ACID - BASE THEORY
ทฤษฏีกรด - เบส
จัดทำโดย
นางสาวภควดี วาลสูงเนิน เลขที่ 4
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/12
เสนอ
นางปรีช์ญภัทร เล่งระบำ
รายวิชา เคมี 4 รหัววิชา ว32224 ปีการศึกษา 2565
โรงเรียนสีคิ้ว "สวัสดิ์ผดุงวิทยา"
I Arrhenius theory
II Bronsted - Lowry theory
III Lewis theory
I Arrhenius theory
Svante A. Arrhenius
1859 - 1927
Sweden
PhD Uppsala University
สวานเต ออกัส อาร์เรเนียส ให้นิยามว่า กรด คือ สารที่ละลายน้ำแล้วแตกตัวให้
ไฮโดรเจนไอออน ส่วนเบส คือ สารที่ละลายน้ำแล้วแตกตัวให้ไฮดรอกไซด์ไอออน ซึ่ง
สามารถแสดงสมการทั่วไปดังนี้
ในสมการนี้ HA เป็นสูตรทั่วไปของกรด เช่น HNO3, HClO4ส่วน BOH เป็นสูตรทั่วไป
ของเบส เช่น NaOH, KOH
ข้อจำกัดนิยามของอาร์เรเนียส
สารที่เป็นกรดหรือเบสจะต้องละลายในน้ำหรือตัวทำละลายอื่นเท่านั้น
ถ้าไม่ละลายในตัวทำละลายจะไม่จัดเป็นกรดหรือเบส นอกจากนี้ไม่สามารถใช้
อธิบายความเป็นกรดหรือเบสของสารที่ในโมเลกุลไม่มี H+ หรือ OH- ใน
โมเลกุล เช่น NH4Cl หรือ CH3COONa แต่แสดงสมบัติเป็นกรดและเบสได้
ตามลำดับ
II Bronsted - Lowly theory
Johannes N. Bronsted 1879-1947
Denmark
PhD univ. Copengagen
Thomas Martin Lowry 1874 - 1936
United Kingdom
Prof Univ. of London
ทฤษฎีกรด-เบสเบรินสเตด-ลาวรี ให้นิยามว่า กรด คือ สารที่ให้
โปรตอน และเบส คือ สารที่รับโปรตอน
นิยามกรดและเบสของเบรินสเตด-ลาวรีสามารถอธิบายความเป็นก
รดของ NH4Cl และความเป็นเบสของ CH3COONa ซึ่งในโมเลกุลไม่มี H+ หรือ
OH- แต่เมื่อละลายน้ำแล้วได้สารละลายที่มีสมบัติเป็นกรดและเบส
NH4Cl เป็นสารประกอบไอออนิก เมื่อละลายน้ำจะแตกตัวเป็น
ไอออนและเกิดการเปลี่ยนแปลงดังนี้
NH4+ให้ H+ กับ H2O ดังนั้น NH4+ จึงทำหน้าที่เป็นกรด ในขณะที่ H2O รับ H+
จาก NH4+ ดังนั้น H2O จึงทำหน้าที่เป็นเบส และในสารละลายมี H3O+ เกิดขึ้น
สารละลาย NH4Cl จึงมีสมบัติเป็นกรด
สำหรับ CH3COONa ซึ่งเป็นสารประกอบไอออนิกเมื่อละลายน้ำจะแตกตัวเป็นไอออน
และเกิดการเปลี่ยนแปลงดังนี้
H2O ให้ H+ กับ CH3COO- เกิดเป็น OH- ในขณะที่ CH3COO- รับ H+ จาก H2O เกิด
เป็น CH3COOH ดังนั้น H2O จึงทำหน้าที่เป็นกรด ส่วน CH3COO- ทำหน้าที่เป็นเบส
ในสารละลายมี OH- เกิดขึ้น ดังนั้นจึงสามารถอธิบายสมบัติความเป็นเบสของสารละลาย
CH3COONa ได้
III Lewis theory
Gilbert N. Lewis 1875 - 1946
United States America
PhD from Harvard
ทฤษฎีกรด-เบสลิวอิส ให้นิยามว่า กรด คือสารที่สามารถรับคู่อิเล็กตรอน
และเบส คือ สารที่สามารถให้คู่อิเล็กตรอน เช่น ปฏิกิริยาระหว่างโบรอนไตรฟลูออไรด์
(BF3) กับแอมโมเนีย
NH3 มีอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว 1 คู่ จึงเป็นสารที่ให้คู่อิเล็กตรอน ส่วน BF3 เป็นสารที่รับคู่
อิเล็กตรอน ดังนั้น NH3 จึงเป็นเบส ส่วน BF3 เป็นกรด
ทฤษฎีกรด-เบสของลิวอิสยังสามารถใช้อธิบายความเป็นกรด-เบสของสารที่มี
โปรตอนเช่นเดียวกับทฤษฎีของเบรินสเตด-ลาวรี ตัวอย่างเช่น ปฏิกิริยา
ระหว่างโปรตอนกับไฮดรอกไซด์เกิดเป็นน้ำดังสมการ
ในปฏิกิริยานี้อธิบายได้ว่า OH- ให้คู่อิเล็กตรอนกับ H+
จึงเป็นเบส ส่วน H+ เป็นกรดเพราะรับคู่อิเล็กตรอนจาก
OH- แล้วเกิดพันธะ O-H
บรรณานุกรม
https://sites.google.com/site/steamchemedu/content/krd-
bes/thvsdi-krd-bes