บทที่ 2
หลักการและทฤษฎที เ่ี ก่ียวขอ้ ง
การจดั ทาโครงการครงั้ นี้ คณะผจู้ ัดทาได้ทาการศึกษาเอกสาร ทฤษฎี แนวคดิ ท่ีเกย่ี วข้องกับ
ความพึงพอใจ โดยเสนอสาระสาคญั เป็นหัวข้อ ดังต่อไปน้ี
2.1 ความหมายของปฏิทนิ
2.2 ความหมายของไมย้ างพารา
2.3 ความหมายของความพงึ พอใจ
2.4 งานวจิ ัยทเี่ กย่ี วขอ้ ง
- รายงานวิจยั เรอื่ ง นวัตกรรมสงิ่ ประดิษฐน์ าฬิกาไม้
2.1 ความหมายของปฏิทิน
2.1.1 ปฏิทิน
ปฏิทิน หรือ Calendar ในภาษาอังกฤษ เป็นคาท่ีมาจากภาษาโรมันท่ีนามาจาก
คาพูดของชาวกรีกโบราณว่า Kalend ในภาษาอังกฤษคือ “I Cry” แปลไทยไดว้ ่า “การร้องบอก” โดย
ในสมัยโบราณจะมีคนคอยร้องบอกชาวเมือง เพ่ือบอกกล่าวเหตุการณ์ท่ีจะเกิดขึ้นล่วงหน้า รวมถึง
ประกาศวนั ขนึ้ เดือนใหม่ เพือ่ ใหล้ ูกหน้ีจ่ายเงนิ ท่คี ัง่ คา้ ง
ต่อมาปฏิทินแบบกระดาษจึงได้ถูกคิดค้นข้ึนมา เพ่ือใช้แทนคนร้องบอกข่าว มีการ
ริเร่ิมบันทึก วัน เวลา ข้ึนเป็นลายลักษณ์อักษร ปฏิทินจึงนับว่าเป็นส่ิงบอกเวลา และกลายเป็นสิ่ง
สาคัญในวิถีชวี ิตประจาวนั ไปในทส่ี ดุ
2.1.2 ปฏิทินยุคโบราณ
แม้ปฏิทินในประเทศไทยจะถูกตีพิมพ์มาในปี 2385 แต่ความเก่าแก่ของปฏิทินโลกมี
มานานแล้วมากกว่า 1,000 ปี จากหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบในปัจจุบันเชื่อกันว่าชนชาติแรกที่
คิดค้น ระบบการนับวันแบบปฏิทินนั้นคือ ชาวบาบิโลเนียน พวกเขากาหนดวัน เดือน ปี โดยสังเกต
จากระยะตา่ งๆ ของดวงจนั ทร์ ซ่ึงกค็ อื การสงั เกตข้างขึน้ ขา้ งแรม โดยเม่อื เกิดขา้ งข้นึ และข้างแรมครบ
1 รอบ ก็จะถอื เป็น 1 เดือน ปฏทิ ินแบบน้ีเรยี กวา่ ปฏิทนิ จนั ทรคติ และพวกเขายังกาหนดให้ 1 ปีนั้นมี
12 เดือนอกี ด้วย สาเหตุทช่ี าวบาบโิ ลเนียนกาหนดให้ 1 ปี มี 12 เดอื น กเ็ พราะวา่ เม่ือใดที่เกดิ ข้างขึ้น
และข้างแรมครบ 12 รอบ ฤดูกาลกจ็ ะเวียนกลบั มาอีกครง้ั
ต่อมาอาณาจักรข้างเคียงก็ได้ยอมรับเอาปฏทิ ินของชาวบาบิโลเนียมาใชใ้ นอาณาจกั ร
ตนเอง เช่น ชาวอยี ปิ ต์โบราณ ชาวกรีก และชาวเซเมตกิ เปน็ ตน้ เม่อื โลกมพี ัฒนาการทางเทคโนโลยี
-8-
แต่เดิมชาวโรมันกาหนดให้ 1 ปี มี 355 วัน (ตามระบบจันทรคติ) และทุกๆ 4 ปี (ปีอธิกวาร) ต้องเพ่ิม
วันเข้าไปอีก 22 วัน เพ่ือให้ตรงกับฤดูกาล หรือการคานวณแบบสุริยคติ) จนกระทั่ง 46 ปีก่อน
คริสต์ศักราช จูเลียส ซีซาร์ แห่งจักรวรรดิโรมัน ซ่ึงได้เข้าครอบครองอียิปต์ ในรัชสมัยของพระนางคลี
โอพัตรา ได้นาแนวคิดของนักดาราศาสตร์ชาวอียิปต์ช่ือ โซซิเจเนส (Sosigenes) มาปรับปรุงให้หนึ่งปี
มี 365 วนั ปฏทิ นิ แบบนเี้ รียกว่าปฏทิ ินจเู ลยี น ซง่ึ ใช้กนั มายาวนานจนถงึ ค.ศ.1582
2.1.3 ปฏทิ ินของไทย
ในอดีตประเทศไทยใช้ปฏิทินจันทรคติตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยนับปีตามปีมหาศักราช
และจุลศักราช ตามลาดับ จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ
เปลี่ยนจากปฏิทินจันทรคติมาใช้ปฏิทินสุริยคติ ในปีจุลศักราช 1240 ซึ่งตรงกับปี พ.ศ.2431 โดยใช้
แบบสากลตามปฏิทินเกรกอเรียน ต่อมามีการพิมพ์ปฏิทินมีขึ้นเป็นคร้ังแรกในเมืองไทย เม่ือวันที่
14 มกราคม พ.ศ. 2385 หรือปลายสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งสามารถตรวจสอบและค้นคว้าหาหลักฐานได้
จาก ไมโครฟิล์ม หนังสือบางกอกคาเลนดาร์ ปี ค.ศ. 1870 (พ.ศ. 2413) จากหนังสือต้นฉบับ ที่
หอสมุดดารงราชานุภาพ ซ่ึงหมอ บรัดเลย์ ได้เขียนไว้ว่า“14 First Calendar print in B. 1842”
ต่อมา รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดให้พิมพ์ปฏิทินภาษาไทย เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2404 ดังปรากฏ
หลกั ฐานใน หนงั สือบางกอกคาเลนดาร์ ฉบับ ปี ค.ศ. 1862 (พ.ศ. 2405)
ในสมัย รัชกาลท่ี 5 ปฏิทินท่ีพิมพ์ในเมืองไทย ได้แก่ “ประนินทิน” ซึ่งลงโฆษณาใน
หนังสือสยามไสมยของหมอสมิทเขียนคาโฆษณาไว้ตอนหน่ึงว่า “ประนินทินนี้ แจ้งให้รู้ถึงการอ่ืนเป็น
อันมากอันควรคนท้ังปวงจะรู้ ถ้าไม่รู้เขาจะนินทาว่าคนโง่” แจ้งราคาขายไว้เล่มละ 4 บาท (ราคาใน
สมัยนนั้ ) ปจั จบุ ันยังหาประนินทนิ ของหมอสมิทไม่พบ
ปฏิทินในสมัย รัชกาลท่ี 6 ท่ีน่าสนใจได้แก่ปฏิทินพกเล่มเล็กๆ ที่พระองค์ทรงโปรด
เกลา้ ฯ ให้พิมพ์เป็นของชาร่วยสาหรับแจกพระราชทานแก่ขุนนางทีล่ งนามถวายพระพรในวนั ขึ้นปีใหม่
ปฏิทินพกแบบน้ียังมีแจกต่อมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน ซึ่งบุคคลธรรมดาก็สามารถไปลงนามถวายพระ
พรและรบั ปฏิทนิ หลวงได้
การพิมพ์ปฏิทินเล่มยังมีการจัดทาต่อมาจนกระท่ังถึงรัชกาลปัจจุบัน ปฏิทินเล่มยังมี
รายละเอียดในเร่ืองของสภาพภมู ิอากาศ เวลาน้าข้นึ -น้าลง การเดนิ ทางของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
และมชี อ่ งว่างใหบ้ ันทึกเล็กนอ้ ย
2.1.4 ประเภทของปฏทิ นิ
2.1.4.1 ปฏิทินตง้ั โต๊ะ เป็นปฏิทินท่ีนิยมใชง้ านกันอย่างแพร่หลายมากท่ีสุด เน่ืองจาก
ปฏิทินต้ังโต๊ะมีขนาดที่กะทัดรัดไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะนิยมใช้งานที่ขนาด 6×8 น้ิว
ตัวปฏิทินสามารถวางไว้ได้หลายที่จะจดบันทึกข้อมูลก็แสนง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถออกแบบใส่
รปู ภาพไดอ้ ยา่ งอริสระตามจุดประสงค์ของการใชง้ าน และยงั สามารถเลอื กขนาดและความหนาได้ตาม
ต้องการอีกด้วย ซ่ึงจะเหมาะแก่การพิมพ์เพื่อนาไปเป็นของขวัญสาหรับเพื่อนและคนรู้จักแล ะยัง
เหมาะแกก่ ารพมิ พแ์ จกลกู คา้ น่นั เอง
2.1.4.2 ปฏิทนิ แขวนไทย มดี ้วยกันสองแบบ คือปฏทิ นิ แขวน และปฏิทินแขวนแบบมี
ภู่ เป็นปฏทิ นิ ท่ีใชแ้ ขวนผนังตามบา้ น มักนิยมใชใ้ นขนาดประมาณ 15×21 นว้ิ ลักษณะเด่นคือ มขี นาด
ใหญ่ เน้ือหาต่างๆชัดเจน ทาให้อ่านง่าย ซึ่งเนื้อหาก็จะประกอบไปด้วยข้อมูลแบบไทย คือแสดงวัน
-9-
สาคัญต่างๆ และวันจันทรคติของไทย มาพร้อมกับภาพโปสเตอร์สีสันสดใสขนาดใหญ่ ท่ีนิยมใช้
ภาพประกอบเป็นรูปพระพุทธรูปหรือพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะเหมาะแก่การพิมพ์ไปเป็นของขวัญตาม
บ้าน ให้แกญ่ าติผใู้ หญ่ หรือองค์กรต่างๆ
2.1.4.3 ปฏิทนิ จนี เปน็ ปฏิทนิ ทไี่ ด้รับความนยิ มจากคนไทยเช้ือสายจีนเป็นอย่างมาก
จุดเด่นคือมีความเรียบง่าย เน้นข้อมูลเป็นหลัก นิยมใช้ในการดูฤกษ์ยาม ดูดวง และโหราศาสตร์จีน
ต่าง ๆ ซึ่งปฏิทินแขวนจีนเองก็นิยมใช้ในขนาดประมาณ 15×21 น้ิว ด้วยเช่นกัน โดยมี “น่าเอ๊ียง”
เป็นยี่ห้อปฏิทินจีนชอื่ ดัง ท่ีได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากมีการทานายท่ีแม่นยา มีความน่าเชอื่ ถือจึง
ไม่แปลกใจท่ีชาวไทยเช้ือชายจีนมักนิยมเลือกใช้ปฏิทินน่าเอี๊ยงกันแพร่หลาย ทั้งน้ีปฏิทินจีนสามารถ
แยกยอ่ ยได้อกี 3 ประเภท ดงั น้ี
1) ปฏิทินจีนแบบดูดวง มีลักษณะเฉพาะคือมีข้อมูลด้านฤกษ์ยามและ
เทศกาลตา่ งๆของจนี อยา่ งละเอียด เหมาะสาหรับใชต้ ามหลกั โหราศาสตร์จนี
2) ปฏิทินจีนแบบบัททึก เป็นปฏิทินที่มีข้อมูลด้านโหราศาสตร์ไม่ละเอียด
เหมือนปฏิทินแบบดูดวง จะมีแคข่ อ้ มูลวันสาคัญๆของจนี เท่านั้น แตจ่ ุดเดน่ คือจะมีพ้นื ที่ว่างสาหรับจด
บนั ทึกข้อมลู ลงปฏทิ ินได้เลย
3) ปฏิทินแบบมีภู่ มีลักษณะคล้ายปฏิทินจีนแบบบันทึก และมีรูปภาพ
ประกอบองค์เทพประกอบ
2.2 ความหมายของไม้ยางพารา
2.2.1 ไม้ยางพารา
ไม้ยางพารา เป็นไม้ที่มีคุณภาพทางกายภาพหลายประการใกล้เคียงกับไม้สัก
มีลวดลายที่สวยงาม ย้อมสีได้ ตกแต่งง่าย น้าหนักเบา ทั้งมีราคาถูก เมื่อเปรียบเทียบกับไม้ชนิดอ่ืน
ด้วยองค์ประกอบ ด้านคุณสมบัติอันโดดเด่น หลายประการเช่นนี้ ไม้ยางพาราจึงเป็นท่ีรู้จัก และนิยม
ใช้แพร่หลายทั่วโลก ในเวลาอันรวดเร็ว ในช่ือของ “ ไม้สักขาว (White Teak )” ไม้ยางพารา เป็นไม้
เศรษฐกจิ สาคญั อนั ดับต้นๆของไทย โดยท่วั ไปแล้วเราจะคุน้ เคยกับยางดบิ ของต้นพาราที่มักจะนาไปใช้
กันในอุตสาหกรรมและส่งออกไปต่างประเทศ แต่จริงๆ แล้วส่วนอื่นของไม้ยางพาราก็ถูกนาไปใช้
เช่นกัน ไมว่ า่ จะเปน็ การนามาแปรรปู เปน็ เชอ้ื เพลิง ไมล้ ัง ไม้พาเลท ของเล่น ไมอ้ ดั รวมถงึ นามาใชเ้ ป็น
วัสดุเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ กม็ ีมากมาย ซึง่ เฟอรน์ ิเจอร์จากยางพารานัน้ นอกจากจะมีเอกลักษณ์ ลวดลาย
สวยงาม มคี ณุ สมบัตเิ ทยี บเท่าไมส้ กั
2.2.2 ลักษณะของไม้ยางพารา
2.2.2.1 สี : เนื้อไม้มีสีขาวนวล บางทีอาจมีสีชมพูอ่อนแทรกอยู่ส่วนของกระพี้และ
แกน่ มองเห็นไม่เดน่ ชัด ด้านหนา้ ตัด เมือ่ อบแหง้ แล้วเนือ้ ไม้จะมสี เี ขม้ ขน้ึ คลา้ ยกบั สีฟางข้าว
2.2.2.2 ลักษณะเน้ือไม้ : ค่อนข้างละเอียดถึงหยาบปานกลาง เส้ียนไม้เป็นเสย้ี นตรง
บางส่วนมีลกั ษณะเสยี้ นสน มากบา้ ง น้อยบา้ ง ตามลกั ษณะการเจริญเตบิ โต เมื่อไสตกแต่งเกิดเป็นรอย
หยัก เกิดจากส่วนที่เป็นพาเรงคิมา ลายไม้เกิดจากความแตกต่างระหว่างด้านสัมผัสความแน่นของไฟ
เบอร์และปริมาณความหนาแน่นของกลุ่มเซลล์พาเรงคิมาทางด้านข้างพอร์มีลักษณะเดี่ยวและแฝด
2 –3 พอร์คละกัน มีการกระจายตัวหา่ ง ๆ อยา่ งสมา่ เสมอ
- 10 -
2.2.3 คณุ สมบัตทิ ดี่ ีของไมย้ างพารา
2.2.3.1 เนือ้ ไม้มีความแข็งแรงสูง
เมื่อเปรียบเทียบความแข็งแรงของไม้พาราและไม้สัก จะพบว่าไม้พารามี
น้าหนัก มีความยืดหยุ่น และความแข็งแรงในการรับน้าหนักใกล้เคียงกับไม้สัก เมื่อนาไปผ่าน
กระบวนการทางเคมตี ่างๆ ก็ยิ่งทาให้ไมย้ างพารามีความแข็งแรง คงทน และใชง้ านได้นานมากย่ิงขึ้น
2.2.3.2 แปรรปู ไดห้ ลากหลายวิธี
คุณสมบัติที่น่าสนใจของไม้ยางพาราคือจะมีความอ่อนตัวสูง ทาให้ดัดหรือ
ตัดแต่งง่ายกว่าไม้ทั่วไป ไม้ยางพาราเป็นไม้เนื้อแข็งปานกลาง จึงสามารถแปรรูป เลื่อย ตัด หรือไสได้
หลายวธิ ี รวมทง้ั การยอ้ มสี อดั ประสาน และทานา้ ยาเคลือบ กส็ ามารถทาได้ค่ะ
2.2.3.3 ลวดลายและสีสนั ทส่ี วยงาม
ไม้ยางพารามีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ตามธรรมชาติ มีสีขาวอมเหลือง
อ่อนและสีขาวเหลืองอมครีมท่ีค่อนข้างนิยมในปัจจุบัน ประกอบกับมีลายไม้เมื่อเล่ือยตัดรัศมี ทาให้
เฟอรน์ เิ จอรจ์ ากยางไม้พาราดแู ตกต่างสวยงามจากวัสดุอืน่ ๆ
2.2.3.4 ราคาไมแ่ พง และสามารถหาซ้อื ได้ง่าย
ประเทศไทยมีการปลูกไม้ยางพารากว่า 12 ล้านไร่ และไม้ยางพาราถือเป็น
ผลพลอยได้จากการผลิตน้ายางของเกษตรกร ดังน้ันไม้ยางพาราจึงหาซ้ือได้ง่าย มีราคาไม่แพงเมื่อ
เทียบกับไม้ชนิดอื่นๆ หากเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์จากไม้ยางพารา จึงไม่ถือว่าเป็นการรบกวนป่าไม้
ธรรมชาติ เพราะไม้ยางพาราเป็นไม้จากป่าปลูกค่ะ ย่ิงไปกว่านั้นยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับไม้ยางพารา
ของไทยและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราอีกด้วย ด้วยคุณสมบัติและข้อดีของไม้
ยางพาราที่กล่าวข้างต้น ไม้ชนิดน้ีจึงกลายเป็นวัสดุยอดนิยมที่นาไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใน
ชีวิตประจาวัน รวมทั้งไปทาเฟอร์นิเจอร์หลากหลายประเภท เช่น โต๊ะ เก้าอ้ี ตู้ เตียง เคร่ืองใช้ และ
ของตกแต่งอื่นๆ มากมาย
2.3 ความหมายของความพึงพอใจ
2.3.1 ความพึงพอใจ
ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกของบุคคลท่ีมีต่อการทางานในทางบวกเป็นความ
สุขของบุคคลท่ีเกิดจากการปฏบิ ัตงิ านและได้ผลตอบแทนคือ ผลทเี่ ป็นความพงึ พอใจทท่ี าให้บคุ คลเกิด
ความรู้สึกกระตือรือร้น มีความมุ่งม่ัน และมีขวัญกาลังใจท่ีจะทางาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อ
ประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลของการทางาน รวมท้งั ส่งผลตอ่ ความสาเร็จและการบรรลุเป้าหมายของ
องคก์ ร
2.3.2 การวัดความพึงพอใจ
การวัดความพึงพอใจ เป็นการวัดความรู้สึกของบุคคลที่มีต่อสิ่งหน่ึงส่ิงใดในลักษณะ
หน่ึงลักษณะใด การท่ีเราจะทราบว่าบุคคลนั้นมีความพึงพอใจหรือไม่ สามารถสังเกตโดยการ
แสดงออกทีค่ ่อนข้างซับซ้อน จึงเป็นการยากที่จะวดั ความพงึ พอใจได้โดยตรง การท่จี ะวดั ความคิดเห็น
ของบคุ คลเหลา่ นน้ั จะตอ้ งตรงกับความรู้สึกทแี่ ท้จรงิ จงึ จะสามารถวัดความพึงพอใจทีแ่ ท้จริงได้
- 11 -
การวดั คณุ ภาพบรกิ าร (SERVQUAL) ในกระบวนการของการให้บรกิ ารสงิ่ ท่ีธรุ กจิ
คาดหวงั คือ ความพงึ พอใจของลูกค้าที่มีต่อการบริการที่ได้รับ ดังนน้ั เพือ่ ใหผ้ ใู้ ช้บรกิ ารรับรู้ถึงคุณภาพ
ของการบริการ ธุรกจิ สามารถพิจารณาตัวช้วี ัดคุณภาพของบริการ ซงึ่ สรปุ ได้ดังน้ี
2.3.2.1 ความสามารถ (Competence) หมายถึง ความสามารถ ทักษะ และ
ความรขู้ องผูใ้ ห้ บริการ และสามารถใช้สง่ิ เหล่าน้นั ในการดาเนนิ การด้านบริการ
2.3.2.2 ความน่าเช่ือถือ (Reliability) หมายถึง ความสม่าเสมอในการบริการได้
อยา่ งถกู ตอ้ งเปน็ ทนี่ ่าเชอื่ ถอื หรือเป็นที่ไว้วางใจของผรู้ ับบริการ
2.3.2.3 การตอบสนอง (Responsiveness) หมายถึง ความพร้อมท่ีจะให้บริการ
เพ่ือเปน็ การตอบสนองลูกคา้ ได้ตรงเวลาหรอื ภายในเวลาทล่ี กู ค้าต้องการ
2.3.2.4 ความเข้าถึงได้ (Accessibility) หมายถึง ผู้รับบริการสามารถที่จะติดตอ่
กับผ้ใู ห้บริการไดส้ ะดวก
2.3.2.5 ความเข้าใจผรู้ บั บรกิ าร (Understanding) หมายถึง ผใู้ ห้บริการจะต้องมี
ความเขา้ ใจ ความตอ้ งการของผรู้ บั บรกิ ารและพร้อมทีจ่ ะเสนอตอบความต้องการดังกล่าว
2.3.2.6 การติดต่อสื่อสาร (Communication) หมายถึง ผู้รับบริการจะต้องเป็น
ผ้ฟู งั ถงึ ปญั หาของผรู้ ับบรกิ ารและมีความสามารถทจี่ ะแจ้งใหเ้ กดิ ความเข้าใจได้กลา่ วอีกนยั หนึ่งได้ว่า ผู้
ให้บริการ ต้องเข้าใจภาษาของผู้รับบริการเพื่อจะได้ส่ือสารระหว่างกันได้เข้าใจและเกิดความพึงพอใจ
ท่จี ะรบั บรกิ ารต่อไป
2.3.2.7 ความไว้วางใจ (Creditability) หมายถึง ผู้ให้บริการควรให้บริการด้วย
ความซอ่ื สตั ย์ ไม่ปิดบัง แตต่ ้องโปรง่ ใสตรวจสอบได้
2.3.2.8 ความปลอดภัย (Security) หมายถึง การให้บริการด้วยความปลอดภัย
ต่อผ้รู ับบริการทง้ั ทางดา้ นกายภาพและการเงนิ
2.3.2.9 ความสุภาพอ่อนโยน (Courtesy) หมายความรวมถึง มารยาทที่ดีงาม
ความอ่อนน้อม การพูดจาท่ีไพเราะ ความเป็นมิตร และความเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดีในขณะท่ี
ให้บริการผรู้ ับ
2.3.2.10 การจับต้องได้ (Tangibility) หมายความรวมถึง เครื่องมือและอุปกรณ์
ในการให้บริการ บุคลิกภาพและการแสดงออกของผู้ให้บริการ สิ่งอานวยความสะดวกต่างๆ เป็นต้น
ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกของบุคคลที่มีต่อการทางานในทางบวก เป็นความสุขของบุคคลที่
เกิดจากการปฏิบัติงานและได้ผลตอบแทนคือ ผลท่ีเป็นความพึงพอใจที่ทาให้บุคคลเกิดความรู้สึก
กระตือรือร้น มีความมุ่งม่ัน และมีขวัญกาลังใจท่ีจะทางาน ซ่ึงส่ิงเหล่าน้ีจะมีผลต่อประสิทธิภาพและ
ประสทิ ธผิ ลของการทางาน รวมทง้ั ส่งผลตอ่ ความสาเร็จและการบรรลุเปา้ หมายขององค์กร
2.3.3 เคร่อื งมอื ที่ใชใ้ นการวัดความพึงพอใจ
มาตรวดั ความพงึ พอใจสามารถกระทาไดห้ ลายวิธี ไดแ้ ก่
2.3.3.1 การใชแ้ บบสอบถาม ซง่ึ เปน็ วธิ ีท่ีนยิ มใช้กันอย่างแพรห่ ลาย โดยให้กลุ่มบุคคล
ที่ต้องการวัดแสดงความคิดเห็นลงในแบบสอบถามท่ีกาหนด เพื่อต้องการทราบความคิดเห็น ซึ่ง
สามารถทาไดใ้ นลกั ษณะที่กาหนดคาตอบใหเ้ ลือกหรือตอบคาถามอิสระ คาถามดงั กล่าวอาจถามความ
พึงพอใจในดา้ นตา่ ง ๆ เชน่ การบริหารและการควบคุมงาน และเงอื่ นไขต่าง ๆ เป็นต้น
- 12 -
2.3.3.2. การสมั ภาษณ์ เป็นวิธีวดั ความพึงพอใจทางตรงทางหนง่ึ ซงึ่ ต้องอาศัยเทคนิค
ความชานาญพิเศษของผู้สัมภาษณ์และวิธีการที่ดีจึงจะทาให้ผู้ตอบคาถามตอบตามข้อเท็จจริง ได้
ขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ จรงิ ได้
2.3.3.3 การสังเกต เป็นวิธีการวัดความพึงพอใจโดยสังเกตพฤติกรรมของบุคคล
เป้าหมาย ไม่ว่าจะแสดงออกจากการพูด กิริยาท่าทาง วิธีน้ีจะต้องอาศัยการกระทาอย่างจริงจังและ
การสังเกตอย่างมรี ะเบียบแบบแผน
จะเห็นได้ว่า การวัดความพึงพอใจต่อการให้บริการนั้นสามารถกระทาได้หลายวิธี
ขึ้นอยู่กับความสะดวก เหมาะสมตลอดจนจุดมุ่งหมายของการวัดด้วย จึงจะส่งผลให้การวัดน้ันมี
ประสิทธิภาพและน่าเชอ่ื ถอื ได้
สรุปได้ว่า ความสาคัญของความพึงพอใจในการบริการเก่ียวข้องกับความพึงพอใจของ
ผ้รู ับบรกิ ารและความพึงพอใจในงานของผู้ปฏบิ ัติงานบริการ ซง่ึ นับวา่ ความพึงพอใจทง้ั สอง ลักษณะมี
ความสาคัญต่อการพัฒนาคุณภาพของการบริการและการดาเนินงานบริการให้ประสบ ความสาเร็จ
เพื่อสร้างและรักษาความรู้สกึ ที่ดีตอ่ บุคคลทุกคนท่ีเก่ียวข้องกับการบริการในด้านความ สะดวกในการ
เขา้ ถึงบริการ พฤติกรรมการแสดงออกของผู้ใหบ้ ริการตามบทบาทหน้าท่ีและ ปฏิกริ ยิ าตอบสนองการ
บริการต่อผู้รับบริการ ความรับผิดชอบต่องาน การใช้ภาษาสื่อความหมาย และการปฏิบัติตนในการ
ให้บริการ สิ่งเหล่าน้ีเก่ียวข้องกับการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าด้วย ไมตรีจิตของการบริการท่ี
แทจ้ รงิ
2.4 งานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง
การวิจัยเก่ียวกับนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์นาฬิกาไม้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การ
เรียนรู้ของวิชาโครงการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้ และเพ่ือให้นักศึกษาเกิดความสามัคคี
และร่วมมือปฏิบัติงานกันเป็นทีม เน่ืองด้วยปัจจุบันงานหัตถกรรมได้รับความสนใจต่อกลุ่มผู้บริโภค
ต่างๆ โดยเฉพาะงานไม้ที่เป็นที่นิยม และดึงดูดความสนใจไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคชาวไทยหรือ
ชาวต่างชาติ แต่มักมีปัญหาในด้านการออกแบบ หรือรูปของผลิตภัณฑ์ไม่ตรงตามความต้องการของ
ผู้บริโภค ซึ่งปัญหานี้ทาให้ผลผลิตล้นตลาดมีลักษณะการทาออกมามากเกิน ทาให้เกิดปัญหามี
ผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดล้อม เชน่ การตดั ไมซ้ ึ่งมผี ลตอ่ กระบวนการทางธรรมชาติ ซ่ึงทาให้โลกของเราเกิด
ภาวะเรอื นกระจกท่ที าใหโ้ ลกร้อนขน้ึ
คณะผจู้ ัดทาได้รับรู้ปญั หาและไดเ้ ล็งเหน็ ถึงวธิ ีการท่จี ะลดหรือแก้ปัญหาทีเ่ กิดจากการท่ีมีเศษ
วัสดุเหลือใช้และผลิตภัณฑ์ท่ีเป็นงานไม้ล้นตลาดจานวนมากนี้ได้โดยการท่ีนาเศษวัสดุเหลา่ นั้นมาแปร
รูปเป็นผลิตภัณฑ์อีกรูปแบบหน่ึงที่มีประโยชนแ์ ละเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากข้ึน โดยการแปรรูป
น้ันจะมกี ารออกแบบรปู แบบใหเ้ ป็นทน่ี ิยมและทันสมยั มากขึ้น พรอ้ มท้งั เพมิ่ รายละเอยี ดเพื่อเพ่ิมความ
สวยงามประณีตให้กับผลงานงานไม้นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพ่ิมสีสันหรือเพิ่มลวดลายให้กับผลงาน
ตวั อย่างเช่น การนาเศษวสั ดุเหลือใช้มาทาเป็น โตะ๊ โคมไฟ ช้ันวางของ ของประดบั ตกแต่งประเภทไม้
หรือนาฬิกา ฯลฯ วิธีการน้ีนอกจากจะเป็นการลดปัญหาผลิตภัณฑ์ประเภทไม้ล้นตลาดแล้ว ยังเป็น
การเพ่ิมมูลค่าให้กับผลงานมากข้ึน ซึ่งจะทาให้ผลงานมีความสวยงาม เป็นท่ียอมรับ เป็นท่ีต้องการ
และเปน็ ที่สนใจของผู้บริโภคมากขน้ึ พรอ้ มทงั้ ยังเปน็ การลดผลกระทบท่ีมตี อ่ ส่ิงแวดล้อมอีกด้วย
- 13 -
ผลการวจิ ัยพบว่า จากผู้ตอบแบบสอบถาม จานวน 100 คน ระดับความพึงพอใจของผู้บริโภค
ที่มีต่อนาฬิกาไม้โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄ = 4.70) และด้านที่ได้รับความพึง
พอใจมากท่ีสุดอันดับที่ 1 ด้านผลิตภัณฑ์ ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากท่ีสุด มีค่าเฉล่ีย
(x̄ = 4.73) โดยข้อที่มีระดับความพึงพอใจสูงท่ีสุด คือ รูปแบบการออกแบบของผลิตภัณฑ์ รองลงมา
อันดับที่ 2 คือด้านการจัดจาหน่าย ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากท่ีสุด มีค่าเฉลี่ย (x̄ = 4.71)
โดยข้อท่ีมีระดับความพึงพอใจสูงท่ีสุด คือช่องทางการจัดจาหน่ายที่หลากหลาย เช่น หน้าร้าน
Facebook , Line อันดับท่ี 3 คือ ด้านส่งเสริมการขาย ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากท่ีสุด
มีค่าเฉลี่ย (x̄ = 4.69) โดยข้อท่ีมีระดับความพึงพอใจสูงที่สุด คือ มีป้ายหน้าร้าน เท่ากับ ด้านราคา
ระดับความพงึ พอใจอยู่ในระดับมากท่สี ุด มคี ่าเฉลี่ย (x̄ = 4.69) โดยขอ้ ท่ีมรี ะดับความพงึ พอใจสูงท่ีสุด
คือ ช่องทางการชาระเงนิ ที่หลากหลาย
ข้อเสนอแนะของงานวิจัย แนวทางในการพัฒนา จากการดาเนินโครงการได้พบปัญหาและ
อุปสรรคในการดาเนินงานหลายอย่าง จึงมีแนวทางในการพัฒนา เพ่ือให้การทางานเป็นไปอย่างมี
ประสิทธิภาพ ซึ่งแนวทางการพัฒนามีดังต่อไปน้ี (1.)ขอความช่วยเหลือจากผู้ท่ีมีความรู้ความ
เชี่ยวชาญ เพ่ือขอความรู้เกี่ยวกับการใช้งานของเคร่ืองมือแต่ละชนิด (2.) ควรค้นหาข้อมูลแนวทางใน
การออกแบบผลิตภัณฑ์ท่ีมีความแปลกใหม่ร่วมสมัย และสอบถามอาจารย์เพื่อนามาเป็นแนวทางใน
การออกแบบ (3.)ใชค้ วามระมัดระวงั ในการเจาะและเลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ในการตดั เจาะท่เี หมาะสม
(ที่มา : รัชพล ปาทามา และอาทิตยา ขวัญเพ็ชร. โครงการนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์นาฬิกาไม้.
http://www.atc.ac.th/ATCWeb/FileATC/%E0%B9%.pdf)