บรรทัดฐานทางสังคมชาวมอญ
บานพระเพลิง
ตำบลนกออก อำเภอปกธงชัย จังหวัดนครราชสีมา
คณะมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
คณะกรรมการศึกษาบรรทัดฐานทางสังคมชาวมอญ
1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สถิต จำเริญ ประธานกรรมการ
2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิทักษ์ชัย เดชอุดม รองประธานกรรมการ
3. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สายยนต์ ชาวอุบล กรรมการ
4. ผู้ช่วยศาสตราจารย์เอกอมร ภัทรกิจพงศ์ กรรมการ
5. อาจารย์วลัยรัตน์ โพธิสาร กรรมการ
6. อาจารย์ฐิตารีย์ เปรมวิไลศักดิ์ บุญศักดิ์ กรรมการและเลขานุการ
บรรทัดฐานทางสังคมชาวมอญบานพระเพลิง
ตำบลนกออก อำเภอปกธงชัย จังหวัดนครราชสีมา
ข้อมูลพื้นฐานของบ้านพระเพลิง
บ้านพระเพลิง ตำบลนกออก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยู่ทาง
ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตำบลนกออก มีพื้นที่ทั้งสิ้น 3,642 ไร่ พื้นที่มีลักษณะ
เป็นที่ราบลุ่ม ลักษณะของชุมชนอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม มีที่นาหรือที่ทำกินอยู่ล้อมรอบ
พื้นที่ของหมู่บ้าน ด้านทิศใต้ติดกับลำพระเพลิง บ้านพระเพลิงเป็นหมู่บ้านที่มีจำนวน
ประชากรประมาณ 930 คน จำนวน 259 ครัวเรือน อยู่ห่างจากตัวอำเภอปักธงชัยมา
ทางตอนใต้ประมาณ 8 กิโลเมตร การเดินทางสู่บ้านพระเพลิง ส่วนใหญ่ใช้เส้นทาง
หลักคือถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 (นครราชสีมา - กบินทร์บุรี เลี้ยวเข้าสู่
ถนนปักธงชัย-โชคชัย)
ปัจจุบันภาษาที่ใช้พูดกันคือภาษาไทยโคราชและภาษากลาง ส่วนภาษามอญจะ
ใช้พูดในชาวไทยมอญที่อายุเกิน 100 ปีขึ้นไป ปัจจุบันมีคงเหลือเพียง คุณยายน้อม
ครุฑสระน้อย ที่มีอายุกว่า 96 ปี ท่านยังสามารถพูดคุยภาษามอญได้ ส่วนการแต่งกาย
ที่แสดงอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์จะแต่งเฉพาะวันสำคัญประเพณีและการประกอบ
พิธีกรรมเท่านั้น เช่น การบวงสรวงหลวงปู่ฉิม งานประเพณีวันสงกานต์ เป็นต้น
อาชีพของคนในหมู่บ้านส่วนมากประกอบอาชีพทำนาเพราะเป็นพื้นที่ลุ่มและมีแหล่งน้ำ
อุดมสมบูรณ์
จุดเด่นของเป็นชุมชนคือซุ้มประตู “ชุมชนมอญบ้านพระเพลิง” แสดงให้เห็นว่า
ชุมชนบ้านพระเพลิงเป็นชุมชนมอญที่เก่าแก่ เมื่อลอดซุ้มเข้ามาแล้วจะพบว่าสองข้าง
ทางจะมีเสาหงส์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาวมอญและป้ายคำขวัญหมู่บ้าน และมีศาลปู่
ตา (พ่อใหญ่จอมทอง แม่ละอองสำลี) และมีวัดพระเพลิง (วัดหงส์ธรรมขิกดาราม)
เป็นวัดประจำหมู่บ้านแสดงถึงเอกลักษณะการเป็นชาวมอญ และมีพระครูทักษิณา
รามัญ (หลวงปู่ฉิม) ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังของหมู่บ้าน
ที่มาของชื่อหมู่บ้าน
“บ้านพระเพลิ้ง” เป็นชื่อหมู่บ้านที่มีที่มาชื่อของพระ
มอญรูปหนึ่งท่านชื่อว่า "เสิ่ง" อพยพมาพร้อมชาวบ้านมอญ
กลุ่มหนึ่งมาปลูกเพิ่ง (หมาแหงน) เอาไว้จำพรรษาในเขต
พื้นที่หมู่บ้านนี้ ก็เลยถูกเรียกว่าพระเพิ่งๆ มาตั้งแต่ตอนนั้น
จากนั้นจึงค่อยๆ กลายเพี้ยนจนมาเป็นชื่อ “พระเพลิง” ชาว
มอญที่บ้านพระเพลิง ตำบลนกออก อำเภอปักธงชัยนั้น
เป็นกลุ่มชาติพันธุ์มอญที่ได้ข้อมูลจากเอกสารทาง
ประวัติศาสตร์และคำบอกเล่าของผู้สูงอายุในหมู่บ้านทำให้
ทราบว่าซาวมอญอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่บ้านพระเพลิง 2
ครั้ง โดยครั้งแรกชาวมอญได้อพยพเข้ามาในสมัยพระเจ้า
กรุงธนบุรี (พ.ศ.2319) ทรงพระราชทานครัวมอญเป็นรางวัล
แก่พระยานครราชสีมา เมื่อคราวศึกอะแซหวุ่นกี้ โดยให้พระ
ศรีราชรามัญเป็นหัวหน้าควบคุมครัวมอญเดินทางมา
นครราชสีมาโดยใช้เส้นทางปราจีนบุรี ครัวมอญส่วนหนึ่งตั้ง
บ้านเรือนที่บ้านพลับพลา อำเภอโชคชัย ส่วนพระศรีราชา
รามัญและเครือญาติมาตั้งถิ่นฐานในเมืองนครราชสีมา
บริเวณหลักเมือง เรียกตรอกมอญ (บ้านมอญ) การอพยพ
ครั้งที่ 2 สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯ
ให้พระยามหาโยธา (ทอเรียะ) คุมกองมอญมาสมทบกับ
กองทัพของกรมพระราชวังบวรศักดิพลเสพย์ที่เมือง
นครราชสีมา ในปีพ.ศ.2336 เพื่อปราบขบถเจ้าอนุวงศ์ แห่ง
เวียงจันทน์ เมื่อเสร็จศึกแล้วเดินทางกลับทางปักธงชัย ด่าน
สะแกราช เห็นทำเลดีมีความอุดมสมบูรณ์ จึงปักหลักตั้งบ้าน
เรือนสมทบกับชาวมอญที่อยู่เดิม ปัจจุบันชาวมอญที่บ้าน
พระเพลิง บ้านนกออก บ้านท่าโพธิ์ อำเภอปักธงชัยจึงยัง
รักษาประเพณีแบบมอญบางส่วนไว้ เช่น การไหว้ผีมอญ
การเล่นสะบ้า ประเพณีทางพุทธศาสนา และภาษา เป็นต้น
บรรทัดฐานทางสังคมชาวมอญจากเรื่องเล่าชาวบ้านพระเพลิง
จากการลงพื้นที่บริการวิชาการและสนทนากลุ่ม พบว่าชุมชนบ้านพระเพลิงมี
บรรทัดฐานทางสังคมที่มาควบคุมความประพฤติของคนในหมู่บ้านอย่างไรบ้างที่
ทำให้สังคมหมู่บ้านอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขไม่ค่อยมีคดีความต่างๆ โดยบรรทัดฐาน
ทางสังคมชาวมอญบ้านพระเพลิงประกอบไปด้วย ศาสนา ศีลธรรม จารีตประเพณี
และกฎหมาย
1. ศาสนา
คำสอนของศาสดาที่สอนให้คนเป็นคนดีเป็นเรื่องความเชื่อและความสัทธา
ชาวบ้านพระเพลิงนับถือศาสนาพุทธ
มีวัด 1 แห่ง คือวัดพระเพลิง (วัดหงส์ธรรมขิกดาราม) เป็นวัดประจำหมู่บ้านแสดงถึง
เอกลักษณะการเป็นชาวมอญเพราะมีรูปหล่อหงส์สำริดที่นำมาจากหงสาวดีเมื่อครั้ง
อพยพมาตั้งถิ่นฐานครั้งแรก มีคัมภีร์ใบลานที่จารึกเป็นภาษามอญและภาษาขอม
ภาพ : วัดพระเพลิง
วัดแห่งนี้มีรูปหล่อของพระครูทักษิณา
รามัญ (หลวงปู่ฉิม) ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ที่ชาว
บ้านพระเพลิงและประชาชนทั่วไปให้สักการะ
นับถือ เลื่อมใสสัทธาและมาขอพรให้
แคล้วคลาดปลอดภัย ให้ได้โชคลาภ หรือ
บนบานศาลกล่าวให้สอบติดตำรวจหรือสอบ
เข้าเรียนต่อ บรรจุรับราชการหรือโยกย้าย
การขอให้มีบุตร แม้กระทั้งแม่ขอให้ลูกชาย
ติดทีมชายได้เป็นนักฟุตอบอลทีมชาติไทย
(นายอานนท์ สังข์สระน้อย) คนในชุมชนจึงมี
การบวงสรวงด้วยการรำบวงสรวงท่านใน
ทุกๆ ปี
ภาพ : พระครูทักษิณารามัญ (หลวงปู่
บทบาทของวัดพบว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในหมู่บ้าน ในการทำบุญ
ตักบาตร และทำบุญวันสำคัญทางศาสนาทำให้เกิดการรวมตัวกันของคนใน
ชุมชนเกิดความรักใคร่ปรองดองกันและรู้สึกรักพวกพ้องเพราะส่วนใหญ่เป็นคน
ดั่งเดิมในพื้นที่กว่าร้อยละ 95 ส่งผลทำให้ในการทำบุญประเพณีหรือกิจกรรม
ต่างๆ ก็ดำเนินกิจกรรมได้สำเร็จลุล่วง อีกทั้งหากมีงานศพ งานบวช เจ้าภาพ
ก็ไม่จำต้องบอกกล่าว หรือไม่ต้องแจกการ์ดเชิญเพราะถือว่าเป็นที่รู้กันว่าจะต้อง
ไปช่วยงานจะถือข้าวสารถือขันมาร่วมงานซุม พบว่า ในงานบุญเข้าพรรษาจะมี
การแบ่งหน้าที่กันเป็นซุมในการเป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงพระทำบุญในวันพระของ
ช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน โดยจะเวียนกันไปตามซุมโดยที่มิได้นัดหมายกัน แต่จะ
เป็นที่รู้กันว่าวันพระนี้จะเป็นของซุมไหน ซึ่งถือว่าเป็นอัตลักษณ์ของบ้านพระ
เพลิงที่เป็นจุดเด่น
ภายในวัดมีป้ายที่แสดงให้เห็นถึงการสอนหลักธรรมหรือปริศนา
ธรรมต่างๆ ไว้บนตนไม้ หรือข้อตกลงร่วมกันในการไม่ดื่มสุราในวัด
สอดคล้องกับศีล 5 หรือเบญจศีล 5 ที่เป็นหลักคำสั่งสอนของ
พระพุทธเจ้าที่มอบไว้เป็นหลักธรรมและคุณธรรมพื้นฐาน 5 ข้อให้ชาว
บ้านพระเพลิงซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนยึดถือปฏิบัติ
ศีลข้อที่ 1 ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ
ศีลข้อที่ 2 อทินฺนาทานา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ
ศีลข้อที่ 3 กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ
ศีลข้อที่ 4 มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ
ศีลข้อที่ 5 สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ
ภาพ : ปริศนาธรรม
2. ศีลธรรม
ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีภายในจิตใจของมนุษย์
คำสอนของพ่อแม่ปูยายตายายที่เชื่อและสัทธาต่อหลวงปู่ฉิมแล้วนำมาอบรม
สั่งสอนลูกหลานด้วย และให้ปฏิบัติสืบต่อกันมาเรื่อยๆ จนถึงยุคปัจจุบัน หลวงปู่ฉิม
จึงถือว่าหลักธรรม หลักยึดเหนี่ยว ศีลธรรม จิตใจ คำสอนไปถึงลูกถึงหลานส่งผล
ทำให้คนรุ่นใหม่มีศีลธรรมและเชื่อฟังพ่อแม่ทำให้ประสบความสำเร็จ เช่น สอบเข้า
ศึกษาต่อสาขาเภสัชศาสตร์ได้ คนในหมู่บ้านเชื่อว่าหลวงปู่ฉิมท่านค่อยปกปักรักษา
เช่น เรื่องซุ้มประตูที่ช่างมาทำซุ้มประตูแล้วตกลงมาจากข้างบนแล้วพาดกับราว
สะพานคอนกรีต เขาบอกเขาไม่ได้เป็นอะไรเลย เขาก็บอกว่ามีมือสีเหลืองเลยไป
รองรับเขาไว้ อันนี้คือประสบการณ์จริงที่อยู่ในช่วงนี้ ไม่ใช่อดีตกาล ถ้าอดีตกาลสมัย
โน้นก็จะเป็นเรื่องเล่า ก็จะมีนักศึกษาจากโรงพยาบาลหัวเฉียวเขามาขี่รถพ่วงไปซื้อ
น้ำแข็ง ตรงทางแยก ตรงสะพาน รถชนกัน คนกระเด็นออกจากรถแกบอกว่ามีพระ
มารับแกวางไว้ แกไม่เป็นอะไรเลย แต่รถพังคนเขาเลยเชื่อและสัทธา และอีกเรื่อง
คือมีชาวบ้านคนหนึ่งเขาแขวนหลวงปู่ฉิมตอนเขาจะไปทหารเกณฑ์ คนนั้นตอนนี้
อายุ 60 กว่าแล้ว ตอนไปทหารเกณฑ์นั่งกินข้าวกันอยู่ที่ศรีสะเกษแล้วที่นี้ลุงเปลี่ยน
ที่นั่งกับเพื่อน เพื่อนจะตัวเล็กก็เลยขอไปนั่งบนขอนไม้ ให้ลุงลงมานั่งข้างล่างพอ
เปลี่ยนกันได้ พอเพื่อนไปนั่งปั๊ปเขายิงมา เพื่อนก็ตกตายตรงนั้นเลย จึงเชื่อว่ามีหล
วงปู่ฉิมที่แขวนไว้คุ้มครองภัยอันตราย หรือโทรหายหาไม่เจอ ก็ไปบนหลวงปู่ บน
ด้วยหัวหมู 2 หัวขอให้เจออยากได้คืนภายในวันนี้ ปรากฏว่าสามทุ่มมีคนโทรมาว่า
เจอโทรศัพท์แล้ว ตกอยู่ตรงที่นั่งเซ็นต์เอกสารข้างต้นไม้ แล้วก็ได้คืนจริงๆ ซึ่งเป็น
ความเชื่อของแต่ละบุคคล
ความรักสามัคคีของคนในหมู่บ้าน เพราะเป็นคนดั่งเดิมทำให้มีความรักบ้าน
เกิดรักพวงพร้องและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในการพิธีกรรมต่างๆ หรืองานจิต
อาสา เช่น การลอกคลองน้ำข้างหลังวัด การเข้าเวรยามหรือดูแดผู้ติดเชื้อโควิด-19
ยึดหลักคำสอนของพ่อหลวง มีการนำแนวพระราชดำรัสหรือหลัก
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต และเผยแพร่พระราช
ดำรัสให้ชาวบ้านได้เห็นเพื่อเป้นแนวปฏิบัติไว้ในภายในวัด
ภาพ : พระราชดำรัส
สรุป ชาวบ้านพระเพลิงเป็นผู้มีศีลธรรม
เพราะยึดถือปฏิบัติตามคำสอนของบิดามารดา
ปู่ย่าตายาย ศาสนาและสถาบันพระมหา
กษัตริย์ และส่งเสริมให้บุตรหลายเข้าศึกษาต่อ
ในระดับที่สูงขึ้นเพื่อให้มีหน้าที่การงานที่ดี รวม
ทั้งมีความเป็นเครือญาติในชุมชนดั่งเดิมทำให้มี
ความรักพวกพร้องและมีความสามัคคีกัน
3. จารีตประเพณี
สิ่งที่ประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมานมนาน
ปัจจุบันชาวมอญในนครราชสีมาส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติตามประเพณีและ
พิธีกรรมประจำชีวิตแบบมอญ อันได้แก่ การบวช การแต่งงาน และการตาย และ
พิธีกรรมฮีตสิบสองของมอญเริ่มมีตั้งแต่เดือนห้าเป็นต้นไป
ฮีตสิบสองของมอญที่คล้ายกับฮีตสิบสองของอีสานมี 6 ประเพณี คือ
เดือนห้ามีบุญสงกรานต์ เดือนหกมีการเลี้ยงผีบ้านผีเรือนและผีบรรพบุรุษ เดือน
แปด มีบุญเข้าพรรษา เดือนสิบมีบุญสารท เดือนสิบเอ็ดมีบุญออกพรรษาและ
บุญเทศน์มหาชาติ และเดือนสิบสองมีบุญกฐิน ส่วนประเพณีและพิธีกรรมใน
เดือนอื่นๆ ไม่ตรงกับฮีตสิบสองของอีสาน
ประเพณีที่ชาวมอญบ้านพระเพลิงเห็น
ว่ายังมีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติอยู่และชาว
บ้านก็ได้กระทำกันตลอดมา เช่น ประเพณี
เกี่ยวกับการเกิด การบวช การแต่งงาน การ
ตาย และประเพณีของการประกอบพิธีกรรม
การเลี้ยงผีมอญ ซึ่งเป็นประเพณีที่เกี่ยวข้อง
กับชีวิต เช่น ประเพณีการเลี้ยงผีบ้านผีเรือน
และการเลี้ยงพระภูมิในเดือนหก
ส่วนพิธีกรรมรำผีโรง เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว
ชาวมอญบ้านพระเพลิงเล่าว่าประกอบพิธีกรรม
เป็นประจำเมื่อมีคนเจ็บป่วยเกิดขึ้นภายในบ้าน
ถือว่าเป็นการผิดผี ต้องทำพิธีกรรมรำผีโรงเพื่อ
รักษา แต่ปัจจุบันมีการรักษาพยาบาลที่ทันสมัย
ขึ้น การรำผีโรงจึงหายไปพร้อมๆ กับผู้เฒ่าผู้แก่ที่ล่วงลับไปด้วย มีเพียงแต่การรำผี
โรงเพื่อใช้ในการแสดงในเทศกาลของเมืองปักธงชัยเท่านั้น
ความเชื่อเรื่องเทวดาอารักษ์และภูตผีเป็นความเชื่อเหนือธรรมชาติที่คนในภาคอีสาน
มีความเชื่อว่ามีจริงชาวมอญบ้านพระเพลิงมีความเชื่อในเรื่องนี้เช่นกันเห็นความ
สำคัญของผีในแต่ละครอบครัวแตกต่างกันออกไป ชาวมอญเชื่อว่าผีบรรพบุรุษเป็น
ผีประจำตระกูลของตอน หมายถึง ผีพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ที่ตายไปแล้ว ดวงวิญญาณ
ที่ยังไม่ไปเกิดมาสิงสถิตคอยรักษาลูกหลานตนเองทุกครอบครัว เป็นผีประครอบครัว
ดูแลคนในครอบครัว
ผีปู่ตา หรือศาลปู่ตา (พ่อใหญ่จอมทอง แม่ละอองสำลี) ผีประจำหมู่บ้านให้
ความคุ้มครองทุกคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านพระเพลิงให้ได้รับความสุข ซึ่งปัจจุบันขาว
มอญบ้านพระเพลิงยังคงรักษาและประกอบพิธีกรรมเลี้ยงผีปู่ตาอยู่เป็นประจำโดย
จะจัดในวันขึ้นหกเดือนหกพิธีกรรมเลี้ยงศาล
ตาปู่ โดยนำขนมหวาน หมากพลู ยา ดอกไม้
ต่างๆ เพื่อขอตาปู่ให้ปกปักรักษาชาวบ้าน
โดยมีการฟ้องรำ ตีโทน เมื่อเข้าสู่พิธีกรรม
แล้วท่านจะมาเข้าสิงร่างคนที่มาร่วมงาน
แล้วชาวบ้านจะถามตาปู่ เกี่ยวกับสภาพดิน
ฟ้าอากาศ ความสุขสงบร่มเย็นของคนใน
ชุมชน และขอพรต่างๆ เป็นต้น
4. กฎหมาย
กฎเกณฑ์แบบแผนควบคุมความประพฤติของมนุษย์มีกระบวนการ
บังคับที่เป็นกิจจลักษณะ
บ้านพระเพลิง เป็นหมู่บ้านในเขตปกครอง
อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ตาม
กฎหมายตามแบบพิธี คือพระราชบัญญัติ ชื่อว่า
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
พ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน (ฉบับที่ 8)
พ.ศ. 2553
มีผู้ใหญ่บ้านชื่อนางเรไร อุ่นใจ โดยผู้ใหญ่บ้านมี
อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายแบบพิธี คือ พระ
ราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธ
ศักราช 2457 ตามมาตรา 10 บัญญัติว่า
“ผู้ใหญ่บ้านมีอำนาจหน้าที่ปกครองบรรดา
ราษฎรที่อยู่ในเขตหมู่บ้าน”
การใช้กฎหมาย พบว่ากฎหมายช่วยทำให้สังคมสงบจริง แต่ในบางครั้งจะนำ
กฎหมายมาใช้มากก็ไม่ได้เนื่องจากการที่ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ปกครองชุมชน เพราะถ้ายึด
กฎหมายอย่างเดียวก็จะเป็นการข่มขู่ เป็นการทำให้คนในชุมชนคิดทางลบกับผู้นำ
อะไรก็จะอ้างว่าผิดกฎหมาย แต่ต้องยอมรับฟังความคิดเห็น มีการตักเตือนก่อน และ
ขอความร่วมมือ กล่าวคือถ้าเขาไม่ปฏิบัติตามอย่างไร บางครั้งมันเป็นเรื่องการผิดทาง
กฎหมาย ก็จะประชาสัมพันธ์ให้รู้ว่าถึงตอนนั้นใครก็ช่วยใครไม่ได้ถ้าทุกคนไม่ปฏิบัติ
ตาม อย่างเรื่องโควิดต้องติดต่อผู้นำ ติดต่อคุณหมอก่อนว่าจะมาอะไรอย่างแล้วถ้าเขา
ให้กักตัวเราก็ต้องปฏิบัติตาม ในตำบลของหมู่บ้านพระเพลิงต้องปฏิบัติตามไม่มีข้อ
ยกเว้น ถ้าเกิดกรณีก็ต้องใช้กฎหมายช่วย ถ้าลักเข้ามาจะนำเชื้อหรือไม่นำเชื้อเข้ามาก็
ถือว่าผิดตั้งแต่ลักเข้ามาแล้ว ถ้าผู้ใหญ่ไม่สามารถที่จะพูดให้กับคนในชุมชนบางรายที่
อาจจะต่อต้าน บางครั้งสุดท้ายผู้ใหญ่บ้านก็อาจจะต้องให้คนที่มีอำนาจมากกว่าเข้ามา
ช่วยคุม ไม่ใช่ว่ามาจับหรือมาอะไร ต้องมาช่วยดูให้เป็นเรื่องที่ถ้าเกิดขึ้นมาแล้วมัน
เดือดร้อนทั้งหมู่บ้านทั้งชุมชน ไม่ใช่เดือดร้อนแต่ผู้ใหญ่บ้านคนเดียว จึงต้อง
ประชาสัมพันธ์และขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ
เช น ถ าม ครอบคร วใดท จะไปร บล กกล บมาจากพ นท เส ยง 10 จ งหว ด
ก จะไม อน ญาตให ไปร บกล บมา ม ครอบคร วหน งขอไปร บล กท นครปฐมท อย
ใน 10 จ งหว ดท แดงเข ม ก จะหาทางออกร วมก นว าไม ไปร บได ไหม ถ าไปร บ
ค ณพ อ ค ณแม ก จะต องก กต วด วย เอาเป นว าให ล กเด นทางมาแล วให ล กด แล
ต วเอง และถ าไม ก กก ไม ได เร องน เลยต องเอากฎหมายมาช วย ถ าไม อย างน น
จะไม สามารถควบค มป ญหาท เก ดข นได ด งน นถ าเป นเร องท เก ยวก บส งคม
ภาพรวม หร อกฎหมายในระด บประเทศ ผ ใหญ บ านฐานะผ น ก ต อง
ประชาส มพ นธ ให ทราบ ต องขอความร วมม อในระด บหน งก อน แต ก ต อง
ช แจงให ชาวบ านเข าใจ ค อถ าค ณท ผ ดในเร ององค ประกอบซ งเป นฐาน
ความผ ด ก ช วยไม ได เพราะถ อว าได บอกและแจ งให ทราบแล ว
ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พบว่ามีข้อพิพาทเล็กๆน้อยๆ เช่น
เรื่องที่นาติดกัน ผู้ใหญ่ใช้วิธีการอย่างไรในการไกล่เกลี่ย กรณี
ต้องพิจารณาก่อนผู้ใหญ่บ้านมีอำนาจหรือไม่ เพียงใด ถ้าเป็นเรื่อง
ที่แปลงนั้นมีทางสู่สาธารณะ ก็มีอำนาจไปชี้แจง ไปชี้เขต ที่ดินจะ
ให้สิทธิของผู้ใหญ่ก่อน แม้ว่าพื้นที่ของเกษตรกรจะถึงไม่จริงแต่
ถ้าหากว่ามีเหตุขัดข้องอย่างไรก็สามารถที่จะขอได้ มีการเจรจาต่อ
รอง เช่น ทางแคบไปขอขยายเพิ่มในเขตของคุณจะได้ไหม เพื่อ
เป็นประโยชน์ร่วมกัน แต่ถ้าไม่ติดทางสาธารณะผู้ใหญ่บ้านจะไม่มี
อำนาจ แต่ชาวบ้านก็จะมาแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ แต่ก็ต้องชี้แจง
ว่าเรื่องผู้ใหญ่ตัดสินไม่ได้ว่าใครผิดใครถูกในเรื่องของที่ดิน แต่จะ
แนะนำให้ไปติดต่อที่ที่ดินอำเภอ เจ้าพนักงานที่ดินจะได้ลงพื้นที่มา
ดูสถานที่จริงเพราะต้องมีค่าใช้จ่าย ค่าดำเนินการ ดังนั้นผู้ใหญ่
บ้านจะแนะนำก่อนเพื่อที่จะได้ไม่เป็นกรณีพิพาทไปถึงลูกหลาน
และเรื่องกรณีปัญหาเรื่องปลูกกัญชา มีผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งเห็น
ความผิดเลยแจ้งตำรวจมาจับเลย ซึ่งข้อเท็จจริงพบว่าคนในชุมชน
เห็นว่าคนนั้นต้มกัญชาหรือปลูกกัญชาไว้เพื่อจะรักษาพี่สาวที่
ป่วยเป็นโรคที่ต้องรักษาด้วยกัญชา คนที่ถูกจับไปต้อง
ตายในคุก ทำให้ผู้ใหญ่คนนั้นรู้สึกผิดมากที่ไม่ยอดพูดคุย
ก่อนหรือเตือนก่อน
บทบาทของกฎหมายกับงานศพ พบว่ากฎหมายก็เริ่มมีบทบาทมา
ควบคุมมากขึ้นกว่าสมัยก่อน เช่น กรณีงานศพไม่เหมือนเมื่อก่อนเล่นไฮโลเล่น
อะไรอย่างนี้ ปัจจุบันเจ้าพนักงานตำรวจเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่า มีการโทรศัพท์
มาแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบว่ามีการเล่นการพนันให้พนักงานฝ่ายปกครองคือ
ผู้ใหญ่บ้านไปตรวจสอบ กรณีนี้ผู้ใหญ่ได้แจ้งให้เจ้าภาพทราบเลยว่า เจ้าภาพ
ต้องอยู่ประจำตลอดเวลาในงานหากพบว่ามีคนที่เล่นไฮโลในงานเจ้าภาพเป็นผู้
มีความผิดร่วมด้วยถือว่าปล่อยให้คนอื่นมาเล่น ดังนั้นเจ้าภาพจะต้องเป็นคน
ผิดคนแรก กรณีปัญหาเรื่องการเล่นไฮโลหรือการพนัน ยังไม่ได้เขียนกติกาแต่
ใช้วิธีพูดคุยกับเจ้าภาพไว้แล้วว่ามันผิดกฎหมาย ถ้าตำรวจมาเจ้าภาพต้องรับ
ผิดชอบเอง
ดังนั้น ประเทศไทยเป็นระบบกฎหมาย Civil Law หรือกฎหมายลาย
ลักษณ์อักษร การตรากฎหมายออกมาใช้บังคับ ประชาชนก็ต้องทำตามหรือ
ทางกฎหมายอาญาในเรื่องการพนัน แต่สังคมจะสงบสุขจะอาศัยเพียงแต่
กฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ ดังนั้นความเชื่อถือในหลวงปู่ฉิมที่ชาวพระเพลิง
เคารพสักการะ รวมทั้งจารีตประเพณีที่สืบต่อกันมามีการประพฤติปฏิบัติกันมา
เหล่านี้เป็นจุดเด่นของชุมชนชาวมอญบ้านพระเพลิง
นอกจากนี้หมู่บ้าน วัด ได้มีการว่างกฎกติกาเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย
และศีลข้อที่ 5 นำมาเขียนเป็นกฎกติการ่วมกัน ดังภาพนี้
ภาพ : กฎกติกา
จากการลงพื้นที่บริการวิชาการของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ณ บ้านพระเพลิง ตำบลนกออก อำเภอ
ปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมาทำให้ได้องค์ความรู้เรื่อง “บรรทัดฐานทางสังคม
ชาวมอญบ้านพระเพลิง” พบว่า บรรทัดฐานทางสังคมชาวมอญบ้านพระเพลิง
นั้นประกอบไปด้วย ศาสนา ศีลธรรม จารีตประเพณีและกฎหมาย ที่ผู้นำชุมชน
และคนในชุมชนนำมาใช้ในการควบคุมความประพฤติของคนในสังคมให้อยู่ร่วม
กันอย่างสงบสุข โดยใช้ให้สอดคล้องและเป็นไปวิถีชุมชนและสถานการณ์ใน
ปัจจุบัน เช่น การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ต้องนำกฎหมายบ้านเมือง
มาบังคับใช้ในการกักตัวหรือแจ้งผู้นำชุมชนในการควบคุมการแพร่ระบาดของ
เชื้อโรค ซึ่งประชาชนจำต้องปฏิบัติตามเพราะเป็นพระราชกำหนดการบริหาร
ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 แต่อย่างไรก็ตามชาวมอญบ้านพระ
เพลิงก็ปฏิบัติตามประเพณีและพิธีกรรมประจำชีวิตที่สืบทอดกันมาจาก
บรรพบุรุษ มีการสั่งสอนบุตรหลานให้มีศีลธรรมและให้เชื่อสัทธาในหลวงปู่ฉิม
และมีวัดพระเพลิงเป็นศูนย์รวมจิตใจและทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน
ขอขอบคุณ
สถานที่ : วัดพระเพลิง (วัดหงส์ธรรมขิกดาราม)
บ้านพระเพลิง
ผู้ให้ข้อมูล : ผู้ใหญ่บ้าน
อ้างอิง
ศราวุฒิ แคพิมาย. (2558). เรือนมอญภายใต้รูปลักษณ์เรือนไทโคราช กรณีศึกษาบ้านพระเพลิง
ตำบลนกออก อำเภอปังธงชัย จังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น ภาควิชาสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร. หน้า 50.
โคราชในอดีต. (2564). [ออนไลน์]. แหล่งที่มา https://www.facebook.com/korat.in.the.past/
posts/3740376992697705/[5 มีนาคม 2564]
โคราชในอดีต. (2564). [ออนไลน์]. แหล่งที่มา https://www.facebook.com/korat.in.the.past/
posts/3740376992697705/[5 มีนาคม 2564].
พัซรินทร์ เวียงชัย. (2546). แนวคิดในการอนุรักษ์ชุมชนไท-โคราช กรณีศึกษา : หมู่บ้านพระเพลิง.
หน้า 33. อ้างถึงในศราวุฒิ แคพิมาย. (2558). หน้า 48.
นฤมล ปิยวิทย์. (2550). กลุ่มชาติพันธ์ในจังหวัดนครราชสีมา. อ้างถึงในในศราวุฒิ แคพิมาย.
(2558). หน้า 10-11.
ศราวุฒิ แคพิมาย. (2558). เรือนมอญภายใต้รูปลักษณ์เรือนไทโคราช กรณีศึกษาบ้านพระเพลิง
ตำบลนกออก อำเภอปังธงชัย จังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น ภาควิชาสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร. หน้า 49-50.