25
บทที่ 3
วิธดี ำเนินการวิจัย
การศึกษาเรื่องการพัฒนาทักษะพื้นฐานการเขียน: ทักษะการสะกดคำศัพท์โดยใช้เกมสำหรับ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทักษะการสะกดคำศัพท์
ภาษาองั กฤษของนกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรียนบ้านโคกหนองแซง อำเภอหนองววั ซอ จังหวัด
อดุ รธานี ก่อนและหลงั การสอนโดยใชเ้ กมประกอบ โดยมีวิธีการดำเนินการวิจยั ดงั ตอ่ ไปนี้
1. กลุ่มตัวอย่างท่ีใชใ้ นงานวิจยั
2. ตวั แปรท่ศี ึกษา
3. เครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมูล
4. การเก็บรวบรวมข้อมลู
5. การวเิ คราะห์ข้อมลู
1. กลุม่ ตัวอย่างทใี่ ช้ในงานวจิ ยั
1. กลมุ่ ตัวอยา่ งท่ใี ช้ในงานวจิ ยั ครง้ั นี้ เป็นนกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรยี นบ้าน
โคกหนองแซง จำนวน 14 คน โดยวธิ กี ารเลือกกลุ่มตวั อยา่ งแบบเจาะจง (Purposive sampling)
2. ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ใช้เวลาทดลอง 2 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 คาบ
เรยี นรวม 4 คาบ คาบเรยี นละ 60 นาที
2. ตวั แปรทีศ่ ึกษา
ตัวแปรท่ีศกึ ษาในการวิจยั คร้งั น้ี มีดงั นี้
ตวั แปรอิสระ เกมบิงโก เกมจับคคู่ ำศัพท์ Spelling Game และเกม Hangman
ตัวแปรตาม การพฒั นาทักษะการเขียนสะกดคำศัพทภ์ าษาองั กฤษของนักเรยี น
3. เครื่องมือท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมูล
ผู้วิจัยใช้แผนการสอนและแบบทดสอบ เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลในคร้งั
นี้ โดยมีข้ันตอนในการสรา้ งเคร่อื งมอื ดังนี้
เครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นการวจิ ัยมี 2 เครอ่ื งมอื ไดแ้ ก่
26
1. แผนการสอนโดยใช้วิธีการสอนโดยใช้เกมประกอบ Bingo, Matching, spelling
and Hangman game
2. แบบทดสอบ
1. แผนการสอน ผู้วจิ ยั ใช้คำศพั ท์ในหนังสือเรียน Say Hello 2 นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2
บทที่ 6 เรื่อง On the Farm ซึ่งในแผนการสอนนั้นผู้วิจัยจะใช้วิธีการสอนโดยใช้เกมประกอบ Bingo,
Matching, spelling and Hangman game
การสร้างแผนการสอน ผวู้ ิจยั ไดด้ ำเนนิ การตามขนั้ ตอนดังน้ี
1.1 ศึกษาหนังสือ ตำรา และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสอนโดยใช้เกมประกอบ
รวมทัง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ภาษาอังกฤษระดบั ประถมศึกษาปีที่ 2
1.2 ศกึ ษาคำศัพท์ในหนังสอื Say Hello 2 บทที่ 6 จำนวน 20 คำ ไดแ้ ก่ goat, duck,
chicken, horse, rabbit, pig, cow, cat, dog, bird, goats, ducks, chickens, horses, rabbits,
pigs, cows, cats, dogs, birds ทีจ่ ะใช้ในการทดลอง
1.3 ศึกษาเทคนิควิธีการสร้างแผนการสอน เอกสารประกอบการสอน และการหา
ประสทิ ธภิ าพของการเรียนการสอนจากหนงั สือ ตำรา เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวขอ้ ง
1.4 สร้างแผนการสอนโดยมีเกมประกอบการสอน จำนวน 4 แผน รายละเอียดการ
สรา้ งแผนดงั น้ี
1.4.1 กำหนดสาระสำคญั ของแผนการสอนแต่ละแผน
1.4.2 กำหนดวตั ถุประสงค์และเนอ้ื หาของแผนการสอนแต่ละแผน
1.4.3 กำหนดกิจกรรมการเรียนการสอนและการวัดผลประเมินผลให้
สอดคลอ้ งกับวัตถุประสงค์ และครอบคลมุ เนอ้ื หาในแต่ละเรอ่ื ง
1.4.4 กำหนดและสรา้ งสอื่ การสอนที่จำเป็นสำหรบั แผนการสอนแตล่ ะแผน
1.5 นำแผนการสอนทีส่ ร้างเรียบร้อยแล้วเสนอผเู้ ช่ียวชาญ 3 ทา่ น เพอ่ื พจิ ารณาความ
ถูกตอ้ งตรวจสอบคณุ ภาพ และ นำไปปรับปรุงแก้ไข
1.6 นำแผนการสอนบางแผนไปทดลองใช้ก่อนจะสอนกล่มุ ตัวอยา่ ง ปรากฏวา่ นกั เรียน
มคี วามสนใจและสนกุ สนานในการเล่นเกม ทำให้จดจำคำศพั ท์ได้งา่ ยขึ้น
2. แบบทดสอบ ผู้วจิ ยั ใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิในการเรียนรู้คำศัพทภ์ าษาอังกฤษ
2.1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิใ์ นการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ จำนวน 1 ชุด เปน็
แบบเรยี งคำจำนวนแบบทดสอบ 20 ข้อ
27
2.2 นำแบบทดสอบเสนอผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน เพื่อพิจารณาความถูกต้องตรวจสอบ
คุณภาพ และ นำไปปรับปรุงแกไ้ ข
การวจิ ัยครั้งนผ้ี ูว้ จิ ัยไดด้ ำเนินการประเมินประสิทธภิ าพเคร่ืองมือ ดงั น้ี
1. ประเมินโดยการตรวจจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้วิจัยได้นำ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียน เสนอต่ออาจารย์ท่ีปรึกษาและผูเ้ ชี่ยวชาญ 3 ท่าน เพื่อตรวจสอบความ ถูกต้องเหมาะสม
และปรับปรงุ แกไ้ ขตามคำแนะนำ ดังมีรายนามดังต่อไปน้ี
- นางอุดร ไกรพินจิ ครู ค.ศ.3 วชิ าเอกสงั คมศึกษา โรงเรียนบา้ นโคกหนองแซง
- นางสาวดารา ละครพล ครู ค.ศ.3 วชิ าเอกประถมศกึ ษา โรงเรยี นบา้ นโคกหนองแซง
- นางนันทภสั ชน่ื ชม ครู ค.ศ.3 วิชาเอกภาษาอังกฤษ โรงเรียนบ้านหนองออ้
ผลการตรวจสอบเครอ่ื งมือของผเู้ ชี่ยวชาญ สรปุ ประเด็นสำคญั ของการแก้ไขและปรบั ปรงุ ดงั น้ี
1.1 แกไ้ ขการเขยี นตัวชี้วัดให้ตรงกบั จุดประสงค์
1.2 แก้ไขรูปภาพใหช้ ดั เจนยิ่งขึ้น
2. สถิตสิ ำหรับคุณภาพของเคร่ืองมือ
คา่ ดชั นีความสองคล้องของผูเ้ ชีย่ วชาญ (Index of Item – Objective Congruence)
หรอื IOC (สมนึก ภัทย์ธินมิ , 2546: 218-220 อา้ งถงึ ใน เหงียน ถิ หญือ อ๊ี 2555: 34)
IOC = R
N
R = ผลรวมคะแนนความคดิ เห็นของผู้เชี่ยวชาญ
N = จำนวนผเู้ ชีย่ วชาญ
การแปลความหมาย คอื
ถา้ IOC >= 0.5 แสดงวา่ ข้อสอบนนั้ วดั วัตถปุ ระสงค์ข้อน้นั จริง
ถา้ IOC <= 0.5 แสดงว่าข้อสอบนั้นไม่ได้วัดวัตถุประสงค์ข้อนั้น
นำข้อมูลที่รวบรวมจากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมาคำนวณหาค่า IOC โดยใช้ดัชนีความ
สอดคล้อง (Index of Item Objective Congruence) ของผู้เชี่ยวชาญมาคำนวณค่าดัชนีความ
สอดคลอ้ ง แลว้ เลอื กคา่ ดชั นีความสอดคล้องต้ังแต่ 0.5 ขน้ึ ไป
28
3. ผลการประเมนิ คณุ ภาพเครือ่ งมือ
ผลการประเมินคุณภาพเคร่ืองมือโดยผ้เู ชยี่ วชาญทัง้ 3 ทา่ นเปน็ ดังน้ี
ตาราง 1 ผลการประเมนิ คณุ ภาพของแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธใ์ิ นการเรียนรูค้ ำศัพท์
เรือ่ งทีป่ ระเมนิ ป ร ะ ม า ณ ค ่ า ค ว า ม เ ห ็ น ข อ ง คา่ IOC แปลผล
ผู้ทรงคณุ วุฒิคนท่ี ใชไ้ ด้
ปรบั ปรงุ
12 3 ใช้ได้
ใช้ได้
1. แบบทดสอบสอดคล้องกบั วตั ถุประสงค์ +1 0 +1 0.6
2. แบบทดสอบสอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หา -1 +1 +1 0.3
3. ความเหมาะสมของคำศัพท์ +1 +1 +1 1
4. เกณฑก์ ารประเมนิ การทดสอบ +1 +1 +1 1
จากตาราง 1 แสดงว่า ผลการประเมินคุณภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้
คำศัพท์โดย ผ้เู ชี่ยวชาญส่วนมากอยู่ในระดับมคี วามเหมาะสมมาก มีค่า IOC เฉล่ยี 0.72
สรุปได้ว่า ผลการประเมินคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบใช้เกม
ประกอบ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์เพ่ือพัฒนาทักษะการสะกดคำศัพท์เรื่อง On the Farm โดย
ผูเ้ ช่ยี วชาญสว่ นใหญ่อยใู่ นระดบั มีความเหมาะสมมากมี คา่ เฉลี่ยสงู กว่าเกณฑ์ท่ีกำหนดไว้คือ 0.5 ดังนั้น
จงึ สามารถนำเครือ่ งมอื ไปทดลองกับกลุม่ ทดลองและกล่มุ ตัวอยา่ ง
4. การเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บรวบรวมข้อมูลการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในภาคเรียนที่ 2 ปี
การศึกษา 2563 เป็นเวลา 4 ชั่วโมง โดยดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านโคกหนองแซง จำนวน 14 คน โดยการพัฒนาทักษะพื้นฐานการ
เขยี น: ทักษะการสะกดคำศพั ทโ์ ดยใช้เกมสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ซง่ึ ไดด้ ำเนินการ ดงั นี้
1. ทำการวดั ผลกอ่ นเรียนให้นกั เรียนทำแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น
2. ดำเนินการสอนกลมุ่ ตัวอยา่ งตามแผนการจัดการเรียนร้โู ดยใช้เกมประกอบ จำนวน 4 ชั่วโมง
3. เมื่อดำเนินการทดลองครบตามกำหนด จึงนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลัง
เรยี น นำไปทดสอบแล้วนำผลการทดสอบทีไ่ ดม้ าวิเคราะห์และแปลผล
29
5. การวิเคราะห์ข้อมูล
5.1 สถิตทิ ีใ่ ชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มูลดงั นี้
1. วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์การพัฒนาทักษะพื้นฐานการเขียน: ทักษะการสะกดคำศัพท์
โดยใชเ้ กมสำหรับนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 โดยใชส้ ูตรของเสาวนีย์ สกิ ขาบัณฑติ (2528 อ้างถึงใน
เหงยี น ถิ หญอื อ๊ี 2555: 36) ซ่งึ กําหนดเกณฑ์ 80/80
80 ตัวแรก หมายถึง ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่ได้จากการทำแบบทดสอบระหว่าง
เรยี น
80 ตัวหลัง หมายถึงร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่ได้จากการทำแบบทดสอบหลังการ
เรยี น
E1 = x 100 ∑ และ E2 = x 100 ∑ x 100
E1 เป็นประสิทธิภาพของกระบวนการที่จัดไว้ในบทเรียน คิดเป็นร้อยละจากการทำ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
E2 เปน็ ประสทิ ธิภาพของผลลพั ธจ์ ากการทำแบบทดสอบหลงั เรยี น
∑ เปน็ คะแนนรวมการทำแบบทดสอบระหว่างเรยี นของนกั เรียน
∑ เป็นคะแนนรวมของนักเรียนจากการทดสอบหลังเรียน
N เป็นจำนวนนักเรยี น
A เป็นคะแนนเตม็ ของแบบทดสอบระหวา่ งเรียน
B เป็นคะแนนเตม็ ของแบบทดสอบหลงั เรียน
5.2 คุณภาพของแบบทดสอบผลสมั ฤทธิ์
1) หาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบทดสอบโดยหาค่าดัชนีความ
สอดคลอ้ ง (IOC) โดยใช้สตู รของ Rowinelli and Hambleton (ล้วนสายยศและอังคณาสายยศ 2543:
249) โดยใชส้ ตู ร
IOC = ΣR
เม่อื IOC แทน ดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์การ
เรียนรู้
ΣR แทน ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเชิงเนื้อหาวิชา
ทัง้ หมด
30
N แทน จำนวนผเู้ ชยี่ วชาญเนอื้ หาวิชา
สถติ ทิ ีใ่ ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มูล
1. หาค่าเฉลี่ยของคะแนนทดสอบก่อนและหลังเรียน ( ) โดยคำนวณจากสูตร ดังนี้
(บญุ ธรรม กิจปรดี าบริสุทธ์ิ. 2543: 351)
สูตร =
เม่อื แทน คะแนนเฉล่ีย
แทน ผลรวมของคะแนนทง้ั หมด
แทน จำนวนขอ้ มลู
2. หาค่าความเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของคะแนนทดสอบก่อนและหลังเรียน ใช้
สตู ร ดังน้ี (บุญธรรม กิจปรีดาบรสิ ทุ ธ์ิ. 2543 : 352)
สูตร S.D. = ()− (2 )
( −)
เมอื่ S.D. แทน ความเบยี่ งเบนมาตรฐาน
แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด
2 แทน ผลรวมของกำลังสองของคะแนนทงั้ หมด
แทน จำนวนข้อมูล
3. หาค่าดัชนีความสอดคลอ้ งระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้ โดยคำนวณจากสตู ร
ดังน้ี (พวงรตั น์ ทวรี ตั น์. 2540: 117)
สตู ร IOC = R
เม่ือ IOC แทน
ดชั นคี วามสอดคล้องระหวา่ งข้อคำถามกับลกั ษณะ
พฤติกรรม
R แทน ผลรวมของคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้าน
เนอ้ื หาทงั้ หมด
แทน จำนวนผู้เชีย่ วชาญ
4. หาค่าความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนกของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียน โดยใชเ้ ทคนิค 27% โดยใชส้ ูตรดงั น้ี (บญุ ธรรม กจิ ปรีดาบรสิ ุทธิ์. 2543: 177-178)
31
สูตร p= pH + pL
2n
เมือ่ pH แทน
pL แทน r = pH − pL
n แทน
n
จำนวนนักเรยี นท่ตี อบถกู ในกลมุ่ สูง
จำนวนนักเรียนตอบถูกในกลมุ่ ต่ำ
จำนวนนกั เรยี นในกลมุ่ สงู หรอื กลุม่ ต่ำ
5. หาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้สูตร KR-20
ของ Kuder - Richardson (พวงรัตน์ ทวีรตั น์. 2540: 123)
สูตร r tt = − pq
−1 st2
เมอ่ื r tt แทน คา่ ความเชือ่ มนั่ ของแบบทดสอบทง้ั ฉบับ
แทน จำนวนข้อในแบบทดสอบ
สดั ส่วนของผทู้ ำได้ในขอ้ หน่งึ ๆ
p แทน สัดส่วนของผทู้ ำผดิ ในขอ้ หนง่ึ ๆ คือ 1- p
ความแปรปรวนของคะแนนแบบทดสอบทง้ั ฉบบั
q แทน
s 2 แทน
t
6. หาประสิทธิภาพของทักษะการสะกดคำศัพท์โดยใช้เกมสำหรับนักเรียนช้ัน
ประถมศึกษาปีท่ี 2 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (E1/E2 = 80/80)
ดังนี้
E1 =
100
เม่อื E1 แทน ประสิทธิภาพของกระบวนการสะกดคำศัพท์โดยใช้เกม
สำหรับนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 หาได้จากคะแนนการทำกิจกรรมระหว่างเรยี นได้ถกู ต้องโดยเฉลี่ย
ร้อยละ 80
แทน คะแนนรวมของนักเรียนทุกคนที่ได้จากการทำกิจกรรมใน
บทเรียน
แทน คะแนนเต็มของกจิ กรรมทุกกิจกรรมรวมกัน
32
E2 = F
100
เมื่อ E2 แทน ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ที่ได้จากคะแนนเฉลี่ยจากการทำ
แบบทดสอบหลังเรยี นบทเรยี นไดถ้ กู ต้องโดยเฉลยี่ ร้อยละ 80
F แทน คะแนนรวมของนักเรียนทุกคนที่ได้จากการทำ
แบบทดสอบหลังเรียน
B แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบ
แทน จำนวนนกั เรียนในกลมุ่ ตวั อยา่ งท้ังหมด
7. เปรียบเทยี บคะแนนเฉล่ยี ระหวา่ งคะแนนผลการทดสอบหลังเรียนกับคะแนนเฉลี่ย
กอ่ นเรยี น โดยใช้ t-test สตู รดังน้ี
t= D
D − (D)2
−1
เม่อื t แทน คา่ ที่จะใชพ้ ิจารณา t – distribution
D แทน ผลรวมของความแตกต่างระหว่างคะแนนสอบก่อนเรียน
และหลงั เรียนของนักเรยี นแต่ละคน
N แทน จำนวนนกั เรียน
D2 แทน ผลรวมของกำลังสองของความแตกต่างระหว่างคะแนน
สอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี นของผู้เรียนแต่ละคน
df = -1