เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร
1.1 ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร
ปัจจุบนั เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารมีบทบาทมาก เช่น มีการใชค้ อมพิวเตอร์ในการทางาน ใช้
อินเตอร์เน็ตเพอื่ สืบคน้ ขอ้ มูล หรือรับส่งขอ้ มูลระหวา่ งกนั ตลอดใชโ้ ทรศพั ทเ์ คร่ืองท่ี(mobile phone) หรือ
โทรศพั ทม์ อถือในการติดต่อส่ือสารองคก์ รท้งั ภาครัฐและเอกชนไดน้ าเทคโนโลยสี ารสนเทศ และการสื่อสารเขา้
มาใชง้ าในทุกระดบั ช้นั ขององคก์ ร
คาวา่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology : IT) เรียกยอ่ วา่ “ไอที” ประกอบดว้ ยคาวา่ เทคโนโลยี
“เทคโนโลย”ี และคาวา่ “สารสนเทศ”นามารวมกนั เป็น“เทคโนโลยสี ารสนเทศ” และคาวา่ เทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสารหรือที่เรียกยอ่ วา่ “ไอซีที” ประกอบดว้ ยคาที่มีความหมายดงั น้ี
เทคโนโลย(ี Technology) หมายถงึ การนาความรู้ดา้ นวิทยาศาสตร์มาประยกุ ตใ์ นการพฒั นาเครื่องมือ
เครื่องใช้ อปุ กรณ์ วธิ ีการและกระบวนการ
สารสนเทศ(Information) หมายถึง ผลลพั ธ์ท่ีเกิดจากการนาขอ้ มูลผา่ นกระบวนการต่างๆ อยา่ งมีระบบ
เทคโนโลยสี ารสนเทศ หมายถงึ การนาความรู้ทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์มาประยกุ ตใ์ ชเ้ พื่อสร้างหรือจดั การ
สารสนเทศอยา่ งเป็นระบบและรวดเร็ว โดยอาศยั เทคโนโลยที างดา้ นคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ตามแผน่ แม่บท เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารประเทศไทย
พ.ศ. 2545-2549 หมายถึงเทคโนโลยเี กี่ยวขอ้ งกบั ขา่ วสารขอ้ มูลและการส่อสารนบั ต้งั แต่การสร้าง การนามา
วิเคราะหห์ รือการประมวลผล
นวตั กรรม หมายถึงการทางานสิ่งต่างๆ ดว้ ยวิธีใหม่ๆ และยงั อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางความคิด การผลิต
กระบวนการ หรือองคก์ ร ไม่วา่ การเปล่ียนน้นั จะเกิดข้ึนจากการปฏิวตั ิ การเปลี่ยนอยา่ งถอนรากถอนโคน หรือ
การพฒั นาต่อยอด ท้งั น้ี มกั มีการแยกแยะความตกต่างอยา่ งชดั เจน ระหวา่ งการประดิษฐค์ ิดคน้ ความคิดริเร่ิม
และนวตั กรรม อนั หมายถึงความริเร่ิมท่ีนามาประยกุ ต์
1.2 องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศ เป็นระบบที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทางานโดยใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสาร ระบบสารสนเทศประกอบดว้ ย
1.2.1 ฮาร์ดแวร์ ( hardware ) หมายถงึ ตวั เครื่องคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์ต่อพว่ งต่างๆ เช่น คียบ์ อร์ด (
keyboand ) เมาส์ ( mouse ) จอภาพ ( monitor ) เป็นตน้ รวมท้งั อปุ กรณ์ส่ือสารสาหรับเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เขา้
เป็นเครือขา่ ย เช่น โมเดม็ ( modem ) และ สายสญั ญา
1.2.2 ชอฟต์แวร์ ( soflware ) หมายถงึ โปรแกรมหรือชุดคาสงั่ ( instruction ) ท่ีใช่ควบคุมการทางานของ
เครื่องคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์ต่อพว่ งต่างๆ ชุดคาสงั่ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
ซอฟต์แวร์ระบบ ( system software ) หมายถึง ชุดคาสง่ั ที่ทาหนา้ ท่ีควบคุมการทางานของเครื่อง
คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพว่ งต่างๆ และทาหนา้ ท่ีเป็นตวั กลางระหวา่ งผใู้ ชก้ บั คอมพิวเตอร์ ซอฟตแ์ วร์ระบบ
แบ่งออกเป็ น
1) ระบบปฏบิ ตั กิ าร ( Operating System: OS ) เป็นซอฟตแ์ วร์ท่ีทาหนา้ ท่ีควบคุมการทางานของ
อุปกรณ์และซอฟตแ์ วร์ท้งั หมดภายในคอมพิวเตอร์ ตวั อยา่ งระบบปฏิบตั ิการ เช่น วนิ โดวส์ (Windowns ) ลินุกซ์
( Linux ) และ แมคโอเอส ( Mac OS )
2) โปรแกรมอรรถประโยชน์ ( utilities program ) เป็นโปรแกรมที่ช่วยเสริมการทางานของคอมพวิ เตอร์
หรือช่วยเสริมการทางานอื่นๆใหม้ ีความสามารถใช่วานไดส้ ะดวกและรวดเร็วยงิ่ ข้ึน
3)โปรแกรมขบั อปุ กรณ์ หรือดไี วซ์ไดร์ฟเวอร์ ( device driver ) เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการติดต้งั ระบบ
เพอ่ื ใหค้ อมพวิ เตอรืสามารถติดต่อหรือใช่งานอุปกรณ์ต่างๆ
4) โปรแกรมแปลภาษา เป็นโปรแกรมที่ทาหนา้ ท่ีแปลโปรแกรมท่ีเขียนข้ึนดว้ ยภาษาคอมพวิ เตอร์ระดบั สูงให้
เป็นรหสั ท่ีอยใู่ นรูปแบบท่ีเคร่ืองคอมพวิ เตอร์สามารถทางานได้ ดงั รูปท่ี 1.9 ตวั อยา่ งตวั แปลภาษา เช่น ตวั
แปลภาษาจาวา ตวั แปลภาษาซี
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software) หมายถึง ชุดคาสงั่ ที่เขียนข้ึนเพอ่ื ใหเ้ คร่ืองคอมพวิ เตอร์ทางานตาม
วตั ถุประสงคเ์ ฉพาะอยา่ ง ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตอ์ าจเขียนข้ึนโดยใชโ้ ปรแกรม ภาษาคอมพิวเตอร์ เช่น เบสิก
(Basic) ปาสคาล (Pascal) โคบอล (Cobol) ซี (C) ซีพลสั พลสั (C++) และจาวา (Java) ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตแ์ บ่ง
ตามกลุ่มการใชง้ านไดด้ งั ตารางท่ี 1.1
1.2.3 ข้อมูล (data) ขอ้ มูลจะถูกรวบรวมและป้อนเขา้ สู่เคร่ืองคอมพิวเตอร์โดยผา่ นอปุ กรณ์ของหน่วยรับเขา้
เช่น คียบ์ อร์ด เมาส์ และสแกนเนอร์ (scanner) ขอ้ มูลตอ้ งมีโครงสร้างในการจดั เกบ็ ท่ีเป็นระบบเพื่อการสืบคน้ ที่
รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ขอ้ มูลจะถูกจดั เกบ็ อยใู่ นหน่วยความจา (memory unit) ก่อนท่ีจะถูกยา้ ยไปเกบ็ ท่ี
หน่วยเกบ็ ขอ้ มูล (storage unit) เช่น ฮาร์ดดิสก์ และแผน่ ซีดี (Compact Disc: CD)
1.2.4 บุคลากร (people) บุคลากรเป็นองคป์ ระกอบท่ีสาคญั ท่ีสุดของระบบสารสนเทศ ในท่ีน้ีหมายถึงบุคลากร
ท่ีเป็นผใู้ ชร้ ะบบสารสนเทศ ดงั รูปที่ 1.11 บุคลากรที่เป็นผพู้ ฒั นาระบบสารสนเทศ จะตอ้ งมีความรู้ความสามารถ
ในการพฒั นาระบบสารสนเทศใหม้ ีประสิทธิภาพใหส้ ามารถทางานไดต้ ามความตอ้ งการของผใู้ ชใ้ ชง้ ่ายและ
สะดวก ส่วนผใู้ ชต้ อ้ งมีความรู้ ความเขา้ ใจ และมีความสามารถในการใชง้ านระบบสารสนเทศและการสื่อสาร
ต่างๆ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งจึงจะเกิดสารสนเทศท่ีเป็นประโยชน์
1.2.5 ข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน (procedure) ระบบสารสนเทศตอ้ งมีข้นั ตอนการปฏิบตั ิงานท่ีเป็นลาดบั ข้นั
ชดั เจน เพือ่ ใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถเขา้ ใจไดง้ ่าย และดาเนินงานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ท้งั ในสถานการณ์ปกติและ
สถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ข้นั ตอนการบนั ทึกขอ้ มูล ข้นั ตอนการทาสาเนาขอ้ มูล ข้นั ตอนการปฏิบตั ิเมื่อขอ้ มูล
ไดร้ ับความเสียหาย หรือเม่ือเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ เกิดการชารุดเสียหาย ข้นั ตอนต่างๆ เหล่าน้ี
ควรไดร้ ับการรวบรวมและจดั ทาใหเ้ ป็นรูปเล่ม
นางสาวชุติกาญจน์ พนั ธ์เทียม ม.4/9 เลขที่14