นิ ท า น คุ ณ ธ ร ร ม
PRECIOUS
THING
ของแทนใจ
ก
คำนำ
หนังสือ E-Book เล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา สังคมศึกษา
รหัสวิชา ส 32103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาและเผยแพร่
สื่อความรู้ในรูปแบบ E-Book เรื่อง วิธีคิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม
ผู้จัดทำหวังว่า หนังสือ E-Book เล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน หาก
เกิดข้อผิดพลาดประการได ผู้จำทำขอน้อมรับไว้มา ณ ที่นี้ด้วย
ผู้จัดทำ
นายรพีภัทร สิงหา
นางสาวสิริมา กรมทอง
นางสาวนิศารัตน์ ไชยชิน
นางสาวสุพัตตรา ธรรมดา
7 มกราคม 2565
สาระบัญ ข
เรื่อง ที่
คำนำ ก
สารบัญ ข
วิธีคิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม 1-2
ตัวละคร 3
เนื้อเรื่อง 4-12
ข้อคิดจากเรื่อง 13
รายชื่อผู้จัดทำ 14
วิธีคิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม 1
ตามศัพท์ทางศาสนาว่าคิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม ความจริงคำ
เดิมของท่านคือ “อุปปาทมนสิการ” หรือ “อุปปาทกมนสิการ” แปลตาม
ตัวอักษรว่า “คิดให้เกิดการกระทำ” นักวิชาการสมัยใหม่แปลว่า
“คิดสร้างสรรค์” แปลอย่างนี้อาจยังไม่ครอบคลุมนัก ถ้าจะให้ครอบคลุม
น่าจะแปลว่าคิดให้เกิดการกระทำในทางดี หรือคิดสร้างสรรค์สิ่งที่ดี ที่
ต้อง “ตีกรอบ” ไว้อย่างนี้กลัวว่า จะนำไปสู่การกระทำในทางไม่ดี หรือ
สร้างสิ่งไม่ดี ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก ได้ให้คำจำกัดความวิธีคิดแบบนี้
“วิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม” อาจเรียกง่าย ๆ ว่าวิธีคิดแบบเร้า
กุศล หรือเร้าคุณธรรม หรือวิธีคิดแบบกุศลภาวนา เป็นวิธีคิดในแนวสกัด
กั้นหรือบรรเทา และขัดเกลาตัณหา จึงจัดได้ว่า เป็นข้อปฏิบัติระดับต้น ๆ
สำหรับส่งเสริมความเจริญงอกงามแห่งกุศลธรรม และสร้างเสริมสัมมา
ทิฐิที่เป็นโลกยะ หลักการทั่วไปของวิธีคิดแบบนี้ มีอยู่ว่า ประสบการณ์ คือ
สิ่งที่ได้ประสบหรือได้รับรู้อย่างเดียวกัน บุคคลผู้ประสบหรือรับรู้ต่างกัน
อาจมองเห็นและคิดนึกปรุงแต่งไปคนละอย่างสุดแต่โครงสร้างของจิตใจ
หรือแนวทางความเคยชินต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องปรุงของจิต คือสังขารที่ผู้นั้น
ได้สั่งสมไว้ หรือสุดแต่การทำใจ ในขณะนั้นของอย่างเดียวกัน หรืออาการ
กิริยาเดียวกัน คนหนึ่งมองเห็น แล้วคิดปรุงแต่งไปในทางดีงาม เป็น
ประโยชน์ เป็นกุศล แต่อีกคนหนึ่งเห็นแล้วคิดปรุงแต่งไปในทางไม่ดีไม่งาม
เป็นโทษ เป็นอกุศล แม้แต่บุคคลเดียวกันมองเห็นของอย่างเดียวกันหรือ
ประสบอารมณ์อย่างเดียวกัน แต่ต่างขณะต่างเวลา ก็อาจคิดเห็นปรุงแต่ง
ต่างออกไป ครั้งละอย่าง คราวหนึ่งร้ายคราวหนึ่งดีทั้งนี้ โดยเหตุผลที่ได้
กล่าวมาแล้ว
2
การทำใจที่ช่วยตั้งต้นและชักนำความคิดให้เดินไปในทางที่ดีงาม
และเป็นประโยชน์ เรียกว่าเป็นวิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม หรือ
โยนิโสมนสิการ แบบเร้ากุศลในที่นี้ โยนิโสมนสิการแบบเร้ากุศลนี้มีความ
สำคัญทั้งในแง่ที่ทำให้เกิดความคิด และการกระทำที่ดีงาม เป็นประโยชน์
ในขณะนั้น ๆ และในแง่ที่ช่วยแก้ไขนิสัยความเคยชินร้าย ๆ ของจิตที่ได้
สั่งสมไว้แต่เดิมพร้อมกับสร้างนิสัยความเคยชินใหม่ๆ ที่ดีงาม ให้แก่จิตไป
ในเวลาเดียวกันด้วย ในทางตรงข้ามหากปราศจากอุบายแก้ไขเช่นนี้
ความคิด และการกระทำของบุคคลก็จะถูกชักนำให้เดินไปตามแรงชักจูง
ของความเคยชินต่าง ๆ ที่ได้สั่งสม ไว้เดิมเพียงอย่างเดียว และช่วยเสริม
ความเคยชินอย่างนั้นให้มีกำลังแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยไป
3
ตัวละคร
ชื่อ : พลอย
อายุ : 17-18 ปี
ชื่อ : สมายด์
อายุ : 17-18ปี
ชื่อ : ฟาร์
อายุ : 17-18 ปี
ณ บ้านของสมายด์ 4
จิ๊บ~
จิ๊บ~
5
กำลังไปค่า~
รอสักครู่นะคะ
ปปิิ๊๊งงปป่่อองง~~
ตามสบายเลยนะ ขอบคุณนะ
พวกเธอมีธุระอะไรเหรอ? 6
คือว่าฉันจะไปงานปาร์ตี้
แต่ไม่มีแหวนสวยๆ ใส่
เลยจะมาขอยืมแหวนมุก
วงนั้นของเธอได้ไหม ?
ก็ได้ แต่เธอต้องรักษา ขอบคุณน้า~ ฉัน
สัญญาว่าจะรักษามัน
อืม~ มันดีๆ นะ แหวนวงนี้ ว้าว~
สำคัญกับฉันมาก อย่างดีเลย
7
คือพวกเราต้องรีบไปกันแล้วนะ บาย~บาย~
ขอบคุณนะพลอย ฉันจะรักษามันอย่าง
ดีเลย~
บาย~
ไม่เป็นไร ก็เราเป็นเพื่อน
กันนี่หน่า~
ฌ ปาร์ตี้ **น้ำผลไม้
ทำไงดีเนี่ย!! แหวนของ
สมายด์หายไปไหนนะ
คิดคิด
เช้าวันถัดมา
เป็นอะไรหรอพลอย? 8
ฉันทำแหวนของสมายด์ ฮืออ~
หายนะ ฉันสัญญาไว้แล้วแท้ๆ
ทำยังไงดี
เอางี้ไหม เราไปหาซื้อแหวดที่เหมือน เอ๊ะ!
ของสมายด์มาแทนไหม
9
ไม่ได้นะ! ฉันได้ยินมาว่าแหวนวงนั้นแม่ของ
สมายด์ซื้อให้เลยนะ สมายด์รู้เข้าคงเสียใจ
นะ
เธอโกต้หอกงสเลมือายกนด์ไะหว่มาจะ
ถ้าเราทำผิดก็ต้อง เอาหน่า~บอกความจริง
ยอมรับผิด หากเรา อาจจะดีกว่านะ
ปิดบังความผิดไว้ก็
เหมือนยกหินทั้งก้อน
มาทับที่อก ทำให้
อึดอัดใจเปล่าๆ
ณ บ้านของสมายด์ 10
เข้ามาได้เลยค่ะ
ปิ๊งป่อง~ ใครมากันนะ
ปิ๊งป่อง~
สวัสดีสมายด์
พวกเรามาหานะ
11
เอิ่ม..ค…คือว่า ค…คือว่า สมายด์ เมื่อวานฉัน
ทำแหวนของเธอหายน่ะ
ฉันขอโทษจริง ๆ นะ
ที่รักษาของไม่ดี ทั้งที่เป็นของ
สำคัญของเธอ
เป็นอย่างนี้นี่เอง~
ฮ่า
ฮ่า
ไม่เป็นไรนะ ความจริง
ฟาร์บอกเรื่องนี้กับฉัน
แล้วหล่ะ
ขอโทษน้า~ ยิ้มม~
12
ขอบคุณนะพลอย
ที่เลือกที่จะไม่โกหกฉัน
ต้องขอบคุณฟาร์นะ
ที่เข้ามาเตือนสติฉัน
พลอยต่างหากที่กล้าหาญ
เลือกที่จะพูดความจริง
13
ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง
การพูดความจริงนั้นง่ายกว่าการโกหกเพราะถ้าโกหกก็ต้องโกหก
ไปเรื่อยๆ เหมือนวางหินไว้บนอก ทำให้อึดอัดใจ กล้าที่จะพูดความจริง
และยอมรับผลที่จะได้รับดีกว่า
คำพูดที่เป็นการปลุกเร้า
คำพูดของ “ถ้าเราทำผิดก็ต้องยอมรับผิด หากเราปิดบังความผิด
ไว้ก็เหมือนยกหินทั้งก้อนมาทับที่อก ทำให้อึดยัดใจเปล่าๆ”
ตัวอย่าง การคิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม
Natalie glebova
"ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของฉันคือ
การพยายามจะมองโลกในด้านบวก ซึ่งบาง
ครั้งมันยากมากที่จะมองชีวิตให้ได้แบบนั้น
การมองโลกในแง่บวกเปรียบเสมือนการมอง
น้ำครึ่งแก้วมันอยู่ที่ว่าจะเลือกว่าเหลือแค่ครึ่ง
แก้วหรือเหลือน้ำตั้งครึ่งแก้วและสำหรับดิฉัน
ดิฉันเลือกการมองว่าน้ำยังเหลือตั้งครึ่งแก้ว
เพราะมันทำให้เรามีพลังสู้ต่อไป”
Miss Universe 2005
14
จัดทำโดย
นายรพีภัทร สิงหา ชั้น ม.5/7 เลขที่ 8
นางสาวสิริมา กรมทอง ชั้น ม.5/7 เลขที่ 38
นางสาวนิศารัตน์ ไชยชิน ชั้น ม.5/7 เลขที่ 43
นางสาวสุพัตตรา ธรรมดา ชั้น ม.5/7 เลขที่ 44
เสนอ
นายทองม้วน ลีกอก