The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารการสอนโวหาร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by siripa_26, 2023-01-04 14:01:14

เอกสารการสอนโวหาร

เอกสารการสอนโวหาร

เอกสารประกอบการเรียน
โวหารภาพพจน์

นางสาวสิริภา แสงสมัคร
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย



คำนำ

เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา (ท๓๓๑๐๑) ภาษาไทย ๕ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จัดทำขึ้นเพื่อให้
นักเรยี นมีเร่ือง โวหารภาพพจน์และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมเอกสารประกอบการเรียนฯ เล่มน้ี
มวี ตั ถปุ ระสงค์เพอื่ ประกอบการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนโดยมงุ่ พัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นของนักเรยี น
อีกทั้งนักเรียนสามารถศึกษาค้นคว้าได้ด้วยตนเองเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพ สามารถอำนวยประโยชน์ต่อการเรียน
การสอนใหบ้ รรลตุ ามวัตถปุ ระสงคข์ องหลักสูตรได้

ขอขอบคุณ นางสาวเสาวนิตย์ ทวีสันทนีนุกูล ผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา
คณะครูทุกท่าน และนักเรียนทุกคนที่ให้ความร่วมมือจนทำให้เอกสารประกอบการเรียน ล่มนี้ สำเร็จได้ด้วยดี
ผู้จัดทำหวังว่าเอกสารประกอบการเรียนเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของนักเรียนและครูผู้สอน
เป็นอยา่ งยงิ่

สริ ภิ า แสงสมคั ร



สารบญั

เร่ือง หน้า
คำนำ………………………………………………………………………………………………………………….................................ก
สารบัญ.………………............…………………………………………………………………………………………………………….....ข
จุดประสงค์การเรยี นร้…ู ……………………...........……….…………………………………………………………………….…..... ๑
สาระสำคัญ.......................................................................................................................................................๑
โวหารภาพพจน์ ………….………………………………………………….......................…………….…...............….........….๒
แบบทดสอบ ………….……………………………………………….....….......................…………….…...............….........….๒

1

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ดา้ นความรู้ (K)
1) อธบิ ายความหมายและลกั ษณะของโวหารภาพพจนไ์ ด้
2) บอกคุณค่าและความสำคัญของการใช้โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรมได้

ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
3) มีทกั ษะในการวเิ คราะหข์ ้อมลู การคดิ หาคำตอบ และเขียนส่ือความเพอ่ื อธบิ าย

ความรู้เรื่องความร้พู นื้ ฐานโวหารภาพพจน์
4) มีทกั ษะการทำงานกลุม่

ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
5) มีมารยาทในการอ่าน การเขียน มคี วามซ่ือสตั ย์สจุ ริต มวี นิ ยั และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน

สาระสำคญั

โวหารภาพพจน์ (Figures Of Speech) คือ การใช้ถ้อยคำสำนวนที่ทำให้ผู้รับสารเกดิ มโนภาพ หรือเกดิ
จินตนาการจากการอ่าน วรรณคดีและวรรณกรรมทดี่ ีจะมีลักษณะการใช้โวหารภาพพจนท์ หี่ ลากหลาย ท้ังน้เี พ่อื ให้
ผ้รู บั สารเกดิ ความซาบซึ้ง เกดิ จินตภาพ และมีความร้สู ึกรว่ มตรงตามความปรารถนาของผู้สง่ สารทตี่ ้องการสื่อ
ออกมาทางวรรณคดีและวรรณกรรมเร่ืองน้ัน

2

โวหารภาพพจน์

วรรณคดีรอ้ ยกรอง กวีมกั ใชศ้ ิลปะในการนำถอ้ ยคำ สำนวน โวหารมาประกอบทำให้ผ้อู ่านเกดิ จนิ ตภาพ
และมีอารมณร่ ่วมหรือคล้อยตามไปดว้ ยกวีจะเลอื กใชค้ ำมาเปรยี บเทียบด้วยลักษณะตา่ งๆ กนั ไดแ้ ก่

๑ อุปมา กวใี ชเ้ ปรยี บเทยี บสิ่งหนึ่งเหมอื นกบั อีกส่ิงหนึ่งโดยมคี ำเชอ่ื มโยง เช่น ดจุ ประดจุ เหมอื น เชน่
ปาน ฯลฯ ตวั อย่างเชน่

อนั ความคดิ วิทยาเหมือนอาวธุ ประเสรฐิ สดุ ซอ่ นใส่เสยี ในฝัก

สงวนคมสมนกึ ใครฮึกฮัก จงึ ค่อยชกั เชือดฟันใหบ้ รรลยั

(เพลงยาวถวายโอวาท : สนุ ทรภู่)

กวไี ด้เปรียบเทยี บความคิดหรอื ความร้เู หมือนอาวธุ โดยใช้คำวา่ เหมอื น เป็นคำเชื่อม

๒ อปุ ลักษณ์ เปน็ การเปรยี บเทยี บสิ่งหนึ่งเปน็ อีกสิง่ หนงึ่ กวีจะใช้การเปรยี บเทียบโดยตรง นำลกั ษณะเด่น
ของสง่ิ ท่ีต้องการเปรียบเทียบมากล่าวทนั ทีโดยไม่มีคำเชื่อมโยง บางครงั้ อาจใช้คำว่า เป็น และ คอื เช่ือมโยงก็ได้
ตวั อยา่ งเชน่

ถ้าเรามนี าวาทิพยท์ ำด้วยมุกดา มคี วามปรารถนาเปน็ ใบมีความอำเภอใจเปน็ หางเสือ

( กามนติ : เสฐียรโกเศศ – นาคะประทปี )

กวีเปรยี บความปรารถนากบั ใบเรอื และความอำเภอใจกับหางเสอื เรือ โดยใช้ คำวา่ “เป็น” เปน็ คำเชื่อม

๓ บุคคลวตั หรือ บุคคลสมมติ กวีใชก้ ารสมมุติสงิ่ ต่างๆ ท่ีไม่ใชม่ นุษย์ ใหม้ ีกริ ิยาอาการ ความรสู้ ึกเหมอื น
มนุษย์ ตัวอยา่ งเช่น

มะนาวนอ้ ยอย่าพลอยไปเหลงิ เล่น ตะวนั เยน็ ลงไปจะไม่แจ้ง

ผกั ชียีห่ รา่ ไยตาแดง ตะกร้าเกา่ นอนตะแคงเฝา้ คอยดู

(ราร้างอยา่ งแร้งไร้ : แรคำ ประโดยคำ )

กวใี ช้มะนาว ผกั ชี ย่หี ร่า ตะกร้าให้มกี ริ ิยาเหมือนมนุษย์ คือ มะนาวทำกิริยาเหลงิ เลน่ ผกั ชี ยี่หร่าทำกริ ยิ า
ตาแดง ตะกรา้ ทำกิรยิ านอนตะแคงเฝ้าคอยดู

3

๔ อติพจน์ กวีใช้การกลา่ วผดิ ไปจากที่เป็นจริง โดยการกล่าวใหม้ ลี ักษณะเกนิ ความเปน็ จรงิ หรอื น้อยกวา่
จรงิ เพื่อให้ถ้อยคำกระทบอารมณข์ องผู้อ่านใหม้ คี วามรูส้ ึกเพิม่ ขึน้ เป็นสำคญั ตวั อย่างเชน่

เอยี งอกเธออกอ้าง อวดองค์ อรเอย
เมรุชุบสมุทรดนิ ลง เลขแต้ม
อากาศจักจารผจง จารกึ พ่อฤา
โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม อยูร่ อ้ นฤาเหน็

(โคลงนริ าศนรินทร์: นายนรินทรธ์ ิเบศร์ )

กวีใช้คำ เอยี งอกเท แทนส่ิงที่อย่ใู นใจ ใชเ้ ขาพระสุเมรชุ บุ นำ้ และดนิ แทนปากกา เขยี นข้อความในอากาศ
ซ่งึ ล้วนเป็นลักษณะท่เี กินความเป็นจริง

๕ สทั พจน์ หรือการเลียนเสียงธรรมชาติ กวีใช้การเปรียบเทยี บโดยการใช้คำเลยี นเสยี งธรรมชาติ ทำให้
เสียงไพเราะเกิดจนิ ตภาพไดช้ ดั เจน เกดิ ความรู้สกึ คลอ้ ยตาม ตวั อย่างเช่น

เกอื บร่งุ ฝูงช้างแซ่ แปร๋นแปรน๋
กรวดป่ามาแกรน๋ แกร๋น เกร่นิ หยา้ น
ฮมู ฮูมอูม่ องึ แสน สนนั่ รอบ ขอบแฮ
คกึ คึกทกึ เสทือนสะท้าน ถ่นิ ไม้ไพรพรม

( โคลงนริ าศสพุ รรณ : สนุ ทรภู่ )

กวีใชเ้ ลยี นเสยี งของช้างในคำ แปร๋นแปร๋น แกรน๋ แกรน๋ ฮมู ฮมู ทำใหเ้ กิดจนิ ตภาพได้ชัดเจน

๖ ปฏิพจน์ กวใี ชก้ ารเปรียบเทียบที่เกดิ จากคำทม่ี ีความหมายตรงกันขา้ มกนั หรือขดั แย้งกนั นำมาแตง่ ให้
เข้าคกู่ ันเพื่อใหเ้ กิดความหมายขนานหรอื เกิดภาพตดั กันท่ีก่อให้เกิดความรสู้ ึกหรือให้จินตภาพทีช่ ัดเจนข้ึน
ตัวอย่างเชน่

รอยบุญเราร่วมพอ้ ง พบกนั
บาปแบ่งสองทำทัน เท่าสร้าง
เพรงพรากสตั วจ์ ำผนั พลัดคู่ เขาฤา
บุญรว่ มบาปจำรา้ ง นชุ รา้ งเรยี มไกล

(โคลงนิราศนรนิ ทร : นายนรนิ ทรธ์ เิ บศร์ )

นอกจากลีลาแบบตา่ งๆทกี่ วีแต่งเพื่อถา่ ยทอดอารมณ์ความรสู้ กึ ตา่ งๆใหผ้ ้อู ่านคลอ้ ยตามแล้วกวียังมี
วิธกี ารใช้ภาษาสื่อความคดิ ออกมาในรูปการใช้สญั ลักษณ์ สญั ลักษณ์ หมายถงึ ส่ิงหน่ึงใช้แทนอีกสง่ิ หนึง่
วรรณกรรมร้อยกรองกวใี ช้สัญลกั ษณค์ ำเดยี ว อาจมีความหมายกว้างเป็นทเ่ี ข้าใจได้งา่ ย นับเปน็ ศลิ ปะการใชภ้ าษา

4

ของกวอี ยา่ งหนง่ึ เช่น แก้ว กวจี ะใชแ้ ทนความดี ความงาม ความวเิ ศษ ความมคี ุณค่า น้ำคา้ ง ใช้แทนความบรสิ ุทธิ์
สะอาด ไฟ ใชแ้ ทนความร้อน ยักษ์ ใช้แทนความดุรา้ ย คนเลว แมลงภู่ ใช้แทนผู้ชาย ดอกไม้ ใชแ้ ทนผู้หญงิ เป็นต้น

เห็นแกว้ แวววับท่จี บั จติ ไยไม่คดิ อาจเอ้ือมใหถ้ งึ ที่

เมอ่ื ไม่เออ้ื มจะไดอ้ ยา่ งไรมี อันมณีฤาจะโลดไปถึงมือ

(ทา้ วแสนปม: รชั กาลที่ ๖)

แกว้ และมณีเป็นสัญลักษณ์แทนผหู้ ญงิ ทงี่ ดงาม มคี า่ หรอื ผูห้ ญงิ ทมี่ ฐี านะสงู ศกั ดก์ิ ว่า

แมลงภู่ ถงึ แม้ความรักของมนั จะอยูท่ ่ีดอกบัวหลวงก็ตามที เมอื่ มันเห็นดอกมะลเิ ล้ือยและอยากดอกกลิ่น
หอมใหม่ มันจะยอมนิง่ ทนไม่ไปหาละหรอื

(ปรยิ ทรรศกิ า: รชั กาลท่ี๖)

กวีใชแ้ มลงภเู่ ปน็ สญั ลกั ษณ์แทนผ้ชู ายและดอกมะลแิ ทนผู้หญงิ

       

5

แบบทดสอบ

6

7


Click to View FlipBook Version