The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือพิธีการทางลูกเสือ ๒๕๖๐

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by NWC_ninewecup, 2022-04-18 07:10:02

คู่มือพิธีการทางลูกเสือ ๒๕๖๐

คู่มือพิธีการทางลูกเสือ ๒๕๖๐

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

คาํ บอก “สวมหมวก”
การปฏิบัติ เม่ือไดยินคําวา “สวมหมวก” ใหลูกเสือใชมือขวานําหมวก
ในมือซายข้ึนมาสวมโดยใชมือซายชวยดวย แลวใชมือขวาจับพลอง
หรือไมง ามทีพ่ ิงไวกับแขนซา ยมาถอื ไวใ นทาเรยี บอาวธุ ตามเดมิ

๗. ทา หันและการเคลือ่ นทีใ่ นเวลาถอื พลองหรือไมงา ม ๕๑
ทาหันและเคล่ือนที่ในเวลาถือพลองหรือไมงามใชคําบอกและ

ปฏบิ ตั เิ หมอื นทา มอื เปลา ทา หนั ขณะทพ่ี ลองหรอื ไมง า มอยใู นทา เรยี บอาวธุ
เพ่ือใหการหันสะดวก ขณะเมื่อไดยินคํานําวา “ขวา” ใหยกพลองหรือ
ไมง า มในมอื ขวาใหพ น พ้นื เลก็ นอย เม่อื หันเสร็จแลวลดมือขวาลงใหพ ลอง
หรอื ไมง า มจดพน้ื

การเคลื่อนท่ีในเวลาถือพลองหรือไมงามเหมือนกับการเคลื่อนท่ี
มือเปลาทั้งในการใชคําบอกและการปฏิบัติ ตามปกติเมื่อจะใหเคล่ือนท่ี
ผูควบคุมแถวตองบอกใหแบกอาวุธเสียกอน แลวจึงสั่งใหเดิน ถาเดินแบก
อาวุธอยูในแถวควบคุม เมื่อจะทําความเคารพผูคุมแถวบอกแถว
“แลขวา - (ซาย) ทํา” ใหลูกเสือหันหนาไปยังผูรับการเคารพ แขนแกวง
ตามปกติและรักษาทาแบกอาวุธไวคงเดิม เม่ือพนผูรับการเคารพไปแลว
หนั หนาและตรงเอง

ถาลกู เสอื แบกอาวุธเคล่อื นท่ีไปตามลําพงั เม่ือจะทําความเคารพ
ใหลดพลองหรือไมงามลงจากทาแบกอาวุธเปนทาเรียบอาวุธ จังหวะ ๑
เพยี งมอื ขวาทยี่ กขนึ้ จบั พลองหรอื ไมง า มในรอ งไหลซ า ยนนั้ ใหจ ดั นว้ิ เหมอื น
ทารหัสของลกู เสอื ฝามือแบคว่าํ ใหด า นขา งปลายนิ้วช้แี ตะพลอง ศอกงอ

พธิ กี ารลูกเสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

ไปขางหนาในแนวเดียวกับไหล หันหนาไปยังผูรับการเคารพท่ียืน
หรือเดินอยู (สวนมาหรือเดินไป) เมื่อผานผูรับการเคารพไปแลวเลิก
ทาํ ความเคารพโดยใชม อื ซา ยดนั พลองหรอื ไมง า มขนึ้ ไปอยใู นทา แบกอาวธุ
ตามเดมิ พรอ มกบั หนั หนา แลตรง ลดแขนขวาลง แขนแกวง ตอ ไปในทา เดนิ
ตามปกติ

ในการเคลื่อนท่ีในทาแบกอาวุธ เม่ือผูควบคุมแถวบอก เดินตาม
สบาย ลกู เสอื จะเปลยี่ นทา แบกอาวธุ จากบา ซา ยมาบา ขวากไ็ ด แตเ มอื่ บอก
“เดินเขาระเบยี บ” ลกู เสือตองจบั พลองหรือไมง า มไวใ นบา ซายตามเดิม

เมอ่ื ผคู วบคมุ แถวบอกใหแ ถวหยดุ ลกู เสอื หยดุ อยใู นทา แบกอาวธุ
๕๒ จนกวา ผูควบคุมแถวจะสั่งใหเรยี บอาวธุ หรอื สงั่ เปน อยางอื่นตอไป

ถา เคลอื่ นทไี่ ปโดยไมบ อกใหแ บกอาวธุ เชน ไปในระยะใกลๆ หรอื
เพือ่ จัดแถวหรอื ระยะตอ ระยะเคียงของขบวน เมื่อบอกใหเดนิ ลกู เสือเคล่ือนที่
ไปในทาคอนพลอง โดยยกพลองหรือไมงามในมือขวาข้ึนมาในแนวเข็มขัด
ใหปลายพลองหรือไมงามเฉียงไปขางหนา ทํามุมประมาณ ๔๕ องศา
กับลาํ ตวั

เมื่อคอนพลองอยูในแถวควบคุม และผานผูรับการเคารพ
ผูควบคุมแถวไมตองบอกแถวทําความเคารพ ผูควบคุมแถวคงทําความ
เคารพลําพังแตผ เู ดียว

ถาลูกเสือคอนพลองไปโดยลําพัง เมื่อผานผูรับการเคารพใหลูกเสือ
ทําความเคารพดวยทาแลขวา (ซาย) โดยแนบพลองหรือไมงามชิดลําตัว
แขนไมแกวง เม่อื ผา นผรู บั การเคารพไปแลวหันหนา แลตรงแขนแกวง ตาม
สบาย

“ลูกเสอื สมานฉันท ผูกพนั สงิ่ แวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

ทาถอดหมวก, สวมหมวก ๕๓
ก. ถอดหมวก
คําบอก “ถอดหมวก”
การปฏบิ ตั ิ ทาํ เปน จงั หวะเดยี วใหล กู เสอื แบมอื ซา ยและงอศอกจนแขนทอ น
ลา งตง้ั ไดฉ ากกบั แขนทอ นบน นวิ้ หวั แมม อื ตงั้ ขน้ึ ขา งบน นว้ิ อกี สนี่ วิ้ เรยี งชดิ
ติดกันพรอมกันน้ันใชมือขวาจับหมวกถอดจากศีรษะมาไวในมือซาย และ
ลดมือขวาลงในทาตรงตามเดิม ดงั น้ี

(ก) หมวกทรงกลมมกี ะบังหนาหมวกของลกู เสือสํารอง
ใชมือขวาจับที่กะบังหนาหมวกวางครอบหัวแมมือซาย

ใหหนาหมวกหันไปทางขวา ขอบหมวกดานนอกอยูระหวางน้ิวหัวแมมือ
กบั นิ้วทง้ั ส่ี

(ข) หมวกปกกวา งพับขา งของลกู เสือสามัญ
ใชม อื ขวาจบั ทป่ี ก หมวกดา นหนา วางครอบหวั แมม อื ซา ย

ใหน้ิวแมมือชูข้ึนชิดขอบหมวกดานใน นิ้วทั้งส่ีติดอยูขอบหมวกดานนอก
หนั ดอกจนั เขาหาตวั

(ค) หมวกปก กวางไมพ ับขางของผูบ ังคบั บัญชา
ใชมือขวาจับปกหมวกดานหนาวางครอบหัวแมมือซาย

ใหน้ิวหัวแมมือท่ีชูข้ึนชิดขอบหมวกดานใน นิ้วท้ังสี่ติดอยูขอบหมวกดานนอก
หันหนา หมวกไปทางขวา

(ง) หมวกทรงออ น (เบเรห)
ใชมือขวาจับที่ขอบหมวกดานขวา วางครอบหัวแมมือซาย

ใหหนาหมวกหันไปทางขวา ขอบหมวกดานนอกอยูระหวางนิ้วหัวแมมือ
กบั นว้ิ ทั้งสี่

พธิ กี ารลูกเสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

(จ) หมวกกลาสี
ใชมือจับท่ีขอบหมวกดานหนา วางครอบหัวแมมือซาย

ใหน้ิวหัวแมมือท่ีชูข้ึนชิดขอบหมวกดานใน น้ิวทั้งส่ีติดอยูขอบหมวกดานนอก
หนั หนาหมวกไปทางขวา

(ฉ) หมวกทรงหมอตาล
ใชมือขวาจับที่กะบังหนาหมวกวางครอบหัวแมมือซาย

ใหห นั หนา หมวกไปทางขวา ขอบหมวกดา นนอกอยรู ะหวา งนวิ้ หวั แมม อื กบั
นิ้วทั้งส่ี

ข. สวมหมวก
๕๔ คาํ บอก “สวมหมวก”

การปฏบิ ตั ิ ทาํ เปน จงั หวะเดยี ว (เชน เดยี วกบั เวลาถอดหมวก) คอื ใชม อื ขวา
จบั หมวกทอี่ ยใู นมอื ซา ยเชน เดยี วกบั การถอดหมวก (คอื เวลาถอดหมวกจบั
ตรงไหน เวลาสวมหมวกก็ใหจับตรงน้ัน) ยกหมวกข้ึนมาสวมศีรษะ
ใชมือซายชวยดวยก็ไดแลวลดมือทั้งสองลงอยูในทาตรงตามเดิมอยาง
แข็งแรง
หมายเหตุ : ในกรณีที่ลูกเสือมีพลองหรือไมงาม กอนทําทาถอดหมวก
ใหเอาโคนพลองหรอื ไมง ามมาไวร ะหวา งปลายเทาทง้ั สอง แลวพิงทอ นบน
ไวก บั แขนซา ย ครนั้ แลว จงึ ปฏบิ ตั ติ ามขน้ั ตอนตอ ไป และเมอื่ ถอดหมวกหรอื
สวมหมวกเรียบรอยแลว จึงนําพลองหรือไมงามมาอยูในทาเรียบอาวุธ
ตามเดิม

“ลกู เสอื สมานฉันท ผูกพนั สิ่งแวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

การถอดหมวกเพ่อื ถวายราชสดดุ ี ๕๕
คําบอก “ถอดหมวก, นัง่ ”
การปฏิบัติ เม่ือสั่งถอดหมวก และทุกคนถอดหมวกเรียบรอยแลวใหส่ัง
“นง่ั ” เมื่อไดยินคาํ สงั่ วา “นง่ั ” ใหก าวเทา ซายไปขางหนา คร่ึงกา ว คกุ เขา
ขวาลงตงั้ เขา ซา ยนงั่ บนสน เทา ขวา มอื ขวาแบควา่ํ วางลงบนเขา ขวา มอื ซา ย
ทถี่ อื หมวกวางพาดบนเขา ซา ย และตง้ั ฉากกบั เขา ซา ย หนั หมวกไปทางขวา

เวลารอ งเพลงราชสดดุ ี ใหก ม หนา เลก็ นอ ย เมอ่ื จบเพลงใหเ งยหนา
ขึ้นและส่ัง “ลุก” ใหลุกขึ้นโดยใชเทาซายท่ีกาวออกไปกลับมาชิดเทาขวา
แลว สง่ั “สวมหมวก” ให สวมหมวกโดยเร็ว
หมายเหตุ : ในกรณีที่ลูกเสือมีพลองหรือไมงาม ใหถอดหมวกในทาท่ีมี
อาวธุ เสยี กอ น แลว จงึ นง่ั และใหว างพลองหรอื ไมง า มไวข า งขวาตามยาวชดิ
ขาขวา มือขวาคงแบคว่าํ ลงวางบนเขา ตามปกติ
การถอดหมวกเพ่อื สวดมนต - สงบนง่ิ

ก. หมวกลกู เสอื สาํ รอง หมวกทรงกลมมกี ะบงั หนาหมวก
ใชม อื ขวาจบั ทก่ี ะบงั หนา หมวกแลว ถอดหมวกพรอ มกบั ยกมอื

ซายขึ้นมาประกบกับมือขวาในทาพนมมือ ใหดานในของหมวกหันไปทาง
ซา ย หนาหมวกอยูขางบน กะบงั หมวกอยูระหวางฝามือทัง้ สอง และหนีบ
หมวกไว

เวลาสงบนิ่งใหลดมือขวาท่ีถือกะบังหนาหมวกไปอยูกึ่งกลาง
ลาํ ตวั แขนเหยยี ดตรงพรอ มกบั วางฝา มอื ซา ยทบั ลงบนหลงั มอื ขวา กม หนา
เล็กนอยสงบนง่ิ อยปู ระมาณ ๑ นาที แลว เงยหนา ขึน้ สวดมนต

พธิ กี ารลูกเสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

ข. หมวกลกู เสือสามญั หมวกปกกวางพับขา ง
ใชม อื ขวาจบั หมวกดา นหนา แลว ถอดหมวกพรอ มกบั พรอ มกบั

ยกมอื ซา ยขนึ้ มาประกบกบั มอื ขวาในทา พนมมอื ในดา นในของหมวกหนั ไป
ทางซา ย ดอกจันหนั ไปดานหนา ใหป กหมวกอยรู ะหวา งฝามอื ทั้งสองและ
หนีบหมวกไว เวลาสงบนงิ่ ใหป ฏิบตั ิเชน เดยี วกบั หมวกลกู เสือสาํ รอง

ค. หมวกผูบงั คบั บัญชาลูกเสอื หมวกปก กวา งไมพบั ขาง
ใชม อื ขวาจบั ปก หมวกดา นหนา แลว ถอดหมวกพรอ มกบั ยกมอื

ซายขึน้ มาประกอบมอื ขวาในทา พนมมือ ใหดานหนา ของหมวกหันไปทาง
ซายหนาหมวกอยูขางบนใหปกหมวกอยูระหวางฝามือท้ังสอง และหนีบ
๕๖ หมวกไว เวลาสงบนิง่ ใหป ฏบิ ัตเิ ชน เดยี วกบั หมวกลูกเสือสามัญ

ง. หมวกทรงออ น (เบเรห )
ใชมือขวาจับที่ขอบหมวกดานขวา แลวถอดหมวกพรอมกับ

ยกมือซายข้ึนมาประกบกับมือขวาในทาพนมมือ ใหดานในของหมวกหัน
ไปทางซา ย หนา หมวกหนั เขา หาตวั ใหห มวกอยรู ะหวา งฝา มอื ทง้ั สอง และ
หนบี หมวกไว เวลาสงบน่งิ ใหป ฏิบัติเชน เดยี วกบั หมวกลูกเสอื สามัญ

จ. หมวกกลาสี
ใชมือขวาจับที่ขอบหมวกดานหนา แลวถอดหมวกพรอมกับ

ยกมอื ซา ยขน้ึ มาประกบกบั มอื ขวาในทา พนมมอื ใหด า นหนา ของหมวกหนั
ไปทางซา ย หนา หมวกอยขู า งบนใหห มวกอยรู ะหวา งฝา มอื ทง้ั สองและหนบี
หมวกไว เวลาสงบนงิ่ ใหปฏบิ ัติเชน เดยี วกับหมวกทรงออน

“ลกู เสือสมานฉันท ผูกพันสิ่งแวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

ฉ. หมวกทรงหมอตาล
ใชม อื ขวาจบั ทกี่ ะบงั หนา หมวก แลว ถอดหมวกพรอ มกบั ยกมอื

ซายขึ้นมาประกบกับมือขวาในทาพนมมือ ใหดานในของหมวกหันไป
ทางซา ย หนา หมวกอยขู า งบน ใหก ะบงั หนา หมวกอยรู ะหวา งฝา มอื ทงั้ สอง
และหนบี หมวกไว เวลาสงบนิ่ง ใหปฏิบตั เิ ชน เดยี วกับหมวกกลาสี

๕๗

พิธกี ารลูกเสอื

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

ระเบยี บสํานกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสือแหง ชาติ
วา ดวย การจัดกองลกู เสือเกยี รติยศ พ.ศ. ๒๕๑๙
-----------------------------------------

โดยทค่ี ณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แหง ชาติ เหน็ สมควรทจ่ี ะไดว าง
ระเบียบวาดวยการจัดกองลูกเสือเกียรติยศ จึงไดวางระเบียบปฏิบัติไวดัง
ตอไปน้ี

ขอ ๑. ระเบียบน้ีเรียกวา “ระเบียบสํานักงานคณะกรรมการ
บริหารลูกเสือแหง ชาติ วา ดวยการจัดกองลูกเสือเกียรตยิ ศ พ.ศ. ๒๕๑๙”
๕๘ ขอ ๒. กองลูกเสือเกียรติยศประกอบดวยลูกเสืออยางนอย ๒
หมู พรอ มดว ยผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื ควบคมุ อยา งนอ ย ๒ คน และใหม แี ตร
เดี่ยวดวย

ขอ ๓. กองลกู เสือเกียรตยิ ศจัดสาํ หรบั
๓.๑ พระประมุขของคณะลกู เสอื แหง ชาติ
๓.๒ องคอ ปุ ถัมภของคณะลกู เสือแหง ชาติ
๓.๓ รชั ทายาท
๓.๔ ผูสําเร็จราชการแทนพระองค
๓.๕ ผปู ฏิบัติพระราชกิจแทนพระองค
๓.๖ สภานายก สภาลกู เสือแหง ชาติ
๓.๗ ประธานคณะกรรมการบริหารลูกเสอื แหงชาติ

“ลูกเสอื สมานฉันท ผกู พันสง่ิ แวดลอ ม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

๓.๘ ศพผูบังคับบัญชาลูกเสือ ต้ังแตชั้นผูตรวจการ ๕๙
ลกู เสอื ขนึ้ ไป กรรมการผทู รงคณุ วฒุ สิ ภาลกู เสอื แหง ชาติ กรรมการบรหิ าร
ลูกเสอื แหง ชาติ หรอื ผบู ังคบั บัญชาลูกเสอื อน่ื ที่เหน็ สมควร

๓.๙ ธงคณะลกู เสอื แหง ชาติ หรอื ธงลกู เสอื ประจาํ จงั หวดั
ขอ ๔. การจัดกองลกู เสือเกยี รติยศ ใหจัดในโอกาสตอ ไปนี้

๔.๑ สําหรับพระประมุขของคณะลูกเสือแหงชาติ
องคอ ปุ ถมั ภข องคณะลกู เสอื แหง ชาติ และรชั ทายาท ใหจ ดั เมอ่ื เสดจ็ ในงาน
พระราชพธิ ี รัฐพธิ ี งานพธิ ขี องลกู เสอื หรอื เสด็จประพาสตางทอ งถน่ิ

๔.๒ สําหรับผูสําเร็จราชการแทนพระองค ใหจัดเชน
เดียวกบั หมายเลข ๔.๑

๔.๓ สําหรับสภานายก สภาลูกเสือแหงชาติและ
ประธานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแหงชาติ ใหจัดเมื่อไปในงานพิธี
ของลูกเสือ

๔.๔ สาํ หรบั ศพผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื ใหจ ดั เมอื่ เวลาเผา
หรือฝง แตใหงดจัดสําหรับศพผูบังคับบัญชาลูกเสือซึ่งเสียชีวิตเนื่องจาก
กระทาํ ผดิ หรอื ประพฤติช่ัว

๔.๕ สําหรับธงคณะลูกเสือแหงชาติ หรือธงลูกเสือ
ประจําจังหวัด ใหจ ัดในเมอ่ื เชญิ ธงไปในงานพิธีและเชิญกลับ

ขอ ๕. กองลกู เสอื เกยี รตยิ ศสาํ หรบั พระประมขุ ของคณะลกู เสอื
แหงชาติ องคอุปถัมภของคณะลูกเสือแหงชาติ และรัชทายาท ใหมีธง
คณะลูกเสือแหง ชาติ หรอื ธงลูกเสอื ประจําจงั หวดั ดวย

พิธีการลกู เสอื

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

ขอ ๖. กองลกู เสอื เกยี รตยิ ศใหแ ตง เครอ่ื งแบบลกู เสอื ลกู เสอื ถอื
ไมพลองหรือไมงามทุกคนตามประเภทของตน สวนผูบังคับบัญชาลูกเสือ
๒ คนท่คี วบคมุ ใหม ีไมถอื

ขอ ๗. การจดั การลกู เสอื เกยี รตยิ ศสาํ หรบั ศพผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื
พยายามจัดลกู เสอื จากหนว ยสังกัดเดยี วกับผเู สยี ชีวิตหรอื จากหนว ยสังกัด
ท่ผี เู สยี ชวี ติ เคยบงั คับบญั ชาหรอื เคยประจาํ มากอน

ขอ ๘. กองลูกเสือเกียรติยศจัดสําหรับผูใด โดยปกติใหผูบังคับ
บัญชาลูกเสือกองเกียรติยศรายงานตัวตอผนู ้นั

ขอ ๙. การท่ีจะจัดกองลูกเสือเกียรติยศในสวนกลางให
๖๐ เลขาธิการคณะกรรมการบริหารลูกเสือแหงชาติ เปนผูพิจารณาอนุญาต

ในสวนภูมิภาคนั้น ใหผูอํานวยการลูกเสือจังหวัดเปนผูพิจารณาอนุญาต
ท้งั นตี้ ามความเหมาะสม

ใหใ ชร ะเบยี บน้ี ตง้ั แตบ ัดนเี้ ปนตนไป
ประกาศ ณ วันท่ี ๑๑ สงิ หาคม ๒๕๑๙

(ลงชื่อ) พลตรี ศ. สริ โิ ยธนิ
(ศริ ิ สิริโยธิน)

รัฐมนตรวี า การกระทรวงศกึ ษาธิการ
ประธานคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสือแหง ชาติ

“ลกู เสือสมานฉันท ผกู พนั ส่ิงแวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

ขอปฏบิ ัติสําหรับแตรเดี่ยว แตรวง
และเจา หนา ทป่ี ระจําธง

ในการตรวจพลเม่ือไดยินคําบอกหรือไดเห็นสัญญาณใหกระทํา ๖๑
วันทยาวุธ ใหแตรวงบรรเลงเพลงคํานับตามขอระเบียบการเคารพ แตร
เดีย่ วไมเปา เวน แตเ ม่ือไมม ีแตรวง จึงใหแตรเดี่ยวเปา เพลงคํานบั

เมอ่ื แตรวงเปา เพลงคาํ นบั จบแลว ใหบ รรเลงเพลงเดนิ ของลกู เสอื
จนกวา ผูตรวจพลสวนสนามจะผา นพน แถวลกู เสอื ไป

ในการตรวจพลซงึ่ มลี กู เสอื หลายจงั หวดั รวมกนั เมอ่ื แตรวงบรรเลง
เพลงคํานับจบแลว ใหกองแตรวงของลูกเสือท่ีอยูตนทางผูตรวจพลสวน
สนามเขามานนั้ บรรเลงเพลงเดินของลกู เสือทนั ที สวนแตรวงของกองลกู เสือ
อ่ืนๆ (ถามี) ใหสงบนิ่งอยูกอนตอเม่ือไดรับสัญญาณจึงเริ่มบรรเลงรับชวง
เปน ลําดับตอ ไป

ในการสวนสนาม เมอ่ื มคี าํ บอกวา “หนา - เดนิ ” ใหแ ตรเดยี่ วและ
แตรวงออกเดิน แตรวงเร่ิมบรรเลงเพลงเดินของลูกเสือ เมื่อแตรวงเดินไป
ถงึ ทซี่ ง่ึ หา งจากธงท่ี ๑ ระยะ ๒๐ กา วแลว ใหเ ลยี้ วซา ยเดนิ ไปจนทา ยขบวน
พนแนวปกซายของแถวสวนสนาม จึงกลับหันหลัง เม่ือไปถึงที่ตรงหนา
ผูตรวจพลสวนสนามใหซอยเทาแลว หยดุ และบรรเลงเพลงเดินตอไป

ถาหนวยลูกเสือท่ีจะเดินผานถัดไปไมมีแตรวง ใหแตรวงของ
หนว ยลกู เสอื แรกนนั้ คงอยูบรรเลงเพลงเดนิ ใหตอ ไปดว ย

พิธีการลูกเสอื

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

แตรวงของหนว ยลกู เสอื ถดั ไป(ถา ม)ี ใหเ รม่ิ บรรเลงเพลงเดนิ ทนั ที
ในเมื่อแตรวงของหนวยลูกเสือแรกหยุดลงนอกจากนี้ใหปฏิบัติตามท่ี
กลา วแลว

ทัง้ นี้ ใหปฏิบัตติ ามสัญญาณของผูกาํ กับฯ แตรวง
ในการตรวจพลสวนสนาม ลูกเสือเปนอําเภอ เปนจังหวัดหรือ
หลายจงั หวดั รวมกนั ใหร วมแตรเดยี่ วของลกู เสอื อาํ เภอ หรอื จงั หวดั หนง่ึ ๆ
เขาดวยกัน จัดเปนหนวยแตรเดี่ยวใหอยูในบังคับบัญชาของลูกเสือแตร
เดีย่ วท่ีมีอาวโุ สสูงสุด
ในการตรวจพลสวนสนาม ถา ไมม แี ตรวงใหห นว ยแตรเดย่ี วปฏบิ ตั ิ
๖๒ เชนเดียวกับแตรวงตามที่กลาวแลวทุกประการเวน แตในการตรวจพล
ไมต องเปา เพลงเดินหลังจากที่ไดเ ปา เพลงคาํ นับแลว
ในการสวนสนามถามีแตรวง ใหหนวยแตรเดี่ยวเดินผานผูตรวจ
พลสวนสนามเชน แถวลกู เสอื อน่ื ๆ และใหผ บู งั คบั หนว ยแตรเดยี่ วบอกแถว
แสดงความเคารพเม่ือเดินไปถึงธงท่ี ๑ ผูบังคับหนวยแตรเด่ียวเอง
แสดงความเคารพ ดว ยวธิ แี ลขวาไมท าํ วันทยหตั ถ
เจาหนาท่ีประจําธงในเวลาสวนสนาม ใหผูรักษาธงผูอาวุโสสูง
เปนผบู อกแสดงความเคารพ

“ลกู เสือสมานฉนั ท ผกู พนั สงิ่ แวดลอ ม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

การเชญิ ธง และทา เชิญธง ๖๓
(๑) การเชิญธงมาและเชิญกลบั กับโอกาสท่ีจะคลี่ธง
เมอ่ื จะเชญิ ธงมาใหจ ดั ลกู เสอื ๑ กองรอ ยพรอ มดว ยแตรเดย่ี ว

๑ คู ซงึ่ มอี ยใู นทน่ี นั้ ไปรบั กบั ใหจ ดั รองผกู าํ กบั กองลกู เสอื ทอี่ อ นอาวโุ สทส่ี ดุ
๒ นายเปน ผรู กั ษาธง จดั นายหมลู กู เสอื ทด่ี เี ยย่ี ม ๒ นาย ใหเ ปน ผเู ชญิ ธง ๑
นาย เปน ผูชวยผเู ชญิ ธง ๑ นาย รวมกันเรยี กวาเจา หนา ที่ประจาํ ธง เม่อื ผู
กํากับกองลูกเสือนํากองลูกเสือไปถึงสถานที่ไวธงแลว ใหจัดต้ังแถวหนา
กระดานถา ไมต ดิ ขดั ดว ยพน้ื ทแ่ี ลว ใหป ก ขวายนื หนั หนา ตรงชอ งหมทู างเขา
สถานทนี่ ั้น

ในระหวางท่ีจัดแถวน้ีใหเจาหนาท่ีประจําธงคือผูรักษาธงท่ี
ออ นอาวโุ สทส่ี ดุ คนหนง่ึ กบั ผเู ชญิ ธงและผชู ว ยผเู ชญิ ธงเขา ไปยงั ทไี่ วธ งและ
รอกองลกู เสืออยกู อ น

เม่ือกองลูกเสือจัดแถวเรียบรอยแลว จึงใหเจาหนาที่ประจําธง
เชิญธงออกมา ผูรักษาธงเดินนําหนาผูชวยผูเชิญธงตามไปขางหลังธง
เม่ือเจาหนาทปี่ ระจาํ ธงเชิญธงออกมา ผูร กั ษาธงเดินนาํ หนา ผูชวยผูเชิญธง
ตามไปขางหลังธง เม่ือเจาหนาท่ีประจําธงเชิญธงลงมาใกลพอสมควรแลว
ใหผูบังคับกองลูกเสือบอกแสดงความเคารพ แตรเดี่ยวเปาเพลงคํานับ
๓ จบ เจา หนา ทป่ี ระจาํ ธงเชญิ ธงเขา ประจาํ ทป่ี ก ขวา ผรู กั ษาธงทอ่ี อ นอาวโุ ส
เขา ประจาํ ทางซา ยธง ผรู กั ษาธงซงึ่ มอี าวโุ สสงู ถดั ขนึ้ ไปนนั้ เขา ประจาํ ทางขวาธง
นายหมูลูกเสือ ผูชวยผูเชิญธงเดินออมปกขวาไปขางหลังแถวกองลูกเสือ
ตามเดมิ

พธิ ีการลูกเสอื

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

ตอ ไปนผ้ี กู าํ กบั กองลกู เสอื บอกเลกิ แสดงความเคารพ และนาํ
แถวออกเดินไป ใหเดินตามลําดับดังน้ี ผูกํากับกองลูกเสือ แตรเด่ียว
ธงประจํากองลูกเสือ พรอมดวยผูรักษาธงในตับเด่ียวกัน ถัดไปจึงถึงแถว
ลกู เสือ

กองลกู เสอื เชญิ ธงแสดงความเคารพถวายแดพ ระบาทสมเดจ็
พระเจา อยหู วั พระองคเ ดยี วเทา นนั้ (นอกจากนใี้ หผ กู าํ กบั กองลกู เสอื แสดง
ความเคารพตามลําพัง) โอกาสน้ใี หผ เู ชญิ ธงถวายเคารพ

ถา เปน การเชญิ ธงไปเขา ประจาํ แถวลกู เสอื อกี ตอ หนง่ึ เมอ่ื กอง
ลกู เสอื เชญิ ธงมาถงึ ระยะอนั จกั ตอ งแสดงความเคารพใหผ บู งั คบั แถวลกู เสอื
๖๔ ซง่ึ ตงั้ รออยูน ัน้ บอกแสดงความเคารพ แตรเดี่ยวเปาเพลงคาํ นบั ๓ จบ ถา
มีแตรวงใหแตรวงบรรเลงเพลงมหาชัย แตรเด่ียวไมตองเปาคํานับ เม่ือ
ผูกํากับกองลูกเสือเชิญธงนําแถวไปถึงท่ีแลวบอกใหหยุด ครั้นแลวใหบอก
“ธงประจาํ ท”่ี ตามคาํ บอกน้ี ใหผ เู ชญิ ธงพรอ มดว ยผรู กั ษาธงเดนิ ไปเขา ประจาํ ท่ี
ตอนนี้แถวลูกเสอื ไมต องแสดงความเคารพ

ถาแถวลูกเสือต้ังอยูขางหนาใกลกับสถานที่ไวธง ไมตองจัด
กองลกู เสือเชิญธง เมอ่ื ถึงกําหนดเวลาใหเจา หนา ทเ่ี ชิญธงออกจากสถานท่ี
ไวธงไปเขาประจําท่ีตามทางอันสะดวกเร็ว แถวลูกเสือแสดงความเคารพ
ดังกลา วแลว

ถาเปนการเชิญธงไปประดิษฐานในท่ีแหงอ่ืนชั่วคร้ังคราว
กองลกู เสอื เชญิ ธงไปถงึ ทแ่ี ลว ใหห ยดุ และจดั แถวหนา กระดานธงประจาํ ปก ขวา
คร้ันแลวผูกํากับกองลูกเสือเชิญธงบอกแสดงความเคารพเมื่อไดยิน
คําบอกวา “ระวัง” ใหผูชวยผูเชิญธงว่ิงไปอยูขางหลัง ผูรักษาธงท่ีออน

“ลูกเสอื สมานฉันท ผกู พนั สงิ่ แวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

อาวุโสไปอยูขางหนาธง สวนผูรักษาธงท่ีมีอาวุโสถัดข้ึนไปนั้น ใหกลับไป ๖๕
ประจาํ ทขี่ องตนในแถวกองลกู เสอื เมอื่ สน้ิ คาํ บอกวา “วนั ทยา - วธุ ” แลว
ใหผูรักษาธงท่ีออนอาวุโสนั้นบอกวา “ธงหนา - เดิน” แลวนําธงเขา
ประดิษฐานตามที่ ตอไปนี้กองลูกเสือเชิญธงจะตองประจํารักษาธงอยู
ณ ท่ีน้นั ตอ ไปหรือจะกลับได ก็แลวแตจะไดรบั คาํ สงั่ มาอยา งไร

การเชิญธงกลับไปไวที่เดิม ถาเปนการเชิญจากสถานที่หนึ่ง
ไปสูอีกแหงหน่ึงก็ปฏิบัติตามท่ีกลาวมาแลวโดยตลอด ถาเปนการเชิญธง
กลบั จากแถวลกู เสอื ใหผ บู งั คบั แถวลกู เสอื จดั ลกู เสอื ๑ กอง ใหเ ชญิ ธงกลบั
และเมอ่ื กองลกู เสอื เชญิ ธงเรมิ่ ออกเดนิ ใหบ อกแถวแสดงความเคารพสง ธง
เมอื่ ผกู าํ กบั ลกู เสอื เชญิ ธงไดจ ดั การสง ธงเสรจ็ แลว ใหน าํ กองลกู เสอื กลบั ไป
โดยไมต องรอคอยเจาหนาที่ประจําธง

ธงลูกเสือประจําจังหวัดและธงคณะลูกเสือแหงชาติน้ัน
ตามปกติยอมมวนเก็บรักษาไวในถุงคลุมธงเสมอ โอกาสที่จะเปดถุง
และคลีธ่ งออกนั้นมดี งั น้ี

ก. เมื่อธงประจาํ อยกู บั กองลูกเสอื เกยี รติยศ
ข. ในการตรวจพลสวนสนาม
ค. ในงานพธิ ีของลกู เสือ
ในการฝกตามปกติไมตองนําธงลูกเสือประจําจังหวัดไปดวย
เวน แตเม่อื มคี าํ สัง่ เฉพาะจงึ ใหนําไปดว ย
(๒) ทาเชิญธง
ในการทาํ ทา เชญิ ธง ใหก ระทาํ ตดิ ตอ กนั ไปโดยละมอ มไมต อ ง
เรง รีบ เมื่อลูกเสอื ถอื พลองในทาเรียบอาวุธ ใหผ เู ชญิ ธงจับคนั ธงตอนกลาง

พธิ ีการลกู เสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

ดวยมือขวา แขนขวาปลอยใหหอยลงมาแนบกับขาอยางในทาตรง น้ิวช้ี
น้ิวกลาง น้ิวนางอยูทางหนา นิ้วกอยอยูทางขาง นิ้วหัวแมมืออยูทางหลัง
คนั ธงอยูท างเทา ขวา ตน ธงอยูป ระมาณโคนนิว้ กอยเทา ขวา

เมอื่ ลกู เสอื ทาํ ทา แบกอาวธุ เพอ่ื จะออกเดนิ ไปใหผ เู ชญิ ธงขนึ้
ดวยมือขวาและใชมือซายชวยนําคันธงข้ึนพาดบนบาเมื่อพาดแลวลดมือ
ซายกลับมาอยูท่ีเดิม คันธงพาดอยูบนบา ตนคันธงเฉลียงลงเบื้องลาง
ขอ ศอกขวาทาํ มุม ๙๐ องศากบั ลาํ ตวั

ในการเคล่อื นที่ใหเ ชญิ ธงแบกบา ขวา
ในการเดินผานเฉพาะพระพักตรพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว
๖๖ ในการเชญิ รบั ธงจนถงึ ขณะทกี่ องลกู เสอื เชญิ ธงจะออกเดนิ ตลอดทงั้ ในการ
เชิญธงออกจากแถวลูกเสือเพ่ือเชิญกลับไปไวที่เก็บและในการเชิญธงออก
ไปหนา แถวในงานพิธกี ด็ ใี หเ ชญิ ธงในทาเคารพ คือยกคันธงขน้ึ ดวยมอื ขวา
ใหต้ังตรงแนบกับบาขวา มือซายจับคันธงเสมอแนวบา มือขวาเหยียดจับ
ตน คนั ธง
ในการผานเฉพาะพระพักตรพระบาทสมเด็พระเจาอยูหัว
ใหผูรักษาธงกระทําวันทยหัตถถวายความเคารพ สวนผูชวยผูเชิญธงให
ทําทาแลขวา แขนไมแ กวง ถวายความเคารพ
การลดธงจากทา เคารพไปอยทู า ตรงทาํ ดงั น้ี คอื ปลอ ยมอื ขวา
จากตนคันธง และยกขึ้นไปจับคันธงชิดกับมือซายตรงท่ีเหมาะสําหรับถือ
ในทาตรง แลวมือท้ังสองชวยกันหยอนคันธงลงสูพ้ืน ใหตนคันธงอยู
ประมาณโคนน้ิวกอย - เทาขวาและชิดกับเทาขวา ปลอยมือซายลงไปอยู
ขางตวั ในทา ตรง

“ลกู เสือสมานฉันท ผูกพันส่งิ แวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

การแสดงความเคารพในเวลาอยูกับท่ี เมื่อมีคําบอกวา ๖๗
“วันทยา-วุธ” ใหผูเชิญธงยกธงข้ึนในทาเคารพ ครั้นแลวใหผูเชิญธง
ทําก่ึงขวาหัน ลดปลายคันธงลงทางหนาอยางชาๆ จนคันธงอยูในแนว
เสนขนานคูกับพื้นมือท้ังสองอยูเสมอแนวบา เมื่อลดธงลงถึงท่ีเชนน้ีแลว
ใหเชิญธงกลับขน้ึ ในทาเคารพชาๆ ไดจังหวะเชนเดียวกับขาลง และใหค น
เชญิ ธงอยใู นทา นจ้ี นกวา จะมคี าํ บอกวา “เรยี บ - อาวธุ ” จงึ ใหล ดธงลงแลว
จึงทํากงึ่ ซายหนั อยูในทา ตรง

ในโอกาสน้ใี หผ ูรักษาธงกระทาํ วนั ทยหัตถ
เม่อื มคี าํ บอกวา “ถอดหมวก” ใหผ ูเชิญธงทําดงั นี้
นาํ มอื ซา ยมาชว ยมอื ขวา ยกคนั ธงมาทางหนา แลว วางตน คนั ธง
ลงระหวา งเทา ทง้ั ๒ ใหต น คนั ธงยนั กบั เทา ขวา เอนคนั ธงไปพงิ กบั แขนซา ย
ตรงขอศอกซึ่งงออยูนั้น คร้ันแลวมือขวาปลอยคันธงไปถอดหมวก
(ตามวิธีที่กลาวมาแลวสําหรับทาถอดหมวก) มาวางบนมือซายแลวลดมือขวา
ไปไวขางตัวอยางในทาตรงเม่ือมีคําบอกวา “สวมหมวก” ใหผูเชิญธง
สวมหมวกกอนแลวใชม อื ท้ัง ๒ ยกคนั ธงไปไวใ นทา ตรง

พิธกี ารลกู เสอื

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

วิธีใชไมถือของผูบงั คับบัญชาลูกเสือ

ตัวไมมีลักษณะกลม เสนผาศูนยกลางหัวไม ๑.๘ ซม. กลางไม
๑.๕ ซม. ปลายไม ๑.๒ ซม. ยาว ๗๕ ซม. ทห่ี วั ไมแ ละปลายไมใ หม ปี ลอกทอง
เหลืองหุม ทางดานหัวไมยาว ๖ ซม. ดา นปลายไมยาว ๔ ซม. จากหวั ไมล งมา
๑๒ ซม. ใหมีพู ๒ พู ผูกติดอยกู ับไม และจากหวั ไมลงมา ๑๖ ซม. ใหมปี ลอก
ทองเหลืองเปนตราคณะลูกเสือแหงชาติหุมอยู ไมถือใหเปนสีน้ําตาลแก
การใชไมถือของผูบังคับบัญชาลูกเสอื จะใชในโอกาสทีน่ าํ แถวลูกเสือ
๖๘
ในพิธีใดๆ ที่ลูกเสือถือไมพลองหรือไมงาม ผูบังคับบัญชาลูกเสือก็ตอง
ถือไมถ อื ซงึ่ มีวิธีใชด งั น้ี

(๑) วธิ ถี อื ไมใ นทา ปกติ โดยปกตไิ มถ อื จะหนบี อยทู แ่ี ขนซา ยทอ น
บนแนบขนานกับลําตัวหนบี ไมไว แขนซา ยทอนลางเหยียดตรงไปขา งหนา
มอื ซา ยกาํ ไมใ หฝ า มอื หงายขน้ึ หา งจากตวั ไมป ระมาณ ๑ ฝา มอื ใหไ มข นาน
กับพื้น

(๒) ทาบาอาวุธ ใชมือขวาจับโคนไมถือใหฝามือควํ่าลง แลวนํา
ไมมาแนบขางตัวทางขวาในทาตรง ใหน้ิวท้ังส่ีเรียงกันอยูดานนอก หัวแม
มืออยูดานในใหโคนไมอยูระหวางนิ้วชี้กับหัวแมมือ ปลายไมอยูแนบรอง
ไหลข วา พรอมกบั ปลอ ยมือซายลงขา งตัว

(๓) ทา ทาํ การเคารพอยกู บั ที่ เมอ่ื บอกแถวทาํ ความเคารพ “ขวา
(ซาย ตรงหนา) ระวัง วันทยา - วุธ” พรอมกันนั้นผูควบคุมแถวตองทํา

“ลกู เสือสมานฉันท ผกู พันส่งิ แวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

วันทยาวุธดว ยไมถอื โดยใชมือขวาถือไมมาในทา บาอาวธุ แลวยกไมขน้ึ มา ๖๙
ใหป ลายไมต งั้ ตรง นวิ้ หวั แมม อื หนั เขา หาตวั ตง้ั ตรงขน้ึ ตามไม ปลายนวิ้ หวั
แมมือเสมอปากหางจากปาก ๑ ฝามือแลวฟาดปลายไม และแขนขวาลง
อยใู นทา ตรง มอื ขวากาํ โคนไม ใหน ว้ิ หวั แมม อื อยขู า งบน และชป้ี ลายนวิ้ ไป
ทางปลายไม ใหป ลายไมช ตี้ รงไปขา งหนา และเฉยี งลงหา งจากพนื้ ประมาณ
๑ คบื

(๔) ทา เรียบอาวุธ เมือ่ บอก “เรียบ - อาวธุ ” ใหย กไมถ อื ขนึ้ มา
เสมอปาก แลว นําลงมาทาบาอาวธุ แลว จงึ ยกไมช แู ขนขวาข้นึ เหนอื ศีรษะ
เฉียงไปขางหนาทางก่ึงขวา พรอมกับเอนปลายไมลงมาเหน็บที่ซอกรักแร
มือซายยกขึน้ กาํ โคนไมไว แลวปลอยมอื ขวาลงในทา ตรงตามเดมิ

(๕) เดินตามผูรับการเคารพท่ีเดินตรวจแถว เม่ือไดบอกแถว
ทําการเคารพดวยทาวันทยาวุธแลว ถาผูรับการเคารพเดินตรวจแถว
ผูควบคุมแถว ซ่ึงไดทําทาวันทยาวุธอยูแลวใหยกไมขึ้นเสมอปากและเดิน
ตามผรู บั การเคารพไปจนสดุ แถว จงึ วง่ิ กลบั มาอยทู เ่ี ดมิ พรอ มกลบั ฟาดไม
ลง ในทา วนั ทยาวุธอกี แลว จึงบอกแถว “เรียบ - อาวุธ” ตอ ไป

(๖) การรายงาน เมอื่ บอกแถวทาํ วนั ทยาวธุ แลว ในกรณที จี่ ะตอ ง
เขาไปรายงานผูรับการเคารพก็ใหยกไมข้ึนเสมอปาก ออกว่ิงไปหยุดตรง
หนา หา งจากผรู ับรายงาน ๓ กา ว พรอมกับฟาดไมล งในทาวนั ทยาวุธแลว
จงึ รายงาน เมอื่ รายงานเสรจ็ ใหย กไมข นึ้ เสมอปาก กา วเทา ถอยหลงั ๑ กา ว
ทาํ กลบั หลงั หนั วง่ิ กลบั ที่ ทาํ กลบั หลงั หนั พรอ มกบั ฟาดไมล งในทา วนั ทยาวธุ
แลว จงึ บอกแถว “เรยี บ - อาวุธ” ตอไป

พธิ ีการลูกเสอื

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

(๗) ควบคุมแถวลูกเสือเดิน เม่ือบอกลูกเสือแบกอาวุธ ผูบังคับ
บญั ชาลกู เสอื ตอ งอยใู นทา บา อาวธุ และเดนิ ไปในทา บา อาวธุ จนกวา จะบอก
ใหล กู เสอื เรยี บอาวธุ

(๘) สวนสนาม เมอื่ จะถงึ ผรู บั การเคารพ คอื ถงึ ธงแรกใหท าํ ระวงั
คอื ยกไมจ ากทา บา อาวธุ มาอยเู สมอปาก เมอ่ื ถงึ ธงที่ ๒ ใหฟ าดไมล งในทา
วนั ทยาวธุ พรอ มกบั ทาํ แลขวา แขนซา ยไม แกวง จนถงึ ธงท่ี ๓ ใหย กไมข น้ึ
เสมอปากแลวลดลงในทา บาอาวธุ สะบดั หนาตรงแลวเดินตอไป
ลักษณะพขู องไมถ อื
๗๐ เปน ดา ยหรอื ไหมพรม สตี ามประเภทของลกู เสอื หรอื ตาํ แหนง ของ
ลูกเสอื ถักเปนเชอื กผกู ติดกบั ไมถ ือปลายเชือกยาวขางละ ๖ ซม. ตอจาก
ปลายเชือกแตละขางทําเปน พูยาวขางละ ๗ ซม. ขนาดโตพอสมควร

ผูบงั คับบญั ชาลกู เสือสามญั เชือกและพูเปน สเี ขยี ว
ผูบ งั คบั บญั ชาลูกเสือสามัญรุนใหญ เชอื กและพูเปนสีเลือดหมู
ผูบ ังคบั บัญชาลกู เสือวสิ ามญั เชือกและพูเปน สีแดง
ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื ชน้ั ผตู รวจการลกู เสอื สงั กดั สาํ นกั งานลกู เสอื
แหง ชาติ เชอื กและพูเปนสมี ว ง
ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื ชนั้ ผตู รวจการลกู เสอื สงั กดั สาํ นกั งานลกู เสอื
จงั หวดั เชอื กสมี ว งพูส ีมว งกับสเี หลอื ง
ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื ชน้ั ผตู รวจการลกู เสอื สงั กดั สาํ นกั งานลกู เสอื
เขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา เชือกสีมว งพสู มี ว งกบั สีแดง
(ลูกเสอื สาํ รองไมมอี าวธุ ผบู งั คับบัญชาลูกเสือสํารองไมม ไี มถอื )

“ลกู เสอื สมานฉันท ผูกพนั สง่ิ แวดลอ ม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

การสวนสนามของลูกเสอื

กองลูกเสืออาจจดั แถวสวนสนามไดด ังนี้ คอื ๗๑
เปน แถวตอนเรยี ง ๔ หรอื เปน แถวหนา กระดานตอนหมู ทงั้ น้ี แลว
แตความเหมาะสม
ถาลูกเสือทั้งจังหวัดรวมกันสวนสนามใหจัดแถวเดินเปนอําเภอๆ
ไป เวน ระยะตอ จากแถวสุดทา ยของอาํ เภอขางหนาถงึ แถวของอาํ เภอขาง
หลัง ๑๐ กาว
ผูอํานวยการลูกเสืออําเภอหรือผูแทนเปนผูบอกแถวสวนสนาม
ของอําเภอ และผูอํานวยการลูกเสือจังหวัดหรือผูแทนเปนผูบอกแถวสวน
สนามของจังหวดั
ในการสวนสนามใหไวระยะตอ ดังนี้

ระหวางกองลูกเสือ ๕ กา ว
ระหวางลกู เสอื อาํ เภอ ๑๐ กา ว
ระหวา งลกู เสอื จังหวดั ๑๕ กา ว
ท้ังนี้ แลว แตความเหมาะสมของพ้นื ภมู ปิ ระเทศ
เมอื่ พรอ มแลว แตรเดยี่ วเปา ใหส ญั ญาณ ผบู งั คบั ขบวนสวนสนาม
สั่ง “เตรียมสวนสนาม” แตรเด่ียวเปาใหสัญญาณ “หนาเดิน” ผูบังคับ
ขบวนสวนสนามส่ัง “ขวา-หัน” “แบก-อาวธุ ” และ “หนา-เดิน” แตรวง
บรรเลงแลวเดินขบวนเคลื่อนท่ีออกเดินตามลําดับดังรูปขางลาง คือ

พธิ กี ารลูกเสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

ลูกเสือถือปายยืนอยูตรงก่ึงกลางหนาขบวน หลังลูกเสือถือปาย ๕ กาว
เปนลูกเสือถือธง หลังลูกเสือถือธง ๕ กาว เปนผูกํากับกองลูกเสือ
หลงั ผกู ํากับกองลูกเสอื ๕ กาว เปน รองผูกาํ กบั กองลกู เสือซึ่งเปนผูบ งั คับแถว
และหลังรองผกู ํากบั กองลกู เสือ ๓ กาว เปน ลูกเสือ

กรณีที่มีการเชิญธงคณะลูกเสือแหงชาติ หรือธงลูกเสือประจํา
จังหวดั เขาไปอยใู นขบวนสวนสนามดว ย ใหจัดเจาหนา ทป่ี ระจําธง ไวห ลัง
ผถู ือปาย

โดยเฉพาะอยางยิ่ง ตวั ขบวนใหจัดเปนรูปดังน้ี
แตรวงเด่ียวและแตรวง หลังแตรวงประมาณ ๒๐ กาว เปนผูบังคับ
๗๒ ขบวนสวนสนาม หลังผบู ังคับขบวนสวนสนาม ๕ กาว เปนผบู งั คบั บัญชา
กองบงั คบั การผสม (ถา ม)ี หลงั ปา ยกองบงั คบั การผสม ๑๐ กา ว เปน ขบวน
หนวยลูกเสอื นอกน้นั จัดตามลําดับ
หมายเหตุ ๑. รปู ขบวนและระยะตอ อาจเปลย่ี นแปลงไดต ามความเหมาะสม

๒. เจา หนาทีป่ ระจําธงลูกเสือประจําจงั หวดั มดี งั น้ี นายหมู
ลกู เสือ ๒ คน เปน ผูเ ชิญธง ๑ คน เปนผชู ว ยเชญิ ธง ๑ คน (อยูห ลังผูเชิญธง)
รองผูก ํากับกอง ลกู เสอื ๒ คน เปน ผรู กั ษาธงโดยอยคู นละขา งของผเู ชญิ ธง
ใหรองผกู าํ กบั กองลูกเสอื ทอ่ี าวโุ สอยูทางขวามือ

๓. เวลาทาํ ความเคารพเคลอื่ นท่ี ใหถ อื ปา ยตามปกตเิ หมอื น
เวลาเคลอ่ื นท่ี แตใ หห นั หนา ปา ยเขา สทู ป่ี ระทบั (ถงึ ธงท่ี ๑ ธงที่ ๒ หรอื ธงท่ี ๓
กค็ งเดินสวนสนามปกต)ิ ตาแลตรงไปขางหนา ขนานกบั พ้นื (ไมต อ งสะบัด
หนาไปยังทป่ี ระทับ)

“ลูกเสือสมานฉนั ท ผูกพันส่งิ แวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

(เฉพาะพระพกั ตร์พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว)
แตรวง

20

ธงคณะลกู เสอื แห่งชาติ
5 ธงลกู เสอื ๔ ประเภท
5 กผอู้บงังบคังบั คขับบกวานรสผวสนมสนาม

10

ป้ายชือ่ จงั หวดั
5 ธงลูกเสือประจำจงั หวัด
5 ผกู้ ำกบั ลกู เสอื
5 ๗๓
3 รองผ้กู ำกบั ลูกเสือ

ลูกเสอื

15

ปา้ ยชื่อจังหวัด
5 ธงลกู เสอื ประจำจังหวดั
5 ผู้กำกบั ลูกเสือ
5 รองผกู้ ำกับลูกเสอื
3

ลกู เสอื
ลูกเสอื

หมายเหตุ (๑) ระยะตอ่ คิดเปน็ กา้ ว
(๒) ระยะอาจเปลีย่ นแปลงได้ตามความเหมาะสม

การทําความเคารพเวลาอยกู ับที่

พธิ กี ารลกู เสอื

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

ขบวนสวนสนาม (ภายในจงั หวัด)
แตรวง

20

5 ธงลูกเสือ ๔ ประเภท
ผบู้ ังคับขบวนสวนสนาม
5 กองบังคบั การผสม

10

5 ป้ายชอ่ื อำเภอ
ผู้บงั คบั หนว่ ยอำเภอ
5 ธงประจำกองลกู เสอื
5 ผู้กำกับลูกเสอื
5
3 รองผ้กู ำกับลกู เสือ

๗๔ ลกู เสอื
5 ธงประจำกองลกู เสือ
5 ผู้กำกับลูกเสือ
5
3 รองผู้กำกับลูกเสอื

ลูกเสือ

10 ปา้ ยช่ืออำเภอ
ผบู้ งั คบั หน่วยอำเภอ
5

5 ธงประจำกองลูกเสือ
5 ผู้กำกบั ลกู เสือ
5
3 รองผ้กู ำกับลกู เสือ

ลฯลกู ฯเสอื

หมายเหตุ (๑) ระยะตอ่ คิดเปน็ กา้ ว

(๒) ระยะตอ่ อาจเปลยี่ นแปลงได้ตามความเหมาะสมกับสถานทแ่ี ละภูมปิ ระเทศ

(๓) ธงลูกเสือประจำจังหวดั ถ้าเชิญมาใหเ้ ชญิ มาประจำแทน่ รับการเคารพ
(ดา้ นหนา้ ซา้ ยมอื ผู้เปน็ ประธานและอยหู่ น้าประธานเลก็ นอ้ ย) ห้ามใช้แสดงความเคารพผู้เปน็ ประธานเดด็ ขาด

“ลูกเสือสมานฉันท ผกู พนั สิ่งแวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

ขบวนสวนสนาม (ภายในอำเภอ)
แตรวง

20

ธงลกู เสือ ๔ ประเภท
5

ผู้บังคับขบวนสวนสนาม
5 กองบังคบั การผสม

10 ๗๕

ป้ายชอ่ื โรงเรยี น
5 ธงประจำกองลูกเสอื
5 ผกู้ ำกับลกู เสือ
5 รองผ้กู ำกบั ลูกเสอื
3

ลูกเสือ

หมายเหตุ 5
ป้ายชอ่ื โรงเรียน

5 ธงประจำกองลูกเสือ
5 ผู้กำกบั ลูกเสอื
5 รองผู้กำกบั ลูกเสอื
3

ลูกเสือ

ฯลฯ

(๑) ระยะตอ่ คดิ เปน็ ก้าว
(๒) ระยะต่ออาจเปลีย่ นแปลงได้ตามความเหมาะสมกับสถานทแี่ ละภมู ปิ ระเทศ

พิธีการลกู เสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

การทําความเคารพเวลาอยูก ับท่ี
เมอ่ื กองลูกเสอื ตา งๆ เขาประจําทเ่ี รยี บรอยแลว
ก. ประธานเสด็จมาถงึ
ผูบังคับขบวนสวนสนาม ส่ังลูกเสือทําความเคารพ แตรวง

บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี (หรอื เพลงอ่นื ใดแลวแตกรณี) ใหล กู เสอื
ผบู งั คบั บัญชาลูกเสือแสดงความเคารพดงั น้ี

๑. ลูกเสอื ทกุ คนทกุ ประเภททไี่ มมีพลองหรือไมงา ม ยนื ตรง
๒. ลูกเสอื ท่มี ีพลองหรอื ไมงา ม ทําวันทยาวธุ
๓. ลกู เสือผูถือธง เคารพดว ยทาธง
๗๖ ๔. ผูกํากับกองลูกเสือ รองผูกํากับกองลูกเสือที่ใชไมถือ

ทา ทําการเคารพอยกู บั ที่
๕. ผูบังคับบญั ชาลูกเสือทุกคนทกุ ประเภท ทําวันทยหัตถ
ข. ขณะกลา วคําปฏิญาณ
เม่ือกลา วคําปฏญิ าณ ใหป ฏบิ ตั ดิ งั น้ี
๑. ลกู เสือสํารอง ทําวันทยหตั ถ
๒. ลกู เสอื สามญั ลกู เสอื สามญั รนุ ใหญ ลกู เสอื วสิ ามญั แสดงรหสั
๓. ผบู งั คับบัญชาลกู เสอื ทกุ ประเภท แสดงรหสั
๔. ผูมีพลองหรือไมงาม ใหยกพลองหรือไมงามพิงแขนซาย

ซ่งึ งอเปนมุมฉากรอรบั อยแู ลว แลว แสดงรหัส

“ลกู เสอื สมานฉันท ผูกพันส่งิ แวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

๕. ผูถอื ธง ก็ทาํ นองเดยี วกบั ผูม ีพลองหรือไมง า ม ตางกนั แต
โคนคันธงที่ยกไวระหวางเทาทั้งสองน้ัน ใหโคนคันธงติด
กับเทาขวาดา นใน

๖. ผถู อื ปาย ใชมอื ขวาแสดงรหัส (มือซา ยคงถือปา ยไว)

ค. เวลาเดินสวนสนาม ๗๗
ดานหนา ประธานจะมีธงเปนเครื่องหมายอยู ๓ ธง
๑. ลกู เสอื ในแถวเมอื่ ไดย นิ คาํ สงั่ วา “แลขวา - ทาํ ” ใหท กุ คน

สะบัดหนา ไปยงั ประธาน จนถึงธงที่ ๓ จงึ จะสะบดั หนากลบั แลว เดินตามปกติ
ยกเวน คนทอี่ ยขู วาสดุ ไมต อ งสะบดั หนา คงมองตรงไปขา งหนา ขนานกบั พน้ื
แตถ าลูกเสอื มีพลองหรอื ไมง ามใหแ กวง แขนตามระเบยี บ

ลกู เสอื เมื่อไดย นิ คาํ สง่ั “แลขวา-ทํา” ใหท ุกคนทํา แมตน
จะยงั ไมถ งึ ธงท่ี ๒ แตธงที่ ๓ นนั้ ตับใดหรือผใู ดถึง ตับนน้ั หรือผนู ั้นสะบัด
หนากลบั เอง โดยไมตองออกคําสง่ั

๒. ผูบงั คับบัญชาลกู เสือถงึ ธงที่ ๒ ใหท าํ วทั ยหตั ถ พรอมกับ
สะบดั หนา ไปยงั ประธาน แขนไมแ กวง จนถงึ ธงที่ ๓ จงึ สะบดั หนา กลบั แลว
เดนิ ตามปกติ

พธิ กี ารลูกเสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

การแสดงความเคารพในการสวนสนามใหป ฏิบตั ดิ งั นี้
การทาํ ความเคารพของผูถือธงและผถู ือปาย

ก. ธง ธงคณะลกู เสอื แหงชาติ
ธง ลกู เสอื ประจาํ จังหวดั
ธง ประจํากองลูกเสอื
๑. เวลาอยูกับที่ใหถือธงดวยมือขวา โคนคันธงจดกับ

พ้ืนประมาณโคนนิ้วกอย-เทาขวา คันธงแนบกับตัวอยูรองไหลขวา
เวลาทาํ ความเคารพ เมอื่ เพลงสรรเสรญิ พระบารมี (หรอื เพลงอน่ื ใดแลว แต
กรณ)ี เรมิ่ บรรเลง ใหผถู อื ธงทาํ ความเคารพดว ยทา ธงติดตอกันไป ดงั นี้
๗๘ ๑.๑ ใหผ ถู อื ธงใชม อื ซา ยไปจบั คนั ธงชดิ มอื ขวา แลว ใชม อื
ซายยกคันธงขึ้นมาในแนวเสมอบาขวา ขอศอกซายต้ังมุมฉากกับลําตัว
มอื ขวาคงจับที่โคนคันธง คร้ันแลวใหท าํ กงึ่ ขวาหัน

๑.๒ คอยๆ ลดปลายคันธงลงขางหนาอยางชาๆ ตาม
จังหวะของเพลงจนคันธงอยูในแนวขนานกับพ้ืน มือซายอยูเสมอแนวบา
หา งจากตวั พอสมควร มือขวาจับโคนคันธงแขนเหยยี ดไปตามคันธง (เมอื่
บรรเลงไดค รงึ่ ของเพลง)

๑.๓ ครั้นแลวใหยกปลายคันธงกลับขึ้นในทาเคารพชาๆ
ใหไ ดจ งั หวะ เชน เดยี วกบั ขาลงเมอื่ เพลงสรรเสรญิ พระบารมี (หรอื เพลงอน่ื
ใดแลว แตกรณี) บรรเลงจบ กใ็ หล ดธงลงในทาตรงตามเดมิ

๑.๔ แลวยกมือซา ยกลบั เขา ท่ี และทํากึง่ ซายหันกลบั ที่เดมิ
๒. เวลาเคล่อื นที่ ใหแบกธงดว ยบาขวา คอื มือขวาจับดา มธง
หางจากโคนคนั ธงพอสมควรศอกขวาแนบลาํ ตวั ทาํ มมุ ๙๐ องศา

“ลูกเสอื สมานฉนั ท ผูกพนั สง่ิ แวดลอ ม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

๓. เวลาทําความเคารพเคลอ่ื นท่ี (สวนสนาม) ๗๙
๓.๑ เมอื่ ถงึ ธงที่ ๑ (ธงระวงั ) ใหล งธงจากทา แบกมาแนบ

กับลําตัว คันธงต้ังตรง มือขวากําโคนคันธง มือซายจับคันธงในแนวเสมอ
บา ยกขอศอกซา ยใหต ้งั ไดฉากกับลาํ ตัว

๓.๒ เมอ่ื ถงึ ธงที่ ๒ (ธงทาํ ความเคารพ) ใหเ หยยี ดแขนซา ย
ตรงออกไปขางหนา ใหคันธงเอนไปขางหนาประมาณ ๔๕ องศา มือขวา
แนบลําตัวตาแลตรงไปขางหนาขนานกับพ้ืน (ไมตองสะบัดหนาไปยังผูรับ
การเคารพ)

๓.๓ เมอื่ ถงึ ธงที่ ๓ (ธงเลกิ ทาํ ความเคารพ) ใหย กธงขน้ึ มา
อยใู นทาแบกธงตามเดมิ คอื ลดมือซา ยลงแลว เดนิ ตามปกติ

ข. ปายช่ือจังหวดั และปา ยอื่นๆ (ถาม)ี
๑. เวลาอยูกับที่ ใหถือปายทั้งสองมือ คือมือขวากําคันปาย

ชิดกับตัวปาย มือซายกําตอลงมาชิดมือขวาโคนคันปายจดพื้นตรงหนา
ระหวางปลายเทาท้ังสอง เวลาทาํ ความเคารพผถู ือปา ยทําทาตรงเทา นัน้

๒. เวลาเคลอ่ื นที่ ใหถ อื ปา ยดว ยมอื ขวา จบั โคนปา ยใหน วิ้ มอื
อยใู นรอ งทโ่ี คนคันปา ย แขนขวาเหยียดตรงแนบลําตัว มือซา ยจับคันปา ย
ในแนวเสมอบาและตง้ั ไดฉากกับลาํ ตวั หนั หนา ไปขา งหนา

๓. รองผกู ํากบั กองลกู เสือ (ทเ่ี ดนิ ควบคุมแถว) พอถึงธงท่ี ๑
ใหส งั่ ลกู เสือวา “ระวัง” พอถงึ ธงท่ี ๒ ใหส ง่ั ตอ วา “แลขวา - ทาํ ” ตวั เอง
ทําวันทยาหัตถ พรอมกับสะบัดหนาไปยังองคประธานแขนไมแกวง
จนถงึ ธงท่ี ๓ จงึ สะบดั หนา กลบั แลว เดนิ ตามปกติ (การสง่ั “แลขวา - ทาํ ”
นั้นควรส่ังขณะเดินตกเทาขวา)

๔. สว นผูถ อื ธงและถือปา ย ใหปฏิบัติดังกลา วแลว

พธิ ีการลูกเสอื

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

การเดนิ
ก. เดนิ ตามปกติ

คาํ บอก “หนา-เดิน”
การปฏบิ ตั ิ โนม ตวั ไปขา งหนา เลก็ นอ ย พรอ มกบั กา วเทา ซา ยออกเดนิ กอ น
วางเทา ลงบนพนื้ ตามธรรมดาใหส น เทา ลงกอ นไมเ กรง็ ขา ทรงตวั และศรี ษะ
อยูในลักษณะทาตรง แกวงแขนเฉียงไปขางหนา ตรงขามกับท่ีกาวฝามือ
ผานประมาณก่ึงกลางลําตัวเสมอแนวเข็มขัดหางจากหัวเข็มขัด ประมาณ
๑ ฝา มอื และแกวง มาขา งหลงั ในแนวขา งตวั หา งออกไปพองามหนั หลงั มอื
ทงั้ สองออกนอกตวั แบมอื ตามธรรมชาติ นว้ิ มอื เรยี งชดิ ตดิ กนั รกั ษาจงั หวะ
๘๐ เทา คงท่ปี ระมาณนาทลี ะ ๑๑๖ กาว

ข. เดินสวนสนาม
คาํ บอก “สวนสนาม หนา -เดิน”
การปฏิบัติ กาวเทาซายออกเดินกอนอยางแข็งแรงขาซายดึงปลายเทางุม
ยกสนเทาสูงจากพ้ืน ประมาณ ๑ คืบ ทรงตัวและศีรษะอยูในทาลักษณะ
ตรง แกวงแขนเฉียงไปขา งกบั เทาทีก่ า ว ฝา มือผา นประมาณก่งึ กลางลาํ ตัว
เสมอแนวหัวเข็มขัด หางจากหัวเข็มขัดประมาณ ๑ ฝามือ มือแบน้ิวเรียง
ชิดติดกัน แขนทอนลางขนานกับพ้ืนระดับ และแกวงไปขางหลังพองาม
เมื่อจะวางเทา และกาวตอไปใหโนมนํ้าหนักตัวไปขางหนา และตบเต็ม
ฝาเทา อยางแข็งแรง ยดื ตัวอยา งองอาจ
หมายเหตุ ใหเ ดนิ แบบ “เดนิ สวนสนาม” หนา ทปี่ ระทบั เรมิ่ ตงั้ แตธ งที่ ๑ - ๓

นอกน้ันใหเดินแบบ “เดินตามปกต”ิ

“ลกู เสือสมานฉันท ผูกพนั สง่ิ แวดลอ ม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

(ตัวอยา ง)
ขอปฏิบัติในการสวนสนามและกลาวคาํ ปฏญิ าณของลกู เสอื

เนือ่ งในงานวนั คลายวนั สถาปนาคณะลูกเสือแหงชาติ
วนั เสารท่ี ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

ณ สนามศุภชลาศัย สนามกฬี าแหง ชาติ
----------------------------

๑. กองลกู เสอื ทจ่ี ะสวนสนาม ตงั้ แถวในสนามศภุ ชลาศยั ประกอบ ๘๑
ดว ยลกู เสือสาํ รอง ลูกเสอื สามญั ลกู เสอื สามัญรุนใหญ ลกู เสอื วสิ ามัญ เขา
ทใี่ หเรียบรอยกอ นเวลาเสด็จพระราชดําเนินมาถงึ

๒. เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว เสด็จพระราชดําเนินมาถึง
ผูบังคับขบวนสวนสนามสั่งลูกเสือวา “ลูกเสือถวายความเคารพแดพระบาท
สมเด็จพระเจาอยูหัว - ตรง วันทยา - วุธ” แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญ
พระบารมี

- ลูกเสือในแถวท่ีไมมีพลองหรือไมงามถวายความเคารพ
ดว ยทา ตรง

- ลูกเสือในแถวท่ีมีพลองหรือไมงามถวายความเคารพ
ดวยทา วนั ทยาวุธ

- ลกู เสือที่ถอื ธงประจํากองถวายความเคารพดว ยทาธง
- ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื ทกุ คนถวายความเคารพดว ยทา วนั ทยหตั ถ
เม่ือจบเพลงสรรเสริญพระบารมี ผูบังคับขบวนสวนสนาม
ส่ัง “เรียบ-อาวธุ ” ตามระเบยี บ, พกั ”

พธิ กี ารลูกเสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

๓. สภานายก สภาลูกเสือไทย กราบบังคมทูลถวายรายงาน
กิจการลกู เสอื ในรอบป

๔. เลขาธิการสํานักงานลูกเสือแหงชาติ กราบบังคมทูลเบิก
ผูเขา รบั พระราชทานเหรยี ญลูกเสือสรรเสรญิ

๕. เลขาธกิ ารสาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาติ นาํ ลกู เสอื กลา วคาํ ปฏญิ าณ
(ก) การปฏญิ าณของลกู เสอื สํารอง
เลขาธิการสํานักงานลูกเสือแหงชาติถวายความเคารพ

แลว สงั่ “ลกู เสือเตรียมกลา วคําปฏญิ าณ - ตรงลูกเสือสาํ รองกลาวคําปฏญิ าณ
ตามขาพเจา ” (เลขาธิการสาํ นกั งานลูกเสอื แหง ชาติ แสดงรหัส)
๘๒ ลูกเสือและผูบังคับบัญชาลูกเสือทุกประเภทแสดงรหัส
ของลกู เสอื (๓ นว้ิ ) เวน แตล กู เสอื สาํ รอง แสดงความเคารพตามแบบลกู เสอื
สํารอง (วันทยหัตถ ๒ นิ้ว) ลูกเสือที่ถือพลองหรือไมงาม ยกพลองหรือ
ไมง า มไวก งึ่ กลางระหวา งปลายเทา ทงั้ สอง พลองหรอื ไมง า มสว นบนพงิ แขน
ซา ยดา นในซงึ่ ศอกชดิ ลาํ ตวั ฝา มอื แบหงายและตง้ั ฉากกบั ลาํ ตวั ลกู เสอื และ
ผูบังคับบัญชา ลูกเสือที่ไปรวมพิธีทุกคนยืนขึ้นแสดงรหัส เวนแตลูกเสือ
สาํ รองแสดงความเคารพตามแบบลูกเสือสาํ รอง

เลขาธกิ ารสาํ นกั งานแหง ชาติ กลา วนาํ ลกู เสอื สาํ รองกลา วตาม
“ขาสญั ญาวา

ขอ ๑ ขาจะจงรักภักดตี อ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย
ขอ ๒ ขาจะยึดมนั่ ในกฎของลกู เสือสาํ รอง และบาํ เพญ็
ประโยชนตอ ผูอ ืน่ ทุกวัน”
จบคาํ ปฏิญาณของลูกเสือสํารอง ลูกเสอื ท้งั หมดลดมือลง

“ลกู เสือสมานฉนั ท ผกู พันส่งิ แวดลอ ม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

(ข) การปฏิญาณของลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญรุนใหญ ๘๓
ลกู เสอื วสิ ามญั และผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื เลขาธกิ ารสาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาติ
สงั่ “ลกู เสอื สามญั ลกู เสือสามัญรุนใหญ ลกู เสอื วิสามญั ผบู ังคบั บัญชาลกู เสอื
กลาวคําปฏิญาณตามขา พเจา ”

ลกู เสอื และผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื ทกุ ประเภท แสดงรหสั
และปฏบิ ัติเชนเดยี วกับการกลา วคาํ ปฏญิ าณของลกู เสือสํารอง

เลขาธกิ ารสาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาติ แสดงรหสั กลา วนาํ
ลูกเสอื และผูบังคับบัญชาลกู เสือกลาวตามดังน้ี
“ดวยเกียรติของขา ขาสัญญาวา

ขอ ๑ ขา จะจงรกั ภกั ดตี อ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ 
ขอ ๒ ขาจะชว ยเหลือผอู ื่นทกุ เมื่อ
ขอ ๓ ขาจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ”
เมอ่ื จบคาํ ปฏญิ าณแลว ลกู เสอื และผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื
ท้ังหมดลดมือลง แตยังอยูในทาตรง เลขาธิการสํานักงานลูกเสือแหงชาติ
ถวายความเคารพแลวกลบั เขาท่ี
๖. พระบาทสมเดจ็ พระเจา อยหู วั พระราชทานพระบรมราโชวาท
เม่ือจบพระบรมราโชวาท ผบู ังคบั ขบวนสวนสนามสั่ง “ลูกเสือ วนั ทยา - วุธ”
แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เม่ือเพลงสรรเสริญพระบารมี
จบแลว ผูบังคับขบวนสวนสนามสง่ั “เรยี บ-อาวธุ ”

พิธีการลกู เสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

๗. การเดินสวนสนาม
การเตรียมและจัดริ้วขบวน เปนไปตามระเบียบและแผน

ปฏิบตั กิ ารสวนสนาม แตรเด่ยี วเปาใหส ญั ญาณเตรยี ม
ผูบังคับขบวนสวนสนามส่ัง “ลูกเสือ เตรียมสวนสนาม”
แตรเดย่ี วเปา ใหส ญั ญาณ หนา เดนิ ๓ ครง้ั เมอ่ื สนิ้ เสยี ง แตรเดยี่ ว
ผูบงั คับขบวนสวนสนามส่ัง “ขวา - หัน”, แบก – อาวธุ ”
(ลูกเสือท่ีมีพลองหรือไมงามใหแบกอาวุธ ลูกเสือท่ีถือธงให

แบกธง)
ผูบังคับขบวนสวนสนาม เดินเขาประจําท่ีท่ีกําหนดไว

๘๔ เพอ่ื เตรียมตวั สวนสนาม แลว สง่ั “หนาเดนิ ” แตรวงเริม่ บรรเลง
การจดั ขบวนสวนสนามมีโดยลําดบั ดงั น้ี
๑. แตรเด่ียวและแตรวงออกเดินนํา ตอจากนั้น ใหเดินตาม

ลาํ ดับดงั นี้
๒. ธงคณะลูกเสือแหงชาติ
๓. ธงลูกเสอื ๔ ประเภท
๔. ผบู งั คับขบวนสวนสนาม
๕ กองบังคับการผสม คือ ผูบังคับบัญชาลูกเสือสํารอง

ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญรุนใหญ ลูกเสือวิสามัญ ลูกเสือเหลาสมุทร
ลูกเสือเหลา อากาศ (หนว ยละ ๘ คน)

“ลกู เสอื สมานฉันท ผูกพันสิ่งแวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

สว นหนวยลูกเสือตา งๆ ใหออกเดินตามแผนผงั ทก่ี าํ หนดไว ๘๕
สําหรับผูบังคับขบวนสวนสนามเมื่อผานหนาพระที่น่ังไปแลว ให
แยกออกจากแถวขบวนแลวเลี้ยวขวาตรงไปหยุดหนาพระนั่ง ยืนถวาย
ความเคารพตลอดเวลา สวนผูบังคับหนวยแตละหนวยน้ัน เมื่อผานหนา
พระท่ีนั่งไปแลว ใหแยกออกจากแถวขบวน เลี้ยวขวาตรงไปหยุดหนา
พระท่นี ัง่ ยืนถวายความเคารพตลอดเวลา จนสน้ิ ขบวนหนวยของตน
๘. กิจกรรม เปน ไปตามแผนงานของกจิ กรรมลกู เสอื
๙. เม่ือเสร็จกิจกรรมแลว พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว
เสด็จพระราชดําเนินกลับ (ตามพระราชอัธยาศัย) แตรวงบรรเลง
เพลงสรรเสรญิ พระบารมี

พธิ ีการลกู เสอื

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

การถวายราชสดุดพี ระบรมรูปรชั กาลที่ ๖
ในพธิ เี ปด การฝก อบรมผูบังคบั บัญชาลกู เสือ

------------------------------------------

๑. เคร่ืองบูชา จัดต้ังไวหนาพระบรมรูป ควรมีเคร่ืองทองนอย
และพานสาํ หรบั วางพวงมาลยั หรอื ชอ ดอกไม ถา ไมม เี ครอ่ื งทองนอ ยใหจ ดั
เคร่อื งบชู าดังนี้

ก. ธปู ๑ ดอก
ข. เทียน ๑ เลม
๘๖ ค. พานสาํ หรบั วางพวงมาลัยหรอื ชอ ดอกไม
๒. พธิ กี ร พธิ กี รเชญิ ประธานในพธิ จี ดุ ธปู เทยี นถวายราชสกั การะ
ภายหลงั ท่ปี ระธานไดจ ุดธูปเทยี นบูชาพระรตั นตรัยแลว
๓. ประธานในพิธี
(๑) เดินไปยังหนาพระบรมรูป ถวายคํานับ (ตามระเบียบ
สํานักพระราชวัง) รับพวงมาลัยหรือชอดอกไมจากเจาหนาท่ี ถวายไวบน
พานที่หนาพระบรมรูป แลว จุดเทยี น จดุ ธปู ตามลําดบั
(๒) เสร็จแลวลงน่ังคุกเขา ประนมมือ ถวายบังคม ๓ ครั้ง
แลว ลกุ ขนึ้ ยืนถวายคํานับอีกครง้ั หนึ่ง
(๓) ถอยออกมา ๑ กาวและน่ังเตรียมถวายราชสดุดี
๔. การนัง่ เตรียมถวายราชสดุดี กาวเทา ซายไปขางหนา คร่ึงกาว
คุกเขาลง ต้ังเขาซายน่ังลงบนสนเทาขวา มือขวาแบควํ่าวางลงบนเขาขวา
แขนซา ยวางพาดบนเขา ซา ยเอยี งไปทางขวาเลก็ นอ ย เมอื่ รอ งเพลงราชสดดุ ี
ใหก ม หนา เลก็ นอ ยและใหเ งยหนา ขนึ้ ตามเดมิ เมอื่ เพลงจบ (ถา ถอื หมวกอยู

“ลูกเสือสมานฉนั ท ผูกพันสงิ่ แวดลอ ม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

ดวยใหปฏิบัติตามคูมือการฝกระเบียบแถวของสํานักงานคณะกรรมการ ๘๗
บริหารลูกเสือแหงชาติ)

๕. ผเู ขารับการฝกอบรมและแขกรบั เชิญอน่ื ๆ ปฏิบัตดิ งั น้ี
(๑) เมอื่ ประธานเดินไปจุดธูปเทยี นบชู าพระบรมรูป ทุกคน

ยนื อยูในทา ตรง
(๒) เมื่อประธานลงนั่งคุกเขาถวายบังคม ใหทุกคนน่ังลงใน

ทา เตรยี มถวายราชสดดุ ี
(๓) เมอ่ื ประธานถอยมานงั่ ในทา เตรยี มถวายราชสดดุ ี พธิ กี ร

จะข้ึนเพลงราชสดดุ ี ใหทุกคนรองตามพรอ มกัน
๖. เมอ่ื จบบทถวายราชสดดุ แี ลว พธิ กี รจะสง่ั ใหท กุ คน “ลกุ ” ทกุ

คนลกุ ขึน้ ยืน เมอื่ ประธานเดินไปนัง่ ยงั ที่แลวใหท ุกคนนง่ั ลง
หมายเหตุ : สําหรับประธานในพิธีและผูเขารับการฝกอบรมที่เปนสตรี
อาจนงั่ คกุ เขา ท้ังสองขางและวางมือไวบ นเขา ทัง้ คู

๗. การถวายราชสดดุ พี ระบรมรปู รชั กาลที่ ๖ กระทาํ ได ๒ กรณี คอื
กรณที ี่ ๑ ทาํ พธิ ใี นสถานทเ่ี ปด การอบรม โดยทาํ พธิ บี ชู าพระ

รัตนตรัยเสร็จเรียบรอยแลว จากนั้นจะเปนพิธีถวายราชสดุดีพระบรมรูป
รัชกาลท่ี ๖ เม่ือพิธีถวายราชสดุดีเสร็จ ประธานฝายดําเนินการกลาว
รายงาน ประธานในพธิ กี ลา วเปด การฝก อบรม เสรจ็ แลว ประธานเดนิ ไปนง่ั
หรือไปทักทายผูเ ขารบั การฝก อบรม หรือเดินทางกลบั

กรณีที่ ๒ ทาํ พิธถี วายราชสดุดนี อกสถานท่ีเปด การฝก อบรม
จะกระทําหลังจากพิธีเปดแบบทางราชการเสร็จเรียบรอยแลว จากนั้น
จะออกไปทําพิธีถวายราชสดุดี สวนพิธีการถวายราชสดุดีก็ดําเนินการ
ตามลําดบั ขนั้ ตอนท่ีกลา วมาขางตน

พิธกี ารลูกเสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

การชมุ นมุ รอบกองไฟ

การชุมนุมรอบกองไฟเปนกิจกรรมท่ีสําคัญอยางหนึ่งของลูกเสือ
ทุกครั้งท่ีลูกเสือเดินทางไปอยูคายพักแรม โดยปรกติจะมีการชุมนุมรอบ
กองไฟในตอนกลางคืน ซ่ึงมักจะเปดโอกาสใหชาวบานในแถวใกลๆ
มาชมการแสดงของลูกเสือดวย และในการฝกอบรมผูกํากับลูกเสือ
ขั้นความรูเบ้ืองตน ข้ันความรูข้ันสูง หรือข้ันวูดแบดจ ก็จะมีการบรรยาย
เรอื่ งการชมุ นมุ รอบกองไฟ และมกี ารชมุ นมุ รอบกองไฟจรงิ ๆ ในตอนกลางคนื
๘๘ บางคนื ตามตารางฝกอบรมที่กําหนดไว

ลอรด เบเดน - โพเอลล แหง กลิ เวลล ไดเ ปน ผรู เิ รม่ิ นาํ มาใชใ นการ
เปนผูนําของเด็ก ซึ่งอาจเรียกวา เปนลูกเสือรุนแรกของโลกไปอยูคายพักแรม
ทเ่ี กาะบราวนซ ี ประเทศองั กฤษ ในป ค.ศ. ๑๙๐๗ (พ.ศ. ๒๔๕๐) การชมุ นมุ
เชนวานี้ในภาษาอังกฤษเรียกวา CAMP FIRE ในภาษาไทยเดิมเรียกวา
การเลนรอบกองไฟ หรือการแสดงรอบกองไฟ ความจริงแลวการเลนหรือ
การแสดงเปนเพียงสวนหนึ่งของการชุมนุมรอบกองไฟ อันอาจกลาวไดวา
เปน บทเรียน หรอื วิธกี ารอบรมลูกเสอื อยางหนึ่งเหมือนกัน
๑. ความมุง หมายของการชมุ นุมรอบกองไฟ

ขอ ทนี่ า สงั เกตประการแรกกค็ อื ลอรด เบเดน - โพเอลล แหง กลิ เวลล
ไดเ ขยี นหนงั สอื เรอ่ื ง SCOUTING FOR BOYS โดยวางรปู เปน แบบบรรยาย
หรือการเลาเรื่องเกี่ยวกับการลูกเสือใหลูกเสือฟงในระหวางท่ีมีการชุมนุม

“ลกู เสือสมานฉันท ผูกพันสิ่งแวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

รอบกองไฟ ในทางปฏบิ ตั ปิ รากฏวา บี – พี ไดใ ชก ารชมุ นมุ รอบกองไฟเพอ่ื ๘๙
ประโยชนใ หญๆ สองประการ คอื เพอื่ เปน การฝก อบรม ประการหนง่ึ และ
เพอื่ เปน การบันเทิง อีกประการหน่งึ

คณะลกู เสอื ในประเทศตา งๆ ท่วั โลกไดม องเห็นประโยชนของเรอ่ื งนี้
การชุมนุมรอบกองไฟจึงแพรหลายไปในวงการลูกเสือทั่วโลก โดยมีหลัก
การใหญค ลา ยคลงึ กนั สว นแนวปฏบิ ตั ใิ นเรอ่ื งปลกี ยอ ยกแ็ ตกตา งกนั ไปบา ง
โดยอนโุ ลมตามประเพณขี องทอ งถนิ่ และวฒั นธรรมของแตล ะชาติ เรอื่ งการ
ชุมนุมรอบกองไฟนี้จึงเปนกิจกรรมที่สําคัญอยางหนึ่งของการลูกเสือ
ซงึ่ บี - พี ไดน าํ มาใชต งั้ แตแ รกคิดกอตั้งกองลกู เสือขน้ึ เม่อื ป พ.ศ. ๒๔๕๐
และก็ไดใชเรื่อยมาจนกระท่ังทุกวันน้ี โดยมีการรักษาหลักการเดิมไว
ไมเปล่ียนแปลง สวนแนวปฏิบัติในเร่ืองปลีกยอย เชน วิธีดําเนินการและ
เนื้อเร่ืองนํามาแสดงในการชุมนุมรอบกองไฟ ก็ไดมีการปรับปรุงแกไข
ใหเหมาะสมย่ิงขึ้น การชุมนุมรอบกองไฟของลูกเสือมีจุดมุงหมาย
หรอื ประโยชนสาํ คญั ๕ ประการ คือ

(๑) เพ่ือเปนการฝกอบรมลูกเสือท้ังในดานวิชาการและในดาน
นิสยั ใจคอ ทําใหเกดิ ความสามคั คี รูจักทาํ งานรว มกบั ผูอ่ืน เห็นอกเหน็ ใจ
ผอู ่ืน กลา แสดงออกในท่ปี ระชมุ เปนการแกค วามอาย เพม่ิ ความกลาหาญ

(๒) เพอ่ื เปน การพกั ผอ นหยอ นใจ ทาํ ใหเ กดิ ความรา เรงิ สนกุ สนาน
เบิกบานใจหลังจากท่ีไดปฏิบัติงานในตอนกลางวันมาแลว เชน ไดรองรํา
ทาํ เพลงรว มกนั

(๓) เพอ่ื ชว ยใหล กู เสอื ไดม ปี ระสบการณแ ละไดร บั ความรเู พม่ิ เตมิ
จากบทบาทของตนเอง และการแสดงของผูอน่ื

พธิ ีการลกู เสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

(๔) ในบางกรณีอาจใชเปนโอกาสสําหรับประกอบพิธีสําคัญของ
ลูกเสือ เชน แนะนําใหลูกเสือไดรูจักบุคคลสําคัญที่มาเยี่ยม มอบเคร่ือง
หมายวดู แบดจ เคร่อื งหมายตอบแทนเข็มสมนาคุณ เปนตน

(๕) เพื่อเปนการเผยแพรกิจการลูกเสือสวนหน่ึง ในกรณีที่มี
การเชญิ บคุ คลสาํ คญั ขาราชการ พอ คา ประชาชน และผปู กครอง ใหม า
เขา รว มการแสดงชมุ นุมรอบกองไฟ

๒. บริเวณการชุมนุมรอบกองไฟ

คายลูกเสือทุกแหงควรมีบริเวณสําหรับการชุมนุมรอบกองไฟ
๙๐ บริเวณเชนวาน้ีควรอยูท่ีมุมหน่ึงของคาย มีตนไมเปนฉากหลัง ไมใชเพื่อ

ประโยชนอ ยา งอนื่ ในตอนกลางวนั และควรอยหู า งจากทพี่ กั พอสมควร ทงั้ น้ี
เพ่อื ใหล ูกเสอื จาํ ตองเดินทางจากท่พี ักไปยังบริเวณชมุ นุมรอบกองไฟ และ
ตองเดินกลับมาเมื่อการชุมนุมเลิกแลว สวนการท่ีเสนอแนะวาบริเวณการ
ชมุ นมุ รอบกองไฟควรมตี น ไมเ ปน ฉากหลงั นน้ั เปน เพราะระหวา งการชมุ นมุ
รอบกองไฟยอ มจะมกี ารรอ งเพลงหมเู ปน สว นใหญ และการรอ งเพลงกลาง
แจง ถาไมมีฉากหลัง เชน การรองเพลงกลางทุงท่ีไมมีตนไมเลย ถึงแมจะ
รองเพลงไพเราะอยางไรก็ตามยอมไมไดผลดีเทาท่ีควร แตถามีตนไม
เปนฉากหลังจะทําใหบรรยากาศดีขึ้น และจะทําใหการรองเพลงไดผลดี
ยง่ิ ขึน้ ดว ย

อน่ึง ในการเลือกสถานที่สําหรับการชุมนุมรอบกองไฟนี้
ถาสามารถหาท่ีเปนแองใหลูกเสือมีท่ีน่ังอยูเหนือกองไฟเล็กนอย
จะดมี าก เชน ในบรเิ วณทีม่ เี นิน อาจจดั ทําบรเิ วณการแสดงและกองไฟอยู

“ลกู เสือสมานฉนั ท ผกู พันสง่ิ แวดลอ ม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

ตอนลาง สวนลูกเสือใหน่ังอยูบนเนิน นอกจากน้ีเคยมีผูจัดทําบริเวณการ
แสดงและกองไฟใหอ ยบู นเกาะมคี นู า้ํ ลอ มรอบ ผชู มนงั่ อยรู มิ คอู กี ดา นหนง่ึ
สะพานขามคูทําดวยไมแบบสะพานชั่วคราว ปรากฏวาสถานท่ีการชุมนุม
รอบกองไฟเชน น้ใี ชการไดด ีอยางยง่ิ

การชุมนุมรอบกองไฟนี้ ถาไมสะดวก เชน ฝนตก หรือมี
เหตุผลพิเศษจะจัดภายในอาคารและใชก องไฟเทยี มกไ็ ด

๓. กองไฟและการจัดทน่ี ่งั รอบกองไฟ ๙๑

ดงั ไดก ลา วแลว กองไฟจะเปน กองไฟทก่ี อ ดว ยไมจ รงิ หรอื จะใชไ ฟ
เทียมก็ได ถาเปนกองไฟจริง จะตองมีเจาหนาท่ีประจํากองไฟและผูชวย
มีหนาท่ีกอไฟใหเรียบรอยกอนทําพิธีเปด คือ จุดแลวใหไฟติดและจะตอง
คอยดูแลกองไฟใหติดอยูตลอดเวลาในการนี้จะตองเตรียมฟนอะไหลและ
น้ําสํารองไว คือ ถาไฟชกั มอดลง จะตองเติมฟนลงไป และถาไฟลามมาก
หรือกระเด็นออกก็ตองพรมน้ําลงไฟ เวลาเลิกการชุมนุมรอบกองไฟ
เจาหนาท่ีประจํากองไฟจะตองออกจากบริเวณไปอยางเงียบๆ และโดยใช
ความคิดเชนเดียวกับลูกเสืออื่น แตตอมาภายหลังอีกสักครูเจาหนาท่ี
ประจํากองไฟและผูชวย จะตองหวนกลับมาท่ีบริเวณการชุมนุมรอบกองไฟ
อกี ครงั้ หนง่ึ เพอื่ จดั การดบั ไฟใหเ รยี บรอ ย ยงิ่ กวา นนั้ ในตอนเชา มดื วนั รงุ ขนึ้
เจาหนาท่ีประจํากองไฟตองมาดูแลสถานที่อีกครั้งหน่ึงใหสะอาดหมดจด
ไมใหมีเศษไมหรือเถาถานเหลืออยูเลย เร่ืองการทําความสะอาดบริเวณ
การชุมนุมรอบกองไฟน้ีไมควรถือวาเปนเรื่องเล็กนอย แตควรถือวาเปน
บทเรียนอนั สําคญั ในการฝกอบรมลูกเสอื สว นหนงึ่

พิธีการลูกเสอื

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

ในทางปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั เจา หนา ทป่ี ระจาํ กองไฟน้ี ควรมอบหมายลกู เสอื
หมูหนึ่งใหทําหนาที่หมูลูกเสือบริการ เพื่อดูและกองไฟและปฏิบัติหนาที่
ตางๆดังกลา วขางตน

สวนเร่ืองการจัดที่น่ังรอบกองไฟน้ัน ควรจัดเปนรูปวงกลมหรือ
เกอื กมา ใหก องไฟอยตู รงกลาง มที น่ี ง่ั พเิ ศษสาํ หรบั ประธานและแขกพเิ ศษ
สวนลกู เสือโดยปรกติใหน ัง่ ตามหมู ณ สถานท่ที ไี่ ดก ําหนดใหไ ว
๔. การเตรยี มการกอ นเริม่ การชุมนมุ รอบกองไฟ

(๑) คณะผูใหการฝกอบรมจะตองปรึกษาหารือกันเพ่ือ
๙๒ กําหนดวาในการชุมนุมรอบกองไฟน้ัน จะมีกิจกรรมอะไรบางจะใหผูใด

เปนเจาหนาที่ประจํากองไฟ จะใหผูใดเปนพิธีกร และจะเชิญผูใด
เปนประธาน ถาเปนการอยูคายพักแรมของลูกเสือตามธรรมดา
โดยปรกตผิ ูกาํ กับกองลูกเสือไปอยคู า ยพกั แรมนนั่ เองจะทําหนาทีป่ ระธาน
และใหรองผูกํากับกองลูกเสือหรือลูกเสือคนใดคนหน่ึงท่ีมีความรูความ
สามารถทาํ หนา ท่ีพิธีกร

(๒) พธิ ีกร คอื ผนู ําในการชุมนมุ รอบกองไฟ มหี นาท่ีในการเชิญ
และนาํ ประธานมาสชู ุมนุมประกาศลาํ ดับกาํ หนดการตางๆ เปนผูนาํ หรือ
มอบหมายใหผ อู น่ื เปน ผนู าํ ในการรอ งเพลง และในการใหล กู เสอื แสดงกริ ยิ า
อาการตางๆ เพื่อเปนการเปลี่ยนแปลงอารมณใหเกิดความสนุกสนาน
เบกิ บานใจ การนพี้ ธิ กี รควรทาํ โปรแกรมรายละเอยี ดสาํ หรบั ตนเองไวว า จะ
ใหผูใดทําอะไร เชน จะใหรองเพลงอะไร หรือจะรําวง โดยรองเพลงอะไร
ดงั นี้เปน ตน

“ลกู เสอื สมานฉนั ท ผกู พนั ส่งิ แวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

อนง่ึ ในการเลอื กเพลงนน้ั ควรเลอื กเพลงทที่ กุ คนรอ งได และ ๙๓
ไมใ ชเ พลงใหม ตอนตน ๆควรใชเพลงปลกุ ใจหรือมคี ติ เชน เพลง “ไทยรวม
กําลังตั้งมั่น” เพลง “แหลมทอง” เพลง“รักเมืองไทย” ตอนกลางๆ
ควรจะเปนเพลงสนุกสนานหรือรําวง เชน เพลง “ระบําชาวเกาะ”
เพลง “มาสนุกกันหนา” หรือเพลง “พรวนดินกันเสยี ใหหมด” สวนตอน
ทา ยควรเปน เพลงยาวๆ ทมี่ คี ติ เพลงลา หรอื เพลงใหพร เชน “เร่ือยๆ มา
เรียงๆ” เพลง “ถึงมวยดินส้ินฟามหาสมุทร” เพลง “ลาวดวงเดือน”
เพลง “กอ นจะจากกนั ไป” หรือเพลง “พุทธานภุ าพนาํ ผล” เปน ตน

(๓) ถา กาํ หนดใหม กี ารชมุ นมุ รอบกองไฟเวลา ๑๙.๐๐ น. ทกุ คน
จะตองไปถึงที่ชุมนุมและน่ังตามท่ีเรียบรอย เวลา ๑๙.๒๐ น. หมูบริการ
จดุ ไฟเวลา ๑๙.๒๕ น. พธิ กี รแจง ใหท ปี่ ระชมุ ทราบวา ผใู ดจะมาเปน ประธาน
แลว ออกไปเชิญประธานเขามายังบริเวณการชุมนุมรอบกองไฟ

ในทางปฏิบัติเม่ือจะถึงกําหนดเวลากระทําพิธีเปด ประธาน
จะตองรอไปอยูใกลๆบริเวณการชุมนุมรอบกองไฟ พรอมดวยผูติดตาม
๒ คน เพื่อเปน การประดับเกยี รติ

ประธานเปน ผกู ลา วเปด การชมุ นมุ รอบกองไฟอาจถกู เชญิ ให
เขารวมในการรําวงและในตอนสุดทายของการชุมนุมรอบกองไฟ จะตอง
ออกไปเลาเรื่องส้ันๆ และใหโอวาทเพื่อเปนการสงเสริมน้ําใจของลูกเสือ
และกจิ การลกู เสือ แลว กลาวปดการชุมนุมรอบกองไฟ

(๔) ในการชุมนุมรอบกองไฟ จึงมีขอกําหนดวา“หามสูบบุหร่ี”
หากอดไมไ ดจ รงิ ๆ กค็ วรหลบออกไปสูบนอกท่ชี ุมนุมไดช่วั ครู

พิธกี ารลกู เสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

การแสดงรอบกองไฟใหแสดงเปนหมู และควรใหทุกคนในหมู
มโี อกาสไดแ สดงหมลู ะประมาณ ๘ - ๑๐ นาที โดยปรกตใิ หส ง เรอ่ื งตอ พธิ กี ร
เวลา ๑๘.๐๐ น. หรือ ๑๘.๓๐ น. เพ่อื พธิ ีกรจะไดมีเวลาจดั ทาํ กําหนดการ
ใหเหมาะสม เรือ่ งท่ีควรแสดง คือ

๔.๑ เร่ืององิ ประวัติศาสตรหรอื วรรณคดี
๔.๒ เร่ืองขนบธรรมเนียมประเพณีของแตละทอ งถ่นิ
๔.๓ เรอื่ งนยิ ายทเ่ี ปน คตแิ ฝงไวซ ง่ึ ความกลา หาญ ความเสยี สละ
๔.๔ เรื่องตลกขบขัน แตไมห ยาบโลน
๙๔ ๕. พิธีการเปดการชุมนุมรอบกองไฟ
เม่ือประธานเขามาในบริเวณการชุมนุมรอบกองไฟ ใหทุกคน
ลกุ ขน้ึ ยนื ตรงโดยไมต อ งออกคาํ สงั่ แลว ประธานจะเดนิ ตรงไปใกลๆ กองไฟ
ยกมือขวาแสดงรหัสของลูกเสือยื่นไปขางหนาประมาณ ๔๕ องศา
แลว กลา วขอ ความทเ่ี ปน มงคลและกลา วในตอนสดุ ทา ยวา “ขา พเจา ขอเปด
การชุมนุมรอบกองไฟ ณ บัดน”้ี
ในตอนนผ้ี ตู ดิ ตามประธานและแขกตลอดจนเจา หนา ทบี่ างคนอาจ
เดินตามประธานเขา มา ทุกคนจะตองเขา ไปนงั่ ยงั ที่ของตน และมปี ระธาน
แตผ เู ดยี วเทานั้นทเ่ี ดินตรงออกไปกลางวง และเมื่อประธานกลาวเปดแลว
ประธานจะยงั คงยนื อยู ณ ท่นี ั้น

“ลกู เสือสมานฉันท ผูกพันสง่ิ แวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

เม่ือประธานกลาวพิธีเปดตอนสุดทายวา “ขาพเจาขอเปดการ ๙๕
ชุมนุมรอบกองไฟ ณ บัดน้ี” พิธีกรบอกใหทุกคนรองเปนเสียงไฟลุกวา
“ฟูๆ” ๓ ครั้ง แลวพิธีกรจะนํารองเพลงเปดการชุมนุมรอบกองไฟ ๑
หรือ ๒ เพลง เชน เพลง “สยามานุสติ” เพลง “สดุดีมหาราชา”
เพลง “ประจาํ จงั หวัด” หรือเพลง“งานส่งิ ใด” เปน ตน

เมื่อเพลงจบ ประธานไปน่ังที่แลวใหทุกคนนั่งลง คร้ันแลว
หมูบริการจะนําพวงมาลัยไปใหประธาน กอนมอบ เพื่อความสนุกสนาน
อาจจดั ใหม กี ระบวนแห หรอื อาจจดั ใหม พี านดอกไมเ สยี บรายการแสดงของ
แตล ะหมู มอบใหแ กป ระธานไว เพอื่ ประธานจะไดจับสลากวาจะใหห มใู ด
แสดงกอ นหลงั

๖. กาํ หนดการชุมนมุ รอบกองไฟ
พิธีกรเปนผูประกาศกําหนดการชุมนุมรอบกองไฟตามลําดับ

ในขั้นแรกกอนมีการแสดงของหมู พิธีกรอาจนําหรือใหผูอ่ืนนํารองเพลง
อีก ๑ หรอื ๒ เพลง เชน เพลง “รักเมืองไทย” หรือเพลง “ความฝน อนั สงู สุด”
เปนตน ไมควรมีการรําวงแลวจึงไปขอใหประธานจับสลากวาหมูใด
แสดงกอน การใหป ระธานจับสลากนัน้ มีท้งั สว นดแี ละสวนเสยี สวนดี คอื
เปน การยตุ ธิ รรม และแตล ะหมจู ะตอ งพรอ มอยเู สมอ สว นเสยี คอื โปรแกรม
อาจจะซํ้ากันและไมสนุกสนานเทาที่ควร ดังน้ันจะตกลงกันใหพิธีกร
เปน ผจู ดั รายการแสดงโดยไมต อ งใหป ระธานเปน ผจู บั สลากลาํ ดบั การแสดง
ก็ได

พธิ กี ารลูกเสอื

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

หมูใดจะแสดงใหนายหมูยืนข้ึน (ยืนอยูกับท่ี ไมตองออกมายืนตรง
หนา ประธาน) โดยสง่ั วา “หมู - ตรง” นายหมูทาํ วันทยหตั ถแตเ พียงคนเดยี ว
ถา นายหมมู อี าวธุ ใหท าํ วนั ทยาวธุ (ไมต อ งกา วออกมา ไมต อ งกลา วรายงานใดๆ
ทั้งสิ้น) จากนั้นก็เร่ิมแสดง พอแสดงจบใหกลับไปยืนที่เดิมและส่ังอีกวา
“หมู - ตรง” นายหมทู าํ ความเคารพเชน เดิม ทกุ คนในที่นนั้ ปรบมอื ให
เมื่อการแสดงของหมูจบแลว พิธีกรจะขอใหใครคนหน่ึงนํากลาว
ชมเชย หรือนําเย็ลแบบลูกเสือ ใหแกหมูที่แสดง เพ่ือเปนการแสดงความ
พอใจและขอบคุณผูแสดง ใหผูที่จะนําเย็ลยืนข้ึนกาวออกมาขางหนา
๑ กาว แลวนัดหมาย โดยพูดวาขาพเจาขอชมเชยหรือนําเย็ลใหแก
หม…ู ………วา ………… เมอื่ นัดหมายแลว จงึ บอกใหทกุ คนยืนข้นึ แลว ตนเอง
๙๖ นบั ๑ - ๒ - ๓ แลวทกุ คนกลา วพรอมกนั ๓ คร้ัง

หลงั จากนนั้ หมแู สดงจะกลา วตอบสนั้ ๆ โดยใชม อื กอดอกใหม อื ขวา
ทบั มือซาย เชน “ขอบคุณครบั ” ครั้งเดียว คร้นั แลว พิธีกรก็จะดําเนินการ
ตอไปตามกําหนดการและจดั ใหม กี ารแสดงของหมตู า งๆตามลาํ ดบั
เมอื่ การแสดงของหมหู นง่ึ จบแลว กอ นจะใหเ รมิ่ การแสดงของหมู
ตอ ไป พธิ กี รอาจนาํ การรอ งเพลงหรอื การเปลย่ี นอริ ยิ าบถมาสลบั เปน ตอนๆ
ตามท่เี หน็ สมควร หรือจะใหผูใดนําแทนก็ไดโ ดยตกลงกนั ไวกอ น
เมื่อจบการแสดงของทุกหมูตามที่กําหนดไวแลว พิธีกร
จะเชญิ ประธานออกมาเลา เรอ่ื งสนั้ ทเี่ ปน คตแิ ละใหโ อวาทเปน เวลาประมาณ
๑๐ นาที แลวกลาวปด การชุมนมุ รอบกองไฟ
เมื่อประธานกลาวในตอนสุดทายวา “ขาพเจาขอปดการชุมนุม
รอบกองไฟ ณ บดั น”้ี ใหท กุ คนยนื จบั มอื กนั เปน วงกลม (มอื ขวาทบั มอื ซา ย)
แลว รองเพลงสามคั คชี มุ นมุ

“ลกู เสือสมานฉนั ท ผูกพนั สง่ิ แวดลอม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

เม่ือจบเพลงสามัคคีชุมนุมแลว หมูบริการนําสวดมนตแลวรองเพลง
สรรเสรญิ พระบารมี จากน้นั ทุกคนแยกยายกนั ออกนอกบรเิ วณ กลับทีพ่ กั
อยา งสงบ โดยไมส ง เสยี งดงั สว นหมบู รกิ ารจะกลบั มาดบั ไฟและทาํ ความสะอาด
ดงั ทไ่ี ดก ลาวขางตน

๗. การเปล่ยี นอิริยาบถของผูเขา ชมุ นุมรอบกองไฟ ๙๗
ในการชุมนุมรอบกองไฟ การเปลี่ยนอิริยาบถของผูชุมนุมให

สนกุ สนานราเริงเปน เร่ืองสาํ คญั เพราะมฉิ ะนนั้ ผูเขา ชุมนุมอาจจะรสู กึ เบ่ือ
และงวงเหงาหาวนอน การเปลี่ยนอิริยาบถของผูเขาชุมนุมนี้ อาจทําได
หลายวิธี และเปนหนาที่ของพิธีกรท่ีจะตองเปนผูนําหรือมอบหมายใหผูรู
คนใดคนหนง่ึ เปน ผนู ํา เชน นําใหร อ งเพลง นาํ ใหแ สดงกริ ยิ าอาการตา งๆท่ี
ขบขัน หรอื ปลุกใหตนื่ เชน ใหรองเพลง “หากวาเรากาํ ลงั สบาย จงตบมือ
พลนั ” จดั ใหม กี ารราํ วงหรอื นาํ ตบมอื เปน จงั หวะแลว ใหผ อู นื่ ตบมอื ตาม เชน

(ก) ใหต บมอื เปนจงั หวะดังนี้
(๑ - ๒ - ๓ - ๔) (๑ - ๒) (๑ - ๒)
(๑ - ๒ - ๓ - ๔) (๑ - ๒) (๑ - ๒)
(๑ - ๒ - ๓ - ๔) (๑ - ๒ - ๓ - ๔) (๑)
การตบมือคร้ังสุดทายครั้งเดียวนี้ จะตองตบใหดังมากๆ

เปนพเิ ศษ
(ข) ใหตบมือเปนฝนตกแบบอเมริกัน คือ ผูนําชูมือขึ้นเหนือศีรษะ

และตบมอื อยา งเรว็ มากๆ เหมอื นฝนตก แลว คอ ยๆ ลดมอื ลง และตบมอื ใหเ บา
เขา เบาเขา จนแทบไมไ ดย นิ ซงึ่ แปลวา ฝนหยดุ ตกแลว ทาํ เชน นซ้ี าํ้ ซกั ๒ - ๓ ครงั้

พิธกี ารลกู เสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

(ค) ลองตบมอื เปน ฝนแบบอังกฤษบาง คอื เร่มิ ดวยการใชห ัวแมม อื
นิ้วเดียวตบฝามือของตนอีกขางหนึ่งเปนเสียงฝนครั้งแรกที่ตกถูกใบไม
หลังจากน้ันใชสองน้ิว สามนิ้ว ส่ีน้ิว ตบใหดังขึ้นตามลําดับเพื่อแสดงวา
ฝนตกมากขึ้นๆ แลวยอนกลับไปหาการตบมือดวยหัวแมมืออีกคร้ังหน่ึง
และทําซํา้ ตามวิธีการขา งตนสัก ๒ - ๓ ครั้ง

(ง) การตบมอื น้ี จะใชจ ังหวะอะไรก็ได และจะแสดงทา ทางหรือ
ทาํ เสยี งประกอบดว ยก็ไดตามแตจะคดิ ขนึ้ และเหน็ สมควร
๘. พิธีปดการชุมนมุ รอบกองไฟ
๙๘ เมื่อการแสดงของทุกหมูจบลงแลว พิธีกรจะนํารองเพลงเย็นๆ
ท่ีมีคติ เชน เพลงลา เพลงใหพร เพลงลาวดวงเดือน เพลงกอนจะจากกันไป
เพลงพุทธานุภาพนาํ ผล ฯลฯ เปน ตน เมอื่ เพลงจบแลว พธิ กี รเชิญประธาน
ออกไปเลาเรื่องสั้นท่ีเปนคติและใหโอวาทตามท่ีเห็นสมควรเปนเวลา
ประมาณ ๑๐ นาที และกลาวปด การชมุ นมุ รอบกองไฟ ซึ่งในตอนสุดทา ย
ประธานจะกลาววา “ขาพเจาขอปดการชุมนุมรอบกองไฟ ณ บัดนี้”
ใหทุกคนยืนข้ึนเอามือกอดอกใหมือขวาทับมือซาย และจับมือกันเปน
วงกลม แลว รอ งเพลงสามคั คชี มุ นมุ พรอ มๆกนั และโยกตวั ตามจงั หวะเพลง
ดวย (ควรโยกทางขวามือกอน) เมือ่ เพลงสามัคคชี ุมนมุ จบแลว หมูบริการ
นําสวดมนต แลวรองเพลงสรรเสริญพระบารมีจากนั้นทุกคนแยกยายกัน
ออกนอกบรเิ วณกลบั ทพี่ กั อยา งสงบโดยไมส ง เสยี งดงั สว นหมบู รกิ ารจะตอ ง
กลบั มาดับไฟ และทาํ ความสะอาดบริเวณกองไฟ และสถานทใ่ี หเ รียบรอ ย
เหมือนเดมิ

“ลกู เสอื สมานฉันท ผูกพันสง่ิ แวดลอ ม”

เอกสารทางวชิ าการลกู เสอื

ขอ ควรสังเกต ๙๙
๑. เวลาทล่ี ูกเสอื แหพ วงมาลัยเพอื่ มอบใหท านประธานน้นั
๑.๑ ไมค วรโคง ทานประธานใหอ อกไปรํา
๑.๒ คนท่ีจะออกรายรําไดตองเปนคนท่ีพิธีกรเชิญเปน

ตัวแทนของหมูอ อกมา (เชน ใหสง ตวั แทนของหมมู าหมลู ะ ๓ คน)
๒. กอนหมูแรกจะแสดง พิธีกรอาจจะเชิญท้ังหมดมารวมรอง

เพลง แตไ มค วรออกไปรายราํ เพยี งรอ งและตบมอื เทานัน้ กพ็ อแลว
๓. ผูเชญิ ประธานเขา มา ควรเปน พธิ กี รไมค วรเปนหมบู ริการ
๔. ประธานควรแตงเคร่ืองแบบลูกเสืออยางย่ิง เวนเสียแตไมได

เปน ผบู งั คับบญั ชาลกู เสอื เชน ลูกเสอื ไปพกั แรมในหมูบาน เชญิ กํานนั หรือ
ผูใหญบานมาเปนประธาน บังเอิญกํานันหรือผูใหญบานไมไดเปนผูบังคับ
บัญชาลกู เสอื สวนพธิ กี รนัน้ แตง เคร่ืองแบบลูกเสอื แนนอน

๕. ประธานพธิ ี ควรมผี ตู ดิ ตาม ๒ คน และผตู ดิ ตามควรแตง เครอื่ ง
แบบลูกเสอื ดวย

๖. พิธกี รเชญิ ประธานไปเปด
๖.๑ นดั หมายซอ มความเขา ใจพธิ เี ปด ใหท กุ คนไดท ราบอกี ครง้ั
๖.๒ แจงใหทราบวาใครเปนประธานและใครเปนผตู ดิ ตาม

๗. กลา วชมเชย หรือเยล็ เม่ือหมูแ สดงจบ
๗.๑ พธิ ีกรไมค วรเรยี กใครหรือเจาะจงใหใครนาํ เยล็ เพราะ

ผทู จ่ี ะนาํ เยล็ นนั้ เขาตอ งมคี วามพอใจของเขาเอง เขาจงึ จะเยล็ นอกเสยี จาก
ใหเ กียรตแิ กผ ไู ปรวมเปนบางคน บางครัง้ เทา นนั้

๗.๒ การกลาวเย็ลควรมีครั้งเดียว ไมควรมีหลายครั้ง เชน
มีคนหน่ึงเย็ลใหแลว ไมค วรมคี นอื่นเย็ลใหอ กี

พธิ กี ารลกู เสือ

งานชมุ นมุ ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐

๘. การนํากลาวคําชมเชยหรือนําเย็ล ไมควรเชิญทั้งหมดยืนข้ึน
กอนนัดหมายวาจะใหทําอะไร อยางไร เพราะเม่ือท้ังหมดยืนขึ้นแลว
อาจมองเห็นไมชัดหรือไดยินไมถนัดวาจะพูดอยางไรทําอยางไร เพราะ
บางคนนาํ เยล็ มที า ทางประกอบดว ย ฉะนนั้ ควรนดั หมายวา จะใหท าํ อยา งไร
หรอื พดู วา อะไรเสียกอน แลวจึงเชิญทัง้ หมดยืนขึ้น

๙. การกลา วเยล็ นน้ั เพ่อื ความถนัดของแตล ะคนอาจจะกา วเทา
ขวาหรือเทาซายออกมาขางหนาประมาณคร่ึงกาวก็ได มือท่ีย่ืนออกไปยัง
ผูรับการเย็ลนั้นจะกํามือหรือแบมือก็ได หรือจะกําแลวแบก็ไดเสมือนนํา
ความดไี ปใหเ ขาขออยา งเดยี วอยา ใชน ว้ิ ช้ี ชไี้ ปทผี่ แู สดงจะเปน การไมส ภุ าพ
๑๐๐ ๑๐. การจดุ ไฟ ทาํ ได ๒ อยา ง คือ จุดไวกอ นประธานเดินเขามา
หรอื ประธานมาจดุ ไฟเอง แตเ พอ่ื ความเรยี บรอ ยไมข ลกุ ขลกั ควรจดุ ไวก อ น
ประธานเดินเขามา

๑๑. การรับเคารพของผูเปนประธาน เมื่อผูแสดงความเคารพ
กอ นแสดงหรือแสดงจบแลว

๑๑.๑ ถาผูแสดงเปนผูใหญหรือผูบังคับบัญชาลูกเสือ
ประธานควรยืนรบั เคารพโดยการทําวันทยหัตถ

๑๑.๒ ถาผูแสดงเปนเด็กหรือลูกเสือ ประธานไมควรยืน
เพียงน่ังรับการเคารพดว ยทาวันทยหตั ถก็พอแลว

๑๒. เมื่อหมูสุดทายแสดงจบ และเย็ลใหแลว ไมควรมีรายการ
อะไรอกี นอกจากรอ งเพลงเยน็ ๆ เชน ลาวดวงเดอื น สรอ ยเพลง แลว จงึ เชญิ
ประธานเลาเรอ่ื งสน้ั และกลา วปด การชมุ นุมรอบกองไฟ

“ลกู เสือสมานฉันท ผกู พันสิง่ แวดลอม”


Click to View FlipBook Version