แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล 2/2565
ID PLAN
(INDIVIDUAL DEVELOPMENT PLAN)
นางสาวดาลิน ติวไธสง
ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย
โ ร ง เ รี ย น ห น อ ง กี่ พิ ท ย า ค ม
สำ นั ก ง า น เ ข ต พื้ น ที่ ก า ร ศึ ก ษ า มั ธ ย ม ศึ ก ษ า บุ รี รั ม ย์
สำ นั ก ง า น ก า ร ศึ ก ษ า ขั้ น พื้ น ฐ า น ก ร ะ ท ร ว ง ศึ ก ษ า ธิ ก า ร
แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล
(Individual Development Plan: ID PLAN)
นางสาวดาลนิ ตวิ ไธสง
ครผู ู้ช่วย โรงเรยี นหนองกี่พิทยาคม
โรงเรียนหนองก่พี ิทยาคม อาเภอหนองกี่ จงั หวดั บรุ ีรมั ย์
สานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษาบุรรี มั ย์
สานกั งานการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
คานา
กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งเน้นให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาพัฒนาตนเองโดยยึดหลักการ
ประเมินสมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทาให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรจู้ ุดเด่นจุดด้อยของ
ความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจาเป็น
ของของหนว่ ยงาน และของตนเองอยา่ งแท้จรงิ
ทั้งนี้ ครูจะต้องมีการวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนที่มีคุณภาพ (Individual
Development Planning : IDP) เพื่อเป็นการพัฒนาที่สนองตอบความตอ้ งการแต่ละบุคคล สนองความ
สนใจในรูปแบบวิธีการพัฒนา ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพต่อไป และ
เป็นการพัฒนาที่ต่อเนื่องจนทาให้การปฏบิ ัติหน้าที่มีความสมบรู ณ์ มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลใน
การปฏิบตั งิ าน อนั นาไปสูก่ ารพฒั นาตนเองให้เป็นครูมืออาชีพที่มีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง
สามารถตรวจสอบได้ และพัฒนาสู่ความเป็นวิชาชพี ต่อไป
ดาลิน ติวไธสง
ผจู้ ดั ทา
สารบัญ หนา้
เรื่อง ๑
๓
บทนา ๕
Individual Development Plan (ID Plan) คืออะไร ๒๒
สว่ นที่ ๑ ข้อมูลสว่ นตัว
ส่วนที่ ๒ รายละเอยี ดการพัฒนาตนเอง
ส่วนที่ ๓ ตารางสรปุ แผนพฒั นาตนเอง
บทนำ
Individual Development Plan (ID Plan) คืออะไร
สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ได้ให้ความหมายของ Individual
Development Plan (ID Plan) หมายถึง การพัฒนาบุคลากรโดยยึดหลักการประเมินสมรรถนะ
(Competency Based Approach) จะทาให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของความสามารถใน
การปฏบิ ตั ิงานของตน และสามารถพฒั นาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นของหน่วยงาน และ
ของตนเองอย่างแท้จริง อีกทั้งจะทาให้การพัฒนาครูดาเนินไปอย่างประหยัด และสอดคล้องกับนโยบาย
ของรฐั บาล
การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา มุ่งเน้นให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานตาแหน่งและ
มาตรฐานวิชาชีพทั้งสมรรถนะหลัก (Core Competency) สมรรถนะการปฏิบัติงานในหน้าที่หรือ
สมรรถนะประจ าสายงาน (Functional Competency) และสมรรถนะเฉพาะตามกลุ่มสาระ
(Specificational Competency) ตามท่ีก.ค. ศ. ก าห นด โดยยึดหลักการประเมินสมร ร ถน ะ
(Competency Based Approach) เพราะจะท าให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของ
ความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจาเป็น
ของตนเอง และหน่วยงาน
ระบบการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน ได้มุ่งเน้นให้
ครูและบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาตนเองตามแนวทางดังกล่าว โดยเริ่มต้นจากการประเมินสมรรถนะ
การจัดทาแผนพัฒนาตนเอง และดาเนินการพัฒนาตามแผนพัฒนาตนเอง จนมีสมรรถนะตามความ
ต้องการของหน่วยงาน เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถดาเนินการพัฒนาตนเอง ตามระบบ
การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างถูกต้องตามกระบวนการ สามารถพัฒนาสมรรถนะของ
ตนเองเพ่มิ ข้ึน และสง่ ผลตอ่ ผเู้ รยี นท่ีรบั ผิดชอบ (สถาบนั พฒั นาครู คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา.
๒๕๕๑)
ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของงานขึ้นอยู่กับคุณภาพของคนหรือบุคคลในการปฏิบัติงาน ถ้า
บุคคลใดเป็นบุคคลที่มีคุณภาพหรือทางการ (วิชาการ) จะเรียกว่า มีสมรรถนะ (Competency)
(ความสามารถของบุคคลในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ ทักษะและคุณลักษณะ
คณุ ธรรมทีจ่ าเป็นต่อการปฏิบัติงานให้บรรลุได้อย่างมีประสิทธภิ าพ) ทสี่ ูง ย่อมสง่ ผลตอ่ คุณภาพของงานใน
หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ปัจจุบันในวงราชการก็ได้นาสมรรถนะเป็นตัวชี้วัดความสามารถของบุคคล ซึ่ง
สมรรถนะโดยท่ัวไปจะแบง่ เปน็ ๒ สมรรถนะ คอื
สมรรถนะหลัก (Core Competency) หมายถึง สมรรถนะที่ทุกคนต้องมีหรือปฏิบัติได้ เป็น
คุณลักษณะร่วมกันของบุคคลทุกตาแหน่ง ตัวอย่าง สมรรถนะหลักของครูและบุคลากรทางการศึกษา
ประกอบด้วย การมุ่งผลสมั ฤทธิ์ การบริการทดี่ ี การพฒั นาตนเอง การทางานเปน็ ทีม และสมรรถนะประจา
สายงาน (Functional Competency) เป็นสมรรถนะที่กาหนดเฉพาะสาหรบั แต่ละตาแหน่ง เพื่อให้บุคคล
ที่ดารงตาแหน่งนั้น แสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมกับหน้าที่และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่าง
สมรรถนะประจาสายงานของครู ประกอบดว้ ย การจดั การเรยี นรู้ การพัฒนาผู้เรยี น การบรหิ ารจัดการชั้น
เรยี น การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์และการวิจัย การสรา้ งความร่วมมือกับชุมชน ตวั อยา่ ง สมรรถนะหลักของ
บคุ ลากรทางการศึกษา ประกอบด้วย การวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวจิ ัย การสอื่ สารและการจงู ใจ การ
พัฒนาศักยภาพบคุ คล การมีวสิ ยั ทัศน์
สาหรับการพัฒนาบุคคลในอดีตที่ผา่ นมา เปน็ การพัฒนาแบบเหมารวมหรือยกเข่ง หมายความว่า
เมื่อเรื่องใดที่หน่วยงานต้องการพัฒนา ก็จะพัฒนาแบบปูพรมคือพัฒนาทุกคนไม่รู้ว่ามีความรู้หรือไม่มี
ต้องการหรือไม่ต้องการ เป็นปัญหาหรือไม่เป็นปัญหา แต่จะพัฒนาหมด สิ่งที่เป็นปัญหาของการพัฒนา
รูปแบบนี้ก็คือความไม่คุ้มค่า คือผู้เข้าร่วมพัฒนาจะสนใจเฉพาะบุคคลที่ต้องการ อยากรู้ อยากทราบ
เท่านั้น สาหรับกลุ่มคนที่เหลือเป็นกลุ่มบุคคลที่ไม่ต้องการ ก็จะไม่ให้ความสาคัญ ไม่สนใจ ทาให้เป็น
อปุ สรรคในการพฒั นา
ทางแก้ที่คิดว่าน่าจะเป็นไปได้คือ การพัฒนาบุคคลตามแผนพัฒนาตนเองรายบคุ คล (Individual
Development Plan : ID Plan) โดยจะต้องผ่านกระบวนการประเมินสมรรถนะที่ประกอบด้วย การ
ประเมินตนเองร่วมกับเพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาร่วมประเมิน นาผลสรุปผลว่าสมรรถนะใดท่ี
จาเป็นตอ้ งพฒั นาและสมรรถนะใดทีไ่ ม่จาเป็นตอ้ งพัฒนา ต่อจากน้นั นามาจดั อนั ดับสมรรถนะที่จาเป็นต้อง
พฒั นา พรอ้ มใหเ้ หตุผลประกอบว่าการพฒั นาสมรรถนะดังกล่าวจะส่งผลต่ออะไร ต่อใคร เช่น จะส่งผลต่อ
คุณภาพของนักเรียน หน่วยงาน ชุมชน วงการวิชาชพี หรือตนเอง เป็นต้น หลักการจัดอันดบั ความสาคญั
สมรรถนะที่จาเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาของครู คือ ส่งผลต่อคุณภาพของนักเรียนเป็นหลัก สาหรับต่อ
ตนเองควรเป็นอนั ดับสุดทา้ ย
จากนั้นนาไปสู่การเขียนแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล โดยให้นาเสนอรูปแบบวิธีการพัฒนาในแต่
ละสมรรถนะหลาย ๆ รปู แบบ เพ่ือเปน็ ทางเลือกในการพัฒนา พร้อมกบั กาหนดช่วงระยะเวลาท่ีจะพัฒนา
(เริ่มต้นและสิ้นสุด) และหน่วยงานหรือองค์กรที่จะขอรับการสนับสนุนในการพัฒนา ซึ่งจะเห็นว่าการ
พัฒนาโดยใช้ ID Plan จะเป็นการพัฒนาที่สนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนองความสนใจใน
รูปแบบวิธีการพัฒนา ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพต่อไป และจะเป็นการ
พัฒนาที่ต่อเนื่องจนทาให้การปฏิบัติหน้าที่มีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลและเป็น
ข้าราชการทดี่ ตี ่อไป (ยนื ยง ราชวงษ์. ๒๕๕๑)
แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๒
แผนพัฒนำตนเองรำยบคุ คล
( Individual Development Plan : ID Plan )
ของ นำงสำวดำลนิ ติวไธสง โรงเรยี นหนองก่ีพทิ ยำคม
ภำคเรียนท่ี ๒ ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕
สว่ นท่ี ๑ ขอ้ มูลส่วนบคุ คล
ช่ือ – สกลุ นางสาวดาลิน ตวิ ไธสง
เกิดวันท่ี ๔ เดอื น ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ปัจจุบันอายุ ๒๕ ปี
ทอ่ี ยู่ตามทะเบยี นบ้าน ๑๗๒ หมู่ ๑ ตาบลก่กู าสิงห์ อาเภอเกษตรวสิ ยั จงั หวัดรอ้ ยเอด็
เบอร์โทรท่ีติดต่อได้ ๐๖๒-๑๑๕๖๕๔๙ E – mail [email protected]
วนั เดือนปีทีบ่ รรจุรบั ราชการ ๑๕ มนี าคม ๒๕๖๕ อายรุ าชการ - ปี ๘ เดอื น
ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย วทิ ยฐานะ - ระดบั เงินเดอื น ระดับ ค.ศ. -
ข้นั ๑๕,๘๐๐ บาท ตาแหนง่ เลขที่ ๑๒๙๑๖๙
สงั กัดกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
คุณวฒุ ทิ ำงกำรศึกษำ
วุฒปิ รญิ ญาตรี ครุศาสตรบณั ฑติ วิชาเอก ภาษาไทย
จากสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
ตาแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย วทิ ยฐานะ - ตาแหนง่ เลขที่ ๑๒๙๑๖๙
สถานศึกษา/หนว่ ยงาน โรงเรยี นหนองกี่พิทยาคม
อาเภอ/เขต หนองก่ี สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา มธั ยมศึกษาบรุ รี ัมย์
สว่ นราชการ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวง ศึกษาธิการ
๑. ภำรกจิ /บทบำทหน้ำท่ีในปกี ำรศึกษำปจั จุบัน (ภำคเรียนที่ ๒/๒๕๖๕)
กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย รายวชิ าท่ีสอน มดี งั น้ี
ภำคเรียนที่ รหสั วชิ ำ ช่อื วิชำ จำนวนช่วั โมง/ ชน้ั
สัปดำห์
๒ ท ๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕
ท ๓๐๒๐๔ หลักภาษาไทย ๓*๔ = ๑๒ ม.๓ หอ้ ง ๒, ๖, ๙, ๑๒
กิจกรรมชุมนมุ ภาษาไทยไลก์สาระ
กิจกรรมแนะแนวโฮมรูม ๒*๒ = ๔ ม.๖ ห้อง ๕, ๙
กจิ กรรมลกู เสือ-เนตรนารี
๑ ม.ตน้ จานวน ๒๕ คน
๑ ม.๕ ห้อง ๙
๑ ม.๓
แผนพฒั นาตนเองรายบุคคล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๓
ภำคเรียนท่ี รหสั วิชำ ช่ือวิชำ จำนวนช่ัวโมง/ ชนั้
สปั ดำห์
กจิ กรรมหนา้ เสาธง
กิจกรรมสวดมนต์ ๕ ม.๕ หอ้ ง ๙
รวม
๑ ม.๕ หอ้ ง ๙
๒๕
๒. งำนท่ไี ด้รบั มอบหมำยเปน็ งำนพิเศษ
๒.๑ ครทู ี่ปรึกษานักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕/๙
๒.๒ ปฏิบตั ิหนา้ ที่ครเู วรวันจันทร์
๒.๓ ปฏิบตั หิ น้าท่ีเวรรกั ษาการณ์วนั หยุดราชการและวันนักขตั ฤกษ์
๒.๔ ปฏิบตั หิ นา้ ทง่ี านหอ้ งสมุด ฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ
๒.๕ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีงานแผนงาน ฝา่ ยบริหารงบประมาณ
๒.๖ งานและหน้าที่ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๔
สว่ นท่ี ๒ รายละเอียดการพัฒนาตนเอง
ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะพัฒนา อนั ดับ วิธกี าร / รปู แบบการพฒั นา ระยะเวลาในการ เปา้ หมาย ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ บั
สมรรถนะหลัก ความสาคัญ พัฒนา
๑ การมุ่งผลสัมฤทธ์ิ เร่ิมต้น ส้ินสุด
๑.๑ ความสามารถในการวาง
แผนการปฏิบตั ิงาน ๖ ๑. วเิ คราะหภ์ ารกจิ เพ่อื วาง ตลอด ตลอด - นักเรยี นมผี ลการ - ครูมแี นวทางและเป้าหมาย
๑.๒ ความมงุ่ มั่นในการปฏิบตั ิ แผนการแก้ไขปัญหาอย่าง ภาคเรยี น ภาคเรยี น เรยี นในรายวิชาท่ีสอน ในการจดั การเรยี นรู้ /การ
หนา้ ที่ให้มคี ุณภาพ
เปน็ ระบบ เฉล่ยี ต้ังแต่ ๒.๕ ขนึ้ ไป ปฏิบตั ิงานอยา่ งชดั เจน
๒. กาหนดเปา้ หมายในการ - นกั เรียนมผี ลการ - ผู้เรยี นใหค้ วามสนใจ ตง้ั ใจ
จัดการเรยี นรแู้ ละการ เรยี น ๐, ร, มส. และ มีความกระตือรอื รน้ และมี
ปฏบิ ัติงานไวอ้ ยา่ งชัดเจน มผ. ในรายวิชาทสี่ อน ความสขุ ในการเรยี น
๓. กาหนดข้นั ตอนในการ ไมเ่ กนิ ร้อยละ ๒ - ผเู้ รยี นเกดิ พฤติกรรมการ
จดั การเรยี นรู้และการ - ผลการปฏบิ ตั ิงาน เรยี นรู้ตามที่คาดหวัง
ปฏิบัตงิ าน พเิ ศษอ่นื ๆ อยู่ใน - ผู้เรยี นมผี ลสัมฤทธิ์ทางการ
๑. มีความมงุ่ ม่ัน ตงั้ ใจ ในการ ระดบั ดี เรยี นทีด่ ีขึน้ มที ักษะในการ
จดั การเรยี นรูแ้ ละการ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตาม
ปฏบิ ตั ิงาน ศักยภาพของแต่ละบุคคล
๒. แสวงหาความรูใ้ หม่ ๆ และ
มคี วามคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์
ในการพฒั นาการจดั การ
แผนพัฒนาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๕
ท่ี สมรรถนะท่ีจะพัฒนา อันดบั วิธกี าร / รูปแบบการพัฒนา ระยะเวลาในการ เป้าหมาย ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รับ
ความสาคญั พัฒนา
เริ่มตน้ สิ้นสดุ
เรียนรแู้ ละการปฏิบัตงิ าน
๑.๓ ความสามารถในการ ๑. ประเมนิ ผลการจัดการ
ตดิ ตามประเมนิ ผลการ เรยี นรแู้ ละการปฏิบัติงาน
ปฏิบตั งิ าน ของตนเอง
๑.๔ ความสามารถในการ ๑. นาผลการประเมนิ มา
พัฒนาการปฏิบัตงิ านใหม้ ี ปรบั ปรุง/พฒั นาการทางาน
คุณภาพ ให้ดีย่ิงขึน้
๒. พฒั นาการจดั การเรยี นรู้
และการปฏบิ ตั งิ านอนื่ ๆ
เพือ่ ตอบสนองความ
ต้องการของผู้เรียน
ผู้ปกครอง และชมุ ชน
๒ การพฒั นาตนเอง ๕ ๑. ศึกษาคน้ ควา้ หาองคค์ วามรู้ ตลอด ตลอด เข้ารบั การอบรม ตนเองเป็นผ้มู ีคณุ ภาพ ได้รับ
๒.๑ การศกึ ษาคน้ ควา้ หาองค์ ม่งุ มน่ั และแสวงหาโอกาส ภาคเรยี น ภาคเรยี น สัมมนา หรือศึกษาหา การพัฒนาไปในทิศทางทีด่ ี
ความร้ใู หม่ ๆ ทางวิชาการ พฒั นาตนเอง ดว้ ยวิธีการท่ี ความรดู้ ้วยตนเอง ข้นึ สง่ ผลและเกิดประโยชน์
และวชิ าชีพ หลากหลาย เชน่ การเขา้ อยา่ งน้อยภาคเรยี นละ ต่อผ้เู รยี น โรงเรยี น
รว่ มประชมุ /สมั มนา การ ๑๕ ชม.
แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๖
ที่ สมรรถนะทจี่ ะพัฒนา อันดับ วิธีการ / รูปแบบการพฒั นา ระยะเวลาในการ เปา้ หมาย ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั
ความสาคญั พฒั นา
เรมิ่ ตน้ ส้นิ สดุ
ศึกษาดูงาน การคน้ ควา้
ดว้ ยตนเอง เปน็ ต้น
๒.๒ การสรา้ งองค์ความรูแ้ ละ ๑. รวบรวม สังเคราะหข์ ้อมลู
นวตั กรรมในการพฒั นา ความรู้ จดั เปน็ หมวดหมู่
องค์กรและวชิ าชีพ และปรบั ปรงุ ให้ทนั สมยั
๒. สร้างองค์ความรแู้ ละ
นวตั กรรม เพื่อพัฒนาการ
จดั การเรยี นรู้ องคก์ ร และ
วิชาชพี
๒.๓ การแลกเปล่ยี นความ ๑. แลกเปลย่ี นเรียนร้กู ับผอู้ ่ืน
คดิ เห็นและสรา้ งเครือขา่ ย เพ่ือพฒั นาตนเอง และ
เพือ่ พฒั นาองค์กรและ พฒั นางาน
วชิ าชีพ
๓ การบรกิ ารทด่ี ี ๘ ๑. ใหบ้ รกิ ารนักเรยี น ครู และ ตลอด ตลอด นกั เรยี น ครู และ เกิดผลดีตอ่ นักเรียน
๓.๑ ความตง้ั ใจ เตม็ ใจ และ ผปู้ กครองในด้านต่าง ๆ ภาคเรยี น ภาคเรยี น ผู้ปกครองมีความพึง ผปู้ กครอง และเพ่อื นร่วมงาน
เต็มที่ในการใหบ้ รกิ าร ด้วยอธั ยาศยั ไมตรีอนั ดี พอใจต่อการใหบ้ ริการ ในการใชบ้ ริการ
๑. ประเมนิ ผลการให้บริการ ในระดับดีข้นึ ไป
แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๗
ที่ สมรรถนะทจี่ ะพฒั นา อันดบั วธิ กี าร / รูปแบบการพฒั นา ระยะเวลาในการ เป้าหมาย ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ
ความสาคัญ พฒั นา
เร่มิ ตน้ สิ้นสุด
๓.๒ การปรับปรุงระบบบริการ ๑. ประเมนิ ผลการให้บรกิ าร
ให้มปี ระสทิ ธิภาพ ของตนเอง
๒. ปรบั ปรงุ และแก้ไขปญั หา
ระบบบรกิ าร และการ
ให้บรกิ าร ทางการศึกษาอน่ื
อย่เู สมอ
๔ การทางานเป็นทมี ๗ ๑. จัดกลั ยาณมิตรนเิ ทศกับครู ตลอด ตลอด สามารถร่วมงานกับครู เกิดความสามัคคีในหมูค่ ณะ
๔.๑ การใหค้ วามรว่ มมอื เครือข่ายอย่างสมา่ เสมอ ภาคเรยี น ภาคเรียน และบุคลลากรทาง สง่ ผลให้การดาเนนิ งานด้าน
ชว่ ยเหลอื สนับสนนุ เพ่ือน ๒. สรา้ งสัมพันธภาพท่ีดีในการ การศกึ ษาทัง้ ในและ ต่าง ๆ บรรลผุ ลสาเรจ็
ร่วมงาน ทางานร่วมกับผู้อน่ื นอกสถานศกึ ษาไดท้ กุ ตลอดจนการมีความสุขใน
๓. ทางานร่วมกบั ผู้อืน่ ตาม คน อยา่ งเต็มทแ่ี ละ การปฏบิ ตั ิงาน
บทบาทหนา้ ท่ีทไี่ ดร้ บั เตม็ ความสามารถ
มอบหมาย
๔. ชว่ ยเหลือ สนับสนนุ เพอ่ื น
รว่ มงานเพื่อสู่เปา้ หมาย
ความสาเรจ็ ร่วมกนั
แผนพัฒนาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๘
ท่ี สมรรถนะท่จี ะพัฒนา อันดับ วธิ ีการ / รปู แบบการพัฒนา ระยะเวลาในการ เปา้ หมาย ประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะได้รบั
ความสาคญั พัฒนา
เร่ิมตน้ ส้ินสดุ
๔.๒ การเสรมิ แรงให้กาลงั ใจ ๑. ใหเ้ กียรติ ยกยอ่ ง ชมเชย
เพื่อนร่วมงาน ให้กาลงั ใจแก่เพื่อนร่วมงาน
ในโอกาสท่ีเหมาะสม
๔.๓ การปรับตัวเข้ากบั กลมุ่ คน ๑. ทางานรว่ มกบั บุคคล/กล่มุ
และสถานการณท์ ี่ บุคคลทงั้ ภายในและ
หลากหลาย ภายนอกสถานศกึ ษาได้
อย่างมีประสิทธิภาพ
๔.๔ การแสดงบทบาทผนู้ าหรือ ๑. เป็นผูน้ าหรอื ผตู้ ามที่ดีใน
ผูต้ าม การทางานร่วมกับผ้อู น่ื ตาม
โอกาส
๔.๕ การเข้าไปมสี ่วนร่วมกับ ๑. แลกเปลยี่ น/รับฟังความ
ผู้อืน่ ในการพฒั นาการจัด คดิ เห็นและประสบการณ์
การศกึ ษาให้บรรลุผล ภายในทมี งาน
สาเรจ็ ตามเป้าหมาย ๒. ร่วมสรา้ งวฒั นธรรมการ
ทางานเปน็ ทีมใหเ้ กิดข้ึนใน
สถานศึกษาและเกดิ เปน็
องค์กรแห่งการเรียนรู้
แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๙
ท่ี สมรรถนะที่จะพัฒนา อันดบั วธิ กี าร / รูปแบบการพัฒนา ระยะเวลาในการ เปา้ หมาย ประโยชนท์ ่คี าดวา่ จะไดร้ บั
ความสาคัญ พฒั นา
เร่มิ ตน้ ส้นิ สุด
๕ จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณ ๑๐ ๑. ปฏบิ ตั ติ นตามบทบาท ตลอด ตลอด - ปฏบิ ตั ิตน เปน็ - การดาเนินชวี ิตเปน็ ไปอย่าง
วชิ าชีพครู หน้าทแ่ี ละอทุ ิศตนเพื่อ ภาคเรยี น ภาคเรยี น แบบอยา่ งทดี่ ีในด้าน มีความสุข มน่ั คง และ
๕.๑ ความรกั และศรัทธาใน ประโยชนต์ อ่ วิชาชพี การดารงชวี ิตโดยยดึ ย่ังยืน
วชิ าชพี ๒. ปกป้องเกียรติและเปน็ หลกั ปรชั ญาของ - เป็นแบบอยา่ งที่ดใี ห้แก่
สมาชิกที่ดขี ององค์กร เศรษฐกจิ พอเพยี งตาม นกั เรียน ครู และชุมชน
วชิ าชีพ คาสอนของพ่อหลวง
๓. ยกยอ่ ง ชนื่ ชมบุคคลท่ี “สขุ ยิง่ ใหญ่ เร่ิมตน้ ที่
ประสบความสาเรจ็ ใน ความพอเพยี ง”
วิชาชพี - เขา้ รับการอบรมเพ่ือ
๕.๒ มวี นิ ัย และความรบั ผิดชอบ ๑. มวี ินยั มีความรับผดิ ชอบ พัฒนาดา้ นคุณธรรม
ในวิชาชีพ ซ่อื สตั ย์และตรงตอ่ เวลา จรยิ ธรรม หรือนง่ั
๒. ปฏบิ ัติตนตามกฎ ระเบียบ สมาธิท่วี ัดอยา่ งน้อย
ข้อบงั คับ และวัฒนธรรมท่ี ภาคเรยี นละ ๓ ครงั้
ดีขององคก์ ร
๕.๓ การดารงชีวติ อย่าง ๑. ดาเนนิ ชีวิตตามหลัก
เหมาะสม ปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพยี ง
แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๑๐
ท่ี สมรรถนะทีจ่ ะพัฒนา อันดบั วธิ ีการ / รปู แบบการพัฒนา ระยะเวลาในการ เปา้ หมาย ประโยชน์ที่คาดว่าจะไดร้ บั
ความสาคญั พฒั นา
เรม่ิ ตน้ สิ้นสุด
๒. ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั คาสอน
ของศาสนาและยึดมนั่ ใน
คณุ ธรรมจริยธรรม
๕.๔ การประพฤติปฏิบตั ิตนเปน็ ๑. เปน็ แบบอย่างท่ีดีและ
แบบอยา่ งทดี่ ี สง่ เสริมผูอ้ ื่นให้ปฏบิ ตั ิตน
ตามหลกั จริยธรรม
จรรยาบรรณวิชาชพี ครู
และพฒั นาจนเปน็ ทย่ี อมรบั
สมรรถนะประจาสายงาน
๖ การจัดการเรียนรู้ ๑ ๑. พฒั นาหลกั สูตรกล่มุ สาระ พ.ย. ๖๕ มี.ค. ๖๖ - จัดทาหลกั สตู ร ตนเองมีความสามารถในการ
๖.๑ การสร้างและพฒั นา ใหส้ อดคล้องกับหลักสูตร รายวิชาทกุ รายวิชา จดั กิจกรรมการเรียนรู้ โดยมี
หลกั สตู ร แกนกลาง ทสี่ อน ความรู้เรื่องการเขียน
๖.๒ ความรู้ ความสามารถใน ๑. ออกแบบกิจกรรมการ ตลอด ตลอด - จดั ทาแผนการ แผนการจดั ประสบการณ์
การออกแบบการเรียนรู้ เรียนรอู้ ยา่ งหลากหลาย ภาคเรียน ภาคเรียน จดั การเรยี นรู้ทุก การวัดผลประเมินผล
เหมาะสม สอดคลอ้ งกับวยั หน่วยการเรียน ตลอดจนการผลติ สื่อ การใช้
ความต้องการ ของผู้เรียน - จดั ทาส่อื ตาม สอื่ ประเภท ICT สง่ ผลต่อ
และชมุ ชน โครงการการ การจดั กจิ กรรม
แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๑๑
ท่ี สมรรถนะท่จี ะพฒั นา อนั ดับ วธิ ีการ / รูปแบบการพฒั นา ระยะเวลาในการ เป้าหมาย ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะได้รับ
ความสาคญั พัฒนา
เรม่ิ ตน้ ส้นิ สดุ
๒. จดั ทาแผนการจัดการ จดั การเรียนรู้เพ่ือ ให้กับผ้เู รียนอยา่ งสูงสุด
เรียนรอู้ ยา่ งเป็นระบบ โดย พัฒนาผู้เรียนใน
บูรณาการอยา่ งสอดคล้อง ศตวรรษที่ ๒๑
เชอื่ มโยงกนั จานวน ๒ หน่วย
๖.๓ การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ๑. นาแผนการจัดการเรียนรู้ไป - จดั สอนซอ่ มเสริม ไม่
ทเ่ี น้นผู้เรียนเปน็ สาคญั ใช้ โดยจัดกระบวนการ น้อยกว่า ๑๕ ครงั้ /
เรียนรทู้ ่เี น้นผูเ้ รียนเป็น ภาคเรยี น
สาคัญ - จดั โครงการ/
๒. ใช้รูปแบบ/เทคนคิ วิธกี าร กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะ
สอนอย่างหลากหลาย ไมน่ ้อยกวา่ ๑
๓. วเิ คราะห์ผู้เรียน พรอ้ มท้ัง กิจกรรม/ภาคเรียน
ใชห้ ลกั จติ วิทยาในการ
จดั การเรียนรู้ ให้ผูเ้ รยี น
เรยี นรู้อยา่ งมีความสุข และ
พัฒนาอย่างเตม็ ศกั ยภาพ
๔. จัดกิจกรรมการเรยี นรูท้ ี่
ปลกู ฝัง/สง่ เสรมิ
แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๑๒
ที่ สมรรถนะท่ีจะพฒั นา อันดับ วิธกี าร / รปู แบบการพฒั นา ระยะเวลาในการ เปา้ หมาย ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะได้รบั
ความสาคญั พฒั นา
เริม่ ตน้ สนิ้ สดุ
๖.๔ การใช้และพฒั นา คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
นวตั กรรม เทคโนโลยี เชน่ การมวี นิ ยั การออม
สารสนเทศ เพ่ือการจดั การ เปน็ ตน้
เรียนรู้ ๑. ใช้สอ่ื นวตั กรรมและ
เทคโนโลยี อยา่ ง
๖.๕ การวดั และประเมนิ ผลการ หลากหลาย เหมาะสมกบั
เรยี นรู้ เนือ้ หาและกจิ กรรมการ
เรยี นรู้ เช่น ชดุ การเรยี น
Power point เป็นต้น
๑. ออกแบบวธิ กี ารวัดและ
ประเมินผลอยา่ ง
หลากหลาย เหมาะสมกบั
เนอื้ หา กิจกรรมการเรียนรู้
และผูเ้ รียน
๒. สร้างและนาเครอ่ื งมือวดั
และประเมินผลไปใชอ้ ย่าง
ถูกต้องเหมาะสม
แผนพฒั นาตนเองรายบุคคล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๑๓
ที่ สมรรถนะท่ีจะพัฒนา อันดบั วธิ ีการ / รปู แบบการพฒั นา ระยะเวลาในการ เป้าหมาย ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะไดร้ ับ
ความสาคญั พฒั นา
๗ การพฒั นาผเู้ รียน ๓. วัดและประเมนิ ผลผูเ้ รียน - เยย่ี มบ้านนักเรียน ผู้เรยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม
๗.๑ การปลกู ฝงั คณุ ธรรม ๒ ตามสภาพจรงิ เร่มิ ตน้ สิ้นสุด ในทีป่ รกึ ษาใหค้ รบ และคุณลักษณะท่ีพงึ
จริยธรรมแก่ผเู้ รียน ร้อยละ ๑๐๐ ประสงค์ มที ักษะชีวิต เป็นที่
๔. นาผลการประเมนิ การ ตลอด ตลอด - จัดทาขอ้ มลู ระบบ ยอมรบั ของสังคม
เรียนรูม้ าใชใ้ นการ ภาคเรยี น ภาคเรยี น ดแู ลช่วยเหลอื
พัฒนาการจัดการเรยี นรู้ นกั เรียนให้สมบรู ณ์
๕. พฒั นาและส่งเสริมนักเรียน
โดยการสอนซ่อมเสรมิ และ
จัดกิจกรรมสง่ เสริมอื่น ๆ
เช่น แข่งทกั ษะวชิ าการ
เปน็ ต้น
๑. สอดแทรกคุณธรรม
จรยิ ธรรมแก่ผูเ้ รยี นในการ
จดั การเรียนรใู้ นชนั้ เรียน
เช่น ความรับผิดชอบความ
มีวนิ ยั ความสามัคคี เปน็
ตน้
๒. จัดโครงการ/กิจกรรม
แผนพัฒนาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๑๔
ที่ สมรรถนะทจี่ ะพัฒนา อนั ดับ วิธกี าร / รปู แบบการพัฒนา ระยะเวลาในการ เป้าหมาย ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ บั
ความสาคญั พฒั นา
เร่ิมต้น สน้ิ สดุ
ส่งเสรมิ คุณธรรม จริยธรรม
โดยให้ผเู้ รียน มีส่วนร่วมใน
การวางแผน เช่น การสอน
ซอ่ มเสรมิ ใหเ้ พ่ือน เป็นตน้
๗.๒ การพฒั นาทกั ษะชีวิต ๑. จดั กิจกรรมเพ่ือพัฒนา
สขุ ภาพกาย และ ผเู้ รยี นดา้ นการดแู ลตนเอง
สุขภาพจิตผู้เรียน มที ักษะในการเรยี นรู้ การ
ทางาน และการอยู่รว่ มกัน
ในสังคมอย่างมีความสุข
๗.๓ การปลูกฝังความเปน็ ๑. สอดแทรกความเปน็
ประชาธิปไตย ความภมู ใิ จ ประชาธปิ ไตย ความภูมใิ จ
ในความเป็นไทยให้กับ ในความเปน็ ไทยให้แก่
ผู้เรยี น ผู้เรียน
๗.๔ การจดั ระบบดูแลชว่ ยเหลอื ๑. ใหผ้ ู้เรียน ครผู ูส้ อน และ
นกั เรยี น ผู้ปกครองมสี ว่ นร่วมในดูแล
ช่วยเหลอื นกั เรยี น
๒. นาข้อมูลนกั เรียนไปใช้
แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๑๕
ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา อันดับ วิธีการ / รปู แบบการพัฒนา ระยะเวลาในการ เป้าหมาย ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะไดร้ ับ
ความสาคญั พฒั นา
เริ่มต้น ส้ินสุด
ช่วยเหลอื /พัฒนาผเู้ รยี นท้งั
ด้านการเรยี นรู้และปรับ
พฤติกรรมเป็นรายบุคคล
๘ การบรหิ ารจัดการช้นั เรียน ๓ ๑. จัดบรรยากาศภายในและ ตลอด ตลอด - จดั ป้ายนิเทศเพ่ือให้ ห้องเรียนมีบรรยากาศที่เอื้อ
๘.๑ จดั บรรยากาศทสี่ ง่ เสรมิ ภายนอกชน้ั เรียนใหเ้ อื้อต่อ ภาคเรียน ภาคเรียน ความรดู้ ้าน ต่อการเรียนรู้ ผู้เรียนมี
การเรียนรู้ มคี วามสขุ และ การเรียนรู้ ภาษาไทยอย่างน้อย ความสขุ ในการเรยี นรู้ ครมู ี
มีความปลอดภัยแก่ผเู้ รยี น ๒. จดั ปา้ ยนเิ ทศเพ่ือเป็นข้อมูล ภาคเรียนละ ๑ คร้ัง ข้อมูลต่าง ๆ อยา่ งเปน็
ขา่ วสารสาหรบั การเรียนรู้ ปจั จบุ นั ทีส่ ามารถเป็น
๓. ส่งเสรมิ การมปี ฏสิ ัมพันธท์ ่ี แบบอย่างได้
ดีระหว่างครูกบั ผู้เรียน และ
ผู้เรียนกบั ผ้เู รียน
๘.๒ จัดทาข้อมูลสารสนเทศและ ๑. จัดทาขอ้ มูลสารสนเทศของ
เอกสารประจาชั้นเรียน/ นักเรียนเป็นรายบุคคลและ
ประจาวชิ า เอกสารประจาชน้ั อย่าง
ถกู ต้อง ครบถ้วน เปน็
ปจั จบุ ัน
๒. นาขอ้ มลู สารสนเทศไปใช้
แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๑๖
ท่ี สมรรถนะทจี่ ะพฒั นา อันดับ วธิ กี าร / รูปแบบการพฒั นา ระยะเวลาในการ เป้าหมาย ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะไดร้ บั
ความสาคัญ พัฒนา
เริ่มตน้ ส้นิ สดุ
ในการพัฒนาผู้เรยี น
๘.๓ กากบั ดูแลช้ันเรยี นรายชั้น/ ๑. ให้ผเู้ รียนมสี ่วนร่วมในการ
รายวชิ า กาหนดกฎ กติกา ข้อตกลง
ในชัน้ เรียน
๒. แก้ปญั หา/พฒั นานักเรยี น
ด้านระเบยี บวนิ ัย โดยการ
สร้างวนิ ยั เชิงบวกในชั้น
เรยี น
๓. ประเมนิ การกากบั ดแู ลชนั้
เรยี น และนาผลการ
ประเมนิ ไปใช้ในการ
ปรับปรุงและพัฒนา
๙ การวิเคราะห์ สังเคราะห์ ๔ ๑. สารวจปัญหาเกย่ี วกบั ตลอด ตลอด - จัดทาวิจยั ในชน้ั ครูมคี วามรู้ความสามารถใน
และการวจิ ัยในชั้นเรยี น นกั เรยี นทีเ่ กดิ ขึ้นในชัน้ เรยี น ภาคเรยี น ภาคเรียน เรยี นพรอ้ มรายงาน การจดั ทาวจิ ัยในชัน้ เรียน
๙.๑ ความสามารถในการ เพอื่ วางแผนการวิจัยในชน้ั ผลการวิจัยไม่น้อย และผู้เรียนได้รบั การ
วเิ คราะห์ เรียน กว่า ๑ เรอ่ื ง/ปี แก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ
การศกึ ษา
แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๑๗
ท่ี สมรรถนะที่จะพัฒนา อนั ดับ วธิ ีการ / รูปแบบการพฒั นา ระยะเวลาในการ เปา้ หมาย ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ
ความสาคญั พฒั นา
๙.๒ ความสามารถในการ
สงั เคราะห์ เริม่ ต้น สิ้นสดุ
๙.๓ ความสามารถในการวิจัย ๒. วิเคราะหส์ าเหตุของปัญหา
เพ่ือพัฒนาผู้เรยี น เกี่ยวกับนกั เรยี นที่เกดิ ข้ึน
ในชนั้ เรียน เพอื่ กาหนด
ทางเลือกในการแกป้ ญั หา
๑. รวบรวม จาแนก และจดั
กลุ่มของสภาพปญั หาของ
ผเู้ รยี น แนวคิดทฤษฎีและ
วิธกี ารแก้ไขปัญหา เพ่ือ
สะดวกต่อการนาไปใช้
๑. จดั ทาแผนการวจิ ัย และ
ดาเนนิ กระบวนการวจิ ยั
อยา่ งเป็นระบบตามแผน
ดาเนนิ การวิจัยที่กาหนดไว้
๒. ตรวจสอบความถกู ต้องและ
ความน่าเชื่อถือของ
ผลการวจิ ยั อยา่ งเปน็ ระบบ
๓. มกี ารนาผลการวิจยั ไป
แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๑๘
ที่ สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา อันดับ วธิ ีการ / รูปแบบการพฒั นา ระยะเวลาในการ เป้าหมาย ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะได้รบั
ความสาคญั พฒั นา
เร่มิ ตน้ ส้นิ สดุ
ประยุกต์ใช้ในกรณีศึกษา
อนื่ ๆ ท่มี บี รบิ ทของปญั หา
ทีค่ ล้ายคลึงกนั
๑๐ ภาวะผู้นาครู ๙ ๑. พจิ ารณาทบทวน ประเมนิ ตลอด ตลอด - รว่ มงานกบั ครูและบุ - มีวฒุ ภิ าวะความเป็นผู้ใหญ่
๑๐.๑ วุฒภิ าวะความเป็นผู้ใหญ่ ตนเองเกย่ี วกบั พฤตกิ รรมท่ี ภาคเรียน ภาคเรยี น คลกรทางการศึกษา - มคี วามพร้อมที่จะรบั การ
ที่เหมาะสมกบั ความเปน็ ครู แสดงออกต่อผเู้ รียนและ ได้อย่างเตม็ เปลย่ี นแปลง
ผู้อ่นื ความสามารถทกุ คน
๒. ใหค้ วามสาคญั ในความ - พัฒนาตนเอง
คิดเห็นของผู้อ่ืน และให้ ทางดา้ นอารมณ์และ
เกียรตแิ กผ่ ู้อ่นื สังคมให้ดีขึ้นอยู่
๑๐.๒ การสนทนาอยา่ ง ๑. มีปฏสิ ัมพันธ์ มบี ทบาท เสมอ
สร้างสรรค์ และมีส่วนร่วมในการ
สนทนาอย่างสรา้ งสรรค์กับ
ผู้อน่ื โดยมงุ่ เนน้ ไปทก่ี าร
เรยี นรู้ของผู้เรียน และการ
พัฒนาวิชาชพี
๒. มที กั ษะการฟงั การพดู
แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๑๙
ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะพัฒนา อันดับ วิธกี าร / รปู แบบการพัฒนา ระยะเวลาในการ เปา้ หมาย ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ บั
ความสาคัญ พัฒนา
เรมิ่ ตน้ สน้ิ สุด
และการตั้งคาถาม ยืดหยนุ่
ยอมรับทัศนะทห่ี ลากหลาย
ของผู้อืน่ เพ่ือเป็นแนวทาง
ใหม่ ๆ ในการปฏบิ ัติงาน
๑๐.๓ การเป็นบคุ คลแหง่ การ ๑. ริเร่มิ การปฏิบัติท่ีนาไปสู่
เปล่ียนแปลง การเปลีย่ นแปลงและการ
พฒั นานวตั กรรม ICT
๒. ปฏิบตั ิงานรว่ มกับผอู้ ื่น
ภายใต้ระบบ/ขน้ั ตอนที่
เปลยี่ นแปลงไปจากเดมิ ได้
๑๐.๔ การปฏิบัตงิ านอย่าง ๑. พิจารณาไตรต่ รองความ
ไตรต่ รอง สอดคล้องระหว่างการ
เรียนรขู้ องนักเรียน และ
๑๐.๕ การมุ่งพัฒนาผลสัมฤทธิ์ การจดั การเรยี นรู้
ผ้เู รียน ๑. ปรับปรุงการปฏิบัตงิ านของ
ตนเอง เพื่อพฒั นา
ผลสัมฤทธ์ิของผ้เู รยี น
แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๒๐
ที่ สมรรถนะทีจ่ ะพัฒนา อนั ดับ วธิ ีการ / รูปแบบการพัฒนา ระยะเวลาในการ เปา้ หมาย ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ ับ
ความสาคญั พฒั นา
เร่ิมต้น ส้นิ สดุ
๑๑ การสร้างความร่วมมือกบั ๑๑ ๑. กาหนดแนวทางในการ ตลอด ตลอด ร่วมกิจกรรมวันสาคญั - ชมุ ชนใหค้ วามรว่ มมือใน
ชมุ ชน สรา้ งความสมั พันธ์ที่ดีและ ภาคเรยี น ภาคเรียน กับชมุ ชนหรืหน่วยงาน กจิ กรรมตา่ ง ๆ ท่ี
๑๑.๑ การสรา้ งความสัมพนั ธ์ ความรว่ มมอื กบั ชุมชน อืน่ ๆ อยา่ งน้อยภาค สถานศกึ ษาจดั ขน้ึ อยา่ ง
และความรว่ มมือกบั ชุมชน ๒. ใหค้ วามรว่ มมือในกิจกรรม เรยี นละ ๒ ครงั้ เตม็ ใจ
เพ่อื การจดั การเรยี นรู้ ของชุมชน เช่น กจิ กรรม - ชมุ ชนมคี วามพงึ พอใจใน
วนั สาคญั ต่าง ๆ เปน็ ตน้ กิจกรรมที่ผู้เรียน และ
๓. จดั กิจกรรมทีเ่ สรมิ สรา้ ง สถานศึกษาจัดขน้ึ
ความสัมพนั ธแ์ ละความ
รว่ มมอื กบั ผู้ปกครอง และ
ชมุ ชน เชน่ การเยยี่ มบา้ น
เป็นตน้
๑๑.๒ การสรา้ งเครือขา่ ยความ ๑. สรา้ งเครอื ข่ายความร่วมมือ
ร่วมมือเพ่ือการจัดการ ระหว่างครู ผู้ปกครอง
เรยี นรู้ ชุมชน และองค์กรอืน่ ๆ ท้งั
ภาครฐั และเอกชน เพอ่ื
สนับสนุนสง่ เสรมิ การ
จดั การเรยี นรู้
แผนพัฒนาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๒๑
ตารางสรปุ แผนพัฒนาตนเอง
(สรปุ วิธีการ/รปู แบบการพัฒนา ท่ีมีความจาเปน็ มากท่ีสุด ในสมรรถนะที่ต้องการพัฒนา ๓ อนั ดบั แรก)
อนั ดบั ท่ี สมรรถนะท่จี ะพัฒนา วิธกี าร / รปู แบบการพัฒนา ระยะเวลาในการ
พัฒนา ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รบั
๑ การจดั การเรยี นรู้ ๑. อบรมการใช้สื่อ นวตั กรรมและ
เทคโนโลยี อย่างหลากหลาย เช่น เรม่ิ ต้น สน้ิ สดุ
๒ การพัฒนาผู้เรยี น จดั ทาส่อื ICT จัดทาสื่อตามโครงการ พ.ย. ๖๕ ม.ี ค. ๖๖ - ครมู ีความรู้ ความสามารถในการผลติ สอื่
การจดั การเรยี นรเู้ พือ่ พัฒนาผู้เรยี นใน
ศตวรรษที่ ๒๑ เปน็ ตน้ การใชส้ อื่ ประเภท ICT ส่งผลต่อการจัด
กิจกรรมการเรยี นรู้ท่เี กิดประโยชน์ต่อ
๒. วิเคราะหผ์ ้เู รยี นรายบคุ คลในรายวิชา ผ้เู รียน
ที่สอน - ครูรจู้ กั ผูเ้ รียนเปน็ รายบุคคลและมีหลัก
พ.ย. ๖๕ มี.ค. ๖๖ จติ วิทยาในการจัดการเรยี นรู้การส่งเสรมิ
๓. ใชห้ ลักจติ วทิ ยาในการจัดการเรียนรู้ และพัฒนานักเรียนได้อยา่ งเต็มตาม
ให้ผูเ้ รียนเรียนรอู้ ยา่ งมีความสุข และ ตลอด ตลอด ศักยภาพ
พัฒนาอยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ ภาคเรยี น ภาคเรียน
๑. วางแผนจดั ระบบดแู ลช่วยเหลือ ตลอด ตลอด - ครรู ู้จกั นักเรยี นในที่ปรึกษาเปน็ รายบคุ คล
ผูเ้ รียนใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ เชน่ เยี่ยม ภาคเรียน ภาคเรยี น พร้อมทง้ั มีข้อมูลในการช่วยเหลือส่งเสรมิ
บา้ นนกั เรียนในทีป่ รึกษาใหค้ รบร้อย
ละ ๑๐๐ และพฒั นานักเรยี นได้อยา่ งเต็มตาม
ศกั ยภาพ
แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๒๒
อันดับที่ สมรรถนะท่จี ะพัฒนา วิธีการ / รปู แบบการพฒั นา ระยะเวลาในการ ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะได้รบั
พฒั นา
๒. จัดทาข้อมลู ระบบดูแลชว่ ยเหลือ
เริม่ ต้น ส้ินสุด
พ.ย. ๖๕ ม.ี ค. ๖๖
นักเรียนใหเ้ สร็จสมบูรณ์
๓ การวเิ คราะห์ สังเคราะหแ์ ละการวิจัยใน ๑. วเิ คราะหส์ าเหตุของปัญหาเกี่ยวกบั ตลอด ตลอด - ครูมีความร้คู วามสามารถในการจดั ทา
ภาคเรยี น ภาคเรยี น วจิ ัยในชั้นเรียน
ช้ันเรียน นักเรยี นที่เกิดขน้ึ ในช้นั เรยี น เพอ่ื
- ผเู้ รยี นได้รับการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
กาหนดทางเลือกในการแก้ปัญหา
๒. รวบรวม จาแนก และจัดกลมุ่ ของ
สภาพปญั หาของผเู้ รียน แนวคิด
ทฤษฎแี ละวิธกี ารแก้ไขปญั หา เพือ่
สะดวกตอ่ การนาไปใช้
๓. จัดทาแผนการวจิ ัย และดาเนิน
กระบวนการวิจัย อยา่ งเป็นระบบ
ตามแผนดาเนินการวิจัยทก่ี าหนดไว้
พร้อมรายงานผล
....................................... ..................... ผจู้ ดั ทา
(นางสาวดาลนิ ตวิ ไธสง)
แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล ( Individual Development Plan : ID Plan ) ๒๓
ประจำภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2565