The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรการฝึกอบรม-ขนมไทยในชุมชน''ขนมนางเล็ด''

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by champion.july96, 2022-03-15 03:55:27

หลักสูตรระยะสั้น ขนมไทยในพื้นบ้าน"ขนมนางเล็ด'"

หลักสูตรการฝึกอบรม-ขนมไทยในชุมชน''ขนมนางเล็ด''

ข น ม พื้ น บ้ า น ใ น ชุ ม ช น

ขนมนางเล็ด

ห ลั ก สู ต ร ร ะ ย ะ สั้ น

ส า ข า สั ง ค ม ศึ ก ษ า
ค ณ ะ ม นุ ษ ย ศ า ส ต ร ต์ แ ล ะ สั ง ค ม ศ า ส ต ร์

มหาวิทยาลัยราชภัฏ สุรินทร์

หลักสูตรการฝึกอบรม

ขนมพื้นบ้านในชุมชน

ขนมนางเล็ด

“ขนมนางเล็ด” ประวัติความเป็นมาบทนํา เมื่อเอ่ยถึงขนมไทยใน
สมัยก่อน น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก

ขนมข้าวแตนหรือเรียกกันติดปากว่า”ขนมนางเล็ด” เป็นขนมที่
ทํามาจากข้าวเหนียวราดด้วยน้ําตาลคนไทยใน

อดีตจะทําขนมในเทศกาลหรือประเพณีต่างๆ เช่น ขนมห่อ จะทํา
ในวันสาทหรือวันสงกานต์ วันออกพรรษาจะ

ทํากระยาสาท หรือทําขนมนางเล็ด ขนมหูช้าง เพื่อใช้ในการ
ประกอบประเพณีเทศมหาชาติ จึงนับได้ว่าขนม

ไทยมีความสําคัญ ต่อประเพณี หรือเทศกาลต่างๆของคนไทย
มาก ขนมไทยในอดีตเหล่านี้ยังอยู่คู่กับคนไทย

ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน แต่ทุกวันนี้ขนมไทยจะทําตลอดทั้งปี
โดยไม่จําเป็นต้องรอให้ถึงประเพณีหรือ

เทศกาลต่างๆ จึงนับได้ว่าขนมไทยมีความสําคัญต่อเศรษฐกิจ
ของชุมชนมาก เพราะสามารถผลิตขายได้ตลอด

ทั้งปี ทําให้มีรายได้เพิ่มให้กับครอบครัวอีกทาง ภูมิปัญญาชาว
บ้านที่จะนําเสนอการทําขนมไทย ที่กล่าวในครั้ง
นี้คือ ภูมิปัญญาการทํา“ขนมนางเล็ด”

สารบัญ

4 หลักสูตรการฝึกอบรม
6 เนื้อหาการฝึกอบรม

8 วิธีการทำขนมนางเล็ด

13 ประวัติวิทยากร
14 แบบทดสอบ

หลักสูตรการฝึกอบรม

ขนมพื้นบ้านในชุมชน ขนมนางเล็ด

สาขาสังคมศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัย ราชภัฏสุรินทร์

วัตถุประสงค์ของการอบรม

1.เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สิ่งใหม่เกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียนสู่ห้องเรียนธรรมชาติ
2. เพื่อให้ผู้เรียนได้ค้นพบตัวเองว่าชอบหรือถนัดด้านไหน
3.เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนําความรู้ที่ได้จากตรงนี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจําวันอาจเกิดอาชีพใหม่ต่อนักเรียนหรือครอบครัว
4.เพื่อให้ผู้ที่สนได้รับประสบการณ์โดยตรงจากกลุ่มผู้มีความรู้
5.เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ในการผลิตขนมนางเล็ดในชุมชน สู้เยาวชนรุ่นใหม่

ระยะเวลาของหลักสูตร

ผู้รับการอบรมจะต้องเข้าฝึกอบรมภาคทฤษฏีจำนวน 3 ชั่วโมงและภาคปฏิบัติจำนวน 4 ชั่วโมง
รวมระยะเวลาในการอบรมทั้งสิน 7 ชั่วโมง

คุณสมบัติผู้เข้าฝึกอบรม

1.นักเรียน นักศึกษา อาจารย์ คณะบุคลากรที่สนใจ
2.บุคคลภายนอกที่สนใจในตัวหลักสูตร
3.มีความสนใจในเรื่อง ของขนมพื้นบ้านในท้องถิ่น ขนมนางเล็ด

หัวข้อเนื้อหาการฝึกอบรม เวลา ชั่วโมงเรียน

หัวข้อ


ทฤษฏี ปฏิบัติ

1.สิ่งที่ควรรู้ ชนิดของข้าว 2 -
ที่จะทําขนมนางเล็ด

2.การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ 1 -
ในการทําขนมนางเล็ด

3.ขั้นตอนการทําและข้อควรระวัง - 2

4.ขั้นตอนการบรรจุผลิตภัณฑ์ - 2
และแปรรูป

5 การวัดและประเมินผล 3 4

รวม 7

เนื้อหาการฝึกอบรม

1 . ค ว า ม รู้ เ กี่ ย ว กั บ ข น ม น า ง เ ล็ ด / ช นิ ด ข อ ง ข น ม น า ง เ ล็ ด / ค ว า ม รู้ ใ น ก า ร เ ลื อ ก
ช นิ ด ข อ ง วั ต ถุ ดิ บ / ก า ร เ ต รีย ม อุ ป ก ร ณ์ ใ น ก า ร ทำ ข น ม / เ ท ค นิ ค วิธี ก า ร ที่ จ ะ ทำ
ข น ม น า ง เ ล็ ด ใ น แ ต่ ล ะ ห น้ า
2 . แ น ะ แ น ว ส า ธิ ต แ ล ะ ป ฏิ บั ติ ก า ร ทำ ข น ม ใ น แ ต่ ล ะ ขั้ น ต อ น
3 . ก า ร แ พ็ ค ข น ม สู่ บ ร ร จุ ภั ณ ฑ์ เ พื่ อ ดึ ง ดู ด ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ผู้ บ ริโ ภ ค
4 . ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล
4 . 1 แ บ บ ท ด ส อ บ ห ลั ง เ รีย น
4 . 2 วั ด คุ ณ ภ า พ ข อ ง ชื้ น ง า น ที่ ไ ด้ ป ฏิ บั ติ ข อ ง ผู้ เ ข้ า ร่ ว ม โ ค ร ง ก า ร
ห ลั ก สู ต ร ร ะ ย ะ สั้ น
5 . ผู้ จั ด ทำ
น า ย ช ยุ ติ เ อ็ น ดู นั ก ศึ ก ษ า ส า ข า สั ง ค ม ศึ ก ษ า ชั้ น ปี ที่ 2

ลงชื่อ.............................ผู้ขออนุมัติหลักสูตร

(นายชยุติ เอ็นดู)

ลงชื่อ............................ผู้อนุมัติหลักสูตร
(ดร.ภัทระ อินคำแหง)

อาจารย์ผู้สอนรายวิชาพํฒนาหลักสูตร สาขาสังคมศึกษา

เนื้อหาการฝึกอบรม

ขนมไทย ขนมนางเล็ดเป็นขนมไทยที่มีความเป็นมาอย่างหน้าสนใจ
ขนมนางเล็ดเกิดมาจาก เมื่อในสมัยโบราณที่ยังมีการสู้รบกันและข้าว
ปลาอาหารก็แสนที่จะหายากเมื่อยามใดที่เกิดศึกสงครามนั้น ผู้หญิง

ในสมัยก่อนจะนำข้าวมาผึงแดดตากแห้งไว้เพื่อเก็บไว้กินยามเกิด
สงครามเวลาซ้อนตัวอยู่ในหลุมหลบภัยมีการนำ ปลามาตากแห้ง ข้าว
ที่หนึ่งสุกแล้วนำมาบี้เป็นแผ่นแล้วนำไปผึงแดดเพื่อให้สามารถเก็บไว้
กินได้นานจนกว่าจะเสร็จสิ้นสงคราม ขนมนางเล็ดจึงถูกพัฒนาในยุค
ปัจจุบันด้วยกรรมวิธีนำก้อนข้าวที่ตากแห้งนั้นมาทอดกับน้ำมันเดือด
แล้วโรยหน้าด้วยน้ำผึ้ง หรือน้ำตาลปิ๊ ปละลายให้เหนียวโรยหน้าขนม

นางเล็ดให้รสชาติอร่อย หอม หวาน นิยมรับประทานเป็นขนมว่าง
“ขนมนางเล็ด” ประวัติความเป็นมาบทนำ เมื่อเอ่ยถึงขนมไทยใน
สมัยก่อน น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักขนมข้าวแตนหรือเรียกกันติดปาก
ว่า”ขนมนางเล็ด” เป็นขนมที่ทำมาจากข้าวเหนียวราดด้วยน้ำตาลคน
ไทยในอดีตจะทำขนมในเทศกาลหรือประเพณีต่างๆ เช่น ขนมห่อ จะ
ทำในวันสาทหรือวันสงกานต์ วันออกพรรษาจะทำกระยาสาท หรือทำ
ขนมนางเล็ด ขนมหูช้าง เพื่อใช้ในการประกอบประเพณีเทศมหาชาติ
จึงนับได้ว่าขนมไทยมีความสำคัญ ต่อประเพณี หรือเทศกาลต่างๆของ
คนไทยมาก ขนมไทยในอดีตเหล่านี้ยังอยู่คู่กับคนไทยตั้งแต่อดีตมา
จนถึงปัจจุบัน แต่ทุกวันนี้ขนมไทยจะทำตลอดทั้งปี โดยไม่จำเป็นต้อง
รอให้ถึงประเพณีหรือเทศกาลต่างๆ จึงนับได้ว่าขนมไทยมีความสำคัญ
ต่อเศรษฐกิจของชุมชนมาก เพราะสามารถผลิตขายได้ตลอดทั้งปี
ทำให้มีรายได้เพิ่มให้กับครอบครัวอีกทาง ภูมิปัญญาชาวบ้านที่จะนำ

เสนอการทำขนมไทย ที่กล่าวในครั้งนี้คือ ภูมิปัญญาการทำ
“ขนมนางเล็ด”

กลุ่มอาชีพทำขนมนางเล็ด หมู่ที่ ๕ บ้านจะแกโกน ตำบลท่าสว่าง
อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ก่อตั้งโดย นางทองหุ่ม ออกแดง

เนื่องจากได้มองเห็นสตรีในหมู่บ้านว่างงาน และส่วนใหญ่ออกไป
ทำงานรับจ้างทำขนมในเมือง จึงเกิดคิดอยากให้สตรีในหมู่บ้านที่ไป
ทำงานในเมืองมาทำงานในหมูบ้านเพื่อจะได้ดุแลครอบครัว และลูกๆ
อย่างใกล้ชิด จึงได้เรียกสตรีมาประชุมปรึกษาว่า ควรจะจัดตั้งกลุ่มทำ
ขนมในหมู่บ้าน สตรีทุกคนได้เห็นชอบด้วย จึงมีกลุ่มทำขนมเกิดขึ้น
ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ โดยใช้ชื่อว่า “กลุ่มสตรีขนมนางเล็ด”
มีสมาชิก จำนวน ๑๕ คน ได้รับเงินทุนครั้งแรก เมื่อเดินกุมภาพันธ์

๒๕๕๔

ปัจจุบันการทำขนมนางเล็ดนั้น สะดวกสบายขึ้นไม่ต้องพึ่งฟ้าระอาฝน
เพราะมีเตาอบที่ตั้งระบบไฟได้ตั้งแต่อ่อนสุดคล้ายแสงแดดจนถึงสูงสุดคล้าย
แดดจัด นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงนางเล็ดที่จากเดิมมีเพียงรส-หวานกับรส
เค็มให้มีรสชาติหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ถูกปากสำหรับทุกเพศทุกวัยโดยการ
โรยหน้าด้วยหมูหยอง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์และธัญพืชต่างๆ เป็นต้น อีกทั้งยัง

ทำรูปแบบให้สะดุดตา เช่น รูปหัวใจ รูปถ้วย
นับเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาที่แสดงให้เห็นถึงความรอบคอบและละเอียดถี่ถ้วน
ของท่านผู้ใหญ่ในสมัยก่อน ที่คิด ประดิษฐ์ และดัดแปลงวิธีการถนอมอาหาร

ทำให้เรามีขนมอร่อย ๆ อย่างนางเล็ดไว้ทานจนถึงทุกวันนี้



ขนมนางเล็ดเป็น มรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทยมาช้านานเพราะผูกพัน
กับ ประเพณีและวัฒนธรรมไทยเพื่อใช้ในงานประเพณีและงานมงคลต่าง ๆ
การทำบุญเลี้ยงพระ หรือทำรับ ประทานภายในครอบครัวและเพื่อนฝูงก็ได้ซึ่ง
ขนมไทยก็ทำไม่ยากนักอีกทั้งต้น ทุนและวัตถุดิบที่จะนำมาทำก็หาง่ายมีอยู่ใน
ท้องถิ่น เช่น มะพร้าว แป้ง เผือก มัน กล้วย ข้าวเหนียว ฯลฯ นอกจากส่วน
ประกอบที่หาง่ายแล้วขนมไทยยังมีสัดส่วนการทำที่ยืดหยุ่นได้ไม่ เหมือน ขนม
ของต่างประเทศซึ่งวิธีการเติมส่วนผสมของขนมต่างประเทศต้องตวงให้ได้สัด
ส่วนที่ถูกต้อง ถ้าวิธีการตวงส่วนผสมผิดพลาดการทำขนมชนิดนั้นก็จะไม่เป็น
ขนมที่เราต้องการ ส่วนขนมไทยนั้นจะอร่อยมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับความ

ชำนาญซึ่งฝึกฝนได้ในเวลาไม่นานนัก

สีธรรมชาติจากผัก/ผลไม้และข้าวสารในการนำมาทำแผ่นขนมนางเล็ด

มีหลักๆ อยู่ 5 สี คือ สีขาว จากข้าวเหนียวธรรมดา สีดำ ใช้ข้าวเหนียว ดำ
สีม่วง จากดอกอัญชัน สีเหลือง จากดอกคำฝอย และ สีแดง จากน้ำแตงโม

ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่

น้ำแตงโม

ดอกคำฝอย ดอกอัญชัญ

วิธีการทำแผ่นขนมนางเล็ด

วิธีการทำเริ่มจาก คั้นเนื้อแตงโม และ น้ำอื่นๆ
ก่อนกรองเอาแต่น้ำ ผสมงาดำใส่ลงในน้ำแตงโม คนให้
เข้ากันแช่ข้าวสารประมาณ 1 คืน นึ่งข้าว ให้สุกเทใส่ชาม
เทน้ำแตงโมผสมงาดำลงในชามข้าวเหนียว คลุกเคล้าให้
เข้ากันใส่ข้าวในถุงพลาสติกเพื่อเก็บความร้อนจากนั้น กด
ข้าวลงในพิมพ์วงกลม แกะข้าวออกจากพิมพ์ นำข้าวแต๋น
แฟนตาซีที่ได้ออกมาไปตากแดด 2 วัน

นำข้าวที่ผสมได้ที่
มาปั้ นใส่พิมพ์ขนม

จากนั้นนำไปตากแดด2 แดด
เพื่อให้ข้าวแห้งสนิท

ขั้นตอนการทอดขนมนางเล็ด

ใส่น้ำมันให้เต็มกระทะ ตั้งไฟให้ร้อนจัด
เอาข้าวที่จากแห้งแล้วลงทอด ประมาณ 40
วินาที ข้าวแต๋นจะลอยชึ้น พลิกไป ให้ตักออก
นำมาวางบนตะแกรง เพื่อสะเด็ดน้ำมัน และพัก
ไว้ให้เย็น แต่ระวังอย่านานเกินจะทำให้ขนมไม่

กรอบ

ขั้นตอนการราดน้ำตาลลงหน้าขนม

นำน้ำตาลปี๊ บ น้ำตาลอ้อย เคี่ยวไฟแรงให้ตกทราย
พักไว้ให้เย็นพอประมาณ แต่อย่านานเกินเพราะอาจ
จะทำให้จับตัว จากนั้นนำมาหยดลงข้างบนขนมอย่างสวยงาม
หยอดหน้า แล้วโรยด้วยธัญพืชให้ดูสวยงาม
ไม่ควรมากหรือน้อยเกินไป เพราะอาจจะทำให้ ขาดรสชาติเดิม

ขั้นตอนสุดท้าย
นำขนมใส่ในบรรจุภัณฑ์

บรรจุภัณฑ์ที่ดีควรเก็บขนมไม่ให้มีลมเข้าและปิดปากถุงให้มิด
ถ้าจัดจำหน่ายควรใส่บรรจุภัณฑ์ ที่มีึวามแปลกใหม่สะดุดตา
เพื่อเรียกความสนใจต่อลูกค้า ถ้าเก็บไว้รับประทนเองควรใส่กล่อง
ปิดมิดชิดสามารถเก็บไว้ทานได้ถึง2 เดือน

วัตถุดิบและอุปกรณ์

น้ำอ้อย 500 กรัม
น้ำตาลปี๊ บ 2,000 กรัม
เกลือป่น 4.6 กรัม
น้ำสะอาด 13.8 ซีซี
งาขาว 1,000 กรัม
งาดำ 167 กรัม
ถั่วเขียวผ่าซีก/เมล็ดทานตะวัน 700 กรัม
พิมพ์ 2-3 อัน
กระทะก้นแอ่ง
กระดงสำหรับตาก
ตะแกรง

บรรณานุกรม

''เคล็ดลับการทำขนมนางเล็ด'',สืบค้นเมื่่อวันที่ 14 มีนาคม 2565
จาก http://eveleighmarket.com

''ข้าวแต๋นธัญพืช'',สืบค้นเมื่่อวันที่ 14 มีนาคม 2565
จาก www.technologychaoban.com/

''ขนมนางเล็ด'',สืบค้นเมื่่อวันที่ 14 มีนาคม 2565
จาก https://cooking.kapook.com/view79131.html

PRESONAL HISTORY
OF THE SPEAKER

ประวัติส่วนตัว วิทยากร

นายชยุติ เอ็นดู
รหัสนกศึกษา 63121100220
นักศึกษาชั้นปีที่ 2

สาขาสังคมศึกษา
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

CONTACT

CHAYUT EN-DO
062-5277255
[email protected]

แบบทดสอบหลังอบรม

1.ขนมนางเล็ดที่นิยมทานกันมาจากน้ำอะไร
1.น้ำแตงโม 2.น้ำแต
งไท 3.น้ำลำไย

2. ควรนำแผ่นดิบนางเล็ดตากไม่น้อยกว่ากี่แดด
1.5-6แดด 2. 2แดด 3
. เท่าไหร่ก็ได้ตามความชอบ

3.ข้าวที่นำมาทำแผ่นขนมนางเล็ดควรเป็นข้าวอะไร


1.ข้าวสารทั่วไป 2.ข้าวเห
นียว 3.กล้อง

4.ควรทอดขนมนางเล็ดให้เป็นสีอะไรจึงจะถือว่าพอดี
1.สีขาว2.สีเปลือกไข่ 3.สีน
้ำตาลเข้ม

5.น้ำตาลที่ควรใช้ในการราดหน้าขนมควรเป็นน้ำตาลอะไร

1.น้ำตาลอ้อย/น้ำตาลปี๊ ป 2.น้ำตาลทรายขาว/น้ำตาลทรายแดง 3.น้ำตาลกรวดน้ำตาลทรายแดง

6.ควรแช่ข้าวที่จะทำขนมนางเล็ดไว้กี่คืนถึงจะเหมาะสม

1.4คืน 2. 6คืน 3. 1คืน

7.หลังทอดเสร็จควรปฏิบัติตามข้อใด

1.จับใส่ถุงเลย 2. นำไปตากใ่ส่น้าพัดลม 3. พักไว้สักครู่จนหายร้อนแต่ไม่นานเกิน

8.ขนมนางเล็ดเก็บไว้ทานได้เท่าไหร่จึงจะเหมาะสม

1.1อาทิตย์ 2. 2เดือน 3. 1ปี

9.ควรทอดขนเป็นระยะเวลาเท่าใดจริงจะเหมาะสม

1.40วินาที2. 20วินาที 3. 1นาที

10.ถ้าจัดจำหน่ายควรใส่บรรจุภัณฑ์ชนิดไหนจึงจะเหมาะสม

1. ถุงพลาสติกมัดให้มีลม2.ถุงแก้วใส่รีดลมออกจนหมด 3.กล่องกระดาษลัง

เฉลย

1.1
2.2
3.2
4.2
5.1
6.3
7.2
8.2
9.1
10.2

WTHHATCNHKAFIONEG

WWeellll ddoonnee


Click to View FlipBook Version