“วถ� ีชมุ ชนคนตน้ ตาล”
ชุมชนต้นแบบแห่งการเรย� นรู้
เวทสี รา้ งเครอ� ข่ายนักจดั การความรชู้ ุมชน
2565
สํานักงานพฒั นาชุมชนจงั หวดั สุพรรณบุร �
กลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน
คํานํา
ยุทธศาสตรช์ าติ 20 ป� (พ.ศ. 2561 – 2580) ด้านการปรบั สมดุลและพัฒนาระบบ
การบรห� ารจัดการภาครฐั ประเด็นยุทธศาสตรท์ ี่ 4.4.2 พัฒนาและปรบั ระบบวธ� ีการปฏิบัติราชการ
ให้ทันสมัยโดยมีการกําหนดนโยบายและการบรห� ารจดั การท่ีต้ังอยู่บนข้อมูลและหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์
มุ่งผลสัมฤทธิ์ มคี วามโปรง่ ใส ยืดหยุ่น และคลอ่ งตัว นาํ นวัตกรรม เทคโนโลยี ข้อมลู ขนาดใหญ่ ระบบการทาํ งาน
ท่ีเป�นดิจิทัลมาใชใ้ นการบรห� าร และการตัดสินใจ รวมท้ังนําองค์ความรูใ้ นแบบสหสาขาวช� าเข้ามาประยุกต์
ใชเ้ พือ่ สรา้ งคุณค่าและแนวทางปฏิบัติทเ่ี ป�นเลศิ ในการตอบสนองกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างทันเวลา
พรอ้ มทัง้ มีการจดั การความรแู้ ละถ่ายทอดความรอู้ ย่างเปน� ระบบ เพื่อพัฒนาภาครฐั ให้เป�นองค์กรแห่งการเรย� นรู้
และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวธ� ีการบรห� ารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มาตรา 11
กําหนดไวว้ า่ ส่วนราชการมหี นา้ ทีพ่ ัฒนาความรใู้ นส่วนราชการเพอ่ื ให้มีลักษณะเป�นองค์กรแห่งการเรย� นรู้
อย่างสม�าเสมอ เพ่ือนํามาประยุกต์ใชใ้ นการปฏิบัติราชการได้อย่างถกู ต้อง รวดเรว็ และเหมาะสมกับสถานการณ์
รวมท้ังต้องส่งเสรม� และพัฒนาความรู้ ความสามารถข้าราชการภายในสังกัดให้เป�นบุคลากรทีม่ ีประสิทธภิ าพ
และมกี ารเรย� นรูร้ ว่ มกัน
กระทรวงมหาดไทย มีแนวทางเพ่ือรองรบั การขับเคล่ือนไทยแลนด์ 4.0 ระบบราชการ 4.0
จงึ ได้กําหนดด้านการพัฒนาบุคลากรตามแนวทางมหาดไทย 4.0 ไวว้ า่ ข้าราชการในหนว่ ยงานต้องมกี ารเรย� นรู้
อยู่ตลอดเวลา ด้วยการเรย� นรูผ้ า่ นระบบออนไลน์ต่าง ๆ โดยสามารถเรย� นรูไ้ ด้ด้วยตนเอง เรย� นรูไ้ ด้ทกุ ที่
และทุกเวลา และนําความรูท้ ่ีได้มาสรา้ งสรรค์งานท่ีทําให้เกิดประสิทธิภาพต่อหน่วยงาน กอปรกับ
กรมการพัฒนาชุมชน โดยสถาบันการพัฒนาชุมชน เป�นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทหน้าที่ในการ
ขับเคล่อื นการจดั การความรูข้ องกรมการพัฒนาชุมชน โดยกําหนดทศิ ทางการจดั การความรู้ เพื่อให้เกิดประโยชน์
ในการพฒั นาคน พฒั นางาน และพัฒนาองค์กร เพอ่ื เป�นการกระตุ้นและผลกั ดันการจดั การความรูข้ องบุคลากร
กรมการพัฒนาชุมชนให้นําการจัดการความรู ้ มาปฏิบัติจนเป�นกิจวัตร ส่งเสรม� ให้เกิดการแบ่งป�น
แลกเปลี่ยน เรย� นรู้ ส่งเสรม� การถอดองค์ความรทู้ สี่ ามารถเป�นต้นแบบ พรอ้ มทั้งสามารถนํามาปฏิบัติได้จรง�
ด้วยเหตุผลดังกล่าว สํานักงานพัฒนาชมุ ชนจงั หวดั สุพรรณบุร �ได้กําหนดจัดทําโครงการเวทสี รา้ งเครอ� ขา่ ย
นักจดั การความรูช้ ุมชน เพื่อสรา้ งเครอ� ข่ายนักจดั การความรูร้ ะดับพื้นท่ี ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจแนวคิด
เครอ่ � งมอื วธ� กี ารจดั การความรู้ ทเี่ หมาะสมกับภูมสิ ังคม สามารถใชเ้ ครอ่ � งมอื ในการจดั เก็บองค์ความรู้
ที่มีอยู่ในชุมชน และลงมือปฏิบัติ ในการจดั การความรูข้ องชมุ ชน เพอื่ นําองค์ความรูม้ าต่อยอดขยายผล
สรา้ งการเรย� นรูใ้ นงานพัฒนาชมุ ชนต่อไป
สาํ นกั งานพัฒนาชุมชนจงั หวดั สพุ รรณบุร �
กลมุ่ งานสารสนเทศการพฒั นาชุมชน
พฤษภาคม 2565
สารบัญ
01 เรอ่ � งเล่าอําเภอสองพีน่ อ้ ง
04 “วถ� ีชุมชนคนต้นตาล”
ชุมชนต้นแบบแห่งการเรย� นรู้
05 ชุมชนมีดี มีภาคี มภี มู ิปญ� ญา
08 กระบวนการพัฒนา
การท่องเท่ียวโดยชุมชน
09 ป�ญหาอปุ สรรคระหวา่ งทาง
10 SWOT Analysis
11 ปลายทางสู่ความยงั่ ยนื
12 ปฏิบัติการจดั การความรชู้ ุมชนต้นแบบ
การสรา้ งชุมชนแหง่ การเรย� นรู้
16 ภาคผนวก
ป� กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
1
“วถ� ีชุมชนคนต้นตาล” ชุมชนต้นแบบแห่งการเรย� นรู้
เรอ่ � งเล่าอําเภอสองพี่น้อง จงั หวัดสุพรรณบุร �
“ชื่อมีคนน้อย อรอ่ ยปลาหมํา เลิศลา� พระสงฆ์ หลวงพ่อโหน่งพระเครอ่ � ง รุง่ เรอ� งนาไร่
พระใหญ่โลกรู้ เสภาชั้นครู อู่นา� อู่ปลาราชินีนักรอ้ ง สองพี่น้องบ้านเรา”
สองพีน่ ้อง ได้ชอื่ มาจากลํานา� ยุคโบราณ ในภาคกลาง
ของประเทศไทย คือ ลําน�าสองพี่น้องท่ีไหลผ่านจังหวัด
สุพรรณบุร � ซึ่งเป�นเส้นทางน�าที่ไหลต่อมาจากลําน�าทวน
จงั หวัดกาญจนบุร �แล้วไหลไปลงแม่น�าท่าจนี ที่อําเภอสองพ่ีน้อง
จงั หวัดสุพรรณบุร � ก่อนทจี่ ะไหลลงแม่น�าทา่ จนี ท่ีลําน�าสายน้ี
ได้ “แยกออกเปน� สองสาย เปรย� บเสมือนพ่นี ้อง” กันน่ันเอง
"ที่จังหวัดสุพรรณบุรม� ีคลองอยู่คลองหนึ่ง เรย� กว่า
“คลองสองพี่น้อง” ป�จจุบันอยู่ในท้องทอ่ี ําเภอสองพี่นอ้ งเรอ่ � งนี้
มีนิทานเล่ากันมาแต่โบราณว่าอดีตอําเภอสองพี่น้อ ง
มีสภาพพ้ืนที่ที่เป�นป�าเป�นดงพงไม้หนาแน่นได้มีชา้ งโขลง
หนึ่งมีชา้ งใหญ่ ๒ เชอื กพี่น้องเป�นนายโขลงได้พาโขลงชา้ งเดินกันมากินน�าในลําน�าท่าจีนอยู่เสมอ
จนทางเดินกลายเป�นคลอง จงึ เรย� กคลองนน้ั ว่า "คลองสองพี่นอ้ ง"
หรอ� อีกนัยหนึ่งมีพ่ีน้องสองคนได้แขง่ ขันกันสรา้ งวัดซึง่ ป�จจุบันเรย� กว่า "วัดท่าจดั " อยู่ท่ีตําบล
บางพลับและอีกวดั หนงึ่ คือ"วัดโคกเหลก็ " ซงึ่ ป�จจุบันเปน� วัดรา้ งต้ังอยู่ตรงขา้ มกับวัดท่าจัดและอีกนัย
หนง่ึ เลา่ ว่าสมัยหน่งึ มีชายสองคนพน่ี อ้ งอาศัยอยู่ทีค่ ลองน้ี ทงั้ สองมีอาชพี ทําไรท่ ําสวน ฐานะค่อนข้าง
มีอันจะกิน และรูปรา่ งหน้าตาก็หล่อเหลาเอาการ เป�นที่หมายปองของสาวในบ้านเดียวกัน แต่ชายหนุ่ม
ทั้งสองหาสนใจไม่ ต่อมาไมน่ านทั้งสองได้ขา่ ววา่ มสี าวงามสองคนอยู่ในตําบลทอ้ งที่อําเภอบางปลามา้
ป� กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชุมชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
2
หญิงท้ังสองนี้สวยงามมาก ชายทงั้ สองพี่ชายท้งั สองพ่ีน้องจงึ คิดต้องการนางมาเป�นคู่ครอง
ท้งั สองคน ต่อมาสองพ่นี อ้ งได้จดั เถ้าแก่ไปสู่ขอ พอ่ แมฝ่ �ายหญิงเม่ือได้ฟง� คุณสมบัติของฝ�ายชายก็ไมร่ งั เกยี จ
และเห็นว่าลูกสาวของตนอายุสมควรท่ีจะมีคู่ครองได้แล้วจงึ ตอบตกลง “เมื่อมาสู่ขอลูกสาวของฉัน
ไปตกไปแต่งทงั้ ทกี ็ขอให้สมกับหนา้ ตา ฐานะหนอ่ ยหน่งึ จะได้ไหม” พ่อขอฝา� ยหญงิ กลา่ วกับเถ้าแก่ฝ�ายหญิง
ต้องการให้จดั ขบวนขันหมากลงเรอ� สําเภาให้ใหญโ่ ต จะได้เป�นทเี่ ชดิ หน้าชตู าของชาวบ้านแถวน้ี
ครน้ั ถึงวันกําหนดนัด ฝา� ยชายก็จดั เครอ่ � งขนั หมากและเครอ่ � งใชใ้ นการแต่งงานลงเรอ� สําเภา
มีมโหรป� ่ �พาทย์ครบครนั เม่ือได้ฤกษ์ขบวนขันหมากพรอ้ มทั้งเจา้ บ่าวทั้งสอง ก็เรม่ � เคลื่อนทจ่ี ากคลอง
สองพน่ี ้องออกไปทางแม่นา� สุพรรณขึน้ ไปทางเหนือมงุ่ หน้าไปบ้านเจา้ สาว
ขณะท่ีเรอ� แล่นไป นักดนตรก� ็เล่นดนตรด� ังไปตลอดทาง จนถึงตําบลหน่ึง เม่ือนักดนตร �
เปลี่ยนเพลงมาเลน่ ซอชาวบ้านจงึ เรย� กที่แห่งน้ีวา่ “บางซอ” เพราะนักดนตรไ� ปเล่นซอที่นนั่ เมื่อแล่นไป
อีกไม่นานเสียงดนตรก� ็ย่ิงดังครก� ครน้ � สนุกสนาน ผู้คนในเรอ� ก็รอ้ งราํ กันไม่ได้หยุดที่แห่งนี้จงึ เรย� กว่า
“บ้านสนุก”
เม่ือเรอ� ขบวนขันหมากเลยบ้านสีสนุกไปได้ไม่นาน ก็เกิดเหตุการณ์อย่างไม่คาดคิดข้ึน คือ
เรอ� สําเภาที่บรรทุกทง้ั คนทง้ั เครอ่ � งใชไ้ ม้สอยสําหรบั งานแต่งานได้เกิดอุบัติเหตุอับปางล่มลง คนท่ีมา
กับขบวนขันหมาก และสิ่งของเครอ่ � งใชจ้ มหายไปในน�าหมด ดังนั้น ตรงที่เรอ� สําเภาล่มน้ันป�จจุบัน
จงึ เรย� กว่า “สําเภาทลาย” ส่วนเจา้ บ่าวสองพ่นี ้องจมนา� ตายท้งั คู่ ฝ�ายเจา้ สาวทง้ั สองสมกับเป�นเจา้ สาว
รอขบวนขนั หมากด้วยใจระทกึ ต่างคนก็คิดถึงเจา้ บ่าวของตนเองวา่ หน้าตาหลอ่ เหลาแค่ไหน แต่เมอื่ มี
คนมาส่งขา่ วว่าขบวนเรอ� ขนั หมากของสองพนี่ ้องลม่ ลงกลางแม่น�าเสียแล้ว และเจา้ บ่าวของเธอก็จมน�า
ตายด้วย หญิงท้ังสองเสียใจมาก เธอรอ้ งไห้คร�าครวญอย่างน่าเวทนา ต่อมาชาวบ้านจงึ เรย� กบ้านที
หญิงทง้ั สองอยู่ว่า “บ้านแม่หมา้ ย” ซง่ึ ป�จจุบันก็ขึน้ อยู่กับอําเภอบางปลามา้ จงั หวดั สุพรรณบุร �
สองพน่ี ้อง ชอ่ื ทม่ี กั ถูกนาํ ไปทายป�ญหาเชาวน์อยู่เสมอว่าตําบลอะไรท่มี ี ประชากรนอ้ ยที่สุดใน
ประเทศ แต่ในความเป�นจรง� แล้วตําบลสองพ่ีน้องคือ ศูนย์กลางการค้า เศรษฐกิจ และความเจรญ�
ที่สําคัญที่สุดของอําเภอสองพ่ีน้องมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงป�จจุบัน เป�นที่ตั้งของท่ีว่าการอําเภอ
โรงเรย� น ตลาด ธนาคาร และรา้ นค้าทุกประเภท เปน� ตําบลท่มี คี วามสําคัญ และเปน� ศูนย์กลางของความเจรญ�
ทุก ๆ ด้านของอําเภอสองพี่น้อง
ป� กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชุมชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
3
ท่ีตั้งและอาณาเขต
อําเภอสองพี่นอ้ งต้ังอยู่ตอนใต้สุดของจงั หวดั มอี าณาเขตติดต่อกับอําเภอขา้ งเคียง ดังน้ี
ทศิ เหนือ ติดต่อกับอําเภออู่ทองและอําเภอบางปลามา้
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอําเภอบางซา้ ยและอําเภอลาดบัวหลวง (จงั หวัดพระนครศรอ� ยุธยา)
ทิศใต้ ติดต่อกับอําเภอบางเลน อําเภอกําแพงแสน (จงั หวัดนครปฐม) และอําเภอท่ามะกา
(จงั หวัดกาญจนบุร)�
ทศิ ตะวันตก ติดต่อกับอําเภอพนมทวน (จงั หวัดกาญจนบุร)�
การปกครองสว่ นภมู ภิ าค
อําเภอสองพี่น้องแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเปน� 2 เขตเทศบาล 14 ตําบล 140 หมบู่ ้าน ได้แก่
เทศบาล 2 แห่ง 2. เทศบาลตําบลทงุ่ คอก 3. ตําบลเนินพระปรางค์
1. เทศบาลเมอื งสองพี่น้อง 6. ตําบลดอนมะนาว
ตําบล 14 ตําบล 2. ตําบลบางพลบั 9. ตําบลบางตะเคียน
1. ตําบลบ่อสุพรรณ 5. ตําบลต้นตาล 12. ตําบลบ้านชา้ ง
4. ตําบลศรส� ําราญ 8. ตําบลบ้านก่มุ
7. ตําบลบางตาเถร 11. ตําบลหัวโพธิ์
10. ตําบลบางเลน 14. ตําบลทุ่งคอก
13. ตําบลหนองบ่อ
ป� กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
4
“วถ� ีชุมชนคนต้นตาล” ชุมชนต้นแบบแห่งการเรย� นรู้
“ดินแดนแห่งวัฒนธรรม ภูมิป�ญญาท้องถ่ิน ผลิตภัณฑ์ชุมชน
แหล่งเรย� นรูว้ ถ� ีชีวต� เกษตรกรสองฝ่ �งคลองสองพี่น้อง”
เรอ่ � งเล่าวถ� ีชุมชนคนต้นตาล
เดิมพื้นท่ีต้นตาล มีต้นตาลขึ้นเป�นจํานวนมาก สภาพพ้ืนท่ีมีท้ังพ้ืนท่ีลุ่มและพ้ืนที่ดอน จึงถูก
เรย� กว่า “ดอนตาล” และในบรเ�วณพ้นื ท่ดี อน เรย� กว่า “ต้นตาล” ในบรเ�วณพ้ืนทล่ี ุ่ม ซง่ึ ส่วนใหญ่เปน� พื้นท่ี
ลุ่มมากกวา่ พ้ืนที่ดอน ชาวบ้านจึงเรย� กว่า “ตําบลต้นตาล”
ตําบลต้นตาล อําเภอสองพน่ี อ้ ง จงั หวัดสุพรรณบุร � ประชากรในพนื้ ทร่ี อ้ ยละ 80 ทําการเกษตร
(ทํานา) ซง่ึ มเี นอ้ื ท่ีปลูกข้าว จาํ นวน 7,430 ไร่ รองลงมามอี าชพี รบั จา้ ง เลยี้ งสัตว์ ค้าขาย โดยชุมชน
ท่มี ีเสนห่ ์และความโดดเด่น คือ ชุมชนต้นตาลและชุมชนบ้านแม่พระประจกั ษ์ ท่ีคนในชมุ ชนนับถือ
ศาสนาครส� ต์กว่ารอ้ ยละ 90 ซง่ึ เป�นเชอื้ สายญวน ที่มีการสืบสานประเพณี วัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน
และมีสินค้าที่เป�นโอทอปมีชอื่ เสียงระดับประเทศ คือ การทําเปลญวนที่สืบทอดภูมิป�ญญามาแต่ครง้ั
บรรพบุรษุ ที่มอี ัตลกั ษณ์ลวดลายแบบชาวญวน และอาหารพน้ื ถ่ิน อย่างเชน่ ปลารา้ ปลาหมาํ หมหู ัน
หมูสวรรค์ บัวลอยไข่หวานญวน
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการทอ่ งเทีย่ วของชุมชน คือ การป่ �นรถจักรยานหรอ� นั่งรถซาเล้งพ่วงข้าง
เทีย่ วชมโบสถ์วดั แม่พระประจกั ษ์ ของชาวครส� ต์นิยายคาทอรก� ทม่ี คี วามสวยงาม อายุกว่า 120 ป�
และงานสืบสานประเพณีวัฒนธรรมทอ้ งถ่ินไทย – ญวน “ประเพณีแห่แม่พระทางสายน�า” ที่บอกเล่า
วถ� ีชวี ต� ของคนภายในชมุ ชนท่ีนบั ถือศาสนาครส� ต์ ซง่ึ เป�นการส่งเสรม� การทอ่ งเทยี่ วท่ีจดั ขึ้นในเดือน
ตุลาคมของทกุ ป� และวัดสองพี่น้องที่เป�นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรอ� ยุธยาท่ีมีอายุประมาณ 340 ป�
ที่เป�นศูนย์รวมความศรทั ธาของคนภายในท้องถ่ิน
ป� กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
5
“ชุมชนมีดี มีภาคี มีภูมิป�ญญา”
ศักยภาพด้านพ้ืนที่
หมู่ 6 บ้านไผ่หมู่ หมู่ 5 บ้านโคกงูเห่า
ศูนย์เรย� นรู้หัตถกรรม การท่องเที่ยวเชงิ เกษตรกรรม
ผักตบชวาบ้านดินสอ
หมู่ 3 บ้านสองพ่ีน้อง
หมู่ 4 บ้านแม่พระประจกั ษ์ พระใหญ่ทองคํา (หลวงพ่อสด),
หอชมทุ่ง, โบสถ์ครส� ต์ , เปลญวนยักษ์, กลุ่มวส� าหกิจไข่เค็ม
ปลาหมํา, ขนมบัวลอยญวน, หมูหันญวน
กรอบนอก นุ่มใน หมู่ 1 บ้านต้นตาล
สุ่มปลายักษ์-สะพานเดินไม้ไผ่-สระบัวทอง,
ห มู่ 2 บ้ า น ท้ า ย สะพานเก่า 100 ป� (วัดทองประดิษฐ)์ ,
ขนมบ้านลุงทวด, โคก หนอง นา
ปลาร้า, หมูหัน
แรงบันดาลใจสู่ความคิดรเ� รม่ � ด้วยทุนชุมชน
“การเชอื่ มโยงชุมชนทอ่ งเทย่ี ว ท่ีมกี ารพัฒนาอย่างไมห่ ยุดนิ่งจะทาํ ให้ชุมชนเปน� ต้นแบบแก่ทอี่ ่นื ”
และ “เราไมต่ ้องทําเหมอื นคนอน่ื เราต้องทาํ ใหค้ นอื่นมาดูเรา”
ทุนมนุษย์
ทุนสังคม
ทุนทรพั ยากรธรรมชาติ
ทุนภมู ิปญ� ญา วัฒนธรรม
ป� กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
6
การมี
ส่วนรว่ ม
ปลกู ฝ�ง
รสู้ ึกเปน� พ่ี จติ สํานกึ
เจา้ ของ
1. ทุนมนุษย์ ครอบ นอ้ ง
2. ทุนสังคม ห่วงแหน โอกาส
รายได้ ครวั รกั
ดแู ล เขม้ แข็ง
การบรห� าร สามคั คี
จดั การ
ประสบการณ์ โครงสรา้ ง รกั ษา
ความรู,้ คกก. อัตลกั ษณ์
ความสามารถ
ขอ้ กําหนด วฒั นธรรม ประเพณี
ตกลง บทบาทหนา้ ท่ี ภูมิปญ� ญา
ทกั ษะ ศกั ยภาพ อาหาร
พืน้ ถ่นิ
กฎ ระเบียบ
ข้อบังคับ
ทักษะ
สรา้ ง
เครอ� ขา่ ย
เก้อื หนุน ทนุ ทาง กระบวนการ
ความรว่ มมอื สังคม ทม่ี บี รรทัด
ภายในและ
ระหว่างกลมุ่ ฐานการ
ปฏิบตั ิ
ต่าง ๆ
ความเขา้ ใจ
รว่ มกัน
3. ทุนทรพั ยากรธรรมชาติ
ความอุดมสมบูรณ์ในน�ามีปลา ในนามีข้าว ต้นทุนทรพั ยากรธรรมชาติ ความเขียวชอุ่มชุม่ ชนื่
ด้วยพ้ืนท่ีเกษตรกรรม ทํานา ปลูกข้าว วว� ทิวทัศน์ลําคลองสองฝ่ �ง
ท่ีสะทอ้ นวถ� ีชวี ต� รม� น�าของชุมชน รายลอ้ มด้วยไอดิน
กลิ่นฟาง ทุ่งดอกบัวแดง พืชผัก ผลไม้ ผักสวนครวั
ซง่ึ ถือวา่ เปน� ต้นทนุ ทีม่ คี ่ายิ่งของชมุ ชนแห่งนี้
ป� กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชุมชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
7
4. ทุนภูมิป�ญญา ประเพณีวัฒนธรรม
อาหารพื้นถิ่น
อ า ห า ร พื้ น ถ่ิ น ต้ อ ง ชิม ไ ด้ แ ก่ ป ล า ร้า ห มู หั น
หมูสวรรค์ บัวลอยไข่หวานญวน โดยเฉพาะปลาหมาํ
ของดีของอําเภอสองพ่ีน้อง สินค้า OTOP ของ
ชุมชนและเป�นอาหารด้ังเดิมของคนญวน
ปลาหมาํ
หมูหัน
เปลญวน
การทําเปลญวนทีม่ อี ัตลกั ษณ์ลวดลายแบบชาวญวน เปน� การสืบทอด
ภูมิป�ญญาท้องถ่ินมาจากบรรพบุรุษ ที่ทํากันมารุน่ สู่รุน่ โดยเรม่ � ต้นจากการ
สานเปลญวนจากผกั ตบชวาทําขึ้นเพ่ือแลกเปล่ียนสินค้า จากนั้นได้เปล่ียน
จากผักตบมาเปน� เส้นด้าย เพราะเห็นเส้นด้ายทผ่ี ูกหูแจวเรอ� ในอดีต มีความ
แข็งแรงทนทาน และในปจ� จุบัน นางสาวเรอ� นแก้ว สังขรตั น์ ประธานวส� าหกิจ
ชุมชนเปลญวนแม่พระประจักษ์
ได้พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑใ์ ห้มีความแขง็ แรง สวยงามมากขน้ึ และ
พฒั นาให้มีความหลากหลาย และปรบั รูปแบบให้เขา้ กับเฟอรน์ เิ จอร์
ตรงตามความต้องการของลูกค้า
ประเพณี
“ประเพณีแห่งแม่พระทางสายน�า” ที่แสดง
วถ� ีชวี ต� ของคนในท้องถิ่นที่นับถือศาสนาครส� ต์
จัดข้ึนเพ่ือไหว้ และขอพรแม่พระประทานพร
ตามบ้ านเรอ� นท่ีตั้ งอยู่ ตามสายน�า และช่วย
ส่งเสรม� การท่องเทย่ี วเกิดขนึ้ ปลายเดือนตุลาคม
ของทุกป�
การแต่งกาย
วัฒนธรรมการแต่ งกายของชาวญวนแบบ
ด้ังเดิมจะไมค่ ่อยมใี ห้เห็นเปน� การท่ัวไป จะมีเฉพาะ
การต้อนรบั นักท่องเท่ียว และงานประเพณี
ป� กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
8
กระบวนการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน
ต้นทาง 1 ทุนชุมชน
ทนุ มนษุ ย์
ทนุ สังคม
ทนุ ทรพั ยากรธรรมชาติ
ทนุ ภูมปิ ญ� ญาวฒั นธรรม
2 สรา้ งสถานที่ท่องเท่ียว
กลางทาง
สรา้ งสถานที่ ตลาดน�าสะพานโคง้
ท่องเที่ยวภายใน สุ่มปลายกั ษ์
ชุมชน
ทําให้คนภายใน
ชุมชนมีพ้ืนท่ี
สรา้ งรายได้
3 พฒั นาสินค้า/บรก� าร
แปรรูป
ของที่ OTOP
ระลึก
ของฝาก 4 ประชาสัมพันธผ์ ่านสื่อ
ออนไลน์ ออฟไลน์
5 คนภายในชุมชนมีรายได้ มีความสุข
ป� กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชุมชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
9
ป�ญหาอุปสรรคระหว่างทาง
1. การแพรร่ ะบาดโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา (COVID-19) ส่งผลใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ วลดลง แม่คา้
มาขายของลดลง การเกบ็ คา่ ส่วนกลางเพอ่ื นาํ มาบํารุงสถานทที่ อ่ งเทย่ี วไมส่ ามารถเก็บได้
2. ภัยธรรมชาติ นา� ทว่ ม, นา� ในลาํ คลองแหง้
3. ขาดงบประมาณในการซอ่ มแซม ปรบั ปรุงสถานท่ี
4. แม่ค้าไม่ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
5. การอนุรกั ษ์และส่งเสรม� มรดกทางวัฒนธรรม การอนุรกั ษ์
ประเพณี เด็กและเยาวชน ยังไม่ได้ให้ความรว่ มมืออย่างจรง� จัง
6. ลําคลองมีผกั ตบชวา
7. การบรห� ารจดั การขยะ
ป� กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
SWOT
ชมุ ชนมี “ทนุ ชมุ ชน” 1. เส้นทางคมนาคมขนส่งบางแห่งยัง
1. ด้านองค์ความรู้ เป�นลูกรงั /หินคลุก
2. ภมู ิปญ� ญา 2. ด้านส่ิงแวดล้อม มปี �ญหาผักตบชวา
3. ปราชญช์ มุ ชน 3. เยาวชนคนรนุ่ ใหม่ ขาดการมีส่วนรว่ ม
4. วฒั นธรรม อย่างจรง� จงั
5. ประเพณี 4. ควรมีการพฒั นาองค์ความรู้ เพื่อนํามา
6. ทรพั ยากรธรรมชาติ บรห� ารจดั การการทอ่ งเท่ียว
7. วตั ถดุ ิบในทอ้ งถ่ิน 5. การพัฒนาอาหาร/สินค้า เพือ่ สรา้ ง
8. อาหารพ้นื ถิ่น เชน่ ปลาหมํา ปลารา้ ความโดดเด่น และความประทบั ใจแก่
หมหู ัน นกั ท่องเทย่ี ว
9. ผ้นู าํ ชมุ ชนเข้มแขง็ 6. งบประมาณไมเ่ พยี งพอในการ
10.โบราณสถาน วัด โบสถ์ครส� ต์ ซอ่ มแซม ปรบั ปรุงสถานที่
11. การขยายและต่อยอดกิจกรรม
การท่องเทย่ี ว
12. การมสี ่วนรว่ มของคนในชมุ ชน
10
1. การส่งเสรม� สนับสนุนจากภาครฐั 1. ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่
2. การประชาสัมพันธผ์ า่ นสื่อชอ่ งทาง ระบาดของโควด� – 19 ทาํ ให้นกั ทอ่ งเทย่ี ว
Social Media ส่งผลให้ชุมชนเปน� ที่ ลดลง
รจู้ กั ในวงกวา้ ง 2. พน้ื ท่ีในชมุ ชนเป�นทรี่ าบลมุ่ น�าท่วมขัง
3. สถานท่ตี ้ังไมไ่ กลจากกรงุ เทพฯ 3. ขาดงบประมาณในการสรา้ งเส้นทาง
ทาํ ให้มนี ักทอ่ งเทยี่ วต้องการเดินทาง การเชอื่ มโยงแหลง่ ท่องเทย่ี วภายใน
มาทอ่ งเท่ียวและพกั ผ่อนเพิม่ ขึน้ ชุมชน
4. กระแสการทอ่ งเทย่ี วชมุ ชน/วถ� ีชุมชน
5. กระแสการถ่ายภาพ
6. พฤติกรรมการทอ่ งเทีย่ วส่วนใหญ่
จะเดินทางมาในรูปแบบครอบครวั
กลมุ่ เพอ่ื น ทําให้เกิดการใชจ้ า่ ยและ
กระจายรายได้ในชมุ ชนเพิ่มขึ้น
7. ชมุ ชนมีการพฒั นากิจกรรมและ
ผลติ ภัณฑช์ มุ ชนอย่างต่อเนอ่ื ง ส่งผล
ให้เศรษฐกิจชมุ ชนเข้มแข็ง
ป� กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชุมชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
ปลายทางสู่ความยั่งยืน
แนวทางการพัฒนาการท่องเท่ียวโดยชุมชนบ้าน
ดา้ นการบรห� ารจดั การการทอ่ งเทย่ี ว
โดยชุมชน
ดา้ นการจดั การเศรษฐกิจ ส
และคณุ ภาพชวี ต� ทดี่ ี
ดา้ นการอนุรกั ษแ์ ละ
มรดกทางวฒั นธรรม
ด้านการจดั กา
ส่งิ แวดล้อมอม
ดา้ นคณุ ภา
ท่ีมา: เกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย
11
นต้นตาล
1. การบรห� ารจดั การ 6. การมีส่วนรว่ มภาคี
2. ข้อควรปฏิบัติ 7. การตลาด
8. ระบบบัญชี การเงน�
3. ข้อตกลงรว่ มกัน 9. เด็ก เยาวชน ไดร้ บั การให้ความสําคญั
4. พัฒนาบุคลากร
5. สง่ เสรม� การมีส่วน
ว 1. จดั สรรรายได้
สงั คม 2. สง่ เสรม� ยกระดบั คณุ ภาพชวี ต�
3. ผลติ ภัณฑ์ชมุ ชนมีคณุ ภาพ
4. สิทธมิ นษุ ยชนในการท่องเท่ียว
ะสง่ เสรม� 1. ฐานข้อมลู มรดกทางวฒั นธรรมชมุ ชน
มชมุ ชน 2. การเผยแพรม่ รดกทางวัฒนธรรมชมุ ชน
3. การอนรุ กั ษ์ฟ้ �นฟูวัฒนธรรมท้องถ่ิน
ารทรพั ยากรธรรมชาตหิ รอ�
มอย่างเปน� ระบบและยง่ั ยนื 1. จดั การพืน้ ท่ีเพ่อื การท่องเท่ียว
2. ฐานขอ้ มลู ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม
3. การเผยแพรภ่ มู ิป�ญญาดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม
4. การอนรุ กั ษ์ฟ้ �นฟทู รพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม
5. การสรา้ งความตระหนักรูถ้ งึ ความสําคญั ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม
าพการบรก� ารและความปลอดภยั หมวดคณุ ภาพสิ่งอํานวยความสะดวกและบรก� าร
1. การใหบ้ รก� ารดา้ นการท่องเท่ียวเป�นไปอย่างนา่ พงึ พอใจ
2. นักสื่อความหมายมปี ระสิทธภิ าพ
3. จุดบรก� ารท่องเท่ียวมปี ระสทิ ธภิ าพ
4. การติดต่อประสานงานดา้ นการบรห� าร
หมวดการเตรย� มความพรอ้ มเรอ่ � งความปลอดภัย
5. เส้นทางและกิจกรรมท่องเท่ียว
6. จุดบรก� ารท่องเท่ียว
7. การบรห� ารจดั การเสน้ ทางการเดนิ ทางท่องเที่ยวในชุมชน
8. การบรห� ารจดั การกรณีฉุกเฉิน
ป� กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชุมชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
12
ปฏิบัติการจดั การความรูช้ ุมชนต้นแบบ/การสรา้ งชุมชนแห่งการเรย� นรู้
กลมุ่ ย่อยท่ี ๑
ปราชญ์/ผู้นําชุมชน
1. นายยทุ ธพงษ์ กอบกาญจนา
2. นางสาวเรอ� นแกว้ สงั ขรตั น์
3. นางสาวกมลทิพย์ ไกรวงศ์
4. นางสาวจงกล กล�าบญุ สวสั ด์ิ
ป� กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชุมชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
องค์ความรูส้ ู่การพัฒนาต่อยอด
2. ภูมิป�ญญา ท้องถ่ิน การสรา้
การ
1. วฒั นธรรม 3. ผลิตภัณฑ์
ต่อยอดก
ตลาด Online
ADMIN 13
ผู้ดแู ลระบบ ประชาสัมพนั ธ์
างกระแส กลุ่มเปา� หมาย
รรบั รู้ วยั รุน่
CONTENT สถานท่ถี า่ ยรปู สวย ๆ
สําคัญ
ดงึ ดูดความนา่ สนใจ
การพัฒนา
2 Day Trip 1 Day Trip
ฐานเรย� นรู้
ป� กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
14
ปฏิบัติการจัดการความรูช้ ุมชนต้นแบบ/การสรา้ งชุมชนแห่งการเรย� นรู้
กลมุ่ ย่อยที่ ๒
ปราชญ์/ผู้นําชุมชน
1. นายเอกลกั ษณ์ วงษ์นามใหม่
2. นายมณเฑียร ด้วงสกลุ
3. นางสาวปภาวดี เจนกิจเจรญ� ชยั
4. นายธรี โชติ รงุ่ รตั น์วฒั นเสร �
ป� กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชุมชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
องค์ความรูส้ ู่การพัฒนาต่อยอด
ชุมชนต้องจัดการความรู้
องคค์ วามรูค้ ือ ปญ� ญา เกิดการป�องกันและแก้ไข
ทําความเขา้ ใจ ความรู้ รเู้ หต,ุ รผู้ ล
ให้ความหมาย จดั กลุ่ม
บรบ� ท
สารสนเทศ การทําซา� ๆ
ข้อมลู
15
การจดั การความรู้
ความหมาย จากประวัติ ตํานานชุมชนสกู่ ารเปลยี่ นแปลง
ประเภท ความรชู้ ดั เจนโดยนัย ทางการ วฒั นธรรม
ขัน้ ตอน สรา้ งความรู้ จดั เกบ็ ถา่ ยโอน
เครอ่ � งมอื ชุมชน ระบบพี่เลยี้ ง การทบทวน Story
ประโยชน์
เวที ป�องกนั การสูญหาย เพม่ิ ประสิทธภิ าพ
เกิดทรพั ย์สินทางปญ� ญา ปรบั ตัว ยดื หยุ่น
ยกระดับผลิตภณั ฑ์
เพื่อถา่ ยทอดองค์ความรู้
จดั การความรูใ้ ห้กับปราชญ์ ผนู้ ําชุมชน
ถอดองคค์ วามรู้ (ต้นแบบสามารถนําไปปฏิบตั ิ)
สรา้ งเครอ� ขา่ ย
สรา้ งการเรย� นรู้
สกดั ความรูท้ ฝ่ี ่ �งลึกใหเ้ ปน� ระบบ
ป� กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชุมชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
16
ภาคผนวก
ความเชี่ยวชาญ
นายเอกลกั ษณ์ วงษ์นามใหม่ • ทนุ ชมุ ชน
• สารสนเทศต้นแบบ
• การบรห� ารจดั การชมุ ชนต้นแบบ
• การบรห� ารจดั การชมุ ชน นายธรี โชติ รุง่ รตั นว์ ฒั นเสร �
นายยทุ ธพงษ์ กอบกาญจนา • โคก หนอง นา
• เกษตรอินทรย� ์
• สืบสานประเพณีวัฒนธรรม ไททรงดํา นายมณเฑยี ร ด้วงสกลุ
นางสาวเรอ� นแกว้ สงั ขรตั น์ • กลุ่มอาชพี
• สืบทอดวัฒนธรรม ประเพณไี ทย – ญวน
• กลุ่มอาชพี นางสาวกมลทิพย์ ไกรวงศ์
นางสาวปภาวดี เจนกจิ เจรญ� ชยั • ทนุ ชมุ ชน
• การบรห� ารจดั การขยะ
• ปลกู พนั ธไ์ มด้ ่าง พันธุไ์ มป้ ระดับ นางสาวจงกล กลา� บญุ สวสั ด์ิ
ป� กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชุมชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
ผู้จดั ทํา
ชอื่ หนังสือ “วถ� ีชุมชนคนต้นตาล” ชมุ ชนต้นแบบแห่งการเรย� นรู้
คณะที่ปรก� ษา พฒั นาการจงั หวัดสุพรรณบุร �
นายสุภาพ สุขแก้ว ผอู้ ํานวยกลมุ่ งานสารสนเทศการพฒั นาชมุ ชน
นางปารช� าติ ทองสีดํา นักวช� าการพัฒนาชุมชนชาํ นาญการ
นางสาวการณั ยภาส ดอกไม้
ผู้จดั ทํา นกั วช� าการพัฒนาชมุ ชนชาํ นาญการ
นางสาวสมาพร คนทน
เดือน ป�
พฤษภาคม ๒๕๖๕
ป� กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชุมชน สรา้ งคน สรา้ งชาติ
สํานักงานพฒั นาชุมชนจงั หวัดสุพรรณบุร �
ศูนย์ราชการจงั หวัดสุพรรณบุร � ชน้ั 3
ถนนสุพรรณบุร � – ชยั นาท ตําบลสนามชัย
อําเภอเมืองสุพรรณบุร � จงั หวัดสุพรรณบุร � 72000