บทที่ 1

1

บทท่1ี

บทนำ

ความสำคัญและความเป็นมา

ในปัจจบุ ันภาษาองั กฤษมีความสำคัญมากย่ิงข้นึ ทั้งด้านวชิ าการ ดา้ นวทิ ยาศาสตร์ ด้าน
สงั คม และดา้ นเศรษฐกิจ เน่อื งจากยคุ นี้เปน็ ยคุ ข้อมลู ขา่ วสาร ซงึ่ ต้องใช้ภาษาองั กฤษเปน็ สื่อกลาง
ในการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ และสำหรับประเทศไทย มีนโยบายการศึกษาของชาติได้ให้
ความสำคัญของวิชาภาษาอังกฤษตลอดมา เริ่มสนับสนุนการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับช้ัน
อนุบาล จนถึงระดับมหาวิทยาลัย กระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายให้กรมสามัญศึกษามุ่ง
ปรับปรุงพัฒนาความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของนักเรียน เนื่องจากพบว่าผู้ที่จบ
ระดับมัธยมศึกษา ที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสารได้ดีนั้นมีเพียงร้อยละ 1-2 และ
สำหรับทกั ษะทเี่ หน็ ว่าควรได้รบั การพัฒนาเป็นอย่างยง่ิ คือ ทักษะพดู และทกั ษะเขยี น ( Bangkok
Post, 1999:9 )

อย่างไรก็ตามการเรียนการสอนภาษาอังกฤษหรือภาษาใด ๆ ควรให้ความสำคัญของ
คำศัพท์ภาษาอังกฤษว่าการรับรู้คำศัพท์จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจความหมายของคำ สามารถ
เรียงลำดับตัวอักษรได้ถูกต้อง กล้าพูด อ่าน และเขียนเป็นประโยคอย่างมั่นใจ (สำนักงาน
เลขาธิการสภาการศึกษา, 2547) ซึ่งกล่าวได้ว่าคำศัพท์เป็นรากฐานของการเรียนวิชาต่างๆ เด็ก
จะอ่าน พูด เขียน หรือแสดงความคิดเห็นได้ดีต้องเข้าใจคำศัพท์จึงจะเรียนรู้เรื่องอื่นๆได้ (
Russell อ้างใน ทัศนีย์ พันธ์โยธาชาติ, 2534) พบว่าการสอนคำศัพท์มีความจำเป็นอย่างมากใน
การเรยี นร้ภู าษา เพราะคำศพั ท์เปน็ จุดเร่ิมต้นในการพฒั นาทักษะการฟัง พูด อา่ น เขียน ท้ังนเี้ ป็น
เพราะคำศัพท์เปน็ หนว่ ยหน่ึง ในโครงสรา้ งของภาษาท่เี ปน็ พื้นฐานของการเรียนภาษาที่ผู้เรียนจะ
นำมาสร้างเป็นวลีหรือประโยคในการพูดหรือเขียน และการฟังหรืออ่านนั้น คำศัพท์จะเป็น
ส่วนประกอบของข้อความที่สื่อสารในปัจจุบันพบว่าปัญหาพื้นฐานของการเรียนทักษะท้ังสี่ คือ
ปัญหาคำศัพท์เนื่องจากความรู้ด้านคำศัพท์ไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้
นักเรียนไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นทักษะ การฟัง
พดู อ่าน และเขยี น ซึ่งเปน็ ทกั ษะทสี่ ำคญั และจำเป็นท่ีนักเรยี นจะต้องมีพื้นฐานเก่ยี วกับคำศัพท์จึง
จะสามารถเรยี นภาษาไดด้ จี ึงเปน็ ทย่ี อมรับวา่ “คำศัพท”์ เปน็ หวั ใจสำคัญในการศึกษาภาษาอย่าง
หนึ่ง (บุษรีย์ ฤกษ์เมอื ง, 2552) ดงั น้นั คำศพั ท์จึงเป็นพน้ื ฐานที่สำคญั นำไปตอ่ ยอดในการพดู การ
ฟงั การอา่ น และการเขียนในลำดับตอ่ ไปอย่างมีความหมายท่ถี กู ตอ้ ง

ในการจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับการสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ การสอนโดยใช้
เกมเป็นกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น นักเรียนสนุกสนาน มี

2

ชีวิตชีวา รสู้ กึ ผ่อนคลาย ไม่กงั วลในการสะกดคำศัพท์แบบท่องจำ ประนอม สรุ สั วดี (2539 : 32)
ได้ให้ความคิดเห็นว่าการเรียนการสอนภาษาอังกฤษนั้น ครูผู้สอนน่าจะทำให้การเรียนการสอน
สนุกสนาน เพราะภาษาเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริง กิจกรรมทางภาษาจึงควรเป็นกิจกรรมท่ี
เคลื่อนไหวเป็นเรื่องราวของการมีส่วนร่วมและสมมุติสถานการณ์ ครูจึงควรใช้กจิ กรรมเพือ่ ชักจูง
ให้เด็กนักเรยี นอย่างสนุกสนานไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้ ซึ่งนำไปสู่การนำภาษาไปใช้อย่างได้ผล
น่นั คือ การใช้กจิ กรรมเกม เพราะเกมทำให้นกั เรยี น เรยี นอย่างสนกุ สนาน นักเรยี นทุกคนที่มีส่วน
ร่วมในกิจกรรมที่ครูจัดขึ้นเป็นการช่วยเสริมการเรียนรู้ในเรื่องของคำศัพท์ได้เป็นอย่างดี ซ่ึง
สอดคล้องกับบวรรณพร ศิลาขาว (2550: บทคัดย่อ) พบว่า นักเรียนที่เรียนจากการสอนโดยใช้
แบบฝึกหดั ท่มี เี กมประกอบไดร้ ับผลสัมฤทธิ์สงู กว่านักเรียนทีเ่ รยี นจากการสอนโดยใชแ้ บบฝึกหัดท่ี
ไม่มีเกมประกอบ และยังพบว่า นักเรียนที่เรียนจากการสอนโดยใช้แบบฝึกหัดที่มีเกมประกอบ
แสดงให้เห็นว่า การใช้เกมจะส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคงทนทางการเรียนของ
นกั เรียนสงู ข้ึนอย่างมปี ระสิทธิภาพ

จากปญั หาทีผ่ ้วู จิ ัยประสบและแนวทางการสอนคำศัพท์ นกั เรยี นไมส่ ามารถจำคำศัพท์
ทเ่ี รียนมาได้ ไมส่ ามารถสะกดคำศัพท์ได้ และเบ่ือหน่ายกับการสอนคำศพั ทแ์ บบเดมิ ๆ ที่นกั เรียน
อ่านออกเสียงตามที่คุณครูอ่านให้ฟัง พร้อมความหมาย ผู้วิจัยจึงสนใจศึกษาการเรียนรู้คำศัพท์
ภาษาองั กฤษโดยใช้เกมประกอบ ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านโคกหนองแซง
อำเภอหนองววั ซอ จังหวัดอุดรธานี ซ่งึ วธิ ีเปน็ วธิ ีทเ่ี หมาะสมท่ีจะนำมาใช้สอนคำศัพท์ในหน่วยการ
เรียนรู้ สามารถนำมาพัฒนาการเรียนรู้คำศัพท์อังกฤษให้เด็กเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินใน
การเรียน อีกทั้งเพื่อกระตุ้นและเร้าความสนใจของนักเรียนให้เกิดแรง เรียนรู้ อยากเรียน
ภาษาองั กฤษมากข้นึ และมเี จตคติทด่ี ีตอ่ วิชาการภาษาองั กฤษเพิ่มขนึ้

โจทยว์ จิ ัย
ผลสัมฤทธิ์ของการสอนแบบใช้เกมประกอบ เพื่อพัฒนาทักษะการสะกดคำศัพทข์ องนักเรยี น

ป.2 ก่อนเรียนและหลงั เรยี น เหมอื นหรอื แตกต่างกันหรือไม่

วตั ถปุ ระสงค์
1. เพ่อื เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทกั ษะการสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชนั้

ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรียนบา้ นโคกหนองแซง อำเภอหนองววั ซอ จังหวดั อุดรธานี ก่อนและหลังการ
สอนโดยใช้เกมประกอบ

3

ขอบเขตการวิจยั
1. ขอบเขตดา้ นประชากร คอื นกั เรยี นกล่มุ เปา้ หมายชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จำนวน 14 คน
2. ขอบเขตด้านเนือ้ หา สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ
- แผนการจดั การเรยี นรหู้ น่วยที่ 6 เรื่อง On the Farm
- ขอบเขตด้านเวลา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ใช้เวลาทดลอง 2 สัปดาห์

สัปดาห์ละ 2 คาบเรียนรวม 4 คาบ คาบเรยี นละ 60 นาที

นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ
1. เกม หมายถึง กิจกรรมที่จัดอยู่ในรูปของการเล่นหรือแข่งขันอย่างมีกฎเกณฑ์ในแต่ละเกม

กำหนดจุมุ่งหมาย จำนวนผู้เล่น อุปกรณ์ วิธีการเล่น กติกา เวลา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกด
คำศัพท์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีด้วยกันทั้งหมด 4 เกม ดังนี้ เกมบิงโกคำศัพท์, เกมจับคู่
คำศัพท,์ เกม Spelling Game, เกม Hangman ซ่ึงเป็นเกมเกย่ี วกับการสะกดคำศพั ทท์ ้งั ส้ิน โดยผวู้ จิ ยั
จะนำมาใช้ในขั้นสรปุ บทเรยี นเพอ่ื ทบทวนคำศพั ท์หลังจากเรียนจบแตล่ ะคาบ

2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเขียนสะกดคำศัพท์ หมายถึง ข้อสอบที่ใช้วัดทักษะในการ
เขยี นสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เพ่อื ใช้ทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น เปน็ อตั นัย 20 ขอ้

3. นักเรียน หมายถึง กลุ่มตัวอย่างที่ได้จากการเลือกแบบเจาะจง คือ นักเรียนช้ัน
ประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบา้ นโคกหนองแซง อำเภอหนองวัวซอ จังหวดั อดุ รธานี

ตัวแปรการศกึ ษา
ตวั แปรอสิ ระ คือเกมบิงโกคำศัพท์, เกมจบั คคู่ ำศพั ท,์ เกม Spelling Game, เกม Hangman

ท่ใี ชใ้ นการพัฒนาทกั ษะการสะกดคำศัพท์ภาษาองั กฤษของนักเรียน
ตวั แปรตาม คอื การพฒั นาทกั ษะการเขยี นสะกดคำศัพทภ์ าษาอังกฤษของนักเรยี น

กรอบแนวคดิ ในการวิจัย
การวิจัยเรื่องการพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้เกมประกอบการ

สอนของนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรยี นบา้ นโคกหนองแซง ผวู้ จิ ยั ไดก้ ำหนดตวั แปรอิสระและ
ตวั แปรตามดงั กรอบแนวคิดในการวจิ ยั ดังตอ่ ไปนี้

ตัวแปรอสิ ระ 4
เกมทใ่ี ช้บิงโกคำศัพท์, เกมจับคู่
คำศัพท,์ เกม Spelling Game, เกม ตวั แปรตาม
Hangmanในการพัฒนาทักษะการ ทักษะการเขียนสะกดคำศัพท์
เขยี นคำศัพท์ภาษาอังกฤษของ ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น ป.2

นักเรียนชัน้ ป.2 ภาพท่ี 2 ตัวแปรตาม

ภาพที่ 1 ตวั แปรอสิ ระ