1 แบบจัดทำรายการเบื้องต้นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม แบบ มภ. ๒ ส่วนที่ ๑ ลักษณะของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ๑. ชื่อรายการ ภาษาโส้(โทรฺ) ชื่อเรียกในท้องถิ่น ภาษาโทรฺ ๒. ลักษณะของมรดกภูมิปัญญา วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏิบัติทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และงานเทศกาล ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล งานช่างฝีมือดั้งเดิม การละเล่นพื้นบ้าน ๓. พื้นที่ปฏิบัติ ชาติพันธุ์โส้(โทรฺ) อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร ได้แก่ ตำบลกุสุมาลย์ บ้านกุสุมาลย์ บ้านสำโรง บ้านอีกุด บ้านหนองหอยใหญ่ บ้านหนองหอยน้อย ตำบลนาโพธิ์ ได้แก่ บ้านเมืองเก่า บ้านโคกม่วง บ้านโคกสว่าง ตำบลโพธิไพศาล ได้แก่ บ้านโพธิไพศาล บ้านโพนแพง บ้านกุดสะกอย บ้านกุดฮู บ้านห้วยกอก บ้านหนองเค็ม บ้านโคกหนองผือ บ้านโคกกลาง ๔. สาระสำคัญของมรดกภูมิปัญญาโดยสังเขป ภาษาโส้(โทรฺ) เป็นภาษากลุ่มชาติพันธุ์ที่มีคนพูดอยู่จำนวนหนึ่งในอำเภอกุสุมาลย์ จังหวัด สกลนคร อำเภอโพนสวรรค์และอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ซึ่งมีแต่ภาษาพูดไม่มีภาษาเขียน ชาวโส้เรียกตนเองว่า “โทรฺ /tʰrɔ:/” แต่มีคำเรียกอื่นๆเรียกคำว่าโส้ โซ่ หรือ ข่ากะโซ่ ยังมีที่มาที่ไม่ ชัดเจน นักภาษาศาสตร์Gerard Difflloth (๑๙๗๖) อ้างใน Migliazza, ๑๙๘๘ : ๒) ได้จัดภาษาโส้อยู่ ในตระกูลออสโตรเอเชียติค สาขามอญเขมร สาขาย่อยกะตูอิคเหนือ และถือเป็นภาษาเก่าแก่ใน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สถานการณ์ภาษาโส้ในปัจจุบันอยู่ในลักษณะเป็นภาษาที่ใช้พูดอย่าง ไม่เป็นทางการแต่มีการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น (จัดอยู่ในระดับ ๖ ตามการจัดระดับภาษา Graded Intergeneration Disruptional Scale หรือ GIDS ของ Fishman,๑๙๙๑b.๑๒)
2 ๕. ประวัติความเป็นมา ประวัติชาวโส้(โทรฺ) อำเภอกุสุมาลย์มีต้นกำเนิดอพยพมาจากเมืองมหาชัยแขวงคำม่วน ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในราวปีพ.ศ. ๒๓๘๑ ราชวงศ์คำได้รับการแต่งตั้ง เป็นพระยาประเทศธานีเจ้าเมืองสกลนคร ได้นำกำลังไพร่พลไปเกลี้ยกล่อมเอาครอบครัวหัว เมืองลาวที่ค้างอยู่ที่ฟากฝั่งแม่น้ำโขงด้านทิศตะวันออกให้ข้ามมา เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสนับสนุนของ กองทัพญวณ ใน พ.ศ.๒๓๘๕ ท้าวโรงกลางบุตรเจ้าเมืองวัง ท้าวเพี้ยเมืองสูง ท้าวเพี้ยบุตรโคตรหัวหน้าข่า กะโซ่กับครอบครัวบ่าวไพร่ได้เข้ามาสู่พระบรมโพธิสมภารเป็นจำนวนมากและตั้งบ้านเรือนทำมาหา กินอยู่แถบฝั่งแม่น้ำโขงและรอบเมืองสกลนครในรัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. ๒๓๘๗ พระยาประเทศธานี นำหัวหน้าครอบครัวกลุ่มต่างๆ ลงไปเฝ้าสมเด็จพระ นั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่กรุงเทพมหานครและโปรดเกล้าให้ตั้งบ้านประขาวพันนาและบ้านกุสุมาลย์ โดยให้ท้าวโรงกลางเป็น พระเสนาณรงค์เจ้าเมืองพันนา ท้าวเพี้ยเมืองสูง เป็นหลวงอรัญอาสาเจ้า เมืองกุสุมาลย์ พระราชทานเครื่องยศตามตำแหน่งและให้ขึ้นตรงต่อเมืองสกลนคร ใน พ.ศ. ๒๔๑๙ ในรัชสมัยของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงโปรดเกล้า ให้ตั้งเมืองโพธิไพศาลนิคม ปัจจุบันเป็นตำบลโพธิไพศาล เพราะเกิดการขัดแย้งชิงตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยให้ท้าวขัตติยะ เป็นพระยาไพศาลสิมานุรักษ์เป็นเจ้าเมือง ซึ่งมีหลักฐานว่า ครั้นปีเถาะ นพศก จุลศักราช๑๒๓๔ พ.ศ ๒๔๑๕ พวกข่ากะโซ่ ในเมืองกุสุมาลย์มลฑล เกิดความขัดแย้งชิงตำแหน่งทางราชการ โดยมีท้าวขัตติยะ หัวหน้าข่ากะโซ่เป็นหัวหน้า ได้ร้องขอเมืองโพธิไพศาลเป็นเมืองขึ้นของเมืองสกลนคร โดยขอแยกตัวเมืองกุสุมาลย์มลฑล จึงโปรดเกล้าให้ท้าวขัตติยะเป็นพระยาไพศาลเสนานุรักษ์ ( บาง ตำราเรียกพระยาไพศาล-สิมานุรักษ์ ) เป็นเจ้าเมืองโพธิไพศาลนิคม (ต้นสกุลรันพิศาล) และขึ้นกับ เมืองสกลนครอีกเมืองหนึ่ง รับผูกส่วยผลเร่วอยู่กับเมืองสกลนคร( เติม วิพากวจนกิจ . ๒๕๑๓ :๓๑๘) ภายหลังเมื่อมีการปรับปรุงรูปแบบของการปกครองหัวเมือง ในรัชกาลที่ ๖ ใน พ.ศ. ๒๔๕๗ หัวเมืองสำคัญ เช่น เมืองกุสุมาลย์มลฑล เมืองโพธิไพศาลนิคม จึงถูกลดฐานะลงเป็นเพียงตำบลเท่านั้น ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ เมืองกุสุมาลย์ เป็นกิ่งอำเภอกุสุมาลย์ และเป็นอำเภอกุสุมาลย์ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ ส่วนเมืองโพธิไพศาลนั้นก็ยังเป็นตำบลโพธิไพศาล ขึ้นกับอำเภอกุสุมาลย์ จนถึงปัจจุบัน
3 แหล่งอาศัยของชาวโส้ ในเขตอำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร ได้แก่ ตำบลกุสุมาลย์ ได้แก่ บ้านกุสุมาลย์ บ้านสำโรง บ้านอีกุด บ้านหนองหอยใหญ่ บ้านหนองหอยน้อย ตำบลนาโพธิ์ ได้แก่ บ้านเมืองเก่า บ้านโคกม่วง บ้านโคกสว่าง ตำบลโพธิไพศาล ได้แก่ บ้านโพธิไพศาล บ้านโพนแพง บ้านกุดสะกอย บ้านกุดฮู บ้านห้วยกอก บ้านหนองเค็ม บ้านโคกหนองผือ บ้านโพนม่วง บ้านโคกกลาง ในเขตจังหวัดนครพนม ได้แก่ อำเภอโพนสวรรค์ อำเภอท่านอุเทน ๖. ลักษณะเฉพาะที่แสดงอัตลักษณ์ของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ลักษณะสำคัญของภาษาโส้ ภาษาโส้เป็นภาษาที่อยู่ในตระกูลออสโตรเอเชียติค สาขามอญ-เขมร สาขาย่อยกะตูอิคเหนือ มีลักษณะสำคัญดังนี้ ๖.๑. เป็นภาษาที่ไม่มีหน่วยเสียงวรรณยุกต์แบ่งความหมาย ๖.๒ มีโครงสร้างไวยากรณ์ แบบ SVO ( ประธาน กริยา กรรม) เช่น ฮิ จียา อะวั่ฮ “ฉันกินข้าว” ๖.๓. การสร้างคำ ภาษาโส้มีการสร้างคำ ๒ แบบดังนี้คือ เติมหน้า เติมกลาง ๖.๓.๑ เติมหน้า(Prefix)โดยหน่วยคำอิสระ อะ เช่น มู่ด “เข้า” อะมู่ด “นำเข้ามา” ๖.๓.๒. เติมกลาง(Infix) เติมกลางด้วย /n/ หรือ /น/ เช่น ปุยฮ์ “กวาด” ปะนุยฮ์ “ไม้กวาด” ๖.๔. ระดับพยางค์และคำ ภาษาโส้มีทั้งคำพยางค์เดียว สองพยางค์และหลายพยางค์ ๖.๔.๑. คำพยางค์เดียว (monosyllable word) มีโครงสร้างพยางค์ดังนี้ ˈ(C)CV(V)C(C) พยางค์เดียวคือคำที่มีพยางค์ แกนเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะออกเสียงเน้นคำในพยางค์เดียว ซึ่งมีทั้งคำที่เป็นพยางค์เปิดและพยางค์ปิด โครงสร้างของพยางค์เดียว คือ ˈs ตัวอย่าง /cu: R๒ / [ˈʨṳ:̀] ‘กลับ’ /dɔ: R๑ / [ˈdɔ:̄] ‘ไม้สอยผลไม้’ /lu: R๑ / [ˈlu:̄] ‘ขา’ /pi:t R๑ / [ˈpi:́t˺] ‘เต่า’ /kohR๒ / [ˈko ̤̀h] ‘ตัดโค่น’ /kruəjhR๑ / [ˈkruə́ jh] ‘เกลี้ยง’ ๖.๔.๒ คำสองพยางค์ คำสองพยางค์มีโครงสร้างพยางค์ดังนี้ ˌCV(C).ˈCCV(V)C(C) คำสอง พยางค์ในภาษาโส้ประกอบไปด้วยพยางค์รองและพยางค์หลัก เน้นหนักในพยางค์ที่สอง ในพยางค์
4 แรกมักจะไม่เน้น ซึ่งมีทั้งพยางค์รองที่เป็นพยางค์เปิดและพยางค์ปิด ประเภทพยางค์รองที่เป็น พยางค์เปิด ตัวอย่าง /pa.raʔR๑ / [ˌpa.ˈràʔ] ‘เงิน’ /ca.katR๑ / [ˌʨa.ˈkát˺] ‘ผ้าถุง’ /ka.mu:r R๑ / [ˌka.ˈmu:r] ‘สาว’ /ʔa.pajR๑ / [ˌʔa.ˈpaj] ‘พวกคุณ’ /ra.jawʔR๑ / [ˌra.ˈjáwʔ] ‘ก้าวเดิน’ ๖.๔.๓. ประเภทคำหลายพยางค์ ในภาษาโทรํมีทั้งคำที่มี ๓ พยางค์และ ๔ พยางค์ ดังนี้ ๖ .๔.๓.๑. คำที่มีสามพยางค์ มีการเน้นเสียงดังนี้คือ พยางค์ที่หนึ่งไม่เน้น พยางค์ที่ สองเน้นเบาและเน้นเสียงหนักในพยางค์ที่ สาม ตัวอย่าง /pa.lɑŋR๑ .kɑʔR๑ / [pa.ˌlɑŋ.ˈkɑ́ʔ] ‘ลูกกระเดือก’ /ta.bɛ:l R๑ .plɑŋR๑ / [ta.ˌbɛ:l.ˈplɑŋ] ‘ตะไคร้’ / ta.mɑ:j R๑ kajR๑ / [ta.ˌmɑ:j ˈkaj] ‘ปลวกชนิดหนึ่ง’ /ta.riəŋR๒ .kriatR๒ / [ta.ˌri ə̤̀ŋ.ˈkri àt˺] ‘สนิม’ /ca.lɛ:ŋ R๑ .baŋR๑ / [ʨa.ˌlɛ:ŋ.ˈbaŋ] ‘ขมับ’ ๖.๔..๓.๒.ในคำที่มีสี่พยางค์ คำที่มีสี่พยางค์ในภาษาโทรํ ส่วนมากจะเป็นคำซ้ำ มีการ เน้นเสียงเบาในพยางค์ที่หนึ่งและพยางค์ที่สาม เน้นเสียงหนักในพยางค์ที่สองและพยางค์ที่สี ตัวอย่าง /pa.tɯŋR๒ .pa.tokR๒ / [ˌpa.ˈtɯ ̤̀ŋ ˌpa.ˈto ̤̀k˺] ‘คว่ำหงาย’ /ta.riapR๒ .tiapR๒ .tiaR๒ / [ˌta.ˈri àp˺ ˌti àp˺.ˈti ̤̀a] ‘คราดกวาดปุ๋ยคอก’ /ca.takR๒ .ca.tiawR๒ / [ˌʨa.ˈta ̤̀k˺ ˌʨa.ˈti àw] ‘ทำงานอย่างรีบเร่ง’ /ka.tʰakR๑ .ka.tʰɯəkR๑ / [ˌka.ˈtʰák˺ˌ ka.ˈtʰɯə́k˺] ‘สั่นสะเทือน’ /ʔa.bicR๑ ʔa.ba:ɲ R๑ / [ˌʔa.ˈbic˺ˌʔa.ˈba:ɲ] ‘คุยโม้ โกหก’ ๖.๕ พยางค์หน้าเสียงนาสิกกึ่งพยางค์ (syllabic nasal) เสียงกึ่งพยางค์หน้าเสียงนาสิกเป็นการปรากฏร่วมกันของพยัญชนะต้นนาสิก ๔ เสียง ได้แก่ /m̩ , n̩ , ɲ̩ ,ŋ̩ / ปรากฏร่วมกับพยัญชนะ ที่มีฐานเสียงเดียวกัน (Homorganic) .ในภาษาโทรฺ พบว่ามีหน่วยเสียงพยางค์หน้านาสิก ดังนี้
5 ๖.๕.๑. /m̩ / ปรากฏร่วมกับหน่วยเสียง /p,pr pʰ/ ตัวอย่าง /m̩ pihR๑ / [m̩ ˈpíh] ‘หิด’ /m̩ pre:k R๒ / [m̩ ˈpre ̤̀ :k̚] ‘หาบ’ /m̩ pʰa: R๑ / [m̩ ˈpʰa:] ‘แตกต่าง’ ๖.๕.๒. /n̩ / ปรากฏร่วมกับหน่วยเสียง /t,tr,tʰ/ ตัวอย่าง /n̩ tiəhR๒ / [n̩ ˈti ə̤̀h] ‘จืด จาง’ /n̩ trɑʔR๒ / [n̩ ˈtrɑ ̤̀ʔ] ‘วัว’ /n̩ ˈtʰawR๑ / [n̩ ˈtʰāw] ‘คนแก่’ ๖.๕.๓. /ɲ̩ / ปรากฏร่วมกับหน่วยเสียง /c,cʰ/ ตัวอย่าง /ɲ̩ cihR๑ / [ɲ̩ ˈʨíh] ‘ร่อน,สะบัด’ /ɲ̩ cʰiʔR๑ / [ɲˈcʰíʔ] ‘เท่าไหร’ ๖.๕.๔. /ŋ̩ / ปรากฏร่วมกับหน่วยเสียง /k,kr,kl,kʰ/ ตัวอย่าง /ŋ̩ ki:ŋ R๑ / [ŋ̩ ˈki:̄ŋ] ‘เอว /ŋ̩ ̩ ̩ krɛʔR๑ / [ŋ̩ ̩ ˈkrɛ́ʔ] ‘ก้น’ /ŋ̩ kli: R๑ / [ŋ̩ kli:] ‘ด้านหลัง’ /ŋ̩ kʰawʔR๑ / [ŋ̩ ˈkʰáwʔ] ‘นั่งถ่างขา’ ๖.๖ ลักษณะน้ำเสียงภาษาโส้ (โทรฺ) ภาษาโส้เป็นภาษาที่ไม่มีหน่วยเสียงวรรณยุกต์แบ่งความหมายแต่ใช้ลักษณะน้ำเสียง ปกติและน้ำเสียงหนักหรือเสียงเพิ่มลม ภาษาโส้มีลักษณะน้ำเสียง อยู่ ๒ ประเภท คือ ลักษณะน้ำเสียงปกติ(normal voice) ปรากฏได้กับทุกหน่วยเสียงพยัญชนะ ซึ่งใน ที่นี้จะเรียกว่า ลักษณะน้ำเสียง ๑ (Register ๑) ใช้สัญลักษณ์ในระดับสรศาสตร์(Phonomics) “ R๑“ [ ]
6 ลักษณะน้ำเสียง ๒ (Register ๒) ใช้สัญลักษณ์ในระดับสรศาสตร์(Phonomics) “ R๒”[ ] ลักษณะน้ำเสียงมีลมแทรก (breathy voice) เกิดจากการเพิ่มแรงลมเข้าไปในการ ออกเสียงซึ่งในที่นี้จะเรียกว่า ลักษณะน้ำเสียงที่ ๒ (Register ๒)และในระดับสรศาสตร์(Phonemics) ใช้สัญลักษณ์ “ R๒ “ในระดับสัทศาตร์(Phonetics) ใช้สัญลักษณ์[ ] ใช้จุดสองจุดใต้สระเนื่องจาก เสียงลมแทรกปรากฏกับสระ การปรากฏลักษณะน้ำเสียงมีลมแทรกของภาษาโส้สามารถปรากฏกับหน่วยเสียง พยัญชนะต้นได้ทุกหน่วยเสียง ยกเว้นหน่วยเสียง พยัญชนะที่มีเสียงพ่นลมทั้งหมด และหน่วยเสียง พยัญชนะต่อไปนี้ ได้แก่ /b,d,ʔ,f,s,h/ ตารางแสดงตัวอย่างการเปรียบต่างลักษณะน้ำเสียง (Register Contrastive) ลักษณะน้ำเสียงปกติ ความหมาย ลักษณะน้ำเสียงหนัก ความหมาย /pɯh R๑ / [ˈpɯh] เปิด /pɯh R๒ / [ˈpɯ ̤̀h] ฝั่งน้ำ /ʔa.lihR๑ / [ʔa.ˈlíh] ปลิด /ʔa.lihR๒ / [ʔa.ˈli ̤̀h] ทำให้ล้ม หล่น’ /ʔa.cu: R๑ / [ʔa.ˈcu:] มีด /ʔa.cu: R๒ / [ˌʔa.ˈcṳ:] นำกลับไป /tahR๑ / [ˈtáh] ทิ้งไว้ /tahR๒ / [ta ̤̀h] ตบ /kɑhR๑ / [ˈkɑ́h] ตัด /kɑhR๒ / [ˈkɑ ̤̀h] ขุดร่องเพื่อระบายน้ำ /ʔa.rɯ: R๑ /[ˌʔa.ˈrɯ:] ทำลาย /ʔa.rɯ: R๒ /[ˌʔa.ˈrɯ :] ‘เสียงดัง (เสียงรถ เสียงลม)
7 ๖.๗. หน่วยเสียง ๖.๗.๑.หน่วยเสียงพยัญชนะ ภาษาโส้มีหน่วยเสียงพยัญชนะ ๒๒ หน่วยเสียง หน่วยเสียงพยัญชนะภาษาโส้(Consonant Phonemes) โดยปรากฏเป็นพยัญชนะต้น ๒๒ หน่วยเสียงและปรากฏเป็นพยัญชนะท้าย ๑๔ หน่วยเสียง เป็นพยัญชนะท้ายควบกล้ำ ๓ หน่วยเสียง ตำแหน่งเกิดเสียง ลักษณะการออกเสียง ริมฝีปาก ปุ่มเหงือก ปุ่มเหงือก เพดานแข็ง เพดาน แข็ง เพดาน อ่อน เส้น เสียง เสียงหยุด เสียงอโฆษะ สิถิล เสียงอโฆษะ ธนิต เสียงโฆษะสิถิล p pʰ b t tʰ d k kʰ ʔ เสียงนาสิก m n ɲ ŋ เสียงเสียดแทรก f s h เสียงรัว r เสียงข้างลิ้น l เสียงเปิด w j เสียงกักเสียดแทรก c cʰ ที่ หน่วยเสียง คำ ความหมาย ๑ /p-/ / pi:l / ม้วน ๒ / pʰ- / / pʰa:k/ เฉือน ๓ / b- / /bu:l / เมา ๔ / t -/ / ticR๒ / เจ็บ ๕ /tʰ-/ /tʰitR๑ / ใกล้ ๖ / d- / /dɛh R๑ / หัก(คำกริยา)
8 ปรากฏเป็นพยัญชนะต้นควบกล้ำ ๑๑ หน่วยเสียง ๗ /c -/ /cʌ:ŋ R๑ / ซื้อ ๘ /cʰ-/ /ɲcʰɛ:ŋ R๑ น้ำมัน ๙ / k- / /kuət R๒ / กบ เขียด ๑๐ /kʰ-/ /kʰɛc R๑ / โกรธ ๑๑ /ʔ-/ /ʔək R๑ / เหงื่อ ๑๒ /m-/ /mɛc R๒ / สวยงาม ๑๓ / n- / /ne:t R๒ /‘ พิง ๑๔ /ɲ-/ //ɲiamR๒ / ร้องไห้ ๑๕ /ŋ-/ /ŋiamR๒ / หวาน ๑๖ /f- / /fajfa:/ ไฟฟ้า ๑๗ /s- / /siən R๑ / เลี้ยง ๑๘ / h- / /hɛ:k R๑ / เค็ม ๑๙ /r- / /rəh R๒ / ราก ๒๐ / l- / / liajhR๒ / ลิ้น ๒๑ / w-/ /wi:l R๒ / หมู่บ้าน ๒๒ / j-/ /jihR๑ / เย็บ ที่ หน่วยเสียง คำ ความหมาย ๑ /pr / / priət R๒ / / กล้วย ๒ /pʰr/ /ʔa.pʰraʔ R๑ / กระจัดกระจาย ๓ /pl / /plɯk R๒ / สีเทา ๔ /br/ /brihR๑ / ฝุ่น ๕ / bl / /blɯ: R๑ / ไฟลุก ๖ /tr/ /trɯh R๒ / หว่านข้าว ๗ / tʰ/ /tʰrʌŋ R๑ / ขยัน ๘ / kr / /krɯmR๒ / ฟ้าร้อง ๙ / kʰ / /kʰrɔh R๑ / พูดชัด ๑๐ / kl/ /klɯŋ R๒ / มีคนจำนวนมาก ๑๑ /kʰl/ /kʰlɔ: R๑ / เนื้อผลไม้
9 ปรากฏเป็นพยัญชนะท้ายเดี่ยว ๑๔ หน่วยเสียงและพยัญชนะท้ายควบกล้ำ ๓ หน่วยเสียง ๖.๗.๒ หน่วยเสียงสระในภาษาโส้(Vowel phonemes) หน่วยเสียงสระที่พบในภาษาโส้ (โทรฺ)ประกอบด้วยสระเดี่ยวเสียงสั้นเสียงยาว ๒๒ หน่วยเสียงและสระประสม ๕ หน่วยเสียง ตารางแสดงสระเดี่ยว และสระประสมของภาษาโส้(โทรฺ) ตำแหน่งลิ้น ระดับลิ้น หน้า กลาง หลัง สั้น ยาว สั้น ยาว สั้น ยาว สูง i i: ɯ ɯ: u u: กึ่งสูง e e: o o: กลาง ə ə: ที่ หน่วยเสียง ตัวอย่างคำ ความหมาย ๑ /-p/ /lɯp R๒ / ท่วม ๒ /-t / /pi:t R๑ / เต่า ๓ /-c/ /bicR๑ / นอน ๔ /-k/ /ʔa.lakR๑ / โกหก ๕ /-ʔ / /ka.paʔ R๒ / กินแต่กับไม่กินข้าว ๖ /- m / /ka.lumR๑ / กลืนกิน ๗ / -n / /ʔa.binR๑ / ปลาซิว ๘ / -ɲ / /ʔa.ka:ɲ R๑ / ฝุ่นละอองที่เกิดจากข้าวเปลือก ๙ /-ŋ / /ra.ne:ŋ R๒ / ต้นคล้า ๑๐ /-h/ /ca.klɔh R๑ / ตำ กระแทก ๑๑ / -r / /ka.mɯ:r R๒ / คลาน ๑๒ /- l / / ma.hɑ:l R๑ / ต้นเป้า ๑๓ / -w / /sa.lɛ:wR๑ / มะขามป้อม ๑๔ / - j / /ra.pajR๑ / ผู้หญิง ๑๕ /-wʔ/ /klawʔ R๑ / ดิบ ๑๖ /-jʔ/ /pa.liajʔ R๒ / มาก ๑๗ /-jh/ /ca.kʌjhR๑ / เม่น
10 กึ่งต่ำ ɛ ɛ: ʌ ʌ: ɔ ɔ: ต่ำ a a: ɑ ɑ: สระประสม iə ɯə uə ia ua หน่วยเสียงสระเดี่ยวในภาษาโส้(โทรฺ)๒๒ หน่วยเสียง และตัวอย่างคำ ที่ หน่วย เสียงสระ เสียงสั้น ความหมาย ที่ เสียงยาว ความหมาย ๑ / i / /ticR๒ / เจ็บ ๒ / ti:n / เหยียบ ๓ /e / /la.mehR๒ / แมงเม่า ๔ /ʔi.ke: R๑ / นกพิราบ ๕ /ɛ/ /bɛɲR๑ / หายป่วย ๖ brɛ:ŋ R๑ / มะเขือพวง ๗ /ɯ/ /ka.bɯn R๑ / อม ๘ /ta.bɯ: R๑ / ตอนเย็น ๙ /ə/ /ka.dək R๑ / ฟัก ๑๐ /kə: R๒ / บวม ๑๑ /ʌ/ /pʌʔR๑ / ไป ๑๒ /pʌ:ŋ R๑ / สูง ๑๓ /a/ /ta.patR๒ / หก ๑๔ /ta.pa:t R๑ / ประคบ ๑๕ / u / /buhR๑ / เผา ๑๖ /mu:t R๒ / เข้า ๑๗ / o/ /ta.moŋR๒ / มีชีวิต ๑๘ /ko:l R๒ / หิน ๑๙ ./ɔ/ /klɔŋ R๑ / ร่องน้ำลึก ๒๐ /klɔ:ŋ R๑ / ข้างใน ๒๑ /ɑ/ /pɑŋR๑ / กระโดด ๒๒ /pɑ:ŋ R๑ / ต้อนสัตว์ไปเลี้ยง สระประสม ๕ หน่วยเสียง ๑ /iə/ /piəh R๒ / ต้นส่องฟ้า ๒ /ia/ /ciaR๑ / กิน ๓ /ɯə/ /ra.mɯəR๒ / ตื่น ๔ /uə/ /pʰuək R๑ / แดด ๕ / ua / /ma.kuaŋR๒ / รั้ว
11 คู่มือการเขียนภาษาโส้(โทรฺ) ฉบับราชบัณฑิยสภา ๑. พยัญชนะของภาษาโส้ที่เหมือนภาษาไทย ๑.๑ พยัญชนะต้นเดี่ยว มี ๒๐ ตัว รูป ตัวอย่าง ความหมาย ก / k/ โกฺย กิ้งก่า ค /kʰ/ ค็อง ภาชนะใส่ปลา ง /ŋ / ง่วาจ ดื่ม จ /c / เจิม็ นก ช /.cʰ / อึญแช็ญ เชือก ซ /s / เซียะ ปลา ด /d / ดง บ้าน ต / t / ตอง ไม้ตีข้าว ท /tʰ/ เทา คนชรา น /n / นง ปลาไหล บ /b / บุง กระบุง ป /p / ปีด เต่า พ / pʰ / เพียก ควัน ม / m / มั่ด ตา ย / j / แยง ทองคำ ร /r / ร่ะ คันไถ ล / l / เลี่ยม เคียว ว /w / ว็อง เปล อ / ʔ / อุยอ์ ไฟ ฮ / h / ฮอง ตัวตอ
12 ๑.๒ พยัญชนะต้นควบกล้ำ ๑๑ ตัว รูป ตัวอย่าง ความหมาย กร /kr / กร่วง เมือง กล /kl/ กลอง เมล็ด คร /kʰr / ครํฮ พูดชัด คล /kʰl / คลา ส่วน ตร /tr / ตรู่ จระเข้ ทร /tʰr / ทรอ ทรอง ข้าว โปร่ง มองทะลุผ่านได้ บร /br/ บริฮ ฝุ่น บล /bl/ บลุฮ จอมปลวก ปล/pl / ปล็อง หญ้าแฝก ปร /pr / เปรี่ยด กล้วย พร /pʰr / พรัก อะพระ ผัก กระจาย ๑.๓ พยัญชนะตัวสะกด มี ๘ ตัว รูป ตัวอย่าง ความหมาย ก อ็อก ถอน ง ตะลีง นา ด แจด ชน น บืน ได้ บ กับ กัด ม จะเริม็ เข็ม ย ซอย หาง ว อะตาว อ้อย
13 ๒. พยัญชนะที่ใช้ในภาษาโส้ที่ออกเสียงไม่เหมือนภาษาไทย ๒.๑ พยัญชนะต้นเดี่ยว มี ๑ ตัว คือ รูป ตัวอย่าง ความหมาย ญ/ ɲ / ญังญาด แย้ ๒.๒ พยัญชนะสะกดเดี่ยว มี ๔ ตัว ดังนี้ จ/ c / กะมู่จ ผี ญ/ ɲ / แปญ็ แป่ญ็ ยิง เต็ม ฮ/ h / จะรัฮ ลูกธนู ร /r/ ปัร บิน ล /l / บาล ส่องไฟ ๒.๓ พยัญชนะสะกดควบกล้ำสองเสียง ๓ ตัว รูป ตัวอย่าง ความหมาย -ยอ์ / jʔ/ กะนอยอ์ ตะขอ -ยฮ / jh / ปะนุยฮ์ ไม้กวาด -วอ์ /wʔ / กลาวอ์ ดิบ ๒.๔ พยางค์หน้าที่มีเสียงนาสิกกึ่งพยางค์( Syllabic nasal ) ๘ ตัว ทีมงานวิจัยตกลงว่าให้เขียน เต็มพยางค์เพื่อที่จะเก็บเอกลักษณ์ของภาษาโทรฺไว้ รูป ตัวอย่าง ความหมาย อึมป/ m̩ p / อึมปี อึมไป พริก หมัด อึมพ/ m̩ pʰ/ อึมพา ต่างกัน อึนต/ n̩ t/ อึนตือ อึนตาง ฤดูกาล ห่าง อึนท / n̩ tʰ/ อึนเทา คนเฒ่า คนแก่ อึงก /ŋ̩ k / อึงเกา อังกัฮ กระบอกไม้ไผ่ สัตว์สี่เท้าตัวผู้
14 อึงค /ŋ̩ kʰ/ อึงคะ อึงแคง กิ่งไม้ ผิงไฟ อึญช /ɲ̩ cʰ/ อึญแช็ญ อึญไช เชือก เดือน อึญจ / ɲ̩ c / อึญจี อึญเจิก็ เหา รสฝาด ๓. การเขียนสระในภาษาโส้ ๓.๑ สระภาษาโส้ที่ใช้เหมือนกับภาษาไทยมี ๒๘ รูป รูป ตัวอย่าง ความหมาย อะ / aʔ / อั ระกะ มั่ด แมลงชนิดหนึ่ง ตา -า / a: / อะลา ไม้ไผ่บ้าน อิ / i / จิ ทิ้ง อี / i:/ จะลี ไส้เดือน อึ/ ɯʔ / ตึ่บ .ฝัง อือ / ɯ: / ตะบือ ตอนเย็น อุ / u / ปุ่ เครื่องเป่าลูกดอก อู / u: / ซู กระท่อม เอะ / eʔ / เป่ะ ขี่หลัง (คน) เอ / e: / กะเป่ แพะ แอะ/ ɛʔ / แอ็ แปะ แป็ฮ หยุด(ไม่ทำ) ฆ่า แอ / ɛ: / กะแบ ต้นบุก โอะ/ oʔ/ โ-ะ ( ลดรูป) โต่ะ ต่ฮ หลบ ซ่อน เท โ –/ o: / อะโก่ จมูกโด่ง เอาะ/ ɑʔ/ อ็อ เญาะ ต็อก เปรี้ยว ถอน ออ/ɑ:/ อะจอ หมา เออะ / əʔ / เอิ- เต่อะ เจิม็ ถึง นก
15 เออ/ə: / เอิ เล่อ เยิ่ง เล่น ไกล เอียะ/ iəʔ / เซียะ ปลา เอีย/ iə / เปีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง เอือะ/ɯɑʔ/ - - เอือ /ɯɑ / ลั่กเลื่อ เลื่อย อัวะ/ uəʔ / นั่วะ น้า (น้องชายของแม่) อัว/uə / -ว- (มีตัวสะกด) ซะญัว ตวง จั่วบ้าน หนองน้ำ อัม / am / กะนัม ค่ำมืด ไ- / ai / อะไล ระไป พวกเขา ผู้หญิง เ -า /aw/ เจา หลาน ๓.๒ สระที่ไม่มีในภาษาไทย เอฺอะ/ ʌʔ / เปฺอะ เกลิก็ ไป หลง เอฺอ/ ʌ: / อิ- / ʌ: / เปลฺอ เจิง หัว ซื้อ โอฺะ/ ɔʔ / อฺ–(ลดรูป) โบฺะ ตฺงกฺง อะอฺง ปาก ตั้กแตนตำข้าว พี่เขย โอฺ - / ɔ: / โทรฺ โตฺง อะโอฺบ ภาษาโทรฺ ,คนโทรฺ หม้อนึ่ง พี่สะใภ้ ียะ /iaʔ/ อึมปี่ยะ พ่อ -ียา /ia/ จียา กะนี่ยา กะตี่ยาม จะนี่ยาด กิน เพื่อน ป่าทาม ปืน -วะ/uaʔ/ อึงกว่ะ ฉัน ผม กู -วา/ ua / ตร่วา ซอ
16 -วาละอวา อะร่วาย กร่วาง กว้าง แมลงวัน รั้ว ๑. การเขียนลักษณะน้ำเสียงในภาษา(โส้ ในภาษาโส้มีลักษณะน้ำเสียงที่แบ่งความหมาย ๒ ลักษณะ ดังนี้ น้ำเสียงปกติและน้ำเสียงมีลมแทรกหรือทุ้มต่ำ น้ำเสียงปกติ ไม่ใส่เครื่องหมายกำกับ น้ำเสียงมีลมแทรก ให้กำกับด้วย‘่’ ไม้เอก ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ลักษณะน้ำเสียงปกติ ไม่ใช้เครื่องหมาย ความหมาย น้ำเสียงมีลมแทรก ไม้เครื่องหมาย ( อ่ ) ความหมาย อะจู/ʔa.cu: / มีด อะจู่/ ʔa.cṳ: / นำกลับบ้าน จีร/ ci:r / ลาย จี่ร/ci :r / ละลาย กัด/ kat / ตัด กั่ด/ ka t / คับ แคบ จิฮ/cih / คลอดลูก จิ่ฮ/ ci h / ขี่ อะลิฮ/ʔa.lih / ปลิด อะลิ่ฮ/ ʔa.li h / ทลาย อะติฮ/ ʔa.tih / ดูอย่างละเอียด อะติ่ฮ/ ʔa.ti h / กระแทก จะกัร /ca.kar / ขัน จะกั่ร/ca.ka r/ ตกใจ กะไน / ka.na j / หนู กะไน่/ka.na j / เบ่งอุจจาระ ตะปัล/ta.pal/ ครก ปั่ล/pa l / สงคราม ปึฮ/pɯ h / เปิด ปึ่ฮ/ pɯ h / ฝั่งแม่น้ำ แป็ญ/ pɛɲ/ ยิง แป็่ญ/ pɛ ɲ / เต็ม กัน/ kan / สัตว์ตัวเมีย กั่น/ka n / รอ ๕ .การเว้นระยะและการใช้เครื่องหมาย การเขียนภาษาโส้เขียนเป็นคำๆ โดยเว้นระยะระหว่างคำทุกคำเพื่อให้อ่านง่ายและเว้นระยะ มากกว่าหนึ่งตัวอักษรเพื่อประโยชน์การให้ความหมายของคำ ๕.๑. หลักการเว้นระยะและการใช้เครื่องหมายมีดังนี้ ๕.๑.๑ การเว้นระยะ ให้เว้นระยะ ๑ ตัวอักษร ระหว่างคำทุกคำ เพื่อให้ทราบว่าคำสิ้นสุดลง ณ ตำแหน่งใด เช่น
17 อะจอ จียา เซียะ. หมา กิน ปลา หมากินปลา ๕.๑.๒ เครื่องหมาย เครื่องหมายที่ใช้ในหลักเกณฑ์มีดังนี้ ได้แก่ ๕.๑.๒.๑ เครื่องหมาย ( . ) (มหัพภาค) ใช้เมื่อจบประโยค เช่น ฮิ ตะ ตะลีง อึนตือ ปะรัง. ฉัน ทำ นา ฤดู แล้ง ฉันทำนาปรัง ๕.๑.๒.๒ เครื่องหมาย ๆ (ไม้ยมก) เพื่อใช้แทนการซ้ำคำหรือความหมาย เช่น จะจัง อักๆ = หัวเราะดังอักๆ ระโวฺ บาจๆ = พูดไปเรื่อยเปื่อย อะร่วาย เซิม็ ปริ่งๆ = แมลงตอมมากมาย ๕.๒.๒.๓ เครื่องหมาย “ “ (อัญประกาศ) ใช้กำกับข้อความที่เป็นคำสนทนา เช่น “ อะเม่อะ เปฺอะ ตะลีง ตัง ไม่ มะไฮ. ” อะวี่ยา อะบลึฮ ใคร ไป นา กับ คุณ เมื่อวานนี้ น้าถาม ๖. การเขียนคำและข้อความ ๖.๑ การเขียนคำสองพยางค์ จะใส่สระอะในพยางค์ต้น เพื่อแยกพยางค์ต้นออกจากพยางค์หลัก เช่น กะมู่จ “ผี” ซะมูจ “มด” จะไร่ “หวาย” กะน็อยอ์ “ตะขอ” ซะไง “วัน” ปะไซ “อิ่ม” ๖.๒ การเขียนคำประสม เขียนติดกันโดยไม่ต้องเว้นวรรค เช่น อะลี่กกร่วง “หมูป่า” ตะลีงโก่ก “นาโคก” กะแซ็ญตู่ร “งูเห่า” มั่ดซูด “ตาบอด” เซียะซะรวง “ปลากด” ปะลุงกะแบ “ หัวบุก” ก่วดทรอ “ เขียด”
18 ๗. การเขียนข้อความ เขียนประโยคเรียงต่อกันไปโดยมีเครื่องมหัพภาค ( . ) แสดงว่าจบประโยค เช่น แต อะไร มี่ ละก่วย ม่วย นะ เอิด ตัง ตรึ่ง. อะเทา กี่ และ เซียน อะจอ ม่วย กัน. แต่ก่อน มี คน หนึ่งคน อยู่ใน ดง. เขา นั้น ก็ เลี้ยง หมา หนึ่ง ตัวเมีย แต่ก่อนมีคน คนหนึ่งอาศัยอยู่ในป่า เขาเลี้ยงหมาตัวเมียหนึ่งตัว บัด เปฺอะ จุ ตะลีง เจ่อ อะลี่ก กา ตะ เวี่ยะ โลด. ฮัก อะจอ กี่ และ บิจ เล่อ เอิด. เมื่อ ไป ถึง นา แล้ว หมู ก็ ทำ งาน เลย แต่ หมา นั้นแหละ นอน เล่น อยู่ เมื่อไปถึงนาแล้ว หมูก็ทำงานเลย แต่หมานั้นนอนเล่นอยู่ ๘. การเขียนชื่อสถานที่ ชื่อคน คำยืม a. ชื่อสถานที่ การเขียนชื่อสถานที่ถ้ามีคำเรียกในภาษาโส้จะเขียนเป็นภาษาโส้ ทั้งนี้บางคำที่ไม่รู้จักกัน ทั่วไปอาจวงเล็บชื่อภาษาไทยไว้ด้วย เช่น วี่ลตูมก็อก (บ้านห้วยกอก) วี่ลต่วาร ( บ้านงิ้ว) กร่วงคะมาน (บ้านกุสุมาลย์) กะไล่ปู่ด (ห้วยหินชะแนนใหญ่) วี่ลจะกอย (บ้านกุดสะกอย) วี่ลนารั่ง (บ้านนาดี) ละก่วาน (นครพนม) ส่วนชื่อสถานที่ซึ่งไม่มีชื่อเฉพาะในภาษาโส้ให้เขียนตามแบบภาษาไทย เช่น สกลนครอุดรธานี b. การเขียนชื่อบุคคล การเขียนชื่อคนเขียนตามบัตรประจำตัวประชาชน เช่น ไกรสร, วาสนา ,อรอนงค์,ทองสวัสดิ์, สมใจ,สมคิด,สมศรี, วารี, เปี่ยง, คำหวา, สุพรรณ.เลาไพ,ลือชา หากมีชื่อในภาษาโส้ก็จะเขียนเป็นภาษาโส้ เช่น อะบรีด, อึนเตร่าะ, จะแก็ญ, อะเกิ่บ c. คำยืมทั่วไป การเขียนจะเขียนตามเสียงพูดในภาษาโส้ เช่น วั่ด “ วัด” โร่งเรี่ยน “โรงเรียน” กะเตี่ยม “กระเทียม” ซังกะซี “สังกะสี” ส่วนที่ ๒ คุณค่าและบทบาทของวิถีชุมชนที่มีต่อมรดกทางวัฒนธรรม ๑. คุณค่าทางมรดกภูมิปัญญา ภาษาโส้เป็นมรดกภูมิปัญญาระบบทางความคิดที่บรรพบุรุษของชาวได้สร้างสรรค์ขึ้นมาเป็น เครื่องมือสื่อสารเพื่อความเข้าใจกันในครอบครัว ชุมชุน ท้องถิ่น มีการเรียนรู้จดจำ ถ่ายทอด
19 ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เป็นสิ่งบันทึกเรื่องราวทางวัฒนธรรม วรรณกรรม ภูมิปัญญาของชาวโส้ เป็น ภาษาที่คนโส้พูดสื่อสารกันตั้งแต่เกิด ภาษาโส้เป็นส่วนสำคัญของวิถีชีวิต สังคมและใช้เวลาสั่งสมมา เป็นเวลานาน ดังนั้นการสูญเสียภาษาหมายถึงการสูญเสียภูมิปัญญา และอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์ ๒. บทบาทของชุมชนที่มีต่อมรดกภูมิปัญญา ชาวโส้ในอำเภอกุสุมาลย์ในเขตตำบลโพธิไพศาล ตำบลกุสุมาลย์ ตำบลนาโพธิ์ หลายๆ ครอบครัวใช้ภาษาโส้เป็นภาษาหลักสื่อสารในชีวิตประจำวันทั้งในครอบครัวและชุมชน ตลอดทั้งใช้ ภาษาโส้ในแวดวงประเพณี พิธีกรรมต่างๆ ความเชื่อ แต่อย่างไรก็ตามยังมีคนโส้อีกหลายครอบครัว และในหลายหมู่บ้านที่ใช้ภาษาโส้ในชีวิตประจำวันลดน้อยลงและจนถึงระดับเลิกพูดภาษาโส้ ส่วนที ๓ มาตรการในการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ชาวโส้กุสุมาลย์ได้ดำเนินกิจกรรมการส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาด้านภาษาโส้มาทั้งรูปแบบที่ เป็นทางการและไม่เป็นทางการดังนี้ ในปี พ.ศ.๒๕๕๐ ชาวโส้อำเภอกุสุมาลย์ได้จัดตั้งกลุ่มจิตอาสาชื่อว่ากลุ่ม “อนุรักษ์พัฒนาภาษา โส้ อำเภอกุสุมาลย์” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบเขียนภาษาโส้อักษรไทย มีนายไกรสร ฮาดคะ ดีเป็นประธาน และ นางสาวลินดา มาเคาซกี้ นักภาษาศาสตร์จากสถาบัน Summer Institute of Linguistics (SIL) เป็นที่ปรึกษา ได้มีการประชุมพิจารณาระบบเขียนภาษาโส้เบื้องต้น เขียนเรื่องราว ต่างๆพิมพ์แจกชาวโส้และผู้สนใจในงานเทศกาลโส้รำลึก รวมทั้งจัดกิจกรรมแข่งขันตอบปัญหาภาษา โส้ เล่านิทานภาษาโส้ในระดับเยาวชน ๑. โครงการ กิจกรรมที่มีการดำเนินงานของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม การอนุรักษ์ ฟื้นฟู (ระบุวิธีดำเนินงาน พื้นที่ ชุมชน ระยะเวลา และงบประมาณ) ชาวโส้สามตำบลได้เห็นความสำคัญของภาษาโส้มีความตระหนักในการอนุรักษ์สืบทอดภาษา โส้ให้คงอยู่ในปี พ.ศ ๒๕๕๕ ได้ร่วมมือกันจัดทำโครงการ”การจัดการเรียนการสอนภาษาโส้ในระบบ โรงเรียน โดยชุมชนมีส่วนร่วม ตำบลโพธิไพศาล ตำบลกุสุมาลย์ ตำบลนาโพธิ์” ซึ่งได้รับการสนับสนุน งบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย ( สกว.)จำนวนเงิน ๒๔๑,๒๐๐ บาทโดยมี คณาจารย์นักภาษาศาสตร์ พี่เลี้ยงทีมวิจัยจากศูนย์ฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤติ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชียมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นพี่เลี้ยง พัฒนาระบบเขียนภาษาโส้ โดยร่วมมือกับนักภาษาศาสตร์ศึกษาระบบเสียงภาษาโส้อย่างละเอียด ทั้งหน่วยเสียงพยัญชนะ สระ และลักษณะน้ำเสียง เปรียบเทียบระบบเสียงภาษาไทยกับภาษาโส้ ร่วมมือกับชุมชนคัดเลือกตัวอักษร และรูปสระภาษาเพื่อเขียนเสียงภาษาโส้นำระบบเขียนที่ได้ตกลงกันมาเป็นเครื่องมือในการบันทึก เรื่องเล่า ภูมิปัญญาของชาวโส้นำเรื่องราวที่บันทึกมาทดสอบการอ่านกับคนโส้ในชุมชนและนำมา ปรับปรุงแก้ไข
20 การสืบสานและถ่ายทอด (ระบุวิธีดำเนินงาน พื้นที่ ชุมชน ระยะเวลา และงบประมาณ) จัดทำหลักสูตรและสื่อการเรียนการสอน ทดลองสอนในระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียน บ้านกุดสะกอย อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร สื่อการสอนที่ผลิตได้แก่ หนังสื่อเล่มยักษ์ ฉากภาพวัฒนธรรม แบบเรียนอ่านเขียนภาษาโส้ หนังสือนิทาน เพลง ปัจจุบันได้สอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ,๕,๖ จากการดำเนินการโครงการดังกล่าวทำให้ราชบัณฑิยสภารับรองระบบเขียนภาษาโส้(โทรฺ)อักษรไทย ซึ่งขณะนี้ได้ตีพิมพ์แล้วจำนวน ๕๐๐ เล่ม ๒. มาตรการส่งเสริมและรักษาวัฒนธรรมภูมิปัญญาอื่นๆที่คาดว่าจะดำเนินการในอนาคต ๑. ทีมวิจัยท้องถิ่น โครงการจัดการเรียนการสอนภาษาโส้ มีแผนที่จะขยายหลักสูตรการเรียน การสอนภาษาโส้เพื่อการอนุรักษ์ไปสู่โรงเรียนอื่นๆที่มีนักเรียนชาวโส้เรียนอยู่และมีความพร้อม ๒. ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ชุมชนชาวโส้ตำบลโพธิไพศาลได้ดำเนินงานวิจัยท้องถิ่นเพื่อส่งเสริม มรดกภูมิปัญญาด้านภาษาและการใช้ประโยชน์จากพืชของชาวโส้ โดยดำเนินโครงการ “ตะเนิม อะ ล่วาง ละก่วยโทรฺ” (ต้นไม้คนโส้) โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุน งานวิจัย ( สกว.)จำนวนเงิน ๑๓๐,๐๐๐ บาทซึ่งมีแนวทางในการดำเนินงานดังนี้ - สำรวจต้นไม้ในป่าชุมชน - จัดเก็บข้อมูลและการใช้ประโยชน์ทั้งชื่อภาษาโส้ ภาษาไทยและชื่อทาง วิทยาศาสตร์ - จัดทำหลักสูตรท้องถิ่น - ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งเป็นป่าชุมชนเพื่อการเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์ ผลของการดำเนินงานข้างต้น ๑. ชุมชนคนโส้มีความตระหนักเห็นความสำคัญของการสูญหายของภาษามากขึ้น ๒. ในระดับครอบครัวมีความตระหนักเห็นความสำคัญทีจะดำรงสืบทอดภาษาโส้มากขึ้น ๓. ค้นพบเรื่องเล่าภูมิปัญญาในด้านต่างของชาวโส้เพิ่มมากขึ้น ๔. จากการดำเนินงานวิจัยทีมงานวิจัยได้รับเชิญให้ร่วมเป็นวิทยากรและเป็นคณะทำงานด้าน พฤกษศาสตร์ท้องถิ่น บันทึกข้อมูลต้นไม้เป็นภาษาโส้ที่มูลนิธิชัยพัฒนา บ้านกุงศรี อ.กุสุมาลย์ จังหวัด สกลนครโดยร่วมงานกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ สกลนคร เพื่อร่วมรับ เสด็จออนไลน์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ๕.หนังสือตะเนิม อะล่วาง ละก่วยโทรฺ ได้รับการตีพิมพ์เพื่อแจกจ่ายให้กับสถานศึกษาและผู้สนใจแล้ว เมื่อปี ๒๕๖๕ จำนวน ๗๐ เล่ม
21 ๓. การส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชนหรือภาคประชาสังคม(ถ้ามี) หน่วยงานที่สนับสนุนของชาวโส้มีทั้งระดับท้องถิ่น ระดับชาติและนานาชาติ ได้แก่องค์การ บริหารส่วนตำบลโพธิไพศาล เทศบาลตำบลกุสุมาลย์โรงเรียนบ้านกุดสะกอย สถาบันวิจัยภาษาและ วัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย(สกว.) ราชบัณฑิตยสภา สถาบัน Summer Instute of Linguistics (SIL.) มูลนิธิแม่โขงวอช ( Mekong watch ) นอกจากนี้เครือข่ายชาติ พันธุ์โส้ยังเป็นสมาชิกเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วัฒนธรรมกับชาติพันธุ์ต่างๆจากทั่วประเทศซึ่งก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนแนวทางในการอนุรักษ์สืบทอด ภาษาและวัฒนธรรมของแต่ละเครือข่าย ส่วนที่ ๔ สถานภาพปัจจุบัน ๑. สถานะการคงอยู่ของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม มีการปฏิบัติอย่างแพร่หลาย เสี่ยงต่อการสูญหายต้องได้รับการส่งเสริมและรักษาอย่างเร่งด่วน ไม่มีการปฏิบัติอยู่แล้วแต่มีความสำคัญต่อวิถีชุมชนที่ต้องได้รับการฟื้นฟู ในปัจจุบันสถานการณ์การใช้ภาษาและคงอยู่ของภาษาโส้เริ่มถดถอยเนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง ภาษาโส้ เป็นภาษาที่อยู่ในภาวะที่เสี่ยงต่อการสูญหาย หากไม่มีการดำเนินการใดๆที่เป็นการสนับสนุนส่งเสริมและสร้าง ความตระหนักอย่างจริงจังจากหลายภาคส่วน การถดถอยของการใช้ภาษาโส้เริ่มจากการสูญหายของเสียงที่ เป็นอัตลักษณ์ของภาษาโส้ เช่นเสียงท้าย ญ ร ล จะกลายเสียงเป็น น และมีหลายคำในภาษาโส้ที่ถูกแทนที่ ด้วยคำในภาษาลาว ภาษาไทย โดยเฉพาะการใช้ภาษาโส้ของคนรุ่นใหม่ เช่น คำว่า ไม่ทราบ ไม่รู้ ในภาษาโส้ “ มะดัง” แต่คนรุ่นใหม่มักใช้คำว่า “บ่จัก” ซึ่งเป็นภาษาลาวแทน การถดถอยของการใช้ภาษาอาจเกิดจากหลาย สาเหตุ ๑.๑. เกิดจากกระแสโลกาภิวัฒน์มีการติดต่อสื่อสาร คมนาคมสะดวกขึ้น ชาวโส้ได้มีโอกาส พบปะติดต่อทำมาค้าขาย การแต่งงานข้ามชาติพันธุ์ ทำงานต่างถิ่นและไปการศึกษาต่อจึงใช้ภาษาที่มี อิทธิพลหรือภาษากระแสหลักอื่นๆ ตามบริบทของตน ๑.๒. เกิดจากความอับอายเนื่องจากถูกล้อเลียนจากเพื่อนๆจากชาติพันธุ์อื่นๆจึงขาดความ มั่นใจในการใช้ภาษาและพยายามที่จะใช้ภาษาที่มีอิทธิพลอื่นๆจนเลิกพูดภาษาของตนเองในที่สุด ๑.๓..ในระดับสถาบันครอบครัวของคนที่พูดภาษาโส้ เมื่อลูกหลานพูดภาษาโส้ผิดเพี้ยนไป จากเดิมพ่อแม่ปู่ย่าตายายก็ไม่ค่อยให้ความสนใจที่จะแก้ไข สอนพูดให้ถูกต้อง เมื่อระยะเวลาผ่านไป คำเหล่านั้นก็ใช้กันอย่างแพร่หลายจนแทนที่คำพูดที่ถูกต้องแต่เดิม ๑.๔. นโยบายการศึกษาของภาครัฐที่จากการที่รัฐบาลไทยได้ออกกฎหมายจัดการศึกษาภาค บังคับ( พ.ศ. ๒๔๖๔) ที่กำหนดให้เยาวชนทั่วประเทศเข้าเรียนในโรงเรียนสามัญ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจัดการเรียนการสอนเป็นภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาราชการ ขาดการเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบระหว่าง
22 ภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่นกับภาษาและวัฒนธรรมที่โรงเรียนซึ่งใช้ภาษาราชการ(ภาษาไทย)เพียง ภาษาเดียวเป็นสื่อ ทำให้เด็กและเยาวชนไม่ได้ใช้ภาษาท้องถิ่นในโรงเรียน (สุวิไล เปรมศรีรัตน์และ คณะ,๒๕๕๓) ๒. สถานภาพปัจจุบันของการถ่ายทอดความรู้และภัยคุกคาม ๒.๑ ในสภาพปัจจุบันการถ่ายทอดความรู้ภาษาโส้ยังมีทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน และในระบบ โรงเรียนแต่ยังไม่สามารถกระจายสู่โรงเรียนอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่สู่สังคมออนไลน์คือเพจภาษาโส้วัน ละคำเพื่อเผยแพร่ระบบเขียนภาษาโส้อักษรไทยและสร้างความตระหนักรักในภาษาอันจะนำมาซึ่งการอนุรักษ์ สืบทอดสู่ชนรุ่นหลังต่อไป แต่อย่างไรก็ตามยังมีคนโส้ในหลายครอบครัวที่ไม่พูดภาษาโส้กับลูกหลาน จึง สามารถคาดการณ์ได้ว่าภาษาโส้อาจสูญหายไปเนื่องจากขาดการสืบทอด ๒.๒ ภัยคุกคาม ๒.๒.๑ ปัจจัยภายนอก เช่นการถูกล้อเลียนไม่ให้เกียรติ ไม่ยอมรับความหลากหลายทางภาษา เช่น ในระบบโรงเรียนครูที่เป็นคนต่างชาติพันธุ์ไม่เข้าใจภาษาโส้มักจะห้ามนักเรียนพูดภาษาโส้ในห้องเรียน ทำ ให้นักเรียนคนโส้ขาดความมั่นใจเกิดทัศนะคติที่ไม่ดีต่อภาษาตนเอง ๒.๒.๒ ปัจจัยภายใน ขาดความภาคภูมิใจในภาษาที่เป็นอัตลักษณ์ของตน จนเป็นเหตุไม่สืบ ทอดสู่ชนรุ่นหลังเช่น ในครอบครัวชาวโส้ส่วนใหญ่ หากลูกสาวหรือลูกชายแต่งงานกับคนต่างชาติพันธุ์เช่นไทย ลาว ญ้อ ภูไท เมื่อมีหลาน ปู่ย่าตายายายหรือคนในครอบครัวมักจะไม่พูดภาษาโส้กับหลาน มักจะพูดภาษาไทย หรือลาวกับหลานตามลูกเขยหรือลูกสะใภ้จากสภาพปัญหาข้างต้นภาษาโส้เป็นภาษาที่เสี่ยงต่อการสูญหายต้อง ได้รับการส่งเสริมและรักษาอย่างเร่งด่วน ๓. รายชื่อผู้สืบทอดหลัก ที่ รายชื่อบุคคล หัวหน้า คณะ กลุ่มบุคล อาชีพ/ อายุ องค์ความรู้ที่ถ่ายทอด สถานที่ติดต่อ/โทรศัพท์ ๑ นายไกรสร ฮาดคะดี ครู ระบบเสียงและระบบเขียน ภาษาโส้ ๗๖ ม.๙ ต.โพธิไพศาล อ. กุสุมาลย์ จ.สกลนคร โทรศัพท์ ๐๘๙๘๒๔๓๒๑๐ ๒ นายทองสวัสดิ์ นิน จันทร์บุตร ปราชญ์ ชาวบ้าน นิทานและดนตรีโส้ ๑๖ ม.๓ ต.โพธิไพศาล อ. กุสุมาลย์ จ.สกลนคร ๓ นางวาสนา บัวศรี ครู ลายผ้าชาวโส้ ๑๔๗ หมู่ ๙ ต.โพธิไพศาล อ. กุสุมาลย์ จ.สกลนคร ๔ นายประเทือง ใยปางแก้ว นักวิชาการ ศึกษา ประวัติความเป็นมาของ ชาวโส้ ๑๓๑ ม.๒ บ้านโคกม่วง ต.นาโพธิ์ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร
23 ส่วนที่ ๕ การยินยอมของชุมชนในการจัดทำรายการเบื้องต้นของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ชื่อ-สกุล นายไกรสร ฮาดคะดี เป็นครูผู้สืบทอดมรดกภูมิปัญญาภาษาโส้ ขอรับรองข้อมูล เอกสารตามคำขอเสนอๆและยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป ลงชื่อ. ( นายไกรสร ฮาดคะดี ) ส่วนที่ ๖ ภาคผนวก ๑. เอกสารอ้างอิง ไกรสร ฮาดคะดี. (๒๕๕๙).ระบบเสียงและระบบเขียนภาษาโทรฺบ้านกุดสะกอย วิทยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหา บัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล. ไกรสร ฮาดคะดี.(๒๕๖๕). ตะเนิม อะลว่าง ละก่วยโทรฺ ต้นไม้ของคนโทรฺ .นครปฐม: ศูนย์ศึกษาและฟื้นฟู ภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต,สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล. เลาไพ วระกันและคณะ.(๒๕๕๖). งานวิจัย โครงการจัดการเรียนการสอนภาษาโส้ในระบบโรงเรียน. กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนวิจัย ตำนานเมืองกุสุมาลย์. (๒๕๔๓). เทศกาลโส้รำลึกครั้งที่ ๒๓, ศูนย์วัฒนธรรมไทโส้ อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัด สกลนคร(๒๕๓๓) เอกวิทย์ จิโนวัฒน์. (๒๕๒๖). ศึกษาเปรียบเทียบการสร้างคำในภาษูย บรูและโซ่. วิทยานิพนธ์อักษรศาสตร มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สุวิไล เปรมศรีรัตน์ และโสภนา ศรีจำปา . (๒๕๓๓) . รายงานวิจัยเรื่อง การพัฒนาระบบการเขียนภาษา เขมร ถิ่นไทย. นครปฐม: สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล. สุวิไล เปรมศรีรัตน์ . (๒๕๔๑). รายงานวิจัยเรื่อง พัฒนาสื่อพื้นบ้าน : กรณีภาษาเขมรถิ่นไทย. นครปฐม: สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล. สุวิไล เปรมศรีรัตน์. (๒๕๕๐). “การสร้างระบบการเขียนสำหรับภาษาชาติพันธุ์ สำหรับการฟื้นฟูภาษา,” ใน ภาษาและวัฒนธรรม. ๒๖(๑). สุวิไล เปรมศรีรัตน์.(๒๕๕๓). รายงานการวิจัยเรื่องการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาท้องถิ่นและ ภาษาไทยเป็นสื่อ: กรณีการจัดการศึกษาแบบทวิภาษา(ภาษาไทย-ภาษามลายูถิ่น)ในโรงเรียน
24 เขตพื้นที่ ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ไทย. นครปฐม: สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อ พัฒนา ชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล. ศิริเพ็ญ อึ้งสิทธิพูนพร. ( ๒๕๕๕). สื่อการเรียนการสอนที่ใช้ภาษาแม่ในการเรียนรู้. เอกสารประกอบการ ประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การสร้างสื่อการสอนในรูปแบบทวิภาษา” มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา. ระหว่างวันที่ ๘ – ๑๑ เมษายน ๒๕๕๖. วิภาวรรณ อยู่เย็น. (๒๕๔๑). เสียงและระบบเสียงในภาษาไทย. กรุงเทพฯ: ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษย์ ศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กาญจนา นาคสกุล. (๒๕๔๕). ระบบเสียงภาษาไทย. กรุงเทพฯ: ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สมทรง บุรุษพัฒน์. (๒๕๓๖). สรศาสตร์: การวิเคราะห์ระบบเสียง. นครปฐม: สถาบันวิจัยภาษาและ วัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล. คู่มือการเขียนภาษาชองอักษรไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๕. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน. กลุ่มพัฒนาภาษาโส้ คริสจักร์อำเภอกุสุมาลย์.(๒๕๕๓) หนังสือลูกาจากพระคริสต์คัมภีร์ ฉบับภาษาโส้ เล่มที่ ๒๓, มปท. ศัพท์ทางภาษาศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๖. กรุงเทพ : ราชบัณฑิตยสถาน. สุวิไล เปรมศรีรัตน์และคณะ.(๒๕๔๗). แผนที่ภาษาของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในประเทศไทย.กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. Brian Migliazza(๑๙๘๘).A Grammar of So – A Mon – Khmer Language of Northeast Thailand, Ph.D.Dissertation, Mahidol University. Roman S. Kania and Siriphan Hatuwong Kania . (๑๙๗๕). So People of Kusuman,Northestern Thailand. Marry D. Striger and Nicholas G. Faraclas. (๒๐๐๑).Working Together for literacy, SIL Australia. Wiliam A. Smalley.(๑๙๕๙). Phonemes and Orthography : Language Planning in Ten Minority Languages of Thailand. Department of Linguistics. Research School of Pacific Studies. The Australian National University” Susan Malone. (๒๐๑๐) Planning MLE program Manual. Community – Centered Literature [ ออนไลน์ ] เข้าถึงได้จาก : http/www.sil.org./literacy and education. Brian Migliazza. ( ๒๐๐๒ ). So people – So Orthography.[ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : www.msealing.info/dt/ libraonline.shtml. Website Http: /msea-ling.info/dt/libraonline.shtml
25 ๒. บุคคลอ้างอิง ลำดับที่ รายชื่อบุคคล สถานภาพ ๑ นาบไกรสร ฮาดคะดี ผู้ร่วมสืบทอด ๒ นายทองสวัสดิ์ นินจันทร์บุตร ๓ นายสุพรรณ วรเชษฐ์ ๔ นายกิจ ฮูวิชิต ๕ นายประเทือง ใยปางแก้ว ๖ นายคำมา อามาตมนตรี ๗ นายวิเศษ รมจันทร์อินทร์ ๘ นายลือชา วังมนหม่อม ๙ นายสม ปัญหาชัย ๑๐ นายเลาไพ วระกัน ๑๑ นางสาวสมศรี สายอุราช ๑๒ นางสาวสมคิด ตุแสนแพน ๑๓ นางวิยะนุช รูวันมอม ๑๔ นายคำมี ลือวันคำ ๑๕ นายสนั่น ใยปางแก้ว ๑๖ นางนงนุด รมจันทร์อินทร์ ๑๗ นางสมใจ ไมอักรี ๑๘ นายสิทธิชัย ชิตบุตร ๑๙ นายคำมี นาพงษ์ ๒๐ นายธวัชชัย เมืองซอง ๒๑ นางวิภา ริกำแง ๒๒ นางพรศรี หาคุณวัฒ ๒๓ นายสมร บุญเรา ๒๔ นายสุริยา ท้าวมา ๒๕ นายคำภา ใบอุดม ๒๖ นายสง่า สมเสา ๒๗ นายวิลัย พลอาสา ๒๘ นายสุวคนธ์ พลอาสา ๒๙ นางสาวเทียนทอง สุภา
26 ๓๐ นายสุริยา พลาดธิ์พงษ์ ๓๑ นายถาวร ราดสูง ๓๒ นางรัญจมาศ ใจหาญ ๓๓ นายพูใบ ใยปางแก้ว ๓๔ นายแมน มะแก้ว ๓. รูปภาพ พร้อมคำอธิบายใต้ภาพ (จำนวน ๑๗ ภาพ) ลำดับที่ ภาพ คำอธิบาย อ้างอิง ๑ นายไกรสร ฮาดคะดี ประธาน กลุ่มอนุรักษ์พัฒนาภาษาโส้ ประชุมปรับปรุงระบบเขียน ภาษาโส้ ภาพโดย นางสาวลินดา มา เคาซกี้ มีนาคม ๒๕๕๑ ๒ แข่งขันทักษะภาษาและเล่า นิทานภาษาโส้ ภาพโดยนางสาว ลินดามาเค้าซกี้ ในงานเทศกาลโส้ รำลึก ๒๙ มกราคม ๒๕๕๒ ๓ ประชุมชี้แจงโครงการจัดการ เรียนการสอนภาษาโส้ในระบบ โรงเรียน ที่ องค์การบริหารส่วน ตำบลโพธิไพศาล ถ่ายภาพโดย คูณอัจฉราภรณ์ ถาวรพัฒน์ พ.ศ.๒๕๕๕
27 ๔ ตัวแทนชาวโส้จากตำบลโพธิ ไพศาล ตำบลกุสุมาลย์และ ตำบลนาโพธิ์ร่วมรับฟังการ ประชุมชี้แจงโครงการ ถ่ายภาพโดย คูณอัจฉราภรณ์ ถาวรพัฒน์ ๕ นางสาวลินดา มาเคาซะกี้และ นายไกรสร ฮาดคะดี นำเสนอ ระบบเขียนภาษาโส้ ถ่ายภาพโดย คูณอัจฉราภรณ์ ถาวรพัฒน์ ๖ ประชุมทีมวิจัยเพื่อหาข้อตกลง ในการพัฒนาระบบเขียนภาษา โส้เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือใน การบันทึกเรื่องเล่าและภูมิ ปัญญาของชาวโส้ ภาพโดย นางสาว อรอนงค์ ฮาดทักษ์ วงค์พ.ศ.๒๕๕๕ ๗ ฝึกอบรมการจัดทำสื่อหนังสือ เล่มยักษ์โดยวิทยากรจาก สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรม เอเชีย ม.มหิดล ถ่ายโดยนายไกรสร ฮาดคะดี ๒๕๕๖
28 ๘ ทีมวิจัยร่วมมือกันทำหนังสือเล่ม ยักษ์ ถ่ายโดยนายไกรสร ฮาดคะดี ๒๕๕๖ ๙ กิจกรรมการสอนภาษโส้โดยใช้ หนังสือเล่มยักษ์ ถ่ายโดย นายรณ กร รักษ์วงค์ ๘ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ อ่านหนังสือเล่มยักษ์ ถ่ายโดย นาย ไกรสร ฮาดคะดี พ.ศ.๒๕๖๑ ๑๐ ประชุมโครงการต้นไม้คนโส้เพื่อ นำระบบเขียนภาษาโส้บันทึก ข้อมูลชื่อต้นไม้ การใช้ประโยชน์ จากต้นไม้ชนิดต่างๆของชาวโส้ ถ่ายโดย นาย ไกรสร ฮาดคะดี ๙ ก.พ. ๒๕๖๒ ๑๑ ถ่ายทำสารคดี รายการของ บริษัทป่าใหญ่ครีเอชั่น ตอน สำรวจพันธุ์ไม้ท้องถิ่นชาวโส้
29 ๑๒ ถ่ายทำสารคดี รายการของบริษัทป่าใหญ่ครี เอชั่น ตอนสำรวจพันธุ์ไม้ท้องถิ่น ชาวโส้ ๑๓ นักเรียนชั้น ป,๖ โ รงเรียนบ้าน กุดสะกอยนำเสนอข้อมูลต้นไม้ที่ ได้สำรวจจากป่าชุมชน ๑๔.เผยแพร่วัฒนธรรมด้านภาษา โทรฺและอาหารชาวโทรฺ รายการ กินอยู่คือ ช่องไทยพีบีเอส ๑๕. สำรวจพันธุ์ไม้ ถ่ายทำสารคดี รายการวาดหวัง ของ บ.ป่า ใหญ่ครีเอชั่น จะออกอากาศทาง ช่อง อัมรินทร์ซี ในช่วงเดือน เม.ย.นี้ ๑๖. ประชุมเวทีประชาชนและผู้นำ ต่อการทำรายการเสนอขึ้น ทะเบียนภาษาโส้ กุสุมาลย์
30 ๑๗.การแสดงสาธิตการลำภาษาโส้ กุสุมาลย์ ผลจากการดำเนินการวิจัยโครงการจัดการเรียนการสอนภาษาโส้ในระบบโรงเรียนโดยชุมชนมีส่วนร่วมมีดังนี้ ๑.ได้ระบบเขียนภาษาโส้อักษรไทย ภาพแสดง แผ่นภาพตัวอักษร พยัญชนะต้นภาษาโส้
พยัญชนะตัวส -ง ฮอง -น อะบิน -ญ กวญ -ว อะตาว -ก ต่วก -ด ปีด -จ ริจรอจ -ร ตะมึ่ร -ล ตะปัล
31 สะกดภาษาโส้ -ม อะซวม -ย โกฺย -ยฮ์ โปฺยฮ์ -บ อะเซียบ -ฮ มุ่ฮ -วอ์ กะยาวอ์ -ยอ์ กะน็อยอ์
ภาพแสดงแผ่นภาพตัวอักษร พยัญช -ะ ร่ะ -า มะนาง -ิ อะบิน -ี ปีด -ึ อึงกึ่ง แ-ะ ระแบฮ็ แแกล โ-ะ ดง โโก่ล โอฺะ กะโรฺะ เอฺอะ ปะเนิง็ เ-อ เซิง็เซิด เอียะ เตรี่ยะ เอีย ตะเลียง -ียะ อึมปี่ยะ -วะ อึนตร่วะ -วา มะก่วาง ไกะไน เ-า อะเซา
32 ชนะตัวสะกดภาษาโส้สระ ภาษาโทรฺ -ื ตะยื่ร -ุ มุ่ฮ -ู อะจู เ-ะ เร่ฮ็ เกะเป่ โอฺ โตฺง เ-าะ อะเล่าะ -อ จะตอง เ-อะ เจิม็ เ-อ เปิ่ด -ียา ตี่ยา เ-ือะ - เ-ือ ลั่กเลื่อ -ัวะ ตะลั่วะ -ัว อะลวย
33
๒.ได้สื่อการเรียนการสอนภาษาโส้ เรื่องเล่านิทานของชาวโส้ ๓.รายการสื่อและเรื่องเล่าภูมิปัญญาที่ได้จากงานวิจัย ที่ ชื่อเรื่อง ชื่อภาษาไทย ประเภท ผู้แต่ง ๑ เปฺอะจ่วายอ์ เซียะ ไปหาปลา หนังสือเล่มยักษ์ นางสมใจ ไมอักรี ๒ ไป นะ เปอะ โก่ก สามคนเข้าป่า หนังสือเล่มยักษ์ นางนงนุด รมจันทร์อินทร์ ๓ เกิ่ฮ็ กลอเตือย งัดหอยทาก หนังสือเล่มยักษ์ นางสาวสมศรี สายอุราช ๔ ตุกแกะ ตุ๊กแก หนังสือเล่มยักษ์ นายสุเพียร ลาดมุณี ๕ เจิม็กะโรฺะ นกฮูก หนังสือเล่มยักษ์ นายไกรสร ฮาดคะดี ๖ เจิม็ จียา บืน ไฮ กา จียา บืน นกกินได้เราก็กินได้ หนังสือเล่มยักษ์ นายไกรสร ฮาดคะดี ๗ กะลาง นึ่ง กะแซ็ญ เหยี่ยวกับงู หนังสือเล่มยักษ์ นางวาสนา บัวศรี ๘ จ็อง ฮอง จุดรังต่อ หนังสือเล่มยักษ์ นายมิณตชาติ ไมวงค์แสน ๙ เปอะ แป็ญ โกฺย ไปยิงกิ้งกา หนังสือเล่มยักษ์ นางสาวสมคิด ตุแสนแผนน ๑๐ จ่วายอ์ เตรี่ยะ หาเห็ด หนังสือเล่มยักษ์ นางสาวอรอนงค์ ฮาดทักษ์วงค์ ๑๑ อะตุฮ อึมแปน แหย่แมงแคง หนังสือเล่มยักษ์ นางสาวอรอนงค์ ฮาดทักษ์วงค์ ๑๒ อะเซา มดแดง หนังสือเล่มยักษ์ นายไกรสร ฮาดคะดี ๑๓ โก่ะ ปลิ่บเปลิ่ม ทุบแมงทับ หนังสือเล่มยักษ์ นางสาวสมคิด ตุแสนแพน ๑๔ ปิ่จ อะซีด ขุดจุดจี่ หนังสือเล่มยักษ์ นางสาวพรฉวี นินจันทร์บุตร ๑๕ กะมัน นึ่ง กะยา สะใภ้กับย่า หนังสือเล่มยักษ์ นางวาสนา บัวศรี ๑๖ อะจอ นึ่ง ตรู่ หมากับจระเข้ หนังสือเล่มยักษ์ นายไกรสร ฮาดคะดี ๑๗ แบบเรียนอ่านเขียนภาษาโส้ หนังสือแบบเรียน หนังสือ แบบเรียน นายไกรสร ฮาดคะดีและคณะ ๑๘ อะจอ นึ่ง อะลี่ก สุนัขกับหมู หนังสือนิทาน นายไกรสร ฮาดคะดี ๑๙ เป่ด็ กะแซ็ญ ตะลัน พิษของงูเหลือม หนังสือนิทาน นายไกรสร ฮาดคะดี ๒๐ อึญชือ โทรฺ เอิด ติ เมาะ ตัวหนังสือโส้อยู่ที่ไหน หนังสือนิทาน นายไกรสร ฮาดคะดี ๒๑ ปื่น เอาะ จะเก่าะ จะเก่ง ปู่จะเก่าะจะเก่ง หนังสือนิทาน นายทองสวัสดิ์ นินจันทร์บุตร ๒๒ อะจ่วยฮ์ กะเปี่ยร ตากะเปี่ยร หนังสือนิทาน นายทองสวัสดิ์ นินจันทร์บุตร ๒๓ สุภาษิตคำพังเพยคนโส้ หนังสือ นางวาสนา บัวศรี ๒๔ จู่ วี่ล ไฮ นา กลับบ้านเราเถอะนะ เพลง นายไกรสร ฮาดคะดี ๒๕ ระเฮา ละก่วยโทรฺ ยาคนโส้ เพลง นายไกรสร ฮาดคะดี ๒๖ จียา ซอย บอย จะเติม กินหางจะตามทัน เพลง นายไกรสร ฮาดคะดีและคณะ ๒๗ อึญชือพะซาโทรฺ แบบเรียนอ่านเขียน ภาษาโส้ หนังสือ แบบเรียน นายไกรสร ฮาดคะดีและคณะ
๔. ข้อมูลภาพถ่าย ต้อมูลภาพเคลื่อนไหวหรือจ้อมูลเสียง( ระบุประเภทของสื่อที่แนบมาพร้อมคำอธิบาย) ข้อมูลภาพถ่าย ได้แก่ ภาพถ่ายจำนวน ๑๗ ภาพ ในข้อ ๓ ข้อมูลภาพเคลื่อนไหว ได้แก่ กิจกรรมจัดการเรียนการสอนภาษาโส้ในโรงเรียน บันทึกเรื่องเล่าของชาวโส้และ ข้อมูลภาพเคลื่อนไหวที่มีการเผยแพร่ในระบบโซเชียลมีเดียต่างๆ ดังนี้ เพลงอนุรักษ์ภาษาโทรฺ(โส้) พร้อมคำแปล ภาษาลาว/ https://www.youtube.com/watch?v=HFljb๘iPNJo การขับลำภาษาโส้เพื่อการรณรงค์ให้ชาวโส้ได้ตระหนักรักษ์ภาษาตนเองสืบทอดภาษาโส้สู่คนรุ่นหลังไม่ให้สูญหาย เชิญชวนให้ชาวโส้ สอนลูกหลานให้พูดภาษาโส้ / https://youtube.com/watch?v=DaU๖bTLHQyo&feature=shares
การอ่านภาษาโส้ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๓ / https://www.facebook.com/๑๐๐๐๐๑๑๖๑๒๖๑๘๑๑/videos/ ๑๕๐๕๖๕๑๗๙๖๑๕๐๑๘๑/ รายการเด็กดีมีเรื่องเล่า ตอน ภาษาโส้ หมวดสัตว์ / https://youtube.com/watch?v=MATgrg๖g๘o๔&feature=shares
บอกเล่า "เผ่าไทโส้" / https://www.youtube.com/watch?v=THluk๗JgfYk ครูไกรสร ผู้สอนภาษาโส้ วันภาษาแม่สากล ๒๕๕๙ / https://www.youtube.com/watch?v=ghYUQ๗cY_nE
ไทโส้เดอะซีรี่ส์ThaiSoo The Series / https://www.youtube.com/watch?v=kxSImD๐H๓LM ชนเผ่าไทโส้ / https://www.youtube.com/watch?v=h๑๓pN๗oXgtE
ประเพณีชนเผ่าไทโส้ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร/https://youtube.com/watch?v=lEhLJ๕vo-๐Y&feature=shares ข้อมูลเสียง ได้แก่ ๒. ข้อมูลผู้เสนอ ชื่อ-สกุล นางศิรดา มะลาสาย หน่วยงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร ศูนย์ราชการจังหวัดสกลนคร ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ๔๗๐๐๐ โทรศัพท์ ๐๔๒ ๗๑๖๒๔๗ โทรสาร ๐๔๒ ๗๑๖๒๑๔ มือถือ ๐๘๙ ๒๕๔๘๗๓๗ อีเมล์ [email protected] ๓. ข้อมูลผู้ประสานงาน ชื่อ-สกุล นางประทุมรัตน์ ใหม่คามิตำแหน่ง นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ ที่อยู่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร ถนนศูนย์ราชการ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร โทร ๐๘๑๘๗๔๐๓๑๔