The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 4 การประมวลผลข้อมูล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nongyao112521, 2022-04-18 09:02:20

บทที่ 4 การประมวลผลข้อมูล

บทที่ 4 การประมวลผลข้อมูล

วทิ ยาการคานวณ ม.3
บทท่ี 4 การประมวลผลข้อมลู

1

ข้อมลู ดมี ชี ยั ไปกว่าคร่งึ

2
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. นั กเรียนสามารถอธิบายข้ันตอนการนาข้อมูลไป
ใชใ้ นการแกป้ ัญหาได้

2. นั กเรียนสามารถนาการประมวลผลข้อมูลไปใช้
แกป้ ัญหาในชีวติ ประจาวันได้

3

ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น

เมอื่ เข้าชมเวบ็ ไซต์ เครอื ข่ายสังคม หรอื แอปพลิเคชันสั่งซอื้
สิ นค้า จะมีข้อมูลโฆษณาสิ นค้า หรือข้อมูลเกี่ยวกับส่ิ งที่สนใจ
ปรากฏอยเู่ สมอ เน่ื องดว้ ยเทคโนโลยใี นปัจจุบนั เว็บไซต์หรือระบบ
ผู้ให้บริการต่างๆ มีการเก็บพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ แล้ว
นามาวิเคราะห์ส่ิงทมี่ ีความสัมพันธก์ บั พฤติกรรมผใู้ ช้

4

ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น

เทคโนโลยดี า้ นข้อมลู มีประโยชน์ และมีคุณค่ากว่าทคี่ ิด
ข้อมูลมีความหลากหลายและมีปริมาณมากสามารถเข้าถึงได้
สะดวก รวดเร็ว และตลอดเวลา ข้อมูลถูกนามาใช้ประโยชน์
เพ่ือตัดสิ นใจ หาคาตอบของปัญหา กาหนดแนวทางการ
ดาเนิ นการ ตลอดจนนโยบายต่างๆ ในทุกระดับของสั งคม
ตั้งแต่บุคคล ครอบครัว กลุ่มเพ่ื อน ชุ มชน องค์กร และ
ประเทศ จนกล่าวได้ว่าชีวิตประจาวันของเราขับเคล่ือนโดยมี
ข้อมูลเป็นฐาน

5

ทบทวนความรูก้ อ่ นเรยี น

ข้ อมูลคือข้ อเท็จจริงหรือส่ิ งท่ีสนใจ
ถูกต้องหรอื ไม่ ?

6

ทบทวนความรูก้ อ่ นเรยี น

ก่อนการประม วลผลต้องตรวจสอบ
ความถูกต้องของข้อมูลและทาให้ข้อมูลอยู่ใน
รูปแบบเดียวกนั ถูกต้องหรอื ไม่ ?

7

ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น

การคานวณเป็นการประมวลผล
อยา่ งหน่ึง ถูกต้องหรอื ไม่ ?

8

ข้อมูลดมี ีชัยไปกวา่ คร่งึ

ถ้ า ห า ก น า ข้ อ มู ล จ า น ว น ม า ก ม า
ทาการวิเคราะห์ในเชิงลึก จะค้นพบ
คุณค่าของข้อมูล ช่วยสร้างมูลค่าใน
เชิงธุ รกิจ หรือส่ งผลทางบวกให้กับ
ผู้ใช้ข้อมูลเป็นอยา่ งมาก

9

ตวั อย่างท่เี กิดข้ึนจรงิ ของ
การนาข้อมลู ไปใชป้ ระโยชน์

ประธานาธบิ ดกี ับข้อมลู ขนาดใหญ่

ผู้ลงสมัครตาแหน่ งประธานธิบดีของสหรัฐอเมริกาท่ีผ่าน
มา ทั้งบารัค โอบามา และ โดนั ลด์ ทรัมป์ อาศั ยข้อมูลขนาดใหญ่ท่ี
วิเคราะห์โดยผู้เช่ียวชาญ ซ่ึงเป็นข้อมูลความชอบส่ วนบุคคล อุปนิ สั ย
ข อ ง ผู้ มี สิ ท ธ์ิ เ ลื อ ก ต้ั ง ม า ก า ห น ด แ น ว ท า ง ก า ร ห า เ สี ย ง ท่ี มี
ลักษณะเฉพาะสาหรับกลุ่มบุคคล จนสามารถสร้างรู ปแบบการ
ส่ื อสารข้อมูลท่ีเก่ียวกับการเลือกต้ังท่ีเข้าถึงผู้มีสิ ทธ์ิเลือกต้ังด้วย
วธิ กี าร เวลา และสถานท่ีตรงกบั กลุม่ เป้าหมายมากท่สี ดุ

1

การนาข้อมลู มาใชแ้ ก้ปัญหา

2

การนาข้อมูลมาใช้แกป้ ัญหา

การวิเคราะห์ข้อมูลท่ีรวบรวมได้นั้ น จาเป็นอย่าง
ย่ิงท่ตี อ้ งอยบู่ นพ้ืนฐานของจรยิ ธรรม เพื่อความถูกต้อง
และเกดิ ประโยชน์ กับทกุ ฝ่ายท่เี ก่ยี วข้อง

3 การนาข้อมูลมาใชแ้ กป้ ัญหา

การนิ ยามปัญหา

ก า ร น า ข้ อ มู ล ม า ใ ช้ การวเิ คราะห์ปัญหา

แก้ปั ญหาที่สนใจอย่างมี การรวบรวมข้อมูล
ป ร ะสิ ท ธิภา พ มีขั้ น ต อ น การเตรยี มข้อมลู
ดังนี้

การประมวลผลข้อมูล

การนาเสนอข้อมูล

4 การนาข้อมูลมาใชแ้ กป้ ัญหา

การนิ ยามปัญหา โ ด ย แ ต่ ล ะ ขั้ น ต อ น มี
การวิเคราะห์ปัญหา ความสั มพันธ์กับข้ันตอนในลาดับ
การรวบรวมข้อมลู ก่ อ น ห น้ า อ ย่ า ง ไ ร ก็ ดี ส า ม า ร ถ
ย้อนกลับไปในข้ั นตอนในลาดับ
การเตรยี มข้อมูล ต่ า ง ๆ ท่ี อ ยู่ ก่ อ น ห น้ า ไ ด้ เ พื่ อ
การประมวลผลข้อมลู ปรับปรุ งให้กระบวนการมีความ
สมบรู ณ์มากข้ึน
การนาเสนอข้อมูล

5 การนาข้อมูลมาใช้แกป้ ัญหา

การนิยามปัญหา (Problem Definition)

เป็นการตั้งคาถามท่ีสนใจและต้องการหาคาตอบ
ซ่ึงควรมีความกระชับและชัดเจน ระบุผลลัพธ์ท่ีต้องการ
จากกระบวนการแก้ไขปัญหาพร้อมรายละเอียด เงื่อนไข
สถานการณ์เฉพาะท่เี ก่ียวข้องกับปัญหาอย่างครบถ้วน
ตัวอย่างเช่น โรงเรียนมีขยะจานวนมาก ล้นถังขยะ และมี
การท้ิงขยะไม่เป็นท่ี

6 การนาข้อมูลมาใชแ้ กป้ ัญหา

การวเิ คราะห์ปัญหา (Problem Analysis)

เ ป็ น ก า ร ท า ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ปั ญ ห า เ พ่ื อ ก า ห น ด
สาระสาคัญของปัญหาและข้อมูลท่ีเก่ียวข้อง โดยมีการทา
ความเข้าใจปัญหา ค้นหาสาระสาคัญของปัญหา พิจารณา
ว่าส่ิ งใดเป็นผลลัพธ์จากการแก้ปัญหาและข้อมูลต่างๆ ท่ี
จ า เ ป็ น ใ น ก า ร ห า ผ ล ลั พ ธ์ โ ด ย มี ร า ย ล ะ เ อี ย ด ก า ร
ดาเนินการท่เี ก่ียวข้อง คือ

7

การวิเคราะห์ปัญหา (Problem Analysis)

• กาหนดข้อมูลหลกั ทีใ่ ช้ในการประมวลผลเพ่ือหาคาตอบ
• กาหนดปริมาณข้อมูลท่ีต้องรวบรวม ให้มีปริมาณท่ีเพียงพอ

และเหมาะสมกบั การนาไปหาข้อสรุป
• กาหนดกรอบเวลาในการรวบรวมข้อมูล
• กาหนดชนิ ดของข้อมูล รูปแบบข้อมูล หน่ วยของข้อมลู

8

การวเิ คราะห์ปัญหา (Problem Analysis)

ตัวอย่างเช่น โรงเรียนมีขยะจานวนมาก โดยวิเคราะห์ข้อมูลที่
เกยี่ วข้องทงั้ หมด
• มจี านวนถังขยะกถี่ ัง ตงั้ ไว้ทใี่ ดบา้ ง
• มีการท้งิ ขยะในแต่ละถังในชว่ งเวลาใด มาก-น้ อยเทา่ ใด
• ความถี่ในการเกบ็ ขยะ
• พบขยะท่ีบริเวณอ่ืนท่ีไม่ใช่ถังขยะที่ใดบ้างและปริมาณมาก

เทา่ ใด
• ขยะทพ่ี บเป็นประเภทใด

9 การนาข้อมูลมาใช้แกป้ ัญหา

การรวบรวมข้อมลู (Data Collection)

การรวบรวมข้อมลู (Data Collection)เป็นการไดม้ าซ่งึ ข้อมูลที่
ถูกต้อง ครบถ้วน และจาเป็นต่อการแก้ปัญหา โดยข้อมูลท่ีเกี่ยวข้อง
กับปัญหาอาจมีจานวน ลักษณะ และประเภทที่แตกต่างกันไป ตามผล
จากการวเิ คราะห์ปัญหา ซ่งึ ขั้นตอนการรวบรวมข้อมลู ประกอบดว้ ย

1. กาหนด 2. กาหนดวิธกี าร 3. กาหนดวิธกี าร
แหล่งข้อมูล รวบรวมข้อมลู จัดเก็บข้อมูลท่ี
รวบรวมได้

10

การรวบรวมข้อมลู (Data Collection)

1. กาหนดแหล่งข้อมูล

คือ ทาการรวบรวมจากแหล่งกาเนิ ดข้อมูล (ข้อมูล
ปฐมภูมิ) หรือ รวบรวมจากแหล่งอ่ืนที่มีการเก็บข้อมูลไว้
( ข้ อ มู ล ทุ ติ ย ภู มิ ) ห า ก แ ห ล่ ง ข้ อ มู ล มี ค ว า ม น่ า เ ชื่ อ ถื อ
สอดคล้องกับเวลา และสถานการณ์ จะช่วยเพ่ิมความมั่นใจ
ในความถูกต้องของข้อมลู มากย่งิ ข้ึน

11

การรวบรวมข้อมลู (Data Collection)

2. กาหนดวธิ กี ารรวบรวมข้อมลู

ข้ึนกับลักษณะข้อมลู แหลง่ ข้อมูล และปรมิ าณข้อมลู

3. กาหนดวิธกี ารจัดเกบ็ ข้อมูลท่รี วบรวมได้

ค า นึ ง ถึ ง ก า ร น า ข้ อ มู ล ไ ป ใ ช้ ใ น ขั้ น ต อ น ก า ร
ประมวลผลข้อมลู

12

การรวบรวมข้อมลู (Data Collection)

วิธกี ารรวบรวมข้อมลู ประกอบด้วย
1.การสั งเกต เฝ้ าดู

แล้วจดบันทึกสถานะต่างๆ
ท่ีเกี่ยวกับปัญหาท่สี นใจ

13 การรวบรวมข้อมูล (Data Collection)

2. การสารวจ/สอบถาม ทาแบบ
สารวจหรือแบบสอบถามที่ระบุรายละเอียด
ข อ ง ข้ อ มู ล ที่ ต้ อ ง ก า ร ใ ห้ ค ร บ ถ้ ว น โ ด ย
กาหนดลักษณะคาถามและรู ปแบบการตอบ
ค า ถ า ม ใ ห้ ผู้ ต อ บ แ บ บ ส อ บ ถ า ม ใ ห้ ข้ อ มู ล ไ ด้
งา่ ยและถูกตอ้ ง

14 การรวบรวมข้อมลู (Data Collection)

3. การสั มภาษณ์ ใช้คาถาม
กั บ ผู้ รั บ ก า ร สั ม ภ า ษ ณ์ ท า ใ ห้ ไ ด้
คาอธิบายเพ่ิมเติม แต่ใช้เวลาและ
ค่าใช้จา่ ยค่อนข้างสงู

15 การรวบรวมข้อมูล (Data Collection)

4. ก ารสน ทน าก ลุ่ม เก็บรวบรวมข้ อมูลจาก
กล่มุ เป้าหมายทีค่ ัดเลือกไวโ้ ดยจดั ให้มสี นทนากลมุ่ มี
ผูด้ าเนิ นการสนทนาเป็นผู้ซกั ถามประเดน็ ที่สนใจ

16 การรวบรวมข้อมูล (Data Collection)

ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลดงั กล่าว
สามารถนาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ใน
การรวบรวมข้อมูลได้แบบอัตโนมัติ เพ่ือ
ช่วยลดข้อผิดพลาดในการจดบันทึก อีก
ทงั้ ยงั สะดวกรวดเรว็ ในการรวบรวมข้อมลู
ปริมาณมาก รวมถึงสามารถเข้าถึงผู้ให้
ข้อมูลไดอ้ ยา่ งไรพ้ รมแดน

17 การรวบรวมข้อมลู (Data Collection)

การสืบค้นเพ่ือหาแหลง่ ข้อมูล

การสื บค้นข้อมูลด้วยมือ เป็นการ การสื บค้นข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์
สืบค้นตามเอกสาร หนังสือ ตารา เ ป็ น ก า ร สื บ ค้ น ผ่ า น เ ท ค โ น โ ล ยี
สารสนเทศหรอื คอมพิวเตอรต์ า่ ง ๆ

18 การรวบรวมข้อมูล (Data Collection)

ประเมนิ ระดับเนื้อหาของข้อมลู
โดยข้อมูลสามารถแบ่งได้ 3 ระดับ ไดแ้ ก่

ข้อมูลปฐมภูมิ เป็นข้อมูลท่ีได้จาก
การค้นคว้าโดยตรงของผู้เขี ยน
เชน่ รายงาน วิจยั วิทยานิ พนธ์

19

การรวบรวมข้อมูล (Data Collection)

ข้อมูลทุติยภูมิ เป็นการนาข้อมูล
ปฐมภมู ิมาเขียนเรยี บเรยี งใหม่โดย
ระบแุ หล่งทม่ี าอยา่ งชดั เจน

20

การรวบรวมข้อมลู (Data Collection)

ข้อมูลตติยภูมิ เป็นการช้ีแนะ
แ ห ล่ ง ข้ อ มู ล ป ฐ ม ภู มิ แ ล ะ ทุ ติ ย
ภู มิ เ ช่ น บ ร ร ณ า นุ ก ร ม
เอกสารอา้ งอิง

21 การนาข้อมูลมาใชแ้ กป้ ัญหา

การเตรยี มข้อมูล (Data Preparation)

เป็นการดาเนิ นการกับข้อมูลท่ีรวบรวมมา เพื่อให้เป็นข้อมูล
ที่มีคุณภาพ พร้อมนาไปประมวลผล อย่างไรก็ตาม ข้อมูลบางส่ วนที่
ได้จากการรวบรวมอาจจะยังไม่สามารถนาไปประมวลผลไดใ้ นทันที
จาเป็นตอ้ งทาความสะอาดข้อมูล (Data Cleansing) กอ่ น เช่น ข้อมูล
ที่มีความซา้ซ้อน มีค่าหรือลักษณะที่ผิดจากข้อมูลอื่น หรือมีรายการ
ข้อมูลทขี่ าดหายไป

22 การเตรยี มข้อมูล (Data Preparation)

แนวทางในการ ความสมบูรณ์
ต ร ว จ ส อ บ ค ว า ม ผิ ด ป ก ติ (Validity)
ข อ ง ข้ อ มู ล เ พ่ื อ ท า ค ว า ม
สะอาดข้อมูล ประกอบดว้ ย รูปแบบเดยี วกัน
(Uniformity)

ความครบถ้วน
(Completeness)

ความทนั สมัย
(Timeliness)

23 การเตรยี มข้อมลู (Data Preparation)

ความสมบรู ณ์
(Validity)

• ข้อมลู และชนิ ดข้อมูลมคี วามสอดคลอ้ งกัน เช่น อายเุ ป็นข้อมลู ชนิ ดตัวเลข
ชอ่ื เป็นข้อมูลชนิ ดข้อความ

• ข้อมูลมีค่าสอดคล้องกับความเป็นจรงิ เช่น นา้หนักต้องไม่เป็นจานวนลบ
วันท่ี 30 ตอ้ งไม่ใชว่ ันในเดือนกุมภาพันธ์

• ข้อมูลบางอย่างจะมีค่าไม่ซา้กัน เช่น รหัสประจาตัวนั กเรียนในโรงเรียน
เดียวกัน เลขทะเบียนรถ

• ข้อมลู บางอย่างต้องไมเ่ ป็นค่าว่าง เชน่ ชื่อนั กเรยี น วันเดอื นปีเกิด
• ข้ อมูลมีค่าผิดปกติจากข้ อมูลค่าอ่ืน เช่น ข้อมูลอายุของนั กเรียน ท่ีมี

นักเรยี นอายุ 150 ปี

24 การเตรยี มข้อมลู (Data Preparation)

รูปแบบเดยี วกนั
(Uniformity)

• เก็บในรู ปแบบเดียวกัน เช่น นา้หนั กหน่ วยเป็นกิโลกรัม
รูปแบบปีทเ่ี ป็นปีพทุ ธศักราช

ความครบถ้วน
(Completeness)

• มีการรวบรวมข้อมลู ทเี่ กยี่ วข้องอยา่ งครบถ้วน

ความทันสมยั (Timeliness)

• มคี วามสอดคลอ้ งกบั เวลา หรอื สถานการณ์

25 การนาข้อมูลมาใช้แกป้ ัญหา

การประมวลผลข้อมลู (Data Processing)

เป็นการดาเนิ นการกับข้อมูลเพ่ือให้ได้สารสนเทศ
ตามวัตถุประสงค์ โดยอาจได้ข้อค้นพบอ่ืนท่ีมีความหมาย
ซ่อนอยู่ นาไปสู่ข้อสรุ ปที่สอดคล้องกับปัญหาท่ีกาหนด
หรอื นาไปใชป้ ระโยชน์ ได้

26

การประมวลผลข้อมูล (Data Processing)

การวิเคราะห์ข้อมูล นอกจากวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์
แล้ว อาจวิเคราะห์เพื่อค้นหาความหมายอื่นท่ีซ่อนอยู่ รวมถึง
สาระสาคัญท่ีจะเป็นประโยชน์ จากข้อมูล เช่น ความสั มพันธ์
ระหวา่ งข้อมลู ความเชอ่ื มโยงของข้อมลู รูปแบบท่ีปรากฏในข้อมูล
ทงั้ นี้ เพื่อให้ส่ิงทคี่ ้นหามคี วามชัดเจน ต้องรวบรวมข้อมูลปรมิ าณที่
มากพอจากแหล่งข้อมูลทเี่ ชอ่ื ถือได้

27

การประมวลผลข้อมูล (Data Processing)

สาหรับการวิเคราะห์ข้อมูลมีหลายวิธีแต่ในท่ีน้ี จะกล่าวถึง
เฉพาะการวิเคราะห์เชิงพรรณนา ซ่งึ เป็นการดาเนิ นการกับข้อมูลเชิง
ปริมาณ เช่น จานวนเต็มหรือจานวนจริง โดยการวิเคราะห์เชิง
พรรณนา (Descriptive Analysis) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่ออธบิ าย
คุณลักษณะของชุดข้ อมูลที่สนใจ โดยใช้ค่าสถิติ เช่น ค่าเฉล ีย่
(Mean), มัธยฐาน (Median),ฐานนิ ยม (Mode),รอ้ ยละ (Percentage),
ความถี่ (Frequency), พิสัย (Range)

28 การนาข้อมูลมาใช้แกป้ ัญหา

การนาเสนอข้อมูล (Data Presentation)

เป็นการนาเสนอข้ อสรุ ปจากการประมวลผลในรู ปแบบท่ี
สื่ อความหมายอย่างชัดเจน โดยในที่นี้ กล่าวถึงการสื่ อความหมาย
ข้อมูลในรูปแบบ การทาข้อมูลให้เป็นภาพ (Data Visualization)
ซ่งึ เป็นการนาเสนอผลลัพธข์ องข้อมูลในรูปแบบทชี่ ่วยให้ผรู้ บั สาร
เข้าใจตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ส่ งสาร เช่น การนาเสนอในรูป
แผนภมู ิ แผนภาพ กราฟ และอนิ โฟกราฟฟิก

29

การนาเสนอข้อมลู (Data Presentation)
แผนภูมแิ ท่ง

30

การนาเสนอข้อมูล (Data Presentation)
แผนภมู ิวงกลม

31 การนาเสนอข้อมูล (Data Presentation)

ฮิสโทแกรม

32

การนาเสนอข้อมลู (Data Presentation)
แผนภาพการกระจาย

33

การนาเสนอข้อมูล (Data Presentation)
แผนภมู พิ ้ืนท่ี

34

การนาเสนอข้อมูล (Data Presentation)
แผนภมู แิ บบฟอง

35

กิจกรรม

1. ถ้านั กเรียนเป็นเจ้าของธุ รกิจการผลิตกระดาษชาระ จะ
เก็บข้อมูลอะไรบ้างและจะประมวลผลข้อมูลอย่างไรเพื่อให้
สามารถผลิตกระดาษตรงตามการใช้งานของผใู้ ช้

2. ธุ รกิจรถรับ-ส่ งนั กเรียน จะเก็บข้อมูลอะไรบ้างและจะ
ประมวลผลข้ อมูลอย่างไร เพื่ อสามารถให้ บริก ารได้
เพียงพอและทันเวลา

36

กิจกรรม

3. ถ้ า นั ก เ รีย น เป็ น ก ร ร มก า รส หก ร ณ์ โ ร งเ รียน ต้ อง ก าร ใ ห้
สหกรณ์มสี ินค้าท่นี ่ าสนใจและตรงกับความต้องการของลูกค้า
ส่ วนใหญ่ ต้องเก็บข้อมูลอะไรบ้างและจะประมวลผลข้อมูล
อยา่ งไร

4. ถ้านั กเรียนต้องการให้โรงเรียนเปิดรายวิชาเพ่ิมเติมที่ตรงกับ
ความสนใจและความต้องการของนั กเรียนทั้งโรงเรียนมาก
ทีส่ ดุ ต้องเก็บข้อมูลอะไรบา้ งและจะประมวลผลข้อมูลอยา่ งไร

37

กิจกรรม

5. นั กเรียนจะนาการวิเคราะห์ ข้ อมูลไปใช้
แกป้ ัญหาในชวี ติ ประจาวันอยา่ งไร

38

สรุปทา้ ยบท

ปัญหาหรือส่ิ งท่ีสนใจล้วนมีข้อมูลเป็นองค์ประกอบสาคัญ
เมื่อได้มีการนิ ยามปัญหาและวิเคราะห์ปัญหาเรียบร้อยแล้วการนา
ข้อมูลมาชว่ ยแกป้ ัญหาจะเร่มิ ต้นจากการรวบรวมข้อมูลให้ไดข้ ้อมูลท่ี
ถูกต้องครบถ้วน การเตรียมข้อมูลให้เป็นข้อมูลท่ีมีคุณภาพอยู่ใน
รู ปแบบที่สอดคล้องกับวิธีการประมวลผลข้อมูลโดยเลือกวิธีการ
วิเคราะห์ข้อมูลท่ีจะนาไปสู่คาตอบของปัญหาหรือเป็นประโยชน์ ใน
การแก้ปัญหาและการนาเสนอข้อมูลในรู ปแบบท่ีน่ าสนใจ ส่ื อ
ความหมายชดั เจน เข้าใจงา่ ย

39

สรุ ปท้ายบท

จะเห็นได้ว่าข้อมูลเป็นส่ิ งที่มีคุณค่ามีความหมาย
ซ่ อ น อ ยู่ ภ า ย ใ น ด้ ว ย ตั ว ข อ ง ข้ อ มู ล เ อ ง ห รื อ เ มื่ อ มี ก า ร ส ร้ า ง
ความสั มพันธ์กับข้อมูลอ่ืนๆ ข้อมูลเป็นพ้ืนฐานสาคัญใน
การตัดสิ นใจของบุคคล สั งคมองค์กรและประเทศโดย
คานึ งถึงจริยธรรมและประโยชน์ ท่ีจะเกิดข้ึนกับทุกฝ่ายท่ี
เกย่ี วข้อง


Click to View FlipBook Version