The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ตัวอย่าง เทพนิยายอังกฤษ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by arrowclassicbook, 2023-09-18 05:21:34

ตัวอย่าง เทพนิยายอังกฤษ

ตัวอย่าง เทพนิยายอังกฤษ

English Fairy Tales เทพนิยายอังกฤษ ARROW


เล่าใหม่โดย ฟลอร่า แอนนี่ สตีล ภาพประกอบโดย อาเธอร์ แร็กแฮม ปิยะภา แปล เทพนิยายอังกฤษ English Fairy Tales


บรรณาธิการ : นิคม ชาวเรือ กองบรรณาธิการ : สุภาภรณ์ สว่างจันทร์, วลัยกร เต็มขันท์, ปวันรัตน์ เกียรติธีรชัย, ชญานี ขุนพิลึก พิสูจน์อักษร : วราภรณ์ เพียรพร้อม รูปเล่ม : อริสรา สุวรรณ ออกแบบปก: ชมพูนุช ขอดค�ำ ฝ่ายขาย : ณลิณพรรณ เผ่าพันธุ์ขาว ผู้จัดการทั่วไป : เดือนนภา สุรามิตร จัดจ�ำหน่ายทั่วประเทศโดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จ�ำกัด 108 หมู่ที่ 2 ถ.บางกรวย-จงถนอม ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130 โทรศัพท์ 0-2423-9999 โทรสาร 0-2449-9222, 0-2449-9500-6 hompage : www.naiin.com พิมพ์ที่ : บริษัท ออฟเซ็ทพลัส จ�ำกัด 95/39 หมู่ 8 ซอย สุขสวัสดิ์ 84 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ 10290 โทรศัพท์ 0-2461-2161-4 โทรสาร 0-2461-2165 ท�ำเพลตและแยกสีโดย : [email protected] โทรศัพท์ 0-2883-0360-1 Thai Language Translation Copyright © 2023 by Arrow Multimedia Co.,Ltd. All rights reserved. เทพนิยายอังกฤษ English Fairy Tales © สงวนลิขสิทธิ์โดย บริษัท แอร์โรว์ มัลติมีเดีย จ�ำกัด ห้ามน�ำส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปลอกเลียน ท�ำส�ำเนา ถ่ายเอกสาร หรือน�ำไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต หรือสื่อต่างๆ ไม่ว่าในรูปแบบใด นอกจากได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น เล่าใหม่โดย : ฟลอร่า แอนนี่ สตีล - ปิยะภา : แปล พิมพ์ พ.ศ. 2566 ข้อมูลทางบรรณานุกรม จัดท�ำโดย สำนักพิมพ์แอร์โรว์ ในเครือบริษัท แอร์โรว์ มัลติมีเดีย จ�ำกัด เลขที่ 1 ถนนก�ำแพงเพชร 6 ซอย 5 แยก 6 (โกสุมนิเวศน์ ซ.2) แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 0-2573-6584 ฝ่ายขาย 0-2573-6572 Email : [email protected] Line ID : @arrow11 homepage : www.arrowmultimedia.co.th สตีล, ฟลอร่า แอนนี่. เทพนิยายอังกฤษ—กรุงเทพฯ : แอร์โรว์, 2566. 312 หน้า. 1. วรรณกรรมแปล I. ปิยะภา, แปล II. ชื่อเรื่อง. ISBN 978-616-434-363-4 ราคา 290 บาท


เกี่ยวกับผู้เขียน ฟลอร่า แอนนี่ สตีล เป็นนักเขียนชาวอังกฤษที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ ในวัยผู้ใหญ่ในการใช้ชีวิต และเขียนเกี่ยวกับอินเดีย ในชีวิตต่อมา เธอ ย้ายไปสกอตแลนด์ ซึ่งสนใจในนิทานพื้นบ้านท�ำให้เธอตีพิมพ์ “นิทาน ภาษาอังกฤษ” ร่วมกับนักวาดภาพประกอบชื่อดัง อาเธอร์ แร็กแฮม เธอแต่งงานกับเฮนรี วิลเลียม สตีล ซึ่งเป็นสมาชิกของข้าราชการ พลเรือนอินเดีย และอีกยี่สิบสองปีต่อมาเธออาศัยอยู่ในอินเดีย ส่วนใหญ่ อยู่ในแคว้นปัญจาบ เธอสนับสนุนการผลิตงานหัตถกรรมท้องถิ่น และรวบรวมนิทาน พื้นบ้าน หนึ่งปีก่อนออกจากอินเดีย เธอได้ร่วมเขียนและตีพิมพ์เรื่อง The Complete Indian Housekeeper ซึ่งให้ค�ำแนะน�ำโดยละเอียดแก่สตรี ชาวยุโรปในทุกแง่มุมของการจัดการครัวเรือนในอินเดีย Flora Annie Steel


คำ�นำ�สำ�นักพิมพ์ ด�ำดิ่งสู่โลกแห่งเวทมนตร์ของเทพนิยายที่คุณรัก ด้วยขุมทรัพย์ แห่งนิทานแสนน่ารักที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะต้องเพลิดเพลิน นักอ่าน รุ่นเยาว์จะถูกพาไปพบกับการผจญภัยสุดมหัศจรรย์ ที่ออกแบบมาเพื่อ สร้างความบันเทิงและจุดประกายจินตนาการ ขุมสมบัติอันหรูหราของ เรื่องราวนี้เฉลิมฉลองให้กับภาพยนตร์คลาสสิกยอดนิยมอย่างแจ๊คผู้ฆ่า ยักษ์ หนูติ๊ตตี่กับหนูแต๊ตตี้ แจ๊คกับถั่ววิเศษ หมูน้อยสามตัว มิสเตอร์ ฟ็อกซ์ หนูน้อยหมวกแดง เป็นต้น เรื่องเล่าที่มีเสน่ห์เหล่านี้ได้กลายเป็น ที่จดจ�ำและถูกเล่าขานสืบต่อมา จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครหลายคนจะต้อง ชื่นชอบและหลงรัก ส�ำนักพิมพ์แอร์โรว์


เซนต์จอร์จแห่งอังกฤษอันสุขสันต์หรรษา 11 หมีสามตัว 25 ทอม-ทิท-ท้อท 30 กล่องยานัตถุ์ทองค�ำ 40 สาวน้อยผ้าขี้ริ้ว 53 ขนนกสามเส้น 59 แจ๊คจอมขี้เกียจ 68 แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ 72 สามโง่เง่า 93 ลูกบอลทองค�ำ 99 พี่น้องสองสาว 104 เจ้าหนอนน่ารังเกียจ 112 สารบัญ


หนูติ๊ตตี่กับหนูแต๊ตตี้ 118 แจ๊คกับถั่ววิเศษ 122 กระทิงด�ำแห่งนอร์โรเวย์ 137 หนังแมว 145 หมูน้อยสามตัว 152 ศูนย์ บ๋อแบ๋ ไม่มีอะไรเลย 158 นายและนางน�้ำส้มสายชู 170 ประวัติแท้จริงของเซอร์โธมัส ธัมบ์ 178 เฮนนี-เพนนี 187 บ่อน�้ำสามหัว 192 มิสเตอร์ฟ็อกซ์ 202 ดิ๊ก วิททิงตันกับแมวของเขา 207 หญิงชรากับหมู 219 ขนมปังแบนก้อนจิ๋ว 222 แจ๊คแสวงโชค 227 ผีขี้แกล้ง 231


หนูน้อยหมวกแดง 235 ไชลด์ โรว์แลนด์ 238 นักปราชญ์แห่งก็อตแธม 248 สาวชุดกก 256 ทารกในป่า 266 เรด เอตติน 273 ปลากับแหวน 279 พระเจ้าโปรดเห็นใจ 285 เจ้านายแห่งนายทั้งมวล 287 มอลลี วิปปีกับยักษ์สองหน้า 289 ลา โต๊ะ และไม้ 297 บ่อน�้ำ ณ จุดที่โลกสิ้นสุด 301 ต้นกุหลาบ 305


เซนต์จอร์จแห่งอังกฤษ อันสุขสันต์หรรษา ค ั ลลิบ หญิงร้ายกาจผู้มีเวทมนตร์ อาศัยอยู่ในส่วนลึกที่ออกจะมืดสลัว ของป่าทึบ นางกระท�ำแต่เรื่องเลวร้าย และมีแค่ไม่กี่คนที่อาจหาญพอ จะเป่าทรัมเป็ตทองเหลือง ที่แขวนอยู่เหนือประตูรั้วเหล็ก ที่กีดขวางทาง ไปสู่ที่อาศัยแห่งเวทมนตร์ คัลลิบกระท�ำแต่เรื่องชั่วช้า และเหนืออื่นใดนาง ยินดีปรีดากับการขโมยทารกแรกเกิดผู้บริสุทธิ์ แล้วน�ำไปสังหารเสีย แน่นอนว่านางตั้งใจให้นั่นเป็นชะตาของทารกชายบุตรของท่าน เอิร์ลแห่งโคเวนทรี ผู้ที่เมื่อเนิ่นนานหลายปีมาแล้วเคยเป็นเสนาบดีแห่ง อังกฤษ แน่ละว่า เมื่อบิดาของเด็กน้อยไม่อยู่ และมารดาของเขาก�ำลังจะ ตายจากการให้ก�ำเนิด คัลลิบผู้ชั่วร้ายใช้มนตร์สะกด และคาถาอาคม จัดการขโมยเด็กมาจากพยาบาลผู้ไม่ระมัดระวังจนได้


12 English Fairy Tales แต่ทารกได้รับการท�ำสัญลักษณ์ไว้แต่แรกแล้ว เพื่อความแข็งแรง เพราะบนอกของเขามีภาพของมังกรที่เหมือนกับมีชีวิตจริง ที่มือขวาของ เขามีไม้กางเขนสีแดงฉานดุจโลหิต และที่ขาซ้ายมีรูปหนังรัดหัวเข่าสีทอง ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด สัญลักษณ์เหล่านี้มีผลกระทบต่อคัลลิบ หญิงร้ายกาจผู้มี เวทมนตร์เป็นอย่างยิ่ง จนนางยั้งมือไว้ แล้วเด็กน้อยก็เติบโตขึ้นทุกวัน อย่างงดงาม รูปร่างสูงสง่า เขากลายเป็นที่รักดังแก้วตาดวงใจของนาง บัดนี้เมื่อเวลาเจ็ดปีผ่านไปสองรอบ เด็กชายเริ่มกระหายการผจญภัยอัน มีเกียรติ แม้ว่าหญิงชั่วร้ายผู้มีเวทมนตร์ปรารถนาจะเก็บเขาไว้กับนางเอง ก็ตาม ทว่าเขาที่ใฝ่หาเกียรติยศชื่อเสียง รู้สึกรังเกียจสิ่งมีชีวิตผู้แสนชั่ว ร้ายนางนี้เป็นอย่างยิ่ง กระนั้นนางก็ยังพยายามติดสินบนเขา แล้ววัน หนึ่งนางก็จูงมือเขาพาไปยังปราสาททองเหลือง ให้เขาเห็นอัศวินผู้กล้า หาญหกคนที่เป็นนักโทษอยู่ภายในนั้น จากนั้นนางก็พูดว่า “จงดู! พวกนี้คือผู้พิชิตทั้งหกแห่งบรรดา ประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ เจ้าจะได้เป็นคนที่เจ็ด และเซนต์จอร์จแห่ง อังกฤษอันสุขสันต์หรรษาจะคือชื่อของเจ้าถ้าเจ้าอยู่กับข้า” แต่เขาไม่ยอมอยู่ จากนั้นนางก็น�ำเขาไปยังคอกม้าอันเลอเลิศ มีม้าที่สวยที่สุดที่ เขาเคยเห็นยืนอยู่เจ็ดตัว “หกตัวในนี้” นางพูด “เป็นของผู้พิชิตทั้งหก ตัวที่เจ็ดซึ่งเป็นตัวที่ดีที่สุด ว่องไวที่สุด และทรงพลังที่สุดในโลก มีชื่อว่า เบยาร์ด ข้าจะมอบให้แก่เจ้า หากเจ้าอยู่กับข้า” แต่เขาไม่ยอมอยู่ ต่อมานางพาเขาไปยังอาคารเก็บอาวุธ จากนั้นก็ใส่เสื้อเกราะท�ำ จากเหล็กเนื้อบริสุทธิ์ที่สุด และสวมหมวกเหล็กฝังลวดลายด้วยทองค�ำให้ เขาด้วยมือของนางเอง จากนั้นก็หยิบดาบอันทรงพลังมาใส่มือของเขา แล้วพูดว่า “ชุดเกราะนี้ที่ไม่มีใครฟันแทงเข้า และดาบเล่มนี้ เรียกว่า


เทพนิยายอังกฤษ 13 แอสคาลอน ที่จะตัดทุกอย่างที่มันสัมผัสจนขาดกระจุย เป็นของเจ้า แน่นอนว่าตอนนี้เจ้าจะหยุดอยู่กับข้าใช่หรือไม่” แต่เขาไม่ยอมอยู่ และแล้วนางก็ติดสินบนเขาด้วยไม้กายสิทธิ์ของนางเอง ซึ่งจะให้ อ�ำนาจเขาเหนือสรรพสิ่งทั้งมวลในดินแดนแห่งเวทมนตร์นั้น แล้วพูดว่า “คราวนี้เจ้าจะยังคงอยู่ที่นี่แน่นอนใช่ไหม” แต่เขารับไม้กายสิทธิ์มา ใช้มันฟาดหินก้อนใหญ่โตที่อยู่ข้างๆ และจงดูเถิด! มันแยกออก และเผยให้เห็นถ�้ำกว้าง ประดับประดาด้วย ซากศพของทารกแรกเกิดผู้บริสุทธิ์จ�ำนวนมากมายมหาศาล ที่หญิง ชั่วร้ายผู้มีเวทมนตร์สังหาร ดังนั้นเขาจึงใช้อ�ำนาจของนางแม่มดสั่งให้นางน�ำทางเข้าไปใน สถานที่แห่งความสยดสยองนั่น และเมื่อนางเข้าไปเขาก็เงื้อไม้กายสิทธิ์ ขึ้นอีกครั้ง แล้วฟาดก้อนหินนั่นอย่างแรง และดูนั่น! มันปิดสนิทตลอดกาล และนางแม่มดก็ถูกทิ้งให้ตะโกนก่นด่าค�ำหยาบคายร้ายกาจกับก้อนหิน ทั้งหลายที่ไร้ความรู้สึก ด้วยเหตุนั้นเซนต์จอร์จจึงเป็นอิสระจากดินแดนต้องค�ำสาป แล้ว พาผู้พิชิตอีกหกคนจากบรรดาประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ไปด้วยบน หลังม้าของพวกเขา ส่วนตัวเขาขึ้นขี่เบยาร์ดแล้วควบไปยังเมืองโคเวนทรี พวกเขาอยู่ที่นี่เก้าเดือน ฝึกฝนฝีมือการรบอันห้าวหาญทุกชนิด และเมื่อฤดูใบไม้ผลิหวนคืนอีกครั้ง พวกเขาก็ออกเดินทางเสาะหาการ ผจญภัยในต่างแดนตามหน้าที่ของอัศวิน แล้วพวกเขาก็ขี่ม้าไปสามสิบวันสามสิบคืน จนกระทั่งเริ่มต้น เดือนใหม่พวกเขาก็มาถึงที่ราบกว้างใหญ่ ตรงกลางของที่ราบนี้ที่มีเส้น ทางเจ็ดสายมาบรรจบกันมีเสาทองเหลืองขนาดใหญ่ตั้งอยู่ และ ณ ที่นั้น พวกเขาร�่ำลากัน แล้วต่างก็แยกย้ายไปคนละทางด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นและ อาจหาญ ด้วยเหตุนี้เซนต์จอร์จจึงขี่หลังเบยาร์ดม้าศึกของเขาไปจนถึง ชายฝั่งทะเลที่มีเรือสภาพดีล�ำหนึ่งจอดอยู่ ก�ำลังจะมุ่งหน้าไปดินแดนแห่ง


14 English Fairy Tales อียิปต์ เขาขึ้นเรือ หลังจากการเดินทางอันยาวนานเขาก็ไปถึงดินแดนนั้น ยามที่ปีกแห่งราตรีอันเงียบงันก�ำลังแผ่กาง และความมืดคลี่คลุมทุก สรรพสิ่ง เมื่อไปถึงอาศรมต�่ำต้อยแห่งหนึ่ง เขาก็ขอพ�ำนักยามราตรี ซึ่ง ฤๅษีได้ตอบว่า “ท่านอัศวินแห่งแดนอังกฤษอันสุขสันต์หรรษา ข้าเห็น ตราของที่แห่งนั้นสลักบนเกราะของท่าน ท่านมาถึงในเวลาที่ไม่เหมาะยิ่ง นัก ยามที่ผู้มีชีวิตแทบไม่สามารถกลบฝังผู้สิ้นชีวิต ด้วยสาเหตุจากความ พินาศย่อยยับอย่างโหดร้าย ด้วยน�้ำมือของเจ้ามังกรจอมร้ายกาจที่ท่อง ไปมาในดินแดนนี้อย่างเสรีทั้งวันทั้งคืน ถ้ามันไม่ได้กินหญิงสาวผู้บริสุทธิ์ วันละคน มันจะส่งโรคระบาดร้ายถึงตายมาสู่ผู้คน เป็นเช่นนี้ไม่สิ้นสุดมา ยี่สิบสี่ปีแล้ว จนกระทั่งทั่วทั้งดินแดนเหลือหญิงสาวเพียงผู้เดียว คือซาเบีย ผู้งดงาม ธิดาของพระราชา และพรุ่งนี้นางต้องตาย นอกเสียจากจะมี อัศวินผู้หาญกล้ามาสังหารเจ้าสัตว์ร้ายนั่น พระราชาจะมอบพระธิดาให้ สมรสกับผู้ที่ท�ำเช่นนั้น และมอบมงกุฎแห่งอียิปต์ให้ในเวลาที่เหมาะสม” “ข้าไม่สนใจเรื่องมงกุฎหรอก” เซนต์จอร์จเอ่ยอย่างห้าวหาญ “แต่หญิงสาวผู้งดงามนั่นจะต้องไม่ตาย ข้าจะสังหารเจ้าสัตว์ร้ายเอง” ดังนั้นเขาจึงตื่นแต่รุ่งอรุณ สวมชุดเกราะ ใส่หมวกเหล็ก พร้อม ด้วยดาบแอสคาลอนที่มีคมด้านเดียวในมือ ขึ้นคร่อมเบยาร์ด แล้วขี่เข้าไป ในหุบเขาแห่งมังกร ระหว่างทางเขาพบกับขบวนของหญิงชราก�ำลังร�่ำไห้ คร�่ำครวญเสียงดัง ท่ามกลางกลุ่มพวกนางคือหญิงสาวที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น มา เขารู้สึกเต็มไปด้วยความเห็นใจจึงลงจากหลังม้า แล้วค�ำนับต�่ำเบื้อง หน้าสุภาพสตรีผู้นั้น วิงวอนให้นางกลับไปยังพระราชวังของพระบิดานาง เนื่องจากเขาก�ำลังจะสังหารเจ้ามังกรที่ร้ายกาจนั่น ซาเบียผู้งดงามจึง ขอบคุณเขาด้วยรอยยิ้มและน�้ำตา และท�ำตามที่เขาร้องขอทันที แล้วเขา ก็กลับขึ้นม้าอีกครั้งขี่ต่อไปอย่างกล้าหาญ


เทพนิยายอังกฤษ 15 ทีนี้เมื่อเจ้ามังกรมองเห็นอัศวินผู้หาญกล้าได้ไม่ทันไรล�ำคอที่เป็น หนังสากๆ ของมัน ก็ส่งเสียงน่ากลัวยิ่งกว่าฟ้าร้องออกมา แล้วกลิ้งเกลือก ออกจากถ�้ำที่มันอยู่ กางปีกที่มีไฟลุกโชน แล้วเตรียมเข้าโจมตีศัตรู ขนาดและรูปร่างหน้าตามันอาจท�ำให้หัวใจที่แข็งแกร่งที่สุด สะท้านไหวได้ มันยาวสี่สิบฟุตเต็มๆ จากไหล่ถึงปลายหาง ตัวมันปกคลุม ไปด้วยเกล็ดสีเงิน ท้องเป็นสีทอง และเลือดข้นๆ แดงฉานไหลเวียนอยู่ ในปีกที่ไฟลุกโชน มันเริ่มเข้าโจมตีอย่างดุเดือดรุนแรงมาก จนตอนปะทะกันครั้งแรก อัศวินเกือบร่วงลงพื้น แต่ฟื้นตัวทันแล้วใช้หอกแทงเจ้ามังกรอย่างแรงจน หอกสะเทือนสลายเป็นพันชิ้น ขณะที่เจ้าสัตว์ร้ายที่โกรธจัดฟาดเขาอย่าง แรงด้วยหางจนทั้งม้าและผู้ขี่ล้มลง ทีนี้เป็นความบังเอิญอย่างที่สุด ที่เซนต์จอร์จถูกเหวี่ยงไปใต้ร่ม ของต้นส้มที่ก�ำลังออกดอก ซึ่งกลิ่นอันหอมหวนของมันมีข้อดีอยู่ คือไม่มี สัตว์ที่มีพิษร้ายตัวไหนกล้าเข้าใกล้วงรอบกิ่งก้านของมัน ดังนั้นอัศวิน ผู้ห้าวหาญจึงมีเวลาฟื้นฟูสติอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งเขาลุกขึ้นด้วยความกระตือรือร้นแกร่งกล้าแล้วถลันเข้า ต่อสู้ ฟันเจ้ามังกรไฟตรงท้องที่เงาวับของมัน ด้วยดาบแอสคาลอนที่เขา ไว้วางใจ พิษร้ายสีด�ำพวยพุ่งออกมาจากตรงนั้น และขณะที่พิษตกใส่ ชุดเกราะของอัศวินก็ท�ำให้มันแตกออกเป็นสองส่วน มันอาจท�ำให้เกิดสิ่ง เลวร้ายกับเซนต์จอร์จแห่งอังกฤษอันสุขสันต์หรรษาได้ หากมิใช่เพราะ ต้นส้มที่ให้ที่หลบแก่เขาใต้กิ่งของมันอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าการต่อสู้อยู่ในมือของพระผู้เป็นเจ้าสูงสุด เขาจึง คุกเข่าลงสวดวิงวอนให้ตัวเองมีพลังแกร่งกล้าจนสามารถมีชัยได้ จากนั้น เขาก็รุกเข้าใส่อีกครั้งด้วยหัวใจที่แกร่งกร้าวห้าวหาญ ฟันเจ้ามังกรไฟ ตรงใต้ปีกที่ไฟลุกโชติช่วงข้างหนึ่ง จนอาวุธทิ่มแทงไปถึงหัวใจ บรรดา หญ้าโดยรอบเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานด้วยเลือดที่ไหลหลั่งจากเจ้าสัตว์ร้าย ที่ก�ำลังตาย ดังนั้นเซนต์จอร์จแห่งอังกฤษจึงตัดหัวที่น่ากลัวนั่นออกแขวนไว้


16 English Fairy Tales บนกระบองท�ำจากหอกที่ในตอนต้นของการต่อสู้ได้สะท้านสะเทือนไปกับ หลังที่เป็นเกล็ดของเจ้าสัตว์ร้าย เขาขึ้นขี่ม้าเบยาร์ด แล้วรุดหน้าสู่ พระราชวังของพระราชา พระนามของพระราชาองค์นี้คือปโตเลมี เมื่อพระองค์เห็นว่า มังกรที่ร้ายกาจถูกสังหารแล้วจริงๆ พระองค์จึงออกค�ำสั่งให้ประดับ ประดาเมือง แล้วพระองค์ก็ส่งราชรถทองที่ล้อท�ำด้วยไม้มะเกลือ และ เบาะนั่งท�ำด้วยผ้าไหมมาเพื่อน�ำเซนต์จอร์จไปพระราชวัง และสั่งให้ ขุนนางร้อยคนแต่งกายด้วยผ้าก�ำมะหยี่สีแดงเข้ม และขี่อาชาสีขาวนวล มีเครื่องประดับหรูหรา เพื่อร่วมทางมาอย่างสมเกียรติ ขณะที่นักดนตรี เดินน�ำหน้าและตามหลัง ท�ำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงที่ไพเราะที่สุด ซาเบียโฉมงามเป็นผู้ล้างแผล และพันแผลให้อัศวินผู้เหนื่อยล้า ด้วยตัวเอง และมอบแหวนเพชรน�้ำงามที่สุดให้แก่เขาเป็นสัญลักษณ์ของ การหมั้นหมาย จากนั้นหลังจากที่พระราชาให้ต�ำแหน่งอัศวินด้วย สเปอร์1 ทองค�ำ และเขาได้กินเลี้ยงอย่างหรูหรายิ่งใหญ่แล้วเขาก็ไปนอน พัก ขณะที่ซาเบียผู้เลอโฉมบรรเลงพิณทองค�ำจากระเบียงของนางกล่อม เขาให้หลับ ดูเหมือนทั้งหมดจะมีความสุข แต่อนิจจา! เคราะห์ร้ายมหันต์อยู่ ใกล้แค่เอื้อม อัลมิดอร์ ราชาด�ำแห่งโมรอคโคผู้เกี้ยวพาเจ้าหญิงซาเบียอย่าง ไร้ผลมาเนิ่นนาน โดยที่ไม่มีความกล้าปกป้องนาง เมื่อเห็นว่าหญิงสาว มอบหัวใจทั้งดวงให้กับผู้พิชิตของนาง จึงตัดสินใจท�ำให้เขาพินาศย่อยยับ ดังนั้นเขาจึงไปหากษัตริย์ปโตเลมี แล้วบอกว่าซาเบียผู้เลอโฉม สัญญากับเซนต์จอร์จ ซึ่งบางทีอาจเป็นความจริงก็ได้ ว่านางจะเปลี่ยนไป นับถือศาสนาคริสต์แล้วตามเขาไปอังกฤษ ความคิดเรื่องนี้ท�ำให้พระราชา โกรธจัด ลืมเลือนหนี้แห่งเกียรติยศจนสิ้น แล้วตัดสินใจกระท�ำการทรยศ หักหลังอย่างต�่ำช้าที่สุด 1 Spurs อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นเดือยแหลม


เทพนิยายอังกฤษ 17 พระองค์บอกเซนต์จอร์จว่า จ�ำเป็นต้องมีการทดสอบความรัก และความซื่อสัตย์ของเขาอีก แล้วมอบหมายให้ดูแลรักษาสารถึงกษัตริย์ แห่งเปอร์เซีย และห้ามไม่ให้เขาน�ำม้าเบยาร์ด หรือดาบแอสคาลอนติดตัว ไป และไม่อนุญาตให้เขาบอกลาซาเบียอันเป็นที่รัก ดังนั้นเซนต์จอร์จจึงออกเดินทางอย่างโศกเศร้า และเอาชนะ ภยันตรายมากมาย จนไปถึงราชส�ำนักของกษัตริย์แห่งเปอร์เซียอย่าง ปลอดภัย แต่เขาก็ต้องโกรธจัด เมื่อพบว่าจดหมายลับที่เขาถือมามิได้มี ข้อความอื่นใด นอกจากค�ำขออย่างจริงจังให้สังหารผู้ถือจดหมายเสีย แต่ เขาไม่อาจช่วยตัวเองได้ และเมื่อค�ำตัดสินมาถึงเขาก็ถูกโยนลงคุกใต้ดิน ที่น่าชัง แต่งกายด้วยเสื้อผ้าไว้ทุกข์ปอนๆ เยี่ยงทาส และแขนเขาล่ามโซ่ ไว้กับสลักเหล็กด้านบนอย่างแน่นหนา ขณะที่เสียงค�ำรามของสิงโตหิวโซ สองตัวที่คงจะขม�้ำกินเขาในอีกไม่ช้าแทบท�ำให้เขาหูหนวก ความเกรี้ยวโกรธเดือดดาลต่อการทรยศหักหลังที่ชั่วร้ายนี้ รุนแรงจนท�ำให้เขามีพลัง และด้วยความพยายามสุดก�ำลัง เขาดึงห่วงที่ ตรึงเขาไว้กับโซ่ตรวน เมื่อเป็นอิสระได้ส่วนหนึ่งแล้วเขาก็ดึงปอยผมยาวๆ สีอ�ำพันจากศีรษะมาพันรอบแขนแทนถุงมือเหล็ก พอเตรียมพร้อมแล้ว เขาก็ถลันเข้าโจมตีสิงโตตอนที่พวกมันถูกปล่อยเข้าใส่เขา แล้วยัดแขนลง ไปในล�ำคอพวกมันจนพวกมันหายใจไม่ออก หลังจากนั้นก็กระชากหัวใจ พวกมันออกมาชูขึ้นอย่างมีชัยให้ผู้คุมที่ยืนตัวสั่นดู หลังจากนั้นกษัตริย์แห่งเปอร์เซียก็หมดหวังที่จะฆ่าเซนต์จอร์จ แล้วเพิ่มลูกกรงคุกใต้ดินเป็นสองเท่า ปล่อยให้เขาทนทุกข์อยู่ในนั้น แล้ว อัศวินผู้ทุกข์ระทมก็อยู่ที่นั่นนานถึงเจ็ดปี ความคิดของเขาเต็มไปด้วยเจ้า หญิงผู้ถูกพรากไป สหายของเขามีเพียงหนูและหนอนที่คลานยั้วเยี้ย อาหารของเขามีเพียงขนมปังท�ำจากร�ำข้าวที่หยาบที่สุดและน�้ำสกปรก ในที่สุดวันหนึ่งตรงมุมมืดของคุกใต้ดินนั่นเอง เขาพบห่วงเหล็ก อันหนึ่งที่เขาเคยดึงออกมาด้วยความเกรี้ยวโกรธ สนิมกัดกินมันไปครึ่ง หนึ่งแล้ว กระนั้นก็เพียงพอให้เขาใช้มันเปิดช่องทางทะลุก�ำแพงห้องขัง


18 English Fairy Tales เขาเข้าไปในสวนของพระราชา ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนเมื่อทุกอย่าง เงียบสงัด แต่เซนต์จอร์จที่เงี่ยหูฟังได้ยินเสียงคนดูแลม้าในโรงม้า เขา เข้าไปแล้วพบคนดูแลม้าสองคนก�ำลังใส่อานให้ม้าตัวหนึ่ง เพื่อไปท�ำ กิจธุระบางอย่าง เขาใช้ห่วงที่พาเขาออกจากคุกมาได้ฆ่าคนดูแลม้า แล้ว ขึ้นคร่อมเจ้าม้าส�ำหรับสตรีตัวนั้น แล้วขี่ไปยังประตูเมืองอย่างอาจหาญ บอกคนเฝ้ายามที่หอคอยสัมฤทธิ์ว่าเซนต์จอร์จหนีออกจากคุกไปได้ และ เขาก�ำลังไล่ตามล่าตัวอย่างเร่งด่วน ดังนั้นบานประตูจึงเปิดออก แล้วเซนต์ จอร์จกระตุ้นม้าด้วยสเปอร์ เขาพบว่าตัวเองปลอดภัยจากการถูกไล่ตาม ก่อนที่แสงสีแดงล�ำแรกของดวงอาทิตย์จะสาดขึ้นสู่ท้องฟ้า ไม่นานต่อมาเนื่องจากหิวโหยเพราะความอดอยาก เมื่อเห็น หอคอยอยู่บนหน้าผาสูงเขาจึงขี่ม้าไปทางนั้น ตั้งใจจะไปขออาหาร แต่ ขณะที่เขาเข้าใกล้ปราสาทก็เห็นหญิงสาวสวยในชุดกระโปรงยาวสีน�้ำเงิน และทองนั่งหมดอาลัยอยู่ที่หน้าต่าง ดังนั้นพอลงจากหลังม้าเขาจึงร้องถามนางเสียงดังว่า “แม่หญิง! หากท่านมีความโศกเศร้าจงช่วยคนที่ทุกข์ร้อนเช่นกันด้วยเถิด แล้วให้ อาหารเนื้อสักมื้อแก่อัศวินคริสเตียนผู้เกือบอดตายนี้” ซึ่งนางได้ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “ท่านอัศวิน! จงหนีไปให้เร็ว ที่สุดเท่าที่ท�ำได้เถิด เพราะสามีข้าเป็นยักษ์ร้ายกาจ สาวกของมาโฮเม็ด ที่สาบานว่าจะท�ำลายชาวคริสเตียนทุกคน” ได้ยินดังนั้นเซนต์จอร์จก็หัวเราะเสียงดังยาวนาน “ถ้าเช่นนั้นไป บอกเขาเลยแม่หญิงงาม” เขาร้อง “ว่าอัศวินคริสเตียนผู้หนึ่งรออยู่ที่ประตู ของเขา และถ้าไม่ท�ำให้เขาสมปรารถนาภายในปราสาทของเขาเอง ก็จะ สังหารเจ้าของปราสาทอย่างใดอย่างหนึ่ง” เมื่อเจ้ายักษ์ได้ยินค�ำท้าทายอันอาจหาญนั้น ก็รีบถลันออกมา เพื่อต่อสู้ทันที มีชะแลงเหล็กขนาดยักษ์เป็นอาวุธ เขาเป็นยักษ์ตัวใหญ่ มหึมา รูปร่างพิกลพิการ หัวโตเบ้อเริ่ม มีขนสั้นๆ แข็งๆ เหมือนหมูป่า


เทพนิยายอังกฤษ 19 ดวงตาถลึงจ้องลุกโชน และปากเหมือนปากเสือ พอเห็นทีแรกเซนต์จอร์จ คิดว่าตัวเองตายแน่ ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เพราะความหิวโหยและ หมดแรง กระนั้นเนื่องจากยกย่องตนเองว่าเป็นผู้สูงส่ง เขาจึงรุดเข้าต่อสู้ ด้วยแขนที่ไร้ก�ำลังอย่างที่เป็นอยู่ และความรู้สึกสุดเสียดายที่ขาดดาบ วิเศษแอสคาลอน พวกเขาสู้กันจนถึงเที่ยงวัน เมื่อยามที่พละก�ำลังของ ผู้พิชิตใกล้จะหมดพอดีเจ้ายักษ์ก็สะดุดรากไม้ต้นหนึ่งล้ม แล้วเซนต์จอร์จ ก็คว้าโอกาสแทงเจ้ายักษ์ตรงกลางซี่โครงจนมันสูดหายใจเฮือกแล้วตาย หลังจากนั้นเซนต์จอร์จเข้าไปในหอคอยที่หญิงสาวโฉมงามผู้เป็น อิสระจากยักษ์ร้าย วางอาหารโอชะสารพัดอย่างและไวน์รสเลิศตรงหน้า เขา ซึ่งเขาได้บรรเทาความหิวโหย พักร่างกายที่อ่อนล้า และให้ม้าเขาได้ สดชื่น หลังจากทิ้งหอคอยให้อยู่ในครอบครองของหญิงสาวผู้เต็มไปด้วย ความขอบคุณ เขาก็เดินทางต่อ ไม่ช้าก็มาถึงสวนต้องมนตร์ของพ่อมด ออร์มาไดน ที่เขาเห็นดาบวิเศษเล่มหนึ่งตรึงอยู่กับหินที่มีชีวิต เป็นดาบ ที่สวยอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน สายคาดติดพราวไปด้วยหินโมราและ พลอยหลากสี ขณะที่หัวกลมที่ด้ามดาบท�ำด้วยเงินบริสุทธิ์แกะสลักอักษร ทองเป็นกลอนว่า : เวทมนตร์ของข้าจะยังคงมั่นจนกว่า อัศวินแห่งทิศบูรพามาพบพาน ดึงดาบเล่มนี้จากศิลาดาน จงระวังไว้! เมื่อเขามาออร์มาไดนผู้ชาญฉลาดจะล่มสลาย ลาก่อนอ�ำนาจวิเศษของข้า เวทมนตร์ของข้า ทุกอย่างของข้า


20 English Fairy Tales เมื่อเห็นดังนั้นเซนต์จอร์จก็จับด้ามดาบ คิดว่าจะพยายามดึงมัน ออกมาด้วยก�ำลัง แต่โอ! เขาดึงมันออกมาได้อย่างง่ายดายราวกับมันผูก อยู่กับเส้นไหมบางๆ แล้วทันใดนั้นประตูทุกบานในสวนต้องมนตร์ก็ เปิดออก แล้วออร์มาไดนผู้วิเศษปรากฏตัวขึ้น ผมเขาลุกชี้ชัน และหลังจาก ที่เขาจุมพิตมือของผู้พิชิตก็พาเขาไปยังถ�้ำแห่งหนึ่ง ที่มีชายหนุ่มผู้หนึ่ง ห่อหุ้มอยู่ในแผ่นทองนอนหลับอยู่ ถูกขับกล่อมด้วยเพลงจากสาวงาม สี่นาง “อัศวินที่ท่านเห็นอยู่นี่” พ่อมดพูดด้วยเสียงก้องๆ “มิใช่ใครอื่น แต่เป็นพี่น้องร่วมรบของท่าน ผู้พิชิตชาวคริสเตียน เซนต์เดวิดแห่งเวลส์ เขาได้พยายามดึงดาบของข้าเช่นกันแต่ล้มเหลว ท่านท�ำให้เขาหลุดจาก มนตราของข้า เนื่องจากค�ำสาปได้สิ้นสุดลงแล้ว” ขณะที่เขาพูดท้องฟ้าก็ดังครืนครัน แผ่นดินสะเทือนอย่างที่ไม่ เคยเป็นมาก่อน แล้วในพริบตาเดียวสวนต้องมนตร์และทุกอย่างในนั้นก็ หายวับไปจากสายตา ทิ้งไว้แต่ผู้พิชิตแห่งเวลส์ที่ตื่นจากหลับไหลนานเจ็ด ปีมาขอบคุณเซนต์จอร์จผู้ทักทายสหายเก่าอย่างยินดี หลังจากนั้นเซนต์จอร์จแห่งอังกฤษอันสุขสันต์หรรษาก็เดินทาง ไกลอย่างรวดเร็วไปยังอียิปต์ ที่เขาทิ้งเจ้าหญิงซาเบียที่รักยิ่งไว้ ผจญภัย มากมายระหว่างทาง ทว่าเมื่อได้รู้ข่าวด้วยความเศร้าอย่างลึกซึ้ง และ สยดสยองจากฤๅษีคนเดิมที่เขาพบวันแรกที่เหยียบแผ่นดินนั้นว่า กษัตริย์ ปโตเลมีบิดานางได้บังคับใจนางตกลงให้อัลมิดอร์ กษัตริย์ด�ำแห่งโมรอค โค พานางไปเป็นหนึ่งในมเหสีมากมายของเขา เซนต์จอร์จก็หันทิศทาง ไปยังเมืองทริโปลี เมืองหลวงของโมรอคโค เพราะเขาตัดสินใจแน่วแน่ว่า ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องได้พบเจอเจ้าหญิงสุดที่รักที่ถูกพรากไปจากเขาอย่าง โหดร้าย เพื่อไปยังจุดหมายนั้นเขาขอยืมเสื้อคลุมเก่ามาจากฤๅษีแล้ว ปลอมตัวเป็นขอทาน ได้รับอนุญาตให้ไปถึงประตูพระราชวังของเหล่า สตรี ที่มียาจกกับคนป่วยไข้ทรุดโทรมอีกมากมายคุกเข่าอยู่รวมกัน


เทพนิยายอังกฤษ 21 และเมื่อเขาถามพวกนั้นว่าพวกเขาคุกเข่าท�ำไม พวกเขาก็ตอบ ว่า “เพราะราชินีซาเบียผู้แสนดีช่วยเหลือเราๆ จึงควรสวดภาวนาเพื่อ ความปลอดภัยของเซนต์จอร์จแห่งอังกฤษ ผู้ซึ่งนางมอบหัวใจให้” เมื่อเซนต์จอร์จได้ยินดังนั้นหัวใจของเขาก็เหมือนจะแตกด้วย ความปีติ และเขาแทบไม่อาจคุกเข่าอยู่ได้ตอนที่เจ้าหญิงซาเบียผู้งดงาม เช่นเดิม ทว่าใบหน้าซีดเซียว ซูบผอม และเศร้าสร้อยจากความทุกข์ระทม ยาวนานปรากฏกายขึ้นในชุดไว้ทุกข์ นางยื่นเงินท�ำทานให้แก่ขอทานแต่ละคนอย่างเงียบงัน แต่เมื่อ มาถึงเซนต์จอร์จนางก็จ้องแล้วเอามือทาบหัวใจ จากนั้นนางก็พูดเบาๆ ว่า “ลุกขึ้นเถิดท่านขอทาน! ท่านช่างเหมือนกับผู้ที่ช่วยชีวิตข้าจากความ ตายยิ่งนัก จนไม่สมควรที่ท่านจะมาคุกเข่าเบื้องหน้าข้า!” เมื่อนั้นเซนต์จอร์จจึงลุกขึ้น ค้อมค�ำนับต�่ำ แล้วพูดแผ่วเบาว่า “ท่านหญิงผู้มิมีใครเทียม! ดูเถิด! ข้าคืออัศวินที่ท่านลดตัวลงมอบสิ่งนี้ให้” ว่าแล้วเขาก็สวมแหวนเพชรที่นางเคยมอบให้เข้าที่นิ้วของนาง แต่นางไม่ได้มองมัน ได้แต่มองเขา แววตาเปี่ยมด้วยความรัก


22 English Fairy Tales ต่อมาเขาบอกนางถึงการทรยศอันชั่วช้าของบิดานาง และ ส่วนร่วมของอัลมิดอร์ จนนางเกรี้ยวโกรธมากและร้องว่า “อย่าพูดให้เสีย เวลาอีกเลย ข้าจะไม่อยู่ในสถานที่ที่น่าชังนี้อีกแล้ว เราจะหลบหนีไปก่อ นที่อัลมิดอร์จะกลับจากล่าสัตว์” ดังนั้นนางจึงน�ำเซนต์จอร์จไปยังห้องเก็บอาวุธที่เขาพบดาบ แอสคาลอนคู่ใจ แล้วไปโรงม้าที่เบยาร์ดม้าฝีเท้าไวของเขายืนอยู่ ใส่อาน เตรียมพร้อม จากนั้นเมื่ออัศวินผู้กล้าของนางขึ้นหลังม้า และนางเหยียบเท้า บนเท้าเขาแล้วกระโจนตัวเบาราวกับนกขึ้นมานั่งด้านหลัง เซนต์จอร์จก็ ใช้สเปอร์แตะเจ้าม้าผู้ภาคภูมิเบาๆ แล้วเบยาร์ดก็พาทั้งสองข้ามเมืองและ ทุ่งราบ ผ่านป่าเขาล�ำเนาไพรและหุบเขาอย่างรวดเร็วดุจลูกธนูออกจาก แหล่ง จนกระทั่งพวกเขาไปถึงดินแดนของกรีซ และที่นี่เองพวกเขาพบว่าทั้งประเทศก�ำลังเฉลิมฉลองพิธีวิวาห์ ของพระราชา ในบรรดาสิ่งบันเทิงเริงรมย์ทั้งหลายมีการประลองครั้งใหญ่ ด้วย ซึ่งข่าวนี้ได้แพร่ไปทั่วโลก ผู้พิชิตแห่งอาณาจักรคริสเตียนอีกหกคน จึงได้มาที่นี่ ดังนั้นการมาถึงของเซนต์จอร์จเท่ากับเป็นคนที่เจ็ด และ ผู้พิชิตหลายคนมีหญิงงามที่ตนได้ช่วยชีวิตไว้มาด้วย เซนต์เดนีย์ แห่งฝรั่งเศสพาเอ็กแลนไทน์ผู้เลอโฉมมา เซนต์เจมส์แห่งสเปนมากับ เซเลสทีนผู้แสนหวาน ขณะที่รอสซาลินด์ผู้สูงศักดิ์มาพร้อมกับเซนต์แอนโธนีแห่งอิตาลี เซนต์เดวิดแห่งเวลส์หลังจากที่หลับไหลไปเจ็ดปีมาพร้อมกับความ กระตือรือร้นที่จะได้ผจญภัย เซนต์แพทริกแห่งไอร์แลนด์ผู้มีมารยาทเสมอ พาเจ้าหญิงหงส์มาหมดทั้งหกพระองค์ ซึ่งก�ำลังตามหาเซนต์แอนดรูว์แห่ง สก็อตแลนด์ ผู้ปลดปล่อยพวกนางด้วยความรู้สึกขอบคุณ เนื่องจากเขา ผู้ละทิ้งทุกอย่างในทางโลกได้เลือกที่จะต่อสู้เพื่อศรัทธา ดังนั้นอัศวินผู้กล้าทั้งหมดนี้ และเหล่าหญิงงามได้เข้าร่วมในการ ประลองฝีมือที่สนุกสนาน และผู้พิชิตทั้งเจ็ดก็ผลัดกันเป็นผู้ชนะคนละวัน


เทพนิยายอังกฤษ 23 ท่ามกลางความสนุกสนานทั้งหมดนี้มีผู้ป่าวประกาศข่าวปรากฏ ตัวขึ้นร้อยคนจากที่ต่างๆ ของโลก ที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ร้อยแห่ง ประกาศสงครามต่อชาวคริสต์ทั้งหมดจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ดังนั้นผู้พิชิตทั้งเจ็ดจึงตกลงกันว่าแต่ละคนควรกลับไปยังดินแดน บ้านเกิดของตน เพื่อให้นางอันเป็นที่รักได้ปลอดภัย และรวบรวมกองทัพ แล้วหกเดือนต่อมาให้มาพบกัน และรวมกันเป็นกองพันใหญ่ออกไปต่อสู้ เพื่อผู้คนทั้งหมดที่นับถือศาสนาคริสต์ แล้วพวกเขาก็ท�ำตามนั้น พวกเขาเลือกเซนต์จอร์จเป็นแม่ทัพ ใหญ่เดินทัพเข้าสู่ทริโปลีพร้อมกับร�่ำร้องว่า “เราสู้เพื่อศาสนจักร เราตายเพื่อศาสนจักร” ณ ที่นี้เองอัลมิดอร์ผู้ชั่วร้ายพ่ายแพ้ในการสู้กับเซนต์จอร์จเพียง ครั้งแรก ยังความยินดียิ่งให้กับประชาชนของอัลมิดอร์ ที่ขอร้องให้ผู้พิชิต เป็นราชาแทน เขายินยอมตามนั้น และหลังจากที่สวมมงกุฎกองทัพ คริสเตียนก็เดินทางต่อไปยังอียิปต์ ที่กษัตริย์ปโตเลมีกระโดดลงจาก ก�ำแพงเมืองลงมาตายด้วยความสิ้นหวัง ที่จะมีชัยเหนืออัศวินผู้แกร่งกล้า เช่นนั้นได้ เหล่าขุนนางที่มองเห็นถึงความเป็นสุภาพบุรุษ และความมี มารยาทของเหล่าผู้พิชิตชาวคริสต์ได้เสนอมงกุฎให้หนึ่งในพวกเขา และ ทุกคนก็เลือกเซนต์จอร์จแห่งอังกฤษอันสุขสันต์หรรษาโดยแสดงการ โห่ร้องยินดี จากนั้นกองทัพคริสเตียนก็เดินทางไปยังเปอร์เซีย ซึ่งเกิดการ สู้รบอย่างดุเดือดน่ากลัวนานถึงเจ็ดวัน ในระหว่างนั้นพวกนอกศาสนา ถูกสังหารสองแสนคน และอีกหลายคนจมน�้ำตายขณะพยายามหลบหนี ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงถูกบีบให้ยอมแพ้ ตัวจักรพรรดิเองบังเอิญตกมาอยู่ ในก�ำมือของเซนต์จอร์จ และอุปราชอีกหกคนอยู่ในเงื้อมมือของผู้พิชิต ทั้งหก


24 English Fairy Tales นี่เป็นความเมตตาและให้เกียรติอย่างยิ่ง แล้วหลังจากที่พวกนั้น สัญญาว่าจะปกครองเปอร์เซียตามหลักศาสนาคริสต์ ทว่าจักรพรรดิผู้มี หัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความชิงชัง และเกรี้ยวกราดแอบวางแผนชั่วท�ำร้าย พวกเขา จ้างพ่อมดชั่วร้ายชื่อว่าออสมอนด์ล่อลวงให้ผู้พิชิตทั้งหกเลิกต่อสู้ แล้วใช้ชีวิตอย่างสบายๆ เกียจคร้าน แต่เซนต์จอร์จไม่ถูกมนตร์สะกด และ ไม่ยอมให้พี่น้องอยู่ใต้ค�ำสาป เขาจึงปลุกพวกนั้นให้ได้สติ จนพวกเขาไม่ เก็บดาบเข้าฝักหรือปลดชุดเกราะเลยจนกว่าจักรพรรดิผู้ชั่วร้ายกับเหล่า อุปราชถูกโยนลงสู่คุกใต้ดินเดียวกับที่เซนต์จอร์จทนทุกข์อยู่นานเจ็ดปี จากนั้นเซนต์จอร์จก็ปกครองเปอร์เซียแล้วให้ผู้พิชิตอีกหกคน เป็นรอง ดังนั้นเซนต์จอร์จที่แต่งกายด้วยเสื้อคลุมยาวสีเขียวสวย เย็บปัก อย่างงดงาม คลุมด้วยผ้าคลุมสีแดงเข้มขริบริมด้วยขนเฟอร์สีขาว และ ตกแต่งด้วยเครื่องประดับทองค�ำบริสุทธิ์ จึงนั่งบนบัลลังก์ฐานเป็นรูปช้าง ท�ำจากหินปูนชนิดโปร่งแสง แล้วผู้ป่าวประกาศข่าวก็ร�่ำร้องท่ามกลาง เสียงตะโกนของผู้คนว่า “เซนต์จอร์จแห่งอังกฤษอันสุขสันต์หรรษา จักรพรรดิแห่งโมรอคโค กษัตริย์แห่งอียิปต์ และสุลต่านแห่งเปอร์เซีย จงเจริญ!” หลังจากที่เขาได้จัดให้มีกฎหมายที่ดีและยุติธรรม จนส่งผลให้ พวกนอกรีดจ�ำนวนมากเปลี่ยนมาเป็นชาวคริสต์แล้ว เซนต์จอร์จก็ปล่อย ให้รัฐบาลอยู่ในมือของบรรดาเสนาอ�ำมาตย์ที่เขาไว้วางใจ สงบศึกกับโลก แล้วกลับไปยังอังกฤษ ที่เขาใช้ชีวิตอยู่หลายปี ณ โคเวนทรีกับซาเบีย เจ้า หญิงแห่งอียิปต์ ผู้ให้ก�ำเนิดบุตรชายแข็งแรงแก่เขาสามคน เรื่องราวของ เซนต์จอร์จแห่งอังกฤษอันสุขสันต์หรรษา ผู้พิทักษ์คนแรกในเจ็ดคนที่ยิ่ง ใหญ่ที่สุด จึงจบลงด้วยประการฉะนี้


หมีสามตัว กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีหมีอยู่สามตัวอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านของ พวกเขาในป่า หนึ่งคือหมีน้อย หนึ่งคือหมีกลาง และอีกหนึ่งคือหมี ใหญ่ พวกเขามีชามข้าวโอ๊ตต้มกันตัวละใบ ชามใบเล็กส�ำหรับหมีน้อย ชามใบกลางส�ำหรับหมีกลาง และชามใบใหญ่ส�ำหรับหมีใหญ่ และพวกเขาต่างมีเก้าอี้นั่งกันตัวละตัว เก้าอี้ตัวเล็กส�ำหรับหมี น้อย เก้าอี้ขนาดกลางส�ำหรับหมีกลาง และเก้าอี้ตัวใหญ่ของหมีใหญ่ และ พวกเขายังมีเตียงไว้นอนด้วย เตียงเล็กส�ำหรับหมีน้อย เตียงกลางของหมี กลาง และเตียงใหญ่ส�ำหรับหมีใหญ่ วันหนึ่งหลังจากที่พวกเขาท�ำข้าวโอ๊ตต้มเป็นอาหารเช้าแล้วเท ใส่ชามข้าวโอ๊ต พวกเขาก็เดินออกไปในป่าขณะรอให้ข้าวโอ๊ตเย็น เพื่อที่ พวกเขาจะได้ไม่ปากพองเพราะเริ่มกินเร็วเกินไป เพราะพวกเขาเป็นหมี ที่สุภาพ ได้รับการเลี้ยงดูมาดี ขณะที่พวกเขาไม่อยู่เด็กหญิงน้อยๆ คนหนึ่งชื่อว่าโกลดิลล็อกส์ ที่อาศัยอยู่อีกฟากของป่าและมารดาให้มาท�ำธุระ ผ่านบ้านแล้วมองเข้าไป ทางหน้าต่าง จากนั้นเธอก็แอบมองทางรูกุญแจ เพราะเธอไม่ใช่เด็กน้อยๆ ที่ได้รับการอบรมมาดีเลย แล้วพอไม่เห็นใครในบ้านเธอก็ยกกลอนขึ้น ประตูไม่ได้ใส่กุญแจไว้ เพราะพวกหมีเป็นหมีที่ดีไม่เคยท�ำร้ายใคร และ ไม่เคยสงสัยว่าจะมีใครมาท�ำร้ายพวกเขา ดังนั้นโกลดิลล็อกส์จึงเปิดประตูเข้าไป แล้วดีใจมากเมื่อเห็น ข้าวโอ๊ตต้มบนโต๊ะ ถ้าเธอเป็นเด็กหญิงน้อยๆ ที่ได้รับการอบรมมาดีเธอ


26 English Fairy Tales คงรอจนกว่าพวกหมีจะกลับบ้าน จากนั้นบางทีพวกเขาอาจชวนเธอกิน อาหารเช้าด้วยกัน เพราะพวกนั้นเป็นหมีที่ดี อาจจะหยาบเล็กน้อยตาม ลักษณะของหมี แต่นิสัยดีมากและยินดีต้อนรับผู้อื่น แต่เธอเป็นเด็กหญิง เล็กๆ ที่หยาบคายและอวดดี เธอจึงลงมือกินทันที อันดับแรกเธอชิมข้าวโอ๊ตต้มของหมีใหญ่ แต่มันร้อนเกินไป ส�ำหรับเธอ ต่อมาเธอชิมข้าวโอ๊ตต้มของหมีกลาง และนั่นเย็นไปส�ำหรับ เธอ จากนั้นเธอก็หันไปทางข้าวโอ๊ตต้มของหมีน้อยแล้วชิมดู และชามนั้น ไม่ร้อนไปหรือเย็นไป และเธอชอบมันมากจนกินเสียเกลี้ยงเลย! จากนั้นโกลดิลล็อกส์ที่เหนื่อยล้า เพราะไปวิ่งไล่จับผีเสื้อมา แทนที่จะท�ำธุระก็นั่งลงบนเก้าอี้ของหมีใหญ่ แต่เก้าอี้นั้นแข็งกระด้างเกิน ไปส�ำหรับเธอ จากนั้นเธอจึงนั่งบนเก้าอี้ของหมีกลาง แต่เก้าอี้ตัวนั้นนิ่ม ไปส�ำหรับเธอ ทว่าพอเธอนั่งบนเก้าอี้ของหมีน้อย ก็พบว่ามันทั้งไม่แข็ง ไปหรือนิ่มไป แต่พอดี เธอจึงนั่งลงบนนั้น และนั่งอยู่จนก้นเก้าอี้ขาด แล้ว เธอตกก้นจ�้ำเบ้าลงกับพื้น และนั่นท�ำให้เธอโกรธจัด เพราะเธอเป็นเด็ก หญิงเล็กๆ ที่อารมณ์ร้าย ทีนี้โกลดิลล็อกส์ที่ตั้งใจจะพักผ่อนขึ้นชั้นบนไปยังห้องนอนที่หมี ทั้งสามใช้นอน แรกสุดเธอนอนลงบนเตียงของหมีใหญ่ แต่ตรงหัวเตียง นั้นสูงเกินไปส�ำหรับเธอ ต่อมาเธอนอนลงบนเตียงของหมีกลาง ทว่า ปลายเตียงนั้นสูงเกินไปส�ำหรับเธอ จากนั้นเธอก็นอนลงบนเตียงของหมี น้อย และทั้งหัวเตียงและปลายเตียงก็ไม่สูงเกินไป แต่พอดีเป๊ะ เธอจึง ห่มผ้าอย่างสบาย แล้วนอนอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งหลับสนิท พอถึงตอนนี้หมีทั้งสามก็คิดว่าข้าวโอ๊ตต้มของพวกตนคงเย็นพอ ให้กินได้แล้ว พวกเขาจึงกลับบ้านมากินอาหารเช้า โกลดิลล็อกส์ผู้ท�ำอะไร ชุ่ยๆ ได้ทิ้งช้อนของหมีใหญ่ไว้ในชามข้าวโอ๊ตต้มของเขา “มีคนมายุ่มย่ามกับข้าวโอ๊ตต้มของฉัน!”


Click to View FlipBook Version