The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลปฏิบัติงาน สมาคมแม่บ้านมหาดไทย_compressed

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by cinniek19, 2022-08-03 08:44:07

รายงานผลปฏิบัติงาน สมาคมแม่บ้านมหาดไทย_compressed

รายงานผลปฏิบัติงาน สมาคมแม่บ้านมหาดไทย_compressed

คำ นำ

สมาคมแม่บ้านมหาดไทย ภายใต้การนำของ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้าน
มหาดไทย ได้มีนโยบายให้ชมรมแม่บ้านมหาดไทยในแต่ละจังหวัดร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญ
ของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย โดยมีนโนบายที่สำคัญ ดังนี้

๑. น้อมนำแนวพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” มาจัดทำโครงการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารโดยการปลูก
ผักสวนครัวในทุกครัวเรือน

๒. ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด- 19 อย่างทั่วถึง ตามเป้าหมาย
ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

๓. ส่งเสริมการสร้างสุขอนามัยให้แก่เด็กและแม่ เติบโตอย่างถูกต้องตามเกณฑ์มาตรฐานสุขลักษณะ
๔. น้อมนำแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา “ผ้าไทยใส่
ให้สนุก” มาจัดทำโครงการส่งเสริมการใช้ผ้าไทย เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้
๕. โครงการ “ครอบครัวมหาดไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” โดยจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน เพื่อการคัดแยก
ขยะแห้ง ขยะเปียกให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์
นอกจากนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี
พันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕ สมาคมแม่บ้าน
มหาดไทยได้ขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรม สำคัญ ๔ โครงการ ได้แก่
(๑) โครงการ “ส่งเสริมการใช้ผ้าไทย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕”
โดยประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและสมาชิก เชิญชวนพี่น้องประชาชน
ในจังหวัดให้มาร่วมกันสวมใส่ผ้าไทยเพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญา ส่งเสริมอาชีพและรายได้
(๒) โครงการ “บ้านปันสุข” ด้วยความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายสร้างบ้านที่มั่นคงและแข็งแรงให้กับครัวเรือน
ที่ยากจน
(๓) โครงการ “รถเข็นคนพิการปันสุข” ให้กับผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้สูงอายุที่ไม่มีทุนทรัพย์ ด้วยการ
ระดมสรรพกำลังในจังหวัดจัดหารถเข็นมอบให้กับครัวเรือนเป้าหมาย
(๔) สมาคมแม่บ้านมหาดไทยร่วมกับชมรมแม่บ้านมหาดไทยทุกจังหวัด นำเอาผ้าอัตลักษณ์ของแต่ละ
ท้องถิ่นมาประดิษฐ์เป็นผีเสื้อ จังหวัดละ ๙๐ ตัว ไปประดับตกแต่งตลอดถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ ตั้งแต่
พระที่นั่งอนันตสมาคมถึงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อเป็นประจักษ์พยานความจงรักภักดีผ่านผืนผ้า
ที่พวกเราสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานพระองค์ท่าน
ทั้งนี้ ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี ได้ขับเคลื่อนงานของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย
และงานของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือ “การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข” เพื่อช่วยกันChange for Good
สร้างสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคมไทย



ส า ร บั ญ หน้า



๑. ความเป็นมาของจังหวัดปราจีนบุรี

เคยเป็นดินแดนที่มีความเจริญรุ่งเรืองมายาวนาน ปรากฏการตั้งถิ่นฐานของชุมชน
โบราณเมื่อประมาณ ๒๐๐๐ - ๒๕๐๐ ปี ที่แหล่งโบราณคดีบ้านกระทุ่มแพ้ว ตำบลกระทุ่มแพ้ว อำเภอบ้านสร้าง
บ้านหนองอ้อ ตำบลดงพระราม อำเภอเมืองปราจีนบุรี และบ้านดงชัยมัน ตำบลประจันตคาม อำเภประจันตคาม
โบราณวัตถุที่พบได้แก่ ลูกปัดแก้วแบบอินโด - แปซิฟิก สีต่างๆ ลูกปัดหิน คาร์เนเลียน หินอะเกต และหินควอตซ์
เครื่องมือเหล็กซึ่งแสดงให้เห็นถึงการติดต่อสัมพันธ์กับชุมชนโบราณใกล้เคียงและอินเดียโดยเฉพาะที่บ้านดงชัยมัน
ได้พบชิ้นส่วนกลองมโหระทึก ซึ่งเป็นโบราณวัตถุในวัฒนธรรมดงชอนเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมซึ่งพบทางตอนใต้ของจีน
และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งประเทศไทยและยังพบหลักฐานเป็นซากเมืองโบราณที่เรียกว่า
“เมืองศรีมโหสถ”ที่ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถและบริเวณบ้านโคกขวาง อำเภอศรีมหาโพธิ บริเวณซากเมืองโบราณ
เหล่านี้มีซากโบราณสถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรมศาสนกิจและโบราณวัตถุ ได้แก่ พระพุทธรูป เทวรูป เครื่องปั้นดินเผา
เครื่องสำริดซึ่งเป็นเครื่องมือและเครื่องใช้กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ต่อมาศูนย์กลางความเจริญได้ย้ายมาตั้งอยู่ริมแม่น้ำ
บางประกง ดังเช่นปัจจุบัน

“เมืองปราจีน” เป็นชื่อที่เรียกกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และยังต่อมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
ตอนต้นเรียกว่า “เมืองปราจิณ” หรือ “มณฑลปราจิณ”จวบจนสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จัดระเบียบการปกครองแผ่นดินตามแบบต่างประเทศ มณฑลปราจิณ
ได้ถูกยุบเลิกคงมีฐานะเป็นเพียงหัวเมืองหนึ่งต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เปลี่ยนคำว่า “เมือง” เป็น“จังหวัด”
จึงมีชื่อเรียกใหม่ว่า “จังหวัดปราจีนบุรี”

ตราประจำจังหวัด เป็นรูปต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิปลูกไว้ที่ตำบลโคกปีบ
อำเภอศรีมโหสถเป็นสัญลักษณ์ทางด้านพุทธศาสนาที่เชิดหน้าชูตาของ
จังหวัดปราจีนบุรี เพราะเชื่อกันว่าเป็นต้นโพธิ์ที่สมณทูตจากอินเดีย
ซึ่งมาเผยแพร่พระศาสนาเมื่อราว พ.ศ. ๕๐๐ ได้นำพันธุ์มาจากพระศรีมหาโพธิ์
พุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับบำเพ็ญธรรม
จนสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้นโพธิ์ศรีมหาโพธินี้เป็นที่นับถือ
บูชากราบไหว้ของราษฎรในท้องที่และต่างท้องที่และมีการจัดงานนมัสการ
เป็นประจำทุกปี

หน้า ๑

ด อ ก ไ ม้ ป ร ะ จำ จั ง ห วั ด ป ร า จี น บุ รี

(ชื่อสามัญ Cork Tree) หรือภาคเหนือเรียกว่า กาซะลอง กาดสะลอง
ภาคกลางเรียกปีบ ภาษากะเหรี่ยง (กาญจนบุรี) เรียกว่า เด็กดองโห่

ลักษณะทั่วไปเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นสูง ประมาณ ๑๐ - ๒๐ เมตร
เปลือกลำต้นสีเทาขรุขระใบออกเป็นช่อ ลักษณะใบกลมรี ขอบใบเรียบ โคนใบมน ใต้ใบเห็นเส้นใบ
ชัดเจน ดอกออกเป็นช่อตั้งตรง ลักษณะเป็นท่อยาวประมาณ ๒-๓ นิ้ว สีขาวปนเหลือง
ขนาด ๒ เซนติเมตร ปลายกลีบดอกเป็นแฉก ๕ แฉก ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย
ติดอยู่ด้านในใกล้ปากท่อ ผลมีลักษณะเป็นฝักแบน ภายในมีเมล็ด ลักษณะแบบขยายพันธุ์โดย
การเพาะเมล็ดและการปักชำ เหมาะที่จะปลุกในพื้นที่ที่มีดินร่วนซุยแสงแดดจัดหรือกลางแจ้ง
มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและประเทศพม่า

ธ ง ป ร ะ จำ จั ง ห วั ด ป ร า จี น บุ รี

สีประจำจังหวัดปราจีนบุรี คือ สีแดงเหลือง
ธงประจำจังหวัดปราจีนบุรี ขนาดพื้นธงกว้าง ๑.๕๐ เมตร ยาว ๒.๒๕ เมตร
ลักษณะพื้นธงตอนต้นมีพื้นสีแดงซึ่งกำหนดเป็นสีประจำภาค ๑ กว้างยาว
ด้านละ ๑.๕๐ เมตร มีรูปต้นโพธิ์อยู่ในกรอบวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง
๘๕ เซนติเมตร สำหรับพื้นที่ธงที่เหลือเป็นสีเหลือง

๒. ลักษณะทางกายภาพ

จังหวัดปราจีนบุรีตั้งอยู่ภาคตะวันออกของประเทศ อยู่ระหว่าง
เส้นละติจูดที่ ๑๓ องศา ๓๙ ลิปดา ถึง ๑๔ องศา ๒๗ ลิปดาเหนือ
และเส้นลองติจูดที่ ๑๐๒ องศา ๐๗ ลิปดาตะวันออก ห่างจากกรุงเทพมหานคร
๓๖ กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๓๓,๓๐๕ ใช้เวลาเดินทางเพียง
๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที เป็นจุดเชื่อมโยงการคมนาคมจากกรุงเทพมหานคร
ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และราชอาณาจักร
กัมพูชา ในรัศมี ๑๐๐ กว่ากิโลเมตร และมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับ จังหวัดนครราชสีมา
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ จังหวัดสระแก้ว
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดนครนายก
ทิศใต้ ติดต่อกับ จังหวัดฉะเชิงเทรา

หน้า ๒

๓. ข้อมูลการปกครอง/ประชากร

จังหวัดปราจีนบุรีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น ๗ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปราจีนบุรี
อำเภอศรีมโหสถ อำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอประจันตคาม อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอ
บ้านสร้าง โดยแบ่งเขตตำบลออกเป็น ๖๔ ตำบล และหมู่บ้าน ๗๐๘ หมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย ๑ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ๑๔ เทศบาล ๕๖ องค์การ
บริหารส่วนตำบล (อบต.) และมีครัวเรือน ณ เดือนมิถุนายน ๒๕๖๕ จำนวน ๒๒๘,๘๐๒ ครัวเรือน
โดยมีรายละเอียดข้อมูลแยกรายพื้นที่และจำนวนประชากร ระดับจังหวัด ดังตารางข้างล่างนี้

พื้นที่ ประชากรชาย ประชากรหญิง จำนวนหลัง
๔๒,๗๘๖ ๓๖,๒๘๙
อำเภอเมืองปราจีนบุรี ๔๖,๓๓๗ ๖๙,๑๖๐ ๕๔,๐๓๙
๒๒,๑๖๔ ๑๘,๒๓๙
อำเภอกบินทร์บุรี ๖๖,๙๓๐ ๑๔,๐๓๖ ๙,๕๒๑
๒๕,๖๐๖ ๑๗,๕๗๖
อำเภอศรีนาดี ๒๑,๙๗๗ ๓๘,๘๔๔ ๕๕,๐๐๗
๖,๗๗๑ ๖,๖๒๓
อำเภอบ้านสร้าง ๑๓,๔๙๑ ๑,๑๖๓
๓,๐๖๒ ๘๓๙
อำเภอประจันตคาม ๒๔,๒๙๕ ๑,๘๕๐ ๒,๓๔๕
๑,๗๕๙ ๒,๔๔๓
อำเภอศรีมหาโพธิ ๓๗,๐๖๒ ๒,๓๕๔ ๑,๓๐๔
๑,๖๓๐ ๒,๔๐๔
อำเภอศรีมโหสถ ๖,๕๕๕ ๔,๐๓๓ ๑,๖๑๔
๙๑๘ ๓,๓๗๑
ท้องถิ่นเทศบาลตำบลโคกมะกอก ๑,๐๕๑ ๓,๓๑๒ ๖๔๖
๑,๑๐๖ ๔,๕๓๗
ท้องถิ่นเทศบาลตำบลโคกปีบ ๒,๗๖๑ ๑,๙๗๗ ๘๐๓
๘,๖๙๘ ๒,๑๙๙
ท้องถิ่นเทศบาลตำบลศรีมหาโพธิ ๑,๗๔๔ ๒๕๑,๒๒๙ ๙,๐๐๓
๒๒๘,๘๐๒
ท้องถิ่นเทศบาลตำบลกรอกสมบูรณ์ ๑,๗๕๗

ท้องถิ่นเทศบาลตำบลประจันตาม ๒,๑๐๘

ท้องถิ่นเทศบาลตำบลบ้านสร้าง ๑,๕๗๒

ท้องถิ่นเทศบาลตำบลนาดี ๓,๘๖๙

ท้องถิ่นเทศบาลตำบลสระบัว ๘๘๐

ท้องถิ่นเทศบาลตำบลเมืองเก่า ๓,๑๘๘

ท้องถิ่นเทศบาลตำบลบ้านนาปรือ ๑,๑๐๒

ท้องถิ่นเทศบาลตำบลกบินทร์ ๑,๖๘๒

ท้องถิ่นเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ๗,๕๔๔

รวม ๒๔๕,๙๐๕

ข้อมูล : ที่ทำการปกครองจังหวัดปราจีนบุรี ณ เดือนมิถุนายน ๒๕๖๕

หน้า ๓

คณะที่ปรึกษา ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี

นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์

ผู้ ว่ า ร า ช ก า ร จั ง ห วั ด ป ร า จี น บุ รี
ป ร ะ ธ า น ที่ ป รึ ก ษ า

คณะที่ปรึกษา ประกอบด้วย
๑. รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี (๑)
๒. รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี (๒)
๓. ปลัดจังหวัดปราจีนบุรี
๔. โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปราจีนบุรี
๕. พัฒนาการจังหวัดปราจีนบุรี
๖. ท้องถิ่นจังหวัดปราจีนบุรี
๗. เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดปราจีนบุรี
๘. ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต ๓ ปราจีนบุรี
๙. หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี
๑๐. ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปราจีนบุรี
๑๑. ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาปราจีนบุรี
๑๒. นายอำเภอทุกอำเภอ
หน้า ๔

คณะที่ปรึกษา ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี

นางมัทนา สุวัณณุสส์

ป ร ะ ธ า น แ ม่ บ้ า น ม ห า ด ไ ท ย จั ง ห วั ด ป ร า จี น บุ รี

คณะทำงาน ประกอบด้วย รองประธานแม่บ้านมหาดไทยคนที่ ๑
๑. คู่สมรสรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี (๑) รองประธานแม่บ้านมหาดไทยคนที่ ๒
๒. คู่สมรสรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี (๒) รองประธานแม่บ้านมหาดไทยคนที่ ๓
๓. คู่สมรมปลัดจังหวัดปราจีนบุรี คณะทำงาน
๔. คู่สมรสของหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ คณะทำงาน
สังกัดกระทรวงมหาดไทย ในจังหวัดปราจีนบุรี เลขานุการ
๕. คู่สมรสของนายอำเภอทุกอำเภอ
๖. หัวหน้าสำนักงานจังหวัดปราจีนบุรี

ข้ อ มู ล ส ม า ชิ ก
ช ม ร ม แ ม่ บ้ า น ม ห า ด ไ ท ย จั ง ห วั ด ป ร า จี น บุ รี
ปัจจุบันชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี มีสมาชิกทั้งหมด ๔๙ คน แบ่งเป็น
๑. สมาชิกสามัญ ได้แก่ คู่สมรสของข้าราชการ ลูกจ้าง สังกัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการ ลูกจ้าง
สังกัดกระทรวงมหาดไทยที่ไม่มีคู่สมรสแล้วได้สมัครเป็นสมาชิก จำนวน ๒๕ คน
๒. สมาชิกสมทบ ได้แก่ บุคคลที่คณะกรรมการเห็นสมควรซึ่งได้สมัครเป็นสมาชิก จำนวน ๒๔ คน

หน้า ๕

ภ า ร กิ จ ห น้ า ที่ ป ร ะ ธ า น แ ม่ บ้ า น ม ห า ด ไ ท ย จั ง ห วั ด

ตำแหน่งสำคัญที่รับผิดชอบในจังหวัด

นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ประธานแม่บ้านมหาดไทย
ประธานอุปการะเด็ก นายกสมาคมส่งเสริม ภาคีเครือข่ายอื่น ๆ
จังหวัด และเยาวชน วัฒนธรรมหญิง - สภาสังคมสงเคราะห์

แห่งประเทศไทย
- คู่สมรสของผู้ว่าราชการ
- สนับสนุนภารกิจ
- มูลนิธิร่วมจิตต์
- ส่งเสริมวัฒนธรรม
ในพระบรมราชูปถัมภ์
กระทรวงมหาดไทย น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนใน
สตรีจังหวัด เป็นตัวแทนสภาฯ
จังหวัดที่รับตำแหน่ง ในการบำบัดทุบำรุงสุข พระบรมราชินูปถัมภ์ โดยมี
ร่วมจัดกิจกรรม
- ดำเนินงานตาม
พระเจ้าวรวงศ์เธอ เลี้ยงอาหาร ผู้ยากไร้
- ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด วัตถุประสงค์ นโยบายและ
พระองค์เจ้าโสมสวลี ผู้ด้อยโอกาส
หรือผู้ที่สภากาชาดไทยมอบ
กิจกรรมของสมาคมแม่
กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

หมายเป็นผู้เสนอชื่อผู้สมควร
บ้านมหาดไทย เป็นองค์ประธาน

ดำรงตำแหน่งนายกเหล่า

กาชาดจังหวัด เหรัญญิก และ
น-ักตเรรวียจนติทดุนตมาูมล
ตนิรธิวฯจเยี่ยม

เลขานุการ ให้สภากาชาดไทย

แต่งตั้ง


- นายกเหล่ากาชาดจังหวัดได้

รับพระมหากรุณาธิคุณ
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง

- เมื่อรับหน้าที่แล้วปฏิบัติตาม

พันธกิจ

หน้า ๖

ผ ล ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ข อ ง ช ม ร ม แ ม่ บ้ า น ม ห า ด ไ ท ย จั ง ห วั ด ป ร า จี น บุ รี

• โครงการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร น้อมนำแนวพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดฯ สยามบรมราชกุมารี “โครงการบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง”
• ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างทั่วถึง ตามเป้าหมาย
ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
• ส่งเสริมการสร้างสุขอนามัยให้แก่เด็กและแม่ เติบโตอย่างถูกต้องตามเกณฑ์มาตรฐานสุขลักษณะ

•นาโครีรรัตงกนารราสช่งกัเญสรญิมากา“รผ้ใาช้ไผท้ายไใทส่ยให้น้สอนุมกน”ำแเพนื่อวสพรร้าะงรงาาชนดำสรริ้าสงมอเาด็ชจีพพรสะร้เาจ้งารลาูกยเไธด้อ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี
• โครงการ “ครอบครัวมหาดไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” โดยจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน เพื่อการ
คัดแยกขยะแห้ง ขยะเปียกให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์

หน้า ๗

โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕

โครงการ “ส่งเสริมการใช้ผ้าไทย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕”

โครงการ “แม่บ้านมหาดไทยซ่อมบ้านผู้ยากไร้เทิดไท้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕”

โครงการ “รถเข็นนั่ง ปันสุข”

กิจกรรมประดิษฐ์ "ผีเสื้อแห่งความจงรักภักดีจากผ้าอัตลักษณ์จังหวัด"

หน้า ๘



โครงการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร น้อมนำแนวพระราชดำริ
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี “โครงการบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง”

จังหวัดปราจีนบุรีดำเนินงานการน้อมนำ
แนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการ ๙๐ วัน
ปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหารรอบ ๒ โดยรณรงค์ให้มีการปลูกผักสวนครัว ในทุกครัวเรือน
อย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ ๗ อำเภอ ๗๑ ตำบล/เทศบาล รวม ๗๖๗ หมู่บ้าน/ชุมชน (รวมชุมชนในเขตเทศบาลด้วย)
รวมจำนวนทั้งสิ้น ๑๑๓,๗๕๐ ครัวเรือน กิจกรรมดังนี้

๑.รณรงค์การปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร
๑.๑ ผู้นำต้นแบบ ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด
นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ และเจ้าหน้าที่สังกัดกรมการพัฒนาชุมชน จำนวน ๑๒๖ คน
ดำเนินการปลูกผักสวนครัวในพื้นที่ครัวเรือน อย่างน้อยคนละ ๑๐ ชนิด เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ประชาชนทั่วไป
๑.๒ ผู้นำต้องทำก่อน ได้แก่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ กลุ่มสตรี ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนกลุ่มองค์กร
รวม ๒,๒๖๕ คน ดำเนินการปลูกผักสวนครัว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ประชาชน และสร้างกระแสการปลูกผัก
สวนครัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสื่อสารสร้างการรับรู้การปลูกผักสวนครัวแก่ประชาชนทั่วไป
๑.๓ กลไกขับเคลื่อน ๓ ประสาน ได้แก่ นักพัฒนาท้องถิ่นของ อบต. /นักพัฒนาพื้นที่ ต้นแบบ(นพต.)
/นักพัฒนาชุมชน ของสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนกิจกรรมการปลูกผักสวนครัว
ในพื้นที่หมู่บ้าน/ตำบล ที่รับผิดชอบ มีกิจกรรมที่ได้ดำเนินการขับเคลื่อนเรื่องการปลูกผักสวนครัว รวม ๑,๒๘๓ กิจกรรม
๑.๔ ครัวเรือนปลูกผัก มากกว่า ๑๐ ชนิด ดำเนินการปลูกผักสวนครัว จำนวน ๑๐๖,๑๔๔ ครัวเรือน
คิดเป็นร้อยละ ๙๓.๓๑
๑.๕ โครงการ ๑ ตำบล ๑ ถนนกินได้ปลอดภัยไร้สารพิษ มีครัวเรือนร่วมโครงการ จำนวน ๕,๗๘๐ ครัวเรือน

หน้า ๙

๒. ขยายผลการขับเคลื่อนโครงการปลูกผักสวนครัว สร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยได้ดำเนินการ
กิจกรรมต่างๆ ดังนี้

๒.๑ สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว ให้ครัวเรือนยากจนตาม TPMAP ของอำเภอบ้านสร้าง
จำนวน ๕๗ ครัวเรือน เป็นเงิน ๕,๗๐๐ บาท โดยได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านอำเภอ
บ้านสร้าง โดยมีนายอำเภอบ้านสร้างเป็นผู้รับมอบ มีคณะทำงานระดับตำบล ร่วมดำเนินการปลูกผักสวนครัว
กับครัวเรือนยากจนเป้าหมาย จำนวน ๕๗ ครัวเรือน

๒.๒ สนับสนุนการปลูกผักสวนครัว และมอบเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว ให้แก่ครัวเรือนเป้าหมาย
ที่ตกเกณฑ์เรื่องรายได้ตาม TPMAP ของอำเภอกบินทร์บุรีโดยมีคณะทำงานตำบล เป็นผู้รับผิดชอบ
การปลูกพืชผักสวนครัวร่วมกับครัวเรือนเป้าหมาย จำนวน ๒๖๔ ครัวเรือน

๒.๓ ดำเนินการปลูกผักสวนครัว ในกิจกรรม “เอามื้อ สามัคคี” ตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนา
คุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” และศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบโคก หนอง นา
ในหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง

๒.๔ ส่งเสริมให้ผู้นำในหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงเป้าหมาย ดำเนินการขยายผลการปลูกผักสวนครัว และพืช
สมุนไพร จำนวนไม่น้อยกว่า ๑๐ ชนิด และดำเนินกิจกรรม “เอามื้อ สามัคคี”ปลูกพืชผักสวนครัว ในแปลงศูนย์เรียนรู้
ทฤษฎีใหม่ รูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล

๒.๕ โครงการสตรีแบ่งปันรัก ปลูกผักสวนครัว โดยมีคณะกรรมการพัฒนาบทบาทสตรี
จังหวัดปราจีนบุรีเป็นผู้ขับเคลื่อนกิจกรรมของจังหวัดปราจีนบุรี ดำเนินการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว
ให้ครัวเรือนของสตรีดำเนินการปลูก

๒.๖ โครงการ ๑ ตำบล ๑ ถนนกินได้ ปลอดภัย ไร้สารพิษ ดำเนินการขยายผลการปลูกพืชผัก
สวนครัวไม้ผลไม้ยืนต้น บริเวณข้างถนนอย่างน้อยตำบลละ ๑ แห่ง

ข้อมูล : สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดปราจีนบุรี

หน้า ๑๐

ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนโครงการเสริมสร้าง
ความมั่นคงทางด้านอาหาร น้อมนำแนวพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” โดยได้รับเมล็ดพันธุ์ ถั่วฝักยาวสีม่วงสิรินธร เบอร์ ๑
จากสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เมื่อครั้งประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจรครั้งที่ ๑ ภาคกลางและภาคตะวันออก
ในวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๔ ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดลพบุรี ซึ่งได้มอบเมล็ดพันธุ์ถั่วฝักยาว
สีม่วงสิรินธร เบอร์ ๑ ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ขยายผลจากเมล็ดพันธุ์พระราชทานในพื้นที่โก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี
จังหวัดลพบุรี ให้ประธานแม่บ้านมหาดไทยทั้ง ๒๕ จังหวัด ได้นำไปปลูกที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัด

ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรีพร้อมสมาชิก
ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี ได้นำเมล็ดพันธุ์ถั่วฝักยาวสีม่วง สิรินธร เบอร์ ๑ ปลูกที่จวนผู้ว่า
ราชการจังหวัด เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๕ พร้อมปลูกพืชผักสวนครัวอื่นๆ เช่น มะเขือ พริก กระเพรา และผัก
สลัด เป็นต้น
หน้า ๑๑

ปัจจุบันได้เก็บเมล็ดพันธุ์ถั่วฝักยาวสีม่วง สิรินธร เบอร์ ๑ ที่ปลูกที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนำไป
ขยายผลต่อโดยมอบเมล็ดพันธุ์ให้แก่ผู้บริหารของจังหวัด ได้แก่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี
ปลัดจังหวัดปราจีนบุรี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดปราจีนบุรี และนายอำเภอทุกอำเภอ ได้นำไปปลูกที่บ้านพัก

หน้า ๑๒

ผลการดำเนินการขยายผลโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” จากเมล็ดพันธุ์ถั่วฝักยาวสีม่วง สิรินธร
เบอร์ ๑ จากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดไปสู่บ้านพักผู้บริหารของจังหวัด

หน้า ๑๓

รวมทั้งยังได้มอบเมล็ดถั่วฝักยาวสีม่วง สิริธร เบอร์ ๑ และพันธุ์ผักสวนครัวอื่นๆ ให้แก่พัฒนาการอำเภอ
ทุกอำเภอและประชาชนในจังหวัด เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ต่อไปอีกด้วย

หน้า ๑๔





ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด- 19

อย่างทั่ วถึง ตามเป้าหมาย ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ เพื่ อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

ข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ จังหวัดป

ราจีนบุรี ฉีดวัคซีน เข็มที่ ๑ จำนวน ๔๑๗,๗๙๔ ราย
คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๘๓ เข็มที่ ๒ จำนวน ๓๙๕,๐๓๙ ราย คิดเป็นร้อยละ ๗๖.๔๒ เข็มที่ ๓ จำนวน ๑๙๓,๘๘๒ ราย
คิดเป็นร้อยละ ๓๗.๕๑ และเข็มที่ ๔ จำนวน ๓๒,๘๔๒ ราย คิดเป็นร้อยละ ๖.๓๕ เข็มที่ 5 จำนวน ๘๕๕ ราย
คิดเป็นร้อยละ ๐.๑๗ โดยฉีดวัคซีนไปแล้วรวม ๑,๐๔๐,๔๑๒ Dose ซึ่งกลุ่มผู้สูงอายุ ๖๐ ปีขึ้นไป
กลุ่มเสี่ยง ๗ กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ สามารถฉีดได้รวมร้อยละ ๙๑.๕๖

หน้า ๑๕

จังหวัดปราจีนบุรีโดยผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการ
รณรงค์และประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19
เพื่อร่วมสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และผ่านวิกฤตโควิด -19 ไปด้วยกัน เช่น

- จัดสัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีนเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุข และวันพ่อ
แห่งชาติ โดยประชาชนสามารถ walk in เข้ารับการฉีดได้ทุกวัน ณ จุดบริการของโรงพยาบาล

- จัดหน่วยให้บริการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มผู้ประกันตน กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้
ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มนักเรียน และพระภิกษุสงฆ์

- จัดกิจกรรม “พาเข็มไปหาแขน” โดยอำเภอร่วมกับสาธารณสุขอำเภอจัดทีมไปฉีดวัคซีน
ตามบ้านเรือนประชาชน

- เน้นให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 แก่กลุ่มเป้าหมาย ๖๐๘ โดยจัดโปรโมชั่น ฉีดวัคซีน
แถมให้ญาติหรือผู้ติดตาม ๑ คน

- ประชาสัมพันธ์แผนการฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์

หน้า ๑๖

ทั้งนี้ ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี โดยประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ได้ร่วมกิจกรรม
รณรงค์ ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ และผู้ฉีดวัคซีนตามจุดบริการต่างๆ ประชาสัมพันธ์
ให้ความรู้เรื่องวัคซีน การดูแลตนเองภายหลังการฉีดวัคซีน และการป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 รวมทั้ง
ชี้แจงการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล DMHTT ด้วย

หน้า ๑๗



ส่งเสริมการสร้างสุขอนามัยให้แก่เด็กและแม่ เติบโตอย่างถูกต้อง
ต า ม เ ก ณ ฑ์ ม า ต ร ฐ า น สุ ข ลั ก ษ ณ ะ

จังหวัดปราจีนบุรี ได้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบา
ลในการขจัดความยากจน และพัฒนาคนทุกช่วงวัย
อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป้
าหมายคือ การแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า
แต่ละครัวเรือน โดยใช้ข้อมูลจากระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า(Thai People Map
and Analytics Platform) หรือ TPMAP เป็นฐานขับเคลื่อน ด้วยการนำแนวทางเมนูแก้จน ๕ ด้าน

(๑) มิติสุขภาพ : โดยดูแลครัวเรือนเป้าหมายในทุกช่วงวัย ดูแลตั้งแต่อยู่ในครรภ์ อาหารการกิน
ที่ถูกสุขลักษณะ การใช้ยาสามัญประจำบ้าน การมีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) มาให้คำแนะนำ
และส่งเสริมการออกกำลัง มีสถานที่ออกกำลัง – สนามเด็กเล่นประจำชุมชน

(๒) มิติความเป็นอยู่ : โดยการให้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง มีที่ดินทำกินหาเลี้ยงชีพ มีน้ำดื่มน้ำใช้ที่สะอาด
และทั่วถึง รวมทั้งให้ความรู้เรื่องสุขภาวะในชุมชน เช่น การคัดแยก-กำจัดขยะ การใช้ส้วมอย่างเหมาะสม

(๓) มิติการศึกษา : จัดให้มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก การศึกษาก่อนวัยเรียน การศึกษานอกระบบ การศึกษา
ผู้ใหญ่ การศึกษาทางเลือก และอินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ด้วยตนเองและการศึกษาตลอดชีวิต

(๔) มิติรายได้ : มุ่งยกระดับรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า ๓๘,๐๐๐ บาท/คน/ปีโดยจัดให้มีการฝึกอาชีพ
ฝึกฝีมือแรงงาน มีอาชีพเสริม เพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ขจัดปัญหาหนี้นอกระบบ และส่งเสริมช่องทาง
ตลาดออนไลน์

(๕) มิติการเข้าถึงบริการภาครัฐ : โดยกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง "ทั้งหมด"
ต้องไม่ตกหล่น และเข้าถึงระบบสวัสดิการแห่งรัฐ

ชมรมแม่บ้านมหาดไทยได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ในมิติสุขภาพ
โดยช่วยเหลือสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่เด็กและแม่ แนะนำให้ความรู้การดูแลสุขภาพเด็กและแม่
ให้ถูกสุขลักษณะ

หน้า ๑๘

หน้า ๑๙

นอกจากนี้ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอุปการะ
เยาวชนประจำจังหวัดของมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้ติดตาม
เยี่ยมเยาวชนที่ได้รับทุน ซึ่งในจังหวัดปราจีนบุรีมีนักเรียนทุนมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ รวมจำนวน
๓๗ ราย เพื่อให้คำแนะนำในการเรียนและการดำเนินชีวิต รวมทั้งช่วยเหลือสนับสนุนเงินทุนการศึกษา
และสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค

รวมทั้ง ได้จัดทำโครงการให้ความช่วยเหลือเด็กนักเรียนด้อยโอกาสในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี
โดยมอบกระเป๋านักเรียน พร้อมอุปกรณ์การเรียน เช่น สมุด เครื่องเขียน และถุงเท้านักเรียน เป็นต้น
พร้อมสิ่งของอุปโภค เช่น ขนมและนมยูเอชที
หน้า ๒๐

การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง และนักเรียนมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ

ของชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี ประจำปี ๒๕๖๕




ลำดับ กลุ่มการช่วยเหลือ จำนวน ความช่วยเหลือ



(ราย)


๑ กลุ่มผู้สูงอายุ,ผู้ยากไร้ ๑,๒๐๐ - มอบเงินช่วยเหลือ ๑,๐๐๐ บาท/คน
- มอบชุดอุปโภค-บริโภค
- มอบผ้าห่ม
- หน้ากากอนามัย/แอลกอฮอล์

๒ กลุ่มผู้พิการ - มอบชุดอุปโภค-บริโภค

๖๘ - มอบน้ำดื่ม

- มุ้ง

๓ กลุ่มป่วยติดเตียง - มอบชุดอุปโภค-บริโภค

- มอบน้ำดื่ม

๕๗๔ - มุ้ง

- ผ้าอ้อมสำเร็จรูป

- หน้ากากอนามัย/แอลกอฮอล์

๔ คนไข้ในพระราชานุเคราะห์ และพระบรมราชานุเคราะห์ - มอบเงินช่วยเหลือ ๒,๐๐๐ บาท/คน

- มอบชุดอุปโภค-บริโภค

๕๔ - มอบผ้าห่ม

- มอบน้ำดื่ม

- หน้ากากอนามัย/แอลกอฮอล์

- มอบทุนการศึกษา ๑,๐๐๐ บาท/คน

๕ นักเรียนทุนมูลนิธิร่วมจิตต์ น้อมเกล้าฯ ๓๗ - มอบผ้าห่ม
- มอบชุดอุปโภค-บริโภค

- หน้ากากอนามัย/แอลกอฮอล์

- มอบอุปกรณ์การเรียน

๖ นักเรียนในพื้นที่จังหวัด ๕๐๐ - มอบถุงยังชีพเพื่อการศึกษา
- มอบชุดอุปโภค - บริโภค

- มอบนมยูเอชที


รวม ๒,๔๓๓


หน้า ๒๑





โครงการส่งเสริมการใช้ผ้าไทย น้อมนำแนวพระราชดำริ

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

“ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เพื่ อสร้างงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้

ผ้าประจำจังหวัดปราจีนบุรี


๑. ผ้าลายดอกปีบมาจากดอกปีบ ซึ่งเป็นดอ
กไม้ประจำจังหวัด และสีเหลืองมาจากสีทอง
ของทุเรียนหมอนทองปราจีนบุรี ร่วมกันออกแบบโดยคณะกรมการจังหวัด หอการค้าจังหวัด
สมาคมท่องเที่ยว เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๐ รายได้จากการจำหน่ายผ้าดอกปีบเข้ามูลนิธิปราจีนถิ่นคนดี
ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการช่วยเหลือทางด้านการศึกษาเด็กที่ยากจน

๒. ผ้าลาย “ปราจีนบุรี ศรีภูษา” พัฒนาและออกแบบลวดลายมาจากอัตลักษณ์ของจังหวัด
ลวดลายบนผืนผ้าประกอบด้วย “ใบโพธิ์” เป็นตัวแทนของต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ เชื่อว่าเป็นต้นโพธิ์
หน่อมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ พุทธคยาประเทศอินเดียที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
“สวัสดิกะ”เครื่องหมายที่พบอยู่กลางรอยพระพุทธบาทคู่ที่ใหญ่ที่สุดอายุเก่าแก่ที่สุดอยู่ที่อำเภอศรีมโหสถ
“แม่น้ำปราจีนบุรี” เป็นตัวแทนวิถีชีวิตของชาวปราจีนบุรีที่มีความอุดมสมบูรณ์ผูกพันกับสายน้ำ “ดอกปีบ”
เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดปราจีนบุรี จำนวนเครื่องหมายสวัสดิกะ และ ดอกปีบ บนผืนผ้า มีจำนวน ๗ แถว
แทนจำนวน ๗ อำเภอของจังหวัดปราจีนบุรี

หน้า ๒๒

ผ้ า ล า ย พ ร ะ ร า ช ท า น

ผ้ า มั ด ห มี่ ล า ย ข อ เ จ้ า ฟ้ า สิ ริ วั ณ ณ ว รี ฯ



วันจันทร์ที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๔ จังหวัดปราจีนบุรี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธาน
ในพิธีมอบแบบลายมัดหมี่ ชื่อลาย " มัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" ให้กับ หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ
พัฒนาการอำเภอ ผู้แทนกลุ่มทอผ้าจากจังหวัดปราจีนบุรี ณ บริเวณห้องโถง ชั้น ๑ ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี
ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมืองปราจีนบุรี
ผ้ า ขิ ด ล า ย น า รี รั ต น ร า ช กั ญ ญ า



วันจันทร์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๕ นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี
พร้อมด้วย นางมัทนา สุวัณณุสส์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรีเป็นประธาน
ในพิธีมอบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ให้กับ หัวหน้าส่วนราชการ
นายอำเภอ พัฒนาการอำเภอ ผู้แทนกลุ่มทอผ้าจากจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อนำไปใช้เป็นต้นแบบ
ในการทอผ้า ผลิตผ้า และ ผลิตภัณฑ์ ในแต่ละท้องถิ่น เป็นการเริ่มต้นต่อยอด แนวความคิด
ในการพัฒนาลวดลายผ้าไทย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทย ให้มีความทันสมัย สามารถก้าวสู่สากล
เพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืน

หน้า ๒๓

จังหวัดปราจีนบุรี ได้ขับเคลื่อนนโยบายการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดินติดตาม

ส่งเสริม ให้คำแนะนำแก่กลุ่มทอผ้า เช่น

- ผ้าลายขอพระราชทาน ได้จัดทำโครงการภูมิปัญญาทอผ้าปราจีนบุรี ฝึกอบรมให้ความรู้การทอผ้า

มัดหมี่ลายขอ และการมอบวัสดุ ครุภัณฑ์ให้แก่กลุ่ม จำนวน ๙ กลุ่ม

- ผ้าลายขิดพระราชทาน จัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจ และส่งเสริม ต่อยอดการทอผ้าลายขิดพระราชทาน
- ผ้าลายประจำจังหวัด (ผ้าปราจีน ศรีภูษา) ติดตามลงในพื้นที่เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มทอผ้าดำเนินการทอผ้า
อัตลักษณ์ปราจีนบุรี (ผ้าปราจีน ศรีภูษา) ขณะนี้ดำเนินการแล้ว จำนวน ๒ กลุ่ม และมีแผนการดำเนินงาน
ขยายต่อยอดการทอผ้าอัตลักษณ์ปราจีนบุรีให้กับกลุ่มอื่น เพื่อนำไปจำหน่ายให้แก่ข้าราชการ เอกชน
และประชาชนที่สนใจ นำไปตัดเย็บและสวมใส่
ปัจจุบันจังหวัดปราจีนบุรีมีกลุ่มทอผ้าทอมือ จำนวน ๘ กลุ่ม และกลุ่มผลิตผ้าบาติก จำนวน ๑ กลุ่ม

รวมทั้งหมด ๙ กลุ่ม ประกอบด้วย

ที่ อำเภอ ตำบล ชื่อกลุ่มทอผ้า ผลิตภัณฑ์

๑ กบินทร์บุรี หนองกี่ กลุ่มทอผ้ามัดหมี่บ้านทด ผลิตผ้าลายขอพระราชทานและผ้ามัดหมี่

ทอมือลายสร้างสรรค์

๒ กบินทร์บุรี วังท่าช้าง กลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านวังใหม่ ผลิตผ้ามัดหมี่ลายขอพระราชทาน
ผ้าขาวม้าและผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัด

๓ กบินทร์บุรี วังท่าช้าง กลุ่มผ้ามัดหมี่ทอมือบ้านวังใหม่ ผลิตผ้ามัดหมี่ลายขอพระราชทาน
ผ้าขาวม้าและผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัด

๔ กบินทร์บุรี ลาดตะเคียน นันทวันไหมไทย ผลิตผ้าไหมลายขอพระราชทาน
และผ้าไหมลายสร้างสรรค์

๕ กบินทร์บุรี กบินทร์ . กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าบาติก ผลิตผ้าบาติกลายขอพระราชทาน
ตัดเย็บตำบลกบินทร์

๖ ประจันตคาม ดงบัง กลุ่มสตรีทอผ้าดงบัง ผลิตผ้ามัดหมี่ลายขอพระราชทาน
ผ้าขาวม้าและผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัด

๗ นาดี สำพันตา กลุ่มอาชีพทอผ้าบ้านโคกกระจง ผลิตผ้ามัดหมี่ลายขอพระราชทาน ผ้า

ขาวม้าและผ้ามัดหมี่ทอมือลายสร้างสรรค์

๘ นาดี สำพันตา กลุ่มทอผ้าสตรีบ้านใหม่พัฒนา ผลิตผ้ามัดหมี่ลายขอพระราชทาน
ผ้าขาวม้าและผ้ามัดหมี่ทอมือลายสร้างสรรค์

๙ ศรีมโหสถ โคกปีบ กลุ่มนฤมิตร ผลิตผ้ามัดหมี่ลายขอพระราชทาน
และผ้ามัดหมี่ทอมือลายสร้างสรรค์ (มกร)

มีรายได้จากการจำหน่าย ยอดรวมสะสมเดือนตุลาคม ๒๕๖๔ - กรกฎาคม ๒๕๖๕ เป็นเงิน ๑,๖๗๗,๐๒๘ บาท

ข้อมูล : สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดปราจีนบุรี

หน้า ๒๔

การพัฒนาต่อยอดและยกระดับลายผ้าอัตลักษณ์ของจังหวัดปราจีนบุรี (ผ้าปราจีนบุรี ศรีภูษา)
สนับสนุนกลุ่มทอผ้าในจังหวัดให้ทอผ้าลาย "ปราจีนบุรี ศรีภูษา" โดยการจัดอบรมการฝึกอาชีพ
ให้กลุ่มทอผ้าของจังหวัดปราจีนบุรีทุกกลุ่ม ปัจจุบันมีกลุ่มทอผ้าที่ดำเนินการทอผ้าลาย "ปราจีนบุรี ศรีภูษา" แล้ว
ตามความถนัดของกลุ่ม เช่น
กลุ่มสตรีบ้านดงบัง ตำบลดงบัง อำเภอประจันตคาม ทอแบบยกดอก

กลุ่มผ้ามัดหมี่ทอมือบ้านวังใหม่ ตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี ทอแบบยกดอกและทอผ้ามัดหมี่

กลุ่มอาชีพทอผ้าบ้านโคกกระจง ตำบลสำพันตา อำเภอนาดี ทอผ้ามัดหมี่

หน้า ๒๕

ตัวอย่างลายผ้าพระราชทาน "ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ"

ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ กับดอกปีบ ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดปราจีนบุรี โดยกลุ่ม
ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านวังใหม่ หมู่ที่ ๑๗ ตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี

ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ กับต้นยางนาใหญ่ ซึ่งเป็นต้นไม้สำคัญของอำเภอประจันตคาม โดยกลุ่ม
สตรีทอผ้าบ้านดงบัง หมู่ที่ ๑ ตำบลดงบัง อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี

ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ กับลายแก่งหินเพิง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอนาดี
โดย กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านโคกกระจง หมู่ที่ ๖ ตำบลสำพันตา อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
หน้า ๒๖

ตัวอย่างลายผ้าพระราชทาน "ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา"

กลุ่มสตรีทอผ้าดงบัง ตำบลดงบัง อ.ประจันตคาม
กลุ่มผ้ามัดหมี่ทอมือบ้านวังใหม่ ตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี

กลุ่มทอผ้ามัดหมี่บ้านทด ตำบลหนองกี่ อำเภอกบินทร์บุรี

หน้า ๒๗

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี ได้ประชาสัมพันธ์
เชิญชวนสวมใส่ผ้าไทย และอุดหนุนผ้าไทยของกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า
และเครื่องแต่งกาย ผ่านช่องทางสื่อ online และการประชุมประจำเดือนของส่วนราชการ เพื่อรณรงค์
ให้ข้าราชการ ประชาชนได้สวมใส่ผ้าไทย อย่างน้อยสัปดาห์ละ ๒ วัน ในวันอังคาร และวันศุกร์
หน้า ๒๘

รวมทั้ง ได้ลงเยี่ยมและให้คำแนะนำในการทอผ้ากับกลุ่มทอผ้าในการทอผ้าลายพระราชทาน
และผ้าลายประจำจังหวัดอีกด้วย

หน้า ๒๙





โครงการ “ครอบครัวมหาดไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”
โดยจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่ อการคัดแยกขยะแห้งขยะเปียกให้เป็นปุ๋ยอินทรี




จังหวัดปราจีนบุรีได้ดำเนินการขับเคลื่อน “แผนป
ฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด”
ประจำปี ๒๕๖๕ โดยมีกรอบดำเนินงานภายใต้แผนปฏิบัติกา
รฯ จำนวน ๓ ระยะ ได้แก่ ต้นทาง คือการลดปริมาณขยะ
และการส่งเสริมการคัดแยกขยะที่ต้นทาง กลางทาง คือการจัดระบบเก็บและขนอย่างมีประสิทธิภาพ
และปลายทาง คือ ขยะมูลฝอยได้รับการกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยใช้หลัก ๓ ช : ใช้น้อย
ใช้ซ้ำ และนำกลับมาใช้ใหม่ หรือ 3Rs : Reduce Reuse และ Recycle โดยมีเป้าหมายให้หมู่บ้าน/ชุมชน
ร้อยละ ๘๐ มีการคัดแยกขยะมูลฝอย และครัวเรือน ร้อยละ ๑๐๐ มีการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน

ผลการดำเนินการในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ (ข้อมูล ณ วันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕) จำนวนครัวเรือนที่มีการคัดแยก
ขยะ จำนวน ๑๘๗,๖๑๗ ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ ๘๒ และครัวเรือนที่มีการทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนแล้ว
๑๖๒,๔๔๙ ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ ๗๑ จากจำนวนครัวเรือนทั้งหมด ๒๒๘,๘๐๒ ครัวเรือน

ทัั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีได้มีนโยบายเน้นหนัก “ปราจีนบุรี น่าอยู่ น่ายล ประชาชนมีส่วนร่วม”
ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญ โดยมุ่งเน้นรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดและความเป็น
ระเบียบเรียบร้อยของสถานที่ราชการ บ้านเรือน ตลาดสด ตลาดนัด ถนนหนทาง สถานที่สาธารณะ
รวมถึงการรณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริหารจัดการคัดแยกขยะให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น

หน้า ๓๐

ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี ได้ดำเนินโครงการ “ครอบครัวมหาดไทย
ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย โดยจัดทำถังขยะเปียก
เพื่อนำปุ๋ยที่ได้จากขยะอินทรีย์มาใช้กับแปลงผักหรือผักริมรั้วในครัวเรือนโดยเริ่มต้นจาก
ในจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ขยายผลต่อไปยังบ้านพักของผู้บริหารในจังหวัด เช่น บ้านพักรอง
ผู้ว่าราชการจังหวัด บ้านพักหัวหน้าสำนักงานจังหวัด และบ้านพักนายอำเภอ เป็นต้น รวมทั้งได้จัดกิจกรรม
ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะ และการจัดทำถังขยะอินทรีย์แก่หมู่บ้าน ชุมชน
โดยการมอบวัสดุถังดำสำหรับจัดทำถังขยะอินทรีย์ในครัวเรือนให้กับประชาชน อีกด้วย

หน้า ๓๑





โครงการ “ส่งเสริมการใช้ผ้าไทย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕”

เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๕ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ
นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมแถลงเปิดตัวโครงการส่งเสริมการใช้ผ้าไทยเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕
โดยมีการถ่ายทอดไปยังศาลากลางจังหวัดและจวนผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเพื่อให้ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด
พร้อมด้วยสมาชิกแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดร่วมรับฟัง และร่วมนำเสนอการขับเคลื่อนกิจกรรมการรณรงค์ส่งเสริมการใช้ผ้าไทย
ในพื้นที่จังหวัด ซึ่งการขับเคลื่อนส่งเสริมการใช้ผ้าไทยเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของคนไทยทุกคน เป็นการแสดงความจงรักภักดี
ด้วยการเลือกใช้เครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของเครื่องใช้ที่ทักทอ ที่ผลิตจากผ้าไทย สนองแนวพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นอกจากนี้ เพื่อเป็นการร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติ
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕ จึงขอให้ทุกจังหวัดได้เชิญชวนประชาชน
และทุกภาคส่วน ร่วมกันสวมใส่ผ้าไทยสีฟ้าในทุกวันศุกร์ตลอดทั้งปี

จังหวัดปราจีนบุรี โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี ได้เชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกัน
สวมใส่ผ้าไทยสีฟ้าทุกวันศุกร์ โดยประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อช่องทางต่างๆ

หน้า ๓๒


Click to View FlipBook Version