วิจยั ชน้ั เรียน
เรือ่ ง
การสง่ เสรมิ ทักษะการอา่ นสะกดคาของนักเรียน
ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1
ผูว้ จิ ัย
นางสาวจารุวรรณ จนั ทรเ์ กิด
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑
ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
โรงเรียนบ้านหว้ ยเสียด
สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสรุ าษฎรธ์ านี เขต ๑
ประกาศคุณูปการ
การศึกษางานวิจัยในคร้ังนี้ สาเร็จได้ด้วยความกรุณาจากเพื่อนครูโรงเรียนบ้านห้วยเสียดทุกท่านท่ีได้ให้
ความชว่ ยเหลือ ใหค้ วามรู้ ความคิดใหค้ าแนะนา คาปรึกษาตลอดจนการตรวจแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งตา่ งๆ เป็นอย่างดี
จนการศึกษาวจิ ัยในครัง้ น้เี สรจ็ สมบูรณ์ ผวู้ จิ ยั ขอขอบคุณเปน็ อย่างสงู ไว้ ณ ทน่ี ้ี
ขอขอบพระคุณท่านผู้อานวยการโรงเรียนบ้านห้วยเสียด คือ นายอภิเดช จิตรมุ่ง ที่กรุณาให้ความ
อนุเคราะห์ ให้คาแนะนา ให้ความรู้ ความคดิ ท่ีมปี ระโยชน์และอานวยความสะดวกในการศึกษาวิจัยในครัง้ นี้เป็น
อยา่ งดี และขอขอบใจนักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ของโรงเรยี นบา้ นห้วยเสียดทุกคนที่ให้ความร่วมมอื เป็นอย่าง
ดีในการวจิ ัยและเก็บข้อมลู ทใ่ี ช้ในการศึกษาวิจัยครง้ั น้ี จนกระท่ังการศึกษาวิจัยคร้งั น้ีเสรจ็ สมบรู ณ์
นางสาวจารุวรรณ จันทร์เกิด
ผวู้ ิจยั
ชอ่ื งานวจิ ัย การสง่ เสริมทักษะการอ่านสะกดคาของนกั เรียนระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1
ช่อื ผู้วิจยั ครูจารุวรรณ จันทรเ์ กดิ
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
บทคดั ย่อ
ภาษาไทยเป็นวิชาที่มีความสาคัญและจาเป็นในการส่ือสารของมนุษย์การส่ือสารของมนุษย์ใช้ทักษะที่
สาคัญหลายทักษะที่จาเป็นไดแ้ ก่ ฟงั พูด อ่านและเขยี น
แตใ่ นปจั จุบนั ทักษะการอา่ นเปน็ ทกั ษะทีม่ กั จะประสบปัญหาและทาให้ทักษะด้านอืน่ ๆ ได้รับผลกระทบ
ด้วยอยา่ งต่อเน่ือง สาเหตุดังกลา่ วทาให้นักเรยี นเกิดความเบื่อหน่ายต่อการเรียนวชิ าภาษาไทย
ดงั นนั้ เพอื่ แก้ปัญหาดังกล่าวขา้ งตน้ งานวิจยั ครงั้ น้มี ีวตั ถุประสงค์เพือ่ ส่งเสรมิ ทักษะการอา่ นสะกดคา
สาหรบั นกั เรยี นระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 โรงเรยี นบา้ นหว้ ยเสยี ด ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2๕๖๒ โดยใช้
นกั เรยี นจานวนทัง้ หมด 9 คน ทาแบบฝกึ อา่ นและแบบฝึกสะกดคาจากงา่ ยไปยาก จานวน 5 ชุดกิจกรรม
โดยบันทึกคะแนนเปน็ ตารางและสรุปผลการเปรียบเทยี บการอ่านและสะกดคาเปน็ ความเรียง
ผลการศึกษาครัง้ นี้ปรากฏว่าการใชแ้ บบฝึกอา่ นและแบบสะกดคาของนักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1
นกั เรียนสามารถอ่านและทาแบบสะกดคาได้ค่อนข้างสงู คดิ ค่าเลล่ียไว้เป็นร้อยละ 62.27
ข้อเสนอแนะจากการทาวจิ ัยในชั้นเรยี นเร่อื งการสง่ เสรมิ ทกั ษะการอ่านสะกดคา นักเรียนจะสามารถ
ทางานได้ดี เพอ่ื มีการเสรมิ แรงจากการใชค้ าชมเชยจากครู
เรื่อง การส่งเสริมการอา่ นสะกดคาของนกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1
ความสาคัญและท่มี า
ภาษาไทยเปน็ ภาษาประจาชาติไทยท่จี าเปน็ ในการส่ือสารของมนุษย์ การส่ือสารของมนุษยใ์ ชท้ กั ษะท่ีสาคญั
หลายทกั ษะ เชน่ ฟัง พดู อา่ น เขยี น
แตใ่ นปัจจุบนั วิชาภาษาไทยจะประสบกับปัญหานักเรยี นขาดทกั ษะการอา่ น ซึง่ เปน็ ทกั ษะท่ีมคี วามสาคญั
และไม่ได้รับการส่งเสรมิ อยา่ งต่อเนือ่ ง นกั เรยี นไม่สามารถอ่านคาไดถ้ กู ต้องและแมน่ ยา และจากการสงั เกตของ
ครผู ู้สอนวิชาภาษาไทยในระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 นักเรียนบางส่วนยงั อา่ นสะกดคาไดไ้ ม่ถูกตอ้ ง สาเหตุ
ดังกลา่ วทาใหน้ กั เรยี นเกดิ ความเบื่อหน่ายตอ่ การเรยี นวิชาภาษาไทยในระดบั ชน้ั ของตนเองและระดบั ชน้ั ที่สงู ขน้ึ จงึ
ทาใหม้ กี ารจัดทาวิจัยในชั้นเรียนเรอื่ งการส่งเสรมิ การอ่าน สะกดคาของนกั เรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 ข้นึ
จดุ มุ่งหมายการวิจัย
เพอื่ สง่ เสริมทกั ษะการอ่าน สะกดคาใหไ้ ด้มากขน้ึ
ตวั แปรท่ศี ึกษา
จานวนนกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 จานวน ๙ คน
กรอบแนวคดิ ในการวิจัย
การวจิ ยั คร้งั นเี้ ป็นการศึกษาเพ่อื ส่งเสรมิ การอา่ น สะกดคา วิชาภาษาไทยของนกั เรียนระดับชนั้ ประถมศกึ ษา
ปที ่ี 1 จานวน ๙ คน ผวู้ ิจยั ได้ทาแบบฝึกอ่าน สะกดคาเก่ียวกับวชิ าภาษาไทยซงึ่ มีความยากง่ายกับระดับชัน้ ของ
นักเรยี น จานวน 5 ชุดกิจกรรม และใชก้ ารเสริมแรงโดยใชค้ าชมเชยและใหค้ ะแนนระหว่างทากจิ กรรม เพ่ือ
พัฒนาการอา่ น สะกดคาให้สูงขึ้น
ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ
1. นักเรียนอ่านสะกดคาได้ถูกต้อง
2. มีผลสัมฤทธิท์ างการอ่าน สะกดคาสงู ขึน้
3. นักเรียนสามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ในเร่อื งการอ่านได้
ขอบเขตการวจิ ยั
ในการวิจยั ครัง้ นี้ เปน็ การสร้างแบบฝกึ เพ่ือส่งเสริมการอา่ น สะกดคาวชิ าภาษาไทย โดยใชแ้ บบฝึก 5
ชดุ กิจกรรม เพ่ือพัฒนาการอ่าน สะกดคา ในการเรยี นวชิ าภาษาไทยของนักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 มี
ขอบเขตการวิจัยดงั นี้
1. ประชากร นักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 จานวน ๙ คน
2. เนื้อหาวิชาภาษาไทย การอา่ น สะกดคา ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 จานวน 5 ชุดกิจกรรม
วธิ ดี าเนินการวจิ ยั
ระยะเวลาในการดาเนนิ งาน
วัน เดือน ปี กิจกรรม หมายเหตุ
12 – 13 มิ.ย. ๖๒ - ศกึ ษาสภาพปัญหาและวเิ คราะห์แนวทางการแก้ปัญหา ผวู้ ิจัยทาการ
บันทกึ คะแนน
16 มิ.ย. ๖๒ - เลอื กกลุ่มเป้าหมายนักเรียนช้ัน ป.1/5 จานวน 36
คน
17 - 21 มิ.ย. ๖๒ - ทดสอบความสามารถในการอ่านสะกดคา โดยใชช้ ดุ
กจิ กรรม 1 , 2
๘ – ๑๒ ก.ค. ๖๒ - วดั ความสามารถในการอา่ นสะกดคาเป็นระยะ ชุดที่ 3
,4,5
๕ – ๙ ส.ค. ๖๒ - เก็บรวบรวมข้อมลู
- สรปุ และวเิ คราะห์ผลการวิจยั
- จดั ทารูปเลม่
เครื่องมือทใี่ ช้ในการวิจยั
1. ชดุ กจิ กรรมฝกึ ทักษะการอา่ น สะกดคา จานวน 5 ชดุ
2. การเสรมิ แรงระหว่างปฏบิ ัติกจิ กรรม คายกยอ่ งชมเชย การให้คะแนน
3. สถติ ิที่ใช้ในการวิเคราะห์ขอ้ มลู ไดแ้ ก่ ค่าร้อยละ คา่ เลล่ยี
ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล
ผวู้ ิจยั ไดท้ าการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ของนักเรียนจานวน ๙ คน จากการอ่านแบบฝกึ ทักษะการอา่ น สะกด
คา โดยแบบฝกึ ทักษะการอา่ น สะกดคา มีจานวนท้งั หมด 5 ชดุ กิจกรรม ชุดกจิ กรรมท่ี 1 – 5 จะมีเน้ือหาเรียงจาก
ง่ายไปยาก
ชดุ กิจกรรมท่ี 1 ชุดทกั ษะการอ่าน สะกดคา สระ อา
นักเรียนสามารถอา่ นได้ถกู ต้องและทาแบบฝกึ ทักษะการอ่าน สะกดคาได้ คิดเป็นรอ้ ยละ 55.55
ชุดกจิ กรรมท่ี 2 ชดุ ทักษะการอ่าน สะกดคา สระ อู
นักเรียนสามารถอ่านและทาแบบฝกึ ทักษะการอ่านสะกดคาได้ คิดเปน็ ร้อยละ 59.16
ชุดกจิ กรรมที่ 3 ชดุ ทักษะการอ่าน สะกดคา สระ โอ
นักเรียนสามารถอา่ นและทาแบบฝึกทักษะการอา่ น สะกดคาได้ คิดเปน็ รอ้ ยละ 61.38
ชุดกจิ กรรมที่ 4 ชุดทักษะการอา่ น สะกดคา สระ ออื
นักเรยี นสามารถอา่ นและทาแบบฝึกทกั ษะการอ่าน สะกดคาได้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 65.27
ชดุ กิจกรรมท่ี 5 ชุดทกั ษะการอา่ น สะกดคา สระ เอยี
นักเรียนสามารถอา่ นและทาแบบฝกึ ทักษะการอ่าน สะกดคาได้ คดิ เป็นร้อยละ 70.00
นักเรยี นบางส่วนยงั อ่านและสะกดคาในชดุ กจิ กรรมทง้ั 5 ชุด ไดไ้ ม่คล่อง ไดท้ าการฝกึ การอ่านและสะกดคา
หลงั เวลาที่กาหนด
สรปุ ผลการศกึ ษาวจิ ยั
จากการศกึ ษาและวเิ คราะหค์ ะแนนทไี่ ด้จากผลการทาชดุ กจิ กรรมเกยี่ วกบั ทักษะการอ่าน สะกดคาของ
นักเรยี นระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ในครงั้ ที่ 1 คดิ คา่ ร้อยละได้เทา่ กบั 48.61 และครงั้ ท่ี 2 ได้ค่ารอ้ ยละ 62.27
แสดงใหเ้ ห็นวา่ นักเรียนมีพฒั นาด้านการอา่ น สะกดคาเพิ่มขนึ้ จากเดิม นกั เรยี นสามารถทาคะแนนได้ดีเป็นลาดบั ท่ี
นา่ พอใจ และจากการวเิ คราะหผ์ ลการทดสอบเป็นรายบุคคลยงั พบว่า มนี กั เรยี นท่เี รียนออ่ นมากๆ เท่านนั้ ท่คี ะแนน
จะไมเ่ พม่ิ ข้ึนหรอื เท่ากับคร้ังที่ 1 ซึ่งจะต้องมีการวเิ คราะห์เป็นรายบคุ คลต่อไป
การเสรมิ แรงขณะปฏบิ ตั ิกจิ กรรมช่วยใหน้ กั เรยี นมีกาลงั ใจและทางาน และได้คะแนนดขี ้ึน
ขอ้ เสนอแนะ
1. การสรา้ งแบบฝกึ ทกั ษะการอ่าน สะกดคา อาจใช้รปู แบบอืน่ นอกไปจากชุดกจิ กรรมชุดท่ี 1 – 5 โดย
อาจจะทาไดใ้ นรูปของการเขียนตามคาบอก จับคู่โยงภาพกับคากไ็ ด้ ตามแต่ผวู้ จิ ยั จะจัดทา
2. ในการวิจยั คร้ังตอ่ ไป อาจเพ่มิ กลุ่มตวั อย่างข้ึน หรอื อาจจัดทาวจิ ยั กล่มุ นักเรยี น เรยี นออ่ นมากๆ เพ่ือ
หาแนวทางช่วยเหลือตอ่ ไป
3. การใหก้ าลงั ใจ คายกย่อง ชมเชย ทาใหน้ กั เรยี นมกี าลังใจมากข้ึนในการทาชุดกิจกรรม ครคู วรใช้ใน
ทกุ ๆ ขน้ั ตอนของการปฏิบัติงานและการสอน