The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Patcharin9192, 2021-09-11 11:37:27

สมุดภาพเล่มเล็กทักษะวิทยาศาสตร์

do not copy!!

สมุดภาพเล่มเล็ก

เครื่องหมายเตือนสารเคมีอันตราย

จัดทำโดย

ด.ญ.นรินทร์ดา เหล่าชัย ม.1/7 เลขที่17

เสนอ

อาจารย์ พรพรรณ ยิ่งยง

เอกสารนี้เป็ นส่วนหนึ่งในรายวิชาทักษะวิทยาศาสตร์1

ประเภทที่ 1 วัตถุระเบิด(Explosive)

ระเบิดได้เมื่อถูกกระแทก เสียดสี หรือความร้อน










เช่น ทีเอ็นที ดินปืน พลุไฟ ดอกไม้ไฟ

ประเภทที่ 2 ก๊าซ(Gases)

เมื่อเกิดการรั่วไหล สามารถก่อให้เกิดอันตรายจากการลุก
ไหม้ได้ หรือเป็นพิษและแทนที่ในออกซิเจนในอากาศ

2.1ก๊าซไวไฟ(Flammable Gases)

ติดไฟง่ายเมื่อถูกประกายไฟ

เช่น อะเซทิลีน ก๊าซหุงต้ม ก๊าซไฮโดรเจน

2.2 ก๊าซไม่ไวไฟและไม่เป็นพิษ(Non-
flammable Non-toxic Gases)

อาจเกิดระเบิดได้เมื่อถูกกระแทกอย่างแรง หรือได้รับความร้อนสูง
จากภายนอก ไม่ติดไฟ ไม่เป็นพิษหรือแทนที่ออกซิเจนในอากาศ

เช่น ไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ อาร์กอน

2.3 ก๊าซพิษ(Poison Gases)

มีคุณสมบัติที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรืออาจถึงแก่
ชีวิตได้ มาจากการสูดเอาพิษนั้ นเข้าไป

เช่น คลอรีน เมทิล ไฮโดรเจนคลอไรด์ แอมโมเนี ย

ประเภทที่ 3 ของเหลวไวไฟ(Flammable Liquids)

จะติดไฟง่ายเมื่อถูกประกายไฟ

เช่น อะซีโตน น้ำมันเชื้อเพลิง ทินเนอร์ ไซลิน

ประเภทที่ 4 ของแข็งไวไฟ สารที่ลุกไหม้ได้เอง
และสารที่สั มผัสกับน้ำแล้วให้ก๊าซไวไฟ

4.1 ของแข็งไวไฟ(Flammable Solids)

ติดไฟได้ง่ายจากการได้รับความร้อนจากประกายไฟ/เปลวไฟ หรือการลุกไหม้
จากการเสี ยดสี

เช่น กำมะถัน ฟอสฟอรัสแดง ไม้ขีดไฟ ไนโตรเซลลูโลส

4.2 สารที่มีความเสี่ยงต่อการลุกไหม้ได้เอง(Substances
Liable to Spontaneous Combustion)

มีแนวโน้ มที่จะเกิดการลุกไหม้ได้เองหรือเกิดความร้อน ใน
สภาวะการขนส่งตามปกติ หรือเกิดความร้อนสูงขึ้นได้เมื่อสัมผัส

กับอากาศ

เช่น ฟอสฟอรัสขาว ฟอสฟอรัสเหลือง โซเดียมซัลไฟต์

4.3 สารที่สัมผัสกับน้ำแล้วทำให้เกิดก๊าซไวไฟ
(Substances which in Contact with Water Emit

Flammable Gases)

สารที่ทำปฎิกิริยากับน้ำแล้ว มีแนวโน้ มที่จะเกิดการติดไฟได้เองหรือ
ทำให้เกิดก๊าซไวไฟในปริมาณที่เป็นอันตราย

เช่น แคลเซียมคาร์ไบด์ โซเดียม

ประเภทที่ 5 สารออกซิไดซ์และสารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์

5.1สารออกซิไดซ์(Oxidizing Substances)

ไม่ติดไฟ แต่สามารถช่วยให้วัตถุอื่นติดไฟได้ดีขึ้น

เช่น แคลเซียมไฮเปอร์คลอไรด์ โซเดียมเปอร์ออกไซด์ โซเดียมคลอเรต

5.2 สารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ (Organic Peroxides)

ช่วยในการเผาสารที่ลุกไหม้ หรือทำปฎิกิริยากับสารอื่นแล้ว
ก่อให้เกิดอันตรายได้ หรือเมื่อได้รับความร้อนหรือลุกไหม้

แล้วอาจระเบิดได้

เช่น อะซีโตนเปอร์ออกไซด์ Methyl Ethyl Ketone Peroxide

ประเภทที่ 6 สารพิษและสารติดเชื้อ

6.1 สารพิษ(Toxic Substances)

วัตถุที่สามารถทำให้เสี ยชีวิตหรือบาดเจ็บรุ นแรงต่อสุขภาพ
ของคน จากทั้งการกลืน สูดดม สัมผัสทางผิวหนั ง

เช่น โซเดียมไซยาไนด์ กลุ่มสารกำจัดแมลงศัตรูพืชและสัตว์

6.2 สารติดเชื้อ (Infectious Substances)

สารที่มีเชื้อโรคปนเปื้ อน และทำให้เกิดโรคได้

เช่น ของเสียจากโรงพยาบาล แบคทีเรียเพาะเชื้อ เข็มฉีดยาใช้
แล้ว เชื้อโรคต่างๆ

ประเภทที่ 7 วัตถุกัมมันตรังสี(Radioactive Materials)

วัตถุที่สามารถแผ่รังสีที่มองไม่เห็นได้อย่างต่อเนื่ อง
มากกว่า0.002 ไมโครคูรีต่อกรัม

เช่น โมนาไซด์ ยูเรเนี ยม โคบอลต์-60

ประเภทที่ 8 สารกัดกร่อน(Corrosive Substances)

วัตถุที่มีปฏกิริยาเคมีฤทธิ์กัดกร่อนทำความเสียหาย ค่อเนื่ อเยื่อของสิ่งมีชีวิต
อย่างรุนแรง หรือทำลายสินค้า/ยานพาหนะที่ทำการขนส่ง เมื่อเกิดการรั่วไหล
ของสารไอระเหยของสารประเภทนี้ บางชนิ ดก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อจมูก

และตา

เช่น กรดเกลือ กรดกำมะถัน โซเดียมไฮดรอกไซด์

ประเภทที่ 9 วัตถุอันตรายเบ็ดเตล็ด(Miscellaneous
Dangerous Substances and Articles)

สารหรือสิ่งของที่ขณะขนส่งเป็นอันตราย แต่ไม่
จัดอยู่ในประเภทที่1-8

เช่น ปุ๋ยแอมโมเนี ยมไนเตรต ถุงลมนิ รภัย แม่เหล็ก
โทรศัพท์ แล็ปท็อป

ที่มา:รูปมาจากเว็บไซต์ machumetal.com

เนื้ อหาจาก หนั งสือเอกสารประกอบการสอนทักษะ
วิทยาศาสตร์1


Click to View FlipBook Version