๔๕
8. ได้ยนิ เสียงฆ้องย่ำประจำวงั ลอยลมล่องดงั ถึงเคหา
คะเนนบั ย่ำยามได้สามครา ดเู วลาปลอดห่วงทักทนิ
ตอบ ....การเลือกใช้คำโดยคำนงึ ถึงเสียงการเล่นเสยี งสัมผัสพยัญชนะ ได้แก่
ลอย-ลม-ล่อง,(คะ)เน-นับ,ยำ่ -ยาม, ทกั -ทิน.....
9. พลางเรียกหาข้าไทอยวู่ ้าวุ่น ออี ุ่นอีอม่ิ อีฉมิ อีสอน
อมี ีอีมาอีสาคร น่ิงนอนไยหวามาหากู
ตอบ ...การซ้ำคำ กวมี ีการซ้ำคำในคำวา่ “อี” ซึง่ เป็นคำสรรพนามบุรุษที่ 2 ท่เี รียกชื่อบ่าวไพร่...
10. คราน้ันวนั ทองไดร้ ับส่ัง ละลา้ ละลังประนมก้มเกศี
หวั สยองพองพรน่ั ทนั ที ทลู คดพี ระองคผ์ ทู้ รงธรรม์
ขอเดชะละอองธลุ บี าท องคห์ รริ กั ษ์ราชรงั สรรค์
เม่ือกระหม่อมฉันนั้นมาแต่อารัญ ครัง้ น้ันโปรดประทานขุนแผนไป
ตอบ .....กวเี ลือกใช้คำเหมาะกบั ฐานะของบุคคล โดยนางวันทองใชค้ ำราชาศพั ทก์ ับพระพันวษา
คอื คำวา่ ทูล ขอเดชะละอองธุลบี าท กระหม่อมฉัน โปรดประทาน และใชค้ ำท่สี ่ือถึงพระองค์
ในคำว่าพระองค.์ ....
๔๖
เฉลยแบบฝกึ ทกั ษะท่ี 3
คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนทำเครื่องหมายถูก (✓) หนา้ ข้อท่ีเห็นวา่ ถูกตอ้ ง และทำเครื่องหมายกากบาท ()
หนา้ ข้อความท่ีไม่ถูกต้อง (10 คะแนน)
...... ✓........ ๑. การจัดวางถอ้ ยคำท่เี ลือกสรรแล้วให้มาเรียงร้อยกนั อยา่ งตอ่ เนือ่ งตามจังหวะ
ใหเ้ กิดความไพเราะ เหมาะสม ตามโครงสร้างภาษา คือการเรยี บเรยี งถ้อยคำ
........ ✓........ 2. การเรียบเรียงถอ้ ยคำในกรณีคำประพนั ธน์ ้ันเปน็ ร้อยกรองต้องคำนงึ ถึง
ฉันทลักษณ์
......... ........ 3. การเรียงขอ้ ความทีบ่ รรจสุ าระสำคัญไวข้ า้ งทา้ ยสดุ จะวางเงื่อนไขอยู่ต้น
ผลสรุปอยทู่ ้ายขอ้ ความไมไ่ ด้
................. 4. ในการเรยี บเรียงถอ้ ยคำไม่สามารถเรียงคำ วลี หรอื ประโยคท่มี ีความสำคัญ
เทา่ ๆ กัน เคยี งขนานกันไปได้
.........✓........ 5. การเรียงคำ วลี หรอื ประโยค ที่มีความสำคัญเทา่ ๆ กนั เคียงขนานกันไป
จะมเี น้อื ความคล้อยกนั ตามต่อเนือ่ งหรือเลือกอยา่ งใดอย่างหนึ่งเป็นกลวิธี
ในการเรียบเรียงถ้อยคำ
................. 6. กลวิธใี นการเรยี งประโยคมักวางเนอื้ หาทส่ี ำคญั ไวต้ อนตน้ แล้วคอ่ ยๆ คลีค่ ลาย
ใหเ้ น้อื หาทีส่ ำคัญนอ้ ยลงอยูบ่ นสดุ เหมอื นเดนิ ขึ้นบันได
................ 7. การเรยี บเรียงถอ้ ยคำไมน่ ยิ มเรยี งประโยคใหเ้ น้ือหาเขม้ ขน้ ขึ้นไปตามลำดับ
........ ✓...... 8. การเรียบเรียงถอ้ ยคำโดยการเรยี งประโยคให้มเี นื้อความเข้มขน้ ไปตามลำดับ
แลว้ คลายความเข้มข้นในชว่ งสดุ ท้ายอย่างฉับพลนั เรียกวา่ การจบแบบหักมุม
................ 9. คำถามเชิงวาทศลิ ปเ์ ปน็ คำถามทตี่ ้องการคำตอบ
.........✓....... 10. การเรยี บเรยี งถอ้ ยคำโดยใชค้ ำถามเชิงวาทศิลปเ์ ป็นแนวคดิ อยา่ งใดอยา่ ง
หนึ่งท่ีตอ้ งการนำเสนอ
๔๗
เฉลยแบบฝกึ ทักษะท่ี 4
คำช้ีแจง นักเรียนพจิ ารณาคำประพันธ์ตอ่ ไปนีแ้ ล้ววิเคราะหแ์ ละประเมินคา่ ว่ามีลักษณะของ
การเรียบเรียงถอ้ ยคำอย่างไร (10 คะแนน)
1. ว่าต้งั แต่บดั นสี้ ืบตอ่ ไป หน้าทข่ี องผู้ใดให้รกั ษา
ถ้าประมาทราชการไม่นำพา ปล่อยให้ใครเขา้ มาในลอ้ มวง
ระวางโทษเบด็ เสรจ็ เจด็ สถาน ถงึ ประหารชีวิตเป็นผยุ ผง
ตามกฤษฎีการักษาพระองค์ แล้วลงจากพระทนี่ ั่งเข้าวงั ใน
ตอบ ...คำประพันธ์ขา้ งต้นมกี ารเรยี งประโยคใหเ้ น้ือหาเข้มขน้ ขนึ้ ไปตามลำดบั ดุจขึน้ บนั ไดจนถงึ ขัน้
สุดทา้ ยซงึ่ สำคัญที่สุด เมื่อพิจารณาในบทน้ีเปน็ การกล่าวถึงทหารรกั ษาพระองคท์ ่ีมีความผดิ พลาด
ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่โดยปลอ่ ยใหใ้ ครเข้ามาถงึ พระองค์จะมโี ทษตามกฤษฎกี ารักษาพระองคซ์ ึ่งเนอ้ื หา
ในบทประพนั ธม์ ีความเขม้ ขน้ ข้ึนตามลำดับ...
2. เขา้ ตรงบโทนอ้นตน้ กัญญา เพือ่ นโขกลงดว้ ยกะลาว่าผเี ส้อื
มหาดเลก็ อยู่งานพัดพลดั ตกเรอื ร้องว่าเสอื ตวั ใหญ่ว่ายน้ำมา
ขุนช้างดึงด้ือมือยึดเรอื มใิ ช่เสอื กระหม่อมฉันลา้ นเกศา
สู้ตายขอถวายซึ่งฎกี า แค้นเหลือปญั ญาจะทานทน
ตอบ ...คำประพันธข์ า้ งต้นมีการเรียงประโยคใหเ้ นื้อหาเข้มข้นขึ้นไปตามลำดับดจุ ขึน้ บนั ไดจนถงึ ขน้ั
สุดท้ายซึ่งสำคัญท่ีสุด เมื่อพจิ ารณาในบทน้ีเปน็ การกล่าวถงึ ขนุ ช้างทีล่ งในตนี ท่าแล้วยึดแคมเรือทำให้
ทหารตกใจแลว้ แจง้ เหตุผลถงึ สามารถทล่ี งมาในน้ำว่าจะขอถวายฎีกาซึง่ เน้ือหาในบทประพนั ธ์มี
ความเข้มข้นข้ึนตามลำดบั ...
3. ถ้ารกั ใหมก่ ็ไปอยกู่ บั อา้ ยช้าง ถา้ รักเก่าเขา้ ขา้ งอา้ ยขนุ แผน
อย่าเวยี นวนไปให้คนมนั หมิ่นแคลน ถา้ แมน้ มึงรกั ไหนใหว้ ่ามา
ตอบ ...คำประพนั ธข์ ้างตน้ มีการเรยี งคำ วลี หรือประโยค ทีม่ ีความสำคญั เท่าๆ กนั เคยี งขนานกนั ไป
จะมเี น้ือความเลือกอย่างใดอยา่ งหน่งึ โดยเป็นฉากท่ีกลา่ วถึงพระพันวษาใหน้ างวันทองเลือกว่าจะอยู่
กับใครหากรกั เก่าให้อยู่กบั ขนุ แผน หากรกั ใหม่ใหอ้ ยู่กบั ขุนช้าง เมือ่ พิจารณาเนื้อความของคำประพันธ์
แตล่ ะวรรคจะมีความหมายที่สือ่ ความได้ชดั เท่าๆ กัน และในวรรคสดุ ทา้ ยให้เลือกวา่ จะอยู่กบั ใคร...
๔๘
4. พ่ผี ิดพก่ี ็มาลุแก่โทษ จะคุมโกรธคุมแค้นไปถึงไหน
ความรกั พย่ี ังรกั ระงมใจ อย่าตัดไมตรีตรึงให้ตรอมตาย
ตอบ ...คำประพนั ธ์ข้างตน้ เป็นการเรยี งถ้อยคำให้เป็นประโยคคำถามเชงิ วาทศิลป์ เปน็ คำถามท่ีไม่
ต้องการคำตอบ แตเ่ ป็นแนวคิดอย่างใดอยา่ งหน่ึงทตี่ ้องการนำเสนอ กล่าวถงึ ฉากท่ีขุนแผนเขา้ ไปหานาง
วนั ทองทเี่ รือนของจมน่ื ไวยแล้วพดู คุยกนั จะเหน็ ได้ในวรรคที่สอง “จะคมุ โกรธคุมแคน้ ไปถงึ ไหน”
ซงึ่ ไม่ไดต้ ้องการคำตอบ...
5. อวี นั ทองตวั มนั เหมอื นรากแกว้ ถา้ ตัดโคนเสียแล้วก็ใบเหยี่ ว
ใครจะควรสสู่ มเป็นกลมเกลียว ใหเ้ ดด็ เดย่ี วรู้กันแตว่ นั น้ี
ตอบ ...คำประพันธข์ ้างตน้ เป็นการเรยี งถ้อยคำให้เป็นประโยคคำถามเชงิ วาทศลิ ป์ เป็นคำถามที่ไม่
ตอ้ งการคำตอบ แตเ่ ป็นแนวคิดอยา่ งใดอย่างหนึ่งทตี่ ้องการนำเสนอ กล่าวถึงพระพนั วษาท่ีเปรยี บนาง
วนั ทองทเ่ี หมือนรากแก้ว หากขจัดปัญหาตน้ เรื่องได้ใครจะคู่ควร เห็นไดจ้ ากวรรคท่ีสาม “ใครจะควร
สู่สมเป็นกลมเกลียว” ซ่งึ ไม่ได้ตอ้ งการคำตอบ...
๔๙
เฉลยแบบฝกึ ทักษะท่ี 5
คำชีแ้ จง นักเรยี นพจิ ารณาบทกลอนตอ่ ไปน้ีว่าเป็นภาพพจน์ใด (10 คะแนน)
1. เป็นการเปรยี บเหมือน คลา้ ยดุจเพยี งราว
ยกคำอย่างครา่ ว โวหารอะไร
ตอบ ................อปุ มา..............................................................................................................
2. โอเวอ่ ร์แอคต้ิง เกนิ จรงิ ไปมาก
ง่ายงา่ ยไมย่ าก รีบทายเรว็ ไว
ตอบ .................อติพจน์...........................................................................................................
3. การใช้ถอ้ ยคำ ความหมายขดั แยง้
เช่น มืดเหน็ แสง รบี แถลงมาไวไว
ตอบ .................ปฏพิ ากย.์ ..........................................................................................................
4. การใช้คำท่ี มกี ารกร่อนเสยี ง
ตอบอย่างพร้อมเพรยี ง ว่าคืออะไร
ตอบ .................อพั ภาส.......................................................................................................
5. เป็นการเปรียบเปน็ มคี ำ “คือ” “เท่า”
“เป็น”ด้วยนะเจ้า ไหนลองตอบมา
ตอบ .................อุปลักษณ.์ ...................................................................................................
6. การเอ่ยสงิ่ หน่ึง ให้ซง่ึ ความหมาย
เป็นอยา่ งอน่ื ไป เรยี กอะไรทายมา
ตอบ ..................นามนัย.................................................................................................
๕๐
7. การใช้คำถาม ไม่ต้องการคำตอบ
แตค่ รูน้ันชอบ ใหห้ นูตอบมา
ตอบ ........ปฏปิ ุจฉา............................................................................................................
8. เลียนเสยี งธรรมชาติ เปน็ ท่วงทำนอง
เสยี งฟ้าฝน สัตว์ร้อง ข้าวของโครมคราม
ตอบ ........สัทพจน์...............................................................................................................
9. เปน็ การกลา่ วถงึ ส่ิงซงึ่ ไม่มีชีวติ
แสดงพฤตกิ รรมมสี ิทธิ์ ให้มีชีวติ เหมอื นคน
ตอบ ........บุคคลวัต หรือบคุ ลาธิษฐาน.............................................................................
10. เอาสงิ่ ทีเ่ ป็นรูปธรรม แทนคำคำน้ี
เชน่ “หงส์” คือคุณคา่ มี สว่ น “กา” คำนี้ต่ำต้อยจัง
ตอบ ........สัญลักษณ์..........................................................................................................
๕๑
เฉลยแบบฝึกทกั ษะที่ 6
คำช้แี จง นักเรยี นพิจารณาคำประพนั ธ์ในแต่ละข้อตอ่ ไปนว้ี า่ มคี วามงามทางวรรณศิลป์โดดเดน่ ในดา้ น
โวหารภาพพจน์ใด จากนัน้ วเิ คราะห์และประเมนิ ค่าบทประพันธ์ (20 คะแนน)
1. กลับมาหมายว่าจะไปตาม พอเจา้ ไวยเป็นความก็ค้างสนิ้
หวั อกใครได้แคน้ ในแผน่ ดิน ไมเ่ ดือดด้ินเท่าพี่กับวันทอง
ตอบ ....โวหารภาพพจนป์ ฏิปุจฉา คอื คำถามทไ่ี มต่ ้องการคำตอบเป็นตอนที่ขุนแผนพดู กับนางวันทองวา่
ตง้ั ใจอย่วู ่าจะไปรบั คืนมาจากขนุ ช้างแต่มีเร่ืองของจม่นื ไวยเสยี ก่อน ข้อความในวรรคท่สี าม “หัวอกใคร
ไดแ้ ค้นในแผน่ ดิน” เปน็ ลักษณะขอคำถามท่ีไมต่ อ้ งการคำตอบ นอกจากนี้บทนสี้ ามารถเปน็ อติพจน์ คือ
โวหารทมี่ กี ารกลา่ วเกนิ จริงไดใ้ นวรรค “หัวอกใครไดแ้ ค้นในแผ่นดนิ ไมเ่ ดือดด้ินเท่าพ่กี บั วนั ทอง”....
2. อะไรแมแ่ ซร่ อ้ งท้ังห้องนอน ลกู รอ้ นรำคาญใจจงึ มาหา
จะร้องไยใช่โจรผ้รู ้ายมา สนทนาดว้ ยลูกอย่าตกใจ
ตอบ ......โวหารภาพพจนป์ ฏิปุจฉา เป็นคำถามท่ีไม่ตอ้ งการคำตอบในวรรคท่สี าม “จะร้องไยใช่โจร
ผู้รา้ ยมา” เปน็ ตอนท่จี มน่ื ไวยเข้าไปรบั นางวันทองที่ห้องนอนบนเรอื นขุนชา้ งแล้วนางวันทองตกใจ
จม่ืนไวยถึงบอกว่าลูกเองไมใ่ ชโ่ จร......
3. วันทองฟงั ความใหค้ รา้ มครั่น บงั คมคลั ประนมกม้ เกศา
ขอเดชะพระองคท์ รงศกั ดา พระอาญาเปน็ พน้ ล้นเกลา้ ไป
ตอบ ....โวหารภาพพจน์นามนัย คอื การเรียกชื่อสิง่ หน่งึ โดยใชค้ ำอื่นแทน ไมเ่ รยี กตรง ๆ
เปน็ คำท่เี ข้าใจกันทว่ั ไป พิจารณาจากคำว่า “พระองคท์ รงศักดา” ซ่งึ เป็นคำที่สือ่ ถึง
พระพนั วษา.......
4. มาอยไู่ ยกับอ้ายหนิ ชาติ แสนอบุ าทวใ์ จจติ ริษยา
ดงั ทองคำทำเลยี่ มปากกะลา หนา้ ตาดำเหมอื นมินหมอ้ มอม
ตอบ ........โวหารภาพพจน์อุปมา โดยเป็นการเปรียบสิง่ หนง่ึ เหมือนสง่ิ หน่ึงเหน็ ได้จากคำวา่ “ดัง” ที่เปน็
การเปรยี บความไม่คู่ควรระหวา่ งขุนชา้ งกบั นางวันทองว่าเหมอื นทองคำเลีย่ มกะลา และคำว่า “เหมือน”
ในวรรคสดุ ทา้ ยวา่ ขนุ ช้างหนา้ ตาดำเหมือนมินหม้อ (เขม่ากน้ หม้อ)......
๕๒
5. วนั นั้นพอพระปนิ่ นรินทร์ราช เสด็จพระพาสบัวยังหากลบั ไม่
ขุนชา้ งมาถึงซ่งึ วงั ใน กค็ อยจ้องทีใ่ ต้ตำหนกั น้ำ
ตอบ .....โวหารภาพพจน์นามนยั คือการเรียกชื่อสงิ่ หนงึ่ โดยใชค้ ำอน่ื แทน ไม่เรยี กตรง ๆ
เป็นคำทีเ่ ขา้ ใจกนั ทว่ั ไป พจิ ารณาจากคำว่า “พระปิ่นนรินทรร์ าช” ซึ่งเปน็ คำทส่ี ื่อถึง
พระพันวษา......
6. ขอเดชะละอองธุลีบาท องคห์ ริรักษร์ าชรังสรรค์
เมอื่ กระหมอ่ มฉนั มาแต่อารญั ครงั้ นน้ั โปรดประทานขนุ แผนไป
ตอบ .....โวหารภาพพจนน์ ามนยั คอื การเรยี กชือ่ สิง่ หนึ่งโดยใช้คำอ่นื แทน ไม่เรียกตรง ๆ
เปน็ คำที่เข้าใจกนั ทวั่ ไป พจิ ารณาจากคำวา่ “องคห์ ริรักษ์ราชรังสรรค์” ซงึ่ เป็นคำทส่ี อ่ื ถึง
พระพนั วษา......
7. เจา้ พลายงามตามรบั เอากลบั มา ทนี ้ีหนา้ จะดำเป็นนำ้ หมกึ
กำเรบิ ใจด้วยเจา้ ไวยกำลังฮกึ จะพาแม่ตกลึกให้จำตาย
ตอบ .....โวหารภาพพจน์อุปลักษณ์ คือการเปรียบเทียบส่ิงหนง่ึ เป็นสง่ิ หนึ่ง โดยใช้คำเปรียบว่า เป็น คือ
หรอื อาจไม่มีคำเปรยี บแต่ใจความกย็ งั เปรยี บสง่ิ หนึ่งเป็นสง่ิ หน่ึงซึ่งในบทนี้เป็นอุปลกั ษณ์เหน็ ได้จาก
วรรคที่สอง “ทนี ี้หนา้ จะดำเปน็ น้ำหมึก” โดยมคี ำวา่ “เป็น” ซึง่ เนื้อความของบทนี้
เป็นการเปรยี บความทกุ ขท์ ่ีจะเกิดตามมาเนือ่ งจากการกระทำผดิ เหมือนกันหมึกซ่งึ เป็นสีดำ.....
8. จะกลา่ วถึงขนุ แผนแสนสนทิ เรืองฤทธิ์ลอื จบพิภพไหว
อย่บู า้ นสขุ เกษมเปรมใจ สมสนิทพิสมยั ด้วยสองนาง
ตอบ ......โวหารอตพิ จน์ หรอื อธพิ จน์ หรืออวพจน์ คอื การกล่าวทผี่ ิดไปจากความจริง
ในวรรคทีส่ องท่ีกล่าวถึงขุนแผนวา่ “เรืองฤทธิล์ อื จบพิภพไหว” .....
๕๓
9. ครานัน้ พระองคผ์ ู้ทรงเดช ป่นิ ปักนคเรศเรอื งศรี
เห็นสามราเข้ามาอัญชลี พระปรานเี หมือนลูกในอุทร
ตอบ ......โวหารภาพพจน์นามนยั คือการเรยี กช่ือสง่ิ หน่งึ โดยใช้คำอื่นแทน ไมเ่ รียกตรง ๆ
เปน็ คำทเ่ี ขา้ ใจกันทว่ั ไป พิจารณาจากคำว่า “ปน่ิ ปักนคเรศ” ซึง่ เป็นคำทสี่ ่ือถึงพระพันวษา.....
10. เหมือนแมลงวันว่อนเคลา้ ทเ่ี น่าชั่ว มาเกลอื กกลั้วปทมุ มาลย์ทห่ี วานหอม
ดอกมะเด่ือฤาจะเจือดอกพะยอม ว่านักแม่จะตรอมระกำใจ
ตอบ ....โวหารภาพพจน์อปุ มา โดยเป็นการเปรยี บสงิ่ หน่งึ เหมือนสิง่ หน่งึ เหน็ ได้จากคำวา่ “เหมือน”
ในวรรคแรกซึ่งเปน็ ตอนที่กลา่ วถงึ ความไม่คู่ควรระหว่างนางวนั ทองกบั ขนุ ชา้ ง โดยเปรียบขนุ ช้างว่า
เหมือน แมลงวัน และ ในวรรคทส่ี าม “ดอกมะเดื่อฤาจะเจือดอกพะยอม” เปรยี บขุนช้างเป็นดอก
มะเด่ือนางวนั ทอง เปน็ ดอกพะยอมท่ีสวยงาม....
๕๔
เฉลยแบบฝกึ ทกั ษะที่ 7
คำชี้แจง นักเรยี นวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คณุ ค่าด้านวรรณศิลป์ในแง่ของรสวรรณคดจี ากคำประพันธ์
ต่อไปน้ใี ห้ถูกต้อง (๑๐ คะแนน)
๑. ครานั้นพระองคผ์ ทู้ รงภพ ฟงั จบแคน้ ค่งั ดงั เพลงิ ไหม้
เหมอื นดนิ ประสิวปลิดติดกับเปลวไฟ ดดู เู๋ ปน็ ไดเ้ จยี ววนั ทอง
ตอบ .....พโิ รธวาทงั คอื กระบวนความตัดพ้อต่อวา่ หึงหวง โกรธ วา่ กลา่ วประชดประชัน
กวถี า่ ยทอดอารมณต์ า่ ง ๆ ของตวั ละครได้อย่างกินใจ โดยเป็นตอนที่พระพันวษาโกรธนางวันทอง
ไมต่ ดั สินเลือกใคร.....
๒. โอ้เจา้ แกว้ แววตาของพี่เอ๋ย เจ้าหลบั ใหลกระไรเลยเปน็ หนกั หนา
ดงั นม่ิ น้องหมองใจไม่นำพา ฤๅขดั เคืองคดิ ว่าพี่ทอดทิ้ง
ความรกั หนักหน่วงทรวงสวาท พ่ไี ม่คลาดคลายรักแต่สักสิ่ง
เผอิญเป็นวิปริตพผ่ี ิดจรงิ จะนอนน่งิ ถือโทษโกรธอยไู่ ย
ตอบ ....นารีปราโมทย์ เปน็ บทเก้ียว บทโอโ้ ลม แสดงความรักใคร่ ดังตอนท่ีขนุ แผน
เข้าหานางวนั ทองแล้วนางวันทองคิดถึงความหลังเกิดน้อยใจจึงแกล้งหลบั ขนุ แผนจึงโอโ้ ลม
แสดงความรกั ใคร่และยอมรับผิดเพือ่ ใหน้ างวนั ทองยอมพูดจาดว้ ย.....
๓. ท่ีจรงิ ใจเหน็ ไปอย่เู รอื นอน่ื คงคดิ คืนท่ีหม่อมเป็นแม่นม่ัน
ดว้ ยรักลูกรกั ผวั ยังพวั พัน คราวน้ันกไ็ ปอยเู่ พราะจำใจ
แคน้ คิดดว้ ยมติ รไม่รักเลย ยามมีท่เี ชยเฉยเสยี ได้
เสียแรงร่วมทุกข์ยากกันกลางไพร กินผลไม้ต่างข้าวทุกเพรางาย
พอไดด้ มี สี ขุ ลืมทุกข์ยาก ก็เพราะหากหมอ่ มมซี ึง่ ท่ีหมาย
ว่านกั ก็เครื่องเคืองระคาย เอน็ ดนู อ้ งอยา่ ใหอ้ ายเขาอกี เลย
ตอบ .....พโิ รธวาทงั คือ กระบวนความตดั พ้อต่อว่า หงึ หวง โกรธ ว่ากล่าวประชดประชนั
กวีถา่ ยทอดอารมณต์ ่าง ๆ ของตวั ละครได้อย่างกินใจ ดงั เชน่ เหตุการณต์ อนท่ีขนุ แผน
แอบมาหานางวนั ทอง นางกล่าวคำตดั พ้อต่อวา่ ขนุ แผน ขุนแผนจงึ พยายามขอโทษขอคืนดี คำ
ตดั พอ้ ของนางนัน้ กวใี ช้สำนวนโวหารทไี่ พเราะคมคาย แสดงถึงความน้อยเน้ือตำ่ ใจของ
นางวนั ทองความขมขน่ื ใจท่ตี ้องทนทุกข์ทรมานมาโดยตลอดกไ็ ด้ระบายออกมา.....
๕๕
๔. ชมพลางย่างเย้ืองชำเลืองมา เปดิ มงุ้ เหน็ หนา้ แมว่ ันทอง
นง่ิ นอนอยู่บนเตียงเคียงขนุ ช้าง มนั แนบข้างกอดกลมประสมสอง
เจ็บใจดงั หวั ใจจะพงั พอง ขยับจอ้ งดาบงา่ อยากฆ่าฟัน
จะใคร่ถีบขนุ ช้างท่ีกลางตวั นกึ กลวั จะถูกแมว่ ันทองนน่ั
ตอบ ......พโิ รธวาทัง ตอนที่พลายงามมีความโกรธแคน้ ขุนชา้ ง ทำให้พลายงามไปพราก
นางวนั ทองจากขุนชา้ ง เม่ือพลายงามไปเรือนขุนชา้ งและเขา้ ไปในห้องนอนเห็นขุนช้าง
นอนเคยี งข้าง นางวันทองกย็ ิ่งโกรธแคน้ แทบจะฆา่ ขนุ ช้างท้งั ทหี่ ลับ กวใี ช้ถ้อยคำถา่ ยทอด
อารมณ์โกรธของพลายงาม ทำใหผ้ ูอ้ ่านสามารถเขา้ ถงึ อารมณ์ของตัวละครได้.....
๕. ครานนั้ จึงโฉมเจา้ วันทอง เศร้าหมองด้วยลูกเป็นหนกั หนา
พอ่ พลายงามทรามสวาทของแม่อา แมโ่ ศกาเกอื บเจยี นจะบรรลัย
ใชจ่ ะอม่ิ เอิบอาบด้วยเงินทอง มใิ ช่ของตัวทำมาแตไ่ หน
ทงั้ ผ้คู นชา้ งมา้ แลขา้ ไท ไมร่ ักใคร่เหมือนกับพ่อพลายงาม
ทุกวนั นใ้ี ช่แม่จะผาสกุ มแี ตท่ กุ ขใ์ จเจบ็ ดงั เหน็บหนาม
ตอ้ งจำจนทนกรรมทตี่ ดิ ตาม จะขนื ความคิดไปก็ใชท่ ี
ตอบ ....สัลลาปังคพสิ ยั เป็นบทแสดงความเศร้าโศกคร่ำครวญ เช่น เหตุการณท์ ่ีพลายงาม
ไปหานางวนั ทองท่บี า้ นขนุ ช้างเพ่ือทจ่ี ะรับนางกลับมาอยู่ดว้ ยกนั ....
๕๖
เฉลยแบบฝกึ ทักษะท่ี 8
คำชแี้ จง นักเรยี นยกตวั อยา่ งคำประพนั ธจ์ ากเรื่องขุนช้างขนุ แผน ตอนขนุ ช้างถวายฎีกา แลว้ วเิ คราะห์
และประเมนิ คณุ คา่ ด้านวรรณศิลป์ในแง่ของรสวรรณคดีดังต่อไปนี้ (20 คะแนน)
1. เสาวรจนี
ตอบ ............................................................................................................................. .......................
........................................................................................................... .................................................
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
๒. นารีปราโมทย์
ตอบ ....................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................................ ................
.................................................................................................................. ..........................................
3. พโิ รธวาทงั
ตอบ ....................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................................... .........................................................
4. สลั ลาปังคพิสยั
ตอบ ....................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ................................
............................................................................................................................. ...............................
............................................................................................................................................................
(คำตอบอยู่ในดลุ ยพินิจของผู้สอน)
๕๗
เกณฑก์ ารให้คะแนน แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๑-๘
แบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๑ (10 คะแนน) ระดบั คะแนน
1 คะแนน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน 0 คะแนน
ตอบถูกต้อง ไดค้ ะแนนข้อละ 1 คะแนน (10 ข้อ)
ตอบไมถ่ ูกต้องหรือไมต่ อบ ได้ข้อละ 0 คะแนน
แบบฝึกทกั ษะท่ี 2 (10 คะแนน) ระดับคะแนน
1 คะแนน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
ตอบถูกตอ้ ง วิเคราะห์ความงามทางวรรณศลิ ป์ในด้านการสรรคำ 0 คะแนน
ไดข้ ้อละ 1 คะแนน (10 ข้อ)
ตอบไมถ่ ูกตอ้ ง วิเคราะห์ความงามทางวรรณศิลป์ในด้านการสรรคำ
ไม่ถูกต้อง ได้ขอ้ ละ ๐ คะแนน
แบบฝึกทกั ษะที่ 3 (10 คะแนน) ระดบั คะแนน
1 คะแนน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
ทำเครื่องหมาย ถูก (✓) หรอื กากบาท () ถกู ต้อง 0 คะแนน
ไดข้ ้อละ ๑ คะแนน (10 ข้อ)
ทำเคร่ืองหมาย ถูก (✓) หรือกากบาท () ไม่ถูกต้อง หรือไมท่ ำเครื่องหมาย
ได้ข้อละ 0 คะแนน
แบบฝึกทกั ษะที่ 4 (10 คะแนน) ระดับคะแนน
2 คะแนน
เกณฑ์การให้คะแนน
ตอบถูกต้อง วเิ คราะห์และประเมนิ ค่าลกั ษณะของการเรียบเรยี งถ้อยคำได้ 1 คะแนน
ถูกต้อง ครบถ้วน ได้ข้อละ 2 คะแนน (5 ข้อ)
ตอบถูกต้องหรอื วิเคราะหแ์ ละประเมินค่าลักษณะของการเรียบเรียงถ้อยคำได้ 0 คะแนน
อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง ไดข้ ้อละ 1 คะแนน (5 ข้อ)
ตอบไมถ่ ูกต้อง วิเคราะห์และประเมินค่าลกั ษณะของการเรียบเรียงถ้อยคำ
ไม่ถูกตอ้ ง ไดข้ ้อละ ๐ คะแนน
๕๘
แบบฝึกทักษะที่ 5 (10 คะแนน) ระดับคะแนน
1 คะแนน
เกณฑก์ ารให้คะแนน 0 คะแนน
ตอบถูกตอ้ ง ได้คะแนนขอ้ ละ 1 คะแนน (10 ข้อ)
ตอบไมถ่ ูกตอ้ งหรือไมต่ อบ ได้ขอ้ ละ 0 คะแนน
แบบฝึกทักษะที่ 6 (20 คะแนน) ระดับคะแนน
2 คะแนน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ตอบถูกต้อง วเิ คราะห์และประเมนิ ค่าโวหารภาพพจนไ์ ด้ถกู ต้อง ครบถว้ น 1 คะแนน
ได้ข้อละ 2 คะแนน (10 ข้อ)
ตอบถูกต้องหรือวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ค่าโวหารภาพพจน์ได้อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง 0 คะแนน
ไดข้ ้อละ 1 คะแนน (10 ข้อ)
ตอบไม่ถูกต้อง วิเคราะหแ์ ละประเมินค่าโวหารภาพพจน์
ไมถ่ ูกตอ้ ง ไดข้ ้อละ ๐ คะแนน
แบบฝึกทกั ษะที่ 7 (10 คะแนน) ระดบั คะแนน
2 คะแนน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
ตอบถูกตอ้ ง วเิ คราะห์และประเมนิ ค่ารสวรรณคดีได้ถกู ต้อง ครบถว้ น 1 คะแนน
ไดข้ ้อละ 1 คะแนน (5 ข้อ)
ตอบถูกต้องหรอื วเิ คราะหแ์ ละประเมินค่ารสวรรณคดีได้อยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง ได้ 0 คะแนน
ข้อละ 1 คะแนน (5 ข้อ)
ตอบไม่ถูกตอ้ ง วเิ คราะห์และประเมนิ ค่ารสวรรณคดี
ไม่ถูกต้อง ไดข้ ้อละ ๐ คะแนน
๕๙
แบบฝึกทกั ษะท่ี 8 (20 คะแนน)
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดับคะแนน
1 คะแนน
ยกตวั อย่างคำประพนั ธจ์ ากเรื่องขนุ ช้างขนุ แผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎีกา 1 คะแนน
ตรงกบั รสวรรณคดีท่ีกำหนด ได้ขอ้ ละ 1 คะแนน 5 คะแนน
ยกตวั อยา่ งคำประพนั ธ์จากเร่ืองขุนช้างขนุ แผน ตอนขนุ ช้างถวายฎกี า 4 คะแนน
ไมต่ รงกับรสวรรณคดที ี่กำหนด ไดข้ ้อละ 0 คะแนน 3 คะแนน
2 คะแนน
วเิ คราะห์และประเมินคณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ในแง่ของรสวรรณคดไี ด้ถูกตอ้ ง 1 คะแนน
ตามหลักการวิเคราะห์ มีการอธิบาย ยกตัวอยา่ งประกอบ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง 0 คะแนน
ครบถ้วน
วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คณุ ค่าด้านวรรณศิลป์ในแง่ของรสวรรณคดีไดถ้ กู ตอ้ ง
ตามหลักการวเิ คราะห์ มีการอธิบาย ยกตวั อย่างประกอบ ถกู ต้องเปน็ สว่ นมาก
วเิ คราะห์และประเมินคณุ ค่าด้านวรรณศิลป์ในแง่ของรสวรรณคดไี ดถ้ กู ตอ้ ง
ตามหลกั การวิเคราะห์ มีการอธบิ าย ยกตวั อย่างประกอบ ถกู ต้องเป็นบางส่วน
วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คุณคา่ ด้านวรรณศิลป์ในแง่ของรสวรรณคดีได้ถกู ตอ้ ง
ตามหลักการวเิ คราะห์ มีการอธิบาย ยกตัวอยา่ งประกอบ ถูกต้องเปน็ ส่วนนอ้ ย
วเิ คราะห์และประเมินคุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์ในแง่ของรสวรรณคดีได้ถูกตอ้ ง
ตามหลกั การวเิ คราะห์ มีการอธิบาย ยกตวั อยา่ งประกอบไดบ้ า้ ง
วเิ คราะห์และประเมินคณุ คา่ ด้านวรรณศิลป์ในแง่ของรสวรรณคดีไมถ่ ูกต้อง
หรือไมต่ อบ
เกณฑก์ ารผา่ น
- แบบฝกึ ทักษะเกณฑก์ ารผ่าน คิดเปน็ คะแนนรวม 8๐ คะแนน นกั เรยี นทำคะแนน
ไดร้ ้อยละ ๘๐ ข้ึนไป ได้คะแนนต้ังแต่ 80 คะแนนขน้ึ ไป ถือว่าผ่าน
- คำอธิบายระดบั คุณภาพ
80 – 100 คะแนน หมายถงึ ดีเยี่ยม
60 – 79 คะแนน หมายถึง ดมี าก
40 – 59 คะแนน หมายถึง ดี
20 – 39 คะแนน หมายถึง พอใช้
๐ – 19 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง