The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (ด้านที่ 3 ส่วนที่ 2)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (ด้านที่ 3 ส่วนที่ 2)

รายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (ด้านที่ 3 ส่วนที่ 2)

แบบรายงานผลการปฏบิ ัติงาน (ด้านท่ี ๓ ส่วนที่ ๒)

ใหข้ ้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษามีวิทยฐานะ
เลอ่ื นเปน็ วิทยฐานะเช่ียวชาญ (สายงานบริหารสถานศึกษา)

นายสนั ติ ทะเดช
ผอู้ านวยการโรงเรยี นวดั กาโหใ่ ต้

สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 3

สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ

คำนำ

รายงานผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ของข้าราชการเพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ สายงานบริหารสถานศึกษาเป็นผู้อานวยการเชี่ยวชาญเล่มน้ี
จัดทาขน้ึ เพอ่ื รวบรวมผลการปฏิบตั งิ านของ นายสันติ ทะเดช ผอู้ านวยการโรงเรียนวดั กาโห่ใต้
สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 3 ซงึ่ แสดงใหเ้ หน็ ถึงการปฏิบัติงานในฐานะ
ผู้บริหารโรงเรียนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารงานเป็นระยะเวลา 21 ปี ที่ดารงตาแหน่ง
ผู้อานวยการโรงเรียนวัดกาโห่ใต้ ซ่ึงประกอบด้วยผลงานตามหน้าที่และความรับผิดชอบตามมาตรฐาน
ตาแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ ผลงานตามลักษณะงานที่ปฏิบัติตามมาตรฐานวิทยฐานะ และผลท่ีเกิดกับ
ผู้เรียน ครู ผู้ปกครอง ชุมชนและสถานศึกษา ผลงานทั้งหมดท่ีรวบรวมไว้น้ี เป็นผลงานท่ีสะท้อนให้เห็น
ภาพการบริหารโรงเรียนอย่างแท้จริงและส่งผลต่อนักเรียน ครู ผู้ปกครองและชุมชนโดยตรง เป็นผลงานท่ี
ได้รบั การยอมรบั จากผ้เู กย่ี วข้องทงั้ สน้ิ จากข้อมลู ท่ีแสดงไวใ้ นรายงานผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏิบัติหนา้ ท่ี
เล่มนี้จะทาให้คณะกรรมการพิจารณาเห็นภาพของการบริหารโรงเรียนอันเน่ืองมาจากการทุ่มเทความรู้
ความสามารถ และประสบการณ์ทัง้ มวล ในการบรหิ ารจดั การให้โรงเรียนวัดกาโหใ่ ต้ ก้าวหนา้ มาเป็นลาดบั

ขา้ พเจ้าขอรับรองว่าข้อมลู เอกสาร ภาพท่เี กี่ยวขอ้ งท่ีนามาประกอบในการเสนอผลงานเพื่อ
ขอมแี ละเลื่อนวทิ ยฐานะผู้อานวยการเชย่ี วชาญเลม่ นี้ เป็นความจรงิ ทกุ ประการ

นายสันติ ทะเดช
ผู้อานวยการโรงเรยี นวดั กาโห่ใต้

ผขู้ อรับการประเมนิ

สำรบญั หนำ้

เรื่อง

ข้อมูลผู้รบั กำรประเมนิ 1
1.1 ช่อื รำงวลั /ผลงำน โรงเรยี นรบั รำงวลั พระรำชทำน ขนำดกลำง 2
- สภาพปัญหา แนวคดิ หรอื แรงจงู ใจในการจัดทาผลงานดีเดน่ ทีป่ ระสบความสาเรจ็ 2
เป็นท่ปี ระจักษ์
- ขอ้ มลู ท่วั ไปของโรงเรียน 2
- ปรชั ญาโรงเรยี น 3
- วิสยั ทัศน์ของโรงเรียน 3
- พนั ธกจิ 3
- เป้าประสงค์ 4
- นโยบายโรงเรียนวัดกาโหใ่ ต้ 4
- คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5
การวางแผนปฏบิ ตั ิงาน การควบคมุ กากบั ดูแลเกย่ี วกับการบรหิ ารงาน 4
1.2.1 การบรหิ ารงานวชิ าการ 5
1.2.2 การบรหิ ารงบประมาณ 6
1.2.3 การบรหิ ารงานบคุ คล 7
1.2.4 การบรหิ ารงานบริหารทั่วไป 9
การประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรับรางวลั พระราชทาน ระดบั ประถมศกึ ษาและมัธยมศึกษา 10
- คุณสมบัตขิ องสถานศกึ ษา 11
- วิธดี าเนนิ การจัดทาผลงานดีเดน่ ที่ประสบความสาเรจ็ เป็นทปี่ ระจักษ์ 16
- ผลท่ีเกิดจากการนาผลงานดีเด่นที่ประสบความสาเร็จเปน็ ที่ประจกั ษ์ไปใช้ 17
- กรณีผลงานดเี ด่นทีป่ ระสบผลสาเร็จเป็นที่ประจกั ษ์ไม่อยใู่ นช่วงเวลาท่ี ก.ค.ศ.กาหนด ฯ 17
- แนวคิดในการพฒั นาต่อไป 24
25
1.2 ชื่อรำงวัล/ผลงำน โรงเรียนส่งเสรมิ สุขภำพระดบั เพชร 25
- สภาพปัญหา แนวคดิ หรือแรงจูงใจในการจดั ทาผลงานดเี ดน่ ท่ีประสบความสาเร็จ
เปน็ ทป่ี ระจกั ษ์ 26
- นโยบายโรงเรียนส่งเสรมิ สขุ ภาพ 27
- สขุ บญั ญัตแิ ห่งชาติ 10 ประการ 28
- วธิ ีดาเนินการจัดทาผลงานดเี ด่นที่ประสบความสาเรจ็ เป็นทป่ี ระจักษ์ 28
29
หลกั การพัฒนาดาเนนิ งานโรงเรยี นส่งเสรมิ สุขภาพ 30
แนวทางดาเนินงานโรงเรยี นสง่ เสรมิ สขุ ภาพ 35
ขนั้ ตอนและระยะเวลาในการพฒั นาสคู่ วามสาเร็จเป็นที่ประจักษ์ 36
- ผลทเี่ กดิ จากการนาผลงานดเี ดน่ ท่ปี ระสบความสาเรจ็ เปน็ ที่ประจกั ษ์ไปใช้ 43
- กรณผี ลงานดเี ดน่ ทีป่ ระสบผลสาเรจ็ เปน็ ท่ปี ระจกั ษ์ไม่อยใู่ นช่วงเวลาที่ ก.ค.ศ.กาหนด ฯ
- แนวคิดในการพฒั นาต่อไป

เรอื่ ง หนำ้

1.3 ช่ือรำงวัล/ผลงำน รำงวัลให้เปน็ สถำนศึกษำแบบอย่ำงกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้และกำรบริหำร 44

จัดกำรตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง “สถำนศึกษำพอเพียง”

- สภาพปญั หา แนวคิด หรอื แรงจงู ใจในการจัดทาผลงานดีเดน่ ทป่ี ระสบความสาเรจ็ 44

เป็นที่ประจักษ์

- วธิ ีดาเนินการจัดทาผลงานดีเดน่ ท่ปี ระสบความสาเร็จเป็นท่ีประจักษ์ 44

- ผลทเ่ี กดิ จากการนาผลงานดเี ด่นท่ีประสบความสาเรจ็ เป็นทีป่ ระจักษ์ไปใช้ 46

- แนวคดิ ในการพัฒนาต่อไป 46

1.4 ช่ือรำงวัล/ผลงำน ได้รบั เครอ่ื งหมำยเชดิ ชูเกียรติ “คุรุสดุดี” 46

- สภาพปัญหา แนวคดิ หรอื แรงจงู ใจในการจัดทาผลงานดเี ดน่ ท่ปี ระสบความสาเรจ็ 46

เป็นทป่ี ระจักษ์

- วิธดี าเนนิ การจดั ทาผลงานดเี ด่นท่ีประสบความสาเร็จเปน็ ที่ประจักษ์ 48

- ผลทเ่ี กดิ จากการนาผลงานดีเด่นที่ประสบความสาเรจ็ เปน็ ที่ประจักษ์ไปใช้ 48

- แนวคิดในการพฒั นาตอ่ ไป 48

ส่วนที่ 3 ขอ้ เสนอในการพัฒนางาน 49

ภำคผนวก

รายงานผลการปฏบิ ัติงาน
ใหข้ า้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษามีวิทยฐานะหรือเลอื่ นเปน็ วทิ ยฐานะ

ชานาญการพิเศษ และวทิ ยฐานะเช่ยี วชาญ
(สายงานบริหารสถานศึกษา)

ข้อมูลผรู้ บั การประเมิน

ชื่อ นายสันติ นามสกุล ทะเดช ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรียน
วทิ ยฐานะ ชานาญการพเิ ศษ ตาแหนง่ เลขที่ 7594 หนว่ ยงาน
โรงเรียนวัดกาโห่ใต้ สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครศรีธรรมราช เขต 3
สว่ นราชการ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
รบั เงินเดอื นอนั ดับ คศ.4 (คศ.3) ขนั้ 60,150 บาท

ในการปฏบิ ตั ิหน้าที่ในฐานะผู้อานวยการโรงเรยี นวัดกาโหใ่ ต้ เรมิ่ ตงั้ แต่ได้รบั การแต่งต้งั ย้าย

มาดารงตาแหน่ง ท่ีโรงเรียนวัดกาโหใ่ ต้ ซึง่ ต้งั อยู่หมู่ที่ 1 ตาบลควนหนองหงษ์ อาเภอชะอวด จังหวัด

นครศรธี รรมราช ซึ่งในขณะน้ันสภาพอาคารเรียนคอ่ นขา้ งชารดุ ทรุดโทรมนักเรียน มีจานวน 173 คน

สภาพภูมทิ ัศน์ บริเวณสภาพพืน้ ทย่ี ังขาดการบรหิ ารจัดการทดี่ ี ทจี่ ะพร้อมให้บริการนกั เรียนและชมุ ชน

ขา้ พเจา้ และคณะครูกรรมการสถานศกึ ษา ผูป้ กครองจึงได้ประชมุ เก็บรวบรวมสภาพปญั หาและร่วมกัน

วเิ คราะห์สภาพปัญหาความต้องการของโรงเรียน หาจดุ เดน่ จุดควรพัฒนาของโรงเรียนและร่วมกนั กาหนด

วางทิศทางในการพัฒนาโรงเรียน ทั้งนเ้ี พื่อเป็นยุทธศาสตรใ์ นการพัฒนาโรงเรยี นอยา่ งเปน็ ระบบ ต่อเน่ือง

โดยเน้นใหท้ ุกส่วนในการรว่ มคดิ ร่วมทา ร่วมรบั ผิดชอบและร่วมภาคภูมใิ จ จนประสบความสาเรจ็ โรงเรียน

ได้รบั การพฒั นาทุกด้าน โดยเฉพาะด้านคุณภาพผู้เรยี นนักเรยี นมีผลสมั ฤทธิด์ ีขน้ึ โรงเรียนไดร้ ับรางวัลต่างๆ

จากหนว่ ยงานตนสังกัด และหน่วยงานอนื่ ๆเป็นต้นแบบในการพฒั นาโรงเรียนอยา่ งมีคุณภาพ และมีโรงเรยี น

ไดม้ าศึกษาดงู าน อย่างต่อเนื่อง เป็นความภาคภูมิใจของทุกฝ่าย ซ่ึงไดร้ บั รางวัลระดับต่างๆจนถึงระดบั ชาติ

เชน่ โรงเรยี นดเี ด่นขนาดกลาง รางวลั สว้ มสขุ สันต์ โรงเรยี นสง่ เสริมสุขภาพระดับทอง รางวลั โรงเรยี นคหู่ ู

เด็กไทยฟนั ดี รางวัลโรงเรยี นพระราชทาน รางวลั โรงเรียนสง่ เสรมิ สุขภาพระดับเพชร รางวัลสถานศึกษา

พอเพียง และรางวลั บา้ นนกั วทิ ยาศาสตร์น้อย และยังได้รบั การคัดเลอื กจากต้นสงั กดั ใหเ้ ปน็ โรงเรียน

ต้นแบบ เช่นโรงเรยี นดปี ระจาตาบล โรงเรียนตน้ แบบเครอื ข่ายปฐมวัย โรงเรยี นสุจรติ โรงเรยี นวถิ พี ทุ ธ และ

โรงเรียนประชารัฐ จากผลสาเร็จในการพัฒนาอยา่ งตอ่ เนื่อง จึงเป็นความภาคภูมิใจ เปน็ พลงั ใจในการทมุ่ เท

ในการปฏบิ ัติหนา้ ที่อยา่ งมุ่งม่ัน ทุ่มเท ซ่ึงจะไดน้ าเสนอแนวปฏบิ ัติสู่ความสาเร็จจนได้รับรางวลั ระดบั ชาติ

ดงั ต่อไปนี้

1.1 ช่ือรางวัล / ผลงาน ได้รับรางวัล โรงเรยี นรบั รางวัลพระราชทาน ขนาดกลาง ระดับ

ประถมศกึ ษา หน่วยงานท่ใี หร้ างวัล กระทรวงศกึ ษาธิการ

สภาพปัญหา แนวคิด หรือแรงจูงในการจดั ทาผลงานดีเด่นท่ปี ระสบผลสาเรจ็
เปน็ ทป่ี ระจักษ์

2

ข้อมูลท่ัวไปของโรงเรยี น
ในปงี บประมาณ 2538 ขา้ พเจา้ ไดร้ บั คาส่งั แต่งตั้งให้ดารงตาแหนง่ อาจารย์ใหญ่

โรงเรียนวัดกาโหใ่ ต้ เม่ือวันที่ 24 ตุลาคม 2538 และได้รับการแต่งตงั้ เปน็ ผ้อู านวยการโรงเรียนวัดกาโห่ใต้
สงั กดั สานักงานการศึกษาประถมศึกษาจงั หวดั นครศรธี รรมราช ตงั้ แตว่ ันท่ี 30 ธันวาคม 2540 จนถงึ
ปจั จุบนั รวม 19 ปีการศกึ ษา เป็นโรงเรยี นประถมศกึ ษาขนาดกลาง เปิดสอนระดบั ชั้นอนบุ าล 1 ถงึ ชนั้
ประถมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียนวัดกาโห่ใต้ กอ่ ตง้ั เม่ือวันที่ 23 มถิ ุนายน พ.ศ. 2475 โดยมนี ายทอง วงั
ปรีชา นายสุทนิ สขุ แก้ว รว่ มกับพนี่ ้อง ประชาชน กานัน ผู้ใหญ่บา้ น ไดร้ ่วมกันกอ่ ตั้ง เปดิ สอนครั้งแรก
ระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1-4 และเมื่อ พ.ศ. 2486 ได้ย้ายโรงเรยี นไปตัง้ ท่ีบ้านโคกโหนดเปน็ เวลา 10ปี
พ.ศ. 2496 นายสุคนธ์ ขวัญทอง ไดย้ า้ ยมาอยู่ท่บี า้ นกาโหใ่ ต้ เน่ืองจากทเ่ี ดิมมีพื้นทีค่ ับแคบไมเ่ พียงพอใน
การขยายโรงเรียนในโอกาสข้างหนา้ โดยใชพ้ ้นื ที่ เป็นที่ธรณสี งฆข์ องวัดคงคาราม(กาโห่ใต้)ใหเ้ ป็นที่ตั้ง
โรงเรยี นจนถึงปัจจุบนั มเี น้ือท่ี 7 ไร่ 2 งาน รวมทั้งพ้นื ท่ีอืน่ ๆทที่ างวดั ได้อนญุ าตได้ใช้พน้ื ท่ีเพ่ือประโยชน์ใน
ดา้ นการจัดการเรยี นการสอน มีเขตบริการแบ่งเป็นหย่อมบ้านใหญ่ๆ ได้ 13 หย่อมบา้ น และมีนกั เรียนนอก
เขตพื้นทม่ี าเข้าเรียนจากเขตพื้นที่ตาบลนาหมอบญุ อาเภอจุฬาภรณ์ เปน็ อาเภอท่มี ีพ้ืนทตี่ ิดต่อกนั นกั เรยี น
นับถอื ศาสนาพุทธรอ้ ยเปอรเ์ ซ็นต์ อาชพี ของผปู้ กครองในเขตบริการ มอี าชพี ทาการเกษตร สวนยาง เปน็
สว่ นมาก นอกนั้นก็มีค้าขาย ทาสวนผลไม้ อาชีพรบั จา้ งทัว่ ไป ฐานะทางเศรษฐกิจค่อนขา้ งยากจนแต่จะ
ส่งเสริมให้ลกู หลานได้เรยี นหนังสือ มผี ูบ้ รหิ ารโรงเรียนตงั้ แต่ก่อต้ังถึงปจั จบุ นั มจี านวน 9 คน ขา้ พเจ้านาย
สนั ติ ทะเดช เปน็ ผ้บู ริหารลาดับท่ี 9

ในการบริหารโรงเรียนข้าพเจ้าได้บริหารจัดการตามแนวนโยบาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ
เป้าประสงค์และกลยุทธ์ในการบริหารของโรงเรียน ซ่ึงสอดคล้องกับนโยบายแห่งรัฐ กฎหมาย กฎ และ
ระเบียบที่เกี่ยวขอ้ ง เพ่ือให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหารและการพฒั นาคุณภาพการศึกษาจึงได้แบง่ งาน
ออกเปน็ 4 กลุม่ บรหิ ารตามมติคณะกรรมการเขตพ้ืนท่ีการศึกษาและแนวนโยบายการกระจายอานาจ คือ
กลุ่มบริหารวิชาการ กลุ่มบริหารงบประมาณ กลุ่มบริหารงานบุคคล กลุ่มบริหารท่ัวไป โดยข้าพเจ้าได้
แต่งต้ังให้ครูทาหน้าท่ีรับผิดชอบในแต่ละกลุ่มบริหาร มีครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนเป็นผู้
ปฏบิ ัติ ดงั โครงสร้างการบรหิ ารงานโรงเรียนวดั กาโหใ่ ต้

นอกจากการแบ่งสายงานตามโครงสร้างการบริหารแล้ว ยังได้กาหนดบทบาท หน้าที่ และ
ภารกิจใหแ้ กผ่ ้เู กีย่ วขอ้ ง ดังน้ี

1. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้นื ฐานโรงเรียนวัดกาโหใ่ ตแ้ ละกรรมการประจาช้ันเรียน
2. ผู้บริหารโรงเรียน
3. หวั หนา้ กลมุ่ งาน ทงั้ 4 งาน
4. หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้
5. ครปู ระจาชัน้
6. เจ้าหน้าทธ่ี รุ การและครูอัตราจา้ ง
7. ลกู จา้ งชั่วคราว
8. ผู้ปกครอง โดยกาหนดบทบาทหนา้ ทข่ี องผู้ปกครองท่มี ตี ่อโรงเรียน
9. นกั เรยี น โดยกาหนดบทบาทหน้าที่ของนักเรยี นต่อตนเอง ตอ่ โรงเรยี น ต่อเพื่อนนักเรียน

ครู บดิ า-มารดา ผู้ปกครอง สงั คมและประเทศชาติ
แนวทางการบริหารโรงเรียน ทไี่ ด้ใชว้ สิ ัยทัศน์ พนั ธกิจ แนวนโยบายและเปา้ ประสงค์
ของโรงเรยี นเพ่ือให้เกิดประโยชนต์ ่อองคก์ รและนักเรียน ดังนี้

3

ปรชั ญาโรงเรียน : สะอาด มารยาทดี วิชาเด่น เน้นคุณธรรม

วิสัยทศั นข์ องโรงเรียน สะอาด ภมู ทิ ศั นด์ ี เทคโนโลยีพรอ้ ม
สภาพโรงเรียน สขุ ภาพดี วิชาเด่น มารยาทเยย่ี ม
นกั เรียน

ครู สอนดี มีความรับผดิ ชอบ
มภี าวะผู้นา
ผู้บริหาร ระบบดี รว่ มใจ ใฝพ่ ัฒนา

กรรมการสถานศึกษา รว่ มมอื

ผูป้ กครอง ตระหนกั สนบั สนุน รว่ มมือ

“ โรงเรียนวดั กาโห่ใต้ จะต้องเป็นโรงเรยี นมีภูมทิ ัศน์ดี สะอาด ร่มร่นื เป็นระเบยี บ มเี ทคโนโลยี

เพ่ือการจัดการเรียนรู้ บริการสังคม นักเรียนมีความสามารถด้านวิชาการ มีสุภาพดี มารยาทเรียบร้อย

อนุรักษ์ความเป็นไทย เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ ครูมีความรู้ มีความรับผิดชอบ ผู้บริหารมี
ความเป็นผู้นา มีระบบในการบริหาร กรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ให้ความร่วมมือ สนับสนุนในการจัด
การศกึ ษา”

พนั ธกจิ

1. ส่งเสรมิ พัฒนาการบริหารโรงเรยี นใหม้ ีประสิทธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล นกั เรียนมี
คณุ ภาพตาม มาตรฐานการศึกษา

2. ส่งเสรมิ พัฒนาสถานที่ให้มคี วามพรอ้ ม สะอาด ร่มรืน่ มีระเบยี บ มีภูมทิ ศั น์ สวยงาม

เอ้อื ต่อการเรยี นรู้ และสนบั สนนุ ใหม้ ีการจัดหา พัฒนา เทคโนโลยีเพ่อื การศึกษาให้พร้อมบรกิ าร

3. สง่ เสรมิ ครใู หม้ ีการพฒั นาหาความรอู้ ย่างสมา่ เสมอ มีความตระหนัก มีความ
รับผิดชอบในวชิ าชพี ครู

4. เสรมิ สรา้ งความสัมพันธ์ที่ดรี ะหวา่ งครู กรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชมุ ชน
ให้เกิดความรักความตระหนกั และร่วมมือ รว่ มใจในการสนับสนุนพัฒนาโรงเรยี น

5. สง่ เสริม พัฒนา นกั เรยี นใหม้ สี ขุ ภาพอนามยั ที่ดี มีการกาลังกาย เลน่ กีฬา และ
ส่งเสริมสคู่ วามเป็นเลศิ ดา้ นกฬี า

6. ส่งเสริมอนุรักษค์ วามเปน็ ไทย
เปา้ ประสงค์
1. โรงเรยี นมกี ารบรหิ ารจัดการศึกษาท่ีมคี ุณภาพ
2. ครพู ัฒนาตนเองเปน็ ครมู อื อาชีพ
3. นักเรยี นเปน็ บคุ คลแห่งการเรียนรู้ ประสบผลสาเรจ็ ในการศกึ ษาตอ่
4. นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพงึ ประสงค์
5. ชุมชนมีสว่ นร่วมในการจดั การศกึ ษา
6. โรงเรียนมสี ภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เอ้ือตอ่ การเรียนรู้
ในการกาหนดนโยบายและแผนพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน ได้จัดให้มีการประชุมระดม
ความคิดเห็น ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการชั้นเรียน
ผู้ปกครองเครือข่าย คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการ โดยร่วมกันกาหนดเป็นนโยบายการ
บริหารโรงเรยี น ดังน้ี

4

นโยบายโรงเรยี นวัดกาโหใ่ ต้
1. จัดการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานใหค้ รอบคลุมเด็กทุกกลุ่มทง้ั เด็กปกติ เด็กพิการ เด็กด้อย
โอกาสและส่งเสรมิ เดก็ ทีม่ ีความสามารถพิเศษ
2. สง่ เสริมการจัดการเรยี นการสอนที่ยดึ ผูเ้ รยี นเป็นสาคญั โดยยดึ หลักใหน้ กั เรียน
เปน็ คนดี คนเกง่ มีสุข รักความเปน็ ไทย
3. ส่งเสรมิ ให้นักเรยี นไดเ้ ล่นดนตรี กฬี าและแสดงออกอย่างเหมาะสม
4. ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพติดในโรงเรียนรวมทั้งส่งเสริมระบบการดแู ล
ช่วยเหลอื นักเรยี น
5. ส่งเสรมิ พฒั นาคุณธรรม จริยธรรมของนักเรยี นและบุคลากรอื่นๆในโรงเรยี นและ
ดารงตนตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
6. ดาเนนิ การประกนั คุณภาพการศกึ ษาให้สอดคล้องกับแนวทางการประกันคุณภาพ
การศกึ ษาของสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคณุ ภาพการศกึ ษา (สมศ.) เพื่อพัฒนาโรงเรียนให้ได้
ตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ
7. ส่งเสริมครแู ละนกั เรียน ให้สามารถใช้คอมพวิ เตอร์และอินเตอรเ์ น็ต และ
เทคโนโลยีในการพัฒนาตนเองและพัฒนาการเรยี นรู้
8. ประสานชุมชนและระดมทรัพยากรเพ่ือร่วมกันจดั การศึกษาของโรงเรยี น
9. ส่งเสรมิ และพัฒนาบคุ ลากรในโรงเรียนให้มคี วามพร้อมและมศี ักยภาพเพยี งพอต่อ
การปฏบิ ตั งิ าน
10.บรหิ ารจดั การโรงเรยี นอยา่ งมีประสิทธภิ าพตามหลักธรรมาภบิ าล
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ องนกั เรียน
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
2. ซื่อสตั ย์ สุจริต
3. มวี ินัย
4. ใฝเ่ รยี นรู้
5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
6. มงุ่ มัน่ ในการทางาน
7. รกั ความเป็นไทย
8. มีจิตสาธารณะ

การวางแผนปฏิบัติงาน การควบคุม กากับ ดแู ลเก่ยี วกับการบริหารวชิ าการ การบริหาร
งบประมาณ การบริหารงานบุคคล การบริหารทว่ั ไป

ข้าพเจ้านายสันติ ทะเดช ในฐานะผู้อานวยการโรงเรียนวัดกาโห่ใต้ได้วางแผนปฏิบัติงาน
การควบคุม กากับ ดูแลเก่ียวกับการบริหารวิชาการ การบริหารงบประมาณ การบริหารงานบุคคลและ
การบริหารทั่วไป เพ่ือให้เกิดประโยชน์แก่องค์กรและส่งผลต่อนักเรียนโดยตรง ข้าพเจ้าจึงได้ทาการวิจัย
เร่ือง การพัฒนารูปแบบการบริหารคุณภาพสาหรับสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการ
บริหารโรงเรียน รวมท้ังการนาหลักของ ดร.เดรมมิ่ง (PDCA) และหลักธรรมาภิบาล มาใช้ในการบริหารใน
ทุกงาน ดังนี้

5

1.2.1) การบริหารวิชาการ : เป็นหวั ใจหลกั ของการจดั การศึกษาในโรงเรียน
ซ่ึงจะส่งผลโดยตรงต่อนักเรียน ขา้ พเจ้าไดด้ าเนนิ การ ดงั นี้

ก. การวางแผนปฏิบตั ิงานข้าพเจ้าไดด้ าเนนิ การ ดงั นี้
(1) ข้าพเจา้ และผเู้ ก่ยี วข้องได้ร่วมกันศึกษาแนวทางและการบรหิ ารงานวชิ าการ

ขอ้ กฎหมาย แนวนโยบายของรฐั อาทิ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขน้ั พนื้ ฐาน ของสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาต้นสงั กดั กรอบกลยุทธ์ แนวปฏิบตั แิ ละอ่ืน ๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง
เพื่อประกอบในการวางแผนปฏบิ ตั งิ านวชิ าการ

(2) ประชุมสัมมนาครูและผู้เก่ียวข้องเพ่ือวิเคราะห์และสรุปปัญหา ข้อดี
ข้อเสียของการดาเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาและแนวทางแก้ไข โดยดาเนินการในเดือนกรกฎาคมของทุกปี
และจดั ทาเปน็ เอกสารสาหรับครใู ชเ้ ป็นแนวทางในการทางาน

(3) จัดทามาตรฐานช่วงชั้น มาตรฐานคุณภาพการศึกษา แนวทางในการ
ดาเนินงาน ปฏิทินปฏิบัติงานภายใต้กรอบพ้ืนฐานของมาตรฐานคุณภาพการศึกษาของสานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน โดยกาหนดเปน็ แผนงาน/โครงการและกจิ กรรม ตัวอยา่ งเชน่

- โครงการสง่ เสริมศกั ยภาพผูเ้ รียน สู่ NT, O - Net
- โครงการพฒั นาโรงเรยี นสูโ่ รงเรียนรบั รางวัลพระราชทาน
- โครงการพัฒนาครเู พ่อื พฒั นากระบวนการจัดการเรยี นรู้ เช่น
การเรียนการสอน การจดั การเรยี นรูแ้ บบ บรู ณาการ การวิจัยในช้ันเรยี น
- โครงการส่งเสริมครูเพื่อผลติ สอ่ื นวัตกรรม ส่หู อ้ งเรยี น
- โครงการหอ้ งเรยี นคุณภาพ
ข. การควบคมุ กากับ ดูแลเกีย่ วกับการบริหารวิชาการ เพื่อให้การบริหาร
วิชาการดาเนนิ ไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชนส์ ูงสุดต่อโรงเรียนและนกั เรยี นทกุ คน ขา้ พเจ้าได้
ดาเนนิ การ ดงั น้ี
(1) แต่งตั้งครู1 คน เพ่ือปฏิบัติหน้าท่ีรับผิดชอบงานด้านวิชาการและมี
คณะกรรมการวิชาการเป็นคณะในการรว่ มคดิ ร่วมทา
(2) แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทาตารางสอนให้ครูทุกคนได้สอนตามวิชาเอก
ตามความรู้ความสามารถและประสบการณ์ มีช่ัวโมงการสอนตามเกณฑ์ทีก่ าหนด โดยจัดทาให้แล้วเสรจ็ กอ่ น
เปิดภาคเรยี นเพือ่ เสนอผอู้ านวยการโรงเรยี นใหค้ วามเหน็ ชอบก่อนนาไปใช้
(3) ให้ครูทุกคนจัดทาแผนการเรียนรู้ทุกรายวิชาและเสนอผู้อานวยการ
โรงเรยี นใหค้ วามเหน็ ชอบกอ่ นนาไปใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน
(4) นิเทศการสอน ตรวจเยี่ยม ให้คาแนะนาและปรึกษาหารือปัญหาที่
เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน เช่น ปัญหาด้านกายภาพของห้องเรียน ส่ือการเรียนการสอนและอื่น ๆ
การตรวจเยี่ยมเพื่อการนเิ ทศจะดาเนนิ การทุกสัปดาห์
(5) แต่งต้ังคณะกรรมการกากับ ติดตาม การทางานตามนโยบายของ
โรงเรียนในด้านวิชาการ โดยมีครูท่ีรับผิดชอบงานวิชาการเป็นประธานและรายงานผลการดาเนินการให้
ผู้อานวยการโรงเรยี นทราบเปน็ ระยะ
(6) ประชุมคณะกรรมการวิชาการซง่ึ ประกอบดว้ ยหัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้
ทกุ สปั ดาห์ เพอื่ นาข้อปญั หาอปุ สรรคในการเรยี นการสอนมาแก้ไข

6

(7) ให้เจ้าหน้าท่ีงานทะเบียนวัดผล จัดทาเอกสารแสดงผลการเรียนของ
นกั เรยี นให้ถูกตอ้ งสมบูรณแ์ ละพร้อมให้ตรวจสอบไดต้ ลอดเวลา

(8) ให้เจ้าหน้าท่ีจัดทาทะเบียนนักเรียนให้เป็นปัจจุบันและให้รายงานจานวน
นกั เรยี นให้ผ้อู านวยการโรงเรียนทราบทุกเดือน

(9) ประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนงาน/โครงการและตามเกณฑ์มาตรฐาน
คุณภาพการศึกษาทุกปีการศึกษา เพ่ือรับทราบปัญหาอุปสรรคในการทางานและหาแนวทางแก้ไข โดย
ดาเนินการประเมินในเดอื นมนี าคม – กนั ยายน ของทุกปี

1.2.2) การบริหารงบประมาณ : ซ่ึงประกอบด้วยงานแผนงานและงบประมาณ
ข้าพเจ้าในฐานะผู้อานวยการโรงเรียน ได้บริหารงบประมาณโดยอาศยั หลักการจัดการที่อาศยั ความคลอ่ งตัว
โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตามหลักธรรมาภิบาลและยึดหลักการบริหารงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน (PBB)
โดยได้ดาเนนิ การ ดังน้ี

ก. การวางแผนปฏบิ ัตงิ าน ขา้ พเจ้าดาเนนิ การ ดงั น้ี
(1) ข้าพเจ้าและผู้เก่ียวข้องได้ร่วมกันศึกษาข้อกฎหมายท่ีเก่ียวข้องตาม

แนวทางและกรอบการบริหารงบประมาณ รวมทั้งศึกษาแนวนโยบายของรฐั บาล ของกระทรวงศึกษาธิการ
ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ในด้านการบริหารงบประมาณ แผนงาน/โครงการ
กรอบกลยทุ ธ์ เพ่อื เปน็ แนวทางในการวางแผนทางานด้านบรหิ ารงบประมาณ

(2) จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษา วิเคราะห์ สภาพปัญหา อุปสรรคของ
โรงเรียนเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทาแผนงาน/โครงการและการจัดต้ังงบประมาณ ให้สอดคล้องกับ
แนวนโยบายและยุทธศาสตร์ของการพัฒนาการศึกษาในทุกด้าน โดยได้มีการประชุมครูและบุคลากร
ทางการศกึ ษาทเ่ี กี่ยวข้อง เพื่อทาความเข้าใจในภาระงานอย่างชัดเจน

(3) แต่งต้ังคณะกรรมการจัดทาแผนงาน/โครงการและแผนปฏิบัติการ
ประจาปีงบประมาณ ให้สอดคลอ้ งกบั แนวนโยบายในการจัดการศึกษาของรัฐและของโรงเรยี นรวมทั้งจัดทา
ปฏิทนิ ปฏบิ ตั งิ านงบประมาณ

(4) กาหนดวนั เวลาในการประชุมวิเคราะหแ์ ผนงาน/โครงการ
การจัดสรรงบประมาณตามแผนงาน/โครงการ และเมื่อได้ข้อยุติแล้วจึงนาแผนงาน/โครงการ เสนอขอ
ความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ซงึ่ กระบวนการดังกล่าวต้องดาเนินการให้แล้วเสร็จ
ภายในเดือนกนั ยายนของทุกปี เพ่อื จะได้ดาเนินการตามโครงการในปีงบประมาณถัดไป

ข. การควบคุม กากบั ดูแลเกีย่ วกับการบรหิ ารงบประมาณ
เพื่อให้การบรหิ ารงบประมาณเปน็ ไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพเกิดผลดีตอ่

โรงเรียนครูและนกั เรียน ขา้ พเจา้ ได้ดาเนินการ ดังนี้
(1) แต่งตง้ั ครู 1 คน เพื่อปฏบิ ัตหิ น้าทีร่ บั ผิดชอบงานด้านงบประมาณ
(2) แต่งต้ังเจ้าหน้าท่ีเพ่ือตรวจสอบการปฏบิ ัตงิ าน และการใช้

งบประมาณตามแผนงาน/โครงการ ก่อนเสนอขอความเห็นชอบ/อนมุ ัติ ตามลาดับขน้ั

(3) แตง่ ตงั้ คณะกรรมการเกบ็ รกั ษาเงิน จานวน 3 คน ตามระเบยี บการ
เก็บรักษาเงินและการนาเงินส่งคลงั ของสว่ นราชการ พ.ศ. 2520 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543

(4) ให้เจ้าหนา้ ที่ผู้รบั ผิดชอบ ดาเนนิ การจัดทาบัญชีรบั - จา่ ย ทารายงานเงิน
คงเหลือประจาวนั บัญชเี งินสด เสนอผอู้ านวยการโรงเรียนตรวจสอบและลงนามรบั รองทุกวนั

7

(5) แต่งต้งั คณะผตู้ รวจสอบภายในของโรงเรียน เพ่ือทาหน้าที่ตรวจสอบ
ตดิ ตาม ใหค้ าแนะนาการดาเนนิ การดา้ นงบประมาณ ทงั้ ด้านการพัสดุ การเงิน การบญั ชีอย่างต่อเนื่อง
สมา่ เสมอและรายงานผลการดาเนินการให้ผ้อู านวยการทราบ สาหรับคณะผูต้ รวจสอบภายในของโรงเรยี น
ซ่ึงเปน็ ข้าราชการครูทีโ่ รงเรียนได้ส่งเข้ารับการอบรมด้านการตรวจสอบภายใน อีกทง้ั ให้เชิญเจ้าหนา้ ท่ี
ตรวจสอบภายในของสานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษามาให้คาแนะนาและตรวจสอบการดาเนินการด้าน
งบประมาณเป็นระยะ ๆ

(6) กากบั ดแู ล ใหด้ าเนินการเกี่ยวกบั สทิ ธปิ ระโยชนข์ องข้าราชการ
ครูและบุคลากรทางการศึกษาและนักเรยี นแล้วเสรจ็ โดยเรว็ เชน่ คา่ รักษาพยาบาล คา่ เลา่ เรยี นบุตร
สวัสดกิ ารตา่ ง ๆ เป็นต้น

(7) จัดส่งครเู ขา้ รบั การอบรม ประชมุ สมั มนา ความรู้ด้านการจดั ทา
แผนงาน/โครงการ การเงนิ - การบัญชแี ละพสั ดอุ ยา่ งตอ่ เน่ือง เพื่อให้ครูได้นาความร้มู าใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน
ในโรงเรยี น

(8) แตง่ ตงั้ เจา้ หน้าทแี่ ผนงาน เพื่อตรวจสอบการปฏบิ ตั ิและการดาเนินงานของ
หน่วยงานตา่ ง ๆ ให้เปน็ ไปตามแผนงานทีว่ างไว้

(9) แตง่ ตงั้ เจ้าหนา้ ทส่ี ารสนเทศ เพ่ือให้ดาเนินการด้านข้อมูลโรงเรยี นครแู ละ
นักเรยี นอยา่ งถูกต้อง ครบถว้ นและเปน็ ปจั จุบันอยู่เสมอ พร้อมนาเสนอข้อมูลตอ่ หนว่ ยงานตน้ สังกัดและ
หน่วยงานทีเ่ ก่ยี วข้อง

1.2.3) การบริหารงานบุคคล : เป็นการบรหิ ารงานทเี่ กี่ยวข้องกบั บุคลากรใน
โรงเรียน อันประกอบด้วยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกประเภท และนักเรียนในโรงเรียน
ในการดาเนินการดังกล่าว ข้าพเจ้าได้ใช้หลักการบริหารบุคคล สาหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาและ
ระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น สาหรับนักเรยี นทุกคน ดังนี้

ด้านครูและบคุ ลากรทางการศึกษา
ก. การวางแผนปฏบิ ัตงิ าน ข้าพเจา้ ไดด้ าเนนิ การ ดังน้ี

(1) ข้าพเจา้ และผู้เก่ยี วข้องไดร้ ่วมกันศึกษาข้อกฎหมาย ระเบียบ
แนวปฏบิ ตั ิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับครแู ละบุคลากรทางการศึกษา เชน่ พระราชบัญญตั ิข้าราชการครูและ
บุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 เป็นตน้

(2) แตง่ ตง้ั บุคลากรเพื่อรบั ผิดชอบในภาระงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หวั หน้างาน
ตา่ ง ๆ หวั หน้ากจิ กรรม คณะกรรมการประเมินผลการปฏิบัติงานประจาปี เป็นต้น

(3) กาหนดปฏทิ นิ ในการทางานใหส้ อดคล้องกบั กฎหมายและระเบียบที่
เกี่ยวข้อง เชน่ การเสนอขอเคร่อื งราชอสิ ริยาภรณ์ การเสนอขอความดีความชอบ เปน็ ตน้

ข. การควบคุม กากับ ดูแล เกย่ี วกับการบรหิ ารงานบุคคล ในสว่ นของ
ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ข้าพเจา้ ไดด้ าเนนิ การ ดงั นี้

(1) แตง่ ต้ังครู 1 คน เพ่อื ปฏิบตั หิ นา้ ที่ดา้ นการบรหิ ารงานบุคคล ซึ่งจะดแู ล
งานด้านข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาและนักเรียน

(2) ข้าพเจ้าได้ตรวจสมุดลงเวลามาปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาพร้อมลงนามกากับทุกวัน หากพบข้อบกพร่อง ผิดพลาด จะให้การแนะนา ตักเตือน หรือให้แก้ไข
เช่น มาทางานสาย มาปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีแต่ไม่ลงเวลาทางาน เป็นต้น

8

(3) ได้กากับการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย เช่น การอยู่เวรยามของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้ง
กลางวันและกลางคืน ต้องปฏิบตั ิอย่างเครง่ ครดั พร้อมท้ังให้บันทึกในรายละเอียดของการปฏิบัติงาน โดย
ข้าพเจ้าจะตรวจบันทึกและลงนามกากับทุกวัน หากพบข้อบกพร่องจะให้คาแนะนาแก่ผู้เก่ียวข้อง เช่น
การบันทกึ รายละเอยี ดไมเ่ รียบร้อย เปน็ ตน้

(4) กากบั ดแู ล ใหก้ ารดาเนนิ การด้านสทิ ธปิ ระโยชน์ของขา้ ราชการครูและ
บคุ ลากรทางการศึกษา ได้ดาเนนิ การไปอย่างรวดเรว็ ทนั เวลา เช่น การเสนอขอเครื่องราชอสิ รยิ าภรณ์
การลาศึกษาต่อ การไปศึกษาดงู าน การไปประชมุ อบรม สัมมนาเพื่อเพ่ิมพนู ความรู้ความสามารถ
เปน็ ต้น

ด้านนักเรียน
ก. การวางแผนปฏบิ ตั ิงาน : ข้าพเจา้ ถือว่านกั เรยี นคือหวั ใจหลักของ
โรงเรียน จงึ ได้ดาเนนิ การ ดงั นี้

(1) ข้าพเจ้าและผู้เก่ียวข้องได้ร่วมกันศึกษาข้อกฎหมาย ระเบียบ แนว
ปฏิบัติ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียน พ.ศ.
2543 เอกสารและแนวปฏิบัติว่าด้วยระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เอกสารการประเมิน SDQ ของกรม
สุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสขุ เป็นต้น

(2) ข้าพเจ้าได้แต่งตั้งครูและบุคลากรทางการศึกษา เพ่ือรับผิดชอบงาน
เกี่ยวกับนักเรียน เช่น ครปู ระจาชั้น ครูเวรดูแลนักเรียนประจาวัน หัวหน้างานต่าง ๆ เป็นต้น พร้อมท้ัง
ประชุมช้ีแจงทาความเข้าใจในภารกิจและวิธีปฏิบัตอิ ย่างเป็นข้นั เป็นตอน เพ่ือให้ทุกคนปฏบิ ัติงานได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ

(3) จัดทาปฏิทินปฏิบัติงานอย่างชัดเจน เพื่อให้ครูและนักเรียนได้รับทราบ
ตรงกัน เช่น การกาหนดวันประชุมผู้ปกครอง การประชุมระดับช้ัน การประชุมเขตรับผิดชอบทาความ
สะอาด การประชมุ วางแผนการจัดกิจกรรมวันสาคญั ต่าง ๆ เปน็ ต้น

ข. การควบคมุ กากับ ดูแลเกีย่ วกับการบรหิ ารงานบุคคลในสว่ นของ
นักเรียน ข้าพเจ้าได้ดาเนนิ การ ดงั น้ี

(1) ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รบั การแต่งตง้ั ให้
ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีเวรประจาวนั เพอื่ ดูแลนกั เรยี น ปฏิบัติหน้าทีท่ ่ไี ดร้ ับมอบหมายโดยเคร่งครดั ทกุ จุด ที่กาหนด
เช่น หนา้ ประตูโรงเรียนทั้งเช้า - เย็น โรงอาหาร เป็นต้น ใหค้ รูทร่ี ับผิดชอบในแต่ละจดุ บันทึกรายละเอียด
การปฏิบัติงานเสนอผู้รับผิดชอบตามลาดับชั้น และเสนอผู้อานวยการโรงเรียนตรวจและลงนามกากับทุกวัน
หากพบข้อบกพรอ่ งไดใ้ ห้คาแนะนา ตักเตือน เพอ่ื แก้ไขใหด้ ีขน้ึ

(2) ข้าพเจา้ ได้ให้ครปู ระจาชัน้ ไดต้ รวจเช็คการมาเรียนของนักเรียน ร่วมกบั
ครผู รู้ ับผดิ ชอบประจาวัน โดยบนั ทึกในสมดุ บันทึกเวรประจาวัน

(3) ให้ครูเยี่ยมบา้ นนักเรยี นให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดอื น หลังเปิดภาคเรยี น
ภายใน 1 ภาคเรียน พร้อมทั้งให้นาข้อมูลจากการเยี่ยมบ้านไปบันทึกไว้ในสารสนเทศนักเรียน ซ่ึงเป็น
เอกสารเฉพาะบุคคลของนักเรียนอย่างครบถ้วนทุกรายการ ภายใต้การกากับดูแลของข้าพเจ้า ครูโรงเรียน
วดั กาโหใ่ ต้ สามารถเยย่ี มบ้านนกั เรียนไดค้ รบ ตามเปา้ หมาย (ภาคผนวก 3)

9

(4) ให้ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาของโรงเรียนตรวจการแตง่ กาย
ของนักเรียนท้ังทรงผม เส้ือผ้าชุดนักเรียน รองเท้า ถุงเท้า ให้เป็นไปตามระเบียบของโรงเรียน ทุกวัน
จนั ทร์หากพบข้อบกพรอ่ งจะใหค้ าแนะนาตกั เตือน

(5) ให้มีการประชุมนกั เรยี นทุกระดับช้นั อยา่ งสม่าเสมอโดยครูทกุ คน
ผลัดเปลยี่ นตามคาสัง่ มอบหมายเป็นผู้ดาเนินการและขา้ พเจ้าจะร่วมประชุมนักเรยี นตามโอกาสอันควร และ
ให้ครูประจาชน้ั บันทึกรายงานผลการประชุมใหท้ ราบอยา่ งต่อเนอ่ื ง สม่าเสมอ

1.2.4) การบริหารทั่วไป : ข้าพเจา้ ในฐานะผู้อานวยการโรงเรียนได้
บริหารงานโดยอาศัยหลกั PDCA ของ ดร.เดรมม่ิง เพ่ือให้งานเกิดประสิทธภิ าพสูงสุดในการให้บริการแก่ครู
นกั เรยี นและบุคลากรของโรงเรียนโดยไดม้ ีการดาเนินการ ดังนี้

ก. การวางแผนปฏิบัติงาน : การบริหารทั่วไปถือว่าเป็นงานที่มีความสาคัญยิ่ง

ในการบริหารสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากร

ทางการศึกษา ข้าพเจา้ จึงไดด้ าเนนิ การ ดงั น้ี

(1) ขา้ พเจ้าและคณะกรรมการท่ีแต่งต้ังขึ้นได้รว่ มกันสารวจสภาพปัญหาของ
โรงเรียน การทางานในภาพรวมเพื่อจะได้กาหนดแนวทางแก้ไข เช่น ปัญหาความสะอาดในโรงเรียน
ปัญหานักเรียนชอบทาลายทรัพย์สินของโรงเรียน ปัญหาความแออัดของนักเรียนในโรงอาหารขณะพัก
กลางวนั และการบรกิ ารอืน่ ๆ

(2) เมื่อทราบสภาพปัญหาแล้ว ข้าพเจ้าและคณะกรรมการที่แต่งตั้งข้ึนได้
ร่วมกัน กาหนดแนวทางการแก้ไขโดยให้มีการจัดทาแผนงาน/โครงการ เพ่ือรองรับการใช้งบประมาณ
รวมท้ังจดั หางบประมาณและบคุ ลากรในการแก้ปัญหาดว้ ย

(3) ข้าพเจ้าได้แต่งต้ังบุคลากรเพื่อปฏิบัติงาน โดยกาหนดปฏิทินเวลาในการ
ปฏิบตั ิงานอย่างชัดเจน เช่น การปรับซอ่ มโต๊ะ-เก้าอี้นักเรยี นที่ชารดุ เสียหายและมีรอยขีดเขียนให้แล้วเสร็จ
ภายในเดือนเมษายน ซอ่ มแซมระบบไฟฟ้า ประปา อย่างตอ่ เนอื่ งตลอดปี เป็นตน้

ข. การควบคมุ กากับ ดูแลเก่ยี วกับการบริหารท่ัวไป : เพ่ือใหก้ าร

ดาเนนิ งานสาเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย อันจะก่อให้เกดิ ประโยชน์แก่นักเรียน ครูและบุคลากรของโรงเรียนทุก

คน ขา้ พเจ้าไดด้ าเนินการ ดังนี้

(1) แต่งต้ังครู 1 คน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารท่ัวไป และแต่งต้ัง
บุคลากรรับผิดชอบในงานแตล่ ะด้านอันประกอบดว้ ยครู นักการภารโรง และบุคลากรทเี่ กยี่ วขอ้ ง เช่น งาน
อาคารสถานที่ งานโภชนาการ งานอนามัย เป็นต้น และให้รายงานผลการดาเนินการในทุกรายการให้
ผู้อานวยการโรงเรียนทราบทุกเดือนและหากเป็นงานเรง่ ด่วนให้แจ้งทนั ที

(2) ข้าพเจ้าได้กาชับบุคลากรที่มีหน้าที่รับผิดชอบให้ดาเนินการในภารกิจให้
แล้วเสร็จตามแผนงาน/โครงการและปฏิบัติหน้าที่ที่กาหนดเอาไว้และให้มีการเสนอรายงานตามลาดับชั้น
เช่น การปรับปรุงซ่อมแซม อาคาเรียน จัดภูมิทัศน์ของโรงเรียนให้สะอาด ร่มร่ืน มีความเป็นระเบียบ
เรียบร้อย มคี วามปลอดภัย และเออื้ ตอ่ การจัดการเรียนรขู้ องนักเรยี น

(3) ข้าพเจ้าได้ตรวจตราการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษาที่มีหน้าท่ีรับผิดชอบงานพร้อมทั้งให้คาแนะนาช้ีแนะและตักเตือน เพื่อให้งานลุล่วงตาม
เป้าหมาย

10

(4) ให้ผู้เกี่ยวข้องและผู้ที่มีหน้าท่ีโดยตรงในการทางานจัดทาบันทึกรายงาน
ผลการดาเนนิ งานของแต่ละงานตามลาดบั ชั้น เพอื่ ให้ข้าพเจ้าไดต้ รวจสอบและรับทราบเดือนละ 1 ครง้ั

จากการดาเนินการในการวางแผนปฏิบัติงาน การควบคุม กากับ ดูแลเก่ียวกับการ
บริหารวิชาการ การบริหารงบประมาณ การบริหารงานบุคคลและการบริหารทั่วไป อย่างมีระบบตาม
ขั้นตอน ทาให้การทางานของครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนวัดกาโห่ใต้ ดาเนินไปอย่างมี
ประสิทธิภาพ ภายใต้ความร่วมมือของครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียน ผู้ปกครองนักเรียน
องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและผู้เก่ียวข้องอื่น ๆ ร่วมคิดร่วมทา จนผลงานท่ีปรากฏเกิดผลดีแก่นักเรียน
ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชนและผู้เกี่ยวข้อง มีการรายงานผลการดาเนินการของ
สถานศกึ ษาต่อชุมชน ในรูปแบบของเอกสารรายงานคณุ ภาพการศึกษา (SAR) จัดนทิ รรศการแสดงผลงาน
ในงานเปิดโลกการศึกษาของเขตพ้ืนท่ีการศึกษาทุกปี รวมท้ังรายงานผลการดาเนินงานต่อคณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และผู้ปกครอง ในการประชุมทุกครั้ง อีกท้ังมีการประชาสัมพันธ์ทางเอกสารแผ่น
พับและ จนได้รับการยอมรับและช่ืนชมโดยท่ัวไป ซึ่งผลดังกล่าวได้แสดงไว้ในรายงานการประเมิน
โครงการ การบริหารแบบมีส่วนร่วม : ความย่ังยนื ที่แท้จริงของ การบริหารสถานศึกษา โรงเรยี นวัดกาโห่ใต้
สานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 3

การประเมนิ สถานศกึ ษาเพอื่ รับรางวลั พระราชทาน ระดับประถมศกึ ษาและมัธยมศึกษา
ความเปน็ มา
การคดั เลอื กนักเรยี น นักศึกษา และสถานศึกษา เพอื่ รบั รางวลั พระราชทานน้ี เกิดขึน้ จาก

น้าพระทัยอันเป่ียมด้วยพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันที่ทรงมีพระราชปรารภ แด่ ฯพณฯ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ม.ล.ปิ่น มาลากุล) ในปี 2506 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดาเนินทรงเปิดงานแสดง
ศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียน ประจาปีการศกึ ษา 2506 และพระราชทานรางวลั แกโ่ รงเรียนราษฎรส์ อนศาสนา
อิสลามซึ่งจัดการศึกษาดีเด่น ใจความของพระราชปรารภมีว่า “ มีนักเรียนจานวนมาก ซ่ึงมีความ
ประพฤติดีและมีความมานะพยายามศึกษาเล่าเรียนได้ผลดี รวมทั้ง มีโรงเรียน ซ่ึงจัดการศึกษาดีจน
นักเรยี นได้รบั การเรยี นดีเป็นส่วนรวม นักเรียนและโรงเรียนท่ีมีคุณสมบัติดังกลา่ ว สมควรจะไดร้ ับรางวัล
พระราชทานและทรงยินดีจะพระราชทานรางวัลให้” กระทรวงศึกษาธิการ (โดยกรมวิชาการซึ่งเป็น
หน่วยงานในขณะน้ัน) ได้รับพระราชปรารภ มาพิจารณาดาเนินการด้วยความสานึกในพระมหากรุณาธิคุณ
เป็นล้นพ้น และถือเป็นภารกิจสาคัญ ที่ปฏิบัติสืบต่อมาช้านาน เพราะนอกจากจะเป็นโอกาสอันดีในการทา
กจิ กรรมท่ีสนองพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวแล้ว รางวัลพระราชทานยังเป็นเคร่ืองกระตุ้น
ให้เกิดการพัฒนามาตรฐานคุณภาพการศึกษาของชาติให้ดียิ่งขึ้นด้วย จึงเป็นที่ตระหนักชัดว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวน้ันทรงมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทรงเล็งเห็นความสาคัญในการส่งเสริมการศึกษา
ของชาติ พระราชทานขวัญกาลังใจแก่นักเรียนนักศึกษาท่ีมีความประพฤติดี มีผลการเรียนดี ตลอดถึง
ผบู้ ริหารสถานศึกษาท่จี ัดการศึกษาไดม้ าตรฐานดีเด่น

ในการคัดเลือกนั้น แต่เดิมกระทรวงศึกษาธิการคัดเลือกนักเรียนจากกลุ่มนักเรียน ระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.ศ. 5) ที่สอบได้ลาดับท่ี 1 - 50 ของประเทศ และให้รางวัลแก่โรงเรียนท่ีมี
นกั เรียนได้รับรางวัล พระราชทานมากที่สุด ต่อมามีการพิจารณาเพิ่มประเภทรางวัลและจานวนรางวลั มาก
ข้ึน มีการปรบั เปลี่ยนวิธีการประเมินนักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษา โดยเน้นการพิจารณาอยา่ งรอบดา้ น

11

สาหรับสถานศึกษาน้ันกาหนดสิ่งที่จะประเมินครอบคลุมการบริหารงานทั้งองค์กร เพิ่มความดีเด่นของ
สถานศกึ ษาทีจ่ ะตอ้ งแสดงเดน่ ชัดสมควรตอ่ การไดร้ บั รางวลั พระราชทาน

ปัจจุบันมีกระแสการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาชัดเจนขึ้น พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ.2542 มุ่งเน้นคุณภาพที่เกดิ ข้นึ กับนักเรียนและการบริหารงานวิชาการของสถานศกึ ษาอย่างแทจ้ ริง แม้
สาระสาคัญที่นามาประเมินสถานศึกษาท่ีใช้อยู่ในปัจจุบันจะครอบคลุมทุกด้านแล้วก็ตาม แต่เพ่ือให้
เหมาะสมต่อการเปลี่ยนแปลง สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และนาหลัก
วธิ ีการประเมินผลที่ทันสมัยมาใช้ในการประเมินและคัดเลือก จึงมีการปรับปรุงและพัฒนาแบบประเมินและ
คู่มือประเมนิ ขึน้ ใหม่และเริ่มใช้เมอ่ื ปีการศกึ ษา 2546 และปรับปรุงล่าสดุ ในปี พ.ศ. 2555

งานคัดเลือกนกั เรยี น นักศึกษา และสถานศกึ ษาเพ่ือรับรางวลั พระราชทานน้ี เป็นงานที่ มเี กียรติ
เป็นสิริมงคล สมควรที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะต้องดาเนินการด้วยความรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ
ประเมินและคัดเลือก คณะกรรมการต้องกระทาอย่างมีหลักเกณฑ์ บริสุทธิ์ยุติธรรม ใช้ความสามารถและ
ดุลพินิจในการพิจารณาตัดสินอย่างถูกต้องตามหลักการ มีใจเป็นกลาง ไม่โน้มเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหน่ึง เพื่อให้ได้
บคุ คลหรือสถานศึกษาท่ีสมควรไดร้ ับรางวัลพระราชทานอยา่ งแท้จริง

นักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษาที่ผ่านการตัดสินต้องมีสิ่งแสดงให้เห็นถึงความ ยอดเย่ียมดีเด่น
ได้อย่างชัดเจนและดีจริง ทุกคนต้องตระหนักไว้เสมอว่ารางวัลพระราชทานเป็นส่ิงที่ทรงคุณค่าและเป็น
เกียรติประวัติต่อผู้รับอย่างสูงสุด คุณความดีจะถูกประกาศและเผยแพร่ไปยังสาธารณชนทั่วไป สมควรที่
ผเู้ ก่ียวข้องทกุ ฝา่ ยตอ้ งกระทาอย่างรอบคอบ และผทู้ ่ไี ดร้ บั รางวัลไปแลว้ จะต้องดารงรกั ษา
คุณความดีนัน้ ใหย้ าวนานสืบไป

คณุ สมบัตขิ องสถานศึกษา

คุณสมบัติของสถานศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ท่ีมีสิทธ์ิเข้ารับการประเมินและ
คัดเลือกเพื่อรับรางวัลพระราชทาน ได้แก่ โรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาท่ีจัดการศึกษาตาม
แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับปัจจุบันท้ังของรัฐและเอกชนท่ีสามารถจดั การศึกษา ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ
ในด้านตอ่ ไปนี้

ด้านท่ี 1 คณุ ภาพนักเรยี น ประกอบด้วย
1. นกั เรยี นมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์

- นกั เรียนมคี วามรบั ผดิ ชอบ ซื่อสัตย์และเสียสละ
- นกั เรียนปฏบิ ัตหิ นา้ ทีข่ องตนเองได้ดีและทางานรว่ มกับผอู้ ืน่ ได้
- นักเรียนตระหนกั ในคุณค่าของภมู ปิ ัญญาไทย และภมู ิใจในความเปน็ ไทย
- นักเรยี นมจี ิตสานกึ ในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม
2. นกั เรียนมีความรคู้ วามสามารถทางวิชาการ
- นักเรียนมคี วามร้คู วามสามารถรอบด้าน หรือมีความสามารถพิเศษ ผลสัมฤทธิ์
ทางการเรยี นโดยรวมของสถานศึกษาสงู กวา่ เกณฑ์
- นกั เรยี นมคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์และสอ่ื ความได้อยา่ งมเี หตุผล
- นกั เรียนสามารถใช้ภาษาในการสื่อสารได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ
- นักเรียนมีความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ สามารถนาความรู้และเทคโนโลยไี ปประยุกต์ใช้
ในชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม

12

3. นักเรียนมีสขุ ภาพแขง็ แรง จติ ใจแจม่ ใสและมีสุนทรยี ภาพด้านศลิ ปะดนตรี และกีฬา
- นักเรยี นมีน้าหนกั และสว่ นสงู ตามเกณฑ์ ตามวยั แต่งการสะอาด ออกกาลังกายสมา่ เสมอ
- นักเรยี นมมี นษุ ย์สมั พันธ์ทด่ี ีปรับตัวไดแ้ ละอยรู่ ่วมกันอยา่ งสงบสุข
- นักเรยี นเป็นผหู้ ่างไกลจากสารเสพติด ปญั หาทางเพศและอบายมุขทงั้ ปวง
- นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในกิจกรรมศลิ ปะ ดนตรแี ละกีฬา

ด้านที่ 2 การบริหารหลกั สูตรและงานวชิ าการ ประกอบด้วย
1. การพัฒนาหลกั สูตรสถานศกึ ษา

- การวเิ คราะห์ความต้องการจาเป็นของสถานศึกษาและชมุ ชน และการนาผลมา
วางแผนพัฒนาหลกั สูตร

- หลักสตู รมคี วามยดื หยนุ่ สอดคลอ้ งกบั เป้าหมายการจัดการศึกษาและผู้มสี ่วนเก่ียวขอ้ ง
ร่วมกาหนดเปา้ หมาย

- การนิเทศ กากับ ตดิ ตาม และประเมนิ การใชห้ ลักสูตร
- การนาผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร
2. การจัดกระบวนการเรียนรูท้ ่ีเน้นนักเรียนเป็นสาคัญ
- การศกึ ษานักเรียนเป็นรายบคุ คลและนาผลมาพัฒนานกั เรียน
- การจัดการเรียนการสอนที่ให้นกั เรียนได้คดิ วิเคราะห์และลงมือปฏบิ ตั จิ รงิ โดยใช้กระบวน
การกล่มุ และแหลง่ การเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย
- การบรู ณาการการเรียนรกู้ บั กลมุ่ วชิ าอืน่ ๆและหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น
- การจดั สอนซอ่ มเสรมิ ให้แกน่ กั เรียนทม่ี ีความบกพร่องทางการเรียน
3. การพฒั นาระบบการวัดและประเมนิ ผลการเรียน
- การใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลการเรยี นทม่ี ีคุณภาพและหลากหลาย
- การกาหนดเกณฑ์การตัดสนิ การเรยี นที่ชว่ ยยกระดบั คณุ ภาพนักเรยี น
- ระบบการรายงานผลการเรียนตอ่ นักเรยี นผ้ปู กครอง ชุมชน
- การนาผลการเรียนไปพัฒนานกั เรียน พฒั นาการสอนและพัฒนาหลักสตู ร
4. การผลิต การใช้ การพัฒนาสือ่ และเทคโนโลยีเพือ่ การเรียนรู้
- การส่งเสริมการมสี ่วนรว่ มในการวางแผน จัดหา และผลิตส่อื และเทคโนโลยีเพื่อ การเรยี นรู้
ระหวา่ งสถานศึกษากับครูผ้สู อน และผูป้ กครองหรือชมุ ชน
- การใช้และพัฒนาสื่อในการจดั การเรียนการสอน
- ระบบการใหบ้ รกิ าร การให้และการบารุงรักษาสอื่ และเทคโนโลยีเพือ่ การเรยี นรู้
- การขยายผลการใช้สอ่ื ที่มีคุณภาพและเผยแพร่แก่ผู้ที่สนใจ
5. การจดั กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
- การจดั กจิ กรรมสง่ เสริมการเรยี นรู้ตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ท้ัง 8
- การจดั กิจกรรมส่งเสรมิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องนักเรยี น
- การจดั กจิ กรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนานกั เรียน
- การจดั บรกิ ารและสวสั ดิการตา่ งๆเพอ่ื ชว่ ยเหลือและแกป้ ัญหาของนักเรียน
6. การพฒั นาแหลง่ เรยี นรู้
- หอ้ งสมุดมปี รมิ าณหนงั สือเพียงพอและมกี ารจดั กจิ กรรมท่สี ง่ เสริมให้นักเรียนรักการอา่ น
- หอ้ งปฏบิ ตั ิการตา่ งๆครบถว้ นเพียงพอและใชป้ ระโยชน์คุ้มค่า

13

- การจัดมุม / แหลง่ สง่ เสริมการเรยี นร้ทู งั้ ในและนอกห้องเรียน
- การจดั สภาพแวดล้อมท่ีดภี ายในบริเวณสถานศึกษา
ดา้ นท่ี 3 การบริหารการจดั การ
1. พฒั นาระบบข้อมลู สารสนเทศ
- การจัดระบบข้อมลู และสารสารสนเทศพ้ืนฐานท่ีครอบคลุมและเป็นปัจจุบัน
- การนาขอ้ มลู และสารสนเทศไปใช้ ในการบริหารจดั การ และการเรยี นการสอน
- การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร กจิ กรรมในสถานศึกษา และผลการพัฒนาคณุ ภาพของ
สถานศึกษา
2. การพฒั นาคณุ ภาพของสถานศึกษา

- แผนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและแผนปฏิบัติการประจาปี สอดคล้องกบั เปา้ หมาย และ
นโยบายในการจดั การศึกษาตลอดจนสภาพของท้องถิน่ และสถานศกึ ษา

- มีการจดั ระบบประกนั คุณภาพภายใน
- การบรหิ ารเชงิ กลยทุ ธแ์ ละใช้หลักการมีส่วนรว่ ม
- รูปแบบการบริหารที่มุ่งผลสมั ฤทธขิ์ องงาน มกี ารตรวจสอบและถว่ งดุล
3. การบรหิ ารงบประมาณและการบริการ
- การบรหิ ารงบประมาณเหมาะสมและเพียงพอ
- แผนการตดิ ตามควบคุมการใชง้ บประมาณ
- การรายงานผลการใช้งบประมาณเป็นระบบ โปร่งใสและตรวจสอบได้
- การจัดบริการตา่ งๆให้แก่บคุ ลากรตามความเหมาะสมและท่วั ถึง
4. การบริหารงานอาคารสถานที่
- อาคารสถานทีท่ ุกแหง่ มคี วามสะอาดปลอดภัยถกู สุขลกั ษณะ ม่นั คง แขง็ แรง เหมาะสมแก่
การทากิจกรรม
- อปุ กรณแ์ ละสิง่ อานวยความสะดวกประจาอาคารมีปรมิ าณเพยี งพอ รอบบริเวณอยู่
ในสภาพดี สะอาดและปลอดภัย
- การจดั ซ่อมบารงุ เหมาะสมและทนั ต่อเหตกุ ารณ์
- ระบบสาธารณปู โภคอยใู่ นสภาพใชก้ ารได้ดปี ลอดภยั และมีระบบป้องกนั อนั ตราย
ด้านที่ 4 ความสัมพันธ์ระหวา่ งสถานศกึ ษากับผ้ปู กครองและชุมชน
1.การมีส่วนรว่ มของผปู้ กครองและชุมชนต่อการจดั การศึกษา
- การสารวจความต้องการของผ้ปู กครองและชมุ ชนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

- การกาหนดวิสยั ทัศน์และเป้าหมาย การจดั การศึกษาร่วมกัน
- สมาคม ชมรม องค์กรหรอื ภูมิปัญญาท้องถิน่ ท่ใี ห้การสนบั สนนุ สถานศกึ ษา
- ผปู้ กครองและชมุ ชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรยี นรู้
2. การมสี ว่ นรว่ มของสถานศึกษาต่อการพัฒนาท้องถ่ินและชมุ ชน
- สถานศกึ ษาและชุมชนมโี ครงการ / กิจกรรมเพื่อพัฒนาทอ้ งถิ่นร่วมกนั
- ผลการพฒั นาเกิดประโยชนต์ ่อสว่ นรวมและสงั คม
- สถานศึกษาใหก้ ารสนบั สนุนชุมชนอย่างเหมาะสมและตอ่ เนื่อง
- สถานศกึ ษาเปน็ แหล่งวทิ ยาการในการใหค้ วามรู้และบริการชุมชน

14

ด้านที่ 5 บคุ ลากรและการบรหิ ารงานบคุ ลากร
1. คณุ ลกั ษณะของผู้บริหาร

- ผู้บรหิ ารมีความรู้ความสามารถในงานวิชาการและการบรหิ ารสถานศึกษา
- ผู้บรหิ ารมวี สิ ยั ทัศน์ และความเป็นผนู้ า
- ผู้บรหิ ารมีความเป็นประชาธปิ ไตยและยึดหลักการบรหิ ารงานแบบมสี ่วนรว่ ม
- ผ้บู ริหารมคี ุณธรรมจรยิ ธรรม เปน็ แบบอยา่ งทดี่ เี ป็นที่ยอมรบั ของผู้ทีเ่ กี่ยวขอ้ งท้ังในและ
นอกสถานศกึ ษา
2. คณุ ลกั ษณะของครู
- ครมู คี วามร้คู วามเข้าใจเปา้ หมายการจัดการศึกษา หลกั สตู ร จติ วทิ ยาและพัฒนาการของ
นกั เรียน สามารถนามาใชใ้ นการส่งเสริมและพฒั นานกั เรยี นเปน็ รายบุคคล
- ครูมที กั ษะและจัดการเรียนการสอนอยา่ งมีประสิทธิภาพและเนน้ นักเรียนเป็นสาคญั
- ครมู คี วามมุง่ ม่ันในการปฏบิ ตั ิงานอุทศิ ตนในการพัฒนานักเรียน มีคุณธรรมจรยิ ธรรมและ
เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี
- ครมู ีการพฒั นาตนเองอย่างสม่าเสมอ และใช้กระบวนการวจิ ัยพฒั นาการเรยี น การสอน
3. คณุ ลกั ษณะของบุคลากรสนบั สนุน
- บุคลากรสนับสนนุ เข้าใจบทบาทหน้าท่แี ละปฏิบตั ิงานด้วยความรบั ผดิ ชอบ
- บคุ ลากรสนับสนุนมมี นุษย์สมั พันธ์ทด่ี ี และ ให้ความรว่ มมือกับสถานศกึ ษา
- บุคลากรสนบั สนุนตระหนักในการเปน็ แบบอย่างท่ี
- บคุ ลากรสนบั สนนุ มีความร้คู วามเข้าใจแนวทางการจัดการศึกษา
4. การบริหารงานบุคลากร
- โครงสรา้ งการบริหารงาน บทบาทหน้าท่ีของบคุ ลากรกาหนดไวช้ ดั เจน
- การจดั ระบบการนิเทศติดตามประเมนิ และพัฒนางานอยา่ งสมา่ เสมอ
- การเสรมิ สรา้ งขวัญและกาลังใจ จัดให้แกบ่ ุคลากรทุกฝ่ายอยา่ งเหมาะสม
- การพัฒนาบุคลากรดาเนินอย่างเปน็ ระบบต่อเน่ือง และทั่วถงึ
ด้านท่ี 6 ความดเี ดน่ ของสถานศกึ ษา
1. โครงการ/กิจกรรมดเี ดน่ ของสถานศกึ ษา
- โครงการ/กจิ กรรมดีเดน่ สอดคล้องกับวสิ ัยทัศน์ นโยบาย และเป้าหมายการพัฒนา
คณุ ภาพสถานศึกษา
- การดาเนนิ โครงการ/กิจกรรมใช้หลกั การบริหารจัดการแบบมสี ่วนร่วม

- การดาเนินโครงการเน้นการทางานเป็นระบบและเกดิ ประโยชน์ในวงกวา้ ง

- ผู้เกยี่ วขอ้ งทุกฝ่ายปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความเต็มใจ และยึดเปา้ หมายความสาเรจ็ ของงาน
รว่ มกัน

2. ผลงานจากการดาเนินโครงการ/กิจกรรมดเี ดน่
- ผลงานเกดิ ประโยชนต์ อ่ พัฒนาการของนักเรียนรอบดา้ น
- ผลงานเกดิ ประโยชนต์ อ่ นกั เรยี นครอบคลมุ ทั้งสถานศึกษา
- ผลงานได้รบั การยอบรับจากผูเ้ ก่ียวข้องและชมุ ชน
- มีการเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ผลงานอย่างแพรห่ ลาย

15

ทั้งน้ีสถานศึกษาดังกล่าวต้องไม่เคยได้รับรางวัลพระราชทาน หรือเคยได้รับรางวัลพระราชทาน
มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี จึงจะมีสิทธิ์ส่งเข้ารับการประเมิน ยกเว้น สถานศึกษาน้ันจะเปลี่ยนขนาด ท้ังนี้
เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยรางวัลพระราชทานแก่นักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษา
พ.ศ. 2548 ข้อ 12 และประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ท่กี าหนดในแตล่ ะปี

จากสภาพปจั จบุ นั ปัญหา และแนวคดิ ท่เี กย่ี วข้องกบั การจดั การศึกษาทีก่ ลา่ วมาข้างต้นในฐานะ
ผู้บริหารสถานศึกษา มีความตระหนักและเห็นความสาคัญของการขับเคล่ือนคุณภาพการศึกษา และเพ่ือให้
บรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าประสงค์ ของโรงเรียน ประกอบกับโรงเรียนวัดกาโห่ใต้ เป็นโรงเรียนที่จัด
กระบวนการเรียนรู้และบริหารจัดการโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนผู้นาการ
เปล่ียนแปลง โรงเรียนดีใกล้บ้าน โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับทอง โรงเรียนได้รับรางวัลส้วมสุขสันต์
รางวัลคู่หูเด็กไทยฟันดี โรงเรียนเครือข่ายต้นแบบปฐมวัยและข้าราชการครูจากโรงเรียนต่างๆได้มาศึกษาดู
งานเปน็ ประจา ผู้ปกครองและชุมชนให้ความร่วมมือกับโรงเรียนอย่างดี ข้าพเจ้าพรอ้ มกับคณะครูจงึ ได้ตั้งมั่น
และอุทิศตนท่ีจะทางานด้วยจิตสานึกของการเป็นข้าราชการท่ีดี ยกย่องเทิดทูน สถาบันชาติ ศาสนาและ
พระมหากษัตริย์ เหนือส่ิงอ่ืนใด สนองนโยบายต้นสังกัด พัฒนางานอย่างต่อเนื่อง สรา้ งความสัมพันธ์ท่ีดี
กับทุกฝ่าย พร้อมให้การช่วยเหลือสนับสนุน จัดระบบงานเข้าสู่เกณฑ์การประเมินสถานศึกษารางวัล
พระราชทาน สอบถามความคิดเห็นของผู้มีส่วนเก่ียวข้องทุกฝ่าย มีความเห็นพร้อมกันเพ่ือท่ีจะพัฒนา
โรงเรียนให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้นและด้วยจิตสานึกในการต้องการพัฒนาโรงเรียนให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน
โรงเรียนรางวัลพระราชทาน จึงเสนอขอรับการประเมินสถานศึกษาเพ่ือรับรางวัลพระราชทาน โดยได้
ดาเนินการเสนอขอรับการประเมินสถานศึกษาเพ่ือรับรางวัลพระราชทานในปีการศึกษา 2551 เป็นครั้ง
แรกแต่ได้รับการประเมินเป็นเป็นลาดับที่ 2 ของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ไม่ท้อถอย มุ่งมั่นพัฒนาต่อ
เพ่ือจะส่งเข้ารับการประเมินในปีต่อไป และเสนอรับการประเมินในคร้ังที่ 2 ปีการศึกษา 2552 ทุกคนได้
ร่วมกันปรับปรุง พัฒนา ตามเกณฑ์มาตรฐานโรงเรียนรางวัลพระราชทาน จึงประสบผลสาเร็จได้รับรางวัล
สถานศึกษารางวัลพระราชทาน ขนาดกลาง จึงไดจ้ ัดทาและนาเสนอเป็นผลงานดเี ดน่ ท่ีประสบผลสาเร็จเป็น
ที่ประจกั ษ์

จากข้อมลู และสภาพดังกลา่ ว จึงมคี วามต้ังใจในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ ด้วยความมุ่งมนั่ ใหเ้ ตม็ ความรู้
ความสามารถเพ่ือพฒั นาคุณภาพการศึกษาใหด้ ที ่สี ุด และเม่อื ข้าพเจ้านายสันติ ทะเดช ไดย้ ้ายมาบรรจุ
แตง่ ตง้ั ในตาแหน่งอาจารยใ์ หญ่โรงเรยี นวดั กาโหใ่ ต้ กไ็ ด้ตง้ั เป้าหมายในการพัฒนาโรงเรียนใหม้ คี ุณภาพใน
ทุกๆด้านอย่างเต็มความสามารถ และแรงบนั ดาลใจ ความประทบั ใจ อกี ประการหนึ่งคอื เมื่อครงั้ ขา้ พเจา้
ดารงตาแหน่งครูใหญ่ทโ่ี รงเรียนวดั อู่แกว้ ปพี .ศ. 2536 ไดม้ โี อกาสเข้าเฝา้ สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์
พระบรมราชินีนาถ เสด็จทรงงานตามโครงการพระราชดาริในเขตพ้ืนทล่ี ่มุ นา้ ปากพนัง ท่ีบ้านค้อแดง ตาบล
เขาพระบาท อาเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรธี รรมราช เพอ่ื ถวายรายงานข้อมูลทางดา้ นการศึกษาของ
โรงเรยี นและพ้ืนท่ีใกล้เคยี ง ไดเ้ หน็ พระองค์ได้ทรงงานอย่างมุง่ ม่ัน อดทนมีพระวริ ิยะอุตสาหะ
ไมแ่ สดงอาการเหนื่อยล้า เปน็ เวลาถงึ 6 ชวั่ โมง ด้วยความต้ังใจท่ีพระองค์จะให้พสกนิกรของพระองค์ ได้มี
อาชีพ หายจาก โง่ จน เจบ็ และพระองคม์ ีพระราชเสาวนยี เ์ กย่ี วกับการศึกษา ที่พระบาทสมเดจ็ พระ
เจา้ อยูห่ วั สนพระทยั เก่ียวกับโรงเรียนรางวัลพระราชทาน และนักเรยี นรางวัลพระราชทานได้พฒั นาและมี
โอกาสทดั เทียมเสมอภาคในการได้รับการศกึ ษาท่ดี ี และครูได้ปฏบิ ตั ิหน้าท่ีอยา่ งมุ่งมน่ั บนพนื้ ฐานของความ
ขาดแคลนและ นักเรียน โรงเรียนประสบความสาเร็จจนมีคุณภาพเพื่อประเทศชาตไิ ด้พฒั นาตอ่ ไป

16

จึงเป็นแรงบนั ดาลใจสาคัญ ใหม้ คี วามมุ่งมน่ั ในการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ในฐานะทเ่ี ป็นข้าราชการภายใต้
เบือ้ งยคุ ลบาทของพระองค์ทา่ น จะต้องพัฒนาโรงเรยี นให้ได้เปน็ โรงเรียนรับรางวลั พระราชทาน เพราะถือ
วา่ ว่าเป็นรางวัลทีม่ เี กยี รติสงู สุด กว่ารางวลั อืน่ ๆทงั้ ปวง เป็นเกยี รตสิ งู สุดแกผ่ ู้ได้รบั รางวัล ผา่ นกระบวนการ
ประเมินหลายขน้ั ตอน และทีส่ าคญั จะต้องพฒั นาโรงเรียนให้มคี ณุ ภาพในทุกๆดา้ น ตอ้ งประเมนิ ตนเองให้
ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ โรงเรยี นรับรางวัลพระราชทานกอ่ น จึงขอรบั การประเมินจากคณะกรรมการ ท้งั
ระดับเขตพ้นื ท่ี ระดบั จังหวดั และระดบั เขตจังหวดั

ขา้ พเจ้าจงึ มคี วามมงุ่ มั่นทุ่มเทในการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาทุกด้าน ตามเปา้ หมายของมาตรฐาน
การศกึ ษาของชาติ จึงไดว้ างแผนในการพัฒนาโรงเรียนอย่างเป็นระบบอยา่ งต่อเนื่อง โดยส่งเสรมิ สนบั สนนุ
สรา้ งความตระหนัก ความพยายาม กบั ครูและบุคลากรทีเ่ กย่ี วขอ้ งทุกฝ่าย เพื่อรว่ มมือ รว่ มใจ ในการพัฒนา
คณุ ภาพของโรงเรยี น

วิธีดาเนินการจัดทาผลงานดเี ด่นท่ปี ระสบความสาเร็จเปน็ ท่ปี ระจกั ษ์
ไดก้ ารดาเนินงานตามกระบวนการข้ันตอนดงั น้ี

1. ศึกษา วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และแนวทางการพัฒนาคณุ ภาพของโรงเรยี นรับรางวัลโรงเรียน
พระราชทาน

2. ศึกษาดงู าน โรงเรียนท่ีประสบความสาเร็จในการจัดการศกึ ษาในประเภทตา่ งๆเพ่ือมา
ประยกุ ต์ใช้

3. วางแผน พัฒนาผลสมั ฤทธ์ิผู้เรียน ทกุ กลุ่มสาระ โดยสร้างตระหนกั ทุ่มเทในการจัดการเรียน
การสอน การวดั ผลประเมนิ

4. แต่งตัง้ ผู้รบั ผิดชอบในการพฒั นางานตามเกณฑ์การประเมนิ โรงเรียนรับรางวลั พระราชทาน
5. ประเมนิ และพัฒนาตนเองให้ไดม้ าตรฐานตามเกณฑ์ เพ่อื แสดงความม่ันใจ ในการรับการ
ประเมนิ จากคณะกรรมการ
6. สมคั รเพ่อื เข้ารบั การประเมินโรงเรียนเพื่อรบั รางวัลพระราชทาน ขนาดกลาง ระดับ
ประถมศกึ ษา

ในการขอรับการประเมินโรงเรียนเพื่อรบั รางวลั พระราชทานนนั้ คร้ังแรกเมื่อปีการศึกษา
2551 เปน็ ตวั แทนของสานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต 3 เข้ารับการ
ประเมนิ ในเขตจังหวดั นครศรีธรรมราช ซึง่ มอี ยู่ 4 เขต โรงเรยี นวัดกาโห่ใต้ ไดร้ ับการประเมินอยใู่ นลาดบั ท่ี
2 ของจังหวัด โรงเรียนจงึ นาผลมาวเิ คราะห์ จดุ เดน่ จุดควรพฒั นา ศึกษาเปรยี บเทียบจากหลักเกณฑ์และ
หวั ขอ้ ในการประเมนิ ได้พัฒนาโรงเรียนโดยเฉพาะการพฒั นาคณุ ภาพการจัดการเรยี นการสอน เพอื่ ให้
นกั เรยี นมีผลสัมฤทธสิ์ ูงขึ้น สง่ เสรมิ พฒั นาดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรมของนักเรยี น สรา้ งความตระหนกั ให้กับครู
และบคุ ลากร และขอรบั การประเมนิ อีกคร้ังในปกี ารศกึ ษา 2552 และประสบความสาเร็จ ไดร้ บั รางวลั
โรงเรียนรบั รางวัลพระราชทาน เป็นความภาคภูมิอยา่ งยิ่งแกข่ ้าพเจ้าและคณะครบู ุคลากร นักเรียนและ
ผู้ปกครอง และได้ เขา้ รับพระราชทานรางวลั จากสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าสยามบรมราชกุมารี ณ ตาหนัก
ดสุ ติ ดาลัย เมอ่ื วนั ท่ี 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

17

ผลท่เี กิดจากการนาผลงานดเี ด่นทปี่ ระสบความสาเร็จเปน็ ทปี่ ระจกั ษไ์ ปใช้

จากการทโ่ี รงเรียนวดั กาโหใ่ ตป้ ระสบความสาเร็จ ไดร้ ับรบั รางวัลโรงเรยี นพระราชทาน

ขนาดกลาง ระดบั ประถมศกึ ษา ทาใหน้ กั เรยี น ครูและบุคลากรทางการศกึ ษา กรรมการสถานศึกษา และ

ผู้ปกครองนักเรียนมีความภาคภูมิใจ ช่นื ชมและมั่นในการจัดการศึกษาของโรงเรยี น ได้รบั ความไวว้ างใจนา
บุตรหลานมาเขา้ ท่โี รงเรยี นวดั กาโหใ่ ต้ และสง่ ผลสาเรจ็ โดยภาพรวมดังนี้

1. ผลที่เกดิ กบั นักเรียน

1.1 นกั เรยี นมีความตระหนกั มคี วามพยายามในการใฝเ่ รียนใฝ่รู้ดขี น้ึ
1.2 นกั เรียนมรี ะเบียบ มวี ินัย มคี วามรบั ผดิ ชอบดีขนึ้

1.3 นักเรียนมีจติ อาสา ปฏิบตั ิตนเองต่อส่วนรวมและมีความภาคภมู ิใจ โรงเรียน

1.4 ผลสมั ฤทธ์นิ ักเรยี นสูงขึน้
2. ผลท่เี กดิ กับครู

2.1 ครมู คี วามตระหนกั พยายาม ในการจดั การเรียนร้ใู ห้เกิดขน้ึ ผูเ้ รียน

2.2 ครไู ดร้ บั การพัฒนาวทิ ยฐานะให้สูงขน้ึ
2.3 ครูได้รับการยอมรับ จากนักเรยี น ผู้ปกครอง ชมุ ชนและมคี วามศรัทธาต่อครู

2.4 ครูได้รับรางวลั ต่างๆเช่นรางวัลหนึง่ แสนครูดี ครูผ้มู ีจรรยาบรรณดเี ดน่ และรางวัล
อนื่ ๆ
3. ผลท่เี กดิ กบั โรงเรียน

3.1 ผปู้ กครองและชมุ ชน ใหก้ ารยอมรบั และชื่นชมต่อโรงเรยี น
3.2 ผูป้ กครองนักเรียนนาบุตรหลานมาเข้าเรียนเพ่มิ ขึ้น
3.3 โรงเรยี นไดร้ บั การยอมรับ ชื่นชม จากโรงเรยี น และองคก์ รอื่นๆในชุมชน

3.4 นกั เรียน ศษิ ย์เก่าและผู้ปกครอง มีความรกั และศรัทธา ภูมิใจในสถาบนั
3.5 จดั ตั้งกองทนุ .” โรงเรียนรางวัลพระราชทาน” เพื่อใชด้ อกผลเปน็ ทนุ การศกึ ษา

ใหก้ บั นักเรยี น

3.6 มีโรงเรยี นอ่ืนๆมาศึกษาดงู าน อย่างสม่าเสมอ ซ่ึงจะเป็นเครือขา่ ยในการพัฒนา
ใหก้ บั โรงเรยี นตา่ งๆต่อไปและโรงเรียนตอ้ งพัฒนาเตรียมพร้อมอย่างสม่าเสมอ

โรงเรียนรางวัลพระราชทานตามหลกั เกณฑ์ โรงเรียนใดได้รับรางวลั แลว้ จะดารงรักษา

คณุ ภาพตามเกณฑเ์ ปน็ เวลา 3 ปี คือ ปกี ารศึกษา 2553,2554, 2555 โดยตอ้ งรบั การประเมนิ หรือ
ตรวจเยย่ี มจากต้นสังกดั ตามระยะเวลาที่กาหนด เปน็ แบบอยา่ งแกโ่ รงเรยี นอ่ืนๆโรงเรยี นไม่สามารถสง่ เข้ารบั
การประเมินในเงื่อนไข เวลา ในประเภทนั้นๆ และโรงเรยี นวดั กาโหใ่ ต้ไดร้ ับการพัฒนาอย่างตอ่ เนื่อง จนได้มี

โรงเรยี นต่างๆมาศึกษาดูงานอย่างสมา่ เสมอ โรงเรียนยงั ไดร้ ับรางวลั อื่นๆคือโรงเรยี นสง่ เสริมสุขภาพระดบั
เพชร สถานศึกษาพอเพียง รางวลั บ้านนกั วทิ ยาศาสตรน์ ้อย ส่วนผู้บริหารไดร้ บั รางวัล หน่งึ แสนครดู ี ครูผมู้ ี
จรรยาบรรณดเี ด่นและผ้บู รหิ ารได้รับรางวัลครุ สุ ดดุ ี และได้รบั การคัดเลือกให้เขา้ ร่วมเป็นโรงเรยี นในโครงการ

โรงเรียนเครอื ขา่ ยตน้ แบบปฐมวยั โรงเรยี นดีประจาตาบล โรงเรยี นสจุ ริต และยังไดร้ บั การเลือกจาก
ผูบ้ รหิ ารโรงเรียนให้เปน็ นายกสมาคมผบู้ ริหารการศกึ ษาอาเภอชะอวด

18

แนวคิดในการพฒั นาตอ่ ไป
โรงเรยี นรบั รางวลั พระราชทาน เมอ่ื ไดร้ บั รางวลั แลว้ จะต้องดารงคุณภาพใหเ้ ปน็ ไปตาม

เกณฑ์การประเมินเป็นระยะเวลาไม่นอ้ ยกวา่ 3 ปี นับแตว่ นั ประกาศใหไ้ ดร้ ับรางวัลโรงเรยี นรางวลั
พระราชทาน ซ่ึงโรงเรียนวัดกาโห่ใต้ โดยผู้บริหารโรงเรียน คณะครูได้วางรปู แบบในการพฒั นาใหเ้ กิดความ
มน่ั คง ยง่ั ยืนตลอดไป จงึ ไดม้ ีแนวทางดังต่อไปน้ี

1. จดั ทาโครงสร้างการบริหารงานอยา่ งเป็นระบบ มีการแตง่ ตัง้ ผู้รบั ผดิ ชอบอยา่ ง
ชดั เจน

2. จดั ทาแผนยุทธศ์ สาสตร์ แผนปฏิบตั กิ าร มีการควบคมุ กากับติดตามแผนงาน
โครงการที่สอดคลอ้ งกับพัฒนาโรงเรยี นตามเกณฑโ์ รงเรยี นรางวัลพระราชทานและโรงเรียนส่งเสรมิ สุขภาพ
ระดับเพชรอยา่ งเปน็ ระบบ ต่อเน่ือง

3. มีการวิเคราะหแ์ ผนและสรุปโครงการ โดยให้ทุกฝ่ายที่เก่ียวข้องไดม้ สี ่วนรว่ มใน
การดาเนินการ

4. ปรบั ปรุง พฒั นา ภูมิทัศน์ ของโรงเรียนใหม้ ีความสะอาด ร่มร่ืน เปน็ ระเบยี บ
เอือ้ ต่อการพฒั นาการเรยี นรู้ของนักเรยี น

5. จดั หาส่ือเทคโนโลย่ีเพื่อการเรียนการสอนใหเ้ พียงพอ และมีคณุ ภาพ
6. ส่งเสรมิ พฒั นาครแู ละบุคลากรให้มคี วามร้คู วามสามารถ มีความตระหนัก
พยายาม และมีความรับผิดชอบในหนา้ ที่อย่างสม่าเสมอ
7. แสวงหาความร่วมมอื จากองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ ชมุ ชนและองค์อน่ื ๆเพื่อ
สนบั สนนุ ในการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา
8. จัดทาแผนยุทธศาสตร์ ระยะเวลา 4 ปี เพ่อื กาหนดแนวทางในการพฒั นาให้มี
ความยั่งยืน โดยให้ทุกฝา่ ยได้มสี ว่ นรว่ มในการคดิ การกาหนดเป้าหมายและวธิ ีดาเนนิ งาน
9. จัดทาแผนปฏบิ ัติการประจาปี เพอื่ ดาเนนิ การในแตล่ ะปีการศึกษา มีการสรปุ
รายงานผลการดาเนินโครงการทุกโครงการ
10.จดั ทาการรายงานการพฒั นาคณุ ภาพประจาปี
11.จดั ทากรอบการพัฒนา ในด้านคณุ ภาพผเู้ รียน การบรหิ ารหลกั สตู รและงาน
วชิ าการ และการบรหิ ารจดั การโดยยึดกระบวนการและผลผลติ ตามเกณฑม์ าตรฐานโรงเรยี นรับรางวลั
พระราชทาน ในการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี นอย่างตอ่ เนื่อง

1.2 ชื่อรางวัล / ผลงานไดร้ ับรางวลั โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดบั เพชร
หน่วยงานทใี่ ห้รางวัล กระทรวงสาธารณสขุ

สภาพปัญหา แนวคิด หรือแรงจงู ในการจัดทาผลงานดีเด่นทีป่ ระสบผลสาเรจ็ เป็นทป่ี ระจักษ์
โรงเรยี นวดั กาโหใ่ ต้ ตัง้ อยู่หม่ทู ่ี 1 ตาบลควนหนองหงษ์ อาเภอชะอวด จังหวัด

นครศรีธรรมราช จดั การศึกษาต้งั แตร่ ะดบั ปฐมวยั – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จัดหอ้ งเรยี น
จานวน 8 ห้องเรียน ในการบริหารจดั การพฒั นาคุณภาพโรงเรยี น ได้กาหนดเป้าหมายนักเรยี นได้รับการ
พัฒนาให้เป็นไปตามมาตรฐานของหลักสูตร และศักยภาพของนักเรียนทุกคน และมีแนวทางในการบรหิ าร
จัดการโดยยึดหลกั ดังต่อไปนี้

19

ปรัชญาโรงเรยี น : สะอาด มารยาทดี วิชาเด่น เน้นคณุ ธรรม

วิสยั ทศั นข์ องโรงเรยี น

สภาพโรงเรียน สะอาด ภมู ิทศั น์ดี เทคโนโลยีพร้อม

นักเรียน สขุ ภาพดี วชิ าเด่น มารยาทเยีย่ ม
ครู สอนดี มีความรบั ผิดชอบ

ผบู้ ริหาร ระบบดี มีภาวะผู้นา

กรรมการสถานศึกษา ร่วมมือ ร่วมใจ ใฝ่พฒั นา
สนบั สนุน รว่ มมอื
ผู้ปกครอง ตระหนัก

“ โรงเรียนวดั กาโห่ใต้ จะตอ้ งเป็นโรงเรียนมีภมู ทิ ศั น์ดี สะอาด ร่มรืน่ เป็นระเบยี บ มเี ทคโนโลยี

เพื่อการจัดการเรียนรู้ บริการสังคม นักเรียนมีความสามารถด้านวิชาการ มีสุภาพดี มารยาทเรียบร้อย
อนุรักษ์ความเป็นไทย เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ ครูมีความรู้ มีความรับผิดชอบ ผู้บริหารมี

ความเป็นผู้นา มีระบบในการบริหาร กรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ให้ความร่วมมือ สนับสนุนในการจัด

การศกึ ษา”
พันธกิจ

1. สง่ เสริม พัฒนาการบรหิ ารโรงเรียนใหม้ ีประสทิ ธิภาพ ประสทิ ธผิ ล นกั เรียนมี
คุณภาพตาม มาตรฐานการศกึ ษา

2. ส่งเสริมพัฒนาสถานทใี่ ห้มคี วามพร้อม สะอาด รม่ ร่ืน มีระเบียบ มภี มู ิทัศน์

สวยงาม เอื้อต่อการเรียนรู้ และสนบั สนนุ ใหม้ ีการจัดหา พฒั นา เทคโนโลยเี พอ่ื การศึกษาใหพ้ ร้อมบริการ
3. ส่งเสรมิ ครใู ห้มกี ารพัฒนาหาความรู้อยา่ งสมา่ เสมอ มีความตระหนกั มคี วาม

รับผดิ ชอบในวิชาชพี ครู

4. เสริมสรา้ งความสัมพันธ์ท่ีดีระหว่างครู กรรมการสถานศึกษา ผูป้ กครอง ชุมชน
ให้เกิดความรักความตระหนักและรว่ มมือ รว่ มใจในการสนับสนนุ พัฒนาโรงเรยี น

5. ส่งเสรมิ พัฒนา นกั เรียนให้มสี ุขภาพอนามยั ทดี่ ี มีการกาลงั กาย เล่นกฬี า และ
ส่งเสรมิ สู่ความเป็นเลิศดา้ นกฬี า

6. สง่ เสริมอนรุ ักษ์ความเปน็ ไทย
เปา้ ประสงค์

1.โรงเรียนมีการบรหิ ารจดั การศึกษาท่ีมีคุณภาพ
2.ครพู ัฒนาตนเองเปน็ ครมู อื อาชพี
3.นักเรียนเป็นบคุ คลแห่งการเรยี นรู้ ประสบผลสาเร็จในการศึกษาตอ่
4.นกั เรียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ มอันพึงประสงค์
5.ชมุ ชนมสี ่วนรว่ มในการจดั การศึกษา
6.โรงเรยี นมสี ภาพแวดลอ้ มและบรรยากาศที่เอื้อตอ่ การเรยี นรู้
ในการกาหนดนโยบายและแผนพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน ได้จัดให้มีการประชุมระดม
ความคิดเห็น ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน คณะกรรมการช้ันเรียน
ผู้ปกครองเครือข่าย คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการ โดยร่วมกันกาหนดเป็นนโยบายการ
บรหิ ารโรงเรยี น ดังน้ี

20

นโยบายโรงเรยี นวดั กาโหใ่ ต้
1. จดั การศกึ ษาข้ันพื้นฐานใหค้ รอบคลมุ เดก็ ทุกกลุ่มทง้ั เด็กปกติ เด็กพกิ าร เดก็ ดอ้ ย

โอกาสและส่งเสริมเดก็ ที่มคี วามสามารถพเิ ศษ
2. สง่ เสรมิ การจดั การเรยี นการสอนท่ียึดผู้เรียนเปน็ สาคัญ โดยยดึ หลักใหน้ กั เรยี น

เป็นคนดี คนเก่ง มีสุข รักความเป็นไทย ส่งเสริมให้นักเรียนได้เล่นดนตรี กีฬาและแสดงออกอย่าง
เหมาะสมป้องกันและแก้ไขปญั หายาเสพติดในโรงเรยี นรวมท้งั ส่งเสรมิ ระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น

3. ส่งเสรมิ พัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนและบุคลากรอนื่ ๆในโรงเรียนและ
ดารงตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

4. ดาเนินการประกนั คุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกบั แนวทางการประกันคุณภาพ
การศกึ ษาของสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา (สมศ.) เพ่ือพัฒนาโรงเรียนใหไ้ ด้
มาตรฐาน

5. สง่ เสริมครูและนกั เรียน ใหส้ ามารถใชค้ อมพวิ เตอร์และอินเตอรเ์ น็ต และ
เทคโนโลยีในการพัฒนาตนเองและพัฒนาการเรียนรู้ ประสานชุมชนและระดมทรัพยากรเพื่อร่วมกันจัด
การศึกษาของโรงเรยี น

6. สง่ เสริมและพฒั นาบคุ ลากรในโรงเรียนให้มคี วามพร้อมและมศี ักยภาพเพยี งพอต่อ
การปฏิบตั งิ าน

7. บรหิ ารจัดการโรงเรยี นอยา่ งมีประสทิ ธิภาพตามหลักธรรมาภบิ าล
นโยบายโรงเรยี นส่งเสรมิ สุขภาพ

1. สง่ เสริมใหค้ รู นักเรยี นและชุมชน ออกกาลงั กายอย่างสม่าเสมอ
2. จดั สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนให้ สะอาด รม่ ร่นื เออ้ื ต่อการพัฒนาสุขภาพ
3. ให้บรกิ ารอาหารกลางวนั ท่สี ะอาด และถูกหลกั โภชนาการ
4. ส่งเสรมิ ให้ครแู ละนกั เรยี นไดต้ รวจสุขภาพประจาปอี ย่างน้อยปลี ะ่ 1 ครั้ง
5. ส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหค้ รู ปฏบิ ตั ติ ามหลกั สขุ บัญญตั แิ ห่งชาติ 10 ประการ
สขุ บญั ญตั แิ หง่ ชาติ 10 ประการ
1. ดแู ลรักษารา่ งกายและของใชใ้ หส้ ะอาด
2. รกั ษาฟันให้แข็งแรงและการแปรงฟนั ทุกวันอยา่ งถกู ตอ้ ง
3. ลา้ งมือใหส้ ะอาดกอ่ นกินอาหารและหลงั การขับถา่ ย
4. กนิ อาหารสุข สะอาด ปราศจากอนั ตราย และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด สฉี ูดฉาด
5. งดบุหร่ี สุรา สารเสพตดิ การพนนั และการสาสอ่ นทางเพศ
6. สร้างความสัมพันธใ์ นครอบครัวให้อบอ่นุ
7. ปอ้ งกนั อบุ ตั ภิ ัยด้วยการไมป่ ระมาณ
8. ออกกาลงั กานสมา่ เสมอและตรวจสขุ ภาพประจาปี
9. ทาจติ ใจใหร้ ่าเริงแจม่ ใสอยู่เสมอ
10.มสี านึกตอ่ สว่ นรวม และรว่ มสรา้ งสรรคส์ งั คม
จากขอ้ มลู ดงั กล่าวและสภาพปัญหานักเรียนในปจั จุบนั พบว่านักเรียนยังมปี ญั หาด้าน
สขุ ภาพของชอ่ งปากและฟนั ปญั หาดา้ นภาวะทุกขโภชนาการ และปัญหาสุขภาพด้านอ่นื ๆ ซง่ึ จะสง่ ผลต่อ
การพัฒนาดา้ นร่างกาย และสตปิ ัญญาของนกั เรยี นและจะทาการพฒั นาด้านอน่ื ๆเชน่ การพฒั นาด้านสมอง

21

พัฒนาดา้ นการเรียนรู้ และจะเป็นปญั หาให้นักเรียนด้อยความสามารถในด้านต่างๆใหเ้ ต็มศักยภาพ ซง่ึ
จุดหมายของหลกั สูตรนัน้ ม่งุ พฒั นาผู้เรียนใหม้ ีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี มีสขุ นสิ ัย รักการออกกาลังกาย
สว่ นวสิ ัยทศั นข์ องหลักสูตรก็มุ่งพฒั นาใหผ้ ู้เรยี นทุกคน ซึง่ เป็นกาลงั ของชาติ ใหเ้ ปน็ มนุษย์ที่มคี วามสมดลุ
ทางดา้ นรา่ งกาย ความรูแ้ ละคุณธรรม มจี ติ สานึกในการเป็นพลเมืองพลโลก ยึดมั่นในการปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษตั ริย์เปน็ ประมขุ มีความร้แู ละทักษะพืน้ ฐานและมีเจตคติที่ดีตอ่ การศึกษาต่อ
การประกอบอาชพี การศึกษาตลอดชีวติ โดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคญั บนพน้ื ฐานของความเช่ือวา่ ทุกคน
สามารถเรียนร้แู ละพัฒนาตนเอง เต็มศักยภาพ

ฉะน้นั ทางโรงเรยี นจะตอ้ งจดั การศกึ ษาเพ่ือพฒั นาผูเ้ รียนใหม้ สี ขุ ภากาย สขุ ภาพจติ ที
แข็งแรง สมบูรณ์ ซึ่งจะทาให้คุณภาพการเรยี นรู้ของนกั เรยี นพฒั นาดขี ึน้ สง่ ผลใหน้ ักเรียนมผี ลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนดีขนึ้ ในโอกาสต่อไป จะเปน็ ความยัง่ ยืนของการพัฒนา จึงไดเ้ ข้ารว่ มโครงการ โรงเรยี นส่งเสรมิ
สขุ ภาพ ของกรมอนามยั กระทรวงศึกษาธิการ

แนวคิดโรงเรียนสง่ เสริมสุขภาพระดับเพชร ต่อยอดจากกระบวนการโรงเรยี นส่งเสรมิ
สขุ ภาพทีม่ ีอยู่ วดั ผลลพั ธท์ ่ีสขุ ภาพนักเรยี น การสนองนโยบายด้วยมาตรฐาน ตวั ช้วี ดั คาอธิบาย
แหล่งขอ้ มูลและการตรวจสอบทีช่ ดั เจน ความสาเร็จของการพฒั นาสืบเนือ่ งจากปจั จัยสาคญั คือ

1. ภาวะผนู้ า ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ตอ้ งมุ่งมัน่ ตง้ั ใจ เนน้ คุณภาพ เปา้ หมายอย่างชัดเจน
และกลา้ หาญต่อการท่จี ะนาและดาเนินการ

2. การทาทางานเปน็ หมู่คณะ ดว้ ยการสรา้ งพฤตกิ รรม และวฒั นธรรมการทางานเปน็ ทมี
ใหร้ างวลั อย่างเหมาะสม เรยี นรู้การทางานรว่ มกนั อย่างเปิดเผย จริงใจ

3. ตระหนกั มุ่งมัน่ ด้วยการกาหนดทศิ ทางท่ชี ัดเจน บรู ณาการมาตรฐานท้ังหมดทีม่ กี ับ
สาระการเรยี นรู้ และวัดผลงานทง้ั กระบวนการ ผลผลิตและผลลัพธ์

4. ฝกั ใฝเ่ รยี นรู้ ด้วยการวเิ คราะห์ข้อมลู ใหเ้ ปน็ สารสนเทศ ปรับโอกาสการพัฒนาใหเ้ ป็น
กิจกรรมทสี่ ่งผลลพั ธใ์ ห้มากท่ีสุด รวมทัง้ พฒั นาทักษะของทีมงานครู นักเรยี นตลอดจน
ผ้ปู กครอง

5. นาสกู่ ารพฒั นาการแลกเปล่ียนเรียนรู้อยา่ งต่อเนื่อง ช่ืนชมความสาเรจ็ ของทีมงานและ
อุปสรรค ขอ้ ขัดข้องอย่างทนั ท่วงทดี ว้ ยอานาจการตดั สินใจ

การพัฒนาโรงเรียนสง่ เสรมิ สุขภาพระดับเพชร การดาเนินการยึดหลัก 3 ประการ คือ คดิ
เปน็ ระบบ เน้นความยงั่ ยืน เรยี นร้คู วามสาเร็จ และการมสี ว่ นรว่ มการเขา้ ถึงความสาเรจ็ การดูแลสุขภาพ
นกั เรียนทุกคนตอ้ งได้รบั การดูแลดา้ นสขุ ภาพอย่างทวั่ ถึง โดยเริม่ ต้นจากการ โรงเรียนจะต้องกาหนด
นโยบายของโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ การบริหารจดั การโครงการ กจิ กรรมตา่ งๆด้านบริการสุขภาพ ต้อง
ดาเนินโครงการร่วมระหว่างโรงเรยี นและชุมชน การจัดสภาพสงิ่ แวดลอ้ มของโรงเรยี น การบรกิ ารอนามัย
โรงเรยี น การใหค้ วามรู้ทง้ั จากครแู ละผเู้ กย่ี วข้อง การจดั อาหารกลางวันให้ถกู หลักโภชนาการ การส่งเสริม
การออกกาลงั ทุกรูปแบบ และในการดาเนินการนนั้ ต้องสอดคล้องกบั นโยบายของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารที่
กาหนดไว้ดงั นี้

1. โรงเรยี นต้องจดั หาน้าดื่มทส่ี ะอาด เพยี งพอ
2. จดั สุขานา่ ใช้ สะอาดปลอดภยั
3. จัดบริการอาหารให้ถกู หลักโภชนาการ และสขุ าภบิ าล ลดหวาน มัน เค็ม ปลอด
น้าอัดลม
4. จดั ใหม้ ีการป้องกันการบาดเจ็บจากอุบตั เิ หตุในโรงเรยี น

22

5. ปอ้ งกันสภาพแวดลอ้ มเปน็ พิษ
6. ควบคมุ การบริโภค ยาสบู และส่ิงเสพตดิ
วธิ ดี าเนนิ การจัดทาผลงานดเี ดน่ ท่ีประสบความสาเร็จเปน็ ทป่ี ระจกั ษ์ ได้ดาเนินการดงั น้ี

1. ศึกษา วิเคราะห์ นโยบายและแนวปฏิบัติในการพัฒนาโรงเรยี นสง่ เสริมสุขภาพ
2. สมัครเขา้ ร่วมโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ
3. ศกึ ษา วเิ คราะห์ รายละเอยี ดหลกั เกณฑก์ ารประเมินโรงเรยี นสง่ เสริมสุขภาพระดบั
เพชร และแนวในการพัฒนาโครงการ
4. แตง่ ต้ังคณะทางาน และผ้รู ับผดิ ชอบโครงการ
5. ดาเนนิ งานตามแนวทางของโครงการและกิจกรรม
6. ประเมินตนเองทุกกจิ กรรม และมกี ารวางแผนปรับปรุงใหไ้ ด้คุณภาพตามเกณฑ์
7. รับการประเมนิ จากคณะกรรมการในระดับตา่ งๆ จนประสบความสาเรจ็ ไดร้ ับ ได้รบั
รางวัล โรงเรยี นสง่ เสรมิ สขุ ภาพระดบั เพชร ซ่งึ ต้องใชเ้ วลาในการพัฒนาโครงการและกิจกรรม ต้งั แต่ พ.ศ.
2545 เร่มิ เขา้ รว่ มโครงการโรงเรยี นส่งเสรมิ สุขภาพเป็นคร้ังแรก
หลกั การพฒั นาการดาเนนิ งานโรงเรียนสง่ เสรมิ สขุ ภาพ
การพฒั นาโรงเรียนสง่ เสริมสขุ ภาพ ขา้ พเจา้ ไดใ้ ช้หลักในการบรหิ ารงาน โดยใช้วงจร
คณุ ภาพ (Quality Circle) เปน็ แนวทางในการดาเนนิ งานดังน้ี
1. การวางแผนการดาเนนิ งาน(Plan) ดาเนนิ การดงั น้ี

1.1แต่งต้ังคณะกรรมการสง่ เสรมิ สุขภาพของโรงเรยี น ซึ่งประกอบด้วย ครู นักเรยี น
ผู้ปกครอง เจา้ หน้าท่สี าธารณสขุ และผ้แู ทนองค์กรในชุมชน

1.2คณะกรรมการส่งเสรมิ สขุ ภาพของโรงเรียน ร่วมกันกาหนดนโยบายสง่ เสริม
สุขภาพใหค้ รอบคลุมประเด็นสุขภาพทจ่ี าเปน็ ต่อการสร้างสขุ ภาพ เพื่อเปน็
ทิศทางในการพัฒนา

1.3ถา่ ยทอดนโยบาย สู่นักเรยี น ครู ผู้ปกครองและผเู้ ก่ยี วข้องทุกคน เพือ่ ทุกฝ่ายได้
รบั ทราบรว่ มกนั

1.4จดั ทาแผนกลยทุ ธ์พัฒนาคณุ ภาพ ซึง่ ต้องให้สอดคล้องกับนโยบายสง่ เสรมิ สุขภาพ
1.5จัดทาข้อมูลและสารสนเทศท่ีเกี่ยวกับสภาพปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพ

ของทุกฝ่าย
2. การปฏิบตั กิ าร (Do) ดาเนินการดังน้ี

2.1ปฏบิ ัตงิ านตามแผนงาน โครงการ ที่กาหนด
2.2โรงเรียนประเมนิ ตนเอง (Self Assessment) โดยใช้เกณฑม์ าตรฐานการประเมิน

โรงเรยี นสง่ เสริมสขุ ภาพ เพอื่ คน้ หาสิง่ ทย่ี ังไม่ได้ดาเนินการหรือยังไม่ไดด้ าเนนิ การ
ตามหลักเกณฑ์ ตามมาตรฐานโรงเรียนส่งเสรมิ สุขภาพ
2.3ดาเนินการเพอ่ื ปรับปรงุ ให้บรรลุตัวช้ีวัด ตามเกณฑ์มาตรฐานการประเมนิ
3. การตรวจสอบ ทบทวน ประเมนิ (Check) ดาเนินการดงั นี้
3.1นเิ ทศ กากับ ตดิ ตาม สร้างขวญั กาลงั ใจในการดาเนินงานโดยคณะกรรมการ
ผู้บรหิ าร ผรู้ บั ผิดชอบโครงการเปน็ ระยะ ระหว่างการปฏิบัตงิ าน
3.2ตรวจสอบ ทบทวน ประเมินโรงเรียนส่งเสริสขุ ภาพโดยคณะกรรมการจาก
หน่วยงานของสาธารสขุ และผู้เก่ียวขอ้ ง

23

3.3ขอรับการประเมนิ เพ่ือรับรองในแต่ละระดบั จากทีมประเมินระดบั อาเภอ ทมี

ประเมนิ ระดบั จงั หวัด และทีมประเมินระดับกรมอนามมัย
4. การปรับปรงุ แก้ไข พฒั นา (Action) ดาเนินการดงั นี้

4.1สรปุ ผลการตรวจสอบ ทบทวนและนิเทศงานตามองค์ประกอบและตวั ชีว้ ดั

โรงเรียนสง่ เสรมิ สุขภาพ
4.2นาผลการตรวจสอบ ทบทวนและนเิ ทศงานไปใช้ปรบั ปรุงแกไ้ ข พัฒนาการดาเนิน

ในโครงการ หรือกจิ กรรมของโรงเรยี นสง่ เสริมสขุ ภาพ

แนวทางการดาเนนิ งานโรงเรียนส่งเสรมิ สุขภาพ
แนวทางการดาเนนิ งานโรงเรียนส่งเสรมิ สขุ ภาพ ซ่งึ โรงเรียนจะต้องดาเนินงาน

ประกอบดว้ ย 2 ข้ันตอนคอื

สุขภาพระดบั ทอง ) ขนั้ ตอนท่ี 1 การดาเนินงานภายใต้ 10 องค์ประกอบ (โรงเรยี นส่งเสริม
ขนั้ ตอนที่ 2 การดาเนนิ งานภายใต้มาตรฐาน 3 ด้าน 19 ตวั ช้ีวัด พฒั นาต่อ

ยอดเปน็ โรงเรยี นสง่ เสรมิ สุขภาพ ระดับเพชร

ขนั้ ตอนท่ี 1 การดาเนนิ งานภายใต้ 10 องคป์ ระกอบ

องค์ประกอบท่ี 1 นโยบายของโรงเรยี น ซึ่งเกิดจากความเหน็ ชอบของบุคคลที่
เกยี่ วข้องทัง้ ในโรงเรยี นและนอกโรงเรยี น เปน็ เป้าเพื่อการไปสู่ความสาเรจ็ ของโรงเรยี น ประกอบด้วย 2

ส่วนหลักทโี่ รงเรยี นจะตอ้ งดาเนนิ การ คือ
1. การกาหนดนโยบายสง่ เสรมิ สขุ ภาพของโรงเรยี น นโยบายถอื เปน็ ปจั จยั

พื้นฐานนาไปสกู่ ารดาเนินงาน ความมงุ่ ม่นั ความตั้งใจงานด้านการสง่ เสริมสุขภาพ ซึ่งมกี ระบวนการ
ดาเนินงานดงั นี้

1.1โรงเรยี นมปี ระกาศแตง่ ตั้งคณะกรรมการสง่ เสริมสุขภาพ จะมีการประชมุ เพอ่ื
กาหนดนโยบายของโรงเรยี นสง่ เสรมิ สุขภาพ ซ่งึ ประกอบด้วย ครู นักเรียน
ผูป้ กครอง เจา้ หน้าทสี่ าธารณสขุ

1.2โรงเรียนประกาศนโยบายส่งเสริมสขุ ภาพใหค้ รอบคลุมประเดน็ สาคัญด้าน

การสง่ เสริมสขุ ภาพทั้ง 9 ประเด็น
1.2.1. การสง่ เสรมิ ส่งิ แวดลอ้ มทีเ่ อ้ือต่อการพัฒนาสุขภาพนักเรียน
1.2.2. การเฝา้ ระวังและแก้ไขปญั หาสขุ ภาพ

1.2.3. การพัฒนาพฤตกิ รรมสุขภาพตามสขุ บญั ญัตแิ ห่งชาติ
1.2.4. การคมุ้ ครองผ้บู ริโภคในโรงเรยี น
1.2.5. การส่งเสริมการออกาลงั กายเพื่อสขุ ภาพแกน่ ักเรียนและชมุ ชนโดยมี

โรงเรียนเปน็ ศนู ย์กลางในการประสานความรว่ มมือ
1.2.6. การสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยง
1.2.7. การพัฒนาระบบการเรียนรู้โดยมผี ู้เรียนเปน็ สาคัญ

1.2.8. การส่งเสรมิ สุขภาพบุคลากรในโรงเรยี น
1.2.9. สง่ เสรมิ การมีสว่ นรว่ มของชุมชนในการพัฒนาสุขภาพนกั เรียน
บุคคลกรในโรงเรียนและชุมชน

24

2. การถา่ ยทอดนโยบายสู่การปฏิบตั ิ ประกาศนโยบายตอ่ ทป่ี ระชุมครู
ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา ทป่ี ระชุมผู้ปกครอง และข้าพเจ้าในฐานะผ้บู ริหารไดจ้ ัดทาแผนกากบั
ตดิ ตาม ตามประเดน็ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพทั้ง 9 ประเดน็

องคป์ ระกอบที่ 2 การบริหารจดั การในโรงเรยี น เพ่ือให้มีการบรหิ ารจัดการ
โครงการสง่ เสริมสุขภาพอย่างเปน็ ระบบ การจัดองค์การวางแผน การนิเทศติดตาม และการประเมนิ ผล
โรงเรยี นได้ดาเนนิ การ เฝ้าระวงั และแก้ไขปญั หา ทง้ั ปญั หาสขุ ภาพและปัญหาสงิ่ แวดล้อมท่ีสง่ ผลกระทบตอ่
ทกุ คนในโรงเรียน การป้องกนั โรคเพอ่ื ให้นักเรยี นและบคุ ลากรในโรงเรยี นมสี ขุ ภาพสมบูรณแ์ ข็งแรง เชน่ การ
จัดอาหารกลางวนั อาหารเสริมนม การออกกาลงั กาย การเล่นกีฬา การรณรงค์กาจัดลกู นา้ ยุงลาย การ
ควบคุมการจาหน่ายอาหารในโรงเรยี น การปรบั ปรงุ สภาพแวดล้อมภายในโรงเรยี นทงั้ กายภาพและสังคมใน
โรงเรียนและเขตบริการของโรงเรยี นให้มีความปลอดภยั

องคป์ ระกอบท่ี 3 โครงการรว่ มระหว่างโรงเรยี นและชุมชน เพ่ือใหก้ ารดาเนิน
โครงการ กจิ กรรมสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ได้ร่วมกบั ภาคตี า่ งๆในชุมชน เปดิ โอกาสใหช้ มุ ชนเขา้ มามีส่วน ชว่ ยเหลือ
ในการดูแลสุขภาพของนกั เรียนตลอดเดก็ วยั ก่อนเรยี นไดร้ ับการดูแล แนะนา องค์กรท่ดี ูแลช่วยเหลอื สาคัญ
เช่น อสม. ปราชญช์ าวบา้ น

องค์ประกอบท่ี 4 การจดั สง่ิ แวดล้อมในโรงเรียนทเี่ ดอือ้ ต่อสขุ ภาพ โรงเรียนไดจ้ ดั
สภาพแวดล้อม ให้อยใู่ นสภาพที่ถูกสขุ ลักษณะเอ้ือต่อการเรยี นรู้ สง่ เสริมสุขภาพกาย สุขภาพจติ รวมถงึ การ
ปอ้ งกนั โรคและอนั ตรายที่จะเกิดขนึ้ ในโรงเรยี น เพอื่ ให้เปน็ ไปตามมาตรสุขาภบิ าลสงิ่ แวดลอ้ มในโรงเรยี น ได้
ดาเนนิ การ 2 สว่ นหลกั คอื การจัดการ ควบคมุ ดูแล ปรับปรงุ สง่ิ แวดล้อมทางกายภาพให้ถกู สุขลักษณะ
และการจัดส่ิงแวดล้อมทางสังคมท้ังในและนอกโรงเรียนให้นักเรยี นและบุคลากรมีความปลอดภยั

องคป์ ระกอบที่ 5 บริการอนามัยโรงเรียน โรงเรียนได้จัดให้มกี ารบรกิ าร
สุขภาพพน้ื ฐานท่จี าเป็นสาหรบั นักเรียนทกุ คน ได้แก่การเฝา้ ระวงั ภาวะสขุ ภาพ การตรวจสุขภาพ การ
รักษาพยาบาลเบอ้ื งตน้ ในโรงเรียน โดยโรงเรียนไดด้ าเนนิ ใน 3 องค์ประกอบหลักคือ

1. การตรวจสขุ ภาพนกั เรยี น โดยครอู นามัยโรงเรียน ประสานกบั ครูประจาช้ัน
เจา้ หน้าท่สี าธารณสขุ จากโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ตาบลควนหนองหงส์ และเจ้าหน้าทีโ่ รงพยาบาลชะอวด
เพอื่ จัดทาแผนและปฏิทนิ ในการใหบ้ ริการตรวจสขุ ภาพ การตรวจสขุ ภาพช่องปาก การช่ังน้าหนัก วัด
ส่วนสูง ทดสอบสายตาโดยใช้ E-Chart การบันทกึ ในบัตรสุขภาพ

2. การเฝา้ ระวงั ภาวะสขุ ภาพ เป็นการเกบ็ ขอ้ มูลต่างๆ เกีย่ วกับภาวะสขุ ภาพเปน็
ระยะ เพื่อประเมนิ ภาวะสุขภาพของนักเรียน ซ่ึงเปน็ การดาเนนิ ตอ่ เนอื่ งจากการตรวจสุขภาพ เชน่ การ
ทดสอบสายตาปลี ่ะครั้ง การทดสอบการไดย้ นิ การสร้างเสริมภมู คิ มุ้ กนั โรคโดยเจ้าหน้าทส่ี าธารณสุข

3. การจดั บรกิ ารรักษาพยาบาลเบ้ืองต้น โรงเรยี นได้จดั ใหห้ ้องพยาบาลเพื่อเป็น
สถานทใ่ี ห้การรักษาพยาบาลเบอื้ งตน้ สาหรบั นักเรยี น มคี รอู นามยั เปน็ ผ้รู ับผดิ ชอบดแู ล จัดใหม้ ยี าและ
เวชภณั ฑ์ ในการปฐมพยาบาลเบอ้ื งต้น มีการสง่ ตอ่ นักเรยี นทีต่ รวจพบว่ามปี ญั หาดา้ นสุขภาพเพื่อรกั ษาต่อไป
ซึง่ นกั เรียนไดร้ ับการตรวจและเฝ้าระวงั อยา่ งทวั่ ถึง และไดร้ ับการช่วยในรายที่มีปัญหาด้านสุขภาพ

องคป์ ระกอบท่ี 6 สุขศึกษาในโรงเรียน โรงเรยี นได้จดั กจิ กรรมสขุ ศกึ ษา ทัง้ ใน
หลกั สูตรและผา่ นกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน เพอื่ มุ่งใหน้ กั เรียนเกิดการเรียนรู้ และฝกึ ปฏิบัติจนเกิดเป็นสขุ นสิ ยั
ซงึ่ โรงเรยี นได้ดาเนนิ การเปน็ 2 สว่ นคอื การใหค้ วามรู้และสร้างเสรมิ เจตคตติ ามหลกั สขุ บญั ญตั ิแห่งชาติ
และฝกึ ปฏิบตั เิ พ่ือให้เกดิ ทักษะท่จี าเปน็ คือ การรักษาความสะอาดของร่างกาย การล้างมือ การเลือกซื้อ
อาหาร การไม่กินอาหารท่มี ีสารอันตราย การหลีกเลยี่ งสารเสพตดิ การป้องกันอุบัติเหตุ อบุ ตั ิภัยและ

25

โรงเรียนจัดใหม้ ปี จั จยั ทีเ่ อื้ออานวยในการฝึกปฏิบัตทิ ักษะน้ันๆ เชน่ จดั อา่ งลา้ งมือไวบ้ ริการบรเิ วณโรงอาหาร
หอ้ งส้วมและสถานท่ีอ่นื ๆอยา่ งเพียงพอ ควบคุมการจาหน่ายอาหาร จัดบรเิ วณแปรงฟนั และให้ความรู้ใน
การประชุมผู้ปกครอง

องคป์ ระกอบที่ 7 โภชนาการและอาหารทป่ี ลอดภัย โรงเรียนมีการสง่ เสรมิ ให้
นกั เรยี นมภี าวะโภชนาการเจริญเตบิ โตตามวยั โดยการจดั โครงการอาหารกลางวนั ที่มีคุณค่าต่อสขุ ภาพ
สะอาด ปลอดภยั ให้กับนักเรียนและบุคลากรในโรงเรยี น มีสถานท่ีรับประทานอาหาร ปรงุ อาหาร และ
บริการอาหารทถ่ี ูกสุขลักษณะ โดยได้ดาเนนิ การ 2 เรือ่ งสาคัญ คอื

1. โภชนาการในโรงเรยี น โดยบรู ณาการกับหลักสตู รในชั้นเรียน จัดรายการ
อาหารให้ครบทัง้ ปริมาณและคณุ ค่าตามหลักโภชนาการ

2. การสุขาภบิ าลอาหาร โรงเรยี นมกี ารจัดโรงอาหาร ที่รับประทานอาหาร
ภาชนะ อปุ กรณ์รับประทานอาหาร และอื่นๆใหถ้ ูกสขุ ลกั ษณะ ดูแลควบคุมความปลอดภัยเร่อื งอาหาร
ประเภทสารปนเปื้อน ไม่ให้ใช้ในการประกอบอาหาร

องคป์ ระกอบท่ี 8 การออกกาลงั กาย กีฬา และนนั ทนาการ โรงเรียนสง่ เสรมิ
สนบั สนนุ ให้นักเรยี นและบุคลากรในโรงเรยี นมกี ารออกกาลังกายเพื่อสุขภาพ จัดสถานท่ี อุปกรณ์ และเปดิ
โอกาสให้ชมุ ชนเข้ามาใช้สถานทเ่ี พื่อออกกาลงั กาย ซง่ึ ได้ดาเนนิ การใน 2 ประการคือ

1. การจัดส่งิ แวดล้อมท่ีสง่ เสรมิ การออกกาลังกาย กีฬา และนันทนาการ จดั
สถานทอี่ อกกาลงั กาย อปุ กรณ์ให้เหมาะสม ปลอดภัยและเพียงพอกับนกั เรียน ดูแลให้อยู่ในสภาพดี และจัด
กิจกรรมสง่ เสริมการออกกาลัง เช่นการจดั โครงการกฬี าสมั พันธ์ ใหน้ กั เรยี น ครแู ละผ้ปู กครองได้รว่ มออก
กาลงั กาย

2. การพฒั นาสมรรถภาพรา่ งกาย โรงเรียนจัดให้มีการทดสอบสมรรถภาพทาง
ร่างกายแกน่ ักเรียนทุกคน สง่ เสริมใหน้ ักเรียนได้เล่นกีฬาในประเภทท่ถี นัดและชอบไดจ้ ดั การแข่งขันเพื่อ
สรา้ งแรงจงู ใจ

องคป์ ระกอบท่ี 9 การใหค้ าปรึกษาและสนบั สนนุ ทางสังคม โรงเรียน
จัดบริการใหค้ าปรึกษา ชว่ ยเหลอื นักเรยี นที่มีปญั หาสุขภาพกาย สุขภาพจิต และภาวะเสีย่ ง ซงึ่ ได้รบั ความ
ร่วมมอื จากเจ้าหน้าท่สี าธารณสขุ เปน็ อย่างดี ทาให้โรงเรยี นได้ทราบสถานการณข์ องปัญหาและภาวะเสี่ยง
ดา้ นสขุ ภาพ ซ่งึ สามารถช่วยเหลือนกั เรียนได้ทนั ทว่ งที

องค์ประกอบท่ี 10 การส่งเสริมสุขภาพและบุคลากรในโรงเรยี น โรงเรียนได้
สง่ เสรมิ ให้บคุ ลากรในโรงเรียนไดต้ รวจสุขภาพของตนเองปีล่ะ 1 ครงั้ ตดิ ตอ่ หนว่ ยมาให้บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพ
จัดป้ายนเิ ทศให้ความรู้ดา้ นสุขภาพแกน่ ักเรยี น ครู และผปู้ กครองและผ้มู าใช้บริการโรงเรียน

ขนั้ ตอนที่ 2 การดาเนินงานภายใต้มาตรฐาน 3 ดา้ น 19 ตวั ช้ีวัด เมือ่ โรงเรยี นได้
พัฒนาโรงเรยี นส่งเสริมสขุ ภาพภายใต้ 10 องคป์ ระกอบ ผ่านการประเมนิ เป็นโรงเรียนสง่ เสริมสุขภาพระดบั
ทองแล้วซ่งึ โรงเรียนผา่ นการประเมนิ เปน็ ระดับทองถึง 4 ปีการศกึ ษา ก็ได้พฒั นาต่อยอด สู่โรงเรยี น
มาตรฐาน 3 ด้าน 19 ตัวบง่ ช้ี ซึง่ ให้ความสาคญั กับผลลัพธท์ างสุขภาพและพฤตกิ รรมสุขภาพของนกั เรยี น
รว่ มกับผลการดาเนินงานตามนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร หากโรงเรียนผ่านเกณฑม์ าตรฐานการ
ประเมินทั้ง 19 ตัวบ่งช้ี จะได้รบั การรบั รองเป็นโรงเรียนส่งเสริมสขุ ภาพระดบั เพชร ซึ่งโรงเรียนวดั กาโหใ่ ต้
ไดด้ าเนนิ การดังนี้

26

มาตรฐาน 3 ด้านคือ
1. ดา้ นการดาเนนิ งานโรงเรยี นส่งเสรมิ สขุ ภาพ
2. ดา้ นการดาเนนิ งานสุขภาพของนกั เรียนแกนนา
3. ผลสาเรจ็ ของการดาเนนิ งานท่ีเก่ยี วข้องกบั ภาวะสุขภาพของนักเรยี น

ตัวช้ีวดั ความสาเรจ็ ของโรงเรยี นสง่ เสริมสขุ ภาพระดับเพชร
ตวั ช้วี ดั ที่ 1 ผ่านการรบั รองเป็นโรงเรยี นสง่ เสรมิ สุขภาพระดับทอง โรงเรียนวดั

กาโหใ่ ต้ ได้รบั การรบั รองเปน็ โรงเรียนส่งเสรมิ สขุ ภาพระดบั ทอง 5 ปีตดิ ต่อกนั คือ ปี พ.ศ.
2548,2549,2550,2551 และ2553 ซงึ่ ไดเ้ ห็นความต่อเนอื่ งและย่งั ยืน

ตัวชวี้ ดั ที่ 2 มกี ารจัดต้ังชมรมเด็กไทยทาได้ ชมรมสุขภาพอ่นื ๆ ชมุ นุมหรือแกน
นานกั เรียนท่ีรวมตวั กนั ดาเนนิ กจิ กรรมสขุ ภาพอยา่ งสมา่ เสมอ โรงเรียนวัดกาโหใ่ ต้ ได้มีชมุ นุมกฬี า ชุมนุม
ยุวเกษตร กลุ่มทาความสะอาดเขตพ้นื ทีใ่ นโรงเรยี น ชมรมคนรกั ดนตรี ชมรมนักอา่ น

ตวั ชว้ี ัดท่ี 3 มโี ครงการสขุ ภาพของนักเรียนท่เี ป็นผลงานเด่นของโรงเรยี นที่
ประสบความสาเร็จชดั เจนในการลดปญั หาสุขภาพหรือสิง่ แวดล้อมในโรงเรียน/ชุมชน โรงเรียนวัดกาโห่
ใต้ได้มโี ครงการ ห่นุ สวยด้วยวงล้อมหัศจรรย์ โครงการจดั หานา้ ดืม่ นา้ ใชท้ ี่สะอาด โครงการปรบั ปรงุ
สภาพแวดลอ้ มสวนสวยดว้ ยมือเรา โครงการส้วมสขุ สันต์ โครงการเดินตามรอยพ่อพัฒนาวถิ ชี ีวติ ตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

ตัวชี้วดั ท่ี 4 ภาวะโภชนาการ โรงเรียนวดั กาโหใ่ ต้ไดม้ ีโครงการหุน่ สวยด้วยวงลอ้
มหัศจรรย์ มีการตรวจชัง่ น้าหนัก วดั ส่วนสูง นักเรยี นคนใดที่พบว่ามป่ี ญั หาดา้ นสุขภาพ ก็จะให้การแนะนาใน
การแก้ปัญหา เชน่ ให้ออกกาลงั กาย ควบคุมอาหาร จดั รายการอาหารที่เนน้ การลดไขมัน

ตัวชว้ี ดั ท่ี 5 นักเรยี นไม่มีฟันแท้ผุและไม่มีแทถ้ กู ถอน โรงเรยี นวดั กาโห่ใต้ไดม้ ี
การประสานใหเ้ จ้าหน้าทท่ี นั ตสขุ ภาพของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพควนหนองหงส์ และโรงพยาบาล
ชะอวดได้มาบรกิ ารตรวจสขุ ภาพชอ่ งปากและฟัน ถอนฟันท่ีผุ ขูดหนิ ปนู ใหบ้ ริหารทั้งทโ่ี รงเรยี นและท่ี
โรงพยาบาล นักเรยี นไดร้ ับการดแู ล รักษาอย่างทวั่ ถึง ทาให้ไมม่ ีนักเรียนทีป่ ัญหาเกยี่ วกับโรคเหงอื กและฟันผุ
และสง่ เสรมิ ใหน้ ักเรียนไดแ้ ปรงฟันอย่างถูกวิธี จดั ให้ได้แปรงฟนั หลงั อาหารทกุ ม้ือ

ตัวชี้วัดที่ 6 นักเรยี นมสี มรรถภาพทางกายทส่ี ัมพันธ์กบั สุขภาพผ่านเกณฑ์
โรงเรียนวดั กาโหใ่ ต้ไดม้ ีการทดสอบสมรรถภาพของนักเรียนภาคเรียนล่ะ 1 ครัง้ และโดยภาพรวมนักเรียนมี
สมรรถภาพอยู่ในเกณฑด์ ี ได้ทดสอบสมรรถภาพ 3 ด้านคือ ด้านความอดทนของระบบไหลเวียนโลหติ และ
หายใจ ด้านความแขง็ แรงและอดทน และดา้ นความอ่อนตวั ของกล้ามเน้ือ

ตัวชว้ี ดั ที่ 7 นักเรียนมีสภุ าพจิตดี โรงเรยี นวัดกาโหใ่ ตไ้ ด้มกี ารคดั กรองปัญหา
โดยใชแ้ บบประเมินจุดแขง็ จุดออ่ น (Strengths and Difficulties Questionnaire ) SDQ เพอื่ คัดกรองวา่
นักเรยี นมปี ัญหาดา้ นใดบา้ งใน 4 ดา้ น คอื ดา้ นB ปัญหาทางอารมณ์ ดา้ น C ปญั หาทางดา้ นพฤติกรรม
เกเรดา้ น D ปญั หาพฤติกรรมอยู่ไมน่ ่ิง สมาธสิ น้ั ด้าน E ปัญหาความสมั พนั ธ์กบั เพ่ือน และไดส้ รปุ ผลเพื่อ
การแก้ปัญหาให้กับนักเรยี น

ตัวชวี้ ดั ท่ี 8 มโี ครงการแกไ้ ขปัญหาสขุ ภาพท่ีมคี วามชกุ สูงหรือเป็นอนั ตรายใน
เด็กวัยเรียนไดเ้ ป็นผลสาเรจ็ และต่อเนอื่ งโรงเรยี นวัดกาโห่ใตไ้ ดม้ ลี ดโรคอว้ น ดว้ ยการให้นักเรยี นได้ออก
กาลงั โดยการเลน่ ฮูลา่ ฮูฟ ทั้งท่ีบ้านและทโ่ี รงเรียน มีกิจกรรมออกกาลังกาย มโี ครงการแข่งขนั กีฬา มีชุมนมุ
กีฬา มีการจดั รายการอาหารที่คณุ คา่ ตามหลักโภชนาการ

27

ตัวช้วี ดั ท่ี 9 นา้ ดื่มสะอาดปลอดภัย โรงเรยี นวัดกาโห่ใต้ได้มีมกี ารปรบั ปรุงระบบ
น้าของโรงเรยี นท้ังหมด จดั ทาประปา ระบบท่อ มีระบบการกรองที่สะอาดก่อนดื่ม มจี ุดบรกิ ารน้าท่ีถูก
สุขลักษณะ สะอาด เพยี งพอ อุปกรณ์ตา่ งๆอยู่ในสภาพดี สภาพพ้ืนทีเ่ อื้อตอ่ การพัฒนาสุขภาพ นา้ ได้ผ่านการ
ตรวจรับรอง ผา่ นเกณฑ์ความสะอาดใช้ดืม่ ได้ จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

ตัวชี้วัดท่ี 10 น้าดื่มเพียงพอโรงเรียนวัดกาโห่ใต้ได้มีบริการนา้ ด่มื ที่สะอาดและ
เพยี งพอ โดยใชน้ ้าของของโรงเรยี นและจัดทาเป็นระบบประปา ทถ่ี ูกต้องตามหลัก มรี ะบบกรองน้าทีส่ ะอาด
ถกู วธิ กี ่อนด่ืม มจี ุดบริการน้าแกน่ ักเรียนเพยี งพอตลอดเวลา และยงั สามารถบรกิ ารให้กับประชาชนใกลๆ้
โรงเรยี นในยามหน้าแลง้ นา้ ด่ืมได้ผา่ นการตรวจรบั รองจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

ตัวชว้ี ัดที่ 11 ส้วมผา่ นเกณฑ์มาตรฐาน HRS หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์มาตรฐาน
ส้วมสาธารณะระดบั ประเทศ โรงเรยี นวัดกาโห่ใตไ้ ดพ้ ัฒนา ปรับปรงุ ผา่ นเกณฑ์มาตรฐานสว้ มสาธารณะ ทง้ั
3 ด้าน คือ ด้านความสะอาด (Healthy ) ด้านความพอเพียง (Accessibility) ดา้ นความปลอดภยั (Safety)
ซึ่งโรงเรยี นไดร้ ับรางวัลการประกวดส้วมสุขสนั ต์ ถงึ 2 ปีซ้อน คอื ปี พ.ศ. 2552, 2553 จากสานกั งาน
คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน (สพฐ.)

ตัวชว้ี ดั ท่ี 12 ไมจ่ ดั และจาหน่ายอาหารว่างและขนมที่มีไขมนั สงู และรสเคม็
จดั โรงเรยี นวัดกาโห่ใต้ไดม้ กี ารจัดอาหารโดยการจา้ งจ้างแม่ครวั มีการควบคุมคณุ ภาพอาหารอย่างเคร่งครัด
ไม่อนุญาตให้จาหน่ายทรี่ สเค็มจดั หรอื อาหารประเภทกรุบกรอบ

ตัวชว้ี ดั ที่ 13 ไมจ่ ัดและจาหน่ายอาหารวา่ งและเคร่อื งด่ืมที่มรี สหวานจดั
โรงเรยี นวดั กาโหใ่ ตไ้ ดม้ ีการควบคุมอาหารท่มี รี สหวานจดั ในโรงอาหารไม่อนุญาตให้จาหน่ายอาหารประเภท
เคร่ืองท่ีมรี สหวานจัด และยังรณรงค์ใหน้ ักเรียนและผปู้ กครองไม่รับประทานอาหารทรี่ สเค็มจัด รสหวานจดั
เพราะจะมีผลต่อสุขภาพ ไมเ่ อือ้ ต่อการพฒั นารา่ งกายในวัยกาลงั เจรญิ เติบโต

ตัวชี้วัดท่ี 14 มกี ารส่งเสรมิ ให้นกั เรียนได้บรโิ ภคผกั มอ้ื กลางวนั ทกุ วนั เปิดเรียน
ตามปรมิ าณที่แนะนา โรงเรียนวัดกาโห่ใต้ไดม้ ีการจัดบริการอาหารกลางวัน มรี ายการอาหารท่ีเปน็ ไปตาม
หลกั โภชนาการ และส่งเสริม ดแู ลนักเรียนท่ีไม่ชอบกินผกั ได้กินผกั โดยใช้ทัง้ ควบคมุ การสรา้ งแรงจงู ใจให้
นักเรียนไดร้ บั ประทานผัก

ตัวชว้ี ดั ที่ 15 โรงอาหารผ่านเกณฑม์ าตรฐานสขุ าภิบาลในโรงเรยี น
โรงเรยี นวดั กาโหใ่ ต้ไดป้ รับปรุงโรงอาหาร ให้สะอาด ปลอดโปรง่ มีท่ีนง่ั รบั ประทานอาหาร อุปกรณ์เครื่องใช้
สะอาดถกู ต้องตามมาตรฐาน ผา่ นเกณฑ์ทั้ง 30 ขอ้

ตัวชี้วัดที่ 16 การบาดเจบ็ ในโรงเรียนจนทาให้นักเรยี นตอ้ งพกั รกั ษาตวั ใน
โรงพยาบาลในรอบปีท่ีผา่ นนบั จากวนั ประเมิน โรงเรยี นวดั กาโหใ่ ต้ไม่มปี ญั หาดงั กลา่ วและโรงเรยี นได้จดั
สภาพแวดลอ้ มที่มคี วามปลอดภยั แก่นักเรยี น ไมม่ มี ีอุปกรณ์ท่ีล่อแหลมตอ่ ความปลอดภัย

ตัวชว้ี ดั ที่ 17 มีการจัดการแก้ไขเมอื่ มีปัญหาท่เี กดิ จากภาวะมลพิษภายนอกท่ี
มีผลกระทบต่อสุขภาพ โรงเรียนวดั กาโห่ใต้ได้ร่วมมือกับชุมชนในการรณรงค์ในการแกป้ ัญหาแบบย่ังยืน
โดยชมุ ชนต้องช่วยกนั ดแู ลมลภาวะร่วมกับโรงเรยี น

ตัวชี้วดั ที่ 18 โรงเรียนผ่านเกณฑม์ าตรฐานสขุ าภิบาลสง่ิ แวดล้อมในโรงเรียน
โรงเรียนวัดกาโห่ใต้ จัดสภาพสง่ิ แวดล้อม สะอาด เป็นระบบ มีระเบยี บ รม่ รืน่ ปลอดภัย อย่างเปน็ ปจั จุบัน

ตัวชีว้ ัดที่ 19 การสูบบุหรใี่ นโรงเรียน โรงเรียนวดั กาโหใ่ ต้ไมม่ บี ุคลากรท่ีสบู
บหุ รี่ ซ่งึ จะเปน็ แบบอย่างท่ดี ีแกน่ กั เรยี น และติดปา้ ยรณรงค์การสบู บุหรใ่ี หผ้ ้ปู กครองได้รว่ มรณรงค์ให้
โรงเรียนเป็นสถานทีป่ ลอดบหุ รี่

28

ในการดาเนนิ การพฒั นาตามรปู แบบดังกล่าวมาแล้ว ข้าพเจา้ ร่วมกบั คณะครู ผปู้ กครอง
สรา้ งความต่อเน่ืองและเป็นความย่ังยืนซึง่ เป็นประโยชน์แก่นกั เรยี น ครแู ละบุคลากรทุกคน และพัฒนาจน
เกดิ ผลสาเร็จเปน็ ที่ยอมรับแก่ชมุ ชนและองคก์ รอนื่ จนถงึ ปจั จุบัน

ขั้นตอนและระยะเวลาในการพฒั นาส่คู วามสาเรจ็ เปน็ ท่ปี ระจกั ษ์
- พ.ศ. 2545 ได้รบั การประเมนิ เป็นโรงเรียนส่งเสรมิ สขุ ภาพ ระดับเงนิ จากสานกั งาน

สาธารณสุขอาเภอชะอวด
- พ.ศ. 2546 ไดร้ ับการประเมนิ เปน็ โรงเรียนส่งเสรมิ สุขภาพ ระดบั เงนิ สานกั งาน

สาธารณสุขจังหวดั นครศรีธรรมราช
- พ.ศ. 2548 ไดร้ บั การประเมนิ เปน็ โรงเรียนสง่ เสรมิ สุขภาพ ระดบั ทอง จากสานักงาน

สาธารณสขุ จังหวัดนครศรีธรรมราช
- พ.ศ. 2549 ได้รบั การประเมินเปน็ โรงเรียนสง่ เสรมิ สุขภาพ ระดับทองต่อเนอ่ื งสมยั ท่ี 2

จากสานักงานสาธารณสุขจงั หวัดนครศรธี รรมราช
- พ.ศ. 2550 ได้รบั การประเมินเปน็ โรงเรียนสง่ เสรมิ สุขภาพ ระดบั ทอง จากสานักงาน

สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราชและ ระดบั ทอง จาก กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข
- พ.ศ. 2551 ไดร้ บั การประเมนิ เปน็ โรงเรียนส่งเสริมสขุ ภาพ ระดบั ทองตอ่ เน่ือง

จากสานกั งาน สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช
- พ.ศ. 2551 ไดร้ ับรางวลั ชมเชย คหู่ ูเด็กไทยฟันดี จากกระทรวงสาธารณสขุ
- พ.ศ. 2553 ไดร้ บั การประเมินเปน็ โรงเรียนสง่ เสริมสขุ ภาพ ระดับทอง จากสานกั งาน

สาธารณสุขจังหวดั นครศรธี รรมราช
- พ.ศ. 2553 ได้รับการประเมนิ เปน็ โรงเรียนสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ระดบั ทองดีเด่น จาก

สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 3 รว่ มสานกั งานสาธารณสขุ จังหวัด
นครศรีธรรมราช

- พ.ศ. 2554 ไดร้ บั การประเมินเป็นโรงเรียนส่งเสริมสขุ ภาพ ระดับเพชร จากกระทรวง
สาธารณสุข

ผลท่เี กดิ จากการนาผลงานดเี ดน่ ที่ประสบความสาเรจ็ ไปใช้

จากการท่ีโรงเรยี นวดั กาโห่ใต้ ได้รบั รางวัลโรงเรยี นสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ระดบั เพชร จาก
กระทรวงสาธารณสขุ ซึ่งไดเ้ ข้ารับรางวัลจากปลดั กระทรวงสาธารณสขุ ท่ีโรงแรมเอเชยี รพี อรต์
กรุงเทพมหานคร เมือ่ วันท่ี 4 สิงหาคม พ.ศ.2554 ทาใหค้ รู นักเรียน และบคุ ลากรอืน่ ที่เก่ยี วขอ้ งเชน่
กรรมการสถานศึกษา ผ้ปู กครอง มคี วามภาคภูมใิ จต่อความสาเร็จของโรงเรยี น เกิดความรกั ความศรัทธาต่อ
โรงเรียน และให้ความร่วมมือต่อครู ต่อโรงเรียนและเกิดผลสาเรจ็ ดงั นี้

1.ผลทีเ่ กิดกบั ผู้เรียน

1.1 นักเรียนมสี ุขภาพอนามัยทกุ ด้าน ดขี ้ึน เน่ืองจากไดร้ บั ความร่วมมือเอาใจใส่
จากหน่วยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง เชน่ โรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพควนหนองหงส์ โรงพยาบาลชะอวด สานักงาน
สาธารณสุขอาเภอชะอวด สานักงานสาธารณสุขจงั หวดั นครศรีธรรมราช และศนู ยอ์ นามัยที่ 11

1.2 นักเรยี นมกี ารพัฒนาสขุ ภาพกาย สุขภาพจิต ดีข้ึน
1.3 นกั เรียนร้จู ักการปฏบิ ัตติ นในการรกั ษาสุขภาพตามหลกั สุขบญั ญัติ 10 ประการ

29

1.4 นกั เรยี นมีระเบียบวนิ ัย มีจิตใจ รา่ เริงแจม่ ใสส่งผลต่อการพัฒนาสมองและ

พฒั นาการเรียนรู้ของนักเรียน

1.5 นกั เรยี นไดร้ บั อาหารกลางวนั และอาหารเสริมนม ถูกต้องตามหลกั โภชนาการ
2. ผลทเ่ี กิดกบั ครู

2.1 ครไู ด้รบั การเอาใจใส่ ด้านสุขภาพอนามยั เพราะมีหนว่ ยงานที่รบั ผดิ ชอบ
ใหบ้ ริการในการตรวจ ดแู ลด้านสขุ ภาพ

2.2 ครู และบุคลากรในโรงเรยี น มสี ุขภาพกาย แข็งแรง สมบรู ณ์ปฏบิ ตั หิ น้าทไ่ี ด้
เตม็ ความสามารถ

2.3 ครไู ดร้ ับการฝึกฝนตนเองในเร่ืองโภชนาการ ดแู ลตนเองตามหลักสุขบัญญตั ิ
10 ประการ เพราะต้องเป็นแบบอย่างท่ีดใี ห้กับนักเรยี น

2.4 ปฏิบตั ใิ นหน้าท่ีความรบั ผดิ ชอบมปี ระสิทธิภาพย่งิ ขึ้น
3. ผลท่เี กิดกับโรงเรียน

3.1 โรงเรยี นได้รับการยอมรบั ชน่ื ชม จากผ้ปู กครองและชุมชน
3.2 ผู้ปกครองนาบุตรหลานมาเขา้ เรยี นมากขึ้น
3.3 โรงเรยี นได้รบั การยอมรบั จากโรงเรียนอื่นๆ องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน และ
หน่วยงานสงั กัดกระทรวงสาธารณสขุ ทาใหป้ ระสานขอความช่วยเหลอื โรงเรยี นไดส้ ะดวกขึ้น
3.4 นกั เรยี น ศิษย์เกา่ มีความรักศรัทธา ตอ่ สถาบนั และให้ความร่วมมือในการพฒั นา
โรงเรียนใหม้ คี ณุ ภาพยิ่งขึน้
3.5 โรงเรยี นมภี ูมทิ ศั น์ บรรยากาศ รม่ รน่ื สะอาด ปลอดภยั มคี วามเป็นระเบยี บ
เรยี บร้อย สร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ของนักเรยี น
โรงเรยี นวัดกาโห่ใตไ้ ดร้ บั รางวัล โรงเรยี นสง่ เสรมิ สขุ ภาพระดับเพชร เม่ือวนั ท่ี 4 สิงหาคม
พ.ศ.2554 โรงเรียนจะต้องดารงรกั ษาคุณตามมาตรฐานโรงเรียนส่งเสริมสขุ ภาพ ระดบั เพชร เปน็ เวลา 3
ปี ซงึ่ โรงเรียนวดั กาโหใ่ ต้ ไดม้ ีการพฒั นาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจบุ นั จนไดร้ บั รางวัลตา่ งๆ เช่น ได้รบั รางวลั
ให้เป็นสถานศึกษาแบบอย่างการจดั กิจกรรมการเรียนรแู้ ละการบริหารจดั การตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพยี ง “สถานศึกษาพอเพียง” โรงเรยี นดปี ระจาตาบล โรงเรียนสุจริต ได้รับเขม็ เชิดชเู กยี รต.ิ ”ครสุ ดุดี”
บา้ นนักวิทยาศาสตรน์ ้อย
แนวคดิ ในการพัฒนาตอ่ ไป
ศักยภาพสาคัญของคนในสงั คม หรอื ประเทศ มีตัวช้ีวัดทส่ี าคัญในดา้ นต่างๆเช่น
ความมีระเบยี บวนิ ัย ความซ่ือสัตย์สุจริต ความรู้ความสามารถ การเคารพกฎหมาย และที่สาคัญก็คือคนมี
สขุ ภาพทด่ี ี ฉะนั้นกระทรวงสาธารณสขุ จึงกาหนดเป้าหมายให้ “คนไทย มีสุขภาพดที ว่ั หน้า” ซ่งึ ในแตล่ ะปี
รฐั ตอ้ งทุม่ เทงบประมาณเพ่ือพฒั นาสขุ ภาพของคนไทย การจะสรา้ งสขุ ภาพทด่ี ใี ห้กับคนไทย นั้น สถาบัน
หลกั คอื ครอบครัว และโรงเรียน โดยการเร่มิ ต้นจะต้องฝกึ ฝนตนเองตามหลักสขุ บญั ญัติ ทถ่ี ูกต้องตง้ั แต่
เยาวว์ ยั เพราะจะเปน็ การฝกึ สุขนสิ ัยที่ถกู ต้อง ฉะนั้นโรงเรยี นจงึ ต้องเร่ิมต้น ปลกู ฝงั สขุ นิสัยด้านสขุ ภาพ
และจะเปน็ ไปตามจุดมุ่งหมายของหลกั สตู ร โรงเรียนจงึ ได้กาหนดแนวทางในการพัฒนาสุขภาพใหม้ ี
ประสิทธภิ าพและยง่ั ยนื ดงั นี้

30

1. จัดโครงสรา้ งในการบรหิ ารงานอยา่ งเปน็ ระบบ มผี ูร้ บั ผดิ ชอบอย่างชัดเจน
2. จดั ทาแผนยุทธศาสตร์ แผนการปฏบิ ัติงานประจาปี มีการกากบั นิเทศ ตดิ ตามผลอยา่ ง
เป็นระบบ ต่อเน่ือง
3. สรปุ ผลการดาเนินโครงการ วเิ คราะหแ์ ผนงานที่เกย่ี วข้องกจิ กรรมการบริการสรา้ งเสรมิ
สุขภาพให้มีประสทิ ธภิ าพ
4. ปรับปรงุ พัฒนาภูมทิ ัศน์ของโรงเรยี น ให้ร่มรื่น สะอาด ปลอดภัย สวยงามและเป็นปัจจบุ ัน
5. ประสานงานกบั หน่วยงานท่ใี ห้บริการสุขภาพ ใหม้ ีแผนในการดูแลนักเรียนอย่างเป็นระบบ
มีการให้ความร้อู ย่างตอ่ เน่ือง
6. สง่ เสริม สนบั สนนุ ให้ประชาชนในเขตบริการโรงเรียนได้ออกกาลงั กาย โดยต้ังกลุ่มผรู้ กั การ
ออกกาลังกาย มีกลมุ่ เตน้ แอร์โรบคิ กลมุ่ ผูเ้ ลน่ ฟุตบอล ซึง่ โรงเรียนได้เตรียมสนามไว้บริการ
7. จัดทากรอบการพัฒนา ในด้านการส่งเสริมและการบริการสุขภาพผู้เรียน ครูและบุคลากร
อน่ื โครงการอาหารกลางวัน และการบริหารจัดการสภาพแวดลอ้ มของโรงเรียน โดยยดึ กระบวนการและ
ผลผลิตตามเกณฑ์มาตรฐานโรงเรยี นสง่ เสริมสขุ ภาพ 10 องค์ประกอบ และมาตรฐานโรงเรียนสง่ เสรมิ
สุขภาพระดบั เพชร 3 ด้าน 19 ตวั บ่งช้ี ในการพฒั นาสขุ ภาพผ้เู รียนและบุคลากรอย่างต่อเนอื่ ง
การทีน่ กั เรยี นในโรงเรียนมีสขุ ภาพทด่ี ี ไม่มปี ัญหาดา้ นสุขภาพปากและฟัน โรคผวิ หนัง ไดร้ ับ
อาหารเสริมนม อาหารกลางวัน อย่างถูกต้อง เปน็ ไปตามหลกั โภชนาการ ซง่ึ โรงเรยี นวัดกาโหใ่ ต้โดยผู้บริหาร
ครูทกุ คน บคุ ลากรทุกฝา่ ยได้ประสานความร่วมมืออยา่ งจริงจงั ทาให้นักเรียนโรงเรยี น
วัดกาโหใ่ ต้ ได้รับการบริการด้านสุขภาพเป็นอย่างดี

1.3 ชื่อรางวัล / ผลงาน ได้รบั รางวลั ให้เป็นสถานศึกษาแบบอยา่ งการจัดกจิ กรรมการ
เรยี นรแู้ ละการบรหิ ารจัดการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง “สถานศึกษาพอเพยี ง”

หนว่ ยงานท่ีให้รางวัล กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
สภาพปญั หา แนวคดิ หรือแรงจงู ในการจดั ทาผลงานดเี ดน่ ทป่ี ระสบผลสาเร็จเปน็ ทป่ี ระจกั ษ์

หลงั จากทโ่ี รงเรียนวัดกาโหใ่ ตไ้ ด้รับรางวลั โรงเรยี นรบั รางวลั พระราชทาน รางวัลโรงเรยี น
ส่งเสรมิ สุขภาพ ระดบั เพชร รางวัลการประกวดสว้ มสุขสันต์และรางวัลอ่ืนๆ ซึ่งในเกณฑ์การประเมินแต่
รางวัล มงุ่ เน้นในการพัฒนาผเู้ รยี นให้มีคุณภาพตามเป้าหมายของหลกั สตู ร พัฒนาผู้เรียนใหเ้ ปน็ มนุษย์ท่ี
สมบูรณ์ เตม็ ศักยภาพ พัฒนาความเป็นคนไทยอนรุ ักษ์ความเปน็ ไทย อนุรักษ์ธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม

ซ่ึงในสภาพสงั คมปจั จุบัน รัฐมุง่ การพัฒนาสงั คมตามแนวทางรฐั ประชานยิ ม ทาใหป้ ระชาชน
สว่ นหนึ่งขาดจติ สานกึ ในการพ่ึงพาตนเองไม่ประหยัด ขาดจติ สานึกในการดูแล รกั ษา ช่วยเหลอื สาธารณะ
ต่างๆ ทาให้สภาพสังคมออ่ นแอ คนเห็นแก่ตัวมากข้นึ ถือเอาเงนิ ตราเปน็ ใหญ่เหนือคุณค่าความดีงาม ไม่
อนรุ กั ษป์ ระหยัดพลังงาน สง่ิ แวดลอ้ ม ทรัพยากรธรรมชาติ ขาดการอบรม ปลูกจิตสานึกทีด่ ตี อ่ บตุ รหลาน
และจากการได้ศึกษาพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทา่ นได้ แนะนา สงั่ สอน
ให้คนไทยใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ในการดารงชีวิต พ่ึงพาตนเองให้ได้ สร้างความสมดลุ ใน
การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ พ่ึงพาและช่วยเหลอื ตนเอง และใหค้ วามเอ้ือเฟื้อต่อเพ่ือนมนุษย์ และการท่ีจะ
พัฒนา ส่งเสริม ปลูกฝังการเจตคติ จติ สานกึ ท่ดี ี ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง โรงเรียนวัดกาโห่
ใตจ้ ึงตระหนักในความรับผดิ ชอบในการปลกู ฝังจิตสานกึ ทด่ี ีให้กับนกั เรียนจงึ จัดกิจกรรมให้นกั เรียนได้ปฏิบตั ิ
อย่างสมา่ เสมอเพอื่ ฝึกให้เปน็ วถิ ชี ีวิต จนเกิดเป็นสุขนสิ ัย ซ่ึงจะเป็นการปลูกฝังคุณลักษณะทีด่ ีงาม

31

ให้เกิดกบั นักเรยี น พร้อมจะเตบิ โตใหเ้ ปน็ พลเมืองพลโลกท่ีมีคณุ ภาพ ซ่งึ กิจกรรมของ “สถานศกึ ษา
แบบอยา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรแู้ ละการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
“สถานศกึ ษาพอเพียง” จะเปน็ แนวปฏิบตั ทิ ่ดี ี ในการปลกู ฝงั สรา้ งจติ สานกึ ทด่ี ีงามให้เกิดกับนักเรียน
โรงเรียนวดั กาโห่ใต้ จงึ ได้ดาเนนิ การจดั กจิ กรรมดังกลา่ วจนประสบความสาเร็จจนได้รบั รางวัลเป็น
สถานศกึ ษาแบบอยา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรแู้ ละการบริหารจดั การตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง “สถานศึกษาพอเพียง”

วิธีดาเนินการจดั ทาผลงานดีเดน่ ที่ประสบผลสาเรจ็ เปน็ ทีป่ ระจักษ์
1. ศึกษาเป้าหมายของหลักสตู ร วเิ คราะห์การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ใู หส้ อดคล้องกับ

การพฒั นาทักษะชวี ติ ของนักเรยี นศกึ ษาหลักเกณฑ์ แนวปฏิบัตขิ องกิจกรรม สถานศึกษาแบบอย่างการจดั
กิจกรรมการเรยี นรแู้ ละการบริหารจัดการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง “สถานศกึ ษาพอเพยี ง”
อย่างชดั เจน

2. นาหลกั เกณฑแ์ ละแนวการจดั กิจกรรม มาบูรณาการให้สอดคลอ้ งกับการจัด
กิจกรรมการเรียนรใู้ ห้กบั นักเรียนมอบหมายให้ครูผสู้ อนทกุ คนไดบ้ รู ณาการการหลักการ แนวกจิ กรรมของ
เป็นสถานศึกษาแบบอย่างการจัดกิจกรรมการเรยี นร้แู ละการบรหิ ารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง “สถานศึกษาพอเพียง”ให้สอดคลอ้ งกบั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ให้กบั นกั เรยี น

3. ประเมินตนเองในการจดั กิจกรรมให้ผา่ นตามหลกั เกณฑ์ พรอ้ มท้ังไปศึกษาดูงาน
ในโรงเรียนทปี่ ระสบความสาเร็จ แลว้ นามาประยุกต์ให้สอดคล้องกบั สภาพและ บริบทของโรงเรียน
วัดกาโหใ่ ต้

4. สมคั รเข้าร่วมโครงการและขอรับประเมิน จนประสบความสาเรจ็ ไดร้ บั รางวลั เป็น
สถานศกึ ษาแบบอย่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้และการบรหิ ารจัดการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง “สถานศึกษาพอเพียง”

การบรหิ ารจดั การตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ( สถานศกึ ษาพอเพยี ง)
โรงเรยี นวัดกาโหใ่ ต้ ได้มีการบริหารจดั การโรงเรยี นเพ่ือใหส้ อดคล้องกบั หลกั ตามหลัก

ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ( สถานศึกษาพอเพยี ง) โดยสาระของกิจกรรมนน้ั ก็มคี วามสอดคล้องกับ
หลักสตู รสถานศกึ ษา และการพัฒนาคุณภาพของโรงเรยี นแตเ่ น้นในหลักคดิ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งเพือ่ สร้างภูมิคมุ้ กันท่ีดใี ห้เกิดกับนักเรียนและจะเป็นความเขม้ แขง็ ของสงั คมต่อไป ซึ่งในการ
ดาเนนิ การ โดยดาเนินการตามหลักเกณฑ์การประเมนิ 5 ดา้ น 17 องคป์ ระกอบ 62 ตัวบ่งช้ี ดงั น้ี

1. ด้านการจัดการบริหารสถานศึกษา ข้าพเจา้ รว่ มกบั กรรมการบรหิ ารหลกั สตู รได้
นอ้ มนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง มากาหนดเป็นนโยบายเพื่อขับเคลื่อนและบรู ณาการใน
แผนปฏบิ ตั ิการประจาปี มีการดาเนนิ งาน ตดิ ตามนโยบาย ในด้านวิชาการ ได้มีแผนงาน โครงการ ทกี่ ารบูร
ณาการ สง่ เสรมิ จัดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแนวทางหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีการจัดงบประมาณ
สนบั สนุนในการจัดกจิ กรรม มกี ารพัฒนาอาคารสถานท่ี บริเวณของโรงเรียนให้เปน็ แหล่งเรียนรู้ ปฏิบตั ิ
พฒั นาทักษะชวี ิตและปลกู ฝงั วถิ ีชวี ิตให้กบั นกั เรยี นและประชาสมั พนั ธร์ ณรงค์ให้ผูป้ กครองนักเรยี นได้ร่วมกัน
เสรมิ สรา้ งคณุ ลกั ษณะอยู่อยา่ งพอเพียงของนักเรยี นและครอบครวั

2. ดา้ นหลกั สูตรและการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง โรงเรียน
ไดป้ รบั บูรณาการหนว่ ยการเรียนรูป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง สง่ เสริมครใู ห้จัดกจิ กรรมการเรียนให้
สอดแทรกในสาระต่างๆ ใชแ้ หล่งเรียนรู้ ภูมิปญั ญาท้องถ่ินในชุมชน เสริมสรา้ งการพฒั นาคุณลักษณะ

32

“อยู่อยา่ งพอเพียง” มีการวัดผลประเมนิ ผลและจัดกจิ กรรมเผยแพร่ผลงานนักเรียนทเี่ กิดจากการนาปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาปฏิบัติ

3. ด้านการจดั กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน โรงเรยี นมีการสนับสนุนการดาเนินชวี ติ จัด
กจิ กรรมและแนะแนวทางในการวางแผนชีวิต พัฒนาตนเอง มีระบบดูแล จดั กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ลูกเสือ
เนตรนารี มีการจดั ตง้ั กลมุ่ ยวุ เกษตร เดินตามรอยพ่อ ส่งเสริมใหผ้ ้เู รยี นเกดิ จติ อาสา และดาเนินวิถชี วี ติ ให้
สอดคล้องปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

4. ดา้ นการพัฒนาบุคลากรของสถานศึกษา โรงเรียนมกี ารสง่ เสรมิ สนบั สนนุ และ
พัฒนาครูและบุคลากรโดยการนาคณะครูและบุคลากรไปศึกษาดูงานทโี่ รงเรียนที่ประสบความสาเรจ็ ในการ
จดั กิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เชน่ โรงเรียนบ้านคลองยาง โรงเรยี นบ้าน
คลองไคร สงั กัดสานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษากระบ่ี ซงึ่ เปน็ โรงเรียนที่ได้รบั รางวลั โรงเรยี นศนู ย์
ตน้ แบบการเรียนร้ตู ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

5. ดา้ นผลลัพธแ์ ละภาพความสาเร็จ โรงเรยี นมีสภาพ บรรยากาศ บรเิ วณ สะอาด เป็น
ระเบยี บ ร่มรน่ื ปลอดภยั เอื้อตอ่ การเรยี นรู้ ผ้บู ริหารโรงเรียน ครแู ละบุคลากรมคี วามรู้ความเข้าใจหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเปน็ แบบอย่างท่ีดี เห็นคุณค่าและภูมิใจในวฒั นธรรมไทย และหนว่ ยงาน
หลักในการรักษา อนรุ ักษ์ สืบสานซงึ่ ประเพณีวัฒนธรรมของชาติไทย

ผลทเ่ี กดิ จากการนาผลงานดเี ดน่ ทป่ี ระสบผลสาเร็จเปน็ ทีป่ ระจักษ์ไปใช้
จากการทโ่ี รงเรียนวัดกาโหใ่ ต้ ไดร้ บั รางวลั เปน็ สถานศึกษาแบบอยา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

และการบริหารจดั การตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง “สถานศึกษาพอเพยี ง”
โรงเรยี นได้รณรงค์ สนบั สนุนแนวทางและวิธกี ารตา่ งๆเพอ่ื ใหน้ กั เรียนไดฝ้ กึ ปฏบิ ัติให้เป็นวถิ ชี ีวิต ส่คู วาม
ย่งั ยืน กระจายผลสผู่ ปู้ กครองนกั เรียนเพื่อจะร่วมกนั ฝึกฝนนักเรยี นทเี่ ปน็ บตุ รหลาน ทั้งท่ีบ้านและโรงเรยี น
โดยโรงเรยี นวดั กาโห่ใต้ ไดด้ าเนินการอย่างตอ่ เนื่อง จริงจัง

แนวคิดในการพฒั นาต่อไป
หลกั การดาเนนิ งานของเป็นสถานศึกษาแบบอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบรหิ าร

จัดการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง “สถานศึกษาพอเพียง” สอดคล้องกับหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งถ้าโรงเรียนโดยครูและผูป้ กครองร่วมกันในการฝึกฝนนักเรยี นให้ปฏบิ ตั ติ นเองในเรื่อง
การประหยดั นา้ ประหยดั การใช้พลงั งานไฟฟ้า ฝึกการรู้จักประหยัด หยดุ การฟมุ่ เฟอื ย ฝึกการปลกู พืชผกั
สวนครัว ทง้ั ทีโ่ รงเรียนและที่บ้านอย่างจริงจงั จะทาให้สังคม เขม็ แข็งมีภมู ิคุ้มกันตนเอง พ่ึงพาตนเองได้ ลด
การทาลายทรยั ยากรธรรมชาติและรูจ้ ักการอนุรักษธ์ รรมชาติทใี่ กลต้ วั ก่อน เชน่ ปลูกต้นไม้ ใช้นา้ และไฟฟา้
อย่างประหยดั และเกิดประโยชน์ ความสมดลุ ทางธรรมชาติก็จะดีข้ึน โรงเรียนวัดกาโห่ใต้ จึงพฒั นากิจกรรม
เปน็ สถานศกึ ษาแบบอย่างการจดั กจิ กรรมการเรยี นรแู้ ละการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง “สถานศึกษาพอเพียง” ให้เปน็ ศนู ย์การเรียนรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยได้จัด
กิจกรรมดังน้ี

1. กจิ กรรมการอนุรกั ษ์พลังงานไฟฟ้า ประหยัดการใชไ้ ฟฟา้ น้า ในโรงเรยี น
2. กจิ กรรมการปลูกพืชผกั สวนครวั เพ่อื อาหารกลางวัน
3. กิจกรรมการเลี้ยงกบ เล้ียงปลา
4.กจิ กรรมการปลูกไม้ดอกไม้ประดบั
5. กจิ กรรมการเพาะเล้ยี ง ดแู ล กลา้ ไม้
6.กิจกรรมการทาปยุ๋ หมัก ปุ๋ยชีวภาพ

33

ในแต่ละกจิ กรรมโรงเรียนวัดกาโหใ่ ตก้ าหนด ใหม้ นี ักเรยี นทเ่ี ขา้ ร่วมกจิ กรรม ตามความสมคั รใจ
มีครเู ปน็ ท่ีปรึกษาในแตล่ ่ะกิจกรรม เพ่ือท่ีจะดูแล แนะนา ฝกึ ทกั ษะชีวติ ให้กับนักเรียน ใหร้ ้จู ักการพ่ึงพา
ตนเอง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ร้จู กั ช่วยเหลอื งานท่ีบ้าน รับผดิ ชอบงานทโ่ี รงเรยี น ซง่ึ
เยาวชนเหลา่ นกี้ จ็ ะเตบิ โตเปน็ พลเมืองทม่ี ีคณุ ภาพและมศี กั ยภาพใหม้ ัน่ คงและยง่ั ยนื ตอ่ ไป

1.4 ชื่อรางวัล / ผลงาน ได้รับเคร่อื งหมายเชดิ ชูเกียรติ “ครุ สุ ดดุ ี” ในฐานะเป็นครู
ผ้ปู ระพฤตปิ ฏิบัตติ นตามระเบยี บคุรุสภา ว่าดว้ ยจรรยาบรรณครู 2539 เป็นท่ปี ระจกั ษช์ ดั

หนว่ ยงานทีใ่ หร้ างวัล สานักงานคณะกรรมการคุรุสภา
สภาพปัญหา แนวคิด หรือแรงจูงในการจดั ทาผลงานดีเดน่ ทีป่ ระสบผลสาเรจ็ เป็นทป่ี ระจกั ษ์

ขา้ พเจา้ นายสนั ติ ทะเดช รับราชการครงั้ แรกเม่ือ วนั ท่ี 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2523 ดารง
ตาแหน่งเปน็ ครผู ูส้ อนเป็นเวลา 9 ปี ผู้บริหารโรงเรยี นตาแหน่งครใู หญ่ 4 ปี ผูบ้ ริหารโรงเรียนตาแหน่ง
อาจารยใ์ หญ่ 4 ปี ผู้บริหารโรงเรยี นตาแหนง่ ผอู้ านวยการ 18 ปี รวมเวลาอายรุ าชการ ถงึ ปัจจุบนั เป็น
เวลา 35 ปี และในการปฏิบัติหน้าท่ีราชการทาหนา้ ทเี่ ปน็ ครูข้าพเจา้ มคี วามมุ่งมนั่ ตั้งใจปฏิบัติหน้าด้วย
ความวิริยะ อุสาหะปฏิบัติงานเต็มเวลา เต็มความสามารถ พัฒนาตนเองอยา่ งสมา่ เสมอ และหลังเขา้ สู่
ตาแหน่งผู้บรหิ ารโรงเรียน สามารถปฏบิ ตั ใิ นกรอบงานท่กี ว้างขนึ้ และก็มงุ่ ม่นั ต้ังใจ เสยี สละเวลาอทุ ิศเวลาให้
ราชการ ในการพัฒนาโรงเรยี นเพ่ือให้มีความพร้อมในดา้ นตา่ งๆเป็นปัจจัยเอ้ือต่อการจดั การเรยี นรใู้ ห้
นักเรยี นมีคุณภาพ และได้ สง่ เสริม สนบั สนุนครูและบคุ ลากรของโรงเรียน ให้มีความตระหนัก พยายามมี
ความรับผิดชอบในการปฏิบัติหนา้ ทใ่ี ห้เตม็ ความสามารถของทกุ คน ให้เกดิ ผลดีนกั เรยี นมีคุณภาพ จน
ข้าพเจ้าและโรงเรียนได้มผี ลงานประสบความสาเรจ็ คือ ข้าพเจา้ ไดร้ ับการคัดเลอื กเป็นผู้บริหารดเี ด่น เมื่อปี
พ.ศ. 2541 บคุ คลตน้ แบบปฏิรูปการเรียนรู้ ปี พ.ศ. 2544 เปน็ ผู้บริหารทบี่ ริหารงานประสบความสาเร็จ
รบั รางวลั โรงเรียนรางวลั พระราชทาน ปพี .ศ. 2553 โรงเรียนสง่ เสรมิ สขุ ภาพระดับเพชร ปี พ.ศ. 2554
ครูจรรยาบรรณดเี ด่น ปี พ.ศ. 2553 และเครอื่ งหมายเชิดชูเกยี รติ หนึง่ แสนครูดี และโรงเรียนประสบ
ความสาเร็จคอื ปี พ.ศ. 2535 จัดห้องสานักบรหิ าร ห้องเรยี น ไดม้ าตรฐานตามโครงการป้ายทอง พ.ศ.
2541 ได้รบั รางวลั โรงเรียนดีเดน่ ปี พ.ศ.2542 ไดร้ ับรางวลั จดั วินัยนักเรยี นดีเด่น ปี พ.ศ. 2545 ไดร้ บั
รางวลั โรงเรียนส่งเสริมสขุ ภาพระดบั เอ ,จัดกจิ กรรมพฒั นาคุณธรรมจริยธรรม ไดต้ ามเกณฑ์มาตรฐาน ปี
พ.ศ. 2548,2549,2550,2551และ2553 ไดร้ ับรองมาตรฐานโรงเรยี นสง่ เสริมสขุ ภาพระดบั ทอง ปี
พ.ศ. 2553 ได้รับรางวลั โรงเรยี นรับรางวัลพระราชทาน ,รางวลั สว้ มสุขสนั ต์, ปี พ.ศ. 2554 ได้รับรอง
มาตรฐานโรงเรียนสง่ เสริมสขุ ภาพระดับเพชร ปี พ.ศ. 2557 ไดร้ บั รางวัลสถานศึกษาแบบอย่างการจัด
กิจกรรมการเรียนรูแ้ ละการบรหิ ารจัดการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และรางวลั บ้าน
นักวิทยาศาสตร์น้อย คุรสุ ภาและ สก.สค.ไดป้ ระกาศให้ครู ผ้บู รหิ าร ไดร้ บั ส่งเสรมิ สนับสนุน จาก
ผู้บงั คบั บัญชา เพ่ือนผ้บู รหิ ารและเพื่อนร่วมงาน และใหเ้ สนอชือ่ เขา้ รับรางวัล ครุ ุสดดุ แี ละ การยกยอ่ งเชิดชู
เกยี รติ เป็นผู้ทาคุณประโยชน์ทางการศึกษา เปน็ แบบอยา่ งท่ีดีในด้านการดารงตน พฒั นาตน เสยี สละ
อดทน ในการปฏิบตั ิหนา้ ทแ่ี ละพัฒนาคุณภาพชีวิตใหด้ ีข้ึน เปน็ ท่ีประจกั ษต์ ่อสาธารณชนนัน้ ทาให้ข้าพเจา้ มี
ความมั่นใจในตวั เองวา่ ขา้ พเจ้ามีความครบถ้วนทุกประการในการประพฤติปฏบิ ตั ติ นเป็นคนทที่ ุมเทให้กับ
การศึกษาโดยเฉพาะกบั นักเรียนมาตลอด เช่น

การดารงตน ขา้ พเจา้ เปน็ ผมู้ ีความประพฤตแิ ละปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอย่าง
ท่ีดตี ามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชพี มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และซอื่ สตั ยต์ ่อวิชาชีพ ดาเนนิ ชวี ิต
ดว้ ยหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ประหยัดและอดออม เปน็ บคุ คลตัวอยา่ งท่ดี ขี องครอบครวั และชุมชนใน

34

ด้านการพัฒนาคุณภาพชวี ติ มีความซื่อสัตย์ สุจริต ต่อการปฏบิ ตั งิ านในหน้าที่ เปน็ ผูท้ ีไ่ ด้รบั การยอมรับนับ
ถือของศษิ ย์ ชุมชน และบุคคลทวั่ ไป

การพฒั นาตนเอง ข้าพเจ้าศึกษาหาความรู้โดยการเขา้ รับการอบรม สมั มนา เพอื่
พฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนื่อง มผี ลงานดีเด่นเปน็ ทปี่ ระจกั ษ์สามารถนาเสนอแก่บุคคลทัว่ ไป มคี วามคิดริเรมิ่
สร้างสรรค์งานใหมๆ่ อยู่เสมอ มีความรูท้ นั สมยั และทันต่อเหตุการณ์ พฒั นาตนเองและเรียนรู้งาน
ตลอดเวลา และนาความรู้ไปประยุกต์และพฒั นางานของตนเองให้เกิดประโยชนต์ อ่ หน่วยงานและชมุ ชน
อย่างต่อเน่อื ง

การอทุ ิศตน เสยี สละ อดทน ขา้ พเจ้า มีความอตุ สาหะในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ดี ว้ ย
ความมมุ านะ อดทน อทุ ิศเวลาเพอ่ื พฒั นางานให้กบั ชุมชนและสงั คม มีความรบั ผดิ ชอบในหน้าที่ และความ
รบั ผิดชอบตอ่ ชุมชน เปน็ แบบอย่างท่ีดีของสงั คม เสยี สละกาลังกาย กาลงั ทรัพย์ส่วนตัว อทุ ศิ เวลาในการทา
หน้าทีท่ งั้ ทีโ่ รงเรียน และกิจกรรมของสาธารณชน เพ่อื ใหก้ ิจกรรมนน้ั ๆสาเรจ็ ลงได้ดว้ ยความเรยี บร้อยและ
เป็นแบบแผนทีด่ ีของชุมชน

และขา้ พเจ้าได้รบั การคัดเลือกใหไ้ ด้รบั เครอื่ งหมายเชดิ ชเู กียรติ “ครุ สุ ดดุ ี” ในฐานะเป็นครู
ผ้ปู ระพฤตปิ ฏิบตั ติ นตามระเบียบครุ ุสภา วา่ ด้วยจรรยาบรรณครู 2539 ในปี พ.ศ.2558

วธิ ดี าเนินการจัดทาผลงานดีเดน่ ทปี่ ระสบผลสาเรจ็ เป็นทปี่ ระจักษ์
ขา้ พเจา้ ไดร้ วบรวมผลงานของข้าพเจ้าในการทาคณุ ประโยชนท์ างการศกึ ษาในเร่ืองของการ

ดารงตน การพัฒนาตนเอง การอุทศิ ตน เสยี สละ อดทน ซึ่งขา้ พเจา้ ไดป้ ฏิบตั ติ นเปน็ แบบอย่างทดี่ ีมาตลอด
เมอื่ สก.สค. ประกาศรบั สมคั รจงึ มีความมั่นใจในผลงานทม่ี ีอยู่ ขา้ พเจา้ ไดร้ วบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆที่มี
อย่อู ย่างเป็นลาดับจัดเขียนรายงาน เพ่ือส่งให้คณะกรรมการประเมินเปรียบเทียบกับผ้ทู ี่ได้รับการเสนอช่ือ
รายอน่ื ใหค้ ณะกรรมรบั รองคัดเลือกให้ได้รับรางวัลเครื่องหมายเชิดชเู กียรติ “คุรุสดดุ ี” ในฐานะเป็นครู
ผ้ปู ระพฤตปิ ฏิบัติตนตามระเบียบคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณครู 2539 ในปี พ.ศ.2558

ผลที่เกิดจากการนาผลงานดเี ดน่ ท่ีประสบผลสาเรจ็ เป็นท่ีประจกั ษ์ไปใช้
จากการท่ีขา้ พเจา้ ไดร้ ับรางวลั การยกย่องเชิดชูเกยี รติ เปน็ ผู้ทาคณุ ประโยชนท์ างการศกึ ษา เปน็

แบบอยา่ งท่ีดใี นดา้ นการดารงตน พฒั นาตน มุ่งมัน่ ต้ังใจ เสยี สละ อดทน ในการปฏิบตั ิหน้าที่และพฒั นา
คุณภาพของงานท่ีรับผดิ ชอบ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ใหด้ ขี ้ึน เป็นทป่ี ระจักษต์ อ่ สาธารณชนจาก สก.สค.
คณะครู ผปู้ กครอง และผูบ้ งั คับบญั ชาไดแ้ สดงความยนิ ดีชน่ื ชมกับข้าพเจา้ และขา้ พเจ้าก็ต้ังปฏิธานกบั
ตนเองจะปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอยา่ งท่ีดีในการปฏิบตั หิ น้าท่ี ตามจรรยาบรรณครู ขา้ พเจ้ามีความตระหนักใน
รางวลั เครื่องหมายเชิดชเู กียรติ “ครุ สุ ดดุ ี” ในฐานะเป็นครู ผ้ปู ระพฤติปฏบิ ัตติ นตามระเบยี บคุรสุ ภา
วา่ ดว้ ยจรรยาบรรณครู 2539 จงึ ไดจ้ ดั ทาแผนดาเนนิ การจดั กิจกรรมในโรงเรยี นในดา้ นการส่งเสรมิ
คณุ ธรรมนักเรียนดังน้ี

1. โครงการทาบุญตกั บาตรทกุ วันพระ
2. โครงการจติ อาสา
3. โครงการอบรมผู้นานกั เรียน
4. โครงการหน่ึงคนอยา่ งน้อยหนึ่งกระถาง(ปลูกผักสวนครัวท่บี ้าน)
5. โครงการนั่งสมาธิก่อนเรยี น
6. โครงการออมสินบญุ
7. โครงการจัดกจิ กรรมวันสาคญั

35

8. โครงการพฒั นาศนู ย์เรยี นเกษตรทฤษฎีใหม่
9. จดั กจิ กรรมยุวชนเดนิ ตามรอยพ่อ

โครงการเหลา่ นีเ้ ปน็ โครงการท่ีปลกู ฝงั คณุ ธรรมจริยธรรม และเปน็ ฝึกสขุ นิสยั ทด่ี ีงามให้กับนักเรยี น
โดยปฏิบตั อิ ย่างตอ่ เนื่องเพ่ือใหเ้ กิดความย่งั ยนื โดยมีขา้ พเจ้าเปน็ แบบอยา่ งในการปฏิบัติ และสง่ เสรมิ
สนับสนุนให้ครูและบุคลากรทุกคนได้ฝึกปฏิบัติให้เปน็ แบบอยา่ ง และร่วมฝึกให้กับนกั เรยี นเกดิ สุขนิสยั ทีด่ ี
งาม ตามคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สตู ร

แนวคิดในการพฒั นาตอ่ ไป
สถานศึกษาเป็นสถาบันสาคัญท่ที าหนา้ ทใ่ี ห้การศึกษาอบรมบ่มนิสยั คอื ให้ความรู้ความ

เขา้ ใจท่ีถูกต้อง การสรา้ งนิสัย การประพฤตปิ ฏบิ ัติท่ีถูกต้อง หวั ใจสาคญั ของการศึกษา คือการทาให้คนเปน็
คนดีท่ีเป็นประโยชนต์ อ่ ผอู้ น่ื ท้ังตอ่ สงั คมท่ตี นอยอู่ าศัย และต่อประเทศชาติจนถึงมนุษยชาตใิ นท่สี ดุ ปลูกฝงั
คุณธรรมจริยธรรมนักเรยี นจึงเป็นเรื่องสาคัญทสี่ ถานศกึ ษาจะต้องให้การเอาใจใส่ดูแลไม่นอ้ ยกวา่ การทาให้
ผเู้ รยี นมี ความรู้ และมลี ักษณะอ่ืน ๆ ที่พงึ ประสงค์การปลกู ฝังคณุ ธรรมจรยิ ธรรมนักเรยี นกเ็ หมอื นกบั การ
ปลูกฝังคุณลกั ษณะอนื่ ๆ คอื ต้องทาให้ผเู้ รยี นเกดิ ศรทั ธา เชอ่ื วา่ สง่ิ น้ีเป็นสงิ่ ทีด่ ที ่ีทุกคน พึงประพฤตปิ ฏบิ ัติ
และต้องให้ผเู้ รยี นปฏิบัติเปน็ กิจนสิ ัยควบคกู่ ับการใหค้ วามรู้ความเข้าใจที่ ถูกต้อง และได้เหน็ ตวั อยา่ งของจริง
ท่ถี ูกต้องด้วย เพื่อ ให้กระบวนการศึกษาเล่าเรยี นเปน็ ไปอยา่ งเหมาะสม ทุกฝ่ายในสถานศกึ ษาจะช่วยกัน
รับผดิ ชอบ ตงั้ แต่ผบู้ รหิ ารซึง่ ต้องใหเ้ ร่ืองนเี้ ปน็ เรื่องสาคัญ คอยกากบั ดแู ลติดตามอย่างใกล้ชิดกระบวนการ
เรยี นก็ต้องถกู ต้องเหมาะสมกับวยั และพ้นื ฐานของผู้เรียน ครูทส่ี อนทุกคนทุกวชิ าก็ต้องถือเป็นหน้าทคี่ อย
ดูแลเอาใจใส่ กิจกรรมทกุ อยา่ งท่จี ัดกต็ ้องอยู่บนพืน้ ฐานท่ีถูกต้องเหมาะสมและส่งเสริมให้เกดิ คุณธรรม
จรยิ ธรรมไมว่ ่าจะเปน็ กิจกรรมเพ่ือความรู้ ความบันเทงิ หรือการกฬี า กต็ าม แมว้ า่ การปลกู ฝงั คณุ ธรรม
จริยธรรมนกั เรยี นจะเปน็ หน้าทีข่ องทุกฝ่ายกต็ าม ผทู้ ี่มบี ทบาทสาคัญย่ิงคงเปน็ ของสถานศกึ ษา ซ่ึงมหี นา้ ที่
หลัก คอื การพัฒนาผเู้ รียนให้เกิดความเจรญิ งอกงามในทกุ ๆ ดา้ นอยา่ งมี
ดลุ ยภาพ คือ ต้องให้เด็กได้พัฒนาทัง้ ทางด้านจติ ใจ ปัญญา ร่างกาย และทางสงั คม

สรปุ ไดว้ ่าแนวทางที่โรงเรยี นจะตอ้ งดาเนินการตอ่ ไปคือ การโครงการส่งเสริมคุณธรรม
จรยิ ธรรมนกั เรยี น ถงึ แมน้ เป็นโครงการทีโ่ รงเรยี นได้ทาอย่างตอ่ เน่ืองเป็นประจาทุกปีเหมือนกับซา้ ซาก แต่ก็
จาเป็นตอ้ งทาตอ่ ไป เพื่อให้นักเรียนเกดิ เปน็ นสิ ยั ท่ีติดตัวตลอดไป โดยอาจจะนากจิ กรรมท่แี ปลกใหม่เขา้ มา
สอดแทรก

สว่ นท่ี 3 ขอ้ เสนอในการพฒั นางาน
ขอ้ เสนอในการพฒั นางาน ใหป้ รากฏผลสาเรจ็ ภายในระเวลาทกี่ าหนด 3 เดอื น ข้าพเจ้าได้

จัดทาโครงการ พัฒนาศนู ย์เรียนรเู้ กษตรทฤษฎใี หม่ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพื่อฝึกทักษะ
ชีวติ และมจี ติ สานกึ ทด่ี ีต่อการอนรุ กั ษธ์ รรมชาติ รักษาส่งิ แวดลอ้ ม สรา้ งภูมคิ ุ้มกนั ทด่ี ีในการดาเนินชีวติ

ขอรบั รองวา่ ข้อมูลดงั กล่าวข้างต้นถกู ต้อง และเปน็ ความจรงิ

(ลงช่ือ)................................................ผรู้ ับการประเมิน
( นายสันติ ทะเดช )

ตาแหน่งผ้อู านวยการโรงเรยี นวดั กาโหใ่ ต้
วันท่ี 7 เมษายน พ.ศ. 2559

36

การตรวจสอบและรบั รองของส่วนราชการตน้ สงั กัด
ไดต้ รวจสอบแล้วรับรองว่าข้อมลู ถกู ต้อง และเปน็ ความจรงิ
(ลงชื่อ)....................................................ผู้บังคบั บัญชาสงู สดุ ของส่วนราชการ
(...................................................)
ตาแหน่ง...................................................

พระราชปณิธานท่จี ะพระราชทานการศึกษา เพ่ือพฒั นาชวี ิตราษฎร ทรงให้
ความสาคญั ตอ่ การพฒั นาพลเมืองใหม้ คี ุณภาพดว้ ยการใหก้ ารศึกษา เพ่ือใหส้ ามารถ
พ่ึงตนเองไดแ้ ละมีฐานะความเป็นอยู่ดีข้ึน อนั จะเป็นประโยชน์ทงั้ ส่วนบุคคลและ
ประเทศชาติ จากพระบรมราโชวาทบางตอนท่ไี ดพ้ ระราชทานแก่คณะครูและนักเรียน ณ
ศาลาดุสิดาลยั เม่ือวนั ท่ี ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๔ วา่

"…การศึกษาเป็นปัจจยั ในการสรา้ งและพฒั นาความรู้ ความคดิ ความประพฤติ
และคุณธรรมของบุคคล สังคมและบา้ นเมืองใดใหก้ ารศึกษาท่ดี ีแกเ่ ยาวชนไดอ้ ยา่ ง
ครบถว้ นพอเหมาะกนั ทุก ๆ ดา้ น สงั คมและบา้ นเมืองนั้นกจ็ ะมพี ลเมืองท่มี คี ุณภาพ ซ่ึง
สามารถธารงรักษาความเจริญมน่ั คงของประเทศชาติไวแ้ ละพฒั นาใหก้ า้ วหนา้ ตอ่ ไปได้
ตลอด..."













“เศรษฐกิจพอเพียง... จะทำควำมเจริญ
ให้แก่ประเทศได้แต่ต้องมีควำมเพียร แล้วต้อง
อดทนต้องไม่ใจร้อน ต้องไม่พูดมำก ต้องไม่
ทะเลำะกันถ้ำทำโดยเข้ำใจกัน เชื่อว่ำทุกคนจะมี
ควำมพอใจได้”

พระราชดํารัสเศรษฐกิจพอเพียง ของ
พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หวั พระรำชทำน ณ
วันท่ี 4 ธนั วำคม 2541

บรรยากาศและ
สภาพแวดลอ้ มของ

โรงเรียน

การจดั สภาพแวดล้อม
ของโรงเรยี นเน้น สะอาด ร่มรืน่
สวยงาม เอื้อต่อการพฒั นาการ
เรยี นรขู้ องผเู้ รยี น


Click to View FlipBook Version