The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 3 ภาพยนตร์ไทยที่สร้างจากวรรณกรรม (วรร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ผศ.วรกุล, 2022-11-27 22:09:42

บทที่ 3 ภาพยนตร์ไทยที่สร้างจากวรรณกรรม (วรร

บทที่ 3 ภาพยนตร์ไทยที่สร้างจากวรรณกรรม (วรร

บทที่ 3

ภาพยนตร์ไทยที่สร้างจาก
วรรณกรรม

เนื้ อหาในวันนี้ 1. หนั งสือเรื่องคำพิพากษา

2. หนั งสือเรื่อง ความสุขของกะทิ




3. หนั งสือชุด “เหมืองแร่”



4. หนั งสือเรื่อง ทวิภพ

เนื้ อหาในวันนี้ 5. หนั งสือเรื่อง แม่เบี้ย

6. หนั งสือเรื่อง สนิ มสร้อย




7. หนั งสือเรื่อง มนต์รัก
ทรานซิสเตอร์





8. หนั งสื่อเรื่อง ข้างหลังภาพ

เนื้ อหาในวันนี้ 9. หนั งสือเรื่อง จัน ดารา

10. หนั งสือเรื่อง ชั่วฟ้าดินสลาย

1. หนั งสือเรื่อง คำพิพากษา

หนั งสือรางวัลซีไรต์ที่นำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ คือ “คำพิพากษา” ของ
ชาติ กอบจิตติ โดยนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์โดยให้ชื่อเรื่องว่า “ไอ้ฟัก” (The
Judgement) พ.ศ. 2547

เนื้ อเรื่องได้นำเสนอเนื้ อหาที่มีความรุนแรง แต่กระนั้ นก็แฝงไปด้วยความรู้และข้อคิดที่น่ า
สนใจว่า จริงหรือ ที่ศีลธรรมนำพาซึ่งความสงบสุขมาสู่เรา เนื่ องจากชิวิตของภารโรง
ผู้นี้ ได้ถูกทำร้ายโดยสาเหตุจากการกระทำความดีของเขา นวนิ ยายเรื่องคำพิพากษา
จึงเป็นการเสนอเรื่องราวแนวคิดของคนมีฐานะเป็นปัจเจกชน ที่มักตกเป็นเหยื่อของความเชื่อ
และคำตัดสิน ของสังคมไม่ว่าเรื่องนั้ นจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม ส่งผลให้บุคคลนั้ นต้อง
อ้างว้างโดดเดี่ยวทุกข์ทรมาน ทั้งร่างกายและจิตใจ ผู้เขียนได้สร้างเรื่องราวโดยใช้สังคม
ชนบทไทยเป็นฉากมีตัวละครชื่อ "ฟัก" เป็นตัวเอกของ การดำเนิ นชีวิต ปัญหารุมเร้าฟัก
มากมายจนดิ้นไม่หลุด เขาพยายามต่อสู้เมื่อไม่มีทางออก จึงหนี จากโลกของความเป็นจริง
สร้างโลกใหม่ที่เขาหลงคิดว่าเป็นหนทางออกไปสู่อิสรภาพ ท้ายที่สุดเขาได้รับอิสรภาพที่แท้
จริงนั่ นคือ ... "ความตาย"

2. หนั งสือเรื่อง ความสุขของกะทิ

ดัดแปลงมาจาก หนั งสือ “ความสุขของกะทิ” (The Happiness of Kati) พ.ศ.
2552 ของ งามพรรณ เวชชาชีวะ หนั งสือ “ความสุขของกะทิ” เป็นนิ ยายซีไรท์ที่
ขายดีที่สุดเล่มหนึ่ งในบรรดาหนั งสือซีไรท์ทั้งหมด

ความสุขของกะทิ เล่าเรื่องราวของน้ องกะทิ เด็กหญิงวัย 9 ขวบที่กำลังจะต้องสูญเสีย
แม่ ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ ออ่อนแรง แม่รู้ตัวดีว่าไม่สามารถเลี้ยงดูกะทิได้ จึงฝากกะทิให้ตา
กับยายเลี้ยง กะทิเติบโตมาด้วยความรักของตาและยาย มีชีวิตอย่างสุขสบายในบ้านหลังน้ อย
ริมคลองอันอบอุ่น

กะทิมีครอบครัวที่เอาใจใส่ ดูแลกะทิด้วยความรัก และความห่วงใยจากใจจริง เธอมี
คุณตาที่เคยเป็นทนาย ซึ่งสามารถเรียกเสียงหัวเราะจากกะทิและครอบครัวได้อยู่เสมอๆ
คุณยายของกะทิเป็นคนที่เคร่งครัด และหัวโบราณ แต่ถึงกระนั้ นก็สอนกะทิเรื่องต่างๆ นานา
อาทิเช่น การทำอาหาร การอยู่ในสังคม เป็นต้น พี่ทองเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจกะทิเป็นอย่างดี
และเป็นคนที่มีบุญคุณต่อกะทิ เพราะว่าพี่ทองเคยช่วยชีวิตกะทิไว้ตอนกะทิเป็นเด็กเล็ก น้ าฎา
และน้ ากันต์ซึ่งเป็นคนที่ห่วงใยกะทิ และคอยหาสิ่ งดีๆ ให้กะทิอยู่เสมอๆ และเป็นคนที่พูดปลอบ
ใจกะทิในยามที่กะทิเศร้าโศกเสียใจ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ แม่ของกะทิ ที่ถึงแม้จะจากไปก่อนวัย
อันควรแต่ก็จัดสิ่ งต่าง ๆไว้ให้กะทิอย่างดิบดี ด้วยความรัก และเอาใจใส่จากใจ

3. หนั งสือชุด “เหมืองแร่”

วรรณกรรมคลาสสิค มหา’ลัยเหมืองแร่ (The Tin Mine) พ.ศ. 2548
ดัดแปลงมาจาก หนั งสือชุด “เหมืองแร่” ของอาจินต์ ปัญจพรรค์ หนั งสือ
ชุด “เหมืองแร่” ถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 100 เล่มหนั งสือที่คนไทยควรอ่าน

เนื้ อหาว่าด้วยช่วงชีวิตสุดพลิกผันของ อาจินต์ ปัญจพรรค์ หลังถูกรีไทร์จากคณะ
วิศวกรรมศาสตร์ ปี 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อนั้ นเองที่อาจินต์ต้องนำพาชีวิตเดินทาง
ไกลจากเมืองหลวง แล้วไปสิ้ นสุดลงที่ ‘เหมืองกระโสม ทิน เดรดยิง’ อำเภอตะกั่วทุ่ง ตำบล
กระโสม จังหวัดพังงา เหมืองแร่ดีบุกในยุคที่กิจการเหมืองแร่ในไทยยังเฟื่ องฟู เพื่อเริ่มต้นลง
ทะเบียนเรียนรู้ ณ สถานศึกษาแห่งใหม่ มหาวิทยาลัยแห่งชีวิตที่อาจินต์ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง
ผ่านการทำงาน ทุกวัน ทุกเดือน ทุกปีที่ข้ามผ่าน คือวิชาที่ไม่เคยมีตำราเล่มไหนบอกสอน
แบบฝึกหัดที่ต้องใช้แรงกาย ลมหายใจ และหัวใจเข้าแลก สำคัญที่สุดคือการได้เรียนรู้คุณค่า
ของชีวิตและมิตรภาพจากเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน ‘เหมืองกระโสม ทิน เดรดยิง’ ไม่มีใบ
ปริญญามอบให้ มีเพียงเกียรติยศและความภาคภูมิใจส่วนตัว มอบไว้ให้เมื่อหันหลังจากมา…

4. หนั งสือเรื่อง ทวิภพ

ทวิภพ (The Siam Renaissance) พ.ศ.2546 ดัดแปลงมาจาก หนั งสือ “ทวิภพ”
ของ “ทมยันตี” เนื้ อหาในหนั งสือเน้ นที่ความรักสลับกับเรื่องการเมือง
แต่เมื่อนำมาทำเป็นภาพยนตร์ ผู้สร้างได้ชูประเด็นการเมืองขึ้นมาเป็นหลัก
และลดทอนประเด็นเรื่องรักออกไป

เรื่องราวของหญิงสาวไทยยุคปัจจุบันที่หลงมิติไปอยู่ในสยาม สมัยแผ่นดินของพระบาท
สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประเทศมหาอำนาจทางตะวันตกพยายามจะ
เข้ามายึดครอง เริ่มจากลูกสาวนั กการทูตชื่อ มณีจันทร์ เธอถูกใจกระจกเก่าบานหนึ่ ง และ
ตัดสินใจซื้อกลับมาไว้ที่ห้องนอน โดยที่ตัวเธอเองไม่รู้ว่ากระจกบานนั้ นมีสิ่ งมหัศจรรย์ซ่อนอยู่
จนมาวันหนึ่ งมณีจันทร์สามารถใช้กระจกย้อนกลับอดีตไปในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ และที่นั่ นเธอ
ได้พบกับหลวงอัครเทพวรากร จนเกิดเป็นความรักข้ามกาลเวลาของหญิงสาวที่มาโลกปัจจุบัน
กับชายหนุ่ มในอดีต โดยมีบอกเล่าประวัติศาสตร์ของสยามซึ่งกำลังประสบปัญหาการล่า
อาณานิ คมของฝรั่งเศสและอังกฤษ

5. หนั งสือเรื่อง แม่เบี้ย

ดัดแปลงมาจาก หนั งสือ “แม่เบี้ย” พ.ศ. 2544 ของ วาณิช
จรุงกิจอนั นต์ เสน่ ห์ของนิ ยายเรื่องนี้ อยู่ที่ความลึกลับ
ไม่น่ าไว้ใจของจิตใจมนุษย์ ตัณหา ราคะ และสิ่ งเหนื อ
ธรรมชาติ โดยมีการใช้งูเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความลุ่มหลง
ในกิเลสตัณหาของตัวละคร บวกกับการดำเนิ นเรื่องที่พลิก
ผันสุดเร้าใจ และสำนวนแปลกใหม่ของวาณิช ทำให้ แม่เบี้ย
ถือเป็นนิ ยายระดับมาสเตอร์พีซ

ทุกเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “ชนะชล สุพรรณภูมิ” ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ผู้มั่งคั่งมี
ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นเจ้าของ “เรือนไทยโบราณริมแม่น้ำ” ทำให้ “ภาคภูมิ”
เลขาคนสนิ ทได้พาเขาไปดูเรือนไทยโบราณที่ อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี ของ “เมขลา พลับพลา”
เจ้าของบริษัท “เมขลาทัวร์” ซึ่งเป็นเพื่อนหญิงรุ่นพี่ของภาคภูมิ ที่นั่ น ชนะชลเกิดความลุ่มหลง
ในความเร้นลับของบรรยากาศเรือนไทยโบราณแห่งนั้ น รวมทั้งเสน่ ห์อันยั่วยวนใจของเมขลา
เจ้าของบ้าน ทำให้ทั้งสองติดต่อกันเรื่อยมาจนก้าวข้ามไปสู่ความสัมพันธ์ฉันชู้สาวอย่างลึกซึ้ง
และที่เรือนไทยแห่งนี้ ชนะชลได้ค้นพบขนบธรรมเนี ยนประเพณีไทยที่บ้านนั้ นรักษาไว้อย่าง
เคร่งครัดพร้อมกับความลึกลับที่มี “งูเห่ายักษ์”แฝงเร้นความน่ าสะพรึงกลัวในบ้านนั้ น และคอย
จับจ้องทำร้ายเขาในทุกขณะจิต

และที่นี่ เขาก็ได้พบกับ “ลุงทิม” คนเก่าแก่แห่งครอบครัวพลับพลาผู้เฝ้าดูแลและกุมความ
ลับเหนื อธรรมชาติของเรือนไทยโบราณแห่งนี้ ซึ่งชนะชลรู้สึกคุ้นเคยกับชายชราผู้นี้ เป็นพิเศษ
ราวกับเคยรู้จักกันมาแต่เก่าก่อน รวมถึงการล่วงรู้ความลับดำมืดในบ้านเรือนไทยหลังนี้ ที่ได้
สร้างความปวดร้าวใจแก่ “คุณโกสุม” มารดาของเมขลาเป็นยิ่งนั ก ซึ่งมันอาจจะเกี่ยวพันกับ
ปริศนาชีวิตในอดีตของเขาที่ยังไม่อาจคลี่คลาย ยิ่งเวลาผ่านไป สัมพันธ์สวาทของชนะชลและ
เมขลาก็ยิ่งดำดิ่งเป็นปมลึก และนั่ นได้นำพาทั้งคู่และคนรอบข้างไปสู่หายนะแห่งชีวิต ไม่ว่าจะ
เป็น “ไหมแก้ว” ภรรยาของชนะชลที่ไม่อาจยอมรับการนอกใจของสามีได้ และ “พจน์ ”
เพื่อนสนิ ทและคู่ขาของเมขลาที่หึงหวงอย่างรุนแรงต่อการปันใจของเธอให้ชายอื่น

รวมถึง “คุณ” (งูเห่ายักษ์) ที่ปรากฏตัวให้ชนะชลและเมขลาเห็นบ่อยขึ้น และแสดง
อำนาจเร้นลับมากขึ้นทุกที ราวกับจะดึงสติทั้งคู่ให้กลับมาอยู่ในทำนองคลองธรรม ก่อนที่
เรื่องราวทุกอย่างจะพลิกผันจบลงด้วยการแก้แค้น, ชำระบาป และความตาย เมขลาจึงจำต้อง
คลี่คลายปัญหาด้วยการตัดใจลา ยุติความสัมพันธ์กับชนะชลอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้งูเห่ายักษ์
พรากชีวิตของเขาไป ในขณะที่ชนะชลเองก็ได้ค้นพบรากเหง้าชีวิตอันเป็นต้นกำเนิ ดของเขา
ไปพร้อมๆ กับตระหนั กถึงบาปที่ตนก่อไว้เช่นกัน…

6. หนั งสือเรื่อง สนิ มสร้อย

ดัดแปลงมาจาก หนั งสือ “สนิ มสร้อย” (Feathers of
Passion) พ.ศ. 2546 ของ “รงค์ วงษ์สวรรค์ นั กอ่านหลายคน
ยกย่องให้เป็นหนึ่ งในผลงานที่ดีที่สุดของคุณ “รงค์”
ด้วยความที่สามารถถ่ายทอดชีวิตคนธรรมดาออกมาได้อย่างมี
เลือดเนื้ อ และถ่ายทอดภาพคนชายขอบของสังคมออกมาได้
อย่างสมจริงมีสี สั น

ในซ่องโสเภณีของคุณยาย เจ้าสำนั กบริกรรมทำเคล็ดเสร็จ ก็มีคนเข้ามาเที่ยวทันที
โดยแขกคนหนึ่ งเลือกขึ้นห้องกับ นางหร็อย ตอนยังสาว แล้ว สมร หลานวัยสาวของยาย
ก็ลงมามีปากเสียงกับยายด้วยเรื่องของผู้ชาย สมรถูกจี้จุดจนโกรธถึงกับสำทับว่า สักวันหนึ่ ง
เธออาจจะเปิดช่องขึ้นมาแข่งกับยาย แล้วก็ออกจากบ้านไปโดยมีหนุ่ มน้ อย ก้าน มองตามไป
ด้วยความศรัทธาและเทอดทุน เวลาผ่านไปหลายปี เมื่อคุณยายแพ้สังขาร พี่สมรจึงเปิด
สำนั กของตนเองขึ้นเป็นสำนั กโสเภณีชั่นสูงรับแต่แขกกระเป๋าหนั ก โดยมีก้านตามไปช่วย
อย่างซื่อสั ตย์

คืนหนึ่ ง นั กเลงม้าขี้เมา ประทิว มาเที่ยว พวกผู้หญิงต่างแอบหลบกันหมด ทำให้พี่สมร
ต้องให้เด็กกันครัว อีช่วย ไปนอนแทน แล้วมนั สก็พาเชลามาเที่ยว และพบสิรีแต่ถูกปฏิเสธ
ไม่ยอมออกไปข้างนอกบ้าน ในเวลาไล่เลี่ยกันนายยอด คนขับรถ พานายห้างฝรั่งมาเที่ยว
และถือโอกาสแอบขายวงเดือนกับพี่สมร เข้าวันนั้ น พี่สมรส่งคู่นอนอดีตจ่าตำรวจ
เทียด ซึ่งลาไปต่างจังหวัด ก้านเกลียดไอ้หมอนี่ จนถึงกับประชดเจ้าสำนั ก แต่พี่สมรไม่สนใจ
กลับเตือนให้ก้านไปทำธุระ เพื่อออกไปรับ วงเดือน ผู้ถูกนายยอดแอบมาเจรจาขายให้กับ
บ้านนี้ นั่ นเอง....

7. หนั งสือเรื่อง มนต์รักทรานซิสเตอร์

ดัดแปลงมาจาก หนั งสือ “มนต์รักทรานซิสเตอร์”
พ.ศ. 2544 ของ วัฒน์ วรรลยางกูล
กำกับโดย เป็นเอก รัตนเรือง นิ ยายส่วนใหญ่ของเขา
สะท้อนเรื่องราวชีวิตในชนบทและคนต่างจังหวัดที่
ออกมาสมจริง ตรงข้ามกับเป็นเอกซึ่งใช้ชีวิตส่วน
ใหญ่ในกรุงเทพมหานครฯ และต่างประเทศ

จุดเปลี่ยนของนิ ยายเกิดขึ้นเมื่อแผนต้องไปเกณฑ์ทหารขณะที่สะเดากำลังท้องแก่ใกล้
คลอด แต่เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เรื่องราวซับซ้อนขึ้นไปอีก และทำให้ชีวิตคู่ของแผนและ
สะเดาเปลี่ยนไป คือการที่แผนเลือกหนี ทหารเพื่อไปต่อสู้ตามความฝันของตนเองในการเป็น
นั กร้อง หลังจากวงดนตรีของนั กร้องชื่อดังที่แผนติดตามผลงานมาตลอดได้มาเปิดแสดง
หน้ าค่ายทหาร นอกจากเปิดการแสดงปกติแล้ว วงดนตรียังเปิดประกวดนั กร้องขวัญใจ
ลูกทุ่ง เพื่อคัดเลือกนั กร้องเข้าประจำวง แน่ นอนว่าแผนลงประกวดในชื่อ ‘สุรแผน เพชร
น้ำใจ’ และร้องเพลง นั กเพลงคนจน ด้วยความคิดถึงเมียรักอย่างสะเดา จนทำให้ผู้ชมที่ฟัง
เสี ยงของเขาถึงกับเคลิบเคลิ้มไปกับบทเพลง

แต่ท้ายที่สุด เขาก็ได้เพียงตำแหน่ งรองชนะเลิศ แต่ความโชคดีคือ ทั้งตำแหน่ งชนะเลิศ
และรองชนะเลิศ จะได้เข้าสังกดดนตรีคณะดังกล่าว เมื่อโอกาสที่ใฝ่ฝันมาถึง แผนจึงตัดสินใจ
เก็บข้าวของส่วนตัวใส่กระเป๋าสีเขียวขี้ม้า หลบออกมาจากกองทหารไปกับรถวงดนตรีมุ่งสู่
กรุงเทพมหานคร เพื่อทำตามความฝันของเขา – ฝันที่ต้องจำใจทิ้งเมียรักอีกครา

อย่างไรก็ดี ชีวิตของแผนไม่ได้เป็นดั่งฝัน เหมือนโลกแห่งความจริง ที่ความฝันกับความ
จริงอยู่ขั้วตรงข้ามกัน ปัญหาสารพัดรุมเร้าแผน บางครั้งทำให้เขาถึงกับต้องหลบหนี แต่เขาก็
เลือกที่จะยังไม่กลับไปหาเมีย เพราะความคิดที่อยากจะประสบความสำเร็จให้ได้ และนั่ นจึง
เป็นผลลัพธ์ที่ทำให้เขาต้องไปประสบพบเรื่องราวที่ยากลำบากอย่างต่อเนื่ อง

8. หนั งสื่อเรื่อง ข้างหลังภาพ



ดัดแปลงมาจาก หนั งสือ “ข้างหลังภาพ” (Behind
the Painting ) พ.ศ. 2544 ของ ศรีบูรพา เป็น
ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดจากหนั งสือได้ตรงที่สุด
ทั้งการดำเนิ นเรื่อง และบทสนทนาที่ดำเนิ นรอยตาม
หนั งสือทุกกระเบียดนิ้ ว อีกทั้งการถ่ายทำที่ตามไป
ถ่ายในสถานที่ที่ระบุไว้ถึงญี่ปุ่นจนเกือบครบ

ความรักเป็นพรอันประเสริฐ เป็นยอดปรารถนาของชีวิต “ม.ร.ว.กีรติ” ผู้สวยสง่าและ
ร่ำรวยเชื่อมั่นเช่นนี้ จึงหวังและรอที่จะได้รับพรความรักตั้งแต่เริ่มรุ่นสาว รอจนกระทั่งอายุ
34 ปี ผ่านวัยครึ่งคนแล้วก็ยังไม่เคยได้รับพรนี้ เลย เมื่อรู้สึกว่าสิ้ นหวังจึงยอมแต่งงานกับ
“พระยาอธิการบดี” ชายสูงอายุวัยพ่อ เจ้าคุณอธิการฯ พากีรติไปฮันนี มูนที่ญี่ปุ่น โดยขอร้อง
ให้ “นพพร” ลูกชายของเพื่อนที่เรียนอยู่ที่นั่ นนำเที่ยว นพพรหลงรักกีรติ เป็นรักครั้งแรก
ของหนุ่ มวัย 22 ปี เขาสารภาพรักกีรติที่ริมลำธารบนภูเขามิตาเกะในวันที่พาเธอไปเที่ยว
นพพรเฝ้าถามกีรติว่า “คุณหญิงรักผมไหม” กีรติไม่ตอบ นพพรยืนยันว่าเขาจะรักกีรติไปนาน
ตราบชั่วฟ้าดินสลาย

ต่อมาอีก 4 ปี เจ้าคุณอธิการฯ ตาย กีรติวาดภาพริมลำธาร และรอคอยนพพรที่จะกลับ
มาในอีก 3 ปีข้างหน้ า อีก 3 ปีกีรติอายุ 42 ปี รอรับพรความรักอีกครั้ง “ข้างหลังภาพ”
ถ่ายทอดเรื่องราวของ “นพพร” นั กเรียนไทยที่กำลังศึกษาอยู่ ณ ประเทศญี่ปุ่น ได้มีโอกาส
ต้อนร้บ “เจ้าคุณอธิการบดี” พร้อมภรรยายังสาว “หม่อมราชวงศ์กีรติ” ครั้งนั้ น นพพรรับ
หน้ าที่นำเที่ยวในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้นพพรและคุณหญิงได้ใกล้ชิดกัน ความรักระหว่างทั้ง
สองก่อเกิดขึ้นในใจอย่างไม่ทันตั้งตัว คุณหญิงต้องหักห้ามใจเพราะรู้ถึงสถานะตนเองว่ามีคู่
ชีวิต กระทั่งถึงวันที่ต้องร่ำลา เธอติดตามสามีกลับประเทศไทย ขณะที่อีกฝ่ายยังอยู่ที่นั่ น
จนกว่าจะสำเร็จการศึ กษา

ภายหลัง 6 ปี นพพรเดินทางกลับไทยได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของท่านเจ้าคุณ ฝ่าย
คุณหญิงกีรติที่ก็เฝ้ารอคอยกลับต้องผิดหวัง เมื่อนพพรตกลงแต่งงานกับคู่หมั้น จากนั้ น
ไม่นานอาการป่วยของคุณหญิงยิ่งทรุด ท้ายที่สุดทั้งสองได้พบกันอีกครั้งในเวลาที่เธอสิ้ นลม
เสียแล้ว ความรักที่ทั้งสองได้ร่วมวาดยังคงหลงเหลือไว้เพียงในความทรงจำ ดังคำพูดของ
คุณหญิงที่ว่า “ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็อิ่มใจที่มีคนที่ฉันรัก”

9. หนั งสือเรื่อง จัน ดารา

ดัดแปลงมาจาก หนั งสือ “เรื่องของจัน ดารา” (Jan Dara) พ.ศ.
2544 ของ อุษณา เพลิงธรรม จากวรรณกรรมมีหลายคนกล่าวตรงกัน
ว่ายากที่ทำเป็นภาพพยนตร์ เนื่ องจากมีฉากเสพสังวาส และพฤติกรรม
ผิดศีลธรรมของตัวละครตลอดทั้งเรื่อง จนถ้าหนั งทำเหมือนหนั งสือ
ทุกอย่าง สุดท้ายตัวหนั งเลยออกมาเบากว่าที่คิด จนต้องตัดเนื้ อหาบาง
ส่วนออกไป แต่ถึงกระนั้ นก็ต้องถือว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ พยายามรักษา
เนื้ อเรื่องหลัก ๆ และบรรยากาศของเนื้ อหาไว้ได้ดี

เรื่องราวโศกนาฏกรรมชีวิตของ “จัน ดารา” เริ่มต้นนั บตั้งแต่เขาถือกำเนิ ดขึ้นมาบนโลก
ณ บ้านพิจิตรวานิ ชในปี พ.ศ. 2458 เขาเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับความตายของมารดาโดยไม่คาดฝัน
นั่ นทำให้ “คุณหลวงวิสนั นท์เดชา” ผู้เป็นบิดาได้ลงโทษทัณฑ์เขาอย่างทารุณราวกับว่าเขาไม่ใช่
ลูก พร้อมเรียกขานเขาว่า “ไอ้จัญไร” ที่เรือนเล็กในสวนหลังบ้าน จันเติบโตขึ้นมาจากการเลี้ยง
ดูของ “น้ าวาด” ญาติสนิ ทของมารดาจากเมืองพิจิตร และมี “เคน กระทิงทอง” ลูกชายแม่ครัวใน
บ้านเป็นสหายสนิ ทเพียงคนเดียวที่จันสามารถเล่าทุกอย่างให้ฟังได้ ต่อมาน้ าวาดได้ตกเป็น
ภรรยาของคุณหลวง และให้กำเนิ ดลูกสาวสาวชื่อ “คุณแก้ว” หรือ “วิไลเลข” อันเป็นที่รักยิ่งของ
คุณหลวงซึ่งสอนให้หล่อนเกลียดชังจันตั้งแต่จำความได้

ตัวคุณหลวงเองนั้ นก็มักมากในกาม บริวารหญิงแทบทั้งสิ้ นในบ้านล้วนตกเป็น
เมียลับของเขา ซึ่งเมื่อเขามีอารมณ์ที่จะสังวาสกับหญิงคนใดก็กระทำการอย่างเปิดเผย ไม่ว่า
จะเป็นเวลาใดหรือมุมใดในบ้านหลังนั้ นอย่างเสรี จนทำให้เด็กทุกคนในบ้านไม่ว่าจะเป็นจัน
ดารา, เคน กระทิงทอง หรือคุณแก้วล้วนเติบโตขึ้นมาในบรรยากาศแห่งกามตัณหาอย่างที่
ไม่สมควรจะเกิดให้เป็นแบบอย่างแก่เด็กคนใดก็ตาม เมื่อจันเติบโตเป็นหนุ่ ม เขาได้เรียนรู้
ประสบการณ์แห่ง “กามคุณ” กับบ่าวหญิงในบ้าน โดยการชักนำของเคน กระทิงทอง ก่อนที่
จันจะได้พบรักอันบริสุทธิ์เป็นครั้งแรกกับ “ไฮซินธ์” เพื่อนหญิงร่วมโรงเรียนสอนภาษา
อังกฤษภาคค่ำ จนกระทั่งเมื่อคุณหลวงได้พา “คุณบุญเลื่อง” คนรักเก่าเข้ามาอยู่บ้าน

ทำให้จันเกิดความประทับใจในความสง่างามและความอบอุ่นประดุจมารดา ส่วนตัว
คุณบุญเลื่องเองก็ประทับใจในความละเอียดอ่อนลึกซึ้งดุจศิลปินของจัน จนมีความสัมพันธ์
ลับอันเกินเลย และแล้ววันหนึ่ ง ชะตากรรมได้พลิกผันทำให้จันล่วงรู้ความจริงบางอย่างอัน
น่ าอดสูเกี่ยวกับตระกูลของเขา นั่ นทำให้จันตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต เพราะคุณหลวงนั้ น
เป็นมนุษย์ฉ้ อฉลผู้ใช้ทุกกลวิธีในการคดโกงเพื่อครอบครองทรัพย์สิ นอันมหาศาลแห่ง
ตระกูลพิจิตรวานิ ช ทำให้จันต้องเดินทางหนี ภัยจากพระนครไปพำนั กอยู่กับ “คุณท้าวพิจิตร
รักษา” ผู้เป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เมืองพิจิตร เพื่อรอเวลาชำระแค้นและเอาทุก
สิ่ งทุกอย่างคืนกลับมาเป็นของเขาให้จงได้

โศกนาฏกรรมชีวิตของ “จัน ดารา” แวดล้อมไปด้วยผู้คนรอบข้างที่สะท้อนมวลอารมณ์แห่ง
ความรัก ความชัง ความใคร่ ความเคียดแค้น และการจดจำเอาเยี่ยงอย่างมาสู่การดำเนิ นชีวิต
ของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นธาตุแท้ของความเป็นมนุษย์
อันน่ าสมเพชจนนำไปสู่หายนะอย่างแท้จริง

10. หนั งสือเรื่อง ชั่วฟ้าดินสลาย

ดัดแปลงมาจาก หนั งสือ ชั่วฟ้าดินสลาย (Eternity) พ.ศ. 2553
นวนิ ยายขนาดสั้นของ เรียมเอง หรือ มาลัย ชูพินิ จ เนื่ องจากเป็นบท
ประพันธ์ที่มีพล็อตติดตรึงใจจนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วหลาย
ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นการันตีความแข็งแกร่งของเนื้ อหาได้ประมาณหนึ่ ง แต่
การดัดแปลงเป็นหนั งอีกครั้งในยุคสมัยนี้ ถือว่าน่ าสนใจ เพราะปัจจุบัน
หาภาพยนตร์รักพีเรียดย้อนยุคแบบอลังการงานสร้าง เนื้ อหาหม่นเศร้า
ไม่ค่อยได้แล้ว

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของกระแสการเมืองใหม่ซึ่งชาวสยามยังไม่คุ้นชินนั ก
เพียงหนึ่ งปีหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 นั้ น “ยุพดี” ม่ายสาวพราว
เสน่ ห์หัวสมัยใหม่จากพระนครได้สมรสกับ “พะโป้” คหบดีม่ายชาวพม่าอายุคราวพ่อ เจ้าของ
กิจการป่าไม้อันมั่งคั่งแห่งกำแพงเพชร ทั้งคู่ได้เดินทางไปใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยาที่ปางไม้เขา
ท่ากระดาน ซึ่งยุพดีคิดว่าชีวิตของเธอได้ถูกเติมเต็มแล้วในทุกๆ ด้านจากพะโป้สามีที่เธอรัก
แต่ ณ ที่นั้ นเอง ท่ามกลางพลังอำนาจแห่งไพรพฤกษ์และขุนเขา เมื่อยุพดีได้มาพบเจอกับ
“ส่างหม่อง” หนุ่ มพม่าผู้หล่อเหลาปานเทพบุตรแต่แสนบริสุทธิ์ในกามโลกีย์ผู้เป็นหลานชาย
ของพะโป้ ต่างก็เกิดความสิเน่ หาต่อกัน

ยิ่งทั้งคู่ได้ชิดใกล้กันมากเท่าไร ก็ยิ่งเกิดอาการหวั่นไหวและอยากอยู่ด้วยกันมากขึ้น
เท่านั้ นตามสัญชาตญาณหนุ่ มสาวที่ถูกกิเลสตัณหาครอบงำ โดยหารู้ไม่ว่านี่ คือ “จุดเริ่มต้น
แห่งโศกนาฏกรรมรัก” ในที่สุด ทั้งส่างหม่องและยุพดีก็มิอาจต้านทานความปรารถนาของ
ตนและยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจของกิเลสตัณหาอย่างถึงที่สุด ทั้งคู่ก้าวล้ำเส้นของการเป็น
หลานและอาสะใภ้โดยลอบเป็น “ชู้” กันและแล้วเมื่อพะโป้ได้ล่วงรู้ความจริงอันน่ าอัปยศเช่น
นี้ เขาดูเหมือนจะสงบนิ่ งอย่างผู้ผ่านประสบการณ์และเข้าใจโลกยิ่งนั ก แต่จริงๆ แล้วในใจ
เขากลับร้อนรุ่มด้วยโทสะจริต ติดกับดักแห่งเสน่ หาอาฆาตแบบถอนตัวไม่ขึ้นอย่างไม่คาดฝัน
พะโป้ตัดสิ นให้ยุพดีเมียสุดที่รักได้อยู่กินกับส่ างหม่องหลานรักอย่างเปิดเผย

ภายใต้เงื่อนไขอันแสนเย็นยะเยือกด้วยการล่าม “โซ่ตรวน” คล้องแขนติดกัน เพื่อ
พันธนาการว่าทั้งคู่จะได้ครองรักกัน…ชั่วนิ จนิ รันดร์ ถึงเวลาแล้วที่พะโป้จะได้ทำในสิ่ งที่เขา
วางแผนไว้อย่างแยบคาย เพื่อสอนบทเรียนให้กับทั้งหลานและภรรยาอันเป็นที่รักให้รู้จัก
ความหมายของ “ความรักชั่วนิ รันดร์ การลงทัณฑ์ชั่วชีวิต“ ใครเลยจะหยั่งรู้ว่า วิถีชีวิตของ 3
ชายหญิงที่ต้องโคจรมาทาบทับกันในวังวนแห่งกิเลสตัณหานี้ จะนำพามาซึ่งโศกนาฏกรรมรัก
อันยิ่งใหญ่ที่ต้องพิสูจน์ ด้วยเลือดเนื้ อ จิตวิญญาณ และกาลเวลาตราบ “ชั่วฟ้าดินสลาย”

Q@A


Click to View FlipBook Version