MEMO Research 61.indd 1 7/23/2561 BE 10:25 PM
2 7/23/2561 BE 10:25 PM
MEMO Research 61.indd 2
ศิลปากรเป็นมหาวิทยาลัยช้ันน�ำ
แหง่ การสร้างสรรค์
Silpakorn University
is a Leading Creative University
มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นสถาบันการศึกษา ปี พ.ศ. 2509 มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร มนี โยบาย
ระดับอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย ที่จะเปิดคณะวิชาและสาขาวิชาท่ีหลากหลายข้ึน
เดิมคือ โรงเรียนประณีตศิลปกรรม สังกัด แต่เน่ืองจากบริเวณพ้ืนที่ในวังท่าพระคับแคบมาก
กรมศิลปากร เปิดสอนวิชาจิตรกรรมและ ไมส่ ามารถจะขยายพ้ืนที่ออกไปได้ จึงไดข้ ยายเขต
ประติมากรรมให้แก่ข้าราชการและนักเรียนใน การศึกษาไปยังพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัด
สมัยนั้น โดยไมเ่ ก็บคา่ เลา่ เรยี น ศาสตราจารย์ศิลป์ นครปฐม โดยจดั ตง้ั คณะอักษรศาสตร์ พ.ศ. 2511
พีระศรี (เดมิ ชอ่ื Corrado Feroci) ชาวอิตาเลยี น คณะศกึ ษาศาสตร์ พ.ศ. 2513 และคณะวทิ ยาศาสตร์
ซ่ึงเดินทางมารับราชการในประเทศไทยใน พ.ศ. 2515 ตามลำ�ดับ หลังจากนั้น จัดต้ัง
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว คณะเภสัชศาสตร์ พ.ศ. 2529 คณะเทคโนโลยี
รชั กาลที่ 6 เป็นผู้ก่อต้ังโรงเรยี นแหง่ นี้ขนึ้ และได้ อตุ สาหกรรม พ.ศ. 2534 (ปัจจบุ นั คอื คณะ
เจริญเติบโตเป็นลำ�ดับเรื่อยมา จนกระทั่งได้รับ วิศวกรรมศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ุตสาหกรรม) และ
การยกฐานะขึ้นเปน็ มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร เมอ่ื จดั ต้งั คณะดุรยิ างคศาสตร์ข้นึ เมื่อ พ.ศ. 2542
วนั ท่ี 12 ตลุ าคม พ.ศ. 2486 คณะจติ รกรรมและ เพ่ือให้เป็นมหาวิทยาลัยท่ีมีความสมบูรณ์ทางด้าน
ประตมิ ากรรม ไดร้ ับการจดั ต้งั ข้นึ เปน็ คณะวิชาแรก ศลิ ปะมากยิ่งข้ึน
(ปัจจุบันคือคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพ ปี พ.ศ. 2540 มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากรไดข้ ยาย
พิมพ์) ในปี พ.ศ. 2498 จัดตงั้ คณะสถาปตั ยกรรม เขตการศึกษาไปจัดตั้งวิทยาเขตแห่งใหม่ที่จังหวัด
ไทย (ซึ่งตอ่ มาได้ปรบั หลกั สตู รและเปล่ียนชอ่ื เป็น เพชรบุรี เพ่อื กระจายการศกึ ษาไปสู่ภมู ภิ าค ใชช้ ื่อ
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร)์ และคณะโบราณคดี วา่ “วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี” จดั ต้ังคณะ
หลงั จากนน้ั ไดจ้ ดั ตง้ั คณะมณั ฑนศลิ ป์ ขน้ึ ในปตี อ่ มา สัตวศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีการเกษตร ในปี พ.ศ.
2544 คณะวทิ ยาการจัดการ ในปี พ.ศ. 2545 คณะ
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร ในปี พ.ศ.
2546 และวิทยาลัยนานาชาติ ในปี พ.ศ. 2546
มหาวิทยาลัยศิลปากรได้ขยายงานในระดับบัณฑิต
ศึกษา พ.ศ. 2515 โดยการจดั ตัง้ บัณฑติ วิทยาลยั
ขึน้ เพ่อื รบั ผดิ ชอบในการด�ำ เนินการ
ภาพ : ศาสตราจารยศ์ ลิ ป์ พรี ะศรี
3
MEMO Research 61.indd 3 7/23/2561 BE 10:25 PM
4 7/23/2561 BE 10:25 PM
MEMO Research 61.indd 4
MEMO Research 61.indd 5 7/23/2561 BE 10:25 PM
จาก ป่า สู่ เมือง
โบราณคดีกับสงั คม
FROM JUNGLE TO CITY :
ARCHAEOLOGY AND SOCIETY
MEMO Research 61.indd 6 7/23/2561 BE 10:25 PM
ประเทศไทย เป็นประเทศท่ีมคี วามร่าํ รวยทาง สะดวกสบายในการดำ�รงชีวิต ทำ�ให้เมืองเกิดการ
วฒั นธรรม และมีโบราณวตั ถสุ ถานมากมาย ซ่ึง พัฒนาอย่างรวดเร็ว ซ่ึงส่งผลต่อวิถีชีวิตของชุมชน
โบราณวัตถุสถานเหล่านี้ช้ีให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ ด้ังเดิมของเมืองท่ีต้องเปล่ียนแปลงไปและชุมชน
และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ยาวนานของชาติ การ ตอ้ งมกี ารปรบั ตัวเพ่อื ความอยรู่ อด เชน่ ชมุ ชนเลือ่ น
ศกึ ษาวิจัยทางด้านโบราณคดี ได้สรา้ งองคค์ วามรู้ ฤทธ์ิ ซ่ึงเป็นตัวอย่างชุมชนเมืองท่ีกำ�ลังประสบ
ทางประวตั ศิ าสตร์ ตั้งแตย่ คุ ก่อนประวตั ศิ าสตร์ที่ ปัญหาการเปล่ียนแปลงเมอื งทางกายภาพ และมี
มนุษย์อาศัยอยู่เป็นกลุ่มเล็กๆ ในถ้ําและเพิงผา การปรบั ตวั ตอ่ การเปลีย่ นแปลงท่ีเกิดข้นึ โดยร่วม
ในป่าเขตร้อนมีวิถีชีวิตท่ีพ่ึงพาธรรมชาติ มนุษย์ กันอนุรักษ์ตึกแถวและย่านสภาพแวดล้อมอันเป็น
ปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมท่ีตนอาศัยอยู่ ทำ�ให้เกิด มรดกทางวัฒนธรรมของชุมชนเลื่อนฤทธ์ิและของ
ความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรม เร่มิ ต้น ชาต ิ โดยยดึ หลักแนวทางการปรบั ปรงุ ยา่ น สภาพ
จากการอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ในป่า แวดล้อมและอาคารตามประวัติศาสตร์ดั้งเดิม
เช่น บนพื้นที่สูงในอำ�เภอปางมะผ้า จังหวัด โดยผ่านการศึกษาอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
แม่ฮ่องสอน ท่ีค้นพบร่องรอยการอยู่อาศัยของ ซึ่งเป็นการทำ�งานร่วมกันระหว่างนักวิจัยและ
คนก่อนประวตั ศิ าสตร์ ต้ังแต่ 32,000 ปมี าแล้ว ชุมชนโดยใช้ความรู้ทางด้านโบราณคดีในการศึกษา
และพบร่องรอยของผู้หญิงอายุ 13,640 ปีมาแล้ว ความเป็นมาของพน้ื ท่ี หลกั ฐานความเกา่ แก่ คุณคา่
จากแหล่งโบราณคดีเพิงผาถ้ําลอด ทำ�ให้ทราบ และความสำ�คญั เพื่อนำ�ไปสกู่ ารอนรุ กั ษแ์ ละพฒั นา
ความเปน็ อยู่ของคน ตอ่ มาในสมยั เหลก็ ระหว่าง ตึกแถวและสภาพแวดลอ้ มอยา่ งย่ังยนื
2,300 – 1,100 ปีมาแล้ว มวี ฒั นธรรมโลงไมซ้ ง่ึ การศกึ ษาวจิ ัยทางดา้ นโบราณคดีนอกจากจะได้
เป็นวัฒนธรรมการฝังศพท่ีโดดเด่นของคนบนพื้นที่ อ ง ค์ ค ว า ม รู้ เ ชิ ง วิ ช า ก า ร ที่ จ ะ นำ � ไ ป ใ ช้ ใ น ก า ร
สูง กลุ่มคนรวมตัวกนั สรา้ งบ้าน และตั้งหมบู่ า้ น พฒั นาทางด้านวชิ าการแล้ว สิ่งส�ำ คญั คือ การนำ�
ถากถางพื้นที่ป่าทำ�ไร่นา ต่อมามีพัฒนาการเป็น องค์ความรู้เหล่านี้มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์แก่
เมือง เชน่ เมืองอ่ทู อง จงั หวัดสพุ รรณบุรี ซง่ึ เปน็ สังคมและประเทศชาติในปัจจบุ นั ไมว่ า่ จะเปน็ ทาง
เมืองโบราณท่ีมีความสำ�คัญท่ีสุดแห่งหนึ่งในสมัย ด้านนโยบายเกี่ยวกับการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม
ทวารวดี ในการขุดคน้ ทางโบราณคดี ท�ำ ให้สามารถ ในทอ้ งถิ่นหรอื ของชาติ ด้านชมุ ชนและพน้ื ท่ใี นการ
จัดแบ่งลำ�ดับอายุสมัยและแปลความพัฒนาการ สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในทางเศรษฐกิจ
ทางสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกจิ ของชมุ ชน มีการใช้ประโยชน์ในการออกแบบการท่องเท่ียวเชิง
โบราณแห่งนี้ได้อย่างละเอียด เมื่อมนุษย์มีการอยู่ ธรรมชาติและวัฒนธรรม นอกจากนี้การศึกษาวิจัย
ร่วมกันเป็นชุมชนและมีจำ�นวนมากขึ้น จากเมือง ทางดา้ นโบราณคดี ทำ�ให้คนไทยไดท้ ราบถงึ ประวตั ิ
เล็กขยายเปน็ เมืองใหญ่ระดับมหานคร และมีความ ความเป็นมาและรากฐานอันเก่าแก่ ตลอดจน
เจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีหล่ังไหลเข้ามา พัฒนาการทางสังคมและวัฒนธรรม อันจะช่วย
รวมท้ังการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งเพ่ือความ กระตุ้นเตือนให้คนในชาติรู้สึกภาคภูมิใจ และรัก
ประเทศชาติ
MEMO Research 61.indd 7 7/23/2561 BE 10:25 PM
การปฏิสมั พันธ์ระหว่างมนษุ ย์
ก่อนประวตั ศิ าสตร์กบั ส่ิงแวดลอ้ มบนพ้นื ที่สูง
ในอ�ำ เภอปางมะผ้า จังหวดั แม่ฮ่องสอน
Interaction between Prehistoric
Population and Environments in Highland
Pang Mapha, Mae Hong Son Province
บทคัดย่อ
โครงการวิจัยน้ีเป็นโครงการวิจัยเชิงพื้นที่ระยะยาว ดำ�เนินงานวิจัยแบบสหวิทยาการที่บูรณาการ
ศาสตร์โบราณคดี มานุษยวทิ ยากายภาพ วงปไี มแ้ ละสิง่ แวดล้อม และธรณวี ทิ ยา เพ่ือศึกษาปฏิสัมพันธ์
ระหว่างคนกับสิ่งแวดล้อมในอดีตด้านการปรับตัวทางกายภาพของคนและวัฒนธรรมในสมัยไพลสโตซีน
ตอนปลาย: วฒั นธรรมหนิ กะเทาะ ช่วงเวลา 32,000-7,500 ปมี าแลว้ และโฮโลซนี ตอนปลาย: วฒั นธรรม
โลงไม้ ช่วงเวลา 2,300-1,000 ปมี าแล้ว ซ่งึ เปน็ ช่วงเวลาทปี่ รากฏหลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นวา่
ส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติและวัฒนธรรมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนบนพ้ืนที่สูงในอำ�เภอปางมะผ้า
จังหวดั แมฮ่ ่องสอน ประเทศไทย และภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้
คำ�สำ�คญั : กอ่ นประวัติศาสตร์ ไพลสโตซนี โฮโลซนี ตอนปลาย
ผวู้ จิ ยั : ผรู้ ว่ มวจิ ยั : 3. นทั ธมน ภรู่ พี ฒั นพ์ งศ์ คงคาสรุ ยิ ฉาย
รศ.ดร.รศั มี ชทู รงเดช 1. รศ.ดร.นาฎสดุ า ภมู จิ �ำ นงค์ (นกั วจิ ยั ดา้ นมานษุ ยวทิ ยากายภาพ โครงกระดกู คน)
ภาควชิ าโบราณคดี คณะโบราณคดี (นกั วจิ ยั ดา้ นวงปไี มแ้ ละสง่ิ แวดลอ้ ม) 4. รศ.ดร.เสรวี ฒั น์ สมนิ ทรป์ ญั ญา
มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร คณะสง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรศาสตร์ (นกั วจิ ยั ดา้ นธรณวี ทิ ยา)
มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ
2. ผศ.ดร.ทพญ.กนกนาฏ จนิ ตกานนท์ ประสานมติ ร
(นกั วจิ ยั ดา้ นมานษุ ยวทิ ยากายภาพ ฟนั คน)
MEMO Research 61.indd 31 31
7/23/2561 BE 10:25 PM
MEMO Research 61.indd 32 ภาพท่ี 1 : ทางลงถา้ํ ผแี มนโลงลงรัก
7/23/2561 BE 10:25 PM
ภาพท่ี 2 : การทำ�งานภายในคหู า A1 ถ้าํ ผแี มนโลงลงรัก
ทมี่ าหรอื ความส�ำ คญั ของงานวิจัย วตั ถุประสงคข์ องงานวจิ ยั
การปรับตัวของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ท่ี 1) เพ่ือศึกษาสิ่งแวดล้อมโบราณบนพ้ืนท่ีสูงใน
อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบป่าเขตร้อนในภาคพ้ืน อ�ำ เภอปางมะผา้
แผ่นดินใหญ่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2) เพื่อศึกษาลักษณะและความสัมพันธ์ของ
ชว่ งการเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศสมยั ปลายไพลสโตซนี ประชากรในอดตี
หรือสมัยน้ําแข็งในยุโรปมีสภาพเป็นอย่างไร 3) เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการ
ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและ เปล่ียนแปลงของส่ิงแวดล้อมกับวัฒนธรรมบน
วัฒนธรรมอย่างไร เกิดความแตกต่างทางสังคม พนื้ ทส่ี งู ในอ�ำ เภอปางมะผา้ ในอดตี โดยเฉพาะ
และความหลากหลายทางวัฒนธรรมข้ึน เพราะ การปรบั ตวั ทางวัฒนธรรม
การทราบร่องรอยและลักษณะของวัฒนธรรม 4) เพื่อสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ท่ีมีความเชี่ยวชาญ
ในช่วงท่ีคนรุ่นแรกที่เข้ามาอาศัยในดินแดน เฉพาะด้านสำ�หรับงานโบราณคดีสมัยก่อน
ประเทศไทยปจั จุบนั ซงึ่ เปน็ เส้นทางส�ำ คัญของการ ประวัติศาสตร์ในประเทศไทย มานุษยวิทยา
เคลอื่ นย้ายประชากรของมนษุ ย์สมัยใหม่ ( Homo กายภาพและวงปีไม้ ซึ่งยังเป็นบุคลากรท่ี
sapiens sapiens ) จะท�ำ ใหเ้ กดิ ความเข้าใจถงึ ขาดแคลนอย่างย่ิงของประเทศไทยในปจั จบุ ัน
พัฒนาการและความหลากหลายของสังคมและ
วัฒนธรรมในสมัยต่อมา จนกระท่ังหลอมรวมเป็น
“คนไทย” ในปจั จุบัน
MEMO Research 61.indd 33 33
7/23/2561 BE 10:25 PM
34 ภาพที่ 3 : โครงกระดูกท่พี บในโลงจากคหู า A1 ถํ้าผแี มนโลงลงรกั
MEMO Research 61.indd 34 7/23/2561 BE 10:25 PM
ภาพท่ี 4 : หัวกะโหลกคนทพ่ี บจากการขดุ คน้ ถํา้ ผแี มนโลงลงรกั
กระบวนการ / วิธีการศึกษาวจิ ยั ผลการศกึ ษาวจิ ยั / ผลผลิตการวจิ ยั
แบง่ การท�ำ งานออกเปน็ 3 ดา้ นหลกั ๆ ดงั น้ี 1) การค้นพบโครงกระดูกมนุษย์สมัยใหม่อายุ
1) งานด้านโบราณคดีจะตอบคำ�ถามเร่ือง ระหว่าง 13,000-12,000 ปีมาแลว้ การเคลือ่ น
วัฒนธรรมและการปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์กับ ยา้ ยของประชากรในบรบิ ทโลก และเกดิ นวตั กรรม
สง่ิ แวดลอ้ ม โดยเฉพาะการปรบั ตวั การขึ้นรูปใบหน้าของคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์
2) งานมานษุ ยวทิ ยากายภาพ จะตอบปญั หา เป็นคร้ังแรกในประเทศไทย บูรณาการระหว่าง
เร่ืองลักษณะของคน ศาสตร์ มานษุ ยวทิ ยากายภาพ เทคโนโลยีทางการ
3) งานด้านวงปีไม้และส่ิงแวดล้อม และ แพทย์ และประตมิ ากรรม โดย ดร. ซซู าน เฮยส์
ธรณวี ิทยา จะตอบคำ�ถามเรอื่ งของสง่ิ แวดล้อม โดย นักมานุษยวิทยากายภาพผู้ข้ึนรูปหน้ามนุษย์
แต่ละศาสตร์มีระเบียบวิธีการศึกษาเพ่ือตอบโจทย์ Hobbit จากมหาวทิ ยาลยั Wollongong ประเทศ
วิจัย ออสเตรเลยี ทำ�ใหเ้ กดิ ความตน่ื ตวั และความสนใจ
เกี่ยวกับความเป็นมาของมนุษย์แรกเร่ิมในดินแดน
ประเทศไทย
MEMO Research 61.indd 35 35
7/23/2561 BE 10:25 PM
ภาพท่ี 5 : ภาพจ�ำ ลองใบหนา้ ผหู้ ญงิ โบราณจากชิ้นสว่ นกระดูกคน ทีไ่ ด้จาก
การขดุ ค้นแหล่งโบราณคดีเพงิ ผาถํ้าลอด
ภาพที่ 6 : หวั กะโหลกจำ�ลองแบบสามมติ ิ โดยประติมากร วัชระ ประยรู คำ� 7/23/2561 BE 10:25 PM
36
MEMO Research 61.indd 36
ภาพท่ี 8 : รักท่เี คลือบบนโลงไม้
2) คน้ พบวา่ วฒั นธรรมโลงไมท้ เ่ี ปน็ วฒั นธรรมราก
ร่วมของคนจีนตอนใต้และกล่มุ คนเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ ต้ังแต่เมอื่ ประมาณ 2,000-1,000 ปมี าแล้ว
และความสัมพันธ์ของประชากรอาเซียน ซ่ึงการ
ค้นพบการเคลือบรักบนโลงไม้ กำ�หนดอายุทาง
วทิ ยาศาสตร์ดว้ ยวธิ ี AMS (Accelerator Mass
Spectrometry) อายุเกา่ ถงึ 1,950 ปมี าแล้ว นับ
ว่าเป็นการค้นพบร่องรอยการใช้รักคร้ังแรกใน
ประเทศไทยและเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ซ่ึงเป็น
นํ้ายาเคลอื บสำ�คญั ในงานประณีตศิลปข์ องไทย
ภาพท่ี 7 : โลงไมเ้ คลอื บด้วยยางรกั จากคหู า A1 ถ้ําผีแมนโลงลงรกั
MEMO Research 61.indd 37 37
7/23/2561 BE 10:25 PM
ภาพท่ี 9 : เศษผ้าจากถาํ้ ผีแมนโลงลงรัก ภาพที่ 10 : ภาชนะดินเผาจากถํ้าผีแมนโลงลงรัก
38 ภาพที่ 11 : การเกบ็ ตัวอยา่ งดนิ ภายในถ้าํ ผแี มนโลงลงรัก
MEMO Research 61.indd 38 7/23/2561 BE 10:25 PM
ภาพท่ี 12 : ภาพจ�ำ ลองการศึกษาวงปีไม้จากโลงไม้
และไมม้ ชี ีวิตเพ่อื ทราบสภาพภมู อิ ากาศ
3) หลักฐานจากวงปีไม้ ทำ�ให้ทราบว่าช่วง การนำ�ผลงานวจิ ยั ไปใช้ประโยชน์
ระหวา่ ง 2,000-1,100 ปมี าแลว้ มสี ภาพภมู อิ ากาศ 1) ดา้ นวิชาการ
ชุ่มช้ืนกว่าปัจจุบัน และผลการศึกษาค่าออกซิเจน เป็นข้อมูลสำ�หรับหลักสูตรการเรียนการสอน
ไอโซโทป 18 จากไม้สกั มีชวี ติ และโลงไม้ ท�ำ ให้ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับอุดมศึกษา
ทราบสภาพภูมิอากาศระหว่าง 2,700 ปี (ปริญญาตร-ี โท-เอก) และเป็นขอ้ มลู พื้นฐานสำ�หรับ
มาแล้วจนถึงปัจจุบันมีอากาศแปรปรวน แห้งแล้ง การพัฒนาทางวชิ าการเฉพาะสาขา
สลับฝนตกชุก ความแห้งแล้งชัดเจนมากในช่วง 2) ดา้ นชุมชนและพนื้ ที่
พ.ศ. 703-808 ซ่งึ ท�ำ ให้ขยายพรมแดนความรเู้ ร่อื ง เ ป็ น ฐ า น ข้ อ มู ล ภู มิ ห ลั ง ข อ ง พ้ื น ที่ แ ล ะ
สง่ิ แวดล้อมโบราณของสภาพแวดล้อมป่าเขตรอ้ น ประวัติศาสตร์ชุมชน เพ่ือสรา้ งความเข้มแข็งให้กับ
ชมุ ชน และใช้ประโยชนข์ อ้ มลู ในการออกแบบการ
ท่องเท่ียวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม/ผจญภัยโดย
ชุมชน
3) ด้านเศรษฐกิจ/พาณิชย์ (ความเป็นไปได้)
แหล่งทอ่ งเท่ียวโดยชุมชน เช่น เพิงผาบา้ นไร่
เปน็ ต้น
4) ดา้ นนโยบาย
นโยบายการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมในท้องถ่ิน
ใ ช้ ข้ อ มู ล ใ น เ ชิ ง น โ ย บ า ย เ พื่ อ คุ้ ม ค ร อ ง แ ห ล่ ง
โบราณคดีที่ยังไม่ได้ทำ�การขุดค้น ซึ่งถือว่าเป็น
มรดกวฒั นธรรมของชาติ
MEMO Research 61.indd 39 39
7/23/2561 BE 10:25 PM
พัฒนาการของเมืองอู่ทอง
จากหลักฐานทางโบราณคดี
The Development of U-Thong
based on Archaeological Evidence
บทคดั ย่อ
เมอื งอู่ทอง จังหวดั สุพรรณบุรี เปน็ เมืองโบราณทมี่ ีความส�ำ คญั ที่สดุ แห่งหนงึ่ ในสมัยทวารวดี เพราะ
ไดพ้ บหลกั ฐานทางโบราณคดีและงานศิลปกรรมแบบทวารวดีเป็นจำ�นวนมาก การด�ำ เนินงานขุดคน้ ทาง
โบราณคดใี นชว่ งทศวรรษท่ผี ่านมากไ็ ดเ้ ปดิ เผยใหเ้ ห็นถึงขอ้ มูลใหม่ ๆ หลายประการ อาทิเช่น การฝังศพ
ทารกท่ีกำ�หนดอายุอยใู่ นช่วงกอ่ นสมัยทวารวดี โบราณสถานสมยั ทวารวดที ไี่ ม่เคยคน้ พบมาก่อน การฝงั
ววั ทงั้ โครงในช่วงสมัยทวารวดี กิจกรรมการผลิตลกู ปดั แก้วและการถลงุ เหลก็ ฯลฯ โดยจากการสงั เคราะห์
ข้อมลู ท้ังหมด ทำ�ให้สามารถจดั แบง่ ล�ำ ดับอายสุ มัยและแปลความพัฒนาการทางสงั คม วัฒนธรรม และ
เศรษฐกิจของชุมชนโบราณแห่งนไี้ ดอ้ ย่างละเอียด โดยแบ่งเปน็ 5 ระยะย่อย ๆ คอื ยุคกอ่ นประวัติศาสตร์
ยุคหัวเลีย้ วประวตั ิศาสตร์ สมัยทวารวดีตอนตน้ สมยั ทวารวดตี อนกลาง และสมัยทวารวดีตอนปลาย
คำ�ส�ำ คญั : เมอื งอทู่ อง พัฒนาการ หลกั ฐานทางโบราณคดี
(U-Thong, Development, Archaeological Evidence)
ผวู้ จิ ยั :
รศ.ดร.สฤษดพ์ิ งศ์ ขนุ ทรง
ภาควชิ าโบราณคดี คณะโบราณคดี
มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร
MEMO Research 61.indd 63 7/23/2561 BE 10:25 PM
64 ภา
โบ
MEMO Research 61.indd 64
7/23/2561 BE 10:25 PM
ภาพที่ 2 : การขุดค้นของนักศกึ ษาภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี ทมี่ าหรอื ความสำ�คัญของงานวิจยั
มหาวทิ ยาลัยศิลปากร บริเวณโบราณสถานท่ีเนนิ พลบั พลา เมอื งอ่ทู อง อำ�เภออทู่ อง จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี
เป็นเมืองโบราณที่มีความสำ�คัญท่ีสุดเมืองหนึ่งของ
ประเทศไทย โดยมีการสำ�รวจและขุดค้นท่ีเมือง
โบราณอทู่ องมาอยา่ งตอ่ เน่ือง นบั ต้ังแต่ พ.ศ. 2446
จนถึงปจั จุบัน แตจ่ ากการทบทวนวรรณกรรมกลบั
พบว่ายังไม่เคยมีการศึกษาวิจัยอย่างละเอียดใน
ประเด็นลำ�ดับพัฒนาการทางสังคม วัฒนธรรม
และเศรษฐกิจของเมืองโบราณแห่งน้ี ดังน้ันในปี
พ.ศ. 2557 – 2558 ผูว้ จิ ัยจงึ ไดด้ �ำ เนนิ การขดุ คน้
ทางโบราณคดีภายในเขตเมืองโบราณอู่ทองอีก
ครงั้ หน่ึงบรเิ วณบ้านเนินพลับพลา และไดท้ �ำ การ
วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลหลักฐานทุกประเภท
(ได้แก่ จารกึ ศิลปกรรม ข้อมลู จากการขดุ ค้นทาง
โบราณคดี) งานวิจัยชิ้นน้ีจึงสามารถนำ�เสนอผล
การศึกษาวิเคราะห์ซ่ึงทำ�ให้เข้าใจถึงบทบาทและ
ความสำ�คัญของเมืองโบราณอู่ทองในแต่ละช่วง
เวลาได้อย่างชดั เจนและดยี ง่ิ ข้ึน
ภาพท่ี 3 : การท�ำ งานขุดคน้ ทางโบราณคดี ท่ีโบราณสถานเนินพลับพลา
ภาพที่ 1 : ภาพถา่ ยทางอากาศแสดงตำ�แหนง่ ของแหลง่ 65
โบราณคดใี นเมอื งโบราณอทู่ อง
7/23/2561 BE 10:25 PM
MEMO Research 61.indd 65
วัตถุประสงค์ของงานวิจัย ภาพที่ 4 : การทำ�ผงั ช้ันดินและ ผงั โบราณสถานท่โี บราณสถานเนนิ พลบั พลา
ศึกษาลำ�ดับพัฒนาการของเมืองโบราณอู่ทอง
ในแต่ละช่วงเวลา ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มจนถึงช่วง
ก่อน พ.ศ. 1800 โดยการวเิ คราะหข์ ้อมลู หลกั ฐาน
ทกุ ประเภท ทัง้ จารกึ ศลิ ปกรรม และขอ้ มลู จากการ
ขุดคน้ ทางโบราณคดี เพอื่ สร้างองคค์ วามรู้เก่ียวกับ
พฒั นาการทางสังคม วฒั นธรรม และเศรษฐกจิ ของ
เมอื งโบราณแหง่ น้ี
66 7/23/2561 BE 10:25 PM
MEMO Research 61.indd 66
กระบวนการ/วธิ กี ารศกึ ษาวจิ ัย ผลการศกึ ษาวจิ ัย / ผลผลิตการวจิ ัย
1) รวบรวมหลกั ฐานเอกสารในแงป่ ระวตั ศิ าสตร์ การขุดค้นทางโบราณคดีท่ีเมืองอู่ทองในช่วง
และโบราณคดเี กีย่ วกบั เมืองอ่ทู อง พ.ศ. 2557-2558 ไดพ้ บทง้ั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั
2) สำ�รวจแหล่งโบราณคดีบริเวณเมืองอู่ทอง การอยอู่ าศยั ทว่ั ไปของประชากรในชว่ งสมยั ทวารวดี
สัมภาษณ์ราษฎรในพน้ื ที่ และประเมินคุณค่าของ และชว่ งกอ่ นหนา้ สมัยทวารวดี (ตรงกับยุคหวั เลี้ยว
แหล่งโบราณคดีก่อนท�ำ การขุดค้น ประวัติศาสตร์) พบการฝงั ววั 1 ตวั ในชว่ งสมยั
3) ขุดค้นทางโบราณคดีท่ีบ้านเนินพลับพลา ทวารวดี พบกิจกรรมเชิงเศรษฐกิจสมัยทวารวดี
โดยแบง่ เป็น 2 ระยะ คอื ระยะท่ี 1 ชว่ งเดอื น คอื การผลิตลกู ปัดแก้ว และการถลุงเหล็ก พบแนว
พฤษภาคม 2557 และระยะที่ 2 ช่วงเดือน โบราณสถานสมัยทวารวดีหลังใหม่ภายใต้เนินดิน
พฤษภาคม - สงิ หาคม 2558 ขนาดใหญ่ และทสี่ ำ�คัญคอื พบการฝงั ศพทารก 1
4) จัดจำ�แนกหลักฐานที่พบจากการขุดค้น โครง ท่มี สี รอ้ ยลกู ปดั แกว้ สฟี ้าอมเขียวมดั อยทู่ ่เี ข่า
วิเคราะห์เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยการ ทงั้ สองขา้ ง ซง่ึ กำ�หนดอายุจากตัวอย่างถา่ นด้วยวิธี
กำ�หนดอายุสมัยใช้วิธีการเปรียบเทียบรูปแบบ เรดโิ อคารบ์ อน (AMS) อย่ใู นช่วงก่อนสมยั ทวารวดี
(relative dating) และวิธกี ารทางวิทยาศาสตร์ ประมาณ 1,700 ปีมาแล้ว
ไดแ้ ก่ วธิ เี รดโิ อคารบ์ อน (Carbon-14, AMS) หรอื ผลการวิจยั พบวา่ เมืองอ่ทู องมกี ารอยู่อาศัย 5
วิธเี รืองแสงความร้อน (Thermoluminescence) ระยะยอ่ ย ๆ คอื ยคุ กอ่ นประวตั ิศาสตร์ ยุคหัวเล้ียว
5) สังเคราะหข์ ้อมลู โดยเชอ่ื มโยงหลกั ฐานทาง ประวัติศาสตร์ สมัยทวารวดตี อนตน้ สมยั ทวารวดี
โบราณคดกี ับจารึกและงานศลิ ปกรรม เพือ่ อธบิ าย ตอนกลาง และสมยั ทวารวดตี อนปลาย โดยชว่ ง
ประเด็นปัญหาและข้อสันนิษฐานต่างๆ เก่ียวกับ สมัยทวารวดตี อนกลาง (ประมาณ พ.ศ. 1300 -
พฒั นาการของชุมชนโบราณในเขตเมืองอทู่ อง 1500) ถือเป็นยุคทองหรือยุครุ่งเรืองสูงสุดของ
เมืองอ่ทู อง เพราะพบหลักฐานทางโบราณคดีหลาก
หลายประเภท และมกี ารสรา้ งงานศลิ ปกรรมทาง
ศาสนาเป็นจำ�นวนมาก แต่หลักฐานศิลปกรรม
สว่ นใหญน่ น้ั สรา้ งขน้ึ เนอ่ื งในคตขิ องพระพทุ ธศาสนา
นกิ ายมหายาน อนั เปน็ ผลมาจากการตดิ ตอ่ สมั พนั ธ์
ทง้ั ทางสงั คม วฒั นธรรม และเศรษฐกจิ ทเ่ี ชอ่ื มโยงไป
กบั เสน้ ทางการคา้ สายแพรไหมทางทะเล (maritime
silk road) ดงั ไดพ้ บเหรยี ญตรา เครอ่ื งถว้ ย และ
ลกู ปดั แกว้ ทม่ี าจากจนี (สมยั ราชวงศถ์ งั ) และดนิ
แดนตะวันออกกลาง (สมัยจักรวรรดิอับบาสิยะฮ์)
ดว้ ย
67
MEMO Research 61.indd 67 7/23/2561 BE 10:25 PM
ภาพท่ี 5 : โครงกระดูกวัว
(สมัยทวารวด)ี พบในหลมุ ขดุ ค้น
ทเ่ี นินพลับพลาในปี 2557
68 ภาพท่ี 6 : โครงกระดูกทารกช่วงก่อน
สมยั ทวารวดี พบจากการ
MEMO Research 61.indd 68 ขุดคน้ ในปี 2558
7/23/2561 BE 10:25 PM
ภาพที่ 7 : สรอ้ ยลกู ปดั แก้วสีเขยี วอมฟา้ มัดเข่าทารกทีพ่ บจากการขดุ คน้
ในปี 2558
การนำ�ผลงานวิจัยไปใชป้ ระโยชน์ ภาพที่ 8-10 : ตัวอย่างภาชนะดินเผาท่พี บจากการขุดคน้ ในปี 2558
งานวิจัยชิ้นน้ีสามารถนำ�ไปใช้วางแผนดำ�เนินงาน
ขุดค้นทางโบราณคดีที่เมืองอู่ทองในอนาคต และ
ใช้ประกอบในการเรียนการสอนหรือจัดทำ�ตำ�รา
ของสาขาวิชาโบราณคดีหรือสาขาท่ีเก่ียวข้องได้
(ประวัติศาสตร์หรือประวัติศาสตร์ศิลปะ) และ
เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนในการอนุรักษ์และ
พัฒนาเมืองโบราณอู่ทองอย่างยั่งยืนด้วย เพราะ
เมืองอู่ทองมีหน่วยงานท่ีรับผิดชอบงานด้านน้ี
คือ องค์การบริหารการพัฒนาพ้นื ท่พี ิเศษเพ่อื การ
ทอ่ งเทย่ี วอย่างยง่ั ยนื (อพท.) ซึ่งมเี ปา้ หมายในการ
ทำ�งาน คอื สนับสนุนและเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้เก่ียว
กับเมืองโบราณอู่ทอง โดยเฉพาะกับสถานศึกษา
หรอื เยาวชนในพืน้ ท่ี อนั จะก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์เชงิ
วิชาการอย่างสงู สดุ ต่อไปในอนาคต
กอ่ น
MEMO Research 61.indd 69 69
7/23/2561 BE 10:25 PM
วิถีเลื่อนฤทธ:ิ์
วิถีการอนุรักษข์ องชุมชนชาวเวิ้ง
แห่งกรงุ เทพมหานคร
Way of Lueanrit :
conservation practice of Wang community in Bangkok
บทคดั ยอ่
ชุมชนเลอื่ นฤทธิ์เปน็ ตวั อยา่ งชมุ ชนเมอื งทก่ี �ำ ลงั ประสบปญั หาการเปล่ียนแปลงเมอื งทางกายภาพ ท้ัง
จากเมืองท่ีพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วยระบบขนสง่ มวลชน MRT และการถกู ไล่ร้อื ออกจากพ้ืนท่มี ากว่า 10 ปี
การวจิ ยั ในครง้ั นเ้ี ปน็ การวจิ ยั รว่ มกบั ชมุ ชนเพอ่ื ศกึ ษาเรอ่ื งราวความเปน็ มาอตั ลกั ษณข์ องตนผา่ นกระบวนการ
ทางโบราณคดี และเพ่ือศึกษาวิธีการท่ีชุมชนเล่ือนฤทธ์ิใช้ในการปรับตัวต่อสถานการณ์รอบด้านเพื่อเป็น
แบบอยา่ งใหก้ บั ชมุ ชนอ่นื ๆ ที่จะต้องเกิดเหตุการณ์เชน่ นี้ในสังคมเมืองทก่ี ำ�ลงั เปล่ียนแปลง ผลการศกึ ษา
พบว่า พื้นที่ชุมชนเลื่อนฤทธิ์มีความเก่าแก่มาต้ังแต่คร้ังต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีเร่ืองราวความเก่าแก่ท่ี
สามารถนำ�มาใช้ในการอนุรักษ์และพัฒนาชุมชนและพื้นท่ีได้ และส่ิงที่ทำ�ให้ชุมชนสามารถรวมตัวเพื่อ
ปรับตัวตอ่ การเปลีย่ นแปลงนี้เกิดขึน้ มาไดเ้ กดิ จากการท่ีชมุ ชนมีประวตั ศิ าสตร์ร่วมกนั มีผู้นำ�และกล่มุ ผู้น�ำ
ชุมชนเขม้ แข็ง การมศี นู ยก์ ลางทางจิตใจร่วมกนั
ค�ำ ส�ำ คญั : การอนรุ กั ษเ์ มอื ง ชุมชนเมอื ง การพฒั นาชุมชน โบราณคดีเมอื ง
ผวู้ จิ ยั :
ผศ.ดร.กรรณกิ าร์ สธุ รี ตั นาภริ มย์
ภาควชิ าโบราณคดี คณะโบราณคดี
มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร
MEMO Research 61.indd 99 99
7/23/2561 BE 10:25 PM
MEMO Research 61.indd 100 7/23/2561 BE 10:25 PM
MEMO Research 61.indd 101 ภาพที่ 1 : ยา่ นชมุ ชนเล่อื นฤทธิ์ ถนนเยาวราช
101
7/23/2561 BE 10:25 PM
ที่มาหรือความส�ำ คัญของงานวิจยั
ชุมชนเลื่อนฤทธิ์เป็นตัวอย่างชุมชนเมืองที่กำ�ลัง
ประสบปัญหาการเปลี่ยนแปลงเมืองทางกายภาพ
ปัจจุบันชุมชนเล่ือนฤทธิ์กำ�ลังดำ�เนินการอนุรักษ์
ตึกแถวและย่านสภาพแวดล้อมอันเป็นมรดก
ทางวัฒนธรรมของชาวชุมชนเลื่อนฤทธิ์และของ
ชาติ โดยยดึ หลักแนวทางการปรบั ปรุงย่าน สภาพ
แวดล้อมและอาคารตามประวัติศาสตร์ด้ังเดิม
โดยผ่านการศึกษาอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
นับได้ว่าชุมชนเล่ือนฤทธิ์เป็นกรณีศึกษาสำ�คัญ
ย่ิงของแบบอย่างชุมชนเข้มแข็ง ที่ต่อสู้กับ
สถานการณ์การพัฒนาทางกายภาพของประเทศ
ในปัจจุบันและเป็นแบบอย่างให้กับชุมชนเมือง
แหง่ อ่ืนๆ ทอี่ าจจะเกดิ ปญั หาเช่นน้ีในปจั จบุ ันและ
อนาคต
การศึกษาทางโบราณคดีเป็นการศึกษาความ
เปน็ มาของพน้ื ท่ี หลักฐานความเก่าแก่ คุณคา่ และ
ความสำ�คัญ เพื่อนำ�ความรู้น้ีไปใช้ในการอนุรักษ์
และพัฒนาตึกแถวและสภาพแวดล้อมอย่างย่ังยืน
ได้ต่อไป
ภาพท่ี 2-6 : ชมุ ชนเลื่อนฤทธ์ิกอ่ นยา้ ย
102 7/23/2561 BE 10:26 PM
MEMO Research 61.indd 102
MEMO Research 61.indd 103 ภาพที่ 7 : แผ่นจารกึ ทรี่ ะบถุ งึ ระเบียบคา่ เช่าในสมัยแรกสร้างตึก
103
7/23/2561 BE 10:26 PM
ภาพที่ 8-13 : ชุมชนเลอื่ นฤทธร์ิ ะหวา่ ง-หลังยา้ ย
104 7/23/2561 BE 10:26 PM
MEMO Research 61.indd 104
วตั ถปุ ระสงคข์ องงานวจิ ัย กระบวนการ/วธิ กี ารศกึ ษาวิจัย
1) ศึกษาโบราณคดีของชุมชนเล่ือนฤทธิ์เพ่ือ การวิจัยในคร้ังน้ีได้ดำ�เนินงานร่วมกับชุมชน
อธิบายเรื่องราวความเป็นมาของพื้นที่ หลักฐาน โดยมีวิธกี ารดงั น้ี
ความเก่าแก่ คุณค่าและความสำ�คัญของพื้นที่ 1) สำ�รวจเอกสารโบราณ และงานวิจัยท่ี
ในอดีต เพ่ือนำ�ความรู้น้ีไปใช้ในการอนุรักษ์และ เก่ยี วขอ้ ง
พัฒนาตึกแถวและสภาพแวดล้อมเพ่ือให้ดำ�รง 2) สำ�รวจชุมชนเลื่อนฤทธิ์โดยการสัมภาษณ์
คุณค่าของย่านประวัติศาสตร์และพัฒนาสู่โลก ผู้คนท่ีอาศัยอยู่ในชุมชนและเข้าไปมีส่วนร่วมโดยใช้
เศรษฐกจิ ท่ีเตบิ โตอยา่ งรวดเร็ว แนวคดิ ปรากฏการณ์วิทยา
2) ศกึ ษา “โมเดลเลื่อนฤทธ์”ิ หรอื วธิ ที ่ีชุมชน 3) ส�ำ รวจสภาพแวดลอ้ มของยา่ นประวตั ศิ าสตร์
เล่ือนฤทธิ์ใช้ในการปรับตัวต่อสถานการณ์รอบด้าน อาคารสถานท่ี
เพ่ือเป็นแบบอย่างให้กับชุมชนอ่ืนๆ ท่ีจะต้องเกิด 4) ประเมินความสำ�คัญและคุณค่าของข้อมูล
เหตุการณ์เชน่ นใ้ี นสังคมเมืองทก่ี �ำ ลังเปลยี่ นแปลง หลกั ฐานตา่ งๆ ท่ไี ด้ และวเิ คราะห์ข้อมลู เพ่อื ตอบ
ตามวตั ถุประสงคท์ วี่ างไว้
105
MEMO Research 61.indd 105 7/23/2561 BE 10:26 PM
106 ผลการศกึ ษาวจิ ยั / ผลผลติ การวจิ ัย
ผลการศึกษา พบว่า พื้นท่ีชุมชนเล่ือนฤทธิ์
MEMO Research 61.indd 106 มีความเก่าแก่มาตั้งแต่คร้ังต้นกรุงรัตนโกสินทร์
ชื่อ “เล่ือนฤทธิ์” สัมพันธ์กับชื่อเจ้านายผู้เคยต้ัง
วังอยู่ ณ บริเวณน้ีมาก่อน ต่อมาเมือ่ ตึกแถวสรา้ ง
ขนึ้ ในสมัยรชั กาลท่ี 6 ทำ�ให้ยา่ นนกี้ ลายเป็นประตู
สู่สำ�เพ็ง และย่านค้าขายของคนหลากเชื้อชาติ
ต่างศาสนาหลอมรวมกันจนเป็นคนเล่ือนฤทธ์ิ
ในปัจจุบัน กิจการต่างๆ ในเล่ือนฤทธ์ิล้วนเป็น
กิจการค้ายุคแรกของสยาม เช่น การค้าผ้าแพร
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ โรงแรม กจิ การโรงสี โรงนํ้าชา
เปน็ ตน้ และในปจั จุบันชมุ ชนเลอ่ื นฤทธ์หิ ลอมรวม
วัฒนธรรมหลากเชื้อชาติเข้าด้วยกัน การที่ชุมชน
รวมตัวกันได้และสามารถนำ�ไปสู่การตั้งบริษัทเพ่ือ
อนุรักษ์ตึกแถวและสภาพแวดล้อมด้วยงบประมาณ
ของตนเองนั้น นับว่าเป็นคร้ังแรกในประเทศที่
ชุมชนเข้มแข็งและลุกขึ้นมาเลือกใช้วิธีนี้ในการต่อสู้
กับสถานการณ์การเปล่ียนแปลงของเมือง วิถีท่ี
ชุมชนปฏิบัติ คอื โมเดลเลอ่ื นฤทธ์ิ สงิ่ ทีท่ �ำ ให้โมเดล
นี้เกิดข้ึนมาได้เกิดจากการท่ีชุมชนมีประวัติศาสตร์
รว่ มกัน มีผู้นำ�และกลุม่ ผู้น�ำ ชมุ ชนเข้มแข็ง การมี
ศูนย์กลางทางจติ ใจรว่ มกนั รวมทั้งการพบเหน็ ข่าว
ซํ้าๆ ของเหตุการณ์ร้ือถอนการย้ายของผู้คนแถบ
เยาวราช ซงึ่ ทำ�ใหช้ มุ ชนหันกลบั มาเผชญิ หนา้ กับ
ความจรงิ ท่อี ยู่ตรงหน้า
ภาพท่ี 14-16 : ชมุ ชนเล่ือนฤทธิ์ในปัจจบุ ัน
7/23/2561 BE 10:26 PM
MEMO Research 61.indd 107 ภาพที่ 17-19 : ชุมชนเล่อื นฤทธ์ใิ นปัจจุบัน
การนำ�ผลงานวิจยั ไปใชป้ ระโยชน์
ชุมชนเลื่อนฤทธ์ิได้นำ�ความรู้รวมท้ังประสบการณ์
การวิจัยนำ�ไปสู่การสร้างสรรค์การออกแบบการ
อนรุ กั ษแ์ ละพัฒนาตึกแถวและสภาพแวดลอ้ มสร้าง
เอกลักษณ์ของพ้นื ท่แี ละชมุ ชนไดด้ ้วยตนเอง ชุมชน
สามารถทำ�งานโบราณคดีได้ในระหว่างการรื้อถอน
อาคาร โมเดลเลอื่ นฤทธิ์ยังเปน็ ต้นแบบให้กับชุมชน
อ่ืนท่ีอาจเกิดเหตุการณ์เช่นน้ีได้ต่อไปในอนาคต
ปัจจุบันมีการเข้ามาศึกษาดูงานของหน่วยงาน
ไทยและตา่ งประเทศ การศกึ ษาดงู านของอาจารย์
มหาวิทยาลัย นักศึกษา และชุมชน การให้
สัมภาษณใ์ นสื่อสง่ิ พมิ พ์และโทรทศั น์ เปน็ ต้น
107
7/23/2561 BE 10:26 PM
ติดต่อ : มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร วังท่าพระ ติดตอ่
เลขท่ี 31 ถนนหนา้ พระลาน แขวงพระบรม มหาวทิ
มหาวทิ ยาลัยศิลปากร ตลิ่งชนั มหาราชวงั เขตพระนคร กรงุ เทพฯ 10200 เลขที่ 2
เลขท่ี 22 ถนนบรมราชชนนี Tel : 0-2623-6115-21 Fax : 0-2225-7258 10170
เขตตลิ่งชนั กรุงเทพฯ 10170 มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร Tel : 0
Tel : 0-2849-7500 Fax : 0-2849-7518 วทิ ยาเขตสารสนเทศเพชรบรุ ี Fax : 0
มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร เลขท่ี 1 หมทู่ ี่ 3 ถนนชะอ�ำ -ปราณบุรี ต�ำ บล มหาวทิ
วทิ ยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ สามพระยา อ�ำ เภอชะอ�ำ จงั หวัดเพชรบุรี 76120 เลขท่ี 3
เลขที่ 6 ถนนราชมรรคาใน อำ�เภอเมือง Tel : 0-3259-4043-50 Fax : 0-3259-4026-27 มหารา
จงั หวัดนครปฐม 73000 Tel : 0
Tel : 0-3425-3843-44 Fax : 0-3425-5099 Fax : 0
มหาวิท
วิทยาเข
เลขที่ 6
นครปฐ
Tel : 0
Fax : 0
มหาวิท
วิทยาเข
เลขที่ 1
สามพร
Tel : 0
Fax : 0
MEMO Research 61.indd 128 7/23/2561 BE 10:26 PM