The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือหลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชม. (คำนำ)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือหลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชม. (คำนำ)

คู่มือหลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชม. (คำนำ)

1


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 2 คำนำ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวตรีนุช เทียนทอง) กำหนดนโยบายการจัดการศึกษาและ ภารกิจแร่งด่วน เพื่อขับเคลื่อนการจัดการศึกษาที่มุ่งพัฒนาทักษะทางอาชีพ ส่งเสริมการจัดการศึกษาที่เน้นพัฒนา ทักษะอาชีพของผู้เรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพและรายได้ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ ประเทศ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กศน.ดำเนินการส่งเสริมการจัดการศึกษาพัฒนาอาชีพเพื่อการมีงานทำ re-skill และ up-skill ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองร้อยเอ็ด สำนักงานกศน.จังหวัดร้อยเอ็ด จึงจัดทำหลักสูตร เพื่อพัฒนาอาชีพ re-skill และ up-skill ซึ่งในเบื้องต้นดำเนินการขับเคลื่อนใน 5 กลุ่มอาชีพ ได้แก่ กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พานิชยกรรมและการบริการ ความคิดสร้างสรรค์ และอาชีพเฉพาะทาง รวม จำนวน ๑ หลักสูตร เพื่อให้สถานศึกษาหรือผู้จัดกิจกรรมนำไปใช้ในการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาตามนโยบาย ดังกล่าว เอกสารประกอบหลักสูตรกลุ่มอาชีพพณิชยกรรมและบริการ เล่มนี้ มีจำนวน 1 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ โดยจัดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สอน หรือผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง นำไป ศึกษาและประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ดังนั้นจึงต้องใช้เอกสารเล่มนี้ควบคู่กับเอกสารหลักสูตรการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาอาชีพ re-skill และ up-skill ที่สอดคล้องกับบริบท เชิงพื้นที่ 1 กศน.ตำบล ๑ หลักสูตรอาชีพ ซึ่งมีรายละเอียดของหลักสูตรที่จะทำให้ผู้สอนหรือผู้เรียนเข้าใจถึงความเป็นมา หลักการ จุดมุ่งหมาย โครงสร้างเนื้อหา ของหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล การจบหลักสูตรและการเทียบโอน สำหรับเอกสารหลักสูตร เล่มนี้ ได้จัดทำเนื้อหาเกี่ยวกับแผนการจัดกระบวนการเรียนรู้ จัดทำสื่อการเรียนรู้ตามแผน ซึ่งมีทั้งเอกสาร ใบความรู้ คลิปเสริมการเรียนรู้ และใบงาน ที่ผู้สอนหรือผู้เรียนเมื่อได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติตามแผน จะสามารถพัฒนาตนเองให้มี ความรู้และทักษะบรรลุตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร หลักสูตรอาชีพที่พัฒนาขึ้นนี้ ได้ปรับปรุงจากหลักสูตรอาชีพที่สถานศึกษาในแต่ละ กศน.ตำบล ทุกอำเภอ ในจังหวัดร้อยเอ็ด พัฒนาเป็นต้นร่างมาก่อนแล้ว สำนักงาน กศน.จังหวัดร้อยเอ็ด พัฒนาเนื้อหาสาระให้ครบวงจรและ กำหนดระยะเวลาในการเรียนให้เหมาะสม โดยได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านเนื้อหาสา ทักษะ และประกอบอาชีพด้านนี้โดยตรง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนาหลักสูตร ด้านสื่อการสอน ด้านวัดและประเมินผล และ ผู้ที่เกี่ยวข้อง มาร่วมพิจารณาและตรวจสอบความถูกต้องจึงทำให้การดำเนินการจัดทำหลักสูตรในครั้งนี้เสร็จสิ้นไป ด้วยดี ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองร้อยเอ็ด


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 3 สารบัญ หน้า คำนำ สารบัญ ผังมโนทัศ 1 หลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ 2 ความเป็นมา 2 หลักการของหลักสูตร 2 วัตถุประสงค์ 2 เป้าหมาย 3 ระยะเวลา 3 โครงสร้างหลักสูตร 3 สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้/วัสดุ/อุปกรณ์ประกอบการเรียนรู้ 44 การวัดผลประเมินผล 44 เงื่อนไขการจบหลักสูตร 44 - หลักฐานการจบหลักสูตร 45 การเทียบโอน 45 ภาคผนวก แบบทดสอบก่อนเรียน 47 ใบความรู้ 49 เนื้อหาเอกสารประกอบหลักสูตร 78 แบบทดสอบหลังเรียน 116 รูปภาพประกอบ 120 คำสั่งแต่งตั้งวิทยากร 131 หนังสือราชการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 132 ประมาณการงบประมาณค่าใช้จ่าย 133 บรรณานุกรม 138 คณะผู้จัดทำ 140


หลักสูตรการศึกษาต่อเนื่อง วิชาการนวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง กลุ่มอาชีพด้านพาณิชยกรรมและบริการ ความเป็นมา การนวดแผนไทยเป็นศาสตร์และศิลปะประจำชาติซึ่งมีบทบาทในการแก้ไขปัญหา ความเจ็บปวดต่าง ๆ ของ คนไทยตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน การดำเนินการฟื้นฟูการนวดแผนไทยที่ผ่านมาในภาคประชาชน และภาครัฐ ได้ทำ ให้การนวดไทย เป็นที่ยอมรับของสังคม การแพทย์แผนไทย ที่มีบทบาทในการสร้างเสริมสุขภาพ และบำบัดรักษา อาการป่วยของประชาชนมากยิ่งขึ้น ด้วยเห็นความสำคัญนี้ ทำให้ผู้สอนจัดทำหลักสูตรวิชาชีพแพทย์แผนไทย ประเภท การนวดศีรษะ และนวดใบหน้า คอบ่าไหล กดจุดคลายเครียด สำหรับการอบรม และการถ่ายทอดความรู้ในสถาบัน เพื่อให้เป็นมาตรฐานในการเรียน การสอน การประเมินผล และการทดสอบ ความรู้ความสามรถ ซึ่งผู้เรียน สามารถ นำไปประกอบอาชีพ พร้อมทั้งสร้างรายได้ อาชีพการนวดเพื่อสุขภาพ จึงเป็นอาชีพหนึ่งที่มีความสำคัญในชุมชนและเป็นอาชีพหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ ให้กับบุคคลและครอบครัวได้อย่างมั่นคง หลักสูตรอาชีพการนวดเพื่อสุขภาพนี้ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการเลือกเรียน อาชีพในกลุ่มพาณิชยกรรม กศน.อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จึงได้จัดทำหลักสูตร การศึกษาเพื่อการมีงานทำ วิชานวดไทยเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็น งานบริการด้านนวด เพื่อผ่อนคลาย และเพื่อสุขภาพพร้อมแก้อาการเจ็บป่วยได้ และที่จำเป็นอย่างหนึ่งในสังคมไทย ปัจจุบันตลอดจนส่งเสริมบุคลิกภาพในการเข้าสังคม ซึ่งมีการลงทุนด้วยเงินจำนวนไม่มากนัก เป็นอาชีพที่มีรายได้ดี สังคมยอมรับ การเรียนรู้มุ่งเน้นด้านการพัฒนา สมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักการของหลักสูตร 1. เป็นหลักสูตรที่เน้นการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำ ที่เน้นการบูรณาการเนื้อหาสาระภาคทฤษฎี ควบคู่ไปกับการฝึกปฏิบัติจริง ผู้เรียนสามารถนำความรู้และทักษะไปประกอบอาชีพได้จริงอย่างมีคุณภาพ และ มีคุณธรรมจริยธรรม 2. เป็นหลักสูตรที่เน้นการดำเนินงานร่วมกับเครือข่าย สถานประกอบการ เพื่อประโยชน์ในการประกอบ อาชีพและการศึกษาดูงาน 3. เป็นหลักสูตรที่ผู้เรียนสามารถนำผลการเรียนรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในรายวิชาเลือกของสาระการประกอบอาชีพ 4. เป็นหลักสูตรที่เน้นการใช้ศักยภาพ 5 ด้านในการประกอบอาชีพ ได้แก่ ศักยภาพด้านทรัพยากร ภูมิอากาศ ภูมิประเทศและทำเลที่ตั้ง ศิลปวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิต และด้านทรัพยากรมนุษย์ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ หลักการและทฤษฎีการนวดไทยเพื่อสุขภาพ 2. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะการฝึกการนวดไทยเพื่อสุขภาพอย่างถูกวิธี 3. เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการนวดไทยเพื่อสุขภาพ 4. เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม มารยาทในการประกอบอาชีพการนวดไทยเพื่อสุขภาพ 5. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถประกอบอาชีพเป็นผู้ให้บริการการนวดไทยเพื่อสุขภาพในสถานประกอบการ


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 5 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการนวดแผนไทย 1.1 ความรู้พื้นฐานของการนวดแผนไทย 1.1.1 ความหมายและความสำคัญของการนวดแผนไทย การนวดไทย หมายถึง การตรวจประเมิน การวินิจฉัย การบำบัด การป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพและ การฟื้นฟูสุขภาพ ด้วยวิธีการกด คลึง บีบ จับ ดัด ดึง ประคบ อบ หรือวิธีการอื่นตามศิลปะการนวดไทย หรือการใช้ยา ตามกฎหมายว่าด้วยยา ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย – การนวดยึดถือโครงสร้างตามแนวพลังเส้นประธาน 10 และเส้นบริวารอีก 72,000 เส้น – ประเภทของการนวด มี 2 ประเภท คือ แบบราชสำนัก (นวดเพื่อถวายกษัตริย์และเจ้านายชั้นสูงของราชสำนัก และแบบทั่วไปหรือแบบสามัญชน – ความสำคัญของการนวดแผนไทย มีองค์ประกอบ 4 ด้าน คือ o ด้านการส่งเสริมสุขภาพ การนวดช่วยปรับสมดุลธาตุทั้ง 4 ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ช่วยยึดเส้น เอ็นที่ตึงให้หย่อน o ด้านการป้องกันโรค การช่วยเสริมภูมิต้านทานโรค คือ ช่วยให้ร่างกายหลั่งสารฮอร์โมนเอ็นโดฟิน ซึ่ง สามารถหลั่งได้จาก 4 วิธี คือ ฝังเข็ม นวด ออกกำลังกาย และการที่จิตใจมีความสุข o ด้านการรักษา การกดนวดช่วยให้ร่างการปรับสมดุลขจัดปฏิกิริยาความเจ็บปวดลงได้ o ด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ การนวดช่วยฟื้นฟูร่างการส่วนที่ชำรุดในโรคที่มีความพิการ หรือโรคที่มีความ เรื้อรัง เช่น อัมพาต โปลิโอ สมองพิการในเด็ก เข่าเสื่อม 1.1.2 ประวัติความเป็นมาของการนวดแผนไทย – ยุคศาสนาพราหมณ์ มีตำราการแพทย์เรียกว่า Samhita ถูกเขียนเมื่อ 743 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็น รากฐานทางการแพทย์แผนเดิมของอินเดีย เรียก Ayurvedic medicine – ยุคศาสนาพุทธ การแพทย์อายุรเวทของอินเดียมีความรุ่งเรืองมาก และได้ถูกทำลาย ราว ค.ศ. 1192 เนื่องจากชาวมุสลิมเข้ามาครอบครองอินเดีย สำหรับไทยโดยเฉพาะในยุคสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้รวบรวมหมอ พื้นบ้านตั้งเป็นโรงพยาบาลเรียกว่า อโรคยาศาลา และได้เสื่อมสลายไปหลังสิ้นยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เนื่องจาก พระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ไม่นับถือศาสนาพุทธ – สมัยสุโขทัย ได้ค้นพบหินบดยาสมัยทวารวดีซึ่งเป็นยุคก่อนสุโขทัยและจากศิลาจารึกของพ่อขุน รามคำแหง ได้ทรงสร้างสวนสมุนไพรขนาดใหญ่บนเขาหลวงหรือเขาสรรพยา ซึ่งปัจจุบันคืออำเภอคีรีมาศ จังหวัด สุโขทัย – สมัยกรุงศรีอยุธยา การแพทย์แผนไทยมีความรุ่งเรืองมาก มีการจัดตั้งกรมหมอนวด หมอยา หมอกุมาร มีเป่ายา มีหมอหลวงที่มีย่ามแดงและตะบองแดง มีกฎหมายคุ้มครองป่า การนวดไทยมีการวิวัฒนาการนวดพื้นบ้านจน พัฒนาเป็นการนวดแบบราชสำนัก – สมัยรัตนโกสินทร์ มีเหตุการณ์สำคัญสำหรับการนวดแผนไทย ดังนี้ o สมัย ร.1 มีการรวบรวมตำราการแพทย์แผนไทยเป็นครั้งแรก ทรงโปรดให้ตั้งตำรายาและฤาษีดัดตนไว้ เป็นทานตามศาลาราย มีอักษรจารึกติดไว้กับรูปฤาษีอธิบายท่าดัดตนแก้โรค และทรงปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนฯ o สมัย ร. 3 ทรงโปรดให้ปั้นรูปฤาษีดัดตน ไว้ที่ วัดพระเชตุพนฯ สมัย ร. 6 ทรงสั่งยกเลิกการแพทย์แผนไทยในปี พ.ศ. 2456 และประกาศใช้พระราชบัญญัติการแพทย์เพื่อควบคุม การประกอบโรคศิลปะ ในปี พ.ศ. 2466


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 6 สมัย ร.9 ในปี พ.ศ. 2520 องค์การอนามัยโลกได้กำหนดนโยบายและวางแผนการพัฒนาแพทย์พื้นบ้าน ซึ่งทำให้ รัฐบาลได้หันมาให้ความสนใจ โดยใส่ไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 6 จนได้มีการจัดตั้งสถาบัน การแพทย์แผนไทยเป็นหน่วยงานระดับกองสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2536 โดยเป็นศูนย์กลางการพัฒนา ประสานงานและร่วมมือด้านการแพทย์แผนไทย วิธีการนวดแผนโบราณ นวดไทยนวดกดจุด นวดฝ่าเท้า ขั้นพื้นฐาน วิธีการนวดหน้า 12 ท่าขั้นพื้นฐานเพื่อสุขภาพและความงาม การนวดเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ศึกษาและเรียนรู้ได้ไม่ยาก สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ด้วยตัวเอง ขอแนะนำ 12 ท่านวดหน้าขั้นพื้นฐาน เพื่อสุขภาพและความงามที่ดี ประโยชน์ที่ได้รับจากการนวดหน้าขั้นพื้นฐาน ช่วยผ่อน คลายความเครียดอย่างล้ำลึก ช่วยให้ผิวหน้าเปล่งปลั่งสดใส ช่วยกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า ช่วยให้โลหิตไหลเวียน บริเวณใบหน้าได้ดี ดวงตาสดใสเปล่งประกาย วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "วิธีการนวดหน้า" ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 1 "การเคาะแก้ม" วิธีการนวดหน้า ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ หรือให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบ หนุนตักผู้นวดโดยใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ ผู้ถูกนวดนอนหลับตาและปล่อยตัวตามสบาย ควรล้างหน้าหรือเช็ดหน้า ให้สะอาดก่อนเริ่มต้นการนวดหน้า ผู้นวดใช้นิ้วมือทั้งสี่ยกเว้นนิ้วหัวแม่มือ วางไว้บนคางของผู้ถูกนวด ใช้นิ้วเคาะคาง เคาะนิ้วทั้งสี่สลับกันไป ไล่ขึ้นมาผ่านแก้มจนถึงข้างหู จังหวะการเคาะเหมือนกับการเคาะแป้นพิมพ์ดีด ทำสลับไปมา แล้วจึงเปลี่ยนเป็นแก้มข้างใหม่ ทำซ้ำ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 2 ต่อไป ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวหน้า เปล่งปลั่งสดใส วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "วิธีการนวดหน้า" ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 2 "การลูบข้างแก้ม" วิธีการนวดหน้า ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างวางบนข้างแก้ม แล้วใช้มือลูบข้างแก้มจนถึงใบหู ทั้งสองข้างของผู้ ถูกนวด ทำ สลับไปมา แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 3 ต่อไป ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวหน้า เปล่งปลั่งสดใส วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "วิธีการนวดหน้า" ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 3 "การเคาะหน้าผาก" วิธีการนวดหน้า ให้ผู้นวดใช้นิ้วมือทั้งสี่ยกเว้นนิ้วหัวแม่มือ วางบนกลางหน้าผาก ใช้นิ้วเคาะหน้าผาก เคาะนิ้วทั้งสี่ สลับกันไป ไล่ตั้งแต่หน้าผากมาจึงถึงขมับและข้างแก้มทั้งสองข้าง จังหวะการเคาะเหมือนกับการเคาะแป้นพิมพ์ดีด ทำ สลับไปมา แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 4 ต่อไป ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวหน้า เปล่งปลั่งสดใส


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 7 วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "วิธีการนวดหน้า" ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 4 "การลูบหน้าผาก" วิธีการนวดหน้า ผู้นวดใช้มือซ้ายจับที่ขมับซ้ายของผู้ถูกนวด ใช้มือขวาวางกึ่งกลางหน้าผาก ลูบจากกึ่งกลางหน้าผากลง มาที่ขมับขวา โดยค่อย ๆ ลูบหน้าผากแล้วเพิ่มแรงกดที่ขมับขวา ทำสลับไปมา แล้วจึงเปลี่ยนมาทำด้านขมับซ้าย ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 5 ต่อไป ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวหน้า เปล่งปลั่งสดใส วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "วิธีการนวดหน้า" ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 5 "การลูบขมับ" วิธีการนวดหน้า ให้นวดมือซ้ายจับที่ขมับซ้ายของผู้ถูกนวด ให้นวดมือขวาจับที่ขมับขวาของผู้ถูกนวด ลูกจากขมับขวา ลงมาจนถึงใบหูขวา โดยค่อยๆลูบแล้วลงแรงกด ทำสลับไปมา แล้ววนไปทำด้านซ้ายต่อ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่านวด หน้าขั้นตอนที่ 6 ต่อไป ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวหน้า เปล่งปลั่งสดใส วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "วิธีการนวดหน้า" ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 6 "การลูบคางและลูบหน้า" วิธีการนวดหน้า ผู้นวดใช้มือซ้ายจับที่แก้มซ้ายของผู้ถูกนวด ใช้มือขวาลูบจากคางขึ้นมาจนถึงบริเวณแก้มขวา โดยค่อย ๆ ลูบ แล้วค่อยๆ เพิ่มแรงกด ทำสลับไปมา แล้วจึงเปลี่ยนมาทำด้านแก้มซ้าย ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่านวดหน้าขั้นตอน ที่ 7 ต่อไป ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวหน้า เปล่งปลั่งสดใส วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "วิธีการนวดหน้า" ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 7 "การลูบแก้ม" วิธีการนวดหน้า ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างจับที่แก้มของผู้ถูกนวด ใช้มือลูบจากคางขึ้นมาจนถึงบริเวณแก้ม จากนั้นเปลี่ยน ทิศทางโดยลูบจากข้างจมูกออกไปทางใบหู โดยค่อย ๆ ลูบ แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มแรงกด ทำสลับไปมา แล้วจึงเปลี่ยนเป็น ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 8 ต่อไป ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวหน้า เปล่งปลั่งสดใส วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "วิธีการนวดหน้า" ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 8 "การคลึงคางและคลึงแก้ม" วิธีการนวดหน้า ผู้นวดวางนิ้วกลาง นิ้วนางและนิ้วก้อยของมือทั้งสองข้าง จับที่คางของผู้ถูกนวด แล้วคลึงขึ้นมาจาก คางจนถึงข้างแก้ม โดยขณะที่คลึงให้หมุนนิ้วเป็นรูปก้นหอย จากนั้นเปลี่ยนทิศทางโดยคลึงจากข้างจมูกออกไปทางใบ


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 8 หู โดยค่อย ๆ คลึง แล้วจึงเพิ่มแรงกด ทำสลับไปมา แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 9 ต่อไป ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวหน้า เปล่งปลั่งสดใส วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "วิธีการนวดหน้า" ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 9 "การคลึงหน้า" วิธีการนวดหน้า ให้ผู้นวดใช้มือซ้ายจับที่แก้มซ้ายของผู้ถูกนวด ใช้นิ้วกลาง นิ้วนางและนิ้วก้อยของมือขวา วางไว้บน หน้าผากของผู้ถูกนวด แล้วใช้นิ้วคลึงจากหน้าผาก ผ่านขมับ หางตา จนมาถึงใบหู ข้างแก้มขวา ของผู้ถูกนวด โดย ขณะที่คลึงให้หมุนนิ้วเป็นรูปก้นหอย ให้ค่อย ๆ คลึง แล้วจึงเพิ่มแรงกด ทำสลับไปมา แล้วเปลี่ยนมาทำด้านแก้มซ้าย ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 10 ต่อไป ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวหน้า เปล่งปลั่งสดใส วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "วิธีการนวดหน้า" ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 10 "การคลึงขอบตาล่าง" วิธีการนวดหน้า ผู้นวดใช้มือซ้ายจับที่แก้มซ้ายของผู้ถูกนวด ใช้นิ้วกลางมือขวาวางที่ขอบตาล่างด้านขวาของผู้ถูกนวด แล้วคลึงเบา ๆ ออกแรงเพียงเล็กน้อย โดยขณะที่คลึงให้หมุนนิ้วเป็นรูปก้นหอย คลึงนิ้วมาจนถึงหางตา ทำสลับไปมา แล้วเปลี่ยนมาทำด้านขอบตาล่างด้านซ้าย ของผู้ถูกนวด ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 11 ต่อไป ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยกระชับกล้ามเนื้อตาและหนังตา ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณดวงตาได้ดี ดวงตาสดใสเปล่ง ประกาย วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "วิธีการนวดหน้า" ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 11 "การคลึงขอบตาบน" วิธีการนวดหน้า ผู้นวดใช้มือซ้ายจับที่แก้มซ้ายของผู้ถูกนวด ใช้นิ้วกลางมือขวาวางที่ขอบตาบนบริเวณหนังตาด้านขวา ของผู้ถูกนวด แล้วคลึงเบา ๆ ออกแรงเพียงเล็กน้อย โดยขณะที่คลึงให้หมุนนิ้วเป็นรูปก้นหอย คลึงนิ้วมาจนถึงหางตา ทำสลับไปมา แล้วเปลี่ยนมาทำด้านขอบตาบนด้านซ้ายของผู้ถูกนวด ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 12 ต่อไป ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณตาและหนังตา ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณดวงตาได้ดี ดวงตาสดใส เปล่งประกาย วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "วิธีการนวดหน้า" ท่านวดหน้าขั้นตอนที่ 12 "การกดขมับ" วิธีการนวดหน้า ผู้นวดใช้นิ้วชี้และนิ้วนางวางไว้ที่หัวคิ้วทั้งสองข้างของผู้ถูกนวด สันมือทั้งสองข้างวางที่ขมับ ให้ออก แรงกด จากหัวคิ้ว ไล่ไปทางขมับทั้งสองข้าง โดยใช้แรงกดลงที่นิ้วชี้และนิ้วกลาง ส่วนนิ้วอื่น ๆ ที่เหลือให้ประคองศีรษะ ไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยลดอาการปวดศีรษะและบริเวณขอบตา หมายเหตุ คำแนะนำสำหรับผู้นวด ไม่ควรไว้เล็บยาว ควรแต่งเล็บให้เรียบมนและควรล้างมือให้สะอาดก่อนทำการ


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 9 นวดหน้า การนวดเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ศึกษาและเรียนรู้ได้ไม่ยาก หากรู้จังหวะการลงน้ำหนัก รู้เทคนิคการกด ลูบ บีบและคลึง รู้ตำแหน่งจุดต่างๆ ทั่วใบหน้า เพียงเท่านี้ก็สามารถทำการนวดหน้าได้อย่างถูกวิธี


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 10 วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน"นวดคอ" เรียนรู้และฝึกฝนด้วยตัวเองอย่างง่ายดายด้วย 10 ท่านวดคอขั้นพื้นฐาน ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอลดอาการ เคล็ดขัดยอกจากการนอนตกหมอน บรรเทาอาการปวดศีรษะ กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลของฮอร์โมน กระตุ้นให้ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและผ่อนคลายจากความเครียด วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดคอ ท่าที่ 1 "บีบต้นคอ" ช่วยลดอาการปวดศีรษะ ลดอาการเคล็ดขัดยอกจากการนอนตกหมอน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนั่งบนพื้นหรือเก้าอี้ ผู้นวดยืนด้านหลังของผู้ถูกนวด ใช้มือซ้ายจับที่หัวไหล่ยึดไว้ แล้วใช้มือ ขวาวางที่ท้ายทอย บีบกล้ามเนื้อที่ท้ายทอยไล่ลงมาจนถึงต้นคอ โดยกดน้ำหนักทุกนิ้ว ท่าที่ 2 "กดท้ายทอย" ช่วยลดอาการปวดศีรษะและปวดต้นคอ ลดอาการเคล็ดขัดยอกจากการนอนตกหมอน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนั่งบนพื้นหรือเก้าอี้ ผู้นวดยืนด้านหลังของผู้ถูกนวด ใช้มือซ้ายจับที่ขมับทั้งสองข้าง โดยอ้อม มือไปทางด้านหน้า แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือขวาและนิ้วชี้ทำเป็นรูปตัววี (V) แล้วกดตรงที่เป็นรอยบุ๋มตรงกลางระหว่างท้าย ทอยกับกระดูกคอชิ้นที่หนึ่ง ออกแรงกดทั้งนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 11 วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดคอ ท่าที่ 3 "กดต้นคอ" ช่วยลดอาการปวดศีรษะ ปวดต้นคอและลดอาการเคล็ดขัดยอกจากการนอนตกหมอน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนั่งบนพื้นหรือเก้าอี้ ผู้นวดยืนด้านหลังของผู้ถูกนวด ใช้มือทั้งสองจับที่คอของผู้ถูกนวด โดย นิ้วหัวแม่มือกดที่กล้ามเนื้อข้าง ๆ แนวกระดูกสันหลังให้ต่ำจากต้นคอลงมาประมาณ 1 นิ้ว ส่วนนิ้วมือที่เหลือให้จับ ด้านตรงข้ามในตำแหน่งเดียวกัน ออกแรงกดลงที่นิ้วหัวแม่มือและนิ้วทั้งสี่ วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดคอ ท่าที่ 4 "คลึงต้นคอและบ่า" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอและบ่า • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนั่งบนพื้นหรือเก้าอี้ ผู้นวดยืนด้านหลังของผู้ถูกนวด ให้ทำมือเป็นรูปตัวซี (C) โดยให้หลังมือ และเนินมือด้านนิ้วก้อยสัมผัสกับส่วนที่นวด มืออีกข้างหนึ่งให้จับไหล่ของผู้ถูกนวดเอาไว้ กลึ้งและคลึงมือรูปตัวซี ไป ตรงบริเวณต้นคอและไล่มาจนถึงข่วงไหล่ ออกแรงโดยการเกร็งข้อมือที่ใช้นวด


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 12 วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดคอ ท่าที่ 5 "กดคอ" ช่วยลดอาการปวดศีรษะ ลดอาการเคล็ดขัดยอกจากการนอนตกหมอน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนั่งบนพื้นหรือเก้าอี้ ผู้นวดยืนด้านหลังของผู้ถูกนวด ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือกดที่กล้ามเนื้อตรง บริเวณท้ายทอยทั้งสองข้าง ส่วนนิ้วทั้งสี่ที่เหลือวางแนบกับศีรษะ ออกแรงกดลงที่นิ้วหัวแม่มือ ส่วนนิ้วทั้งสี่ใช้ประคอง ศีรษะไม่ให้เคลื่อนไหว ท่าที่ 6 "บีบไหล่และคอ" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อไหล่และคอ ลดอาการเคล็ดขัดยอกบริเวณไหล่และคอ • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนั่งบนพื้นหรือเก้าอี้ ผู้นวดยืนด้านหลังของผู้ถูกนวด ให้วางมือทั้งสองข้างลงที่ต้นคอของผู้ถูก นวด บีบกล้ามเนื้อที่ต้นคอไล่ลงมาที่บ่าจนมาถึงไหล่ โดยกดน้ำหนักลงทุกนิ้ว


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 13 วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดคอ ท่าที่ 7 "สับต้นคอ" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ ลดอาการเคล็ดขัดยอกจากการนอนตกหมอน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนแบนวางสอดใต้ลำตัวช่วงท้อง ผู้นวดใช้มือทั้งสอง ข้างวางที่ต้นคอ ให้มือทั้งสองตั้งขึ้น นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบน สันมือด้านนิ้วก้อยสัมผัสกับส่วนที่นวด สับมือจากต้นคอมา จนถึงท้ายทอย โดยสับขวางแนวกระดูกสันหลัง วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดคอ ท่าที่ 8 "บิดคอ" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ ลดอาการเคล็ดขัดยอกจากการนอนตกหมอน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนแบนวางสอดใต้ลำตัวช่วงท้อง ผู้นวดกางนิ้วมือออก ให้เป็นรูปตัววี (V) ใช้มือบีบกล้ามเนื้อคอขึ้นมาแล้วบิดกล้ามเนื้อไปมาโดยออกแรงทุกนิ้ว


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 14 วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดคอ ท่าที่ 9 "บีบและยกคอ" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ ลดอาการเคล็ดขัดยอกจากการนอนตกหมอน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนแบนวางสอดใต้ลำตัวช่วงท้อง ผู้นวดกางนิ้วมือออก ให้เป็นรูปตัววี (V) ใช้มือบีบกล้ามเนื้อคอขึ้นมา โดยเริ่มจากท้ายทอยไล่มาจนถึงบ่า โดยบีบแล้วคลายทำสลับไปมา แล้วเริ่มต้นที่ท้ายทอยใหม่ วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดคอ ท่าที่ 10 "ลูบคอ" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ ลดอาการเคล็ดขัดยอกที่คอและหัวไหล่ • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนแบนวางสอดใต้ลำตัวช่วงหน้าอก ผู้นวดใช้มือทั้งสอง ข้างวางที่ท้ายทอย แล้วลูบหนัก ๆ จากท้ายทอยลงมาที่ด้านข้างลำคอ ให้มาสิ้นสุดที่หัวไหล่ โดยกดน้ำหนักลงที่มือทั้ง สองข้าง วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน “นวดขาและเท้า” เรียนรู้และฝึกฝนได้ด้วยตัวเอง 18 ท่า นวดขาและเท้าขั้นพื้นฐาน ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เคล็ดขัด ยอกและผ่อนคลายความเครียด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ปรับสมดุลของฮอร์โมนและกระตุ้นให้ระบบ ต่างๆ ทำงานดีขึ้น


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 15 ท่าที่ 1 “ลูบเท้า” ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเท้า ลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อนิ้วเท้า ข้อเท้า ส้นเท้า • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย หรืออาจจะใช้หมอนรองใต้หัวเข่าเพิ่มก็ได้ ผู้นวดใช้มือทั้งสองประสานกันไว้ โดยให้มือซ้ายอยู่บนปลายนิ้วเท้าด้านบน ใกล้ข้อเท้าขวาของผู้ถูกนวด มือขวาอยู่ใต้ปลายนิ้วเท้าด้านล่างใกล้ส้นเท้า ลูบขึ้นไปอย่างช้า ๆ ออกแรงกดและลูบ สม่ำเสมอ ลูบจากส้นเท้าและข้อเท้าไล่ขึ้นมาจนถึงปลายนิ้วเท้า ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 2 “คลึงเท้า” ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อฝ่าเท้า ลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อนิ้วเท้า • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย หรืออาจจะใช้หมอนรองใต้หัวเข่าเพิ่มก็ได้ ผู้นวดใช้มือทั้งสองประสานกันไว้ โดยให้มือซ้ายอยู่บนหลังเท้าด้านขวาของผู้ ถูกนวด มือขวาอยู่ใต้ฝ่าเท้า โดยออกแรงคลึงอย่างสม่ำเสมอ ให้คลึงขึ้นลงจนทั่วเท้า ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่า ต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 16 ท่าที่ 3 "ลูบและคลึงเท้า" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเท้า ลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อนิ้วเท้า • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย หรืออาจจะใช้หมอนรองใต้หัวเข่าเพิ่มก็ได้ ผู้นวดใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองลูบไล่ลงมาตามร่องกระดูกเท้าด้านขวาของผู้ถูก นวด ที่อยู่ระหว่างนิ้วก้อยกับนิ้วนางและนิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้ โดยลูบขึ้นไปจนถึงข้อเท้า ออกแรงกดสม่ำเสมอ แล้วให้ คลึงกลับลงมาถึงโคนนิ้วเท้า ลูบขึ้นไปแล้วคลึงลงมาใหม่ ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 4 "คลึงข้อเท้า" ช่วยลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อเท้า • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย หรืออาจจะใช้หมอนรองใต้หัวเข่าเพิ่มก็ได้ ผู้นวดใช้นิ้วกลาง นิ้วนางและนิ้วก้อยทั้งสองมือวางไว้ใต้ตาตุ่มเท้าขวาของผู้ ถูกนวด ให้มือซ้ายอยู่ที่ตาตุ่มด้านนอก มือขวาอยู่ตาตุ่มด้านใน โดยคลึงรอบ ๆ ตาตุ่มให้ออกแรงคลึงสม่ำเสมอ คลึง สักครู่แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 17 ท่าที่ 5 "บิดเท้า" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเท้า ลดอาการปวดตึงเอ็นร้อยหวาย • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย หรืออาจจะใช้หมอนรองใต้หัวเข่าเพิ่มก็ได้ ผู้นวดใช้มือจับที่เท้าขวาของผู้ถูกนวดหมุนข้อเท้าออก ใช้มือซ้ายอ้อมส้นเท้า มาจับที่เอ็นร้อยหวาย มือขวาจับเอ็นร้อยหวายข้างฝ่าเท้า ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้ายกดลง นิ้วหัวแม่มือขวาดันขึ้น ดันขึ้นลง แล้วเลื่อนมือบิดไปตลอดแนวของเส้นเอ็น ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 6 "ดึงเท้า" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยเท้าและฝ่าเท้า ลดอาการเคล็ดขัดยอกเท้าหรือเป็นตะคริว • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างจับที่เท้าขวาของผู้ถูกนวด โดยให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างอยู่บนหลังเท้าและนิ้วที่เหลือจับที่ฝ่า เท้า ออกแรงดึงและใช้โคนนิ้วหัวแม่มือทั้งสองกดน้ำหนักลง ส่วนนิ้วที่เหลือที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าออกแรงดึงให้ฝ่าเท้าห่อเข้าหา กัน แล้วคลายออก ทำสลับไปมาสักครู่แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 18 ท่าที่ 7 "ดึงนิ้วเท้า" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยนิ้วเท้า ลดอาการเคล็ดขัดยอกนิ้วเท้าหรือนิ้วเท้าติดขัด • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย ผู้นวดใช้มือซ้ายจับที่เท้าขวาของผู้ถูกนวดไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว ใช้นิ้วขวาคลึงแล้วดึงนิ้วเท้าทีละนิ้ว เริ่มจากนิ้วหัวแม่เท้า ไล่มาจนครบ โดยคลึงนิ้วเท้าจากโคนนิ้วถึงเล็บเท้าแล้วออกแรงดึงให้เต็มที่ มือซ้ายจะจับยึดเท้าให้แน่นแล้วจึง เปลี่ยนเป็นท่าต่อไป หมายเหตุ- ท่าที่ 1-7 ให้เริ่มต้นนวดที่เท้าข้างขวาของผู้ถูกนวดก่อน นวดจนครบทุกท่าแล้วจึงเริ่มต้นท่าที่ 1 ใหม่ ที่เท้าข้างซ้ายของผู้ถูกนวดต่อไป และควรล้างเท้า เล็บ ให้สะอาดก่อนการนวดเท้า


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 19 ท่าที่ 8 "กดนิ้วเท้า" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยเท้า ลดอาการเคล็ดขัดยอกจากการเดินหรือวิ่ง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย ผู้นวดใช้มือจับเท้าขวาของผู้ถูกนวดวางซ้อนทับเท้าซ้ายโดยให้ปลายนิ้วซ้อนกัน ผู้นวดใช้มือทั้งสองวางคว่ำลงซ้อนกัน แล้วออกแรงกดที่ปลายเท้าและนิ้วเท้าของผู้ถูกนวด แขนเหยียดตรง กดน้ำหนักลงที่มือทั้งสองข้าง โดยเริ่มจากเบา ๆ แล้วจึงค่อยเพิ่มน้ำหนัก กดแล้วคลาย ทำสักครู่แล้วจึงเปลี่ยนเป็นเท้าซ้ายวางทับเท้าขวา แล้วทำตามขั้นตอนดังกล่าว จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 9 "ดัดนิ้วเท้า" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยเท้า ลดอาการเคล็ดขัดยอกจากการเดินหรือวิ่ง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย ผู้นวดใช้มือขวาจับนิ้วเท้าทั้งห้าของผู้ถูกนวดเท้าขวา และใช้มือซ้ายจับนิ้วเท้าทั้งห้าของผู้ถูกนวดเท้าซ้าย แล้วออกแรง กดที่โคนนิ้วเท้าของผู้ถูกนวดพร้อมดัดนิ้วเท้าให้เอนไปจนสุดโดยให้นิ้วเท้าตึง โดยใช้สันมือกดเท้า ให้แขนเหยียดตรง กดน้ำหนักลงที่สันมือทั้งสองข้าง โดยเริ่มจากเบา ๆ แล้วจึงค่อยเพิ่มน้ำหนัก กดแล้วคลาย ทำสักครู่แล้วจึงเปลี่ยนเป็น ท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 20 ท่าที่ 10 "สับขาส่วนล่าง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อขาส่วนล่าง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย หรืออาจจะใช้หมอนรองใต้หัวเข่าเพิ่มก็ได้ ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างวางไว้ที่ใต้เข่าขวาของผู้ถูกนวด โดยให้มือทั้งสองข้าง ตั้งขึ้น นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบนสันมือด้านนิ้วก้อยสัมผัสกับส่วนที่นวด สับมือที่ละข้างสลับไปมา เริ่มจากใต้หัวเข่าขวา ด้านในไล่ลงมาจนถึงข้อเท้า ให้สับขวางกล้ามเนื้อขา ทำสลับไปมาจากใต้หัวเข่าขวาด้านในไล่ลงมาจนถึงข้อเท้าแล้วจึง เปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 11 "สับขาส่วนบน" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อขาส่วนบน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย หรืออาจจะใช้หมอนรองใต้หัวเข่าเพิ่มก็ได้ ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างวางไว้ที่ใต้เข่าขวาของผู้ถูกนวด โดยให้มือทั้งสองข้าง ตั้งขึ้น นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบนสันมือด้านนิ้วก้อยสัมผัสกับส่วนที่นวด สับมือที่ละข้างสลับไปมา เริ่มจากโคนขาขวาด้าน ในไล่ลงมาจนถึงเหนือเข่า ให้สับขวางกล้ามเนื้อขา ทำสลับไปมาจากโคนขาขวาด้านในไล่ลงมาจนถึงเหนือเข่าแล้วจึง เปลี่ยนเป็นท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 21 ท่าที่ 12 "คลึงขาส่วนล่าง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อน่องและขาส่วนล่าง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย ผู้นวดใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างวางลงบนกล้ามเนื้อขาด้านในต่ำลงมาจากหัวเข่า โดยออกแรงคลึงที่นิ้วหัวแม่มือเป็นรูป ก้นหอยลงมาตามแนวกล้ามเนื้อลงมาจนถึงข้อเท้า ทำสลับไปมาจากใต้หัวเข่าขวาด้านในไล่ลงมาจนถึงข้อเท้าแล้วจึง เปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 13 "คลึงหัวเข่า" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยเข่า ลดอาการเคล็ดขัดยอกเข่า • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ เหยียดขาตรงปล่อยขาตามสบาย ผู้นวดใช้ปลายนิ้วทั้งสี่ วางมือทั้งสองข้างที่บริเวณหัวเข่าขวาของผู้ถูกนวด ใช้ปลายนิ้วทั้งสี่คลึงรอบ ๆ กระดูกสะบ้าโดย ให้หมุนเป็นวงกลมรอบ ๆ หมุนโดยไม่ต้องยกนิ้วขึ้นระหว่างการนวด ทำสักครู่แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 22 ท่าที่ 14 "คลึงต้นขา" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อต้นขา ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณต้นขาได้ดี • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ งอเข่าข้างขวาขึ้น ผู้นวดใช้มือขวา จับที่หัวเข่าข้างขวาของผู้ถูกนวด ใช้มือซ้ายคลึงกล้ามเนื้อด้านนอกจากบริเวณใต้สะโพกไล่ลงมาจนถึงด้านข้างเข่า ขวา ออกแรงคลึงมาก ๆ หนัก ๆ เพราะกล้ามเนื้อส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับเส้นเอ็นที่เหนียวมาก คลึงสลับไปมาแล้วจึง เปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 15 "บิดต้นขาด้านใน" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อต้นขา • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ งอขาเล็กน้อย ผู้นวดใช้มือทั้งสอง ข้างบีบกล้ามเนื้อขาด้านในข้างขวาของผู้ถูกนวด โดยวางมือให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองหันเข้าหากันและใช้แรงดันให้หัวเข่า เอียงไปทางด้านขวาเล็กน้อย บิดและยกกล้ามเนื้อขึ้น โดยบิดขึ้นบิดลงทำสลับไปมาไล่จากเหนือเข่าด้านในจนถึงโคน ขาด้านใน แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 23 ท่าที่ 16 "บิดต้นขาด้านนอก" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อต้นขา • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ งอขาเล็กน้อย ผู้นวดใช้มือทั้งสอง ข้างบีบกล้ามเนื้อขาด้านนอกข้างขวาของผู้ถูกนวด โดยวางมือให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองหันเข้าหากัน และใช้แรงดันให้หัว เข่าเอียงไปทางด้านซ้ายเล็กน้อย บิดและยกกล้ามเนื้อขึ้น โดยบิดขึ้นบิดลงทำสลับไปมาไล่จากเหนือเข่าด้านนอกจนถึง โคนขาด้านนอก แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป หมายเหตุ- ท่าที่ 10-16 ให้เริ่มต้นนวดที่ขาข้างขวาของผู้ถูกนวดก่อน นวดจนครบทุกท่าแล้วจึงเริ่มต้นใหม่ที่ขา ข้างซ้ายของผู้ถูกนวดต่อไป ท่าที่ 17 "กดข้อเท้า" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อขาและหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนแบนวางใต้ลำตัวช่วงท้อง ให้ปลายเท้าทั้งสองข้าง เลยพ้นขอบเตียง ผู้นวดใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดเบา ๆ ที่กึ่งกลางระหว่างเอ็นร้อยหวายกับตาตุ่ม ที่เท้าทั้งสองของผู้ถูกนวด จากนั้น ค่อย ๆ เพิ่มแรงกดค้างไว้ประมาณ 5 วินาทีแล้วคลายทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 24 ท่าที่ 18 "กดขา" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อน่องและขา • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนแบนวางใต้ลำตัวช่วงท้อง ให้ปลายเท้าทั้งสองข้าง เลยพ้นขอบเตียง ผู้นวดใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดเบา ๆ ที่กล้ามเนื้อเหนือข้อเท้าทั้งสองข้างของผู้ถูกนวด กดไล่มา จนถึงกล้ามเนื้อน่อง เว้นข้อพับบริเวณน่อง กดจนถึงโคนขาบริเวณใต้สะโพก โดยออกแรงกดเบา ๆ จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มแรงกด กดค้างไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วคลายทำสลับไปมา วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน"นวดเอวและหลัง" เรียนรู้และฝึกฝนได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดายด้วย 14 ท่านวดเอวและหลัง ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ลดอาการ เคล็ดขัดยอก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ปรับสมดุลของฮอร์โมน กระตุ้นให้ระบบต่างๆ ทำงานดีขึ้นและผ่อน คลายความเครียด เพื่อสุขภาพที่ดีและอารมณ์ดี ท่าที่ 1 "ลูบข้างลำตัว" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อยผู้นวดใช้มือ ทั้งสองข้างวางไว้ข้างลำตัวของผู้ถูกนวดบริเวณช่วงเอว ให้นิ้วทั้งสี่อยู่ด้านข้างลำตัว นิ้วหัวแม่มือวางบนแผ่นหลัง ลูบ จากเอว ขึ้นไปจนถึงใต้รักแร้ ลูบขึ้นไปอย่างช้า ๆ ออกแรงกดที่มือทั้งสองข้าง ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 25 ท่าที่ 2 "ลูบแนวกระดูกสันหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้ มือทั้งสองข้างวางลงบนกระดูกสันหลังของผู้ถูกนวดบริเวณก้นกบ ใช้ปลายนิ้วทั้งสี่ (นิ้วหัวแม่มือ) สัมผัสกับส่วนที่นวด ลูบจากก้นกบ ขึ้นไปจนถึงท้ายทอย ลูบขึ้นไปอย่างช้า ๆ ออกแรงกดที่ปลายนิ้วทั้งสี่ทั้งสองข้าง ทำสลับไปมาแล้วจึง เปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 3 "ลูบกล้ามเนื้อหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้ มือทั้งสองข้างวางลงบนหลังของผู้ถูกนวดบริเวณท้ายทอย ให้นิ้วหัวแม่มืออยู่ใกล้กับแนวกระดูกสันหลังห่างออกมา เล็กน้อย นิ้วทั้วสี่อยู่กลางหลังนิ้วชิดกัน ลูบจากท้ายทอยลงไปจนถึงก้นกบ ลูบลงไปอย่างช้า ๆ ออกแรงกดที่มือทั้งสอง ข้าง ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 4 "คลึงกล้ามเนื้อหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดกาง มือทั้งสองข้างออกให้กว้างที่สุด แล้ววางลงบนท้ายทอย ใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงจากท้ายทอยลงมาตามแนวกล้ามเนื้อหลัง จนถึงก้นกบให้กดน้ำหนักลงที่นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้าง คลึงจากท้ายทอยลงไปจนถึงก้นกบ คลึงลงไปอย่างช้า ๆ ทำ สลับไปมาจากท้ายทอยลงไปจนถึงก้นกบแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 26 ท่าที่ 5 "คลึงแนวกระดูกสันหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ-หลัง ลดอาการเคล็ดขัดยอกจากการนอนตกหมอน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้ มือทั้งสองข้างวางลงบนท้ายทอย ให้มือทั้งสองตั้งขึ้นนิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบน ใช้มือทั้งสองคลึงจากท้ายทอยลงมาตาม แนวกระดูกสันหลังจนถึงก้นกบให้ออกแรงกดโดยเหยียดข้อศอกให้ตรง เมื่อถึงก้นกบให้ลดแรงกด คลึงลงไปอย่างช้า ๆ ทำสลับไปมาจากท้ายทอยลงไปจนถึงก้นกบแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 6 "แยกกล้ามเนื้อหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อทั้งสองข้างของกระดูกสันหลัง ช่วยยึดกล้ามเนื้อและผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดวาง นิ้วมือทั้งสี่ให้อยู่ที่เอวด้านซ้ายใกล้กระดูกสันหลังบีบกล้ามเนื้อบริเวณเอว โดยใช้นิ้วหัวแม่มือบีบเข้าหานิ้วทั้งสี่ บีบ กล้ามเนื้อจากเอวมาจนถึงท้ายทอยตามแนวกระดูกสันหลัง ทำสลับไปมาจากเอวจนไปถึงท้ายทอยแล้วจึงเปลี่ยนไปบีบ เอวด้านขวา ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 7 "บิดกล้ามเนื้อปีก" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อไหล่และหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวด วางมือทั้งสองข้างบนกล้ามเนื้อปีกด้านซ้าย โดยให้นิ้วทั้งสี่อยู่ด้านบน นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านล่าง บีบแรง ๆ แล้วบิด กล้ามเนื้อขึ้น ๆ ลง ๆ แล้วคลายทำสลับกันไป แล้วจึงเปลี่ยนไปบิดกล้ามเนื้อปีกด้านขวาต่อไป ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่า ต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 27 ท่าที่ 8 "ลูบเอว" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณเอวและหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้ เนินฝ่ามือวางไขว้ให้ข้อมือหันเข้าหากันแล้ววางลงบนสะบักของผู้ถูกนวด ออกแรงกดแล้วลูบไปด้านตรงข้าม กดแล้ว ลูบกลับมาตำแหน่งเดิม ทำไล่ตั้งแต่บริเวณเอวจนถึงใต้รักแร้ สลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 9 "บิดเอว" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณท้องและช่วยลดไขมันบริเวณเอว • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวด วางมือทั้งสองข้างลงบนเอวด้านขวาของผู้ถูกนวด โดยให้นิ้วทั้งสี่แยกออกจากนิ้วหัวแม่มือ บีบกล้ามเนื้อบริเวณเอวให้ แน่นแล้วบิดกล้ามเนื้อเอวไปมา โดยเริ่มบิดจากส่วนเอวจนถึงสะโพก บิดแล้วคลายทำสลับกันไป แล้วจึงเปลี่ยนไปบิด เอวด้านซ้ายต่อไป ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 10 "ดัดสะโพก" ช่วยยืดกล้ามเนื้อและผ่อนคลายกล้ามเนื้อสะโพก • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้ มือซ้ายกดลงที่กระดูกสันหลังด้านล่างเอวเล็กน้อย มือขวาจับขาซ้ายของผู้ถูกนวดบริเวณเหนือหัวเข่าเล็กน้อย ให้ขา ซ้ายของผู้ถูกนวดพาดลงบนข้อศอกขวาของผู้นวด ให้ดึงต้นขาของผู้ถูกนวดให้เหยียดไปทางด้านหลังและมือซ้ายกดลง ที่กระดูกสันหลังด้านล่างเอว โดยให้ขาชี้ขึ้นจนลำตัวช่วงหลังแอ่นขึ้น โดยเริ่มดัดเบา ๆ ก่อนแล้วจึงค่อนเพิ่มแรงดัด ดัด แล้วคลายทำสลับไปมา แล้วจึงเปลี่ยนไปดัดสะโพกด้านขวาต่อไป ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 28 ท่าที่ 11 "สับหลังแนวกระดูกสันหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้ มือทั้งสองข้างวางลงบนท้ายทอย ให้มือทั้งสิงตั้งขึ้น นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบน สันมือด้านนิ้วก้อยสัมผัสกับส่วนที่นวด สับ มือทั้งสองข้างสลับกันไป จากท้ายทอยมาที่ไหล่ แล้วย้อนมาที่กลางหลังและให้สับลงมาตามแนวกระดูกสันหลังจนถึง ก้นกบ แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 12 "สับหลังแนวขวางกระดูกสันหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้ มือทั้งสองข้างวางลงบนท้ายทอย ให้มือทั้งสิงตั้งขึ้น นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบน สันมือด้านนิ้วก้อยสัมผัสกับส่วนที่นวด สับ มือทั้งสองข้างสลับกันไป จากก้นกบมาจนถึงท้ายทอยโดยสับขวางแนวกระดูกสันหลัง แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 13 "ปรบมือที่หลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวด วางมือทั้งสองข้างลงบนไหล่ของผู้ถูกนวด โดยทำมือเป็นรูปสามเหลี่ยมพีระมิด ให้นิ้วทั้งสี่วางชิดกันกับนิ้วหัวแม่มือ ปรบมือบริเวณไหล่ผ่านหลังไปจนถึงก้นกบ ปรบมือสลับไปมา เวลาปรบจะมีเสียงเหมือนเสียงปรบมือ แล้วจึง เปลี่ยนเป็นท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 29 ท่าที่ 14 "ยืดและดึงหลัง" ช่วยยืดกล้ามเนื้อและผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังและสะโพก • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ วางแขนของผู้ถูกนวดขนานกับ ลำตัว ผู้นวดจับขาทั้งสองข้างของผู้ถูกนวด งอและพับขึ้นมาวางที่บนลำตัวดันเข่าให้ชิดกันมากที่สุด โดยเริ่มกดเบา ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มแรงกด กดแล้วคลายทำสลับไปมาสักครู่ วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน"นวดแขนและมือ" เรียนรู้และฝึกฝนได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดายด้วย 19 ท่านวดแขนและมือขั้นพื้นฐาน ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ลดอาการเคล็ดขัดยอก ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น มีผลต่อผิวพรรณช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสและผ่อน คลายความเครียด ท่าที่ 1 "สับแขน" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแขน ลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อแขน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ หงายฝ่ามือขึ้นเหยียดแขนตรง ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างวางไว้ที่ไหล่ขวา ให้มือทั้งสองข้างตั้งขึ้น นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบนสันมือด้านนิ้วก้อยสัมผัสกับส่วน ที่นวด สับมือทีละข้างจากไหล่จนถึงข้อมือโดยสับขวางกล้ามเนื้อ ทำสลับไปมาจากไหล่จนถึงข้อมือแล้วจึงเปลี่ยนเป็น ท่าต่อไป ท่าที่ 2 "กดแขน" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแขน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ หงายฝ่ามือขึ้นเหยียดแขนตรง ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างบนแขนซ้ายของผู้ถูกนวด โดยให้สันมือวางอยู่ที่แขนด้านใน กดน้ำหนักลงที่สันมือ โดยเริ่มจาก กดเบาๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักการกด กดแล้วคลาย ทำสลับไปมาจากข้อมือจนถึงไหล่แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 3 "บีบแขน"


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 30 ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแขน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ วางฝ่ามือตั้งขึ้นเหยียดแขนตรง ผู้นวดใช้มือทั้งสองลงที่ข้อมือขวาของผู้ถูกนวด โดยให้นิ้วทั้งสี่อยู่ที่แขนด้านใน และนิ้วหัวแม่มืออยู่ที่แขนด้านนอก บีบ กล้ามเนื้อโดยกดน้ำหนักลงทุกนิ้ว เริ่มบีบจากข้อมือจนถึงไหล่ โดยเริ่มจากบีบเบาๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักการบีบ บีบแล้วคลาย ทำสลับไปมาจากข้อมือจนถึงไหล่แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 4 "บีบยกแขนส่วนล่าง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแขนส่วนล่าง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ หงายฝ่ามือขึ้นเหยียดแขนตรง ผู้ นวดใช้มือซ้ายจับที่ข้อมือขวาของผู้ถูกนวด ใช้มือขวาวางลงที่ข้อพับด้านในข้อศอก บีบกล้ามเนื้อโดยกดน้ำหนักลงทุก นิ้ว เริ่มบีบจากข้อพับด้านในจนถึงข้อมือ โดยเริ่มจากบีบเบาๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักการบีบ บีบแล้วคลาย ทำสลับ ไปมาจากข้อพับด้านในจนถึงข้อมือแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 5 "บีบยกแขนส่วนบน" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแขนส่วนบน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ หงายฝ่ามือขึ้นเหยียดแขนตรง ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างจับที่ต้นแขนขวาของผู้ถูกนวดแล้วบีบกล้ามเนื้อโดยกดน้ำหนักลงทุกนิ้ว เริ่มบีบจากกล้ามเนื้อ ต้นแขนจนถึงข้อศอก โดยเริ่มจากบีบเบาๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักการบีบ บีบแล้วคลาย ทำสลับไปมาจากกล้ามเนื้อ ต้นแขนจนถึงข้อศอกแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 31 ท่าที่ 6 "บิดแขน" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแขนส่วนบน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ ปล่อยแขนตามสบาย ผู้นวดใช้ มือทั้งสองข้างจับที่ต้นแขนขวาของผู้ถูกนวด โดยใช้หัวแม่มือทั้งสองกดลงที่ท้องแขนด้านใน อีกสี่นิ้วที่เหลือจับแขนด้าน นอก ให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองอยู่ชิดกัน บิดนิ้วหัวแม่มือซ้ายลงและนิ้วหัวแม่มือขวาบิดขึ้น ทำสลับไปมาตั้งแต่ต้นแขน จนถึงข้อมือ แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 7 "คลึงแขนส่วนบน" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อไหล่และแขน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ เหยียดแขนตรง ผู้นวดใช้มือทั้ง สองข้างจับที่ต้นแขนขวาของผู้ถูกนวด โดยมือซ้ายจับที่กล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้า มือขวาจับที่ต้นแขนด้านใน (รักแร้) คลึงไล่ลงมาจนถึงข้อศอก ทำสลับไปมาตั้งแต่ต้นแขนจนถึงข้อศอก แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 8 "คลึงแขนส่วนล่าง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแขน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ ปล่อยแขนตามสบาย ผู้นวดใช้ มือซ้ายจับที่ข้อมือขวาของผู้ถูกนวด มือขวาจับที่กล้ามเนื้อด้านนอกของข้อศอก โดยทำมือเป็นรูปตัวซี (C) ให้หลังมือ และเนินมือด้านนิ้วก้อยสัมผัสกับส่วนที่นวด กลิ้งมือรูปตัวซีจากข้อศอกจนถึงข้อมือ ออกแรงกดโดยการเกร็งข้อมือที่ใช้ นวด ทำสลับไปมาตั้งแต่ข้อศอกจนถึงข้อมือ แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 32 ท่าที่ 9 "ลูบแขน" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแขน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ เหยียดแขนตรง ผู้นวดวางมือทั้ง สองลงบนต้นแขนขวาของผู้ถูนวด โดยกางมือออกเป็นรูปตัววี (V) ให้มือทั้งสองข้างโอบรอบต้นแขน ลูบจากต้นแขนไล่ ลงมาจนถึงปลายนิ้ว โดยออกแรงเบา ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักการลูบให้มากขึ้น ทำสลับไปมาตั้งแต่ต้นแขนจนถึง ปลายนิ้ว แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 10 "ลูบและคลึงนิ้วมือ" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมือ ลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อนิ้วมือ • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ เหยียดแขนตามสบายและคว่ำฝ่า มือลง ผู้นวดใช้มือซ้ายจับที่นิ้วก้อยแขนขวาของผู้ถูกนวดแล้ว ใช้มือขวาจับที่นิ้วหัวแม่มือของผู้ถูกนวด ลูบจากโคนนิ้ว จนถึงปลายนิ้ว ขณะที่ลูบให้ใช้นิ้วหัวแม่มือของผู้นวดคลึงที่นิ้วของผู้ถูนวด ลูบและคลึงจนครบทุกนิ้ว ส่วนนิ้วนางและ นิ้วก้อยของผู้ถูกนวดให้ใช้มือซ้ายของผู้นวด ลูบและคลึง ทำสลับไปมาให้ครบทุกนิ้วแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 11 "ลูบและคลึงด้านหลังมือ" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมือ ลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อนิ้วมือ • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ เหยียดแขนตามสบายและคว่ำฝ่า มือลง ผู้นวดใช้นิ้วหัวแม่มือซ้ายและขวาลูบไล่ลงมาตามร่องกระดูกมือขวาที่อยู่ระหว่างนิ้วก้อยกับนิ้วนางและ นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ของผู้ถูกนวด โดยลูบจากฝ่ามือลงไปจนถึงข้อมือ ออกแรงกดแล้วคลึงกลับขึ้นมาถึงโคนนิ้ว ลูบลง


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 33 ไปแล้วคลึงขึ้นมาใหม่ แล้วเปลี่ยนไปนวดที่ร่องกระดูกแนวถัดไปที่อยู่ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วกลางและนิ้วกลางกับนิ้วนาง ลูบและคลึงในลักษณะเดียวกัน ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 12 "คลึงข้อมือ" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อข้อมือ ลดอาการเคล็ดขัดยอกจากข้อมือแพลง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ เหยียดแขนตามสบายและคว่ำฝ่า มือลง ผู้นวดใช้มือทั้งสองจับที่ข้อมือขวาของผู้ถูกนวด โดยวางนิ้วหัวแม่มือไว้ที่ข้อมือด้านบน ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองคลึง เป็นวงกลมในร่องข้อต่อระหว่างปลายกระดูกแขนรอบข้อมือและกระดูกมือ ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 13 "คลึงฝ่ามือ" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมือ ลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อนิ้วมือ • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ เหยียดแขนตามสบายและหงาย ฝ่ามือขึ้น ผู้นวดใช้นิ้วหัวแม่มือซ้ายและขวาออกแรงกดแล้วหมุนนิ้วเป็นก้นหอยบริเวณเนินฝ่ามือใต้ข้อมือเล็กน้อย แล้ว ลูบไล่ลงมาตามร่องกระดูกมือขวาที่อยู่ระหว่างนิ้วก้อยกับนิ้วนางและนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ของผู้ถูกนวด โดยลูบจากฝ่า มือลงไปจนถึงโคนข้อนิ้วมือ ออกแรงกดแล้วหมุนนิ้วเป็นก้นหอย แล้วคลึงกลับขึ้นมาถึงข้อมือ แล้วเปลี่ยนไปนวดที่ร่อง กระดูกแนวถัดไปที่อยู่ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วกลางและนิ้วกลางกับนิ้วนาง กด ลูบและคลึงในลักษณะเดียวกัน ทำสลับไป มาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 14 "กดฝ่ามือ" ช่วยยืดกล้ามเนื้อมือ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อมือ • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ ให้แขนของผู้ถูกนวดงอข้อศอก


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 34 ตั้งเป็นมุมฉากหงายฝ่ามือขึ้น ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างจับมือผู้ถูกนวดไว้ ใช้นิ้วหัวแม่มือกดลงบนเนินมือทั้งสองข้าง กด น้ำหนักลงให้ฝ่ามือของผู้ถูกนวดกางออกและตึงกดแล้วคลาย ค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักในการกด ทำสลับไปมาแล้วจึง เปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 15 "กดมือ" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยแขน ข้อศอกและไหล่ ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณแขนได้ดีขึ้น • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ เหยียดแขนตามสบาย ผู้นวดใช้ มือซ้ายจับข้อมือขวาของผู้ถูกนวดไว้ ใช้นิ้วหัวแม่มือขวากดลงจุดกึ่งกลางระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ที่เป็นง่ามมือบน เนินมือทั้งสองข้าง กดแล้วคลาย ค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักในการกด ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป ท่าที่ 16 "กดข้อมือ" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยแขน ข้อศอกและไหล่ ช่วยให้โลหิตไหลเวียนบริเวณแขนได้ดีขึ้น • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะไว้ เหยียดแขนตามสบาย ผู้นวดใช้ มือซ้ายจับข้อมือขวาของผู้ถูกนวด ส่วนมือขวาจับฝ่ามือของผู้ถูกนวดไว้ ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้ายของผู้นวดกดลงที่ปลายแขน ห่างจากข้อมือด้านบนประมาณ 1 นิ้ว กดแล้วคลาย ค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักในการกด ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่า ต่อไป หมายเหตุ- ท่าที่ 1-16 ให้เริ่มต้นนวดที่แขนข้างขวาของผู้ถูกนวดก่อน นวดจนครบทุกท่าแล้วจึงเริ่มต้นท่าที่ 1 ใหม่ที่ แขนซ้ายของผู้ถูกนวด ท่าที่ 17 "ดัดแขน" ช่วยลดอาการเคล็ดขัดยอกกล้ามเนื้อไหล่ • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนั่งบนพื้นหรือเก้าอี้ ผู้นวดยืนอยู่ด้านข้างของผู้ถูกนวด ผู้นวดใช้มือขวาจับที่ไหล่ขวาของผู้ถูก


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 35 นวด มือซ้ายของผู้นวดจับที่ข้อมือขวาของผู้ถูกนวด ไขว้แขนผู้ถูกนวดมาไว้ด้านหลัง ออกแรงดึงเบา ๆ แล้วค่อยเพิ่ม แรงดึงมากขึ้นแล้วคลายมือ ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนมาทำแขนข้างซ้าย ท่าที่ 18 "กดรักแร้" ช่วยลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อไหล่ • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนั่งบนพื้นหรือเก้าอี้และปล่อยแขนตามสบาย ผู้นวดยืนอยู่ด้านข้างของผู้ถูกนวด ผู้นวดใช้ นิ้วหัวแม่มือขวาวางที่ร่องรักแร้ด้านหน้า และวางนิ้วหัวแม่มือซ้ายที่ร่องรักแร้ด้านหลัง ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดดัน เข้าหาไหล่ โดยเริ่มกดเบา ๆ แล้วค่อยเพิ่มแรงกดมากขึ้น กดแล้วคลาย ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนมาทำที่รักแร้ ด้านซ้าย ท่าที่ 19 "ดึงแขน" ช่วยลดอาการเคล็ดขัดยอกข้อไหล่ • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนั่งบนพื้นหรือเก้าอี้และปล่อยแขนตามสบาย ผู้นวดยืนอยู่ด้านหลังของผู้ถูกนวด ผู้นวดใช้มือ ขวาจับที่ไหล่ขวาของผู้ถูกนวด มือซ้ายจับแขนขวาของผู้ถูกนวดมาวางบนไหล่ซ้ายของผู้ถูกนวด ดึงแขนขวาของผู้ถูก นวดมาทางด้านหลัง ออกแรงดึงเบา ๆ แล้วค่อยเพิ่มแรงดึงมากขึ้น ดึงแล้วปล่อย ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนมาทำที่ แขนด้านซ้าย


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 36 บรรณานุกรม ผศ.รำแพน พรเทพเกษมสันต์. (๒๕๕๖) กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์.พิมพ์ครั้งที่ ๖.กรุงเทพฯ: สำนัก พิมพ์ศิลปาบรรณาคาร. กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2559).เอกสารความรู้ผู้ดำเนินการสปาเพื่อสุขภาพ. พิมพ์ครั้งที่ ๔. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์สำนักพระพุทธศาสนา ยงศักดิ์ตันติปิฎก. (2552). ตำราการนวดไทย เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่4. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสาธารณสุข กับการพัฒนา. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.(๒๕๖๒). แนวทางเวชปฏิบัติด้านการแพทย์แผนไทยเพื่อส่งเสริม การใช้ยายสมุนไพรในระบบบริการสาธารณสุข เล่ม ๑. กรุงเทพฯ: ร้านแมกเนทสโตร์. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.(๒๕๖๒). แนวทางเวชปฏิบัติด้านการแพทย์แผนไทยเพื่อส่งเสริม การใช้ยายสมุนไพรในระบบบริการสาธารณสุข เล่ม ๒. กรุงเทพฯ: ร้านแมกเนทสโตร์. สำนักการแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มูลนิธิอุทัย สุดสุข.(๒๕๖๐). แนวทางการดูแลสุขภาพด้วยหลัก วิถีธรรม วิถีไทย (๓ส. ๓อ. ๑น.) ของ ๕ ศาสนา. กรุงเทพฯ: บริษัท วีอินดี้ดีไซน์ จำกัด. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข.(๒๕๖๐) คู่มือสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ด้าน การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน ในโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน.กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. กองการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข. (๒๕๖๒). คู่มือ การกดจุดสะท้อนเท้า เพื่อสุขภาพผู้สูงอายุ. กรุงเทพฯ: บริษัท วีอินดี้ดีไซน์จำกัด. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. คู่มือส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก. (๒๕๖๑). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เจริญพานิชย์(กรุงเทพ) จำกัด. อภิชาติลิมติยะโยธิน. (๒๕๔๕). คู่มืออบรมการนวดไทยแบบราชสำนัก ภาคเทคนิคการนวดรักษาโรคที่พบบ่อย. กรุงเทพฯ : พิฆเนศพริ้นติ้งเซ็นเตอร์. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. ตำราพื้นฐานวิชาชีพการแพทย์แผนไทย เล่ม ๑ ปรัชญาและพื้นฐาน การแพทย์แผนไทย. (๒๕๖๑) สมุทรสาคร: บริษัทพิมพ์ดีจำกัด. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. ตำราพื้นฐานวิชาชีพการแพทย์แผนไทย เล่ม ๒ จรรยาบรรณวิชาชีพและกฎหมาย. (๒๕๖๑) สมุทรสาคร: บริษัทพิมพ์ดีจำกัด.


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 37 อภิชาติลิมติยะโยธิน และคณะ. เส้นประธานสิบกับการนวดแบบราชสำนัก. (๒๕๖๐). นนทบุรี: บริษัท พีเค แม็กซ์ ดีไซน์จำกัด. มูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์แผนไทยเดิมฯ อายุรเวชวิทยาลัย. หัตถเวชกรรมแผนไทย (นวดแบบราชสำนัก). (๒๕๔๘) กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อุษาการพิมพ์. http://www.khamtonode.go.th/khamtonode/mainfile/K3hmskPeHMf8.pdf https://sites.google.com/site/chohticha2700/bth-thi-1-khwam-ru-beuxng-tn-keiyw-kab-kaywiphakhlaea-srirwithya http://old-book.ru.ac.th/e-book/p/PE244(48)/PE244-1.pdf http://old-book.ru.ac.th/e-book/inside/html/dlbook.asp?code=PE244(48) http://www2.nmd.go.th/um/images/document/courseUM/um12/file_for_testum12/anatomy%20f or%20test%20UM12.pdf


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 38 คณะผู้จัดทำ คณะที่ปรึกษา นายสุรัติ วิภักดิ์ ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัดร้อยเอ็ด นายสัญญา ยุบลชิต รองผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดร้อยเอ็ด นางสาวจิราวัลย์ ซาเหลา ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอเมืองร้อยเอ็ด นางดวงจันทร์ ประดับทอง ครูผู้ช่วย คณะพัฒนาหลักสูตร นางสาวจิราวัลย์ ซาเหลา ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอเมืองร้อยเอ็ด นางดวงจันทร์ ประดับทอง ครูผู้ช่วย นางเบญจวรรณ ผลินยศ ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน นางสาววรรณพร บุญพันธ์ ครู กศน.ตำบล นางสาวพนิตธา บุญอรัญ ครู กศน.ตำบล คณะบรรณาธิการ นางสาวจิราวัลย์ ซาเหลา ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอเมืองร้อยเอ็ด นางสาววรรณพร บุญพันธ์ ครู กศน.ตำบล ออกแบบกราฟฟิค ปก/รูปเล่ม นางสาววรรณพร บุญพันธ์ ครู กศน.ตำบล


หลักสูตร นวดไทยเพื่อสุขภาพ จำนวน 150 ชั่วโมง 39


Click to View FlipBook Version