ดการแยกย ่ อย แนวค ิ ดเช ิ งนามธรรม แนวค ิ ดเช ิ งร ู ปธรรม การพ ิ จารณาร ู ปแบบ ข ้ อใดไม ่ใช ่ ทก ั ษะยอ ่ ยของแนวค ิ ดเช ิ งค านวณ ก ข ค ง 14
การหาแนวค ิ ดรวมยอดของแต ่ ละปั ญหาย ่ อย การเข ้ าใจร ู ปแบบ การแยกแยะปั ญหา การค ั ดเล ื อกว ัสด ุ ท่ี น ามาใช ้ ท าช ้ ิ นงาน ข ้ อใดสอดคล ้ องกบ ั แนวค ิ ดการแยกยอ ่ ย ก ข ค ง 15
ท าปัญหานั้นให้ม ี ขนาดเลก ็ ลง เพ ื่อให้สามารถจัดการปัญหาแตล่ะส่วนได้งา่ยข้ึ น เปล่ี ยนร ู ปแบบปั ญหาให ้ แก ้ไขปั ญหาได ้ งา ่ ยข ้ ึ น ออกแบบข ั ้ นตอนว ิ ธใี นการแก ้ปั ญหา ก าหนดหล ั กการในการแก ้ปั ญหา เม ื ่ อต ้ องการแกป้ ั ญหาตามแนวค ิ ดเชง ิ ค านวณ ควรทา องค ์ประกอบใดเป็ นข ั ้ นตอนแรก ก ข ค ง 16
แบ ่ งกล ุ ่ มเสื ้ อผ ้ า / จ ั ดเรย ี งเสื ้ อผ ้ าตามกล ุ ่ ม / จ ั ดเข ้ าต ู ้ เสื ้ อผ ้ า หาว ั ตถ ุ ประสงค ์ หล ั กในการค ้ นหาเสื ้ อผ ้ า / แบ ่ งกล ุ ่ มเสื ้ อผ ้ าตาม ว ั ตถ ุ ประสงค ์ หล ั ก / จ ั ดเรย ี งเสื ้ อผ ้ าตามกล ุ ่ ม แบ ่ งกล ุ ่ มเสื ้ อผ ้ า / แยกสี เสื ้ อผ ้ า / แยกประเภทเสื ้ อผ ้ า/ จ ั ดเข ้ าต ู ้ เสื ้ อผ ้ า จ ั ดเรย ี งเสื ้ อผ ้ าตามกล ุ ่ ม / แบ ่ งกล ุ ่ มเสื ้ อผ ้ า / จ ั ดเข ้ าต ู ้ เสื ้ อผ ้ า เม ื ่ อพบกองเสื ้ อผา ้ ทปี ่ ะปนกน ั อยเ ่ ู ป็ นจา นวนมาก จะเล ื อกแนวทางในการแกป้ ั ญหาอยา ่ งไรจ ึ งจะถ ู กต ้ อง ก ข ค ง 17
โลกเป็ นส่ วนประกอบย ่ อยของระบบส ุ รย ิ ะ ทว ีปเป็ นส่ วนประกอบของโลก ร ุ ง ้ ก ิ นนา ้ เป็ นส่ วนประกอบย ่ อยของก ้ อนเมฆ ประต ู เป็ นส่ วนประกอบย ่ อยของบ ้ าน ส่ วนประกอบยอ ่ ยใดไม ่ ถ ู กต ้ อง ก ข ค ง 18
จดจ าร ู ปแบบของรถจ ั กรยานว ่ า ม ีส่ิ งใดบ ้ างท่ี ผ ิ ดปกต ิ ถอดช ้ ิ นส่ วนของรถจ ั กรยานด ู ว ่ า ม ี ช ้ ิ นส่ วนใดผ ิ ดปกต ิ แยกแยะปั ญหาว ่ ารถจ ั กรยานไม ่สามารถ ป่ั นหรอ ื เคล ื่อนท่ีได ้ เพราะอะไร น ารถจ ั กรยานไปซ ่ อมท่ี รา ้ นซ ่ อมรถจ ั กรยาน รถจ ั กรยานของต ้ นไม ่สามารถป่ั นหรอ ื เคล ื่อนท่ีได ้ส่ิ งแรกท่ี ต ้ น ควรท าในการใช ้ แนวค ิ ดเช ิ งค านวณแก ้ปั ญหาค ื ออะไร ก ข ค ง 19
การวางแผนเปิ ดรา ้ นอาหาร ในงานเทศกาลโรงเรย ี น การค านวณสถ ิ ต ิ การท า ประต ู ของน ั กก ีฬาฟ ุ ตบอล การค ้ นหาสิ นค ้ าในห ้ างสรรพสิ นค ้ า ถ ู กท ุ กข ้ อ หล ั กการค ิ ดเช ิ งค านวณสามารถ น าไปประย ุ กต ์ในสถานการณ ์ใดได ้ บ ้ าง ก ข ค ง 20
หล ั กในการท างานของ ระบบคอมพ ิ วเตอรท ์ ั ้ งระบบ ข ั ้ นตอนการท างานของเทคโนโลย ี อย ่ างละเอ ี ยดพรอ ้ มว ิ ธก ี ารใช ้ งาน ร ู ปแบบการท างานท่ี ท างานรว ่ มก ั น และสรา ้ งว ิ ธก ี ารท างานรว ่ มก ั น เป็ นแนวค ิ ดหน่ึ งในการแก ้ไขปั ญหา และเป็ นองค ์ประกอบของแนวค ิ ดเช ิ งค านวณ ข ้ อใดอธบ ิ ายความหมายของแนวค ิ ดเชง ิ นามธรรม (abstract thinking) ไดอ ้ ยา ่ งช ั ดเจน ก ข ค ง 11
ถ ู กท ุ กข ้ อ รายละเอ ี ยดจ านวนมากและข ้ อม ู ล รายละเอ ี ยดและข ้ อม ู ลน ้ อย ข ้ อม ู ลท่ี ซ ั บซ ้ อน การค ั ดเล ื อกค ุ ณล ั กษณะทจ ี ่ าเป็ นต ่ อการแกป้ ั ญหา เหมาะกบ ั ร ู ปแบบข ้ อม ู ลทเ ี ่ ป็ นอยา ่ งไร ก ข ค ง 12
แนวค ิ ดเช ิ งค านวณ แนวค ิ ดการแยกย ่ อย แนวค ิ ดเช ิ งรวบยอด แนวค ิ ดเช ิ งตรรกะ แนวค ิ ดเช ิ งนามธรรม เป็ นองค ์ประกอบของแนวค ิ ดใด ก ข ค ง 13
ปรม ิ าณของส้ ม และชมพ ่ ู ราคาของส้ ม อง ุ น ่ และชมพ ่ ู ปรม ิ าณของส้ ม อง ุ น ่ ชมพ ่ ู และนา ้ ม ั นงา ปรม ิ าณของส้ ม อง ุ น ่ และชมพ ่ ู ให ้ น ั กเรย ี นพ ิ จารณาสถานการณ ์ ต ่ อไปน ี ้ ว ่ าม ีส ่ ิ งใดเป็ นข ้ อมล ู ทจ ี ่ าเป็ นในการแกป้ ั ญหา ก ข ค ง 14 ม ีส้ มอย ่ ู 5 กโิ ลกรม ั องน ุ ่ 7 กโิ ลกรม ั นา ้ ม ั นงา 2 กโิ ลกรม ั ชมพ ่ ู 4 กโิ ลกรม ั รวมม ี ผลไม ้ ทง ั ้ หมดกก ี ่ โิ ลกรม ั
ชมพ ่ ู 4 ก ิโลกรม ั อง ุ น ่ 2 ก ิโลกรม ั นา ้ ม ั นงา 2 ก ิโลกรม ั ส้ ม 5 ก ิโลกรม ั ให ้ น ั กเรย ี นพ ิ จารณาสถานการณ ์ ต ่ อไปน ี ้ ว ่ าม ีส ่ ิ งใดเป็ นข ้ อมล ู ทไี ่ ม ่ จ าเป็ นในการแกป้ ั ญหา ก ข ค ง 15 ม ีส้ มอย ่ ู 5 กโิ ลกรม ั องน ุ ่ 7 กโิ ลกรม ั นา ้ ม ั นงา 2 กโิ ลกรม ั ชมพ ่ ู 4 กโิ ลกรม ั รวมม ี ผลไม ้ ทง ั ้ หมดกก ี ่ โิ ลกรม ั
18 17 16 15 ให ้ น ั กเรย ี นพ ิ จารณาสถานการณ ์ ต ่ อไปน ี ้ ว ่ ารวมม ี ผลไม ้ ทง ั ้ หมดกก ี ่ โิ ลกรม ั ก ข ค ง 16 ม ีส้ มอย ่ ู 5 กโิ ลกรม ั องน ุ ่ 7 กโิ ลกรม ั นา ้ ม ั นงา 2 กโิ ลกรม ั ชมพ ่ ู 4 กโิ ลกรม ั รวมม ี ผลไม ้ ทง ั ้ หมดกก ี ่ โิ ลกรม ั
ราคาล ู กโป่ ง ล ู กโป่ งท่ี ขายได ้ และราคาล ู กโป่ ง ล ู กโป่ งท่ี แตกไปและราคาล ู กโป่ ง ล ู กโป่ งท่ี ม ี อย ่ แ ู ละล ู กโป่ งท่ี ขายไป ให ้ น ั กเรย ี นพ ิ จารณาสถานการณ ์ ต ่ อไปน ี ้ ว ่ าม ีส ่ ิ งใดเป็ นข ้ อมล ู ทจ ี ่ าเป็ นในการแกป้ ั ญหา ก ข ค ง 17 ม ี ล ู กโป่ ง 78 ใบ แตกไป 6 ใบ ขายไปได ้ 50 ใบ ราคาใบละ 5 บาท ไดเ ้ งน ิ ทง ั ้ หมดเทา ่ ไหร ่
280 250 240 230 ให ้ น ั กเรย ี นพ ิ จารณาสถานการณ ์ ต ่ อไปน ี ้ ว ่ าขายล ู กโป่ งไดเ ้ งน ิ ทง ั ้ หมดกบ ี ่ าท ก ข ค ง 18 ม ี ล ู กโป่ ง 78 ใบ แตกไป 6 ใบ ขายไปได ้ 50 ใบ ราคาใบละ 5 บาท ไดเ ้ งน ิ ทง ั ้ หมดเทา ่ ไหร ่
จ านวนไข ่ไก ่ ท่ี ขายไป,ราคาไข ่ไก ่ จ านวนไข ่ไก ่ ท่ี แตกไป , จ านวนไข ่ไก ่ ท่ี ขายไป,ราคาไข ่ไก ่ จ านวนไข ่ไก ่ ท่ี ม ี ,จ านวนไข ่ไก ่ ท่ี แตกไป , จ านวนไข ่ไก ่ ท่ี ขายไป,ราคาไข ่ไก ่ จ านวนไข ่ไก ่ ท่ี ม ี ,จ านวนไข ่ไก ่ ท่ี แตกไป , จ านวนไข ่ไก ่ ท่ี ขายไป ให ้ น ั กเรย ี นพ ิ จารณาสถานการณ ์ ต ่ อไปน ี ้ ว ่ าม ีส ่ ิ งใดเป็ นข ้ อมล ู ทจ ี ่ าเป็ นในการแกป้ ั ญหา ก ข ค ง 19 ม ีไข ่ไก ่ 45 ฟอง แตกไป 11 ฟอง ขายไปได ้ 20 ฟอง ราคาฟองละ 8 บาท เหล ื อไข ่ไกก ่ ฟี ่ อง ?
17 16 15 14 ให ้ น ั กเรย ี นพ ิ จารณาสถานการณ ์ ต ่ อไปน ี ้ ว ่ าเหล ื อไข ่ไกก ่ ฟี ่ อง ? ก ข ค ง 20 ม ีไข ่ไก ่ 45 ฟอง แตกไป 11 ฟอง ขายไปได ้ 20 ฟอง ราคาฟองละ 8 บาท เหล ื อไข ่ไกก ่ ฟี ่ อง ?