สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยศลิ ปากร
เสนอผลงานสร้างสรรค์เพอื่ ส่งเสริมคณุ ภาพชีวติ
ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อริศร์ เทยี นประเสรฐิ
ผู้อ�ำ นวยการสถาบนั วิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยศิลปากร
มหาวิทยาลยั ศิลปากร “มหาวิทยาลัยชนั้ น�ำ แห่งการสร้างสรรค”์ กอ่ กำ�เนิดมาจากความเป็นมหาวิทยาลัยศลิ ปะ
และพัฒนามาจนเปน็ มหาวิทยาลัยท่สี มบูรณใ์ นวนั น้ี สถาบนั วิจยั และพัฒนาในฐานะผ้ปู ระสาน ส่งเสริม สนับสนุน
การท�ำ วิจยั และสร้างสรรค์ เพื่อให้ได้มาซ่งึ องค์ความรู้ในศาสตร์ตา่ งๆ จึงได้น�ำ เสนอตัวอย่างของงานวจิ ัยและ
สร้างสรรคท์ สี่ ง่ เสริมคุณภาพชีวติ โดยเร่ิมจากความตอ้ งการพ้นื ฐานในการด�ำ รงชีวิตคือ ปัจจัยสี่ ได้แก่ อาหาร
ท่อี ยูอ่ าศยั เครือ่ งนงุ่ หม่ ยารักษาโรค ซงึ่ ผลงานวจิ ยั และสร้างสรรค์ทนี่ ำ�มาเสนอเปน็ ผลงานทถ่ี กู สร้างสรรคข์ ้ึน
โดยแนวคิดของ “นวตั กรรมสเี ขียว” ท่มี ุง่ เน้นการประหยัดพลงั งานและการเปน็ มติ รต่อส่ิงแวดล้อม และในทส่ี ดุ
เมอ่ื มนุษยไ์ ดร้ บั การตอบสนองความต้องการพน้ื ฐานเพอ่ื การด�ำ รงชวี ติ แลว้ สิ่งที่ตามมาก็คือ ส่ิงสะท้อนถงึ
ความศิวไิ ลซ์ของความเป็นมนุษย์ท่ีท�ำ ให้เราต่างไปจากเดรจั ฉาน ก็คือ “ศลิ ปะและวฒั นธรรม” และในการ
นำ�เสนอครั้งนี้ มหาวิทยาลัยศิลปากรก็ยังได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างงานศิลปะบนพื้นฐาน
ของความตระหนักรู้ในการที่จะรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการเลือกใช้สิ่งท่ีมีในธรรมชาติ
เพ่อื สร้างสรรคง์ านศิลปะ และในกระบวนการถ่ายทอดและสรา้ งความเขา้ ใจในผลงานทง้ั หมดนี้ สถาบนั วจิ ัย
และพฒั นา ไดเ้ ลอื กวิธกี ารน�ำ งานสรา้ งสรรคม์ าอธิบายผลงานสรา้ งสรรค์ ได้แก่ การผลติ Animation พรอ้ ม
ดนตรีประกอบ ตลอดไปจนถงึ ส่อื ส่งิ พมิ พ์ ซึ่งอย่ใู นมือท่านขณะนี้
สดุ ท้ายนี้ สถาบนั วจิ ัยและพฒั นา มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร หวังเปน็ อย่างยิ่งวา่ การน�ำ เสนอผลงาน
สร้างสรรค์ท่ีนำ�มาสกู่ ารสง่ เสริมคุณภาพชวี ติ โดยผา่ นแนวคดิ “นวตั กรรมสเี ขยี ว” ในงาน Thailand Research
Expo 2013” คร้งั นี้ จะส่งผลใหท้ า่ นทัง้ หลายไดซ้ าบซ้ึงและเขา้ ใจถงึ คณุ ค่าของการผลิตงานสรา้ งสรรค์ทมี่ ผี ลต่อ
คณุ ภาพชีวิตของมวลมนษุ ยชาติ
Green Innovations towards
Quality of Life through Creativity
สง่ เสริมคุณภาพชวี ิต
โดยนวัตกรรมสเี ขียวผ่านงานสร้างสรรค์
ปัจจัยส่ีเป็นพ้ืนฐานสำ�คัญในการดำ�รงชีวิตของ ผลติ ภณั ฑท์ ่ใี ชใ้ นการตกแต่งทอี่ ยู่อาศยั
มนุษย์ในขณะที่ศิลปะเป็นส่ิงที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม 4. ผลิตภณั ฑแ์ ละบรรจภุ ัณฑจ์ ากสธี รรมชาติ :
และความศิวไิ ลซ์ในการใช้ชวี ิตของมนุษย์ เป็นโครงการที่เน้นการใช้สีธรรมชาติเพ่ือย้อมสิ่งทอที่
ผลงานของมหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร ซงึ่ นำ�มาเสนอ ใชใ้ นการผลิตเครื่องนงุ่ ห่ม และเครอื่ งประดับ
ในการประชุม “มหกรรมการนำ�เสนอผลงานวิจัย 5. Green Pharmacy : กระบวนการทาง
แห่งชาติ 2556” ครง้ั น้ี ไดถ้ ่ายทอดองคค์ วามรู้ทาง เภสัชศาสตรซ์ ่งึ ใช้แนวทางท่ีเปน็ มติ รกบั ส่งิ แวดลอ้ ม
วิชาการในการผลิตผลงานสรา้ งสรรค์ ซง่ึ เปน็ ปจั จัย 6. Organic Print : การสร้างสรรค์ภาพพิมพจ์ าก
ท้ังห้าของชีวิตมนุษย์ โดยใช้แนวความคิดในการ สธี รรมชาติ ซ่งึ เป็นการผลติ ผลงานศลิ ปะท่มี ีความเป็น
สร้างสรรค์ผลงานตามหลักการของนวัตกรรมสีเขียว มติ รกบั ส่งิ แวดล้อม
ซง่ึ ประกอบด้วยองคป์ ระกอบหลัก คือ การลดของเสีย 7. Green Animation : การสร้างสรรคแ์ อนนเิ มช่ัน
และการใช้พลงั งาน (Reduce) การใชซ้ าํ้ (Reuse) ซึ่งเป็นการร้อยเรียงเร่ืองราวของโครงการท้ังหกข้างต้น
การน�ำ มาปรับใชใ้ หม่ (Recycle) และการซอ่ มบ�ำ รุง โดยใช้แนวปฏิบัติเทคโนโลยีสารสนเทศสีเขียว
(Repair) รวมไปถงึ การเป็นมติ รกับส่งิ แวดล้อม (Green IT)
ผลงานสร้างสรรค์ท่ีนำ�มาเสนอในครั้งน้ีเป็นผลงาน 8. เพลงในภวังค์และความคิด เพลงประกอบงาน
ของคณาจารยข์ องมหาวิทยาลยั ศลิ ปากร จำ�นวน 8 ท่าน สรา้ งสรรคส์ ่อื กราฟกิ เคลื่อนไหว
จาก 6 คณะวิชา ซง่ึ เป็นคณะวิชาทางดา้ นศิลปะการ นอกจากนั้นในตอนท้ายของส่ิงพิมพ์นี้ได้ใส่ข้อมูล
ออกแบบ และคณะวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เกี่ยวกับการปรุงสีและการเทียบค่ามาตรฐานของชุดสี
และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ซ่ึงผลงานสร้างสรรค์ ไทยโทน ซึ่งบรรยายในภาคประชุมของงาน Thailand
ดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Research Expo 2013 ไวด้ ว้ ย
1. Banana Society : โครงการนวัตกรรมการ ผลงานสร้างสรรค์ตามแนวคิดนวัตกรรมสีเขียวน้ี
ผลิตกล้วยตากแห่งแรกของประเทศไทย โดยใชร้ ะบบ จะนำ�ไปสู่การยกระดับคณุ ภาพชวี ติ และสะท้อนให้เหน็
GMP และพลงั งานแสงอาทิตย์ ถึงศักยภาพของ “Green University” :
2. เส้นใยธรรมชาติภายในประเทศ : การออกแบบ มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร มหาวิทยาลัยชน้ั น�ำ แหง่ การ
เคร่ืองเรือนและผลิตภัณฑ์เพื่อลดภาวะโลกร้อนตลอดไป สร้างสรรค์.
จนถึงการสะท้อนเอกลักษณ์ และภูมิปัญญาพื้นถิ่น
โดยคำ�นึงถึงการใช้ประโยชน์ภายในท่ีพักอาศัยสำ�หรับ
ผสู้ งู อายุ เพอ่ื เปน็ การเพิ่มคุณภาพชวี ิต
3. การสร้างสรรค์งานทอมดั หมรี่ ว่ มสมยั : เป็นการ
ผสมผสานระหว่างเส้นใยกกกับเส้นใยไหม เพื่อผลิต
4
18
Banana Society : ความสำ�เรจ็ ของการบูรณาการ
งานวจิ ัยกับภมู ิปญั ญาชาวบางกระทุ่ม
กลุ่มผู้รว่ มสรา้ งสรรค์ผลงานวจิ ยั :
บศุ รากรณ์ มหาโยธี / บณั ฑิต อินณวงศ์ / เอกพนั ธ์ แก้วมณีชยั / สนิ ี หนองเตา่ ดำ� / อรุณศรี ลีจรี จ�ำ เนียร / ปริญดา เพญ็ โรจน์ /
ปราโมทย์ คูวิจิตรจารุ / โสภาค สอนไว / วญิ ญู โชครงุ่ กาญจน์ / ประสงค์ ศิรวิ งศว์ ไิ ลชาติ / สเุ ชษฐ์ สมุหเสนโี ต
ภาควิชาเทคโนโลยอี าหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยอี ุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร
เสริม จนั ทรฉ์ าย : ภาควชิ าฟิสกิ ส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
“บานานา่ โซไซต้”ี เปน็ นวตั กรรมการผลติ กล้วยตาก การรบั วตั ถดุ บิ การบม่ การตัดแตง่ การอบแห้ง
ครั้งแรกของประเทศไทยท่ีบูรณาการภูมิปัญญา การบรรจุ จนถงึ การขนส่งผลติ ภัณฑเ์ พือ่ ขายส่ผู บู้ รโิ ภค
ชาวบางกระทุ่ม และผลงานวิจัยของคณาจารย์ นอกจากน้ีทีมวิจัยได้ศึกษาความต้องการของ
ภาควชิ าเทคโนโลยีอาหาร คณะวศิ วกรรมศาสตร์และ ผู้บริโภคท้ังชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีต่อผลิตภัณฑ์
เทคโนโลยีอุตสาหกรรม และภาควิชาฟิสิกส์ กล้วยตาก ส่งเสริมการสร้างแบรนด์ของสินค้า
คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศิลปากร รวมท้ังการ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ตรงใจผู้บริโภคในทุกระดับ
สร้างแบรนด์การออกแบบบรรจุภัณฑโ์ ดย คณุ พีรวงศ์ และ ผศ.ดร.บัณฑิต อินณวงศ์ จาก Innovative House
จาตรุ งคกลุ และคณุ อนุชติ ปญั ญาวชั ระ ภายใต้การ ,สกว. ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีอย่างต่อเน่ืองเพ่ือให้
สนับสนุนทนุ วิจยั จากหลายภาคี ได้แก่ สถาบันวจิ ยั ผู้ประกอบการมีศักยภาพในด้านการตลาด การคิด
และพัฒนา มหาวิทยาลัยศิลปากร สำ�นักงาน สร้างสรรค์ จนท�ำ ให้ปัจจบุ นั กล้วยตากภายใตแ้ บรนด์
คณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยการ Banana Society เกดิ การพัฒนาอย่างต่อเน่อื งเพอ่ื
ประสานงานของเครือข่ายบริหารการวิจัยภาคกลาง สร้างสรรค์คุณภาพระดับสากล มีสินค้าวางจำ�หน่าย
ตอนล่าง กรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ท่ีร้านค้าของฝากในท้องถิ่น เซเว่นอีเลเว่น
(พพ.) สำ�นักงานกองทนุ สนบั สนุนการวิจยั (สกว.) ห้างสรรพสินคา้ ขนาดใหญ่ เชน่ สยามพารากอน
ฝ่ายอตุ สาหกรรม และโครงการสนบั สนุนการพฒั นา เดอะมอลล์ เปน็ ต้น จากประสบการณก์ ารทำ�งาน
เทคโนโลยขี องอตุ สาหกรรมไทย (iTAP) ส�ำ นกั งาน บูรณาการในครง้ั นี้ ภาควชิ าฯ ได้เรยี นรคู้ วามสำ�เรจ็
พฒั นาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) ของแนวคิด GC2: Green, Clean and Creative
เพ่ือยกระดับการผลิตกล้วยตากแบบดั้งเดิมของชาว สำ�หรับการขับเคลื่อนสินค้าและบริการด้านอาหารสู่
บางกระท่มุ จ.พษิ ณุโลก ซึง่ เปน็ แหล่งผลิตกล้วยตาก ความเป็นสากล และเป็นการปรับเปลี่ยนโฉมหน้า
หลักของประเทศ ใหไ้ ดม้ าตรฐานภายใต้ระบบการผลติ ของธุรกิจกล้วยตากของประเทศ อันเป็นก้าวใหม่
อาหารดีท่ีเหมาะสม (Good Manufacturing สู่การผลิตอาหารในระดับชุมชนให้ได้มาตรฐานใน
Practices, GMP) โดยควบคุมกระบวนการผลิตตง้ั แต่ ระดับสากล.
19
34
เสน้ ใยธรรมชาตภิ ายในประเทศ : การออกแบบ
เครื่องเรือนและผลิตภณั ฑ์ เพอ่ื ลดภาวะโลกร้อน
ผ้สู ร้างสรรคผ์ ลงานวจิ ยั :
รองศาตราจารย์ ร.ต.อ. ดร.อนุชา แพง่ เกษร
ภาควชิ าออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร
จากความต้องการของตลาดและผู้บริโภคที่มีต่อ
สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ท่ีผลิตขึ้นจากกระบวนการและ
เทคโนโลยที ใ่ี สใ่ จกับผลกระทบทจี่ ะเกิดขนึ้ กับสิง่ แวดลอ้ ม
เร่ิมตั้งแตก่ ารคัดเลือกวตั ถดุ ิบในการผลิต กระบวนการ
ผลติ และผลติ ภณั ฑท์ เี่ ปน็ มติ รกับสิ่งแวดลอ้ ม จึงเปน็
ท่ีมาของการสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบเคร่ืองเรือน
และผลิตภณั ฑ์ เพอ่ื ลดภาวะโลกร้อนทส่ี ามารถใชง้ าน
ได้จริงในชีวิตประจำ�วัน และเน้นการใช้วัสดุเส้นใย
ธรรมชาติภายในประเทศ ซ่ึงเป็นวัตถุดิบท่ีมีอยู่ใน
ท้องถ่ินร่วมกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ นำ�ไปสู่
การผลิตเคร่ืองเรือนและผลิตภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจ
โดยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ประณีต
แ ล ะ ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ ภู มิ ปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่ น เ พื่ อ ส ร้ า ง
ความน่าสนใจให้แก่ผลิตภัณฑ์ อาทิ การนำ�เสนอ
ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ประจำ�ถิ่นบนผลิตภัณฑ์
การออกแบบที่เน้นความสวยงามและสามารถ
ตอบสนองดา้ นประโยชน์ใช้สอย เป็นต้น นอกจากน้ี
กระบวนการผลิตผลงานสร้างสรรค์ดังกล่าวยังมีส่วน
ช่วยลดภาวะโลกรอ้ นและเปน็ มิตรต่อส่งิ แวดลอ้ มเป็น
อย่างดี ทงั้ น้จี ะท�ำ ให้ผู้บรโิ ภคไดต้ ระหนกั เห็นคณุ คา่
และมีสว่ นร่วมในการอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ มอีกด้วย
35
การสรา้ งสรรค์งานทอมดั หมรี่ ว่ มสมัย
ผู้สร้างสรรค์ผลงานวจิ ยั :
ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยป์ ระภากร สคุ นธมณี
ภาควชิ าประยุกตศิลปศึกษา คณะมณั ฑนศิลป์ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร
50
จาก กก กลายเป็นเสน้ ใย และเป็นผลติ ภณั ฑใ์ หม่ ด้วยกระบวนการธรรมดาแต่แฝงไปด้วยความพิเศษ
อกี รูปแบบหนึง่ แตกตา่ งไปจากเดิม นอกจากมคี ณุ ค่า ของเสน้ ใย
ท้ังการเป็นงานศิลปะและการประยุกต์ใช้เพ่ือให้เกิด มัดหม่ี เป็นเทคนิคหนึ่งในกระบวนการทอที่มี
ประโยชน์สูงสุดแล้ว อาจกล่าวได้ว่าเป็นการสร้าง ลักษณะพิเศษ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวกล่าวคือ
มูลคา่ เพิม่ ให้กับกกอีกทางหน่งึ และจากผ้าทอมัดหม่ี ลวดลายท่ีเกิดจากการมัดเส้นใยท้ังเส้นทางพุ่งและ
ไหมแปรเปล่ียน เพมิ่ เตมิ เป็นงานสร้างสรรคเ์ ชิงศิลปกรรม เส้นทางยืน แลว้ น�ำ ไปต้มย้อมสี รอยซึมของสที เ่ี กิดจาก
โดยท่ีกระบวนการทอได้รวบรวมความเป็นสัจจะวัสดุ การมัดจะว่ิงเข้าหากันเกิดเป็นรอยเหลื่อมลํ้ากันบน
เสน้ ใยกก นำ�มาทดลองใชส้ รา้ งสรรค์ผลงานใหม้ ีคุณคา่ เสน้ ใยในระหวา่ งการทอ เส้นใยท่ีใช้ในการทอผา้ มัดหมี่
มากกว่าการเปน็ เสน้ ใยปกต ิ และแสวงหาความลงตวั นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันส่วนใหญ่นิยมเลือกใช้เส้นใย
จากเส้นใยไหมและเส้นใยกกให้มากทสี่ ดุ อกี ทัง้ เพมิ่ จากธรรมชาติ ได้แก ่ เสน้ ใยไหม และเสน้ ใยฝ้าย
ความหลากหลายแกก่ ารทอจากเทคนิคการทอธรรมดา กก เป็นเสน้ ใยประเภทหนึง่ ทส่ี รา้ งสรรค์ข้นึ จาก
เปน็ การทอเอกลกั ษณเ์ ฉพาะตัวทีม่ คี วามชดั เจน นบั ว่า วชั พืชซง่ึ ข้นึ อยูต่ ามธรรมชาติ เดิมน�ำ กกมาตากแหง้
เป็นการสืบทอดงานมัดหมี่ศิลปะด้ังเดิมของไทย ยอ้ มส ี ทอสานเป็นเสอื่ เพ่อื ใช้สอยเพียงเทา่ นัน้ กกใน
พร้อมทั้งได้สืบสานภูมิปัญญาท้องถ่ิน ดำ�รงรักษา ประเทศไทยมีอยู่หลากหลาย ทง้ั กกนา กกบ้าน กกราชิน ี
วัฒนธรรมการทอผ้าในรูปแบบของลวดลายทอแบบ หรอื ในตระกูลเดยี วกนั อาทิ ไหล ผอื ธูปฤาษ ี เป็นวัชพืช
ดัง้ เดมิ และลวดลายการทอใหม่แบบงานศิลปะประยกุ ต์ ท่ไี ม่มีคุณคา่ ใดๆในระบบเศรษฐกจิ เมื่อน�ำ มาทอเปน็
แนวความคิดผลงาน “สะทอ้ นนา้ํ ” เส่อื แล้วแปรรูปจากเส่อื เปน็ ผลติ ภัณฑ ์ อาทเิ ช่น
ส่ิงที่เราเหน็ อาจไมเ่ ปน็ อยา่ งท่เี ราคดิ บางครั้งเรา ที่รองจาน ทีร่ องแกว้ กลอ่ งใส่กระดาษทชิ ช ู เป็นต้น
อาจมองเห็นความงามของส่ิงหนึ่งที่คุ้นชินด้วยความ นับเป็นการเพมิ่ มูลคา่ ของกกข้ึนอีกทางหน่ึงน้นั และ
บงั เอิญ เฉกเชน่ เดยี วกันกบั เงาท่เี กิดจากการสะท้อน ด้วยความต้องการท่ีจะสร้างมูลค่าเพิ่มแก่กกที่ตากแห้ง
ลงบนผืนนํ้า อาจเปน็ สิง่ หนง่ึ ท่ีสวยกวา่ วัตถตุ ้นก�ำ เนิด ซงึ่ มอี ยู่มากมายเกนิ ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค โดยการ
จริงตามตาเห็น วตั ถุผวิ นาํ้ อาจเปน็ ความชนิ ตาที่มอง พัฒนาเส้นใยกกยกข้ึนอีกระดับหนงึ่ สร้างสรรค์ผา่ น
เหน็ แต่ถ้าเรามองมุมกลับ ภาพทีส่ ะทอ้ นลงผวิ น้ําอาจ กระบวนการทอมัดหมี่แบบดั้งเดมิ ทใ่ี ช้เฉพาะเสน้ ใยฝา้ ย
ท�ำ ใหค้ วามรสู้ ึกของเราเปลีย่ นไป หรือเส้นใยไหมน้นั ดว้ ยการน�ำ เสน้ ใยกกมาทอรว่ มกบั
ผลงานโคมไฟช้ินน้ี สะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์ เสน้ ใยไหม สร้างสรรคใ์ หเ้ ป็นผลิตภณั ฑ์ใหมอ่ กี รปู แบบ
ความรู้สึกของข้าพเจ้าที่มีต่อธรรมชาติและสายน้ํา หน่งึ แตกตา่ งไปจากรปู แบบเดมิ
ระหวา่ งเวลากลางวนั และกลางคนื จากการมองเงา การทอ เริม่ จากเพยี งแนวคิดทีจ่ ะนำ�เทคนคิ การ
ท่ีสะท้อนลงผิวน้ําในเวลาท่ีต่างกัน ผลของการมอง ทอผ้ามดั หมไี่ หม และการสานเสอื่ กก มาผสานกนั ให้
เห็น…ต่างกัน อารมณ์ที่ได้รับรู้และสัมผัส…ต่างกัน เกิดความแปลกใหม่ ใหม้ ีความหลากหลายนา่ สนใจ
ความธรรมดาเปล่ยี นเปน็ ความพิเศษ ไม่ไดพ้ เิ ศษใน มากกว่าการทอเป็นผืนผ้า จากผ้าทอ แปรเปล่ียน
สง่ิ ทส่ี ะทอ้ นนํา้ แต่พเิ ศษในส่งิ ทใี่ จมองเหน็ …ตา่ งหาก เพ่ิมเติมเป็นงานสร้างสรรค์เชิงศิลปกรรม โดยได้
ที่มาและความสำ�คัญของการสร้างสรรค์ผลงาน รวบรวมความเปน็ วสั ดทุ ้องถนิ่ ไหม และ กก ท่สี ามารถ
สายน้าํ เปน็ แนวความคดิ หลกั ในการเร่มิ ตน้ ของ นำ�มาใช้ให้เกิดประโยชน์ นำ�มาทดลองใช้ในทาง
กระบวนการสรา้ งสรรค์ จากแนวความคดิ ทแ่ี สนธรรมดา สรา้ งสรรคก์ ารทอให้มากกวา่ การเป็นเสน้ ใยปกติ และ
นำ�เสนอในรูปแบบของความธรรมดาบนแนวคิดใหม่ แสวงหาความลงตัวจากเส้นใยไหมและเส้นใยกกให้
เกิดเป็นผลงานสร้างสรรค์ส่ิงทอท่ีมีเอกลักษณ์พิเศษ มากท่สี ุด
51
66
การพัฒนาเครอ่ื งยอ้ มสีธรรมชาติ
กลุ่มผูร้ ว่ มสร้างสรรคผ์ ลงานวิจัย :
กรรณิกา ชะไวริน / ปฐมาวดี อธิวงศ์ / วรรณรวี สิทธวิ งศ์ / ปาเจรา พัฒนถาบุตร
ภาควชิ าวิทยาการและวศิ วกรรมวสั ดุ คณะวิศวกรรมศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร
ปัจจุบันการย้อมสีผ้าทอพื้นเมืองนิยมย้อมด้วย คงทนของสตี อ่ แสง และความคงทนของสตี ่อการซกั ล้าง
สีสงั เคราะห์ เนอื่ งจากสามารถควบคุมเฉดสขี องผา้ ยอ้ ม ส่วนการย้อมสีครามซึ่งเป็นสีแวตจะทำ�การย้อมสี
ให้ได้เฉดสีเหมือนกันเมื่อทำ�การย้อมซํ้าสำ�หรับการผลิต แบบเย็น โดยใช้โซเดียมไทโอซลั เฟตปรมิ าณ 5% เปน็
ในปรมิ าณมาก แต่สสี ังเคราะห์มีราคาแพง และกรรมวธิ ี สารรดี วิ ซแ์ ล้วตามดว้ ยการออกซิเดชน่ั ในอากาศ ท�ำ การ
การยอ้ มผา้ ทอพน้ื เมืองด้วยมืออาจทำ�ใหม้ ีสีสังเคราะห์ ย้อมซา้ํ 3 และ 6 รอบ ใชเ้ วลารอบละ15 นาที แล้ว
และสารช่วยย้อมตกค้างในนํ้าทิ้งและส่ิงแวดล้อมใน ทำ�การเปรียบเทียบอิทธิพลผลของการปรับสภาวะ
ปริมาณมาก ดังน้ันในปัจจบุ ันจงึ มคี วามสนใจในการใช้สี นํ้าย้อมเป็นเบสโดยใช้นํ้าขี้เถ้าจากพืชท่ีได้จากธรรมชาติ
จากแหลง่ ธรรมชาตมิ ากขึน้ แต่การยอ้ มด้วยสธี รรมชาติ และสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ จากผลการทดลอง
น้ียังมีปัญหาในเรื่องของความหลากหลายของเฉดสี พบวา่ ดา้ ยฝา้ ยแตล่ ะไจทย่ี อ้ มจากเคร่อื งยอ้ มท่ีสรา้ งข้ึน
ความคงทนของสีตอ่ แสงและตอ่ การซกั ลา้ ง อกี ทงั้ มเี ฉดสที ่ีเหมือนกันทร่ี ะดบั ความเช่ือมน่ั ทร่ี อ้ ยละ 95
การยอ้ มซํ้าเพือ่ ใหไ้ ด้เฉดสเี ดมิ ท�ำ ได้ยาก ดังนั้นจึงมี นอกจากน้ียังพบว่าการใช้โซเดียมคลอไรด์ช่วยในการ
ความพยายามในการปรบั ปรงุ เฉดสีใหมๆ่ เพือ่ ใหเ้ ขา้ กบั ยอ้ มจะไดเ้ ฉดสที ่มี ีความสว่างเพ่ิมข้ึน และเมือ่ น�ำ ไป
ยคุ สมยั และสามารถใช้งานไดก้ บั บุคคลไดไ้ มจ่ ำ�กัดวยั ทดสอบความคงทนต่อการเปลยี่ นแปลงเฉดสี โดย
และการควบคุมมาตรฐานการผลิตเพ่ือให้ได้ผ้าย้อม ตากแสงแดดเปน็ ระยะเวลา 13 วนั โดยมีค่าความ
ทมี่ ีคณุ ภาพการติดสีสมํ่าเสมอ และสามารถท�ำ การ เขม้ แสงเฉลยี่ ตลอดระยะเวลาการทดสอบ 711 lux.
ย้อมซา้ํ ได้ งานวิจัยนม้ี ีวตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื ท�ำ การพฒั นา พบวา่ การใช้สารชว่ ยย้อมทำ�ให้ได้เฉดสีท่นี า่ สนใจมาก
กระบวนการย้อมสีธรรมชาติเพื่อให้สามารถทำ�การ ข้นึ โดยท่ไี มท่ ำ�ให้ดา้ ยฝ้ายย้อมสีธรรมชาตมิ คี วามคงทน
ยอ้ มซํา้ ใหไ้ ด้เฉดสีเหมอื นเดิม โดยท�ำ การพฒั นาเครอ่ื ง ของสีต่อแสงและความคงทนของสีต่อการซักล้างลดลง
ย้อมสธี รรมชาตดิ ้ายฝา้ ยครัง้ ละ 5 ไจๆละ 500 กรัม และในการย้อมด้ายฝา้ ยด้วยสีครามพบวา่ การยอ้ มโดย
จากน้ันทำ�การทดสอบความสมํ่าเสมอของเฉดสีย้อม ใช้น้ําด่างจากขี้เถ้าพืชยังช่วยเพิ่มความคงทนของสี
ของดา้ ยฝ้ายจำ�นวน 5 ไจ ที่ย้อมได้จากเคร่ืองย้อม ตอ่ แสง ดงั นนั้ การควบคมุ สภาวะการย้อมสีธรรมชาติ
ในครั้งเดยี วกัน และวเิ คราะห์ประสทิ ธภิ าพความแม่นยำ� จะเป็นปัจจัยสำ�คัญท่ีทำ�ให้ประสิทธิภาพการย้อมสีดีขึ้น
ของการย้อมซ้าํ ส�ำ หรบั การย้อมสแี ม่สี 3 สี ได้แก่ สแี ดง ทำ�ให้คุณภาพของผ้าย้อมสีธรรมชาติดีขึ้นเพื่อให้ผู้ซ้ือ
จากแก่นฝาง สีเหลืองจากแก่นขนุน และสีนา้ํ เงินจาก และผู้สวมใส่มีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ท่ีทำ�จากผ้าย้อมสี
คราม ส�ำ หรบั การย้อมสแี ก่นขนุน และแกน่ ฝาง จะเป็น ธรรมชาติ เป็นการช่วยสง่ เสริมใหผ้ ้าทอพื้นเมอื งย้อมสี
การยอ้ ม แบบรอ้ นทอี่ ุณหภูมิ 80 องศาเซลเซยี ส เป็น ธรรมชาติเปน็ ทนี่ ิยมมากขนึ้ ซ่งึ จะสง่ ผลในการชว่ ยส่งเสริม
เวลา 2 ช่ัวโมง โดยใชอ้ ะลูมเิ นยี มซลั เฟตเปน็ สาร อาชีพให้แก่ชาวบ้าน และสรา้ งความนิยมในการใช้สีย้อม
มอร์แด้นท์ ชว่ ยในการยดึ ตดิ สีธรรมชาติ และท�ำ การ ธรรมชาติในการย้อมผ้าทอพ้ืนเมืองเพื่อเป็นการอนุรักษ์
ศึกษาผลของการใช้สารช่วยย้อมให้มีความสม่ําเสมอ สงิ่ แวดล้อม และเป็นการตระหนกั ถงึ คณุ คา่ ของภมู ปิ ัญญา
ของสี คือ โซเดียมคลอไรดป์ ริมาณ 5% ทมี่ ีต่อความ ศิลปวัฒนธรรมไทยอกี ด้วย.
67
ผลงาน : “After Rain [May] - 2”
เทคนิค : Organic Print
ขนาด : 57 cm. x 67 cm.
ปี พ.ศ. : 2555
ผลงาน : “Golden Seeds”
เทคนิค : Organic Print
ขนาด : 43.5 cm. x 63 cm.
ปี พ.ศ. : 2555
82
ภาพพิมพ์สธี รรมชาติ
ผสู้ รา้ งสรรค์ผลงานวิจัย :
ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ญาณวิทย์ กญุ แจทอง
ภาควิชาภาพพิมพ์ คณะจิตรกรรมประตมิ ากรรมและภาพพมิ พ์ มหาวิทยาลัยศลิ ปากร
ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ญาณวทิ ย์ กญุ แจทอง เป็น พืชพันธุ์ธรรมชาติท่ีใช้ในการศึกษาและสร้างผลงาน
ผู้ริเริ่มคนแรกในการนำ�สีจากวัตถุดิบในธรรมชาติ เป็นพชื พนื้ ถนิ่ ของไทย เชน่ มะพลบั มะเกลือ มะหาด
มาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะภาพพิมพ์โดยกระบวนการ มงั คุด ขมนิ้ ชัน ไพล ฟ้าทะลายโจร เป็นตน้
Organic Print Process ทเ่ี ขาคดิ ค้นขึน้ มาใหม่ นอกจากองค์ความรู้เกี่ยวกับการสกัดสีจากพืช
ซ่ึงแรงบันดาลใจท่ีนำ�มาสู่การสร้างสรรค์น้ีเกิดจากการ ชนดิ ตา่ งๆ และเทคนคิ การสรา้ งงานศิลปะแล้ว ผลกระทบ
ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากการใช้สารเคมีในการ สำ�คญั ทีเ่ กดิ ขน้ึ ก็คือ การกระตุน้ ใหผ้ ู้ทสี่ นใจเสนองาน
ผลิตงานภาพพิมพ์โดยท่ัวไป ซ่ึงทำ�ให้เกิดอันตราย ศิลปะภาพพมิ พด์ งั กลา่ วไดเ้ ห็นความสำ�คญั ของการลด
ต่อสุขภาพของผู้สร้างผลงาน ตลอดไปจนถึงส่ิงแวดลอ้ ม การใช้สารเคมี การรักษาสิง่ แวดลอ้ ม และการอนรุ กั ษ์
ประกอบกับการเลีย้ งดูและส่งั สอนจากบดิ า ซ่งึ เป็น พืชพันธ์ุไม้ของไทย ซึ่งหลายชนิดนอกจากจะให้สี
เจ้าของพื้นทป่ี ่า 108 ไร่ในจังหวดั เพชรบรุ ี ซงึ่ ใช้เป็น แลว้ ยังมีคุณสมบัติที่เปน็ ประโยชน์อืน่ ๆ อกี มาก
พน้ื ท่ใี นการอนุรักษพ์ ชื ต่างๆ ทห่ี ายากมากมายซง่ึ ส่งผล
ให้เห็นคุณค่าของพืชพันธ์ุต่างๆ จึงได้สะท้อนลง
ในผลงานศลิ ปะภาพพมิ พ์
ในกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานได้มีการนำ�
ความรู้เกี่ยวกับพืชชนิดต่างๆ มาใช้ในการสกัดสี
ซ่ึงพืชแต่ละชนิดจะมีลักษณะเฉพาะในการให้สี
ซึ่งความรู้ที่ได้เกิดจากการทดลอง ค้นคว้า และ
จดบนั ทึก จนได้เปน็ องคค์ วามรู้ท่ีสามารถน�ำ มาทำ�ซ้ํา
และถ่ายทอดให้ผอู้ ่นื ตลอดจนการพัฒนาเทคนคิ ทนี่ �ำ
ไปสู่การสร้างผลงานศิลปะภาพพิมพ์ที่เป็นอัตลักษณ์
เฉพาะตน
83
98
การใชเ้ อนไซมแ์ ละเทคนคิ in situ product removal
ช่วยในการสกัดสารเจนพิ ินจากผลพดุ ในข้ันตอนเดยี ว
ผู้สร้างสรรค์ผลงานวิจัย :
เภสัชกร รองศาสตราจารย์ ดร.ธีรศักด ิ์ โรจนราธา
ภาควิชาเภสัชเคมี และกลมุ่ วจิ ยั และพฒั นานวตั กรรมสเี ขียวทางเภสัชศาสตร์ คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร
เจนิพิน (Genipin) เป็นสารจากธรรมชาตทิ ีไ่ ดจ้ าก In situ product removal โดยเตมิ เอทลิ อะซเี ตต
ผลของพืชตระกูลพุด มีคุณสมบตั ิในการท�ำ ปฏกิ ริ ยิ า (Ethyl acetate) ซึ่งมีความเป็นพษิ ตํา่ และปลอดภัย
กบั หม่เู อมีนปฐมภมู ิ (Primary amine) ได้สารสีน้าํ เงิน ตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม เปน็ ตวั ท�ำ ละลายอินทรียแ์ ยกชน้ั ลอยตัว
ซงึ่ มคี วามคงตวั และปลอดภยั ปจั จบุ นั จึงมกี ารน�ำ สาร อยู่เป็นวฏั ภาคช้ันบน ท�ำ หนา้ ทส่ี กดั แยกเจนิพนิ ท่เี กิดขึ้น
ชนิดนี้มาใช้แต่งสีในอาหารและเป็นสีย้อมสำ�หรับ ไปพร้อมกับการสกัดผลพุดและการตัดหมู่น้ําตาล
ผลิตภัณฑ์สงิ่ ทอ นอกจากนย้ี งั มีรายงานเกี่ยวกับฤทธ์ิ ส่งเสริมให้การสกัดและปฏิกิริยาเคมีเป็นไปอย่าง
ทางเภสชั วทิ ยาของเจนพิ ิน เช่น ฤทธิต์ า้ นการอักเสบ ต่อเนอื่ ง ลดการสลายตัวของเจนพิ นิ ในชั้นนํา้ และ
ฤทธต์ิ า้ นเช้อื แบคทเี รีย และฤทธิ์ลดระดับนา้ํ ตาลใน ทำ�ให้ได้ผลิตภัณฑ์ท่ีมีความบริสุทธ์ิสูงอยู่ในช้ันเอทิล-
เลอื ด เปน็ ตน้ ปัจจบุ ันวธิ กี ารเตรียมเจนพิ ินเรมิ่ ต้น อะซเี ตต จากการศกึ ษาพบวา่ สภาวะที่เหมาะสมใน
จากการสกัดผลพุดด้วยตัวทำ�ละลายอินทรีย์ แต่ กระบวนการผลติ ได้แก่ การใช้เซลลูเลสในอัตราสว่ น
เนื่องจากในธรรมชาติมักพบเจนิพินในปริมาณน้อย 150 มลิ ลิกรมั ตอ่ ผงพืชแหง้ 1 กรัม ท�ำ ปฏกิ ิริยาท่ี
และสารที่สกัดไดส้ ว่ นใหญ่อยู่ในรปู ไกลโคไซด์ ไดแ้ ก่ อณุ หภมู ิ 50 องศาเซลเซียส ค่าความเป็นกรดดา่ ง
เจนโิ พไซด์ (Geniposide) ดังนน้ั หลงั จากการสกัด หรือพเี อชเทา่ กบั 4 เปน็ เวลา 24 ชว่ั โมง วิธที ีพ่ ฒั นา
จะต้องแยกเอาเจนิโพไซด์ไปผ่านข้ันตอนการทำ�ให้ ขึน้ ให้ผลผลติ ของเจนพิ นิ 58.83 มลิ ลกิ รัมตอ่ ผลพดุ แห้ง
บริสุทธิ์ แล้วจงึ นำ�เจนิโพไซด์ท่ไี ด้ไปกำ�จดั หม่นู ํ้าตาล 1 กรมั ซึง่ เพิ่มขนึ้ 12.38 และ 1.72 เทา่ เมือ่ เทียบกับ
ในโครงสร้างโดยใช้เอนไซม์ เช่น เบตา้ กลูโคสเิ ดส วธิ สี กดั โดยไม่ไดใ้ ชเ้ อนไซมช์ ว่ ย และวธิ สี กดั โดยไม่ไดใ้ ช้
เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลติ ภัณฑเ์ จนพิ นิ ตามตอ้ งการ ส่งผลให้ เอทลิ อะซเี ตตรว่ มด้วย ตามลำ�ดับ ดังน้ันวธิ ีการท่พี ฒั นา
กระบวนการผลติ มหี ลายขัน้ ตอนซง่ึ ยุ่งยาก ใช้สารเคมี ข้นึ น้จี งึ มีประสทิ ธภิ าพ สะดวก รวดเรว็ เปน็ มติ รต่อ
หลายชนิดในปริมาณมาก และยังสิ้นเปลืองเวลา สิ่งแวดลอ้ ม และเหมาะสมส�ำ หรบั น�ำ ไปใช้เตรยี มสาร
งานวิจัยน้ีจึงได้พัฒนาและปรับปรุงวิธีการสำ�หรับ เจนิพินจากผลพุด และยังอาจนำ�ไปประยุกต์ใช้กับ
เตรยี มเจนพิ นิ ในขั้นตอนเดียว โดยนำ�เซลลูเลสซ่ึงเป็น การสกัดสารสำ�คญั จากพชื ชนิดอ่ืนๆ ประเภทไกลโคไซด์
เอนไซม์ที่สามารถทำ�ลายผนังเซลล์พืชมาช่วยย่อย ซ่ึงท่ีต้องมีการกำ�จัดหมู่นํ้าตาลออกจากโครงสร้างได้
ผลพุดในขั้นตอนการสกัดเพื่อให้สารสำ�คัญถูกปลดปล่อย อกี ด้วย
ออกมาจากผงพืชได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ในขณะเดยี วกัน
เซลลูเลสยังทำ�หน้าที่เร่งปฏิกิริยาการตัดหมู่นํ้าตาล
ในโครงสร้างของเจนิโพไซด์ ทำ�ให้เจนิโพไซด์ที่ถูก
ปลดปล่อยออกมาจากผลพุดเปล่ียนไปเป็นเจนิพิน
ได้ทันทีโดยไม่ต้องมีข้ันตอนการแยกสารและทำ�ให้
บรสิ ทุ ธิ์ นอกจากนง้ี านวิจัยยังไดป้ ระยกุ ตใ์ ช้เทคนคิ
99
114
งานสรา้ งสรรค์สอ่ื กราฟิกเคลอ่ื นไหว
กลุม่ ผู้ร่วมสรา้ งสรรคผ์ ลงานวิจยั :
อาจารย์ณัฐพร กาญจนภมู ิ / นายฑิคัมพร ศรีสังข์งาม / นางสาวศรวี งศ์ ตะเภาพงค์ / นายฐติ ิชนม์ จุ้ยเจริญ / นางสาวพนาพร มะลิขาว
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร
สภาพสังคมปัจจุบันการใช้ชีวิตแบบคนเมืองที่มี เป็นส่วนหน่ึงของต้นไม้และใช้ต้นไม้เป็นตัวเชื่อมโยงไป
ชวี ติ แบบบรโิ ภคนิยม นอกจากจะต้องการส่งิ จ�ำ เปน็ อธบิ ายการท�ำ งานของหัวข้อวิจัยในแต่ละเรอื่ ง เพือ่
พนื้ ฐานของชวี ิตได้แก่ ปจั จัย 4 แล้วยังมคี วามตอ้ งการ แสดงถึงผลงานสร้างสรรค์ตามแนวคิดนวัตกรรม
สิ่งอำ�นวยความสะดวก และสงิ่ ของหรูหราฟุม่ เฟือยต่างๆ สเี ขยี วนี้ ทีส่ ามารถน�ำ ชีวติ ไปสคู่ ณุ ภาพชวี ิตท่ีดยี ง่ิ ข้ึน
เม่ือมีความต้องการในการบริโภคมาก จึงทำ�ให้กลุ่ม รวมถงึ การสะทอ้ นใหเ้ ห็นถงึ ศกั ยภาพของ “Green
อุตสาหกรรมต้องผลิตสินค้าให้เพียงพอแก่ความต้องการ University” : มหาวิทยาลยั ศิลปากร มหาวิทยาลยั
ของผ้บู รโิ ภค ซ่งึ น�ำ มาสู่การใช้พลังงานอย่างมหาศาล ชั้นนำ�แห่งการสร้างสรรค์ ซ่ึงในงานสร้างสรรค์สื่อ
อีกทั้งเทคโนโลยีการผลิตที่เน้นแต่ด้านผลผลิตอาจจะ กราฟกิ เคลอื่ นไหวน้ไี ดม้ ีการอธบิ ายผลงาน 6 ชนิ้ งาน
กอ่ ใหเ้ กิดปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มตามมา สถาบนั วิจัยและ ดงั นี้
พัฒนา มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร ไดน้ ำ�เสนอผลงานวจิ ัย 1. Banana Society : โครงการนวัตกรรมการ
สร้างสรรค์ของมหาวิทยาลัยภายใต้แนวคิด Green ผลิตกล้วยตากแห่งแรกของประเทศไทย โดยใช้ระบบ
Innovations towards Quality of Life through GMP และพลังงานแสงอาทติ ย์
Creativity ในการประชมุ “มหกรรมการนำ�เสนอผลงาน 2. เส้นใยธรรมชาตภิ ายในประเทศ : การออกแบบ
วจิ ัยแห่งชาติ 2556” เพื่อถ่ายทอดองค์ความรทู้ างดา้ น เครอ่ื งเรือนและผลิตภัณฑ์ เพือ่ ลดภาวะโลกร้อน ตลอดไป
วิชาการภายใต้แนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานตาม จนถึงการสะทอ้ นเอกลกั ษณ์และภมู ิปญั ญาพื้นถิ่น
หลักการของนวัตกรรมสเี ขยี ว คอื การลดของเสยี และ 3. การสร้างสรรคง์ านทอมัดหมี่ร่วมสมัย : เป็นการ
การลดการใชพ้ ลงั งาน (Reduce) การใช้ซ้ํา (Reuse) ผสมผสานระหวา่ งเส้นใยกกกับเส้นใยไหม เพ่อื ผลิต
การน�ำ มาปรับใชใ้ หม่ (Recycle) และการซ่อมบ�ำ รุง ผลติ ภัณฑ์ทีใ่ ช้ในการตกแต่งท่อี ยอู่ าศยั
(Repair) รวมไปถึงการเป็นมิตรกับสงิ่ แวดลอ้ ม เพอ่ื ให้ 4. ผลติ ภณั ฑ์และบรรจภุ ัณฑจ์ ากสีธรรมชาติ :
ผู้ชมเข้าใจในผลงานวิจัยที่นำ�มาเสนอในงานนี้มากข้ึน เป็นโครงการท่ีเน้นการใช้สีธรรมชาติเพื่อย้อมสิ่งทอ
จึงนำ�ข้อมูลของการวิจัยมานำ�เสนอในรูปแบบของ ที่ใชใ้ นการผลิตเครือ่ งนุ่งห่ม และเคร่ืองประดับ
การสอื่ สารประเภทอินโฟกราฟกิ (Infographics) ซ่ึง 5. Green Pharmacy : กระบวนการทาง
เปน็ รูปแบบที่เน้นการใชภ้ าพ คอมพวิ เตอร์กราฟกิ เขา้ มา เภสัชศาสตร์ ซง่ึ ใช้แนวทางที่เปน็ มิตรกับสิง่ แวดล้อม
ช่วยในการอธิบายเร่ืองที่ยากต่อความเข้าใจให้สามารถ 6. Organic Print : การสรา้ งสรรคภ์ าพพิมพ์
ท�ำ ความเข้าใจได้ง่ายขึ้น เนน้ ท่ีการใช้ภาพประกอบ จากสธี รรมชาติ ซึ่งเปน็ การผลติ ผลงานศลิ ปะทม่ี คี วาม
และการเคลอื่ นไหวเข้ามาช่วยอธิบายผลงานวิจัย โดย เป็นมิตรกบั สิง่ แวดล้อม
ทำ�การศึกษากระบวนการตีความจากงานวิจัยมาเป็นบท
ตีความจากบทมาเปน็ ภาพกราฟกิ แลว้ นำ�มาสร้างภาพ
เคล่ือนไหว โดยออกแบบใหห้ ัวข้องานวจิ ัยแตล่ ะเรอ่ื ง
115
130
เพลงในภวังค์และความคดิ
เพลงประกอบงานสรา้ งสรรค์สือ่ กราฟิกเคลอ่ื นไหว
ผู้สร้างสรรค์ผลงานวิจยั :
อาจารย์สำ�เภา ไตรอดุ ม
คณะดรุ ยิ างคศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศิลปากร
แนวคิดที่ใช้ในการประพันธ์เพลงประกอบส่ือกราฟิก
เคล่ือนไหวช้ินนี้ มีพื้นฐานความคิดจากเน้ือเร่ืองของ
สื่อน้ีที่เก่ียวกับหลักการนวัตกรรมสีเขียว การลด
ของเสีย การนำ�กลับมาใช้ใหม่ หรอื การน�ำ มาปรบั ใช้
ใหม่ ดว้ ยความคดิ ใหม่ๆ โดยใช้ภาพเคลอ่ื นไหวทีส่ ่ือสาร
เขา้ ใจง่าย
ผู้ประพันธ์ได้คิดเลือกท่ีจะใช้ดนตรีแนวท่ีเรียกว่า
“มินิมอลมิวสคิ ” หรือท่ีเรียกว่า “มนิ มิ อลลิสต์” เพื่อท่จี ะ
ประพันธ์เข้าได้กับงานชิ้นน้ี เน่ืองจากพื้นฐานของดนตรี
ชนดิ นเ้ี กดิ จากการใชว้ ัตถุดบิ ทางดนตรที จี่ �ำ กัด และง่าย
มีการใช้ส่ิงวนซ้ํา และค่อยๆเปลี่ยนแปลงในขณะที่
เคล่ือนไหวไปข้างหน้าโดยที่มีผู้รู้หลายท่านทางดนตรี
ได้สรุปไว้ว่า ดนตรีมินิมอลลิสต์น้ี เข้ากันได้กับ
พระพุทธศาสนา ในเชงิ ปรัชญา และทางจติ วญิ ญาณ
โดยมุง่ เข้าหาจิตใจผ่านตวั สื่อสารทส่ี งบนงิ่ แต่เต็มไปดว้ ย
ความคิดอันลกึ ซ้งึ แยบยล ซึง่ ผู้ประพนั ธ์เห็นวา่ สอดคล้อง
กับสอ่ื กราฟิกเคลื่อนไหวชน้ิ น้ีเปน็ อยา่ งดี
ไมว่ ่าการสอื่ สารของการนำ�มาใชใ้ หม่ การใชว้ ัสดุ
ทมี่ าจากธรรมชาติ ลว้ นแลว้ แตเ่ ปน็ จุดก�ำ เนิดสะท้อน
ให้คนเรามองย้อนมาท่ีความต้องการที่แท้จริงของการ
ใช้ชีวิต ไม่ใช่ความต้องการที่เกินตัวด้วยความโลภ
หลง หรอื เหตผุ ลอนื่ ๆ ที่เปน็ สาเหตุแห่งความฟมุ่ เฟือย
อย่างไม่มีจุดส้ินสุดส่วนท่ีลงตัวเหมือนกันของแนวคิด
แบบวิธีแนวน้ี และดนตรแี บบมนิ ิมอลลิสต์ ทคี่ ล้องจอง
กับแนวความคิดทางพุทธศาสนา จึงเข้ากันที่สุดที่
ผู้ประพนั ธจ์ ะนำ�มาใชอ้ ย่างยิง่
131
146
การปรงุ สีและการเทียบค่ามาตรฐานของชุดสีไทยโทน
เพอื่ การสรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะและการออกแบบที่แสดงอตั ลกั ษณไ์ ทย
ความพยายามตามหาตน้ ทนุ ทางวฒั นธรรมท่ีสั่งสม กล่มุ ผู้รว่ มสรา้ งสรรค์ผลงานวิจยั :
มาต้งั แต่โบราณ เพ่ือสรา้ งอตั ลกั ษณข์ องชาติ ให้ชดั เจน
ยงิ่ ขึ้น และต้องแข่งกบั เวลาอนั เนื่องจากต้นทนุ เหลา่ นี้ นายไพโรจน์ พิทยเมธี
กำ�ลังจะสูญหายไปจากการถ่ายทอดองค์ความรู้ คณะมณั ฑนศลิ ป์ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร
ด้านศิลปกรรมศาสตร์และงานสร้างสรรค์ของไทย
ส่วนใหญ่ เปน็ การถ่ายทอดจากครูสศู่ ิษย์ ใชก้ ารจดจำ� แม่นยำ�เป็นมาตรฐาน ย่ิงไปกว่านั้น ศิลปินและ
บอกเลา่ การเรียนรผู้ า่ นการปฏิบตั ิจากรุน่ สู่รนุ่ โดยแทบ นักออกแบบไทยรุ่นใหม่จำ�นวนมากไม่ทราบว่ามี
ไมม่ ีการบันทกึ เป็นลายลกั ษณ์อักษร ท�ำ ใหบ้ อ่ ยคร้ัง “สไี ทย” อย่ดู ้วยซ้าํ การสรา้ งสรรค์งานศิลปะและ
องค์ความรู้ทม่ี ีคณุ คา่ เหลา่ นน้ั ไดส้ ญู หายไป จึงจ�ำ เปน็ การออกแบบ ท่ตี อ้ งการแสดงถึงอตั ลกั ษณ์ไทย จงึ ขาด
ตอ้ งมกี ารจดั การความรู้ใหเ้ ปน็ ระบบ สามารถเผยแพร่ แหล่งอ้างองิ ที่ชดั เจนและเป็นมาตรฐาน เช่น ระบบสี
ถ่ายทอดเปน็ องค์ความรู้ น�ำ ไปใชใ้ นการสร้างสรรค์งาน CMYK ระบบสีตาย (Solid Color) หรือระบบแพนโทน
ศิลปะและงานออกแบบ และ ขยายผลสู่การเป็น (Pantone) ที่ใชใ้ นการออกแบบสิ่งพิมพ์ การออกแบบ
มาตรฐานทางวิชาการตอ่ ไป สถาปัตยกรรม การออกแบบตกแตง่ ภายใน การออกแบบ
“สี” เป็นองค์ประกอบหลักหนึ่งของงานทศั นศิลป์ ผ้าและสิ่งทอ การออกแบบผลิตภัณฑ์และ
มีอิทธิพลอย่างยิ่งในการแสดงอารมณ์ ความรู้สึก หตั ถอุตสาหกรรม ฯลฯ
ไปจนถึงบุคลิกภาพเฉพาะตน “สีไทย” เป็นต้นทุน จึงเป็นท่มี าของโครงการวจิ ัย การปรงุ สแี ละการ
อันแสดงถงึ อตั ลักษณ์เฉพาะของไทย ท่ีมีความโดดเดน่ เทียบคา่ มาตรฐานของชุดสีไทย เพ่อื การสรา้ งสรรค์
อย่างยง่ิ ในเรื่องการเรยี กชอื่ ของสี เชน่ สีนา้ํ ไหล สเี สน งานศิลปะและการออกแบบท่ีแสดงอัตลักษณ์ไทย
สหี งสบาท ฯลฯ ซ่ึงชอ่ื เรียกเหล่านีม้ ที มี่ าที่น่าสนใจ ท่จี ะท�ำ การบันทึกองคค์ วามร้อู นั มคี ่า วิเคราะหแ์ ละ
รวมท้ังวิธกี ารปรุงสี แบบอย่างเฉพาะ (Style) และ เปรยี บเทยี บเปอร์เซน็ ตส์ ี ตามระบบการพิมพ์ CMYK
เทคนิควิธกี ารน�ำ ไปใช้ ท�ำ ตัวอย่างในระบบสตี าย บนั ทึกเปน็ คา่ มาตรฐานเพื่อ
องค์ความรเู้ รือ่ งสีไทย เปน็ ความรเู้ ฉพาะตนของ ให้ถูกนำ�ไปใช้งานทางศิลปะและการออกแบบอย่าง
ครชู า่ ง ปัจจุบนั ถกู ใช้ทำ�งานศลิ ปะในวงจำ�กัด คอื ศลิ ปะ แพรห่ ลายในวงกวา้ งมากขนึ้ และให้ “สไี ทย” อัตลักษณ์
การท�ำ หัวโขน จติ รกรรมไทยประเพณี ผา้ ไทย เครอ่ื ง ทางวัฒนธรรมท่ีกำ�ลังจะสูญหาย สามารถคงอยู่
ประดบั ไทยโบราณ ยงั ไมม่ ีการเผยแพรแ่ ละ นำ�มา อย่างมีชีวิต พัฒนาและเติบโตร่วมไปกับสังคมไทย
ประยุกต์ใช้ในงานศิลปะและการออกแบบอื่นๆ ทัง้ ในปัจจบุ ันและสบื ไปในอนาคต
เน่ืองจากเป็นองค์ความรู้ที่ยังไม่มีการจัดการอย่างเป็น
ระบบ แมแ้ ต่ผู้ที่ทำ�หวั โขนและจิตรกรรมไทยประเพณี
ส่วนใหญ่ก็ไม่ทราบถึงวิธีการปรุงสี มีอุปสรรคใน
การเข้าถึงแหล่งข้อมูลและการเทียบสีที่ถูกต้อง
147
www.surdi.su.ac.th