The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

องค์ความรู้ศิลปกรรมในล้านนา เป็นหนังสือออนไลน์ที่ให้ศึกษาประวัติความเป็นมา รูปแบบ ลักษณะ คติความเชื่อของศิลปกรรมล้านนาในช่วงพุทธศตวรรษต่างๆ อันปรากฏหลักฐานทางศิลปกรรมจำนวนมาก และเป็นช่วงที่พุทธศาสนาลัทธิเถรวาท ลังกาวงศ์มีบทบาทมาก่อนการรับวัฒนธรรมตะวันตก นอกจากนั้นยังได้ศึกษาถึงแนวคิดในการสร้างงานศิลปกรรมล้านนาว่า พระพุทธศาสนามีอิทธิต่อแนวคิด และรูปแบบของศิลปกรรมล้านนา รวมถึงบทบาทของศิลปกรรมล้านนาที่มีต่อผู้คนในท้องถิ่นช่วงเวลาดังกล่าว ในด้านความเชื่อ ด้านวัฒนธรรมประเพณี และการเมืองการปกครอง เพื่อทำให้ได้องค์ความรู้ทางวิชาการของศิลปกรรมล้านนาในสังคมไทยในด้านที่ยังไม่มีการศึกษาอย่างชัดเจนสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ทางศิลปกรรมล้านนายุคปัจจุบัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by MCU Books, 2021-01-11 04:56:25

องค์ความรู้ศิลปกรรมในล้านนา

องค์ความรู้ศิลปกรรมในล้านนา เป็นหนังสือออนไลน์ที่ให้ศึกษาประวัติความเป็นมา รูปแบบ ลักษณะ คติความเชื่อของศิลปกรรมล้านนาในช่วงพุทธศตวรรษต่างๆ อันปรากฏหลักฐานทางศิลปกรรมจำนวนมาก และเป็นช่วงที่พุทธศาสนาลัทธิเถรวาท ลังกาวงศ์มีบทบาทมาก่อนการรับวัฒนธรรมตะวันตก นอกจากนั้นยังได้ศึกษาถึงแนวคิดในการสร้างงานศิลปกรรมล้านนาว่า พระพุทธศาสนามีอิทธิต่อแนวคิด และรูปแบบของศิลปกรรมล้านนา รวมถึงบทบาทของศิลปกรรมล้านนาที่มีต่อผู้คนในท้องถิ่นช่วงเวลาดังกล่าว ในด้านความเชื่อ ด้านวัฒนธรรมประเพณี และการเมืองการปกครอง เพื่อทำให้ได้องค์ความรู้ทางวิชาการของศิลปกรรมล้านนาในสังคมไทยในด้านที่ยังไม่มีการศึกษาอย่างชัดเจนสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ทางศิลปกรรมล้านนายุคปัจจุบัน

Keywords: ศิลปะ,ล้านนา,ประวัติศาสตร์

๘. เจดียเ์ กา่ วัดพระแก้ว เชียงราย พ.ศ.๒๔๖๕

51

๓.๔ ศลิ ปกรรมลา้ นนาในอดีตสู่เอกลักษณ์ส่อื ความการสบั หมึก

๙. พ่อครภู มู ปิ ญั ญาออกแบบวิเคราะห์ศิลปกรรมสักขาลาย
52

๙.เอกลักษณแ์ ละระบบสัญลกั ษณท์ ่ีผู้ทำ� ได้พยายามสื่อความออกมาอย่างเช่น การสบั หมึก หรือการ “สัก” ลวด
ลายลงบนรา่ งกาย ซง่ึ นอกจากจะมคี วามเช่ือเรื่องการอยยู่ งคงกระพนั แลว้ การสกั หมึกยงั มคี วามสำ� คญั ตอ่ การ
เลือกคู่ครอง ของชายลา้ นนาอีกดว้ ย ชาวล้านนาในอดีต ชายลา้ นนานยิ มการสกั ขาลายมาก เมอ่ื มอี ายุยา่ งเขา้ สู่
วัยรุ่นจะท�ำการสกั แทบทกุ คน การสกั ชนดิ นีใ้ ช้หมึกสีด�ำไมม่ ีการเสกคาถากำ� กบั แตอ่ ย่างใด เพราะเปน็ การสกั เพอื่
ความสวยงามตามจารตี ประเพณนี ยิ ม เปน็ เอกลกั ษณศ์ ิลปกรรมที่แสดงถึงความเข้มแข็งของลูกผู้ชาย

53

บทท่ี ๔

การสรา้ งสรรคศ์ ลิ ปกรรมลายเส้นในล้านนา

ลวดลายศิลปะลา้ นนา ซง่ึ บางครั้งเรยี กวา่ ลายเมือง โดยยอ่ มาจากคำ� วา่ ลายของคนเมือง อันเป็นชอ่ื หนงึ่
ทคี่ นลา้ นนานิยมใช้เรยี กตัวเอง โดยทั่วไปจะมลี กั ษณะเรียบง่าย ไมส่ ลับซบั ซ้อนเมื่อเทยี บกบั ลายกนกของทางภาดก
ลางท่ีเจริญรุ่งเรอื ง ข้นึ มาอยา่ งชัดเจนในสมัยอยุธยาตอนกลางเปน็ ต้นมา ลายล้านนาบางคร้ังจะใกล้เคยี งกนั ลาย
สุโขทยั และอยธุ ยาตอนต้น ในดา้ นความเรียบง่าย ลายล้านนิยมใชล้ ายทท่ี างภาคกลางเรียกวา่ “ลายเครือเถา” ซง่ึ ทาง
ล้านนาจะเรยี กว่า “ลายเคร่ือดอก” เรียกสน้ั ๆ ว่า ลายเครอื ” โดยจะมอี งค์ประกอบ สำ� คัญ ๓ หนว่ ย ได้แก่ เครอื ดอก
และใบ เขยี นผกู เข้ามาอยูร่ วมกันใหส้ วยงามตามความเหมาะสม ในยุค ปลายราชวงศม์ ังราย เม่ือช่างไดพ้ ัฒนาทักษะ
ในผกู ลายมากขน้ึ จึงมคี วามสลับซับซ้อนมากกวา่ เดิม เพิม่ องคป์ ระกอบเข้าไป ๕ หนว่ ย ไดแ้ ก่ เครอื ดอก และใบ
หนว่ ย คือ ผลไมห้ รอื ดอกตบ และแมง ไดแ้ ก่ สตั ว์ตา่ ง ๆ นก กระรอก ผีเสือ้ สัตวห์ ิมพานต์ เช่น โต และกิเลน เปน็ ต้น
ซ่งึ ทาง (ทมี วจิ ยั ) ผ้เู ขียน ดร.พรศิลป์ รัตนชูเดช ไดเ้ ดินทางเก็บขอ้ มูลใน ๘ จงั หวัดภาคเหนอื แล้วน�ำข้อมูลมา
สงั เคราะหศ์ ลิ ปกรรมท่ไี ดม้ า เขยี นเปน็ องคค์ วามรใู้ หมเ่ รื่องลายเส้นให้ชดั เจนมากขึ้น

๔.๑ ลายดอกลา้ นนา
54

๔.๑ ลายดอกล้านนา

55

๔.๑ ลายดอกลา้ นนา
56

๔.๒ ลายนาคทนั ตล์ ้านนา

57

๔.๒ ลายนาคทนั ตล์ ้านนา
58

๔.๒ ลายนาคทนั ตล์ ้านนา

59

๔.๒ ลายนาคทนั ตล์ ้านนา
60

๔.๓ ลายเครอื ดอกบวั สวรรค์

61

๔.๔ ลายหนา้ จดี
62

๔.๔ ลายหนา้ จดี

63

๔.๕ ลายเมฆ
64

๔.๖ ลายโกง่ คว้ิ

65

๔.๗ ลายนกแซมเครอื ดอกพดุ ตาน
66

๔.๘ ลายเศยี รมกร

67

๔.๙ ลายมจั ฉาเวียงบวั มจร.พะเยา
68

บทท่ี ๕

ศิลปะกับชมุ ชน [กรณีศึกษาหมบู่ ้าน]

กลมุ่ จงั หวัดลา้ นนา ไดม้ กี ารพฒั นาเมอื งใหม้ ีเอกลกั ษณท์ างล้านนาไม่ว่าจะเปน็ ศิลปะ นวัตกรรม และเมอื ง
เชิงนิเวศ ไดม้ กี ารเชอ่ื มโยงการท�ำงานร่วมกันของฝา่ ยต่างๆ เชน่ ภาครัฐได้มกี ารรวมกลุม่ เปน็ กลมุ่ จงั หวดั ล้านนา คณะ
สงฆไ์ ดร้ วมกนั อนรุ กั ษ์ศิลปะลา้ นนาของวดั และชมุ ชน กลมุ่ ศลิ ปินไดเ้ ปิดบา้ นศลิ ปนิ ลา้ นนาและนิทรรศการศลิ ปะใน
พน้ื ที่สาธารณะ จนน�ำไปสกู่ ารพฒั นาเมอื งสรา้ งสรรค์ จนกลายเปน็ สถานที่ท่องเท่ียวท่สี ำ� คัญ เพอ่ื เปน็ การขบั เคล่ือน
การสร้างสรรค์เมืองศิลปะตามยุทธศาสตร์ชาติและกิจกรรมของตนเองเพ่ือน�ำไปสู่การพัฒนาเมืองในรูปแบบท่ีมี
เอกลักษณ์เฉพาะและสอดคล้องกบั วถิ ีวฒั นธรรมของตนเอง เพราะศลิ ปะไมใ่ ชแ่ ค่การสร้างความสนุ ทรยี ์ทางอารมณ์
และจิตวญิ ญาณเทา่ น้นั ยังเป็นการสร้างแรงบนั ดาลใจเชิงบวกตอ่ การดำ� เนินชวี ติ ของมนษุ ย์ หากมนษุ ยไ์ รศ้ ิลปะ ชีวติ
จติ ใจย่อมจะมัวหมอง ศลิ ปะจงึ เปน็ เครื่องจรรโลงจติ ใจอย่างหนึง่ ของมนุษย์ให้ดำ� รงชีวิตอย่ใู นสังคม และนอกจากน้ัน
ศิลปะยงั เปน็ สิง่ ที่สรา้ งคณุ คา่ ให้กบั เมืองท้ังในดา้ นความสวยงาม ความน่าอยู่ และท่ีส�ำคญั ทส่ี ุด คือ การสรา้ งมลู ค่า
ทางเศรษฐกจิ ดังนน้ั คณะผวู้ จิ ัย จึงมคี วามตง้ั ใจท่ีจะพฒั นารปู แบบเมอื งศลิ ปะเชงิ สรา้ งสรรค์ของกลมุ่ จงั หวัดในลา้ น
นา โดยการเชื่อมโยงวถิ ีวฒั นธรรมของท้องถิ่นล้านนาจาก “วดั ” สู่ “ชมุ ชน” จาก “ชมุ ชน” สู่ “พ้ืนที่สาธารณะและ
การสร้างสรรค์” โดยมีเป้าหมายหลัก คอื การพฒั นาเมอื งแหง่ ศิลปะและการสร้างสรรคข์ องกล่มุ จงั หวัดลา้ นนา

โลโกป้ ระจำ� แผนงานวิจยั
ท่ีออกแบบมาใช้กบั โครงการ

69

๕.๑ ศิลปะกบั ชุมชนจังหวดั เชยี งใหม่
พนื้ ท่ีลำ� ดับ ๑ ชุมชนบา้ นท่าขา้ ม อำ� เภอฮอด จงั หวัดเชียงใหม่

- ลงพ้ืนทชี่ มุ ชนปรกึ ษาผ้นู �ำชุมชนในการสังเคราะห์ศิลปกรรมล้านนาที่
จะสรา้ งสรรคใ์ นพืน้ ทส่ี าธารณะชุมชน

- การจดั กจิ กรรมที่ช่วยพัฒนาความร้คู วามสามารถทางศิลปกรรมลา้ นนา ให้แก่นิสติ นักศกึ ษา นักเรียนและ
ชาวบ้านในชมุ ชน โดยนำ� ความรู้ทไี่ ด้จากงานวจิ ัยไปใชป้ ระโยชน์โดยตรงในการเรยี นรู้จริง

70

- การจดั กิจกรรมท่ชี ว่ ยพฒั นาความรคู้ วามสามารถทางศลิ ปกรรมลา้ นนา ให้แก่นสิ ติ นกั ศึกษา นักเรียนและ
ชาวบา้ นในชุมชน โดยน�ำความรู้ทีไ่ ดจ้ ากงานวิจัยไปใชป้ ระโยชนโ์ ดยตรงในการเรยี นรจู้ ริง

71

๕.๒ ศลิ ปะกบั ชุมชนจังหวดั เชยี งราย
พ้ืนทลี่ ำ� ดบั ๒ ชุมชนบ้านเหลา่ พัฒนา อ�ำเภอแมส่ รวย จังหวัดเชยี งราย

- ลงพ้ืนท่ีชุมชนปรึกษาผ้นู ำ� ชมุ ชนในการสงั เคราะห์ศิลปกรรมล้านนาทีจ่ ะสร้างสรรค์
ในพน้ื ทสี่ าธารณะชมุ ชน

72

- การจดั กจิ กรรมทช่ี ว่ ยพัฒนาความรู้ความสามารถทางศลิ ปกรรมลา้ นนา
ให้แกน่ ิสิต นักศกึ ษา นักเรยี นและชาวบ้านในชุมชน โดยน�ำความรู้ท่ไี ดจ้ าก

งานวิจัยไปใชป้ ระโยชน์โดยตรงในการเรียนรู้จรงิ
73

๕.๓ ศลิ ปะกับชุมชนจงั หวัดพะเยา
พ้ืนท่ลี ำ� ดบั ๓ ชุมชนบ้านแมน่ าเรือ อำ� เภอเมืองพะเยา จังหวดั พะเยา

- ลงพ้นื ที่ชุมชนปรึกษาผ้นู �ำชมุ ชนในการสงั เคราะหศ์ ิลปกรรมลา้ นนาท่จี ะสร้างสรรค์ใน
พ้ืนที่สาธารณะชมุ ชน

74

- การจดั กจิ กรรมทช่ี ว่ ยพัฒนาความรู้ความสามารถทางศลิ ปกรรมลา้ นนา
ให้แกน่ ิสิต นักศกึ ษา นักเรยี นและชาวบ้านในชุมชน โดยน�ำความรู้ท่ไี ดจ้ าก

งานวิจัยไปใชป้ ระโยชน์โดยตรงในการเรียนรู้จรงิ

75

๕.๔ ศลิ ปะกบั ชุมชนจังหวัดแพร่
พืน้ ทีล่ ำ� ดับ ๔ ชุมชนบา้ นตน้ ไคร้ อ�ำเภอเมอื ง จังหวัดแพร่

- ลงพื้นที่ชุมชนปรึกษาผนู้ �ำชมุ ชนในการสงั เคราะห์ศิลปกรรมล้านนาทจ่ี ะสร้างสรรค์ในพื้นท่สี าธารณะชมุ ชน
76

- การจดั กิจกรรมท่ชี ว่ ยพฒั นาความรคู้ วามสามารถทางศลิ ปกรรมลา้ นนา ให้แก่นสิ ติ นกั ศึกษา นักเรียนและ
ชาวบา้ นในชุมชน โดยน�ำความรู้ทีไ่ ดจ้ ากงานวิจัยไปใชป้ ระโยชนโ์ ดยตรงในการเรยี นรจู้ ริง
77

๕.๕ ศิลปะกบั ชมุ ชนจังหวัดน่าน
พน้ื ที่ล�ำดับ ๕ ชุมชนบ้านบญุ ยืน อำ� เภอเวียงสา จังหวดั น่าน

- ลงพื้นทีช่ ุมชนปรึกษาผูน้ ำ� ชุมชนในการสงั เคราะห์ศลิ ปกรรมลา้ นนาท่ีจะสรา้ งสรรค์ในพืน้ ท่สี าธารณะชมุ ชน
78

- การจดั กจิ กรรมทช่ี ว่ ยพัฒนาความรู้ความสามารถทางศลิ ปกรรมลา้ นนา
ให้แกน่ ิสิต นักศกึ ษา นักเรยี นและชาวบ้านในชุมชน โดยน�ำความรู้ท่ไี ดจ้ าก

งานวิจัยไปใชป้ ระโยชน์โดยตรงในการเรียนรู้จรงิ
79

๕.๖ ศลิ ปะกบั ชมุ ชนจงั หวัดล�ำพูน
พื้นท่ีล�ำดับ ๖ วทิ ยาลัยสงฆ์ล�ำพูน มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั

อ�ำเภอเมือง จังหวดั ลำ� พนู

- ลงพน้ื ที่ชุมชนปรกึ ษาผนู้ �ำชุมชนในการสังเคราะหศ์ ิลปกรรมลา้ นนา
ท่ีจะสร้างสรรค์ในพน้ื ทส่ี าธารณะชมุ ชน

80

- การจดั กจิ กรรมที่ช่วยพฒั นาความรคู้ วามสามารถทางศิลปกรรมล้านนา ใหแ้ ก่นิสติ
นกั ศกึ ษา นักเรียนและชาวบา้ นในชุมชน โดยนำ� ความรทู้ ไ่ี ด้จากงานวิจัยไปใชป้ ระโยชน์

โดยตรงในการเรียนรจู้ รงิ
81

๕.๗ ศิลปะกับชุมชนจงั หวดั ล�ำปาง
พนื้ ที่ลำ� ดบั ๗ ชมุ ชนบา้ นล�ำปางหลวง อำ� เภอเกาะคา จังหวัดลำ� ปาง

- ลงพนื้ ที่ชมุ ชนปรกึ ษาผนู้ �ำชมุ ชนในการสงั เคราะหศ์ ิลปกรรมล้านนาท่จี ะสร้างสรรค์ในพนื้ ท่สี าธารณะชุมชน
- การจัดกิจกรรมที่ชว่ ยพฒั นาความรคู้ วามสามารถทางศลิ ปกรรม
ลา้ นนา ใหแ้ กน่ สิ ิต นกั ศกึ ษา นกั เรียนและชาวบ้านในชุมชน โดยนำ�
ความรู้ทไ่ี ดจ้ ากงานวิจัยไปใชป้ ระโยชนโ์ ดยตรงในการเรยี นรูจ้ รงิ

82

๕.๘ ศลิ ปะกบั ชุมชนจงั หวัดแมฮ่ อ่ งสอน
พื้นที่ล�ำดับ ๘ ชุมชนบ้านเวยี งเหนอื อำ� เภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

- ลงพ้นื ที่ชมุ ชนปรึกษาผนู้ ำ� ชมุ ชนในการสังเคราะหศ์ ลิ ปกรรมล้านนาที่จะสรา้ งสรรค์ในพน้ื ทสี่ าธารณะชุมชน
83

- การจดั กจิ กรรมทีช่ ว่ ยพัฒนาความรู้ความสามารถทางศิลปกรรมล้านนา ให้แกน่ ิสติ
นักศกึ ษา นักเรยี นและชาวบ้านในชุมชน โดยนำ� ความรู้ที่ไดจ้ ากงานวิจยั ไปใช้ประโยชน์

โดยตรงในการเรยี นรู้จริง
84

บทที่ ๖

องคค์ วามร้ศู ิลปกรรมในล้านนาสกู่ ารสรา้ งสรรค์ใหม่

การด�ำเนินถ่ายทอดองค์ความรู้หรือถอดบทเรียนจากการจัดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้เรื่องศิลปกรรมล้าน
นาในคร้งั นี้ ทางทีมงานวิจยั ไดส้ ังเคราะห์ออกมาให้เหมาะสมกับผ้เู รียนท่ีได้เรยี นรู้โดยตรง และไดส้ ร้างผลงานออกมา
สู่สาธารณชนและพร้อมกับพัฒนาตนเองและผู้เรียนรู้ไปสู่การสร้างสรรค์ศิลปกรรมล้านนายุคใหม่และเป็นการพัฒนา
แหล่งเรียนรูท้ างวฒั นธรรมของท้องถิน่ ล้านนาอยา่ งมีสว่ นรว่ มหลากหลายกิจกรรม เพ่ือปลกู ฝังความรกั ในงานศลิ ปะ
ความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาและปลูกจิตส�ำนึกความรักในศิลปวัฒนธรรมของท้องถ่ินและสร้างแรงบันดาลใจใน
การสรา้ งสรรค์งานศิลปกรรมล้านนาทเ่ี ป็นเอกลกั ษณล์ ้านนาโดยตรง

๑. สรา้ งพ้ืนทใ่ี นการฟัง แลกเปล่ยี น และเรยี นรูร้ ว่ มกนั

กา้ วแรกของการสร้างความเขม้ แขง็ ในการเรียนรรู้ ว่ มกันไม่อาจเกดิ ขน้ึ จริงได้ หากละทงิ้ การทำ� ความรจู้ ัก
การท�ำความเข้าใจความเป็นจริงของสถานการณ์และสภาพจิตใจของเพื่อนสมาชิกดังน้ันจึงจะต้องสร้างพ้ืนท่ีท่ีจะ
ท�ำให้กระบวนการท�ำให้เพ่ือนเป็นผู้สนับสนุนเกิดการสร้างพ้ืนท่ีในการฟังแลกเปล่ียนและเรียนรู้ร่วมกันโดยมุ่งให้
ความส�ำคัญและสนับสนุนในการจัดวงพูดคุยของสมาชิกในกิจกรรมที่จัดข้ึนบนฐานคิดที่เชื่อว่าการพูดคุยอย่างเปิด
กว้างและสร้างสรรคจ์ ะช่วยท�ำใหเ้ กดิ การเรยี นรทู้ งั้ ในเร่ืองการสร้างสรรคศ์ ลิ ปกรรมล้านนาให้มีเน้อื หาและความหมาย
ทีช่ ดั เจน รว่ มท้ังการท�ำความเขา้ ใจรว่ มกนั ใน “ความรู้” และ “ความรู้สกึ ” ของเพอ่ื น สมาชกิ ดว้ ยกัน จึงจะเกิดทเ่ี รียก
วา่ การถอดบทเรียนใหเ้ กดิ องค์ความรู้ใหม่

การเกบ็ ขอ้ มลู ภาคสนามเพ่อื น�ำข้อมูลตา่ งๆ มารวบรวมเพอ่ื สังเคราะห์ใหอ้ อกมาเปน็
ศลิ ปกรรมล้านนาทเ่ี ป็นต้นแบบในการน�ำไปใชป้ ระโยชน์ดา้ นการเรียนรู้

85

86

การเก็บขอ้ มลู ภาคสนามเพ่ือนำ� ข้อมลู ต่างๆ มารวบรวมเพอ่ื สังเคราะห์ใหอ้ อกมาเป็น
ศลิ ปกรรมล้านนาท่ีเป็นตน้ แบบในการน�ำไปใช้ประโยชนด์ า้ นการเรยี นรู้
87

๒. ระดมความคดิ เพื่อแสวงหาการสร้างสรรค์ผลงานศลิ ปกรรมล้านนาใหม่

ความคดิ เหน็ จ�ำนวนมากและหลากหลายของทีมงาน และผทู้ รงคุณวฒุ ิท่ีมีบรบิ ททแ่ี ตกต่างกนั มาสกู่ าร
ตกผลึกแนวความคิดรว่ มกนั ดังท่ี ผศ.ดร.สรุ สทิ ธิ์ เสาวค์ ง ผ้ทู รงคุณวุฒิและท่ีปรกึ ษาดา้ นศลิ ปกรรม ทอ้ งถ่นิ ลา้ นนาได้
กลา่ วคำ� น�ำว่า “งานศลิ ปะตา่ งๆ ทมี่ นษุ ย์สรา้ งขึน้ ก็คอื สุนทรยี ศาสตร์ที่แฝงอย่กู บั สิ่งๆนัน้ ศลิ ปกรรมทางลา้ นนา ก็
เป็นหน่งึ ในศิลปะทม่ี ีเอกลกั ษณ์เฉพาะตัวท่ีโดดเด่นของประเทศไทยเช่นกัน ซ่งึ ถือไดว้ า่ มีความส�ำคญั และมคี ณุ ค่าทาง
จิตใจในทางพุทธศาสนาเองทางล้านนาจะเห็นได้ว่าศิลปวัตถุก็สามารถท�ำหน้าที่นี้ได้ถ้าน�ำพาให้คนตระหนักถึงศีล
ธรรมอนั ดี เพราะวา่ ศิลปกรรมล้านนาเป็นส่อื ทีอ่ ธบิ าย ถ่ายทอดอดุ มคตติ ่าง ๆ” น้ัน ดว้ ยเห็นว่ามีจดุ รว่ มกนั ว่าในดนิ
แดนล้านนา เปน็ ดนิ แดนทผ่ี ู้คนให้ความสำ� คัญในเร่ืองความศรทั ธาในพระพุทธศาสนา ซึง่ จะเห็นไดจ้ ากมเี ครื่องอฐั
บริขารที่ผนวกมีฝีมือเชิงช่างของล้านนาท่ีวิจิตรงดงามรวมทั้งด้วยภูมิปัญญาของคนล้านนามีความประณีตในการ
สร้างสรรคศ์ ิลปกรรมประเภทตา่ งๆ สิ่งเหล่านีเ้ ป็นสง่ิ ทมี่ คี วามหมายและมีคณุ ค่าตอ่ คนล้านนากระบวนการในการ
ระดมความคดิ ตกผลกึ และมขี อ้ ตกลงรว่ มกันน้ี ต้องผ่านการพดู คยุ และทบทวนหลายครงั้ จนสกดั เป็นความเหน็ รว่ ม
กันว่าปรัชญาในการท�ำงานร่วมกนั คอื “เราคอื หนึ่งเดยี ว” หมายถึง การจัดกจิ กรรมที่ไดจ้ ากการสงั เคราะหอ์ อกมา
เป็นบทเรียนรู้ที่จะท�ำให้ผู้เรียนเกิดการเข้าใจงานศิลปกรรมล้านนาได้รวดเร็วขึ้นและมีเอกภาพเป็นล้านนาโดยตรง
นอกจากนี้การระดมความคิดยังช่วยให้สมาชิกทีมงานที่จะได้สังเคราะห์องค์ความรู้ศิลปกรรมล้านนามองเห็นความ
เป็นไปได้ในการทำ� งานรว่ มกัน การหาจุดรว่ มทางความคดิ ใหต้ กผลกึ และประเดน็ ท่จี ะจดั กิจกรรมต่างๆ เปน็ การจัด
กจิ กรรมภายใต้แนวคดิ “ศิลปกรรมล้านนา ศรทั ธาทส่ี ร้างได้” และแบง่ เปน็ ๔ ประเดน็ ส�ำคัญ ไดแ้ ก่ วิถลี า้ นนา
ศรัทธาเหนอื ธรรมชาติ พิธกี รรมทางศาสนา พลังศรทั ธา ศิลปกรรมยุคใหม่ ๓ มิติ การตกผลึกทางความคดิ เช่นนเ้ี กิด
ขึ้นได้เพราะสมาชิกในทมี งานมีความเข้าใจ

88

๓. เวทีถอดบทเรียนกจิ กรรมการสรา้ งสรรคใ์ หม่ ทบทวนเพ่ือการท�ำงานก้าวตอ่ ไป

กระบวนการเหล่าน้ีสว่ นหนึง่ เป็นการเรยี นรู้รว่ มกนั จากการระดมความคดิ ข้นั ต้น รวมทั้งการแลกเปลี่ยน
ประสบการณ์และเรียนรรู้ ว่ มกนั ระหวา่ งเครือข่ายทมี งานวิจัย นิสติ นกั ศกึ ษา นักเรียน พระสงฆ์ ผูท้ รงคุณวุฒิ และ
เครือข่ายอืน่ ๆ ทำ� ให้การสรา้ งพ้ืนทีใ่ นการเรียนร้ขู องเครอื ข่ายศลิ ปกรรมทอ้ งถนิ่ ล้านนา มลี ักษณะเฉพาะของตนเอง มี
ความเตบิ โตทางความคดิ พลังของเครือข่ายศลิ ปกรรมท้องถน่ิ ลา้ นนา สร้างความเคลอื่ นไหว และเป็นส่วนหนึ่งในการ
ขบั เคลื่อนวงการศลิ ปกรรมลา้ นนา ให้มชี วี ิต ไม่หยดุ นิง่ และเหน็ ความเป็น “เพ่อื นศลิ ปะ” ท่พี ร้อมจะดแู ลชว่ ยเหลอื
กนั ตอ่ ไป

89

90

๔. เวทถี อดบทเรยี นกจิ กรรมสรา้ งแรงบันดาลใจการสรา้ งสรรค์ศลิ ปกรรมลา้ นนาใหม่

การบรรยายแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปกรรมล้านนาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนของทีมงาน
และบรรยายในการด�ำเนินการสร้างสรรค์งานด้วยเทคนิคที่ผ่านการสังเคราะห์จากการเดินทางเก็บข้อมูลในภาคเหนือ
ทง้ั หมดนำ� มาสรา้ งงาน และนำ� มามอบความรู้ใหก้ ับนสิ ิตนกั ศึกษาจากคณะวิจติ รศลิ ป์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ โดย
การนำ� มาด้วย ผศ.ดร.ธงชัย คุคันตระพรพงษ์

91

๕. เวทถี อดบทเรยี นกจิ กรรมการสรา้ งสรรคศ์ ิลปกรรมลา้ นนาใหม่ และสร้างศิลปนิ ล้านนารุ่นใหม่
ที่เกิดจากการสังเคราะหอ์ งคค์ วามรูท้ น่ี ำ� เสนอ

92

93

นสิ ติ ทไี่ ดร้ ว่ มกจิ กรรมไดส้ รา้ งสรรคผ์ ลงานศลิ ปกรรมลา้ นนาใหม่ โดยไดน้ ำ� แนวความคดิ และแรงบนั ดาลใจ ท่ี
เกดิ จากพลงั ความเชอ่ื ความศรทั ธาของชาวพมา่ และไทใหญต่ อ่ พระแมส่ รุ ะสะตี ทำ� ใหไ้ ดส้ รา้ งสรรคผ์ ลงานดา้ นศลิ ปกรรม
ลา้ นนาอนั ทรงคุณค่า มีเอกลักษณเ์ ฉพาะตวั ทีท่ ง้ั ยงั มีคติธรรมทแี่ ฝงด้วยหลักธรรมคำ� สอนปรัชญาในพระพุทธศาสนา
ศรัทธาในความเช่ือมั่นท่ีพิจารณาด้วยปัญญาแล้วนั้นย่อมท�ำให้เกิดความส�ำเร็จบังเกิดขึ้นแก่ชีวิตของตนเองและผู้อื่น
ได้ บางคนเชือ่ กฎแหง่ กรรมเช่อื ว่ากรรมมอี ยู่จริง คือ เชอ่ื วา่ เมือ่ ท�ำอะไรโดยมเี จตนา จงใจทำ� ทงั้ ที่รู้ ย่อมเป็นกรรม คือ
เป็นความชวั่ และความดีมขี ้ึนในใจตนเอง เป็นปจั จัยกอ่ ใหเ้ กิดผลดีผลร้ายสบื เน่ืองต่อไป การกระทำ� และความเช่ือว่าที่
ต้องการจะสำ� เร็จได้ดว้ ยการกระท�ำ มิใช่ดว้ ยออ้ นวอนหรือคอยโชค จงึ ได้นำ� เสนอการสรา้ งสรรคใ์ หมเ่ รอื่ ง ความ
ศรัทธาของพระแมส่ ุระสะตผี ู้ปกป้อง รกั ษา คมุ ครอง พระไตรปิฎกค�ำสอนของพระพุทธเจ้า มาสร้างเป็นงานศลิ ปกรรม
ล้านนาเทวีแหง่ ปัญญาท่นี ่าชืน่ ชมขน้ึ มาในการท�ำกจิ กรรมพัฒนาความรู้ ในโครงการวจิ ยั The City of Arts: การ
พฒั นาเมอื งศลิ ปะเชงิ สรา้ งสรรคใ์ นล้านนา
94

95

ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ และคณะทำ� งานโครงการวจิ ยั ไดน้ ำ� ผลงานสรา้ งสรรคท์ เ่ี กดิ จากการสงั เคราะหศ์ ลิ ปกรรมลา้ นนา
ทน่ี สิ ติ ไดส้ รา้ งสรรคข์ นึ้ จากการทำ� กจิ กรรมมาโดยตลอด มานำ� เสนอตอ่ สาธารณชน
ในกจิ กรรมตา่ งๆ ทางแขนงศลิ ปกรรมทอ้ งถน่ิ ลา้ นนา

96

ประมวลภาพการลงพน้ื ทใี่ นแตล่ ะจงั หวดั

97

ประมวลภาพการลงพน้ื ทใ่ี นแตล่ ะจงั หวดั

98

ประวัติผูเ้ ขียน

“ศลิ ปะลา้ นนา : ประวตั ิศาสตร์ อัตลักษณ์ และการสรา้ งสรรค”์

การสงั เคราะหอ์ งคค์ วามรศู้ ลิ ปกรรมในลา้ นนา (Synthesis of Art knowledge in Lanna)
ภายใตแ้ ผนงานวจิ ยั The City of Arts: การพฒั นาเมอื งศลิ ปะเชงิ สรา้ งสรรคใ์ นลา้ นนา

ผศ.ปฏเิ วธ เสาวค์ ง ประธานหลกั สูตรสาขาวชิ าพุทธศลิ ปกรรม
ศศ.บ.(จติ รกรรม) ศศ.ม.(ทศั นศลิ ป)์
ผลงานและรางวลั ทไี่ ด้รบั :
- รางวัลชนะเลศิ การประกวดวาดภาพ ระดับประเทศ ท่ีจังหวดั ชลบุรี
- รางวัลชนะเลิศการประกวดวาดภาพ ระดับจงั หวดั ทีจ่ งั หวดั เชยี งราย
- รางวลั ชนะเลศิ การประกวดวาดภาพ กาดหลวง ทจี่ งั หวดั เชยี งใหม่
ผลงานทางวิชาการ:
- หนงั สือจติ รกรรมเบอื้ งต้น
- การสร้างสรรค์งานจิตรกรรมฝาผนงั มหาเวสสันดรชาดกฯ (งานวิจัย)

ดร. พรศิลป์ รัตนชูเดช อาจารย์ประจ�ำสาขาวชิ าพทุ ธศิลปกรรม
ศศ.บ.(โบราณคด)ี ศศ.ม.(ปรัชญา) พธ.ด.(พระพุทธศาสนา)
ผลงานและรางวัลท่ีได้รับ:
-รับโลห์ ผู้มคี วามประพฤติดีเด่นด้านพระพทุ ธศาสนา จากพุทธสมาคม ประเทศไทย
-รบั เกียรติบัตรผบู้ ำ� เพญ็ ประโยชนอ์ ยา่ งสงู ในกิจการโรงเรยี นพุทธศาสนาวันอาทิตย์
วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่
-รบั เกียรติบัตรผูบ้ ำ� เพ็ญประโยชนด์ ้านวชิ าการ จากมหาวิทยาลยั แมโ่ จ้ จ.เชยี งใหม่
ผลงานทางวชิ าการ:
-หนงั สือภาพลายเส้นพทุ ธศิลปใ์ นลา้ นนา

ธรี ะพงษ์ จาตุมา อาจารย์ประจำ� สาขาวชิ าพทุ ธศลิ ปกรรม
ศศ.บ.(จิตรกรรม) พธ.ม.(พระพุทธศาสนา)
ผลงานและรางวลั ทีไ่ ดร้ ับ:
- รางวลั ยอดเยยี่ ม การประกวดผลงานจติ รกรรม ธรรมชาตสิ ดุ สวย รำ�่ รวยศลิ ปกรรมเชดิ ช ู
วฒั นธรรมลา้ นนา
- รางวลั ชนะเลศิ องคป์ ระกอบศลิ ป์ การแขง่ ขนั ทกั ษะวชิ าชพี ระดบั หนว่ ย วทิ ยาลยั อาชวี ะศกึ ษาลำ� ปาง
- รางวลั ชนะเลศิ จติ รกรรมสนี ำ�้ การแขง่ ขนั ทกั ษะวชิ าชพี ระดบั หนว่ ย วทิ ยาลยั อาชวี ะศกึ ษาลำ� ปาง
- รางวัลดเี ดน่ การประกวดวาดภาพสด หวั ข้อกาดหลวงกบั วิถคี นเมือง ณ. เฮอื นศิลปนิ นาชา
ผลงานทางวิชาการ:
- หนังสอื พุทธจติ รกรรมลา้ นนา
- การสรา้ งสรรคง์ านจติ รกรรมฝาผนงั มหาเวสสันดรชาดกฯ (งานวิจยั )
อำ� นาจ ขดั วิชยั นกั วชิ าการ/อาจารย์สาขาวิชาพุทธศลิ ปกรรม
ปวส.(จิตรกรรมสากล) วท.บ.(วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารอาหาร) พธ.ม.(พระพุทธศาสนา)
ผลงานทางวิชาการ:
- หนังสือพุทธศลิ ปะ
- งานวจิ ยั เรอื่ ง “การสร้างสรรคป์ ระติมากรรม: ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity)”
- งานวจิ ยั เรอื่ ง “การสรา้ งสรรคง์ านจติ รกรรมฝาผนัง มหาเวสสันดรชาดก ๑๓ กณั ฑ์ แบบ
ฉบบั ลา้ นนาในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วถ่นิ ลา้ นนา”
- งานวจิ ัยเร่อื ง “การศกึ ษาการรบั รู้เชงิ สนุ ทรยี ศาสตรท์ ี่มีต่องานสถาปัตยกรรมทางศาสนา:
กรณีศกึ ษาบโุ รพุธโธ และจนั ดปี รัมบานนั ประเทศอนิ โดนเี ซีย”
- บทความวิชาการ เร่ือง “การเรียนรูข้ ้ามวฒั นธรรมทางศาสนาอาเซียน: กรณีศึกษาประเทศ
เมยี นมาร์”

99

“ศลิ ปะคือชวี ติ ของศิลปิน ศิลปะไม่ใชส่ ่งิ ทีแ่ ยก
จากตัวเรามันเกิดและเติบโตพร้อมกับเราพร้อมกับความ
สามารถท่ีเรามีอยู่เหนือสิ่งอื่นใดศิลปะของเราจะสะท้อน
ตัวเราเองท่ีเช่ือมโยงกันแล้วกับส่ิงแวดล้อมท้ังทาง
กายภาพและทางวัฒนธรรมรวมทั้งกระแสความนึกคิด
ของปวงชนด้วย”

100


Click to View FlipBook Version