The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Wounzen Love Glue, 2020-11-05 09:10:01

มัดย้อม น้ำใส

มัดย้อม น้ำใส

รายงานโครงงาน ประเภทส่ิงประดิษฐ์
ผ้ามดั ย้อม

โดย
นางสาว จิดาภา นิลคา ช้นั ม.5

ครูท่ีปรึกษา
คุณครูวนิดา บญุ พเิ ชฐวงศ์

โรงเรียนสตรีราชินูทิศ สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามธั ยมศึกษาเขต 20
รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนประกอบของโครงงานการงานอาชีพ
ประเภทประดิษฐ์ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5

ผา้ มดั ยอ้ ม

โดย
1. นางสาว จิดาภา นิลคา ช้นั ม.5
2. นางสาว ณฐั ธิชา สิงหาธร ช้นั ม.5
3. นางสาว วิริญจ์ การพนั ธ์ ช้นั ม.5

ครูที่ปรึกษา
คุณครูวนิดา บญุ พเิ ชฐวงศ์



ชื่อโครงงาน ผา้ มดั ยอ้ ม
ผู้จัดทา 1. นางสาว จิดาภา นิลคา ช้นั ม.5

2. นางสาว ณฐั ธิชา สิงหาธร ช้นั ม.5
3. นางสาว วิริญจ์ การพนั ธ์ ช้นั ม.5

ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/11
ประเภท ส่ิงประดิษฐ์
ครูท่ีปรึกษา คุณครู วนิดา บญุ พิเชฐวงษ์
โรงเรียน สตรีราชินูทิศ

บทคดั ย่อ
โครงงานผา้ มดั ยอ้ ม ประเภทส่ิงประดิษฐ์ มีจุดมงุ่ หมายเพอ่ื ช่วยใหท้ ุกๆคนประหยดั ค่าใชจ้ ่ายใน
การซ้ือเส้ือใหม่ ใหผ้ ทู้ ี่ตอ้ งการมีเส้ือที่แตกตา่ งไม่เหมือนใคร สามารถทาเส้ือไดต้ นเอง โดยใชส้ ีท่ีเรา
ตอ้ งการ และอาจนาเอาเส้ือที่ทามาประกอบอาชีพหลกั หรืออาชีพเสริมไดใ้ นอนาคต จากผลการ
ดาเนินงานผา้ มดั ยอ้ ม เราสามารถนาผา้ เก่าหรือผา้ อ่ืนๆมาทาใหม้ ีสีสนั ไดด้ ว้ ยตนเอง และสามารถใส่
ไปไดท้ ุกที่



กติ ตกิ รรมประกาศ

โครงงานผา้ มดั ยอ้ ม ประเภทสิ่งประดิษฐ์ สาเร็จลงดว้ ยดีตรมวตั ถปุ ระสงค์ ขอขอบพระคุณผู้
ที่สนบั สนุนและช่วยเหลือการทาโครงงานผา้ มดั ยอ้ มคร้ังน้ี ดงั รายช่ือผสู้ นบั สนุนต่อไปน้ี นางวนิดา
บุญพเิ ชฐวงษ์ ครูประจาวิชา ท่ีใหไ้ ดค้ าแนะนา รายงานโครงงานฉบบั สมบูรณ์ตลอดเวลาในการทา
โครงงาน

อน่ึงคณะผจู้ ดั ทาโครงงานหวงั วา่ โครงงานฉบบั น้ีจะมีประโยชน์อยไู่ มน้ อ้ ยสาหรับผศู้ ึกษา
ขอ้ บกพร่องตา่ งๆ ที่อาจจะเกิดข้ึนน้นั ผตู้ ดั ทาขออภยั ไว้ ณ ท่ีน้ีดว้ ย แลพยนิ ดีที่จะรับฟังคาแนะนา
จากทกุ ทา่ นที่ไดเ้ ขา้ มาศึกษาเพื่อประโยชนใ์ นการพฒั นาโครงงานต่อไป

คณะผจู้ ดั ทาโครงงาน



สารบญั

บทคดั ยอ่ หน้า
กิตติกรรมประกาศ ก
สารบญั ข
สารบญั รูปภาพ ค
บทท่ี 1 บทนา ง
บทที่ 2 เอกสารที่เก่ียวขอ้ ง 1
บทท่ี 3 อปุ กรณ์ และวิธีการดาเนินงาน 3
บทท่ี 4 ผลการดาเนินงาน 6
บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผลการดาเนินงาน 10
บรรณานุกรม 11
ภาคผนวก 13
14



สารบัญรูปภาพ

ภาพที่ หน้า

1.แสดงการเทผงสีผสมกบั น้าเปล่าใหเ้ ขา้ กนั 7
2 แสดงการใชส้ อ้ มมว้ นผา้ ใหเ้ ป็นวงกลม 7
3 แสดงการนายางมามดั ผา้ ตามแนว 8
4 แสดงการนาสีท่ีผสมกบั น้าแลว้ มาฉีดใส่ผา้ 8
5 แสดงการพลิกผา้ และใส่สีลงตามเดิม 9
6 แสดงการนากรรไกรมาตดั ยางและกางเส้ือออก 9
7 แสดงความเสร็จสมบรู ณ์ของเส้ือมดั ยอ้ ม 10

1
บทที่ 1

บทนา

ที่มาและความสาคญั ของโครงงาน

เน่ืองจากกลุ่มของเราสนใจกิจกรรมศิลปะการทาผา้ มดั ยอ้ มและในปัจจุบนั มีคนจานวนมาก
นิยมงานศิลปะประเภทตา่ งๆผา้ มดั ยอ้ มจึงเป็นหน่ึงในงานศิลปะที่มีความสวยงามดทนั สมยั และ
ความคิดสร้างสรรคโ์ ดยการนาเอาผา้ ขาวธรรมดามาทาใหม้ ีความน่าสนใจทาใหเ้ ห็นคุณค่าของผา้
ขาวที่เรานามาดดั แปลงเพอ่ื เพ่ิมมลู ค่าใหก้ บั ผา้ ต่อบุคคลทวั่ ไปสามารถปรับใชเ้ ขา้ กบั แฟชนั่ ในสมยั
ปัจจุบนั ไดแ้ ละสามารถลดตน้ ทนุ ในการผลิตไดม้ าก มดั ยอ้ ม( bie dye )มีความหมายตรงตามตวั อกั ษร
คือนาผา้ มามดั ดว้ ยวสั ดุตา่ งๆแลว้ นาไปยอ้ มสีโดยการมดั ยอ้ มเป็นการมดั ผกู เยบ็ หนีบหรือเป็นการ
กนั สีในส่วนใดส่วนหน่ึงของผา้ ท่ีผยู้ อ้ มไมต่ อ้ งการใหเ้ กิดสีท่ีจะยอ้ มในคร้ังน้นั ๆ โดยใชว้ สั ดุตา่ งๆ
เช่นเหรียญ เชือกฟาง ไมห้ นีบ มาเป็นวสั ดุช่วยในการกนั สีร่วมกบั การมว้ นพบั จบั จีบขยาหรือเยบ็ ผา้
ซ่ึงจะใหผ้ ลลพั ธ์ของลายท่ีแตกตา่ งกนั ไปท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั กลวิธีในการผสมผสานเทคนิคต่างๆ เขา้ ไว้
ดว้ ยกนั ของผยู้ อ้ มโดยเรียกวา่ การสร้างลวดลายดว้ ยวิธีมดั ยอ้ ม

ประวตั ิการทาผา้ มดั ยอ้ ม ไดเ้ ริ่มตน้ ทากนั มาแลว้ ในสมยั เอเชียโบราณและขยายไปยงั
ตอนกลางของทวีปอินเดียไปยงั มาเลเซียและขา้ มไปยงั แอฟริกาในทวปี อเมริกาก็เริ่มการมดั ยอ้ มจาก
ขา้ วโคลมั เบียในยคุ แรกเพื่อการทาวงกลมและส่ีเหล่ียมดว้ ยแบบงา่ ยๆ เป็นท่ีนิยมในเมก็ ดก
กวั เตมาลาเปรูเตลีเวียบาลาไวและอาเจนติน่าในอเมริกาใตแ้ ละชาวอเมริกาใตแ้ ละชาวอินเดียนแดง
การทาผา้ มดั ยอ้ มไดร้ ับการพฒั นาที่ดีข้ึนในตอนตน้ สมยั ของประเทศอินเดียก่อนที่จะมาถึงเส้ือผา้
ของคนทว่ั ไปเห็นถึงการเขียนภาพน้าฝาผนงั และเพดานการทาผา้ มดั ยอ้ มมีมาประมาณ 5022 ปี ก่อน
สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงความรู้และปะสบการ์รฺในการใชส้ ียอ้ มจนมาเป็นเครื่องแต่งการในปัจจุบนั

2

จดุ มุ่งหมายของโครงงาน

1. เพ่อื ลดตน้ ทุนในการซ้ือเส้ือใหม่
2. เพ่อื ใหผ้ ทู้ ่ีตอ้ งการมีเส้ือผา้ ท่ีลวดลายไม่ซ้าใครและเป็นงานศิลปะที่แปลกตา
3. เพือ่ ช่วยใหผ้ ทู้ ี่สนใจสร้างอาชีพผา้ มดั ยอ้ ม

ปัญหา

เราจะสามารถทาใหเ้ ส้ือสีไมต่ กไดอ้ ยา่ งไร

สมมตฐิ าน

สามารถทาใหส้ ีเส้ือไม่ตก สดใส

ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า

ซ้ือน้ายากนั สีตกมาใช้
ประโยชน์ และคุณค่าของโครงงาน

1. เป็นงานฝีมือท่ีมีคุณคา่
2. สามารถนาไปประกอบอาชีพเสริมหรือหลกั ก็ได้
3. รู้วธิ ีการมดั ยอ้ มและสอนลูกหลานต่อๆไปได้

ระยะเวลาในการดาเนินงาน
12 กนั ยายน พ.ศ.2563 – 15 ตุลาคม 2563

3

บทที่ 2
เอกสารท่ีเกยี่ วข้อง

โครงงานผา้ มดั ยอ้ ม เน้ือหาในบทน้ีจะนาเสนอทฤษฎีท่ีเกี่ยวขอ้ งดงั น้ี
1. อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการทา
2. สียอ้ มผา้

1.อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการทา
1.1.เส้ือสีขาว
1.2.สียอ้ มผา้ แบบผง
1.3.ขวดน้าเจาะรูตรงฝา
1.4.ยางรัดของ,สอ้ ม

สีย้อมผ้า
สีธรรมชาติมีบทบาทเก่ียวขอ้ งกบั วิถีการดารงชีวติ ของมนุษยม์ ายาวนานนบั ต้งั แต่สมยั โบราณ
มนุษยไ์ ดเ้ รียนรู้ที่จะนาสีจากวสั ดุธรรมชาติมาใชใ้ นกิจกรรมตา่ งๆ เช่น ทาสีตามร่างกาย ทาสีบน
ภาชนะเครื่องป้ันดินเผา ยอ้ มสิ่งทอ เครื่องใช้ เคร่ืองนุ่งห่ม ภาพวาดฝาผนงั และเป็นส่วนประกอบ
ในพิธีกรรมต่างๆตามความเชื่อของแตล่ ะทอ้ งถิ่น สีธรรมชาติคือสีท่ีสกดั ไดจ้ ากวตั ถุดิบที่มาจาก
พืช สัตว์ และแร่ธาตตุ ่างๆ ซ่ึงเกิดข้ึนจากกระบวนการตามธรรมชาติ แหล่งวตั ถุดิบของสี
ธรรมชาติสามารถหาไดจ้ ากตน้ ไม้ ใบไม้ และจากบางส่วนของสตั วห์ ลายชนิด สามารถใหส้ ีสัน
ตามท่ีเราตอ้ งการ และดว้ ยกรรมวิธีการผลิตท่ีแตกต่างกนั ทาใหผ้ ลิตภณั ฑท์ ่ีไดม้ ีความสวยงามและ

4

สีสันท่ีหลากหลาย หน่ึงในผลิตภณั ์ท่ีนิยมมากคือ สียอ้ มผา้ แหลง่ วตั ถุดิบสาหรับสียอ้ มผา้
ธรรมชาติที่มกั นามาใชก้ นั มกั เป็น พืช สัตวแ์ ละแร่ธาตทุ ี่มีอยใู่ นแตล่ ะทอ้ งถ่ิน เพื่อการนา
ทรัพยากรทอ้ งถ่ินมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุดและเป็นการถา่ ยทอดภมู ิปัญญาในทอ้ งถิ่น

วสั ดุแตล่ ะชนิดที่นาสกดั ทาสียอ้ มผา้ จากธรรมชาติ มีการติดสีและความคงทนต่อการขดั ถหู รือ
แสงไม่เท่ากนั ข้ึน อยกู่ บั องคป์ ระกอบภายในของพืชและเส้นใยของผา้ ท่ีนามาใชย้ อ้ ม จึงมีการใช้
สารประกอบต่างๆ มาเป็ นตวั ช่วยในการทาใหเ้ ส้นใยดดู ซบั สีใหส้ ีเกาะเส้นใยไดแ้ น่นข้ึน มีความ
ทนทานตอ่ แสง และการขดั ถูเพ่ิมข้ึน ซ่ึงเรียกวา่ สารช่วยยอ้ มและสารช่วยใหส้ ีติด สารเหล่าน้ี
นอกจากจะเป็นตวั จบั ยดึ สีและเพมิ่ การติดสีในเสน้ ใยแลว้ ยงั ช่วยเปลี่ยนเฉดสีใหเ้ ขม้ จาง หรือ
สดใส สวา่ งข้ึนได้ สารช่วยยอ้ มหรือกระตนุ้ สีธรรมชาติ ที่นิยมใชก้ นั ไดแ้ ก่ น้าปนู ใส น้าด่าง(น้า
ข้ีเถา้ ) กรด(น้ามะนาว น้ามะขามเปี ยก น้าใบ/ฝักสอ้ ป่ อย) น้าบาดาล น้าโคลน(บอ่ ที่มีน้าขงั ตลอด
ปี ) ส่วนสารช่วยใหส้ ีติด ไดแ้ ก่ สารฝาด(พชื ท่ีมีรสฝาดและขม) โปรตีนจากน้าถว่ั เหลือง และเกลือ
แกง เป็นตน้

ปัจจุบนั มีการส่งเสริมใหใ้ ชว้ สั ดุจากธรรมชาติกนั มากข้ึน เพราะผลิตภณั ฑท์ ี่ไดจ้ าก
ธรรมชาติรวมท้งั กระบวนการที่ใหไ้ ดม้ าน้นั ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ มนอ้ ยมาก ความสนใจใน
การใชส้ ีจากวสั ดุธรรมชาติในการยอ้ มผา้ เพ่มิ มากข้ึนตลอดเวลา ซ่ึงเป็นผลมาจากปัจจยั ตา่ งๆ คือ
1. กระแสการอนุรักษแ์ ละสืบทอดภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น ที่สืบทอดกนั มาจากอดีตใหค้ งอยใู่ นสงั คม
สืบไปการยอ้ มสีธรรมชาติซ่ึงเป็นหน่ึงในภูมิปัญหาทอ้ งถิ่นจึงไดร้ ับการสนบั สนุนมากข้ึนจากท้งั
ภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนทวั่ ไป

2. ปัญหาผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ ม ที่เกิดจากการใชส้ งั เคราะห์และสารเคมีอนั ตรายใน
อตุ สาหกรรมการผลิตส่ิงทอ สารเคมีท่ีตกคา้ งและปนเป้ื อนในน้าทิ้งท่ีเกิดจากกระบวนการฟอก
ยอ้ ม ทาใหเ้ กิดการปนเป้ื อนของสารเคมีในแหล่งน้าธรรมชาติตา่ งๆ

5

3. ปัญหาความไมป่ ลอดภยั และผลกระทบตอ่ สุขภาพของผปู้ ฏิบตั ิงานฟอกยอ้ ม ซ่ึงเกิดจากการ
สมั ผสั กบั สารเคมีท่ีผสมอยใู่ นสีสงั เคราะห์ โดยเฉพาะสารก่อมะเร็ง

4. การใหค้ วามสนใจตอ่ ความปลอดภยั และอนั ตรายของสารเคมีตกคา้ งบนผลิตภณั ฑส์ ิ่งทอ
ของประชาชน มีการกาหนดชนิดสีสังเคราะหท์ ่ีจะใชก้ บั สิ่งทอแต่ละประเภท ทาใหเ้ กิดความ
ระมดั ระวงั ในการใชส้ ิ่งทอยอ้ มสีสังเคราะหแ์ ละหนั มาใชส้ ่ิงทอท่ีไดม้ าจากการยอ้ มสีธรรมชาติ
เพ่มิ มากข้ึน

5. การตื่นตวั ดา้ นการอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ มและระบบนิเวศ ทาใหเ้ กิดคา่ นิยมตอ่ ตา้ นสินคา้ ท่ีมี
ผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ ม มีการใชส้ ินคา้ ที่เป็นมิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ มหรือ “ผลิตภณั ฑฉ์ ลากเขียว”
เพม่ิ มากข้ึน โดยสินคา้ ท่ีดีจะตอ้ งเกิดจากกระบวนการผลิตท่ีไมท่ าลายส่ิงแวดลอ้ ม ไม่มีผลกระทบ
ต่อผบู้ ริโภค และสินคา้ ใชแ้ ลว้ เมื่อเป็นขยะตอ้ งไมก่ ่อมลพษิ ตอ่ ไป คา่ นิยมดงั กลา่ วมีส่วนสาคญั ใน
การผลกั ดนั ใหม้ ีการหนั กลบั มาใชส้ ่ิงทอยอ้ มสีธรรมชาติเพม่ิ มากข้ึน

การยอ้ มสีธรรมชาติแมม้ ีขอ้ จากดั ในเรื่องของปริมาณสารใหส้ ีในวตั ถดุ ิบซ่ึงมีนอ้ ย ทาให้
ยอ้ มไดส้ ีไม่เขม้ หรือตอ้ งใช้ วตั ถุดิบปริมาณมาก ไมส่ ามารถ ผลิตไดค้ ราวละมากๆ และไมส่ ามารถ
ผลิตสีไดค้ งที่ตามท่ีตลาดตอ้ งการ ท้งั สีสามารถซีดจางและมีความคงทนต่อแสงต่าเพราะคุณภาพ
การยอ้ มสีธรรมชาติข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั หลายประการที่ควบคุมไดย้ าก การยอ้ มสีใหเ้ หมือนเดิมทกุ คร้ัง
จึงทาไดย้ าก นอกจากน้ีการยอ้ มสีธรรมชาติหากขาดจิตสานึกในการใชท้ รัพยากรอยา่ งยงั่ ยนื อาจจะ
กลายเป็นการทาลายส่ิงแวดลอ้ ม

6

บทที่ 3
อุปกรณ์ และวิธีการดาเนินการ
1. อุปกรณ์
1.1.เส้ือสีขาว
1.2.สียอ้ มผา้ แบบผง
1.3.ขวดน้าเจาะรูตรงกลางฝา
1.4.ยางมดั ของ,ส้อม

2. วธิ ีการดาเนนิ งาน
1.ประชุมวางแผนการดาเนินงาน
2.ออกแบบอุปกรณ์
3.ทดสอบอุปกรณ์ที่ประดิษฐ์

\

7

ข้นั ตอนการประดิษฐ์
1.นาผงสียอ้ มผา้ มาผสมกบั น้าอ่นุ ใหเ้ ขา้ กนั กี่สีกไ็ ดต้ ามใจชอบแลว้ เทใส่ขวดน้าที่เตรียมไว้

ภาพที่ 1 แสดงการเทผงสีผสมกบั น้าเปลา่ ใหเ้ ขา้ กนั

2.ผสมสีท้งั หมดแลว้ นาผา้ สีขาวมาวางแนวราบจามความถนดั แลว้ นาวสั ดุตา่ งๆเพื่อนามา
ทาลายภาพ

ภาพท่ี 2 แสดงการใชห้ ินมดั ผา้ ผา้ ใหเ้ ป็นลายท่ีตอ้ งการ

8

3.นาหนงั ยางมามดั ผา้ ตามแนวและจานวนท่ีเราตอ้ งการ

ภาพที่ 3 แสดงการนายางมามดั ผา้ ตามแนว
4.นาสีที่เราผสมไวม้ าฉีดใส่ผา้ ตามใจเราตอ้ งการ ตามแนวท่ีมดั ยางไว้

ภาพที่ 4 แสดงการนาสีท่ีผสมกบั น้าแลว้ มาฉีดใส่ผา้

9

5.นากรรไกรมาตดั ยางออก หรือดึงยางออกธรรมดาก็ไดแ้ ลว้ นาผา้ ไปตาก ก็จะไดผ้ า้ มดั ยอ้ มสี
สวยงาม

ภาพที่ 5 แสดงการนากรรไกรมาตดั ยางและกางผา้ ออก

10

บทที่ 4
ผลการดาเนนิ งาน

จากการทาโครงงานผา้ มดั ยอ้ ม เม่ือนาไปตากแดดและนาไปซกั พบวา่ สีมหี ลดุ ออกไปบา้ งแต่ไม่
หมดสีเจือจางลงนิดหน่อย แต่ยงั คลา้ ยกบั สีที่ยอ้ มไปแรกๆอยไู่ ม่เพ้ยี นมากมาย

ภาพที่ 7 แสดงความเสร็จสมบูรณ์ของผา้ มดั ยอ้ ม

11

บทท่ี 5
สรุป อภปิ รายผลการดาเนนิ งาน
สรุปผลการดาเนนิ งาน
จากการดาเนินงานในการทาโครงงานผา้ มดั ยอ้ ม สรุปไดด้ งั น้ี
1. ไดแ้ นวคิดในการทาเส้ือใหม่ๆ
2. ไดอ้ าชีพเสริมใหม่
3. ไดน้ ความรู้มาส่งตอ่ สู่ลกู หลาน ประหยดั งบ

อภิปรายผลการดาเนนิ งาน
จากโครงงานผา้ มดั ยอ้ ม สามารถนาไปใส่ไดใ้ นชีวติ ประจาวนั ลวดลายไมซ้ ้าใครมีความสวยงาม
เป็นศิลปะที่คคู่ วรตอ่ การสืบทอดเป็นการอนุรักษว์ ิธีการทาผา้ มดั ยอ้ มและไดส้ ร้างความสามคั คแี ละ
สร้างปฏิสัมพนั ธ์ใหก้ บั คนในชุมชนรวมท้งั เสริมสร้างรายไดใ้ หก้ บั คนในชุมชนทาใหเ้ กิดความคิด
สร้างสรรคใ์ นการคิดลวดลายของผา้ มดั ยอ้ ม ทาใหเ้ กิดลวดลายใหม่ๆและเป็นที่เผยแพร่ความรู้
ใหก้ บั ผทู้ ี่สนใจ

ข้อเสนอแนะ
1. ผสมสีใหม้ ีความหลากหลายมากกวา่ น้ี
2. นอกจากเส้ือแลว้ สามารถนาอยา่ งอื่นมามดั ยอ้ มไดอ้ ีก เช่น กระเป๋ า ผา้ คลมุ เป็นตนั
3. หาลวดลายในการยอ้ มมากข้ึน

12

ประโยชน์ท่ไี ด้รับ
1.เพือ่ เป็นการอนุรักษว์ ิธีการทาผา้ มดั ยอ้ ม
2.สร้างความสามคั คีและสร้างปฏิสัมพนั ธใ์ หก้ บั คนในชุมชน
3.เสริมสร้างรายไดใ้ หก้ บั คนในชุนชน
4.เกิดความคิดสร้างสรรคใ์ นคิดลวดลายของผา้ มดั ยอ้ ม ทาใหเ้ กิดลวดลายท่ีใหม่ๆข้ึน
5.เป็นท่ีเผยแพร่ความรู้ใหก้ บั ผทู้ ่ีสนใจ

13

บรรณานุกรม

ความรู้ของสียอ้ มผา้ แบบธรรมชาติ https://sites.google.co
ประโยชน์ของผา้ มดั ยอ้ ม เพม่ิ เติม https://www.facebook.com/

ภาคผนวก

14

ภาพแสดง การนาเสนอผา้ มดั ยอ้ มหนา้ ช้นั เรียน
ภาพแสดง การนาเส้ืออีกตวั มาทาอีกลวดลาย

ภาพแสดง การนาผา้ คลมุ มายอ้ ม

15
ภาพแสดง การนากระเป๋ ามามดั ยอ้ ม


Click to View FlipBook Version