Sigmund Freud
The EGO
and The ID
อิโกและอดิ ในตวั คณุ
ARROW
อิโกและอิด
ในตัวคุณ
The Ego and the Id
ซกิ มุนด์ ฟรอยด์ : เขยี น เมธินี ไชยคณุ า : แปล
อีโกและอดิ ในตวั คุณ
The Ego and the Id
ซกิ มนุ ด์ ฟรอยด์ : เขยี น เมธินี ไชยคณุ า : แปล
พมิ พ์ พ.ศ. 2565
จดั ท�ำ โดย
สำ�นกั พมิ พ์แอร์โรว์
ในเครอื บริษัท แอรโ์ รว์ มัลตมิ ีเดยี จำ�กดั
เลขท่ี 1 ถนนกำ�แพงเพชร 6 ซอย 5 แยก 6 (โกสุมนิเวศน์ ซ. 2)
แขวงทงุ่ สองห้อง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ 10210
โทรศพั ท์ 0-2573-6584 โทรสาร 0-2573-6585 ฝ่ายขาย 0-2573-6572
Email : [email protected] Line ID : @arrow11
www.arrowmultimedia.co.th
© สงวนลิขสิทธ์ิโดย บริษัท แอร์โรว ์ มัลตมิ ีเดีย จำ�กดั
ห้ามนำ�ส่วนหน่ึงสว่ นใดของหนังสือเล่มนีไ้ ปลอกเลียน ท�ำ ส�ำ เนา ถ่ายเอกสาร หรอื นำ�ไปเผยแพร่ในอนิ เทอรเ์ นต็
หรือส่ือตา่ งๆ ไม่วา่ ในรปู แบบใด นอกจากไดร้ ับอนุญาตเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษรเท่านั้น
ขอ้ มลู ทางบรรณานุกรม
ฟรอยด์,ซกิ มนุ ด.์
อีโกและอดิ ในตัวคณุ —กรุงเทพฯ : แอร์โรว,์ 2565.
128 หน้า.
1. จติ วทิ ยา I. เมธินี ไชยคุณา, แปล II. ช่อื เรื่อง.
ISBN 978-616-434-294-1
บรรณาธกิ าร : นิคม ชาวเรือ
กองบรรณาธิการ : สภุ าภรณ์ สวา่ งจันทร,์ วลยั กร เต็มขนั ท์, ชญานี ขนุ พิลกึ ,
ปวันรตั น์ เกยี รตธิ ีรชัย ออกแบบปก : ชมพนู ุช ขอดคำ� รปู เล่ม : รจนา นครโสภา
พิสูจน์อกั ษร : อรรถพร ทองบรรเทงิ ผจู้ ดั การทวั่ ไป : เดอื นนภา สุรามิตร
ฝ่ายขาย : ณลณิ พรรณ เผ่าพันธุข์ าว
จัดจ�ำ หนา่ ยทวั่ ประเทศโดย
บรษิ ัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำ�กัด
108 หมู่ที่ 2 ถ.บางกรวย-จงถนอม ต.มหาสวสั ดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130
โทรศพั ท์ 0-2423-9999 โทรสาร 0-2449-9561-3
www.naiin.com
พมิ พ์ที่ : บรษิ ทั กู๊ดเฮด พร้ินท์ต้ิง แอนด์ แพคเกจจง้ิ กร๊ปุ จำ�กดั
6/1 ซอยเสรไี ทย 58 ถนนเสรีไทย นิคมอุตสาหกรรมบางชนั
แขวงมนี บุรี เขตมนี บุรี กรงุ เทพมหานคร 10510
โทรศพั ท์ 0-2136-7042 โทรสาร 0-2136-7043
ราคา 150 บาท
ประวตั ิผเู้ ขยี น
ซSiิกgมmนุ uดn์dฟFรrอeยuดd์
เมื่อพูดถึงซกิ มนุ ด์ ฟรอยดน์ น้ั ผู้ท่อี ยู่ในแวดวงจิตวทิ ยา และ
จติ เวชยอ่ มรจู้ กั กนั ดี อยา่ งไรกต็ ามเขายงั ถอื วา่ เปน็ ผบู้ กุ เบกิ ที่
โลกยกยอ่ งเทา่ กบั ชาลส์ ดาร์วิน หรืออัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เลย
ทีเดยี ว
ฟรอยด์ได้ช่ือว่าเป็นบิดาของทฤษฎีจิตวิเคราะห์
(Psycho-analysis) เนื่องจากเป็นผู้ริเริ่มและพัฒนาทฤษฎี
ดังกล่าวข้ึน ซึ่งถือว่าเป็นผู้บุกเบิกวิชาการแขนงใหม่ให้กับ
มนุษยชาติ นอกจากน้ียังถือว่าเขาเป็นผู้ริเร่ิมและจุดประกาย
ให้ผู้คนสนใจเร่ืองของจิตไร้สำ�นึกอย่างแพร่หลายอีกด้วย
คำ�ศัพท์ต่างๆ ที่เราใช้เกี่ยวกับจิตวิทยาในปัจจุบันน้ี เช่นคำ�ว่า
การเกบ็ กด จติ ไรส้ �ำ นกึ จติ ส�ำ นกึ อโี ก ซปุ เปอรอ์ โี ก หรอื แมแ้ ต่
ค�ำ ว่า ‘ลบิ โิ ด’ ที่มผี ้ใู ชแ้ ทนค�ำ วา่ ‘แรงขบั ทางเพศ’ ในภาษา
องั กฤษอย่างแพรห่ ลาย ลว้ นแต่เป็นค�ำ ศพั ทท์ ซ่ี กิ มนุ ด์ ฟรอยด์
บญั ญตั ขิ น้ึ เปน็ คนแรกทงั้ สน้ิ นอกจากนช้ี อื่ ของเขากถ็ กู น�ำ มา
บญั ญัติศัพทใ์ นภาษาองั กฤษหลายๆ ค�ำ ที่ใช้อย่างแพรห่ ลาย
ด้วย เช่น Freudian slip หรอื การพลง้ั ปากพดู เปน็ ต้น
เขาเกิดวนั ที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1856 ท่แี คว้นโมรา-
เวีย ซ่ึงขณะนนั้ คอื จักรวรรดอิ อสเตรีย-ฮงั การี ปัจจุบนั อยใู่ น
ประเทศเชโกสโลวาเกีย ในครอบครวั ชาวยวิ บิดาเป็นพ่อคา้
ขนสัตว์ เมอื่ อายุประมาณ 3-4 ขวบ ครอบครัวไดย้ า้ ยไปยัง
กรงุ เวยี นนา ปจั จบุ นั คอื ประเทศออสเตรยี และเขาไดเ้ ขา้ เรยี น
แพทยใ์ นส�ำ นักการแพทย์ของมหาวทิ ยาลยั เวยี นนา เมื่อเรียน
จบก็ได้เข้าทำ�งานวิจัยในห้องปฏิบัติการ และต่อมาได้ย้ายไป
ท�ำ งานเปน็ แพทยเ์ วชปฏบิ ตั ทิ ว่ั ไปในโรงพยาบาลเวยี นนาโดย
เริ่มท�ำ งานในแผนกศัลยกรรม แลว้ จึงย้ายมาท�ำ งานทางจิตเวช
ซึ่งได้ส่ังสมประสบการณ์การทำ�งานด้านจิตเวชท่ีนี่ จนกระทั่ง
ปี ค.ศ. 1885 ได้รับทุนให้ศึกษากับแพทย์ที่มีช่ือเสียง
ทางประสาทวิทยาของฝร่ังเศสที่กรุงปารีส คือ ฌอง มาร์ติน
ชารโ์ คต์ (Jean Martin Charcot) ซงึ่ ฟรอยดไ์ ดศ้ กึ ษาการรกั ษา
โรคฮสี ทเี รยี โดยการสะกดจติ จากทนี่ ่ี และตอ่ มาไดเ้ รม่ิ ตน้ บ�ำ บดั
ดว้ ยวธิ อี น่ื ทไี่ มใ่ ชก่ ารสะกดจติ ซง่ึ เปน็ จดุ เรมิ่ ตน้ ของการพฒั นา
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ โดยเร่ิมจากเรียนรู้สังเกตอาการ และ
ประสบการณข์ องผ้ปู ว่ ย ในปี ค.ศ. 1895 เขาไดน้ �ำ เสนอในงาน
ตีพิมพ์ร่วมกับโจเซฟ บริวเออร์ แพทย์ผู้ร่วมบำ�บัดผู้ป่วย
ฮสี ทีเรียกับเขา ชือ่ หนงั สอื วา่ In studies in Hysteria โดย
เสนอว่าอาการทางกายมักจะเป็นการแสดงออกภายนอก ซ่งึ มี
สาเหตตุ ้นเรื่องจากความขดั แย้งทีถ่ กู เกบ็ กดเอาไว้ลกึ ๆ ในใจ
ในปี ค.ศ. 1900 เขากไ็ ด้ตีพมิ พห์ นงั สือเรอื่ ง The Inter-
pretation of Dreams (การตคี วามความฝัน) โดยมเี นือ้ หา
เกี่ยวกับประสบการณ์การวิเคราะห์ความฝันของผู้ป่วยที่รับ
การบำ�บัดจากเขา ซึ่งกลายเป็นผลงานชิ้นสำ�คัญของเขา
ฟรอยด์มองว่าความฝันเป็นหนทางท่ีจะสามารถนำ�เราเข้าสู่
จิตไรส้ �ำ นกึ ได้ ในปี ค.ศ. 1905 ฟรอยด์ไดต้ พี ิมพห์ นังสอื อีกเล่ม
เรอื่ ง Three Essays on the Theory of Sexuality (บทความ
สามเรอ่ื งเกยี่ วกบั ทฤษฎที างเพศ) ซง่ึ เปน็ รายละเอยี ดเกยี่ วกบั
Infantile Sexuality หรือแรงขับทางเพศในเด็กซ่ึงเป็นที่
วพิ ากษว์ จิ ารณก์ นั อยา่ งกวา้ งขวาง และในปเี ดยี วกนั กม็ ผี ลงาน
เรื่อง Fragment of Analysis of a case Hysteria : Dora
(สว่ นหนง่ึ ของงานวเิ คราะหก์ รณหี นง่ึ ของฮสี ทเี รยี ) ซงึ่ กเ็ ปน็ ท่ี
วพิ ากษ์วจิ ารณอ์ ยา่ งมากเชน่ กนั
ในช่วงเดียวกัน คือประมาณปี ค.ศ. 1902 ได้มีผู้
ตดิ ตามและสานุศิษยเ์ ขากอ่ ต้งั กลุม่ เลก็ ๆ ของตนขนึ้ มา มชี ่ือ
วา่ Wednesday Psychological Society หรอื ชมุ นมุ จติ วทิ ยา
วันพุธ เน่ืองจากพวกเขาจะไปรวมตัวพูดคุยกับฟรอยด์ทุก
วันพุธ ซ่ึงถือเป็นจุดเริ่มต้นขบวนการจิตวิเคราะห์ที่สร้าง
นักจิตวิทยาผู้ให้กำ�เนิดทฤษฎีสมัยใหม่ท่ีสำ�คัญในวงการ
จติ วทิ ยาหลายคน เชน่ คารล์ จงุ และ อลั เฟรด แอดเลอร์ เปน็ ตน้
ในหนังสือเรอ่ื ง จติ วทิ ยาความฝัน (Dream Psychology) น้ี
ฟรอยด์ก็ได้เอย่ ถึงสานศุ ิษยข์ องเขาหลายคน
8 The Ego and the Id
ส�ำ หรบั หนงั สอื Dream Psychology (จติ วทิ ยาความ-
ฝัน) เลม่ ดังกล่าว ฟรอยดเ์ ขียนขึน้ ในปี ค.ศ. 1920 เป็นเรื่องของ
การวิเคราะห์ความฝัน อธิบายการทำ�งานของความฝัน และ
สาเหตุท่ีทำ�ให้เกิดฝัน ปัจจุบันถือเป็นหนังสือขั้นพื้นฐานของ
ทฤษฎีจติ วเิ คราะห์
ฟรอยดเ์ สยี ชวี ติ ในปี ค.ศ. 1939 เมอื่ อายไุ ด้ 83 ปี ดว้ ย
โรคมะเรง็ ทบี่ รเิ วณขากรรไกร ณ กรงุ ลอนดอน ประเทศองั กฤษ
เขาทิ้งผลงานการค้นพบและทฤษฎีเอาไว้กับโลกหลายเร่ือง
ไม่เพียงแต่ในสาขาจิตวิทยาเท่านั้น แต่ยังมีด้านวัฒนธรรม
การเรียนรู้ การศกึ ษา และการแพทย์อีกดว้ ย
ซกิ มุนด์ ฟรอยด์ 9
คำ�นำ�ส�ำ นกั พิมพ์
“ซิกมุนด์ ฟรอยด์” เป็นนักคิดและผู้จุดประกายให้ผู้คน
สนใจเรื่องจติ ไร้ส�ำ นึกอย่างแพรห่ ลาย เขาริเริม่ พัฒนาจนได้
ข้ึนช่ือว่าเป็น “บิดาแห่งทฤษฎีจิตวิเคราะห์ (Psycho-
analysis)” อีกทั้งยังสร้างผลงานด้านอื่นๆ เช่น ด้าน
วฒั นธรรม การเรียนรู้ การศึกษา และการแพทย์อีกดว้ ย
หนงั สอื เลม่ นเี้ ขยี นโดย “ซกิ มนุ ด์ ฟรอยด”์ ซง่ึ เปน็
พืน้ ฐานของทฤษฎี “จติ วเิ คราะห”์ ของเขา เพราะการจะ
เรียนรู้ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์ให้เข้าใจ ต้องเร่ิมต้น
เรียนรู้เร่อื งอดิ อโี ก และซเู ปอร์อีโกให้เขา้ ใจกอ่ น เพราะทั้ง
สามสิ่งนี้มีอยู่ในอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ อันจะ
แสดงออกในเรื่องอน่ื ๆ ตามมาอีกมากมาย
ผลงานของเขาทรงอิทธิพลต่อวงการจิตวิทยาทั่ว
โลก ทุกคนที่ศึกษาจิตวิทยา ต้องศึกษาแนวความคิดของ
ฟรอยดใ์ หเ้ ขา้ ใจอยา่ งแจม่ แจง้ เสยี กอ่ น จงึ จะสามารถตอ่ ยอด
ไปส่คู วามเข้าใจในด้านอ่นื ๆ ตอ่ ไป
ส�ำ นกั พมิ พแ์ อร์โรว์
สารบญั
บทน�ำ 13
บทที่ 1
จติ สำ�นกึ กับจิตไรส้ ำ�นึก 17
บทท่ี 2 31
อโี กและอิด
บทที่ 3 51
อโี กกับซเู ปอรอ์ โี ก (อีโกอุดมคต)ิ
บทท่ี 4 79
สัญชาตญาณสองประเภท
บทท่ี 5
ความสมั พนั ธ์ใต้บังคับบัญชาของอีโก 99
12 The Ego and the Id
บทน�ำ
ในบทความเร่ือง Beyond the Pleasure Principle1 ท่ตี ีพิมพ์
ในปี 1920 นั้น ผมเริม่ ดว้ ยการพจิ ารณากระบวนการคิดในหัว
ความคิดที่ว่าน้ีคือทัศนคติส่วนตัวของผมที่มีต่อสิ่งที่ผมได้
เขียนเอาไว้ในน้ัน ซ่ึงอาจจะอธิบายได้ว่าเป็นความสงสัยใคร่รู้
เชงิ เหน็ ใจ และกระบวนความคดิ อนั นกี้ ย็ งิ่ มเี พม่ิ ขน้ึ ในหนา้ ตอ่ ๆ
ไป
ผมได้รวบรวมความคิดเหล่าน้ัน มาเช่ือมโยงเข้ากับ
ขอ้ เทจ็ จริงตา่ งๆ ท่ีได้จากการสังเกตการวิเคราะหท์ างจติ เอา
มาหลอมรวมกนั แลว้ พยายามนำ�มารา่ งเปน็ ข้อสรปุ ใหม่
อย่างไรก็ตาม แม้งานศึกษาปัจจุบันจะไม่มีการ
สนับสนุนเชิงชีววิทยาแล้ว และผลลัพธ์ท่ีได้ก็ใกล้เคียงกับ
1 Beyond the Pleasure Principle เปน็ หลกั ทค่ี วบคุมกระบวนการทางจติ ถอื ว่า
กจิ กรรมทางจติ ใดๆ ล้วนมเี ปา้ หมายเพ่อื หลีกเลยี่ งความทกุ ข—์ อ.พริ ยิ ะดิศ มานติ ย์
งานจิตวิเคราะห์เหมือนกับในงานเขียนเร่ือง Beyond the
Pleasure Principle แต่แนวคิดต่างๆ ที่อยู่ในงานเขียน
เหลา่ นน้ั กย็ งั มลี กั ษณะเปน็ การสงั เคราะหใ์ นแบบทค่ี ดิ ท�ำ ขนึ้ เอง
มากกว่าจะเป็นไปในเชิงทฤษฎี ท้ังยังมีเป้าหมายท่ีดูเหมือน
ว่าจะยากล�ำ บากและต้องใชค้ วามพยายามสูง
ผมตระหนกั ดวี า่ งานเขยี นนน้ั ยงั ไปไมไ่ กลกวา่ การเปน็
ข้อความคร่าวๆ ที่เขียนออกมาท่ือๆ และผมก็ยอมรับอย่าง
เตม็ ใจวา่ ผมเองกร็ ับรูถ้ งึ ขอ้ จ�ำ กัดของงานน้นั ดว้ ย
ในขณะเดียวกัน แม้กระทัง่ ถงึ ตอนน้กี ระบวนความคิด
ดงั กลา่ วกย็ งั ไปไมไ่ กลถงึ โลกของจติ วเิ คราะห์ และยงั ไมส่ ามารถ
หลกี เลยี่ งทจี่ ะเกยี่ วขอ้ งกบั ทฤษฎตี า่ งๆ มากมาย ซง่ึ ถกู น�ำ เสนอ
โดยกลมุ่ คนทไี่ มไ่ ดเ้ ปน็ นกั จติ วเิ คราะห์ หรอื เปน็ นกั จติ วเิ คราะห์
คนเกา่ ๆ ทถ่ี อยออกมาจากแวดวงแลว้ อนั ทจี่ รงิ โดยปกตผิ มเอง
ก็พร้อมจะยอมรับว่าตัวเองเป็นหน้ีบุญคุณผู้คนท่ีทำ�งานหรือ
ศึกษาเกี่ยวกับเร่ืองนี้เสมอ แต่ในสถานการณ์น้ีผมกลับไม่รู้สึก
ว่าตัวเองตกอยูภ่ ายใตก้ ารเปน็ หนี้บุญคุณเช่นนั้นเลย
ถ้าหากจนถึงตอนนี้แล้ว ยังจะมีอะไรบางอย่างที่
กระบวนการจิตวิเคราะห์ยังไม่ได้ให้การพิจารณาท่ีเพียงพอ
น่ันก็จะไม่ได้เป็นเพราะเราได้มองข้ามผลกระทบของมัน หรือ
14 The Ego and the Id
ว่าเราต้องการที่จะปฏิเสธความสำ�คัญของเร่ืองนี้ แต่จะเป็น
เพราะว่ามันกำ�ลังอยู่ในเส้นทางอีกทางหน่ึง ที่กระบวนการ
จติ วเิ คราะหย์ งั ไปไมถ่ งึ นอกจากน้ี เมอื่ ทา้ ยทสี่ ดุ แลว้ จะมคี นน�ำ
เร่ืองนไี้ ปทำ�แลว้ ก็ตาม มนั ก็จะยงั ปรากฏให้เห็นในสายตาของ
กลุ่มจิตวิเคราะห์ ในรูปแบบที่แตกต่างจากที่มันปรากฏให้
คนอื่นๆ เหน็ อยู่ดี
ซิกมุนด์ ฟรอยด์ 15
16 The Ego and the Id
1
จิตส�ำ นึกกบั จิตไรส้ ำ�นกึ
Consciousness and What is Unconscious
เรายังไม่มีการพูดเร่ืองใหม่ในบทก่อนหน้านี้ จึงยังไม่สามารถ
เล่ยี งการทวนซ�ำ้ สิ่งทีเ่ คยพูดถงึ ไปแลว้ อยู่หลายครั้งได้
การแบ่งจิตออกเป็นจิตสำ�นึกกับจิตไร้สำ�นึก เป็น
หลักการพ้ืนฐานของแนวคิดจิตวิเคราะห์ และการแบ่งเช่นน้ี
เพียงอย่างเดียว กท็ �ำ ใหเ้ ข้าใจกระบวนการพยาธิวิทยาทางจิต
ซ่ึงเป็นเรื่องพื้นฐานที่มีความสำ�คัญ และจะทำ�ให้มีการร่วมมือ
กันสร้างความเขา้ ใจได้อย่างเป็นระบบแบบวิทยาศาสตร์
หากจะพูดอีกครั้งก็คือ จิตวิเคราะห์ไม่ยอมรับแนวคิด
ที่ว่าจิตสำ�นึกเป็นส่วนสำ�คัญของจิตใจ แต่ไม่ได้มองว่ามันเป็น
คุณสมบัติหน่ึงของจิต ซึ่งอาจจะอยู่ร่วมกับคุณสมบัติอ่ืนๆ
ของจิต หรอื อาจจะไมป่ รากฏอยเู่ ลยกไ็ ด้
หากผมสมมติว่าคนท่ีสนใจจิตวิทยาจะอ่านหนังสือ
เล่มนี้ ผมก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมที่จะพบว่าอาจมีบางคน
หยดุ อา่ นและไมย่ อมไปตอ่ เนอ่ื งจากเรามกี ารท�ำ การทดสอบจติ
วิเคราะหต์ วั แรกไปแล้ว
สำ�หรับคนส่วนใหญ่ที่ได้เรียนปรัชญามานั้น เรื่องทาง
จิตอันใดท่ีไม่ใช่เรื่องของจิตสำ�นึก จะถือว่าเป็นเรื่องที่ยากเกิน
กว่าจะเขา้ ใจ เปน็ เรอ่ื งท่ีดไู ร้สาระ และเปน็ เร่ืองทไี่ ม่สามารถใช้
เหตุผลมาหักล้างได้ แต่ผมเชื่อว่าน่ันเป็นเพียงเพราะพวกเขา
ยงั ไมเ่ คยศกึ ษาวธิ กี ารสะกดจติ และการใชค้ วามฝนั ในจติ วทิ ยา
ซึ่งถ้าไม่นับอาการทางพยาธิวิทยาแล้ว ถือว่าน่ันเป็นสองวิธีที่
จำ�เปน็ ในการสรุปอาการทางจติ ได้ ดงั น้นั จิตวิทยาทอ่ี ยูเ่ ฉพาะ
ในขอบขา่ ยจติ รสู้ �ำ นกึ ของพวกเขา จงึ จะไมส่ ามารถแกไ้ ขปญั หา
เรอ่ื งความฝัน และไม่สามารถรักษาอาการทางพยาธิวทิ ยาได้
ค�ำ ว่า จิตส�ำ นกึ ในช่วงเรม่ิ ต้น (Being Conscious) ได้
ถกู อธบิ ายไวอ้ ยา่ งบรสิ ทุ ธ์ิ โดยตง้ั อยบู่ นการรบั รทู้ ตี่ รงไปตรงมา
และแนน่ อนทสี่ ดุ แตห่ ลังจากนนั้ ประสบการณ์ท่ีเกิดขึน้ กท็ ำ�ให้
ปรากฏออกมาวา่ สว่ นประกอบตา่ งๆ ของจติ (เชน่ แนวคดิ ) ไม่
ได้เปน็ จิตสำ�นกึ ตลอดเวลา
18 The Ego and the Id
ในทางตรงกันข้าม ความเป็นจติ สำ�นกึ นัน้ โดยลกั ษณะ
ของมนั จะเกดิ ขนึ้ ในชว่ งเวลาสนั้ ๆ และชวั่ คราวมากๆ ความคดิ
ทเี่ ปน็ จติ ส�ำ นกึ ขณะปจั จบุ นั จะอยไู่ ดไ้ มน่ าน แมว้ า่ มนั จะสามารถ
กลับมาอีกคร้ังได้หากมีสถานการณ์ใดๆ เข้ามาสนับสนุน
ในส่วนของสิ่งท่อี ยู่ในช่วงกลางความคิดนัน้ เราไม่รู้ แตเ่ ราอาจ
จะเรียกได้ว่ามันคือ จิตแฝง (Latent) ซ่ึงในลักษณะนี้เรา
หมายความว่ามันจะกลายเป็นจิตสำ�นึกขึ้นมาในเวลาใดก็ได้
หรือถ้าเราจะพูดว่ามันเป็นจิตไร้สำ�นึก (Unconscious) นั่นก็
หมายความวา่ เรากำ�ลงั ใหค้ ำ�อธบิ ายในแบบเดยี วกนั
ดังน้ัน คำ�ว่าจิตไร้สำ�นึกในความหมายนี้จะเกิดข้ึนใน
เวลาใกลเ้ คยี งกบั จติ แฝงทจ่ี ะสามารถกลายเปน็ จติ ส�ำ นกึ ได้ ซง่ึ
แน่นอนว่าเหล่านักปรัชญาจะต้องคัดค้านแนวคิดนี้ เป็นต้นว่า
“ไมน่ ะ ค�ำ วา่ จติ ไรส้ �ำ นกึ ไมส่ ามารถใชไ้ ดใ้ นกรณนี ้ี เพราะความ
คิดยังอยู่ในระยะแฝง ซ่ึงในระยะนี้มันไม่ได้เป็นองค์ประกอบ
ทางจติ เลยสกั นดิ เดยี ว” ฉะนน้ั การไปโตต้ อบพวกเขาในจดุ นจ้ี ะ
ไม่นำ�พาเราไปท่ีไหนท่ีมีประโยชน์ได้เลย นอกจากสงคราม
น�้ำ ลายเทา่ นัน้
ซิกมุนด์ ฟรอยด์ 19
แต่เราได้มาถึงขั้นท่ีคำ�หรือแนวคิดเรื่องจิตไร้สำ�นึก
อยู่ควบคู่ไปกับอีกแนวทางหน่ึง ซึ่งมีการเคลื่อนไหวของจิต1
(Mental Dynamic) เขา้ มาเกย่ี วขอ้ ง เราจ�ำ เปน็ ตอ้ งสนั นษิ ฐาน
ว่ากระบวนการทางจิต หรือแนวคิดที่ทรงพลังมากๆ มีปัจจัย
ทางด้านปริมาณและทางเศรษฐกิจเข้ามามีบทบาท ทำ�ให้มัน
ส่งผลกระทบต่อแนวคิดธรรมดา (รวมทั้งผลกระทบท่ีทำ�ให้
มันสามารถกลับมาเป็นจิตสำ�นึกในฐานะของความคิด) โดยที่
ตัวมันเองก็ไม่ได้กลับมาเป็นจิตสำ�นึก ถึงตรงนี้ เราไม่มีความ
จำ�เป็นท่ีจะต้องลงลึกในรายละเอียดซ้ำ�ถึงสิ่งท่ีได้มีการอธิบาย
มาก่อนหน้านี้บ่อยๆ แล้ว เราเพียงแต่ต้องการจะบอกว่าน่ีคือ
จดุ ทที่ ฤษฎจี ติ วเิ คราะหไ์ ดก้ า้ วเขา้ มาอธบิ าย ดว้ ยการยนื ยนั วา่
ความคิดไม่สามารถกลายเป็นจิตสำ�นึกได้ เพราะมีพลังอันใด
อนั หน่ึงมาต้านมันไว้ ถ้าไมม่ พี ลงั อันนี้มาตา้ น มันกจ็ ะสามารถ
กลายเป็นจิตสำ�นึกได้ ซ่ึงทำ�ให้คนจะมองว่ามันต่างจากองค์
ประกอบอ่ืนๆ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นองค์ประกอบทางจิต
เพยี งเลก็ นอ้ ย ในความเปน็ จรงิ นน้ั เทคนคิ ของจติ วเิ คราะหเ์ ปน็
ช่องทางที่สามารถกำ�จัดพลังต่อต้านอันที่ว่านี้ได้ และการที่
1 การเคลื่อนไหวของจิต แปลจากคำ�ว่า Mental Dynamic เป็นการเคล่ือนท่ี
การพัฒนา การทำ�หนา้ ท่ีตา่ งๆ ภายในจติ ใจ
20 The Ego and the Id
ความคิดกลายเป็นจติ ส�ำ นกึ ไดน้ น้ั ทำ�ใหท้ ฤษฎจี ิตวเิ คราะหไ์ ม่
สามารถโต้แย้งได้ สภาพกอ่ นท่คี วามคดิ จะกลายเปน็ จิตสำ�นึก
จะเรียกวา่ การเกบ็ กด (Repression) และเรายืนยันว่าในชว่ ง
การท�ำ การวิเคราะห์นั้น พลงั ท่กี �ำ หนดใหเ้ กดิ กระบวนการเกบ็
กดขน้ึ มาและรกั ษาการเกบ็ กดไวน้ น้ั คอื แรงตา้ น (Resistance)
ด้วยเหตุนี้เราจึงได้คอนเซ็ปต์เร่ืองจิตไร้สำ�นึกจาก
แนวคิดเร่ืองแรงต้านนน่ั เอง ตัวกระบวนการเก็บกดมาช่วยเรา
ในฐานะท่ีเปน็ ตวั แบบของจติ ไรส้ ำ�นึกอีกที อยา่ งไรกด็ ี เรามอง
ว่าจิตไร้สำ�นึกมีอยู่สองประเภทด้วยกัน คืออันท่ีเป็นแบบแฝง
แตส่ ามารถกลายมาเป็นจิตสำ�นกึ ได้ กับอนั ท่ีถูกเก็บกดไว้แล้ว
ไม่สามารถกลายมาเป็นจิตส�ำ นกึ ในรูปแบบทป่ี กตไิ ด้
ข้อมูลเชิงลึกที่เราได้จากการเคล่ือนไหวทางจิต อันนี้
ไม่อาจเลี่ยงท่ีจะส่งผลกระทบต่อคำ�อธิบายและคำ�ศัพท์ท่ีเรา
บญั ญตั ิเอาไว้ได้ ตวั แฝงจะอธบิ ายตัวจิตไรส้ �ำ นกึ เท่านัน้ ไมใ่ ช่
ในการเคล่ือนไหวทางจิต ซึ่งเราจะเรียกว่า จิตก่อนสำ�นึก
(Preconscious) สว่ นค�ำ วา่ จิตไรส้ �ำ นกึ นน้ั เราจะสงวนไว้ใช้กบั
จิตไร้สำ�นึกท่ีถูกเก็บกดโดยมีความเคลื่อนไหวอยู่ ดังน้ี เราจึง
จะมคี ำ�ศพั ท์สามค�ำ คอื จติ ส�ำ นกึ (Cs) จติ กอ่ นส�ำ นึก (Pcs)
ซกิ มุนด์ ฟรอยด์ 21
และจติ ไรส้ �ำ นกึ (Ucs) ซง่ึ ตอ่ จากนจ้ี ะไมม่ กี ารใหค้ �ำ อธบิ ายโดย
ละเอียดอีกแล้ว
จิตก่อนสำ�นึกน่าจะใกล้เคียงกับจิตสำ�นึกมากกว่า
จิตไร้สำ�นึก และเนื่องจากเราได้เรียกจิตไร้สำ�นึกว่าเป็นจิต
ก็ย่ิงน่าจะลังเลน้อยลงที่จะเรียกจิตก่อนสำ�นึกแฝงว่าเป็นจิต
ด้วย แต่แทนท่จี ะท�ำ อยา่ งน้ัน ท�ำ ไมเราจึงไม่เลอื กทีจ่ ะเห็นด้วย
กับเหลา่ นกั ปรชั ญา แตก่ ลบั แยกความตา่ งของ จติ ก่อนส�ำ นึก
กับ จติ ไร้สำ�นึก ออกจากส่งิ ทเี่ ปน็ จิตสำ�นกึ ในใจเลา่ ?
เหลา่ นกั ปรชั ญาจะเสนอวา่ ถา้ อธบิ ายใหจ้ ติ กอ่ นส�ำ นกึ
และจิตไร้สำ�นึกเป็นสองตัวแปร หรือสองระดับในไซโคอิด2
(Psychoid) มันก็จะอยู่กันอย่างกลมเกลียว แต่ก็จะเกิดเรื่อง
ยงุ่ ยากในการอธบิ ายกรณอี น่ื ๆ ตามมาอกี มากมาย มคี วามจรงิ
สำ�คัญอันหนึ่ง คือการท่ีตัวแปรสองตัวของไซโคอิด (ตามที่
อธิบายแล้ว) เกิดข้ึนพร้อมกันในเกือบทุกด้านกับส่ิงที่ได้รับ
การยอมรบั วา่ เปน็ จติ มนั จะถกู บงั คบั ใหเ้ ขา้ สอู่ คตทิ างความคดิ
ท่ีเกิดต้ังแต่สมัยที่ตัวแปรพวกน้ี หรือส่วนที่สำ�คัญที่สุดของ
พวกมันยังไม่เปน็ ทีร่ ู้จัก
2 Psychoid คอื นยิ ามของสภาวะหรือกระบวนการจติ ไรส้ �ำ นึก / แรงส่ง (Cathex-
is) ภายในใหเ้ กดิ การกระท�ำ
22 The Ego and the Id