The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงาน-โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2021-10-19 15:24:53

โครงงาน-โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล

โครงงาน-โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล

โปรแกรมระบบฐานข้อมูล

ปริวัฒน์ เพง็ รัตน์ กล่มุ 22
รหัสนกั ศึกษา 116410905064-4

รายงานนี้เป็ นส่วนหน่ึงของการศึกษาวชิ าการค้นคว้าและการเขียนรายงานเชิงวิชาการ
ภาควิชาวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564



โปรแกรมระบบฐานข้อมูล

ปริวัฒน์ เพง็ รัตน์ กล่มุ 22
รหัสนกั ศึกษา 116410905064-4

รายงานนี้เป็ นส่วนหน่ึงของการศึกษาวชิ าการค้นคว้าและการเขยี นรายงานเชิงวิชาการ
ภาควิชาวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564





คานา

รายงานฉบบั น้ีจดั ทาข้ึนเพ่ือปฏิบตั ิการเขียนรายงานการคน้ ควา้ ที่ถูกตอ้ งย่างเป็ นระบบ อนั
เป็นส่วนหน่ึงของการศึกษารายวิชา 01-210-017 การคน้ ควา้ และการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ ซ่ึงจะ
นาไปใช้ในการทารายงานค้นคว้าสาหรับรายวิชาอื่นได้อีกต่อไป การที่ผูจ้ ัดทาเลือกทาเรื่อง
“โปรแกรมระบบฐานขอ้ มูล” เนื่องดว้ ยโปรแกรมระบบฐานขอ้ มูลเขา้ มามีบทบาทท่ีสาคญั ต่อสังคม
มนุษยใ์ นปัจจุบนั แทบทุกวงการ ลว้ นนาเขา้ ไปเกี่ยวขอ้ งกบั การใช้งาน จนกล่าวไดว้ ่า โปรแกรม
ระบบฐานขอ้ มูล เป็ นปัจจยั ท่ีสาคญั อย่างยิ่งต่อ การดาเนินชีวิตและ การทางานใน ชีวิตประจาวนั
ฉะน้นั การเรียนรู้เพื่อทา ความรู้จกั กบั โปรแกรมระบบฐานขอ้ มูลจึงถือเป็นสิ่งท่ีมีความจาเป็ นเป็ น
อยา่ งยง่ิ เพือ่ ที่จะ ทราบวา่ คอมพิวเตอร์คืออะไร ทางานอยา่ งไร และมีความสาคญั ตอ่ มนุษยอ์ ยา่ งไร

รายงานเล่มน้ีกล่าวถึงเน้ือหาเกี่ยวกบั โปรแกรมระบบฐานขอ้ มูลเหมาะสาหรับผทู้ ่ีตอ้ งการ
รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และข้อมูลเชิงลึกต่างๆ เกี่ยวกับ โปรแกรมระบบ
ฐานขอ้ มูลมีปริมาณเพิ่มข้ึน หรือไม่นอ้ ยลงไปกวา่ เดิม อาทิเช่น ความหมาย ความเป็นมา ระบบการ
ทางาน และองคป์ ระกอบของโปรแกรมระบบฐานขอ้ มูล เพ่ือใหผ้ ศู้ ึกษาสามารถนาความรู้ท่ีได้รับ
ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้

ขอบคุณผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. พนิดา สมประจบ ท่ีกรุณาให้ความรู้และคาแนะนาโดย
ตลอดและ รวมไปถึงท่านเจ้าของหนังสือ บทความ งานวิจัย ท่ีผูเ้ ขียนใช้อ้างอิงทุกท่านหากมี
ขอ้ บกพร่องประการใด ผเู้ ขยี นขอนอ้ มรับไวเ้ พื่อปรับปรุงต่อไป

ปริวฒั น์ เพง็ รัตน์
19 ตุลาคม 2564



สารบัญ ข

บทท่ี 1 บทนา หนา้
1.1 ความหมายของโปรแกรมระบบฐานขอ้ มลู
1.2 คาศพั ทพ์ ้นื ฐานเกี่ยวกบั ระบบฐานขอ้ มลู 1
1.3 ประโยชน์ของการประมวลผลแบบฐานขอ้ มลู 2
1.4 รูปแบบของระบบฐานขอ้ มลู 4
5
บทท่ี 2 การจัดการระบบฐานข้อมูล
2.1 ระดบั ของขอ้ มูล 7
2.2 เคา้ ร่างของฐานขอ้ มูล 7
2.3 ระบบจดั การฐานขอ้ มลู 8
2.4 ผบู้ ริการฐานขอ้ มลู 8

บทที่ 3 ความรู้เบื้องต้นเกยี่ วกบั โปรแกรม 9
3.1 ข้นั ตอนการใชโ้ ปรแกรม (Microsoft Access) 10
3.2 การสร้างฐานขอ้ มลู ใหม่ (Microsoft Access) 12
3.3 การออกแบบตาราง (Microsoft Access) 13
3.4 การออกแบบโครงสร้างขอ้ มลู (Microsoft Access) 13
3.5 การป้อมขอ้ มูลบน (Microsoft Access)
22
บทท่ี 4 การวเิ คราะห์และออกแบบระบบฐานข้อมูล 22
4.1 ความหมายของการวเิ คราะหแ์ ละออกแบบฐานขอ้ มูล 23
4.2 ความหมายของฐานขอ้ มลู เชิงสัมพนั ธ์ 24
4.3 ข้นั ตอนในการออกแบบฐานขอ้ มลู 25
4.4 การจดั การฐานขอ้ มูลใหอ้ ยใู่ นรูปแบบบรรทดั ฐาน 28
4.5 การสร้างความสัมพนั ธข์ องรีเลชนั 30

บทที่ 5 สรุปและข้อเสนอแนะ
บรรณานุกรม



บทที่ 1
บทนา

โปรแกรมระบบฐานขอ้ มูล เป็นโปรแกรมหรือซอฟแวร์ที่ช่วยจดั การขอ้ มูลหรือรายการต่าง ๆ ที่
อยใู่ นฐานขอ้ มลู ไม่วา่ จะเป็นการจดั เก็บ การเรียกใช้ การปรับปรุงขอ้ มูลโปรแกรมจดั การ ฐานขอ้ มูล
ท่ีนิยมใชม้ ีอยู่ดว้ ยกนั หลายตวั เช่น Microsoft Access, FoxPro, Clipper, dBase, FoxBASE, Oracle,
Microsoft SQL Server

1.1 ความหมายของโปรแกรมระบบฐานข้อมูล
โปรแกรมจดั การฐานขอ้ มูล คืออะไร??? ก่อนท่ีเราจะรู้ว่าโปรแกรมจดั การฐานขอ้ มูล คือ

อะไร เราต้องมาทาความรู้จักกับระบบจดั การฐานข้อมูลกันก่อนว่าคืออะไร โดยระบบจัดการ
ฐานขอ้ มูล หรือ DBMS(Database Management System) น้นั หมายถึง ซอฟตแ์ วร์หรือโปรแกรมท่ีใช้
ในการจดั การขอ้ มูล หรือรายการต่างๆที่อยู่ในฐานข้อมูล แปลความตอ้ งการของผูใ้ ช้งานให้อย่ใู น
รูปแบบขอ้ ฐานขอ้ มูลที่เขา้ ใจได้ ทาให้ผูใ้ ช้สามารถติดต่อกบั ฐานขอ้ มูล คน้ หาไดอ้ ย่ารวดเร็ว ซ่ึง
ผูใ้ ชง้ านจะติดต่อกบั ฐานขอ้ มูลไดน้ ้นั จะตอ้ งผา่ นโปรแกรมจดั การฐานขอ้ มูล ซ่ึงโปรแกรมจดั การ
ฐานขอ้ มูลน้นั จะเป็นเหมือนตวั กลางให้เราสามารถเขา้ ถึงฐานขอ้ มูลไดอ้ ยา่ งสะดวกและรวดเร็ว ซ่ึง
โปรแกรมฐานขอ้ มูลน้ันมีอยู่มากมายหลายโปรแกรมดว้ ยกัน เรามาดูตวั อย่างโปรแกรมจัดการ
ฐานขอ้ มลู ท่ีเป็นท่ีนิยมกนั

1. โปรแกรม DBase DBase เป็ นโปรแกรมจดั การฐานขอ้ มูลที่ทางานบน DOS ซ่ึงเป็ น
โปรแกรมท่ีใชง้ านง่าย มีเคร่ืองมืออานวยความสะดวกในการเขยี นโปรแกรม เช่น Report และขอ้ มูล
ที่ไดจ้ าก Dbase น้นั จะเป็ นไฟล์ .DBF ท่ีจะสามารถประมวลผลใน Word Processer หรือใน Excel
ได้

2. โปรแกรม Microsoft Access เป็ นโปรแกรมจดั การฐานข้อมูลอนั นึง ท่ีถูกพฒั นาโดย
บริษทั Microsoft ซ่ึงเป็ นโปรแกรมจดั การฐานขอ้ มูลท่ีสามารถจดั การกบั ขอ้ มูลปริมาณมากๆได้
อยา่ งงา่ ยดาย โดยโปรแกรม Access น้นั จะเป็นท่ีนิยมใชง้ านกนั มากสาหรับ คอมพวิ เตอร์ส่วนบุคคล
ทว่ั ๆไป ซ่ึงใชส้ าหรับทางานทวั่ ๆไป

2

3. โปรแกรม Microsoft SQL Server เป็ นโปรแกรมอีกตวั นึงของทาง Microsoft ซ่ึงเป็ น
โปรแกรมจดั การฐานขอ้ มูลเชิงสัมพนั ธ์ ช่วยให้การบริหารงานฐานขอ้ มูลทาไดง้ ่ายข้ึน จดั การกบั
การทางานของฐานขอ้ มูลขนาดใหญไ่ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ และยงั จดั เก็บและประมวลผมไดด้ ว้ ย

4. โปรแกรม Fox Pro เป็ นโปรแกรมจดั การฐานขอ้ มูล อีกตวั จากทาง Microsoft ซ่ึงเป็ น
โปรแกรมจดั การฐานขอ้ มูลท่ีใชง้ านง่าย มีผูใ้ ชง้ านมากมาย โดย โปรแกรมท่ีเขียนดว้ ย FoxPro จะ
สามารถใช้กลับ dBase คาส่ังและฟังก์ช่ันต่าง ๆ ใน dBase จะสามารถใช้งานบน FoxPro ได้
นอกจากน้ีใน FoxPro ยงั มีเครื่องมือช่วยในการเขยี นโปรแกรม

5. โปรแกรม Oracle คือโปรแกรมจดั การฐานขอ้ มูล ที่ผลิตโดย ตวั ของบริษทั Oracle เอง
ซ่ึงจะเป็นโปรแกรม จดั การฐานขอ้ มูลเชิงสัมพนั ธ์ ที่จะค่อยเป็นตวั กลางติดต่อใช้งาน ระหว่างผใู้ ช้
กบั ฐานขอ้ มลู

6. โปรแกรม MariaDB เป็ นระบบจดั การฐานขอ้ มูลเป็ นระบบที่จดั เรียงขอ้ มูลที่ออกแบบ
การใชง้ านท่ีง่ายและใหบ้ ริการฟรี และมีการพฒั นาอยา่ งต่อเนื่องจากกลมุ่ นกั พฒั นาระบบฐานขอ้ มูล
MySQL ท่ีตอ้ งการรักษาสถานะซอฟทแ์ วร์ฟรีภายใตข้ อ้ ตกลง GNU GPL

7. โปรแกรม phpMyAdmin โปรแกรมท่ีถูกพฒั นาโดยใชภ้ าษา PHP เพื่อใชใ้ นการบริหาร
จดั การฐานข้อมูล Mysql แทนการคียค์ าส่ังโดยโปรแกรม น้ีจะใช้งานได้ง่ายมีเครื่องมือต่างๆท่ี
สามารถจดั การฐานขอ้ มูล DBMS ไดส้ ะดวกรวดเร็ว

8. โปรแกรม PgAdmin เป็ นโปรแรกมที่คลา้ ยๆ กับ phpMyadnin แต่ไวส้ าหรับจดั การ
ฐานขอ้ มูล PostgreSQL มีท้งั เวอร์ชนั่ ที่เป็ น Windows GUI และ Webbase และนี่ก็เป็ น โปรแกรม
ฐานขอ้ มูลท่ีคนนิยมใชง้ านกนั แตว่ า่ ยงั มีโปรแกรมจดั การฐานขอ้ มูลอื่นๆอีกมากมาย นอกเหนื่อจาก
ท่ียกตวั อย่างมา เช่น ซ่ึงสามารถใช้งาน จดั การระบบฐานขอ้ มูลไดเ้ หมือนกัน และนอกจากน้ียงั
สามารถดูการสอน การใชง้ าน phpMyAdmin สอนการใชง้ านโปรแกรมจดั การฐานขอ้ มูล MySQL
หรือจะเป็นขอ้ มลู

1.2 คาศัพท์พืน้ ฐานเกยี่ วกบั ระบบฐานข้อมูล
เพ่ือให้รู้จักคาศัพท์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบฐานข้อมูล โดยเฉพาะเรื่ องของการ

ประมวลผลในระบบแฟ้มขอ้ มลู ซ่ึงมีการแบ่งระดบั ของขอ้ มูลในฐานขอ้ มูลไวด้ งั ตอ่ ไปน้ี
- บิต (Bit) หมายถึง หน่วยของขอ้ มูลที่มีขนาดเล็กท่ีสุด เป็ นขอ้ มูลที่มีการจดั เก็บในลกั ษณ์
ของเลขฐานสองคอื 0

3

- ไบต์ (Byte) หมายถึง หน่วยของขอ้ มูลท่ีเกิดจากการนาบิตมารวมกนั เป็ นตวั อกั ขระหรือ
ตวั อกั ษร (Character)

- ฟิ ลด์ (Field) หมายถึง เขตขอ้ มูลหรือหน่วยของขอ้ มูลที่ประกอบข้นึ จากไบตห์ รือตวั อกั ขระ
ต้งั แต่หน่ึงตวั ข้ึนไป มารวมกนั แลว้ ไดค้ วามหมายเป็นคา ขอ้ ความ หรือของสิ่งใดสิ่งหน่ึง
เช่น ชื่อ ตาแหน่ง อายุ เป็นตน้

- ไฟล์ (File) หมายถึง แฟ้มข้อมูลหรือหน่วยของข้อมูลท่ีเกิดจากการนาข้อมูลหลาย ๆ
ระเบียนท่ีเป็นเรื่องเดียวกนั เช่น แฟ้มขอ้ มูล ส่วนในระบบฐานขอ้ มลู ก็จะมีคาศพั ทต์ ่าง ๆ ท่ี
เกี่ยวขอ้ ง

- เอนทิต้ี (Entity) หมายถึง ช่ือของส่ิงใดส่ิงหน่ึง เปรียบเสมือนคานามได้แก่ คน สถานที่
ส่ิงของ การกระทา ซ่ึงตอ้ งการจดั เก็บขอ้ มูลไว้ เช่น เอนทิต้ีนักเรียน เป็ นตน้ เรคคอร์ด
(Record) หมายถึง ระเบียน หรือหน่วยของขอ้ มูลที่เกิดจากการนาเอาฟิ ลด์หรือเขตขอ้ มูล
หลาย ๆ เขตขอ้ มลู ที่เกี่ยวขอ้ งมารวมกนั เพอ่ื เกิดเป็นรายการขอ้ มลู เร่ืองใดเรื่องหน่ึง

- แอททริบิวต์ (Attribute) หมายถึง รายละเอียดขอ้ มูลที่แสดงลกั ษณะและคุณสมบตั ิของแอ
ททริบิวต์หน่ึงเช่น เอนทิต้ีสินคา้ ประกอบดว้ ย แอททริบิวตร์ หัสสินคา้ ประเภท ช่ือ ราคา
ตอ่ หน่วย เป็นตน้

บางเอนทิต้ีก็ยงั อาจประกอบดว้ ยขอ้ มูลหลายส่วน หลายแอททริบิวต์ย่อยมารวมกนั เช่น แอททรริ
บิวตท์ ี่อยพู่ นกั งาน ประกอบดว้ ย บา้ นเลขท่ี ถนน ตาบล อาเภอ จงั หวดั เช่นน้ีแลว้ แอททรริบิวตท์ ี่อยู่
พนักงานจึงเรียกว่าเป็ น แอทรริบิวต์ (Composite Attribute) บางแอทริบิวตก์ ็อาจจะไม่มีค่าของตวั
มนั เอง แต่จะสามารถหาค่าไดจ้ ากแอทรริบิวตอ์ ื่น ๆ เช่น แอทรริบิวตอ์ ายปุ ัจจุบนั อาจคานวณไดจ้ าก
แอทรริบิวต์วนั เกิด ลักษณะเช่นน้ีจึงอาจเรียก แอทรริบิวต์อายุว่าเป็ น แอทรริบิวต์ที่แปลค่ามา
(Derived Attribute) นอมลั ไลเซช่ัน (Normalization) เป็ นทฤษฏีหรือกระบวนการที่ใช้ในการทา
ใหอ้ นทิต้ีและแอทรริบิวตท์ ี่ไดอ้ อกแบบไว้ มาจดั กลุม่ ตารางใหม้ ีความสัมพนั ธ์กนั ใหอ้ ยใู่ นรูปแบบ
ท่ีเรียกว่า รูปแบบบรรทดั ฐาน หรือ Normal From เพ่ือให้ความสัมพนั ธ์ท่ีไดอ้ ยู่ในรูปแบบบรรทดั
ฐานท่ีเหมาะสม โดยจุดมุ่งหมายของการนอมลั ไลเซชัน่ คือ ลดความซ้าซ้อน (Redundancy) ของ
ขอ้ มูลในตาราง ทาใหไ้ มต่ อ้ งแกไ้ ขขอ้ มูลหลาย ๆ ท่ีรวมท้งั ทาใหล้ ดเน้ือท่ีในการจดั เก็บขอ้ มูล ทาให้
การเปลี่ยนแปลง แกไ้ ขโครงสร้างของตารางไดง้ ่ายในภายหลงั ลดปัญหาความไม่ถูกตอ้ งของขอ้ มูล
โดยการปรับปรุงขอ้ มลู สามารถทาการปรับปรุงขอ้ มลู จากแหลง่ ขอ้ มลู เพยี งแหล่งเดียว

4

1.3 ประโยชน์ของการประมวลผลแบบฐานข้อมูล
สามารถลดความซ้าซ้อนของขอ้ มูลได้ การจดั เก็บข้อมูลในแฟ้มขอ้ มูลธรรมดาน้ันอาจ

จาเป็นที่ผใู้ ชแ้ ต่ละคนจะตอ้ งมีแฟ้มขอ้ มูลของตนไวเ้ ป็ นส่วนตวั จึงอาจเป็นเหตุใหม้ ีการเก็บขอ้ มูล
ชนิดเดียวกนั ไวห้ ลาย ๆ ท่ี ทาให้เกิดความซ้าซ้อน (Redundancy) การนาขอ้ มูลมารวมเก็บไวใ้ น
ฐานขอ้ มลู จะช่วยลดความซ้าซอ้ นของขอ้ มลู ได้ โดยระบบจดั การฐานขอ้ มูล (Database Management
System : DBMS) จะช่วยควบคุมความซ้าซ้อนได้ เนื่องจากระบบจัดการฐานขอ้ มูลจะทราบได้
ตลอดเวลาว่ามีขอ้ มูลซ้าซ้อนกนั อยทู่ ี่ใดบา้ ง สามารถใชข้ อ้ มลู ร่วมกนั ได้ ดงั ที่ไดก้ ลา่ วมาในตอนตน้
แลว้ ว่า ฐานขอ้ มูลจะเป็ นการจัดเก็บข้อมูลรวมไวด้ ้วยกัน ดังน้ันหากผูใ้ ช้ต้องการใช้ข้อมูลใน
ฐานขอ้ มูลท่ีมาจากแฟ้มขอ้ มูลต่าง ๆ ก็สามารถติดต่อและเรียกใชข้ อ้ มูลไดโ้ ดยง่าย หลีกเลี่ยงความ
ขดั แยง้ ของขอ้ มูล สืบเนื่องจากการเก็บขอ้ มูลชนิดเดียวกนั ไวห้ ลาย ๆ ที่เมื่อมีการปรับปรุงขอ้ มูล
เดียวกนั น้ีแต่ปรับปรุงไม่ครบทุกท่ีท่ีมีขอ้ มลู เก็บอยู่ ก็จะทาใหเ้ กิดปัญหาขอ้ มูลชนิดเดียวกนั อาจะมี
ค่าไม่เหมือนกนั ในแต่ละท่ีที่เก็บขอ้ มูลอยู่ จึงก่อให้เกิดความขดั แยง้ ของขอ้ มูลข้ึน (Inconsistency)
สามารถรักษาความถูกตอ้ งเชื่อถือไดข้ องขอ้ มูล ในระบบจดั การฐานขอ้ มูลจะสามารถใส่กฏเกณฑ์
เพื่อควบคุมความผิดพลาดท่ีอาจเกิดข้ึนได้ เช่นการป้อนขอ้ มูลที่ผิดพลาด การคานวณค่าที่ให้ความ
ถูกตอ้ งแม่นยา ฯลฯ สามารถกาหนดระบบความปลอดภยั ของขอ้ มูลได้ ระบบความปลอดภยั ของ
ข้อมูลในท่ีน้ีเป็ นการป้องกันไม่ให้ผูใ้ ช้ท่ีไม่มีสิทธ์ิมาใช้ หรือมาเห็นข้อมูลบางอย่างในระบบ
ผูบ้ ริหารฐานข้อมูลจะสามารถกาหนดระดับการเรียกใช้ขอ้ มูลของผูใ้ ช้แต่ละคนได้ตามความ
เหมาะสม ท้งั น้ีเนื่องจากผใู้ ชแ้ ตล่ ะคนจะสามารถมองขอ้ มลู ในฐานขอ้ มลู ที่ต่างกนั ตามสิทธ์ิท่ีตนเอง
ไดร้ ับในการเขา้ ถึงขอ้ มูลสามารถกาหนดความเป็ นมาตรฐานเดียวกนั ของขอ้ มูลได้ การเก็บขอ้ มูล
ร่วมกนั ไวใ้ นฐานขอ้ มูล จะทาใหส้ ามารถกาหนดมาตรฐานของขอ้ มลู ได้ รวมท้งั มาตรฐานตา่ ง ๆ ใน
การจดั เกบ็ ขอ้ มูลใหเ้ ป็นไปในลกั ษณะเดียวกนั ได้ เช่น การกาหนดรูปแบบการเขยี นวนั ที่ในลกั ษณะ
ว/ด/ป หรือ ป/ด/ว ก็สามารถกาหนดไดท้ ้งั น้ีจะมีผูท้ ี่คอยบริหารฐานขอ้ มูลที่เราเรียกว่าผูบ้ ริหาร
ฐานขอ้ มลู เป็นผกู้ าหนดมาตรฐานตา่ ง ๆ เหล่าน้ีเกิดความเป็นอิสระของขอ้ มูล โดยปกติโปรแกรมท่ี
เขียนข้ึนใชง้ านจะมีความสมั พนั ธ์กบั รายละเอียดหรือโครงสร้างของแฟ้มขอ้ มลู ที่ตอ้ งการใช้ ดงั น้นั
หากมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างขอ้ มูลในแฟ้มขอ้ มูลใดเกิดข้ึนก็ตอ้ งแกไ้ ขโปรแกรมทุกโปรแกรม
ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การเรียกขอ้ มูลจากแฟ้มขอ้ มูลดงั กลา่ วดว้ ยถึงแมว้ ่าโปรแกรมเหล่าน้นั อาจจะเป็นเพียง
เรียกใช้แฟ้มข้อมูลดังกล่าวเพื่อดูข้อมูลบางอย่างที่มิได้มีการปรับโครงสร้างก็ตาม ในระบบ
ฐานขอ้ มลู จะมีตวั จดั การฐานขอ้ มูลทาหนา้ ท่ีเป็นตวั เชื่อมโยงกบั ฐานขอ้ มลู โปรแกรมต่าง ๆ อาจไม่

5

จาเป็ นต้องมีโครงสร้างข้อมูลทุกคร้ัง ดังน้ันการแก้ไขข้อมูลบางคร้ังจึงอาจกระทาเฉพาะกับ
โปรแกรมที่เรียกใชข้ อ้ มูลที่เรียกใชข้ อ้ มูลที่เปลี่ยนแปลงเท่าน้นั ส่วนโปรแกรมที่ไมไ่ ดเ้ รียกใชข้ อ้ มูล
ดงั กล่าวกจ็ ะเป็นอิสระจากการเปล่ียนแปลงที่กล่าวมา

1.4 รูปแบบของระบบฐานข้อมูล
รูปแบบของระบบฐานขอ้ มลู มีอยดู่ ว้ ยกนั 3 ประเภทคือ
1. ฐานขอ้ มูลเชิงสัมพนั ธ์ (RELATIONAL DATABASE) เป็ นการเก็บขอ้ มูลในรูปแบบ

ท่ีเป็ นตาราง (Table) หรือเรียกว่า รีเลชน่ั (RELATION) มีลกั ษณะเป็ น 2 มิติ คือ เป็ นแถวและเป็ น
คอลมั น์ การเชื่อมโยงขอ้ มูลระหว่างตารางจะเช่ือมโยงโดยใช้แอททริบิวต์ (ATTRIBUTE) หรือ
คอลมั นท์ ่ีเหมือนกนั ท้งั สองตารางเป็นตวั เช่ือมโยงขอ้ มลู เช่น

ภาพจาก: https://1th.me/yhjFg
2. ฐานขอ้ มลู แบบเครือขา่ ย (NETWORK DATABASE) ฐานขอ้ มลู แบบเครือขา่ ย จะเป็น

การรวมระเบียนต่าง ๆ และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งระเบียนแต่จะตา่ งกบั ฐานขอ้ มลู เชิงสัมพนั ธ์ คือ
ในฐานขอ้ มูลเชิงสมั พนั ธจ์ ะแฝงความสมั พนั ธเ์ อาไว้ โดยระเบียนท่ีมีความสมั พนั ธ์กนั จะตอ้ งมีค่า
ของขอ้ มลู ในแอททริบิวตใ์ นแอททริบิวตห์ น่ึงเหมือนกนั แตฐ่ านขอ้ มูลแบบเครือขา่ ย จะแสดง
ความสมั พนั ธ์อยา่ งชดั เจน โดยแสดงไวใ้ นโครงสร้าง เช่น

6

ภาพจาก: https://1th.me/yhjFg
3. ฐานขอ้ มูลแบบลาดบั ช้นั (HIERARCHICAL DATABASE) ฐานขอ้ มลู แบบลาดบั ช้นั

เป็นโครงสร้างที่จดั เกบ็ ขอ้ มูลในลกั ษณะความสัมพนั ธแ์ บบ พ่อ – ลูก หรือเป็นโครงสร้างรูปแบบ
ตน้ ไม้ TREE ขอ้ มลู ที่จดั เก็บในท่ีน้ี คอื ระเบียน Record ซ่ึงประกอบดว้ ยคา่ ของเขตขอ้ มูล
Field ของเอนทิต้ีหน่ึง ๆ นน่ั เอง

ภาพจาก: : https://1th.me/yhjFg
แผนผงั โครงสร้างขอ้ มูล

ภาพจาก: https://1th.me/yhjFg

บทที่ 2
การจัดการระบบฐานข้อมูล

2.1 ระดับของข้อมูล
ระดบั ของขอ้ มูล มีการจดั แบ่งระดบั ของขอ้ มูลเป็น 3 ระดบั
1 ระดับภายนอกหรือวิว (External Lever หรือ View) หมายถึง ระดับของข้อมูลที่อยู่สูง

ท่ีสุด ประกอบดว้ ยภาพท่ีผใู้ ชแ้ ตล่ ะคนจะมองขอ้ มลู หรือวิว (View) ของตนเอง
2 ระดบั แนวความคิด (Conceptual View) หมายถึง ระดบั ของขอ้ มูลท่ีอยถู่ ดั มา เป็นการมอง

เอนทิต้ีและความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเอนทิต้ี รวมท้งั กฎเกณฑแ์ ละขอ้ จากดั ตา่ งๆ ขอ้ มลู ในระดบั น้ี
3 ระดบั ภายใน (Internal Lever หรือ Physical View) หมายถึง ระดบั ของขอ้ มูลที่อยู่ล่างสุด

เป็นระดบั การจดั เก็บขอ้ มลู จริงๆวา่ มีโครงสร้างการจดั เก็บอยา่ งไร วธิ ีการเขา้ ถึงขอ้ มลู ในฐานขอ้ มูล
ทาอยา่ งไร
ความเป็นอิสระของขอ้ มูล (Data Independence) ความเป็นอิสระของขอ้ มลู แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ

1. ความเป็นอิสระของขอ้ มูลเชิงกายภาพ (Physical Data Independence)
2. ความเป็นอิสระของขอ้ มูลในเชิงตรรกะ (Logical Data Independence

2.2 เค้าร่างของฐานข้อมูล (Database Schema)
เค้าร่ างท่ีได้จากการออกแบบฐานข้อมูล (Database Schema) ซ่ึงเป็ นการกาหนดว่า

ฐานขอ้ มูลจะประกอบดว้ ยเอนทิต้ี แอททริบิวตอ์ ะไรบา้ ง มีความสัมพนั ธ์ระหว่างเอนทิต้ี แบ่งได้ 3
ระดบั

1. เคา้ ร่างภายนอก (External Schema หรือ Subschema หรือ View
2. เคา้ ร่างแนวความคดิ (Conceptual Schema
3. เค้าร่างภายใน (Internal Schema)ภาษาท่ีใช้ในระบบจัดการฐานขอ้ มูล ภาษาดังกล่าว
แบง่ เป็น 3 ชนิด คือ
1. ภาษาสาหรับนิยามขอ้ มลู (Data Definition Language : DDL)
2. ภาษาสาหรับดาเนินการกบั ขอ้ มูล (Data Manipulation Language: DML)
3. ภาษาสาหรับการควบคมุ ขอ้ มูล (Data Control Language: DCL)

8

2.3 ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management System: DBMS)
1. กาหนดและเกบ็ โครงสร้างฐานขอ้ มลู
2. รับและเกบ็ ขอ้ มูลในฐานขอ้ มลู
3. ดูแลรักษาขอ้ มลู
4. ติดต่อกบั ตวั จดั การระบบแฟ้มขอ้ มลู
5.ควบคมุ ความบรู ณะภาพของขอ้ มลู (Integrity Control)
6. ควบคุมความปลอดภยั (Security Control)
7. การสร้างระบบสารองและการกู้ (Backup and Recovery)
8. ควบคุมภาวการณ์ใชข้ อ้ มูลพร้อมกนั ของผใู้ ช้ (Concurrency Control)

2.4 ผู้บริหารฐานข้อมูล (Database Administrator: DBA)
ผบู้ ริหารฐานขอ้ มูล เป็นผทู้ ่ีทาหนา้ ที่ควบคมุ การบริหารของระบบฐานขอ้ มลู ท้งั หมด เป็นผู้

ท่ีจะตอ้ งตดั สินใจวา่ จะรวบรวมขอ้ มูลใดบา้ งเขา้ ไวใ้ นระบบ

บทท่ี 3
ความรู้เบื้องต้นเกยี่ วกบั โปรแกรม

3.1 ข้นั ตอนการใช้โปรแกรม (Microsoft Access)
โปรแกรม Microsoft Access เป็นโปรแกรมระบบจดั การฐานขอ้ มลู เชิงสมั พนั ธ์ มี

ความสามารถในการทางานดา้ นระบบจดั การฐานขอ้ มลู เนื่องจากถกู ออกแบบใหใ้ ชง้ านง่ายและมี
เครื่องมือตา่ งๆ ท่ีช่วยใหผ้ ใู้ ชท้ างานไดอ้ ยา่ งสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ หลงั จากเขา้ สู่
โปรแกรมระบบปฏิบตั ิการ MS_WINDOWS สามารถเขา้ สู่โปรแกรม Access ไดห้ ลายวิธี ตาม
ข้นั ตอนต่อไปน้ี

วธิ ีท่ี 1 เลือกเมนู Start เลือก All Program เลือก Microsoft office เลือก Microsoft Access
2010

วธิ ีท่ี 2 คลิกไอคอน shortcut โปรแกรม Access

ภาพจาก : https://www.link.in.th/IpdpN
หลงั จากเขา้ สู่โปรแกรม Access จะเขา้ สู่หน้าหลกั ของโปรแกรม และปรากฎเมนูแฟ้มบนจอภาพ
เพ่ือให้สามารถสร้างแฟ้มขอ้ มูลใหม่ เปิ ดแฟ้มขอ้ มูลเดิม บนั ทึกขอ้ มูล รวมท้งั แม่แบบในการสร้าง
ฐานขอ้ มูล เช่น ฐานขอ้ มลู เวบ็ ตวั อยา่ งแมแ่ บบ รวมท้งั แมแ่ บบจากเวบ็ ไซต์ office.com

10

ภาพจาก : https://www.link.in.th/IpdpN
เลือกเมนูแฟ้ม เลือก สร้าง กรณีสร้างแฟ้มขอ้ มูล เลือก เปิ ด กรณีตอ้ งนาฐานขอ้ มลู เดิมที่มีอยแู่ ลว้
กลบั มาใชง้ านอีคร้ังหน่ึง โดยมีรายช่ือบางส่วนให้เลือก หรือเลือก ลา่ สุด เม่ือตอ้ งการ คน้ หาจาก
แฟ้มขอ้ มูลล่าสุดที่มีการเปิ ดใช้
3.2 การสร้างฐานข้อมูลใหม่
การสร้างฐานขอ้ มลู ใหม่ หมายถึง การสร้างแฟ้มขอ้ มูลใหม่บน Access สามารถกาหนดได้
ดงั ต่อไปน้ี

1. เลือกเมนูแฟ้ม เลือก สร้าง เลือก ฐานขอ้ มูลเปล่า
2. ระบุชื่อแฟ้ม เลือก เพ่ือเลือก Drive และ Folder ที่ตอ้ งการบนั ทึก
3. คลิกแถบเคร่ืองมือสร้าง (หรือคลิก ท่ีแถบเคร่ืองมือด่วน)
4. จะปรากฏหนา้ ตา่ งการออกแบบแฟ้มขอ้ มลู ใหม่ ดงั รูปที่ 3.3

ภาพจาก : https://www.link.in.th/IpdpN

11

ในการออกแบบแฟ้มขอ้ มูล จะมี Ribbon หรือแถบเครื่องมือจากเมนูหลกั สาหรับการออกแบบ
ท้งั หมด 7 เมนูดงั ต่อไปน้ี

1. เมนูแฟ้ม ทาหน้าท่ีให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั แฟ้มขอ้ มูลท่ีเปิ ดใชอ้ ยู่ การสร้างแฟ้มขอ้ มูลใหม่
การบนั ทึกแฟ้มขอ้ มลู การเปิ ดแฟ้มขอ้ มูลเดิม

2. เมนูหนา้ แรก ทาหนา้ ที่กาหนดคาสั่งพ้ืนฐานทวั่ ไป ประกอบดว้ ย คลิปบอร์ด เรียงลาดบั
และกรอง ระเบียน คน้ หา และการจดั รูปแบบขอ้ ความ

3. เมนูสร้าง ทาหน้าที่สาหรับการสร้างวตั ถุ สาหรับฐานข้อมูล ประกอบด้วย ตาราง
แบบสอบถาม ฟอร์ม รายงาน แมโครและโคด้ รวมท้งั แมแ่ บบในการสร้างโปรแกรมประยกุ ต์

4. เมนูขอ้ มูลภายนอก ทาหนา้ ที่ในการนาฐานขอ้ มูลภายนอกมาใชใ้ น Access การส่งออก
ไปยงั ฐานขอ้ มลู อ่ืนๆ และรวบรวมขอ้ มลู

5. เมนูเคร่ืองมือฐานขอ้ มูล ทาหน้าท่ีในการจดั การฐานขอ้ มูล ประกอบด้วยการสร้าง
ความสัมพนั ธ์ระหว่างตาราง การเรียกใชแ้ มโคร/Visual Basic การติดต่อกบั SQL Sever รวมท้งั การ
กระชบั และซ่อมแซมฐานขอ้ มลู

6. เมนูเขตขอ้ มูล ทาหนา้ ท่ีในการกาหนดโครงสร้างของเขตขอ้ มูลบนตารางประกอบดว้ ย
มุมมอง เพิ่มและลบ คุณสมบตั ิ จดั รูปแบบ และการตรวจสอบความถูกตอ้ งของเขตขอ้ มูล

เมนูตาราง ทาหนา้ ท่ีในการจดั การวตั ถุตาราง ประกอบดว้ ย คุณสมบตั ิ เหตุการณ์ ก่อน/หลงั แมโคร
ท่ีมีช่ือ และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตาราง

ภาพจาก : https://www.link.in.th/IpdpN

12

จากรูปที่ 3.3 ปรากฏหน้าต่างการออกแบบแฟ้มข้อมูลใหม่ซ่ึงประกอบด้วยวตั ถุประสงค์หลัก

(Object)

เมนู ความหมาย

ตาราง เพื่อออกแบบข้อมูลแต่ละชนิด รวมเป็ นโครงสร้างของขอ้ มูลแต่ละ

(Table) รายการโดยมีเคร่ืองมือช่วยสร้าง

แบบสอบถาม ลกั ษณะคลา้ ยตาราง โดยการนาขอ้ มูลในตารางหรือแบบสอบถามบาง

(Queries) เขตขอ้ มูลหรือท้งั หมดมาออกแบบ คานวณค่าต่างๆ ของตวั เลข วนั ที่

เวลา รวมท้งั เพ่ือสอบถาม คน้ หา กรองขอ้ มูล และสรุปผลในรูปแบบ

ตา่ ง ๆ ใหก้ บั ผใู้ ช้

ฟอร์ม การออกแบบการป้อนขอ้ มูล หรือแสดงผลบนจอภาพในการติดต่อกบั

(Form) ผใู้ ช้ เพ่ือใหเ้ กิดความสะดวกและง่ายในการติดต่อ

รายงาน การออกแบบการนาเสนอตารางขอ้ มูลหรือผลลพั ธ์จากการประมวลผล

(Report) ทางกระดาษพิมพบ์ นเคร่ืองพิมพ์

แมโคร การสร้างชุดคาส่ังเพื่อให้สามารถทางานหลายๆ คาส่ังไดอ้ ยา่ งต่อเนื่อง
(Macro) โดยท่ีผใู้ ชไ้ มจ่ าเป็นตอ้ งมีความรู้เกี่ยวกบั การเขียนโปรแกรมมาก่อน

โมดูล สาหรับผทู้ ี่ตอ้ งการพฒั นาโปรแกรมดว้ ยการเขียนเป็ นคาสั่งการทางาน
(Module) ด้วยภาษา VBA กับงานท่ีเป็ นระบบ การทางานที่ยุ่งยากและ
สลับซับซ้อน โดยผูเ้ ขียนจะต้องมีความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับการเขียน
โปรแกรม

3.3 การออกแบบตาราง (TABLE)
หมายถึง การออกแบบโครงสร้างขอ้ มูลเพื่อกาหนดเขตขอ้ มูลแต่ละชนิดหรือแต่ละเขต

ขอ้ มูล ให้กบั การบนั ทึกขอ้ มูลแต่ละรายการ ในการเก็บขอ้ มูลเดิม ท่ีจะนาไปใชใ้ นการประมวลผล
ข้อมูล ดังน้ันการสร้าง Table จึงเป็ นส่วนแรกของแฟ้มข้อมูลในการออกแบบฐานข้อมูลท่ีจะ
นาไปใชใ้ นส่วนอื่นๆ ต่อไป ข้นั ตอนการออกแบบ สามารถออกแบบได้ 2 วธิ ี ไดแ้ ก่

3.3.1 การออกแบบดว้ ยคาสง่ั ตาราง
- เลือกเมนู สร้าง เลือกตาราง
- จะปรากฏหนา้ ต่างการออกแบบใหเ้ ลือกดงั รูป

13

ภาพจาก : https://www.link.in.th/IpdpN
- การออกแบบตารางแต่ละเขตขอ้ มูล โดยการเลือก คลิกเพ่ือเพิ่ม เลือกชนิดของ

ขอ้ มูลและระบชุ ่ือเขตขอ้ มูลใหม่
- เลือก คลิกเพื่อเพมิ่ ไปเร่ือยๆ จนกระทง่ั ไดเ้ ขตขอ้ มูลครบตามตอ้ งการ

3.3.2 การออกแบบด้วยคาสั่งออกแบบตาราง
- เลือกเมนู สร้าง เลือก ออกแบบตาราง
- จะปรากฏหนา้ ตา่ งการออกแบบใหเ้ ลือกดงั รูป

ภาพจาก : https://www.link.in.th/IpdpN
3.4 การออกแบบโครงสร้างข้อมูล

หมายถึง กรณีสร้างตารางใหม่ด้วย ออกแบบตาราง เพ่ือตอ้ งการกาหนดโครงสร้างด้วย
ตนเอง โดยมีข้นั ตอนการออกแบบดงั น้ี

เลือกเมนู สร้าง เลือกออกแบบตาราง จะเขา้ สู่มุมมองออกแบบ เพื่อออกแบบโครงสร้าง
ขอ้ มูล โดยแบง่ ออกเป็นส่วนตา่ งๆ ได้ 4 ส่วน ไดแ้ ก่

14

3.4.1 ชื่อเขตขอ้ มลู สาหรับระบุขอ้ มลู แต่ละเขตขอ้ มลู

3.4.2 ชนิดขอ้ มูล สาหรับระบุชนิดของขอ้ มูล ซ่ึงแบ่งได้ 10 ชนิด ดงั ตารางแสดงชนิดขอ้ มูล

ตารางแสดงชนิดขอ้ มลู

ชนดิ ข้อมูล ประเภทของข้อมูล
Text ขอ้ มูลประเภทตวั อกั ษรหรือตวั เลขท่ีไม่นาไปใชก้ ารคานวณ จะถูก
กาหนดดว้ ยขนาด หน่วยเป็นจานวนตวั อกั ษร

Memo ขอ้ มูลประเภทรายละเอียดหรือการบนั ทึกบทความ สามารถเก็บได้
64,000 Byte

Number ขอ้ มูลเชิงตวั เลขจานวนเต็ม 0 – 9 หรือตวั เลขทศนิยมที่มีท้งั ค่าบวก
และคา่ ลบ และยงั สามารถนาไปใชค้ านวณได้

Date/Time ข้อมูลประเภทวนั ที่ที่ระบุตามรูปแบบ dd/mm/yy หรือ mm/dd/yy
หรือขอ้ มูลประเภทเวลาท่ีระบุตามรูปแบบ h:m:ss ขอ้ มูลประเภทน้ี
นอกจากสามารถกาหนดรูปแบบข้อมูลได้แล้ว ยงั สามารถนาค่า
เหลา่ น้ีไป คานวณหาค่าผลลพั ธ์ตามรูปแบบที่ตอ้ งการได้

Currency ขอ้ มูลประเภทตวั เลขหรือทศนิยมที่ตอ้ งการสัญลกั ษณ์ทางการเงิน –
และ , กากบั ตวั เลข

AutoNumber การสร้างตวั เลขที่ใชใ้ นการนบั แบบอตั โนมตั ิ เช่น 1,2,3,.. หรือค่าตวั
เลขที่เกิดจาการสุ่ม

Yes/No ข้อมูลเชิงตรรกะ หรือข้อมูล 2 ลักษณะ เช่น Yes/No, True/Fault ,
On/Off หรือ ชาย/หญิง ฯลฯ

OLE-Object ขอ้ มูลประเภทแฟ้มรูปภาพ หรือภาพกราฟิ ก รวมท้งั ขอ้ มูลประเภท
Hyperlink แฟ้มเอกสารที่สร้างจากโปรแกรมอ่ืนๆ
Attachment การเช่ือมโยงข้อมูลไปยงั แฟ้มอ่ืนๆ ภายนอก เช่น แฟ้มข้อมูลอื่น
เวบ็ ไซต์ หรือ E – Mail
ขอ้ มูลประเภทที่แนบแฟ้มขอ้ มูลกบั รายการ เช่น แฟ้มรูปภาพหรือ
ภาพกราฟิ ก รวมท้งั ขอ้ มูลประเภทแฟ้มเอกสาร

15

3.4.3 Description สาหรับอธิบายลกั ษณะของขอ้ มูลแต่ละเขตขอ้ มูล เช่น วธิ ีการป้อนขอ้ มูล
ความหมายของขอ้ มลู แตล่ ะค่าท่ีกาหนดไวล้ ่วงหนา้

ภาพจาก : https://www.link.in.th/IpdpN
หลงั การออกแบบจะตอ้ งบนั ทึกโครงสร้างตาราง ตามข้นั ตอนดงั น้ี

- เลือกเมนู แฟ้ม เลือก save
- ระบุชื่อตารางท่ี Table Name แลว้ ตอบ OK
จะปรากฏขอ้ ความแจง้ ในกรณี ไม่ไดก้ าหนด Primary Key ถา้ ตอบ Yes จะสร้างเขตขอ้ มูล ID เป็ น
ชนิด AutoNumber และกาหนดเป็นคยี ห์ ลกั ถา้ ตอบ No หมายถึง ผใู้ ชไ้ มต่ อ้ งการกาหนดคยี ห์ ลกั

ภาพจาก : : https://www.link.in.th/IpdpN
3.4.4 คณุ สมบตั ิเขตขอ้ มูล สาหรับกาหนดคณุ สมบตั ิของเขตขอ้ มลู แต่ละชนิดเพ่ือกาหนด

ขนาด รูปแบบ ขอบเขตการบนั ทึก ฯลฯ ขนาดเขตขอ้ มูล หมายถึง ขนาดของขอ้ มูลแตล่ ะประเภท ดงั
ตารางแสดงขนาดของขอ้ มูล

16

ตารางแสดงขนาดของขอ้ มูล

ประเภท ชนิดของข้อมูล

TEXT มีหน่วยเป็นจานวนตวั อกั ษร เพือ่ ควบคุมการรับขอ้ มูลไม่ใหเ้ กินขนาด
ที่กาหนด ซ่ึงสามารถกาหนดไดไ้ ม่เกิน 255 ตวั อกั ษร

MEMO จะเก็บขอ้ มูลไดส้ ูงสุด 65,535 ตวั อกั ษร

Number จะมีขนาดที่ใชจ้ ดั เกบ็ ดงั ต่อไปน้ี

Format ช่วงขอ้ มูล

Byte ใหค้ ่าเลขจานวนเตม็ มีคา่ 0-255

Integer ใหค้ า่ เลขจานวนเตม็ มีคา่ -32768 ถึง +32767

Long Integer ใหค้ า่ เลขจานวนเตม็ มีคา่ ประมาณ +2000 ลา้ น

Single ตวั เลขท่ีมีทศนิยมแบบความละเอียดปกติ

Double ตวั เลขท่ีมีทศนิยมแบบความละเอียดเป็น 2 เท่า

รูปแบบ หมายถึง รูปแบบขอ้ มูลในการแสดงผล สามารถกาหนดได้ 2 ลกั ษณะ คือกาหนด
จากรูปแบบเดิมที่มีอยู่แลว้ หรือกาหนดด้วยตนเอง โดยระบุเป็ นสัญลักษณ์ตามประเภทข้อมูล
ประกอบดว้ ย ตวั เลข วนั ท่ี/เวลา ตวั เลขทางการเงิน Yes/No

ตวั อยา่ งแสดงการกาหนดรูปแบบขอ้ มลู

ประเภทข้อมูล Format ข้อมูล ผลลพั ธ์
1,000.00
Number Standard 1000 $1,000.00
1 มกราคม 2554
Currency Currency 1000 9:25
Fault
Date Long Date 01/01/54

Time Medium Time 09:25:00

Yes/No True/Fault 0

17

การกาหนดรูปแบบขอ้ มลู แบบกาหนดเอง

1) รูปแบบขอ้ มูล ประเภท ตวั เลข/ตวั เลขทางการเงิน โดยมีสัญลกั ษณ์ในการกาหนดดงั

ตาราง ตารางแสดงสญั ลกั ษณ์ขอ้ มูลประเภท ตวั เลข/ตวั เลขทางการเงิน

สัญลกั ษณ์ ความหมาย

# ตวั เลขแต่ละหลกั จะแสดงเมื่อมีคา่ เทา่ น้นั

0 ตวั เลขแต่ละหลกั จะแสดงคา่ 0 เม่ือไมม่ ีคา่ ในแต่ละหลกั

, สัญลกั ษณ์คน่ั ตวั เลขทุก 3 หลกั

. จุดทศนิยม

+ สัญลกั ษณ์ + นาหนา้ ค่าบวก และ – นาหนา้ คา่ ลบ

฿ , $ สัญลกั ษณ์ทางการเงิน

T ค่าตวั เลขแบบเลขไทย

“ขอ้ ความ” ขอ้ ความประกอบตวั เลข

[color]

ตารางตวั อยา่ งการกาหนดรูปแบบตวั เลขดว้ ยตนเอง

ค่าตัวเลข Format ผลลพั ธ์รูปแบบ
1,000
1,000 #,### 1,000.00 (สีน้าเงิน)
฿ 1,000
1,000 #,###.00 [น้าเงิน] + 1,000.00
1,000 ฿#,### 1,000 บาท
2,500 บ.
1,000 +#,###

1,000 #,### “บาท”

2,500 #,## “บ.”

18

2) รูปแบบขอ้ มูลประเภท Date มีสัญลกั ษณ์ที่เก่ียวขอ้ งดงั ตาราง

ความหมาย ความหมาย

d วนั ดว้ ยตวั เลข 1 หรือ 2 หลกั มีคา่ ระหวา่ ง 1-31

dd วนั ดว้ ยตวั เลข 2 หลกั เสมอ มีคา่ ระหวา่ ง 01-31

ddd วนั ของสัปดาห์แบบยอ่ เช่น จ อ พ พฤ ศ ส อา

Dddd วนั ของสปั ดาห์แบบเตม็ เช่น จนั ทร์ องั คาร พธุ พฤหสั ฯลฯ

m เดือนดว้ ยตวั เลข 1 หรือ 2 หลกั มีค่าระหวา่ ง 1-12

mm เดือนดว้ ยตวั เลข 2 หลกั เสมอ มีคา่ ระหวา่ ง 01-12

mmm เดือนแบบยอ่ เช่น ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ... ธ.ค.

mmmm เดือนแบบเตม็ เช่น มกราคม กมุ ภาพนั ธ์ มีนาคม ฯลฯ

yy ปี แบบ 2 หลกั เช่น 11 หรือ 54

yyy ปี แบบ 4 หลกั เช่น 2011 หรือ 2554

ตวั อยา่ งแสดงตวั อยา่ งการกาหนดรูปแบบวนั ที่ดว้ ยตนเอง

ค่าวนั ที่ ชนิด ผลลพั ธ์รูปแบบ
01-01-2554
01/01/54 dd-mm-yyyy 1 ม.ค. 54
ส 1 มกราคม 2554
01/01/54 d mmm yy

01/01/54 ddd d mmmm yyyy

3) ขอ้ มูลประเภท Yes/No สาหรับขอ้ มูลแบบ กล่องขอ้ ความ มีค่า 0 และ -1 เท่าน้นั ตาราง

แสดงขอ้ มูลประเภท Yes/No

Format ค่า 0 ค่า -1

Yes/No No Yes

“M”; “หญิง” M F

“ชาย”; “หญิง” ชาย หญิง

“ปวช.”[น้าเงิน]; “ปวส.” ปวช.(สีน้าเงิน) ปวส.(สีแดง)

[แดง]

19

- ค่าใหม่ สาหรับคุณสมบตั ิของขอ้ มูลประเภท AutoNumber โดยกาหนดการเพิ่มตวั เลข
อตั โนมตั ิมี 2 ลกั ษณะคอื

• เพมิ่ คา่ โดยคา่ ตวั เลขจะเพ่มิ ทีละ 1 ไดแ้ ก่ 1, 2, 3, ...
• สุ่ม โดยค่าตวั เลขจะเพม่ิ ดว้ ยคา่ ตวั เลขสุ่ม
- ตาแหน่งทศนิยม หมายถึง การกาหนดจานวนหลกั ของทศนิยมซ่ึงจะมีผลกับข้อมูล
ประเภทตวั เลข ไดแ้ ก่ Number หรือ Currency
- รูปแบบการป้อนขอ้ มูล หมายถึง การสร้างรูปแบบตวั คน่ั ขอ้ มูลแต่ละคาจะใช้สาหรับ
ขอ้ มูลประเภทรหสั ต่างๆ เช่น รหสั พนกั งาน รหัสไปรษณีย์ รหัสโทรศพั ท์ ฯลฯ โดยมีสัญลกั ษณ์ท่ี
ใชใ้ นการออกแบบดงั ต่อไปน้ี
• A แทนตวั เลขหรือตวั อกั ษรก็ได้ และตอ้ งใส่คา่ เสมอ
• 9 แทนตวั เลข 0-9 เทา่ น้นั จะใส่คา่ หรือไม่กไ็ ด้
• L แทนตวั อกั ษร ก-ฮ หรือ A-Z และตอ้ งใส่ค่าเสมอ
• 0 แทนตวั เลข 0-9 และตอ้ งใส่ค่าเสมอ
• เปล่ียนตวั อกั ษรเป็นตวั พิมพใ์ หญ่ท้งั หมด (กรณีภาษา Eng)
• < เปล่ียนตวั อกั ษรเป็นตวั พมิ พเ์ ลก็ ท้งั หมด (กรณีภาษา Eng)
• สัญลกั ษณ์ตวั คนั่ เช่น – หรือ () หรือ: หรือ [] ฯลฯ

ตารางแสดงตวั อยา่ งการกาหนด Input Mask

Input Mask รูปแบบการบนั ทึก ตัวอย่างข้อมูล
ก-001
>A-999 _-_ _ _ Z[4-05]
05/08/48
>L [0-00] _[_-_ _] 08:30

99/99/99 _ _/_ _/_ _

99:99 _ _ : _ _

- ป้ายคาอธิบาย หมายถึง คาอธิบายชื่อเขตขอ้ มูล ใช้แทนชื่อเขตขอ้ มูลเพื่อให้เขา้ ใจ
ขอ้ มูลไดเ้ พิ่มข้ึน เพราะปกติการกาหนดช่ือเขตขอ้ มูลจะต้งั ชื่อใหก้ ระชบั เพราะจะไดเ้ รียกใชไ้ ดง้ ่าย
และสะดวก

- ค่าเริ่มตน้ หมายถึง การใหค้ า่ ขอ้ มลู เริ่มตน้ สาหรับการบนั ทึกรายการใหม่ จะกาหนด
เม่ือขอ้ มลู ในเขตขอ้ มูลท่ีกาหนดมีค่าท่ีกาหนดเป็นจานวนมาก จึงนามากาหนดเป็นคา่ เริ่มตน้

20

- กฎการตรวจสอบ หมายถึง การสร้างกฎเพอ่ื ตรวจสอบขอ้ มูลท่ีบนั ทึกวา่ มีคา่ ตามที่
กาหนดหรือตอ้ งการหรือไม่ ถา้ ไม่เป็นไปตามที่กาหนดจะแสดงขอ้ ความเพือ่ แจง้ ผบู้ นั ทึกหรือแกไ้ ข
คาส่ังท่ีใชร้ ่วมในการตรวจสอบ ประกอบดว้ ย

• ตวั เชื่อม and, or และ not
• Between ค่าเริ่มตน้ and ค่าสิ้นสุด

ตารางแสดงตวั อยา่ งการกาหนด Validation Rule

ประเภทข้อมูล Validation Rule ความหมาย
ตอ้ งบนั ทึก เอกชน หรือ ราชการ เท่าน้นั
Text “เอกชน” or “ราชการ” บนั ทึกทกุ ภาค ยกเวน้ ภาคกลาง
มีคา่ ต้งั แต่ 1,000 เป็นตน้ ไป
Text Not “ภาคกลาง” มีคา่ ระหวา่ ง 10-1,000
บนั ทึกปี 2554 เป็นตน้ ไป
Number/Currency >=1,000 บนั ทึกเฉพาะปี 2554 เท่าน้นั

Number/Currency Between 10 and 1,000 บนั ทึกไม่เกิน 18 นาฬิกา
บนั ทึกต้งั แต่ 8.30 น. เป็นตน้ ไป
Date/Time >=01/01/54 บนั ทึกระหวา่ ง 8.00-16.00 น. เทา่ น้นั

Date/Time Between 01/01/54 and

12/31/54

Date/Time <=18:00

Date/Time >=18:30

Date/Time Between 8:00 and 6:00

- ขอ้ ความตรวจสอบ หมายถึง ขอ้ ความที่กาหนดข้ึนเพื่อแจง้ ผูบ้ นั ทึกหรือแกไ้ ขท่ีระบุ
ขอ้ มลู ท่ีไม่เป็นไปตามกฎการตรวจสอบ โดยจะใชค้ วบคกู่ บั Validation Rule

- จาเป็น สาหรับกรณีตอ้ งการกาหนดให้บนั ทึกขอ้ มูลเสมอถา้ ไม่บนั ทึกจะมีขอ้ ความ
เตือน โดยมีตวั เลือก 2 ตวั เลือก ไดแ้ ก่

• ตอบ ไมใ่ ช่ หมายถึง บนั ทึกหรือไมบ่ นั ทึกกไ็ ด้
• ตอบ ใช่ หมายถึง จะตอ้ งบนั ทึกเสมอ
- อนุญาตใหค้ วามยาวเป็นศูนย์ หมายถึง ขอ้ ความท่ีมีขนาดตวั อกั ษรเป็นศนู ย์ หรือ “” ซ่ึงจะ
ใชก้ าหนดกบั ขอ้ มลู ประเภท TEXT
• ตอบ ไม่ใช่ หมายถึง ไมอ่ นุญาตใหบ้ นั ทึก “”
• ตอบ ใช่ หมายถึง อนุญาตใหบ้ นั ทึก “”

21

- ใส่ดชั นี สาหรับการกาหนดดชั นีขอ้ มูลใหก้ บั เขตขอ้ มูลท่ีเลือก ซ่ึงจะถูกกาหนดเป็นคียใ์ น
การสืบคน้ เพระจะมีการเรียงเขตขอ้ มูลที่ถกู กาหนดเป็นดชั นี โดยสามารถกาหนดได้ 3 ลกั ษณะคือ

• ตอบ ไม่ใช่ ถา้ ไม่ตอ้ งการใหเ้ ขตขอ้ มลู น้นั เป็น Index
• ตอบ ใช่ (มีค่าซ้ากนั ) หรือ Yes ถา้ ตอ้ งการใหเ้ ขตขอ้ มูลน้นั เป็น Index และมีค่าซ้า

กนั ได้
• ตอบ ใช่ (มีค่าซ้ากนั ) หรือ Yes ถา้ ตอ้ งการให้เขตขอ้ มูลน้นั เป็น Index และมีค่าซ้า

กนั ไมไ่ ด้
- การบีบ ใช้กับข้อมูลประเภท Text, Memo Hyperlink ให้สามารถบีบอัดข้อมูลท่ีใช้
รหสั Unicode ทาใหใ้ ชพ้ ้ืนท่ีเก็บไดม้ ากกวา่ แบบปกติ
- IME Mode และ IME Sentence Mode ใช้ในกรณี ติดต้ังโปรแกรม IME เพื่อเปลี่ยน
คยี บ์ อร์ดใหส้ ามารถใชอ้ กั ษรภาษาอื่น เช่น จีน ญี่ป่ นุ เกาหลี ฯลฯ
- สมาร์ทแท็ก ทาให้การทางานขอ้ มูลใน Access ร่วมกบั โปรแกรมภายนอกสะดวกและ
รวดเร็วข้นึ
- จดั แนวขอ้ ความ ใชใ้ นการจดั ขอ้ มลู ใหอ้ ยใู่ นตาแหน่ง ชิดซา้ ย ชิดขวา หรือจดั กลาง

- แสดงตวั ใชเ้ ลือกวนั ที่ สาหรับขอ้ มลู ชนิด Date/Time โดยจะแสดงปฏิทินสาหรับเลือก วนั
เดือน ปี ไดด้ ว้ ยความสะดวก โดยไมต่ อ้ งบนั ทึกดว้ ยคียบ์ อร์ด

บทท่ี 4

การวิเคราะห์และออกแบบระบบฐานข้อมูล

4.1 ความหมายของการวิเคราะห์และออกแบบฐานข้อมูล
นักวิเคราะห์ระบบ (System Analysis) คือ บุคคลที่มีหน้าที่ในการออกแบบและพัฒนา

ระบบงานในระบบการประมวลผลขอ้ มูล ดว้ ยระบบและวิธีการต่าง ๆ เพ่ือให้ระบบงานบรรลุถึง
เป้าหมายตามตอ้ งการของผูใ้ ชร้ ะบบ เร่ิมต้งั แต่การวิเคราะห์ระบบขอ้ มูล การออกแบบระบบการ
ปฏิบตั ิงานในการประมวลผลขอ้ มูล การสร้างข้นั ตอนการปฏิบตั ิงาน การพฒั นาโปรแกรม และการ
เขียนเอกสารตา่ ง ๆ ประกอบการปฏิบตั ิงานของระบบ

จากความหมายขา้ งตน้ จะเห็นไดว้ ่านกั วิเคราะห์ระบบงานเป็นผทู้ ี่เก่ียวขอ้ งกบั ระบบงานในการ
วิเคราะห์และออกแบบระบบการประมวลผล นอกจากน้นั นกั วิเคราะห์ระบบยงั ตอ้ งรับผิดชอบงาน
ในส่วนที่เกี่ยวกบั การจดั หาอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เก่ียวกบั คอมพิวเตอร์ ผูท้ ่ีจะใช้ระบบแฟ้มขอ้ มูลหรือ
ฐานขอ้ มูลต่าง ๆ รวมท้งั ขอ้ มูลเดิมท่ีจะป้อนเข้าสู่ระบบ อีกสิ่งหน่ึงที่จะต้องศึกษา คือ ลกั ษณะ
โครงสร้างขอ้ มูลท่ีมีอยู่ในการทางานของระบบที่ทาการวิเคราะห์น้ัน และท่ีสาคญั ท่ีนกั วิเคราะห์
ระบบจะมองขา้ มไปไม่ได้ นั่นคือ คนหรือบุคลากรที่ทางานอยู่กบั ระบบท่ีทาการวิเคราะห์ ตอ้ ง
ทาการศึกษาวา่ คนเกี่ยวขอ้ งระบบอยา่ งไร เก่ียวขอ้ งตรงไหน ทาอะไร เพราะคนเป็นปัจจยั ท่ีสาคญั
ที่สุด ถา้ ขาดความร่วมมือจากบุคลากรท่ีทางานอยู่ในระบบท่ีจะศึกษา ก็ถือว่าลม้ เหลวไปแลว้
คร่ึงหน่ึง ดงั น้นั จะมองขา้ มคนไปไมไ่ ด้

4.2 ความหมายของฐานข้อมูลเชิงสัมพนั ธ์
ระบบฐานขอ้ มลู เชิงสมั พนั ธ์ (Relational Database) เป็นฐานขอ้ มลู ที่ใชโ้ มเดลเชิงสัมพนั ธ์

(Relational Database Model) ซ่ึงผคู้ ิดคน้ โมเดลเชิงสมั พนั ธ์น้ีคือ Dr. E.F. Codd โดยใชห้ ลกั พ้ืนฐาน
ทางคณิตศาสตร์ เน่ืองดว้ ยแนวคิดของแบบจาลองแบบน้ีมีลกั ษณะท่ีคนใชก้ นั ทวั่ กลา่ วคือมีการเก็บ
เป็ นตาราง ทาให้ง่ายต่อการเขา้ ใจและการประยุกต์ใชง้ าน ดว้ ยเหตุน้ี ระบบฐานขอ้ มูลแบบน้ีจึงท่ี
ได้รับความนิยมมากที่สุด ในแง่ของ entity แบบจาลองแบบน้ีคือ แฟ้มขอ้ มูลในรูปตาราง และ
attribute ก็เปรียบเหมือนเขตขอ้ มูล ส่วนความสัมพนั ธ์คือความสัมพนั ธ์ระหว่าง entity ฐานขอ้ มูล
เชิงสมั พนั ธ์ คือ การเก็บขอ้ มูลในรูปของตาราง (Table) หลายๆตารางที่มีความสัมพนั ธ์กนั ในแต่ละ

23

ตารางแบ่งออกเป็นแถวๆ และในแต่ละแถวจะแบง่ เป็นคอลมั น์ (Column) ในทางทฤษฎีจะมีคาศพั ท์
เฉพาะแตกตา่ งออกไป เน่ืองจากแบบจาลองแบบน้ีเกิดจากทฤษฎีทางคณิตศาสตร์เร่ืองเซ็ท (Set)

4.3 ข้นั ตอนในการออกแบบฐานข้อมูล
ข้นั ตอนในการออกแบบฐานขอ้ มูล
ข้นั ที่ 1 เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลรายละเอียดท้งั หมด การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลและรายละเอียดต่างๆ

ของงาน รวมท้งั ความตอ้ งการของผใู้ ช้ เช่น
• มีขอ้ มลู ใดบา้ งที่เป็นเร่ืองเดียวกนั ใหจ้ ดั กล่มุ ขอ้ มูลน้นั เป็นเอนทิต้ี
• ชนิดของข้อมูลแบบใด (ตัวอักษร ตัวเลข หรืออ่ืนๆ) มีเง่ือนไขหรื อ
ขอ้ กาหนดอยา่ งไร เช่นรหสั พนกั งานจะตอ้ งเป็นเลข 6 หลกั อายุพนกั งาน
ตอ้ งไมเ่ กิน 55 ปี วฒุ ิการศึกษาของพนกั งานตอ้ งไมต่ ่ากวา่ ระดบั ปวส.
• มีข้อมูลอะไรบ้างท่ีจะต้องนามาค้นหาหรือประมวลผล ผลท่ีได้ต้อง
ส่งออกระบบภายนอกหรือไม่
• มีใครบา้ งท่ีเป็นผใู้ ชฐ้ านขอ้ มูลน้ี ใชบ้ ่อยแค่ไหน มีความสาคญั อยา่ งไร
• ลกั ษณะของรายงาน ประกอบดว้ ยรายงานอะไรบา้ ง ระยะเวลาในการออก
รายงาน
• ขอ้ มูลอ่ืนๆที่สามารถรวบรวมได้ โดยพยายามกบ็ รายละเอียดใหม้ ากท่ีสุด

ข้นั ที่ 2 กาหนดโครงสร้างของ Table จากกลุ่มขอ้ มูลหรือเอนทิต้ีท่ีรวบรวมไดจ้ ากเอกสาร
ต่างๆในข้นั ท่ี 1 เราจะนามากาหนดแอตทริบิวตข์ องขอ้ มูล เพ่ือจะไดท้ ราบว่าในเอนทิต้ีน้ันจะนา
ขอ้ มูลอะไรมาใชบ้ า้ ง หลงั จากน้ันให้นาแอตทริบิวต์มากาหนดโครงสร้างเบ้ืองตน้ ของ Table โดย
แปลงแอตทริบิวตเ์ ป็นฟิ ลด์ พร้อมกาหนดชนิด และขนาดขอ้ มูลในแต่ละขนาดขอ้ มูลในแต่ละฟี ลด์
รวมท้งั เง่ือนไขหรือกฎเกณฑท์ ่ีใชก้ าหนดลกั ษณะของขอ้ มูล

ข้นั ท่ี 3 กาหนดคีย์ ข้นั ตอนน้ีจะพจิ ารณาวา่ ฟี ดลใ์ ดบา้ งใน Table น้นั ท่ีมีคณุ สมบตั ิเหมาะสม
จะใชเ้ ป็นคีย์ ถา้ ไม่มีฟี ลดใ์ ดเลยที่เหมาะสม กจ็ ะตอ้ งกาหนดฟี ลดใ์ หม่เพ่ือใชเ้ ป้นคียโ์ ดยเฉพาะ

ข้นั ที่ 4 การทา Normalization ถา้ Table ท่ีไดจ้ ากข้นั ท่ี 2 ยงั มีความซ้าซ้อนกนั ของข้อมูล
หรือข้อมูลบางฟี ลด์ไม่เกี่ยวขอ้ งโดยตรงกับเน้ือหาใน Table น้ันจะตอ้ งนามาปรับปรุงแก้ให้มี
โครงสร้างหรือรูปแบบที่เหมาะสมก่อนนาไปประมวลผล ถา้ นาโครงสร้างไปใช้เลยโดยไม่ทา
Normalization ก่อนอาจเกิดปัญหาได้ เช่นปัญหาสิ้นเปลืองเน้ือที่จดั เก็บขอ้ มูลที่ซ้าซ้อนกนั ปัญหา

24

ความผิดปกติ (Anomaly) ของขอ้ มูลเมือมีการแก้ไขเพิ่ม หรือลบเรคอร์ด รวมท้งั ปัญหาในการ
กาหนดความสัมพนั ธ์ในข้นั ที่ 5 จะทาไดย้ าก

ข้นั ท่ี 5 กาหนดความสัมพนั ธ์ นา Table ท้งั หมดท่ีได้หลงั จากทา Normalization มาสร้าง
ความสัมพนั ธ์โดยใช้คียก์ าหนดในช้ันที่ 3 หรือคีย์ที่เกิดข้ึนใหม่จากการทา Normalization เป็ น
ตวั เช่ือม ซ่ึงอาจเป็ นแบบ One - to - One , One -to - Many หรือ Many - to - Many ข้ึนกับลกั ษณะ
ของขอ้ มูลการกาหนดความสัมพนั ธ์ระหว่าง Table น้ีมีความสาคญั มาก ผูอ้ อกแบบจะตอ้ งมีการ
วเิ คราะหใ์ หไ้ ดว้ า่ ขอ้ มูลใน Table ตา่ งๆน้นั มีความสัมพนั ธ์กนั ในลกั ษณะใด

4.4 การจดั การฐานข้อมูลให้อย่ใู นรูปแบบบรรทัดฐาน
การจดั ระบบข้อมูลในรูปแบบบรรทดั ฐาน (Normalization) มีผูใ้ ห้ความหมายของการ

จดั ระบบขอ้ มลู ในรูปแบบบรรทดั ฐานไวห้ ลายความหมาย ดงั น้ี พธุ ษดี ศิริแสงตระกลู (2539:63) ให้
ความหมายว่า นอร์มลั ไลเซชน่ั คือ เป็นวิธีการที่ใช้ วิเคราะห์และจดั โครงสร้างของฐานขอ้ มูลใหม่
โดยพยายามลดความซ้าซ้อนของโครงสร้างฐานข้อมูล เพ่ือให้ได้โครงสร้างที่มีเสถียรภาพ ซ่ึง
วธิ ีการทาคอื จะปรับโครงสร้างของฐานขอ้ มลู ใหอ้ ยใู่ นรูปนอร์มลั ระดบั ต่างๆ ไดแ้ ก่ 1NF 2NF 3NF
BCNF 4NF และ 5NF กิตติ ภกั ดีวฒั นะกุล และจาลอง ครูอุตสาหะ (2544:133) ให้ความหมายว่า
Normalization คือ เป็ นวิธีการที่ใช้ในการตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาทางด้านความซ้าซ้อนของ
ขอ้ มูล โดยการดาเนินการใหข้ อ้ มลู ในแตล่ ะรีเลชนั่ อยใู่ นรูปท่ีเป็นหน่วยที่เลก็ ท่ีสุดที่ไม่สามารถแตก
ออกเป็นหน่วยย่อยๆ ไดอ้ ีก โดยยงั คงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งขอ้ มูลในรีเลชนั่ ต่างๆ ไวต้ ามหลกั การที่
กาหนดไวใ้ น Relational Modelวตั ถปุ ระสงคข์ องการจดั ระบบขอ้ มูลในรูปแบบบรรทดั ฐาน
วตั ถปุ ระสงคข์ องการทารีเลชน่ั ใหอ้ ยใู่ นรูปแบบบรรทดั ฐาน มีดงั น้ี

- เพื่อลดเน้ือที่ในการจดั เก็บขอ้ มูล การทาใหเ้ ป็นบรรทดั ฐานเป็นการลดความซ้าซ้อนของ
ขอ้ มูลในรีเลชน่ั ซ่ึงทาใหล้ ดเน้ือที่ ในการจดั เก็บขอ้ มลู ได้

- เพื่อลดปัญหาที่ขอ้ มูลไม่ถกู ตอ้ ง เน่ืองจากขอ้ มูลในรีเลชน่ั หน่ึงจะมีขอ้ มูลไม่ซ้ากนั เม่ือมี
การปรับปรุงขอ้ มูลก็จะปรับปรุง ทูเพิลน้ันๆ คร้ังเดียว ไม่ตอ้ งปรับปรุงหลายแห่ง โอกาสท่ีจะเกิด
ความผดิ พลาดในการปรับปรุงไม่ ครบถว้ นก็จะไม่เกิดข้ึน

- เป็นการลดปัญหาที่เกิดจากการเพิ่ม ปรับปรุงและลบขอ้ มูล ช่วยแกป้ ัญหาท่ีอาจจะเกิดข้ึน
จากการปรับปรุงขอ้ มลู ไม่ครบ หรือขอ้ มลู หายไปจาก ฐานขอ้ มูลหรือการเพิ่มขอ้ มูล

25

กระบวนการปรับบรรทัดฐาน (The Normalization Process) กระบวนการปรับบรรทัดฐาน เป็ น
กระบวนการที่ใชใ้ นการกระจายรีเลชน่ั ที่มีโครงสร้างซบั ซอ้ น ออกเป็นรีเลชน่ั ย่อยๆ ที่มีโครงสร้าง
ท่ีงา่ ย ซ่ึงจะช่วยทาใหไ้ ม่มีขอ้ มลู ที่ซ้าซอ้ น และอยใู่ นรูปแบบ บรรทดั ฐาน (Normal Form) ท่ีสามารถ
นาไปใชง้ าน และไม่ก่อใหเ้ กิดปัญหาใดๆ ได้ ประโยชนข์ องการปรับบรรทดั ฐาน

1) การปรับบรรทดั ฐานเป็นเครื่องมือท่ีช่วยในการออกแบบฐานขอ้ มลู เชิงสมั พนั ธใ์ หอ้ ยู่ ใน
รูปแบบท่ีเป็นบรรทดั ฐาน

2) ทาให้ทราบว่ารีเลช่นั ท่ีถูกออกแบบมาน้ัน อยู่ในรูปแบบบรรทัดฐานหรือไม่ และจะ
ก่อใหเ้ กิดปัญหาอะไรบา้ ง และมีวิธีแกไ้ ขปัญหาน้นั อยา่ งไร

4.5 การสร้างความสัมพนั ธ์ของรีเลชัน
Relation โครงสร้างของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ จะอยู่ในลักษณะของตาราง 2 มิติ

ประกอบดว้ ยทางดา้ นแถว และคอลมั น์ ซ่ึงจะเรียกวา่ รีเลชนั (Relation) โดยทวั่ ๆ ไป Relation หน่ึง
ๆ จะมีคุณสมบตั ิตา่ ง ๆ ดงั น้ี

1) ไม่มี Tuples คู่ใด ๆ เลยที่ซ้ากนั (No duplicate tuples)
2) ลาดบั ท่ีของ Tuples ไมม่ ีความสาคญั
3) ลาดบั ท่ีของ Attributes ไม่มีความสาคญั
4) ค่าของ Attribute จะเป็ นค่าเดี่ยว ๆ (Atomic) นนั่ คือ ค่าของขอ้ มูลท่ีปรากฏอยู่ในตาราง
จะเป็นค่า ๆ เดียว เป็นลิสตข์ องคา่ หลาย ๆ ค่าไมไ่ ด้ ซ่ึง Relation ท่ีมีคุณสมบตั ิขอ้ น้ีจะถกู เรียกวา่ เป็น
Relation ท่ีอยใู่ นรูปแบบ Normal form
5) ค่าของขอ้ มูลในแต่ละ Attribute จะบรรจุคา่ ของขอ้ มลู ประเภทเดียวกนั

ชนดิ ของ Relations
ในระบบจดั การฐานขอ้ มูลทว่ั ๆ ไป Relation อาจจาแนกออกไดเ้ ป็น 2 ประเภท ดงั น้ีคือ

1) Relation หลกั (Base Relation) เป็ น Relation ท่ีถูกกาหนดข้ึนเพื่อเก็บขอ้ มูลและเพ่ือนา
ขอ้ มลู ไปใชเ้ ม่ือมีการสร้าง Relation โดยใช้ Data Definition Language เช่น ใน SQL คาสง่ั CREATE
TABLE เป็ นการสร้าง Relation หลกั หลงั จากน้ันก็จะทาการเก็บขอ้ มูลเพ่ือการเรียกใช้ขอ้ มูลใน
ภายหลงั Relation หลกั จะเป็นตารางท่ีจดั เก็บขอ้ มลู จริงไว้

26

2) วิว (View) หรืออาจเรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ Relation สมมุติ (Virtual Relation) เป็น Relation
ท่ีถูกสร้างข้ึนตามความตอ้ งการใชข้ อ้ มูลของผูใ้ ช้แต่ละคน เน่ืองจาก ผูใ้ ชแ้ ต่ละคนอาจตอ้ งการใช้
ขอ้ มูลในลกั ษณะที่แตกต่างกนั จึงทาการกาหนดวิวของตวั เองข้ึนมาจาก Relation หลกั เพื่อความ
สะดวกในการใชข้ อ้ มูล และช่วยใหก้ ารรักษาความปลอดภยั ของฐานขอ้ มูลทาไดง้ ่ายข้นึ Relation ท่ี
ถูกสมมติข้ึนมาน้ีจะไม่มีการเก็บขอ้ มูลจริง ๆ ในระบบฐานขอ้ มูล ตารางขอ้ มูลท้งั หมด จะเรียกวา่
Relation แต่โดยส่วนใหญ่นิยมเรียกว่า Table หรือ ตาราง เน่ืองจากโครงสร้างการจดั เก็บเป็ นแบบ
ตาราง ส่วนขอ้ มูลในแต่ละแถว จะเรียกวา่ ทเู พิล (Tuple) ส่วนขอ้ มลู ในแต่ละคอลมั น์ จะเรียกวา่ แอ
ตทริบิวส์ (Attribute) ดงั ตวั อยา่ งมี 4 แอตทริบิวส์ คอื SID, Sname, GPA, Major เขยี นเป็นสมการได้
ดงั น้ี Student(SID,Sname,GPA,Major) Domainโดเมน (Domain) คือการกาหนดขอบเขตและชนิด
ของขอ้ มูลเพ่ือป้องกนั ไม่ใหข้ อ้ มูลที่ผใู้ ชจ้ ดั เก็บ มีความผิดพลาดไปจากความเป็ นจริงที่ควรจะเป็ น
เป็นการกาหนดโดเมนใหก้ บั แอตทริบิวส์ขอ้ มูล GPA ซ่ึงเป็นค่าเกรดเฉลี่ย ของนกั ศึกษา ซ่ึงค่าเกรด
เฉลี่ยจะตอ้ งมีค่าอยู่ระหว่าง 0 - 4 ดงั น้ันจึงตอ้ งกาหนดโดเมนให้กบั แอตทริบิวส์ GPA เพ่ือไม่ให้
ขอ้ มลู ผดิ พลาดไปจากน้ี

คีย์ (Key) คือ แอตทริบิวส์ หรือ กลุ่มของแอตทริบิวส์ท่ีสามารถแยกความแตกต่างของ
ขอ้ มูล ในแต่ละทูเพิลได้ หรือแอตทริบิวส์ท่ีขอ้ มูลในแอตทริบิวส์น้นั ตอ้ งมีขอ้ มูลท่ีไม่ซ้ากนั ซ่ึงคีย์
มีอยหู่ ลายชนิดดว้ ยกนั ไดแ้ ก่

- คียอ์ ยา่ งง่าย (Simple key) หมายถึง key ท่ีประกอบดว้ ย attribute เดียว
- คียป์ ระกอบ (Combine key หรือ Composite key) หมายถึง key ที่ ประกอบดว้ ย
attribute มากกวา่ 1 attribute
- คยี ค์ ่แู ข่ง (Candidate Key) คอื คียท์ ่ีเลก็ ที่สุด ท่ีแยกความแตกตา่ งของขอ้ มลู แต่ละ
ทูเพิลได้ ยกตวั อย่างเช่น ในรีเลชนั Student มีขอ้ มูลท่ีสามารถเป็ นคียค์ ู่แข่ง คือแอตทริบิวส์ รหัส
นกั ศึกษา และการใชแ้ อตทริบิวส์ ช่ือรวมกบั นามสกุล ซ่ึงท้งั สองแบบสามารถระบุความแตกต่าง
ของขอ้ มลู แต่ละทเู พิลได้
-คยี ห์ ลกั (Primary Key) คือคยี ค์ แู่ ขง่ ซ่ึงไดเ้ ลือกมาเพื่อใชก้ าหนดให้เป็นค่าคยี ์ หลกั
ของ รีเลชนั ซ่ึงขอ้ มูลที่เป็นคียห์ ลกั น้นั จะตอ้ งมีขอ้ มูลที่ไมซ่ ้ากนั และมกั จะเลือกคยี ค์ ูแ่ ข่ง ท่ีมีขนาด
เล็กมาเป็ นคียห์ ลกั ตวั อย่างเช่น การเลือกแอตทริบิวส์รหัสนักศึกษา มาเป็ นค่าคียห์ ลกั เนื่องจาก มี
ขนาดเลก็ กวา่ แอตทริบิวส์ ชื่อ รวมกบั นามสกุล ซ่ึงจะทาใหก้ ารทางานเร็วกวา่ เน่ืองจากมีขนาดเลก็
กวา่

27

- คียร์ อง (Alternate Key หรือ Secondary key) คือคยี ค์ ่แู ขง่ อ่ืนๆ ท่ีไมไ่ ด้ ถูกเลือก
มาใชง้ าน ยกตวั อยา่ งเช่น แอตทริบิวส์ ช่ือรวมกบั นามสกุล ซ่ึงไม่ไดถ้ กู เลือกใหเ้ ป็นคียห์ ลกั ของรีเล
ชนั ก็จะกลายเป็น Alternate Key

- คียน์ อก (Foreign Key)เป็นคียท์ ี่ใชเ้ ช่ือมความสัมพนั ธ์ของรีเลชนั รีเลชนั Student
มีค่าคียห์ ลกั คือ SID ซ่ึงเป็นรหสั นกั ศึกษา โดยขอ้ มลู ของรหสั นกั ศึกษาจะตอ้ งมีขอ้ มูลที่ไมซ่ ้ากนั
และมีคยี น์ อกของตารางคือแอตทริบิวส์ Major ซ่ึงเช่ือมโยงความสัมพนั ธไ์ ปยงั แอตทริบิวส์ Major
ของรีเลชนั Major ซ่ึงขอ้ มูลทุกตวั ของแอตทริบิวส์ Major ในรีเลชนั Student จะตอ้ งมีอยใู่ นแอตทริ
บิวส์ Major ของรีเลชนั Major ส่วนตาราง Major มีคยี ห์ ลกั คอื แอตทริบิวส์ Major

- ซุปเปอร์คีย์ (Super key) หมายถึง attribute หรือ เซ็ทของ attribute ที่ สามารถบง่
บอกวา่ แต่ละแถว (Tuple) แตกตา่ งกนั ในทกุ ๆ ความสมั พนั ธ์ จะตอ้ งมีอยา่ งนอ้ ย หน่ึง super key
ในเซ็ทของ attributes

บทที่ 5

สรุปและข้อเสนอแนะ

ฐานขอ้ มูลเป็นแหล่งเกบ็ ขอ้ มูลจานวนมาก ๆ เม่ือนาขอ้ มูลที่เก็บอยภู่ ายในฐานขอ้ มูล นามา
ประมวลผลโดยการนบั รวบรวม จดั กลุ่ม จาแนก หาค่าเฉล่ียหรือคิดเป็นร้อยละ แลว้ แสดงผลลพั ธ์
ออกมาเป็นกราฟจะไดเ้ ป็นสารสนเทศ และนาสารสนเทศท่ีได้ ไปใชใ้ นการตดั สินใจ ของผบู้ ริหาร
องคก์ รจะทาให้ผบู้ ริหารองคก์ รติดสินใจไดถ้ ูกตอ้ งการบริการลูกคา้ มีความสะดวก รวดเร็ว ลูกคา้ มี
ความพึงพอใจองคก์ รมีการพฒั นากา้ วหนา้ ต่อไปได้

ระบบฐานขอ้ มูลที่จดั เก็บในเคร่ืองคอมพิวเตอร์จะตอ้ งใช้ซอฟต์แวร์ในการจดั การ เรียกว่า ระบบ
จดั การฐานขอ้ มูล ซ่ึงเมื่อเอาระบบจดั การฐานขอ้ มูลมาใช้จะทาให้มีประสิทธิภาพการสอบถาม
ขอ้ มูลไดค้ าตอบที่ถูกตอ้ ง ตรงกบั ความตอ้ งการการเขา้ ถึงขอ้ มูลเป็นไปตามสิทธ์ิของผใู้ ชแ้ ต่ละคน
ทาใหข้ อ้ มูลปลอดภยั มากยงิ่ ข้ึน นอกจากน้ีขอ้ มูลท่ีจดั เก็บจะลดความซ้าซ้อนลงไดแ้ ละขอ้ มูลจะไม่
ขดั แยง้ กนั มีความเป็ นบูรณภาพการเก็บขอ้ มูลในหน่วยความจาของคอมพิวเตอร์น้นั มีการเก็บเป็น
อกั ขระตามรหสั ของแต่ละอกั ขระอกั ขระตวั หน่ึงจะตอ้ งใช้ 8 บิตในมาตรฐานรหสั ASCII แต่ถา้ เป็น
มาตรฐานรหัส Unicode จะใช้16 บิต ซ่ึงตวั อกั ขระหน่ึงตัวเรียกว่า 1 ไบต์ โดยปกติแลว้ การเก็บ
ขอ้ มูลจะเก็บเป็ นกลุ่มคาท่ีเก็บในลกั ษณะของตาราง ตารางประกอบด้วยแถวและสดมภ์ ถา้ มอง
ระดบั สดมภ์ เรียกวา่ ขอ้ มลู ระดบั สดมภว์ า่ เขตขอ้ มูลในแต่ละแถวจะมีมากกวา่ หน่ึงสดมภถ์ า้ มองใน
ระดับแถวจะเรียกการเก็บขอ้ มูลแบบน้ีว่า ระเบียน จะเห็นว่าในหน่ึงตารางจะมีหลาย ๆ แถว ใน
ระบบฐานขอ้ มลู เรียกตารางวา่ แฟ้มขอ้ มลู แต่มมุ มองจินตภาพเรียกวา่ เอ็นทิตีปกติจะมีตารางมากกว่า
หน่ึงตาราง เพราะฉะน้นั ตารางหลาย ๆตารางหรือหลาย ๆ แฟ้มขอ้ มูลเรียกวา่ ฐานขอ้ มลู

ปัญหาในการจดั การขอ้ มูลในอดีต มีหลายปัญหา เช่น ความยุ่งยากในการประมวลผลแฟ้มขอ้ มูล
เนื่องจากตอ้ งใชค้ าส่ังของภาษาระดบั สูงจดั การขอ้ มูลโดยตรงขอ้ มูลไม่มีความเป็นอิสระ ถา้ มีการ
เปล่ียนแปลงโครงสร้างขอ้ มูล ตอ้ งแกไ้ ขชุดคาสั่งดว้ ยแฟ้มขอ้ มูลมีความซ้าซ้อนมากแฟ้มขอ้ มูลมี
ความถูกตอ้ งของขอ้ มูลน้อยแฟ้มขอ้ มูลมีความปลอดภยั น้อย และแฟ้มขอ้ มูลขาดการควบคุมจาก
ส่วนกลาง เป็นตน้

29

ฐานขอ้ มูล แบ่งความสัมพนั ธ์ออกเป็น 3 ชนิด ไดแ้ ก่ ความสัมพนั ธ์แบบหน่ึงต่อหน่ึง ความสัมพนั ธ์
แบบหน่ึงต่อกลุ่ม และความสัมพนั ธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม นอกจากน้ีฐานขอ้ มูลไดม้ ีการจาลองขอ้ มูล
เพื่อให้เขา้ ใจไดง้ ่าย ๆ มีการจาลองออกเป็ น 3 แบบดว้ ยกนั ได้แก่ การจาลองแบบลาดับช้ัน การ
จาลองแบบเครือขา่ ย และการจาลองแบบเชิงสมั พนั ธ์

ประเภทของฐานขอ้ มูล แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ไดแ้ ก่ แบ่งตามจานวนผใู้ ช้ มีแบบใชเ้ พียงคนเดียว
และผูใ้ ช้หลายคน กบั แบ่งตามขอบเขตของงาน และแบ่งตามสถานที่ต้งั และแบ่งตามการใช้งาน
เป็นตน้ หนา้ ที่ของระบบจดั การฐานขอ้ มูล มี 7 อยา่ งดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ หนา้ ที่ในการจดั การพจนานุกรม
ขอ้ มูลจดั การแหล่งจดั เก็บขอ้ มูลการเปล่ียนรูปแบบ และการแสดงผลขอ้ มูล จดั การดา้ นปลอดภยั
ของขอ้ มูลควบคุมการเขา้ ถึงขอ้ มูลของผูใ้ ช้แต่ละคน แต่ละกลุ่ม สารองขอ้ มูลและการกูค้ ืนขอ้ มูล
จดั การดา้ นบูรณภาพของขอ้ มูลมีภาษาสาหรับจดั การขอ้ มูลและจดั สร้างส่วนประสานกบั ผใู้ ช้และ
เป็นส่วนประสานกบั ผใู้ ชใ้ นดา้ นการส่ือสารฐานขอ้ มลู

ภาษาท่ีใชใ้ นการจดั การฐานขอ้ มูล ใชภ้ าษาเอสคิวแอล แบง่ ออกเป็น 3 ประเภทดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ ภาษา
สาหรับการนิยามขอ้ มลู ภาษาสาหรับการจดั การขอ้ มูล และภาษาในการควบคุม และในระบบ
ฐานขอ้ มูลจะตอ้ งส่ิงท่ีตอ้ งเกี่ยวขอ้ งดว้ ยมีท้งั หมด 5 อยา่ งดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์
บคุ ลากร กระบวนการ และขอ้ มลู ที่กลา่ วมาท้งั หมดน้ีมีความสาคญั ท้งั น้นั ขาดส่ิงหน่ึงส่ิงใดไม่ได้
เลย จะทาใหร้ ะบบฐานขอ้ มูลไม่สามารถทางานไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์

บรรณานุกรม

“โปรแกรมจดั การฐานข้อมูล” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://sites.google.com/site/pond1619/
home/tawxyang-porkaerm-cadkar-than- khxmul?tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftemplates
%2Fprint%2F&showPrintDialog=1.[7-1-2020]

“คาศัพท์พืน้ ฐานเกย่ี วกบั ระบบฐานข้อมูล” [ออนไลน]์ .เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://access7983.wordpress
.com

“ประโยชน์ของการประมวลผลแบบฐานข้อมูล” [ออนไลน]์ .เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://access7983
.wordpress.com/

“รูปแบบของระบบฐานข้อมูล” [ออนไลน์].เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.thaigoodview.com/library/
teachershow/lopburi/chayamon_b/com/sec01p03.html

“โปรแกรมฐานข้อมูลทนี่ ิยม” [ออนไลน]์ .เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://cst.tsu.ac.th/courseonline/course/
computer_it/database/software.html

“ระดับของข้อมูล, เค้าร่างของฐานข้อมูล, ระบบจดั การฐานข้อมูล, ผู้บริการฐานข้อมูล” [ออนไลน์].
เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/a/bicec.ac.th/e-learning/hnwy-thi-2-kar-cadkar-
rabb-than-khxmul-hnathi-3

“ข้นั ตอนการใช้โปรแกรม Microsoft Access ,การสร้างฐานข้อมูลใหม่ Microsoft Access”
[ออนไลน]์ .เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/a/bicec.ac.th/e-learning/wi-ra-ya-
hnwy3

“การออกแบบตาราง Microsoft Access” [ออนไลน]์ .เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/a/
bicec.ac.th/e-learning/hnwy-thi-3-khwam-ru-beuxng-tn-porkaerm-microsoft-access-
hnathi-2

“การออกแบบโครงสร้างข้อมูล Microsoft Access” [ออนไลน]์ .เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google
.com/a/bicec.ac.th/e-learning/hnwy-thi-3-khwam-ru-beuxng-tn-porkaerm-microsoft-
access-hnathi-4

“การป้อมข้อมูลบน Tadley Microsoft” [ออนไลน์].เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/
porkaermrabbthankhxmul/2-1-khwam-hmay-khxng-kar-wikheraah-laea-xxkbaeb-than-
khxmul https://sites.google.com/a/bicec.ac.th/e-learning/hnwy-thi-3-khwam-ru-beuxng-
tn-porkaerm-microsoft-access-hnathi-5

“ความหมายของการวิเคราะห์และออกแบบฐานข้อมูล” [ออนไลน์].เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.
google.com/site/porkaermrabbthankhxmul/2-1-khwam-hmay-khxng-kar-wikheraah-laea-
xxkbaeb-than-khxmul

“ความหมายของฐานข้อมูลเชิงสัมพนั ธ์” [ออนไลน]์ .เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/
ewqfdsfeqphanthdsaeq2w/than-khxmul-cheing-samphanth

“ข้ันตอนในการออกแบบฐานข้อมูล” [ออนไลน]์ .เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/
karcadkarthankhxmul/khan-txn-kar-xxkbaeb-than-khxmul

“การจดั การฐานข้อมูลให้อย่ใู นรูปแบบบรรทัดฐาน” [ออนไลน]์ .เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.
com/site/sompiya9844/baeb-thdsxb-hlang-reiyn-hnwy-thi-6-kar-cad-rabb-khxmul-ni-rup-
baeb-brrthadthan

“การสร้างความสัมพนั ธ์ของรีเลชัน” [ออนไลน]์ .เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://sites.google.com/site/
rabbthankhxmul778/baeb-ca-lxng-cheing-sam-phathth/xngkh-prakxb-khxng-rabb-
cadkar-than-khxmul-cheing-samphanth


Click to View FlipBook Version