The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จ้าว, 2022-09-15 06:16:13

พิธีชงชา

พิธีชงชา

สัมผัสศิลปะการชงชา
และวัฒนธรรมด้วย
พิ ธีชงชาแบบญี่ปุ่น

ประวัติความเป็นมา




การดื่มชาเป็นวัฒนธรรมจากประเทศจีนที่เผยแพร่เข้ามาในญี่ปุ่น โดย
พระสงฆ์เป็นผู้มีบทบาทสำคัญแล้วนำมาดัดแปลงให้เข้ากับวิถีชีวิตของ

ชาวญี่ปุ่น
ในอดีตการดื่มชาเป็นที่นิยมกันในหมู่นักรบ ขุนนาง ตลอดจนพ่อค้า

ชาวเมืองที่ร่ำรวยเท่านั้น แต่ต่อมาท่าน เซ็น โนะ ริคิว (Sen no
Rikyu) ได้ทำให้พิธีชงชากลายเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ และมีแบบแผนอย่าง

ในปัจจุบัน โดยตัดรูปแบบการเลี้ยงชาที่ฟุ่มเฟือยออกไป เน้นความ
เรียบง่าย จริงใจ เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ด้วยจิตใจที่สงบและ

บริสุทธิ์ โดยมีหลักของศาสนาพุ ทธนิกายเซน (Zen) เข้ามาด้วย

ความหมาย พิธีชงชาหรือที่เรียกว่า ซะโด

(Sadou) หรือ ชะโด (Chadou)




มาจากคำว่า ซะ (Sa) หรือ ชะ (Cha) แปลว่า “ชา” และ โด (Dou)
แปลว่า “วิถี” รวมกันหมายถึง “วิถีแห่งชา”

ตามพจนานุกรมภาษาญี่ปุ่นแล้ว ซะโด (Sadou) หรือ ชะโด
(Chadou) สามารถอ่านออกเสียงแบบใดก็ได้

แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่จะนิยมออกเสียง ซะโด (Sadou)
จุดมุ่งหมายสูงสุดของซะโด (Sadou) คือ การแสดงออกถึงความ
งามในการต้อนรับผู้มาเยือน การชื่นชมคุณค่าและความงามของสิ่ง

ต่างๆ รอบตัว และมิตรภาพระหว่างเจ้าบ้านและแขกผู้มาเยือน

อุปกรณ์พื้ นฐานสำหรับพิ ธีชงชา



1. คะมะ (Kama) กาน้ำสำหรับใช้ต้มน้ำใส่ชา
2. นัทสึเมะ (Natsume) โถสำหรับใส่ผงชามัทฉะ
3. ชะอิเระ (Chaire) โถใส่ชา
4. ชะฉะคุ (Chashaku) ช้อนตักผงชา มีลักษณะยาว ปลายแหลมเล็ก ทำจากไม้ไผ่
5. ชะเซน (Chasen) อุปกรณ์สำหรับคนชา ทำจากไม้ไผ่
6. ชะวัง (Chawan) ถ้วยชาขนาดใหญ่ แตกต่างไปตามฤดูกาล

พิ ธีชงชา



รูปแบบการจัดพิ ธีชงชามักจัดในห้องชงชาซึ่งเปรียบเสมือนพิ พิ ธภัณฑ์
ขนาดย่อยที่แสดงวัฒนธรรมแบบ “วะ (Wa)” ของญี่ปุ่น เรียกการชง

ชาว่า “เทะมะเอะ (Temae)” ชาที่ใช้ชง โดยทั่วไปจะ มี 2 แบบ ได้แก่
1. โคอิฉะ (Koicha) ชารสเข้ม นิยมชงในถ้วยใหญ่ ดื่มกันหลายคน

จึงชงให้มีรสชาติเข้มข้นเป็นพิ เศษ
2. อุซุฉะ (Usucha) ชารสอ่อน นิยมชงในถ้วยเล็ก สำหรับดื่มคน

เดียว โดยทั่วไปมักจะพบเห็นชาแบบนี้

ลำดับในพิ ธีชงชา



เสิร์ฟขนมและทานขนมให้หมดก่อนเริ่มเสิร์ฟชา
1. ผู้ชงชาใช้ช้อนตักผงชาหรือชะฉะคุ (Chashaku) ตักชาจากโถใส่ลงใน

ถ้วยชา
2. ผู้ชงชาใช้กระบวยตักน้ำหรือฮิชะคุ (Hishaku) ตักน้ำร้อนใส่ถ้วยชา
3. ผู้ชงชาใช้อุปกรณ์สำหรับคนชาหรือชะเซน (Chasen) คนชาให้เข้ากันจน

ชาแตกฟอง
4. ผู้ดื่มชายกถ้วยชาขึ้นมาด้วยมือขวา แล้ววางลงบนฝ่ามือซ้าย
5. หมุนถ้วยชาตามเข็มนาฬิ กา เพื่อให้ส่วนหน้าของถ้วยชาที่มีลวดลายหัน

ออกด้านที่ผู้อื่นมองเห็น แล้วค่อยดื่มด่ำกับชา
6. หลังจากดื่มชาแล้ว เช็ดขอบถ้วยตรงบริเวณที่ดื่ม แล้วหมุนถ้วยชา

ทวนเข็มนาฬิ กา 3 ครั้ง
7. วางถ้วยชาลงที่เดิมพร้อมคำนับเพื่อเป็นการขอบคุณ

มารยาทของพิ ธีชงชา




1. โอะซะกินิ (Osakini)
โดยปกติแล้วตามงานพิธีชงชาจะจัดให้อยู่ในฝั่ งรับน้ำชา มารยาทแต่ละขั้น
ตอนจะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่กลุ่ม โดยส่วนใหญ่แล้วฝั่ งที่เป็นฝ่ายรับ
น้ำชา จะมีคำพู ดที่ใช้คือ “โอะซะกินิ” หมายความว่า ขออนุญาตทานก่อน
นะคะ/ครับ เพื่อไม่ให้เสียมารยาทกับคนที่นั่งร่วมโต๊ะด้วย การกล่าวถือเป็น

มารยาทที่สำคัญมากสำหรับพิ ธี
2. ห้ามดื่มชาด้านหน้าของถ้วยชา
หลังจากที่ได้รับการแจกจ่ายน้ำชา ต้องระวังอย่าดื่มน้ำชาจากด้านหน้า
ของถ้วยชา เพราะถ้วยชานั้นจะถูกส่งผ่านมาให้ โดยจะหันด้านหน้าถ้วยชา
มาทางด้านผู้รับ ส่วนฝั่ งผู้รับนั้นจะชื่นชมความงามของลายถ้วยน้ำชา ดัง
นั้นถือเป็นมารยาทที่ต้องไม่ทำให้ด้านหน้าของถ้วยชานั้นเปื้ อนโดยการ
เปลี่ยนมุมดื่มน้ำชา ใช้มือขวาประคองและหมุนถ้วยชาเล็กน้อย ให้ด้านหน้า
ของถ้วยชาเยื้องออกไป จึงสามารถดื่มน้ำชาได้ และไม่ควรดื่มที่เดียวจน
หมด ควรที่จะแบ่งดื่มให้ได้สักสองถึงสามครั้ง

แนวคิดและปรัชญาจากพิ ธีชงชา




พิธีชงชาไม่ใช่แค่การชงหรือดื่มน้ำชาเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่
สุนทรียภาพในการดื่มด่ำในรูป รส กลิ่น เสียง และจิตใจ

ตั้งแต่การชื่นชมคุณค่าและความงดงามของสิ่งต่างๆ อาทิ ถ้วยชา
อุปกรณ์เครื่องใช้ในพิธีชงชา การตกแต่ง บรรยากาศรอบตัวต่างๆ

ตลอดจนการสื่อสารกันทางใจระหว่างเจ้าบ้านและแขกผู้มาเยือน
พิธีชงชาเป็นพิธีที่เรียบง่าย สง่างาม และแฝงไปด้วยปรัชญาที่ลึก

ซึ้ง ดังวลีญี่ปุ่น “อิจิโกะ อิจิเอะ (Ichigo Ichie)” ซึ่งหมายถึง
“การได้พบกันครั้งเดียวในชีวิต” มาจากแนวความคิดที่ว่าการที่เรา

ได้พบกันในพิ ธีชงชานั้นอาจจะเป็นโอกาสเพี ยงครั้งเดียวในชีวิต
แล้วหลังจากนี้จะไม่ได้มีโอกาสพบกันอีกแล้วเลยก็ได้ ดังนั้นช่วง
เวลาที่ได้พบกันจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่า ควรปฏิบัติต่อกันอย่างดีที่สุด

ขนมที่ทานคู่กับชา



โดยปกติการดื่มชาจะต้องทานคู่กับขนมหวาน เรียกว่า ‘วากา
ชิ’ โดยจะเป็นขนมตามฤดูกาล เช่น ขนมโยกัน (Yokun) เป็น
เจลลี่ถั่วแดงหวาน ขนมมันจู (Manju) คือซาลาเปาบ้านเรา
นั่นเอง ขนมซากุระโมชิ (Sakuramoshi) เป็นขนมที่ทำจาก
แป้งข้าวเหนียวไส้ถั่วแดงห่อด้วยใบซากุระหมักเกลือ แสดง
ถึงฤดูใบไม้ผลิ ขนมสึกิมิดังโกะ( Tsukimidan-go) เป็นขนม
ที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว ใช้ในพิธีชมจันทร์ดั้งเดิม โดยจะต้อง
ทานก่อนดื่มชา เนื่องจากขนมมีรสชาติค่อนข้างหวาน เมื่อดื่ม

ชาที่มีรสชาติออกขมแล้ว จะให้รถสัมผัสที่ผสานกันอย่าง
ลงตัวอันเป็นเอกลักษณ์

ส่วนที่เคร่งขรึม - การดื่มชาตามพิธีกรรม




พิ ธีชงชาเริ่มตั้งแต่ช่วงเวลาที่แขกพบว่าตัวเองอยู่ในบรรยากาศลึกลับของ
โรงน้ำชา ห้องนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเรียบง่าย - ผนังเรียบๆเฉด
สีปิดเสียงเสื่อทาทามิที่พื้นและโทโคโนมะที่เตรียมไว้ล่วงหน้า (ช่องสำหรับใส่
ธูปม้วนหนังสือที่มีข้อความทางพุ ทธศาสนาและดอกไม้ประดับ) เตาบรอนซ์

ธรรมดามักจะตั้งอยู่ใจกลางบ้านซึ่งเจ้านายจะต้มน้ำและเตรียมชา



การฝึกอบรม. เชื่อกันว่าความหิวจะขัดขวางความเข้าใจในความสามัคคี
เท่านั้น ดังนั้นพิธีชงชาของญี่ปุ่นจึงรวมถึงการปรับสภาพ (อาหารไค
เซกิง่ายๆก่อนเริ่มชงชาและขนมโอโมกาชิพิเศษในกระบวนการ) หลัง
จากรับประทานอาหารแล้วแขกสามารถออกไปในสวนทำให้ศีรษะสดชื่น

จากนั้นกลับไปที่ส่วนพิ ธีกรรมได้
พิธีกรรม. ในความเงียบสนิทโดยแสงของเตาไฟผู้เชี่ยวชาญด้านชาเริ่ม
ชงชา ความมหัศจรรย์ของการเคลื่อนไหวที่สมบูรณ์แบบเริ่มต้นขึ้นซึ่ง
จะทำให้ผู้สังเกตการณ์อยู่ในสภาวะเข้าฌาน เสียงแตกของการเผาฟืน

เสียงของการต้มและการเทน้ำการเตรียมชาในอาหารจานพิ เศษอย่าง
เงียบ ๆ เจ้านายแสดงให้เห็นว่าทุกการเคลื่อนไหวสามารถแสดงให้เห็น

ถึงศิลปะชั้นสูง

ขอแนะนำ 3 สถานที่ที่สามารถสัมผัสกับ
วัฒนธรรมการชงชาของญี่ปุ่น ดังนี้

คะคินุมะ (Tea Ceremony Kakinuma), โตเกียว (Tokyo)

ห้องชาคะคินุมะ (Tea Ceremony Kakinuma) ตั้งอยู่ละแวกย่านอาซากุสะ (Asakusa) นักท่อง
เที่ยวสามารถเข้ามาเรียนรู้วัฒนธรรมการชงชาได้แบบตัวเปล่า พร้อมฟังคำอธิบายเกี่ยวกับ

ประวัติศาสตร์การชงชาจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนที่จะได้รับชมการสาธิตพิธีชงชาแบบเต็มรูปแบบ
หลังจากนั้นจะได้ลองชงชาตั้งแต่ต้นจนถึงวิธีการรินน้ำชากับอุปกรณ์แบบดั้งเดิมด้วนตัวเอง และ
ดื่มด่ำชาพร้อมกับขนมญี่ปุ่นวากาชิ (Wagashi) โดยเวิร์คช็อปดังกล่าวจะใช้เวลารวมทั้งสิ้นราว 1
ชั่วโมง

โนะบะตะ ชาโฮะ (Nobat
a Chaho), กิฟุ (Gifu)

ร้านชาเก่าแก่ที่เริ่มกิจการมาตั้งแต่สมัยเมจิที่ 13 ตั้งอยู่ที่เมืองทะคะยะมะ (Takayama) แห่งจังหวัดกิฟุ
(Gifu) เป็นร้านจำหน่ายชาสารพัด ตั้งแต่ชาเขียว ชาโฮจิฉะ ชาข้าว และชาเขียวที่ปลูกได้ในพื้นที่จังหวัดกิฟุ
รวมถึงอุปกรณ์ชงชา และถ้วยชาที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามานั่งดื่มชาที่คาเฟ่

หรือสัมผัสศิลปะวัฒนธรรมการชงชากับกิจกรรมเวิร์คช็อปต่างๆ อย่างเป็นกันเอง โดยมีอาจารย์ผู้
เชี่ยวชาญด้านชาคอยอธิบายถึงอุปกรณ์การใช้ วิธีการชงชา และมารยาทการดื่มชาในระหว่างเข้าพิธี



ที เซเรโมนี่ โคะโตะ (Tea Ceremony Koto), เกียวโต (Kyoto)

ห้องชาแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัด คินคะคุจิ (Kinkakuji) เป็นสถานที่ที่ให้นักท่องเที่ยวได้เปิด
ประสบการณ์เรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมการชงชาของญี่ปุ่น ภายในบรรยากาศห้องพิธีชงชาที่มีเสื่อทาทามิ

อีกทั้งยังมีบริการเช่าชุดกิโมโนเปลี่ยน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รู้สึกถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบสมจริง
ระหว่างที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ฟังบรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชาญี่ปุ่น มารยาทในการดื่มชา
และชมการสาธิตวิธีชงชาที่แสนประณีตจากอาจารย์ผู้ที่เชี่ยวชาญเป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นจะได้ทดลอง

ชงชา และอิ่มเอมไปกับชาเขียวร้อนๆ พร้อมขนมวากาชิ (Wagashi)
นอกจากกิจกรรมชงชาแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมจัดดอกไม้ หรือพับกระดาษแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมให้นักท่อง

เที่ยวได้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างเต็มอิ่มอีกด้วยเช่นกัน
รายละเอียดสถานที่เพิ่ มเติม

จัดทำโดย



นางสาว ชาลินี บุญสุข



รหัสนักศึกษา 16422409



สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น 64



คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์



มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา


Click to View FlipBook Version