The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pondcspb0077, 2022-01-31 12:22:41

โครงงาน

โครงงาน

โครงงานวทิ ยาศาสตร์
เรื่อง สมุนไพรกำจัดมด

โดย
นางสาวจนั ทกานติ์ สวุ รรณโชติ เลขที่ 10

นายจิรณัฐ จันทบูรณ์ เลขที่ 24

โครงงานเล่มน้เี ปน็ ส่วนหน่ึงของโครงงานวทิ ยาศาสตรส์ ง่ิ ประดิษฐ์
ตามหลักสูตรหอ้ งเรียนวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์

ณ โรงเรยี นเทศบาล 4 (วัดโพธาวาส) อำเภอเมอื ง จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี

โครงงานวทิ ยาศาสตร์
เร่ือง สมนุ ไพรกำจดั มด

โดย
นางสาวจนั ทกานต์ิ สวุ รรณโชติ เลขท่ี 10

นายจริ ณัฐ จนั ทบรู ณ์ เลขที่ 24

ครทู ี่ปรกึ ษา
ครูปรีดา บัวยก

โครงงานเล่มน้ีเป็นส่วนหนึ่งของโครงงานวทิ ยาศาสตรส์ ิง่ ประดิษฐ์
ตามหลักสูตรหอ้ งเรียนวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์

ณ โรงเรียนเทศบาล 4 (วัดโพธาวาส) อำเภอเมอื ง จังหวัดสุราษฎรธ์ านี



บทคัดยอ่

ในปัจจุบันประสบปัญหามากมายจากมดต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในบ้านหรือทำรังอยู่ตามที่ต่างๆ ส่งผลให้
เกิดความเดอื นร้อนภายในครัวเรือน มีทงั้ การการท่ีมดข้ึนอาหารหรือของกินต่างๆ ภายในบา้ นและมดกัด จึงคิดค้น
วิธที ่จี ำแก้ปัญหาท่เี กิดข้ึน

โดยข้อมูลท่ีศึกษาไดจ้ ากคนภายในชุมชนและคนในหมบู่ ้านพบวา่ มีปัญหามดข้ึนของกินอาหารต่างๆพบ
มากข้นึ เร่ือยๆ และทำให้ภายในครัวเรือนเดือดร้อน

โครงงานนี้จึงจัดทำเพื่อแก้ไขปัญหามดขึ้นสิ่งขอาหารต่างๆและลดการรเกิดปัญหาเรื่อ งมดภายใน
ครวั เรือน



Abstract

At present, there are many problems from various ants. hidden in the house or nesting
in various places resulting in heat in the household There are ants growing food or food in the
house. and ants bite, therefore invented a way to remember to solve problems that arise.

The data studied from people in the community and villagers found that there was a
problem with ants growing food. Various things are found more and more and cause trouble
within the household.

This project is therefore prepared to solve the problem of ants growing various food items
and reduce the problem of internal ants. Household.



กติ ติกรรมประกาศ

โครงงานเรื่อง สมุนไพรกำจัดมด ได้รับความกรุณาจากคุณครูที่ได้ให้คำแนะนำต่างๆและสนับสนนุ ใน
การจัดทำโครงงาน คณะผจู้ ดั ทำขอขอบคณุ เปน็ อย่างสูง ณ โอกาสนี้ ขอขอบคุณคุณครูท่ีได้ให้ข้อมลู และมีส่วนร่วม
ในการดำเนินงานโครงงานกระถางต้นไม้จากกาบกล้วยทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง และคนอื่นๆขอขอบคุณคณะ
คุณครู ที่ให้การสนับสนุนที่ไดใ้ ห้คำแนะนำในการทำโรงงานจนสำเร็จลุล่วงดว้ ยดี หากมีข้อผิดพลาดประการใดขอ
อภยั มา ณ ที่น้ีดว้ ย

คณะผจู้ ัดทำ

สารบัญ ง

บทคัดย่อ หน้า
Abstract
กติ ติกรรมประกาศ ก
สารบญั ข
สารบญั ตาราง ค
บทที่ 1 บทนำ ง

ท่มี าและความสำคัญ 1
วัตถุประสงค์ 1
ขอบเขตการศกึ ษา 1
สมมติฐานการทดลอง 1
ตวั แปรที่ศกึ ษา 2
นยิ ามศัพท์เฉพาะ 2
บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เกยี่ วข้อง 2
เอกสารทเี่ ก่ียวขอ้ ง 3
งานวิจนั ทเี่ ก่ยี วข้อง 3
บทที่ 3 วธิ ีการดำเนนิ การวิจยั 9
วตั ถดุ ิบ 10
วัสดุ อปุ กรณ์ 10
วิธกี ารทดลอง 10
บทท่ี 4 ผลการทดลองและอภปิ รายผล 10
บทท่ี 5 สรปุ ผลและอภิปรายการทดลอง 11
บรรณานุกรม 12
ภาคผนวก 13
13



สารบัญตาราง จ

ตารางท่ี หน้า
4.2 ตารางบันทกึ ผลการฉดี สเปรย์ไลม่ ดทั้ง 2 ชนิด 11

บทท่ี 1
บทนำ

1.1 ทม่ี าและความสำคัญ

ในปัจจุบันสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีทำให้สัตว์หรือแมลงอยู่ไม่ได้ จึงมาคุกคามมนุษย์เป็นจำนวนมา เช่น มด
อันตรายจากมดการป้องกันตัวของมดโดยการกัดศัตรูให้ได้รับความเจ็บปวดจะปล่อยพิษออกมาทำให้เป็นผื่นคัน
ผิวหนังปวดบวมอักเสบ ในบางครั้ง มดจะมาแย่งกินอาหาร ทำให้อาหารเน่าบูด อาจทำให้เกิดโรคท้องเสีย ได้
อยากจัดสวนในบริเวณบ้าน แต่บริเวณบ้านมีมดคันไฟเยอะมากเลย เคยกำจัดหลายครั้งแล้วแต่ก็กลับมาใหม่ใน
เวลาที่รวดเร็ว เรามักจะพบมดตามที่แห้งบริเวณที่เป็นซอกหรือ รอยแตกของพื้นปูน พื้นไม้ หรือตามต้นไม้ แม้แต่
ใน บา้ นเรากพ็ บมดเชน่ กัน ขึ้นอยู่ตามเส้ือผา้ อาหารซึ่งทำใหเ้ กดิ ความเสียหาย

การซ้ือยาฆ่าแมลงตามท้องตลาดมาใช้น้นั จะมีราคาแพงซ่งึ ส่วนใหญ่จะผลิตจากสารเคมีทำให้เกิดอันตราย
ต่อสภาพแวดลอ้ มหรอื หากบา้ นไหนมเี ดก็ เล็กๆหรือสัตว์เลี้ยงกอ็ าจจะเกิดอันตรายไดแ้ ทนท่ีจะเป็นมดคณะผู้จัดทำ
จึงศึกษาสมุนไพรที่หาง่ายในท้องถิ่นการใช้สมุนไพรไทยบางชนิดหรือวัตถุดิบจากธรรมชาติอื่นๆมาประยุกต์เพ่ือ
กำจัดมดจึงเป็นทางเลือกที่น่าจะมีความเหมาะสมที่สุดเพราะกำจัดมดด้วยวิธีนี้ย่อมไม่ทำอันตรายต่อเด็กหรือสัตว์
เล้ยี งอยา่ งแน่นอนและเปน็ สมุนไพรทีห่ างา่ ยในบา้ นหรือท้องถิน่ ของเรา

1.2 วัตถปุ ระสงค์

1.2.1 เพ่ือศึกษาประสทิ ธภิ าพการทำรังของมดดว้ ยยากำจัดมดสมุนไพร
1.2.2 เพ่อื สรา้ งให้คนที่ทำสวนผักไม่ถูกมดสร้างรังขึ้น

1.3 ขอบเขตการศกึ ษา

1.3.1 ศกึ ษาสรรพคุณของสมุนไพร ขงิ ข่า พริกข้หี นู
1.3.2 ปริมาณของพริกขี้หนู…กรัม ขงิ …กรัม ขา่ …กรัม

2

1.4 สมมตฐิ านการทดลอง

สมนุ ไพรทีน่ ำมาทำสเปรยไ์ ล่มดมีกลน่ิ ฉุน สามาถทำให้ไล่มดไปได้เร็วกวา่ สมนุ ไพรท่ไี ม่กล่ิน

1.5 ตัวแปรทศ่ี ึกษา

1.5.1 ตวั เเปรต้น
สมุนไพร ไดเ้ เก่ ขิง ตะไคร้ มะกรดู ขม้นิ เเละพริก

1.5.2 ตัวเเปรตาม
ประสิทธิภาพในการไลม่ ด

1.5.3 ตวั เเปรควบคมุ
ปริมาณสมนุ ไพร,มด

1.6 นยิ ามศัพท์เฉพาะ

สมุนไพรไล่มด คือ ขิง ตะไคร้ มะกรูด ขมิ้นเเละพริกขี้หนู นำมาไล่มดโดยการนำสมุนไพรขิง
ตะไคร้มะกรูด ขมิ้นเเละพริกขี้หนู ไปหมักให้เข้ากันโดยมีอัตราส่วนที่เท่ากันทุกอันและไม่เท่ากันเพื่อนำมา
ทดสอบประสทิ ธิภาพของสมนุ ไพรว่าจะสามารถไลม่ ดได้เทา่ กนั หรือไม่

บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยท่ีเกยี่ วข้อง

การสรา้ งสมนุ ไพรกำจัดมด และการทดสอบประสิทธภิ าพของสมุนไพรทจี่ ำนำมากำจดั มดแยกเป็นหัวข้อ
ดงั น้ี

- เอกสารท่ีเกย่ี วข้อง
- โครงงานวทิ ยาศาสตรท์ ีเกีย่ วข้อง

2.1 เอกสารท่เี ก่ียวขอ้ ง

ขอ้ มูลของพืช ขิง

ช่ือวิทยาศาสตร์ Zingiber Officinale
ช่ือสามัญ Ginger
ชื่อพื้นเมือง กล้วย
ลกั ษณะท่ัวไป ไม้ล้มลกุ มีเหง้าใตด้ ินลกั ษณะเป็นเหง้า เปลือกนอกสนี ้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีนวล หรือ
เหลืองอ่อน มีกลิ่นเฉพาะ จะแทงหน่อหรือลำต้นเทียมขึ้นมาเหนือพื้นดิน ส่วนที่โผล่เหนอื ดิน คือกาบใบที่หุ้มซ้อน
กัน มีสีเขียวใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับรูปขอบขนาน แกมรูปใบหอกหรือรูปใบหอกแกมรูปไข่ ปลายใบเรียว
แหลมหรือยาวคล้ายหาง กว้าง 1.5-2 ซม. ยาว 15.20 ซม. ขอบใบเรียบ โคนใบสอบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็น
มัน ท้องใบหรือใต้ใบมีขนสีขาวนวล ก้านใบสั้นดอก ออกเป็นช่อแบบช่อเชิงลด แทงออกจากเหง้าใต้ดิน ช่อดอก
ลักษณะเป็นกาบสีเขียว ใบประดับเรียงเวียนสลับสีเขียวอ่อน ดอกจะมีกลีบดอกเป็นสีเหลืองแกมเขียว ตรงปลาย
กลีบผายกวา้ ออก สมี ่วงแดง สว่ นโคนกลีบดอกมว้ นหอ่ ผล (เมล็ด) เปน็ ผลแห้ง ทรงกลม และแขง็ ขนาดประมาณ 1
ซม. เปน็ 3 พู ภายในมีเมลด็ สีดำหลายเมล็ด

4

การขยายพันธุ์ ขิงเป็นพืชซึ่งมีลำต้นใต้ดิน เป็นพืชที่ให้รสเผ็ด มีกลิ่นหอม ขิงนั้นอุดมไปด้วยสารอาหาร
สำคัญหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นธาตุเหล็ก คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส นอกจากนั้นยังมีโปรตีน วิตามินเอ
เบตา้ แคโรทีน วิตามนิ บี 1 บี 2 บี 3 วิตามนิ ซี และยงั เป็นพืชที่มีเส้นใยจำนวนมาก

- เตรียมรากขิงเพอื่ เพาะปลกู โดยเลอื กรากขิงใหส้ ด มคี วามสมบูรณแ์ ละเรยี บ
- เตรียมภาชนะเพื่อนำรากขิงที่เตรียมไว้ปลูก แล้วใส่น้ำ นำรากขิงลงไปแช่ทิ้งไว้ประมาณครึ่งวัน
- เตรยี มดนิ ใส่กระถางพร้อมปลกู รดนำ้ ใหช้ มุ่ โดยเลอื กกระถางท่ีมีการระบายนำ้ ได้ดี
- ใชไ้ ม้ขุดหลมุ ตามจำนวนหนอ่ ขิงทเี่ ราตอ้ งการปลกู
- ห่ันรากขิงที่เตรียมไว้เปน็ ชนิ้ ขนาดกำลังดี แลว้ นำไปปลูกในกระถาง โดยเว้นระยะหา่ งกำลังดี
- กลบดินไมต่ ้องแนน่ มาก ถ้าหนอ่ น้นั เร่มิ มีลำต้นโผลม่ า กเ็ ปดิ ให้เหน็ บ้าง แล้วรดน้ำ
- ทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือนเมือ่ ลำตน้ แข็งแรง อาจยา้ ยกระถางใหใ้ หญข่ นึ้ ได้
ประโยชน์

เหงา้ แกส่ ด ยาแก้อาเจียน ยาขมเจรญิ อาหาร ยาแกท้ อ้ งข้ึน ท้องอดื เฟ้อ ขับลม แก้ไอ ขบั เสมหะ บำรุงธาตุ
สามารถต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ลดอาการจุกเสียดได้ดี มีฤทธิ์ในการขับน้ำดี เพื่อ
ย่อยอาหาร แกป้ ากคอเปอื่ ย แก้ทอ้ งผกู ลดความดันโลหติ

ตน้ ขับผายลม แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อ แก้นิ่ว บำรุงไฟธาตุ แก้คอเปื่อย ช่วยย่อยอาหาร ฆ่าพยาธิ แก้
โรคตา แก้บิด แก้ลมปว่ ง แกท้ อ้ งรว่ งอย่างแรง แกอ้ าเจียน

ใบ รสเผ็ดร้อน บรรเทาอาการแก้ฟกช้ำจากการหกล้ม กระทบ กระแทก แก้โรคกำเดา ขับผายลม
แก้นิ่ว แก้คอเปื่อย บำรุงไฟธาตุ ช่วยย่อยอาหาร ฆ่าพยาธิ แก้โรคตา ขับลมในลำไส้ แก้ขัด
ปัสสาวะ แก้โรคตา ใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น เช่น มะขามแขก กานพลู ต้มเอาน้ำดื่ม เป็นยา
ระบายชนดิ กระตนุ้ ลำไส้ใหญใ่ หบ้ บี ตวั

ดอก รสฝาดร้อน ทำใหช้ ุม่ ช่ืน แก้โรคตาแฉะ ฆา่ พยาธิ ช่วยยอ่ ยอาหาร แกค้ อเปื่อย บำรุงไฟธาตุ แก้
น่ิว แกเ้ บาขดั แกบ้ ิด แก้ขดั ปัสสาวะ โรคประสาทซงึ่ ทำใจใหข้ ุ่นมวั

ผล (เมล็ด) รสหวานเผ็ด รักษาอาการไข้ บำรุงน้ำนม บรรเทาอาการคอแห้ง เจ็บคอ แก้ตาฟาง เป็นยา
อายวุ ัฒนะ, ใช้ผสมกบั สมนุ ไพรอ่ืน แกห้ นองใน ตาตอ้ กระจก ตาฟาง ตามดื วิงเวยี นศรี ษะ โรค
ประสาทพิการ ปวดเอว การมีบุตรยากของสตรี

ลำตน้ เหนอื ดิน รสเผด็ รอ้ น ขบั ลมลำไส้ แกท้ อ้ งร่วง จุกเสียด

เหงา้ (ลำตน้ ใตด้ นิ ) รสหวานเผ็ดร้อน ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้คลื่นไส้อาเจียน ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ แก้
หอบ รักษาบิด และรักษาพิษจากปู ปลา นก เนื้อสัตว์อื่นๆ ต้มดื่มแก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยขยาย

5

หลอดเลือดใต้ผิวหนงั ทำให้เหง่ือออก ปรบั อุณหภูมใิ นรา่ งกายใหร้ ู้สึกกระชุ่มกระชวย ให้ปรุงกับ
สมุนไพรอื่นเป็นยาคุมธาตุได้ดี และช่วยย่อยอาหาร ใช้เหง้าสดโขลกผสมกระเทียม เกลือ
มะนาว รับประทานขับน้ำคาวปลาในสตรที ีค่ ลอดบุตรใหม่ และขับลม บรรเทาอาการปวดท้อง
เกรง็ ป้องกนั การเกดิ แผลในกระเพาะอาหาร ปอ้ งกันการเมารถเมาเรือได้ดีกว่ายาแผนปัจจบุ ัน

ขอ้ มูลของพืช ตะไคร้

ช่ือวิทยาศาสตร์ Cymbopogon citratus Stapf
ชอื่ สามัญ Lemon Grass, Lapine
ชื่อพ้ืนเมือง ตะไคร้
ลกั ษณะทว่ั ไป เป็นพืชตระกูลหญ้า ตะไครเ้ ป็นพชื ทเ่ี จริญเตบิ โตง่าย อาจมีทรงพุ่มสูงถึง 1 เมตร มีลำต้นที่
แทจ้ รงิ ประมาณ 4-7 เซนตเิ มตร ลำของตน้ ถูกห่อหุ้มไปด้วยกาบใบโดยรอบ ใบยาวแคบเส้นใบขนานกับก้านใบ ใบ
ของตะไคร้อุดมไปดว้ ยน้ำมันหอมระเหย ท่นี ิยมนำมาปลกู เป็นพันธุ์พ้ืนเมืองทป่ี ลูกกันทัว่ ไป
การขยายพนั ธ์ุ
ตะไครส้ ามารถขยายพันธุไ์ ดด้ ว้ ยการปักชำตน้ เหง้า โดยตัดใบออกใหเ้ หลือตอนโคนประมาณหนึ่งคืบ นำมาปักชำไว้
สกั หนง่ึ สปั ดาห์กจ็ ะมีรากงอกออกมา แลว้ นำไปลงแปลงดนิ ทีเ่ ตรียมไว้ สำหรับวิธีการปลกู ตะไครม้ ีดงั นี้
- การเตรียมดิน ตะไคร้ชอบดินร่วนซุย ให้ไถพลิกดินและไถพรวนลึกประมาณ 0.5 เมตร แล้วทำหลุม แต่ละหลุม
ห่างกนั ประมาณ 0.5 เมตร
- ปลกู หลมุ ละ 3 ตน้ กลบดินใหพ้ อมดิ รากตะไคร้ประมาณ 10 เซนติเมตร
- ชว่ งแรกรดนำ้ ทกุ วัน แต่ระวงั อยา่ ให้นำ้ เขา้ ไส้ตะไคร้เวลารดนำ้ ใหร้ ดทีโคนตน้ ตะไคร้เทา่ น้นั มฉิ ะนน้ั ตน้ ตะไคร้จะ
เน่า ห้ามใช้สปริงเกอรเ์ ปน็ อนั ขาดตอ้ งให้นำ้ ทีโ่ คนเท่าน้ัน
- ในช่วง 3 วันแรกที่ปลูกให้พรางแสงแดดให้ตะไคร้ด้วย หลังจากตะไคร้ปรับตัวได้แล้วให้เอาวัสดุพรางแสงออก
เพราะธรรมชาติของตะไคร้ชอบแดด และเจริญเติบโตไดด้ ีในทีท่ ี่มีแสงจ้า

6

- เมื่อผ่านไป 1 เดือนตะไคร้จะเริ่มตั้งกอ ให้สังเกตที่ต้น ถ้าต้นเจริญเติบโตดี ลำต้นจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
ประมาณ 1.5-2 เซนติเมตรก็สามารถตัดไปใชห้ รือขายได้ การตัดตะไครใ้ หต้ ัดติดกอ แตอ่ ยา่ ใหส้ ะเทือนรากที่อยู่
ในดินเพราะตะไคร้สามารถแตกขึ้นมาตั้งกอไดอ้ ีก ไมต่ ้องหาต้นพันธม์ุ าปลูกใหม่แทน

- เม่อื ตัดควรตัดใหห้ มดกอ เพ่ือตน้ ตะไครท้ แ่ี ตกใหมจ่ ะไดเ้ ตบิ โตไดเ้ ต็มท่ี
- หลังจากตัดแล้วตะไคร้จะตั้งกอใหม่ภายในเวลา 1-2 เดือนเมื่อตะไคร้โตเต็มที่แล้วก็สามารถตัดได้อีกเรื่อยไป

จนกวา่ ต้นจะโทรม หรือตะไคร้ไม่แตกขึ้นมาอีก
- ตะไครช้ อบดนิ ร่วนซุย แต่ก็สามารถเจริญได้ในดินแทบทุกชนดิ เป็นพชื ท่ีดูแลงา่ ยชอบน้ำชอบแดดจ้า เป็นพืชทน

แล้งได้ดี และเป็นพืชที่มีโรคน้อย ศัตรูพืชก็ไม่ค่อยมี (น่าจะเกิดจากการที่ตะไคร้มีน้ำมันหอมระเหย ตะไคร้ใน
ทกุ ๆ สว่ นจงึ สามารถปอ้ งกันจากแมลงต่างๆ ได้)

ประโยชน์
- บำรงุ ไตและขับปัสสาวะ ตะไครม้ สี รรพคุณช่วยบำรงุ ไตให้แข็งแรง ช่วยใหไ้ ตทำงานไดด้ ี อีกทั้งยังช่วย
ในการชำระลา้ งและกำจดั ของเสียที่เป็นอนั ตรายออกจากรา่ งกาย
- บรรเทาอาการปวดและการอักเสบ ตะไคร้เป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวด
และการอักเสบจากโรคไขข้อ ช่วยลดอาการบวมอกั เสบ ลดอาการปวดเม่ือย แก้เคล็ดขดั ยอก
- แก้อาการนอนไม่หลับ ชาตะไคร้ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากความเมื่อยล้าและยังช่วย
บำรงุ เส้นประสาทจึงทำให้นอนหลับสบายขึ้น
- ไล่แมลง ตะไคร้หอมเป็นสมุนไพรที่นิยมนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยมากกว่าตะไคร้บ้าน มีกลิ่นหอม
ตรงระหว่างใบกับกาบ สามารถใช้เป็นยาทาไล่ยุง ไล่แมลง และยังไม่เป็นพิษต่อคนอีกด้วย โดยทุบตะไคร้หอมพอ
หยาบๆ 4-5 ต้น แลว้ นำไปวางตามมมุ อบั กลิ่น นำ้ มนั ทรี่ ะเหยออกของตะไครห้ อมจะชว่ ยไลย่ ุง
- แก้หวัด ตะไคร้เป็นสมุนไพรที่ช่วยแก้หวัดได้ดี เนื่องจากมีประโยชน์ในการลดไข้ บรรเทาอาการหวดั
ซ่ึงมีการใช้อยา่ งกวา้ งขวางในการบรรเทาอาการหวดั โดยจะช่วยขบั เหงอื่
- รักษาโรคเบาหวาน ตะไคร้ได้รับการวิจัยแลว้ วา่ มีส่วนช่วยรักษาโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ตะไคร้จะ
ชว่ ยรกั ษาระดับอินซูลินในระดับทเ่ี หมาะสมและเพิ่มความทนทานต่อกลูโคสของรา่ งกาย
- บำรุงระบบประสาทและสมอง ตะไคร้เป็นยาบำรุงระบบประสาทชั้นดี บรรเทาความเครียด ช่วย
คลายความวติ กกงั วลและความเหน่อื ยลา้ ทีเ่ กดิ จากความเครียด
- ลดคอเลสเตอรอล ตะไคร้มีสรรพคุณป้องกันภาวะไขมนั ในเลือดสูง โดยจะชว่ ยรกั ษาระดับไตรกลีเซอ
ไรดแ์ ละลดคอเลสเตอรอลท่ีไม่ดี (LDL) จึงช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในเสน้ เลอื ด
- แก้เวียนศีรษะ หน้ามืด ตะไคร้เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สามารถช่วยบรรเทาอาการเวียน
ศีรษะ โดยทุบตะไคร้พอหยาบๆ 4-5 ต้น เพื่อให้ได้กลิ่นแล้วนำไปสูดดมกลิ่นที่ระเหยออกมาของตะไคร้จะช่วยแก้
อาการวิงเวยี นศรี ษะและคล่ืนไส้

7

ข้อมูลพชื มะกรูด

ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Citrus hysrtix DC.
ชืส่ ามญั Leech lime, Mauritus papeda
ชอ่ื พนื้ เมือง มะกรูด
ลักษณะทัว่ ไป ไม้ตน้ ขนาดเลก็ สงู 2-8 เมตร เปลอื กต้นเรียบ สีนำ้ ตาล มหี นามแหลมตามกง่ิ กา้ น ใบ เป็น
ใบประกอบที่มีใบย่อยใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ปลายใบและโคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบเป็นมันสีเขียวเข้ม
มีต่อมน้ำมันอยู่ตามผวิ ใบ มีกลิ่นหอมเฉพาะ ก้านใบมีปีกดูคล้ายใบ ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบที่ปลายกิ่ง ดอกสี
ขาว กลบี เล้ียงมี 5 กลบี กลีบดอกมี 5 แฉก โคนกลบี ดอกติดกัน ผล เปน็ รปู ทรงกลมหรือรูปไข่ โคนผลเรียวเป็นจุก
ผวิ ขรขุ ระ มีตอ่ มนำ้ มัน ผลออ่ นสเี ขียวแก่ สุกเป็นสเี หลือง มีรสเปรย้ี ว เมล็ดกลมรี สขี าว มีหลายเมลด็
วิธีขยายพันธุ์ การขยายพันธุ์มะกรูดมีด้วยกันหลายวิธีเช่นเดียวกับมะนาวหรอื พืชต้นแข็งอื่นๆ แต่วิธีการ
แต่ละวิธีนั้นมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันออกไป ซึ่งวิธีใดจะได้รับความนิยมนั้นจะขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายภาพหรอื
องค์ประกอบอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยหลักการทั่วไปการขยายพันธุ์มะกรูดที่สามารถทำได้นั้นก็คล้ายกับมะนาวเช่น
การตอน การเสียบยอด การปักชำ การเพาะจากเมลด็ เป็นตน้

การขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง วิธีการตอนกิ่งมะกรูดเป็นวิธีที่ได้รบั ความนิยมมากที่สุดในตอนนี้
เหตุเพราะสามารถทำได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำ แต่การตอนกิ่งมะกรูดนั้นใช้เวลานานมากโดยเฉลี่ย ประมาณ 2-3
เดือนจึงจะออกรากและรากนัน้ ก็ไม่ออกหนาแน่นเหมือนมะนาว แต่ทง้ั นกี้ แ็ ลว้ แต่วา่ เทคนิคของใครที่จะมีวิธีการทำ
ให้ออกรากได้ไวและมากกว่ากัน ในการตอนมะกรูดเพื่อการค้านั้นมักต้องตอนในปริมาณที่มากและจะเริ่มตอนกิ่ง
มะกรูดกันในช่วงหนา้ ฝนเพราะหากตอนในชว่ งท่ฝี นท้งิ ช่วงอาจจะทำให้ตุ้มตอนแหง้ ไปก่อนทีม่ ะกรูดจะออกราก วิธี
นี้จึงมีความสุ่มเสียงที่จะเกิดความเสียหายได้ และความเสี่ยงเกี่ยวกับภัยธรรมชาติก็มีเช่นกันหากเกิดลมแรงก็
อาจจะสรา้ งความเสียหายได้

การขยายพันธุ์โดยการปักชำ แบบนี้สามารถทำเชิงการค้าได้ดีเพราะสามารถทำได้ในปริมาณท่ี
มากไดต้ ามต้องการจึงเหมาะแก่การผลิตเพ่ือจำหน่าย แต่วธิ ีน้กี ารลงทุนสงู มากเหตุเพราะต้องมีการสร้างโรงเรือนที่

8

มีการออกแบบระบบควบคุมความชื้นและอุณหภูมิ ในปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมบ้างแล้วเหตุเพราะทำได้แต่ละ
คร้ังเป็นจำนวนมากและไมอ่ าศยั องคป์ ระกอบภายนอกมาเป็นตวั แปร สามารถทำได้ทั้งปีภายใต้การควบคมุ

การขยายพนั ธโ์ุ ดยการเพาะจากเมลด็ วิธีนีเ้ ปน็ วิธีเก่าแก่ที่สดุ โดยท่วั ไปเรามักเห็นการขยายพันธุ์
โดยการเพาะเมล็ดน้ีตามบา้ นๆทวั่ ไป แต่จะไม่ไดร้ ับความนยิ มทำในเชิงการค้าเพราะเปน็ การใช้เวลาท่ีนานมากที่สุด
และ หนามจะยาวมาก จึงไดร้ ับความนิยมนอ้ ยทส่ี ุด

ประโยชน์ ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระสงู ช่วยเสริมสร้างภมู คิ ้มุ กันใหร้ ่างกายแข็งแรงระทุง้ พิษ แกฝ้ ี
ภายในและแก้เสมหะเป็นพิษมนี ำ้ มันหอมระเหยผ่อนคลายความเครียด คลายความกังวลเปน็ ยาบำรุงหวั ใจแกล้ ม
หนา้ มดื วิงเวยี นศีรษะแก้อาการไอ ขับเสมหะช่วยฟอกโลหิตแกอ้ าการเลือดออกตามไรฟันชว่ ยขบั ลมในลำไส้ แก้
อาการจุกเสียด ท้องอืด แนน่ ท้องชว่ ยขับระดู ขับลมช่วยบำรงุ หนังศรี ษะและบำรุงเสน้ ผมใหแ้ ขง็ แรงแก้ปัญหากล่ิน
เท้าเหมน็ มีกลิน่ อบั เช้ือรา

ขอ้ มูลพชื พรกิ

ชอ่ื ทางวทิ ยาศาสตร์ Capsicum frutescens L.
ชอื่ สามัญ Bird Chilli
ชื่อพ้ืนเมือง พริก
ลักษณะทั่วไป ต้น : เป็นพรรณไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมี ความสูงประมาณ 45-75 ซม. ใบ : เป็นใบเดี่ยว
ออกตรงกันข้ามกัน ลักษณะใบจะกลมรี ตรงปลายจะแหลม ดอก : จะออกตรงง่ามใบเป็นกลุ่มประมาณ 1-3 ดอก
เป็นสีขาว มีกลีบดอกประมาณ 5 กลีบ ส่วน เกสรตัวผูจ้ ะมีอยู่ 5 อัน จะขึ้นสลับกบกลบี ดอก เกสร ตัวเมียมี 1 อัน
และมีรังไข่ประมาณ 2-3 ห้อง ผล : ผลสุกจะเป็นสีแดง หรือแดงปนน้ำตาล ลักษณะผลมีผิวลื่นเป็นมัน ภายในผล
นั้นจะกลวง และ มีแกนกลาง รอบ ๆแกนจะมีเมลด็ เปน็ สเี หลืองเกาะอยู่ มากมาย และเมล็ดจะมีรสเผ็ด
การขยายพนั ธุ์ การเพาะเมล็ดพนั ธุ์ในแปลง นำเมลด็ พนั ธห์ุ วา่ นกระจายให้ทว่ั ทัง้ แปลงเพาะ หรอื โรยเมล็ด
เป็นแถวลงไปในร่องลึก 0.6–1 เซนติเมตร ห่างกันแถวละประมาณ 10 เซนติเมตร กลบด้วยปุ๋ยหมักที่สลายตัวดี
แล้วหรือดินผสมละเอียด รดน้ำให้ชุ่มเสมอ คลุมด้วยฟางแห้งหรือหญ้าแห้งบางๆ เมื่อกล้าเริ่มงอกมีใบจริงอายุ
ประมาณ 12–15 วัน ให้ถอนแยกต้นที่เป็นโรค ไม่สมบูรณ์ หรือต้นที่ขึ้นเบียดกันแน่นเกินไปทิ้ง ให้มีระยะห่างกัน

9

พอสมควร และควรให้ปุ๋ยเสริมทางใบเพ่ือให้ต้นกล้าเจริญเติบโตและแข็งแรง เมอ่ื ต้นกล้าอายุ 30–40 วนั จงึ ย้ายลง
ปลกู ในแปลงใหญ่ได้

ประโยชน์ พริกมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ช่วยให้อารมณ์ดี ทำให้ร่างกายสร้างสาร
Endorphin (สารแห่งความสขุ ) ช่วยเสรมิ สร้างภูมิต้านทานใหแ้ ข็งแรงมากยิง่ ขึ้น วิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างคอลลา
เจนในรา่ งกาย ช่วยในการบำรงุ และรักษาสายตา ชว่ ยกระตุน้ ใหเ้ จริญอาหารย่งิ ข้นึ สารแคปไซซนิ ชว่ ยให้เกดิ อาการ
ตื่นตัวของร่างกาย ช่วยในการดีท็อกซ์ของร่างกาย พริกช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ลดน้ำมูก และลดเสมหะ ช่วย
บรรเทาอาการไอ

2.2 งานวจิ ยั ทเ่ี ก่ียวข้อง

วรรณิสา อึงบวรตระกูล. (2560). สเปรย์สะระแหน่ไล่และกำจัดมด. โครงงานสหกิจศึกษาเรื่อง “สเปรย์
สะระแหน่ไล่และกำจัดมด” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพในการใช้สมุนไพรในการไล่และกำจัดมดแทน
การใช้สเปรยส์ ารเคมีเนอ่ื งจากสเปรย์สารเคมีมกี ลน่ิ เหม็นและอาจจะเกิดการเเพ้ไดผ้ ้จู ัดทำจงึ ได้คดิ วา่ หากเปลี่ยนมา
ลองใช้สมุนไพรเเทนการใช้สเปรย์สารเคมีจะมีประสิทธิภาพในการไล่มดได้หรือไม่ผู้จัดท ำจึงมีความสนใจใน
สรรพคุณของใบสะระแหน่เนื่องจากใบสะระแหน่นั้นสามารถไล่แมลงได้จึงได้ทดลองทำสเปรย์ขึ้นมาและให้แต่ละ
แผนกในโรงแรมทดลองใช้โดยได้มีการใหท้ ำแบบสอบถามความพึงพอใจมีผูต้ อบแบบสอบถามจำนวน 30 คน โดย
สว่ นใหญเ่ ป็นเพศหญิงมีอายุตัง้ แต่ 18-30 ปโี ดยทำงานในแผนกแม่บา้ น แผนกการบริการส่วนหนา้ และ แผนกครัว
จากการตอบแบบสอบถามพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจในด้านประสิทธิภาพในการไล่มด ความชอบ
โดยรวมของผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ ช่วยลดการใช้สเปรย์สารเคมี ระยะเวลาในการไล่มด ด้านวัตถุดิบ และสีของสเปรย์
อยู่ในระดับความพงึ พอใจมากและความพงึ พอใจในด้านกลิ่นของสเปรยม์ ีความพงึ พอใจในระดับมากทสี่ ุด

บทที่ 3
วธิ ีการดำเนินการวิจัย

วัตถดุ ิบ วัสดอุ ปุ กรณ์
3.1 วัตถดุ ิบ

3.1.1 ขมิน้
3.1.2 ขงิ
3.1.3 ตะไคร้
3.1.4 มะกรดู
3.1.5 พริก
3.1.6 น้ำเปล่า

3.2 วัสดุ อปุ กรณ์

3.2.1 มีด
3.2.2 ขวดสเปรย์
3.2.3 ชามใส่สมนุ ไพร
3.2.4 กระชอนร่อนแปง้
3.2.5 ขวดพลาสตกิ
3.2.6 กรวยกรองนำ้ อนั เล็ก

วิธีการทดลอง

ตอนท่ี 1 การเตรียมวตั ถดุ ิบ
1. นำมะกรดู มาปลอกเปลือก
2. นำขงิ ขมน้ิ ตะไคร้ พรกิ มาหน่ั เป็นชนิ้ เล็กๆ

ตอนที่ 2 การผสมวัตถดุ บิ
1. นำเปลือกมะกรูด ตะไคร้ พรกิ ตำใหล้ ะเอียดและนำมาใส่ชามใบแรกท่ีเตรยี มไว้
2. นำขงิ ขม้ิน ตะไคร้ ตำใหล้ ะเอยี ดและนำมาใส่ชามใบท่สี องทเี่ ตรยี มไว้
3. นำนำ้ เปลา่ เทใสใ่ นชามสมุนไพรทง้ั สองและคนใหเ้ ข้ากนั

ตอนที่ 3 การบรรจุสมุนไพรลงในขวดสเปรย์
1. เม่ือสมุนไพรทั้งสองชามเข้ากันแล้วนำสมนุ ไพรแตล่ ะชามมากรองนำ้ ในกระชอนร่อนแป้งท่ี
เตรยี มไว้
2. นำสมุนไพรมากรองโดยใช้กรวยกรองน้ำอันเล็กกรอกลงไปในขวดสเปรย์

บทท่ี 4
ผลการทดลองและอภปิ รายผล

4.1 ผลการทดลอง

จากการศึกษาทดลองเรื่องสมุนไพรไล่มดปรากฏว่าสเปรยช์ นิดท่1ี สามารถใชไ้ ด้ดีกว่าสเปรยช์ นิดท่2ี
สามารถนำไปเสนอผลการวเิ คราะห์ไดต้ ามตารางดังน้ี

4.2 ตารางบนั ทึกผลการฉีดสเปรย์ไล่มดทง้ั 2 ชนดิ

ชนดิ ของสเปรย์ กอ่ นฉดี สเปรย์ หลังฉดี สเปรย์
สเปรยช์ นดิ ท่ี1 มดหายไป6ตวั ตาย4ตัว
สเปรยช์ นิดท2่ี มีทัง้ หมด10ตัวทีม่ ากินน้ำหวานท่ี มดหายไป2ตวั เหลอื อยู่8ตัว
นำไปวางไว้

มที ัง้ หมด10ตัวท่ีมากินน้ำหวานท่ี
นำไปวางไว้

4.3 การนำไปใช้

ใชใ้ นการกำจัดมดโดยมคี วามปลอดภยั ปลอดสารอนั ตราย ไม่เปน็ อนั ตรายต่อเดก็ และผู้สูงอายุและ
วตั ถุดบิ สามารถหาไดง้ ่าย

บทที่ 5
สรุปผลและอภิปรายการทดลอง

สรปุ ผล

จากการทีเ่ ราได้ศึกษาและได้ทดลองพบว่า สมนุ ไพรไลม่ ดเปน็ ผลิตภณั ฑ์ท่ีปลอดภัยทง้ั สำหรับเด็กและ
ผใู้ หญ่ วตั ถดุ บิ สามารถหาได้ง่าย และการซ้ือสเปรย์กำจัดมดตามท้องตลาดจะมีราคาแพงและมีแต่สารเคมีอาจ
เกดิ อันตรายข้ึนได้ การใชส้ มนุ ไพรและวัตถดุ ิบจากธรรมชาติจึงมคี วามเหมาะสมที่สดุ

ข้อเสนอแนะ

1. ควรมสี มุนไพรอ่นื ๆเพ่มิ เตมิ
2. ควรมีการวางแผนการดำเนนิ งานใหเ้ ปน็ ข้ันตอน

บรรณานกุ รม

Naphutsaporn วันจันทรท์ ่ี 7 กรกฎาคม พ.ศ.2557 โครงงานสมุนไพรไล่มด
สืบคน้ จาก: http://naphutsaporn22101.blogspot.com
PenpitchayaRaksa วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 โครงงานสมุนไพรฤทธิแ์ รง ปราบแมลงกวนใจ
สืบคน้ จาก: http://samunpraiprapmalangscienceproject.blogspot.com/

ภาคผนวก

ขน้ั ตอนท่ี 1 นำมะกรดู มาปลอกเปลอื ก ขนั้ ตอนที่ 2 นำขงิ ขม้นิ ตะไคร้
และนำขงิ ขมิ้นตระไครม้ าห่ันเป็นช้นิ เล็กๆ เปลือกมะกรูดมาตำให้ละเอียด

ขัน้ ตอนท่ี 4 นำน้ำเปล่ามาผสมกบั ขัน้ ตอนท่ี 5 นำสมุนไพรท่ีผสมกับนำ้
สมุนไพรท่ีเตรียมเอาไว้ให้เขา้ กนั เรียบรอ้ ยลงในขวดสเปรย์


Click to View FlipBook Version