The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by s29778, 2019-09-26 22:53:20

โครงงานพัฒนาความรู้เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ

plan36_project26

ชอ่ื โครงงาน พัฒนาความรู้เรอื่ งเทคโนโลยสี ารสนเทศ

ผู้รบั ผดิ ชอบโครงงาน
1.นายอภวิ ชิ ญ์ อัมรนันท์ เลขท่ี 26
2.นางสาวกญั ญาณัฐ สมคั รเขตการ เลขที่ 28
3.นางสาวณหทัย ถนอมมติ รวัฒนา เลขที่ 30
4.นางสาวเบญจรตั น์ นุจตั รุ สั เลขท3ี่ 3
5.นางสาววศิ รตุ า เกรอะไกร เลขที่ 36

ครูทีป่ รึกษาโครงงาน
ครู ชชั วาลย์ ฝ่ายกระโถก

บทคัดย่อ
โครงงานน้ีสร้างข้ึนเพ่ือศึกษาหลกั การทางาน และบทบาทของคอมพวิ เตอร์ท่ีช่วยในการอานวยความ
สะดวกในกิจกรรมตา่ งๆ และประโยชน์ของคอมพวิ เตอร์ที่ใชเ้ ป็นเคร่ืองมือในการทางาน อภิปรายลกั ษณะ
สาคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศในดา้ นการทางาน ความแมน่ ยา และการอานวยความสะดวกใน
ชีวติ ประจาวนั และเปรียบเทียบความสาคญั กบั ผลกระทบที่เกิดข้ึนจากเทคโนโลยสี ารสนเทศ ใชก้ ระบวนการ
คิดวเิ คราะห์ในการประมวลผลขอ้ มลู ใหเ้ ป็นสารสนเทศ เพ่ือนาไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์และมีความเหมาะสม
ในการใชง้ าน ศึกษา วเิ คราะห์แนวทางการเลือกอาชีพโดยใชก้ ระบวนการตดั สินใจในการเลือกอาชีพท่ี

เหมาะสม มีเจตคติที่ดีต่อการประกอบอาชีพที่เป็นการสร้างรายได้ จากการประกอบอาชีพท่ีสุจริตและเป็นท่ี
ยอมรับของสังคม เห็นความสาคญั ของการสร้างอาชีพและมีวจิ ารณญาณในการประกอบอาชีพ รักการทางาน
และมีเจตคติท่ีดีต่อการทางาน สามารถดารงชีวิตอยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งพอเพียงและมีความสุข โดยใช้
กระบวนการการทางาน กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการคิดวเิ คราะห์ เพอ่ื ให้นอ้ งๆเกิดความรู้ ความคิด ความ
เขา้ ใจ และเห็นคุณคา่ ของเทคโนโลยี สามารถนาเทคโนโลยสี ารสนเทศไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั เห็น
คุณคา่ ของการประกอบอาชีพ

กิตติกรรมประกาศ
ในการทาโครงงานน้ีกลุ่มขา้ พเจา้ ขอขอบพระคุณ อาจารยช์ ชั วาลย์ ฝ่ ายกระโถก ที่ไดใ้ หค้ วาม
อนุเคราะห์ คอยใหค้ าปรึกษาใหค้ วามสะดวกในการทาโครงงาน และขอ้ เสนอแนะเก่ียวกบั แนวทางในการทา
โครงงาน
ขอบคุณเพ่ือนในกลุ่มทุกคนท่ีใหค้ วามช่วยเหลือ ตลอดจนคาแนะนาที่เป็ น ประโยชน์ในการทา
โครงงาน ทา้ ยท่ีสุด ขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อและคุณแม่ ท่ีเป็นผใู้ หก้ าลงั ใจและให้โอกาสการศึกษาอนั มี
คา่ ยงิ่
คณะผจู้ ดั ทาโครงงาน ขอขอบพระคุณทุกทา่ นอยา่ งสูงท่ีให้ การสนบั สนุน เอ้ือเฟ้ื อและใหค้ วาม
อนุเคราะห์ช่วยเหลือ จนกระทง่ั โครงงานสาเร็จ ลุล่วงไดด้ ว้ ยดี

คณะผจู้ ดั ทา
1.นายอภิวชิ ญ์ อมั รนนั ท์ เลขท่ี 26
2.นางสาวกญั ญาณัฐ สมคั รเขตการ เลขท่ี 28
3.นางสาวณหทยั ถนอมมิตรวฒั นา เลขที่ 30

4.นางสาวเบญจรัตน์ นุจตั ุรัส เลขที่33
5.นางสาววศิ รุตา เกรอะไกร เลขที่ 36

บทนา
ที่มาและความสาคัญ

ในปัจจบุ ันเทคโนโลยสี ารสนเทศได้เขา้ มามีบทบาท ในการพฒั นาในเกือบทกุ ๆด้าน ไม่ว่าในด้านธุรกิจ ด้านสาธารณสขุ
ด้านการทหารและความม่นั คง ดา้ นโทรคมนาคมและการส่อื สาร ดงั จะเห็นได้วา่ หนว่ ยงานธรุ กิจสว่ นใหญ่จาเปน็ ตอ้ งใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นเครื่องมอื สาคญั ในการบรหิ าร การจดั การในองค์กร อีกทัง้ เพ่มิ ระดับความสาคญั มากข้นึ ในแตล่ ะปี มี
การจดั สรรงบประมาณส่วนหนึง่ ไว้ เพื่อการจดั การกบั ข้อมลู สารสนเทศเป็นการเฉพาะ มกี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ เพื่อวางกล
ยุทธห์ าความไดเ้ ปรียบในตลาดโดยรวม อีกทัง้ ยงั เป็นเคร่อื งมือสาคญั ในการจัดการเพ่อื เพิ่มผลผลิต รวมถงึ ใชเ้ ป็นช่องทาง สาหรบั
เผยแพรส่ ารสนเทศขององค์กรมากขน้ึ ดว้ ย

ในส่วนของการศกึ ษา เทคโนโลยีสารสนเทศ ก็มบี ทบาททส่ี าคญั ในสว่ นของการเปน็ ท้งั เครอ่ื งมือหลัก และเครือ่ งมือ
สนบั สนุนท่ีตอ้ งจดั หา และนามาใช้ในการเรยี นการสอนเพ่อื ให้เป็นไปตามลักษณะการศกึ ษา ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติ
การศกึ ษาแห่งชาติ การกาหนดทศิ ทางและนโยบายการจดั การศกึ ษาไทย จงึ ต้องดาเนนิ การอยา่ งเรง่ ด่วน เพื่อให้ทนั ตอ่
ความก้าวหนา้ ของเทคโนโลยีทมี่ ผี ลตอ่ การกาหนดคณุ สมบตั แิ ละคณุ ภาพของแรงงานในอนาคต ซ่ึงปฏิเสธไมไ่ ดเ้ ลยว่า เทคโนโลยี
สารสนเทศ เทคโนโลยีการขนส่ง เทคโนโลยีการผลิต นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีชวี ภาพ เหล่านลี้ ้วนมคี วามกา้ วหนา้ ขึน้ อย่าง

วตั ถปุ ระสงค์

1 .เพือ่ พัฒนาใหค้ วามรเู้ รอื่ งเทคโนโลยสี ารสนเทศใหแ้ ก่นกั เรยี นโรงเรียนอทุ ัยวทิ ยาคม

2.เพ่อื เป็นความใหแ้ ก่ผ้ทู ส่ี นใจในโครงงานน้ี

ขอบเขตของโครงงาน

กันยายน 2562 – กันยายน 2562

หลกั การ ทฤษฎี และงานท่เี กย่ี วข้อง
งานที่เกี่ยวข้อง

การจัดให้ความรู้เรอื่ งเทคโนโลยสี ารสนเทศ เก่ยี วกับ ความหมายของสารสนเทศและระบบการทางานของตู้
ATM

หลกั การและทฤษฎี

สารสนเทศ (information) คือการนาขอ้ มลู มาผา่ นระบบการประมวลผล คานวณ วเิ คราะห์และแปลความหมายเป็ น
ขอ้ ความท่ีสามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ในดา้ นตา่ งๆ ไดม้ ากมายทาใหค้ าวา่ สารสนเทศมีความหมายที่กวา้ งและหลากหลาย ท้งั
ความหมายในเชิงเทคนิคและความหมายของสารสนเทศในชีวติ ประจาวนั เช่น สารสนเทศที่เป็ นความรู้จากเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ จากโทรศพั ทม์ ือถือ สารสนเทศ
ระบบส่ือสารโทรคมนาคมสมยั ใหม่ เช่น การฝาก ถอนเงินผา่ นเครื่อง ATM การจองตว๋ั เคร่ืองบิน และอ่ืนๆ

ความสาคัญของสารสนเทศ

1. การศึกษา การรู้สารสนเทศเป็นส่ิงจาเป็ นสาหรับการศึกษาของบุคคลทุกระดบั ท้งั การศึกษาในระบบโรงเรียน การศึกษา
นอกระบบโรงเรียน การศึกษาตามอธั ยาศยั และการเรียนรู้ตลอดชีวติ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การศึกษาในปัจจบุ นั ตาม
พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มีการปฏิรูปการเรียนรู้ที่เนน้ ผเู้ รียนเป็ นสาคญั ดงั น้นั บทบาทของผสู้ อนจึง
เปล่ียนเป็ นผใู้ หค้ าแนะนาช้ีแนะโดยอาศยั ทรัพยากรเป็ นพ้นื ฐานสาคญั

2. การดารงชีวติ ประจาวนั การรู้สารสนเทศเป็ นส่ิงสาคญั ยง่ิ ในการดารงชีวติ ประจาวนั เพราะผรู้ ู้สารสนเทศจะเป็นผทู้ ่ี
สามารถวเิ คราะห์ประเมินและใชส้ ารสนเทศใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุดแก่ตนเองเม่ือตอ้ งการตดั สินใจเรื่องใดเรื่องหน่ึงไดอ้ ยา่ งมี
ประสิทธิภาพ เช่น ถา้ ตอ้ งการซ้ือเครื่องปรับอากาศของบริษทั ใดบริษทั หน่ึงก็ตอ้ งพจิ ารณามาตรฐาน คุณภาพ บริการหลงั การ
ขาย และเปรียบเทียบราคา แลว้ จึงคอ่ ยตดั สินใจ เป็ นตน้

3. การประกอบอาชีพ การรู้สารสนเทศมคี วามสาคญั ต่อการประกอบอาชีพของบุคคลใดบคุ คลหน่ึง เพราะบุคคลน้นั สามารถ
แสวงหาสารสนเทศที่มีความจาเป็ นต่อการประกอบอาชีพของตนเองได้ เช่น เกษตรกร เม่ือประสบปัญหาโรคระบาดกบั
พืชผลทางการเกษตรของตน กส็ ามารถหาตวั ยาหรือสารเคมีเพอ่ื มากาจดั โรคระบาด ดงั กล่าวได้ เป็นตน้

4. สงั คม เศรษฐกิจ และการเมือง การรู้สารสนเทศเป็นสิ่งสาคญั โดยเฉพาะสงั คมในยคุ สารสนเทศ (Information
Age) บุคคลจาเป็ นตอ้ งรู้สารสนเทศเพอื่ ปรับตนเองใหเ้ ขา้ กบั สงั คม เศรษฐกิจ และการเมือง เชน่ การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม
การบริหารจดั การ การดาเนินธุรกิจและการแข่งขนั การบริหารบา้ นเมืองของผนู้ าประเทศ เป็นตน้ อาจกลา่ วไดว้ า่ ผรู้ ู้

สารสนเทศ คือ ผทู้ ่ีมีอานาจสามารถาช้ีวดั ความสามารถขององคก์ รหรือประเทศชาติได้ ดงั น้นั ประชากรท่ีเป็ นผรู้ ู้สารสนเทศ
จึงถือวา่ เป็ นทรัพยากรที่มคี ่ามากที่สุดของประเทศ
โดยมีองคป์ ระกอบ ดงั น้ี

1. ผสู้ ่งสาร คือ ผทู้ ่ีทาหนา้ ท่ีส่งขอ้ มูลสารไปยงั ผรู้ ับสารโดยผา่ นชอ่ งทางที่เรียกวา่ สื่อ ถา้ หากเป็ นการสื่อสารทางเดียวผสู้ ่งจะ
ทาหนา้ ท่ีส่งเพียงประการเดียวแตถ่ า้ เป็ นการสื่อสาร 2 ทางผสู้ ่งสารจะเป็ นผรู้ ับในบางคร้ังดว้ ย ผสู้ ่งสารจะตอ้ งมีทกั ษะในการ
สื่อสาร มีเจตคติต่อตนเอง ตอ่ เรื่องที่ส่ง ตอ้ งมีความรู้ในเน้ือหาท่ีจะส่งและอยใู่ นระบบสงั คมเดียวกบั ผรุ้ ับก็จะทาใหก้ ารสื่อสาร
มีประสิทธิภาพ

2. ข่าวสาร ในกระบวนการติดตอ่ ส่ือสารกม็ ีความสาคญั ขา่ วสารท่ีดีตอ้ งแปลเป็ นรหสั เพอ่ื สะดวกในการส่งการรับและ
ตีความ เน้ือหาของสารและการจดั สารกจ็ ะตอ้ งทาใหก้ ารสื่อความหมายง่ายข้ึน

3. ส่ือหรือช่องทางในการรับสาร คือ ประสาทสมั ผสั ท้งั หา้ คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกายสมั ผสั และตวั กลางท่ีมนุษยส์ ร้าง
ข้ึนมา เช่น ส่งพิมพ์ กราฟิ ก ส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์

4. ผรู้ ับสาร คือ ผทุ้ ่ีเป็ นป้ าหมายของผสุ้ ่งสาร การส่ือสารจะมีประสิทธิภาพผรู้ ับสารจะตอ้ งมีประสิทธิภาพในการรับรู้ มีเจต
คติที่ดีตอ่ ขอ้ มูลข่าวสารตอ่ ผสู้ ่งสารและต่อตนเองดว้ ย

ข้นั ตอนการทางานของเจา้ ตู้ ATM
ใชห้ ลกั การ ถอดรหัสและข้อมลู ของบตั รสาหรับผ้ใู ช้งาน ซ่ึงจะมีส่วนท่ีถกู บนั ทึกเอาไวเ้ ป็นแถบแม่เหลก็ สีดาบนบตั ร

เรียกส่วนน้ีวา่ Magnetic Stripe ขอ้ มลู อนั มากมายของเจา้ ของบตั ร จะถกู เขา้ รหสั ผา่ นแถบแมเ่ หลก็ ขอ้ มลู ตา่ งๆ ไมว่ า่
จะเป็ น หมายเลขบตั ร วนั หมดอายุ รหสั และขอ้ มูลส่วนตวั ซ่ึงถูกบนั ทึกเอาไวอ้ ยา่ งน่าอศั จรรยภ์ ายใตแ้ ถบสีดาเลก็ ๆ บนบตั ร
ซ่ึงตู้ ATM ก็จะทาหนา้ ที่แกะรหสั เปลี่ยนอนุภาคแมเ่ หลก็ ใหก้ ลายเป็ นอิเลก็ ตรอนหรือสญั ญาณไฟฟ้ า ทาการส่งขอ้ มูลไปยงั
โครงขา่ ยสาธารณะ ไมว่ า่ จะเป็ น อินเทอร์เน็ต โทรศพั ทม์ ือถือ หรือแทบ็ เลต็ โดยขอ้ มลู จะถกู ส่งตรงไปยงั Interbank
Network ซ่ึงกค็ ือเครือข่ายธนาคารระหวา่ งประเทศ

หลายคนอาจคิดวา่ การทางานแบบเขา้ รหสั ของตู้ ATM มีความปลอดภยั สูง จนไม่ตอ้ งกงั วลใจ แต่ส่ิงท่ีพงึ ระวงั ก็
คือ แถบแม่เหลก็ ดงั กล่าวอาจเส่ียงโดนมจิ ฉาชีพดูดเอาขอ้ มูลไปไดแ้ บบง่ายๆ โดยไม่ทนั รูต้ วั วธิ ีการมีหลากหลาย ต้งั แต่การใช้
แป้ นพมิ พป์ ลอมมาเสียบทบั ทดแทนแป้ นเดิม ทาใหส้ ามารถกดเลขรหสั PIN ผา่ นระบบโจรกรรมแทน ทาใหพ้ วกมิจฉาชีพ
ไดข้ อ้ มลู ของบตั รไปแบบง่ายๆ

การป้ องกนั เบอื้ งต้น

สามารถทาไดอ้ ยา่ งเห็นผลกค็ ือ หมน่ั เปลยี่ นรหัสบตั รอย่างสมา่ เสมอ หลกี เลยี่ งการใช้รหัสทเ่ี ข้าถงึ ได้ง่าย เช่น วนั เดือนปี
เกิด เบอร์โทรศพั ท์ หรือหมายเลขเรียงแบบท่ีอยากใหต้ วั เองจาได้ หากเจอมิจฉาชีพขโมยกระเป๋ าตงั ค์ อาจจะไดท้ ้งั บตั ร
ประชาชนและบตั ร ATM ไปพร้อมกนั หากเฉลียวใจสกั นิด โจรอาจจะลองนาบตั รไปกดตดู้ ว้ ยตวั เลขสุ่มจากวนั เดือนปี เกิดท่ี
พบในบตั รประชาชนของเจา้ ของบตั รได้ หากตรงตามน้นั กจ็ ะไดเ้ งินไปไดอ้ ยา่ งง่ายดายเลยทีเดียว

วธิ ีป้ องกนั อีกอยา่ งหน่ึงสาหรับคนท่ีมน่ั ใจวา่ มีรหสั ท่ีแขง็ แกร่งแลว้ ก็ตาม แตค่ วามเส่ียงคือแป้ นพิมพป์ ลอมที่อาจมา
แทนท่ีอยบู่ นตู้ ATM สิ่งที่ตอ้ งทาก่อนเสียบบตั ร คอื ลองขยบั ๆ แป้ นดูว่าแน่นหรือไม่ หากมีความแน่นหนา ท้งั ป่ ุมกดและช่อง
เสียบบตั ร กม็ นั่ ใจไดว้ า่ ไมม่ ีปัญหาเรื่องแป้ นพมิ พป์ ลอมมาซอ้ นทบั

ท้งั นีข้ ณะกดรหัส อย่าลมื ใช้มอื บงั ด้วย เพ่ือป้ องกนั มิจฉาชีพตีเนียนมาแอบดูรหสั ก่อนใชง้ านตู้ ATM ทุกคร้ัง กอ็ ยา่ ลืม
สงั เกตสภาพแวดลอ้ มรอบๆ ดา้ นใหด้ ีดว้ ยวา่ มีความปลอดภยั หรือไม่ หากพบคนแปลกหนา้ ท่ีทาตวั มีพริ ุธ ก็อยา่ เสี่ยงกดเงิน
แถวน้นั ใหย้ า้ ยไปบริเวณอื่นที่มีคนพลุกพลา่ น หรือท่ีเป็ นธนาคารโดยตรงในหา้ งสรรพสินคา้ จะดีกวา่

วิธีการดาเนนิ งาน

1.วางแผนท่ีจะทาโครงงานนี้
2.รวบรวมหาข้อมลู ของสารสนเทศและการทางานของ ATM
3.จดั ทาข้อมลู เพื่อท่ีจะนาไปใหข้ อ้ มูลนักเรียนโรงเรียนอทุ ัยวทิ ยาคม
4.ไปใหข้ ้อมลู นักเรยี นโรงเรียนอทุ ยั วทิ ยาคม
5.นาขอ้ มลู ทีท่ ามาจดั ทาโครงงาน
6.นาเสนอสง่ ครู

ผลของโครงงาน

การศึกษาออกมาไดด้ ีทาใหผ้ เู้ รียนไดเ้ กิดความเขา้ ใจกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศผลของการศึกษาคือดีแต่มีผลกระทบ 2 ดา้ น
คือดา้ นบวกและดา้ นลบ เพราะเทคโนโลยสี ารสนเทศมีหลายดา้ น

ผลกระทบดา้ นบวก
1. การสร้างเสริมคุณภาพชีวติ ที่ดีข้ึน สภาพความเป็ นอยขู่ องสงั คมเมือง มีการพฒั นาใชร้ ะบบสื่อสารโทรคมนาคม

เพอื่ ติดต่อส่ือสารใหส้ ะดวกข้นึ มีการประยกุ ตม์ าใชก้ บั เคร่ืองอานวยความสะดวกภายในบา้ น เช่น ใชค้ วบคุม
เครื่องปรับอากาศ ใชค้ วมคุมระบบไฟฟ้ าภายในบา้ น เป็ นตน้

2. เสริมสร้างความเท่าเทียมในสงั คมและการกระจายโอกาส เทคโนโลยสี ารสนเทศทาใหเ้ กิดการกระจายไปทวั่ ทุก
หนแห่ง แมแ้ ตถ่ ่ินทุรกนั ดาร ทาใหม้ ีการกระจายโอกาสการเรียนรู้ มีการใชร้ ะบบการเรียนการสอนทางไกล การกระจายการ
เรียนรู้ไปยงั ถ่นิ ห่างไกล นอกจากน้ีในปัจจุบนั มีความพยายามที่จะใชร้ ะบบการรักษาพยาบาลผา่ นเครือข่ายส่ือสาร

3. สารสนเทศกบั การเรียนการสอนในโรงเรียน การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนาคอมพวิ เตอร์และเครื่องมือ
ประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่น วดี ิทศั น์ เครื่องฉายภาพ คอมพวิ เตอร์ช่วยสอน คอมพวิ เตอร์ช่วยจดั การศึกษา จดั ตารางสอน
คานวณระดบั คะแนน จดั ช้นั เรียน ทารายงานเพอ่ื ใหผ้ บู้ ริหารไดท้ ราบถึงปัญหาและการแกป้ ัญหาในโรงเรียน ปัจจุบนั มีการ
เรียนการสอนทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศใน โรงเรียนมากข้ึน

4. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั สิ่งแวดลอ้ ม การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติหลายอยา่ งจาเป็ นตอ้ งใชส้ ารสนเทศ เช่น
การดูแลรักษาป่ า จาเป็นตอ้ งใชข้ อ้ มลู มีการใชภ้ าพถ่ายดาวเทียม การติดตามขอ้ มลู สภาพอากาศ การพยากรณ์อากาศ การ
จาลองรูปแบบสภาวะส่ิงแวดลอ้ ม เพ่ือปรับปรุงแกไ้ ข การเกบ็ รวมรวมขอ้ มลู คุณภาพน้าในแมน่ ้าต่าง ๆ การตรวจวดั มลภาวะ
ตลอดจนการใชร้ ะบบการตรวจวดั ระยะไกลมาช่วย ที่เรียกวา่ โทรมาตร เป็ นตน้

5. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั การป้ องกนั ประเทศ กิจการทางดา้ นการทหารมีการใชเ้ ทคโนโลยี อาวธุ ยทุ โธปกรณ์
สมยั ใหม่ลว้ นแตเ่ กี่ยวขอ้ งกบั คอมพิวเตอร์และระบบควบคุม มีการใชร้ ะบบป้ องกนั ภยั ระบบเฝ้ าระวงั ที่มีคอมพวิ เตอร์ ควบคุม
การทางาน

6.การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม การแขง่ ขนั ทางดา้ นการผลิตสินคา้ อุตสาหกรรมจาเป็ น ตอ้ งหา
วธิ ีการ ในการผลิตใหไ้ ดม้ าก ราคาถกู ลง เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์เขา้ มามีบทบาทมาก มีการใชข้ อ้ มูลขา่ วสารเพอื่ การบริหาร
และการจดั การ การดาเนินการและยงั รวมไปถึงการใหบ้ ริการกบั ลกู คา้ เพ่ือใหซ้ ้ือสินคา้ ไดส้ ะดวกข้ึน

7. เทคโนโลยสี ารสนเทศมีผลเก่ียวขอ้ งกบั ทุกเร่ืองในชีวติ ประจาวนั บทบาทเหล่าน้ีมีแนวโนม้ ท่ีสาคญั มากยงิ่ ข้ึน
ดว้ ยเหตุน้ีเยาวชนคนรุ่นใหมจ่ ึงควรเรียนรู้ และเขา้ ใจเก่ียวกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่อื จะไดเ้ ป็นกาลงั สาคญั ในการพฒั นา
เทคโนโลยสี ารสนเทศใหก้ า้ วหนา้ และเกิดประโยชนต์ ่อประเทศตอ่ ไป

ผลกระทบดา้ นลบ
1. ก่อใหเ้ กิดความเครียดในสงั คมมากข้ึน เนื่องจากมนุษยไ์ มช่ อบการเปลี่ยนแปลง เคยทาอะไรแบบใด มกั จะชอบ
ทาแบบน้นั ไมช่ อบการ เปลี่ยนแปลง แตเ่ ทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ ไปเปล่ียนแปลง บคุ คลท่ีรับการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ จึงเกิด
ความวติ กกงั วล จนกลาย เป็ นความเครียด กลวั วา่ คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศจะทาใหค้ นตกงาน เพราะสิ่งเหล่าน้ี
จะเขา้ มาทดแทนมนุษย์
2. ก่อใหเ้ กิดการรบั วฒั นธรรม หรือการแลกเปล่ียนวฒั นรรมของคนในสงั คมโลก ทาใหพ้ ฤติกรรมที่แสดงออกดา้ น
การแตง่ กาย และการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป การมอมเมาเยาวชนในรูปของเกมส์อิเลค็ ทรอนิคส์ ส่งผลกระทบ ตอ่ การพฒั นา
อารมณ์และจิตใจของเยาวชน เกิดการกลืนวฒั นธรรมด้งั เดิมซ่ึงแสดงถึงเอกลกั ษณข์ องสงั คมน้นั
3. ก่อใหเ้ กิดผลดา้ นศีลธรรม บทบาทเหล่าน้ีมีแนวโนม้ ที่สาคญั มากยง่ิ ข้ึน ดว้ ยเหตนุ ้ีเยาวชนคนรุ่นใหมจ่ ึงควร
เรียนรู้ และเขา้ ใจเก่ียวกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ เพอ่ื จะไดเ้ ป็ นกาลงั สาคญั ในการพฒั นาเทคโนโลยสี ารสนเทศใหก้ า้ วหนา้
และเกิดประโยชนต์ อ่ ประเทศตอ่ ไป
4. การมีส่วนร่วมของคนในสงั คมลดนอ้ ยลง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทาใหเ้ กิดความสะดวกรวดเร็ว ในการ
ส่ือสารและการทางาน แตใ่ นอีกดา้ นหน่ึงการมีส่วนร่วมของกิจกรรมทางสงั คมที่มีการพบปะสงั สรรคก์ นั จะนอ้ ยลง ผคู้ นมกั
อยแู่ ตท่ ่ีบา้ นหรือท่ีทางานของตนเองมากข้ึน
5. การละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลโดยการเพยแพร่ขอ้ มลู หรือรูปภาพต่อสาธารณชน
ซ่ึงขอ้ มูลบางอยา่ งอาจไมเ่ ป็ นความจริงหรือยงั ไม่ไดพ้ สิ ูจนค์ วามถูกตอ้ งออกสู่สาธารณะชน ก่อใหเ้ กิดความเสียหาย ตอ่ บุคคล
โดยไม่สามารถป้ องกนั ตนเองได้ การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเช่นน้ี ตอ้ งมีกฎหมายออกมาคุม้ ครองเพอ่ื ใหน้ าขอ้ มลู ตา่ ง ๆ มาใช้
ในทางที่ถกู ตอ้ ง
6. เกิดช่องวา่ งทางสงั คม การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศจะเก่ียวขอ้ งกบั การลงทุน ผใู้ ชจ้ ึงเป็นชนช้นั ในอีกระดบั หน่ึง
ของสงั คม ในขณะท่ีชนช้นั ระดบั รองลงมามีจานวนมากกลบั ไม่มีโอกาสใชแ้ ละผยู้ ากจนก็ไมม่ ีโอกาสรู้จกั กบั เทคโนโลยี
สารสนเทศ
7. อาชญากรรมบนเครือข่าย ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยสี ารสนเทศก่อใหเ้ กิดปัญหาใหมข่ ้ึน เช่น ปัญหา
อาชญากรรม ตวั อยา่ งเช่น อาชญากรรมในรูปของการขโมยความลบั การขโมยขอ้ มูลสารสนเทศ การใหบ้ ริการสารสนเทศท่ีมี
การหลอกลวง รวมถึงการบ่อนทาลายขอ้ มูลและไวรัส
8. ก่อใหเ้ กิดปัญหาดา้ นสุขภาพ นบั ต้งั แตค่ อมพวิ เตอร์เขา้ มามีบทบาทในการทางาน การศึกษา บนั เทิง ฯลฯ การจอ้ ง

มอง คอมพวิ เตอร์เป็นเวลานาน มีผลเสียตอ่ สายตา ซ่ึงทาใหส้ ายตาผดิ ปกติ มีอาการแสบตา เวยี นศรีษะ นอกจากน้นั ยงั
มีผลตอ่ สุขภาพจิต เกิดโรคทางจิตประสาท

บทที5่
สรุปผล และขอ้ เสนอแนะ

เทคโนโลยสี ารสนเทศ
ปัจจุบนั น้ี เทคโนโลยสี ารสนเทศมีบทบาทอยา่ งกวา้ งขวางในทุกวงการ และเทคโนโลยสี ารสนเทศกลายเป็ นเคร่ืองมือ

สาคญั ของการทางานทุกดา้ น นบั ต้งั แต่ทางดา้ นการศึกษา พาณิชยกรรม เกษตรกรรม อุตสาหกรรม สาธารณสุข การวจิ ยั และ
พฒั นา ตลอดจนดา้ นการเมืองและราชการ อนั ท่ีจริงแลว้ จะเห็นวา่ ไม่มีงานดา้ นใดท่ีไมม่ ีผคู้ ิดประยกุ ตห์ รือนาเทคโนโลยี
สารสนเทศเขา้ ไปช่วยใหก้ ารทางานน้นั ๆ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยง่ิ ข้ึน

ขอ้ มูลกบั สารสนเทศ
ขอ้ มลู (Data) หมายถึง กลุ่มตวั อกั ขระท่ีเม่ือนามารวมกนั แลว้ มีความหมายอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงและมีสาคญั ควรค่าแก่การ

จดั เกบ็ เพอื่ นาไปใชใ้ นโอกาสตอ่ ๆ ไป ขอ้ มูลมกั เป็นขอ้ ความที่อธิบายถึงส่ิงใดส่ิงหน่ึง อาจเป็ นตวั อกั ษร ตวั เลข หรือ
สญั ลกั ษณ์ใด ๆ ท่ีสามารถนาไปประมวลผลดว้ ยคอมพวิ เตอร์ได้ (ทกั ษิณา สวนานนท์ และฐานิศรา เกียรติบารมี 2546: 165)

สารสนเทศ หมายถึง ขอ้ มลู ข่าวสาร ความรู้ตา่ ง ๆ ท่ีไดร้ ับการสรุป คานวณ จดั เรียง หรือประมวลแลว้ จากขอ้ มูลต่าง ๆ
ท่ีเก่ียวขอ้ งอยา่ งเป็ นระบบตามหลกั วชิ าการ จนไดเ้ ป็นขอ้ ความรู้ เพ่ือนามาเผยแพร่และใชป้ ระโยชนใ์ นงานดา้ นต่าง ๆ (สมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกมุ ารี 2538: 3)
ขอ้ มูลและสารสนเทศนบั วา่ มีประโยชนต์ ่อการนาไปใชบ้ ริหารงานดา้ นต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น

1. ดา้ นการวางแผน สามารถนาสารสนเทศไปใชใ้ นการวางแผนเก่ียวกบั การจดั การองคก์ าร การบริหารงานทรัพยากร
มนุษย์ กระบวนการผลิตสินคา้ การตลาด เป็ นตน้

2. ดา้ นการตดั สินใจ สามารถนาสารสนเทศไปใชใ้ นการตดั สินใจเพือ่ เลือกแนวทางหรือทางเลือกที่มีปัญหานอ้ ยท่ีสุดใน
การแกป้ ัญหาตา่ ง ๆ การมีสารสนเทศท่ีสมบูรณ์ ทนั สมยั และครบถว้ นจะช่วยใหก้ ารตดั สินใจถูกตอ้ ง รวดเร็ว และมี
ประสิทธิภาพยง่ิ ข้ึน

3. ดา้ นการดาเนินงาน สามารถนาสารสนเทศไปใชใ้ นการดาเนินงานตา่ ง ๆ เช่น ใชเ้ พ่ือควบคุมหรือติดตามผลการ
ปฏิบตั ิงานใหส้ อดคลอ้ งกบั กฎระเบียบ วตั ถปุ ระสงค์ และเป้ าหมายขององคก์ าร

บรรณานุกรม

https://www.chi.co.th/article/article-1390/
https://sites.google.com/site/noojinza2556/sara-snthes-hmay-thung-xari
https://sites.google.com/site/kroonom/phlk-ra-thb-khxng-thekhnoloyi-sarsnthes


Click to View FlipBook Version