บทคัดย่อ ชื่อโครงงาน การทะเลาะวิวาท ระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2566 ครูที่ปรึกษา นายนิพนธ์ ไชยมาลา ครู กศน.ต าบลเมืองทอง นางสาววรรณพร บุญพันธ์ ครู กศน.ต าบล วัตถุประสงคเพื่อศึกษาความหมายและคุณคาของวัยรุนหรือผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะกอเหตุทะเลาะวิวาท โดย ประยุกต์จากทฤษฎีการดูแลมนุษยของ Watson และทฤษฎีความรักของ Fromm วิธีการศึกษา: ผูใหขอมูล คือ นักศึกษา หญิง 3 คน และชาย 3 คน ที่ก าลังศึกษาใน สกร.อ าเภอเมืองร้อยเอ็ด สังกัด กระทรวงศึกษาธิการ จังหวัดร้อยเอ็ด มีประวัติเปนผูกอเหตุทะเลาะวิวาท และไดรับบทลงโทษอยางใดอยางหนึ่ง ผู้จัดท าใช้วิธีการใช ค าถาม แบบกึ่งโครงสรางในการสนทนา น าขอมูลมาวิเคราะหเชิงใจความหลัก ผลการศึกษาพบปัญหาหลายสาเหตุ ได้แก่ 1) ด้านความรักไม่สมหวัง 2) บิดา มารดา ผู้ปกครองมีภาระการท างาน ไม่มีเวลาดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด 3) บิดามารดา หย่าร้าง หรือแยกกันอยู่ 4) บิดามารดา หรือผู้ปกครองเข้มงวดมากเกินไปจนกลายเป็นความกดดัน จึงต้องหาทางออกด้วยการทะเลาะวิวาท 5) การก่อเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทได้รับอิทธิพลจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ หรือภาพยนตร์ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และครอบครัวท าให้เห็นเป็นประจ า สรุปผลการศึกษานี้สะทอนถึงหลาย ปัญหาที่ก่อให้เกิดเหตุทะเลาะ วิวาท ซึ่งชี้แนะใหพยาบาล บุคลากรสุขภาพ และผูที่เกี่ยวของให้ความรู้ความเข้าใจ ปฏิบัติกับวัยรุน หรือกลุ่มเสี่ยงดวยความเข้าใจจริงใจ เอาใจใส และยอมรับ เปดโอกาสใหวัยรุนหรือกลุ่มเสี่ยง มีอิสระใน การแสดงออกตามทัศนะดังกลาวและเปนที่ยอมรับ ซึ่งจะชวยใหวัยรุน สามารถอยูรวมกับผูอื่นไดอยาง สรางสรรค และมีความสุขลดปัญญาเหตุทะเลาะวิวาท
กิตติกรรมประกาศ โครงงาน เรื่อง “การทะเลาะวิวาท” ส าเร็จลุล่วงเนื่องจากได้รับการสนับสนุน และความกรุณา จากครูที่ปรึกษาประกอบ ด้วยนายนิพนธ์ ไชยมาลา ครู กศน.ต าบลเมืองทอง และนางสาววรรณพร บุญพันธ์ ครู กศน.ต าบล ตลอดจนผู้อ านวยการ กศน.อ าเภอเมืองร้อยเอ็ด ปฏิบัติหน้าที่ผู้อ านวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ อ าเภอเมืองร้อยเอ็ด ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ นางสาวจิราวัลย์ ซาเหลา และคณะครู สกร. อ าเภอเมืองร้อยเอ็ด ที่ได้ให้ค าแนะน าเกี่ยวกับโครงงานการแก้ไขปัญหาทุกขั้นตอน ตลอดจนชี้แนะแนวทางอันเป็น ประโยชน์ต่อโครงงานในครั้งนี้จนท าให้โครงงานสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นการเลือกท าโครงงานการเขียนเค้าโครงงาน การเขียนรูปแบบโครงงาน ตลอดจนจัดหาเอกสารความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวอย่างโครงงาน และยังสนับสนุน ช่วยตรวจดูโครงงานเพื่อช่วยแก้ไขส่วนที่ผิดพลาด หรือบกพร่องให้ถูกต้องตามรูปแบบของโครงงาน คณะผู้จัดท าขอขอบพระคุณสมาชิกในห้องเรียน กศน.ต าบลเมืองทอง และ สกร.อ าเภอเมืองร้อยเอ็ด ที่เปิด โอกาสให้คณะผู้จัดท าได้น าปัญหานี้มาจัดท าเป็นโครงงานเพื่อการแก้ไขปัญหา สุดท้ายนี้คณะผู้จัดท าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานนี้ จะเป็นประโยชน์ส าหรับผู้ที่สนใจศึกษา ไม่มากก็น้อย หากผิดพลาดและเกิดข้อบกพร่องใด ๆ คณะผู้จัดท าต้องขออภัยเป็นอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้ ด้วย คณะผู้จัดท า
สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ กิตติกรรมประกาศ บทที่ 1 บทน า ความเป็นมาและความส าคัญของโครงงาน 1 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1 ขอบเขตของโครงงาน 1 เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน 1 ตารางการด าเนินโครงงาน 2 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง สาเหตุการทะเลาะวิวาทของวัยรุ่น 3 ปัจจัยหลายอย่างในการทะเลาะวิวาท 4 บทที่ 3 วิธีการด าเนินงาน ขั้นตอนการท างาน ขั้นที่ 1 5 ขั้นตอนการท างาน ขั้นที่ 2 5 ขั้นตอนการท างาน ขั้นที่ 3 6 ขั้นตอนการท างาน ขั้นที่ 4 6 บทที่ 4 ผลการศึกษา ผลการศึกษา 7 บทที่ 5 สรุปผลการด าเนินงานและข้อเสนอแนะ วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า 8 สรุปผลการด าเนินงานศึกษาค้นคว้า 8 ข้อเสนอแนะ 8 บรรณานุกรม
บทที่ 1 บทน ำ ควำมเป็นมำและควำมส ำคัญของโครงงำน ปัจจุบันวัยรุ่นในโลกของเรานั้น ได้เปลี่ยนแปลงเป็นแต่ละประเทศที่มีความรุนแรงเข้ามาในประเทศ จึงท า ให้มีการทะเละวิวาท และยกพวกตีกันในโรงเรียน/สถานศึกษา หรือสถานที่ต่าง ๆ เช่น ตามงานต่าง ๆประเทศของ เราท าให้ผู้คนในประเทศขาดความสามัคคี และท าให้เด็ก ๆ ท าตามจนติดนิสัยก้าวร้าวใครสอนก็ไม่ฟังจึงท าให้เกิด ปัญหามากมายตามมาและนักเรียน/นักศึกษาได้รู้ถึงปัญหาความรุนแรงแล้ว ได้น าไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน และ ท าให้รู้ว่าโทษของการใช้ความรุนแรงเหมาะสมกับตัวเราหรือไม่ และคนรอบข้าง แต่ยังมีนักเรียน/นักศึกษา บางส่วนที่แยกแยะไม่ออกระหว่างการเรียน ความรุนแรงนั้นให้โทษอย่างไร และรู้จักเวลาเล่นกับเวลาเรียน ผู้จัดท า โครงงานจึงเห็นว่าการศึกษาค้นคว้าความรู้เกี่ยวกับปัญหาความรุนแรง จะท าให้เกิดการน าความรู้ที่ได้ศึกษา โครงงานมาพัฒนาเพื่อน ๆ ให้มีวิธีการห่างไกลจากความรุนแรง และใช้ชีวิตกับความทันสมัยได้อย่างถูกต้อง วัตถุประสงค์ของโครงงำน 1. เพื่อศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับการป้องกันปัญหาความรุนแรงของวัยรุ่น 2. เพื่อเผยแพร่ให้ทุกคนรู้จักการป้องกันตัวเองเพื่อมิให้เกิดปัญหาความรุนแรง 3. เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้รอดพ้นจากการใช้ความรุนแรง ขอบเขตของโครงงำน 1.3.1 ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า ในการศึกษาค้นคว้าปัญหาการทะเลาะวิวาทหรือความรุนแรงของวัยรุ่น กลุ่มนักศึกษา กศน.ต าบลเมืองทอง สกร.อ าเภอเมืองร้อยเอ็ด มีขอบเขตและการศึกษาค้นคว้าดังนี้ 1.3.2 ขอบเขตด้านเนื้อหา เนื้อหาที่ใช้ท าโครงงานนี้เป็นเนื้อหาเพื่อให้นักศึกษาได้รู้จักการ ป้องกันตนเองให้พ้นจากการใช้ความ รุนแรง และเพื่อเผยแพร่ให้วัยรุ่น นักศึกษา หรือผู้ที่มีความสนใจวิธีการแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาทได้รู้จักการ ป้องกันตนเองจากการใช้ความรุนแรง 1.3.3 ขอบเขตด้านประชากร นักศึกษา กศน.ต าบลเมืองทอง สกร.อ าเภอเมืองร้อยเอ็ด ส านักงาน สกร.จังหวัดร้อยเอ็ด 1.3.4 ขอบเขตด้านระยะเวลาที่ใช้ การท าโครงงานครั้งนี้ด าเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เครื่องมือที่เกี่ยวกับโครงงำน นักศึกษา กศน.ต าบลเมืองทอง สกร.อ าเภอเมืองร้อยเอ็ด ส านักงาน สกร.จังหวัดร้อยเอ็ด
2 ตำรำงกำรด ำเนินโครงงำน กำรด ำเนินโครงกำรวิจัย ระยะเวลำกำรด ำเนินโครงงำน พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. ศึกษาปัญหาและความต้องการ 2. ก าหนดขอบเขต 3. ท าเอกสารงานวิจัย 4. ขอค าแนะน าจากครูที่ปรึกษา 5. ลงมือปฏิบัติ ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ มีความรู้ เกี่ยวกับการป้องกันการใช้ความรุนแรง และสามารถป้องกันตนเองจากจากใช้ความรุนแรง และสามารถเผยแพร่ประสบการณ์ให้เพื่อนหรือประชาชนที่มีความสนใจและเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้ ห่างไกลจากสถานการณ์ความรุนแรง
3 บทที่ 2 เอกสำรที่เกี่ยวข้อง สำเหตุกำรทะเลำะวิวำทของวัยรุ่น ประกอบด้วยเรื่อง 1. ปัญหาการทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่น 2. แนวทางการแก้ปัญหาของวัยรุ่น 3. แนวทางในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความรุนแรง 4. ปัญหาการทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่น วัยรุ่นเป็นวัยของการเปลี่ยนแปลงทั้งทางรงกาย และจิตใจ การเปลี่ยนแปลงระหว่างวัยถือเป็นช่วงส าคัญ ที่สุดเนื่องจากอนาคตของวัยรุ่นจะเป็นอย่างไรจะเริ่มจากสิ่งที่เขาได้รับในวัยนี้สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวมีอิทธิผล มาก เพราะจะท าให้พวกเขาซึมซับในสิ่งที่สังคมนั้น ๆ กระท าหากสังคมที่เขาอยู่เป็นสังคมที่ดีถือเป็นโชคดีของ พวกเขา แต่ถ้าอยู่ในสังคมที่ไม่ดีเขาก็จะได้รับและซึมซับพฤติกรรมที่ไม่ดีนั้นไปด้วย ยกตัวอย่ำง เหตุการณ์การทะเลาะวิวาท ระหว่างนักศึกษามัธยมแห่งหนึ่ง ใน อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ การทะเลาะวิวาทใช้มีดแทงเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนเดียวกันครูอาจารย์ต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมๆ กับเร่งโทรแจ้ง 1669 ขอความช่วยเหลือจาก รพ.ศรีรัตนะ มารับเด็กนักเรียน พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ ต ารวจภูธรศรีรัตนะ เพื่อมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีนักเรียนเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 3 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ อีก 3 ราย เป็นนักเรียนที่มาจาก ต.สระพุง 1 ราย อายุ 14 ปี ได้รับ บาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวต่อไปยัง รพ.ศรีสะเกษ จาก ต.สระเยาว์ 1 ราย อายุ 13 ปี บาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัว ต่อไป รพ.ศรีสะเกษ เช่นกัน และมาจาก ต.ศรีแก้ว 1 ราย อายุ 13 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย รักษาตัวที่ รพ.ศรีรัตนะ สาเหตุเบื้องต้นทราบว่า เด็กได้เกิดการทะเลาะวิวาทกันภายในโรงเรียน แต่ยังไม่ทราบว่าทะเลาะกันในเรื่อง อะไร ต้องรอการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ต ารวจ ทั้งสอบพยาน และสอบผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ก่อเหตุ และที่ผ่านมาในช่วงคืนของวันที่ 29 พ.ค. 2566 ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุแทงเพื่อน นักเรียน ในโรงเรียนด้วยกัน ได้น าตัว ด.ช.อายุ 14 ปี ผู้ก่อเหตุ เข้ามอบตัวที่ สภ.ตูม อ.ศรีรัตนะ โดยพบกับ ร.ต.อ.พิชิตชัย เดือนฉาย รอง สว.ป.สารวัตรเวรเจ้าของคดี พร้อมกับ พ.ต.อ.อรรคลิลล์ ถิ่นกาแบง สารวัตรใหญ่ สภ.ตูม ได้ท าการควบคุมตัว เพื่อรอในวันนี้เช้าจะได้น าตัวไปสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพ ที่สถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน ใน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยเบื้องต้นได้ตั้งข้อหา ท าร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย, ท าร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็น เหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ท าร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ 3 ข้อหาเป็นเบื้องต้นก่อน ตามคดีอาญาเลขที่ 42/2566 ลงวันที่ 29 พ.ค. 2566
4 ส่วนศพของน้อง อายุ 14 ปี ที่ถูกแทงจนเสียชีวิต ขณะนี้ญาติได้รับศพมาจากโรงพยาบาลศรีสะเกษแล้ว ตั้ง บ าเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดที่บ้านโนนสว่าง ต.พรหมสวัสดิ์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ โดยจะได้มีการสวดอภิธรรมศพทุก คืน ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติพี่น้องทุกคน โดย : พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ ปัจจัยหลำยอย่ำงในกำรทะเลำะวิวำท ดังนี้ 1. เกิดจากการถูกท าร้ายร่างกายมาก่อน 2. เกิดจากการเป็นศัตรูคู่อริ 3. เกิดจากความต้องการอวดให้รุ่นน้องเห็น 4. เกิดจากเทศกาล 5. เกิดจากประเพณีและพิธิกรรม เช่น เพื่อสร้างให้เกิดความรู้สึกศักดิ์ศรีหรือความยิงของสถาบันเป็นต้น 6. เกิดจากความรู้สึกเสียศักดิ์ศรี
5 บทที่ 3 วิธีกำรด ำเนินงำน ขั้นตอนกำรท ำงำน ศึกษาความรู้โดยน าสื่อแบบเรียนรายวิชาสุขศึกษา พลศึกษา มาช่วยเสริมเกี่ยวกับ เรื่อง ปัญหาความ รุนแรงของวัยรุ่น หรือการทะเลาะวิวาท เป็นการส่งเสริมวิธีการค้นหาความรู้ การท างานร่วมกันในกลุ่มเพื่อน และ การน าความรู้ที่ได้รับมาสร้างเป็นความรู้ของตนเองและสามารถน าความที่ได้รับจากการค้นคว้าไปเผยแพร่ให้กับ ผู้อื่นโดยผู้จัดท าโครงงานได้ด าเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแสวงหาความรู้ เชิงสร้างสรรค์บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตโดยมีขั้นตอนการเรียนรู้ 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนการวางแผน ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนการเก็บรวบรวมมูล ขั้นตอนที่ 3 ขั้นตอนการสรุปผลความรู้และสร้างความรู้ ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนการน าเสนอความรู้และประเมินผลงานความรู้ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนกำรวำงแผน สมาชิกในกลุ่มได้มาประชุมกันในกลุ่มเรื่องปัญหาความรุนแรงของวัยรุ่นและแบ่งหน้าที่ให้เข้ากับการ ท างาน เพื่อตั้งชื่อจะศึกษาหาความรู้และค้นคว้าที่ตัวเองได้ไปหาความรู้ที่ตัวเองได้รับเกี่ยวกับเรื่องการป้องกัน ปัญหาความรุนแรงของวัยรุ่นเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมและให้เพื่อน ๆ มาศึกษาเรียนรู้เรื่องการป้องกันปัญหาความ รุนแรงของวัยรุ่นที่กลุ่มเราได้จัดท าขึ้นมาและก็ได้ความรู้และวิธีการป้องปัญหาความรุนแรงในประเทศ ขั้นตอนที่ 2 ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล 1. ก าหนดหัวเรื่องเพื่อหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต 2. ก าหนดเว็บไซต์ของข้อมูลที่ต้องการ 3. ค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตทั่ว ๆ ไป 4. จัดตกแต่งข้อมูล เพื่อให้ข้อมูลมีความน่าสนใจมากขึ้น 5. เรียบเรียงข้อมูลให้เข้ากับหัวข้อเรื่องเพื่อผู้อ่านก็ได้เข้าใจมากขึ้น 6. แบ่งหัวข้อให้สมาชิกภายในกลุ่มของตนเอง ไปศึกษาค้นคว้าความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหา 1) ปัญหาการทะเละวิวาทของกลุ่มวัยรุ่น ผู้ค้นคว้า นายจิรกิตต์ห่อศรีนางสาวพรกมล เสมาและนางสาวแก้วตา เงินของแพง 2) อุปสรรคของการแก้ไขปัญหาความรุนแรง ผู้ค้นคว้า นายโยธิน แดงโรจน์ และนางสาวณัฎฐา กัลยาลักษณ์ 3) แนวทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงของวัยรุ่น ผู้คนคว้า นายภูมิกฤษ สุรเสน และนางสาวอริษา ชินสอน
6 ขั้นตอนที่3 ขั้นสรุปผลควำมรู้และสร้ำงควำมรู้ 1. น าข้อมูลที่เสร็จสิ้นจากการค้นคว้ามาสรุปผลความรู้เพื่อจะได้มาเป็นรูปเล่ม 2. ตรวจสอบเพื่อไม้ให้มีข้อผิดพลาด 3. หลอมรวมความรู้เข้าไปให้เหมาะสมแล้วเตรียมน าเสนอความรู้ ขั้นตอนที่ 4 ขั้นน ำเสนอควำมรู้และประเมินผลควำมรู้ การเสนอข้อมูลความรู้โครงงานการทะเลาะวิวาท โดยการน าเสนอผลงาน และน าเอกสารไปเผยแพร่ความรู้ให้แก่ กลุ่มเป้าหมายนักเรียน/นักศึกษา หรือประชาชนที่สนใจได้ความรู้และให้ครูที่ปรึกษาประเมินผลงาน และวัด ความรู้ความเข้าใจของผู้ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมการน าเสนอโครงงาน
7 บทที่4 ผลกำรศึกษำ จากการศึกษาค้นคว้าโครงงาน เรื่อง การทะเลาะวิวาท ผู้ค้นคว้าได้น าข้อมูลที่ได้จากการศึกษามาน าเสนอ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นวางแผน ขั้นตอนที่ 2 เก็บรวบรวม ขั้นตอนที่ 3 ขั้นสรุปผลความรู้และสร้างความรู้ ขั้นตอนที่ 4 ขั้นน าเสนอความรู้และประเมินความรู้ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นวำงแผน จากการประชุมกลุ่มเพื่อค้นหาเรื่องที่ต้องการศึกษาเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ตัวเองและคนรอบข้างที่เกี่ยวข้องนั้น สมาชิกในกลุ่มร่วมกันวางแผนเพื่อจะศึกษาค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่สังคมพบกันบ่อยมากก็คือปัญหาของวัยรุ่น ในสังคมไทย ขั้นตอนที่ 2 ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล จากการแบ่งงานเพื่อไปศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่ได้ศึกษามานั้นก็น าความรู้ที่ไปศึกษามาเก็บรวบรวมมาเรียบ เรียงข้อมูลต่าง ๆ ให้เรียบร้อยเสร็จสมบูรณ์เพื่อรอการน าเสนอ ขั้นตอนที่ 3 ขั้นสรุปผลควำมรู้และสร้ำงควำมรู้ ผลจากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับ ปัญหาของวัยรุ่น เราได้ทราบสาเหตุของปัญหาของวัยรุ่นของ เด็กไทยด้วยสาเหตุใหญ่ ๆ ก็คือการท าให้สนุกสนาน สมาชิกในกลุ่มของเราจะได้น าข้อมูลเหล่านี้ไปพัฒนาและ ศึกษาต่อเพื่อเผยแผ่ความรู้ ขั้นตอนที่ 4 ขั้นน ำเสนอควำมรู้และประเมินควำมรู้ จากการที่ได้สังเกตพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายในชั้นเรียน และให้กรอแบบแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ ความรู้ในการแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาท เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้น าความรู้ไปใช้ในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการ ทะเลาะวิวาทขึ้น
8 บทที่5 สรุปผลกำรด ำเนินงำนและข้อเสนอแนะ จากการศึกษาค้นคว้าโครงงานเรื่อง การทะเลาะวิวาท มีผลสรุปการศึกษาค้นคว้าโครงงานเรื่องนี้ วัตถุประสงค์ของกำรศึกษำค้นคว้ำ 1. เพื่อศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับการป้องกันปัญหาความรุนแรงของวัยรุ่น 2. เพื่อเผยแพร่ให้ทุกคนรู้จักการป้องกันตัวเองเพื่อมิให้เกิดปัญหาความรุนแรง 3. เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้รอดพ้นจากการใช้ความรุนแรง สรุปผลกำรด ำเนินงำนศึกษำค้นคว้ำ จากการศึกษาข้อมูล เรื่อง การทะเลาะวาท ผู้จัดท าได้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาของวัยรุ่น กลุ่มวัยรุ่นล้วน แล้วแต่มีปัญหามากมายแตกต่างกันไป ท าให้ความรุนแรงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ยังเป็นเยาวชนท าให้สังคมไทยเสื่อม ลงมาก ผู้จัดท าได้น าความรู้ที่ได้มาเป็นแนวทางในการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือนักศึกษา หรือผู้ที่ประสบ ปัญหาในชั้นเรียนเดียวกัน โดยการจัดท าออกแบบสื่อต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางให้ตระหนักถึงปัญหาของวัยรุ่น เช่น การทะเลาะวิวาท การเกิดการลักขโมย และเกิดการฆ่าชิงทรัพย์แม้กระทั้งให้ห่างไกลจากยาเสพติด ซึ่ง ส่งผลกระทบมากมายทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่อครอบครัวและบุคคลอื่น มีผลกระทบต่อส่วนรวมและ ประเทศชาติ ท าให้ประเทศไทยเสื่อมถอยลงและได้ผลกระทบจากสิ่งยั่วยุ เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่าง ต่อเนื่องตลอดมานั้น ได้ส่งผลกระทบต่อสตรีและเด็กอย่างรุนแรง จากการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม การบาดเจ็บ และการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก การต้องรับหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวโดยไม่พร้อมเพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีสตรีรับหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องรับภาระอบรมเลี้ยงดูลูก รวมทั้งต้องประกอบอาชีพ เพื่อให้มีรายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีผลต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต ของสมาชิกใน ครอบครัว และบางครอบครัวไม่สามารถประกอบอาชีพอย่างที่เคยท ามาได้ มีผลท าให้ครอบครัวที่ทุกข์ยากอยู่ แล้ว จึงน าเสนอผลการศึกษาค้นคว้านี้มาเพื่อให้เกิดประโยชน์และเป็นส่วนหนึ่งต่อการพัฒนาสังคมไทย ข้อเสนอแนะ จัดอบรมเกี่ยวกับปัญหาการทะเลาวิวาทความรุนแรง เพื่อให้นักศึกษาหรือผู้ที่มีความเสี่ยงได้ตระหนักถึง โทษ และปัญหาที่จะตามมาแบบจริงจัง
9 บรรณำนุกรม 1. ส านักขาว News Station. Thaihomelist Network. ต ารวจนครบาลเผยสถิตินักเรียนตีกันปนี้สูงสุดในรอบ 3 ป. 2552. (สืบคนขอมูลวันที่ 15 มีนาคม 2554, ที่http://www.thaipbs.or.th/s1000_obj/front_page/page/ 1037. html?content_id=204225) 2. ปนัดดา ช านาญสุข. โลกความรุนแรงของวัยรุนในบริบทความเปนเมือง. วารสารรมพฤกษ 2551;26(2):89. 3. สุภาวดีมั่นจีระ. การศึกษาทัศนคติของเด็กวัยรุนตอพฤติกรรมที่เปนปญหา และบทบาทของสถาบันทางสังคมใน การแกไขพฤติกรรมที่เปนปญหาของ วัยรุน. วิทยานิพนธการศึกษามหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาพัฒนาการ. กรุงเทพฯ. บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2547. 4. ศักรินทรไมนอย. การกออาชญากรรมคดีอุกฉกรรจและสะเทือนขวัญของ วัยรุน: บุพปจจัย ผลลัพธและ มาตรการในการแกไข. วารสารส านักงาน คณะกรรมการวิจัยแหงชาติ 2551;40(2):119-120. 5. ศิรินันทเพชรทองค า. ค าบรรยายจิตวิทยาพัฒนาการและการเรียนรู. กรุงเทพฯ. มหาวิทยาลัยรามค าแหง, 2521. 6. วิทยา นาควัชระ. ความสุข 3 อยางสรางได. กรุงเทพฯ. อมรินทรพริ้นติ้ง แอนดพบลิชชิ่ง, 2552 7. Fromm E. The art of loving. New York. Harper and Row Publishers Inc, 1962. 8. Hendrick S. Human development and family studies. Ohio. Kent State University, 1978. 9. Silverman D. Beginning research: Interpreting qualitative data, method for analysing talk. London. Sage Publications, 1993. 10. Watson J. Nursing: The philosophy and science of caring. Boulder, Colorado. The University of Colorado Press, 2008. 11. Rose G. Visual methodologies: An introduction to the interpretation of visual materials. London. Sage, 2001. 12. Liamputtong P, Rumbold J. Knowing differently: Arts-based and collaborative research methods. New York. Nova Science Publishers Inc, 2008. 13. สงวน ธานี, อาภรณดีนาน, ชนัดดา แนบเกษร. รายงานการวิจัย ความหมาย ของความรักในมุมมองของครูผู ปกครอง วัยรุนที่ติดสารเสพติดและวัยรุนที่ ไมติดสารเสพติด. ชลบุรี. คณะพยาบาลศาสตรมหาวิทยาลัยบูรพา, 2549. 14. ผุสดีตั้งจิตนุกุล. ทัศนคติที่มีตอความรักของวัยรุน. วิทยานิพนธศึกษาศาสตร มหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยา การศึกษาและการแนะแนว. เชียงใหม. บัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม, 2544. 15. Kramer DP. The art of loving. New York. Harper Collins Publishers, 2006. 16. Davis KE, Latty-Mann H. Love styles and relationship quality: A contribution to validation. J Soc Pers Relat 1987;4(7):409-428. 17. Sternberg JR, Weis K. The new psychology of love. London. Yale University, 2006.
10 18. สายใจ พัวพันธ. เอกสารประกอบการสอนรายวิชาทฤษฎีการพยาบาล: ศาสตรแหงมนุษยและการดูแลมนุษย ของวัตสัน. ชลบุรี. สาขาวิชาการ พยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช คณะพยาบาลศาสตรมหาวิทยาลัยบูรพา, 2551. 19. พีเอ็น กุนนา, แปลโดย นวลฉวีพานิชกุล และสมบูรณศุภศิลป. วิถีแหงรัก วิถีแหงชีวิตแตงงาน. พิมพครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ. ตนหมาก, 2528. 20. วีระ ไชยศรีสุข. สุขภาพจิต (Mental health). กรุงเทพฯ. ตนออ, 2533. 21. http://pattana.nfe.go.th/main/book/ 22. https://www.komchadluek.net/news/crime/549973
11