0จจ0
ธรรมชาตินา่ ยล ภมู ิพลเขอื่ นใหญ่
พระเจา้ ตากเกรยี งไกร เมืองไมแ้ ละป่ างาม
จงั หวัดตาก
1
คำนำ
รำยงำนน้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชำคอมพวิ เตอร์ หนงั สือน้ีเป็นหนงั สือเกี่ยวกบั
จงั หวดั ตำกท่ีใหค้ วำมรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกบั จงั หวดั ตำก และสถำนที่ท่องเท่ยี วใน
จงั หวดั ตำกโดยนำขอ้ มูลจำกหลำยๆทม่ี ำรวบรวมเป็นเลม่ น้ี
ผูจ้ ดั ทำคำดหวงั วำ่ รำยงำนน้ีจะมีประโยชนต์ อ่ ผูท้ ตี่ อ้ งกำรหำสถำนท่ี
ทอ่ งเท่ียวในจงั หวดั น้ีได้
ตณิ ณภพ เรืองฉำย
ผูจ้ ดั ทำ
2
สารบญั
ข้อมลู ทวั่ ไป 4
ประวตั ศิ าสตร์ 4
ภมู ศิ าสตร์ 7
อาณาเขต 7
หนว่ ยการปกครอง 8
เทศบาล 9
รายนามเจ้าเมืองและผ้วู า่ ราชการ 11
สญั ลกั ษณ์ประจาจงั หวดั 14
บคุ คลทม่ี ีช่ือเสียง 17
อุทยานแหง่ ชาติลานสาง 19
นา้ ตกทีลอซู 21
เจดีย์ยทุ ธหตั ถี 22
วนอทุ ยานแหง่ ชาติเขาพระบาท 24
เข่ือนภูมิพล 26
เขตรกั ษาพนั ธ์ุสตั วป์ ่ าทงุ่ ใหญ่นเรศวร 29
นา้ พรุ ้อนแม่กาษา 31
วดั พระบรมธาตบุ ้านตาก 33
3
ถา้ แม่อสุ ุ 36
อุทยานแหง่ ชาติแมเ่ มย 37
ศาลเจ้าพอ่ ขนุ สามชน 39
เนนิ พศิ วง 41
อุทยานแหง่ ชาตินา้ ตกพาเจริญ 43
ดอยสอยมาลยั 45
อุทยานแหง่ ชาติคลองวงั เจ้า 47
บรรณานกุ รม 51
4
จงั หวดั ตาก
ตากเป็นจงั หวดั ในภำคตะวนั ตกหรือบำงแห่งจดั อยู่
ในภำคเหนือตอนล่ำงของไทย มีพ้นื ทมี่ ำกเป็น
อนั ดบั 4 ของประเทศ แต่มีประชำกรเบำบำงที่สุด
เป็นอนั ดบั 2 ของประเทศ นบั เป็นจงั หวดั
ชำยแดนท่สี ำคญั อีกจงั หวดั หน่ึงของไทย มี
ประวตั ิศำสตร์เก่ำแกน่ ับต้งั แตส่ มยั กรุงสุโขทยั ท้งั
ยงั มีแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วทำงธรรมชำติและวฒั นธรรมท่ี
งดงำมหลำยแห่งดว้ ย นอกจำกน้ีจงั หวดั ตำกยงั เป็น
จงั หวดั ท่ีมีอำณำเขตตดิ ตอ่ จงั หวดั อืน่ ๆ ถึง 9
จงั หวดั
ประวตั ศิ าสตร์
เมอื งตำกในอดตี เป็นเมืองทมี่ ีชำวมอญอยมู่ ำก่อน ดงั มี หลกั ฐำนศลิ ปมอญปรำกฏอยทู่ ี่
อำเภอบำ้ นตำก มีประวตั คิ วำมเป็นมำเก่ำแก่ และเป็นหน่ึงในหวั เมอื งทมี่ อี ำยเุ กนิ กว่ำสองพนั
ปี ข้ึนไป เม่อื มีกำรอพยพของชนชำติไทยจำกลมุ่ น้ำแยงซีตอนใต้ ลงมำตำมแนวลำน้ำคง
(ลำน้ำสำละวนิ ) มพี วกหน่ึงไดข้ ำ้ มลำน้ำสำละวนิ ผำ่ นลุ่มน้ำเมยหรือแม่น้ำต่องยนิ เขำ้ มำทำง
ชอ่ งเขำดำ้ นอำเภอแม่สอดและมำถึงบริเวณท่ปี ัจจุบนั เรียกวำ่ "เมอื งตำก"
ผูน้ ำกลุ่มคนไทยท่ีอพยพมำต้งั ถน่ิ ฐำนท่เี มอื งตำกในยคุ น้นั ไดต้ ้งั ตนเป็นกษตั ริย์
ปกครองสืบทอดต่อเน่ืองกนั มำจนถงึ ปี พ.ศ. 560 รัชสมยั พระเจำ้ สักดำ
5
ซ่ึงเป็นกษตั ริยเ์ มอื งตำกท่ยี งิ่ ใหญ่มำก มอี ำณำเขตที่อยใู่ นอำนำจแผไ่ ปจนจรดทะเลอนั
ดำมนั ดงั มีบนั ทกึ ในพงศำวดำรเหนือกล่ำววำ่ ในรัชสมยั พระเจำ้ สักดำน้นั เมืองตำกมีกำร
คำ้ ขำยกบั เมืองอินเดียดว้ ย
เมืองตำกคงจะเส่ือมลงในชว่ งพุทธศตวรรษที่ 10 พระยำกำฬวรรณดสิ ผเู้ ป็นกษตั ริย์
เมอื งตำกท่อี พยพมำจำก ตอนใตข้ องลุม่ แม่น้ำแยงซีเกยี ง ไดโ้ ยกยำ้ ยไปสร้ำงรำชธำนีข้นึ ใหม่
ท่เี มืองละโวท้ ำงตอนใตข้ องเมอื งตำกลงไปอกี
มบี ำงยคุ เมอื งตำกถกู ทอดทง้ิ กลำยเป็นเมืองร้ำงดงั ใน
พงศำวดำรเหนือได้ กล่ำวถึงกำรเสดจ็ ทำงชลมำรค
ของพระนำงจำมเทวี พระรำชธิดำกษตั ริยล์ ะโว้ (ระยำ
กำฬวรรณดสิ ) เพ่อื ไปปกครองแควน้ หริภญุ ไชย
(ลำพูน) ในรำว พ.ศ. 1176 โดยทำงลำน้ำปิ ง พระ
นำงจำมเทวขี ้ึนไปสำรวจบนฝ่ังแม่น้ำพบร่องรอย
กำแพงเมืองเกำ่ ๆ ถูกทิง้ ร้ำง จึงโปรดใหส้ ร้ำงเป็นบำ้ นเมอื งใหม่ชอื่ วำ่ "เมอื งตำก"
ต่อมำเม่ือ พ.ศ. 1805 ขนุ สำมชนเจำ้ เมอื งฉอดไดย้ กทพั มำประชิดเมืองตำก ซ่ึงเป็น
เมอื งชำยแดนของกรุงสุโขทยั พอ่ ขนุ ศรีอินทรำทิตยท์ รงจดั กองทพั ออกไปรบ โดยมีพระรำช
โอรสองคเ์ ลก็ ซ่ึงมีพระชนมำยไุ ด้ 19 พรรษำ ตดิ ตำมไปดว้ ย กองทพั ท้งั สองฝ่ ำยปะทะกนั ท่ี
บริเวณเชิงดอยนอกเมอื งตำกประมำณกิโลเมตรเศษ รำชโอรสองค์เลก็ ไดท้ รงชนชำ้ ง กบั ขนุ
สำมชนกระทำยทุ ธหตั ถีกนั ขนุ สำมชนสูไ้ มไ่ ดแ้ ตกพ่ำยไป ตอ่ มำภำยหลงั ทรงพระนำมว่ำ
"พ่อขนุ รำมคำแหงมหำรำช" และไดโ้ ปรดสร้ำงเจดียข์ ้ึนเป็นท่ีระลกึ ถงึ ชยั ชนะในกำรทำยทุ ธ
หตั ถีคร้ังน้นั องคห์ น่ึงเป็นศิลปแบบสุโขทยั ซ่ึงเจดยี ย์ ทุ ธหตั ถนี ้ีอยทู่ ว่ี ดั พระบรมธำตุ อำเภอ
บำ้ นตำก ห่ำงจำกตวั เมืองไปทำงฝั่งตะวนั ตกของแม่น้ำปิ งรำว 31 กิโลเมตร
6
ตอ่ มำในแผ่นดินมหำธรรมรำชำ ไดย้ ำ้ ยเมืองตำกลงมำทำงตอนใตต้ ำมลำน้ำปิ ง ไปต้งั อยู่
ทปี่ ่ ำมะมว่ ง ฝ่ังตะวนั ตก ของแม่น้ำปิ ง ซ่ึงอยใู่ นเขตตำบลป่ ำมะม่วง อำเภอเมืองตำกใน
ปัจจุบนั
เมืองตำกทยี่ ำ้ ยมำต้งั ใหมน่ ้ีมใิ ชเ่ มอื งหนำ้ ดำ่ น สำหรับป้ องกนั กองทพั พมำ่ ที่จะยกเขำ้ มำ
ทำงดำ่ นแม่ละเมำเท่ำน้นั แตย่ งั เป็นเมอื งทกี่ องทพั ไทยใชเ้ ป็นท่ีชมุ นุมพลในเวลำ ทจ่ี ะยกทพั
ไปตีเมืองเชยี งใหม่อีกดว้ ย ในรัชสมยั สมเดจ็ พระนเรศวรมหำรำช สมเดจ็ พระนำรำยณ์
มหำรำช และสมเดจ็ พระเจำ้ กรุงธนบุรีไดเ้ สดจ็ มำชุมนุมกองทพั ท่ีเมอื งตำกน้ีทกุ พระองค์
โดยเฉพำะสมเดจ็ พระเจำ้ กรุงธนบุรี กอ่ นทพี่ ระองคจ์ ะข้นึ ครองรำชสมบตั นิ ้นั พระองค์
ไดร้ ับแตง่ ต้งั จำกสมเดจ็ พระทน่ี ง่ั สุริยำศนอ์ มั รินทร์ ใหเ้ ป็นขำ้ หลวงเชิญทอ้ งตรำรำชสีห์ ไป
ชำระควำมหวั เมืองฝ่ ำยเหนือและตอ่ มำไดร้ ับกำรแต่งต้งั เป็นหลวงยกกระบตั รเมืองตำก ปลดั
เมืองตำก พระยำวชริ ปรำกำรแลว้ ปรำบดำภิเษกข้ึนเป็นพระเจำ้ แผ่นดินโดยลำดบั
กล่ำวโดยสรุป จงั หวดั ตำกเป็นจงั หวดั ท่มี คี วำมเป็นมำในประวตั ิศำสตร์ ควรค่ำแกก่ ำร
สนใจ เป็นเมอื งท่ีพระมหำกษตั ริยใ์ นอดีตไดเ้ สดจ็ มำชุมนุมกองทพั ทีเ่ มอื งตำกน้ีแลว้ ถึง 4
พระองค์ คอื พ่อขนุ รำมคำแหงมหำรำชทรงชนชำ้ งกบั ขนุ สำมชนเจำ้ เมอื งฉอด สมเดจ็ พระ
นเรศวรมหำรำชทรงประกำศอสิ รภำพ ณ เมืองแครง และทรงยกทพั กลบั รำชอำณำจกั รไทย
โดยผ่ำนดนิ แดนเมอื งตำกเป็นแห่งแรก สมเดจ็ พระนำรำยณ์มหำรำชทรงนำทพั ไปตหี วั เมอื ง
ฝ่ ำยเหนือ และไดส้ รำ้ งวดั พระนำรำยณ์ทีเ่ ชงิ สะพำนกิตติขจรปัจจุบนั และสมเดจ็ พระเจำ้ กรุง
ธนบุรีเคยไดร้ ับพระบรมรำชโองกำรแต่งต้งั เป็นเจำ้ เมืองตำก และเป็นผกู้ อบกเู้ อกรำชของชำติ
ไทยจำกพม่ำ คร้ังท่ี 2
7
ภูมิศาสตร์
จงั หวดั ตำก ต้งั อยใู่ นภำคเหนือค่อนไปทำงตะวนั ตกของ
ประเทศไทย ระหว่ำงเสน้ รุ้งท่ี 15 องศำ 50 ลิปดำ 36 ฟิลิปดำเหนือ
และเส้นแวงท่ี 99 องศำ 7 ลิปดำ 22 ฟิลิปดำตะวนั ออกสูงกวำ่
ระดบั น้ำทะเล 116.2 เมตร (ที่ต้งั ศำลำกลำงจงั หวดั ตำก)ห่ำง
จำกกรุงเทพมหำนคร ตำมระยะทำงทำงหลวงหมำยเลข 1 ถนน
พหลโยธิน ประมำณ 426 กม.มีเน้ือที่ประมำณ 16,406.65 ตร.กม.
หรือประมำณ 10,324,156.25 ไร่ ใหญ่เป็นอนั ดบั ที่ 2 ของ
ภำคเหนือรองจำกจงั หวดั เชียงใหม่ สภำพภมู ิประเทศโดยทว่ั ไป
เป็นป่ ำไมแ้ ละภเู ขำ มีทิวเขำถนนธงชยั
อาณาเขตตดิ ต่อ
ตำมภมู ิศำสตร์ท่ีต้งั จงั หวดั ตำกเป็ นจงั หวดั ท่ีอย่ใู นภำคตะวนั ตก มีพ้นื ที่ติดต่อกบั จงั หวดั อ่ืน ๆ 9
จงั หวดั ดงั น้ี
ทศิ เหนือ ติดกบั จงั หวดั แม่ฮอ่ งสอน เชียงใหม่ ลำพนู และลำปำง
ทศิ ตะวันออก ติดกบั จงั หวดั สุโขทยั กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทยั ธำนี
ทศิ ใต้ ติดกบั จงั หวดั กำญจนบุรี
ทศิ ตะวันตก ติดกบั รัฐกะเหร่ียง ประเทศพม่ำ โดยมีแม่น้ำสำยสำคญั แบ่งเขตแดนระหว่ำงไทยกบั พม่ำ
คือแม่น้ำเมย
พ้นื ท่ีส่วนใหญ่ของจงั หวดั เป็ นป่ ำไมแ้ ละภูเขำสูง โดยเฉพำะพ้ืนท่ีทำงดำ้ นตะวนั ตกของจงั หวดั
8
หน่วยกำรปกครอง
กำรปกครองแบ่งออกเป็น 9 อำเภอ 63 ตำบล 493 หม่บู ำ้ น
1. อำเภอเมืองตำก
2. อำเภอบำ้ นตำก
3. อำเภอสำมเงำ
4. อำเภอแม่ระมำด
5. อำเภอท่ำสองยำง
6. อำเภอแมส่ อด
7. อำเภอพบพระ
8. อำเภออมุ้ ผำง
9. อำเภอวงั เจำ้
9
เทศบาล
อาเภอเมอื งตาก
เทศบาลเมืองตาก
เทศบาลตาบลไม้งาม
เทศบาลตาบลหนองบวั ใต้
อาเภอบ้านตาก
เทศบาลตาบลท่งุ กระเชาะ
เทศบาลตาบลบ้านตาก
อาเภอสามเงา
เทศบาลตาบลสามเงา
อาเภอแม่ระมาด
เทศบาลตาบลแม่ระมาด
เทศบาลตาบลแม่จะเรา
เทศบาลตาบลท่งุ หลวง
10
อาเภอท่าสองยาง
เทศบาลตาบลแม่ต้าน
อาเภอแม่สอด
เทศบาลนครแม่สอด
เทศบาลตาบลแม่กุ
เทศบาลตาบลท่าสายลวด
เทศบาลตาบลแม่ตาว
อาเภอพบพระ
เทศบาลตาบลพบพระ
อาเภออุ้มผาง
เทศบาลตาบลอ้มุ ผาง
เทศบาลตาบลแม่จนั
อาเภอวงั เจ้า
เทศบาลตาบลวงั เจ้า
11
รายนามเจ้าเมืองและผู้ว่าราชการ
1. พระยาสจุ ริตรักษา (อว่ ม) พ.ศ. 2425 - พ.ศ. 2452
2. พระยาสจุ ริตรกั ษา (ทองคา)
3. พระยาสจุ ริตรักษา (เชือ้ )กลั ยาณมติ ร
4. พระยาเทพธิบดี
5. พระยาวชิ ติ รกั ษาตกั ศิลาบรุ ินทร์
6. พระยาประสาทวริ ิยกิจ 1 เม.ย. 2463 - 31 มี.ค. 2467
7. พระยาพชิ ยั สนุ ทร 1 เม.ย. 2468 - 12 ก.ค. 2468
8. พระยาพชิ ยั วเิ ศษฤๅชยั 1 เม.ย. 2469 - 21 พ.ค. 2469
9. พระผดงุ ภมู ิพฒั น์ 22 พ.ค 2469 - 31 มี.ค. 2475
10. พระสมคั รสโมสร 1 พ.ค. 2476 - 31 มี.ค. 2479
11. หลวงทรงประศาสน์ 1 เม.ย. 2480 - 30 มี.ค. 2481
12. หลวงวมิ ลประชาภยั 11 เม.ย. 2482 - 31 ธ.ค. 2484
13. หลวงสกลผดุงเขตต์ 1 พ.ค. 2485 - 31 ธ.ค. 2487
14. หลวงนครคุณปู ถมั ภ์ 1 พ.ค. 2488 - 31 พ.ค. 2489
15. ขนุ สมั มะสงิ หส์ วสั ด์ิ 1 ม.ค. 2489 - 11 ม.ย. 2492
16. นายนวน มีชานาญ 1 ม.ค. 2490 - 1 ม.ค. 2491
12
17. นายพรหม สตู รสคุ นธ์ 1 ม.ค. 2491 - 1 เม.ย. 2492
18. พ.ต.เลก็ ทองสนุ ทร 1 เม.ย. 2492 - 20 มี.ค. 2493
19. นายสวุ รรณ ร่ืนยศ 25 เม.ย. 2493 - 30 มิ.ย. 2495
20. นายประกอบ ทรัพย์มณี 1 ก.ค. 2495 - 29 มี.ค. 2499
21. นายสง่า ไทยานนท์ 30 มี.ค. 2499 - 30 ก.ย. 2505
22. ร.ต.ท.ระดม มหาศรานนท์ 5 ต.ค. 2505 - 31 ธ.ค. 2509
23. นายชชุ ยั สวุ รรณรงั ษี 13 ม.ค. 2509 - 24 ส.ค. 2516
24. นายดเิ รก โสดสถิตย์ 2 ต.ค. 2516 - 13 ต.ค. 2518
25. นายสชุ าติ พวั วไิ ล 17 ต.ค. 2518 - 4 พ.ย. 2519
26. นายกุศล ศานตธิ รรม 5 พ.ย. 2519 - 9 ก.พ. 2522
27. นายชาญ พนั ธมุ รัตน์ 8 ก.พ. 2522 - 3 ก.พ. 2523
28. นายไพทรู ย์ ลมิ ปิทีป 4 ก.พ. 2523 - 3 ต.ค. 2523
29. นายเจริญศขุ ศิลาพนั ธ์ุ 6 ต.ค. 2523 - 30 ก.ย. 2526
30. นายกาจ รกั ษ์มณี 1 ต.ค. 2526 - 30 ก.ย. 2528
31. นายสมบรู ณ์ พรหมเมศร์ 1 ต.ค. 2528 - 30 ก.ย. 2532
32. นายสนิทวงศ์ อุเทศนนั ทน์ 1 ต.ค. 2532 - 30 ก.ย. 2534
33. นายจาเนียร ศศิบตุ ร 1 ต.ค. 2534 - 30 ก.ย. 2536
13
34. นายเกษม นาครัตน์ 1 ต.ค. 2536 - 30 ก.ย. 2539
35. นายพงศ์โพยม วาศภตู ิ 1 ต.ค. 2539 - 15 เม.ย. 2541
36. นายฮึกหาญ โตมรศกั ดิ์ 16 เม.ย. 2541 - 30 ก.ย. 2542
37. นายนริ ชั วจั นะภมู ิ 1ต.ค. 2542 - 30 ก.ย. 2544
38. นายธีระบลู ย์ โพบคุ ดี 1 ต.ค. 2544 - 30 ก.ย. 2546
39. นายสวสั ดิ์ ศรีสวุ รรณดี 1 ต.ค. 2546 - 30 ก.ย. 2547
40. นายสวุ ฒั น์ ตันประวตั ิ 1 ต.ค. 2547 - 30 ก.ย. 2548
41. นายอมรพนั ธ์ นมิ านนั ท์ 1 ต.ค. 2548 - 12 พ.ย. 2549
42. นายชุมพร พลรกั ษ์ 13 พ.ย. 2549 - 19 ต.ค. 2551
43. นายคมสนั เอกชยั 20 ต.ค. 2551 - 30 ก.ย. 2552
44. นายสามารถ ลอยฟ้ า 1 ต.ค. 2552 - 29 ธ.ค. 2554
45. นายสรุ ิยะ ประสาทบณั ฑติ ย์ 24 ก.พ. 2555 - 1 ม.ิ ย. 2557
46. นายสมชยั ฐ์ หทยะตนั ย์ติ 2 มิ.ย. 2557 - 30 มี.ค. 2559
47. นายเจริญฤทธ์ิ สงวนสตั ย์ 22 เม.ย. 2559 - 30 ก.ย. 2562
48. นายอรรษิษฐ์ สมั พนั ธรตั น์ 1 ต.ค. 2562 - 30 ก.ย. 2563
49. นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ 1ต.ค.2563-ปัจจบุ นั
14
สัญลักษณ์ประจาจงั หวดั
รูปพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงช้างเหนอื ครุฑหลง่ั นา้ ทกั ษิโณฑก
หมายถงึ เม่อื สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงยกกองทพั ไปช่วยพระเจ้าหงสาวดรี บองั
วะนนั้ พระมหาอปุ ราชเมอื งพม่า สงั่ ให้ทหารคใู่ จคอยตี ขนาบ และปลงพระชนม์เสียให้
ได้ ความแตกรู้ถงึ พระกรรณสมเด็จพระนเรศวรที่เมอื งแครง จึงทรงประชมุ ชาวเมอื ง และ
บรรดาแมท่ ัพนายกอง เมอ่ื เดือน 2 ปีวอก พ.ศ. 2127 ทรงหลง่ั นา้ ทกั ษิโณฑกเหนอื
แผ่นดนิ ประกาศอสิ ระภาพไม่ยอมขนึ้ กบั เมอื งอังวะ อีกต่อไป จังหวดั ตากเป็นด่านแรก
ท่ีสมเด็จพระนเรศวรทรงช้าง ยกกองทพั กลบั เข้ามาถงึ ราชอาณาจกั รไทย เช่นเดยี วกบั ท่ี
เมืองนีเ้คยเป็นทางผ่าน ที่ชาวอินเดียเดินทางเข้าเมอื งไทยในสมยั โบราณ
15
ธงประจาจงั หวัด
ธงพนื ้ สมี ว่ งสลบั เหลอื ง 7 แถบ เป็นสมี ่วง 4 แถบ สเี หลอื ง 3 แถบ ม่ดี ้าน
คนั ธงมรี ูปตราประจาจงั หวดั ในพนื ้ สามเหลย่ี มสนี า้ เงิน
ต้นไม้ประจาจงั หวัด
ต้นแดง
16
ดอกไม้ประจาจงั หวดั
เสยี ้ วดอกขาว
คาขวัญประจาจงั หวัด
ธรรมชาตนิ ่ายล ภมู พิ ลเขอ่ื นใหญ่
พระเจ้าตากเกรียงไกร เมอื งไม้และป่ างาม
17
บคุ คลท่มี ีช่อื เสียง
เฉลมิ พรมมาส อดีตรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ (2สมยั )
จมุ พล โพธิสวุ รรณ เป็นนกั หนงั สอื พมิ พ์
เฉลยี ว วชั รพกุ ก์ อดีตรัฐมนตรีช่วยวา่ การกระทรวงมหาดไทย
(2 สมยั ) อดีตสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรกรุงเทพมหานคร และ อดตี
สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรจงั หวดั ตาก
ชยั วฒุ ิ บรรณวฒั น์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอตุ สาหกรรม
อดีตรองหวั หน้าพรรคประชาธิปัตย์(ภาคเหนอื )
ถนอม กิตตขิ จร อดตี นายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของประเทศไทย
เทอดพงษ์ ไชยนนั ทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ
และรัฐมนตรีว่าการประจาสานกั นายกรฐั มนตรี เป็นบตุ รของ
เทียม ไชยนนั ทน์ หน่ึงในผ้กู อ่ ตงั้ พรรคประชาธิปัตย์
ธนิตพล ไชยนนั ทน์ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์
พนั ทวิ า สนิ รัชตานนั ท์ นกั ร้อง
รักษ์ ตนั ตสิ นุ ทร เป็นอดีตรัฐมนตรีชว่ ยว่าการกระทรวงพาณิชย์
ในรัฐบาลนายชวน หลกี ภยั (ครม.53)
18
สนุ ีย์ สนิ ธุเดชะ เป็นนายกสภามหาวิทยาลยั รัตนบณั ฑิต หรือท่ี
รู้จกั กนั ทว่ั ไปวา่ "อาจารย์แม่"
เสรี วงษ์มณฑา เป็นนกั วิชาการด้านสอื่ สารมวลชนและ
การตลาด
อดุ ร ตนั ตสิ นุ ทร อดีต รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, รมช.
กระทรวงมหาดไทย, วฒุ ิสมาชิก, สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร
จงั หวดั ตาก 5 สมยั , สมาชกิ วฒุ ิสภา
อนนั ต์ อาศยั ไพรพนา (นนั ) นกั ร้อง
19
สถานท่ที ่องเท่ยี ว
อุทยานแห่งชาตลิ านสาง
อทุ ยานแหง่ ชาตลิ านสาง ได้รบั การจดั ตงั ้ เป็ นอทุ ยานแห่งชาตลิ าดบั ท่ี 15 ของประเทศไทย
สภาพภมู ิประเทศเป็ นเทือกเขาสงู สลบั ซบั ซ้อนโดยมีเทอื กเขาถนนธงชยั ตงั ้ อย่กู ง่ึ กลางอทุ ยานฯ มี
ยอดเขาอมุ ยอมเป็ นยอดสงู สดุ สงู ประมาณ 1,065 เมตร จากระดบั นา้ ทะเล นอกจากนยี ้ งั มีผนื
ป่ าที่อดุ มสมบรู ณ์ทเ่ี ป็ นที่อย่อู าศยั ของสตั ว์ป่ า และเป็นแหลง่ ต้นนา้ ทส่ี าคญั กอ่ ให้เกิดเป็ นนา้ ตก
ลานสาง และนา้ ตกอ่นื อกี มากมาย สถานทท่ี ่องเทยี่ วส่วนใหญ่จงึ เป็ นนา้ ตกและจดุ ชมทิวทศั น์ที่
สวยงาม
จดุ ชมทวิ ทศั น์ทส่ี วยงามของอทุ ยานฯ มอี ยสู่ ามแหง่ คอื จดุ ชมววิ เขาน้อย อย่บู ริเวณ
ศนู ย์บริการนกั ทอ่ งเที่ยว เป็ นจดุ ทีส่ ามารถมองเห็นผนื ป่ าในเขตอทุ ยานฯ และมองได้ไกลถงึ ตวั
เมอื งตาก จดุ ชมวิวเขาแสนหว่ ง อย่หู ่างจากท่ีทาการอทุ ยานฯ ประมาณ 400 เมตร สามารถ
มองเห็นวถิ ชี วี ติ ของชาวบ้านในหมบู่ ้าน และผืนป่ าได้อยา่ งกว้างไกล นอกจากนอี ้ ทุ ยานแหง่ ชาติ
ลานสาง ยงั ได้จดั ทาเส้นทางนี ้เป็ นเส้นทางเดนิ ศกึ ษาธรรมชาตดิ ้วย ส่วนจดุ ชมทิวทศั น์ดอยผา
20
แดง ตงั ้ อย่บู ริเวณหน่วยพทิ กั ษ์อทุ ยานแหง่ ชาตทิ ่ี ลส.3 (ดอยผาแดง) เป็ นจดุ ท่ีสามารถมองเห็น
ทวิ ทศั น์ได้กว้างไกลสวยงาม นอกจากนยี ้ งั เหมาะสาหรับการกางเตน็ ทพ์ กั แรมด้วย มีเส้นทางใน
การป่ันจกั รยานชมธรรมชาตแิ ละวถิ ชี ีวติ ชาวไทยภเู ขา ห่างจากหน่วยพทิ กั ษ์ฯ ไปทางทศิ เหนอื
ประมาณ 1.5 กโิ ลเมตร มนี า้ ตกเขาหนิ ปนู ที่สวยงาม เป็ นต้นกาเนดิ ของห้วยลานสางให้ชมด้วย
นอกจากจดุ ชมทิวทศั น์แล้ว ภายในอทุ ยานฯ ยงั มนี า้ ตกอกี มากมาย โดยมนี า้ ตกลานสาง
เป็ นนา้ ตกที่สวยงามท่สี ดุ และเทยี่ วง่ายท่ีสดุ จากนา้ ตกลานสาง สามารถเดนิ เลาะลาธารไปยงั
นา้ ตกอน่ื ๆ ได้ด้วย เช่น นา้ ตกลานเลยี ้ งม้า นา้ ตกผาผงึ ้ นา้ ตกผาน้อย นา้ ตกผาเท นา้ ตกผาลาด
โดยการเดนิ เที่ยวนา้ ตกนี ้ทางอทุ ยานฯ ได้จดั เป็ นเส้นทางเดนิ ป่ าศกึ ษาธรรมชาติ ไว้จานวน 3
เส้นทาง คอื
เส้นทางจากนา้ ตกลานเลยี ้ งม้า-คา่ ยพกั แรม-นา้ ตกลานสาง ระยะทาง 1,800 เมตร ใช้
เวลาประมาณ 1 ชวั่ โมง
เส้นทางศนู ย์บริการนกั ทอ่ งเที่ยว-นา้ ตกผาเท ระยะทาง 2,200 เมตร ใช้เวลา ประมาณ
2-3 ชว่ั โมง
เส้นทางนา้ ตกลานเลยี ้ งม้า-เขาแสนห่วง ระยะทาง 700 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30-45
นาที
21
นา้ ตกทลี อซู
นา้ ตกทลี อซู ตงั ้ อย่ใู นเขตรักษาพนั ธ์สุ ตั ว์ป่ าอ้มุ ผาง อาเภออ้มุ ผาง จงั หวดั ตาก หา่ งจากท่ที าการ
เขตฯ 3 กิโลเมตร มลี กั ษณะเป็ นนา้ ตกภเู ขาหินปนู ขนาดใหญ่ ตงั ้ อย่บู นความสงู จาก
ระดบั นา้ ทะเล 900 เมตร เกิดจากลาห้วยกล้อท้อ ลานา้ ทงั ้ สายตกลงสหู่ น้าผาสงู ชนั มนี า้ ไหลแรง
ตลอดปี ความกว้างของตวั นา้ ตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลน่ั เป็ นชนั ้ ๆ มคี วามสงู ประมาณ
300 เมตร ล้อมรอบไปด้วยป่ าดงดบิ ท่สี มบรู ณ์ เป็ นนา้ ตกท่ีมีขนาดใหญ่เป็ นอนั ดบั 6 ของเอเชยี
ทีลอซู ได้รับคากล่าวขานถึงวา่ เป็ นนา้ ตกทีส่ วยงาม และมีความสวยงามเป็ นพเิ ศษในช่วง
ฤดฝู น ระหวา่ ง 1 มิ.ย. - 31 พ.ย. ปริมาณนา้ ฝนทม่ี ากจะเพม่ิ ปริมาณนา้ ในลาธารทาให้สายนา้
ตกกว้างใหญ่กวา่ ฤดอู ืน่ แตเ่ ป็ นชว่ งที่ทางรถเข้านา้ ตกปิ ด เพ่ือป้ องกนั อนั ตรายแกผ่ ้ใู ช้เส้นทาง
และถนอมสภาพทางไมใ่ ห้เสียหาย นกั ท่องเทีย่ วอาจเลยี่ งใช้เส้นทางนไี ้ ด้ โดยการซอื ้ ทวั ร์กบั
บริษัทนาเทย่ี วซง่ึ จะเดนิ ทางด้วยเรือยางและเดนิ ป่ าอีกราว 12 กม.แตห่ ากมาท่องเท่ียวช่วงฤดู
หนาว - ฤดรู ้อนระหวา่ ง 1 ธ.ค. - 31 พ.ค. ก็สามารถใช้ทางรถยนต์เข้านา้ ตกได้ จงึ เป็ นช่วงเวลาท่ี
เทีย่ วได้สะดวกที่สดุ ไม่วา่ จะเทย่ี วแบบไปกลบั หรือพกั ค้างแรม
22
การท่องเทยี่ วแห่งประเทศไทย ได้กาหนดให้นา้ ตกทีลอซู เป็ นหนง่ึ ในเก้าตะวนั ตามโครงการ
มหศั จรรย์เมืองไทย 12 เดอื น 7 ดาว 9 ตะวนั โดยมีจดุ เดน่ คอื "มหศั จรรย์รุ้งกนิ นา้ ที่นา้ ตกทลี อซ"ู
เจดยี ์ยุทธหตั ถี
เจดยี ์ยทุ ธหตั ถี หรือเจดยี ์เฉลิมพระเกียรตพิ ระเจ้ารามคาแหงมหาราช ชาวบ้านทว่ั ไป
เรียกวา่ เจดยี ์ชนช้าง ตงั ้ อย่บู นดอยช้าง ตาบลเกาะตะเภา อาเภอบ้านตาก ดอยช้างเป็ นเนินดนิ
เล็กๆ อย่ทู างเหนือของดอยพระธาตไุ ปเลก็ น้อย
เจดยี ์นเี ้ป็ นโบราณสถาน มีอายอุ ย่ใู นสมยั กรุงสโุ ขทยั รวม 700 ปี เศษ องค์เจดยี ์ยทุ ธหตั ถี
อย่เู ยอื ้ งกบั วดั พระบรมธาตปุ ระมาณ 200 เมตร ลกั ษณะของเจดยี ์ยทุ ธหตั ถี เป็ นศลิ ปะแบบ
สโุ ขทยั คล้ายกบั องค์อืน่ ๆ ทว่ั ไปในเมอื งสโุ ขทยั กอ่ อิฐถือปนู ฐานกว้าง 12 เมตร เป็ นเรือนธาตรุ ูป
ส่เี หล่ียมย่อมมุ ขนึ ้ ไปสงู 16 เมตร เหนือเรือนธาตทุ าเป็ นลาสีเ่ หลย่ี มยอ่ มมุ ตลอดถงึ ยอดที่เป็ นทรง
พ่มุ ข้าวบณิ ฑ์ ยอดสดุ มีฉตั ร มีร่องรอยการซอ่ มแซมตลอดมา แตไ่ ม่เสยี ทรงเดมิ ฐานพ่มุ มีลายปัน้
เป็ นรูปหน้าสงิ ห์สวยงาม หน้าสิงห์ด้านทศิ เหนอื ยงั สมบรู ณ์ ด้านอ่ืนๆ ชารุดและมีรอยซอ่ ม องค์
23
เจดยี ์สว่ นใหญ่มคี ราบตะไคร่นา้ จบั อยทู่ ว่ั ไป จะมีการขดุ แตง่ หรือถากถางสถานทกี่ ต็ อ่ เมอ่ื ใกล้วนั
จะมีงานเทศกาล ซงึ่ เป็ นงานเดยี วกบั งานไหว้พระธาตบุ ้านตาก
ประวตั คิ วามเป็ นมา
ปรากฏตามเรื่องราวเก่าเลา่ กนั วา่
หลงั จากทีพ่ ่อขนุ รามคาแหงมหาราชได้
เสดจ็ ขนึ ้ เสวยราชย์ ณ กรุงสโุ ขทยั พระองค์
โปรดให้สร้างพระเจดยี ์ขนึ ้ องคห์ น่งึ ณ ยอด
ดอยสงู ตรงบริเวณที่พระองคท์ รงกระทา
ยทุ ธหตั ถีกบั พ่อขนุ สามชน เพ่อื เป็ นท่ีระลึก
ถึงเหตกุ ารณ์สาคญั เมื่อครัง้ ทพี่ อ่ ขนุ สามชนเจ้าเมอื งฉอด ยกทพั มาตเี มอื งตาก พ่อขนุ ศรี-อินทรา
ทิตย์ พร้อมด้วยพระโอรสองคเ์ ลก็ มีพระชนม์พรรษา ๑๙ ปี (ภายหลงั มนี ามวา่ พอ่ ขนุ รามคาแหง
มหาราช) แห่งกรุงสโุ ขทยั ทรงตดิ ตามร่วมไปด้วย เพื่อกรีฑาทพั ไปรับกองทพั พอ่ ขนุ สามชนถงึ
เมืองตาก ในการรบปรากฏวา่ พอ่ ขนุ ศรีอินทราทติ ย์และพ่อขนุ สามชน ได้กระทายทุ ธหตั ถีกนั แต่
ช้างทรงของพอ่ ขนุ ศรีอินทราทิตย์เสียทีตนื่ หนีข้าศกึ พระโอรสทรงเหน็ เหตกุ ารณ์จึงขบั ช้างชื่อ
เอนกพล เข้าขวางกลางแล้วกระทายทุ ธหตั ถกี บั ขนุ สามชน ซง่ึ ช้างทรงชอื่ มาสเมือง สามารถ
เอาชนะขนุ สามชนได้ จนกระทง่ั แตกพา่ ยหนไี ปจากเมืองตาก
24
วนอุทยานแห่งชาตเิ ขาพระบาท
วนอุทยานแห่งชาติเขาพระบาท ตงั ้ อย่ทู ่ี หมู่ 7 ตาบลตากออก อาเภอบ้านตาก จงั หวดั ตาก
ในเขตป่ าสงวนแห่งชาตปิ ่ าแม่สลดิ -โป่งแดง มสี ภาพภมู ิประเทศ เป็ นเนินกรวด ครอบคลมุ พืน้ ที่
มากกวา่ 30 ตารางกิโลเมตร
เป็ นสถานที่ที่มีการขดุ ค้นพบ ทอ่ นไม้กลายเป็ นหินจานวนมาก ฝังตวั อย่ใู ต้เนินกรวด
ถอื เป็ นแหล่งซากดกึ ดาบรรพ์พืช ทใ่ี หญ่ทสี่ ดุ ในประเทศไทย ฟอสซลิ ไม้กลายเป็ นหิน ท่ีพบยาว
ประมาณ 72.22 เมตร
และเส้นผ่าศนู ย์กลางประมาณ 2 เมตร นบั เป็ นฟอสซลิ ไม้กลายเป็ นหนิ ท่ีใหญ่และยาวทสี่ ดุ
ตงั ้ แตม่ ีการค้นพบในทวปี เอเชีย
25
กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั ว์ป่ า และพนั ธ์พุ ืช พร้อมด้วย จงั หวดั ตาก ได้พฒั นาพืน้ ที่วนอทุ ยาน
แหง่ ชาตเิ ขาพระบาท
เป็ นแหลง่ ท่องเท่ียว โดยทาการขดุ ทอ่ นไม้กลายเป็ นหนิ จานวน 7 ทอ่ น และตดั ถนน เข้าไปใน
พืน้ ที่ ทอ่ นไม้บางท่อน
กรมทรัพยากรธรณี ได้ตรวจพสิ จู น์แล้ววา่ เป็ นไม้ยวน และไม้ตะคร้อ และยงั มที อ่ นไม้กลายเป็ น
หินอกี มาก
ทยี่ งั ไมไ่ ด้รับการตรวจพสิ จู น์
ฟอสซลิ เหล่านี ้เกิดจาก ซากต้นไม้ ทถ่ี กู แทนที่ด้วยนา้ บาดาล ซง่ึ มีสารละลายของ
ซลิ กิ า และเกดิ การตกตะกอน
จนกลายสภาพเป็ นหินอยา่ งช้าๆ คอื แทนท่ีแบบโมเลกลุ จนกระทงั่ กลายเป็ นหนิ ทงั ้ หมด โดยไมม่ ี
การเปลยี่ นแปลงรูปร่าง
และโครงสร้างอีก ไม้กลายเป็ นหนิ มกั ฝังตวั อยใู่ นชนั ้ กรวด คาดวา่ เกดิ สะสมตวั ในยคุ ควอเตอร์
นารีคอนตนั
อายปุ ระมาณ 2 ล้านปี จากการแพร่กระจายตวั ของตะกอนตะพกั ท่ปี รากฏ นา่ จะเกิดสะสมตวั
บริเวณตะพกั ค้งุ นา้ ของแมน่ า้ ปิงโบราณ
26
เข่อื นภมู ิพล
เข่ือนภูมพิ ล เป็ นเข่อื นอเนกประสงค์ในประเทศไทย ลกั ษณะเป็ นเขอ่ื นคอนกรีตรูปโค้ง
ตงั ้ อย่บู นแมน่ า้ ปิ งท่อี าเภอสามเงา จงั หวดั ตาก
ประวตั ิ
หมอ่ มหลวงชชู าติ กาภู เป็ นผ้รู ิเร่ิมคดิ และผลกั ดนั การสร้างเขอื่ นยนั ฮตี อ่ รัฐบาลจอมพล ป.
พิบลู สงคราม และได้รับการอนมุ ตั โิ ครงการเม่อื ปี พ.ศ. 2496 แรกเร่ิมมชี ่ือโครงการวา่ เขอ่ื น
ยนั ฮี การกอ่ สร้างเร่ิมขนึ ้ ในปี พ.ศ. 2501 โดยวา่ จ้างบริษัทผ้รู ับเหมาจากสหรัฐ และมบี ริษัทอ่นื
จาก 14 ประเทศร่วมเป็ นทป่ี รึกษา ศลิ าฤกษ์วางเมอ่ื วนั ท่ี 24 มิถนุ ายน พ.ศ. 2504 การกอ่ สร้าง
แล้วเสร็จและทารัฐพธิ ีเปิ ดเขื่อนเม่ือวนั ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2507
เขอ่ื นสร้างปิ ดกนั ้ แมน่ า้ ปิ ง ท่บี ริเวณเขาแก้ว อาเภอสามเงา จงั หวดั ตาก มีรัศมีความโค้ง 250
เมตร สงู 154 เมตร ยาว 486 เมตร ความกว้างของสนั เขอ่ื น 6 เมตร อ่างเก็บนา้ สามารถรองรับนา้
ได้สงู สดุ 13,462 ล้านลกู บาศก์เมตร เมอ่ื แรกก่อสร้างเสร็จถือเป็ นเขอ่ื นรูปโค้งทใี่ หญ่เป็ นอนั ดบั
27
7 ของโลก และได้รับพระราชทานนามวา่ เข่ือนภมู พิ ล ใช้เงินในการก่อสร้างทงั ้ สนิ ้ ราว 2,250 ล้าน
บาท ราวคร่ึงหนง่ึ ได้ก้จู ากธนาคารโลกเป็ นเงิน 66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เขือ่ นสร้างปิ ดกนั ้ แม่นา้ ปิ ง ท่ีบริเวณเขา
แก้ว อาเภอสามเงา จงั หวดั ตาก มรี ัศมคี วามโค้ง
250 เมตร สงู 154 เมตร ยาว 486 เมตร ความกว้าง
ของสนั เข่อื น 6 เมตร อ่างเกบ็ นา้ สามารถรองรับนา้
ได้สงู สดุ 13,462 ล้านลกู บาศก์เมตร เมอื่ แรก
ก่อสร้างเสร็จถือเป็ นเขอ่ื นรูปโค้งทใี่ หญ่เป็ นอนั ดบั 7
ของโลก และได้รับพระราชทานนามวา่ เขือ่ นภมู ิพล
ใช้เงินในการก่อสร้างทงั ้ สนิ ้ ราว 2,250 ล้านบาท ราวคร่ึงหน่ึงได้ก้จู ากธนาคารโลกเป็ นเงิน 66
ล้านดอลลาร์สหรัฐ
รัฐบาลตงั ้ รัฐวสิ าหกิจขนึ ้ มาดแู ลการกอ่ สร้างและบริหารโครงการช่อื วา่ "การไฟฟ้ ายนั ฮ"ี
เมอื่ พ.ศ. 2500 และหลงั เปิ ดดาเนนิ งานในปี พ.ศ. 2507 ได้เพยี งสามปี การไฟฟ้ ายนั ฮีมีกาไร
สะสม (หกั สว่ นทีช่ าระคนื เงินก้รู าวปี ละ 102 ล้านบาทแล้ว) ในปี พ.ศ. 2510 ถงึ
397.41 ล้านบาท และในปี พ.ศ. 2511 การไฟฟ้ ายนั ฮีได้ควบรวมกบั รัฐวสิ าหกิจ "การลิกไนต์"
และ "การไฟฟ้ าตะวนั ออกเฉียงเหนอื " เป็ นการไฟฟ้ าฝ่ ายผลติ แห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข่ือนภมู ิ
พลมีกาลงั ผลติ ไฟฟ้ า 779.2 MW
28
การเดนิ ทาง
ระยะทางจากกรุงเทพมหานครไปยงั จงั หวดั ตาก 425 กิโลเมตร ใช้
เวลาเดนิ ทางโดยรถยนต์ ประมาณ 7 ชวั่ โมง ไปตามทางหลวงแผ่นดนิ
หมายเลข 1 (พหลโยธิน) แยกซ้ายที่วงั น้อย เข้าทางหลวงแผ่นดนิ
หมายเลข 32 สายบางปะอนิ -นครสวรรค์ ผา่ นจงั หวดั กาแพงเพชร
แล้วตรงเข้าจงั หวดั ตาก และจากตวั เมอื งไปยงั เขื่อนภมู ิพลเป็ น
ระยะทางอีก 61 กโิ ลเมตร โดยเส้นทางทส่ี ะดวกและนยิ มใช้กนั คอื ไปตาม ทางหลวงแผน่ ดนิ
หมายเลข 1 ถงึ หลกั กโิ ลเมตร ท่ี 566 - 567 จะมที างแยกซ้ายเข้าเขอื่ นภมู ิพล ประมาณ 17
กโิ ลเมตร หรืออาจใช้เส้นทางหมายเลข 1107 ผ่านทางแยกไปเจดยี ์ยทุ ธหตั ถี อีก 25 กโิ ลเมตร
29
เขตรักษาพนั ธ์ุสตั ว์ป่ าท่งุ ใหญ่นเรศวร
เขตรักษาพนั ธ์สุ ตั วป์ ่ าทงุ่ ใหญน่ เรศวร เป็ นแหลง่ มรดกโลกของประเทศไทยโดยการขึน้
ทะเบียนของยเู นสโกร่วมกบั เขตรักษาพนั ธ์สุ ตั วป์ ่ าห้วยขาแข้ง ภายใต้ชอื่ เขตรักษาพนั ธ์สุ ตั วป์ ่ า
ทงุ่ ใหญ่-ห้วยขาแข้ง เม่อื ปี พ.ศ. 2534 กนิ พืน้ ท่ีครอบคลมุ 6 อาเภอ ของ 3 จงั หวดั ได้แก่ อาเภอ
บ้านไร่ อาเภอลานสกั อาเภอห้วยคต จงั หวดั อทุ ยั ธานี อาเภอสงั ขละบรุ ี อาเภอทองผาภมู ิ จงั หวดั
กาญจนบรุ ี และอาเภออ้มุ ผาง จงั หวดั ตาก มีพืน้ ที่ 2,279,500 ไร่ หรือ 3,647 ตาราง
กโิ ลเมตร โดยแบง่ ออกได้เป็ น
1. เขตรักษาพนั ธ์สุ ตั ว์ป่ าทงุ่ ใหญ่นเรศวรด้านตะวนั ออก อยู่ในพนื ้ ที่จงั หวดั ตาก
2. เขตรักษาพนั ธ์สุ ตั วป์ ่ าทงุ่ ใหญ่นเรศวรด้านตะวนั ตก อย่ใู นพืน้ ทีจ่ งั หวดั กาญจนบรุ ี ซง่ึ
พนื ้ ที่คงเหลือในนมี ้ เี นอื ้ ที่ 1,331,062 ไร่ โดยเขตรักษาพนั ธ์สุ ตั วป์ ่ าทงุ่ ใหญ่นเรศวรด้านตะวนั ตกมี
พืน้ ทีถ่ งึ 1,331,062 ไร่ เปรียบเทียบง่ายๆ คอื ใหญ่กวา่ กรุงเทพฯ เสยี อกี
ทงั ้ นชี ้ ือ่ "ท่งุ ใหญ่นเรศวร" สนั นษิ ฐานวา่ มาจากในสมยั อยธุ ยา สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช
ทรงเคยใช้เป็ นฐานท่ีมนั่ เพอ่ื เตรียมทาศกึ กบั พมา่
30
ลกั ษณะทางภมู ิศาสตร์
เขตรักษาพนั ธ์สุ ตั วป์ ่ าทงุ่ ใหญ่นเรศวร มี
ลกั ษณะทางภมู ิประเทศเป็ นภเู ขาสลบั ซบั ซ้อน และ
เป็ นต้นกาเนดิ ของแม่นา้ ลาธารทีส่ าคญั เช่น แม่นา้
แควน้อยและแม่นา้ แควใหญ่ พืน้ ที่ของเขตรักษาพนั ธ์ุ
สตั ว์ป่ าทงุ่ ใหญ่นเรศวร มคี วามสงู โดยเฉลยี่ มีความ
สงู อย่ทู ี่ ประมาณ 800–1,200 เมตรจาก
ระดบั นา้ ทะเล และมเี ขาใหญ่เป็ นยอดเขาทสี่ งู ทีส่ ดุ ของเขตรักษาพนั ธ์สุ ตั ว์ป่ าทงุ่ ใหญ่นเรศวรซงึ่ มี
ความสงู 1,800 เมตรจากระดบั นา้ ทะเล และเป็ นแหลง่ ทอี่ ยอู่ าศยั ของสตั ว์ป่ าหายากหลายชนิด
บางชนดิ ใกล้สญู พนั ธ์ุ หรือเป็ นสตั ว์เฉพาะถิน่ หรือสตั วถ์ น่ิ เดยี ว เชน่ ช้างป่ า, กระทิง, เสอื ชนดิ ตา่ ง
ๆ, ไก่ฟ้ าหลงั เทา, นกเงือก, เลยี งผา, เสือดาว, เสอื ดา, หมาใน, นกยงู ไทย และแมลงป่ าชนิดตา่ ง ๆ
อกี มากมาย
31
นา้ พุร้อนแม่กาษา
นา้ พรุ ้อนแมภ่ าษา ตงั ้ อย่ใู น ตาบลแมก่ าษา อาเภอแม่สอด จงั หวดั ตาก การเดนิ ทางไปนา้ พรุ ้อน
สะดวกสบาย ใช้เวลาเดนิ ทางเพยี งประมาณยส่ี ิบกวา่ นาที จากเมืองแมส่ อด นา้ พรุ ้อนแมก่ าษา
บริเวณโดยรอบบอ่ นา้ พรุ ้อนมปี ่ าไม้ทอี่ ดุ มสมบรู ณ์ทางธรรมชาติ มีการปรับปรงุ ตกแตง่ สนาม
หญ้าและสวนหย่อม มนี า้ พรุ ้อนให้สาหรับต้มไข่ มีบ่อนา้ แร่ให้แชเ่ ท้า และมีห้องอาบนา้ แร่ นา้ พุ
ร้อนแม่ภาษา เป็ นนา้ พขุ นาดเลก็ ท่ีล้อมรอบด้วยภเู ขาสงู และไร่นาของชาวบ้าน ผดุ ขนึ ้ มาจากดนิ
มคี วามร้อนประมาณ 70-80 องศาเซลเซยี ส ธารนา้ ร้อนท่พี ่งุ ออกมาผสมกบั นา้ จากผวิ ดนิ ที่เป็ น
นา้ เย็น เกดิ เป็ นธารนา้ อนุ่ มกี ล่ินกามะถนั อ่อนๆ และไอนา้ ลอยกรุ่นขนึ ้ มา ตานา้ ร้อนมี 2 แห่ง ถ้า
เป็ นแหง่ เล็กชาวบ้านนาหินไปวางล้อมไว้ ทีป่ ากบ่อจะมีนา้ เดอื ดผดุ ขนึ ้ มา สามารถต้มไขไ่ ด้ สว่ น
ตานา้ อกี แห่งมขี อบบ่อกนั ้ ไว้ สามารถต้มไขโ่ ดยแชท่ งิ ้ ไว้ประมาณ 10 นาที นา้ พรุ ้อนแม่ภาษา
เป็ นทีน่ ิยมของนกั ทอ่ งเท่ยี วมามากมายมานง่ั แช่เท้า โดยเฉพาะวนั หยดุ เสาร์ อาทติ ย์ ปัจจบุ นั มี
32
ห้องบริการอาบนา้ แร่และบอ่ อาบนา้ ซง่ึ ไม่มีกลนิ่ ฉนุ จากก๊าซกามะถนั สามารถแชน่ า้ ร้อนในห้อง
อาบนา้ ถ้าไปเป็ นหม่คู ณะ ห้องละ 300 บาท หรือแช่เท้านา้ อ่นุ ที่ไหลผา่ นธารนา้ ซงึ่ แช่ฟรี
ตรงกนั ข้ามกบั นา้ พรุ ้อนมีศาลเจ้าแม่
อษุ าทตี่ งั ้ อยกู่ ลางแม่นา้ และภเู ขาหนิ ปนู มี
สะพานแขวนเชือ่ มตอ่ ไปยงั ศาลสามารถเข้าไป
กราบไหว้ขอพร ซงึ่ วา่ กนั วา่ ศาลเจ้าแม่อษุ านนั ้
ศกั ดสิ์ ิทธิ์มาก เจ้าแม่อษุ าเป็ นมเหสีของเจ้า
พ่อพะวอ ซงึ่ ในอดตี เป็ นขนุ ศกึ ทนี่ าทพั หนพี ม่า
เข้ามาทางจงั หวดั ตาก ตอนนนั ้ เจ้าแม่อษุ า
กาลงั ตงั ้ ครรภ์ จึงพาไพร่พลหนีเข้าไปในถา้ และให้กาเนดิ บตุ รที่ถา้ แห่งนี ้หลงั จากนนั ้ เจ้าแมอ่ ษุ า
ก็อาศยั อย่ทู ีถ่ า้ นตี ้ ลอดจนสนิ ้ อายขุ ยั ชาวบ้านแถวนจี ้ ึงตงั ้ ศาลให้ช่ือวา่ ศาลเจ้าแม่อษุ า สว่ นขนุ พะ
วอได้กลายเป็ นเจ้าพอ่ พะวอ ซง่ึ เป็ นท่เี คารพสกั การะของชาวอาเภอแมส่ อด
33
วดั พระบรมธาตบุ ้านตาก
“วดั พระบรมธาต”ุ ตงั ้ อย่หู มทู่ ่ี 3 ตาบลเกาะตะเภา อาเภอบ้านตาก จงั หวดั ตาก การ
เดนิ ทางไปยงั ตวั วดั นกั ท่องเที่ยวสามารถมงุ่ หน้าไปทางสายเอเชยี หมายเลข 1 ตรงกิโลเมตรที่
442 เส้นทางจะไปยงั จงั หวดั ลาปางประมาณ 18 กโิ ลเมตร จากตวั เมอื งจงั หวดั ตากจนถึงทาง
แยกเข้า อาเภอบ้านตากขบั ไปอีก 1.5 - 2 กิโลเมตร ให้เลยี ้ วซ้ายเพ่อื ข้ามแมน่ า้ พอข้ามแม่นา้ ไป
จะเป็ นตลาดให้เบ่ยี งขวาตรงสามแยกเล็ก ๆ แถวตลาดขบั ไปเร่ือย ๆ ตามป้ าย ไม่เกนิ 10
กโิ ลเมตรก็จะถงึ ตวั วดั อยทู่ างซ้ายมือ
ตามประวตั คิ วามเป็ นมา วดั พระบรมธาตอุ ย่ทู างฝั่งตะวนั ตกของแม่นา้ ปิ ง เดมิ ทวี่ ดั แหง่ นี ้
เป็ นเมืองตากเก่า ก่อนที่จะมีการย้ายตวั เมืองไปอยทู่ ี่ ตาบลระแหง ซง่ึ เป็ นเมืองตากในปัจจบุ นั
หา่ งไปทางทศิ ใต้ประมาณ 30 กโิ ลเมตร อนั มปี ระวตั ยิ าวนานมาตงั ้ แตส่ มยั พระนางจามเทวี
ลอ่ งเรือเสดจ็ ไปเมืองลาพนู แล้วหยดุ พกั บริเวณแหง่ นี ้พบวา่ เป็ นเมอื งร้าง จงึ ได้สงั่ ให้มีการฟืน้ ฟู
34
บรู ณะเมืองจนกลายเป็ นชมุ ชนเมอื งตาก วดั พระบรมธาตุ ยงั ปรากฏในศลิ าจารึของพ่อขนุ
รามคาแหง ท่ที รงกระทายทุ ธหตั ถี ชนะศกึ เจ้าเมอื งฉอด บนเนินเขาใกล้กบั พระบรมธาตุ
ประมาณ 500 เมตร
ประวตั ิ
“วดั พระบรมธาตบุ ้านตาก” อยทู่ ่ี ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก ฝ่ังตะวนั ตกของแมน่ า้
ปิ ง เดมิ วดั แห่งนเี ้ป็ นเมืองตากเก่า กอ่ นทจี่ ะมีการย้าย
ตวั เมอื งไปอยทู่ ี่ ต.ระแหง ตวั เมอื งตากในปัจจบุ นั ห่างไปทางทิศใต้ประมาณ ๓๐ กิโลเมตร
อนั มีประวตั ยิ าวนานตงั ้ แตส่ มยั พระนางจามเทวี ลอ่ งเรือเสดจ็ ไปเมืองลาพนู หยดุ พกั บริเวณแหง่
นี ้พบวา่ เป็ นเมืองร้าง จงึ ได้สงั่ ให้มีการฟืน้ ฟบู รู ณะเมืองแหง่ นี ้จนกลายเป็ นชมุ ชนเมอื งตาก
วดั พระบรมธาตบุ ้านตาก ยงั ปรากฏในศลิ าจารึของพ่อขนุ รามคาแหง ทที่ รงกระทายทุ ธ
หตั ถี ชนะศกึ เจ้าเมอื งฉอด
บนเนนิ เขาใกล้กบั พระบรมธาตุ ประมาณ ๕๐๐ เมตร
ตามตานานพระเจ้าเลยี บโลก ซงึ่ เขยี นเป็ นภาษาเหนือ กลา่ วไว้วา่ สมเดจ็ พระสมั มาสมั
พทุ ธเจ้าได้เสดจ็ โปรดสตั วล์ ่องมาตามลานา้ ปิ ง พระองคไ์ ด้เสดจ็ มายงั ดอยมะหิยงั กะ ในเขตตวั
เมอื งตาก ตรัสกบั พระอานนท์วา่ สถานทนี่ เี ้ป็ นสถานทีส่ าราญ ร่มร่ืน หากเราตถาคตปรินิพพาน
แล้วให้นาอฐั ิและเกศากลบั มายงั ดอยมะหิยงั กะ
ภายหลงั จากสมเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจ้าปรินิพพาน พระอรหนั ตท์ งั ้ ๔ ได้นาพระบรมสา
ริกธาตขุ องพระองค์
35
พร้อมด้วยเกศาอกี ๔ องค์ มาประดษิ ฐานยงั ดอยมะหิยงั กะ แล้วก่อเจดยี ์รูปทรงสีเ่ หล่ียม
แล้ว นาพระบรม
สารีริกธาตบุ รรจไุ ว้ในพระเจดยี ์ เพอื่ เป็ นทสี่ กั การบชู าของมนษุ ย์และเทวดาทงั ้ หลายตอ่ มา
พระครูพทิ กั ษ์พระบรมธาตุ (ทองอย่)ู ได้ไปนมสั การพระธาตชุ เวดากอง ณ กรุงยา่ งก้งุ ประเทศ
พม่า ท่านจงึ ได้จามาก่อสร้างองคพ์ ระเจดยี ์ เหมือนเจดยี ์ชเวดากองล้อมคลมุ องคเ์ กา่ ไว้ ปิ ดทอง
สวยงาม
พระครูพิทกั ษ์บรมธาตุ (พาน) เจ้าอาวาสวดั พระบรมธาตบุ ้านตาก กล่าวถงึ ประวตั ขิ อง
หลวงพ่อทนั ใจ วดั พระบรมธาตบุ ้านตาก วา่ ตงั ้ แตส่ มยั ทีท่ า่ นเป็ นพระลกู วดั พระครูบาตา อดตี
เจ้าอาวาสองค์ก่อน ได้ปรึกษากบั ศรัทธาญาตโิ ยมวา่ มีความประสงคจ์ ะสร้างพระพทุ ธรปู ขนึ ้ สัก
๑ องค์ และศรัทธาญาตโิ ยมได้พร้อมใจร่วมกนั น่งุ ขาว ห่มขาว เร่ิมก่อพระพทุ ธรปู ก่ออิฐถือปนู
ปางมารวชิ ยั หน้าตกั ๓๒ นวิ ้ และลงรักปิ ดทองคาเปลว ก่อนประกอบพธิ ีพทุ ธาภเิ ษก ๑ วนั กบั ๑
คนื เสร็จพอดี
โดยคณะศรัทธาได้ตงั ้ ชื่อวา่ “พระเจ้าทนั ใจ” เพราะทาเสร็จเร็วทนั ใจ ตอ่ มามญี าตโิ ยม
ได้มาตงั ้ จติ อธิษฐาน ขออะไรกไ็ ด้สมความปรารถนา ทกุ สง่ิ ทกุ ประการ นบั เวลาจนปัจจบุ นั
ประมาณ ๒๐๐ กวา่ ปี มาแล้ว
36
ถา้ แม่อสุ ุ
เป็ นถา้ หนิ ปนู ทมี่ ขี นาดกว้างใหญ่ มีลานา้ แม่อสุ ไุ หลเข้าสปู่ ากถา้ ซงึ่ อยทู่ างด้านทศิ
ตะวนั ออกเฉียงใต้ แล้วไหลเวยี นไปออกด้านหลงั ถา้ ลงไปสแู่ มน่ า้ เมยซงึ่ อย่ทู างด้านทศิ ตะวนั ตก
เฉียงใต้ มรี ะยะทางโดยประมาณ 450 เมตร ปากถา้ กว้างประมาณ 20 เมตร สงู ประมาณ 6 เมตร
ภายในของถา้ มีคหู าใหญ่ๆ อยู่ 3 คหู า มหี นิ งอกหินย้อยท่ีสวยงามมาก เวลากลางวนั แสงอาทิตย์
ส่องลาดผา่ นปลอ่ งถา้ ลงมากระทบหนิ ทราย เกิดประกายแวววาว บริเวณปากทางเข้าถา้ มี
เจ้าหน้าท่นี าเทยี่ วชมภายใน ทางเดนิ ในถา้ คอ่ นข้างสะดวก มเี พยี งบางชว่ งท่ีต้องปี นป่ ายก้อนหนิ
บ้าง ใช้เวลาเทีย่ วชมประมาณ 1 ชวั่ โมง ในช่วงฤดฝู นระดบั นา้ ในถา้ จะขนึ ้ สงู จนไม่สามารถเข้าไป
ในถา้ ได้ ถา้ แมอ่ สุ จุ งึ เท่ยี วได้เฉพาะในชว่ งฤดหู นาวและฤดแู ล้ง ถา้ แมอ่ สุ อุ ย่หู ่างจากอาเภอท่า
สองยางตามทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 105 สายแมส่ อด – แมส่ ะเรียง ระยะทางประมาณ 13
กโิ ลเมตร เลยี ้ วซ้ายตามถนน รพช. ผา่ นบ้านทีโนะโคะ ระยะทาง 2 กโิ ลเมตร ถงึ ถา้ แม่อสุ ุ
37
อทุ ยานแห่งชาตแิ ม่เมย
ลกั ษณะภมู ิประเทศทว่ั ไปของอทุ ยานฯ ส่วนมากเป็ นภเู ขาสลบั ซบั ซ้อนมีท่ีราบน้อยมาก
ความสงู ของยอดเขาโดยเฉลย่ี ประมาณ 680-1,250 เมตร จากระดบั นา้ ทะเล ปกคลมุ ไปด้วยป่ าที่
คอ่ นข้างสมบรู ณ์ เป็ นแหลง่ ต้นนา้ ทสี่ าคญั ของลานา้ แม่สอง ลานา้ แมอ่ สุ ุ ลานา้ แม่สลิดหลวง และ
ลานา้ แม่เมย สาหรับสถานที่ท่องเท่ยี วท่นี า่ สนใจในอทุ ยานฯ ส่วนใหญ่จะเป็ นจดุ ชมววิ บนยอด
เขา และนา้ ตก ซงึ่ จะมถี นนเข้าถงึ เป็ นสว่ นใหญ่ ทาให้เดนิ ทางทอ่ งเทยี่ วได้สะดวก
จดุ ชมทวิ ทศั น์ของอทุ ยานฯ มอี ย่หู ลายแหง่ ด้านหลงั ท่ีทาการอทุ ยานฯ เป็ นจดุ ชมววิ ทะเล
หมอกในช่วงฤดหู นาวทส่ี วยงาม เส้นทางเดนิ ขนึ ้ ไปยงั จดุ ชมววิ นยี ้ งั เหมาะสาหรับนักเดนิ ป่ า
เพราะต้องเดนิ เท้าขนึ ้ ไปประมาณ 3-4 ชวั่ โมง บนถนนหากขบั รถเลยจากท่ีทาการอทุ ยานฯ ไปไม่
ไกลนกั มจี ดุ ชมววิ ม่อนกระทิง เป็ นเนนิ เขาเตยี ้ ๆ แตว่ วิ สวย เลยม่อนกระทงิ ขนึ ้ ไปเป็ นจดุ ชมววิ
มอ่ นพนู สดุ า เป็ นจดุ ชมววิ ทะเลหมอกท่สี วยงามมากอีกแหง่ หนง่ึ
38
บนถนนเส้นเดยี วกนั นีค้ ณุ ยงั สามารถขบั
รถไปจนถงึ จดุ ชมววิ มอ่ นครูบาใส ซงึ่ อย่หู า่ งจาก
มอ่ นพนู สดุ าเพยี ง 200 เมตร เป็ นจดุ ชมววิ ที่
สามารถดทู ะเลหมอก และพระอาทิตย์ตกดนิ ได้
อย่างสวยงาม สว่ นมอ่ นกิ่วลม เป็ นจดุ ชมววิ พระ
อาทิตย์ขนึ ้ ทสี่ วยงามทสี่ ดุ บนเส้นทางสายแม่
สลิดหลวง-แมร่ ะเมิง สามารถมองเหน็ ทะเลหมอกปกคลมุ หบุ เขาเบอื ้ งล่าง โดยมียอดเขาสงู ตา่ งๆ
โผลเ่ หลือให้เห็นเพียงยอด นอกจากนยี ้ งั มอี ากาศทเ่ี ย็นสบายตลอดทงั ้ ปี เพราะตงั ้ อยบู่ ริเวณท่ี
เป็ นช่องลมพดั ผา่ นตลอดเวลา
นอกจากจดุ ชมทิวทศั น์แล้ว ทน่ี ีย่ งั มีนา้ ตกนา่ เทย่ี วอย่ดู ้วย เช่น นา้ ตกแม่ระเมิง นา้ ตกแม่
สลิดน้อย และนา้ ตกชาวดอย และส่ิงทีค่ ณุ พลาดไม่ได้นนั่ คอื การได้มาเทยี่ วถา้ แมอ่ สุ ุ เป็ นถา้
หินปนู ขนาดใหญ่โดยมลี านา้ แม่อสุ ไุ หลผา่ น ระยะทางกวา่ 450 เมตร ภายในมีคหู าใหญ่ๆ 3 คหู า
ซง่ึ มีหินงอกหินย้อยทงี่ ดงามแปลกตามากมาย ใช้เวลาเดนิ เที่ยวประมาณ 1 ชว่ั โมง ในฤดฝู น นา้
ในถา้ จะขนึ ้ สงู ไม่สามารถเทีย่ วชมได้ ช่วงทีเ่ หมาะท่ีสดุ คอื ฤดหู นาว และฤดแู ล้งเท่านนั ้
ท่ตี งั ้ : ตาบลแม่สอง อาเภอท่าสองยาง จงั หวดั ตาก
การเดนิ ทาง: จากจงั หวดั ตากมาอาเภอแมส่ อด และอาเภอท่าสองยางระยะทาง 84
กโิ ลเมตร จากอาเภอทา่ สองยางใช้ทางหลวงหมายเลข 105 (แมส่ อด-แมส่ ะเรียง) ระยะทาง 33
กิโลเมตร ถึงทางแยกแม่สลิดหลวงเลยี ้ วขวาตามทางหลวงหมายเลข 1267 (แม่สลดิ -อมก๋อย)
ระยะทางอกี 11 กิโลเมตร ถงึ ที่ทาการอทุ ยานฯ
39
ศาลเจ้าพ่อขุนสามชน
ท่อี ยู่
บ้านห้วยหินฝน ถนนทางหลวงหมายเลข 105 แม่สอด, ตาก
ตงั ้ อย่ทู างขวามอื ทางหลวงหมายเลข 105 (ตาก-แม่สอด) ระหวา่ งหลกั กโิ ลเมตรที่ 70-71
ศาลนเี ้พ่ิงสร้างเสร็จและทาพิธีเปิ ดเมื่อปลายปี 2523
กลา่ วกนั วา่ เหตทุ ีส่ ร้างศาลแห่งนสี ้ ืบเน่อื งจากคหบดผี ้หู นง่ึ ได้เจ็บป่ วยด้วยโรคอมั พาตมา
ช้านาน จนมีผ้มู าเข้าฝันบอกให้สร้างศาลแหง่ นขี ้ นึ ้ ตรงพืน้ ทใี่ นปัจจบุ นั ทา่ นจงึ ได้สร้างศาลถวาย
และเรียกวา่ ศาลเจ้าพอ่ ขนุ สามชน นบั แตน่ นั ้ มา อาการของคหบดผี ้นู นั ้ ก็หายเป็ นปลิดทงิ ้ เมอ่ื
เร่ืองราวนไี ้ ด้แพร่กระจายออกไป ชาวบ้านจงึ พากนั เดนิ ทางเข้ามาสกั การะ และให้ความเคารพ
ศาลนกี ้ นั อย่างอ่นุ หนาฝาคง่ั อยา่ งไรก็ตาม ศาลเจ้าพอ่ ขนุ สามชนแหง่ นี ้มที ี่มาทีเ่ กี่ยวพนั กบั
ตานานพ่อขนุ สามชน เจ้าเมอื งฉอดในอดตี ซง่ึ ก็คอื อาเภอแมร่ ะมาดในปัจจบุ นั โดยพอ่ ขนุ สามชน
40
นนั ้ เป็ นราชบตุ รองคโ์ ตของพ่อขนุ จนั คาเหลอื ง เจ้า
เมอื งฉอด และ เจ้าแตงออ่ น (เจ้ามกุ ขวด)ี ครัน้ พอ่
ขนุ จนั คาเหลืองสวรรคตแล้ว พอ่ ขนุ สามชนราชบตุ ร
ก็ได้สืบราชสมบตั ใิ นเมอื งฉอดแทนพระราชบิดา โดย
มเี จ้าแมม่ โนราห์เป็ นพระชายา หลงั จาก
สืบราชสมบตั ไิ ด้ไมน่ าน พระองคก์ เ็ ร่ิมทาสงครามแผข่ ยายอาณาเขตเพราะความเป็ นขนุ ศกึ
ผ้เู ชย่ี วชาญเชงิ ยทุ ธ์ และเหตทุ พี่ ่อขนุ สามชนทาศกึ กบั สโุ ขทยั นนั ้ เกิดเพราะความเข้าใจผดิ กนั ทา
ให้เกดิ ศกึ สงครามซง่ึ ต้องสญู เสียชีวติ คนไทยท่ีบาดเจ็บล้มตายเป็ นจานวนมาก ครัน้ ภายหลงั
พระองคท์ รงทราบถงึ ความจริง กร็ ู้สกึ เสยี พระทยั จึงได้ตดั สนิ พระทยั สละราชสมบตั ใิ ห้ พ่อขนุ พฒุ
วงษ์ยนต์หงษ์ พระอนชุ า และได้ตรัสสอนวา่ ให้ดแู ลทกุ ข์สขุ ของราษฎรทกุ คนเหมอื นลกู หลาน จง
รวมคนไทยท่แี ตกแยกเข้าด้วยกนั และหากเกดิ ศตั รูทเี่ ป็ นคนตา่ งชาตจิ ะมาเอาแผ่นดนิ กจ็ งรวม
พลงั ตอ่ ส้เู พื่อผืนแผน่ ดนิ ไทย
41
เนินพศิ วง
นครแม่สอด- เนนิ พศิ วงแม่สอด ภาพลวงตาหรือความศกั ดส์ิ ิทธ์ิ สิง่ มหศั จรรย์ ท่ีขนุ เขาเจ้า
พ่อพะวอ…. “แตเ่ รา เชือ่ เพราะความมหศั จรรย์ -ไมใ่ ชแ่ คภ่ าพลวงตา” เนินพศิ วงแม่สอด อยู่
บริเวณกิโลเมตรที่ 68 ถนนสายเมืองตาก –นครแมส่ อด ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก มคี าถาม
มากมาย วา่ สง่ิ ทีเ่ ห็นหรือสง่ิ ท่ีเกิดขึน้ คอื ภาพลวงตา หรือความศกั ดส์ิ ทิ ธิ์สิง่ มหศั จรรย์ทีข่ นุ เขาพะ
วอ …แตค่ นแม่สอดดงั ้ เดมิ บอกวา่ นนั่ คอื ความศกั ดสิ์ ทิ ธิ์และสง่ิ มหศั จรรย์ เหตเุ พราะจนถงึ วนั นี ้
ก็ยงั ไม่มผี ้ใู ดสามารถบอกได้เลยวา่ เหตใุ ดจึงมองเหน็ เป็ นภาพลวงตาเชน่ นนั ้ ได้ คาตอบที่วา่ นนั่
คอื ส่งิ ศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ ของแม่สอด จงึ มีความเป้ นไปได้เช่นกนั … เนินพศิ วงแม่สอด มลี กั ษณะเป็ นทาง
ขนึ ้ เนินทแ่ี ปลก คอื เม่อื นารถไปจอดไว้ตรงทางขนึ ้ เนินโดยไม่ได้ตดิ เคร่ืองรถจะไหลขนึ ้ เนนิ ไปเอง มี
นกั วทิ ยาศาสตร์ได้พิสจู น์ถงึ สาเหตนุ พี ้ บวา่ เกดิ จากเป็ นภาพลวงตา เนอื่ งจากได้มีการวดั ระดบั
ความสงู ของเนนิ ลกู นแี ้ ล้วปรากฏวา่ ช่วงทม่ี องเหน็ เป็ นทสี่ งู นนั ้ มรี ะดบั ความสงู ตา่ กวา่ ช่วงทเ่ี ห็น
เป็ นทางลงเนิน ดงั นนั ้ รถทเี่ รามองเหน็ ไหลขนึ ้ นนั ้ ทจ่ี ริงไหลลงส่ทู ต่ี า่ กวา่ แตก่ ไ็ มม่ ีผ้ใู ดสามารถ
42
บอกได้วา่ เหตใุ ดจงึ มองเหน็ เป็ นภาพลวงตาเช่นนนั ้ ได้ ความสงสยั วา่ เนินพิศวง! อาจจะไม่ใชแ่ ค่
ภาพลวงตา นนั่ คอื ความเป็ นไปได้เชน่ กนั
วนั นเี ้นนิ พศิ วงแม่สอด กย็ งั คงเป็ นปัญหาคาใจสาหรับอกี หลายๆคนทย่ี งั ไม่ทราบคาตอบที่
แน่ชดั ถงึ แม้จะมีการพสิ จู น์ออกมาแล้ววา่ มนั เป็ นภาพลวงตา ก็ตาม …และทาไมในเมือ่ มนั เป็ น
ภาพลวงตา แล้วทกุ คนมองเหน็ พร้อมกนั และเห็นเหมือนกนั อกี นอ่ี าจเป็ นปัญหาทีส่ งสยั และคา
ใจอีกหลายๆคน …เนนิ พิศวง ที่นครแมส่ อด อ.แมส่ อด จงั หวดั
ตาก ที่อยบู่ ริเวณกโิ ลเมตรที่ 68 สายตาก – แมส่ อด นน่ั พบเมือ่
กวา่ 50 ปี ท่แี ล้ว ตอนนนั ้ เป็ นถนน 2 เลน มีรถทวั ร์โดยสารไป
จอดแล้วดบั เครื่องยนต์ ปรากฏวา่ รถไหลขนึ ้ เนิน ทาให้ทกุ คน
ตกใจ วนั นกี ้ รมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้ปรับปรงุ และ
กอ่ สร้างถนน 4 เลน 4 ชอ่ งทางจราจรแล้ว จาก 2 เลน เป็ น 4
เลน เนินพศิ วงแมส่ อด ก็ยงั คงมหศั จรรย์ เชน่ เดมิ รถไหลขนึ ้ จ่กภาพทมี่ องวา่ ตา่ กวา่ ไปยงั จดุ ภาพ
ทีส่ งู …..เราคนแม่สอด ผมคนแม่สอด และ ณ.วนั นี ้จนวนั นผี ้ มยงั เช่อื วา่ “เป็ นความศกั ดสิ์ ิทธิ์และ
ความมหศั จรรย์ แหง่ ขนุ เขาเจ้าพ่อพะวอ มากกว่า เป็ นแคเ่ นินพิศวง จากภาพลวงตา
43
อุทยานแห่งชาตนิ า้ ตกพาเจริญ
ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของอทุ ยานแหง่ ชาตนิ า้ ตกพาเจริญ สว่ นใหญ่เป็ นภเู ขาสลบั ซบั ซ้อน
วางตวั ไปตามแนวเหนอื ใต้ โดยมพี ืน้ ที่ราบเลก็ น้อยตามลานา้ พืน้ ที่ของอทุ ยานฯ ยงั ตงั ้ อย่ใู นเขต
ลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉียงใต้ทาให้มีฝนตกชกุ ตลอดทงั ้ ปี อากาศเยน็ สบาย เกดิ เป็ นลานา้ มากมาย
เชน่ ห้วยแม่ละเมา ห้วยอ้มุ เปี ย้ ม ห้วยแม่สอด ห้วยแมด่ าว เป็ นต้น สถานท่ีทอ่ งเท่ียวส่วนใหญ่ใน
เขตอทุ ยานฯ จึงมนี า้ ตกมากมายหลายแหง่ นนั่ เอง
สถานที่ท่องเทยี่ วทเี่ ป็ นจดุ หมายของอทุ ยานฯ นคี ้ อื การได้มาเทยี่ วชมความงามของนา้ ตก
พาเจริญ ซงึ่ เป็ นนา้ ตกหินปนู ที่เกิดจากลาห้วยนา้ นกั มคี วามสงู มากถึง 97 ชนั ้ มนี า้ ไหลตลอดทงั ้
ปี แตช่ ่วงท่สี วยงามมากที่สดุ ทีม่ นี า้ ไหลผ่านชนั ้ หนิ ปนู เป็ นแผน่ กระจายไปทว่ั คอื ฤดฝู นและฤดู
หนาว ช่วงฤดแู ล้งนนั ้ ปริมาณนา้ จะน้อย การเดนิ ทางไปชมนา้ ตกคอ่ นข้างสะดวก เพราะตงั ้ อยู่
ใกล้ท่ีทาการอทุ ยานฯ
44
นอกจากนา้ ตกพาเจริญแล้ว ยงั มีนา้ ตกสวยๆ อีกหลายแหง่ ท่เี กิดจากความอดุ มสมบรู ณ์
ของธรรมชาตทิ คี่ ณุ ไมค่ วรพลาด หากมีเวลาพอจะแวะเข้าไปเทยี่ วนา้ ตกธารารักษ์ นา้ ตกนาง
ครวญ นา้ ตกป่ าหวาย นา้ ตกสายฟ้ า หรือท่เี รียกวา่ นา้ ตกสายรุ้ง และนา้ ตกห้วยตะปเู คาะด้วยกไ็ ด้
นอกจากนี ้ยงั มจี ดุ ชมทิวทศั น์ทีด่ อยเก๊ีย ซงึ่ เป็ นจดุ สงู สดุ ตงั ้ อยบู่ ริเวณชายแดนไทย-พม่า
เหมาะสาหรับการชมทิวทศั น์แมน่ า้ เมย และผืนป่ าอนั อดุ สมบรู ณ์ทงั ้ ในฝั่งประเทศไทยและ
ประเทศพมา่ นอกจากนยี ้ งั มวี วิ ทะเลหมอกในยามเช้าในฤดหู นาวด้วย
การเดนิ ทาง: จากตวั เมืองตากใช้ทางหลวงหมายเลข
105 เมื่อถงึ อาเภอแม่สอดเลยี ้ วซ้ายเข้าทางหลวง
หมายเลข 190 จนถงึ กิโลเมตรท่ี 37 จะมีทางแยกเข้าไป
ยงั ท่ที าการอทุ ยานฯ ระยะทางประมาณ 700 เมตร
45
ดอยสอยมาลัย
อทุ ยานแห่งชาตดิ อยสอยมาลยั (เตรียมการ) เปิ ดให้นกั ทอ่ งเที่ยวขนึ ้ ไปสมั ผสั บรรยากาศ
เย็นสบาย กางเตน็ ท์ชมววิ ทะเลหมอกได้แล้ว โดยช่วงฤดหู นาวระหวา่ งเดอื น พ.ย.-ม.ค. เป็ นชว่ งที่
เหมาะแกก่ ารท่องเท่ยี วท่สี ดุ
สาหรับ “ดอยสอยมาลยั ” ตงั ้ อยใู่ นเขตรักษาพนั ธ์สุ ตั ว์ป่ าแม่ตน่ื จ.ตาก และ จ.เชียงใหม่
ยอดดอยอยสู่ งู กวา่ ระดบั นา้ ทะเลประมาณ 1,664 เมตร และเป็ นยอดเขาสงู ทส่ี ดุ ของเขตรักษา
พนั ธ์สุ ตั วป์ ่ าแมต่ น่ื ซง่ึ สภาพป่ าโดยทวั่ ไปของดอยสอยมาลยั เป็ นป่ าสนเมอื งหนาว ทาให้ในช่วงนี ้
อากาศดเี หมาะแก่การท่องเท่ียวทีส่ ดุ
บนยอดดอยสอยมาลยั สามารถมองเหน็ ทิวทศั น์และความงดงามของอา่ งเกบ็ นา้ เขอื่ นภมู ิ
พลได้ รวมถึงยงั เป็ นจดุ กางเตน็ ท์ที่ในตอนเช้าสามารถเดนิ ไปชมทะเลหมอกได้อีกด้วย ซงึ่ จากจดุ
กางเตน็ ท์แล้วจะเดนิ ไปชมพระอาทติ ย์ขนึ ้ ได้ไม่ไกลกนั นกั และนอกจากการขึน้ ไปกางเตน็ ท์ชมววิ
46
ทะเลหมอกแล้ว ด้านบนยงั มเี ส้นทางเดนิ
ป่ าระยะทางประมาณ 3 กม. ให้เดนิ กอ่ น
ไปถึงจดุ กางเตน็ ท์อกี ด้วย
โดยจดุ กางเตน็ ท์มีด้วยกนั 3 จดุ
ได้แก่ หนว่ ยต้นนา้ เขอ่ื นภมู ิพล ห่างจาก
ยอดดอยประมาณ 5 กม., บริเวณยอด
ดอย (จดุ สงู สดุ ), หน่วยจดั การต้นนา้ กรม
ป่ าไม้ เลยยอดดอยไปประมาณ 5 กิโลเมตร
ซง่ึ ก่อนขนึ ้ ไปพิชิตดอยสอยมาลยั ได้นนั ้ ต้องขออนญุ าตทีห่ นว่ ยพทิ กั ษ์ป่ าก่ิวสามล้อก่อน
ทกุ ครัง้ และขอให้นกั ท่องเทยี่ วปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบทเ่ี จ้าหน้าท่ีแนะนาอย่างเคร่งครัด
47
อทุ ยานแห่งชาตคิ ลองวงั เจ้า
ความโดดเดน่ ของอทุ ยานแห่งชาตคิ ลองวงั เจ้าทน่ี กั ท่องเท่ียวรู้จกั มาช้านานคอื การมี
สถานทท่ี อ่ งเทีย่ วทางด้านนา้ ตกท่สี วยงามหลายแห่งตงั ้ อยใู่ นบริเวณเดยี วกนั ไมว่ า่ จะเป็ นนา้ ตก
เตา่ ดาอนั ย่ิงใหญ่ ทแ่ี ม้จะเดนิ ทางไปชมด้วยความยากลาบากแตก่ ค็ ้มุ คา่ แก่การไปเยอื น รวมไป
ถึงบริเวณท่ีทาการอทุ ยานฯ ทีม่ เี ส้นทางศกึ ษาธรรมชาตใิ ห้แวะเข้าไปชมนา้ ตกสวยอกี หลายแห่ง
ได้แก่ นา้ ตกคลองวงั เจ้า นา้ ตกกระแตไตไ่ ม้ นา้ ตกคลองสมอกล้วย และนา้ ตกนาฬกิ าทราย
ทงั ้ หมดคอื ธรรมชาตอิ นั งดงามของสายนา้ ท่ีมอี ยใู่ นอทุ ยานแหง่ ชาตคิ ลองวงั เจ้าแห่งนี ้
อทุ ยานแห่งชาตคิ ลองวงั เจ้า ตงั ้ อยใู่ นพนื ้ ที่อาเภอคลองลาน จงั หวดั กาแพงเพชร และกิง่
อาเภอวงั เจ้า จงั หวดั ตาก รวมเนอื ้ ท่ีประมาณ 466,875 ไร่ หรือประมาณ 747 ตารางกิโลเมตร
พนื ้ ทีโ่ ดยรอบประกอบไปด้วยป่ าอนั อดุ มสมบรู ณ์ และยงั เป็นต้นนา้ ลาธารของแม่นา้ ปิง จงึ ไม่
แปลกทอี่ ทุ ยานแหง่ นีจ้ ะมสี ถานที่ท่องเทย่ี วทางด้านนา้ ตกอนั สวยงามหลายแหง่ นอกจากนพี ้ นื ้ ที่
บริเวณอทุ ยานฯ ยงั เป็ นพนื ้ ทสี่ ว่ นหนง่ึ ของลมุ่ นา้ ปิง ประกอบไปด้วย 2 ล่มุ นา้ ได้แก่
48
ลมุ่ นา้ คลองวงั เจ้า และล่มุ นา้ คลองสวนหมาก โดยนกั ท่องเทีย่ วจานวนไมน่ ้อยนิยมมาพกั ผอ่ น
เลน่ นา้ บริเวณลานกางเตน็ ทภ์ ายในที่ทาการอทุ ยานฯ เพราะบรรยากาศอนั สนุ ทรีย์ของล่มุ นา้
เหลา่ นไี ้ หลผ่านนน่ั เอง
ภายในอทุ ยานแหง่ ชาตคิ ลองวงั เจ้ามีสถานทีท่ ่องเที่ยวนา่ สนใจหลายแห่งด้วยกนั อนั ดบั
หนึง่ ทคี่ ณุ ไมค่ วรพลาดคอื นา้ ตกเตา่ ดา ตงั ้ อย่หู ่างจากทที่ าการอทุ ยานฯ ประมาณ 34 กโิ ลเมตร
ซงึ่ รถยนต์ทส่ี ามารถเข้าถงึ นา้ ตกเตา่ ดาควรเป็ นรถยนต์ขบั เคลอื่ น 4 ล้อเทา่ นนั ้ โดยไปตาม
เส้นทางหมบู่ ้านโละโคะจนสดุ ทางทปี่ ่ าไผ่ จากนนั ้ เดนิ เท้าลงเขาประมาณ 500 เมตรจะพบนา้ ตก
นา้ ตกเตา่ ดาลกั ษณะเป็ นนา้ ตกขนาดใหญ่ แบง่ ออกเป็ น 3 ชนั ้ แตล่ ะชนั ้ มคี วามสงู กวา่ 200 เมตร
โดยเฉพาะชนั ้ ที่ 3 ท่ีมคี วามสงู ประมาณ 270 เมตร รวมแล้วนา้ ตกเตา่ ดามคี วามสงู ถึง 600 เมตร
ซงึ่ ความงดงามของนา้ ตกเตา่ ดา คอื สายนา้ ท่ไี หลตงั ้ ฉากลงมาอยา่ งยง่ิ ใหญ่ตระการตานน่ั เอง
49
นา้ ตกสวยขนึ ้ ช่อื อกี แหง่ หนึ่งของอทุ ยาน
แหง่ ชาตคิ ลองวงั เจ้า คอื นา้ ตกคลองวงั เจ้า ตงั ้ อยู่
บนถนนสายวงั เจ้า-โละโคะ บริเวณกโิ ลเมตรที่ 29
ลกั ษณะเป็ นนา้ ตกขนาดกลางชนั ้ เดยี ว ไหลทงิ ้ ตวั
เป็ นแนวตงั ้ ฉากประมาณ 60 เมตร กว้าง 100 เมตร
บริเวณนา้ ตกเหมาะแกก่ ารพกั ผ่อนเล่นนา้ นา้ ตกคลองวงั เจ้า นบั เป็ นนา้ ตกท่สี วยงามและเป็ นที่
นยิ มของนกั ท่องเทย่ี วเสมอมา
ภายในบริเวณที่ทาการอทุ ยานฯ ยงั มีเส้นทางเดนิ ป่ าศกึ ษาธรรมชาตพิ ร้อมชมนา้ ตกสวย
ถึง 3 แหง่ อีกด้วย โดยเร่ิมต้นที่บริเวณทที่ าการอทุ ยานฯ จากนนั ้ ประมาณ 800 เมตร คณุ จะพบ
นา้ ตกคลองสมอกล้วย นา้ ตกขนาดกลางสงู 5 ชนั ้ ลกั ษณะทงิ ้ ตวั ลงมาในแนวดงิ่ มสี บี ษุ ราคมั ให้
ความรู้สึกแปลกตากวา่ นา้ ตกอืน่ ๆ จากนนั ้ เดนิ เท้าตอ่ ประมาณ 900 เมตร คณุ จะพบนา้ ตก
กระแตไตไ่ ม้ เป็ นนา้ ตกขนาดเล็กท่มี แี อ่งนา้ ให้เล่น นบั เป็ นจดุ แวะพกั เหนื่อยได้เป็ นอยา่ งดี โดยชื่อ
ตงั ้ มาจากเฟินกระแตไตไ่ ม้ทีม่ ีขนึ ้ อย่เู ป็ นจานวนมากในบริเวณนนั ้
หา่ งจากนา้ ตกกระแตไตไ่ ม้ประมาณ 200 เมตร คณุ จะพบนา้ ตกแห่งสดุ ท้าย ได้แก่ นา้ ตก
นาฬกิ าทราย ลกั ษณะขนาดเลก็ ท่สี งู ประมาณ 20 เมตร สายนา้ ทีไ่ หลลงมามลี กั ษณะเป็ นรปู
คล้ายนาฬิกาทรายท่ีมชี ีวติ เคล่อื นไหวตลอดเวลา เบอื ้ งล่างมีแอง่ นา้ ให้เลน่ คลายเหน่ือยได้อยา่ งดี
นา้ ตกนาฬิกาทรายเป็ นปลายทางของเส้นทางสายนี ้ขากลบั ต้องเดนิ ย้อนกลบั เส้นทางเดมิ ซง่ึ คณุ
จะได้สมั ผสั กบั ความงดงามของนา้ ตกที่เคยผา่ นมาอกี ครัง้ หนงึ่ เส้นทางศกึ ษาธรรมชาตสิ ายนคี ้ ณุ
ต้องมีเจ้าหน้าทนี่ าทางไปด้วย โดยสามารถตดิ ตอ่ ได้ท่ีบริเวณท่ีทาการอทุ ยานฯ