The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

1. โครงการพัฒนาเพื่อการเรียนรู้ของครูประกอบด้วยคู่มือ 7 ชุด
2. โครงการครูนำผลการเรียนรู้สู่การพัฒนานักเรียนประกอบด้วยคู่มือ 1 ชุด

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Wat Kku, 2022-11-02 10:00:50

เสริมพลังการเรียนรู้ของครูสู่การเสริมสร้างพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรมของนักเรียน Empowering Teachers' Learning to Foster Innovative Working Behaviors of Students.

1. โครงการพัฒนาเพื่อการเรียนรู้ของครูประกอบด้วยคู่มือ 7 ชุด
2. โครงการครูนำผลการเรียนรู้สู่การพัฒนานักเรียนประกอบด้วยคู่มือ 1 ชุด

Keywords: พฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรม,นวัตกรรม,Innovative Working Behaviors

101

ขั้นตอนที่ 5 จัดการพิจารณาในภายหลังของนวัตกรรม (Manage the Backend of
Innovation) กระบวนการคัดแยกที่เข้มงวดช่วยให้มั่นใจว่ามีการตรวจสอบแนวคิดบ่อยครั้งและมี
ประสิทธิภาพ กระบวนการคัดแยกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของการลดความเสี่ยงในขณะเดียวกันก็ให้
เงินทุน รางวัล และการยอมรับท่เี พิ่มขึ้นในขณะทีแ่ นวคดิ เดินหนา้ ต่อไป

ขั้นตอนที่ 6 ฉลองความสำเร็จ! (Celebrate Successes!) รางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการ
ได้รับการยอมรบั และปฏิบตั ิตามแนวคดิ ทน่ี ำเสนอไป

โปรดทบทวนขัน้ ตอนเพอื่ พัฒนาพฤติกรรมการทำงานเชงิ นวตั กรรม
จากทศั นะของ Hattendorf มีสาระสำคญั อะไร?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ : ศกึ ษาจากตน้ ฉบับภาษาอังกฤษ โปรด “คลกิ ” ดูได้จากเวบ็ ไซตข์ ้างลา่ งนี้

https://innovationmanagement.se/2014/01/27/seven-steps-to-creating-a-successful-innovation-
framework/

Björling (2018) เป็นหัวหน้านักออกแบบอาวุโสที่ Ericsson UX Lab และ Ericsson
Evangelist ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นผู้อำนวยการที่ Networked Society Lab ได้กล่าวถึง 5 ขั้นตอน
สำคญั ในการสร้างกรอบความคดิ เชิงนวัตกรรม ดงั น้ี

ขั้นตอนที่ 1 เปิดใจรับการเปลี่ยนแปลง (Be Open to Change) การเปิดใจรับการ
เปลี่ยนแปลง หมายถึง การยอมรับแนวคิดในยุคปัจจุบันที่กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงอย่าง
ต่อเนื่องและทุกด้านของสังคม นอกจากนี้ยังหมายถึงการตระหนักว่าโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงกำลัง
ดำเนินต่อไปและติดตามการเปลี่ยนแปลงและปรากฏการณ์ใหม่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น การ
ยอมรบั ความจรงิ ทว่ี า่ การเปล่ยี นแปลงทางเทคโนโลยีจะส่งผลกระทบต่อการทำงานต่างๆ

ขั้นตอนที่ 2 เปิดรับความคิดสร้างสรรค์ (Embrace Creativity) กรอบความคิดเชิง
นวัตกรรมคือการเปิดรับความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง ทัศนคติของผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมคือ
ความคิดสร้างสรรค์เป็นวิธีแก้ปัญหา จากแนวคิดของการคิดเชิงออกแบบ แต่ที่สำคัญจุดเริ่มต้นของ
นวตั กรรมคอื ความคิดสรา้ งสรรค์


102

ขนั้ ตอนที่ 3 ส่งเสรมิ คิดการใหญ่ (Think Big) นวัตกรรมคือการยืดความคดิ ออกจากการ
คิดและการวิเคราะห์ตามปกติในชีวิตประจำวัน นวัตกรรมเป็นการผสมผสานระหว่างทักษะการ
วิเคราะห์ จิตวิญญาณ และความสามารถในการเพอ้ ฝนั

ขั้นตอนที่ 4 ส่งเสริมแสดงความกล้าหาญที่จะคิดใหม่อยู่เสมอ (Show Courage)
นวัตกรรมจะไม่เกิดขึ้นเว้นแต่องค์กรและนักนวัตกรรมภายในองค์กรจะมีความกล้าที่จะคิดใหม่อยู่
เสมอวา่ จะทำอย่างไรให้สำเร็จ ตอ้ งใช้ความกลา้ หาญในการทา้ ทายกลยุทธ์ที่พิสูจน์แล้วและผลิตภัณฑ์
และบริการที่ประสบความสำเร็จก่อนที่จะตกต่ำ ต้องใช้ความกล้าหาญในการตั้งคำถามกับผู้บริหาร
และเพื่อนร่วมงานในการทำสิ่งต่าง ๆ ในแบบที่ทำมาโดยตลอด ต้องใช้ความกล้าหาญในการเสี่ ยง
มากกว่าที่จะทำงานตามปกติตามแนวทางปฏิบัติที่กำหนดไว้ ต้องใช้ความกล้าหาญในการเสี่ยงกับ
ความล้มเหลวในความเส่ียงใหม่ทีไ่ ม่แน่นอน

แต่สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดจำเป็นต่อการผลักดันนวัตกรรมไปข้างหน้าและเพื่อสร้าง
บรรยากาศแหง่ นวตั กรรมในองคก์ ร

ขั้นตอนที่ 5 คิดและลงมือปฏิบัติอย่างรวดเร็ว (Think and Act Fast) นวัตกรรม
ภายในองค์กรต้องเป็นกระบวนการที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแป ลงที่เกิดขึ้น
ภายนอกองค์กร

สรุปโดยย่อ มีส่วนผสมหลกั 5 ประการสำหรับกรอบความคิดเชิงนวัตกรรม เราต้องเปิดใจ
รบั การเปล่ยี นแปลง ไมม่ ีอคติต่อความคดิ สร้างสรรค์ ความสามารถในการคิดการใหญ่ ความกล้าหาญ
อย่างไมล่ ดละทีจ่ ะท้าทายบรรทดั ฐาน และโดดเดน่ ด้วยความเรว็ ของความคิดและการกระทำ

โปรดทบทวนขน้ั ตอนเพื่อพฒั นาพฤตกิ รรมการทำงานเชงิ นวตั กรรม
จากทัศนะของ Björling มีสาระสำคญั อะไร?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
หมายเหตุ : ศกึ ษาจากตน้ ฉบับภาษาองั กฤษ โปรด “คลิก” ดูได้จากเวบ็ ไซตข์ า้ งลา่ งนี้

https://www.ericsson.com/en/blog/2018/5/5-key-steps-to-creating-an-innovation-mindset

Source - https://webportal.bangkok.go.th/upload/user/00000112/KM%20LO%202564/KMLO%204/KMLO%204.1.pdf


103

Ludema and Johnson (2019) โดย Jim Ludema, Ph.D. เป็นผู้อำนวยการ Center
for Values-Driven Leadership ที่ Benedictine University และเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทต่างๆ
ทั่วโลก ส่วน Amber Johnson, Ph.D., เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง
ไดก้ ลา่ วถงึ 7 ขน้ั ตอนในการสร้างวฒั นธรรมแห่งนวตั กรรม ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน (Clear Goal Setting) การตั้งเป้าหมายต้อง
ชัดเจนที่จะทำให้สมาชิกในทีมมีเป้าหมายเดียวกัน เพื่อหลวมรวมให้สมาชิกในทีมจะมีอิสระในการ
ทำงานเพ่ือบรรลเุ ปา้ หมายท่ีต้งั ไว้ เป็นเป้าหมายทชี่ ดั เจนและเปน็ รปู ธรรมความสามารถวดั ได้

ขั้นตอนที่ 2 การมอบหมายงานที่ตรงกับความสนใจของแต่ละคนและให้ความท้าทาย
ในเชิงบวก (Work Assignments that Match the Individual’s Interests and Provide
Positive Challenge) ทำใหง้ านมีความหมายต่อบุคคล เพื่อสร้างแรงจูงใจ เพราะถา้ บุคคลในทีมที่มี
แรงจูงใจจะยืนหยัดและให้ข้อเสนแนะต่อระบบมากขึ้น จึงมีส่วนทำให้เกิดนวัตกรรม โดยสิ่งที่ทำให้
งานมีความหมาย คือต้องมอบหมายงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ดว้ ยการจับคู่งานท่ีต้องทำกับผู้ท่ี
มีทั้งทักษะและความสนใจที่จะทำ เมื่อจับคู่ได้เหมาะสมแล้วนั้น ก็จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้เห็น
นวัตกรรมเกดิ ข้นึ เพราะงานน้นั มีความหมายตอ่ บุคคลมากกว่า

ขั้นตอนที่ 3 สร้างระบบการสื่อสารแบบเปิด (Open Communication Systems)
แนวปฏิบัติในการทำให้เกิดนวัตกรรมคือการสร้างระบบการสื่อสารแบบเปิดที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ยน
ความคิด การประสานงาน และการทำงานร่วมกัน ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความร่วมมือ
และเปิดช่องทางการส่ือสารและความคดิ สรา้ งสรรคใ์ หมๆ่

ขั้นตอนที่ 4 ให้ข้อเสนอแนะคำติชมบ่อยครั้ง สร้างสรรค์ และสนับสนุน (Feedback
that is Frequent, Constructive, and Supportive) นวัตกรรมเกิดจากการสังเกตเล็กๆ น้อยๆ
การรวมตัวกันของความคิด และการทดลองเล็กๆ น้อยๆ ท่ีมีการให้ข้อเสนอแนะให้นำไปปรับใช้
เพราะกระบวนการให้ข้อเสนอแนะและการปรับใช้นี้เป็นหนึ่งใน 4 ขั้นตอน: ออกแบบ สร้าง
ดำเนนิ การ วิเคราะห์ แลว้ เริ่มต้นใหม่ ในการทำงานต่างๆ

ขั้นตอนที่ 5 ให้รางวัลและการยกย่องที่เท่าเทียมกันและการมีน้ำใจ (Equitable and
Generous Rewards and Recognition) หากตอ้ งการวัฒนธรรมแหง่ นวัตกรรม ต้องให้รางวัลและ
รบั รถู้ ึงพฤตกิ รรมทีเ่ ป็นนวตั กรรม โดยการใหร้ างวลั หรือยกยอ่ งชมเชยในทีป่ ระชมุ สำหรับผทู้ ีม่ ีส่วนร่วม
ในความคิดสร้างสรรค์ หรอื พยายามสรา้ งสรรคน์ วตั กรรม

ขั้นตอนที่ 6 การไม่มีระบบพิธีรีตรองที่ไม่จำเป็น (Absence of Unnecessary
Bureaucracy) การทำงานที่มีระบบพิธีรีตรองหรือหลายขั้นตอนจะเป็นการปิดกั้นนวัตกรรม ซึ่งทำ
ให้เกิดความล่าช้าและการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้นวัตกรรมช้าลงจนถึงจุดที่ไม่เกี่ยวข้อง และทำให้นัก


104

นวัตกรรมลดระดับแรงขับเคลื่อนด้วยอุปสรรคระหว่างทาง ดังนั้นต้องกำจัดระบบพิธีรีตรองและ
สง่ เสริมการทดลองอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว

ข้ันตอนท่ี 7 สนบั สนุนการทำงานรว่ มกัน (Supportive Collaboration) ปัจจัยสดุ ทา้ ย
ในการส่งเสริมนวัตกรรมคือการทำงานร่วมกันที่สนับสนุนกันในทีม หน่วย และแผนกต่าง ๆ เมื่อมี
ความรว่ มมอื กันมากขึน้ จะนำไปสนู่ วตั กรรมทม่ี ากข้นึ

โปรดทบทวนขั้นตอนเพ่อื พัฒนาพฤตกิ รรมการทำงานเชิงนวตั กรรม
จากทัศนะของ Ludema and Johnson มสี าระสำคัญอะไร?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ : ศึกษาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ โปรด “คลกิ ” ดูไดจ้ ากเวบ็ ไซตข์ า้ งล่างนี้

https://www.forbes.com/sites/amberjohnson-jimludema/2019/02/12/seven-steps-to-creating-a-culture-
of-innovation/?sh=c9b0788198ed

Molloy (2019) เป็นผู้จัดการอาวุโสด้านการเรียนรู้ออนไลน์ที่ Harvard Business
Publishing ได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับ 5 ขั้นตอนในการนำนวัตกรรมไปปฏิบัติจริง (Five Steps to
Implementing Innovation) ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 มองหาโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรม (Spot Opportunities for
Innovation) ดงั ท่ผี ู้เชี่ยวชาญด้านนวตั กรรมกล่าวไวว้ ่า "ไม่ว่านวัตกรรมรปู แบบใด จะเปน็ ระยะสั้น มี
ความคล่องตัว หรือการลงทุนที่ท้าทายครั้งใหญ่ในระยะยาวก็ตาม นวัตกรรมก็เกิดจากการแก้ปัญหา
ให้นึกถึงองค์กรว่าปัญหาใดที่ต้องแก้ไข โอกาสอยู่ที่ไหน? เมื่อได้แนวคิดที่น่าสนใจแล้ว ให้สำรวจ
แนวทางจากมุมต่างๆ อาจคน้ พบความเปน็ ไปไดท้ ี่น่าตื่นเต้นมากยิ่งขึน้

ขั้นตอนที่ 2 จัดลำดับความสำคัญของโอกาส (Prioritize Opportunities) จัดลำดับ
ความสำคัญของนวัตกรรมที่อาจเกิดขึ้นโดยขึ้นอยู่กับว่าที่ใดที่คิดว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุด เจาะลึก
แนวคิดสองหรือสามแนวคิดที่คิดว่าคุ้มค่าที่สุดในการสร้าง ทดสอบ และปรับแต่งนวัตกรรม จากนั้น
แสดงเปน็ สมมติฐานทคี่ ุณสามารถทดสอบผ่านการทดสอบที่กำหนดเป้าหมายได้


105

ขั้นตอนที่ 3 ทดสอบสิ่งที่อาจเป็นนวัตกรรมของตนเอง (Test your Potential
Innovations) การทดสอบแต่ละรอบ ให้เปลี่ยนไปที่การทดลองที่ซับซ้อนมากขึ้น และเกี่ยวข้องกับ
ผใู้ ช้มากข้ึนเร่ือยๆ

ขั้นตอนที่ 4 สร้างการสนับสนุนสำหรับนวัตกรรมของตนอง (Build Support for
your Innovations) บอกผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงผู้ที่ต้องการการสนับสนุนทรัพยากรและผู้ที่จะ
ได้รับประโยชน์โดยตรงจากนวัตกรรม โดยพิจารณาจากสิ่งที่สำคัญสำหรับแต่ละคนและสิ่งที่ตนเอง
ตอ้ งการจากผู้สนับสนุน

ขั้นตอนที่ 5 ส่งเสริมการเรียนรู้จากความพยายามในการสร้างสรรคน์ วัตกรรม (Learn
from your Innovation Efforts) คงเคยไดย้ ินคำทวี่ ่า "ล้มเร็ว เรียนร้เู รว็ " หลงั จากสร้างนวัตกรรม
แตล่ ะรายการแล้ว ให้ระบสุ ิง่ ทจ่ี ะทำอกี ครั้งและส่ิงทีจ่ ะไมท่ ำ และอยา่ คดิ มากกับความล้มเหลว กุญแจ
สำคัญคือเรยี นรูจ้ ากความล้มเหลวและนำบทเรยี นเหล่าน้นั ไปใชก้ ับนวัตกรรมครัง้ ต่อไปของตนเอง

โปรดทบทวนขัน้ ตอนเพื่อพัฒนาพฤตกิ รรมการทำงานเชิงนวัตกรรม
จากทศั นะของ Molloy มสี าระสำคญั อะไร?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
หมายเหตุ : ศกึ ษาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ โปรด “คลิก” ดไู ด้จากเว็บไซต์ข้างล่างน้ี

https://www.harvardbusiness.org/five-steps-to-implementing-innovation/

Source - http://mediathailand-ictedu.blogspot.com/2012/04/27_06.html


106

Boutelle (n.d.) เป็น CCO และผู้ร่วมก่อตั้ง www.digsite.com โดยเป็นผู้มีความ
เชี่ยวชาญในการจัดการผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์และการตลาด ได้กล่าวถึง 7 ขั้นตอนที่แน่นอนในการคิด
และลงมือทำท่เี ป็นนวตั กรรม ดงั นี้

ขั้นตอนที่ 1 ให้แนวคิด ชี้แจงความท้าทายด้านนวัตกรรม ( Clarifying the
Challenge) ให้มีการกำหนดทิศทางของนวัตกรรมหรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับภารกิจ
ก่อนและความต้องการของนักเรียน โดยให้ตรงตามปัญหาที่กำลังจะแก้ไขหรือสามารถนำไปใช้
ประโยชนไ์ ด้

ขั้นตอนที่ 2 ใช้การกำหนดคำถามที่จุดประกายความคิด (Formulating the
Questions) สร้างความท้าทายด้วยการใช้ชุดคำถาม โดยการใช้คำถามธรรมดาทั่วไปสู่คำถามที่มี
ความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งคำถามแต่ละข้อจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ช่วยจุดประกายความคิด เกิด
เป็นความคิดสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรมขน้ึ

ขั้นตอนที่ 3 การสร้างแนวคิด (Generating the Ideas) ใช้คำถามเพื่อสร้างแนวคิด
เพอื่ ใหเ้ กดิ การคิดทบทวนกอ่ นตดั สินใจลงมือปฏบิ ัติ เป็นการลดการตดั สินความคดิ ท่ีเร็วเกนิ ไป

ขน้ั ตอนท่ี 4 วิเคราะหแ์ ละสังเคราะหแ์ นวคิด (Analyzing and Synthesizing Ideas)
ให้จัดแนวคิดเรียงเป็นหมวดหมู่ และจำกัดแนวคิดให้แคบลง ให้เหลือเฉพาะแนวคิดที่ต้องการพัฒนา
จรงิ ๆ

ขั้นตอนที่ 5 การพัฒนาแนวคิด (Developing Concepts) สร้างและขยายแนวคิด
เพมิ่ เตมิ เพอ่ื พฒั นาแนวคิดทด่ี ีที่สดุ ใหเ้ ป็นแนวคดิ ทสี่ มบูรณ์ย่งิ ข้นึ

ขั้นตอนที่ 6 การทดสอบและการเลือกแนวคิด (Testing and Selecting Concepts)
ทดสอบแนวคิดที่ยังคงมอี ยู่เพื่อดูว่าบางแนวคิดดีกว่าแนวคิดอื่นๆ หรือไม่ ดูว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร้สู กึ
อย่างไรเกยี่ วกับแนวคิดเหลา่ นั้น

ข้ันตอนที่ 7 การส่ือสารและความกา้ วหน้า (Communicating and Advancing) การ
สร้างและพฒั นาแนวคิดผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเปน็ สิ่งหนง่ึ ท่ีส่ือสารความคิดท่ีดีที่สดุ ความคิดไม่จำเป็นต้อง
สมบูรณแ์ บบ เพราะสามารถปรบั ปรุงไดเ้ มือ่ เห็นวา่ คนอ่นื ตอบสนองต่อความคดิ ของตนอย่างไร


107

โปรดทบทวนข้ันตอนเพือ่ พฒั นาพฤตกิ รรมการทำงานเชงิ นวตั กรรม
จากทัศนะของ Boutelle มีสาระสำคญั อะไร?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ : ศกึ ษาจากต้นฉบับภาษาองั กฤษ โปรด “คลกิ ” ดไู ด้จากเว็บไซตข์ า้ งลา่ งนี้

www.digsite.com/blog/innovation/7-sure-fire-steps-innovative-thinking-and-doing

Walkowiak (n.d.) เป็นที่ปรึกษาธุรกิจอาวุโสของ BDC ซึ่งเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษา
แก่ผู้ประกอบการด้านนวัตกรรม ได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับ วิธีคิดแนวคิดใหม่ 5 ขั้นตอนที่นำไปสู่
นวตั กรรม (How to Generate New Ideas: 5 Steps that Lead to Innovation) ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม (Foster a Culture of Innovation)
ซึ่งหมายถึงวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความไว้วางใจของนักเรียน รวมถึงการลองสิ่งใหม่
การปรบั ตัว และการเรียนรู้

นักเรียนต้องรู้สึกว่าความคิดของเขาได้รับการตอบรับและจำเป็นสำหรับการเรียนใน
ห้องเรียน นี่คือความรับผิดชอบของครู ครูต้องให้การสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมและมองเห็นได้
แนวคิดใหม่ ๆ และแสดงให้เหน็ ถึงความเปิดกวา้ งด้วยรูปแบบการยอมรับแนวคดิ ท่ีแปลกใหม่

ขั้นตอนที่ 2 ระบุความท้าทายและรวบรวมแนวคิด (Identify Challenges and
Collect Ideas) เริ่มต้นด้วยความท้าทาย เช่น เทคโนโลยีใหม่ ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม จากนั้นให้
ค้นหาแนวคิดในการแก้ปัญหา สิ่งสำคัญคือต้องคิดหาวิธีต่างๆ ในการสร้างสรรค์แนวคิดภายในและ
ภายนอกองค์กร ตัวอย่างเชน่
การประชุมเพอ่ื หารอื เก่ียวกับความท้าทายท่ีเฉพาะเจาะจงเพอื่ การรวบรวมแนวคิด

ขนั้ ตอนท่ี 3 ตรวจสอบความถกู ต้อง (Validate) สำรวจแนวคิดท่ดี ที สี่ ดุ เพอ่ื ค้นหาว่าควร
ค่าแกก่ ารนำไปปฏิบัตหิ รือไม่ ศึกษาเก่ียวกบั ความเป็นไปไดใ้ นการออกแบบและการผลิต

ขั้นตอนที่ 4 นำไปใชแ้ ละขยายขนาด (Implement and Scale) เม่ือนกั เรยี นเกดิ ความ
สบายใจแลว้ วา่ แนวคิดมีศักยภาพ กถ็ ึงเวลาดำเนินการ โดยเริ่มต้นจากส่งิ เล็กๆ น้อยๆ ได้ ตวั อย่างเช่น
โครงการนำร่องหรือต้นแบบ แล้วขอคำติชมเพอ่ื แก้ไขข้อบกพร่อง เมื่อแนวคิดประสบความสำเรจ็ ต้อง
ใหร้ างวลั ความคดิ สรา้ งสรรค์และการเรยี นรู้ดว้ ย


108
ขั้นตอนที่ 5 วัดความพยายามของตนเอง (Measure your Efforts) นึกถึงตัวบ่งช้ี
ประสิทธภิ าพหลกั สองสามตัวทส่ี ามารถตดิ ตามได้ เชน่ :
- จำนวนแนวคดิ ท่ีเพ่อื นนำเสนอ
- สดั ส่วนของเพ่อื นท่ีเสนอแนวคิด
- สดั ส่วนของแนวคิดท่ดี ำเนินการตรวจสอบและนำไปใช้

โปรดทบทวนข้ันตอนเพื่อพฒั นาพฤติกรรมการทำงานเชิงนวตั กรรม
จากทัศนะของ Boutelle มีสาระสำคัญอะไร?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
หมายเหตุ : ศึกษาจากต้นฉบับภาษาองั กฤษ โปรด “คลิก” ดไู ดจ้ ากเว็บไซตข์ า้ งลา่ งน้ี

https://www.bdc.ca/en/articles-tools/business-strategy-planning/innovate/how-generate-new-ideas-
steps-lead-innovation

Source - https://www.iok2u.com/article/innovation/the-process-of-innovation


109

สรุป จากทัศนะของ Hattendorf (2014), Björling (2018), Ludema and Johnson
(2019), Molloy (2019), Boutelle (n.d.) และ Walkowiak (n.d.) และ ดังกล่าวข้างต้น เห็นได้ว่า
แต่ละแหล่งอ้างอิงได้กล่าวถึงขั้นตอนเพื่อใช้เป็นแนวการพัฒนาพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรมท่ี
แตกต่างกนั คือ

Hattendorf (2014) กลา่ วถงึ 6 ขน้ั ตอน คือ
1) สร้างแพลตฟอร์มที่ปรับขนาดได้เพื่อความสำเร็จ (Create a Scalable Platform for

Success)
2) ชักชวนบุคลากรในองค์กรของคุณให้มีส่วนร่วม (Engage your Organization’s

Employees)
3) สรา้ งเคร่ืองมือการจดั การแนวคิด (Build an Idea Management Tool)
4) มุ่งเน้นที่นวัตกรรมเปา้ หมาย (Focus on Targeted Innovation)
5) จดั การพจิ ารณาในภายหลงั ของนวตั กรรม (Manage the Backend of Innovation)
6) ฉลองความสำเร็จ! (Celebrate Successes!)

Björling (2018) กล่าวถงึ 5 ขัน้ ตอน คือ
1) เปิดใจรบั การเปลี่ยนแปลง (Be Open to Change)
2) เปิดรบั ความคดิ สรา้ งสรรค์ (Embrace Creativity)
3) ส่งเสริมคดิ การใหญ่ (Think Big)
4) สง่ เสรมิ แสดงความกลา้ หาญท่จี ะคิดใหมอ่ ยเู่ สมอ (Show Courage)
5) คดิ และลงมอื ปฏิบตั อิ ยา่ งรวดเรว็ (Think and Act Fast)

Ludema and Johnson (2019) กล่าวถึง 7 ข้นั ตอน คือ
1) การต้งั เป้าหมายที่ชัดเจน (Clear Goal Setting)
2) การมอบหมายงานที่ตรงกับความสนใจของแต่ละคนและให้ความท้าทายในเชิงบวก

( Work Assignments that Match the Individual’s Interests and Provide
Positive Challenge)
3) การสร้างระบบการสื่อสารแบบเปิดที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ย นความคิด (Open
Communication Systems)


110

4) ให้ข้อเสนอแนะคำติชมบ่อยครั้ง สร้างสรรค์ และสนับสนุน (Feedback that is
Frequent, Constructive, and Supportive)

5) ให้รางวัลและการยกย่องที่เท่าเทียมกันและการมีน้ำใจ (Equitable and Generous
Rewards and Recognition)

6) การไม่มีระบบพธิ ีรตี รองที่ไมจ่ ำเปน็ (Absence of Unnecessary Bureaucracy)
7) สนับสนุนการทำงานรว่ มกนั (Supportive Collaboration)

Molloy (2019) กลา่ วถงึ 5 ขน้ั ตอน คือ
1) มองหาโอกาสในการสร้างสรรคน์ วัตกรรม (Spot Opportunities for Innovation)
2) จดั ลำดบั ความสำคญั ของโอกาส (Prioritize Opportunities)
3) ทดสอบส่งิ ท่ีอาจเปน็ นวัตกรรมของคุณ (Test your Potential Innovations)
4) สรา้ งการสนับสนนุ สำหรบั นวัตกรรมของคุณ (Build Support for your Innovations)
5) ส่งเสรมิ การเรียนรู้จากความพยายามในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของคณุ (Learn from

your Innovation Efforts)

Boutelle (n.d.) กล่าวถงึ 7 ข้นั ตอน คือ
1) ให้แนวคิด ชีแ้ จงความท้าทายดา้ นนวตั กรรม (Clarifying the Challenge)
2) ใชก้ ารกำหนดคำถามที่จดุ ประกายความคิด (Formulating the Questions)
3) การสรา้ งแนวคิด (Generating the Ideas)
4) วิเคราะห์และสงั เคราะหแ์ นวคิด (Analyzing and Synthesizing Ideas)
5) การพัฒนาแนวคิด (Developing Concepts)
6) การทดสอบและการเลือกแนวคดิ (Testing and Selecting Concepts)
7) การส่ือสารและความก้าวหน้า (Communicating and Advancing)

Walkowiak (n.d.) กล่าวถงึ 5 ข้นั ตอน คือ
1) ส่งเสริมวัฒนธรรมแหง่ นวัตกรรม (Foster a Culture of Innovation)
2) ระบุความทา้ ทายและรวบรวมแนวคิด (Identify Challenges and Collect Ideas)
3) ตรวจสอบความถกู ต้อง (Validate)
4) นำไปใชแ้ ละขยายขนาด (Implement and Scale)
5) วดั ความพยายามของคุณ (Measure your Efforts)


111

จากนานาทัศนะเกี่ยวกับขั้นตอนเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรม ดังกล่าว
ข้างต้น ท่านเห็นว่ามีองค์ประกอบ (Elements) หรือตัวบ่งชี้ (Indicators) ที่สำคัญอะไรบ้าง ท่ีทำให้
เข้าใจในแนวทางพฒั นานัน้ ได้อย่างกระชับและชดั เจน โปรดระบแุ นวคิดหรือองคป์ ระกอบนั้นในภาพท่ี
แสดงข้างลา่ ง


112

Björling, M.E. (2018, May 10). 5 key steps to creating an innovation mindset. Retrieved
July 31, 2021 from https://www.ericsson.com/en/blog/2018/5/5-key-steps-to-
creating-an-innovation-mindset

Boutelle, J. (n.d.). 7 Sure-fire steps to innovative thinking and doing. Retrieved July
30, 2021 from https://www.digsite.com/blog/innovation/7-sure-fire-steps-
innovative-thinking-and-doing

Hattendorf, H. (2014, January 27). Steps to creating a successful innovation
framework. Retrieved July 31, 2021 from
https://innovationmanagement.se/2014/01/27/seven-steps-to-creating-a-
successful-innovation-framework/

Ludema, J. & Johnson, A. (2019, February 12). Seven steps to creating a culture of
Innovation. Retrieved July 30, 2021 from
https://www.forbes.com/sites/amberjohnson-jimludema/2019/02/12/seven-
steps-to-creating-a-culture-of-innovation/?sh=c9b0788198ed

Molloy, J. (2019, June 17). Five steps to implementing innovation. Retrieved July 30,
2021 from https://www.harvardbusiness.org/five-steps-to-implementing-
innovation/

Walkowiak, A. (n.d.). How to generate new ideas: 5 steps that lead to innovation.
Retrieved July 31, 2021 from https://www.bdc.ca/en/articles-tools/business-
strategy-planning/innovate/how-generate-new-ideas-steps-lead-innovation


113


114

หลังจากการศึกษาคมู่ ือชุดน้แี ลว้ ท่านมีพัฒนาการด้านพุทธิพสิ ยั (Cognitive Domain) ซึ่ง
เป็นจุดมุ่งหมายทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางสมองหรือสติปัญญาตาม The Revised
Taxonomy (2001) ของ Benjamin S. Bloom โดยจาํ แนกพฤตกิ รรมในขอบเขตน้ีออกเป็น 6 ระดับ
เรียงจากพฤติกรรมที่สลับซับซ้อนน้อยไปหามาก หรือจากทักษะการคิดขั้นต่ำกว่าไปหาทักษะการคิด
ขั้นสูงกว่า ดังนี้ คือ ความจำ (Remembering) ความเข้าใจ (Understanding) การประยุกต์ใช้
(Applying) การวิเคราะห์ (Analyzing) การประเมิน (Evaluating) และการสร้างสรรค์ (Creating)
ดงั นี้

1. บอกคุณสมบัติ จับคู่ เขียนลำดับ อธิบาย บรรยาย ขีดเส้นใต้ จำแนก หรือระบุ การ
ประเมนิ พฤติกรรมการทำงานเชงิ นวัตกรรมได้
2. แปลความหมาย อธิบาย ขยายความ สรุปความ ยกตัวอยา่ ง บอกความแตกตา่ ง หรือเรียบ

เรยี งการประเมนิ พฤตกิ รรมการทำงานเชิงนวตั กรรมได้
3. แกป้ ญั หา สาธิต ทำนาย เชอ่ื มโยง ความสมั พันธ์ เปลี่ยนแปลง คำนวณ หรอื ปรับปรงุ การ

ประเมนิ พฤติกรรมการทำงานเชงิ นวัตกรรมได้
4. แยกแยะ จัดประเภท จำแนกให้เห็นความแตกต่าง หรือบอกเหตุผล การประเมิน

พฤตกิ รรมการทำงานเชิงนวัตกรรมได้
5. วัดผล เปรียบเทียบ ตีค่า ลงความเห็น วิจารณ์ การประเมินพฤติกรรมการทำงานเชิง

นวตั กรรมได้
6. รวบรวม ออกแบบ จัดระเบียบ สร้าง ประดิษฐ์ หรือวางหลักการ การประเมินพฤติกรรม

การทำงานเชิงนวตั กรรมได้

1. โปรดศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับการประเมินพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรม จากทัศนะที่
นำมากลา่ วถึงแตล่ ะทศั นะ

2. หลงั จากการศกึ ษาเน้ือหาโปรดทบทวนความเข้าใจจากคำถามท้ายเน้อื หาของแตล่ ะทัศนะ
3. ศกึ ษารายละเอยี ดของนยิ ามทเี่ ปน็ ต้นฉบบั ภาษาอังกฤษ โปรด “คลกิ ” เวบ็ ไซตท์ ี่นำเสนอ

ไวท้ า้ ยเนือ้ หาของแต่ละทศั นะ


115

Messmann (2012) เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ ได้ทำวิจัยเรื่อง พฤติกรรม
การทำงานเชิงนวัตกรรม สำรวจธรรมชาติและการอำนวยความสะดวกของครูอาชีวศึกษาที่มีต่อการ
พัฒนานวัตกรรม (Innovative Work Behaviour Investigating the Nature and Facilitation of
Vocational Teachers’ Contributions to Innovation Development) ได้ทำแบบสอบถามใน
การวจิ ยั ดังตาราง

ตารางแสดงแบบสอบถามพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรม สำรวจธรรมชาติและการอำนวย
ความสะดวกของครูอาชีวศึกษาทีม่ ตี อ่ การพฒั นานวัตกรรม

ตัวแปร รายการ
ในห้องเรียน (IC) ปกี ารศึกษาท่ีแล้ว ฉันใช้แนวทางใหมใ่ นการสนับสนุนนักเรียน
ปีการศกึ ษาท่ีแล้ว ฉันใชเ้ ครอื่ งมือใหม่เปน็ แนวทางให้นกั เรียน
นอกห้องเรยี น ปีการศกึ ษาที่แลว้ ฉันใช้วิธีใหม่ในการประเมินนักเรียน
(OC) ปกี ารศึกษาท่ีแลว้ ฉนั ใชว้ ธิ ีทคี่ ำนึงถึงลักษณะของนกั เรียน
ปกี ารศกึ ษาที่แล้ว ฉันใช้วธิ ีที่คำนงึ ถงึ ลักษณะงานในอนาคตของนักเรยี น
ปกี ารศึกษาทแ่ี ล้ว ฉนั ไดร้ ่วมมือกับบรษิ ทั และสถาบนั อื่นนอกโรงเรียน
ปกี ารศึกษาท่ีแล้ว ฉันได้สร้างความร่วมมือใหม่ท่ีโรงเรียนของฉนั
ปีการศกึ ษาที่แลว้ ฉันใชข้ ้อมูลเชงิ ลกึ จากการบรรยายและหลักสตู รการพัฒนา
วชิ าชพี เพ่อื การเปลี่ยนแปลงในโรงเรียน
ปกี ารศกึ ษาที่แล้ว ฉนั ใชข้ ้อมูลเชิงลึกจากวารสารสำหรบั ครเู พอื่ การ
เปลีย่ นแปลงในโรงเรียน

รายการ โครงสร้างปัจจัย และลักษณะรายการของเครื่องมือวัดพฤติกรรมการทำงานที่
เ ป ็ น น ว ั ต ก ร ร ม ใ ห ม่ (Items, Factor Structure, and Item Characteristics of the
Measurement Instrument of Innovative Work Behavior)

1. แจ้งใหต้ นเองทราบเกยี่ วกับโครงสรา้ งและกระบวนการขององค์กร / โรงเรียน
2. แลกเปลีย่ นความคิดเหน็ เกย่ี วกบั การพฒั นาล่าสุดกบั ลูกคา้ /เพื่อนร่วมงาน
3. ใหค้ วามรู้เกยี่ วกับพัฒนาการล่าสดุ ภายในบริษัท / ทโี่ รงเรียนของตนเอง
4. แจง้ ใหต้ นเองทราบเกี่ยวกับแนวคิด / ข้อมูลเชิงลึกใหมใ่ นสาขาอาชพี ของตนเอง
5. ใหค้ วามรูต้ นเองเก่ียวกบั การพฒั นาใหม่ในองคก์ รอนื่ นอกบรษิ ัท / ท่โี รงเรยี นอื่นหรอื ในบริษทั
6. การแสดงการประเมินปญั หาส่วนบุคคล
7. การตรวจสอบความเชอ่ื ทเี่ ด่นชัดในเชงิ วพิ ากษ์


116

8. กลา่ วถงึ สง่ิ ที่ตอ้ งเปลี่ยนแปลงโดยตรง
9. การแสดงความคิดใหม่ๆ
10. การถามคำถามท่สี ำคัญ
11. เสนอแนะปรบั ปรุงข้อคดิ เห็น
12. กลา่ วถึงบคุ คลสำคัญทใี่ ห้การอนุญาตทจี่ ำเป็นและการจัดสรรทรพั ยากร
13. ส่งเสริมความคดิ ใหมใ่ หก้ ับเพ่ือนร่วมงานเพอ่ื ให้ไดร้ บั การสนับสนนุ อยา่ งแขง็ ขนั
14. ส่งเสรมิ ความคดิ ใหม่ให้กับหัวหนา้ งานเพ่ือให้ได้รับการสนบั สนุนอย่างแข็งขันจากเธอ/เขา
15. สง่ เสริมการใช้วิธกี ารใหม่ๆภายในบรบิ ทของงาน
16. วางแผนวิธนี ำแนวคดิ ไปปฏิบตั ิ
17. รายงานความคืบหน้าในการบรรลุแนวคิดอย่างสม่ำเสมอ / ให้เพื่อนร่วมงานทราบเกี่ยวกับ

ความคืบหนา้ ของการตระหนักถึงความคิด
18. โนม้ น้าวผูอ้ นื่ ถึงความสำคญั ของแนวคิดหรือวธิ ีแก้ปัญหาใหม่
19. แนะนำเพ่อื นรว่ มงานเก่ยี วกับการประยุกต์ใช้โซลชู ันทพ่ี ฒั นาขึ้น
20. การทดสอบการพัฒนาวิธีการสำหรับข้อบกพรอ่ งเมอื่ นำแนวคดิ ไปปฏิบัติ
21. วิเคราะหว์ ธิ ีแก้ปัญหาเกยี่ วกับผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์เม่ือนำแนวคิดไปปฏิบัติ
22. การระบตุ ัวกระต้นุ ที่เปน็ ไปได้สำหรับการเปลีย่ นแปลง
23. ประเมนิ ความกา้ วหนา้ พรอ้ มนำแนวคิดไปปฏบิ ตั ิ
24. การกำหนดเกณฑ์ความสำเร็จเพือ่ ใหเ้ กดิ ความคดิ
25. การไตรต่ รองอยา่ งเปน็ ระบบเกีย่ วกบั ประสบการณ์ทเ่ี พิ่งเกิดขน้ึ
26. การตงั้ ชอ่ื ความรทู้ ่ีได้มาใหม่
27. การประเมนิ พฤตกิ รรมโดยใชท้ ศั นคตขิ องตนเอง
28. การกลา่ วถงึ กลยทุ ธก์ ารดำเนินการทเี่ ป็นไปได้สำหรบั สถานการณ์ในอนาคตที่เปรยี บเทียบกนั ได้
29. การแสดงทักษะของตนเองผา่ นประสบการณ์
30. การแสดงความคิด / การแสดงความคิดของตนแบบกราฟิก

โปรดทบทวนการประเมินพฤติกรรมการทำงานเชิงนวตั กรรม
จากทัศนะของ Messmann มสี าระสำคญั อะไร?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ : ศกึ ษาจากตน้ ฉบับภาษาอังกฤษ โปรด “คลิก” ดูไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ข้างล่างน้ี

https://epub.uni-regensburg.de/26492/4/Messmann_2012.pdf


117

De Jong and Den Hartog (2019) เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ประเทศเนเธอร์แลนด์
ได้ทำวิจัยเรื่อง การวัดพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรม (Measuring Innovative Work
Behaviour) โดยมปี ระเดน็ ในการสอบถามดงั นี้

พนกั งานคนนที้ ำกจิ กรรมดงั ต่อไปน้ีบ่อยแคไ่ หน...
1. ใสใ่ จกับประเดน็ ท่ีไมใ่ ช่งานประจำวนั ของเขา?
2. สงสยั วา่ จะปรับปรงุ ได้อยา่ งไร?
3. คน้ หาวิธีการทำงาน เทคนิค หรอื เคร่ืองมือใหม่ ๆ ?
4. สรา้ งแนวทางแก้ไขปัญหาเดิม?
5. หาแนวทางใหมใ่ นการทำงาน?
6. ทำใหส้ มาชกิ ในองคก์ รทส่ี ำคัญมคี วามกระตือรอื รน้ ในความคดิ รเิ ร่ิม?
7. พยายามโนม้ นา้ วให้คนสนบั สนนุ ความคดิ ริเริ่ม?
8. แนะนำความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานอยา่ งเป็นระบบ?
9. มีส่วนชว่ ยในการดำเนินการตามแนวคิดใหม่ ๆ ?
10. ใส่ความพยายามในการพฒั นาส่งิ ใหม่?

โปรดทบทวนการประเมนิ พฤตกิ รรมการทำงานเชงิ นวัตกรรม
จากทศั นะของ De Jong and Den Hartog มีสาระสำคัญอะไร?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
หมายเหตุ : ศึกษาจากต้นฉบับภาษาองั กฤษ โปรด “คลิก” ดไู ดจ้ ากเวบ็ ไซตข์ า้ งล่างน้ี

https://www.researchgate.net/publication/228254317

Source - https://is.gd/qRVOHY


118

Samson (2020) เป็นนักศึกษาปรญิ ญาโท ภาควิชาวิทยาการจัดการ คณะการจัดการและ
สังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกรุงอสิ ลามาบัด ได้ทำวจิ ัยเร่อื ง ผลกระทบของ
ความเหมาะสมของบุคคลงานต่อพฤติกรรมการทำงานที่เป็นนวัตกรรมด้วยการไกล่เกลี่ยบทบาทของ
ความหมายทางจิตวิทยาและการกลั่นกรองบทบาทของความไว้วางใจในการจัดการ (Impact of
Person-job Fit on Innovative Work Behavior with Mediating Role of Psychological
Meaningfulness and Moderating Role of Trust in Management) ได้ทำแบบสอบถามในการ
วจิ ัยดงั นี้

นกั เรียนคนนมี้ าบอ่ ยแคไ่ หน……
1. ใส่ใจกับประเด็นทไ่ี มใ่ ชง่ านประจำวนั ของเขา?
2. มองหาโอกาสในการปรบั ปรุงสงิ่ ต่างๆ?
3. พิจารณาโอกาสที่เปน็ นวัตกรรมใหมห่ รอื ไม่?
4. สงสยั ว่าจะปรับปรุงได้อย่างไร?
5. สำรวจผลติ ภณั ฑ์หรือบรกิ ารใหม่ ๆ ?
6. ค้นหาวธิ กี ารทำงาน เทคนิค หรือเครือ่ งมอื ใหม่ ๆ ?
7. สรา้ งแนวทางแกไ้ ขปญั หาเดมิ ?
8. สร้างความคิดใหม่?
9. คน้ หาแนวทางใหม่ในการดำเนนิ งาน?
10. ระดมการสนบั สนุนสำหรับความคิดสร้างสรรค์?
11. ได้รบั การอนมุ ตั ิสำหรับความคดิ สรา้ งสรรค์?
12. ทำให้สมาชิกในองค์กรทสี่ ำคัญมีความกระตอื รือรน้ ในความคิดริเร่มิ ?
13. พยายามโน้มนา้ วใหผ้ ้คู นสนับสนนุ นวตั กรรม
14. ไอเดีย?
15. แปลงความคดิ สร้างสรรค์เปน็ แอพพลิเคชั่นทีม่ ีประโยชน์?
16. นำความคิดสรา้ งสรรคม์ าใช้ในการทำงานอย่างเป็นระบบ?
17. มีสว่ นร่วมในการดำเนนิ การตามแนวคดิ ใหม่ๆ ?
18. ใส่ความพยายามในการพฒั นาสิง่ ใหม่?


119

โปรดทบทวนการประเมนิ พฤติกรรมการทำงานเชงิ นวัตกรรม
จากทัศนะของ Samson มีสาระสำคัญอะไร?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ : ศึกษาจากตน้ ฉบับภาษาองั กฤษ โปรด “ค้นหา” โดยใช้คำตามข้างล่างน้ี

Impact of person-job fit on innovative work behavior with mediating role of psychological
meaningfulness and moderating role of trust in management.

Beest (n.d.) เป็นนักวิจัยจากกลุ่มวิจัยการวิจัยประยุกต์ระเบียบวิธี ได้ทำแบบสอบถาม
การวิจัยเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของไซโครเมทริกของเครื่องมือสำหรับการพัฒนาและประเมิน
ความสามารถด้านนวัตกรรมโดยใช้การออกแบบวิธกี ารผสม (Psychometric Validation of a Tool
for Innovation Competencies Development and Assessment Using a Mixed-Method
Design) ดังน้ี

ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)
1. คนทพี่ บวา่ เปน็ การทา้ ทายทจี่ ะพฒั นาผลิตภณั ฑ์ใหมๆ่ ตามระเบียบวนิ ยั ของตนเอง
2. คนทช่ี อบคิดว่าการทำงานจะดขี ึ้นได้
3. คนที่มองวา่ ปญั หาทซ่ี บั ซอ้ นเปน็ สงิ่ ทที่ า้ ทาย
4. คนท่ีเก่งในการหาวิธแี กไ้ ขปัญหาทมี่ อี ยู่
5. คนทเ่ี กง่ เรอ่ื งการผสมผสานวิชาตา่ งๆ
6. ผ้ทู ส่ี ามารถเชอื่ มโยงแนวคิดใหมก่ บั แนวคดิ ท่ีมีอยู่ (ของผ้อู นื่ )

แรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation)
7. คนทมี่ องวา่ งาน/โครงการของตนเปน็ สง่ิ ท่ีท้าทาย
8. คนท่พี บว่างานของเขานา่ สนใจ

พฤตกิ รรมเชิงรกุ (Proactive Behavior)
9. คนทีพ่ ัฒนาตวั เองได้
10. ผ้ทู กี่ ำลงั มองหาวธิ ีปรบั ปรงุ กระบวนการทำงาน
11. ผทู้ พ่ี ยายามปรับปรุงผลิตภณั ฑห์ รอื บรกิ ารทเ่ี ขา/เธอทำงานดว้ ย/เปดิ
12. คนทถี่ ามคนอน่ื เก่ียวกบั ผลงานของตัวเองเป็นประจำ
13. คนท่ขี อความคดิ เห็นจากผ้อู ่ืนเปน็ ประจำเกีย่ วกับสิ่งท่ีเขา/เธอเก่ียวข้อง


120

14. คนทถ่ี ามความเหน็ คนอื่นเวลาคิดค้นส่ิงใหม่ๆ
15. ผทู้ ่ีรู้ทที่ ราบถงึ ความกา้ วหนา้ ในการฝกึ หดั ของตน ทำใหไ้ ดค้ ้นพบโอกาสใหม่ๆ
16. ผู้ที่ติดตามข่าวเกี่ยวกับการฝึกอบรมหรือการพัฒนางานว่าน่าสนใจสำหรับงานของ
ตนหรอื ไม่
เสรีภาพ (Freedom)
17. คนที่รสู้ ึกอสิ ระท่ีจะรบั สงิ่ ใหมซ่ ึ่งเปน็ ส่วนหนึ่งของความรบั ผิดชอบในงานของตน
18. คนท่ีคิดวา่ มเี วลาพอที่จะหยิบของใหม่
19. คนที่รู้ชดั วา่ คาดหวังอะไรจากเขา/เธอ
การพง่ึ พาตนเอง (Autonomy)
20. คนท่ีคิดว่าตวั เองเกง่ ในงานของตน
21. คนทสี่ ามารถทำภารกจิ หลกั ได้ตามปกติ
การยอมรบั ความเสี่ยง (Risk Tolerance)
22. คนที่พรอ้ มจะเสยี่ งกับงานของเขา/เธอ
23. คนที่ชอบความทา้ ทาย ถึงแมจ้ ะเป็นการเส่ยี งตอ่ บริษัท/องค์กร
24. คนท่ีกล้าเส่ยี งเพ่อื สร้างนวัตกรรม
25. คนที่รักการคาดเดาไม่ได้
26. คนที่ได้รับการกระต้นุ อย่างมากจากเพ่ือนรว่ มงานที่แสวงหาการตอ่ อายุ
27. คนทไี่ มเ่ หน็ ความสำคัญในการควบคุมงานของตน
28. คนทร่ี สู้ กึ วา่ ไม่ใช่ทกุ โครงการท่ีเขา/เธอเข้าร่วมจะประสบความสำเร็จ

โปรดทบทวนการประเมนิ พฤติกรรมการทำงานเชงิ นวัตกรรม
จากทัศนะของ Beest มสี าระสำคัญอะไร?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................

หมายเหตุ : ศึกษาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ โปรด “คลิก” ดไู ด้จากเวบ็ ไซตข์ ้างล่างน้ี

https://static1.squarespace.com/static/583dddb7cd0f686c5defc5bb/t/58da1ce5e3df28fabb796bff/14906
89255628/EURAM_Validation_WP7_Rev1.pdf

Source - https://www.trueplookpanya.com/education/content/52233


121

Kamp (n.d.) เป็นนักศึกษาปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยอูเทรคต์ ได้ทำวิจัยเรื่อง
พฤติกรรมการทำงานที่เป็นนวัตกรรมใหม่: การทำแผนที่การแบ่งปันความรู้เบื้องหลัง (Innovative
Work Behaviour: Mapping out the Knowledge Sharing behind It) ม ี ข ้ อ ค ำ ถ า ม ใ น
แบบสอบถามดงั น้ี

1. ฉันสรา้ งแนวคิดใหม่สำหรับปัญหาท่ยี าก
2. ฉนั ทำใหส้ มาชิกในองคก์ รท่ีสำคัญมีความกระตือรอื รน้ ในความคิดสรา้ งสรรค์
3. ฉันระดมการสนับสนนุ สำหรับความคิดสร้างสรรค์
4. ฉันคน้ หาวิธีการทำงานหรอื เครอื่ งมือใหมๆ่ เพอ่ื ปรบั ปรงุ งานของฉนั
5. ฉันเปล่ียนความคดิ รเิ ร่มิ เปน็ แอปพลเิ คชนั ที่มีประโยชน์
6. ฉันแนะนำความคดิ สร้างสรรคใ์ นสภาพแวดล้อมการทำงานอย่างเป็นระบบ
7. ฉนั ประเมินประโยชน์ของความคดิ สร้างสรรค์
8. ฉันไดร้ บั การอนุมัตเิ ม่อื ฉนั คดิ อะไรใหมๆ่
9. ฉนั สรา้ งวธิ แี ก้ปญั หาด้งั เดิมสำหรบั ปัญหา

โปรดทบทวนการประเมนิ พฤติกรรมการทำงานเชงิ นวตั กรรม
จากทัศนะของ Kamp มีสาระสำคัญอะไร?
…………………………………………………………………………………………….......................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
หมายเหตุ : ศึกษาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ โปรด “คลกิ ” ดไู ด้จากเว็บไซตข์ ้างล่างนี้

file:///C:/Users/ASUS/Downloads/Masterthesis%20Kamp%203653625%20(1).pdf

Source - https://www.trueplookpanya.com/education/content/52233


122

สรุป แนวการประเมินผลการพัฒนาพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรม (Assessment of
Innovative Work Behavior) จากทัศนะของ Messmann (2012), De Jong and Den Hartog
(2019), Samson (2020), Beest (n.d.) และ Kamp (n.d.) ดังกล่าวข้างต้น มีกรอบการประเมิน 6
ดา้ น และแตล่ ะดา้ นมีขอ้ คำถามดังน้ี

ด้านความคดิ สรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) มขี ้อคำถาม ดงั น้ี
- คุณเป็นคนที่ชอบการท้าทายท่ีจะพัฒนาผลิตภณั ฑ์ใหม่ๆ ตามความมุง่ ม่นั ของตนเอง
- คุณเปน็ คนท่ีชอบคิดว่าการทำงานจะดีขนึ้ ได้
- คณุ เปน็ คนท่มี องว่าปญั หาที่ซบั ซ้อนเปน็ สง่ิ ท่ีทา้ ทาย
- คณุ เปน็ คนที่เก่งในการหาวิธแี ก้ไขปญั หาท่ีมีอยู่
- คณุ เป็นคนทเ่ี กง่ เรอ่ื งการผสมผสานวิชาต่างๆ
- คณุ เป็นผทู้ ่ีสามารถเช่ือมโยงแนวคดิ ใหม่กับแนวคดิ ท่มี อี ยู่เดมิ (ของผ้อู ืน่ )
- คุณเปน็ คนใสใ่ จกับประเด็นท่ีไม่ใชง่ านประจำวันของตน
- คณุ เปน็ คนชอบสงสัยว่าจะปรับปรงุ งานไดอ้ ยา่ งไร
- คุณเป็นคนชอบคน้ หาวธิ ีการทำงาน เทคนคิ หรือเครอื่ งมอื ใหม่ ๆ เพื่อปรบั ปรงุ งาน
- คณุ เป็นคนชอบสรา้ งแนวทางแกไ้ ขปัญหาเดมิ
- คณุ เปน็ คนชอบหาแนวทางใหม่ในการทำงาน
- คุณเป็นคนชอบมองหาโอกาสในการปรบั ปรุงส่ิงต่างๆ
- คุณเป็นคนชอบพจิ ารณาโอกาสท่เี ปน็ นวัตกรรมใหม่หรอื ไม่
- คุณเปน็ คนชอบสร้างความคดิ ใหม่ๆ
- ปีการศึกษาทแ่ี ล้ว ฉนั ใช้แนวทางใหม่ในการสนับสนนุ นกั เรยี น
- ปีการศึกษาทแ่ี ลว้ ฉนั ใชเ้ ครือ่ งมอื ใหม่เปน็ แนวทางให้นกั เรยี น
- ปีการศึกษาทแ่ี ลว้ ฉนั ใชว้ ิธใี หม่ในการประเมินนักเรียน
- คุณเป็นคนที่ชอบส่งเสรมิ การใช้วิธกี ารใหม่ๆภายในบริบทของงาน
- คุณเปน็ คนทช่ี อบสร้างแนวคดิ ใหมส่ ำหรับปญั หาทยี่ าก
ด้านสร้างแรงจงู ใจภายใน (Intrinsic Motivation) มีข้อคำถาม ดงั นี้
- คณุ เป็นคนที่มองว่างาน/โครงการของตนเปน็ ส่งิ ท่ีท้าทาย
- คณุ เปน็ คนทพ่ี บว่างานของเขานา่ สนใจ
- คณุ เป็นคนท่ที ำให้สมาชกิ ในองคก์ รที่สำคัญมคี วามกระตือรือรน้ ในความคิดรเิ ร่ิม
- คณุ เปน็ คนที่พยายามโนม้ น้าวให้คนสนบั สนุนความคดิ รเิ ร่มิ .
- คณุ เป็นคนที่แนะนำความคดิ สร้างสรรคใ์ นการทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ


123

- คณุ เปน็ คนท่ีมีส่วนช่วยในการดำเนินการตามแนวคิดใหม่ ๆ
- คณุ เป็นคนทชี่ อบระดมการสนบั สนนุ สำหรับความคิดสรา้ งสรรค์
- คุณเป็นคนทม่ี ีความพยายามโนม้ นา้ วให้ผู้คนสนับสนนุ นวตั กรรม
- ปกี ารศกึ ษาที่แล้ว ฉันใชว้ ิธที ีค่ ำนงึ ถงึ ลกั ษณะของนกั เรียน
- ปกี ารศึกษาท่แี ล้ว ฉนั ใช้วิธที ่ีคำนึงถงึ ลกั ษณะงานในอนาคตของนักเรยี น
- คุณเป็นคนที่ชอบแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาล่าสุดกับลูกค้า/เพื่อน

ร่วมงาน
- คุณเป็นคนทช่ี อบถามคำถามท่ีสำคญั
- คุณเป็นคนที่เสนอแนะปรับปรงุ ขอ้ คิดเหน็
- คุณเป็นคนที่ชอบกล่าวถึงบุคคลสำคัญที่ให้การอนุญาตที่จำเป็นและการจัดสรร

ทรพั ยากร
- คุณเป็นคนที่ชอบส่งเสริมความคิดใหม่ให้กับเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้ได้รับการสนับสนุน

อยา่ งแขง็ ขัน
- คุณเป็นคนที่ชอบส่งเสริมความคิดใหม่ให้กับหัวหน้างาน เพื่อให้ได้รับการสนับสนุน

อยา่ งแขง็ ขันจากเธอ/เขา
- คุณเป็นคนรายงานความคืบหนา้ ในการบรรลุแนวคิดอย่างสม่ำเสมอ/ให้เพื่อนร่วมงาน

ทราบเกี่ยวกับความคืบหนา้ ของการตระหนักถึงความคดิ
- คณุ เป็นคนทช่ี อบโน้มนา้ วผู้อ่ืนถึงความสำคัญของแนวคดิ หรือวธิ แี ก้ปญั หาใหม่
ดา้ นพฤติกรรมเชงิ รุก (Proactive Behavior) มขี อ้ คำถาม ดงั นี้
- คณุ เป็นคนทพ่ี ฒั นาตวั เองได้
- คุณเป็นคนที่กำลังมองหาวิธีปรับปรุงกระบวนการทำงาน
- คุณเป็นคนทีพ่ ยายามปรับปรุงผลติ ภัณฑ์หรอื บริการที่ทำงานประจำ
- คุณเป็นคนที่ถามคนอ่นื เกีย่ วกับผลงานของตวั เองเป็นประจำ
- คุณเป็นคนทขี่ อความคดิ เหน็ จากผ้อู นื่ เปน็ ประจำเก่ียวกบั สิ่งท่ีเขา/เธอเกยี่ วข้อง
- คุณเป็นคนที่ถามความเห็นคนอน่ื เวลาคิดคน้ สิง่ ใหม่ๆ
- คณุ เป็นคนทท่ี ราบถึงความก้าวหน้าในการฝกึ หดั ของตน ทำให้ไดค้ ้นพบโอกาสใหม่ๆ
- คุณเป็นคนที่ติดตามข่าวเกี่ยวกับการฝึกอบรมหรือการพัฒนางานว่าน่าสนใจสำหรับ

งานของตนหรือไม่
- คณุ เป็นคนที่ใส่ความพยายามในการพฒั นาส่ิงใหม่
- คุณเปน็ คนที่ชอบสำรวจผลิตภัณฑ์หรอื บริการใหม่ ๆ
- คณุ เปน็ คนที่ชอบค้นหาแนวทางใหมใ่ นการดำเนนิ งาน
- คุณเป็นคนทช่ี อบแปลงความคิดสรา้ งสรรค์เป็นแอพพลเิ คชนั่ ท่มี ีประโยชน์
- คณุ เป็นคนที่ชอบนำความคิดสรา้ งสรรค์มาใชใ้ นการทำงานอย่างเปน็ ระบบ
- ปกี ารศกึ ษาทแี่ ลว้ ฉนั ไดร้ ่วมมือกับบรษิ ทั และสถาบันอื่นนอกโรงเรียน
- ปีการศึกษาทแ่ี ล้ว ฉันไดส้ ร้างความร่วมมือใหมท่ ีโ่ รงเรยี นของฉนั


124

- ปีการศึกษาที่แล้ว ฉันใช้ข้อมูลเชิงลึกจากการบรรยายและหลักสตู รการพัฒนาวิชาชีพ
เพือ่ การเปล่ียนแปลงในโรงเรียน

- ปีการศึกษาที่แล้ว ฉันใช้ข้อมูลเชิงลึกจากวารสารสำหรับครูเพื่อการเปลี่ยนแปลงใน
โรงเรยี น

- ให้ความร้เู ก่ียวกับพฒั นาการล่าสุดภายในบริษทั / ท่โี รงเรียนของตนเอง
- คุณเป็นคนทช่ี อบตรวจสอบความเชื่อทีเ่ ด่นชดั ในเชิงวพิ ากษ์
- คณุ เป็นคนทช่ี อบกลา่ วถึงสงิ่ ทีต่ อ้ งเปลยี่ นแปลงโดยตรง
- คณุ เปน็ คนที่ชอบวางแผนวธิ ีนำแนวคดิ ไปปฏบิ ตั ิ
- คณุ เปน็ คนที่ชอบทดสอบการพฒั นาวธิ กี ารสำหรบั ข้อบกพร่องเมื่อนำแนวคิดไปปฏิบตั ิ
- คุณเป็นคนทช่ี อบประเมนิ ความกา้ วหน้าพรอ้ มนำแนวคิดไปปฏบิ ัติ
- คณุ เป็นคนทช่ี อบกำหนดเกณฑ์ความสำเร็จเพ่ือใหเ้ กิดความคิด
- คุณเป็นคนที่ชอบไตร่ตรองอย่างเป็นระบบเกีย่ วกับประสบการณ์ทเี่ พ่ิงเกดิ ข้นึ
- คณุ เปน็ คนที่ชอบประเมนิ ประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์
ดา้ นเสรีภาพการทำงาน (Freedom) มขี อ้ คำถาม ดังนี้
- คณุ เป็นคนทร่ี สู้ ึกอสิ ระทีจ่ ะรบั สิ่งใหม่ซึ่งเปน็ สว่ นหนึ่งของความรับผดิ ชอบในงานของตน
- คณุ เป็นคนทค่ี ดิ วา่ มเี วลาพอทจ่ี ะหยิบของใหม่
- คุณเปน็ คนที่รู้ชัดว่าคาดหวงั อะไรจากเขา/เธอ
- คณุ เป็นคนท่ีไดร้ ับการอนมุ ัติสำหรบั ความคิดสรา้ งสรรค์ หรือคดิ อะไรใหมๆ่
- คณุ เปน็ คนทต่ี ัง้ ช่ือความรู้ทไี่ ดม้ าใหม่
- คุณเปน็ คนที่ประเมนิ พฤติกรรมโดยใช้ทศั นคติของตนเอง
- คุณเป็นคนที่ชอบกล่าวถึงกลยุทธ์การดำเนินการที่เป็นไปได้ สำหรับสถานการณ์ใน

อนาคตท่ีเปรยี บเทยี บกนั ได้
- คุณเปน็ คนที่ชอบการแสดงทักษะของตนเองผ่านประสบการณ์
- คณุ เปน็ คนทช่ี อบแสดงความคดิ
ดา้ นการพง่ึ พาตนเอง (Autonomy) มขี อ้ คำถาม ดังนี้
- คุณเป็นคนทคี่ ดิ ว่าตวั เองเก่งในงานของตน
- คณุ เป็นคนที่สามารถทำภารกจิ หลกั ได้ตามปกติ
- คุณเป็นคนที่หาข้อมูลเพื่อให้ตนเองทราบเกี่ยวกับโครงสร้างและกระบวนการของ

องคก์ ร/โรงเรยี น
- คณุ เปน็ คนทช่ี อบศึกษาเกีย่ วกบั แนวคดิ /ข้อมูลเชิงลกึ ใหม่ในสาขาอาชีพของตนเอง
- คุณเป็นคนที่ชอบศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาใหม่ๆ ทั้งในองค์กรและนอก

องค์กร
ด้านการยอมรับความเสี่ยง (Risk Tolerance) มีขอ้ คำถาม ดังน้ี
- คุณเป็นคนที่พรอ้ มจะเสยี่ งกับงานของเขา/เธอ
- คณุ เป็นคนที่ชอบความทา้ ทาย ถงึ แม้จะเปน็ การเสีย่ งต่อบริษัท/องค์กร
- คณุ เป็นคนที่กล้าเสยี่ งเพ่ือสร้างนวัตกรรม


125

- คุณเป็นคนท่รี กั การคาดเดาไม่ได้
- คณุ เปน็ คนที่ได้รบั การกระตนุ้ อยา่ งมากจากเพื่อนร่วมงานท่ีแสวงหาการต่ออายุ
- คุณเป็นคนทไี่ ม่เหน็ ความสำคญั ในการควบคุมงานของตน
- คณุ เปน็ คนที่ชอบรสู้ กึ วา่ ไมใ่ ชท่ กุ โครงการที่เขา/เธอเขา้ รว่ มจะประสบความสำเร็จ
- คณุ เปน็ คนที่มกี ารประเมินปัญหาส่วนบุคคล
- คุณเป็นคนที่ชอบวิเคราะห์วิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อนำ

แนวคิดไปปฏิบัติ
- คุณเปน็ คนทช่ี อบระบตุ วั กระตุ้นท่ีเปน็ ไปได้สำหรบั การเปล่ยี นแปลง

จากนานาทัศนะเกี่ยวกับการประเมินพัฒนาพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรม ดังกล่าว
ข้างต้น ท่านเห็นว่ามีองค์ประกอบ (Elements) หรือตัวบ่งชี้ (Indicators) ที่สำคัญอะไรบ้าง ที่ทำให้
เข้าใจในแนวทางพฒั นานั้นไดอ้ ย่างกระชับและชดั เจน โปรดระบุแนวคิดหรือองค์ประกอบน้ันในภาพที่
แสดงขา้ งล่าง


126

Beest, W.V. (n.d.). Psychometric validation of a tool for Innovation Competencies
Development and Assessment using a mixed-method design.
Retrieved August 4 2021 from
https://static1.squarespace.com/static/583dddb7cd0f686c5defc5bb/t/58da1ce5
e3df28fabb796bff/1490689255628/EURAM_Validation_WP7_Rev1.pdf

De Jong, J., & Den Hartog, D. (2019, March 21). Measuring innovative work behaviour.
Retrieved July 27, 2021 from
https://www.researchgate.net/publication/228254317_Measuring_Innovative_Wo
rk_Behavior

Kamp, E. (n.d.). Innovative work behaviour: Mapping out the knowledge sharing
behind it. Retrieved August 2, 2021 from
file:///C:/Users/ASUS/Downloads/Masterthesis%20Kamp%203653625%20(1).pdf

Messmann, G. (2012). Innovative work behaviour Investigating the nature and
facilitation of vocational teachers’ contributions to innovation development.
Master’s thesis, Inaugural-Dissertation zur Erlangung der Doktorwürde der
Philosophischen Fakultät II (Psychologie, Pädagogik and Sportwissenschaft) der
Universität Regensburg.

Samson, S. (2020). Impact of person-job fit on innovative work behavior with
mediating role of psychological meaningfulness and moderating role of trust in
management. Master’s thesis, Department of Management Sciences, Faculty of
Management & Social Sciences, University of Science and Technology,
Islamabad.


127


128


129

คู่มือเชิงปฏิบตั กิ าร
โครงการครนู ำผลการเรยี นรสู้ ู่การเสรมิ สร้างพฤติกรรม

การทำงานเชิงนวัตกรรมของนักเรยี น

คำช้ีแจง

คู่มือเชิงปฏิบัติการประกอบโครงการครูนำผลการเรียนรู้สู่การเสริมสร้างพฤติกรรมการ
ทำงานเชิงนวัตกรรมของนักเรียนนี้ แบ่งออกเป็น 6 ส่วน คือ 1) ทบทวนประเด็นที่ได้จากโครงการ
พัฒนาเพื่อการเรียนรู้ของครู 2) ลักษณะที่แสดงถึงพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรมของนักเรียนท่ี
คาดหวังให้เกิดข้ึนกับนักเรียน 3) ตวั อยา่ งภาพท่ีแสดงถึงการจัดกจิ กรรมการเสริมสร้างพฤติกรรมการ
ทำงานเชิงนวัตกรรมของนักเรียน 4) แบบประเมินตนเองของครูถึงระดับการนำแนวการพัฒนาไป
ปฏิบัติ 5) แบบประเมินตนเองของครูถึงการเลือกรูปแบบขั้นตอนการพัฒนาไปปฏิบัติ และ 6) แบบ
สะท้อนผลจากการเสรมิ สร้างพฤตกิ รรมการทำงานเชิงนวตั กรรมของนกั เรียน ดังน้ี

1. ทบทวนประเด็นจากโครงการพฒั นาเพือ่ การเรยี นร้ขู องครู
− ลกั ษณะท่ีแสดงถงึ พฤติกรรมการทำงานเชงิ นวัตกรรมของนกั เรียน
− แนวการพฒั นาพฤติกรรมการทำงานเชิงนวตั กรรมของนกั เรยี น
− ข้นั ตอนการพฒั นาพฤตกิ รรมการทำงานเชิงนวตั กรรมของนกั เรียน

2. ลักษณะท่แี สดงถึงพฤติกรรมการทำงานเชงิ นวตั กรรมของนกั เรยี นทคี่ าดหวงั ให้เกดิ
ขึ้นกับนักเรียน

3. ตวั อยา่ งภาพทีแ่ สดงถึงการจัดกจิ กรรมเพ่อื เสริมสร้างพฤตกิ รรมการทำงานเชิง
นวัตกรรมของนักเรียน

4. แบบประเมินตนเองของครถู ึงระดบั การนำแนวการพัฒนาไปปฏิบตั ิ
5. แบบประเมนิ ตนเองของครูถึงการเลอื กรปู แบบขั้นตอนการพฒั นาไปปฏิบตั ิ
6. แบบสะทอ้ นผลจากการเสริมสร้างพฤตกิ รรมการทำงานเชงิ นวตั กรรมของนกั เรียน

− ปัจจัยท่สี ง่ ผลในทางบวกต่อการเสรมิ สรา้ งพฤติกรรมการทำงานเชงิ นวัตกรรมของ
นักเรยี น
− ปัญหาหรืออุปสรรคต่อการเสริมสร้างพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรมของ
นักเรียน
− วิธกี ารท่ใี ชเ้ พอ่ื แกไ้ ขปัญหาหรอื อุปสรรค
− บทเรียนท่ีไดร้ บั จากการเสริมสรา้ งพฤติกรรมการทำงานเชงิ นวัตกรรมของนักเรียน
− ข้อเสนอแนะเพ่อื ใหก้ ารเสรมิ สรา้ งพฤติกรรมการทำงานเชงิ นวตั กรรมของนักเรยี น
บรรลุผลสำเรจ็ ยงิ่ ขึ้น


130

1. ทบทวนประเดน็ จากโครงการพฒั นาเพื่อการเรียนรู้ของครู

1.1 ลักษณะทีแ่ สดงถงึ พฤติกรรมการทำงานเชงิ นวัตกรรมของนักเรียน

1. มกี ารคิดต่าง (Divergent Thinking)
2. มที ศั นคติทดี่ ี (Staying Positive)
3. มีความอดทน (Patience)
4. เนน้ การลงมอื ทำ (Action-oriented)
5. มกี ารสกัดการเรยี นรู้ (Extracting Learning)
6. การเป็นสมาชิกในทมี (Being a Team Player)
7. มกี ลยุทธด์ า้ นนวัตกรรม (Innovation Strategy)
8. มีการไตรต่ รองอยา่ งตอ่ เน่อื ง (Continuous Reflection)
9. บนั ทกึ แนวคดิ อยา่ งสมำ่ เสมอ (Keep a Book of Ideas)
10. เปน็ ผ้นู ำท่แี ทจ้ รงิ การสอนผอู้ ื่น (Teaching Others)
11. การให้ความสำคัญกบั นวตั กรรม (Valuing Innovation)
12. ความอ่อนนอ้ มถ่อมตนทางปัญญา (Intellectual Humility)
13. กำหนดทิศทางเป้าหมายการเรยี นรู้ (Orienting Learning Goals)
14. กำหนดผลการดำเนินงานท่ีคาดหวงั (Determine the Expected Performance)
15. มคี วามอยากรอู้ ยากเห็นที่ไมร่ ูจ้ กั พอ (Insatiable Curiosity)
16. การเชอ่ื มตอ่ และการทำงานร่วมกัน (Connecting and Collaborating)
17. ใหค้ ณุ คา่ กับวฒั นธรรมแหง่ นวตั กรรม (Valuing a Culture of Innovation)
18. การตอบสนองเรว็ ตอ่ ความไมแ่ นน่ อน (Sensitivity Towards Uncertainties)
19. ต้องการมีความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness)
20. มีการแลกเปลีย่ นระหวา่ งผนู้ ำกับสมาชิก
21. ความเคารพต่อผสู้ รา้ งนวตั กรรมรายอ่นื (Respect for Other Innovators)
22. การนำการเรยี นรแู้ ละการปรบั แนวคิดไปใช้ (Implementing Learning and Idea

Adaptation)
23. สรา้ งแนวคิดใหมๆ่ ท่ีตา่ งจากธรรมเนียมเดิม
24. เน้นมองหาโอกาส มองหารปู แบบในทกุ ๆ ที่ (Opportunity-focused)
25. มีความยืดหยุน่ ทางจติ ใจ มงุ่ ม่นั ที่จะสรา้ งความหลากหลาย (Mental Resilience)
26. การออกแบบการทดลองทม่ี ีคุณคา่ ฟูมฟักกระบวนการทีส่ รา้ งสรรค์

(Nurture the Creative Process)
27. ความกลา้ หาญ ท่ีจะรบั ความเส่ยี งอย่างเปน็ ระบบ ส่งเสรมิ ใหก้ ล้าเสย่ี ง

(Encourage Risk-taking)
28. การสำรวจแบบไม่ยดึ ติด ทำส่ิงทีแ่ ตกตา่ งหรอื ทำส่ิงที่ไม่เคยทำมากอ่ น

(Unattached Exploration)


131

29. การทำความเขา้ ใจระหว่างการคดิ เชิงนามธรรมกับความคิดท่เี ปน็ รปู ธรรม
(Iterating between Abstract and Concrete Thinking)

30. มีความหลงใหล ในการทำลายอุปสรรคและการปรับเปล่ยี นนวตั กรรมอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
(Passion)

1.2 แนวทางการพฒั นาพฤตกิ รรมการทำงานเชิงนวตั กรรม

1. ส่งเสริมเปน็ ผูฟ้ ังที่เอาใจใส่ (Become an Attentive Listener)
2. สง่ เสรมิ ทกั ษะใหม่ ๆ (Encourage New Skills)
3. สรา้ งตวั อยา่ งการทำงาน (Set the Example)
4. ส่งเสรมิ การใชเ้ ทคโนโลยี (Technology)
5. ยนิ ดีตอ้ นรบั แนวคดิ ใหม่ (Welcome New Ideas)
6. สอนแนวคิด ไม่ใชข่ ้อเท็จจริง (Teach Concepts, not Facts)
7. ส่งเสรมิ การเรียนรสู้ ่วนบคุ คล (Personalised Learning)
8. การสอนผ่านกระดานอจั ฉรยิ ะ (Teaching through Smart Boards)
9. สง่ เสริมการเรียนรู้ดว้ ยโครงงาน (Project-Based Learning : PBL)
10. ใชก้ ารถามคำถามแบบปลายเปดิ (Ask Open-Ended Questions)
11. ไม่ให้บคุ ลากรทำงานทีย่ ากเกินตัว (Don’t Make Staff Jump through Hoops)
12. ส่งเสริมการทำงานร่วมกันเป็นทมี (Work Together as a Team)
13. สง่ เสริมการเข้าร่วมศนู ย์นวตั กรรม (Participate in an Innovation Hub)
14. ส่งเสรมิ การระบุปัญหาในการทำงาน (Identify the Issues to Work on)
15. จัดต้งั ชมรมการเรยี นรู้ การทศั นศึกษา (Classes Outside the Classroom)
16. พิจารณาใช้รปู แบบหอ้ งเรียนกลบั ดา้ น (Consider a Flipped Classroom Model)
17. สร้างสภาพแวดลอ้ มการเรียนรูท้ ่ยี ดื หยุ่น (Create Flexible Learning

Environments)
18. จำลองและส่งเสริมพฤตกิ รรมท่กี ล้าหาญ (Model and Promote Fearless

Behavior)
19. นำแนวทางการจดั การทไ่ี ม่มีลำดับชั้นมาใช้ (Adopt a Non-Hierarchical

Management Approach)
20. ส่งเสรมิ การสอนผา่ นเทคโนโลยีเสมือนจริง (Teaching through Virtual Reality)
21. ส่งเสริมสภาพแวดล้อมท่เี ปน็ มิตรกบั คำถาม (Foster a Question-Friendly

Environment)
22. ส่งเสริมการคิด เพ่อื การแข่งขันใหมอ่ ีกรอบ (Rethink Competition)
23. สง่ เสริมการใชก้ ระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Use The Design-Thinking Process)
24. การเรียนรู้จากการวจิ ัย การเรยี นรู้โดยใช้ปญั หา
25. ใชเ้ วลาเป็นเคร่ืองมอื และพื้นทใ่ี นการสรา้ งสรรค์ (Use Tools to Create Time

and Space to Innovate)


132

26. สรา้ งสภาพแวดลอ้ มที่เออ้ื อาทรและการยอมรบั (Create a Compassionate,
Accepting Environment)

27. สร้างแบบจำลองความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นห้องเรียน (Model Creativity in the
Classroom)

28. เทคนิคการตัง้ คำถามทา้ ทายให้คิดอย่างสร้างสรรค์
29. สง่ เสรมิ ใหพ้ นักงานของคณุ คิดเก่ียวกบั ปญั หายาก ๆ (Empower your

Employees to Think about Tough Problems)
30. ให้อำนาจแก่พนกั งานในการตัดสินใจและดำเนนิ การ (Empower your

Employees to Make Decisions and Take Action)
31. ทำใหบ้ ุคลากรเหน็ เหตุผลท่เี พยี งพอที่จะให้ความใส่ใจ (Give your Staff a Reason

to Care)
32. ทดลองทำกิจกรรมทีน่ ักเรียนไดฝ้ ึกความคิดสรา้ งสรรค์ (Experiment with

Activities Where Students Can Practice Creative Thinking)
33. ส่งเสรมิ การพัฒนากลยุทธน์ วัตกรรม – และใช้มนั (Develop an Innovation

Strategy - and Use It)
34. สง่ เสรมิ การระดมความคดิ เพอื่ สร้างสรรคน์ วัตกรรม (Brainstorm Ideas

for Innovation)
35. มกี ารตัดสนิ เลอื กความคิด ที่สามารถนำไปใชไ้ ด้จริง (Judge the Ideas)
36. ส่งเสริมมุมมองทางเลอื ก และแนวคดิ ทีจ่ ะดำเนินการ (Empower Ideas to

be Executed)
37. ส่งเสริมใหค้ นของคุณคิดเกี่ยวกับนวตั กรรมในแต่ละวัน (Encourage your People

to Think about Innovation on a Daily Basis)
38. สรา้ งการยอมรบั ความลม้ เหลวและทำใหเ้ ปน็ บรรทดั ฐาน (Accept Failure and

Make It the Norm)
39. ใหค้ วามสำคญั ความคิด ความรู้สกึ ทางจิตใจของบคุ ลากร (Ensure Staff

Psychological Safety)
40. ส่งเสรมิ พฒั นาความคิดสร้างสรรค์ของนกั เรียนในห้องเรยี น (Develop your

Students’ Creativity in the Classroom)
41. สง่ เสริมใหบ้ คุ ลากรทำส่งิ ที่สามารถทำได้เพือ่ ลบระเบียบการ (Do what You Can

to Remove the Red Tape)
42. สรา้ งคา่ นยิ มที่มีการพจิ ารณาปรับปรุงอยา่ งต่อเนื่องในองค์กร (Consider

Continual Improvement One of the Company’s Core Values)
43. ส่งเสริม สนบั สนนุ การอ่านหนังสือเก่ียวกบั ความคิดสร้างสรรค์ (Refer to Books

on Creativity)
44. สง่ เสรมิ การจดั สภาพแวดล้อมในห้องเรยี นที่กระตนุ้ การเรยี นรู้ (Stimulating

Classroom Environment)


133

45. สรา้ งการรับรูแ้ ละให้รางวัลกบั นวัตกรรมท่ปี ระสบความสำเรจ็ (Recognize and
Reward Successful Innovations)

46. ส่งเสรมิ การค้นหาและจงู ใจให้เกิดผ้ปู ระกอบการภายในองค์กร (Find and
Motivate Intrapreneurs)

47. เปดิ รับการร่วมสร้างสรรคแ์ ละเปิดโอกาสในการสร้างนวตั กรรม (Embrace co-
Creation and Open Innovation Opportunities)

48. ส่งเสริม สนบั สนุนเทคโนโลยแี ละวิธีการสอนทเ่ี ป็นนวตั กรรมใหม่ (Technology
and Innovative Methods of Teaching)

49. สร้างแรงบันดาลใจใหผ้ คู้ นแสดงความคดิ เห็น และสรา้ งนวตั กรรม (Inspire people
to Voice their opinions)

50. สง่ เสรมิ การสอนแบบจิก๊ ซอว์ (Jigsaws) เทคนิคการเรียนรแู้ บบร่วมมือ
51. สง่ เสรมิ นวัตกรรมในสถานท่ีทำงานโดยให้รางวัลกับความคดิ สรา้ งสรรค์ (Foster

Innovation in the Workplace by Rewarding Innovative Ideas)
52. สรา้ งความรู้ด้านการตลาด (Build Market Knowledge) ตระหนกั ถึงสิง่ ทผ่ี บู้ รโิ ภค

ตอ้ งการ
53. สร้างแนวคดิ ใหก้ ับบุคลากรท่วี ่า นวตั กรรมท่ีแทจ้ ริงตอ้ งอาศยั ความมุ่งม่นั และความ

อตุ สาหะ (True Innovation Takes Commitment and Perseverance)
54. ส่งเสรมิ การสอนอยา่ งสร้างสรรค์ (Creative Teaching) ใช้เครื่องมือช่วยกระตุน้

ความคดิ สรา้ งสรรค์
55. ขจดั ความเหนือ่ ยหนา่ ย ลดความเครยี ดของบุคลากรเป็นสงิ่ ทส่ี ำคญั สงู ทีส่ ุด เพ่อื การ

ทำงานให้ดีทส่ี ุด (Make Preventing Burnout a High Priority)
56. มีการออกแบบ จัดระเบียบสถานทที่ ำงานทเ่ี หมาะสมกับการสรา้ งนวัตกรรม

เพ่ือใหเ้ กดิ นวตั กรรมสูงสุด Organize your Office for Maximum Innovation)
57. สนับสนนุ อำนวยความสะดวก (Ease up) มีหอ้ งปฏิบัติการนวัตกรรมที่ทุ่มเท

ให้กับการสรา้ งสรรค์แนวคดิ ใหมๆ่ (Move into a New Space)
58. ส่งเสรมิ ใหบ้ คุ ลากรหยุดพกั เพือ่ ความสดชื่น คิดเกยี่ วกบั งานอดเิ รกใหม่

พกั ผ่อนสมองด้วยการทำกจิ กรรมอ่ืนๆ ที่สนใจ (Think About a New Hobby)
59. สร้างความรูด้ ้านการตลาด (Build Market Knowledge) ตระหนักถงึ สง่ิ ทผ่ี บู้ ริโภค

ตอ้ งการ มองหาความใกล้เคยี งของตลาด (Look for Market Adjacencies)
60. ใช้การหาปัญหา (Use Problem-Finding) เทยี บเทา่ กบั การค้นพบปญั หา กำหนด

ปัญหาและการแกป้ ญั หารว่ มกนั การหาปญั หาตอ้ งใช้วสิ ยั ทศั น์ทางปญั ญา
61. ส่งเสริมการพง่ึ พาตนเอง (Encourage Autonomy) ไม่เปน็ ผู้ตัดสนิ ว่างาน "ด"ี

คอื อะไร เพียงใหข้ อ้ เสนอแนะทส่ี ง่ เสริมการประเมนิ ตนเองของนกั เรียน
62. แนะนำบุคลากรให้เลือกทำโครงการขนาดเลก็ (Picking up Small Projects)

เปน็ การปูทางสำหรบั โครงการนวัตกรรมทีใ่ หญ่กวา่ และกวา้ งกวา่ ที่จะตามมา


134

63. ส่งเสรมิ การทำงานกับนกั นวตั กรรม (Work with Innovators) ให้ความสนใจ
กับแหลง่ ภายนอกทท่ี ำงานเกย่ี วกับปัญหาที่คล้ายคลงึ กนั โดยใช้เทคโนโลยีเปน็
สถานท่สี ำหรับการสื่อสารและการเขา้ ถึง

1.3 ขนั้ ตอนการพัฒนาพฤติกรรมการทำงานเชิงนวตั กรรม

1.3.1 Hattendorf (2014) ให้ขอ้ เสนอแนะข้ันตอนการพฒั นาพฤติกรรม
การทำงานเชงิ นวัตกรรม 6 ขัน้ ตอน ดังนี้
ขั้นตอนท่ี 1 สร้างแพลตฟอร์มทป่ี รับขนาดได้เพื่อความสำเร็จ
(Create a Scalable Platform for Success)
ขั้นตอนท่ี 2 ชกั ชวนบคุ ลากรในองค์กรของคณุ ให้มสี ว่ นร่วม
(Engage your Organization’s Employees)
ขน้ั ตอนที่ 3 สร้างเคร่อื งมอื การจดั การแนวคดิ
(Build an Idea Management Tool)
ขั้นตอนที่ 4 ม่งุ เน้นทีน่ วตั กรรมเปา้ หมาย
(Focus on Targeted Innovation)
ขั้นตอนท่ี 5 จัดการพจิ ารณาในภายหลงั ของนวตั กรรม
(Manage the Backend of Innovation)
ขั้นตอนที่ 6 ฉลองความสำเรจ็ ! (Celebrate Successes!)

1.3.2 Björling (2018) ให้ขอ้ เสนอแนะขัน้ ตอนการพัฒนาพฤติกรรมการทำงานเชิง
นวตั กรรม 5 ขนั้ ตอน ดังน้ี
ขั้นตอนที่ 1 เปดิ ใจรบั การเปลี่ยนแปลง (Be Open to Change)
ขั้นตอนที่ 2 เปิดรบั ความคิดสรา้ งสรรค์ (Embrace Creativity)
ขน้ั ตอนที่ 3 สง่ เสริมคดิ การใหญ่ (Think Big)
ขน้ั ตอนท่ี 4 ส่งเสริมแสดงความกล้าหาญทีจ่ ะคดิ ใหมอ่ ยเู่ สมอ
(Show Courage)
ขน้ั ตอนท่ี 5 คิดและลงมอื ปฏบิ ตั อิ ย่างรวดเร็ว (Think and Act Fast)

1.3.3 Ludema and Johnson (2019) ให้ข้อเสนอแนะขน้ั ตอนการพัฒนา
พฤตกิ รรมการทำงานเชิงนวตั กรรม 7 ขนั้ ตอน ดังน้ี
ขั้นตอนที่ 1 การตง้ั เป้าหมายท่ีชัดเจน (Clear Goal Setting)
ขนั้ ตอนที่ 2 การมอบหมายงานท่ีตรงกบั ความสนใจของแตล่ ะคนและ
ให้ความทา้ ทายในเชิงบวก
(Work Assignments that Match the Individual’s
Interests and Provide Positive Challenge)
ขั้นตอนที่ 3 การสร้างระบบการสื่อสารแบบเปิดที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ยน
ความคิด (Open Communication Systems)


135

ขน้ั ตอนท่ี 4 ใหข้ อ้ เสนอแนะคำตชิ มบอ่ ยคร้งั สร้างสรรค์ และสนบั สนุน
( Feedback that is Frequent, Constructive, and
Supportive)

ขน้ั ตอนท่ี 5 ให้รางวัลและการยกย่องท่ีเทา่ เทียมกนั และการมนี ำ้ ใจ
(Equitable and Generous Rewards and Recognition)

ขั้นตอนท่ี 6 การไม่มีระบบพิธรี ีตรองท่ไี มจ่ ำเป็น
(Absence of Unnecessary Bureaucracy)

ขน้ั ตอนที่ 7 สนบั สนุนการทำงานรว่ มกัน (Supportive Collaboration)

1.3.4 Molloy (2019) กล่าวถงึ ข้ันตอนการพัฒนาพฤตกิ รรมการทำงาน
เชิงนวัตกรรม 5 ข้นั ตอน คือ
ขั้นตอนที่ 1 มองหาโอกาสในการสรา้ งสรรคน์ วัตกรรม
(Spot Opportunities for Innovation)
ขั้นตอนท่ี 2 จดั ลำดับความสำคญั ของโอกาส (Prioritize Opportunities)
ขน้ั ตอนที่ 3 ทดสอบสิ่งทอ่ี าจเป็นนวตั กรรมของคุณ
(Test your Potential Innovations)
ขั้นตอนท่ี 4 สรา้ งการสนบั สนุนสำหรบั นวัตกรรมของคุณ
(Build Support for your Innovations)
ขนั้ ตอนท่ี 5 สง่ เสรมิ การเรยี นรู้จากความพยายามในการสร้างสรรคน์ วัตกรรม
ของตนเอง (Learn from your Innovation Efforts)

1.3.5 Boutelle (n. d.) กล่าวถงึ ขนั้ ตอนการพัฒนาพฤตกิ รรมการทำงาน
เชงิ นวัตกรรม 7 ขน้ั ตอน คือ
ขั้นตอนท่ี 1 ใหแ้ นวคิด ชีแ้ จงความท้าทายด้านนวัตกรรม
(Clarifying the Challenge)
ขน้ั ตอนที่ 2 ใช้การกำหนดคำถามท่จี ุดประกายความคิด
(Formulating the Questions)
ขั้นตอนท่ี 3 การสร้างแนวคดิ (Generating the Ideas)
ขน้ั ตอนที่ 4 วเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะห์แนวคิด
(Analyzing and Synthesizing Ideas)
ขั้นตอนที่ 5 การพฒั นาแนวคดิ (Developing Concepts)
ข้ันตอนท่ี 6 การทดสอบและการเลือกแนวคิด
(Testing and Selecting Concepts)
ขนั้ ตอนที่ 7 การสอื่ สารและความกา้ วหนา้
(Communicating and Advancing)


136

1.3.6 Walkowiak (n.d.) กล่าวถึงการพฒั นาพฤติกรรมการทำงาน
เชงิ นวัตกรรม 5 ขนั้ ตอน คือ
ข้นั ตอนที่ 1 ส่งเสรมิ วัฒนธรรมแห่งนวตั กรรม
(Foster a Culture of Innovation)
ข้ันตอนท่ี 2 ระบุความท้าทายและรวบรวมแนวคิด
(Identify Challenges and Collect Ideas)
ขน้ั ตอนที่ 3 ตรวจสอบความถกู ต้อง (Validate)
ข้ันตอนท่ี 4 นำไปใชแ้ ละขยายขนาด (Implement and Scale)
ขัน้ ตอนที่ 5 วดั ความพยายามของคณุ (Measure your Efforts)

2. ลักษณะท่ีแสดงถงึ พฤตกิ รรมการทำงานเชงิ นวัตกรรมที่คาดหวังใหเ้ กิดขึ้นกับ
นกั เรียน

ลักษณะที่แสดงถึงพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรม ที่คาดหวังให้เกิดขึ้นกับนักเรียน
พิจารณาได้จากแบบประเมินตนเองของนักเรียนท่ีเป็นผู้ได้รับผลจากการพัฒนาพฤติกรรมการทำงาน
เชิงนวัตกรรม มีลักษณะเป็นแบบประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง
นอ้ ย และน้อยท่สี ุด ซึ่งผูว้ ิจัยสร้างขน้ึ จากผลการศึกษาทัศนะเกีย่ วกับลักษณะทีแ่ สดงถึงพฤติกรรมการ
ทำงานเชิงนวัตกรรม จากทัศนะของ Oukes (2010), Bagley (2014), Newquist (2015), Patel
(2018), Hassi (2019) และ Day (n.d.) และผลการศึกษาทัศนะเกี่ยวกับการประเมินพฤติกรรมการ
ทำงานเชิงนวัตกรรม จากทัศนะของ ของ Messmann (2012), De Jong and Den Hartog (2019),
Samson (2020), Beest (n.d.) และ Kamp (n.d.) โดยแบบประเมินตนเองของนักเรียนดังกล่าวมี
“ข้อคำถาม” ที่แสดงถึงพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรม ที่คาดหวังให้เกิดขึ้นกับนักเรียน จำแนก
เปน็ รายดา้ น ดงั น้ี

ลกั ษณะที่แสดงถึงพฤตกิ รรมการทำงานเชิงนวัตกรรม ระดับความเห็นของ
ท่าน
ด้านความคดิ สรา้ งสรรค์
1) ฉนั เป็นคนทชี่ อบคดิ ว่าการทำงานจะดีขึ้นได้ 543 2 1
2) ฉนั เปน็ คนทมี่ องว่าปัญหาที่ซบั ซ้อนเปน็ สง่ิ ท่ีทา้ ทาย
3) ฉันเปน็ คนที่เกง่ ในการหาวิธแี ก้ไขปัญหาทมี่ ีอยู่
4) ฉันเป็นผทู้ ่ีสามารถเชอื่ มโยงแนวคดิ ใหม่กับแนวคดิ ท่ีมีอยเู่ ดิม (ของผอู้ น่ื )
5) ฉันเปน็ คนที่ชอบการทา้ ทายทีจ่ ะพัฒนาผลงานใหมๆ่ ตามความมงุ่ มนั่ ของ
ตนเอง
6) ฉนั เปน็ คนชอบสงสัยว่าจะปรับปรงุ งานได้อย่างไร
7) ฉนั เปน็ คนชอบค้นหาวธิ กี ารทำงาน เทคนิค หรือเครือ่ งมือใหม่ ๆ
เพอื่ ปรับปรงุ งาน
8) ฉันเปน็ คนชอบหาแนวทางใหมใ่ นการทำงาน


137

ระดับความเห็นของ

ลักษณะท่แี สดงถึงพฤตกิ รรมการทำงานเชงิ นวัตกรรม ทา่ น

543 2 1

9) ฉนั เปน็ คนชอบมองหาโอกาสในการปรบั ปรุงสงิ่ ต่างๆ

10) ฉนั เป็นคนชอบสรา้ งความคดิ ใหมๆ่ ทต่ี ่างจากธรรมเนยี มเดมิ

ด้านสร้างแรงจงู ใจภายใน

11) ฉันเป็นคนที่มองว่างานของตนเป็นสิ่งทีท่ า้ ทาย

12) ฉนั เปน็ คนทช่ี อบสนับสนนุ สำหรบั เพ่อื นทีม่ ีความคดิ สรา้ งสรรค์

13) ฉันเป็นคนที่มีความพยายามโน้มนา้ วใหผ้ อู้ น่ื ให้ความสำคญั กับนวัตกรรม

14) ฉนั เปน็ คนทช่ี อบแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การพัฒนางานกับเพื่อน

15) ฉนั เปน็ คนทช่ี อบถามคำถามทส่ี ำคญั

16) ฉันเป็นคนที่ทำให้สมาชกิ ในกลมุ่ มคี วามกระตือรือรน้ ในการมีความคดิ รเิ รมิ่

17) ฉนั เป็นคนทช่ี อบสง่ เสรมิ ความคดิ ใหมใ่ หก้ บั เพ่อื น เพ่ือให้ไดร้ ับการสนบั สนุน

ในการทำงาน

18) ฉนั เปน็ คนทช่ี อบโน้มน้าวผอู้ ืน่ เหน็ ถงึ ความสำคญั ของแนวคิดหรือวธิ แี กป้ ัญหา

ใหมๆ่

ด้านพฤตกิ รรมเชิงรกุ

19) ฉนั เป็นคนทพี่ ฒั นาตวั เองได้ เน้นการลงมอื ทำ

20) ฉันเป็นคนทม่ี คี วามอยากรอู้ ยากเหน็ ท่ไี ม่ร้จู กั พอ

21) ฉนั เปน็ คนทต่ี อ้ งการมีความสามารถในการแข่งขัน

22) ฉันเปน็ คนทม่ี คี วามพยายามในการพฒั นาส่ิงใหม่

23) ฉันเปน็ คนทช่ี อบคน้ หาแนวทางใหมใ่ นการดำเนนิ งาน

24) ฉนั เปน็ คนที่ถามความเห็นคนอนื่ เวลาคิดค้นส่ิงใหม่ๆ

25) ฉนั เปน็ คนทท่ี ราบถงึ ความก้าวหนา้ ในการฝกึ หดั ของตน ทำใหไ้ ดค้ ้นพบ

โอกาสใหมๆ่

26) ฉันเปน็ คนท่ีชอบนำความคดิ สรา้ งสรรค์มาใช้ในการทำงานอย่างเปน็ ระบบ

27) ฉนั เป็นคนทช่ี อบกำหนดเกณฑ์ความสำเร็จเพอื่ ให้เกดิ ความคดิ ใหมๆ่

ดา้ นเสรภี าพการทำงาน

28) ฉนั เปน็ คนที่เปิดกวา้ งทจี่ ะรบั สิ่งใหม่ ซึง่ เป็นส่วนหนง่ึ ของความรับผดิ ชอบใน

งานของตน

29) ฉนั เปน็ คนทีค่ ิดว่ามเี วลาพอทจ่ี ะคดิ สงิ่ ใหม่ๆ

30) ฉันเป็นคนทีไ่ ดร้ ับการยอมรับสำหรบั ความคดิ สรา้ งสรรค์ หรือคดิ อะไรใหมๆ่

31) ฉันเป็นคนที่ชอบแสดงความคดิ เหน็

ด้านการพ่ึงพาตนเอง

32) ฉันเป็นคนที่คิดว่าตวั เองเกง่ ในการทำงานต่างๆของตน

33) ฉนั เป็นคนที่สามารถทำงานที่ไดร้ บั มอบหมายไดเ้ สรจ็ ตามกำหนด

34) ฉันเป็นคนท่ชี อบศึกษาเกีย่ วกับแนวคิด / ขอ้ มลู เชิงลึกใหมๆ่ ในสง่ิ ที่ตนเอง

สนใจ

35) ฉันเปน็ คนทช่ี อบศกึ ษาหาความรเู้ กี่ยวกบั การพฒั นาใหม่ๆ ทั้งในห้องเรยี น

และนอกห้องเรียน


138

ลกั ษณะทแี่ สดงถงึ พฤตกิ รรมการทำงานเชงิ นวตั กรรม ระดบั ความเหน็ ของ
ทา่ น
ดา้ นการยอมรับความเส่ยี ง
36) ฉันเปน็ คนทพี่ ร้อมจะเสยี่ งกบั งานทท่ี ำ 543 2 1
37) ฉนั เป็นคนที่ชอบความทา้ ทาย ถงึ แม้จะเปน็ การเสีย่ งตอ่ ความลม้ เหลว
38) ฉนั เป็นคนท่กี ล้าเส่ียงเพื่อสรา้ งนวตั กรรม
39) ฉันเป็นคนท่ีชอบรูส้ ึกวา่ ไมใ่ ชท่ กุ งานท่ีตนเองเขา้ รว่ มจะประสบ
ความสำเรจ็
40) ฉนั เป็นคนทช่ี อบวิเคราะห์วธิ ีแกป้ ญั หาเก่ียวกบั ผลกระทบทีไ่ มพ่ ึง
ประสงค์ เพื่อนำแนวคดิ ไปปฏิบตั ิ

3. ตัวอย่างภาพท่ีแสดงนยั ถึงพฤตกิ รรมการทำงานเชิงนวัตกรรม

Source: https://is.gd/CPK45R Source: https://bit.ly/3JAzpVB

Source: https://is.gd/KD4PlS Source: https://is.gd/DJdgIJ

Source: https://is.gd/QB5Z78 Source: https://is.gd/tLywLk


139

Source: https://is.gd/7rRqzT Source: https://is.gd/D5JPLn

Source: https://is.gd/8RHUp0 Source: https://is.gd/EKZXEO

Source: https://is.gd/GPOuzw Source: https://is.gd/ibj2G1

Source: https://is.gd/q9c1mB Source: https://is.gd/rjtiHf


140

4. แบบประเมนิ ตนเองของครถู งึ ระดับการนำแนวการพฒั นาไปปฏบิ ตั ิ

หลังจากปฏิบัติการพัฒนาพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรมของนักเรียนสิ้นสุดลง ตาม
ระยะเวลาที่กำหนดแลว้ ขอความกรุณาท่านโปรดประเมินตนเองถึงระดับการนำแนวการพัฒนาไปใช้
ในการพัฒนาพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรมของนักเรียน จาก Google Form ตามลิงค์หรือ QR
Code ข้างลา่ งน้ีดว้ ย จกั ขอบพระคณุ ยิ่ง

https://forms.gle/2CwJ1W7VXTNua7Fx7

QR CODE
5. แบบประเมนิ ตนเองของครถู งึ การเลือกรปู แบบข้ันตอนการพฒั นาไปปฏบิ ัติ

หลังจากปฏิบัติการพัฒนาพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรมของนักเรียนสิ้นสุดลง ตาม
ระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ท่านได้เลือกรูปแบบขั้นตอนการพัฒนาไปปฏิบัติอย่างไร ? ขอความกรุณา
ท่านโปรดให้ความเห็นใน Google Form ตามลงิ ค์หรือ QR Code ข้างลา่ งนดี้ ้วย จักขอบพระคุณยง่ิ

https://forms.gle/K2T5Rwc891NXJR6n9

QR CODE


141

6. แบบสะทอ้ นผลจากการพฒั นาพฤตกิ รรมการทำงานเชงิ นวัตกรรมของนกั เรยี น

หลังจากปฏิบัติการพัฒนาพฤติกรรมการทำงานเชิงนวัตกรรมของนักเรียนสิ้นสุดลง ตาม
ระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ขอความกรุณาท่านโปรดให้ความเหน็ ในประเด็นต่าง ๆ จาก Google Form
ตามลงิ คห์ รือ QR Code ข้างลา่ งนีด้ ว้ ย จักขอบพระคุณยงิ่

https://forms.gle/RcXoZUmhBHbhhUD97

QR CODE


142


Click to View FlipBook Version