The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Wounzen Love Glue, 2020-11-05 08:58:51

_____________________-2

_____________________-2

รายงานโครงงาน ประเภทสิ0งประดษิ ฐ์
ผ้ามดั ย้อม

โดย
%. นางสาว จิดาภา นิลคาํ ช4นั ม.6
7. นางสาว ณฐั ธิชา สิงหาธร ช4นั ม.6
=. นางสาว วริ ิญจ์ การพนั ธ์ ช4นั ม.6

ครูทEีปรึกษา
คุณครูวนิดา บุญพิเชฐวงศ์

โรงเรียนสตรีราชินูทิศ สาํ นกั งานเขตพ4ืนทีEการศึกษามธั ยมศึกษาเขต 7P
รายงานฉบบั น4ีเป็นส่วนประกอบของโครงงานการงานอาชีพ
ประเภทประดิษฐ์ ระดบั ช4นั มธั ยมศึกษาปี ทีE 6

ผา้ มดั ยอ้ ม

โดย
%. นางสาว จิดาภา นิลคาํ ช4นั ม.6
7. นางสาว ณฐั ธิชา สิงหาธร ช4นั ม.6
=. นางสาว วริ ิญจ์ การพนั ธ์ ช4นั ม.6

ครูทีEปรึกษา
คุณครูวนิดา บุญพิเชฐวงศ์



ชื$อโครงงาน ผา้ มดั ยอ้ ม
ผู้จดั ทาํ %. นางสาว จิดาภา นิลคาํ ช4นั ม.6

7. นางสาว ณฐั ธิชา สิงหาธร ช4นั ม.6
=. นางสาว วริ ิญจ์ การพนั ธ์ ช4นั ม.6

ระดบั ช4นั มธั ยมศึกษาปี ทEี 6/%%
ประเภท สEิงประดิษฐ์
ครูทปี$ รึกษา คุณครู วนิดา บุญพิเชฐวงษ์
โรงเรียน สตรีราชินูทิศ

บทคดั ย่อ

โครงงานผา้ มดั ยอ้ ม ประเภทสิEงประดิษฐ์ มีจุดมุ่งหมายเพืEอช่วยใหท้ ุกๆคนประหยดั ค่าใชจ้ ่ายใน
การซ4ือเส4ือใหม่ ใหผ้ ทู้ ีEตอ้ งการมีเส4ือทีEแตกต่างไม่เหมือนใคร สามารถทาํ เส4ือไดต้ นเอง โดยใชส้ ีทีEเรา
ตอ้ งการ และอาจนาํ เอาเส4ือทEีทาํ มาประกอบอาชีพหลกั หรืออาชีพเสริมไดใ้ นอนาคต จากผลการ
ดาํ เนินงานผา้ มดั ยอ้ ม เราสามารถนาํ ผา้ เก่าหรือผา้ อEืนๆมาทาํ ใหม้ ีสีสนั ไดด้ ว้ ยตนเอง และสามารถใส่
ไปไดท้ ุกทีE



กติ ตกิ รรมประกาศ
โครงงานผา้ มดั ยอ้ ม ประเภทสิEงประดิษฐ์ สาํ เร็จลงดว้ ยดีตรมวตั ถุประสงค์ ขอขอบพระคุณผู้
ทีEสนบั สนุนและช่วยเหลือการทาํ โครงงานผา้ มดั ยอ้ มคร4ังน4ี ดงั รายชืEอผสู้ นบั สนุนต่อไปน4ี นางวนิดา
บุญพิเชฐวงษ์ ครูประจาํ วชิ า ทีEใหไ้ ดค้ าํ แนะนาํ รายงานโครงงานฉบบั สมบูรณ์ตลอดเวลาในการทาํ
โครงงาน
อนEึงคณะผจู้ ดั ทาํ โครงงานหวงั วา่ โครงงานฉบบั น4ีจะมีประโยชนอ์ ยไู่ มน้ อ้ ยสาํ หรับผศู้ ึกษา
ขอ้ บกพร่องต่างๆ ทEีอาจจะเกิดข4ึนน4นั ผตู้ ดั ทาํ ขออภยั ไว้ ณ ทีEน4ีดว้ ย แลพยนิ ดีทEีจะรับฟังคาํ แนะนาํ
จากทุกท่านทEีไดเ้ ขา้ มาศึกษาเพEือประโยชนใ์ นการพฒั นาโครงงานต่อไป

คณะผจู้ ดั ทาํ โครงงาน

สารบัญ ค

บทคดั ยอ่ หน้า
กิตติกรรมประกาศ ก
สารบญั ข
สารบญั รูปภาพ ค
บททEี % บทนาํ ง
บททEี 7 เอกสารทีEเกEียวขอ้ ง %
บททีE = อุปกรณ์ และวธิ ีการดาํ เนินงาน =
บททีE b ผลการดาํ เนินงาน a
บททีE 6 สรุป อภิปรายผลการดาํ เนินงาน %P
บรรณานุกรม %%
ภาคผนวก %=
%b

สารบญั รูปภาพ ง
ภาพที0
หน้า
1.แสดงการเทผงสีผสมกบั น4าํ เปล่าใหเ้ ขา้ กนั
7 แสดงการใชส้ อ้ มมว้ นผา้ ใหเ้ ป็นวงกลม c
= แสดงการนาํ ยางมามดั ผา้ ตามแนว c
b แสดงการนาํ สีทีEผสมกบั น4าํ แลว้ มาฉีดใส่ผา้ d
6 แสดงการพลิกผา้ และใส่สีลงตามเดิม d
a แสดงการนาํ กรรไกรมาตดั ยางและกางเส4ือออก e
c แสดงความเสร็จสมบูรณ์ของเส4ือมดั ยอ้ ม e
%P

1

บทท$ี D

บทนํา

ทมี$ าและความสําคญั ของโครงงาน

เนืEองจากกลุ่มของเราสนใจกิจกรรมศิลปะการทาํ ผา้ มดั ยอ้ มและในปัจจุบนั มีคนจาํ นวนมาก
นิยมงานศิลปะประเภทต่างๆผา้ มดั ยอ้ มจึงเป็นหนEึงในงานศิลปะทีEมีความสวยงามดทนั สมยั และ
ความคิดสร้างสรรคโ์ ดยการนาํ เอาผา้ ขาวธรรมดามาทาํ ใหม้ ีความน่าสนใจทาํ ใหเ้ ห็นคุณค่าของผา้
ขาวทEีเรานาํ มาดดั แปลงเพืEอเพิEมมูลค่าใหก้ บั ผา้ ต่อบุคคลทวัE ไปสามารถปรับใชเ้ ขา้ กบั แฟชนัE ในสมยั
ปัจจุบนั ไดแ้ ละสามารถลดตน้ ทุนในการผลิตไดม้ าก มดั ยอ้ ม( bie dye )มีความหมายตรงตามตวั อกั ษร
คือนาํ ผา้ มามดั ดว้ ยวสั ดุต่างๆแลว้ นาํ ไปยอ้ มสีโดยการมดั ยอ้ มเป็นการมดั ผกู เยบ็ หนีบหรือเป็นการ
กนั สีในส่วนใดส่วนหนEึงของผา้ ทEีผยู้ อ้ มไม่ตอ้ งการใหเ้ กิดสีทEีจะยอ้ มในคร4ังน4นั ๆ โดยใชว้ สั ดุต่างๆ
เช่นเหรียญ เชือกฟาง ไมห้ นีบ มาเป็นวสั ดุช่วยในการกนั สีร่วมกบั การมว้ นพบั จบั จีบขยาํ หรือเยบ็ ผา้
ซEึงจะใหผ้ ลลพั ธ์ของลายทีEแตกต่างกนั ไปท4งั น4ีข4ึนอยกู่ บั กลวธิ ีในการผสมผสานเทคนิคต่างๆ เขา้ ไว้
ดว้ ยกนั ของผยู้ อ้ มโดยเรียกวา่ การสร้างลวดลายดว้ ยวธิ ีมดั ยอ้ ม

ประวตั ิการทาํ ผา้ มดั ยอ้ ม ไดเ้ รEิมตน้ ทาํ กนั มาแลว้ ในสมยั เอเชียโบราณและขยายไปยงั
ตอนกลางของทวปี อินเดียไปยงั มาเลเซียและขา้ มไปยงั แอฟริกาในทวปี อเมริกากเ็ ริEมการมดั ยอ้ มจาก
ขา้ วโคลมั เบียในยคุ แรกเพืEอการทาํ วงกลมและสีEเหลีEยมดว้ ยแบบง่ายๆ เป็นทีEนิยมในเมก็ ดก
กวั เตมาลาเปรูเตลีเวยี บาลาไวและอาเจนติน่าในอเมริกาใตแ้ ละชาวอเมริกาใตแ้ ละชาวอินเดียนแดง
การทาํ ผา้ มดั ยอ้ มไดร้ ับการพฒั นาทEีดีข4ึนในตอนตน้ สมยั ของประเทศอินเดียก่อนทEีจะมาถึงเส4ือผา้
ของคนทวEั ไปเห็นถึงการเขียนภาพน4าํ ฝาผนงั และเพดานการทาํ ผา้ มดั ยอ้ มมีมาประมาณ 6P77 ปี ก่อน
สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงความรู้และปะสบการ์รฺในการใชส้ ียอ้ มจนมาเป็นเครEืองแต่งการในปัจจุบนั

2

จุดมุ่งหมายของโครงงาน

1. เพEือลดตน้ ทุนในการซ4ือเส4ือใหม่
2. เพืEอใหผ้ ทู้ Eีตอ้ งการมีเส4ือผา้ ทีEลวดลายไม่ซ4าํ ใครและเป็นงานศิลปะทEีแปลกตา
3. เพืEอช่วยใหผ้ ทู้ Eีสนใจสร้างอาชีพผา้ มดั ยอ้ ม

ปัญหา

เราจะสามารถทาํ ใหเ้ ส4ือสีไม่ตกไดอ้ ยา่ งไร
สมมตฐิ าน

สามารถทาํ ใหส้ ีเส4ือไม่ตก สดใส

ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า

ซ4ือน4าํ ยากนั สีตกมาใช้

ประโยชน์ และคุณค่าของโครงงาน

1. เป็นงานฝีมือทEีมีคุณค่า
2. สามารถนาํ ไปประกอบอาชีพเสริมหรือหลกั กไ็ ด้
3. รู้วธิ ีการมดั ยอ้ มและสอนลูกหลานต่อๆไปได้

ระยะเวลาในการดาํ เนินงาน

%7 กนั ยายน พ.ศ.76a= – %6 ตุลาคม 76a=

3

บทท$ี O

เอกสารทเี$ กย$ี วข้อง

โครงงานผา้ มดั ยอ้ ม เน4ือหาในบทน4ีจะนาํ เสนอทฤษฎีทีEเกีEยวขอ้ งดงั น4ี
1. อุปกรณ์ทEีใชใ้ นการทาํ
2. สียอ้ มผา้

D.อปุ กรณ์ทใ$ี ช้ในการทาํ
%.%.เส4ือสีขาว
%.7.สียอ้ มผา้ แบบผง
%.=.ขวดน4าํ เจาะรูตรงฝา
%.b.ยางรัดของ,สอ้ ม

สีย้อมผ้า

สีธรรมชาติมีบทบาทเกีEยวขอ้ งกบั วถิ ีการดาํ รงชีวติ ของมนุษยม์ ายาวนานนบั ต4งั แต่สมยั โบราณ
มนุษยไ์ ดเ้ รียนรู้ทีEจะนาํ สีจากวสั ดุธรรมชาติมาใชใ้ นกิจกรรมต่างๆ เช่น ทาสีตามร่างกาย ทาสีบน
ภาชนะเครืEองป4ันดินเผา ยอ้ มสิEงทอ เครEืองใช้ เครืEองนุ่งห่ม ภาพวาดฝาผนงั และเป็นส่วนประกอบ
ในพิธีกรรมต่างๆตามความเชืEอของแต่ละทอ้ งถิEน สีธรรมชาติคือสีทEีสกดั ไดจ้ ากวตั ถุดิบทEีมาจาก
พืช สตั ว์ และแร่ธาตุต่างๆ ซEึงเกิดข4ึนจากกระบวนการตามธรรมชาติ แหล่งวตั ถุดิบของสี
ธรรมชาติสามารถหาไดจ้ ากตน้ ไม้ ใบไม้ และจากบางส่วนของสตั วห์ ลายชนิด สามารถใหส้ ีสนั
ตามทEีเราตอ้ งการ และดว้ ยกรรมวธิ ีการผลิตทEีแตกต่างกนั ทาํ ใหผ้ ลิตภณั ฑท์ Eีไดม้ ีความสวยงามและ

4

สีสนั ทีEหลากหลาย หนEึงในผลิตภณั ์ทีEนิยมมากคือ สียอ้ มผา้ แหล่งวตั ถุดิบสาํ หรับสียอ้ มผา้
ธรรมชาติทEีมกั นาํ มาใชก้ นั มกั เป็น พืช สตั วแ์ ละแร่ธาตุทEีมีอยใู่ นแต่ละทอ้ งถEิน เพืEอการนาํ
ทรัพยากรทอ้ งถEินมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุดและเป็นการถ่ายทอดภูมิปัญญาในทอ้ งถEิน

วสั ดุแต่ละชนิดทีEนาํ สกดั ทาํ สียอ้ มผา้ จากธรรมชาติ มีการติดสีและความคงทนต่อการขดั ถูหรือ
แสงไม่เท่ากนั ข4ึน อยกู่ บั องคป์ ระกอบภายในของพืชและเสน้ ใยของผา้ ทีEนาํ มาใชย้ อ้ ม จึงมีการใช้
สารประกอบต่างๆ มาเป็นตวั ช่วยในการทาํ ใหเ้ สน้ ใยดูดซบั สีใหส้ ีเกาะเสน้ ใยไดแ้ น่นข4ึน มีความ
ทนทานต่อแสง และการขดั ถูเพEิมข4ึน ซEึงเรียกวา่ สารช่วยยอ้ มและสารช่วยใหส้ ีติด สารเหล่าน4ี
นอกจากจะเป็นตวั จบั ยดึ สีและเพEิมการติดสีในเสน้ ใยแลว้ ยงั ช่วยเปลีEยนเฉดสีใหเ้ ขม้ จาง หรือ
สดใส สวา่ งข4ึนได้ สารช่วยยอ้ มหรือกระตุน้ สีธรรมชาติ ทEีนิยมใชก้ นั ไดแ้ ก่ น4าํ ปูนใส น4าํ ด่าง(น4าํ
ข4ีเถา้ ) กรด(น4าํ มะนาว น4าํ มะขามเปี ยก น4าํ ใบ/ฝักสอ้ ป่ อย) น4าํ บาดาล น4าํ โคลน(บ่อทEีมีน4าํ ขงั ตลอด
ปี ) ส่วนสารช่วยใหส้ ีติด ไดแ้ ก่ สารฝาด(พืชทEีมีรสฝาดและขม) โปรตีนจากน4าํ ถวEั เหลือง และเกลือ
แกง เป็นตน้

ปัจจุบนั มีการส่งเสริมใหใ้ ชว้ สั ดุจากธรรมชาติกนั มากข4ึน เพราะผลิตภณั ฑท์ Eีไดจ้ าก
ธรรมชาติรวมท4งั กระบวนการทีEใหไ้ ดม้ าน4นั ส่งผลกระทบต่อสEิงแวดลอ้ มนอ้ ยมาก ความสนใจใน
การใชส้ ีจากวสั ดุธรรมชาติในการยอ้ มผา้ เพิEมมากข4ึนตลอดเวลา ซEึงเป็นผลมาจากปัจจยั ต่างๆ คือ
%. กระแสการอนุรักษแ์ ละสืบทอดภูมิปัญญาทอ้ งถิEน ทีEสืบทอดกนั มาจากอดีตใหค้ งอยใู่ นสงั คม
สืบไปการยอ้ มสีธรรมชาติซEึงเป็นหนEึงในภูมิปัญหาทอ้ งถEินจึงไดร้ ับการสนบั สนุนมากข4ึนจากท4งั
ภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนทวัE ไป

7. ปัญหาผลกระทบต่อสEิงแวดลอ้ ม ทีEเกิดจากการใชส้ งั เคราะห์และสารเคมีอนั ตรายใน
อุตสาหกรรมการผลิตสิEงทอ สารเคมีทีEตกคา้ งและปนเป4ื อนในน4าํ ทิ4งทEีเกิดจากกระบวนการฟอก
ยอ้ ม ทาํ ใหเ้ กิดการปนเป4ื อนของสารเคมีในแหล่งน4าํ ธรรมชาติต่างๆ

5

=. ปัญหาความไม่ปลอดภยั และผลกระทบต่อสุขภาพของผปู้ ฏิบตั ิงานฟอกยอ้ ม ซEึงเกิดจากการ
สมั ผสั กบั สารเคมีทEีผสมอยใู่ นสีสงั เคราะห์ โดยเฉพาะสารก่อมะเร็ง

b. การใหค้ วามสนใจต่อความปลอดภยั และอนั ตรายของสารเคมีตกคา้ งบนผลิตภณั ฑส์ ิEงทอ
ของประชาชน มีการกาํ หนดชนิดสีสงั เคราะห์ทEีจะใชก้ บั สEิงทอแต่ละประเภท ทาํ ใหเ้ กิดความ
ระมดั ระวงั ในการใชส้ ิEงทอยอ้ มสีสงั เคราะห์และหนั มาใชส้ ิEงทอทีEไดม้ าจากการยอ้ มสีธรรมชาติ
เพิEมมากข4ึน

6. การตEืนตวั ดา้ นการอนุรักษส์ Eิงแวดลอ้ มและระบบนิเวศ ทาํ ใหเ้ กิดค่านิยมต่อตา้ นสินคา้ ทีEมี
ผลกระทบต่อสEิงแวดลอ้ ม มีการใชส้ ินคา้ ทีEเป็นมิตรกบั สEิงแวดลอ้ มหรือ “ผลิตภณั ฑฉ์ ลากเขียว”
เพิEมมากข4ึน โดยสินคา้ ทีEดีจะตอ้ งเกิดจากกระบวนการผลิตทีEไม่ทาํ ลายสิEงแวดลอ้ ม ไม่มีผลกระทบ
ต่อผบู้ ริโภค และสินคา้ ใชแ้ ลว้ เมEือเป็นขยะตอ้ งไม่ก่อมลพิษต่อไป ค่านิยมดงั กล่าวมีส่วนสาํ คญั ใน
การผลกั ดนั ใหม้ ีการหนั กลบั มาใชส้ Eิงทอยอ้ มสีธรรมชาติเพEิมมากข4ึน

การยอ้ มสีธรรมชาติแมม้ ีขอ้ จาํ กดั ในเรืEองของปริมาณสารใหส้ ีในวตั ถุดิบซEึงมีนอ้ ย ทาํ ให้
ยอ้ มไดส้ ีไม่เขม้ หรือตอ้ งใช้ วตั ถุดิบปริมาณมาก ไม่สามารถ ผลิตไดค้ ราวละมากๆ และไม่สามารถ
ผลิตสีไดค้ งทEีตามทEีตลาดตอ้ งการ ท4งั สีสามารถซีดจางและมีความคงทนต่อแสงตEาํ เพราะคุณภาพ
การยอ้ มสีธรรมชาติข4ึนอยกู่ บั ปัจจยั หลายประการทEีควบคุมไดย้ าก การยอ้ มสีใหเ้ หมือนเดิมทุกคร4ัง
จึงทาํ ไดย้ าก นอกจากน4ีการยอ้ มสีธรรมชาติหากขาดจิตสาํ นึกในการใชท้ รัพยากรอยา่ งยงัE ยนื อาจจะ
กลายเป็นการทาํ ลายสิEงแวดลอ้ ม

6

บทที$ R
อปุ กรณ์ และวธิ ีการดาํ เนินการ
1. อปุ กรณ์
%.%.เส4ือสีขาว
%.7.สียอ้ มผา้ แบบผง
%.=.ขวดน4าํ เจาะรูตรงกลางฝา
%.b.ยางมดั ของ,สอ้ ม

2. วธิ ีการดาํ เนินงาน
%.ประชุมวางแผนการดาํ เนินงาน
7.ออกแบบอุปกรณ์
=.ทดสอบอุปกรณ์ทีEประดิษฐ์

\

7
ขVนั ตอนการประดษิ ฐ์
%.นาํ ผงสียอ้ มผา้ มาผสมกบั น4าํ อุ่นใหเ้ ขา้ กนั กEีสีกไ็ ดต้ ามใจชอบแลว้ เทใส่ขวดน4าํ ทีEเตรียมไว้

ภาพท$ี D แสดงการเทผงสีผสมกบั น4าํ เปล่าใหเ้ ขา้ กนั
7.ผสมสีท4งั หมดแลว้ นาํ ผา้ สีขาวมาวางแนวราบจามความถนดั แลว้ นาํ วสั ดุต่างๆเพEือนาํ มา
ทาํ ลายภาพ

ภาพที$ O แสดงการใชห้ ินมดั ผา้ ผา้ ใหเ้ ป็นลายทEีตอ้ งการ

8

=.นาํ หนงั ยางมามดั ผา้ ตามแนวและจาํ นวนทีEเราตอ้ งการ



ภาพที$ R แสดงการนาํ ยางมามดั ผา้ ตามแนว

b.นาํ สีทEีเราผสมไวม้ าฉีดใส่ผา้ ตามใจเราตอ้ งการ ตามแนวทEีมดั ยางไว้







ภาพที$ X แสดงการนาํ สีทEีผสมกบั น4าํ แลว้ มาฉีดใส่ผา้

9

6.นาํ กรรไกรมาตดั ยางออก หรือดึงยางออกธรรมดากไ็ ดแ้ ลว้ นาํ ผา้ ไปตาก กจ็ ะไดผ้ า้ มดั ยอ้ มสี
สวยงาม



ภาพที$ Y แสดงการนาํ กรรไกรมาตดั ยางและกางผา้ ออก

10
บทที$ X

ผลการดาํ เนินงาน

จากการทาํ โครงงานผา้ มดั ยอ้ ม เมEือนาํ ไปตากแดดและนาํ ไปซกั พบวา่ สีมีหลุดออกไปบา้ งแต่ไม่
หมดสีเจือจางลงนิดหน่อย แต่ยงั คลา้ ยกบั สีทีEยอ้ มไปแรกๆอยไู่ ม่เพ4ียนมากมาย





ภาพท$ี Z แสดงความเสร็จสมบูรณ์ของผา้ มดั ยอ้ ม

11

บทที$ Y

สรุป อภปิ รายผลการดาํ เนินงาน

สรุปผลการดาํ เนินงาน

จากการดาํ เนินงานในการทาํ โครงงานผา้ มดั ยอ้ ม สรุปไดด้ งั น4ี

1. ไดแ้ นวคิดในการทาํ เส4ือใหม่ๆ
2. ไดอ้ าชีพเสริมใหม่
3. ไดน้ ความรู้มาส่งต่อสู่ลูกหลาน ประหยดั งบ

อภปิ รายผลการดาํ เนินงาน

จากโครงงานผา้ มดั ยอ้ ม สามารถนาํ ไปใส่ไดใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ลวดลายไมซ้ 4าํ ใครมีความสวยงาม
เป็นศิลปะทีEคู่ควรต่อการสืบทอดเป็นการอนุรักษว์ ธิ ีการทาํ ผา้ มดั ยอ้ มและไดส้ ร้างความสามคั คีและ
สร้างปฏิสมั พนั ธ์ใหก้ บั คนในชุมชนรวมท4งั เสริมสร้างรายไดใ้ หก้ บั คนในชุมชนทาํ ใหเ้ กิดความคิด
สร้างสรรคใ์ นการคิดลวดลายของผา้ มดั ยอ้ ม ทาํ ใหเ้ กิดลวดลายใหม่ๆและเป็นทีEเผยแพร่ความรู้
ใหก้ บั ผทู้ ีEสนใจ

ข้อเสนอแนะ

1. ผสมสีใหม้ ีความหลากหลายมากกวา่ น4ี
2. นอกจากเส4ือแลว้ สามารถนาํ อยา่ งอืEนมามดั ยอ้ มไดอ้ ีก เช่น กระเป๋ า ผา้ คลุม เป็นตนั
3. หาลวดลายในการยอ้ มมากข4ึน

12

ประโยชน์ทไ$ี ด้รับ
%.เพืEอเป็นการอนุรักษว์ ธิ ีการทาํ ผา้ มดั ยอ้ ม
7.สร้างความสามคั คีและสร้างปฏิสมั พนั ธ์ใหก้ บั คนในชุมชน
=.เสริมสร้างรายไดใ้ หก้ บั คนในชุนชน
b.เกิดความคิดสร้างสรรคใ์ นคิดลวดลายของผา้ มดั ยอ้ ม ทาํ ใหเ้ กิดลวดลายทEีใหม่ๆข4ึน
6.เป็นทEีเผยแพร่ความรู้ใหก้ บั ผทู้ Eีสนใจ

13

บรรณานุกรม

ความรู้ของสียอ้ มผา้ แบบธรรมชาติ https://sites.google.co
ประโยชนข์ องผา้ มดั ยอ้ ม เพิEมเติม https://www.facebook.com/

ภาคผนวก

14

ภาพแสดง การนาํ เสนอผา้ มดั ยอ้ มหนา้ ช4นั เรียน
ภาพแสดง การนาํ เส4ืออีกตวั มาทาํ อีกลวดลาย

ภาพแสดง การนาํ ผา้ คลุมมายอ้ ม

15
ภาพแสดง การนาํ กระเป๋ ามามดั ยอ้ ม


Click to View FlipBook Version