โครงงานกลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ิลปะ
เรอ่ื ง การประดษิ ฐเ์ ครอ่ื งดนตรคี าลมิ บาจากกระปอ๋ งนม
ผจู้ ัดทาโครงงาน
เด็กชายพงศกร พมิ พ์ศรี
เด็กชายปัณณฑัต ละออ
เดก็ หญิงพีรดา ถิระบัน
ครทู ปี่ รกึ ษา
นางสาวบุรารัตน์ มณฉี าย
นางสาววรรณพร ชยั ศรี
นายธนัฐพงศ์ ชืน่ สวุ รรณ
นางสาวสุธาสนิ ี พรหมทอง
โรงเรียนเทศบาลวดั โคกสะทอ้ น
สังกดั เทศบาลเมอื งทุ่งสง อาเภอทงุ่ สง
จงั หวดั นครศรีธรรมราช
ก
ช่อื โครงงาน : การประดิษฐ์เคร่ืองดนตรีคาลมิ บาจากกระป๋องนม
ผจู้ ดั ทาโครงงาน : เด็กชายพงศกร พิมพ์ศรี
เด็กชายปณั ณฑัต ละออ
เดก็ หญิงพีรดา ถิระบัน
ครทู ี่ปรกึ ษา : นางสาวบรุ ารตั น์ มณีฉาย นางสาววรรณพร ชยั ศรี
นายธนฐั พงศ์ ช่ืนสุวรรณ นางสาวสุธาสนิ ี พรหมทอง
โรงเรียน : เทศบาลวัดโคกสะท้อน สงั กดั เทศบาลเมืองทุ่งสง นครศรธี รรมราช
ระดับชัน้ : ประถมศึกษาปีที่ 4-6
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ : ศิลปะ
วนั เดอื น ปี ท่ีจดั ทาโครงงาน : 4 เมษายน – 25 พฤษภาคม 2565
บทคดั ย่อ
การศกึ ษาโครงงาน : การประดิษฐ์เครอ่ื งดนตรีคาลิมบาจากกระป๋องนม มีวัตถุประสงค์ของ
โครงงาน 1.เพ่อื ประดิษฐ์เครื่องดนตรีคาลิมบาท่ีทามาจากกระป๋องนม 2.เพื่อนาไปประยุกต์ใช้ในการ
จัดกิจกรรมการเรียนการสอน 3. เพ่ือศึกษาความพึงพอใจของโครงงานการประดิษฐ์เคร่ืองดนตรี
คาลิมบาจากกระป๋องนม โดยมีวิธีการดาเนินงาน ดังน้ี เตรียมกระป๋องนมตราหมีล้างทาความสะอาด
แล้วเช็ดให้แห้ง จากน้ันนาคีมปากจระเข้ดึงบริเวณท่ีเปิดกระป๋องนมออก และดึงส่วนหัวหมุดของกิ๊บ
ติดผมออก หลังจากนั้นนาคัตเตอร์มาตัดตะเกียบความยาว 8-10 ซม. ให้เท่ากันทั้ง 4 ช้ิน และตัด
ตะเกียบ 1 ช้ิน ความยาว 7 ซม. และนาตะเกียบท่ีตัดมาฝนบริเวณขอบกับกระดาษทรายให้เรียบ นา
กิ๊บติดผมใส่ในตะเกียบชิ้นท่ีมีความยาว 7 ซม. พร้อมกับจัดกิ๊บติดผมให้สวยงาม หลังจากนั้นนากาว
ดินน้ามันมาแปะหลังตะเกียบที่ก๊ิบติดผม แล้วนาไปแปะตรงกลางกระป๋องนม และนาตะเกียบ 4 ชิ้น
มาต้ังไว้ด้านหน้าและหลังกระป๋องนมแล้วนาหนังยางมารัดให้แน่นทั้งส่ีด้าน จัดกิ๊บติดผมให้มีเสียงสูง
ตา่ ตามตอ้ งการ แล้วนาปืนยิงกาวร้อนมาหยอดหลงั กิ๊บติดผมเพือ่ ไมใ่ ห้ก๊บิ ตดิ ผมขยบั
ข้อสรุปของโครงงานเคร่ืองดนตรีคาลิมบาจากกระป๋องนม จากการตอบแบบสอบถาม
พบว่า ผู้ตอบพบว่า ประเด็นที่มีความพึงพอใจมากที่สุด คือ ความประหยัดและความคิดสร้างสรรค์
ร้อยละ 100 รองลงมา ความทนทาน ร้อยละ 98.00 ในส่วนประเด็นที่มีความพึงพอใจน้อยที่สุด
คอื ระดับความเพราะของเสยี ง คา่ เฉลี่ย 82.00
ข
กติ ตกิ รรมประกาศ
โครงงานศิลปะเรื่องการประดิษฐ์เครื่องดนตรีคาลิมบาจากกระป๋องนม ท่ีได้สาเร็จลุล่วงไป
ด้วยดีก็เพราะได้รับการช่วยเหลือจากครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ นางสาวบุรารัตน์ มณีฉาย
นางสาววรรณพร ชัยศรี นายธนัฐพงศ์ ชื่นสุวรรณ และนางสาวสุธาสินี พรหมทอง ท่ีให้คาปรึกษา
และให้คาแนะนาตลอดเวลาของการดาเนินงาน ขอขอบคุณผู้อานวยการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ครู
และบุคลากรทางการศึกษา นักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อนที่คอยให้คาแนะนาและให้ความ
ช่วยเหลือ และเป็นกาลังใจด้วยดีตลอดมาจนทาให้โครงงานสาเร็จลุล่วงไปด้วยดี หวังว่าโครงงานการ
ประดิษฐ์เคร่ืองดนตรีคาลิมบาจากกระปอ๋ งนมเรื่องนจี้ ะเกิดประโยชน์ตอ่ การศึกษาต่อไป
คณะผู้จัดทา
สารบญั ค
บทคดั ย่อ หน้า
กติ ตกิ รรมประกาศ ก
สารบญั ข
สารบัญรูปภาพ ค
บทท่ี 1 บทนา ง
1.1 ความสาคญั และท่มี าของโครงงาน 1
1.2 วตั ถุประสงค์ของโครงงาน 2
1.3 ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั 2
1.4 ขอบเขตการศกึ ษา 2
บทที่ 2 เอกสารทเ่ี กีย่ วข้อง
2.1 ประวัตคิ วามเป็นมาของคาลิมบา 3
2.2 คุณสมบตั ิของกระป๋อง 5
2.3 ขอ้ ดขี องกระป๋อง 10
2.4 ประเภทของคาลิมบา 10
บทที่ 3 วิธีดาเนนิ การ
3.1 วสั ดอุ ุปกรณ์ 16
3.2 ขนั้ ตอนวธิ กี ารทา 17
บทที่ 4 ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล 22
บทท่ี 5 สรุปผลการศกึ ษาและข้อเสนอแนะ 25
บรรณานุกรม 26
ภาคผนวก
ภาพประกอบการจดั ทาโครงงาน 28
ประวตั ผิ ้ทู าโครงงาน 33
ง
สารบญั รปู ภาพ
ภาพท่ี หน้า
ภาพท่ี 1 แสดงรูปภาพเครือ่ งดนตรีคาลิมบา 4
ภาพที่ 2 แสดงรูปภาพกระปอ๋ งบรรจภุ ัณฑ์ 5
ภาพท่ี 3 แสดงรปู ภาพวิธีผลิตกระป๋อง 3 ชิน้ 7
ภาพที่ 4 แสดงรูปภาพตวั อยา่ งกระป๋องขึ้นรูปโดยการปั๊ม 2 ครงั้ 7
ภาพท่ี 5 แสดงรูปภาพตัวอย่างกระป๋องข้นึ รูปโดยการปัม๊ และรีดผนงั 8
ภาพที่ 6 แสดงรปู ภาพการผลิตกระป๋อง 2 ชิน้ โดยวธิ ี DI 9
ภาพท่ี 7 แสดงรปู ภาพตวั อยา่ งบรรจภุ ณั ฑจ์ ากโลหะ 9
ภาพที่ 8 แสดงรูปภาพคาลมิ บาแบบกล่อง 10
ภาพที่ 9 แสดงรูปภาพคาลมิ บาแบบแผน่ ไม้ 11
ภาพท่ี 10 แสดงรูปภาพคาลมิ บาแบบอะครลิ ิค 11
ภาพท่ี 11 แสดงรปู ภาพคาลมิ บาแบง่ ตามจานวนคีย์ 12
ภาพท่ี 12 แสดงรูปภาพคาลมิ บาแบ่งตามคีย์เสียง 13
ภาพที่ 13 แสดงรปู ภาพคาลมิ บาแบบไฟฟ้า 14
ภาพท่ี 14 แสดงรูปภาพคาลมิ บาแบบอะคสู ติก 14
ภาพท่ี 15 แสดงรปู ภาพสว่ นประกอบของคาลิมบา 15
ภาพที่ 16 แสดงรปู ภาพวสั ดุอุปกรณ์ 16
ภาพที่ 17 แสดงรูปภาพทาความสะอาดลา้ งกระป๋องนม 17
ภาพที่ 18 แสดงรูปภาพดงึ บริเวณท่เี ปิดกระปอ๋ งนมออก 17
ภาพท่ี 19 แสดงรปู ภาพตดั ตะเกียบใหเ้ ทา่ กัน 18
ภาพท่ี 20 แสดงภาพฝนตะเกียบบรเิ วณขอบกบั กระดาษทรายใหเ้ รียบ 18
ภาพท่ี 21 แสดงรปู ภาพนาก๊ิบตดิ ผมใส่ในตะเกยี บ 19
ภาพท่ี 22 แสดงรูปภาพนาเทปลายการ์ตนู และมาติดรอบกระปอ๋ งนมและตะเกียบ 19
ภาพที่ 23 แสดงรปู ภาพนากาวดินนา้ มันมาแปะหลงั ตะเกยี บท่ีกบิ๊ ตดิ ผม 20
ภาพที่ 24 แสดงรูปภาพนาตะเกยี บมาทาบกระป๋องแล้วนาหนงั ยางมารดั ตะเกียบ 20
ภาพท่ี 25 แสดงรูปภาพการจัดก๊บิ ติดผมให้มีเสียงสูงตา่ 21
ภาพท่ี 26 แสดงรูปภาพแสดงภาพชน้ิ งานของคาลมิ บาท่ีเสร็จสมบรู ณ์ 21
1
บทท่ี 1
บทนา
1. ความสาคญั และทม่ี าของโครงงาน
คาลิมบามีถ่ินกาเนิดในแอฟริกาตอนใต้ มีบทบาทสาคัญในประเพณี และเป็นเอกลักษณ์ทาง
วัฒนธรรมของกลุ่มชาตพิ ันธุ์โชนา (Shona) ของซิมบบั เว มีหน้าตาละม้ายคลา้ ยกลอ่ งไม้ มีซโี่ ลหะ เล่น
โดยถือไว้ในมือ แล้วดีดซ่ีเหล็กด้วยน้ิวหัวแม่มือ บางเพลงอาจใช้นิ้วชี้เล่นด้วยความนิยมของคาลิมบา
ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันและ แพร่ไปในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยก็มีผู้ที่เล่นคาลิมบา
นับหมื่นคน ซึ่งสามารถติดตามกันได้ในช่องยูทูบ และเพจต่างๆ ทางโซเชียลมีเดีย ซ่ึงผู้มีใจรักในเสียง
คาลิมบาก็สร้างสรรค์ผลงานคัฟเวอร์เพลงไทยด้วยเสียงคาลิมบากันออกมาไม่น้อย จึงทาให้คาลิมบา
กลายเป็นท่นี ิยมในกลุ่มรักเสยี งเพลง
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ดูจะทาให้เคร่ืองดนตรีชนิดน้ีเริ่มเป็นท่ี
รู้จักข้ึนมามากข้ึนกว่าเดิม เพราะมีขนาดเล็ก เล่นง่าย และมีเสียงที่ไพเราะ คล้ายกับเปียโน
และกล่องเพลง หลายกลุ่มในโซเชียลมีเดียก็มีการรับซื้อขายกัน รวมถึงแจกโน้ตเพลงไทยต่าง ๆ
สาหรบั คาลิมบา สรา้ งความสุขเล็กๆ ให้กบั ประชาชนในช่วงน้ี ได้ผ่อนคลายจากความตึงเครียด และใช้
เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ด้วยการขัดเขลาภาวะตงึ เครียดดว้ ยเครื่องดนตรีชนิดน้ี เสยี งดนตรี
ผู้ศึกษามีความสนใจที่จะทาการศึกษาเคร่ืองดนตรีชนิดนี้ เนื่องจากเป็นท่ีได้รับความนิยม
อยา่ งแพรห่ ลายในกลุ่มเด็กนักเรยี น วยั รุ่น ในยุคปจั จบุ นั ทางโซเชียลมีเดีย อีกทั้งลักษณะการเล่นของ
เครื่องดนตรีชนิดนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับบริบทของเด็กรุ่นใหม่ในปัจจุบัน นั่นก็คือการเล่น
โทรศัพท์มือถือซึ่งจะใช้เวลาอยู่กับหน้าจอเป็นระยะเวลานานๆ จึงคิดค้นเพื่อที่จะออกแบบเครื่อง
ดนตรีคาลิมบา โดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีอยู่รอบตัวหาง่าย และมีขนาดรูปทรงที่สามารถจับได้อย่างถนัด
เหมาะสาหรับการใช้งาน ไม่ว่าเด็กและผู้ใหญ่ก็สามารถเล่นเคร่ืองดนตรีชนิดน้ีได้ และที่สาคัญการนา
วสั ดเุ หลือใช้มาประดิษฐ์เป็นเคร่ืองดนตรีจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย รวมถึงได้ส่งเสริมการเล่นดนตรีให้
แพร่หลายและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย จึงสร้างสรรค์ผลงานช้ินนี้ ในนามว่า
“คาลมิ บาจากกระปอ๋ งนม”
การศึกษาโครงงานนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบุคคลท่ีสนใจในเคร่ืองดนตรีคาลิมบา ที่ได้พัฒนา
สร้างสรรค์มาเป็นช้ินงาน “คาลิมบาจากกระป๋องนม” เพื่อพัฒนาศักยภาพในตัวของผู้เรียน โดยใช้
กระบวนการคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ และการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ท้ังยังส่งเสริมทักษะทาง
ด้านดนตรีให้แก่บุคคลที่ขาดแคลนงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ ให้สามารถนาไปประยุกต์ใช้
พัฒนาความสามารถทางด้านดนตรี และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของกลุ่มสาระการเรียนรู้
ศิลปะให้เหมาะสมกบั ความสามารถของนักเรียนแต่ละบคุ คลต่อไป
2
2. วัตถปุ ระสงคข์ องโครงงาน
1. เพ่ือประดิษฐ์เครอ่ื งดนตรีคาลิมบาจากกระป๋องนม
2. เพื่อนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนวชิ าดนตรี
3. เพื่อศกึ ษาความประหยัดของโครงงานการประดิษฐ์เคร่ืองดนตรีคาลิมบาจากกระป๋องนม
3. ผลทค่ี าดวา่ จะได้รับ
1. ได้เคร่อื งดนตรีคาลิมบาจากกระป๋องนม
2. สามารถนาคาลมิ บามาใช้ในกจิ กรรมการเรียนการสอน
3. นักเรียนมีความรู้เร่ืองความประหยัดในโครงงานการประดิษฐ์เครื่องดนตรีคาลิมบาจาก
กระปอ๋ งนม
4. ขอบเขตการศึกษา
1. นาวัสดุเหลอื ใชม้ าประดิษฐ์เคร่อื งดนตรีคาลมิ บา
2. สารวจความพึงพอใจของครู นักเรยี น และบคุ ลากรทางการศึกษา
3
บทที่ 2
เอกสารทีเ่ ก่ยี วข้องประกอบการศกึ ษา
ในการศกึ ษาโครงงานเร่อื ง การประดษิ ฐ์เครื่องดนตรคี าลิมบาจากกระป๋องนม คณะผู้ศึกษาได้
ค้นคว้ารวบรวมข้อมูลจากเอกสารงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องและจากเว็บไซด์บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตโดย
ขอนาเสนอตามลาดับดังน้ี
1. ประวัติความเปน็ มาของคาลมิ บา
2. คุณสมบัตขิ องกระปอ๋ ง
3. ข้อดขี องกระปอ๋ ง
4. ประเภทของคาลมิ บา
1. ประวัตคิ วามเปน็ มาของคาลิมบา
Kalimba น้ันเป็นเครื่องดนตรีท่ีอาศัยการส่ันของวัตถุเพื่อทาให้เกิดเสียงโน้ตดนตรีโดย
ส่วนมากจะใช้ลิ้นที่ทาจากโลหะที่มีขนาดความยาวต่างๆกัน เพ่ือทาให้เกิดเสียงต่างระดับกัน แล้วทา
ให้เกิดเป็นเสียงของตัวโน้ต โดยมีการค้นพบคร้ังแรกที่พื้นที่ในแถบทวีปแอฟริกาใต้ ที่มักจะใช้ในงาน
พิธีการเต้นโดยจะมีการเต้นทั้งคืน เพื่อระลึกถึงเหล่าบรรพบุรุษ โดยในคืนนั้นจะมีท้ังการ ร้อง เต้น
และปรบมือกันตลอดท้ังคืน และเครื่องดนตรีดังกล่าวก็ได้แพร่กระจายออกจาก แถบแอฟริกาใต้ใน
เวลาไม่นานนั้น และต่างก็มีช่อื เรยี กที่แตกต่างกันตามการเรียกในแต่ละประเทศ โดยช่ือด้ังเดิมสาหรับ
Kalimba นนั้ ทีถ่ กู เรยี กในแถบ แอฟริกาใต้นน้ั จะเรยี กวา่ Mbira แต่ชื่อเรียก Kalimba น้ันมาจากแถบ
ทะเลแครบิ เบย้ี นโดย คาลิมบ้า ในแถบนจี้ ะมเี สียงทท่ี ้มุ กวา่ ในแถบแอฟริกานั่นเอง และนอกจากนั้นยัง
มีช่ือเรียกท่ีแตกต่างกันอีกมากมาย แต่จะหมายถึงเครื่องดนตรีท่ีคล้ายกัน ได้แก่ Mbira, Likembe,
Chisanzi, Endongo, Timbrh, Marimbula … และอืน่ ๆ
การใช้งาน Kalimba ของชนพืน้ เมอื งได้รับการคิดค้นในซิมบับเวประมาณ 1,000 ปีที่ผ่านมา
มีหลักฐานทางโบราณคดีท่ี Kumadzulo ในประเทศแซมเบียซ่ึงเป็นแผ่นเหล็กท่ีมีลักษณะคล้าย
ลาเมลลา ซึ่งมีอายุประมาณ 500-700 ปีก่อนคริสตกาล ต้นกาเนิดน้ีแสดงให้เห็นว่า Kalimba อาจ
เปน็ รูปแบบดง้ั เดิมของ lamellaphone ในซิมบบั เว
คาลิมบา ได้รับการเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักโดย Hugxh Tracey ผู้ที่อุทิศชีวิตให้กับการ
บันทึกเสียงเคร่ืองดนตรีจากแอฟริกา และผู้ท่ีได้ทาการศึกษา เพลงของชนเผ่ าแอฟริกา
โดยเขาต้องการนาเอา เครอ่ื งดนตรี Mbira ไปนาเสนอสู่สายตาโลกตะวนั ตก
4
ภาพท่ี 1 แสดงรูปภาพเครอ่ื งดนตรีคาลิมบา
ท่มี า : https://en.wikipedia.org/wiki/Mbira
การทางานของเคร่ืองดนตรีชนิดน้ีทางานได้โดยอาศัยใช้ลิ้นที่มีความหนา ความกว้างเท่ากัน
แต่จะมีความยาวที่ตา่ งกัน โดยลิน้ ทง้ั 17 อันน้จี ะถกู ยดึ ไว้ด้วยแถบยึดที่ทาจากโลหะท่ีทาการยึดอยู่กับ
กลอ่ งเสยี ง ซง่ึ จะทาหนา้ ท่ขี ยายเสียงท่ีไดจ้ ากการสน่ั ของล้ินเหล็ก ใหด้ ังข้ึน โดยกล่องขยายเสียงนั้นจะ
เป็นลกั ษณะของกล่อง และถูกยดึ ดว้ ยกาว และมีการเจาะรเู พ่อื ให้เสียงออกมาตรงกลางกลอ่ ง
การเล่นเคร่ืองดนตรี Kalimba น้ันผู้เล่นจะทาการถือด้านข้างกล่องเสียงไว้ด้วยสองมือ และ
เหลือไว้เฉพาะนิ้วโปง้ ทจี่ ะอสิ ระเพื่อท่ีจะใชก้ ดลน้ิ ของคาลิมบา เพื่อทาให้เกิดเสียงโดยล้ินด้านซ้ายแปด
ล้ินนั้นจะถูกดีดโดยน้ิวโป้งซ้าย ส่วนลิ้นด้านขวาจานวน 9 ล้ินนั้นจะถูกดีดโดยน้ิวโป้งด้านขวา
ซ่ึงลักษณะการเรียงของล้ินน้ันจะเรียงจากล้ินสันๆ ด้านข้างมายังตรงกลางที่ล้ินยาวสุด ตามภาพโดย
ล้นิ ท่ีสนั้ จะให้เสยี งทีแ่ หลม ส่วนล้นิ ท่ียาวจะใหเ้ สียงท้มุ กวา่
“คาลิมบา” เป็นเครื่องดนตรที ่ีถูกคิดค้นข้ึนโดยมีเคร่ืองดนตรีพ้ืนถ่ินของทวีปแอฟริกาท่ีชื่อว่า
เอ็มเบียรา “Mbira” โดยเครื่องดนตรีน้ีเป็นเครื่องดนตรีบรรเลงเดียวและเล่นร่วมกันเป็นวง
ประกอบการเต้นรา ในปี ค.ศ. 1920 ฮิวจ์ เทรซีย์ ได้เดินทางจากเป็นเทศอังกฤษไปยังโรดีเซีย
(ปัจจุบนั คอื ซิมบบั เว) เพอ่ื ชว่ ยพพี่ชายของเขาทาไรย่ าสบู เขาจึงเริ่มสนใจในวฒั นธรรมดนตรีท้องถ่ินจึง
ได้เขา้ ศึกษาดนตรีแอฟริกันและได้สร้างห้องสมุดแอฟริกันนานาชาติ ซึ่งได้มีการคิดค้นคาลิมบาโดยใช้
พืน้ ฐานมาจากเอ็มเบียรา และในปี ค.ศ. 1960 ก็ได้มีการเปิดตัวโดยฮิวจ์ เทรซีย์ และได้รับความนิยม
ในเวลาต่อม
5
2. คณุ สมบตั ิของกระป๋อง
ภาพที่ 2 แสดงรปู ภาพกระปอ๋ งบรรจุภณั ฑ์
ท่ีมา : http://www.packingsiam.com/
กระป๋อง คือบรรจุภัณฑ์ชนิดหนึ่ง สร้างจากแผ่นโลหะม้วนเข้าหากันเป็นทรงกระบอก ปิด
ผนึกด้วยแผ่นโลหะวงกลมท้ังสองด้านโดยไม่ให้สัมผัสอากาศ ส่ิงท่ีใช้บรรจุภายในมักเป็นอาหาร เพื่อ
วตั ถปุ ระสงค์หลักของการถนอมอาหารให้สามารถเก็บไว้ได้นาน และจาเป็นต้องใช้การตัดหรือการฉีก
ฝากระป๋องให้เปิดออกด้วยท่ีเปิดกระป๋อง ปัจจุบันสามารถผลิตกระป๋องซ่ึงเปิดได้ง่ายด้วยมือโดยไม่
ต้องใช้ที่เปดิ แต่อย่างใด
คุณสมบตั ิ
1. ทนทานต่อความร้อนและความดันสูงจึงสามารถเข้ากระบวนการฆ่าเช้ือด้วย
ความร้อน (sterilization) ได้
2. มีความแขง็ แรงทางกายภาพ ปอ้ งกนั การซมึ ผา่ นของกา๊ ซ ไอนา้ และแสงได้
3. ช่วยเก็บรักษากล่นิ และรสของผลิตภัณฑ์
4. สามารถหมุนเวยี นกลบั เขา้ กระบวนการผลติ ใหม่ได้
6
โลหะทใ่ี ช้ทาบรรจภุ ัณฑ์ มี 3 ชนิด คือ
1. เหล็กเคลือบดีบุก เป็นแผ่นเหล็กดา (black– plate) ท่ีมีความหนาระหว่าง 0.15–0.5
มิลลเิ มตร นามาเคลือบผิวหน้าด้านเดียวหรือท้ังสองหน้าด้วยดีบุก เพื่อให้ทนทานต่อการผุกร่อน และ
ไม่เป็นพษิ เปน็ บรรจภุ ณั ฑ์ทแ่ี ขง็ แรง ป้องกันอันตรายจากส่ิงแวดล้อมและสภาวะอากาศ การลงทุนใน
การผลติ ไม่สงู นักและไม่ซับซ้อนสามารถบรรจุอาหารได้ดีเน่ืองจากสามารถปิดผนึกได้สนิทและฆ่าเช้ือ
ไดด้ ้วยความร้อน ในแง่ของสิง่ แวดล้อมสามารถแยกออกจากขยะได้ง่ายโดยใช้แมเ่ หล็ก
2. แผน่ เหล็กไม่เคลือบดีบุก (tin free steel, TFS) เป็นแผ่นเหล็กดา ท่ีนามาเคลือบด้วยสาร
อืน่ แทนดบี กุ เพอ่ื ลดตน้ ทุนการผลิต ในปจั จบุ ันมีการเคลอื บอยู่ 3 แบบคอื
- เคลอื บด้วยสารผสมฟอสเฟตและโครเมต เป็นฟิล์มบางๆ ใช้ทากระป๋องบรรจุเบียร์
นา้ ผลไมท้ ่ีมรี สเปร้ียว และทาถงั โลหะชนิดตา่ งๆ
- เคลือบด้วยอะลูมิเนียม มีความทนทานต่อการกัดกร่อนเนื่องจากความชื้นได้ดี แต่
ไมส่ ามารถใชก้ ับอาหารท่มี คี วามเป็นกรดหรอื ดา่ งสงู
- เคลอื บด้วยโครเมียมและโครเมียมออกไซด์ เพื่อให้สามารถป้องกันการกัดกร่อนได้
ดี นยิ มใชท้ ากระป๋องบรรจุอาหารทะเล นมข้นหวาน เปน็ ต้น
3. อะลูมเิ นยี ม มกั ใช้ในรปู อะลมู ิเนียมเปลว คุณสมบัติเด่นคือ น้าหนักเบา ทนทานต่อการกัด
กร่อนสูง ทนต่อการซึมผ่านของอากาศ ก๊าซ แสง และกล่ินรสได้ดีเยี่ยม นิยมใช้ทากระป๋อง 2 ชิ้น
(2piece can) สาหรับบรรจุน้าอัดลมและเบียร์ กระป๋องฉีดพ่น (aerosol) สาหรับบรรจุสเปรย์ฉีดผม
หรอื เคร่ืองสาอางต่างๆ และฝาชนดิ ท่ีมีหว่ งเพื่อใหเ้ ปิดงา่ ย เช่น ฝากระปอ๋ งนา้ อัดลมหรือขวดน้าดื่ม ใน
รปู ของอะลมู เิ นียมเปลวมักใชค้ วบกับวสั ดอุ ่นื ซ่งึ ให้ภาพลักษณ์ท่ีดีเน่อื งจากความเงางามขออะลูมิเนยี ม
สาหรับแผ่นเหล็กเคลือบสังกะสีหรือแผ่นเหล็กกัลวาไนซ์(Galvanized Plate)ที่เรานิยมเรียก
กันทั่วไปว่า“แผ่นสังกะสี” นั้นจะไม่ใช้ทากระป๋อง บรรจุอาหารอย่างเด็ดขาด เพราะมีโลหะหนัก
พว กสังกะสีและตะกั่ว ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย แต่ใช้กระป๋องและถังบรรจุผลิตภัณฑ์
ทม่ี ิใชอ่ าหารไดด้ ี เนื่องจากมีราคาถูกกวา่ แผ่นเหลก็ เคลือบดบี กุ
กระบวนการผลติ แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญค่ ือ
1. กระป๋อง 3 ชิน้ ประกอบดว้ ยส่วนประกอบ 3 สว่ น คอื ตวั กระป๋อง ฝาบน และ กน้
กระป๋อง มีตะเขบ็ ขา้ งเกิดข้ึนแตก่ อ่ นน้ีการเข้าตะเขบ็ ขา้ งจะใชต้ ะก่วั เป็นตวั บัดกรีเนื่องจากวา่ ตะกว่ั ท่ี
ใชก้ อ่ อนั ตรายแก่ผูบ้ ริโภค ปจั จุบนั จงึ เขา้ ตะเขบ็ โดยเช่ือมดว้ ยไฟฟา้ แทน
7
ภาพท่ี 3 แสดงรปู ภาพวธิ ผี ลติ กระปอ๋ ง 3 ช้นิ
ที่มา : http://www.packingsiam.com/
2. กระปอ๋ ง 2 ชิ้น
เป็นกระป๋องไร้ตะเข็บข้าง มีตัวกระป๋องและฝาล่างเป็นช้ินเดียวกันและมีฝาบนอีกชิ้นหน่ึงท่ี
จะถูกปิดโดยผู้ผลิตอาหารกระป๋อง หลังจากท่ีบรรจุอาหารในกระป๋องแล้วจัดเป็น hermectically
sealed container มีความแข็งแรง ทนต่อความร้อนและความดันระหว่างการแปรรูปด้วยความ
ร้อน (thermal processing) ในหม้อฆ่าเชื้อ (retort) ด้วยวิธี in-container sterilization และ in-
container pasteurization
วิธีการขึน้ รูปกระปอ๋ ง 2 ชิน้ มี 3 วิธกี าร คอื
1) กระปอ๋ งขึ้นรูปโดยการป๊มั คร้งั เดยี ว (drawn can)
ภาพท่ี 4 แสดงรูปภาพตวั อย่างกระป๋องขนึ้ รูปโดยการปั๊ม 2 ครงั้
ทม่ี า : http://www.packingsiam.com/
8
2) กระป๋องข้ึนรูปโดยการป๊ัม 2 คร้ัง (drawn and redrawn can ; DRD can) โดยปั๊มคร้ัง
แรกจะข้ึนรูปเป็นถ้วยเต้ียก่อน หลังจากนั้นจะป๊ัมอีกครั้ง เพ่ือให้เส้นผ่าศูนย์กลางของกระป๋องเล็กลง
และความสงู มากขน้ึ ตามตอ้ งการ กระป๋อง 2 ชน้ิ ท่ผี ลติ โดยวิธนี ้ีจะมีความหนาเท่ากันตลอดท้ังตัว และ
กน้ กระปอ๋ งสามารถทนความดันและสญุ ญากาศในกระป๋องได้
ภาพท่ี 5 แสดงรูปภาพตัวอย่างกระป๋องข้ึนรูปโดยการปั๊มและรดี ผนงั
ท่มี า : http://www.packingsiam.com/
3) กระป๋องขน้ึ รูปโดยการป๊ัมและรีดผนัง (drawn and wall ironed can หรือ DI can) โดย
ปมั๊ ครง้ั แรก จะไดถ้ ้วยทมี่ ขี นาดเสน้ ผา่ ศนู ย์กลางเทา่ กบั กระปอ๋ งที่ต้องการ หลังจากนั้นผนังกระป๋องจะ
ถูกรีดให้เบาลง และกระป๋องมีความสูงเพิ่มข้ึน (ข้ันตอนการผลิตแสดงดังรูป) กระป๋องประเภทนี้ตัว
กระป๋องมีผนังบางกว่าก้นกระป๋อง สามารถทนความดันได้ แต่ทนสุญญากาศภายในกระป๋องไม่ได้ จึง
นิยมใช้บรรจุเบยี รแ์ ละนา้ อัดลม
9
ภาพที่ 6 แสดงรปู ภาพการผผลิตกระป๋อง 2 ชิน้ โดยวิธี DI
ทีม่ า : http://www.packingsiam.com/
ภาพที่ 7 แสดงรปู ภาพตัวอย่างบรรจภุ ัณฑ์จากโลหะ
ท่ีมา : http://www.packingsiam.com/
สาหรับประเทศไทย ในปัจจุบันมีการผลิตเฉพาะกระป๋อง DI จากแผ่นอะลูมิเนียม นิยมใช้
สาหรับบรรจุน้าอัดลมและเครื่องดื่มต่างๆ กันอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตามการบริโภคอาหารหรือ
เครื่องดื่มบรรจุกระป๋องจะก่อให้เกิดปัญหาขยะบรรจุภัณฑ์ติดตามมา ดังน้ันหลังจากบริโภคอาหาร
หรือเคร่ืองด่ืม เหล่าน้ีแล้ว ควรแยกหรือรวบรวมขยะท้ิงในท่ีซ่ึงเหมาะสมเพ่ือสะดวกในการจัดเก็บไป
ทาลายหรอื หลอมใหมต่ อ่ ไป
10
3. ข้อดขี องกระป๋อง
ข้อดขี องบรรจุภัณฑโ์ ลหะ
- ความแข็งแรงและทนทาน
- การเคลอื บ สามารถเคลือบผิวภายในเพ่ือช่วยลดการสึกกร่อน ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาระหว่าง
โลหะกับผลติ ภณั ฑท์ บี่ รรจุ อยู่ภายใน
- การปอ้ งกันการซมึ ผ่านของไอน้าและกา๊ ซได้ดี
- การทนความร้อน จึงสามารถนา้ ไปฆา่ เชื้อดว้ ยกระบวนการท่ีใช้ความรอ้ นสูงไดด้ ี
- สามารถนาไปหลอม แปรรปู มาใช้ใหม่ไดอ้ กี
- สามารถทาเป็นบรรจุภัณฑ์ลักษณะต่างๆ ได้หลายรูปแบบพอสมควรทาเป็นแผ่นบาง เช่น
ภาชนะลักษณะตา่ งๆ และ สามารถผลิตร่วมกบั วสั ดุชนดิ อื่นๆได้
4. ประเภทของคาลิมบา
แบ่งตามลักษณะตัวเครื่อง โดยส่วนใหญ่แล้วคาลิมบาจะสามารถแบ่งประเภทตามลักษณะ
ตวั เครอ่ื งซ่ึงแตล่ ะประเภทกจ็ ะมผี ลตอ่ การใช้งานไดด้ งั นี้
แบบกลอ่ ง (Box)
ภาพที่ 8 แสดงรูปภาพคาลิมบาแบบกลอ่ ง
ท่มี า : https://www.bigbromusic.com
11
ซ่ึงตัวเครื่องจะมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหล่ียมและมีการเจาะช่องด้านหน้าสาหรับให้เสียงออก โดย
ข้อดีของตวั เครอ่ื งแบบน้คี ือจะเปน็ รปู แบบทีใ่ ห้เสยี งดังที่สุด
แบบแผ่นไม้ (Wooden Plate)
ภาพที่ 9 แสดงรปู ภาพคาลิมบาแบบแผ่นไม้
ทมี่ า : https://www.bigbromusic.com
ตวั เคร่ืองจะเป็นลักษณะแผน่ ไมต้ ันและจะไมม่ กี ารเจาะช่อง โดยข้อดีของรูปแบบน้ีคือตัวเครอ่ื งจะ
มีขนาดที่ไม่หนาและมนี า้ หนักเบาพกพาสะดวก
แบบแผน่ อะครลิ คิ (Acrylic Plate)
ภาพที่ 10 แสดงรปู ภาพคาลมิ บาแบบอะครลิ คิ
ทมี่ า : https://www.bigbromusic.com
12
โดยรูปแบบแล้วก็จะเหมือนกับแบบแผ่นไม้ โดยสิ่งท่ีแตกต่างกันก็คือวัสดุที่นามาใช้ และการ
ท่ใี ชว้ สั ดตุ ่างกนั ก็ส่งผมกับเสียงที่ได้เช่นกันโดยแบบแผ่นอะคริลิคน้ันก็จะให้เสียงที่ใสกว่าแบบไม้ และ
ด้วยลักษณะของอะคริลิคที่มีลักษณะใสก็จะทาให้ตัวคาลิมบามีความสวยงามและดูทันสมัยกว่าแบบ
แผน่ ไม้
แบง่ ตามจานวนคีย์
ภาพท่ี 11 แสดงรปู ภาพคาลิมบาแบ่งตามจานวนคีย์
ทีม่ า : https://www.bigbromusic.com
จานวนคีย์น้ันก็คือจานวนก้านเหล็กที่ใช้ดีดนั้นเองโดยแต่ละรุ่นก็อาจจะมีการออกแบบให้มี
จานวนคีย์ท่ีไม่เท่ากัน ซึ่งจานวนคีย์ท่ีเป็นท่ีนิยมโดยทั่วไปคือ 7 คีย์ , 10 คีย์ , 17 คีย์ และ 21 คีย์
แต่ก็ยังมีการผลิตคาลิมบาท่ีมีจานวนมากหรือน้อยกว่านี้ด้วยเช่นกัน โดยจานวนคีย์ที่เป็นท่ีนิยมและ
เหมาะกับมือใหม่คือ 17 คีย์ เพราะเป็นจานวนคีย์ท่ีสามารถเล่นเพลงได้ครอบคลุมและมีจานวนคีย์ท่ี
ไมม่ ากเกนิ ไป
13
แบง่ ตามคยี เ์ สยี ง
ภาพที่ 12 แสดงรปู ภาพคาลิมบาแบ่งตามคยี เ์ สียง
ทม่ี า : https://www.bigbromusic.com
คาลิมบาในแต่ละรุ่นน้ันอาจจะมีการตั้งคีย์ของแต่ละรุ่นท่ีไม่เหมือนกัน ซ่ึงแต่ละคีย์น้ันก็มี
ความเหมาะสมกับการใช้งานท่ีต่างกันออกไป ซ่ึงสาหรับมือใหม่แล้วคาลิมบาที่จูนคีย์เป็นคีย์ C ถือว่า
เหมาะกับการใช้งานมากที่สุดเน่ืองจากเป็นคีย์ที่มีการใช้อย่างแพร่หลายและคีย์ C น้ันถือได้ว่าเป็นคีย์
มาตรฐานของเคร่ืองดนตรีชนิดอ่ืนๆจึงทาให้สามารถเล่นร่วมกับเคร่ืองดนตรีชนิดอ่ืนได้ง่ายแต่ข้อเสีย
ของคาลิมบาคีย์ C ก็คือในคีย์โน้ตตังเสียงสูงๆจะมีปัญหาเสียงไม่ค่อยดังและความยาวเสียงจะสั้น
คยี ์ C น้ันกค็ ือคยี ์ โด ซง่ึ เป็นสเกลทีถ่ กู ใชเ้ ปน็ สเกลหลกั ในการตั้งเสียงของเครอื่ งดนตรีส่วนใหญ่
14
แบง่ เปน็ แบบอะคสู ติกและสามารถใชไ้ ฟฟ้า
แบบอะคูสตกิ
ภาพท่ี 13 แสดงรูปภาพคาลมิ บาแบบอะคสู ติก
ทม่ี า : https://www.bigbromusic.com
เปน็ คาลิมบาท่สี ามารถพบเห็นและใชก้ ันโดยทวั่ ไป ซึ่งจะไม่มีการติดตัง้ ระบบไฟฟ้า
แบบไฟฟา้
ภาพที่ 14 แสดงรูปภาพคาลมิ บาแบบไฟฟา้
ทม่ี า : https://www.bigbromusic.com
คือคาลิมบาที่มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าสาหรับต่อสายแจ็คเพ่ือให้เสียงออกลาโพงหรือต่อกับหู
ฟังเพอ่ื ให้ได้เสยี งท่ีดงั และชัดเจนขน้ึ เวลาเล่น
15
สว่ นประกอบของคาลิมบา
ภาพที่ 15 แสดงรูปภาพส่วนประกอบของคาลิมบา
ท่ีมา : https://www.bigbromusic.com
Nut ส่วนของหมอนไม้สาหรบั รองตวั คีย์
Metal Strips คือแผ่นเหล็กท่ีใช้ในการยึดคีย์ต่างๆใหอ้ ย่ใู นตาแหน่ง
Bridge เปน็ สว่ นทีใ่ ช้สาหรบั รอง Metal Pillow เพ่ือให้ไดร้ ะดับความสงู ท่ีเหมาะสม
Metal Pillow แท่งเหล็กกลมเป็นส่วนท่ีสัมผัสกับด้านใต้ตัวคีย์ มีหน้าท่ีทาให้เกิดเสียงให้มีความใส
และยาว
Mineral Steel Key หรือก็คือตัวคีย์ที่ใช้ในการดีดเพื่อให้กาเนิดเสียง โดยจะนิยมใช้วัสดุเป็นโลหะ
นามารีดเป็นแผ่นบางๆโดยความยาวของตัว Mineral Steel Key นน้ั จะมผี ลต่อระดับเสียงที่ได้รวมไป
ถึงความหนาเองก็มีผลตอ่ ความหนาของเสยี งท่ีได้ด้วยสว่ นคยี ท์ ่บี างกว่ากจ็ ะไดเ้ สียงทีใ่ สและแหลมกว่า
Sound Hole เปน็ ชอ่ งท่มี ีหน้าทีใ่ นการปลอ่ ยเสยี งท่ีถูกขยายภายในตัว Body เพ่ือใหไ้ ดเ้ สยี งทดี่ งั ขึน้
Hollow Body คอื ส่วนตังเคร่ืองของคาลิมบามีลักษณะเป็นกล่องไม้โดยมีการเจาะช่องด้านหน้าน้ันก็
คอื Sound Hole โดยมหี น้าทใี่ นการขยายเสียงเวลาเล่นเพ่ือให้ไดเ้ สยี งที่ดังกงั วานมากขนึ้
สาหรบั คาลมิ บาบางรุ่นตัว Body จะเป็นแผ่นไม้ตัน ซึ่งก็จะทาให้ตัวเคร่ืองมีความบางกว่าแต่
กจ็ ะไดเ้ สยี งที่เบากวา่ เช่นกนั
16
บทที่ 3
วธิ ีการดาเนนิ งาน
1. วัสดุและอุปกรณ์
1. กิ๊บติดผม (แบบหยัก)
2. หนังยาง
3. ตะเกียบแบน
4. สตกิ๊ เกอร์ลายการ์ตนู
5. เทปลายการต์ ูน
6. เทปใส
7. คัตเตอร์
8. ปืนยิงกาวรอ้ น
9. คมี ปากจระเข้
10. แผน่ รองตัด
11. กาวดินน้ามัน
12. กระดาษทราย
13. กระป๋องนมตราหมี
ภาพท่ี 16 แสดงภาพวัสดุอุปกรณ์
ที่มา : ภาพถ่าย เมือ่ วันที่ 15 พฤษภาคม 2565
17
2. ข้ันตอนวธิ ีการทา
1. นากระปอ๋ งนมลา้ งทาความสะอาดแลว้ เชด็ ใหแ้ ห้ง
ภาพที่ 17 แสดงภาพการทาความสะอาดลา้ งกระป๋องนม
ทีม่ า : ภาพถา่ ย เมอื่ วนั ท่ี 15 พฤษภาคม 2565
2. นาคีมปากจระเข้ดงึ บรเิ วณทีเ่ ปดิ กระป๋องนมออก และดึงส่วนหัวหมุดของกิบ๊ ตดิ ผมออก
ภาพที่ 18 แสดงภาพนนาคมี ปากจระเข้ดึงบรเิ วณทีเ่ ปดิ กระปอ๋ งนมออก
ทม่ี า : ภาพถ่าย เมือ่ วันท่ี 15 พฤษภาคม 2565
18
3. นาคัตเตอร์มาตัดตะเกียบความยาว 8-10 ซม. ใหเ้ ทา่ กนั ท้ัง 4 ชิ้น และตดั ตะเกยี บ 1 ชน้ิ
ความยาว 7 ซม.
ภาพท่ี 19 แสดงภาพนาคัตเตอร์มาตัดตะเกียบให้เท่ากัน
ที่มา : ภาพถ่าย เมื่อวนั ท่ี 15 พฤษภาคม 2565
4. นาตะเกียบท่ีตัดมาฝนบริเวณขอบกบั กระดาษทรายใหเ้ รียบ
ภาพที่ 20 แสดงภาพนาตะเกียบทีต่ ดั มาฝนบริเวณขอบกับกระดาษทรายใหเ้ รยี บ
ที่มา : ภาพถา่ ย เมอ่ื วันที่ 15 พฤษภาคม 2565
19
5. นาก๊ิบติดผมใส่ในตะเกยี บชิ้นทม่ี คี วามยาว 7 ซม. พร้อมกับจัดกบ๊ิ ตดิ ผมให้สวยงาม
ภาพที่ 21 แสดงภาพการนากบิ๊ ตดิ ผมใส่ในตะเกียบชน้ิ ท่ีมคี วามยาว 7 ซม.
ทม่ี า : ภาพถา่ ย เม่ือวนั ที่ 15 พฤษภาคม 2565
6. นาเทปลายการต์ ูนและมาติดรอบกระปอ๋ งนมและตะเกียบ แลว้ นาเทปใสมาพนั อกี รอบ
ภาพท่ี 22 แสดงภาพการนาเทปลายการต์ ูนและมาติดรอบกระปอ๋ งนมและตะเกียบ
ทม่ี า : ภาพถา่ ย เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2565
20
7. นากาวดินน้ามันมาแปะหลังตะเกียบท่ีก๊ิบติดผม แล้วนาไปแปะตรงกลางกระป๋องนม
พรอ้ มกบั นาสต๊ิกเกอร์ลายการ์ตูนมาตกแต่ง
ภาพท่ี 23 แสดงภาพการนากาวดนิ นา้ มันมาแปะหลังตะเกยี บที่กิ๊บติดผมและตกแต่งใหส้ วยงาม
ที่มา : ภาพถ่าย เมื่อวนั ท่ี 15 พฤษภาคม 2565
8. นาตะเกียบ 4 ช้ินมาตั้งไว้ด้านหน้าและหลังกระป๋องนมแล้วนาหนังยางมารัดให้แน่น
ทงั้ สี่ดา้ น แล้วจัดให้สวยงาม
ภาพที่ 24 แสดงภาพนาตะเกียบมาทาบกระป๋องแลว้ นาหนงั ยางมารดั ตะเกียบใหแ้ น่นท้งั สองข้าง
ทม่ี า : ภาพถา่ ย เม่อื วนั ที่ 15 พฤษภาคม 2565
21
9. จัดก๊ิบติดผมให้มีเสียงสูงต่าตามต้องการ แล้วนาปืนยิงกาวร้อนมาหยอดหลังกิ๊บติดผม
เพอ่ื ไมใ่ หก้ ิบ๊ ติดผมขยบั
ภาพที่ 25 แสดงภาพการจัดกบ๊ิ ติดผมใหม้ ีเสียงสูงต่าตามตอ้ งการแล้วนาปนื ยิงกาวร้อนมาหยอด
ที่มา : ภาพถ่าย เม่ือวนั ท่ี 15 พฤษภาคม 2565
10. ชิ้นงานของเคร่ืองดนตรีคาลิมบาทเี่ สร็จสมบรู ณ์
ภาพที่ 26 แสดงภาพช้ินงานของเคร่อื งดนตรีคาลมิ บาท่ีเสร็จสมบูรณ์
ทม่ี า : ภาพถา่ ย เม่ือวันท่ี 15 พฤษภาคม 2565
22
บทท่ี 4
ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู
จากการศึกษาการประดิษฐ์เครื่องดนตรีจากกระป๋องนม ได้ผลการศึกษาดังนี้ 1. กระป่อง
สามารถประดิษฐ์เครื่องดนตรีคาลิมบาได้ 2. นาเครื่องดนตรีคาลิมบาจากกระป๋องไปใช้ในการจัดการ
เรยี นการสอน 3. ศึกษาความพงึ พอใจของโครงงานการประดษิ ฐ์เคร่อื งดนตรีจากกระป๋องนม ความพึง
พอใจกับกลุ่มนักเรียนและกลุ่มบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน เกี่ยวกับเสียง
ของคาลมิ บาจากกระปอ๋ ง จานวน 100 คน ผลปรากฏดงั นี้
ตารางที่ 4.1 จานวนและร้อยละของข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลท่ัวไป จานวน ร้อยละ
นักเรียน 33.00
50.00
ชาย 33 คน 17.00
หญงิ 50 คน
ครูและบุคลากรทางการศกึ ษา 17 คน
อ่ืนๆ
1. ผลการศกึ ษาความพึงพอใจ พบว่า ตารางที่ 4.1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ
จานวน 100 คน เป็นนักเรียนชาย จานวน 33 คน คิดเป็นร้อยละ 33.00 เป็นนักเรียนหญิง
จานวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 50.00 เป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา จานวน 17 คน คิดเป็น
รอ้ ยละ 17.00
23
ตารางที่ 4.2 จานวนค่าเฉลี่ยความคิดเห็นของนักเรียนและบุคากรทางการศึกษาของ
โรงเรยี นเทศบาวดั โคกสะทอ้ น
ขอ้ รายการประเมิน 5 ระดับความพึงพอใจ 1 สรปุ ราย
81 4 32 0 ขอ้
1 ความสวยงามของชิน้ งาน (81.00) 13 6 0 (0.00) 95.00
2 ความทนทาน 93 (13.00) (6.00) (0.00) 0
3 ความแข็งแรง (93.00) 7 00 (0.00) 98.00
4 ระดบั ความเพราะของเสียง 65 (7.00) (0.00) (0.00) 0
5 ความประหยดั (65.00) 30 5 0 (0.00) 92.00
6 ความคิดสรา้ งสรรค์ 60 (30.00) (5.00) (0.00) 0
(60.00) 20 10 10 (0.00) 82.00
รวมเฉลี่ย 100 (20.00) (10.00) (10.00) 0
(100) 0 00 (0.00) 100
100 (0.00) (0.00) (0.00) 0
(100) 0 00 (0.00) 100
(0.00) (0.00) (0.00)
94.60
ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารให้คะแนน
5 = ดมี ากที่สดุ
4 = มาก
3 = ปานกลาง
2 = นอ้ ย
1 = น้อยทีส่ ุด
24
จากตารางที่ 4.2 แบบประเมินแสดงความพึงพอใจของการทาโครงงาน การประดิษฐ์เคร่ือง
ดนตรีคาลิมบาจากกระป๋อง พบว่า ประเด็นท่ีมีความพึงพอใจมากที่สุด คือ ความประหยัดและ
ความคิดสร้างสรรค์ร้อยละ 100 รองลงมา ความทนทาน ร้อยละ 98.00 ในส่วนประเด็นท่ีมีความพึง
พอใจน้อยทีส่ ุด คอื ระดับความเพราะของเสยี ง คา่ เฉลีย่ 82.00
ซง่ึ ผู้ตอบแบบสอบถามให้ข้อเสนอแนะ ดังน้ี
1. ควรพฒั นาคณุ ภาพของเสยี ง
2. เสยี งไมค่ ่อยตรง
25
บทท่ี 5
สรุปผลการศึกษาอภปิ รายและข้อเสนอแนะ
5.1 สรปุ ผลการศึกษา
จากการศึกษาโครงงานเครื่องดนตรีคาลิมบาจากกระป๋องนม พบว่า คาลิมบาท่ีทาจาก
กระป๋องนมมีคุณภาพแข็งแรง และจากการตอบแบบสอบถาม พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามนักเรียน
ครู และบุคลากรทางการศึกษา มีความพึงพอใจในด้านความประหยัด และความคิดสร้างสรรค์มาก
ท่ีสุดมีค่าเฉล่ีย 100 ด้านความทนทานอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 98.00 รองลงมาเป็นความสวยงาม
ของช้ินงาน มีค่าเฉล่ีย 95.00 ส่วนความแข็งแรง มีค่าเฉลี่ย 92.00 และระดับความเพราะของเสียง
คา่ เฉลีย่ 82.00
5.2 อภปิ รายผล
จากการตอบแบบสอบถามกลุ่มนักเรียนและครูท่ีเข้ารับฟังกิจกรรมการแสดงคาลิมบาของ
นักเรียน ตอ่ โครงงานเคร่ืองดนตรคี าลมิ บาจากกระป๋องนมด้านความประหยัดและความคิดสร้างสรรค์
มากท่ีสุด มีค่าเฉลี่ย 100 เน่ืองจากวัสดุท่ีนามาประดิษฐ์เป็นวัสดุที่หาง่ายตามท้องตลาดและประหยัด
ค่าใชจ้ ่าย
5.3 ข้อเสนอแนะ
1. ควรพัฒนาคุณภาพของเสียง
2. เสยี งไม่ค่อยตรง
26
บรรณานุกรม
ที่มาของประวัตเิ คร่ืองดนตรคี าลมิ บา.[ออนไลน์].เข้าถึงไดจ้ าก
https://kalimbaclub.net/ (วนั ทีค่ ้นข้อมูล 25 เมษายน 2565)
https://intrend.trueid.net/ (วันที่ค้นข้อมูล 25 เมษายน 2565)
ท่มี าของคุณสมบตั ิของกระป๋อง.[ออนไลน]์ .เขา้ ถงึ ได้จาก
http://www.packingsiam.com/ (วนั ท่ีคน้ ข้อมูล 25 เมษายน 2565)
ท่ีมาของข้อดีของกระป๋อง.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก (วนั ทค่ี น้ ข้อมลู 25 เมษายน 2565)
http://www.packingsiam.com/
ทม่ี าของประเภทของคาลิมบา.[ออนไลน]์ .เข้าถงึ ได้จาก (วันท่ีคน้ ข้อมูล 25 เมษายน 2565)
https://www.bigbromusic.com
27
ภาคผนวก
28
ภาพกิจกรรมการลา้ งทาความสะอาดกระป๋องนม
และนาคีมปากจระเข้ดงึ บรเิ วณทเ่ี ปิดกระปอ๋ งนมออก
29
ภาพกิจกรรมการนาคัตเตอรม์ าตดั ตะเกียบตามรอยวัดตามขนาด
30
ภาพกจิ กรรมการนาตะเกยี บ 4 ชิ้นมาต้ังไว้ด้านหนา้ และหลงั กระปอ๋ งนม
แล้วนาหนังยางมารดั ให้แนน่ ท้งั ส่ดี ้าน
31
ภาพกิจกรรมการจดั กบ๊ิ ติดผมปรบั ระดับให้มเี สียงสูงตา่ ตามต้องการ
แลว้ นาปืนยงิ กาวร้อนมาหยอดหลังก๊บิ ตดิ ผมเพื่อไมใ่ หก้ ิ๊บตดิ ผมขยับ
32
ภาพเครอ่ื งดนตรคี าลมิ บาจากกระป๋องนมเสรจ็ สมบรู ณ์
ประวตั ิผู้ทาโครงงาน
33
ชื่อ - สกุล : เด็กชายพงศกร พิมพศ์ รี
เกิดวนั ที่ : 4 พฤษภาคม 2553
ภมู ิลาเนา : นครศรีธรรมราช
ทอ่ี ยู่ : 259/12 ต.ชะมาย อ.ทงุ่ สง จ.นครศรธี รรมราช
การศกึ ษา : ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6
ชื่อ - สกุล : เด็กชายปณั ณฑัต ละออ
เกดิ วนั ท่ี : 12 มกราคม 2553
ภูมิลาเนา : นครศรีธรรมราช
ที่อยู่ : 2/62 ต.ปากแพรก อ.ทงุ่ สง จ.นครศรธี รรมราช
การศกึ ษา : ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6
ชือ่ - สกุล : เด็กหญิงพีรดา ถิระบนั
เกิดวันท่ี : 18 มกราคม 2555
ภมู ลิ าเนา : นครศรีธรรมราช
ทีอ่ ยู่ : 81/10 ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรธี รรมราช
การศกึ ษา : ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5
34