E-BOOK
ตัวต้านทาน
ตัวต้านทาน
(RESISTOR)
เป็ นอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่มี
คุณสมบัติในการต้านการไหลผ่านของ
กระแสไฟฟ้าทำด้วย ลวดต้านทานหรือ
ถ่านคาร์บอน ถ้า อุปกรณ์นั้นมีความ
ต้านทานมากกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านจะ
น้อยลง
1
หน่วยค่าความต้านทานไฟฟ้าตามระบบ
เอส ไอ คือ โอห์ม มีสัญลักษณ์เป็น Ω หรือ
อุปกรณ์ที่มีความต้านทาน 1 โฮห์ม มีความ
ต่างศักย์ 1 โวลต์ ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน
1 แอมแปร์ ซึ่งเท่ากับการไหลของประจุไฟฟ้า
1 คูลอมบ์ ต่อวินาทีตัวต้านทานสามารถจัด
แบบตามโครงสร้างและการใช้งานแบ่งได้ 6
แบบ
2
ตัวต้านทานแบบค่าคงที่
คือ ตัวต้านทานที่ถูกสร้างขึ้นมามีค่า
ความต้านทานตายตัวปรับเปลี่ยนไม่ได้
สัญลักษณ์ของตัวต้านทานจะมีใช้กันหลาย
แบบ แล้วแต่มาตรฐานที่กำหนดขึ้นเช่น แบบ
อเมริกา แบบยุโรป สัญลักษณ์ที่นิยมใช้งาน
โดยทั่วไปคือ แบบอเมริกา
3
ตัวต้านทานแบบคาร์บอน
เป็นตัวต้านทานที่ผลิตใช้มานาน และ
ปั จจุบันเลิกผลิตแล้วแต่ยังมีคนใช้งานอยู่บ้าง
ค่าอัตราทนกำลังวัตต์จะมีขนาดตั้งแต่ 1/8,
1/4, 1/2, 1 และ 2 วัตต์ โดยดูจากขนาดของ
ตัวต้านทานคือ ตัวเล็กมีค่าทนกำลังวัตต์ต่ำ
ถ้าตัวใหญ่มีค่าทนกำลังวัตต์สูง
4
ตัวต้านทานแบบฟิล์มคาร์บอน
ตัวต้านทานชนิดนี้ผลิตโดยใช้ผงคาร์บอน
ผสมซิลิก้าเคลือบหุ้มแกนเซรามิกทรงกลม
ปลายทั้งสองสวมด้วยกระบอกโลหะแล้วต่อ
เชื่อมขาตัวต้านทาน ทั้งสองข้าง คุณสมบัติ
คล้ายกับแบบคาร์บอนแต่ค่าความผิดพลาด
น้อยกว่า
5
ตัวต้านทานแบบขดลวด
ความต้านทานของตัวต้านทานแบบขด
ลวดนี้จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของขดลวดโลหะ
ที่นำมาผลิตลวดเส้นใหญ่ความต้านทานต่ำ
ลวดเส้นเล็กความต้านทานสูง
6
ตัวต้านทานแบบฟิล์มโลหะ
เป็ นตัวต้านทานที่นิยมใช้กันมากมีค่าผิด
พลาดตั้งแต่ 2% จนถึง 0.1% โครงสร้าง
ของตัวต้านทานประเภทนี้จะประกอบด้วย
แกนกลมเล็กๆ ที่ทำจากเซรามิกเคลือบด้วย
โลหะ
ข้อดีของตัวต้านทานแบบนี้ คือจะมีค่า
ความต้านทานที่ผิดพลาดต่ำมากๆ แต่จะมี
ราคาแพงกว่าชนิดฟิล์มคาร์บอน
7
ตัวต้านทานแบบฟิล์มบาง
ตัวต้านทานประเภทนี้ผลิตขึ้นมาจากฟิล์ม
บางของความต้านทานแบบฐานเซรามิก และ
ต่อเชื่อมวงจรภายในของความต้านทานแต่ละ
ตัวเข้าด้วยกันในแต่ละแบบตามต้องการ และ
ต่อเชื่อมขาออกมาภายนอกในรูปของไอซี ตัว
ต้านทานชนิดนี้นิยมเรียกว่าชนิดโมดูล
8
ตัวต้านทานแบบเลือกค่าได้
ตัวต้านทานแบบเลือกค่าได้ คือ ตัว
ต้านทานที่ถูกต่อขาออกมาใช้งานมากกว่า
2 ขา เช่น 3 ขา, 4 ขา, 5 ขา โดยแต่ละขาจะ
มีค่าความต้านทานคงที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้
แต่สามารถเลือกขาใช้งานตามความต้องต้
การได้
9
ตัวต้านทานแบบเปลี่ยนค่าได้
ตัวต้านทานแบบเปลี่ยนค่าได้ สามารถ
ปรับเปลี่ยนค่าความต้านทานได้ตั้งแต่ต่ำสุด
ไปจนถึงค่าสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ตัวต้านทาน
ประเภทนี้จะถูกสร้างขึ้นในรูปโค้งเป็ นวงกลม
แบบหมุน และแท่งยาว
10
ตัวต้านทานชนิดพิเศษ
ตัวต้านทานเปลี่ยนค่าตามอุณหภูมิ
ตัวต้านทานชนิดนี้มีชื่อเรียกว่า เทอร์มีส
เตอร์ ค่าความต้านทานในตัวจะเปลี่ยนแปลง
มากขึ้นหรือน้อยลงตามอุณหภูมิรอบตัวที่
เปลี่ยนแปลง
11
ตัวต้านทานเซลล์การนำพลังแสง
ตัวต้านทานชนิดนี้มีชื่อเรียกว่า แอลดี
อาร์ คือ ตัวต้านทานที่มีการเปลี่ยนแปลง
ค่าความต้านทานตามแสงที่มาตกกระทบ
ตัวต้านทานวาริสเตอร์
เป็ นตัวต้านทานที่เปลี่ยนค่าได้ตามแรง
ดันที่ป้อน รูปร่างคล้ายกระเบื้อง แผ่นกลม
หรือเป็ นแท่งทรงกลมกระบอก
12
หน่วยของความต้านทาน
ความต้านทานถูกกำหนดให้มีหน่วยเป็ น
โอห์ม (Ohm) ซึ่งแทนด้วยตัวอักษรกรีก ตัว
โอเมก้า ( Ω ) ความต้านทาน 1 โอห์ม ได้มา
จากการป้อนแรงเคลื่อนไฟฟ้า 1 โวลต์ ผ่าน
ตัวต้านทาน ทำให้มีกระแสไหลผ่าน 1 แอมป์
13
การอ่านความต้านทาน
จากรหัสตัวเลขตัวอักษร
แบบค่าเป็ นรหัสตัวเลขตัวอักษร
แบบตัวเลข 3 ตัว และอาจเพิ่มตัวอักษร
1 ตัว การอ่านค่าให้อ่านตัวเลขจากซ้ายมือ
ไปขวามือ
14
การอ่านความต้านทานจากรหัสสี
แบบรหัส 4 แถบส
ี
ทั้งแถบสีที่ 1 และแถบสีที่ 2 แทนค่าเป็น
ตัวเลขลงไป ส่วนแถบสีต่อมาเป็นแถบสีที่ 3
เป็ นแถบสีตัวคูณหรือจำนวนเลขศูนย์
แถบสีที่ 4 ซึ่งอาจอยู่ติดกันหรืออยู่ห่าง
ออกมาเล็กน้อย เป็นแถบสีแสดงค่าผิด
พลาด
15
แบบรหัส 5 แถบสี
ทั้งแถบสีที่ 1 แถบสีที่2 และแถบสีที่ 3
แทนค่าเป็นตัวเลขลงไป ส่วนแถบสีต่อมา
เป็นแถบสีที่ 4 เป็นแถบสีตัวคูณหรือจำนวน
เลขศูนย์ แถบสีที่ 5 ซึ่งอาจอยู่ติดกันหรืออยู่
ห่างออกมาเล็กน้อย เป็นแถบสีแสดงค่าผิด
พลาด
16
วิธีอ่านแบบ 5 แถบสี
17
มัลติมิเตอร์แบบแอนะลอก
มัลติมิเตอร์แบบแอนะลอก จะเป็น
มิเตอร์ที่แสดงค่าการวัดออกมาเป็ นเข็มชี้ที่
หน้าปัดเป็นขีด มัลติมิเตอร์โดยทั่วไป จะมี
สเกลที่สามารถวัดค่าความต้านทานได้
ตั้งแต่ประมาณ 0.2 โอห์ม ถึง 5 เมกะโอห์ม
มีค่าความผิดพลาดในการวัดประมาณ 3.5
%ทำงานโดยอาศัยแบตเตอรี่ภายในจ่ายให้
กับตัวต้านทาน
18
การอ่านรายละเอียดในสเกลต่างๆ
สเกลR x 1
สเกลR x 1 สามารถอ่านค่าความ
ต้านทานได้ตั้งแต่ประมาณ 0 โอห์มจน
กระทั่งถึง 2 กิโลโอห์ม แบ่งรายละเอียดการ
วัดในแต่ละช่วงได้ดังนี้
19
จากเลข 0 – 2มี 10 ขีดอ่านขีดละ 0.2 โอห์ม
จากเลข2 – 10มี 16 ขีด อ่านขีดละ0.5 โอห์ม
จากเลข10 – 20มี 10 ขีด อ่านขีดละ1 โอห์ม
จากเลข20 – 25มี 15 ขีด อ่านขีดละ 2 โอห์ม
จากเลข50–100มี 10 ขีด อ่านขีดละ 5 โอห์ม
จากเลข100–200มี15ขีด อ่านขีดละ20โอห์ม
สเกลR x 10
สเกลR x 10 สามารถวัดค่าความ
ต้านทานได้ตั้งแต่ค่าน้อยๆ ไปจนถึง 20 กิโล
โอห์ม นิยมใช้วัดความต้านทานที่มีค่าระหว่าง
10 โอห์มถึง 1 กิโลโอห์ม การอ่านเหมือนอ่าน
สเกลR x 1เพียงแต่เมื่อได้ค่าออกมาแล้วให้
คูณกับ 10
*** หากตัวต้านทานที่วัดมีค่ามากกว่านี้หรือ
ต่ำกว่านี้เล็กน้อยให้เปลี่ยนสเกลการวัดที่สูง
ขึ้น
20
สเกลR x 1K
สเกลR x 1K สามารถวัดค่าความ
ต้านทานได้ตั้งแต่ค่าน้อยๆ ไปจนถึง 2 เมกะ
โอห์ม นิยมใช้กับการวัดความต้านทานที่มีค่า
ระหว่าง 1KΩ ถึง 100 KΩ การอ่านเหมือน
อ่านสเกลR x 1 เพียงแต่ค่าที่อ่านได้แทนที่
จะมีหน่วยเป็ นโอห์มให้ใส่หน่วยเป็ นกิโลโอห์ม
*** หากตัวต้านทานที่วัดมีค่ามากกว่านี้
หรือต่ำกว่านี้เล็กน้อยให้เปลี่ยนสเกลการวัด
ที่สูงขึ้น
21
สเกลR x 10K
สเกล R x 10K สามารถวัดค่าความ
ต้านทานได้ตั้งแต่ค่าน้อยๆ ไปจนถึง 20
เมกะโอห์ม การอ่านค่าบนสเกลหน้าปัดให้ใช้
การอ่านเหมือนกับสเกล R x 1 เพียงแต่เมื่อ
อ่านออกมาแล้วให้คูณด้วย 10 หน่วยที่อ่าน
ออกมาเป็นกิโลโอห์ม สเกลนี้นิยมใช้วัดความ
ต้านทานตั้งแต่ 10 กิโลโอห์ม ถึง 20 เมกะ
โอห์ม
*** ในทางปฏิบัติหากตัวต้านทานที่วัดมีค่า
มากกว่า 2 เมกะโอห์ม หรือต่ำกว่านี้เล็กน้อย
ควรใช้โอห์มมิเตอร์ชนิดดิจิตอล
22
มัลติมิเตอร์แบบดิจิตอล
มัลติมิเตอร์แบบดิจิตอลจะแสดงผลเป็ น
ตัวเลข มัลติมิเตอร์แบบดิจิตอลเป็นเครื่องมือ
วัดทางไฟฟ้าที่มีความสามารถในการวัดค่าได้
หลายประเภท เช่น การวัดแรงดันไฟฟ้า
(voltage) กระแสไฟฟ้า(Current) ความถี่
ไฟฟ้า(frequency) และ ความต้านทานไฟฟ้า
(Resistance)
23
การวัดความต้านทาน
การใช้มัลติมิเตอร์วัดความต้านทานมีข้อ
ควรรู้และควรระวังดังนี้
1. การใช้ดิจิตอลโอห์มมิเตอร์ไม่ว่าจะเป็น
สเกลใดไม่มีการปรับศูนย์เหมือนแบบแอ
นะลอก
2. การใช้ดิจิตอลโอห์มมิเตอร์สเกล 20
M ขึ้นไปในบางรุ่นการแสดงผลอาจช้าต้อง
รอให้ตัวเลขแสดงค่าค่อนข้างคงที่ก่อน
3. สเกลของดิจิตอลโอห์มมิเตอร์ขนาด 3
3/4 หลัก ชนิดต้องปรับเลือกสเกลจะมี
สเกล 400, 4k, 40K, 400k, 4M, 40M
เป็ นต้น
24
วิทยาลัยการอาชีพแก้งคร้อ