รวมไฟล์ผู้ส่งผลงานเข้าระกวด

บนั ทึกหลังการเรียนการสอน (ร่องรอยหลักฐาน)

รายวชิ า…พระพทุ ธศาสนา……ช่ือพระสอนศี ลธรรม……พ…ระ…มห…า.ร.…งั ส…ร…รค…์ …จน...ทฺ …โ…สภ…โ…ณ…..……………

เร่อื งท่ีสอน…นิ…ทา…น…ธร…ร…ม…ะจ…าก…ส…่ือ…ออ…น…ไล…น…์ ผ…า่ น…ย…ทู …ปู …………………………………………………………………

วนั /เดอื น/ปี ท่ีสอน…2…6 …มิถ…นุ …าย…น…2…5…65………………………ระดับชั้น…ม…ัธ…ย…มศ…ึก.…ษา…ต…อน…ต…น้ …………………

๑ สาระความรู้สําคัญท่ตี กตะกอนอย่กู ับผูเ้ รยี น ๕ ส่ิงท่ผี สู้ อนคิดวา่ เป็นจดุ แข็งของการจดั การ
ระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
เรียนการสอนครงั้ น้ี
นั กเรยี นดสู ื่อออนไลน์ ทเ่ี ตรยี มไว้
ทาํ ให้นั กเรยี นสนใจทอ่ี ยากเรยี น อยากฟังะรรมะมากข้นึ

๒ ทกั ษะ/ความสามารถท่เี กิดข้ึนกับผู้เรียน ๖ ส่ิงท่ผี ู้สอนตอ้ งพัฒนาในการสอนครงั้ น้ี
ระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
นั กเรยี นรว่ มกนั สรุปเน้ื อหาท่เี รยี นรู้

ส่ือการเรยี นการสอนไม่เพียงพอ

๓ คุณธรรม / คุณค่าท่เี กิดข้ึนกบั ผู้เรียนระหวา่ ง
หรือหลังจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
เกิดความรูค้ วามเข้าใจ ในหลกั ธรรมะทน่ี ํ าเสนอ

๔ การจัดการเรยี นการสอนบรรลตุ ามวตั ถุประสงค์ ๗ ผสู้ อนไดเ้ รยี นรูอ้ ะไรบา้ งจากการจดั การเรยี น
การเรียนรู้ (K-S-A) ท่กี าํ หนดไว้หรือไม่ อยา่ งไร
รู้ครงั้ น้ี
สําเรจ็ ตามวัตถปุ ระสงค์ สังเกตุจากนั กเรยี นสามารถเลน่
เรอื่ งทอ่ี า่ นมาแล้วได้เป็นอยา่ งดี การเข้าใจ การชว่ ยเหลอื กนั ของนั กเรยี น

ภาพกจิ กรรม

ลงชอ่ื …………………………………….. ลงชอ่ื ……………………………………..
(.....พ..ร..ะ..ม..ห...า.ร...งั .ส...ร..ร..ค...์ .จ..น..ท.ฺ ..โ..ส..ภ..โ..ณ...) (...................................................)
……/……….../….…………
ตาํ แหน่ งพระสอนศีลธรรม ……/………./……..………
ครูหัวหน้ าหมวดสังคมศึกษา

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรูพ้ ระพทธศาสนา

เร่อื ง…ก…าร…เร…ยี น…ร…ูว้ …ิถีช…า…วพ…ุท…ธ..………………กิจกรรม……แน…ว…ท…าง…ป…ระ…พ…ฤต…ติ .…าม…แ…บบ…ว…ิถ…ชี า…วพ…ุท…ธ…………..

๑ ๒๕๖๕นักเรียนระดบั ชั้น…ป…ร…ะถ…ม…ศึก…ษ…า…………………………ภาคเรียนท่ี… …ปีการศึ กษา……

๑เวลา… …..คาบ/ชม. โรงเรยี น…เ…ทศ…บ…า…ล…๒…ห…นอ…ง…บ…วั …ตาํ …บ…ลเ…วีย…ง…อ…าํ เ…ภอ…เ…มอื …ง…จ…งั ห…ว…ัดเ…ช…ยี ง…ร…าย.

ขอบเขตเนื้ อหาสาระ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

ความรูพ้ ื้นฐานสําหรบั ชาวพทุ ธ เป็นส่ิงท่ี ขั้นนําเข้าส่บู ทเรียน
ชาวพุทธทกุ ชว่ งวยั พึงจะตอ้ งเรยี นรู้
เพราะวา่ การเป็นชาวพุทธตอ้ งรูพ้ ื้นฐาน ๑.สวดมนต์ พรอ้ มทงั้ นั่งสมาธิ ๕ นาที ๒.พดู เกรน่ิ นํ าเก่ยี วกบั เนื้ อหาทจ่ี ะ
การปฏิบตั ิตนอยา่ งถกู ตอ้ งตาม หลักพระ สอนให้กบั เดก็ ๓.พดู คุย ให้เดก็ สนใจท่จี ะเรยี น เชน่ ให้เลน่ เกมสรา้ งสมาธิ
พุทธศาสนา สัก ๕ นาทแี ลว้ ค่อยเรม่ิ สอดแทรกเน้ื อหาความรูเ้ ข้าไป

วัตถุประสงค์การเรยี นรู้ ขั้นกิจกรรม

K ๑.สวดมนต์ พรอ้ มทงั้ นั่งสมาธิ ๕ นาที
เพ่ือเด็กจะได้เรยี นรูว้ ถิ ีชาวพทุ ธ ๒.พูดเกรน่ิ นํ าเก่ยี วกบั เนื้ อหาทจ่ี ะสอนให้กับเดก็
๓.พดู คุย ให้เด็กสนใจทจ่ี ะเรยี น เชน่ ให้เลน่ เกมสรา้ งสมาธสิ ัก ๕ นาทแี ลว้
S ค่อยเรม่ิ สอดแทรกเน้ื อหาความรูเ้ ขา้ ไป
เพ่ือให้เดก็ เข้าใจคําวา่ พทุ ธศาสนา ๔.อธบิ ายส่ิงทส่ี อนโดยใชค้ ําพูดท่งี า่ ยตอ่ การเขา้ ใจของเดก็
มากข้นึ ๕.ถามแลกเปล่ยี นความรูป้ ระสบการณ์กับเด็กๆให้กระชบั เวลา

A
เพื่อให้เด็กสามารถนํ าความรูท้ ่ไี ด้
รบั ไปปรบั ใชก้ บั การใชช้ วี ติ ได้

ส่ื อ/อุปกรณ์ ขั้ นสรุ ป

โน๊ ตบคุ ส่ือวีดีโอ เรอื่ งวิถชี าวพุทธสมา หลงั จากให้ความรูเ้ สรจ็ แล้ว ให้กลบั มาทวนความรูก้ บั เด็ก ว่าไดอ้ ะไร
ทโฟน สมุด ปากกา ดนิ สอ จากการทพ่ี ระอาจารยม์ าให้ความรูใ้ นครงั้ น้ี และจะนํ าไปปฏบิ ัติในการใช้
ชวี ิตประจาํ วนั อยา่ งไร
การประเมนิ ผล

ประเมนิ ผลหลังจากการให้เนื้ อหาสาระ
เกย่ี วกบั วิถีชาวพุทธ ท่ถี ูกต้องเพ่ือนํ าไป
ปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจําวนั

บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน (ร่องรอยหลักฐาน)

รายวิชา…พระพทุ ธศาสนา……ช่ือพระสอนศี ลธรรม……พ…ระ…ยอ…ด..ช…าย…ว…ร…ญ…าโ.ณ..……………..……………

เรื่องท่ีสอน…วถิ …ขี …อง…ช…าว…พ…ุทธ…………………………………………………………………………………………………

วนั /เดือน/ปี ท่สี อน…2…8 …มิถ…นุ …าย…น…3…1…08………………………ระดบั ชั้น…ป…ร…ะถ…ม…ศ.ึก…ษ…า…………………………

๑ สาระความรู้สําคัญท่ตี กตะกอนอยกู่ บั ผู้เรียน ๕ ส่ิงท่ผี ู้สอนคิดว่า เป็นจุดแข็งของการจดั การ
ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู ้
เรยี นการสอนครงั้ น้ี
การปฏิบตั ติ นท่ถี กู ต้องตามแบบวิถขี องชาวพทุ ธ
ความรู้ ความเขา้ ใจ ในเนื้ อหาท่สี อน

๒ ทักษะ/ความสามารถท่เี กิดข้ึนกบั ผเู้ รียน ๖ ส่ิงท่ผี ู้สอนตอ้ งพัฒนาในการสอนครงั้ น้ี
ระหว่างการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
การมสี มาธิ การส่ือสาร การประพฤติ

๓ คุณธรรม / คุณค่าท่เี กดิ ข้ึนกับผู้เรียนระหว่าง ตอ้ งมีสติ และมีสมาธิ ในการสอนให้มากข้นึ
หรอื หลังจากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
การท่เี รามสี ติ และสมาธิ ในการ ทําส่ิงใดส่ิงหน่ึ ง เป็นส่ิงท่ี ๗ ผู้สอนไดเ้ รียนรู้อะไรบ้างจากการจดั การเรยี น
เดก็ ทกุ คนพึงคํานึ งถึง
รูค้ รงั้ น้ี
๔ การจดั การเรยี นการสอนบรรลตุ ามวัตถุประสงค์
การเรยี นรู้ (K-S-A) ท่กี าํ หนดไวห้ รือไม่ อย่างไร ได้เรยี นรูว้ า่ เดก็ สมยั ใหม่ ไมค่ ่อยมคี วามรูด้ ้านพทุ ธศาสนา
๘๐ เปอรเ์ ซน็ ต์ ท่เี ดก็ สามารถเข้าใจในส่ิงท่คี รูพระสอนศีล จงึ ทาํ ให้พระสอนศีลธรรม ได้มบี ทบาทหน้ าท่ี ทจ่ี ะชว่ ยแก้ไข
ให้ความรูไ้ ป และอีก๒๐เปอรเ์ ซน็ ต์ คือเด็กทด่ี อ้ื ไมค่ ่อย ปัญหาในส่ วนน้ี
สนใจเอาแต่เลน่ อย่างเดยี วจงึ ไม่เขา้ ใจในส่ิงทค่ี รูพระสอน
ศีลธรรมอธบิ ายไป

ภาพกิจกรรม

ลงชอื่ …………………………………….. ลงชอื่ ……………………………………..
(.....พ..ร..ะ..ย..อ..ด...ช..า.ย....ว..ร..ญ...า.โ..ณ...............) (...................................................)
……/……….../….…………
ตาํ แหน่ งพระสอนศีลธรรม ……/………./……..………
ครูหัวหน้ าหมวดสังคมศึกษา

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้พระพทธศาสนา

เร่อื ง…พ…ระ…รตั…น…ต…ร…ยั …แล…ะ…ศ…รทั ..…ธษ…๔…………กิจกรรม……พ…ระ…รตั…น…ต…ร…ยั …แล…ะ.…ศร…ทั …ธ…ษ…๔……………………..

๑ ๒๕๖๕นักเรยี นระดบั ชั้น…ป…ร…ะถ…ม…ศึก…ษ…า…………………………ภาคเรยี นท่…ี …ปีการศึ กษา……

๑เวลา… …..คาบ/ชม. โรงเรียน…อ…น…บุ …าล…ร…ะแ…งะ…………………………………………………………….

ขอบเขตเน้ื อหาสาระ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

ให้นั กเรยี นได้รูว้ ่าท่มี าของพระรตั นตรยั ขั้นนําเข้าส่บู ทเรียน
และศรทั ธา๔
ให้นั กเรยี น ไหวพ้ ระสวดมนต์ เสรจ็ แลว้ ให้เด็กดรู ูปภาพพระพทุ ธเจ้า และ
รูปพระธรรม และพระสงฆ์ แลว้ ถามเด็กว่า รูปจกั หรอื ไม่

วตั ถุประสงค์การเรียนรู้ ขั้นกิจกรรม

K แบง่ กลุ่มนั กเรยี นออก เป็นกลุ่มๆ แล้วให้นั กเรยี นแต่ละกล่มุ
นเพื่อให้นั กเรยี นรูค้ วามหมายและ ศีกษาหาความรูค้ วามหมายของพระรตั นตรยั
ทม่ี าของพระรตั นตรยั และศรทั ธา๔ และศรทั ธา๔ จากหนั งเสือเรยี น เสรจ็ แลว้ ให้แต่ละกล่มุ ออกมานํ าเสนอ
หน้ าชน่ เรยี น และจัดให้มีการทาํ ไบงาน
S
ทาํ ให้นั กเรยี น มคี วามกล่างท่จี ะ
แสดงออก ในทาง พระรตั นตรยั

A

เพ่ือให้นั กเรยี น มคี ุณธรรมประจาํ
ใจ เชน่ เชอ่ื ฟังครูบาอาจารย์ และ
คุณพ่อคุณแม่ เป็นตน้

สื่อ/อปุ กรณ์ ขั้ นสรุ ป

หนั งสืเรยี นพระพทุ ธศาสนา และ ครูกบั และนั กเรยี นรว่ มกนั สรุปความหมาย เรอ่ื งพระรตั นตรยั และ
บตั รภาพ PowerPoint ศรทั ธา๔

การประเมินผล

ประเมนิ จากไบงาน และ ประเมนิ
จากพฤติกรรมการทํางานกลุม่

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน (รอ่ งรอยหลักฐาน)

รายวชิ า…พระพุทธศาสนา……ช่ือพระสอนศี ลธรรม……พ…ระ…อร…ุณ..ร…ชั …ช์…อํส…ุธ…ม.โฺ ..ม……………..……………

เรื่องท่สี อน…ท…่มี า…แ…ละ…ค…วา…มห…ม…า…ยข…อ…งพ…ร…ะร…ตั …น…ตร…ยั …แ…ละ…ศ…ร…ทั …ธา…๔…………………………………………………

วนั /เดือน/ปี ท่ีสอน…2…0 …มิถ…ุน…าย…น…2…5…65………………………ระดับชั้น…ป…ร…ะถ…ม…ศ.ึก…ษ…า…………………………

๑ สาระความรู้สําคัญท่ตี กตะกอนอย่กู บั ผเู้ รียน ๕ ส่ิงท่ผี ู้สอนคิดวา่ เป็นจดุ แข็งของการจัดการ
ระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
เรียนการสอนครงั้ น้ี
นั กเรยี นสามารถนํ าความรูท้ ่ไี ดไ้ ปไชใ่ นชวี ปิ ระจําวันและนํ า
ไปบอกต่อเพ่ือ สืบทอดพระพุทธศาสนาและนํ าหลกั ธรรมคํา ผสู้ อนมีความเข้าใจและมงุ่ มนั่ ในการถ่ายทอดความรูใ้ ห้
สอน ไปไชใ่ นชวี ิตประจาํ วัน นั กเรยี น

๒ ทกั ษะ/ความสามารถท่เี กดิ ข้ึนกับผ้เู รยี น ๖ ส่ิงท่ผี ้สู อนตอ้ งพัฒนาในการสอนครงั้ น้ี
ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ทาํ ให้นั กเรยี นมวี นิ ั ย

๓ คุณธรรม / คุณค่าท่เี กิดข้ึนกับผ้เู รยี นระหว่าง อธบิ ายและยกตวั อยา่ งในส่ิงไกลต้ ัวเพื่อให้นั กเรยี น
หรอื หลังจากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เข้าใจ้งา่ ยมากข้นึ
นั กเรยี นมวี ินั ย มคี วามรบั ผดิ ชอบ และตรงต่อเวลา

๔ การจัดการเรยี นการสอนบรรลตุ ามวัตถุประสงค์ ๗ ผ้สู อนไดเ้ รยี นรู้อะไรบ้างจากการจัดการเรยี น
การเรยี นรู้ (K-S-A) ท่กี ําหนดไว้หรือไม่ อยา่ งไร
รูค้ รงั้ น้ี
บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ นั กเรยี นสามารถ บอกความหมายของ
พระรตั นตรยั และ ศรทั ธา๔ ได้ ความหมาย และท่มี าของพระรตั นตรยั และศรทั ธา ๔

ภาพกิจกรรม

ลงชอ่ื …………………………………….. ลงชอื่ ……………………………………..
(.....พ..ร..ะ..อ..ร..ุณ...ร...ชั ..ช..์ .อ..สํ ..ธุ..ม...ฺโ.ม..............) (...................................................)
……/……….../….…………
ตําแหน่ งพระสอนศีลธรรม ……/………./……..………
ครูหัวหน้ าหมวดสังคมศึกษา

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรูพ้ ระพทธศาสนา

เรื่อง…ส…ติ …สัม…ป…ช…ญั …ญ…ะ ………..………………กิจกรรม……ห…าง…เส…ือ…………….…………………………………..

๑ ๒๕๖๕นักเรียนระดับชั้น…ป…ร…ะถ…ม…ศึก…ษ…า…………………………ภาคเรยี นท่ี… …ปีการศึ กษา……

๑เวลา… …..คาบ/ชม. โรงเรยี น…บ…า้ …นน…า…เก…ต…ุ …………………………………………………………….

ขอบเขตเนื้ อหาสาระ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

สติ สัมปชญั ญะ คือ นามธรรม ท่เี รามีกัน ขั้นนําเข้าส่บู ทเรยี น
อยทู่ กุ คน ในทกุ อิรยิ าบท ยืน เดนิ นั่ง
นอน กิน ดืม่ พดู คิด เราตอ้ งจําได้และ ไหว้พระ สวดมนต์ ทําสมาธิ พูดคุยหลกั ธรรม หางเสือทางธรรมคืออะไร
รูต้ ัวอย่เู สมอในทกุ ๆการกระทําของเรา นํ าเข้ากิจกรรมฝึกสติ

วตั ถุประสงค์การเรียนรู้ ขั้นกจิ กรรม

K หลงั จากทาํ สมาธแิ ลว้ ก็เรม่ิ พูดคุยกับนั กเรยี น เรอ่ื งหางเสือ ทางธรรมมคี
นั กเรยี นได้รูจ้ กั วา่ สติสัมปชญั ญะ วามหมายเชน่ ไร นํ าเขา้ ส่กู ิจกรรมฝึกสติ
คืออะไร มีประโยชน์ เชน่ ไร

S
นั กเรยี นได้มพี ัฒนาการ ทางกาย
ทางวาจา ทางใจ ให้ดีข้นึ

A

นั กเรยี นไดร้ ูจ้ ักท่จี ะใชส้ ติ ในการ
รวบคุมตนเอง ทงั้ ด้านอารมณ์
ความรูส้ ึก และการรูจ้ ักแยกแยะได้
ในส่ิงท่เี ป็นถูกผดิ ดชี อบ

สื่อ/อปุ กรณ์ ขั้ นสรุ ป

การพดู คุย อธบิ าย กิจกรรมจาก ระหว่างทํากจิ นั กเรยี นได้มสี ่วนรว่ ม และรูว้ ่าตนเองทาํ ผดิ หรอื ทําถกู มี
การกระทํา ส่วนรว่ มระหว่างผสู้ อน สตอิ ยู่ หรอื เผลอเรอ หรอื พลาดเพราะสาเหตุจากอะไร
และนั กเรยี น

การประเมนิ ผล

80% นั กเรยี นมีส่วนรว่ มใน
กิจกรรม และเขา้ ใจในหลกั ธรรม
คือสติ สัมปชญั ญะไดม้ ากข้นึ

บนั ทึกหลงั การเรียนการสอน (รอ่ งรอยหลักฐาน)

รายวชิ า…พระพุทธศาสนา……ช่ือพระสอนศี ลธรรม……พ…ระ…ไอ…ศ.รู .…ย์ …ป…ิย…าจ…าโ..ร.……………..……………

เรอื่ งท่สี อน…ห…าง…เส…ือ…………………………………………………………………………………………………………

วัน/เดอื น/ปี ท่ีสอน…2…0 …พฤ…ษ…ภ…าค…ม…3…10…8……………………ระดบั ชั้น…ป…ร…ะถ…ม…ศ.ึก…ษ…า…………………………

๑ สาระความรู้สําคัญท่ตี กตะกอนอย่กู บั ผูเ้ รียน ๕ ส่ิงท่ผี ู้สอนคิดวา่ เป็นจุดแข็งของการจัดการ
ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
เรยี นการสอนครงั้ น้ี
สติ สัมปชญั ญะ เป็นนามธรรมท่เี รามองไมเ่ ห็น แต่เป็นส่ิงท่ี
มีอย่ใู นตวั เราทกุ คน และเราต้องใชเ้ ป็นแนวทางในการ นั กเรยี นมสี ่วนรว่ มและสนกุ ไปกับกิจกรรม การจัดกลมุ่
ดําเนิ นชวี ิตให้ถกู ต้องอย่เู สมอในทกุ เวลา นั กเรยี นในแตล่ ะระดับชนั้ เรยี นให้เหมาะสมตามจาํ นวน ฝึก
สตโิ ดยการบอกให้นั กเรยี นปฏิบัติตาม เชน่ หันไปทาวซา้ ย
๒ ทกั ษะ/ความสามารถท่เี กดิ ข้ึนกับผ้เู รยี น หันไปทาวขวา หันไปขา้ งหน้ า หันไปข้างหลงั หัวเราะพรอ้ ม
ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ กัน รอ้ งไห้พรอ้ มกนั ตบมอื พรอ้ มกัน หยดุ นั กเรยั นอาจหัน
การฟัง การปฏบิ ัตติ าม ความเขา้ ใจในกจิ กรรม ผดิ ทาง อาจทาํ พลาดในบางขนั้ ตอน นั่ นคือการบอกไดว้ า่

๖นักเรยี นพลาดเพราะเหตใุ ด
ส่ิงท่ผี สู้ อนตอ้ งพัฒนาในการสอนครงั้ น้ี

๓ คุณธรรม / คุณค่าท่เี กิดข้ึนกับผเู้ รยี นระหวา่ ง การจดั กลุ่มและจาํ นวนนั กเรยี นให้เหมาะสม ข้อตกลง
หรือหลังจากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ระหว่างผทู้ ท่ี าํ พลาดและทาํ ถูก เชน่ ตอ้ งยอมรบั เมือ่
สติ สัมปชญั ญะ มีอย่ใู นตวั เราทกุ คน เม่ือรูจ้ กั วา่ คืออะไร ก็ นั กเรยั นตอ้ งการให้มบี ทลงโทษเกดิ ข้นึ ซง่ึ ก็เป็นไปเพื่อ
จะใชใ้ นการดาํ เนิ นชวี ิตให้ดขี ้นึ ได้ ความบนั เทงิ ส่วนหน่ึ งในการเรยี นการสอนดว้ ยนั่นเอง

๔ การจัดการเรียนการสอนบรรลตุ ามวัตถุประสงค์ ๗ ผสู้ อนได้เรยี นรูอ้ ะไรบ้างจากการจดั การเรยี น
การเรียนรู้ (K-S-A) ท่กี ําหนดไวห้ รือไม่ อยา่ งไร
เรยี บรอ้ ยดี นั กเรยี นมีส่วนรว่ มในกิจกรรม ผสู้ อนไดเ้ รยี นรู้ รูค้ รงั้ น้ี
จากนั กเรยี น เราตา่ งเป็นครูของกันและกัน
ไดเ้ รยี นรูจ้ ากนั กเรยี น นั กเรยี นไดค้ วามรูจ้ ากเรา เราไดเ้ ป็น
ครูของกนั และกัน มคี วามเข้าใจท่ดี ตี อ่ กนั มากข้นึ

ภาพกจิ กรรม

ลงชอื่ …………………………………….. ลงชอื่ ……………………………………..
(.....พ..ร..ะ..ไ.อ...ศ..ูร..ย..์...ป..ิย..า..จ..า..โ.ร...............) (...................................................)
……/……….../….…………
ตาํ แหน่ งพระสอนศีลธรรม ……/………./……..………
ครูหัวหน้ าหมวดสังคมศึกษา