ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สังคม ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับชั้น ประกาศนียบัตร ปวช. ๑ วิชา ประวัติศาสตร์ชาติไทย เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี นางปาริฉัตร เวทสรากุล ๖๕๐๑๓๐๒๐๔๓ หลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพครูรุ่น ที่ ๙ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
คำนำ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สังคม ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับชั้น นักเรียนประกาศนียบัตร ปวช. ๑ วิชา ประวัติศาสตร์ชาติไทย เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี จัดทำขึ้นจากประสบการณ์และการศึกษาสภาพปัญหา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สังคม ศาสนา และวัฒนธรรม ซึ่งผู้เรียนขาด ทักษะในการคิดวิเคราะห์อย่างมีระบบแบบ แผนกระบวนการ ขั้นตอน มีเหตุและผล เพราะนอกจากเนื้อหาในรายวิชาค่อยข้างเยอะ ทำให้ผู้เรียนเบื่อ ไม่อยากจะเรียน ทำให้ขาดทักษะการคิดวิเคราะห์ แยกประเด็นต่างๆ ซึ่งชุดกิจกรรมการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมนี้ เป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นกิจกรรมที่ความหลากหลาย เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของ ผู้เรียน ทั้งทางด้านความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซึ่งก่อให้เกิด กระบวนการเรียนรู้ที่เกิดการ เปลี่ยนแปลงด้านทักษะและด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อให้นักเรียนเกิดความสนใจ มีความสุขและสนุกในการ เรียนรู้ ผู้จัดทำ หวังเป็นอย่ายิ่งว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดนี้ จะก่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนานักเรียนให้บรรลุ จุดประสงค์ ตัวชี้วัด และเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจศึกษา ที่จะนำไปใช้ใช้ในการจัดการเรียนการสอน ให้มีประสิทธิภาพ ต่อการเรียนการสอน นางปาริฉัตร เวทสรากุล
สารบัญ เรื่อง หน้า คำชี้แจงในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับครู 1 คำชี้แจงในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียน 2 มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด / สาระการเรียนรู้ /จุดประสงค์การเรียนรู้ 3 แบบทดสอบก่อนเรียน 4 สรุปความรู้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 18 กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 2 21 กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3 24 กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 4 27 กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 5 30 แบบทดสอบหลังเรียน 32
1. ครูควรเตรียมชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้พร้อมและครบถ้วน 2. แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ 3. ดำเนินการสอนตามกิจกรรมการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ 4. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน 5. แจกชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียนศึกษาพร้อมกันแนะนำวิธีใช้แบบฝึกทักษะเพื่อ นักเรียนจะได้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง 6. เมื่อทำเสร็จแล้วให้นักเรียนนำแบบฝึกทักษะส่งให้ครูตรวจและบันทึกคะแนน 7. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบย่อยเพื่อวัดความรู้ของนักเรียนหลังจากที่เรียนจบแล้ว 8. หากมีนักเรียนคนใดทำแบบทดสอบย่อยได้คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ควรจัด สอนซ่อมเสริมให้นักเรียนศึกษาแบบฝึกทักษะใหม่อีกครั้ง 9. นักเรียนต้องทำถูกต้องร้อยละ 80 ขึ้นไป ของจำนวนข้อทั้งหมดของแบบฝึกทักษะ แต่ละแบบฝึกทักษะ จึงถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน คำชี้แจงในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับครู
1. ศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน 3. ศึกษาเนื้อหาคำอธิบายและตัวอย่างจากใบความรู้ของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เข้าใจ 4. ในการทำแบบฝึกทักษะ ให้นักเรียนทำลงในแบบฝึกทักษะด้วยตนเอง เรียงตามลำดับ ขั้นตอน อย่าเปิดข้ามหน้าใดหน้าหนึ่งโดยเด็จขาด 5. เมื่อทำเสร็จแล้วให้นักเรียนนำแบบฝึกทักษะที่ทำเสร็จเรียบร้อยส่งให้ครูตรวจและบันทึก คะแนน 6. นักเรียนควรมีความตั้งใจ มีระเบียบวินัย มีความซื่อสัตย์ และมีความรับผิดชอบต่องานที่ ได้รับมอบหมาย ทำให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด 7. นักเรียนต้องทำแบบฝึกทักษะถูกต้องร้อยละ 80 ขึ้นไป ของจำนวนข้อทั้งหมดของ แบบฝึกทักษะแต่ละแบบฝึกทักษะ จึงถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน คำชี้แจงในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับนักเรียน
มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการความเจริญรุ่งเรืองในด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมสมัยกรุงธนบุรี และการสิ้นสุดของอาณาจักรธนบุรี ตัวชี้วัด อธิบายการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมสมัยกรุงธนบุรี และการสิ้นสุดของอาณาจักร ธนบุรี สาระการเรียนรู้ การสถาปนากรุงธนบุรี ความเจริญด้านการเมือง การปกครองของกรุงธนบุรี ความเจริญด้านเศรษฐกิจของกรุงธนบุรีจนถึงการสิ้นสุดกรุงธนบุรี จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายการสถาปนากรุงธนบุรีบอกความเจริญด้านการเมือง การปกครองของกรุงธนบุรีอธิบายความเจริญด้าน เศรษฐกิจของกรุงธนบุรีอธิบายความเจริญด้านสังคม วัฒนธรรม ประเพณีของกรุงธนบุรี 2. ยกตัวอย่างความสัมพันธ์กับต่างประเทศของกรุงธนบุรี ได้อย่างน้อย 2 ชาติพร้อมรายละเอียด 3. วิเคราะห์การสิ้นสุดของกรุงธนบุรี มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด / สาระการเรียนรู้ /จุดประสงค์การเรียนรู้
แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องสมัยกรุงธนบุรี คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกกาคำตอบที่ถูกที่สุด 1. ในพระราชพงศาวดารกรุงธนบุรีฉบับพันจนพงศาวดารกรุงธนบุรีฉบับพันจันทนมาศ (เจิม) มีข้อความว่า “แล้วจง ตรัสส่งโยธาหาญทั้งปวงให้หุงอาหารรับพระราชทานแล้ว เหลือนั้นสั่งให้เทเสีย ต่อยหม้อข้าวหม้อแกงให้จงสิ้น ใน เพลากลางคืนวันนี้ตีเอาเมืองจันทบูรให้ได้ ให้หาข้าวกินเช้าเอาในเมือง ถ้ามิได้ให้ตายเสียด้วยกันเถิด”สะท้อนให้เห็น ถึงบุคลิกลักษณะของพระเจ้าตากสินมหาราชในข้อใดมากที่สุด ก. ทรงมีจิตวิทยาสูงในการสร้างขวัญและกําลังใจให้กับเหล่าทหาร ข. ทรงมีบุคลิกที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว ค. ทรงเป็นผู้นําที่มีความอดทน ง. ทรงรักชาติยิ่งกว่าพระชนม์ชีพ 2.เมืองสุดท้ายที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยึดเอาเป็นที่มั่นก่อนเข้าโจมตีพม่าที่ธนบุรีคือข้อใด ก. เมืองนครศรีธรรมราช ข. เมืองระยอง ค. เมืองจันทบุรี ง. เมืองนครนายก 3.เพราะเหตุใดสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจึงไม่ทรงเลือกเอากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ก. เพราะกรุงศรีอยุธยาอยู่ในสภาพเสียหายย่อยยับเกินกว่าจะบูรณะได้ ข. เพราะยังไม่สามารถขับไล่พม่าที่กรุงศรีอยุธยาได้ ค. เพราะอยุธยาในเวลานั้นอยู่ในฤดูน้ำหลาก ง. เพราะเป็นเมืองที่พ่ายแพ้สงครามมาแล้ว การนํามาเป็นเมืองหลวงใหม่จะกระทบต่อขวัญและกําลังใจของราษฎร 4.ข้อใดเป็นความเหมาะสมของกรุงธนบุรีในการเป็นเมืองหลวงในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก. กรุงธนบุรีเป็นเมืองหน้าด่านทางน้ำที่ควบคุมการเดินเรือทางทะเลที่เข้าออกในอ่าวไทยกับ ข. กรุงธนบุรีมีป้อมปราการตั้งอยู่สองฟากแม่น้ำ ค. กรุงธนบุรีไม่ถูกกระทบกระเทือนจากภัยสงคราม ง. ถูกทุกข้อ 5.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ก. พระเจ้าตากสินมีพระบิดาเป็นชาวจีน ข. พระเจ้าตากสินเกิดในสมัยกรุงศรีอยุธยา ค. ตําแหน่งสุดท้ายก่อนได้สถาปนาเป็นกษัตริย์คือตําแหน่งพระยาตาก เจ้าเมืองตาก ง. ถูกทุกข้อ
6.ข้อใดไม่ใช่ทหารเอกคู่กายของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก. สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ข. ออกญาเสนาภิมุข ค. เจ้าพระยาสุรสีห์ ง. พระยาพิชัย (ดาบหัก) 7.สงครามครั้งสําคัญที่สุดในสมัยธนบุรีคือข้อใด ก. ศึกพม่าที่ย่างกุ้ง ข. ศึกอะแซหวุ่นกี้ ค. ศึกตีเมืองจําปาศักดิ์ ง. ศึกพม่าที่บางแก้ว 8.ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับกรุงธนบุรี ก. การปกครองส่วนกลางใช้ระบบจตุสดมภ์ ข. สมุหนายกดูแลงานด้านพลเรือนในฝ่ายใต้ ค. สมุหกลาโหมดูแลหัวเมืองฝ่ายเหนือ ง. เสนาบดีกรมคลังดูแลเฉพาะกิจการค้าขายกับต่างประเทศ 9.“ในคราวที่อาหารขาดแคลน สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ซื้อข้าวสารที่ พ่อค้าต่างเมืองนํามาขาย และพระราชทานให้แก่ราษฎร” ข้อความข้างต้นเกี่ยวข้องกับ หลักทศพิธราชธรรมในข้อใด ก. ปริจาคะ ข. อักโกธะ ค. มัททวะ ง. ตปะ 10.ข้อใดไม่ใช่นโยบายแก้ปัญหาการขาดแคลนข้าวในสมัยธนบุรี ก. ทรงเร่งให้ขุนนางทํานา ข. โปรดให้ขยายพื้นที่ทํานาบริเวณชานพระนคร ค. ออกโฉนดตราแดงเพื่อเป็นหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้ราษฎร ง. ค้าขายระบบบรรณาการกับจีน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) 1. ข. ทรงมีบุคลิกที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว 2. ค. เมืองจันทบุรี 3. ก. เพราะกรุงศรีอยุธยาอยู่ในสภาพเสียหายย่อยยับเกินกว่าจะบูรณะได้ 4. ง. ถูกทุกข้อ 5. ง. ถูกทุกข้อ 6. ข. ออกญาเสนาภิมุข 7. ข. ศึกอะแซหวุ่นกี้ 8. ก. การปกครองส่วนกลางใช้ระบบจตุสดมภ์ 9. ค. มัททวะ 10. ค. ออกโฉนดตราแดงเพื่อเป็นหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้ราษฎร
สรุปความรู้ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี อาณาจักรธนบุรีเป็นอาณาจักรที่มีระยะเวลาสั้นที่สุดของไทย คือระหว่าง พ.ศ. 2310–2325 ระยะเวลา 15 ปี มีพระมหากษัตริย์ปกครองเพียงพระองค์เดียว คือ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีหรือพระเจ้าตากสิน มหาราช ภายหลังอาณาจักรอยุธยาล่มสลายไปพร้อมกับการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ทว่า ในเวลาต่อมา สมเด็จ เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ และทรงย้ายเมืองหลวงไปยังฝั่งตะวันออกของ แม่น้ำเจ้าพระยา คือ กรุงเทพมหานครในปัจจุบัน
สรุปความรู้ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี การตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่กรุงธนบุรี เนื่องจากสาเหตุดังต่อไปนี้ ๑.กรุงศรีอยุธยาชำรุดเสียหายมากจนไม่สามารถจะบูรณะปฏิสังขรณ์ให้ดีเหมือนเดิมได้ กำลังรี้พลของพระองค์มีน้อยจึงไม่สามารถรักษากรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองใหญ่ได้ ๒.ทำเลที่ตั้งของกรุงศรีอยุธยาทำให้ข้าศึกโจมตีได้ง่าย ๓.ข้าศึกรู้เส้นทางการเข้าตีกรุงศรีอยุธยาดี ส่วนสาเหตุที่พระเจ้าตากสินทรงเลือกกรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวงเนื่องจากทำเลที่ตั้งกรุงธนบุรีอยู่ใกล้ทะเล ถ้า เกิดมีศึกมาแล้วตั้งรับไม่ไหวก็สามารถหลบหนี ไปตั้งมั่นทางเรือได้กรุงธนบุรีเป็นเมืองเล็ก จึงเหมาะกับกำลังคนที่มีอยู่ พอจะรักษาเมืองได้ กรุงธนบุรีมีป้อมปราการที่สร้างไว้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาหลงเหลืออยู่ ซึ่งพอจะใช้เป็นเครื่อง ป้องกันเมืองได้ในระยะแรก
สรุปความรู้ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี การสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี พระเจ้าตากสินมหาราชทรงสถาปนาธนบุรีขึ้นเป็นเมืองหลวงและพระราชทานนามว่า กรุงธนบุรีศรี มหาสมุทร ทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ เมื่อวันที่ ๒๘ ธ.ค. ๒๓๑๑ การกอบกู้เอกราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงทำการกอบกู้เอกราชจากพม่า โดยใช้ระยะเวลารวม ๗ เดือนเท่านั้น
สรุปความรู้ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี สงครามที่สำคัญของกรุงธนบุรี การกอบกู้เอกราชของเจ้าตาก เป็นการรวบรวมกองกำลังของเจ้าตาก เพื่อขับไล่กองทัพพม่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่ใน กรุงศรีอยุธยา ภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง อันส่งผลให้เกิดสภาพจลาจลโดยทั่วไป ราชอาณาจักรอยุธยา เดิมจึงถูกแบ่งออกเป็นชุมนุมต่าง ๆ เป็นอิสระต่อกัน ราวปี พ.ศ. ๒๓๐๙ ก่อนเสียกรุง พระยาตากได้นำทหารใน บังคับบัญชาตีฝ่าวงล้อมของกองทัพพม่าไปทางด้านทิศตะวันออกของกรุงศรีอยุธยา เพื่อรวบรวมผู้คนและยุทธปัจจัย ต่าง ๆ มาสู้รบกับกองทัพพม่าอีกครั้ง ในระหว่างนั้นยังได้ตั้งตนเป็นเจ้าเมื่อถึงเมืองระยอง เมื่อ เจ้าตาก เตรียมกำลัง รบจนพร้อมสรรพแล้ว จึงได้เคลื่อนพลกลับไปยังกรุงศรีอยุธยาทางด้านปากแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อทำการขับไล่ทหาร พม่าที่ยังคงเหลืออยู่ออกไปได้สำเร็จ นอกจากการต่อสู้เพื่อรวบรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นแล้ว ยังต้องป้องกันหัว เมืองชายแดนอีกด้วย ตลอดรัชสมัยทรงทำสงครามกับพม่าถึง ๙ ครั้ง แต่ก็ทรงได้รับชัยชนะทุกครั้ง สงครามครั้งที่ ๑ รบพม่าที่บางกุ้ง พ.ศ. ๒๓๑๐ สงครามครั้งที่ ๒ พม่าตีเมืองสวรรคโลก พ.ศ. ๒๓๑๓ สงครามครั้งที่ ๓ ไทยตีเมืองเชียงใหม่ครั้งแรก พ.ศ. ๒๓๑๓ - พ.ศ. ๒๓๑๔ สงครามครั้งที่ ๔ พม่าตีเมืองพิชัยครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๓๑๕ สงครามครั้งที่ ๕ พม่าตีเมืองพิชัยครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๓๑๖ สงครามครั้งที่ ๖ ไทยตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ 2 พ.ศ. ๒๓๑๗ สงครามครั้งที่ ๗ รบพม่าที่บางแก้วเมืองราชบุรี พ.ศ. ๒๓๑๗ สงครามครั้งที่ ๘ อะแซหวุ่นกี้ตีหัวเมืองเหนือ พ.ศ. ๒๓๑๘ สงครามครั้งที่ ๙ พม่าตีเมืองเชียงใหม่ พ.ศ. ๒๓๑๙
สรุปความรู้ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี ด้านการปกครอง หลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียให้แก่พม่า เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐ บ้านเมืองอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย มีการปล้นสะดม กันบ่อย ผู้คนจึงหาผู้คุ้มครองโดยรวมตัวกันเป็นกลุ่มเรียกว่าชุมนุม ชุมนุมใหญ่ ๆ ได้แก่ ชุมนุมเจ้าพระยาพิษณุโลก ชุนนุมเจ้าพระฝาง ชุมนุมเจ้าพิมายชุมนุมเจ้านครศรีธรรมราช เป็นต้น สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงใช้เวลาภายใน ๓ ปี ยกกองทัพไปปราบชุมนุมต่าง ๆ ที่ตั้งตนเป็นอิสระจนหมดสิ้นสำหรับระเบียบการปกครองนั้น พระองค์ทรงยืดถือ และปฏิบัติตามระเบียบการปกครองแบบสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายตามทที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงวาง ระเบียบไว้ แต่รัดกุมและมีความเด็ดขาดกว่า คนไทยในสมัยนั้นจึงนิยมรับราชการทหาร เพราะถ้าผู้ใดมีความดี ความชอบ ก็จะได้รับการปูนบำเหน็จอย่างรวดเร็ว
สรุปความรู้ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี สมัยธนบุรีมีศึกสงครามหลายครั้งทั้งศึกภายในราชอาณาจักรและภายนอกราชอาณาจักร ทั้งนี้ เพื่อสร้าง ความเป็นปึกแผ่นและความมั่นคงทางด้านการเมืองการปกครองยังคงใช้รูปแบบการปกครอง สมัยอยุธยาตอนปลาย สรุปได้ดังนี้ 1. การปกครองส่วนกลาง ยังคงใช้ระบบจตุสดมภ์ คือแบ่งราชการออกเป็น 4 ส่วน คือ เวียงวัง คลังนาและมีอัครเสนาบดี 2 ตําแหน่ง คือ สมุหพระกลาโหมควบคุมกรมฝ่ายทหารในส่วนกลาง และ สมุหนายก ควบคุมกิจการฝ่ายพลเรือน (จตุสดมภ์) และขุนนางเสนาบดีรับผิดชอบราชการแผ่นดินส่วนต่างๆ 2. การปกครองหัวเมือง ยังแบ่งออกเป็นหัวเมืองชั้นใน หัวเมืองชั้นนอก (เมืองพระยามหานคร) และหัวเมืองประเทศราช โดยสมุหนายกมีอํานาจบังคับบัญชาหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งกิจการทหารและพลเรือน ทั้งหมด และให้เสนาบดีกรมคลัง (พระยาโกษาธิบดี) มีอํานาจบังคับบัญชาหัวเมืองฝ่ายใต้และหัวเมือง ชายทะเลตะวันออกทั้ง กิจการทหารและพลเรือน ส่วนสมุหพระกลาโหมเป็นเพียงที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน เท่านั้น • หัวเมืองชั้นใน เป็นเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากราชธานี ไม่มีผู้ว่าราชการเมืองหรือ เจ้าเมืองปกครอง มีแต่ผู้รั้ง เมืองและคณะกรมการเมืองรับนโยบายและคําสั่งจากเสนาบดีส่วนกลางโดยตรงเมืองเหล่านี้จัดเป็นเมืองจัตวา • หัวเมืองชั้นนอกหรือเมืองพระยามหานคร เป็นเมืองที่อยู่ไกลออกไปจากราชธานี มีเจ้าเมืองปกครอง พร้อมทั้งคณะกรมการเมือง มีจตุสดมภ์เหมือนกับราชธานี และเมืองใหญ่น้อยขึ้นตรง หัวเมืองเหล่านี้ยังแบ่งเป็น หัว เมืองเอก โท ตรี เหมือนดังเช่นสมัยอยุธยา • หัวเมืองประเทศราช เป็นเมืองต่างชาติต่างภาษาที่ต้องส่งเครื่องบรรณาการและต้นไม้เงิน ต้นไม้ทองมา ถวายพระมหากษัตริย์ที่กรุงธนบุรี เมืองที่สําคัญได้แก่ กัมพูชา หลวงพระบาง เวียงจันทน์ จําปาศักดิ์ และ นครศรีธรรมราช การปกครองส่วนกลาง การปกครองส่วนภูมิภาค
สรุปความรู้ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี ด้านเศรษฐกิจ ภายหลังเสียกรุงศรีอยุธยา บ้านเมืองเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร และราษฎรทํามาหากินฝืดเคืองนอกจากนี้ พม่าได้ กวาดต้อนผู้คนไปเป็นจํานวนมาก ผู้คนบางส่วนพากันหลบหนีภัยสงครามซุ่มซ่อนตาม ป่าดง ทําให้สภาพเศรษฐกิจ ตกต่ำอย่างมาก ในขณะที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขึ้นครองราชสมบัตินั้นบ้านเมืองกำลังประสบความตกต่ำทาง เศรษฐกิจอย่างที่สุด เกิดการขาดแคลนข้าวปลาอาหาร และเกิดความอดอยากยากแค้น จึงมีการปล้นสะดมแย่งชิง อาหาร มิหนำซ้ำยังเกิดภัยธรรมชาติขึ้นอีก ทำให้ภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายอยู่แล้วกลับทรุดหนักลงไปอีกถึงกับมีผู้คน ล้มตายเป็นจำนวนมากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงแก้ไขวิกฤตการณ์ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ทรงสละทรัพย์ส่วน พระองค์ ชื้อข้าวสารมาแจกจ่ายแก่ราษฎรหรือขายในราคาถูก พร้อมกับมีการส่งเสริมให้มีการทำนาปีละ ๒ ครั้ง เพื่อ เพิ่มผลผลิตให้เพียงพอ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงปรับปรุงเศรษฐกิจ ด้วยวิธีการดังนี้ 1. ดําเนินนโยบายเกลี้ยกล่อมผู้คนให้เข้ามาอยู่ในเมืองหลวง เพื่อจะได้มีกําลังแรงงานใน การ พัฒนาบ้านเมือง และผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ ปรากฏว่าเมื่อมีคนอยู่ในเมืองมากขึ้นก็เกิดการ ขาดแคล อาหาร สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจึงทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อข้าวสารที่ พ่อค้าต่างเมือง นํามาขายแล้ว พระราชทานแก่ราษฎร
2. สนับสนุนการทํานา ในระยะแรกของการก่อตั้งเมือง ราษฎรยังทํานาไม่ได้อาหารขาดแคลนต้อง อาศัยซื้อข้าวจากเรือสําเภาต่างชาติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจึงทรงเร่งให้ราษฎรรวมทั้งขุนนาง ทั้งหลายทํานาเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนข้าว และโปรดให้ขยายพื้นที่ทํานาบริเวณชานพระนคร และ ออกโฉนด ตราแดงให้แก่ราษฎรเพื่อเป็นหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน ดังความในพระราชพงศาวดาร กรุงธนบุรีได้จารึก ไว้ว่า “ด้วยขัตติยวงศา สมณาจารย์ เสนาบดี อาณาประชาราษฎร กระยาจก วันพุกคนโซ อนาถา ทั่วทุก เสมามณฑล เกลือนกล่นกันมารับพระราชทานมากกว่าหมื่น ฝ่ายข้าราชการทหาร พลเรือนไทยจีนนั้นรับ พระราชทานข้าวสารเสมอคนละถัง กินคนละ 20 วันครั้งนั้นยังหาผู้จะทํานามิได้ อาหารกันดาร ข้าวสารสําเภา ขายถังละ3 บาทบ้าง 1 ตําลึงบ้าง 5 บาทบ้าง ยังทรงพระกรุณาด้วยปรีชาญาณอุตส่าห์เลี้ยงสัตว์โลกทั้งปวง พระราชทานชีวิตให้ คงคืนไว้ได้ แลพระราชทานวัตถาลังกาภรณ์ เสื้อผ้าเงินตราจะนับประมาณมิได้ จนทุกข์ พระทัย ออกพระโอษฐ์ว่า บุคคลผู้ใดเป็นอาทิ คือ เทวดา บุคคลผู้มีฤทธิ์ประสิทธิประสาท ทําให้ข้าวปลา อาหารบริบูรณ์ขึ้น ให้สัตว์โลกเป็นสุขได้ แม้นผู้นั้นจะปรารถนาพระพาหาแห่งเราข้างหนึ่ง ก็อาจ ตัดบริจาค ให้แก่ผู้นั้นได้ ความกรุณาเป็นความสัตย์ฉะนี้” ที่มา : ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 3 3. สนับสนุนการค้าขาย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงมีนโยบายที่จะส่งเสริมการค้ากับ ต่างประเทศให้เจริญรุ่งเรืองเหมือนสมัยอยุธยา โดยทรงพยายามติดต่อค้าขายในระบบบรรณาการกับจีน พระองค์ทรงส่งทูตนําพระราชสาส์นไปเมืองจีนพร้อมเครื่องราชบรรณาการ แต่จีนไม่ยอมรับฐานะของ พระองค์ เพราะไม่ใช่เชื้อพระวงศ์สมัยอยุธยา แต่พระองค์ก็ยังคงค้าขายกับจีนจนกระทั่งจักรพรรดิจีนรับรอง ฐานะการเป็นพระมหากษัตริย์ของพระองค์ใน พ.ศ.2324 นับเป็นผลประโยชน์ต่อการค้าต่างประเทศ เพราะ สามารถค้าขายที่กวางตุ้งได้โดยไม่เสียภาษีและยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางการค้ารวมทั้งสิ่งตอบแทน จากราช สํานักจีน นอกจากนี้พระองค์ยังได้ฟื้นฟูการค้าภายในราชอาณาจักร เช่น การค้าหัตถกรรมในย่าน หรือตลาด ในศูนย์การค้าภายในและเมืองท่าต่าง ๆ ทําให้มีรายได้จากภาษีขาเข้าและขาออกจากเรือสินค้า ต่างชาติ เช่น จีน และชวาที่เดินทางมาค้าขายที่กรุงธนบุรี สังคมไทยสมัยธนบุรีมีโครงสร้างทางสังคมเหมือนสมัยอยุธยา ประกอบด้วยชนชั้นปกครองและ ชน ชั้นใต้ปกครอง ชนชั้นปกครองประกอบด้วยพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีพระราชอํานาจสูงสุดในการ ปกครอง เจ้านายหรือพระญาติวงศ์ และขุนนาง ซึ่งเป็นผู้รับราชโองการและบริหารราชการแผ่นดินตาม บทบาท หน้าที่รับผิด ชอบภายใต้ระบบศักดินาเช่นเดียวกับสมัยอยุธยา ชนชั้นใต้ปกครองประกอบด้วยไพร่และทาส ซึ่งสมัยธนบุรีอยู่ในภาวะสงครามเกือบตลอดเวลา จึงมี การควบคุมกําลังไพร่พลอย่างเข้มงวด ด้วยการสักเลกเพื่อบอกชื่อสังกัดมลนายและเมืองไว้ที่ข้อมือ ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ไพร่พลเพื่อปกป้องประเทศชาติ ใครหลีกเลี่ยงมีโทษหนักถึงชีวิต นอกจากนี้สังคมธนบุรียังมีพระภิกษุสงฆ์ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ได้รับความเคารพนับถือลวกหามสั่ง เป็น กลุ่มที่เชื่อมโยงชนชั้นปกครองและชนชั้นใต้ปกครองและได้รับสิทธิพิเศษทางการเมืองการปกครอง เช่นเดียวกับสมัย อยุธยา
• ด้านศาสนา แม้ว่าบ้านเมืองจะอยู่ในภาวะสงครามเกือบตลอดเวลา แต่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงมิได้ละเลยงานด้านศาสนจักร ทรงมุ่งมั่นทํานุบํารุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองเหมือนเมื่อครั้ง กรุงศรี อยุธยา พระราชกรณียกิจด้านฟื้นฟูพระพุทธศาสนา มีดังนี้ การจัดระเบียบสังฆมณฑล โปรดให้จัดระเบียบสังฆมณฑลภายหลังการสถาปนากรุงธนบุรี เป็นราชธานี เมื่อครั้งที่ยกทัพไปปราบชุมนุมเจ้าพระฝางได้โปรดให้อาราธนาพระราชาคณะจากกรุงธนบุรี ไปอบรมสั่งสอน พระสงฆ์หัวเมืองฝ่ายเหนือด้วย การรวบรวมพระไตรปิฎก สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดให้รวบรวมต้นฉบับพระไตรปิฎก ที่ยังเหลืออยู่ หลังจากเสียกรุง เพื่อนํามาคัดลอกจําลองไว้สําหรับการสร้างพระไตรปิฎกฉบับหลวงต่อไป เมื่อคราวที่เสด็จไป ปราบชุมนุมเจ้านครศรีธรรมราชใน พ.ศ.2312 ได้มีรับสั่งให้ขอยืมคัมภีร์พระไตรปิฎกจากนครศรีธรรมราช บรรทุกเรือ เข้ามาคัดลอกในกรุงธนบุรี และในปีถัดมาในคราวที่เสด็จไปปราบชุมนุม เจ้าพระฝางที่เมือง อุตรดิตถ์ ได้โปรดให้นําพระไตรปิฎกลงมาเพื่อให้ สอบทานกับต้นฉบับที่ได้จากเมืองนครศรีธรรมราชซึ่ง นับเป็นประโยชน์ อย่างยิ่งในการสังคายนาพระไตรปิฎกในสมัยต่อมา การสมโภชพระแก้วมรกต หลังจากที่รบชนะ เมืองเวียงจันทน์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้ อัญเชิญ พระแก้วมรกตและพระบางกลับมายังกรุงธนบุรีด้วย โดยให้จัดขบวนเรือ พยุหยาตราและเสด็จขึ้นไป รับด้วยพระองค์เอง แล้วให้อัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบางกลับมายังกรุงธนบุรีด้วย โดยให้จัดขบวนเรือ พยุหยาตราและเสด็จขึ้นไปรับด้วยพระองค์เอง แล้วให้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปประดิษฐานไว้ ณ พระอุโบสถ วัดอรุณราชวราราม ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า จุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุง รัตนโกสินทร์ ทรงอัญเชิญพระแก้วมรกตไปประดิษฐานไว้ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระแก้วมรกต การบูรณปฏิสังขรณ์วัด สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อ บูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่างๆ เป็นจํานวนมาก และโปรดให้ยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง เช่น วัดอิน ทารามวรวิหาร วัดหงส์รัตนาราม วัดอรุณราชวราราม วัดอรุณราชวราราม พระราชกําหนดว่าด้วยศีลสิกขา สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดให้ตรากฎหมายว่าด้วยวัตร ปฏิบัติ ในทางธรรมวินัยของพระสงฆ์ เมื่อ พ.ศ. 2316 โดยถือเป็นต้นฉบับกฎหมายพระสงฆ์ฉบับแรกของไทย และ ทรงนําแนวคิดทางพระพุทธศาสนามาใช้เป็นหลักในการจัดระเบียบสังคมในสมัยนั้นด้วย
สรุปความรู้ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี ความสัมพันธ์กับต่างประเทศสมัยธนบุรี สมัยธนบุรีนอกจากมีความสัมพันธ์กับจีนในระบบบรรณาการแล้วสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงขยาย อิทธิพลและอํานาจทางการเมือง ดังนี้ ญวน ในสมัยธนบุรี ไทยมีความสัมพันธ์อันดีกับญวน เพราะญวนหวังพึ่งไทยในการแย่งชิงอํานาจ ทางการเมือง ภายในประเทศ แต่มีเรื่องบาดหมางระหว่างกันเนื่องจากแย่งชิงความเป็นใหญ่เหนือกัมพูชา ทําให้เกือบมีสงคราม ระหว่างกันในตอนปลายรัชกาล เขมร ภายหลังกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า เขมรตั้งตนเป็นอิสระ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดให้ยกทัพไปตี เขมรหลายครั้ง พ.ศ. 2341 สามารถยึดบันทายเพชรราชธานีของเขมร และบันทายมาศ ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของ ญวนไทยได้สถาปนาพระรามราชาขึ้นเป็นกษัตริย์กัมพูชาในฐานะประเทศราชของไทย พ.ศ. 2324 เกิดการจลาจล ในเขมร สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นแม่ทัพไประงับความวุ่นวาย พร้อมนําเสด็จเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์โอรสพระองค์ใหญ่ไปเป็นกษัตริย์ ปกครองเขมร เมื่อกรุงธนบุรีเกิดการ จลาจลจึงได้เลิกทัพ พม่า ความสัมพันธ์เป็นไปในลักษณะการทําสงครามระหว่างกัน ในสมัยธนบุรีได้ทําสงคราม กับพม่าหลายครั้ง ศึก ครั้งสําคัญได้แก่ ศึกบางแก้ว พ.ศ. 2317 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงใช้ วิธีการปิดล้อมให้ทัพพม่าอด อยากจนต้องยอมจํานนต่อฝ่ายไทย
ศึกอะแซหวุ่นกี้ พ.ศ. 2318 นับเป็น สงครามครั้งสําคัญที่สุดในสมัยธนบุรีพม่ายกทัพใหญ่มีอะแซหวุ่นกีเป็นแม่ ทัพเข้ามาทางด่านแม่ละเมา โจมตีหัวเมืองเหนือเรื่อยมา ทัพกรุงธนบุรีตั้งรับอยู่ที่เมืองพิษณุโลก ประจวบกับช่วง ดังกล่าวพม่า เปลี่ยนรัชกาล ไทยจึงถือโอกาสขับไล่พม่าออกไปพ้นดินแดนไทย ศึกพม่าตีเมืองเชียงใหม่ พ.ศ. 2319 เป็นการทําสงครามครั้งสุดท้ายในสมัยธนบุรี ทัพพม่าตั้งอยู่ที่เมืองเชียงแสน และพยายามจะเข้ายึด เมืองเชียงใหม่ เจ้าเมืองเชียงใหม่อพยพผู้คนมาอยู่ที่สวรรคโลก มลายู หัวเมืองมลายูเป็นประเทศราชของไทยสมัยอยุธยา ภายหลังเมื่อกรุงศรีอยุธยาล่มสลาย หัวเมืองเหล่านี้ได้ตั้งตัว เป็นอิสระ และเนื่องจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงติดพันศึกกับพม่าและ การฟื้นฟูประเทศ หัวเมือง มลายูจึงเป็นอิสระจากไทยจนกระทั่งสินสมัย ล้านนา สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยกทัพไปตีเมืองเชียงใหม่ 2 ครั้งเพื่อมิให้ตกอยู่ ใต้อํานาจพม่าและพม่าใช้เป็น ฐานโจมตีไทยได้พระยาจ่าบ้านและพระยากาวิละผู้นําล้านนาได้สวามิภักดิ์ ต่อกรุงธนบุรีและเป็นกำลังสําคัญ ใน การนําทัพธนบุรีเข้าตีเชียงใหม่ได้สําเร็จ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงแต่งตั้งพระยาจ่าบ้านเป็นพระยา วิเชียรปราการครองเมืองเชียงใหม่ และให้พระยากาวิละครองเมือง ลําปาง รวมทั้งตั้งเจ้าเมืองลําพูนอันเป็นการ วางรากฐานอํานาจทางการเมืองในล้านนา ลาว ในขณะนั้นแบ่งแยกเป็น 3 แคว้น คือ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ และจําปาศักดิ์ สมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราช ได้ขยายอํานาจไปยังดินแดนลาว 2 ครั้ง ครั้งแรกใน พ.ศ. 2319 กองทัพไทย ตีได้เมืองจําปาศักดิ์ เมืองโขง เมืองอัต ปือ ทั้งยังเกลี้ยกล่อมได้เขมรป่าดง คือ เมืองสุรินทร์ สังขะ และขุขันธ์ เข้ามารวมกับไทย จึงทําให้ดินแดนลาวทาง ใต้อยู่ใต้อิทธิพลของไทยทั้งหมด ส่วนครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2321 ไทยยกทัพไปตีเวียงจันทน์ พร้อมทั้งอัญเชิญพระแก้ว มรกตและพระบางมายังกรุงธนบุรี ส่วนแคว้น หลวงพระบางได้เข้ามาสวามิภักดิ์ต่อไทยหัวเมืองลาวทั้งหมดจึงมี ฐานะเป็นประเทศราชของไทยในสมัยธนบุรี
สรุปความรู้ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี การสิ้นสุดอำนาจทางการเมืองของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในตอนปลายรัชกาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องจากพระองค์ทรงตรากตรำ ทำงานหนักในการสร้างความ เป็นปึกแผ่นแก่ชาติบ้านเมือง พระราชพงศาวดารฉบับต่างๆ ได้ บันทึกไว้ว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงมีพระสติฟั่น เฟือน ทำให้บ้านเมืองเกิดความระส่ำระสายและได้เกิดกบฏขึ้นที่กรุงเก่า พวกกบฏได้ทำการปล้นจวนพระยาอินทรอ ภัยผู้รักษากรุงเก่าจนต้องหลบหนีมายังกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้พระยาสรรค์ไปสืบสวนเอา ตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่พระยาสรรค์กลับไปเข้าด้วยกับพวกกบฏ และคุมกำลังมาตีกรุงธนบุรี แล้วจับตัวสมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราชมาคุมขังเอาไว้ การจราจลในกรุงธนบุรี ทำให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกต้องรีบยกทัพ กลับจากเขมร เพื่อเข้าแก้ไขสถานการณ์ในกรุงธนบุรี และจับกุมผู้ก่อการกบฏมาลงโทษรวมทั้งให้ข้าราชการปรึกษา พิจารณาความที่มีผู้ฟ้องร้องกล่าวโทษสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในฐานะที่ทรงเป็นต้นเหตุแห่งความยุ่งยากใน กรุงธนบุรีและมีความเห็นให้สำเร็จโทษพระองค์เพื่อมิให้เกิดปัญหายุ่งยากอีกต่อไป สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจึง ถูกสำเร็จโทษและเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. ๒๓๒๕ พระชนมายุได้ 45 พรรษา
กิจกรรมที่ ๑ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี คำชี้แจง ตอบคำถามต่อไปนี้ ๑. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเลือกกรุงธนบุรีเป็นศูนย์กลางอำนาจแห่งใหม่แทน กรุงศรีอยุธยาด้วยเหตุปัจจัยใดเป็นสำคัญ ตอบ………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………….. ๒. ราชสำนักแห่งกรุงธนบุรีให้ความสำคัญต่อการค้ากับประเทศใด ตอบ………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………….. ………………..……………………………………………………………………………………………………… ๓. การแก้ไขปัญหาภาวะข้าวยากหมากแพงในช่วงยุคแรกของยุคสมัยดำเนินการด้วยวิธีใด ตอบ………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….………………………………………………………………………………………………………. ๔. ในช่วงสมัยธนบุรีมีการทำศึกสงครามกับดินแดนภายนอกหรือไม่อธิบายพร้อม ยกตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญ 1 เหตุการณ์ ตอบ………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………….. ๕. จงยกตัวอย่างมรดกวัฒนธรรมไทยที่ตกทอดมาจากสมัยธนบุรี 2 ตัวอย่าง ตอบ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………. ….……………………………………………………………………………………………………………………
แบบบันทึกการประเมินผล เรื่องประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม นักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตร ปวช1 (10) คะแนน ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ประเด็นการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ดี (๓ คะแนน) พอใช้ (๒ คะแนน) ปรับปรุง (๑ คะแนน) น้ำหนัก คะแนน ๑. เนื้อหาคำตอบ -คำตอบถูกต้องทุกข้อ -คำตอบครบถ้วน -สมบูรณ์ทุกข้อ -คำตอบบางข้อไม่ถูกต้อง -คำตอบบางข้อไม่ครบถ้วน -คำตอบไม่ถูกต้อง -คำตอบไม่ครบถ้วน ๓ คะแนน ๒. รูปแบบการ เขียน -เขียนสะกดคำถูกต้อง -ลายมือสวยงาม อ่านง่าน -เขียนตอบตรงประเด็น เข้าใจง่าย -เขียนสะกดคำผิด ๑-๒ คำ -ลายมือสวยงาม อ่านง่าน -เขียนตอบตรงประเด็น เข้าใจง่าย -เขียนสะกดคำผิด ค่อนข้างมาก -ลายมือไม่เรียบร้อย อ่านยาก ๓ คะแนน ๓. การทำงาน -ทำงานเรียบร้อยดีมาก สะอาด สวยงาม -ทำงานไม่ค่อยเรียบร้อย -ทำงานไม่เรียบร้อย ๒ คะแนน ๔. ตรงต่อเวลา - ส่งงานตรงเวลาที่กำหนด -ส่งงานไม่ค่อยตรงเวลา -ส่งงานไม่ตรงเวลา ๒ คะแนน เกณฑ์ระดับคุณภาพ (เกณฑ์ประเมิน) ระดับ ๓ ได้ ๘ - ๑๐ คะแนน = ดี ระดับ ๒ ได้ ๕ - ๗ คะแนน = พอใช้ ระดับที่ ๑ ได้ ต่ำกว่า ๔ คะแนน = ปรับปรุง
แบบประเมินผล เรื่องประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี ที่ ชื่อ - สกุล รายการประเมิน รวมคะแนน (๑๐ คะแนน) เกณฑ์ประเมิน เนื้อหา รูปแบบการ เขียน ทำงาน ตรงต่อ เวลา ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ลงชื่อ…………………………………………….ผู้ประเมิน (………………………………………………………..) วันที่…………./……………/……………. เกณฑ์ระดับคุณภาพ (เกณฑ์ประเมิน) ระดับ ๓ ได้ ๘ - ๑๐ คะแนน = ดี ระดับ ๒ ได้ ๕ - ๗ คะแนน = พอใช้ ระดับที่ ๑ ได้ ต่ำกว่า ๔ คะแนน = ปรับปรุง
กิจกรรมที่ ๒ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี คำชี้แจง จงเติมข้อความต่อไปนี้
แบบบันทึกการประเมินผล เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม นักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตร ปวช1 (10) คะแนน ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ประเด็นการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ดี (๓ คะแนน) พอใช้ (๒ คะแนน) ปรับปรุง (๑ คะแนน) น้ำหนัก คะแนน ๑. เนื้อหาคำตอบ -คำตอบถูกต้องทุกข้อ -คำตอบครบถ้วน -สมบูรณ์ทุกข้อ -คำตอบบางข้อไม่ถูกต้อง -คำตอบบางข้อไม่ครบถ้วน -คำตอบไม่ถูกต้อง -คำตอบไม่ครบถ้วน ๓ คะแนน ๒. รูปแบบการ เขียน -เขียนสะกดคำถูกต้อง -ลายมือสวยงาม อ่านง่าน -เขียนตอบตรงประเด็น เข้าใจง่าย -เขียนสะกดคำผิด ๑-๒ คำ -ลายมือสวยงาม อ่านง่าน -เขียนตอบตรงประเด็น เข้าใจง่าย -เขียนสะกดคำผิด ค่อนข้างมาก -ลายมือไม่เรียบร้อย อ่านยาก ๓ คะแนน ๓. การทำงาน -ทำงานเรียบร้อยดีมาก สะอาด สวยงาม -ทำงานไม่ค่อยเรียบร้อย -ทำงานไม่เรียบร้อย ๒ คะแนน ๔. ตรงต่อเวลา - ส่งงานตรงเวลาที่กำหนด -ส่งงานไม่ค่อยตรงเวลา -ส่งงานไม่ตรงเวลา ๒ คะแนน เกณฑ์ระดับคุณภาพ (เกณฑ์ประเมิน) ระดับ ๓ ได้ ๘ - ๑๐ คะแนน = ดี ระดับ ๒ ได้ ๕ - ๗ คะแนน = พอใช้ ระดับที่ ๑ ได้ ต่ำกว่า ๔ คะแนน = ปรับปรุง
แบบประเมินผล เรื่องประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี ที่ ชื่อ - สกุล รายการประเมิน รวมคะแนน (๑๐ คะแนน) เกณฑ์ประเมิน เนื้อหา รูปแบบการ เขียน ทำงาน ตรงต่อ เวลา ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ลงชื่อ…………………………………………….ผู้ประเมิน (………………………………………………………..) วันที่…………./……………/……………. เกณฑ์ระดับคุณภาพ (เกณฑ์ประเมิน) ระดับ ๓ ได้ ๘ - ๑๐ คะแนน = ดี ระดับ ๒ ได้ ๕ - ๗ คะแนน = พอใช้ ระดับที่ ๑ ได้ ต่ำกว่า ๔ คะแนน = ปรับปรุง
กิจกรรมที่ ๓ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ ๑. หลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียเอกราชให้กับข้าศึกและสภาพบ้านเมืองขณะนั้นน่าจะเป็นอย่างไร ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………..………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๒. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมีวิธีการกู้เอกราชอย่างไร ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………..………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๓. กรุงธนบุรีมีความเหมาะสมต่อการตั้งเป็นราชธานีแห่งใหม่อย่างไร ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………..………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๔. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงรวบรวมประเทศให้เป็นปึกแผ่นได้อย่างไร ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………..………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
แบบบันทึกการประเมินผล เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม นักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตร ปวช1 (10) คะแนน ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ประเด็นการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ดี (๓ คะแนน) พอใช้ (๒ คะแนน) ปรับปรุง (๑ คะแนน) น้ำหนัก คะแนน ๑. เนื้อหาคำตอบ -คำตอบถูกต้องทุกข้อ -คำตอบครบถ้วน -สมบูรณ์ทุกข้อ -คำตอบบางข้อไม่ถูกต้อง -คำตอบบางข้อไม่ครบถ้วน -คำตอบไม่ถูกต้อง -คำตอบไม่ครบถ้วน ๓ คะแนน ๒. รูปแบบการ เขียน -เขียนสะกดคำถูกต้อง -ลายมือสวยงาม อ่านง่าน -เขียนตอบตรงประเด็น เข้าใจง่าย -เขียนสะกดคำผิด ๑-๒ คำ -ลายมือสวยงาม อ่านง่าน -เขียนตอบตรงประเด็น เข้าใจง่าย -เขียนสะกดคำผิด ค่อนข้างมาก -ลายมือไม่เรียบร้อย อ่านยาก ๓ คะแนน ๓. การทำงาน -ทำงานเรียบร้อยดีมาก สะอาด สวยงาม -ทำงานไม่ค่อยเรียบร้อย -ทำงานไม่เรียบร้อย ๒ คะแนน ๔. ตรงต่อเวลา - ส่งงานตรงเวลาที่กำหนด -ส่งงานไม่ค่อยตรงเวลา -ส่งงานไม่ตรงเวลา ๒ คะแนน เกณฑ์ระดับคุณภาพ (เกณฑ์ประเมิน) ระดับ ๓ ได้ ๘ - ๑๐ คะแนน = ดี ระดับ ๒ ได้ ๕ - ๗ คะแนน = พอใช้ ระดับที่ ๑ ได้ ต่ำกว่า ๔ คะแนน = ปรับปรุง
แบบประเมินผล เรื่องประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี ที่ ชื่อ - สกุล รายการประเมิน รวมคะแนน (๑๐ คะแนน) เกณฑ์ประเมิน เนื้อหา รูปแบบการ เขียน ทำงาน ตรงต่อ เวลา ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ลงชื่อ…………………………………………….ผู้ประเมิน (………………………………………………………..) วันที่…………./……………/……………. เกณฑ์ระดับคุณภาพ (เกณฑ์ประเมิน) ระดับ ๓ ได้ ๘ - ๑๐ คะแนน = ดี ระดับ ๒ ได้ ๕ - ๗ คะแนน = พอใช้ ระดับที่ ๑ ได้ ต่ำกว่า ๔ คะแนน = ปรับปรุง
กิจกรรมที่ ๔ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบต่อไปนี้ ๑. ความเข้มแข็งทางการทหารส่งผลต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรธนบุรีอย่างไร ๒. ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………..………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๓. พระเจ้าตากสินมหาราชทรงฟื้นฟูเศรษฐกิจของกรุงธนบุรีด้วยวิธีการใด ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………..………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๔. นโยบายฟื้นฟูพระพุทธศาสนาส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรธนบุรีอย่างไร ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………..………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. คำชี้แจง ให้นักเรียนเรียงลำดับเหตุการณ์โดยเติมหมายเลขลงในช่องว่าง ดังต่อไปนี้ ๑. รวบรวมกำลังพลที่ระยองและจันทบุรี ๒. ทรงเห็นว่าคงเอาชนะพม่า ๓. ถูกเรียกตัวเข้ามาป้องกันอยุธยา ๔. กลับมายึดอยุธยาสำเร็จได้เพียง ๗ เดือน ๕. ขณะที่อยุธยาแตกทรงดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองกำแพงเพชร ๖. รวบรวมกำลังพลตีฝ่าล้อมออกจากอยุธยา
แบบบันทึกการประเมินผล เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม นักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตร ปวช1 (10) คะแนน ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ประเด็นการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ดี (๓ คะแนน) พอใช้ (๒ คะแนน) ปรับปรุง (๑ คะแนน) น้ำหนัก คะแนน ๑. เนื้อหาคำตอบ -คำตอบถูกต้องทุกข้อ -คำตอบครบถ้วน -สมบูรณ์ทุกข้อ -คำตอบบางข้อไม่ถูกต้อง -คำตอบบางข้อไม่ครบถ้วน -คำตอบไม่ถูกต้อง -คำตอบไม่ครบถ้วน ๓ คะแนน ๒. รูปแบบการ เขียน -เขียนสะกดคำถูกต้อง -ลายมือสวยงาม อ่านง่าน -เขียนตอบตรงประเด็น เข้าใจง่าย -เขียนสะกดคำผิด ๑-๒ คำ -ลายมือสวยงาม อ่านง่าน -เขียนตอบตรงประเด็น เข้าใจง่าย -เขียนสะกดคำผิด ค่อนข้างมาก -ลายมือไม่เรียบร้อย อ่านยาก ๓ คะแนน ๓. การทำงาน -ทำงานเรียบร้อยดีมาก สะอาด สวยงาม -ทำงานไม่ค่อยเรียบร้อย -ทำงานไม่เรียบร้อย ๒ คะแนน ๔. ตรงต่อเวลา - ส่งงานตรงเวลาที่กำหนด -ส่งงานไม่ค่อยตรงเวลา -ส่งงานไม่ตรงเวลา ๒ คะแนน เกณฑ์ระดับคุณภาพ (เกณฑ์ประเมิน) ระดับ ๓ ได้ ๘ - ๑๐ คะแนน = ดี ระดับ ๒ ได้ ๕ - ๗ คะแนน = พอใช้ ระดับที่ ๑ ได้ ต่ำกว่า ๔ คะแนน = ปรับปรุง
แบบประเมินผล เรื่องประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี ที่ ชื่อ - สกุล รายการประเมิน รวมคะแนน (๑๐ คะแนน) เกณฑ์ประเมิน เนื้อหา รูปแบบการ เขียน ทำงาน ตรงต่อ เวลา ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ลงชื่อ…………………………………………….ผู้ประเมิน (………………………………………………………..) วันที่…………./……………/……………. เกณฑ์ระดับคุณภาพ (เกณฑ์ประเมิน) ระดับ ๓ ได้ ๘ - ๑๐ คะแนน = ดี ระดับ ๒ ได้ ๕ - ๗ คะแนน = พอใช้ ระดับที่ ๑ ได้ ต่ำกว่า ๔ คะแนน = ปรับปรุง
กิจกรรมที่ ๔ เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี คำชี้แจง ให้นักเรียนเติมคำลงในช่องว่างต่อไปนี้
แบบบันทึกการประเมินผล เรื่อง ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม นักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตร ปวช1 (10) คะแนน ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ประเด็นการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ดี (๓ คะแนน) พอใช้ (๒ คะแนน) ปรับปรุง (๑ คะแนน) น้ำหนัก คะแนน ๑. เนื้อหาคำตอบ -คำตอบถูกต้องทุกข้อ -คำตอบครบถ้วน -สมบูรณ์ทุกข้อ -คำตอบบางข้อไม่ถูกต้อง -คำตอบบางข้อไม่ครบถ้วน -คำตอบไม่ถูกต้อง -คำตอบไม่ครบถ้วน ๓ คะแนน ๒. รูปแบบการ เขียน -เขียนสะกดคำถูกต้อง -ลายมือสวยงาม อ่านง่าน -เขียนตอบตรงประเด็น เข้าใจง่าย -เขียนสะกดคำผิด ๑-๒ คำ -ลายมือสวยงาม อ่านง่าน -เขียนตอบตรงประเด็น เข้าใจง่าย -เขียนสะกดคำผิด ค่อนข้างมาก -ลายมือไม่เรียบร้อย อ่านยาก ๓ คะแนน ๓. การทำงาน -ทำงานเรียบร้อยดีมาก สะอาด สวยงาม -ทำงานไม่ค่อยเรียบร้อย -ทำงานไม่เรียบร้อย ๒ คะแนน ๔. ตรงต่อเวลา - ส่งงานตรงเวลาที่กำหนด -ส่งงานไม่ค่อยตรงเวลา -ส่งงานไม่ตรงเวลา ๒ คะแนน เกณฑ์ระดับคุณภาพ (เกณฑ์ประเมิน) ระดับ ๓ ได้ ๘ - ๑๐ คะแนน = ดี ระดับ ๒ ได้ ๕ - ๗ คะแนน = พอใช้ ระดับที่ ๑ ได้ ต่ำกว่า ๔ คะแนน = ปรับปรุง
แบบประเมินผล เรื่องประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี ที่ ชื่อ - สกุล รายการประเมิน รวมคะแนน (๑๐ คะแนน) เกณฑ์ประเมิน เนื้อหา รูปแบบการ เขียน ทำงาน ตรงต่อ เวลา ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ลงชื่อ…………………………………………….ผู้ประเมิน (………………………………………………………..) วันที่…………./……………/……………. เกณฑ์ระดับคุณภาพ (เกณฑ์ประเมิน) ระดับ ๓ ได้ ๘ - ๑๐ คะแนน = ดี ระดับ ๒ ได้ ๕ - ๗ คะแนน = พอใช้ ระดับที่ ๑ ได้ ต่ำกว่า ๔ คะแนน = ปรับปรุง
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่องสมัยกรุงธนบุรี คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกกาคำตอบที่ถูกที่สุด 1.เพราะเหตุใดความพยายามในการค้าขายในระบบบรรณาการกับจีนในระยะแรกจึงยังไม่ประสบความสําเร็จ ก. เศรษฐกิจตกต่ำเครื่องราชบรรณาการที่จะนําไปให้จีนมีไม่เพียงพอ ข. จีนยังไม่ยอมรับสถานะของธนบุรีและพระเจ้าตากสิน ค. จีนให้การสนับสนุนพม่าและไม่พอใจที่ธนบุรีแยกเป็นอิสระ ง. เพราะพระเจ้าตากสินมีเชื้อสายจีน ขัดกับธรรมเนียมจีนที่จะไม่รับบรรณาการจากพวกเดียวกัน 2.ข้อใดจัดเป็นพระราชกรณียกิจด้านฟื้นฟูพระศาสนาในสมัยพระเจ้าตากสิน ก. การจัดระเบียบสังฆมณฑล ข. การรวบรวมพระไตรปิฎก ค. การบูรณปฏิสังขรณ์วัด ง. ถูกทุกข้อ 3.ก่อนที่พระแก้วมรกตจะมาประดิษฐานที่กรุงธนบุรีนั้น พระแก้วมรกตเคยประดิษฐานอยู่ที่ใดมาก่อน ก. พม่า ข. เวียงจันทน์ ค. กรุงเทพมหานคร ง. อยุธยา 4.ความบาดหมางระหว่างกรุงธนบุรีกับญวนมีสาเหตุใดเป็นสําคัญ ก. ญวนให้ความร่วมมือกับพม่าในการทําศึกกับธนบุรี ข. ญวนและธนบุรีต่างแย่งสิทธิความเป็นใหญ่เหนือกัมพูชา ค. ญวนแย่งผลประโยชน์ของธนบุรีในตลาดการค้ากับจีน ง. ญวนพยายามยกทัพมาหมายเอาธนบุรีเป็นเมืองขึ้น 5.เหตุการณ์ในข้อใดเกิดขึ้นก่อนข้ออื่นๆ ก. สงครามตีชุมนุมพิษณุโลก ข. สงครามตีชุมนุมพิมาย ค. สงครามตีชุมนุมนครศรีธรรมราช ง. สงครามที่ชุมนุมเจ้าพระฝาง
6.ชุมนุมในข้อใดที่ผู้ปกครองมีสถานภาพเป็นนักบวช ก. ชุมนุมพิษณุโลก ข. ชุมนุมพิมาย ค. ชุมนุมนครศรีธรรมราช ง. ชุมนุมเจ้าพระฝาง 7.ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้งานศิลปะการละครซึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองมากตอนปลายอยุธยากลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ในสมัยธนบุรี ก. ทรงนําตัวละครหญิงจากนครศรีธรรมราชมาเป็นครูฝึกหัดละคร ข. ทรงให้อิสระในการเปิดการฝึกสอนและออกโรงเล่นละครแก่ราษฎร ค. ทรงให้ตัวละครแต่งเครื่องต้นหรือเครื่องทรงได้ตามลักษณะตัวละครในท้องเรื่อง ง. ได้รับความช่วยเหลือจากจีนในการฝึกนิ้วให้แก่ชาวจีนในธนบุรี 8.งานวรรณกรรมในข้อใดไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยธนบุรี ก. กฤษณาสอนน้องคําฉันท์ ข. นิราศกวางตุ้ง ค. รามเกียรติตอนท้าวมาลีวราชว่าความ ง. ลิลิตยวนพ่าย 9.หากนักเรียนต้องการไปชมงานช่างฝีมือสมัยธนบุรี นักเรียนสามารถไปชมได้ที่ใด ก. พระแท่นเจริญวิปัสสนา ในวิหารหน้าพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม ข. ระเบียงวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ค. วิหารวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ง. พระอุโบสถวัดเบญจมบพิต 10.งานวรรณกรรมข้อใดจัดเป็นงานวรรณกรรมที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ซึ่งคนรุ่นต่อมาใช้ศึกษาสภาพ บ้านเมืองในสมัยกรุงธนบุรี ก. โคลงสี่สุภาพของนายสวน มหาดเล็ก ข. สามก๊กของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ค. ลิลิตเพชรมงกุฏของหลวงสรวิชิต ง. อิเหนาคําฉันท์ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) 1. ข. จีนยังไม่ยอมรับสถานะของธนบุรีและพระเจ้าตากสิน 2. ง. ถูกทุกข้อ 3. ข. เวียงจันทน์ 4. ข. ญวนและธนบุรีต่างแย่งสิทธิความเป็นใหญ่เหนือกัมพูชา 5. ก. สงครามตีชุมนุมพิษณุโลก 6. ง. ชุมนุมเจ้าพระฝาง 7. ง. ได้รับความช่วยเหลือจากจีนในการฝึกนิ้วให้แก่ชาวจีนในธนบุรี 8. ง. ลิลิตยวนพ่าย 9. ก. พระแท่นเจริญวิปัสสนา ในวิหารหน้าพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม 10. ก. โคลงสี่สุภาพของนายสวน มหาดเล็ก