สบ่นู ้ำซาวข้าวจากน้ำมันพชื ท่ใี ชแ้ ลว้
โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พแุ ค อำเภอเฉลมิ พระเกียรติ จังหวัดสระบุรี
จดั ทำโดย
1. นางสาวเกตุวรินทร์ คำมะขนั เลขท่ี30
2. นางสาวนภิ าพร เดชพล เลขท่ี32
3. นางสาวปัทมา สุขีชิต เลขท3่ี 4
4. นางสาวพัชราภา ประสทิ ธิ์พร เลขท3่ี 5
5. นางสาวสพุ ตั รา แดงอาษา เลขท3่ี 6
6. นางสาวอาทติ ยา สุขโข เลขท3่ี 7
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่5ี /3
เสนอ
อาจารย์ ยุวดี ญาณสิทธิ์
รายงานฉบับนเ้ี ปน็ สว่ นหน่ึงของวชิ า การเขยี นรายงานวชิ าการ
รหสั วชิ า ร30202 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563
โรงเรียนเทพศิรนิ ทร์ พุแค อำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ จังหวัดสระบุรี
สำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 4
สารบัญ หนา้
ก
เรื่อง ข
ประวตั ิผู้จัดทำ
บทคัดย่อ 1
1
บทท่ี 1 บทนำ 1
1.1 ท่มี าและความสำคญั 2
1.2 วัตถปุ ระสงค์ 2
1.3 สมมติฐาน 2
1.4 ขอบเขตของการศึกษา 2
1.4 ประโยชน์ทไี่ ดร้ ับของโครงงาน
1.6 วิธกี ารดำเนนิ การ 4
1.7 นิยามศัพท์ 4
5
บทท่ี 2 เอกสารที่เกย่ี วข้อง 5
2.1 ความหมายของสบู่ 5
2.2 ขนดิ ของสบู่ 5
2.3 ลกั ษณะของสบ่ทู ่ดี ั 9
2.4 สารเคมีทใี่ ชท้ ำสบู่
2.5 คณุ สมบัติของนำ้ มันในการทำสบู่ 12
2.6 กระบวนการกวนสบแู่ บบกวนรอ้ นและแบบกวนเย็น
2.7 น้ำซาวข้าว
บทที่ 3 วัสดอุ ุปกรณ์และวธิ ีดำเนินงานโครงงาน
3.1 วัสดุ อปุ กรณ์และสารเคมี
สารบัญ (ต่อ)
3.2 แผนผงั การทดลอง 13
3.3 ข้ันตอนทำการทดลอง 14
บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งาน
4.1 การศกึ ษาคุณสมบตั ิของสบ่จู ากการใช้นำ้ ซาวข้าวชนิดต่างๆ 15
4.2 การศกึ ษาคุณสมบตั ขิ องสบู่จากการใชน้ ำ้ ซาวข้าวชนิดตา่ งๆในการลดกล่ิน
16
จากน้ำมนั พขื ทใี่ ชแ้ ล้ว
บทที่ 5 สรุปและอภปิ รายผลการดำเนินงาน 17
18
5.1 สรุปและอภิปราย 19
5.2 ข้อเสนอแนะในการทดลอง
ภาคผนวก
บรรณานกุ รม
ก
ประวัติผ้จู ดั ทำ
สบู่น้ำซาวข้าวจากน้ำมนั พชื ทีใ่ ช้แลว้
1.นางสาว เกตวุ รินทร์ คำมะขัน
ประวตั ิส่วนตัว
เกิดวนั ที่ 17 กรกฎาคม 2546 อายุ 17 ปี
ที่อยู่ 32/3 หมู่ 7 ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวดั สระบรุ ี 18240
ประวัตกิ ารศึกษา
ปี พ.ศ.2558 ชั้น ป.6 โรงเรียน
ศรจี อมทอง
ปี พ.ศ.2561 ช้นั ม.3 โรงเรียนหน้าพระลาน(พิบลู สงเคราะห)์
ปี พ.ศ.2563 ชั้น ม.5 โรงเรียนเทพศิรนิ ทร์ พแุ ค
2.นางสาว นภิ าพร เดชพล
ประวตั สิ ่วนตวั
เกดิ วนั ท่ี 25 กนั ยายน 2546 17ปี
ทอ่ี ยู่ 357 หมู่5 ตำบลหนา้ พระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวดั สระบรุ ี 18240
ประวัตกิ ารศกึ ษา
ปี พ.ศ.2558 ช้นั ป.6 โรงเรียนหน้าพระลาน(พบิ ูลสงเคราะห)์
ปี พ.ศ.2561 ชั้น ม.3 โรงเรยี นหน้าพระลาน(พิบลู สงเคราะห์)
ปี พ.ศ.2563 ชน้ั ม.5 โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พุแค
ก
3.นางสาว ปัทมา สุขชี ิต
ประวตั ิส่วนตัว
เกิดวนั ท่ี 23 มถิ ุนายน 2547 16 ปี
ทอ่ี ยู่ 55/2 หมู่9 ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกยี รติ จงั หวัดสระบรุ ี 18240
ประวัติการศึกษา
ปี พ.ศ.2558 ชั้น ป.6 โรงเรียนหนา้ พระลาน(พบิ ูลสงเคราะห์)
ปี พ.ศ.2561 ชัน้ ม.3 โรงเรียนหน้าพระลาน(พิบูลสงเคราะห์)
ปี พ.ศ.2563 ชน้ั ม.5 โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พุแค
4.นางสาว พัชราภา ประสิทธิ์พร
ประวัติส่วนตัว
เกดิ วันท่ี 30 กรกฎาคม 2546 อายุ 17 ปี
ทีอ่ ยู่ 207/3 หมู่ 11 ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบรุ ี 18240
ประวัตกิ ารศึกษา
ปี พ.ศ.2558 ชน้ั ป.6 โรงเรียนหน้าพระลาน(พบิ ลู สงเคราะห)์
ปี พ.ศ.2561 ชั้น ม.3 โรงเรยี นหนา้ พระลาน(พบิ ูลสงเคราะห์)
ปี พ.ศ.2563 ชนั้ ม.5 โรงเรยี นเทพศริ นิ ทร์ พแุ ค
5.นางสาว สพุ ตั รา แดงอาษา
ประวตั ิส่วนตัว
เกิดวนั ท่ี 14 กันยายน 2546 อายุ 17 ปี
ทอ่ี ยู่ 128 หมู่ 1 ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลมิ พระเกียรติ จังหวดั สระบุรี 18240
ประวตั กิ ารศึกษา
ปี พ.ศ.2558 ชั้น ป.6 โรงเรียน คุ้งเขาเขียว(สำเภาราชฎบำรุง)
ปี พ.ศ.2561 ชัน้ ม.3 โรงเรียนหน้าพระลาน(พบิ ลู สงเคราะห)์
ก
ปี พ.ศ.2563 ชนั้ ม.5 โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์ พุแค
6.นางสาว อาทติ ยา สุขโข
ประวัตสิ ่วนตัว
เกิดวนั ท่ี 6 ธันวาคม 2546 อายุ 16 ปี
ทอี่ ยู่ 100/ม.4 ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกยี รติ จงั หวัดสระบุรี 18240
ประวตั ิการศึกษา
ปี พ.ศ.2558 ชน้ั ป.6 โรงเรียนเกตุพิชัยวทิ ยา
ปี พ.ศ.2561 ชั้น ม.3 โรงเรียนวนิ ิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ
ปี พ.ศ.2563 ชนั้ ม.5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค
ข
ช่อื เรื่อง : สบนู่ ้ำซาวข้าวจากน้ำมันพืชทใ่ี ชแ้ ล้ว
ผู้จัดทำ : นางสาวเกตวุ รนิ ทร์ คำมะขนั เลขที่30
เลขท่ี32
นางสาวนิภาพร เดชพล เลขท3่ี 4
เลขท3่ี 5
นางสาวปทั มา สขุ ีชติ เลขท3่ี 6
เลขท่ี37
นางสาวพชั ราภา ประสทิ ธ์พิ ร
นางสาวสุพัตรา แดงอาษา
นางสาวอาทติ ยา สขุ โข
ทีป่ รกึ ษา : อาจารย์ ยุวดี ญาณสิทธ์ิ
ปกี ารศกึ ษา : 25563
บทคัดย่อ
น้ำมันพืชที่ใช้แล้วเป็นของเสียจากครัวเรือนอย่างหนึ่งไม่เหมาะที่จะนำไปรับประทานหลายๆคร้ัง
ผู้จัดทำจึงใช้น้ำซาวข้าวมาทำสบู่เพื่อลดกลิ่นคาวจากน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการนำของเหลือใช้ใน
ครัวเรือนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งสามารถขยายผลและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากน้ำมันพืชเหลือใช้เป็น
ผลติ ภัณฑ์สชู่ มุ ชนต่อไป
ในการทดลองได้ ศกึ ษาคณุ สมบัติของสบจู่ ากการใชน้ ้ำซาวข้าวชนิดตา่ งๆและศึกษาคุณสมบัติของสบู่
น้ำซาวข้าวชนดิ ตา่ งๆ ในการลดกล่นิ นำ้ มนั พืชท่ใี ช้แล้ว โดยเปรียบเทียบนำ้ ซาวข้าวหอมมะลิ น้ำซาวข้าวเหนียว
และน้ำซาวข้าวไรซ์เบอรี่ จากการทดลอง พบว่า ในการใช้น้ำซาวข้าวทั้ง 3 ชนิดมาทำสบู่นั้น จะยังคงให้กล่ิน
เฉพาะตัวของน้ำซาวข้าวอีกทั้งการใส่น้ำซาวข้าวในสบู่สามารถลดกลิ่นหืนที่เกิดจากน้ำมันปาล์มได้ เมื่อนำน้ำ
ซาวขา้ วชนิดต่างๆมาทำสบู่จากน้ำมนั พชื ที่ใช้แล้ว พบว่า สบ่ทู ี่ใช้น้ำซาวข้าวไรซ์เบอร่ี สามารถลดกล่ินคาวจาก
นำ้ มนั พชื เหลอื ใชไ้ ดด้ ีที่สดุ รองลง มาคือข้าวหอมมะลิ และขา้ วเหนียว ตามลำดับ โดยสบ่นู ำ้ ซาวขา้ วจากน้ำมนั
พืชที่ใช้แล้วนั้น สามารถนำไปปรับแต่งสูตรสบู่ เพื่อให้มีคุณสมบัติตามที่เราต้องการได้ และสามารถใช้ได้ใน
ครวั เรือน หรอื ขยายผลส่ชู ุมชนตอ่ ไป
1
บทที่1
บทนำ
1. ทม่ี าและความสำคัญ
น้ำมนั พชื ทใ่ี ช้แล้ว ถือเปน็ ของเสียจากครวั เรือน ไม่เหมาะท่ีจะนำไปรบั ประทานหลายๆครั้ง และอาจ
สร้างมลพิษได้ เนื่องจากมีกลิ่นเหม็น คณะผู้จัดทำจึงได้ศึกษาค้นคว้า ถึงวิธีการกำจัดกลิ่นคาว ซึ่งมีด้วยกัน
หลากหลายวธิ ี เช่น ใชม้ ะนาว ชา เกลอื และอืน่ ๆ แต่วิธีที่ผูจ้ ัดทำสนใจคือการใช้น้ำซาวข้าวในการลดกลิ่นคาว
ซ่ึงนำ้ ซาวขา้ วนั้น เป็นอกี หน่ึงของเสียจากครัวเรือนท่มี ีประโยชน์หลายด้าน อุดมไปดว้ ยคุณค่าทางอาหาร และ
มคี ณุ สมบตั ิ ช่วยถนอมผวิ จึงมีแนวคดิ ในการนำมาผลิตเป็นสบทู่ ี่สามารถใชใ้ นการซกั ล้างได้ และไม่มีกล่นิ เหม็น
ของน้ำมันเก่า ซึ่งประเภทของน้ำซาวข้าว ที่แต่ละบ้านเรือนหรือแต่ละท้องถิ่นบริโภคนั้นมีความหลากหลาย
เช่น ขา้ วหอมมะลิ ขา้ วไรซ์เบอรร์ ่ี ข้าวเหนยี ว และอื่นๆ คณะผูจ้ ัดทำจึงสนใจท่ีจะทำการทดสอบประสิทธิภาพ
ของน้ำซาวข้าวชนิดตา่ งๆ ในการลดกล่ินคาวในสบู่ท่ีได้จากน้ำมันพืชทีใ่ ช้แล้ว เพื่อพัฒนาสบู่จากน้ำมันพืชท่ใี ช้
แล้วใหม้ ีประสิทธภิ าพต่อไป
2. วัตถปุ ระสงค์
2.1 เพ่ือศกึ ษาคณุ สมบตั ขิ องสบจู่ ากการใชน้ ำ้ ซาวข้าวชนดิ ต่างๆ
2.2 เพอ่ื ศึกษาคุณสมบัตขิ องสบูน่ ำ้ ซาวข้าวชนดิ ตา่ งๆ ในการลดกลิน่ นำ้ มนั พืชที่ใช้แล้ว
2.3 เพ่อื เปน็ แนวทางในการสร้างผลติ ภัณฑ์จากสบู่น้ำมนั พืชทใ่ี ชแ้ ล้ว
3. สมมติฐาน
3.1 สบู่ทใ่ี ช้นำ้ ซาวขา้ วจะมีลักษณะแตกตา่ งกับสบูท่ ่ีไม่ใช้น้ำซาวข้าว
ตวั แปรตน้ คือ ชนิดของน้ำซาวขา้ ว
ตวั แปรตาม คือ ลักษณะของเนื้อสบู่
ตวั แปรควบคมุ คอื ปริมาณและความเข้มข้นของน้ำซาวข้าว NaOH นำ้ มัน ระยะเวลาในการคนสบู่
อุณหภูมิ
3.2 น้ำซาวข้าวตา่ งชนิดกันมคี วามสามารถในการดบั กลิ่นคาวในนำ้ มันพชื แตกตา่ งกัน
ตวั แปรต้น คอื ชนดิ ของน้ำซาวข้าว
ตัวแปรตาม คือ กลิน่ ของสบู่
ตัวแปรควบคุม คือ ปริมาณและความเข้มข้นของน้ำซาวข้าว NaOH น้ำมัน ระยะเวลาในการคนสบู่
อณุ หภมู ิ
2
4. ขอบเขตการศกึ ษา
4.1 นำ้ มนั พชื คือ น้ำมนั ปาล์มทีย่ ังไม่ไดผ้ ่านการใช้
4.2 นำ้ มันพืชท่ีใชแ้ ลว้ คือ นำ้ มันปาลม์ ที่ผา่ นการทอดปลานิล มาแลว้ 2 ครง้ั
4.3 น้ำซาวขา้ ว คอื น้ำท่ี 2 หลงั จากลา้ งฝ่นุ ละอองในขา้ วแลว้ แช่ขา้ ว : นำ้ ในอัตราสว่ น 200 กรมั
ตอ่ น้ำ 500 มลิ ลลิ ติ ร ท้ิงไว้ 2 ชัว่ โมง
5. ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะได้รบั จากโครงงาน
5.1 ไดส้ บู่ทไ่ี ดจ้ ากการใชน้ ำ้ ซาวข้าวชนดิ ตา่ งๆ
5.2 ได้สบนู่ ้ำซาวข้าวที่ไมม่ ีกลิ่นเหมน็ คาวจากน้ำมนั พืชทใี่ ช้แล้ว
5.3 ไดแ้ นวทางในการขยายผลและพฒั นาเปน็ ผลิตภัณฑต์ ่างๆจากนำ้ มนั พืชเหลือใช้ สูช่ มุ ชนต่อไป
6. วิธีดำเนินงาน
การดำเนนิ งานเพ่ือจัดทำโครงงานสบนู่ ำ้ ซาวข้าวจากน้ำมันพืชท่ีใชแ้ ลว้ น้ี มีวิธีการตามลำดบั ขนั้ ตอน
ดังน้ี
6.1 ศกึ ษาวธิ กี ารทำสบู่
6.2 ศกึ ษาความเป็นไปได้ในการนำนำ้ ซาวข้าวชนดิ ต่างๆ มาผลิตเปน็ สบู่
6.3 เตรยี มวัสดอุ ุปกรณ์ ในการทำ
6.4 ทดลองทำ และบันทึกผล
6.6 วเิ คราะห์ผลการทดลอง
6.7 จดั ทำรปู เล่มและนำเสนอผลที่ได้จากการทดลอง
7. นิยามศพั ท์
สบู่ หมายถึง สิ่งที่ผลิตขึ้นโดยนําไขสัตว์ เช่น ไขมันวัว หรือนํ้ามันพืช เช่น นํ้ามันมะพร้าว นํ้ามัน
มะกอกไปต้มกับด่างโซเดียมไฮดรอกไซด์จะได้สบู่แข็ง หรือนําไปต้มกับด่างโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ จะได้สบู่
อ่อน ใชช้ าํ ระล้าง
นำ้ ซาวข้าว หมายถงึ นำ้ ที่สองหลงั จากใชล้ ้างข้าวสารให้สะอาดกอ่ นจะหุง
น้ำมันพชื ท่ใี ชแ้ ล้ว หมายถึง นำ้ มันทผี่ ่านการทอดหรือประกอบอาหารในครวั เรือน
กระบวนการกวนเย็น หมายถึง Cold Process (CP) คือ อาศัยปฏิกิริยาทางเคมี คือ น้ำมัน (จาก
พืช)+ด่าง = สบู่ ใช้วิธีการแบบกวนเยน็ โดยไม่ใชค้ วามรอ้ นเรง่ ปฏิกริ ิยา
กลิน่ หนื หมายถงึ กลน่ิ ผดิ ปกตขิ องไขมนั หรือน้ำมัน เป็นการเสอ่ื มเสียของอาหาร (food spoilage)
เนื่องจากปฏิกิริยาทางเคมี ปฏิกิริยาออกซิเดชันของลิพิด ( lipid oxidation หรือ oxidative
rancidity) หมายถึง การหืนเนอื่ งจากปฏิกิริยาออกซเิ ดชนั
กลนิ่ คาว หมายถึง กล่นิ เหม็นของน้ำมันที่ได้จากการทอดปลา
3
บทที่2
เอกสารทเ่ี ก่ียวข้อง
1. ความหมายของสบู่
สบู่ เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดร่างกายที่ได้จากปฏิกิริยาของด่างกับไขมันจากพืชหรอื สัตว์
ปจั จบุ นั สบมู่ ีการใชส้ ว่ นผสมชนิดตา่ งๆเพ่อื ปรับปรุงคณุ สมบตั ิของสบูใ่ ห้มลี ักษณะพิเศษ ตรงตามความต้องการ
ใช้งานทห่ี ลากหลายข้นึ
“สบู่” จากคำข้างต้น หมายถึง ผลิตภัณฑ์ของสบู่ที่ทำให้เป็นก้อนหรือเป็นของเหลว พร้อมด้วย
ส่วนผสมต่างๆ เพื่อให้มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับการใช้ทำความสะอาด ซึ่งก็คือผลิตภัณฑ์สบู่ที่เราใช้กันในทุก
วันน้ี ส่วน “สบู่ (soap)” อีกคำทีพ่ บในสมการเคมจี ะหมายถงึ สารต้งั ต้นสำหรับการผลิตสบู่ น่ันก็คือ เกล็ดสบู่
(soap) ที่ได้จากปฏิกิริยาระหว่างด่างเข้มข้นกับไขมันพืชหรือสัตว์ ร่วมด้วยกับกลีเซอรีน (Glycerine)/กลีเซ
อรอล (Glycerol) ซึ่งสารทั้งสองเป็นสารตั้งต้นในการทำสบู่เหมือนกัน แต่จะให้ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งจะ
เรียกว่า “เกล็ดสบู่”
2. ชนดิ ของสบู่
2.1 สบู่ก้อนขนุ่
เป็นผลิตภัณฑ์สบู่ที่รูจ้ ัก และใช้กันมานานจนถึงปจั จุบัน มีลักษณะเป็นก้อนแข็งสีขาวขุ่นหรือมีสตี า่ งๆ
ตามสขี องสารเติมแต่ง เชน่ สีเขยี ว สชี มพู สมี ว่ ง เป็นต้น สบชู่ นดิ นใ้ี ชส้ ารตั้งต้น คือ เกล็ดสบู่ (soap) ท่ีผลิตได้
จากปฏกิ ริ ยิ าข้างต้นเป็นวตั ถดุ บิ สำคญั ในการผลิต ท่ีให้คุณสมบัติเป็นก้อนแข็ง ขาวขุ่น ให้ฟองมาก
2.2 สบกู่ อ้ นใส
เป็นผลิตภัณฑ์สบู่ที่มีลักษณะก้อนใสหรือค่อนข้างใสตามสัดส่วนของกลีเซอรีนที่ผสม ก้อนสบู่จะมี
ลักษณะอ่อนกว่าสบู่ก้อนขุ่น และสามารถทำให้เกิดสีใสต่างๆตามสารให้สีที่เติมผสม สบู่ชนิดนี้จะให้ฟอง
ค่อนข้างน้อยกว่าสบู่ก้อนขุ่น เนื่องจากมีส่วนผสมของกลีเซอรีนเป็นสว่ นใหญ่ สารตั้งตน้ ที่ใชอ้ าจเป็นกลีเซอรีน
เหลวหรอื กลีเซอรนี กอ้ น (กลเี ซอรีนเหลว+เอทลิ แอลกอฮอล)์ รว่ มดว้ ยกับสารเตมิ แตง่ ชนดิ ตา่ งๆ
2.3 สบู่เหลว
เป็นผลติ ภัณฑ์สบู่ทีม่ นี ้ำเป็นส่วนผสมทำให้เนื้อสบู่เหลว สีสีสันต่างๆตามสารเติมแต่ง สบู่ชนดิ นี้ใช้สาร
ตัง้ ต้นจากเกลด็ สบู่ ทไี่ ดจ้ ากปฏกิ ริ ิยาข้างตน้ เหมือนชนดิ สบู่ก้อนขุ่น แตต่ ่างกนั ท่ีจะใช้ดา่ งเข้มขน้ โพแทสเซียมไฮ
ดรอกไซดแ์ ทนโซเดียมไฮดรอกไซด์ เพราะจะใหเ้ นือ้ สบ่อู ่อนตวั ดีกว่า
3. ลกั ษณะของสบูท่ ด่ี ี
3.1 มีความสามารถทำความสะอาดไดด้ ี
4
3.2 มฟี องในระดับที่เหมาะสม
3.3 มคี วามเปน็ ดา่ งน้อยในระดับทไ่ี มเ่ ปน็ อันตรายต่อผิวหรือทำลายช้นั ไขมันของผิว
3.4 สบกู่ อ้ นไมม่ เี นือ้ เหลว แตกหกั งา่ ย
3.5 ไม่มกี ล่ินหืน มกี ล่นิ หอมน่าใช้ และมีคณุ สมบตั ิเฉพาะในบางกรณี เชน่ สบฆู่ ่าเชือ้
4. สารเคมที ี่ใชท้ ำสบู่
4.1 ไขมนั /น้ำมนั เป็นวัตถุดบิ สำคญั ในการผลิตสารต้ังตน้ สบู่ ไขมันหรือน้ำมนั ที่ใชอ้ าจไดจ้ ากพชื เช่น
น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันปาล์ม เป็นต้น ส่วนไขมันที่ได้จากสัตว์ เช่น ไขมันโค กระบือ แกะ แพะ
เป็นต้น คุณภาพของน้ำมันทีไ่ ด้จากพืช และสัตว์จะมีผลต่อคุณภาพของสบู่ เกล็ดสบู่ (soap)ที่ได้จากน้ำมันพชื
จะให้ลักษณะขาวเนียน และกลีเซอรีนจะค่อนขา้ งใสกว่าน้ำมันจากสตั ว์ นอกจานั้น เกล็ดสบู่ (soap) ที่ได้จาก
น้ำมันจากพชื จะมกี ลิน่ หนื น้อยกวา่ น้ำมันจากสตั ว์ อีกทั้งนำ้ มันจากพชื ยงั เป็นวัตถดุ บิ ท่หี าง่าย และราคาถกู กว่า
4.2 ด่างเข้มข้น เป็นสารเคมีสำคัญที่ใช้ทำปฏิกิริยากับไขมันธรรมชาติ ด่างเข้มข้นที่นิยมใช้ คือ
โซเดียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งจะได้เน้ือสบู่สีขาวทบึ เนื้อก้อนแข็ง ให้ฟองมาก นิยมนำมาทำสบูก่ ้อนทึบ และอีกชนิด
หนงึ่ คอื โพแทสเซยี มไฮดรอกไซด์ ซึง่ จะได้สบใู่ นลกั ษณะเดยี วกนั แตเ่ นอื้ สบู่มีความอ่อนตัวได้ดกี ว่า นยิ มนำมา
ทำสบ่เู หลว
4.3 สารเติมแต่ง เป็นสารเคมีสำหรับปรับปรุงคุณสมบัติของสบู่ เช่น สี นำ้ หอม สมุนไพร สารป้องกัน
ความชื้น สารลดความเป็นด่าง สารลดแรงตึงผิว สารทำให้ฟองคงตัว สารเพิ่มความแข็ง สารป้องกันการ
ออกซเิ ดชนั สารบำรุงผวิ สารฆา่ เชือ้ เป็นต้น เป็นสารเติมแต่งท่ีนยิ มผสมในสบู่เพ่ือให้มีคณุ สมบัติเหมาะแก่การ
ใช้ประโยชน์ในแตล่ ะอยา่ ง
5. คณุ สมบตั ิของนำ้ มันในการทำสบู่
5.1 น้ำมันมะพร้าว
ให้สบู่ท่ีแข็งและมีฟองเป็นครีม แต่อาจจะทำให้ผิวแห้ง จึงต้องใช้นำ้ มนั อ่ืนๆร่วมดว้ ยเพ่ือเพ่ิมความชมุ่
ช้ืน
5.2 น้ำมันเมลด็ ปาล์ม
ใหส้ บแู่ ข็งมาก มีความคงทน ทำความสะอาดได้ดี
5.3 น้ำมนั ปาล์ม
ให้สบู่เปน็ กอ้ นแขง็ มคี วามคงทน ฟองเป็นครีม
5.4 นำ้ มนั มะกอก
ให้ เนื้อสบู่ที่นุ่มนวลต่อผิวพรรณ มีสีออกเหลือง เนื้อสบู่ค่อนข้างนิ่ม ฟองเป็นครีมละเอียด อุดมด้วย
วติ ามินอีใหค้ วามช่มุ ช้นื แกผ่ วิ พรรณ
5
5.5 นำ้ มนั งา
ให้สบูส่ ขี าวอมชมพูคอ่ นข้างนิม่ ฟองนุม่ นวล ใหค้ วามชุม่ ช้ืนแก่ผวิ พรรณมาก
5.6 น้ำมนั ถว่ั เหลอื ง
เป็น น้ำมันที่ใช้เป็นส่วนผสมในสบู่เพื่อเพิ่มความนุ่มนวล เพิ่มวิตามินอีและความชุ่มชื้นแก่ผิวพรรณ
เน้ือสบนู่ ิม่ ฟองละเอยี ด แต่ฟองไมม่ าก
5.7 น้ำมนั รำขา้ ว
ได้สบสู่ ขี าวอมเหลอื ง เนอ้ื สบนู่ ่ิม ฟองนอ้ ยละเอยี ด ให้ความชมุ่ ชนื้ สูง
5.8 นำ้ มันเมล็ดทานตะวัน
สบู่จะมสี ีขาวอมเหลือง เน้อื สบไู่ มแ่ ขง็ มาก ฟองไมม่ าก เพิม่ ความชุ่มช้นื แกผ่ ิวพรรณสูง
5.9 น้ำมันขา้ วโพด
สบทู่ ไี่ ด้มสี ีขาวอมเหลอื ง เนือ้ สบ่ไู ม่แขง็ มาก ฟองละเอียด
5.10 น้ำมนั ละหุ่ง
สบมู่ ีฟองมากข้ึน เนอื้ สบ่นู ม่ิ เพ่มิ ความชมุ่ ชน้ื แก่ผวิ พรรณ
บทความเกิดจากการรวมข้อมูล จากแหล่งความรูต้ ่างๆ รวมถึงอนิ เตอรเ์ นต แลว้ นำ้ มาเรียบเรยี งโดยใช้
ประสบการณ์ในการผลิตสบู่ ของ omsiam เป็นเกณฑ์ (2553) คุณสมบัติน้ำมันแต่ละชนิดในการผลิตสบู่
Handmade [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://omsiam2010.blogspot.com/2010/10/handmade.html.
(วันที่คน้ ข้อมูล : 14 ตลุ าคม 2563).
6. กระบวนการกวนสบู่แบบกวนร้อนและกวนเยน็
สบู่ CP (Cold Process) เป็นการผลิตที่กระบวนการผลิตเริ่มตั้งแต่การทำเบสสบู่ โดยอาศัย
ปฏิกิริยาทางเคมี คือ น้ำมัน (ทั้งจากพืชและสัตว์) + ด่าง=สบู่ ซึ่งในการทำสบู่ในลักษณะนี้ ผู้ผลิตสามารถ
กำหนดคุณภาพสบู่ที่ต้องการได้เอง เช่น สบู่เพื่อผิวแห้ง ผิวมัน สบู่บำรุงผิว สบู่อ่อนที่อ่อนโยนต่อผิว โดยการ
เลือกน้ำมันที่คุณสมบัติเหมาะสม เพื่อผลิตสบู่ให้ได้ตามคุณภาพที่ต้องการขั้นตอนการผลิตสบู่แบบ CP จะเร่ิม
จากการผสมด่างกับน้ำมัน และกวนให้เข้ากัน จนข้น (Trace) เติมสี แต่งกลิ่น เทลงทั้งนี้ สบู่แบบนี้มีลักษณะ
พิเศษ คือ สามารถสร้างลวดลายบนสบูไ่ ด้อย่างหลากหลาย จนทำให้การทำสบู่เป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่งก็ว่าได้
หลังจากผลิตสบ่เู สร็จ จะต้องบม่ สบู่ไวป้ ระมาณ 2-3 สัปดาห์ เพอ่ื ใหป้ ฏิกิริยาการเกิดสบู่ดำเนนิ ไปอย่างสมบูรณ์
ไม่มีด่างหลงเหลืออยู่ ซึ่งเมื่อครบกำหนดแล้ว ผู้ผลิตจะต้องทำการทดสอบค่า pH โดยค่าสบู่ที่ดีควรมี pH
ประมาณ 8 ทงั้ น้ี อย. ของไทยกำหนดค่า pH ของสบูว่ า่ ควรอย่รู ะหว่าง 8-11 สบู่ HP มวี ตั ถดุ ิบตง้ั ต้นเหมือน
สบู่ CP ทุกอย่าง แต่ต่างกันที่กรรมวิธีการผลิตในขั้นสุด กล่าวคือ เริ่มต้นจากการนำน้ำมันทีผ่านการคัดเลือก
คณุ ภาพมาแล้ว ผสมกบั น้ำด่าง กวนจนขน้ ตามต้องการ ผสมสี กลิน่ หลังจากนน้ั จะนำไปตนุ๋ ไฟอ่อนๆ เปน็ การ
6
ให้ความรอ้ นเพอื่ เรง่ การทำปฏิกิริยาให้เปน็ สบสู่ มบูรณ์เร็วข้นึ แทนทก่ี ารตากสบเู่ หมอื นสบู่ CP ท่ีต้องตากกันถึง
3 สัปดาห์ทีเดียว โดยในการตุ๋นจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากนั้นจึงตากสบู่ทิ้งไว้อีก 3-5 วัน ให้สบู่
แข็งตัว แล้วจึงนำมาตัดเป็นก้อนๆ หลังจากทำความรู้จักกับสบู่ทั้ง 3 ประเภทไปแล้ว หลายคนคงจะเริ่มมีข้อ
สงสัยว่า สบู่แบบ Hot Process (HP) กบั Cold Process (CP) ท่มี ีวัตถุดบิ เหมอื นกนั แตต่ ่างกันท่ี HP ใชค้ วาม
ร้อนมาทำให้ปฏิกิริยาการเกิดสบู่เร็วขึ้น จากที่ต้องบ่มสบู่ 3 สัปดาห์ เหลือเพียง 3 วัน ก็สามารถนำมาใช้งาน
หรือจำหน่ายได้คุณสมบัติสบู่ที่ได้ของกรรมวิธีทั้ง 2 แบบไม่แตกต่างกันแต่เนื้อสบู่และฟองสบู่อาจจะมีความ
ต่างกันบ้าง กล่าวคือ เนื้อสบู่และฟองสบู่ของ CP จะเนียนละเอียดกว่า เนื่องจากปฏิกิริยาของสบูเ่ กิดข้ึนอย่าง
ชา้ งๆ ทำให้มีเวลาสรา้ งสรรคล์ วดลายในเนอื้ และหนา้ สบู่ จนเกิดเปน็ งานศิลปะได้
7. ค่าสปอนิฟิเคชน่ั (Saponification number)
ค่าสปอนิฟิเคชั่น คือ จำนวนมิลลิกรัมของด่าง เช่น โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ ที่ใช้ในทำปฏิกริยากับ
ไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ในไขมัน หรือน้ำมัน (เรียกว่า ปฏิกริยา saponification) อย่างสมบูรณ์ จำนวน
1 กรัม ไดเ้ ปน็ สบซู่ งึ่ เป็นเกลอื ของกรดไขมนั (fatty acid) 3 โมเลกุลและกลีเซอรอล
ปฏิกิริยา saponification
ค่าสปอนฟิ เิ คชัน่ (saponification number) ใชเ้ ปน็ ดชั นบี ง่ ชขี้ นาดโมเลกลุ หรือน้ำหนกั โมเลกุลของ
กรดไขมนั ที่เป็นสว่ น ประกอบในโมเลกลุ ไตรกลีเซอไรด์ หากนำ้ มนั ที่มีค่าสปอนิฟิเคชน่ั สูง แสดงว่ากรดไขมันที่
เป็นส่วนประกอบในโมเลกุลของไตรกลเี ซอไรด์มนี ้ำหนักโมเลกลุ ต่ำมาก จงึ มจี ำนวนโมเลกลุ ของไตรกลีเซอไรด์
ต่อหน่วยน้ำหนักเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องใช้ด่างเป็นจำนวนมากในการไฮโดรไลซิส ทำนองเดียวกันถ้า
ค่าสปอนิฟิเคชั่นต่ำ แสดงว่ากรดไขมันที่เป็นส่วนประกอบในโมเลกุลของไตรกลีเซอไรด์มีน้ำหนักโมเลกุลมาก
จึงมีจำนวนโมเลกุลของไตรกลีเซอไรด์ ต่อหน่วยน้ำหนักเป็นจำนวนน้อย ทำให้ใช้ด่างน้อยในการทำปฏิกิริยา
ค่าสปอนิฟิเคชั่นของน้ำมันพืชและไขมันแต่ละชนิดมีค่าแตกต่างกัน เช่นน้ำมันปาล์มซึ่งทางกระทรวง
สาธารณสุขไดก้ ำหนดเป็นอาหารควบคุมเฉพาะ จึงมีการกำหนดคุณภาพของค่าสปอนิฟิเคช่ันต้องมีคา่ ระหว่าง
190 ถงึ 209 มลิ ลกิ รมั นำ้ มนั 1 กรัม
8. การคำนวณปรมิ าณด่าง(lye) หรือโซเดียมไฮดรอกไซด์ ทใ่ี ช้ในการทำสบู่
7
8.1 คำนวณ โซเดยี มไฮดรอกไซต์(NaOH)
ไขมันหรอื นำ้ มนั (1กรัม)
ไขมันหมู 0.12
น้ำมันมะพรา้ ว 0.168
น้ำมนั ปาล์ม 0.1306
นำ้ มนั มะกอก 0.1246
นำ้ มันรำขา้ ว 0.1233
นำ้ มันเมล็ดดอกทานตะวนั 0.1256
น้ำมนั ถ่ัวเหลือง 0.1246
นำ้ มันละหงุ่ 0.1183
นำ้ มนั งา 0.1266
น้ำมนั ขา้ วโพด 0.126
ขีผ้ ้ึง 0.0617
ตวั อยา่ ง
- ถา้ ใช้น้ำมนั มะพร้าว 300 กรัม จะใช้ NaOH = 0.169 x 300 =50.7 กรัม
- ถา้ ใช้นำ้ มันปาลม์ 300 กรมั จะใช้NaOH = 0.13 x 300 =39 กรมั
ถ้าใช้นำ้ มนั งา 400 กรัม จะใช้ NaOH=0.126คูณ400=50.4 กรมั
ดังนนั้ ถ้าใช้น้ำมัน 3 ชนดิ (น้ำมนั มะพรา้ ว 300 กรัม นำ้ มนั งา 400 กรมั )
รวมกนั เป็น 1000 กรมั จะต้องใช้ NaOH เทา่ กับ 50.7+ 39 + 50.4 เทา่ กับ 140.1 กรมั
3. น้ำ ท่ีใชล้ ะลาย ตา่ งควรเป็นนำ้ ฝน น้ำประชา หรอื น้ำกรอง ไม่ควรใชบ้ ่อน้ำ หรือน้ำบาดาลหรือ
นำ้ กระดา้ ง ปรมิ าณนำ้ ท่ใี ชล้ ะลายด่าง หาไดจ้ ากสตู รต่อไปน้ี
น้ำหนกั นำ้ = (น้ำหนักดา่ ง X 3.33)-นำ้ หนกั ดา่ ง
8
ตัวอย่างเชน่ น้ำหนักน้ำ = (140.1 X 3.33)-140.1 =326.43 กรัม
ดังนนั้ นำ้ หนักน้ำท่ใี ช้ละลายดา่ งจากตวั อยา่ งคอื 326.43 กรัม
8.2 การใช้โปรแกรม soapcal
SoapCalc โปรแกรมทใี่ ช้คดิ คน้ สตู รสบูเ่ อง
โปรแกรม soapcal [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://soapcalc.net/calc/SoapCalcWP.asp
โปรแกรมแปลงมาตราตา่ งๆ เชน่ จากปอนด์เป็น กก. เปน็ ต้น (http://soapcalc.net/calc/soapcalcwp.asp)
(วนั ท่ีค้นข้อมูล : 14 ตุลาคม 2563).
โดยทั่วไปความเป็นกรด – ด่าง ของสบู่ถูตัวจะอยู่ในช่วง 9 – 10 ยกเว้นสบู่บางสูตรที่มีสารให้ความ
ชุ่มชน้ื เปน็ สว่ นประกอบในปรมิ าณสูงจะมคี า่ ความเป้นกรด-ด่าง ไมเ่ กนิ 7
9. นำ้ ซาวข้าว
คือ น้ำที่ได้จากการล้างข้าวสารก่อนที่จะนำไปหุง โดยปกติเราจะเทน้ำซาวข้าวทิ้งทุกครั้ง เพราะไม่รู้
จะเอาไปทำอะไรต่อ และคาดไม่ถึงว่าแท้จริงแล้ว น้ำซาวข้าวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
โดยเฉพาะเรื่องความสวยงามของสาวๆ ได้เป็นอย่างดี การนำน้ำซาวข้าวไปใช้ประโยชน์นั้น ให้ใช้น้ำซาวข้าว
คร้งั ท่ีสอง เพราะนำ้ ครัง้ แรกจะมฝี ุ่นและสิง่ สกปรกท่ตี ิดมากับขา้ วสารปะปนอยูด่ ้วย โดยในน้ำซาวขา้ ว จะมีสาร
จำพวกวิตามินบี 3 หรือไนอะซินปะปนอยู่ สารพวกนี้จะช่วยทำลายพษิ จากมลพิษ แอลกอฮอล์ และยาเสพติด
ได้ รวมทั้งมีวิตามินบี 2 ช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลอื ด อันเป็นสาเหตุให้เส้นเลอื ดแข็งตัว และช่วยกำจัด
ไขมันอิ่มตัวในเส้นเลือดอีกด้วย นอกจากนี้น้ำซาวข้าวยังมีวิตามินบี 1 ซึ่งมีประโยชน์ต่อการทำงานของสมอง
ระบบประสาท ระบบยอ่ ย หวั ใจ และกลา้ มเน้ือ ช่วยใหเ้ จริญอาหารและช่วยในการเจรญิ เติบโตของรา่ งกาย ทง้ั
ยงั มีธาตเุ หล็ก ซ่ึงเป็นสว่ นสำคญั ในการสร้างเมด็ เลือดแดง ทำให้ในอดตี คนไทยมักนำนำ้ ซาวข้าว มาต้มใส่เกลือ
หรอื นำ้ ตาลทรายดืม่ เพ่อื บำรงุ สขุ ภาพนั่นเอง
10. ประโยชน์ของน้ำซาวข้าว
10.1 ใช้นำ้ ซาวขา้ ว ล้างผกั ผลไม้
เพอ่ื ให้การล้างผกั ผลไม้ของเรามคี วามสะอาดมากยิ่งข้ึน น้ำซาวขา้ วช่วยเราไดค้ ะ่ โดยก่อนอ่ืนเราก็เด็ด
ผักที่ต้องการลา้ งออกเป็นใบๆ ก่อน จากนั้นเอาไปล้างด้วยน้ำเปลา่ หนึง่ รอบ จากนั้นเอามาแช่ในน้ำซาวข้าวทง้ิ
ไว้ 10-15 นาที เมื่อได้เวลาแล้วก็เอาผักมาล้างด้วยนำ้ สะอาด วิธีนี้จะช่วยขจัดสารพิษที่ติดมากับผักหรือผลไม้
ให้ลดลงไปได้
10.2 นำ้ ซาวข้าวสระผม
9
เริ่มจากการสระผมด้วยแชมพูตามปกติ แล้วใช้น้ำซาวข้าวล้างแชมพูออก พร้อมกับนวดเส้นผมและ
หนังศีรษะไปด้วย เมื่อนวดจนทั่วแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะ
ชว่ ยบำรุงใหเ้ ส้นผมสขุ ภาพดี เส้นผมแขง็ แรง มีน้ำหนกั เปลง่ ประกาย
10.3 ใช้นำ้ ซาวขา้ วหมกั ผม
สำหรับการหมักผมด้วยน้ำซาวข้าวนั้น ทำได้โดยการเอาน้ำซาวข้าวมาชโลมเส้นผมให้ทั่วศีรษะ แล้ว
ปล่อยหมักทิ้งไว้ 10 นาทีจึงใช้น้ำเย็นล้างออกให้สะอาด สำหรับสูตรหมักผมด้วยน้ำซาวข้าวนี้ ถ้าเพื่อนๆ มี
น้ำมนั หอมระเหยลาเวนเดอร์ เจอราเนียม หรือโรสแมรี่ ก็สามารถใชห้ ยดลงไปนิดนงึ ผสมน้ำซาวข้าวด้วยก็ได้
10.4 มารค์ หนา้ ด้วยน้ำซาวขา้ ว
ก่อนอื่นให้เตรียมน้ำซาวข้าวที่สะอาดๆ มา แล้วใช้สำลีชุบน้ำซาวข้าวมาเช็ดให้ทั่วใบหน้า ต่อมาให้หาทิชชู่ท่ี
แผ่นหนาๆ นดิ นงึ มาชบุ นำ้ ซาวข้าวแลว้ เอาวางแปะไว้ให้ท่ัวใบหน้าจนทัว่ มาร์คหน้าทงิ้ ไว้ 20 นาทีก็ล้างออกให้
สะอาด จะชว่ ยให้ผวิ หน้าเนียนนุ่มอยา่ งเปน็ ธรรมชาติ
10.5 นำ้ ซาวข้าวแช่มอื
วิธีการคือเราก็แค่เอาน้ำซาวข้าวมาใส่กะละมัง แล้วเอามือแช่ลงไปสักพัก เมื่อทำเป็นประจำก็จะช่วย
ให้มือเนียนนุ่ม นวลเปล่งปลัง่ ผิวมือดูอ่อนกว่าวัย หรือถ้าคุณเปน็ คนทีห่ ุงข้าวกินเองแล้วหล่ะก็ เวลาซาวข้าวก็
พยายามสลบั มอื ให้ไดใ้ ช้ซาวขา้ วท้งั 2 ขา้ ง เพ่อื ที่มือของเราจะได้นุ่มทั้ง 2 ข้าง
11. คณุ คา่ ทางโภชนาการของขา้ ว
ขา้ ว ประกอบดว้ ยสารอาหารต่าง ๆ มากมายทม่ี ีประโยชน์ตอ่ ร่างกาย ข้าวทุกชนิดมีคารโ์ บไฮเดรตเป็น
ส่วนประกอบร้อยละ 70-80 ซึ่งเป็นแป้งเกือบทั้งหมด มีน้ำตาลซูโครส (sucrose) และน้ำตาลเดกซ์ทริน
(dextrin) เล็กน้อย มีโปรตีนไม่มาก อยู่ระหว่างร้อยละ 7-8 ในข้าวเจ้า และร้อยละ 11-12 ในข้าวสาลี
ไขมัน ในขา้ วกล้องมปี รมิ าณไขมนั สูงกว่าขา้ วชนิดอื่นๆ เพราะขา้ วกล้องยงั มสี ่วนของรำขา้ วอยู่ แต่เม่ือเทียบกับ
อาหารชนิดอืน่ ๆ แล้ว ขา้ วไมใ่ ชแ่ หล่งท่ีอุดมด้วยสารอาหารจำพวกไขมัน ใยอาหาร ข้าวกล้องและให้ใยอาหาร
สูงกว่าข้าวขาว โดยทั่วไปข้าวกล้องจะมีสีน้ำตาลอ่อน คนไทยสมัยก่อนใช้วิธีซ้อมหรือตำด้วยมือ จึงเรียกว่ า
“ข้าวซ้อมมือ” เป็นข้าวกล้องอย่างหนึ่ง มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง มีใยอาหาร ไขมันและวิตามินบี 1 มากกว่าข้าว
ชนิดอ่นื วิตามินและแรธ่ าตุ ในขา้ วกลอ้ งจะมีวิตามินและแร่ธาตุสูงกวา่ ข้าวขาว ทเ่ี หน็ ไดช้ ดั คอื ธาตุฟอสฟอรัส
ธาตุแมกนเี ซยี ม ไนอาซนิ และวติ ามนิ บี 1
บทความเกิดจากการรวมข้อมูล จากแหลง่ ความรตู้ า่ งๆ รวมถึงอนิ เตอร์เนต แลว้ นำ้ มาเรียบเรียงโดยใช้
ประสบการณ์ในการผลติ สบู่ ของ omsiam เป็นเกณฑ์ (2553) [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก
https://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=6170&s=tblrice (วันท่คี น้ ข้อมลู : 14 ตุลาคม 2563).
10
บทที่3
วัสดุอุปกรณ์และวธิ กี ารดำเนนิ การ
วัสดุ 200 กรมั
1. ขา้ วเหนียว 200 กรัม
2. ข้าวหอมมะลิ 200 กรมั
3. ข้าวไรซ์เบอร์ร่ี
4. นำ้ เปลา่ 2 กโิ ลกรัม
5. นำ้ มนั ปาล์มที่ใชแ้ ล้ว 800 กรมั
6. น้ำมนั ปาล์ม 800 กรัม
อุปกรณ์
7. บีกเกอร์ขนาดกลาง 3 ใบ
8. แท่งแก้วคนสาร 2 อนั
9. ช้อนตักสาร 1 คนั
10. เครือ่ งผสมไฟฟ้า ยีห่ อ้ miniso 1 เคร่อื ง
11. พายยางสำหรับกวนสบู่ 1 อัน
12. ภาชนะพลาสติกสำหรับกวนสบู่ 1 ใบ
13. เทอร์โมมิเตอร์ 1 อัน
14. เครื่องช่งั ดจิ ิตอล 1 เคร่ือง
15. ถงุ มือยาง 3 คู่
16. หน้ากากอนามัย 3 อนั
17. แว่นตา 3 อนั
18. พีเอช มเิ ตอร์ (pH meter) 1 อัน
19 ขวดรปู ชมพู่
20. กระดาษกรอง 1 ใบ
1 แผ่น
สารเคมี
21. โซเดียมไฮดรอกไซต์ (NaOH) 240 กรมั
แผนผังการทดลอง 11
1. เพอื่ ศึกษาคณุ สมบัตขิ องสบ่จู ากการใช้น้ำซาวข้าวชนดิ ต่างๆ
นำ้ ซาวขา้ ว
น้ำมนั ปาล์ม(ใหม่) ไรซเ์ บอร่ี
บนั ทกึ ผล
นำ้ น้ำซาวข้าว น้ำซาวขา้ ว
บันทึกผล หอมมะลิ เหนียว น้ำซาวขา้ ว
ไรซ์เบอร่ี
บันทกึ ผล บนั ทึกผล บนั ทึกผล
2. เพื่อศกึ ษาคุณสมบัตขิ องสบนู่ ้ำซาวข้าวชนิดตา่ งๆ จากน้ำมนั พชื ทีใ่ ช้แล้ว
น้ำมันพืชทใ่ี ช้แล้ว
น้ำ น้ำซาวข้าว นำ้ ซาวข้าว
บันทึกผล หอมมะลิ เหนียว
บนั ทึกผล บันทกึ ผล
12
ขน้ั ตอนทำการทดลอง
1. ข้นั เตรียมการก่อนทำการทดลอง
1.1 การคำนวณสตู รที่ใช้ในการทำสบู่
- ใชโ้ ปรแกรม soapcalc (สูตรท่ีใช้ อยใู่ นภาคผนวก)
อัตราส่วน โซเดียมไฮดรอกไซด์ : นำ้ ซาวขา้ ว : นำ้ มันปาลม์ (กรัม)
26.96 กรมั : 76 กรัม : 200 กรัม
1.2 เตรียมน้ำซาวข้าวชนดิ ต่างๆ
2.1 ตวงข้าวหอมมะลิ ขา้ วเหนยี ว และข้าวไรซเ์ บอรี่ อย่างละ 200 กรัม
2.2 ใส่นำ้ 500 มิลลลิ ิตร แช่ทิง้ ไว้ 2 ชว่ั โมง
2. ขน้ั ตอนการทำสบู่
การทดลองที่ 1 ทดลองการใชน้ ำ้ ซาวขา้ วชนิดตา่ งๆในการทำสบู่
2.1.เตรยี มโซเดียมไฮดรอกไซต์ 26.96 กรัม และน้ำ76 กรัม นำมาคนใหเ้ ข้ากนั
2.2 เตรียมนำ้ มันปาลม์ 200 กรัม กรองตะกอน แล้วนำมาใสโ่ ถเซรามิค ทอ่ี ณุ หภมู ปิ กติ
2.3 รอให้อุณหภูมโิ ซเดียมไฮดรอกไซต์ท่ผี สมกบั น้ำเท่ากับอุณหภูมนิ ำ้ มันปาล์ม
2.4 นำโซเดียมไฮดรอกไซต์ที่ผสมกับน้ำมาใส่โถเซรามิค จากนั้นนำเครื่องผสมไฟฟ้ามาทำการกวน
ระยะเวลา 20 นาที จนสารละลายทั้งสองชนดิ เข้ากันจนมลี กั ษณะ ขน้
2.5 ทำการทดลองซ้ำ โดยเปลี่ยนน้ำ เป็นน้ำซาวข้าวหอมมะลิ น้ำซาวข้าวเหนียว และน้ำซาวข้าวไรซ์
เบอร่ี
2.6 นำสบู่ที่ได้ มา 1 มิลลิลิตร ผสมน้ำ 5 มิลลิลิตร แล้ววัดค่า pH ด้วยเครื่องวัดค่าพีเอช บันทึกผล
การทดลอง
2.7 เทใส่พิม ตั้งทิ้งไว้ 2-5 วัน เมื่อสบู่แข็งตัว นำสบู่ ผึ่งไว้ 1 เดือน เพื่อให้ โซเดียมไฮดรอกไซด์
สว่ นเกนิ สลายตัว
2.8 ขูดสบู่เป็นฝอย 1 กรัม ผสมน้ำ 5 มิลลิลิตร แล้ววัดค่า pH ด้วยเครื่องวัดค่าพีเอช บันทึกผลการ
ทดลอง
2.9 สังเกตลักษณะเนอื้ สบู่ แลว้ บันทึกผลการทดลอง
การทดลองที่ 2 การทดลองใชส้ บูน่ ้ำซาวข้าวชนดิ ตา่ งๆ ในการลดกล่ินน้ำมันพืชท่ีใช้แล้ว
ทำเช่นเดียวกับการทดลองที่ 1 โดยเปลี่ยนน้ำมัน จากน้ำมันพืชที่ไม่ได้ผ่านการใช้ เป็นน้ำมันพืชที่ใช้
แล้ว
13
บทที่4
ผลการดำเนินการ
1. การศึกษาคณุ สมบตั ิของสบ่จู ากการใช้นำ้ ซาวข้าวชนดิ ตา่ งๆ
ตารางท่ี 1 แสดงคณุ สมบัตขิ องสบู่จากการใช้นำ้ ซาวข้าวชนดิ ตา่ งๆ
ชนดิ ของนำ้ สนี ำ้ ซาว คา่ pH ค่า pH กล่ินของสบู่ สขี องสบู่ เนอ้ื ของสบู่
ซาวข้าว ข้าว ของเนื้อ หลงั จาก
ทิ้งสบ่ไู ว้
สบู่ 4 สปั ดาห์
น้ำ ไม่มสี ี 13.02 8.02 มกี ลิ่นหนื ของ ครมี เนยี นละเอียด
นำ้ มนั เป็นก้อนแขง็
ข้าวเหนยี ว ขาวขุ่น 12.34 8.38 มีกลิ่นนำ้ ซาวขา้ ว ครมี เนยี นละเอยี ด
เป็นก้อนแข็ง
ขา้ วหอม ขาวข่นุ 12.32 8.17 มีกลน่ิ น้ำ ครีม เนียนละเอียด
มะลิ ซาวข้าว เปน็ กอ้ นแข็ง
ข้าวไรซ์ น้ำตาล 12.04 8.01 มกี ลนิ่ นำ้ ซาวขา้ ว ครีม เนียนละเอียด
เบอร์ร่ี แดง เป็นกอ้ นแข็ง
จากการทดลองพบวา่ การใส่น้ำซาวข้าวเพ่ือทำเปน็ สบู่น้ำซาวขา้ ว เมือ่ ต้งั สบทู่ ิ้งไว้ 4 สปั ดาห์ จะไดส้ บู่
ท่ี คา่ pH ประมาณ 8 ลักษณะสบ่เู ปน็ สคี รีมทงั้ หมด เน้ือสบูเ่ นียน เปน็ ก้อนแขง็ สบทู่ ี่ได้จะคงมีกล่นิ เฉพาะตวั
ของนำ้ ซาวข้าวชนดิ ตา่ งๆ ซ่ึงแตกต่างจากสบ่ทู ่ีไม่ไดใ้ ชน้ ำ้ ซาวข้าว ซงึ่ จะมีกล่นิ หืนของนำ้ มันปาลม์ เกิดขนึ้
14
2. การศกึ ษาคณุ สมบัติของสบู่น้ำซาวขา้ วชนดิ ตา่ งๆ ในการลดกลน่ิ จากนำ้ มันพืชทใ่ี ช้แลว้
ตารางที่ 2 คณุ สมบัติของสบ่นู ้ำซาวขา้ วชนดิ ตา่ งๆ จากน้ำมันพืชทใี่ ช้แลว้
ชนิดของ สีของน้ำ คา่ pH ค่า pH กลิ่นของสบู่ สขี องสบู่ เนอ้ื ของสบู่
น้ำซาว ซาวข้าว ของเน้ือสบู่ หลงั จากทง้ิ
ข้าว สบ่ไู ว้ 4
สัปดาห์
น้ำ ไม่มีสี 12.34 8.02 มกี ลนิ่ คาว ครีม เนยี นละเอยี ด
และกลิ่นหนื ของนำ้ มัน เป็นกอ้ นแข็ง
ข้าว ขาวข่นุ 12.12 7.98 มกี ลน่ิ นำ้ มนั พชื ใชแ้ ล้ว ครีม เนยี นละเอยี ด
เหนียว เปน็ กอ้ นแข็ง
ขา้ วหอม ขาวขุน่ 12.26 8.17 มีกล่นิ นำ้ ซาวข้าวน้ำมัน ครีม เนยี นละเอียด
มะลิ
พืชใชแ้ ลว้ เลก็ น้อย เปน็ กอ้ นแข็ง
ขา้ วไรซ์ นำ้ ตาลแดง 12.28 8.11 มีกลน่ิ นำ้ ซาวข้าว ไมม่ ี ครมี เนยี นละเอยี ด
เบอร์รี่ กล่ินนำ้ มันพชื ใชแ้ ล้ว เปน็ กอ้ นแข็ง
จากการทดลองพบว่า การใส่น้ำซาวข้าวเพื่อลดกลิ่นจากน้ำมันพืชที่ใช้แล้วทำเป็นสบู่น้ำซาวข้าว เมื่อ
ต้งั สบูท่ งิ้ ไว้ 4 สัปดาห์ ค่า pH ประมาณ 8 สีของสบจู่ ะมสี คี รมี เนอื้ ละเอยี ด เป็นกอ้ นแขง็ กลน่ิ ของสบูท่ ไี่ ม่ได้
ใช้นำ้ ซาวข้าว จะมีกล่นิ เหม็นหืนและเหม็นคาวชดั เจน ส่วนสบ่ทู ี่ใชน้ ำ้ ซาวขา้ วเหนียว จะไม่มกี ลน่ิ น้ำซาวข้าวแต่
กลิ่นนำ้ มันพืชทีใ่ ช้แลว้ สบูท่ ี่ใช้นำ้ ซาวขา้ วหอมมะลิ มกี ลน่ิ นำ้ ซาวข้าวน้ำมนั พืชใช้แลว้ เลก็ น้อย และสบู่ท่ีใช้น้ำ
ซาวขา้ วไรซเ์ บอร่ี มีกลนิ่ นำ้ ซาวข้าว ไม่มกี ลนิ่ นำ้ มันพืชใชแ้ ล้ว
15
การศกึ ษาคน้ ควา้ คร้งั นี้มวี ัตถุประสงคเ์ พ่ือให้นกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 5/3 โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์
พุแค จังหวัดสระบุรี วิเคราะห์คุณสมบัติของนำ้ ซาวข้าวชนิดต่างๆ โดยนําเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตา่ ง ๆ
ดงั นี้
นกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5/3 โรงเรยี นเทพศริ นิ ทร์ พุแค จงั หวดั สระบุรี มีวิเคราะห์คณุ สมบตั ิของน้ำ
ซาวขา้ วชนิดตา่ งๆ
ตารางที่ 1 แสดงผลระดบั คะแนนการประเมินเร่ือง คุณสมบัติของน้ำซาวข้าวชนิดต่างๆ ของนักเรียน
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/3 โรงเรยี นเทพศริ ินทร์ พุแค จงั หวดั สระบรุ ี จาํ นวนกลมุ่ ตัวอย่าง 20 คน
คะแนน
รายการประเมนิ 54321
1. สบนู่ ้ำซาวข้าวเหนียวมีกล่นิ หืนหรือกล่นิ คาว 76 9 6 3 6
2. สบู่น้ำซาวข้าวไรซ์เบอรร์ ม่ี ีกลิ่นหืนหรือกลิ่นคาว 12 50 26 9 3
3. สบ่นู ำ้ ซาวขา้ วหอมมะลมิ ีกลนิ่ หืนหรือกล่นิ คาว 50 32 12 3 3
4. สบนู่ ้ำซาวขา้ วเหนียวสามารถนำไปใช้ซักล้างได้ 44 32 15 0 6
5. สบนู่ ้ำซาวข้าวไรซเ์ บอร์รสี่ ามารถนำไปใชซ้ กั ลา้ งได้ 53 32 6 3 3
6. สบ่นู ำ้ ซาวขา้ วหอมมะลสิ ามารถนำไปใชซ้ ักล้างได้ 29 50 18 0 3
จากตารางที่ 1 พบว่านกั เรียนสบนู่ ้ำซาวข้าวเหนยี วมกี ล่นิ หืนหรือกล่ินคาว อยู่ในระดับ 5 คดิ เป็นร้อย
ละ 11.17 สบนู่ ำ้ ซาวขา้ วไรซ์เบอรร์ มี่ ีกล่ินหืนหรือกลน่ิ คาว อยใู่ นระดับที่ 4 คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.88 สบูน่ ำ้ ซาวข้าว
หอมมะลมิ กี ลิ่นหนื หรือกล่นิ คาว อยใู่ นระดบั 4 คดิ เป็นร้อยละ 7.35 สบูน่ ำ้ ซาวขา้ วหอมมะลิมกี ล่นิ หนื หรือกล่ิน
คาว อยใู่ นระดบั 5 คิดเปน็ ร้อยละ 6.47 สบู่น้ำซาวขา้ วเหนียวสามารถนำไปใชซ้ ักลา้ งได้ อยใู่ นระดบั ที่ 5 คิด
เปน็ รอ้ ยละ 7.79 สบนู่ ำ้ ซาวข้าวไรซ์เบอร์ร่ีสามารถนำไปใช้ซักลา้ งได้ อยู่ในระดบั 5 คิดเป็นรอ้ ยละ 5.88 สบ่นู ้ำ
ซาวขา้ วหอมมะลสิ ามารถนำไปใชซ้ ักล้างได้ อยู่ในระดบั 4 คิดเปน็ ร้อยละ 3.76
16
ตารางท่ี 2 แสดงผลการประเมนิ เรอ่ื ง วิเคราะห์คุณสมบตั ิของน้ำซาวข้าวชนดิ ต่างๆ ของนักเรียนชน้ั
มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5/3 โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์ พแุ ค จงั หวัดสระบรุ ี
รายการประเมนิ คา่ เฉล่ยี ระดับคุณภาพ
1. สบนู่ ำ้ ซาวข้าวเหนียวมกี ลนิ่ หืนหรือกล่นิ คาว 11.17 มากที่สดุ
2. สบนู่ ้ำซาวข้าวไรซ์เบอรร์ ี่มีกลิ่นหนื หรือกล่นิ คาว 5.88 มากที่สดุ
3. สบนู่ ้ำซาวข้าวหอมมะลิมีกลิ่นหนื หรอื กลน่ิ คาว 7.35 มากทส่ี ุด
4. สบนู่ ้ำซาวข้าวเหนยี วสามารถนำไปใช้ซักลา้ งได้ 6.47 มากทส่ี ุด
5. สบู่นำ้ ซาวขา้ วไรซ์เบอร์รี่สามารถนำไปใช้ซกั ล้างได้ 7.79 มากที่สุด
6. สบู่นำ้ ซาวข้าวหอมมะลสิ ามารถนำไปใชซ้ กั ล้างได้ 5.88 มากที่สุด
6.90 มากทีส่ ดุ
รวม
จากตารางท่ี 2 พบวา่ นักเรียนระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5/3 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พแุ ค จังหวัด
สระบุรี วิเคราะหค์ ุณสมบัตขิ องน้ำซาวข้าวชนดิ ต่างๆ อยใู่ นระดับคุณภาพ มากทสี่ ุด ค่าเฉลย่ี 6.90
17
บทท่ี 5
สรุปและอภิปรายผลการดำเนนิ การ
จากการศึกษาการทำสบู่น้ำซาวข้าวจากน้ำมันพืชเหลือใช้ เพื่อที่จะเป็นแนวทางการพัฒนาสบู่จาก
น้ำมนั พชื เหลือใช้
สรุปและอภิปราย
1. เพ่ือศึกษาคณุ สมบตั ขิ องสบจู่ ากการใชน้ ้ำซาวข้าวชนดิ ต่างๆ
การใสน่ ำ้ ซาวข้าวเพื่อทำเปน็ สบู่น้ำซาวข้าว เมือ่ ต้งั สบ่ทู ิ้งไว้ 4 สปั ดาห์ สบ่ทู ีไ่ ด้จะเป็นก้อนแข็งสีขาว มี
pH อยูท่ ี่ 8 และมีกล่นิ เฉพาะตวั ของน้ำซาวขา้ วชนดิ ตา่ งๆ แตกตา่ งจากสบทู่ ไี่ ม่ได้ใชน้ ้ำซาวข้าว ซง่ึ จะมีกลิ่นหืน
ของน้ำมันปาล์มเกิดขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากในน้ำซาวข้าวชนิดต่างๆ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งละลายได้ในน้ำ โดย
สามารถทำใหล้ ดกล่นิ เหมน็ หนื ในสบทู่ ีท่ ำจากน้ำมันปาลม์ ได้
ในนำ้ ซาวข้าวไรซเ์ บอร่ี พบวา่ เนื้อสบ่เู ป็นสคี รมี ท้ังนี้เนือ่ งมาจากสารต้านอนุมลู อิสระ ที่เรียกว่า
แอนโทไซยานิน จะให้การเปลี่ยนสีที่สภาวะเบส เนื้อสบู่หลังจากที่กวนเสร็จมีค่า pH 12.04 จึงทำให้เนื้อสบู่ที่
ไดไ้ ม่ได้มสี ีนำ้ ตาลแดง แต่กลับมสี ีขาวนวล เหมือนสบชู่ นดิ อ่ืนๆ
2. เพือ่ ศึกษาคณุ สมบัติของสบู่นำ้ ซาวขา้ วชนดิ ต่างๆ ในการลดกล่นิ น้ำมันพชื ทใ่ี ช้แลว้
พบวา่ การใสน่ ำ้ ซาวข้าวเพอื่ ทำเปน็ สบู่น้ำซาวข้าว เม่ือต้งั สบู่ทง้ิ ไว้ 4 สัปดาห์ สบทู่ ่ไี ดจ้ ะเป็นก้อนแข็งสี
ขาว มี pH อยู่ที่ 8 เมื่อทดสอบกลิ่นพบว่าในสบู่ที่ไม่ใช้น้ำซาวข้าวจะมีกลิ่นเหม็นหืนและเหม็นคาว ในสบู่ที่ใช้
นำ้ ซาวข้าวไรซ์เบอรี่ ไมม่ กี ลิน่ ของนำ้ มันพชื ที่ใช้แลว้ เหลืออยู่และมีกลิ่นเฉพาะตัวของน้ำซาวข้าว ส่วนในน้ำซาว
ขา้ วหอมมะลิ และในน้ำซาวขา้ วเหนยี ว จะมีกล่นิ ของนำ้ มนั พชื ทีใ่ ช้แลว้
ท้ังน้เี พราะในข้าวไรซ์เบอรี่ มสี ารตา้ นอนุมูลอิสระ ท่เี รียกวา่ แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซ่ึงเป็น
รงควัตถุหรือสารสี สามารถละลายน้ำได้ดี เป็นสารต้านอนุมลู อิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยในข้าวไรซ์เบอรร์ ่ี
จะมีสารต้านอนุมลู อิสระ มากกว่าในข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนยี วตามลำดับ จึงสามารถลดกลิ่นเหม็นหืนและ
กลิ่นคาวในสบู่จากน้ำมนั พชื ท่ใี ชแ้ ลว้ ได้
2.3 เพอื่ เป็นแนวทางในการสร้างผลติ ภณั ฑจ์ ากสบู่น้ำมันพืชท่ใี ชแ้ ลว้
เราสามารถนำสบู่น้ำซาวข้าวจากน้ำมันพชื ทีใ่ ช้แล้ว ไปปรับปรุงสตู รเพื่อให้มีคุณสมบัติตามต้องการได้
เช่น เติมกลน่ิ เตมิ สี หรือใสน่ ้ำมันมะพร้าวท่ีมคี ณุ สมบตั ใิ นการเพ่มิ ฟองของสบู่ไดต้ ามต้องการ
18
ขอ้ เสนอแนะในการทดลอง
1. ข้อจำกัดในการทดลองการทำสบู่น้ำซาวข้าวจากน้ำมันพืชเหลือใช้จะเป็นต้องทราบชนิดของน้ำมนั
ที่แน่นอนเพราะมผี ลในการคำนวณการผลิตสบู่
2. สบู่ที่ใช้ได้เหมาะกับการซักล้างทั่วไป อาจยังไม่เหมาะกับการใช้เป็นเครื่องสำอาง เป็นสบู่อาบน้ำ
หรือลา้ งหนา้
3. ในการทดลองครั้งนี้ไม่ได้ใส่วัตถุเจือปนเช่นสารเพิ่มความชุ่มชื่น เช่น กลิ่น หรือ สารซักฟอกต่างๆ
หากจะนำไปใช้จำเป็นต้องมีการปรับสูตรเพื่อเพิ่มปริมาณฟอง แต่งกลิ่น หรือเพิ่มสารตามความต้องการของ
วัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้
19
ภาคผนวก
20
แบบสอบถาม
เร่อื ง สบู่นำ้ ซาวขา้ วจากนำ้ มันพืชท่ใี ชแ้ ลว้
นกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์ พุแค จงั หวดั สระบุรี
นักเรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 หอ้ ง 3
คำช้แี จง ให้นกั เรียนใส่เครื่องหมาย √ ลงในชอ่ งทเ่ี ห็นด้วยมากท่สี ุด
คะแนน
รายการประเมนิ 54321
1. สบู่น้ำซาวข้าวเหนยี วมกี ลน่ิ หนื หรอื กล่ินคาว
2. สบนู่ ้ำซาวขา้ วไรซเ์ บอร์ร่ีมีกล่ินหืนหรอื กล่ินคาว
3. สบูน่ ำ้ ซาวขา้ วหอมมะลิมีกล่นิ หืนหรือกลิ่นคาว
4. สบู่นำ้ ซาวข้าวเหนยี วสามารถนำไปใชซ้ ักลา้ งได้
5. สบู่นำ้ ซาวขา้ วไรซ์เบอร์รสี่ ามารถนำไปใช้ซักลา้ งได้
6. สบนู่ ำ้ ซาวข้าวหอมมะลสิ ามารถนำไปใช้ซักล้างได้
รวม
ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................................................................................................................................................................... ........
21
บรรณานุกรม
กญั ญา วงศ์สุวรรณ์. (2552). ความลบั ของนำ้ ซาวขา้ ว. กรงุ เทพฯ. สำนกั งานคณะกรรมการวิจยั แห่งชาติ
คมสันต์ หตุ ะแพทย์. (2548). สบ่ธู รรมชาติ. กรุงเทพฯ. บรษิ ัทเอสเอม็ เอ ธุรกจิ การพมิ พ์ จำกดั .
ขา้ วไรซ์เบอร่ีและสรพคุณเพื่อสุขภาพ เขา้ ถึงข้อมลู วนั ที่ 10 ตุลาคม 2563 จาก
https://www.honestdocs.co/riceberry-and-its-benefits
ค่าสปอนนิฟเิ คชน่ั เขา้ ถงึ ข้อมูลวันท่ี 10 ตลุ าคม 2561 จาก http://www.sec.psu.ac.th/web-
board/?pid=view_replies&thread_id=1635&forum_id=2
คุณสมบตั ิของน้ำมนั แต่ละชนดิ ในการผลิตสบู่ เขา้ ถึงข้อมูลวนั ที่ 20 ตุลาคม 2563 จาก
http://omsiam2010.blogspot.com/2010/10/handmade.html
โปรแกรมคำนวณสบู่ เข้าถงึ ข้อมลู วนั ท่ี 10 ตุลาคม 2561 http://soapcalc.net/calc
สารตา้ นอนมุ ูลอสิ ระในข้าว เขา้ ถึงขอ้ มูลวันท่ี 2 พฤศจิกายน 2563 จาก
http://dna.kps.ku.ac.th/index.php/article-rice-rsc-rgdu/47-riceberry-height-antioxidant