ปรัชญา 101 ARROW PHILOSOPHY FROM PLATO AND SOCRATES TO ETHICS AND METAPHYSICS, AN ESSENTIAL PRIMER ON THE HISTORY OF THOUGHT
พอล ไคลน์แมน เขียน ชาครีย์นรทิพย์ - บังอร เสวิกุล แปล จากเพลโตและโสกราตีส ถึงจริยธรรมและอภิปรัชญา มูลบทที่จ�ำเป็นส�ำหรับประวัติศาสตร์ของความคิด 101 ปรัชญา
ปรัชญา 101 PHILOSOPHY 101 พอล ไคลน์แมน : เขียน ชาครีย์นรทิพย์ – บังอร เสวิกุล : แปล จัดท�ำโดย สำ นักพิมพ์แอร์โรว์ ในเครือบริษัท แอร์โรว์ มัลติมีเดีย จำกัด เลขที่ 1 ถนนก�ำแพงเพชร 6 ซอย 5 แยก 6 (โกสุมนิเวศน์ ซ.2) แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 0-2573-6584 Email : [email protected] Line ID : @arrow11 hompage : www.arrowmultimedia.co.th Copyright © 2013 by Simon & Schuster, Inc. Published by arrangement with Adams Media, an Imprint of Simon & Schuster, Inc., 1230 Avenue of the Americas, New York, NY 10020, USA. Thai Language Translation Copyright © 2023 by Arrow Multimedia Co.,Ltd. All rights reserved. © สงวนลิขสิทธิ์โดย บริษัท แอร์โรว์ มัลติมีเดีย จ�ำกัด ห้ามน�ำส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปลอกเลียน ท�ำส�ำเนา ถ่ายเอกสาร หรือน�ำไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต หรือสื่อต่างๆ ไม่ว่าในรูปแบบใด นอกจากได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ไคลน์แมน, พอล. จิตวิทยา 101—กรุงเทพฯ : แอร์โรว์, 2566. 336 หน้า. 1. จิตวิทยา I. ชาครีย์นรทิพย์ – บังอร เสวิกุล , แปล II. ชื่อเรื่อง. ISBN 978-616-434-333-7 ข้อมูลทางบรรณานุกรม บรรณาธิการ : นิคม ชาวเรือ ผู้จัดการทั่วไป : เดือนนภา สุรามิตร ฝ่ายขาย : ณลินพรรณ เผ่าพันธุ์ขาว กองบรรณาธิการ : สุภาภรณ์ สว่างจันทร์, วลัยกร เต็มขันท์ พิสูจน์อักษร : ชญานี ขุนพิลึก, ปวันรัตน์ เกียรติธีรชัย ศิลปกรรม : ชมพูนุช ขอดค�ำ จัดจ�ำหน่ายทั่วประเทศโดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด 108 หมู่ที่ 2 ถ.บางกรวย-จงถนอม ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130 โทรศัพท์ 0-2423-9999 โทรสาร 0-2449-9222, 0-2449-9500-6 hompage : www.naiin.com พิมพ์ที่ : บริษัท ไอดี ออล ดิจิตอลพริ้นท์ จำกัด 52 ซอยเอกชัย 69 ถนนเอกชัย แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม. 10150 โทรศัพท์ 0-2899-5429-35 โทรสาร 0-2416-4097 ราคา 420 บาท
PAUL KLEINMAN พอล ไคลน์แมน ซึ่งส�ำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซินในปี 2552 ด้วยปริญญาศิลปศาสตร์และการสื่อสาร : วิทยุ โทรทัศน์ และภาพยนตร์ และปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ New York City ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เขียนและ เรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา เพื่อให้อ่านง่าย สนุก และสมบูรณ์ที่สุด หนังสือปรัชญา 101 เล่มนี้ พอล ไคลน์แมนได้รวบรวมเกร็ดข้อมูลด้าน ปรัชญานับร้อยที่น่าสนใจ เนื้อหาอัดแน่นไปด้วยปริศนาความคิดที่ท่านจะหา จากที่ไหนไม่ได้ พร้อมภาพประกอบที่จะช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่า ท่านก�ำลังสนใจที่จะคลี่คลายความซับซ้อนของแนวคิดอัตถิภาวนิยม หรือเพียง ต้องการที่จะเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่กระตุ้นความสนใจของวอลแตร์ (Voltaire) หนังสือปรัชญา 101 เล่มนี้ มีค�ำตอบให้ท่านทั้งหมด รวมไปถึงค�ำตอบส�ำหรับ ค�ำถามที่ท่านอาจยังไม่รู้ตัวว่าก�ำลังมองหาอยู่ด้วยซ�้ำ
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ บ่อยครั้งที่ต�ำราเรียนท�ำให้ปรัชญาที่มีเนื้อหาสนุกและน่าสนใจที่จะศึกษา กลายเป็นวาทกรรมที่น่าเบื่อหน่าย แต่หากสามารถตัดทอนรายละเอียดและ วิธีการทางปรัชญาที่น่าเหนื่อยหน่ายออกไป และให้บทเรียนเกี่ยวกับปรัชญา ที่ท�ำให้คุณรู้สึกได้มีส่วนร่วมส�ำรวจประวัติศาสตร์ความคิดของมนุษย์ไป พร้อมๆ กัน ก็จะท�ำให้ปรัชญาเป็นศาสตร์ที่น่าศึกษาค้นคว้าไม่แพ้ศาสตร์ อื่นๆ “ปรัชญา 101 (Philosophy 101)” ที่เขียนโดย พอล ไคลน์แมน ได้น�ำเสนอแนวคิดที่ก้าวล�้ำของนักคิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เช่น เจตจ�ำนงเสรี ในอภิปรัชญาที่เต็มไปด้วยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางปรัชญาที่สนุกสนาน ภาพ ประกอบ และปริศนาทางความคิดที่คุณไม่สามารถหาได้จากที่อื่น ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะต้องการไขปริศนาของลัทธิอัตถิภาวนิยม หรือเพียงแค่ต้องการ ค้นหาว่าอะไรท�ำให้นักปรัชญาคิดแบบนั้น ในหนังสือเล่มนี้มีค�ำตอบทั้งหมด สำนักพิมพ์แอร์โรว์
สารบัญ อารัมภบท : ปรัชญาคืออะไร 12 ยุคก่อนโสกราตีส 14 (Pre-Socratic) โสกราตีส 20 (Socrates 469 – 366 ปีก่อนคริสตกาล) เพลโต 23 (Plato 429 – 347 ปีก่อนคริสตกาล) ถ้ำของเพลโต 28 (Plato's Cave) อัตถิภาวนิยม 32 (Existentialism) อริสโตเติล 36 (Aristotle 384 – 322 ปีก่อนคริสตกาล) สำเภาของธีเซียส 42 (The Ship of Theseus) ฟรานซิส เบคอน 47 (Francis Bacon ค.ศ. 1561 – 1626) วัวในทุ่ง 52 (The Cow in the Field)
เดวิด ฮูม 57 (David Hume ค.ศ. 1711 – 1776) สุขนิยม 62 (Hedonism) ความลำบากใจของนักโทษ 67 (Prisoner’s Dilemma) นักบุญทอมัส อไควนัส 72 (St. Thomas Aquinas ค.ศ. 1225 – 1274) นิยัตินิยมแบบสุดโต่ง 78 (Hard Determinism) ฌอง-ฌากส์ รุสโซ 86 (Jean-Jacques Rousseau ค.ศ. 1712 – 1778) ปัญหารถราง 91 (The Trolley Problem) สัจนิยม 96 (Realism) อิมมานูเอล คานต์ 101 (Immanuel Kant ค.ศ. 1724 – 1804) ทวินิยม 107 (Dualism) ประโยชน์นิยม 113 (Utilitarianism) จอห์น ล็อก 119 (John Locke ค.ศ. 1632 – 1704)
ประสบการณ์นิยมกับเหตุผลนิยม 124 (Empiricism Versus Rationalism) เกออร์ค วิลเฮ็ล์ม ฟรีดริช เฮเกิล 129 (Georg Wilhelm Friedrich Hegel ค.ศ. 1770 – 1831) เรอเน เดการ์ต 134 (René Descartes ค.ศ. 1596 – 1650) ทฤษฎี A 139 (A-Theory) ปฏิทรรศน์คนโกหก 145 (The Liar Paradox) โธมัส ฮอบส์ 150 (Thomas Hobbes ค.ศ. 1588 – 1679) ปรัชญาของภาษา 164 (Philosophy of Language) อภิปรัชญา 171 (Metaphysics) ฌ็อง-ปอล ซารตร์ 176 (Jean-Paul Sartre ค.ศ. 1905 – 1980) เจตจำนงเสรี 181 (Free Will) ปรัชญาอารมณ์ขัน 188 (Philosophy of Humor) ยุคเรืองปัญญา 194 (The Enlightenment)
ฟรีดริช นีตซ์เช 204 (Friedrich Nietzsche ค.ศ. 1844 – 1900) ปฏิทรรศน์กองทราย 211 (The Sorites Paradox) ลุดวิก วิตต์เกนสไตน์ 217 (Ludwig Wittgenstein ค.ศ. 1889 - 1951) สุนทรียศาสตร์ 223 (Aesthetics) ปรัชญาวัฒนธรรม 228 (Philosophy of Culture) ญาณวิทยา 232 (Epistemology) ความคิดโลกคู่ 238 (Twin Earth) อาทัวร์ โชเพนเฮาเออร์ 243 (Arthur Schopenhauer ค.ศ. 1788 – 1860) คาร์ล มาร์กซ์ 249 (Karl Marx ค.ศ. 1818 – 1883) มาร์ติน ไฮเด็กเกอร์ 256 (Martin Heidegger ค.ศ. 1889 – 1976) วอลแตร์ 262 (Voltaire ค.ศ. 1694 – 1778) สัมพัทธนิยม 267 (Relativism)
ปรัชญาตะวันออก 277 (Eastern Philosophy) แอวิเซนนา 290 (Avicenna ค.ศ. 980 - 1037) เบอร์ทรันด์ รัสเซลล์ 295 (Bertrand Russell ค.ศ. 1872 – 1970) ปรากฏการณ์วิทยา 300 (Phenomenology) นามนิยม 304 (Nominalism) ก็อตต์ฟรีด วิลเฮ็ล์ม ไลบ์นิซ 309 (Gottfried Wilhelm Leibniz ค.ศ. 1646 – 1716) จริยธรรม 314 (Ethics) ปรัชญาวิทยาศาสตร์ 319 (Philosophy of Science) บารุค สปิโนซา 324 (Baruch Spinoza ค.ศ. 1632 – 1677) ปรัชญาศาสนา 330 (Philosophy of Religion)
12 PHILOSOPHY 101 อารัมภบท ปรัชญา คืออะไร แค่คำถามดังกล่าวก็ฟังดูค่อนข้างจะเป็นปรัชญาแล้วใช่ไหม แต่แท้จริงแล้ว มันมีความหมายว่าอย่างไรกันแน่ ปรัชญา คือ อะไร ค�ำว่า ปรัชญา (Philosophy) แปลว่า ความรักในปัญญา และ แน่นอนว่า เป็นความรักในปัญญาที่น�ำทางให้นักปรัชญาเสาะหาค�ำถาม พื้นฐานต่างๆ ว่าพวกเราเป็นใครและมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร หากมองโดยผิวเผิน ก็อาจเห็นว่าปรัชญาเป็นสังคมศาสตร์ แต่เมื่อท่านได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ท่าน จะค้นพบว่ามันมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้น ปรัชญาข้องเกี่ยวกับแทบทุกเรื่องราว เท่าที่ท่านจะนึกได้ มันไม่ใช่แค่เพียงการสนทนากันของกลุ่มชายชาวกรีก โบราณที่เฝ้าถามค�ำถามต่างๆ ระหว่างกันและกันซ�้ำๆ (แม้ว่าในความเป็น จริงแล้ว จะมีรูปแบบดังกล่าวไม่น้อย) ปรัชญาสามารถน�ำไปปรับใช้ได้จริง ตั้งแต่ค�ำถามทางจริยธรรมที่มีการหยิบยกขึ้นต่อนโยบายของรัฐบาล ไปจนถึง ค�ำสั่งเชิงตรรกะที่จ�ำเป็นในการเขียนโปรแกรมส�ำหรับคอมพิวเตอร์ ทุกสิ่ง ทุกอย่างล้วนมีรากฐานของปรัชญา
ปรัชญา 101 13 ในการศึกษาปรัชญา เราสามารถส�ำรวจแนวคิดต่างๆ เช่น ความ หมายของชีวิต ภูมิปัญญา คุณธรรม ความจริง การมีอยู่จริงของพระผู้เป็น เจ้า จิตส�ำนึก การเมือง ศาสนา เศรษฐศาสตร์ ศิลปะ ภาษาศาสตร์—ปรัชญา ไม่มีขอบเขตเลยจริงๆ หากจะพูดกว้างๆ ปรัชญาเกี่ยวข้องกับหกหัวข้อหลัก ได้แก่ 1. อภิปรัชญา (Metaphysics) : การศึกษาจักรวาลและรากฐาน ของความเป็นจริง 2. ตรรกะ (Logic) : ความสามารถหรือวิธีในการสร้างถ้อยค�ำโต้ แย้งที่มีเหตุมีผลได้ 3. ฌานวิทยา (Epistemology) : การศึกษาภูมิปัญญาและวิธีการ ที่มนุษย์ได้รับภูมิปัญญาและความรู้ 4. สุนทรียศาสตร์ (Aesthetic) : การศึกษาศิลปะและความงาม 5. การเมือง (Politics) : การศึกษาสิทธิทางการเมือง รัฐบาล และ บทบาทของพลเมือง 6. จริยธรรม (Ethics) : การศึกษาศีลธรรมและแนวทางว่าบุคคล ผู้หนึ่งควรใช้ชีวิตเช่นไร หากท่านเคยคิดว่า “โอ้ ปรัชญา ฉันคงไม่มีวันที่จะเข้าใจเรื่องราว เหล่านั้น” ก็ไม่ต้องหวาดหวั่นอีกต่อไป หนังสือเล่มนี้คือหลักสูตรเร่งรัดที่ ท่านต้องการเสมอมา เพราะในที่สุด ท่านจะสามารถเปิดใจรับความรู้ เกี่ยวกับปรัชญาโดยไม่ต้องทรมาน ขอต้อนรับท่านเข้าสู่ปรัชญา 101
14 PHILOSOPHY 101 ยุคก่อนโสกราตีส PRE-SOCRATIC ต้นก�ำเนิดของปรัชญาตะวันตก รากฐานของปรัชญาตะวันตกสามารถค้นพบได้ในงานเขียนของนักปรัชญาชาวกรีก ในยุคศตวรรษที่ห้าและศตวรรษที่หก นักปรัชญาเหล่านี้—ซึ่งในภายหลังจะได้รับการ ขนานนามว่า ยุคก่อนโสกราตีส (pre-Socratic)—เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับโลกรอบๆ ตัวพวกเขา และแทนที่จะคิดว่าสภาพแวดล้อมเป็นผลมาจากการกระทำของเทพเจ้า กรีก นักปรัชญาเหล่านี้พยายามค้นหาคำอธิบายที่มีเหตุผลมากกว่านั้นที่จะสามารถ อธิบายโลก จักรวาล และการมีชีวิตอยู่ของพวกเขา นี่คือปรัชญาของธรรมชาติ นักปรัชญาในยุคก่อนโสกราตีสตั้งค�ำถามว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมาจากไหน ทุกสิ่งทุกอย่างถูกสร้างขึ้นมาจากอะไร จะสามารถ อธิบายธรรมชาติในเชิงคณิตศาสตร์ได้อย่างไร และจะสามารถอธิบายการมีอยู่ ของสรรพสิ่งต่างๆ ที่หลากหลายในธรรมชาติได้อย่างไร พวกเขาพยายามค้นหา หลักการหลัก ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อว่า อาร์คี (archê) ซึ่งก็คือปฐมธาตุของจักรวาล แต่ด้วยข้อเท็จจริงว่า ไม่ใช่ทุกอย่างในจักรวาลจะมีหน้าตาเหมือนกันหรือจะคงอยู่ ในสถานะเดียวกันไปตลอด นักปรัชญาในยุคก่อนโสกราตีสจึงตัดสินใจว่า มันต้องมี หลักการของการเปลี่ยนแปลงที่ อาร์คี มีอยู่
ปรัชญา 101 15 ยุคก่อนโสกราตีส (Pre-Socratic) แปลว่าอะไร ค�ำว่า พรี-โสกราติก (pre-Socratic) แปลว่า “ก่อนโสกราตีส” เป็นค�ำที่ใช้จนได้ รับความนิยมใน ค.ศ. 1903 โดยนักวิชาการเยอรมันชื่อ เฮอร์มัน ดีเอลส์ (Hermann Diels) ทั้งนี้ ในความเป็นจริงแล้ว โสกราตีสยังมีชีวิตอยู่ในห้วงเวลาเดียวกันกับ นักปรัชญายุคก่อนโสกราตีสหลายคน ดังนั้น ค�ำนี้จึงไม่ได้สื่อนัยว่า นักปรัชญาเหล่านี้ มีชีวิตอยู่ก่อนนักปรัชญายุคโสกราตีส แต่ที่จริงแล้ว ค�ำว่า พรี-โสกราติก (preSocratic) เกี่ยวข้องกับอุดมการณ์และหลักการที่แตกต่างกันมากกว่า แม้ว่า นักปรัชญายุคก่อนโสกราตีสจะผลิตต�ำราเช่นกัน แต่ไม่มีต�ำราเล่มไหนที่อยู่รอด มาอย่างสมบูรณ์แบบ ท�ำให้สิ่งที่เราเข้าใจส่วนใหญ่เกี่ยวกับนักปรัชญายุคก่อน โสกราตีสนั้นอิงอยู่กับเศษชิ้นส่วนของต�ำราที่หลงเหลืออยู่และถ้อยค�ำอ้างอิงของ นักประวัติศาสตร์และนักปรัชญารุ่นหลัง ซึ่งโดยมากแล้วมักจะเต็มไปด้วยความ ไม่เป็นกลาง ส�ำนักปรัชญาที่ส�ำคัญ ของยุคก่อนโสกราตีส ส�ำนักไมเลตุส นักปรัชญาก่อนยุคโสกราตีสกลุ่มแรกอาศัยอยู่ในเมืองไมเลตุส (Miletus) บริเวณชายฝั่งตะวันตกของอนาโตเลีย (ประเทศตุรกีในปัจจุบัน) เมืองไมเลตุส มี นักปรัชญายุคก่อนโสกราตีสที่ส�ำคัญ 3 คน ได้แก่ ธาเลส (Thales) อานักซิมานเดอร์ (Anaximander) และ อานักซิเมเนส (Anaximenes)
16 PHILOSOPHY 101 ธาเลส ธาเลส (624 – 546 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นนักปรัชญายุคก่อนโสกราตีสที่ ส�ำคัญที่สุดคนหนึ่ง โดยเขาอ้างว่า อาร์คี หรือธาตุพื้นฐาน คือ น�้ำ ธาเลสพิสูจน์ให้ เห็นว่าน�้ำสามารถที่จะเผชิญกับหลักการของการเปลี่ยนแปลง เช่น การระเหยและ การควบแน่น ซึ่งท�ำให้มันสามารถเป็นอากาศธาตุหรือมีรูปแข็ง นอกจากนี้ เขายังรู้ ว่า น�้ำเป็นต้นเหตุของความชื้น (อันเป็นตัวก�ำเนิดความร้อน) และการบ�ำรุงก�ำลัง โดยธาเลสเชื่อด้วยว่า โลกลอยอยู่ในน�้ำ อานักซิมานเดอร์ ถัดจากธาเลส นักปรัชญาคนส�ำคัญที่มาจากเมืองไมเลตุส อีกคนหนึ่งคือ อานักซิมานเดอร์ (610 – 546 ปีก่อนคริสตกาล) แต่อานักซิมานเดอร์คิดไม่เหมือน ธาเลสตรงที่เขาอ้างว่า ปฐมธาตุหนึ่งเดียวนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีค�ำบรรยาย ไม่มีขอบเขต และเป็นสสารที่เป็นอนันต์ เรียกว่า อเพรอน (apeiron) และจากสิ่งนี้ สิ่งที่ตรงกัน ข้าม อาทิ ความชื้นกับความแห้ง ความเย็นกับความร้อน แยกตัวออกจากกันและ กัน อานักซิมานเดอร์เป็นที่รู้จักในฐานะนักปรัชญาคนแรกที่คนในยุคหลังรู้จักจาก การที่มีต�ำราของเขาหลงเหลืออยู่ อานักซิเมเนส นักปรัชญาคนส�ำคัญคนสุดท้ายในยุคก่อนโสกราตีสจากส�ำนักไมเลตุส คือ อานักซิเมเนส (585 – 528 ปีก่อนคริสตกาล) ผู้ซึ่งเชื่อว่า ปฐมธาตุหนึ่งเดียว คือ อากาศ โดยตามแนวคิดของอานักซิเมเนสนั้น อากาศมีอยู่ทุกแห่งหนและมีความ สามารถที่จะเข้าสู่กระบวนการที่จะแปรเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสิ่งอื่นๆ ได้ อาทิ น�้ำ เมฆ ลม ไฟ และแม้กระทั่งโลก ส�ำนักพีทาโกเรียน พีทาโกรัส (Pythagoras 570 – 497 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นนักปรัชญาและ นักคณิตศาสตร์ ที่อาจจะโด่งดังที่สุดจากทฤษฎีบทพีทาโกรัสที่ตั้งชื่อตามเขา โดย
ปรัชญา 101 17 พีทาโกรัสเชื่อว่า พื้นฐานของความจริงทั้งหมดคือสัมพันธภาพทางคณิตศาสตร์ อีกทั้งเชื่อว่าคณิตศาสตร์ควบคุมทุกสิ่งอย่าง ส�ำหรับพีทาโกรัสแล้ว ตัวเลขถือเป็น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทุกสิ่งสามารถวัดหรือพยากรณ์ได้ด้วยการใช้คณิตศาสตร์ โดย ผลกระทบและภาพลักษณ์ของพีทาโกรัสนั้นน่าอัศจรรย์มาก ทั้งนี้เพราะส�ำนักของ เขาเป็นเหมือนลัทธิ และผู้ติดตามเชื่อฟังทุกถ้อยค�ำของเขา...รวมไปจนถึงกฎที่แปลก ประหลาดของเขา ซึ่งครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่อะไรกินได้และไม่ได้ ควรแต่งกาย อย่างไร หรือแม้กระทั่งควรปลดทุกข์เบาอย่างไร พีทาโกรัสคิดเชิงปรัชญาในหลาย ประเด็น และลูกศิษย์ของเขาก็เชื่อมั่นในค�ำสอนของเขาราวกับมันเป็นค�ำท�ำนายของ พระเจ้า ส�ำนักเอเฟซัส แนวคิดปรัชญาส�ำนักเอเฟซัส ตั้งอยู่บนผลงานของบุคคลคนเดียว นั่นคือ เฮราคลิตุสแห่งเอเฟซัส (Heraclitus of Ephesian 535 – 475 ปีก่อนคริสตกาล) ผู้เชื่อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในธรรมชาติมีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หรือเรียกว่าอยู่ใน สภาพไหลเวียน เขาอาจมีชื่อเสียงมากที่สุดจากแนวคิดที่ว่า เราไม่สามารถก้าวลง ไปในแม่น�้ำสายเดิมได้ถึงสองครั้ง ทั้งนี้ เฮราคลิตุสเชื่อว่าปฐมธาตุหนึ่งเดียว คือ ไฟ และทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นผลมาจากไฟ ส�ำนักเอเลีย ส�ำนักเอเลียตั้งอยู่ที่คอโลฟอน เมืองเก่าแก่ที่อยู่ไม่ไกลจากไมเลตุส โดยมี นักปรัชญายุคก่อนโสกราตีสที่ส�ำคัญ 4 คนที่มาจากภูมิภาคนี้ ได้แก่ เซนอฟะนีส (Xenophanes) พาร์เมนิดีส (Parmenides) ซีโน (Zeno) และเมลิสซัส (Melissus) เซนอฟะนีส เซนอฟะนีส (570 – 475 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นที่รู้จักจากการวิจารณ์ ศาสนาและต�ำนานปรัมปรา โดยเซนอฟะนีสกล่าวโจมตีแนวคิดการที่ถือให้เหล่า ทวยเทพมีรูปร่างและลักษณะของมนุษย์ (หรือสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์) เขา
18 PHILOSOPHY 101 เชื่อว่า มีพระเจ้าองค์เดียวที่แม้จะไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนย้ายได้ แต่ก็สามารถ ที่จะได้ยิน เห็น และคิด และควบคุมโลกด้วยความคิดของพระองค์ พาร์เมนิดีสแห่งเอเลีย พาร์เมนิดีสแห่งเอเลีย (510 – 440 ปีก่อนคริสตกาล) มีความเชื่อว่า ความ จริงไม่ได้เกี่ยวข้องกับโลกที่มนุษย์คนหนึ่งเผชิญอยู่ และบุคคลผู้หนึ่งจะสามารถเข้า ถึงสัจจะได้ก็จากเหตุผลเท่านั้น ไม่ใช่ความรู้สึก พาร์เมนิดีสสรุปว่า ผลงานการศึกษา ของนักปรัชญาไมเลตุสในยุคแรกไม่เพียงแต่ตื้นเขินทางปัญญาเท่านั้น หากแต่เริ่ม จากการตั้งค�ำถามที่ผิดๆ ด้วยซ�้ำไป ส�ำหรับพาร์เมนิดีสแล้ว มันไม่มีเหตุผลเลยที่จะ หารือกันว่าอะไรเป็นอะไรและไม่ได้เป็นอะไร เพราะสิ่งที่ชาญฉลาดสิ่งเดียวที่ควรจะ หารือกันและเป็นสัจจะ ก็คือสิ่งที่เป็น (ที่มีอยู่) พาร์เมนิดีสทรงอิทธิพลต่อเพลโตและปรัชญาโลกตะวันตกเป็นอย่างมาก ผลงานของเขาท�ำให้แนวคิดส�ำนักเอเลียได้กลายเป็นความเคลื่อนไหวแรกที่ใช้ เหตุผลบริสุทธิ์ (pure reason) เป็นเกณฑ์เดียวในการหาความจริง ซีโนแห่งเอเลีย ซีโนแห่งเอเลีย (490 – 430 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นลูกศิษย์ของพาร์เมนิดีส ที่มีชื่อเสียงที่สุด (และอาจเป็นคู่รักของพาร์เมนิดีสด้วย) ผู้ซึ่งทุ่มเทเวลากับการสร้าง ถ้อยค�ำโต้แย้งที่เรียกว่า ปฏิทรรศน์ (paradox) ที่ปกป้องความคิดของพาร์เมนิดีส ในปฏิทรรศน์ที่โด่งดังที่สุดของซีโน ว่าด้วยความเคลื่อนไหวนั้น เขาพยายามแสดง ให้เห็น พหุนิยมเชิงภววิทยา ซึ่งเป็นแนวคิดว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างที่มีอยู่จริงมิใช่ เพียงหนึ่งเดียว และจะน�ำไปสู่บทสรุปที่ไร้เหตุผล พาร์เมนิดีสกับซีโนเชื่อว่าความ จริงปรากฏอยู่เป็นหนึ่งเดียว และสิ่งอื่นๆ เช่น ความหลากหลายและความเคลื่อนไหว มิได้เป็นอะไรไปมากกว่าเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น แม้ว่าผลงานของซีโนจะได้รับ การพิสูจน์หักล้างในภายหลัง แต่ปฏิทรรศน์ของเขาก็ยังคงตั้งค�ำถามที่ส�ำคัญ มากมาย อีกทั้งยังคงท้าทายและเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักปรัชญา นักฟิสิกส์ และ นักคณิตศาสตร์อยู่
ปรัชญา 101 19 เมลิสซัสแห่งซามอส เมลิสซัสแห่งซามอส ผู้มีชีวิตอยู่ในช่วงราว 440 ปีก่อนคริสตกาล เป็นนัก ปรัชญาคนสุดท้ายของส�ำนักเอเลีย โดยเขาได้ต่อยอดความคิดของพาร์เมนิดีสกับ ซีโนแห่งเอเลีย และได้แยกแยะระหว่าง สิ่งที่เป็น (is) และสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็น (seems) ตามแนวคิดของเมลิสซัสแห่งซามอสนั้น เมื่อสิ่งหนึ่งเป็น X ก็จะต้องเป็น X เสมอไป (และไม่มีวันไม่เป็น X) ดังนั้น ตามความคิดนี้ หากสิ่งหนึ่งเย็น ก็จะไม่มี วันหยุดเย็นได้ แต่เพราะความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น และคุณสมบัติไม่สามารถกัก เก็บไว้ได้เป็นอนันต์ จึงไม่มีอะไร (ยกเว้นเสียแต่ความจริงของพาร์เมนิดีส ซึ่งก็คือ การที่ความจริงปรากฏเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความต่อเนื่องและไม่เปลี่ยนแปลง) ที่เป็น (จริง) หรือจะว่าไปแล้ว ดูเหมือนจะเป็น (จริง) มากกว่า ส�ำนักปรมาณูนิยม ส�ำนักปรมาณูนิยมได้รับการก่อตั้งขึ้นโดยลูซิปปัส (Leucippus) ใน ยุคศตวรรษที่ห้าก่อนคริสตกาล และได้รับการส่งทอดไปยังลูกศิษย์ของเขา คือ เดโมคริตัส (Democritus 460 – 370 ปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งเชื่อว่าวัตถุทาง กายภาพทั้งหมดล้วนประกอบขึ้นด้วยอะตอมและที่ว่างระหว่างอะตอม (พื้นที่ว่างที่ อะตอมเคลื่อนตัวเข้าไป) ซึ่งได้รับการจัดเรียงในรูปแบบต่างๆ ความคิดนี้ ไม่ได้ห่างไกลไปจากแนวคิด เกี่ยวกับอะตอมที่เรารู้กันอยู่ในทุกวันนี้ ส�ำนักนี้เชื่อว่าอะตอมเป็นอนุภาคที่เล็กอย่าง เหลือเชื่อ (เล็กมากจนไม่สามารถที่จะตัดอะตอมแบ่งครึ่งได้) โดยอนุภาคเหล่านี้ มีขนาด รูปแบบ ความเคลื่อนไหว การเรียงตัว และต�ำแหน่งที่แตกต่างกัน และเมื่อ น�ำมารวมตัวกัน อะตอมเหล่านี้ก็สร้างสิ่งที่ประจักษ์ในโลกที่มองเห็นได้
20 PHILOSOPHY 101 โสกราตีส SOCRATES (469–399 B.C.) บุรุษผู้พลิกโฉมปรัชญาโลก โสกราตีส (Socrates) เกิดที่เอเธนส์ กรีซ ราว 469 ปีก่อนคริสตกาล และเสียชีวิต 399 ปี ก่อนคริสตกาล ในขณะที่นักปรัชญาในยุคก่อนโสกราตีสพิจารณาศึกษาโลกธรรมชาติ โสกราตีสให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของมนุษย์ เขามุ่งเน้นคุณธรรมของตัวบุคคล ตั้งคำถามว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตเป็นชีวิตที่ดี และถกหารือคำถามเกี่ยวกับสังคม และการเมือง ผลงานและความคิดของเขากลายเป็นรากฐานของปรัชญาโลกตะวันตก ในขณะที่โสกราตีสได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้ที่ชาญฉลาดที่สุดคนหนึ่ง ที่เคยมีชีวิตอยู่ แต่เขาไม่เคยบันทึกความคิดใดๆ ของตัวเองเอาไว้เลย โดยทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เรารู้เกี่ยวกับเขามีพื้นฐานจากงานเขียนของลูกศิษย์ของเขาและผู้ที่มีชีวิต อยู่ในห้วงเวลาเดียวกันกับเขา (โดยหลักๆ แล้ว ก็มาจากผลงานของเพลโต (Plato) เซโนฟอน (Xenophon) และอริสโตฟานีส (Aristophanes)) จากการที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารู้เกี่ยวกับโสกราตีสล้วนมาจากบันทึกของ ผู้อื่น (ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักถูกสมมติขึ้น) และบันทึกเหล่านี้มีความแตกต่างกัน ท�ำให้ แท้จริงแล้ว เราไม่ได้รู้อะไรมากเกี่ยวกับตัวโสกราตีสหรือค�ำสอนของเขา ซึ่งนี่คือ สิ่งที่เรียกว่า ปัญหาโสกราตีส (Socrates problem) โดยจากต�ำราของผู้อื่น เราพอที่ จะมีข้อมูลว่า เขาเป็นบุตรของช่างก่อหินและหมอต�ำแย เขาน่าจะได้รับการศึกษา พื้นฐานแบบกรีก เขาไม่ได้มีหน้าตาชวนอภิรมย์ (ในยุคที่ความงามภายนอกเป็น สิ่งส�ำคัญอย่างยิ่ง) เขารับราชการในกองทัพช่วงสงครามเพโลพอนนีเซียน เขามี บุตรสามคนกับผู้หญิงที่อ่อนวัยกว่าเขามาก และเขามีชีวิตอยู่ในความยากจน โดยเขา อาจจะท�ำงานเป็นช่างก่อหินก่อนที่จะหันเหสู่ปรัชญา อย่างไรก็ดี รายละเอียดที่ได้รับการบันทึกไว้อย่างชัดเจนก็คือ การตายของ โสกราตีส ในช่วงที่โสกราตีสมีชีวิตอยู่นั้น นครรัฐเอเธนส์อยู่ในช่วงเริ่มตกต�่ำลง โดย
ปรัชญา 101 21 เอเธนส์พ่ายแพ้สงครามแก่สปาร์ตาอย่างน่าอับอายในสงครามเพโลพอนนีเซียน เอเธนส์เริ่มประสบปัญหาวิกฤตตัวตน และหันมาให้ความสนใจกับความงามทาง กายภาพ ความคิดของความมั่งคั่ง และการนึกถึงอดีตอย่างเย้ายวน แต่ด้วยการที่ โสกราตีสเป็นคนที่วิพากษ์วิจารณ์วิถีชีวิตในรูปแบบดัวกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม ก็ท�ำให้เขาเริ่มมีศัตรูมากมาย ในช่วง 399 ปีก่อน คริสตกาล โสกราตีสถูกจับกุมตัวและน�ำไปขึ้นศาลโดยถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ขาด ความศรัทธาในศาสนา และชักน�ำเยาวชนไปในทางเสื่อมเสีย โสกราตีสถูกพิพากษา ตัดสินว่ามีความผิด และลงโทษประหารชีวิตด้วยการดื่มยาพิษ แต่แทนที่จะหลบ หนีไป (ซึ่งเขามีโอกาสที่จะหลบหนีได้) โสกราตีสเลือกที่จะดื่มยาพิษโดยมิได้ลังเล แม้แต่น้อย คุณูปการของโสกราตีสต่อปรัชญา ค�ำพูดของโสกราตีสที่มักกล่าว “ชีวิตที่ขาดการตรวจสอบย่อมไม่คุ้มค่าที่จะมีชีวิต อยู่” โสกราตีสเชื่อว่าการที่บุคคลจะฉลาดได้นั้น บุคคลนั้นจะต้องสามารถเข้าใจ ตนเองได้ ส�ำหรับโสกราตีสการกระท�ำของบุคคลเกี่ยวข้องโดยตรงกับสติปัญญาและ ความเขลาของเขา เขาเชื่อว่าผู้คนควรพัฒนาตนเองมากกว่ามุ่งความสนใจไปที่วัตถุ สิ่งของ และเขาพยายามที่จะเข้าใจความแตกต่างระหว่างการท�ำความดีและการเป็น คนดี ด้วยวิธีการใหม่และไม่เหมือนใครของเขาในการเข้าถึงความรู้ จิตส�ำนึก และ ศีลธรรม ท�ำให้โสกราตีสได้เปลี่ยนแปลงปรัชญาไปตลอดกาล วิธีการสอนแบบโสกราตีส โสกราตีสอาจจะเป็นที่โด่งดังที่สุดจาก วิธีการสอนแบบโสกราตีส ซึ่งได้รับ การเอ่ยถึงเป็นครั้งแรกในผลงานเรื่อง บทสนทนาของโสกราตีส (Socratic Dialogues) ของเพลโต โดยโสกราตีสกับลูกศิษย์จะมีการหารือกันในประเด็นหนึ่งๆ และจากการถามค�ำถามเป็นชุด โสกราตีสจะพยายามเสาะหาถึงแรงผลักดันที่อยู่ เบื้องหลังความเชื่อและความรู้สึกของบุคคลผู้นั้นว่าถูกหล่อหลอมมาเช่นไร และด้วย เหตุนั้น ก็จะท�ำให้เขาเข้าใกล้ความจริงทุกขณะ ด้วยการถามค�ำถามอย่างต่อเนื่อง โสกราตีสสามารถที่จะเปิดโปงความขัดแย้งกันเองในความคิดของบุคคลผู้หนึ่ง ซึ่ง สามารถท�ำให้เขาไปสู่บทสรุปที่หนักแน่นได้
22 PHILOSOPHY 101 โสกราตีสใช้การเสวนา (elenchus) ซึ่งเป็นวิธีการที่เขาจะหักล้างข้อกล่าว อ้างต่างๆ ของอีกฝ่ายหนึ่ง โดยขั้นตอนของการเสวนา มีดังนี้ 1. บุคคลผู้หนึ่งจะน�ำเสนอค�ำแถลงหนึ่งๆ แก่โสกราตีส ซึ่งโสกราตีสก็จะหา วิธีหักล้าง หรือไม่เช่นนั้น โสกราตีสก็อาจจะตั้งค�ำถามต่ออีกฝ่ายหนึ่ง เช่น “ความกล้าหาญคืออะไร” 2. เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งให้ค�ำตอบ โสกราตีสก็จะนึกถึงฉากทัศน์ที่ค�ำตอบของ อีกฝ่ายหนึ่งไม่เป็นเช่นนั้น และให้อีกฝ่ายหนึ่งนึกเสียว่า ค�ำแถลงแรกเริ่ม ของเขาไม่เป็นจริง ยกตัวอย่างเช่น หากอีกฝ่ายหนึ่งอธิบายว่า ความกล้า หาญคือ “ความอดทนของจิตวิญญาณ” โสกราตีสก็อาจจะหักล้างค�ำ กล่าวอ้างดังกล่าว ด้วยการพูดว่า “ความกล้าหาญเป็นสิ่งที่ดี” แต่ “ความ อดทนอย่างงมงายไม่ใช่สิ่งที่ดี” 3. อีกฝ่ายหนึ่งอาจจะเห็นด้วยกับข้อกล่าวอ้างดังกล่าว และโสกราตีสก็จะ เปลี่ยนถ้อยค�ำไปผนวกรวมสิ่งที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ต่างๆ หรือสิ่งที่ ไม่อยู่ในความคาดหมาย 4. โสกราตีสจะพิสูจน์ให้เห็นว่าค�ำแถลงของอีกฝ่ายหนึ่งไม่เป็นจริง และที่จริง แล้วการปฏิเสธคือความจริง ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งพยายามปรับเปลี่ยน ค�ำตอบไปเรื่อยๆ โสกราตีสก็จะลบล้างถ้อยค�ำดังกล่าว และกระบวนการนี้ ก็จะท�ำให้ค�ำตอบของอีกฝ่ายหนึ่งใกล้ถึงความเป็นจริงที่แท้จริง วิธีการโสกราตีสในทุกวันนี้ วิธีการโสกราตีสยังคงถูกใช้อยู่อย่างกว้างขวางจวบจนทุกวันนี้ และที่เห็น ชัดเจนที่สุดก็คือในโรงเรียนกฎหมายทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา โดยในการเริ่มต้น นักศึกษา จะได้รับค�ำสั่งให้สรุปค�ำโต้แย้งของผู้พิพากษา จากนั้น นักศึกษาจะได้รับการ สอบถามว่าเขาเห็นด้วยกับค�ำโต้แย้งของผู้พิพากษาหรือไม่ ศาสตราจารย์จะรับบท ผู้แก้ต่างให้อีกฝ่ายหนึ่งด้วยการสอบถามค�ำถามชุดหนึ่งเพื่อท�ำให้นักศึกษาต้อง ปกป้องและอธิบายการตัดสินใจของตัวเอง การใช้วิธีการโสกราตีส นักศึกษาจะสามารถเริ่มคิดอย่างมีวิจารณญาณ และ ใช้ตรรกะและเหตุผลในการสร้างค�ำโต้แย้งของตน ในขณะเดียวกันก็จะค้นพบ ช่องโหว่และวิธีการอุดช่องโหว่ในจุดยืนของตนด้วย